ROV (Arena of Valor)
อาร์ โอ วี
บทสรุปเกม
WALKTHROUGH
วิธีเล่น Volkath RoV ซัพพอร์ต
ROV (Arena of Valor)
วิธีเล่น Volkath RoV ซัพพอร์ต ในเกม RoV แพทช์ปัจจุบัน เล่นได้ยาวๆ ยันแพทช์หน้าสบายๆ
วิธีเล่น Volkath RoV : รูน ไอเท็ม พลังแฝง และ สกิลชาเลนเจอร์
แนวทางการเล่น Volkath ในตำแหน่งซัพพอร์ตนั้น จะมีอยู่ด้วยกัน 2 สาย ได้แก่ สายสมดุล กับ สายคริติคอล สำหรับสายสมดุลก็จะเน้นไปที่พลังโจมตีและความถึกทนในระดับหนึ่ง เพื่อให้ Volkath อยู่บนหลังม้าได้นานที่สุด และตายยาก เพื่อยื้อเวลาในการใช้การโจมตีปกติฟื้นฟู HP ให้กับตัวเองเรื่อยๆ ส่วนสายคริติคอลนั้น จะเน้นความแรงและใช้ไอเท็มดาบคริติคอลอย่าง Claves Sancti เป็นหลัก รวมทั้งปรับรูน และพลังแฝงให้เข้ากับการเล่นด้วย ซึ่งตรงนี้มันมีเงื่อนไขที่เราควรจะต้องทำความเข้าใจให้ดี คือ ต้องละเอียดหน่อย ซึ่งผมก็จะอธิบายให้ละเอียดเลยนะครับ
Volkath สายคริติคอลนั้น เป็นสายที่ตัวจะค่อนข้างบาง แต่ดาเมจแรงเว่อร์ๆ จุดเด่นของสายนี้ก็คือ การเอาเงื่อนไขที่ว่า การฟันปกติขณะที่ Volkath อยู่บนหลังม้า สามารถติดคริติคอล และเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ของไอเท็มที่สวมใส่อยู่ได้ เลยทำให้เกิด Volkath สายคริติคอลขึ้น ซึ่งนั่นก็แปลว่า Volkath สายนี้จะเน้นที่การฟันปกติบนหลังม้าเป็นหลัก นั่นหมายถึง จังหวะการขึ้นม้าและควบเข้าไปฟันปกติใส่ศัตรูต้องแม่นยำในระดับหนึ่ง จะโดดขึ้นม้ามั่วๆ ผิดจังหวะไม่ได้ เพราะนั่นจะทำให้การทำดาเมจไม่เต็มที่ จุดอ่อนของ Volkath สายนี้ก็คือ ตัวจะบางมากๆ และถ้าเกมตามจะเล่นได้ยาก ลำบากมากๆ เนื่องจากดาเมจจะไม่แรงอย่างที่คาดหวังเอาไว้ ดังนั้น ถ้าใครจะเล่นสายนี้ ก็ต้องเล่น Volkath ด้วยความชำนาญ และมีเพื่อนร่วมทีมที่ไว้ใจได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียวครับ ไม่งั้นยับแน่นอนครับ
การใช้รูนของ Volkath สายคริติคอล ก็ต้องแตกต่างจากสายปกติ ต้องปรับเป็น Rage หรือ Rampage ด้วย ส่วนพลังแฝงก็ต้องปรับเปลี่ยนไปใช้พลังแฝงสายที่ปกป้องตัวเองได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งจะใช้เป็น Explosive Shield ก็ได้ หรือจะใช้เป็น Sacred Protection ก็ได้ ซึ่งเอาจริงๆ ผมก็ไม่ค่อยอยากจะแนะนำการเล่น Volkath สายคริติคอลสักเท่าไหร่ เพราะมันค่อนข้างที่จะเสี่ยงมากเกินไป แต่ถ้าใครอยากเล่นก็ไม่ว่านะครับ
ถ้าจะให้ดีที่สุดผมแนะนำให้เล่น Volkath สายสมดุลดีกว่าครับ จากนั้นตอนที่เล่น อยากจะปรับเป็นสายคริติคอลยังไงก็ทำในภายหลังได้ ก็แค่เปลี่ยนรูน และ ไอเท็มอีกชิ้นเดียว ก็กลายเป็น Volkath สายคริติคอลแล้ว ส่วนพลังแฝง และไอเท็มชิ้นอื่นๆ สามารถคงรูปแบบเดิมตามสายสมดุลเอาไว้ได้ครับ
Volkath สายสมดุลจะมีความแรงของพลังโจมตีที่สูงอยู่แล้ว และเราจะเน้นที่การลดคูลดาวน์เพื่อให้ Volkath ขึ้นม้าได้บ่อยมากที่สุดตั้งแต่ต้นเกม และมีความหนาของตัวในระดับหนึ่งและการฟันปกติขณะที่อยู่บนหลังม้าจะต้องมี CC ในเรื่องการสโลว์ศัตรูด้วย พูดง่ายๆ ก็คือ มันจะเป็นทั้งตัวที่ทำดาเมจได้รุนแรงด้วย และยังยืนค้ำให้เพื่อนได้ดีในระดับหนึ่งด้วย ไม่ตายง่ายๆ แม้จะเป็นตอนที่กำลังอยู่บนหลังม้าด้วยเช่นกัน การเล่น Volkath ด้วยเซ็ตนี้จะมีความหลากหลายในการแก้ทางในหลายๆ สถานการณ์มากกว่าสายคริติคอล เกมนำก็เล่นได้ เกมตามก็เล่นได้ ช่วยทำจังหวะให้เพื่อนได้ดี และมีดาเมจที่แรงพอที่จะเข้าไปล้วงแครี่ฝั่งตรงข้ามได้ไม่ยากอีกด้วย
Volkath สายสมดุลมันไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นหรอกครับ เพราะผมก็ปรับรูนให้มีอัตราคริติคอลด้วยเช่นกัน นั่นแปลว่า จังหวะที่ Volkath ฟันปกติตอนอยู่บนหลังม้า ก็มีโอกาสติดคริติคอลเช่นเดียวกัน ส่วนจะติดคริติคอลได้บ่อยแค่นั้น มันเป็นเรื่องของดวงจริงๆ ครับ ไม่สามารถวัดกันได้อย่างชัดเจนหรอกครับ
สำหรับไอเท็มต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์นะครับ เช่น Spear of Longinus ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Muramasa ได้เช่นกัน ไม่มีปัญหาครับ เพราะในเกมที่เราเจอฝั่งตรงข้ามมีพวกไฟต์เตอร์และแท็งค์หลายๆ ตัว Spear of Longinus คงไร้ประโยชน์ และไม่ทันใจแน่นอน เราก็สามารถเปลี่ยนเป็น Muramasa ได้ แต่ถ้าเป็นเกมทั่วๆ ไป Spear of Longinus จะให้ผลดีกว่าในเรื่องของการลดคูลดาวน์สูงสุด ทำให้ Volkath ขึ้นม้าได้บ่อยครั้งมากกว่านั่นเอง
ไอเท็มชิ้นที่ 4 สามารถเปลี่ยนจาก Odin’s Will เป็น Curse of Death (ดาบตัดเลือด) ได้นะครับ ในกรณีที่เกมนั้นเจอพวกที่มีสกิลฟื้นฟูให้ตัวเองเยอะๆ หรือ บางเกมอาจจะเปลี่ยนเป็น Medallion of Troy ก็ได้เช่นกัน ในเกมที่ต้องเจอกับฝั่งตรงข้ามที่มีเมจแรงๆ หรือ เมจมากกว่า 1 ตัว แบบนี้ใช้ Medallion of Troy จะคุ้มกว่า ไม่แนะนำให้ใช้เป็น Gaia’s Standard นะครับ เพราะจะไม่ได้ในเรื่องของการลดคูลดาวน์ และถ้าเลือดของเราเหลือน้อย ก็วาร์ปกลับบ่อมาเติมเลือดจะคุ้มกว่าครับ เพราะถ้า Volkath อัลติไปแล้ว ก็จะไม่มีสกิลอะไรให้เล่นได้อีก ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้หลังจากใช้อัลติไปแล้ว และเจ็บหนัก ก็ให้กลับบ้านมาเติมเลือดดีกว่าครับ ไม่จำเป็นต้องฝืนยืนอยู่ในสนามรบเพื่อเอาเลเวลและการเงิน แล้วรอให้มัน Regen HP กลับมาจนเต็ม เพราะมันจะนานเกินไป กลับบ้านมาเติมเลือดให้เต็ม แล้ววิ่งออกไปลุยใหม่ จะคุ้มค่ากว่าครับ
ไอเท็ม Hyoga’s Edge ถือว่า จำเป็นและสำคัญมากๆ สำหรับ Volkath นะครับ เพราะการเล่น Volkath ในแพทช์ปัจจุบันนั้น ความสำคัญจะอยู่ที่จังหวะการฟันปกติในขณะที่อยู่บนหลังม้า เพราะมันจะฟันได้แรง ติดคริติคอลก็ได้ด้วย และที่สำคัญยังฟื้นฟู HP ให้กับ Volkath ได้เยอะมากๆ อีกด้วย
Death Sickle ก็เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ถือได้ว่า จำเป็นสำหรับ Volkath เป็นอย่างมาก นิยมเอามาใช้เพื่อช่วยให้ Volkath ได้มีโอกาสลงจากม้า แม้ว่า ลงมาแล้ว หลังจากที่เป็นอมตะ 3.5 วินาทีแล้ว เลือดจะไม่ได้เด้งขึ้น แต่การที่เรามีสกิลชาเลนเจอร์อย่าง Heal เข้ามาช่วย ก็ทำให้ Volkath มีโอกาสรอดตาย และถ้าเอาออฟชั่นสร้างโล่ของไอเท็มซัพพอร์ตมาด้วย ก็จะยิ่งมีโอกาสรอดตายสูงขึ้นไปอีกนะครับ
ในส่วนของพลังแฝงของ Volkath นั้น สามารถใช้ได้หลายแบบ แต่หลักๆ ที่นิยมกัน ก็ได้แก่ Explosive Shield, Desperate Duel และ Sacred Protection ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันไป เอาจริงๆ นะครับ พลังแฝงเนี่ยมันบ่งบอกถึงสไตล์การเล่นและความชอบของแต่ละคนนะครับ ไม่เกี่ยวหรอกว่าจะทำให้ฮีโร่ที่เราเล่นเก่งขึ้นได้มากแค่ไหน มันอยู่ที่ตัวของผู้เล่นเองกว่า จะเลือกใช้พลังแฝงแบบไหน เพราะถ้าเลือกแบบไหนมาใช้ ก็ต้องปรับสไตล์การเล่นให้เข้ากับแบบนั้นไปด้วยนั่นเองครับ พลังแฝง ไม่เหมือนกับไอเท็มนะครับ มันขึ้นอยู่กับสไตล์และเสต็ปการเล่นของผู้เล่นแต่ละคน ดังนั้น การเล่นฮีโร่ตัวเดียวกันก็ไม่จำเป็นต้องใช้พลังแฝงเหมือนกันนะครับ ขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่นของแต่ละคนเลยครับ
สำหรับสกิลชาเลนเจอร์ แนะนำให้ใช้เป็น Heal จะดีที่สุดนะครับ คือ มันจะช่วยทำให้ Volkath ตายยากขึ้น โดยเฉพาะจังหวะที่ลงจากม้าแล้ว หรือจังหวะที่อยู่บนม้า ทำให้มีโอกาสลงจากม้าได้ และไม่ตายง่ายๆ อย่างไรก็ตาม ในบางเกมที่ดูทรงแล้ว ดูเหมือนเราอาจจะต้องเน้นการเล่นคนเดียว หรือ เข้าไปล้วงด้วยตัวคนเดียว การมี Sprint ก็คือว่า ดีมากๆ สามารถเอาไว้กดใช้ตอนที่เราลงจากม้า เพื่อทำให้ Volkath มีโอกาสหนีออกจากป้อม หรือ หนีออกจากสถานการณ์ที่กำลังคับขันได้ คือ จังหวะที่ลงจากม้าแล้วเป็นอมตะ 3.5 วินาทีนั่นแหละครับ ให้กด Sprint ในช่วงนั้น มันจะวิ่งได้เร็วๆ และหนีออกจากจุดอันตรายได้ทันที Sprint ก็เลยเป็นอีกหนึ่งสกิลชาเลนเจอร์ที่เป็นทางเลือกได้ดีสำหรับ Volkath เช่นกันครับ
วิธีเล่น Volkath RoV : แนวทางการเล่น
แนวทางการเล่นของ Volkath นั้น จะขึ้นอยู่กับเซ็ตไอเท็มที่ใช้เล่น ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่า Volkath ในตำแหน่งซัพพอร์ต จะมีอยู่ 2 สาย คือ สายสมดุล และ สายคริติคอล แนวทางการเล่นก็จะแตกต่างกันไปตามสายที่เล่นนะครับ เพราะมันมีความหนา และดาเมจที่ต่างกัน
การเล่น Volkath สายคริติคอล ต้องเน้นไปที่ชั้นเชิง และเหมาะกับการเล่นกับเพื่อนร่วมทีมที่เล่นเป็นงาน ในแร็งค์ระดับสูงๆ สามารถหยิบ Volkath สายคริติคอลไปเล่นได้ เพราะมีโอกาสสุ่มเจอเพื่อนร่วมทีมที่เล่นเป็นงานในตำแหน่งที่เล่น แต่ในแร็งค์ระดับกลางๆ ถึงระดับล่างๆ จะค่อนข้างเล่นกันมั่วซั่ว การหยิบ Volkath สายคริติคอลมาเล่นจึงไม่เหมาะ เพราะอาจจะไม่รวย และเปิดไฟต์แล้วไม่มีคนตาม อีกทั้งตัวก็ยังบางเกินไป ตายง่ายเกินไป อาจจะไม่มีโอกาสแบกทีมได้มากเท่ากับ Volkath สายสมดุล ผมก็เลยแนะนำให้เล่นสายสมดุลมากกว่า เพราะสามารถดัดแปลงหรือปรับแต่งให้เป็นกึ่งสายคริติคอลได้ง่ายๆ แค่เปลี่ยนไอเท็มชิ้นเดียว โดยซื้อ Claves Sancti มาใส่ ก็จะกลายเป็น Volkath สายกึ่งคริติคอลได้แล้ว
ไฮไลท์สำคัญของการเล่น Volkath ในแพทช์ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเล่นสายไหนก็ตาม จะอยู่ที่การฟันปกติขณะที่อยู่บนหลังม้า เพราะมันฟันได้แรงมากๆ และดูดเลือดกลับมาแรงเว่อร์ๆ ยิ่งฟันโดนฮีโร่หลายตัว ก็ยิ่งฟื้นฟู HP ให้ตัวเองได้เยอะมากขึ้น จึงเหมาะกับการไล่บุกทะลวง โถมใส่แนวหลังฝั่งตรงข้ามที่ตัวบางๆ เป็นอย่างมาก คือ แครี่ที่โดน Volkath โถม ก็จะสู้ได้ยาก เพราะโดนฟันแรงขึ้น แถม Volkath ก็ดูดเลือดแรงมากๆ สำหรับทุกๆ ครั้งที่ฟันโดนแครี่ ความเก่งของ Volkath ในแพทช์นี้จึงอยู่ในขณะที่ Volkath อยู่บนหลังม้า ไม่ใช่ตอนลงม้านะครับ
อัลติของ Volkath คูลดาวน์เร็วมากนะครับ ในช่วงต้นเกมอาจจะรู้สึกว่า คูลดาวน์มันนาน แต่พอเข้าสู่ช่วงกลางเกม ตั้งแต่เลเวล 8 เป็นต้นไป คูลดาวน์จะเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเลทเกม ที่คูลดาวน์เร็วมากๆ แค่วาร์ปกลับบ้านไปเติมเลือด แล้ววิ่งกลับมาใหม่ อัลติก็พร้อมใช้งานแล้ว ทำแบบนี้ได้เรื่อยๆ เลยครับ จะทำให้ Volkath สามารถกดใช้อัลติ ขึ้นม้าไล่โถมศัตรูได้เรื่อยๆ ครับ
จังหวะการใช้อัลติของ Volkath
1. ใช้เพื่อทะลวงแนวหลัง ทำลายแนวหลัง เช่น แครี่ ให้ถอยหนีจากแนวหน้า เพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนเราฆ่าศัตรูได้ง่ายขึ้น อันนี้ค่อนข้างที่จะชัดเจนอยู่แล้ว และเป็นจังหวะพื้นฐานที่คนเล่น Volkath ต้องเข้าใจกันอยู่แล้ว ช่วงต้นเกมอาจจะใช้การขึ้นมาเป็นการเปิดไฟต์ใส่ศัตรูได้ เพราะฝั่งตรงข้ามยังมีดาเมจที่ไม่รุนแรงอะไรมากมาย แต่ในช่วงกลางเกมถึงเลทเกม ไม่ควรใช้การขึ้นม้าเป็นการเปิดไฟต์ เพราะดาเมจของฝั่งตรงข้ามจะแรงมาก จนอาจจะทำให้ Volkath ตายคาหลังม้าได้ภายในพริบตา
จังหวะการใช้อัลติที่เหมาะสมที่สุด สำหรับ Volkath ก็คือ จังหวะที่มีไฟต์เกิดขึ้นไปแล้ว ค่อยขึ้นม้า วิ่งไล่ฟัน ไล่โถม ทะลวงแครี่ฝั่งตรงข้าม ไม่ควรขี่ม้าเข้าไปเปิดไฟต์ เพราะตัวของ Volkath จะค่อนข้างบาง และทนรับดาเมจไม่ไหวแน่นอน อาจจะได้ตายก่อนที่จะฟันได้ครบทุกครั้ง หรือ ฟันได้มากพอที่จะฟื้นฟู HP ให้กับตัวเอง
2. ใช้เพื่อเอาตัวรอด เพราะเวลา 3.5 วินาที ทันทีหลังจากที่ลงหลังม้า Volkath จะเป็นอมตะ ดังนั้น ถ้าไม่อยากตายขณะที่อยู่บนหลังม้า หรือ ขณะที่กำลังอยู่ในร่างปกติ ให้รีบขึ้นม้าแล้วลงม้าทันที จะทำให้เป็นอมตะได้ 3.5 วินาที แล้วเปิด Sprint วิ่งหนียาวๆ ได้เลยครับ ไม่ต้องไปเสียดายอัลติ เพราะการที่เราเล่น Volkath สายสมดุล คูลดาวน์ของอัลติมันเร็วอยู่แล้วครับ
3. ใช้เพื่อฟื้นฟู HP ให้ตัวเอง ในยามคับขัน หรือจังหวะที่จวนตัว และมี HP เหลือน้อยๆ ในร่างปกติ แทนที่จะวิ่งหนีแล้วก็อาจจะโดนไล่ฆ่าตาย เราก็ขึ้นม้าแล้วควบไปไล่ฟันศัตรูทุกตัว พยายามฟันให้โดนหลายๆ ตัว ก็จะเป็นการฟื้นฟู HP ให้ตัวเราได้ดีสุดๆ พอเลือดเด้งขึ้นมาเยอะๆ เราก็ค่อยลงจากหลังม้า แล้วกด Sprint วิ่งหนีก็ได้ (ถ้าดูแล้วยังไงก็ฆ่าใครไม่ได้ เราก็แค่ขึ้นหลังม้า ไล่ฟันเพื่อดูดเลือดเพิ่มขึ้นมาแล้วก็วิ่งหนีออกมาดีกว่า แค่นี้ก็คุ้มแล้ว) ทำให้เราไม่ตาย และมี HP เพิ่มขึ้นมา แล้วก็ไปทำอย่างอื่นต่อได้ ไม่ต้องเสียดายอัลติ เพราะเซ็ต Volkath สายสมดุลมันลดคูลดาวน์ให้อัลติเยอะอยู่แล้ว ช่วงกลางเกมเป็นต้นไป จะมีอัลติใช้รัวๆ โดยเฉพาะตอนเลทเกม ขึ้นลงมาได้เป็นว่าเล่นเลยทีเดียว
นี่คือ วิธีเล่น Volkath RoV ในตำแหน่งซัพพอร์ตแบบง่ายๆ ในแพทช์ปัจจุบัน มันไม่ใช่ตัวแท็งค์ หรือ ตัวยืนค้ำให้แครี่ยิงฟรี มันไม่ใช่ตัวปกป้องแนวหลังที่ดี มันไม่ได้มี CC ที่เอาไว้จับล็อคศัตรู แต่มันคือ ตัวโถม ที่ใช้การบุกทะลวงเป็นหลัก เน้นการเปิดไฟต์ หรือ ทำลายจังหวะของฝั่งตรงข้าม ดังนั้น ถ้าเราหยิบ Volkath มาเพื่อเล่นเกมแนวตั้งรับ หรือ คอมโบกับฮีโร่ในทีมที่เป็นพวกแนวตั้งรับ จะเล่นยากและมีโอกาสแพ้สูง ฮีโร่ที่เหมาะกับ Volkath ควรเป็นตัวทำดาเมจแรงๆ สายโถม สายบุกทะลวง ถึงจะดีที่สุดครับ
Volkath ในแพทช์นี้จะเก่งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่อยู่บนหลังม้าว่าจะสามารถขี่ม้าไล่ฟันศัตรูได้นานแค่ไหน ถ้าขึ้นม้าปุ๊บ แล้วต้องรีบลงม้าทันที แบบนี้ไม่เก่งแน่นอนครับ ดังนั้น Volkath สายสมดุลจึงค่อนข้างเล่นสนุกกว่าสายคริติคอล เหมาะกับการ Solo Rank มากกว่า ไม่ว่าจะเจอเพื่อนร่วมทีมแบบไหน ก็สามารถแก้ปัญหาและแบกทีมได้ แต่ดาเมจอาจจะขาดไปสักหน่อยเพราะมันต้องออกไอเท็มป้องกันอย่างน้อย 2 ชิ้น
แต่ถ้าใครไม่ชอบ Volkath สายสมดุล อยากเล่น Volkath สายคริติคอล อยากเล่นซัพพอร์ตที่มีดาเมจ เป็นซัพพอร์ตที่ฆ่าศัตรูได้ ล้วงแครี่ได้แบบชัวร์ๆ ก็แนะนำให้เล่น Volkath สายคริติคอล เพียวดาเมจไปเลยครับ ตัวจะบางหน่อย แต่ฟันได้แรงแน่นอน ยิ่งถ้าเจอเพื่อนร่วมทีมที่เป็นงานด้วยแล้ว Volkath จะสามารถบุกทะลวงแนวหลัง ไล่ฆ่าแครี่ได้แบบรัวๆ เลยทีเดียวครับ แต่ถ้าเจอเพื่อนร่วมทีมไม่เป็นงาน ก็จะเล่นลำบากมากเช่นกัน มันคือความเสี่ยงที่คุณต้องพิจารณาเอาเองนะครับ
Volkath ในตำแหน่งซัพพอร์ต สามารถหยิบมาเล่นได้ในแพทช์ปัจจุบันนี้และหลังจากที่มีการปรับสมดุลในแพทช์หน้าก็ยังสามารถหยิบมาเล่นได้เหมือนเดิม ไม่มีผลกระทบใดๆ นะครับ ใครที่ชอบเล่นซัพพอร์ตที่เป็นพวกไฟต์เตอร์ มีดาเมจ ฆ่าได้ ก็ควรจะลงทุนกับ Volkath เอาไว้นะครับ ถือว่า คุ้มค่า และเล่นสนุกมากๆ เลยทีเดียวครับ โดยเฉพาะเวลาเจอกับ แครี่ และ เมจฝั่งตรงข้ามที่เป็นพวกขาตาย จะกลัว Volkath เป็นอย่างมากครับ เพราะมันหนีไปไหนไม่ได้เลยนั่นเอง ยังไงก็โดนล้วงและโดนเข้าถึงตัวแบบง่ายๆ แน่นอนครับ
อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ
เครดิต
Credit
ตัวละคร.
CHARACTER.
-
Airi
-
Aleister
-
Alice
-
Allain
-
Amily
-
Annette
-
Aoi
-
Arduin
-
Aya
-
Azzen'Ka
-
Baldum
-
Batman
-
Bright
-
Butterfly
-
Chaugnar
-
D'Arcy
-
Eland'orr
-
Elsu
-
Enzo
-
Florentino
-
Hayate
-
Keera
-
Kriknak
-
Krixi
-
Liliana
-
Lorion
-
Lu Bu
-
Mortos
-
Murad
-
Quillen
-
Raz
-
Superman
-
Tel'Annas
-
Thane
-
The Flash
-
Thorne
-
Violet
-
Volkath
-
Wiro
-
WuKong
-
Yue
-
Zata
-
Zip
-
Zuka