Bravely Default 2
บราเวลี่ ดีฟอลต์ 2
บทสรุปเกม
WALKTHROUGH
Bravely Default 2 - บทที่ 5 ทวิกาล
Bravely Default 2
กวิลิมพาทุกคนกลับมาที่อุโมงค์อสรพิษซึ่งเป็นที่พำนึกของเขา ปีกของกวิลิมบาดเจ็บจากลูกหลงของปราการลอยฟ้าที่ถล่มลงมา ทุกคนจึงขอให้กวิลิมพักรักษาตัว
กวิลิมได้เล่าถึงตำนานของจอมมารผสานราตรีซึ่งมีบันทึกในความทรงจำของบรรพบุรุษมังกรมาหลายรุ่น ตามตำนานกล่าวว่าในอดีตกาลยุคที่มนุษย์และแฟรี่ยังอาศัยอยู่ร่วมกันโดยไม่ถูกกั้นขวาง มีน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งซึ่งบรรจุไว้ด้วยความรู้อันเที่ยงแท้ ซึ่งมันก็ได้ไปดึงดูดมารผู้หนึ่งที่ปรารถนาจะกลืนกินความรู้นั้น ทว่ามารผสานราตรีผู้นี้มิได้หยุดเพียงการกลืนกินความรู้ แต่มันกลืนกินทุกอย่างที่ขวางหน้า สรรพชีวิตต่างล้มตาย ภัยพิบัติปรากฏขึ้นทุกหย่อมหญ้า จนในที่ผู้กล้าทั้งสี่ผู้ได้รับพรแห่งคริสตัลปรากฏตัวขึ้นและหยุดยั้งมารผสานราตรีไว้ได้ ทว่ามารตนนี้มิอาจถูกสังหาร จึงทำได้เพียงใช้พลังของคริสตัลทั้งสี่ปิดผนึกมารผู้นี้เท่านั้น และเมื่อพลังของคริสตัลอ่อนแอลง ก็ต้องทำพิธีฟื้นพลังคริสตัลขึ้นใหม่เพื่อให้ผนึกมารยังคงอยู่ และคริสตัลทั้งสี่ก็ถูกส่งมอบต่อกันมาในราชวงศ์มิวซ่าจวบจนปัจจุบัน
บัดนี้กลอเรียได้รวบรวมคริสตัลทั้งสี่มาได้ ภารกิจต่อไปก็จะต้องกล้บไปยังเมืองมิวซ่า ไปยังสถานที่พำนึกของคริสตัลเพื่อฟื้นพลังให้สมบูรณ์เช่นเดิม
กลอเรียพาทุกคนผ่านอุโมงค์ที่เชื่อมระหว่างเขตฮาลซิโอเนียกับมิวซ่า ครั้งก่อนนางหนีตายผ่านทางนี้มาพร้อมเซอร์สโลน บัดนี้นางกลับมาที่เดิมอีกครั้งทว่าผู้เฒ่าที่เคยข้างกายกลับไม่อยู่แล้ว แม้จะสะท้อนใจแต่ในเวลานี้นางก็มีสหายเคียงกายที่เชื่อถือได้ทั้งสามอยู่
ในที่สุดทุกคนก็มาถึงเมืองมิวซ่าซึ่งตอนนี้คงเหลือเพียงซากปรักหักพัง เคราะห์ดีที่ทางใต้ดินไปสู่สถานที่พำนักคริสตัลยังคงปลอดภัย คณะผู้กล้าแห่งแสงต้องผ่านบททดสอบดิน น้ำ ลม ไฟ เพื่อนำคริสตัลไปวางไว้แต่ละที่ เมื่อครบแล้วประตูใหญ่สุดท้ายที่ถูกปิดผนึกไว้ก็เปิดออก
เมื่อก้าวเข้ามาด้านใน คัมภีร์ของเอลวิสก็เปล่งแสงขึ้นมาทันที มันฉายภาพนิมิต 50 ปีก่อนของคณะผู้กล้าแห่งแสงชุดก่อนหน้าที่ต่อสู้กับมารผสานราตรี (ครั้งนี้เป็นมุมมองผ่านสายตาของราชินีแฟรี่หนึ่งในผู้กล้าแห่งแสงชุดก่อน ซึ่งมุมมองนี้ก็จะเห็นเพียงปู่ของกลอเรีย เซอร์สโลน และท่านหญิงเอ็มม่า อาจารย์ของเอลวิส) โดยเนื้อหาของนิมิต ปู่ของกลอเรียกล่าวกับราชินีแฟรี่ว่า อายุขัยขอมนุษย์นั้นสั้นนัก พวกเขาคงไม่อาจอยู่ถึงวันที่มารผสานราตรีจะตื่นขึ้นในรอบถัดไป จึงขอฝากราชินีแฟรี่ให้ดูแลผู้ถูกเลือกในครั้งต่อไปด้วย
ก่อนที่จะเข้าไปยังส่วนสุดท้าย กลอเรียได้ถามเซธว่าเหตุใดเขาจึงช่วยนางร่วมทางตลอดมาทั้งที่เซธเองก็ไม่ได้มีพันธะหรือเป้าหมายใด เซธตอบว่าในตอนแรกเพราะเขาได้รับปากเซอร์สโลนไว้ แต่ในภายหลังอาจจะเป็นโชคชะตานำทางซึ่งเขาก็ไม่รู้ทำไม แต่เขาก็ต้องการจะสู้ ต้องการจะเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง
ทุกคนพูดคุยกันครั้งสุดท้าย กลอเรียถามทุกคนว่าพร้อมสำหรับศึกสุดท้ายแล้วหรือไม่ ทุกคนพยักหน้าตัดสินใจแน่วแน่ก่อนจะเข้าไปด้านในสุด ที่นี่ทุกคนได้พบกับเอ็ดน่าซึ่งยืนรออยู่ เอ็ดน่าใช้ตัวเองเป็นตัวเชื่อมต่อพลังกับมารผสานราตรี และเข้าต่อสู้กับทุกคน แต่ด้วยการรวมพลังของผู้กล้าแห่งแสงทั้งสี่ ในที่สุดก็เอาชนะเอ็ดน่าได้ ทว่าเอ็ดน่ากลับกล่าวว่ามันสายไปแล้ว มารผสานราตรีได้ตื่นขึ้นแล้ว และทุกคนต้องตายกันหมด
กลอเรียรีบก้าวขึ้นมาด้านหน้า และเรียกพลังของคริสตัลทั้งสี่มาที่นางเพื่อปลดปล่อยพลังทั้งหมดผนึกพลังของมารผสานราตรีที่ระเบิดออกมา หลังแสงสว่างเจิดจ้าค่อยๆสลัวลง ทุกสิ่งทุกอย่างกลับสู่ความเงียบงัน มารผสานราตรีถูกผนึกไว้อย่างสมบูรณ์ หายนะได้จบสิ้นลง ทว่า....
ร่างของกลอเรียค่อยๆล้มลง เซธรีบเข้าไปประคองและต้องตกใจสุดขีดเมื่อร่างของกลอเรียค่อยๆเย็นลง กลอเรียเปิดเผยว่า การใช้พลังคริสตัลผนึกมารผสานราตรีนั้นจำเป็นต้องสังเวยชีวิต นางรู้สิ่งนี้มาตลอดแต่นี่คือหน้าที่ของนาง เช่นเดียวกับที่ปู่ของนางเคยสังเวยตนเพื่อผนึกมารเมื่อครั้งอดีต และเหตุที่นางไม่เคยบอกสิ่งนี้กับใครเพราะรู้ว่าทุกคนต้องหยุดนางแน่โดยเฉพาะเซธ ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะหมดลง กลอเรียมองเซธที่โอบอุ้มนางไว้ในอ้อมแขนพร้อมกล่าวประโยคหนึ่งที่นางอยากจะบอกเขามานานแสนนาน...
...ขอบคุณนะ...
...
.
ร่างกลอเรียหมดลมหายใจไปอย่างช้าๆ เซธร้องตะโกนเรียกชื่อนางอย่างเจ็บปวดแต่ก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้อีกแล้ว กลอเรียได้สละชีวิตตนเองเพื่อช่วยโลกใบนี้เอาไว้...
เซธ เอลวิส อเดล ทั้งสามออกมายังโลกเบื้องนอก ทุกคนมองท้องฟ้าที่สดใสพลางทอดถอนใจ ทุกคนเพิ่งตระหนักถึงความสวยงามของโลกก็วันนี้ ที่ทุกคนยังยืนอยู่ตรงนี้ได้เป็นเพราะการเสียสละของกลอเรีย ทว่านางไม่อาจยืนมองท้องฟ้ากับทุกคนได้อีกต่อไป
และเครดิตผู้จัดทำก็ค่อยๆเลื่อนขึ้นมา
...
อวสาน
...
..
.
(ซะเมื่อไหร่ จบแบบนี้ก็ใจร้ายเกินไป เมื่อเครดิตจบแล้วเราจะมีโอกาสได้โหลดเซฟใหม่อีกครั้ง และครั้งนี้จะนำพาไปสู่ทางเลือกที่ต่างไปจากเดิม)
...
ย้อนกลับมาตอนที่ทุกคนกำลังจะเข้าไปสู่ด้านในของประตูใหญ่ที่ถูกปิดผนึก และคัมภีร์ของเอลวิสก็ส่องสว่างขึ้น
ทว่าครั้งนี้นิมิตที่เห็นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ครั้งก่อนๆี่ผ่านมา คัมภีร์ได้ฉายนิมิตในอดีตของผู้ถือครองแอสเทอริสก์ แต่ครั้งนี้มันกลับฉายภาพอนาคตที่กลอเรียสังเวยตัวเองเพื่อผนึกมาร อนาคตที่กลอเรียสิ้นใจในอ้อมกอดของเซธ
ทุกคนตกใจกับนิมิตนี้และถามกลอเรียเรื่องการสังเวยทันที กลอเรียยอมรับพร้อมเล่าว่า เมื่อห้าสิบปีก่อนปู่ของนางได้สังเวยตนเองเพื่อมอบพลังผนึกให้คริสตัล ซึ่งเดิมทีแล้วพลังนี้จะคงอยู่ได้ถึงสองร้อยปี ทว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์คริสตัลถูกขโมย พลังของคริสตัถูกนำมาใช้งาน จึงทำให้คริสตัลหมดพลังรวดเร็วกว่าที่ควรจะเป็นจนมาถึงวันนี้ที่ต้องทำพิธีสังเวยเพื่อมอบพลังผนึกให้คริสตัลใหม่ มีเพียงวิธีนี้เท่านั่นที่สามารถคงผนึกมารผสานราตรีได้
กลอเรียได้ถามทุกคนอีกครั้งว่าพร้อมกับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายหรือไม่ แต่ครั้งนี้เซธกลับเดินออกมาเตรียมจะจากไป เขาเชื่อว่าต้องมีหนทางอื่นที่ไม่ใช่การสังเวยชีวิตกลอเรียเช่นนี้ เซธจึงขอให้เอลวิสลองดูคัมภีร์ของเขาแต่ก็ไม่สามารถอ่านอะไรเพิ่มเติมได้ อเดลจึงเสนอว่าถึงเวลาจะต้องกลับไปเยี่ยมเมืองแฟรี่สักหน่อยแล้ว แต่เมืองแฟรี่นั้นไม่เคยต้อนรับมนุษย์มาก่อน รวมถึงอเดลในตอนนี้ที่ก็ไม่มั่นใจว่าจะยังต้อนรับนางหรือไม่..
-- จบบทที่ 5 --