เพื่อการสร้างสุดยอดอาวุธไว้ใช้ต่อสู้กับสิบผู้ทรงปัญญา กลุ่มคล็อดต้องหาวัตถุดิบที่เรียกว่า "ลีอาเมทัล" ซึ่งอยู่ที่ถ้ำไมเน่ แต่ลีอาเมทีลนี้ไม่ใช่แร่ธรรมดา มันคือร่างกายของสัตว์อสูรที่เรียกว่าบาเคียน และยิ่งบาเคียนโตตัวใหญ่เท่าใด ลีอาเมทัลที่ได้ก็จะยิ่งบริสุทธ์เท่านั้น สิ่งที่คล็อดต้องการคือแร่ที่บริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่จะมีได้ คล็อดหลบเลี่ยงเหล่าบาเคียนตัวเล็กตัวน้อยตามรายทางจนไปถึงลึกสุดของถ้ำ ที่นั่นมีบาเคียนขนาดมหึมาที่พร้อมโจมตีผู้บุกรุก แต่ก็ไม่อาจต่อกรพระเอกของเราได้ และคล็อดก็ได้ลีอาเมทัลที่บริสุทธิ์ที่สุดมา

ก่อนที่จะกลับไปเมืองอาร์มล็อค คล็อดได้แวะไปหานักวิจัยผู้หนึ่งที่มีความสนใจต่อข้อมูลที่ถูกปิดผนึกไว้ในห้องสมุด เมื่อคล็อดมอบรหัสลับที่ได้มาจากศูนย์วิจัยก่อนหน้านี้ จึงไม่ยากที่นักวิจัยผู้นี้จะเจาะรหัสเข้าสู่ความลับที่ดำมืดที่สุดของชาวนีเดียน...

ย้อนกลับไป 3,600 ล้านปีก่อน ดวงดาวกว่า 24 ดวงรวมตัวกันก่อกบฏต่อดาวนีด มีหลักฐานปรากฏว่าเทคโนโลยีของชาวนีเดียนได้รั่วไหลในมือของกบฏเหล่านั้น นั่นแสดงว่ามีชาวนีเดียนบางคนร่วมมือกับกบฏกลุ่มนี้ เหล่านักวิจัยชาวนีเดียนจึงเล็งเห็นว่าควรสร้างอาวุธชนิดใหม่เพื่อต่อกรกับพวกกบฏ

นักวิจัยนำโดย ดร.แลนทิส (คนเดียวกับที่เสนอให้ชาวนีเดียนปิดผนึกตนเองหลังเหตุการณ์ 10 ผู้ทรงปัญญา) จึงเกิดโปรเจคต์ในการใช้พลังงานตราสัญลักษณ์ในการพัฒนา DNA ของชาวนีเดียนและสร้างเป็นหน่วยต่อสู้รูปร่างมนุษย์ที่มีความสามารถยิ่งกว่าพลังตราสัญลักษณ์ปกติ และให้ชื่อโปรเจคต์วิจัยนี้ว่า "ปฏิบัติการ 10 ผู้ทรงปัญญา" !!

ช่วงเริ่มต้น มนุษย์ดัดแปลงในโปรเจคต์นี้เสร็จสมบูรณ์ด้วยกัน 3 คน ประกอบด้วย

ซัฟคิเอล หน่วยจู่โจมระยะประชิด
โจฟิเอล หน่วยจู่โจมระยะไกล
เมตาตรอน หน่วยป้องกัน

นอกจากนี้ยังเสริมด้วย มิคาเอล หน่วยกลยุทธที่จะช่วยสนับสนุนหน่วยต่อสู้ทั้งสาม

ต่อมาก็ได้ผลิตเพิ่มคือ ซาดคิเอล และคามาเอล เป็นหน่วยรวบรวมข้อมูล

ฮานิเอล หน่วยศึกษาพลเรือน
ราฟาเอล หน่วยวิเคราะห์ข้อมูล

ไม่นาน ลูซิเฟอร์ ฝ่ายตรวจตราหน่วยอื่นที่เหลือก็แล้วเสร็จ
ทว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มกบฏที่ต่อต้าน "ปฏิบัติการ 10 ผู้ทรงปัญญา" นี้ก็ส่งผลให้ฟีเลีย ลูกสาวเพียงคนเดียวของดร.แลนทิสเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม กองทัพก็ปกปิดเรื่องนี้จนกระทั่ง ดร.แลนทิสผลิตหน่วยสุดท้ายสำเร็จ
กาบริเอล สุดยอดหน่วยทำลายล้าง...

ต่อมา รายงานผลลัพธ์การวิจัยได้ระบุว่า ดร.แลนทิสได้เปิดระบบการป้องกันทั้งหมดของศูนย์วิจัยและผนึกตัวเองไว้ในนั้น ดูเหมือนเขาจะรู้เรื่องลูกสาวเขาแล้วจากการแทรกแซงและดัดแปลงกลไกของ 10 ผู้ทรงปัญญา กองทัพต้องใช้กำลังบุกเข้าห้องวิจัยเพื่อจับกุม ดร.แลนทิส หลังจากนั้นเหล่าสิบผู้ทรงปัญญาก็ได้ออกจากห้องวิจัยแล้วเริ่มโจมตีไปทั่ว ดูเหมือนว่า ดร.แลนทิสจะโปรแกรมการทำงานของสิบผู้ทรงปัญญาใหม่จากการโจมตีดาวรอบข้างที่เป็นกบฏ กลายเป็นการทำลายทั้งจักรวาล!! กองทัพต้องระดมกำลังทั้งหมดเพื่อปราบปรามสิบผู้ทรงปัญญา กองทัพผลักดันสิบผู้ทรงปัญญากลับเข้าศูนย์วิจัยไปได้ แต่เมื่อบุกเข้าห้องวิจัยอีกครั้งกลับพบแต่ความว่างเปล่า ดร.แลนทิสได้วางกับดักให้สิบผู้ทรงปัญญาเข้าไปอยู่ในห้วงมิติจักรวาลนิรันดร ถึงแม้ว่ากองทัพจะไม่สามารถกำจัดสิบผู้ทรงปัญญาได้ แต่ก็วางใจเพราะห้วงจักรวาลนิรันดรนั้นไม่สามารถเปิดด้วยตัวเองได้ ต้องได้รับการปลดล็อคจากภายนอกด้วยการใส่รหัสที่ระบุไว้เท่านั้น เหล่าสิบผู้ทรงปัญญาจะต้องถูกขังในห้วงจักรวาลนิรันดรไปตลอดกาล

ต่อมารายงานข้อเท็จจริงหลังการวิจัยระบุว่า ดร.แลนทิสได้อัตนิวิบากกรรมตนเองในศูนย์วิจัย แต่ผู้เขียนรายงานบ่งชี้ได้ว่า ดร.แลนทิสอาจจะนำชุดความคิดของตนเองใส่โปรแกรมลงไปในกาบริเอลที่ยังไม่สมบูรณ์ ผลพวงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของปฏิบัติการสิบผู้ทรงปัญญาทำให้กองทัพสูญทหารไปกว่า 80% เหล่าดวงดาวที่อยู่รอบๆจึงลุกฮือต่อต้านชาวนีเดียนจนถึงระดับที่ชาวนีเดียนไม่อาจรับมือกับทัพกบฏได้อีกต่อไป สภาสูงสุดของชาวนีเดียนจึงสั่งทุกคนให้อพยพไปยังดาวเคราะห์จำลองและตั้งชื่อว่า เอเนอร์จี้นีด และเปิดการทำงานของบาเรียเป็นระดับ 9 ทำให้สามารถป้องกันการโจมตีของพวกกบฏได้ แต่นั่นก็ทำให้ดาวนีดถูกตัดขาดจากจักรวาลโดยสมบูรณ์ สภาสูงยังสั่งควบคุมข้อเท็จจริงเหล่านี้อย่างสูงสุด เรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับปฏิบัติการสิบผู้ทรงปัญญาจะต้องไม่ปรากฏในประวัติศาสตร์อีกต่อไป

...นั่นมิใช่หมายความว่า 10 ผู้ทรงปัญญาแท้จริงแล้วคือชีวอาวุธที่ชาวนีเดียนสร้างขึ้นมา และสุดท้ายก็เป็นสาเหตุที่ชาวนีเดียนเกือบจะล่มสลายจนต้องปิดผนึกตนเองมาหลายพันล้านปีหรอกหรือ?
ไม่แปลกใจเลยว่า เหตุใดข้อมูลนี้จึงถือเป็นความลับที่สุดของที่สุด...
...
คล็อดนำลีอาเมทัลกลับไปให้มิราจที่เมืองอาร์มล็อคแต่ไม่พบกับนอล มิราจบอกว่านอลฝากของไว้เป็น NPID การ์ดที่ใช้ปลดล็อคพื้นที่พิเศษใน Fun City เมืองสวนสนุก คล็อดจึงเดินทางต่อมายังฟันซิตี้แต่ครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อความบันเทิง พนักงานต้อนรับพาพวกคล็อดไปยังโคลอสเซียมเพื่อเข้าระบบจำลองการต่อสู้กับสิบผู้ทรงปัญญา

3 วันผ่านไป พวกคล็อดสำเร็จการฝึกฝนในระบบจำลอง (ศัตรูอยู่มาตั้งแต่ 3 พันล้านปี พวกพระเอกฝึกกัน 3 วัน...) พอดีกับที่มิราจเดินทางมาถึงเพื่อส่งมอบสุดยอดอาวุธให้กับคล็อดและเรน่า เป็นดาบ Godslayer (สังหารเทพ) และKnuckles of Hope (สนับมือแห่งความหวัง) อาวุธทั้งสองมีส่วนประกอบของปฏิสสารที่เป็นอาวุธลับในการเอาชนะศัตรู มิราจยังมอบ "สสารแห่งความว่าง" โดยระบุว่ามันจะช่วยปลดปล่อยอานุภาพของอาวุธทั้งสองเพิ่มขึ้น

บัดนี้เมื่อกลุ่มคล็อดตั้งใจว่าจะทดสอบอาวุธในการต่อสู้จำลองอีกสักครั้ง สามในสิบผู้ทรงปัญญาตัวจริงก็ปรากฏขึ้น ซัฟคิเอล โจฟิเอล และเมตาตรอนทักทายกลุ่มคล็อดเพราะได้ยินว่าพวกคล็อกเตรียมแผนรับมือบางอย่าง เมตาตรอนอาสาไปจัดการมิราจที่เพิ่งเดินออกไป เขาระบุว่าราชสีห์จะใช้ทุกอาวุธที่มีขย้ำเหยื่อแม้จะเป็นเพียงหนูตัวเล็กๆก็ตาม ด้านโจฟิเอลเขาจะไปสังหารใครก็ตามที่เขาอยากฆ่า ส่วนพวกคล็อดหากต้องการจะช่วยผู้อื่นก็ต้องผ่านซัฟคิเอลให้ได้ก่อนเท่านั้น

สิบผู้ทรงปัญญาตัวจริงแข็งแกร่งกว่าการสู้กับตัวจำลองมากมายนัก แต่ครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ด้วยอาวุธเทพที่ได้มาจากมิราจ คล็อดและคณะก็สามารถเอาชนะซัฟคิเอล หนึ่งในสิบผู้ทรงปัญญาได้สำเร็จ ซัฟคิเอลยอมรับความพ่ายแพ้ก่อนร่างจะสลายไป
แต่นี่ก็ยังไม่ใช่เวลาดีใจ พวกคล็อดรีบตามศัตรูที่เหลือจนพบโจฟิเอลกำลังไล่สังหารชาวบ้านอย่างสนุกมือ พวกคล็อดรีบเข้าขัดขวางและส่งโจฟิเอลตามไปหาสหายในนรกได้สำเร็จ

คล็อดรีบตามศัตรูอีกตัวไปยังเมืองอาร์มล็อคทันที เมื่อมาถึงมิราจก็ปลิวกระเด็นออกมาจากในบ้าน เมตาตรอนเดินตามออกมา คล็อดรีบเข้าขัดขวางในทันใด นี่เป็นศึกครั้งที่สองระหว่างคล็อดกับเมตาตรอน ผู้ทรงปัญญาที่หน้าตาเหมือนโรโบคอบนี้คล็อดเคยสู้มาแล้วครั้งหนึ่งซึ่งครั้งก่อนคล็อดต้านทานไม่ได้แม้แต่น้อย แต่ในครั้งนี้คล็อดก็สามารถทวงคืนความอัปยศกลับมาได้ ยังดีที่มิราจไม่ถึงแก่ชีวิต เรน่าจึงช่วยรักษาได้ทันท่วงที

คล็อดกลับมาสมทบกับนอลซึ่งตอนนี้รออยู่ที่เมืองลาคัวร์ นอลถามความพร้อมของคล็อดและบอกข้อเท็จจริงว่า สิบผู้ทรงปัญญาสามคนที่คล็อดกำจัดไปนั้นถือว่าอ่อนแอที่สุดในบรรดาคนอื่นๆ ที่เหลือแข็งแกร่งกว่านี้มากนัก และการจู่โจมที่สองจะเริ่มขึ้นในว้นพรุ่งนี้ ขอให้พวกคล็อดเตรียมตัวเตรียมใจให้ดีสงครามครั้งสุดท้าย กำลังจะเริ่มต้นขึ้น...

-- จบบทที่ 2-4 --