Skip to main content

Final Fantasy 7 Remake

(as "Final Fantasy VII Remake")

ไฟนอล แฟนตาซี 7 รีเมค


เนื้อเรื่อง Final Fantasy VII Remake Episode 1 (บทที่ 15 ถึง 16)

Final Fantasy 7 Remake



ทั้งสามลอยข้ามกำแพงขึ้นไปยังเมืองด้านบน พวกเขากวาดตามองไปรอบๆก็พบว่าสภาพเมืองที่ด้านบนก็ไม่แตกต่างจากสลัมข้างล่างสักเท่าไหร่

 

Barret: สองวัตถุประสงค์
 Barret: วัตถุประสงค์แรก! เตะตูดไอ้พวก Shinra และช่วยโลก!
 Barret: วัตถุประสงค์ที่สอง! ช่วยผู้หญิง พร้อมกับเตะตูดพวก Shinra ไปพร้อมๆกัน แล้วหนีออกมา!
 Tifa: [หัวเราะ]
 Cloud: รับทราบ

ทั้งสามขึ้นมาถึงเมืองด้านบนแล้ว

 

ตอนนี้พวกเขาต้องหาทางขึ้นไปให้ถึงตึก Shinra Tower ที่ด้านบนเพื่อช่วย Aerith พวกเขาไต่ขึ้นไปตามซากตึกที่ล้มกองกันอยู่เพื่อที่จะเข้าไกล้ตึก Shinra Tower ให้มากที่สุด

 

Tifa: นั่นคือที่ๆเราจะต้องปีนขึ้นไปใช่ไหม?
 Barret: ถ้ามันแยกออกจากกันตอนที่เราอยู่บนนั้นละก็... อ้า~~~~ ตุ้บ
 Cloud: รู้ไหม เราเคยผ่านอะไรที่แย่กว่านี้มาแยอะ
 Barret: จริง ไม่ได้พูดเล่น เราน่าจะถูกฆ่าตายไปมากกว่าโหลละมั้ง รอดมาได้นี่มันปาฏิหาริย์ชัดๆ

Cloud มองหาทางที่ไปที่ตึก Shinra Tower

 

แล้วพวกเขาก็เดินมาถึงทางตัน พวกเขาจึงต้องใช้ปืนยิงตะขอเพื่อขึ้นไปข้างบนต่อไป ทันใดนั้น Cloud ก็เห็นหุ่นยนต์โดรน Valkyrie ขนาดใหญ่กำลังบินตรวจการณ์อยู่พร้อมกับทหารจำนวนหนึ่ง เขาจึงส่งสัญญาณให้ทุกคนหลบ

หุ่นโดรน Valkyrie บินตรวจการณ์

 

Cloud: ทีมสังหาร
 Barret: เรากำจัดพวกมันได้

 

พูดจบแล้ว Barret ก็จะออกไปลุยทั้นที แต่ Cloud ห้ามเอาใว้เพราะเขาไม่อยากให้พวก Shinra รู้ว่าพวกเขามาถึงด้านบนแล้ว

 

Cloud: เราต้องทำภารกิจต่อไป
 Barret: ฉันเข้าใจ การช่วย Aerith มีความสำคัญเป็นอันดับแรก

Cloud ห้าม Barret ใว้ให้อยู่ในภารกิจต่อไป อย่าเปิดเผยตัว

 

แล้วพวกเขาก็เดินทางต่อไป โดนพยายามจะหลีกเลี่ยงการปะทะกับพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จนเมื่อพวกเขาเดินมาถึงบนหลังคาอุโมงค์แห่งหนึ่งอยู่ๆพื้นก็ทรุดตัวลงเพราะรับน้ำหนักทั้งสามไม่ไหว พวกเขาจึงตกลงไปพบกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี เจ้าหน้าที่รีบรายงานว่ามีผู้บุกรุกทำให้การมาของพวกเขาถูกเปิดโปงจนได้ในที่สุด

การมาของพวกเขาถูกเปิดโปงแล้ว

 

ตอนนี้พวกเจ้าหน้าที่พิเศษและหุ่นยนต์ตรวจการถูกส่งออกมาตามล่าพวกเขาในทันที รวมถึงพวกทีมสังหารอีกด้วย แต่ทั้งสามก็ยังสามารถมุ่งหน้าต่อไปจนพวกเขาต้องมาเจอกับหุ่นโดรน Valkyrie 

ทั้งสามหลบการโจมตีของหุ่น Valkyrie

 

หุ่น Valkyrie ตามไล่ล่าพวกเขาไปตลอดทาง ทำให้ทั้งสามต้องหนีไปหลบในตัวอาคารจึงจะสามารถหลุดรอดจากการไล่ล่ามาได้ พวกเขาเดินทางต่อไปจนมาจนถึงจุดสูงสุดของจานด้านบน ทั้งสามหยุดมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน

พวกเขาเดินทางมาจนถึงจุดสูงสุดของจานด้านบน

 

ภาพที่ปรากฏตรงหน้าเป็นภาพที่สวยงามจนทำให้ Barret อดพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า

 

Barret: ฉันว่าเรามาสร้างบาร์กันใหม่เถอะ
 Tifa: ใช่ เราทำแน่

 

แล้ว Tifa ก็หันไปมอง Cloud แล้วพูดว่า

 

Tifa: นายก็จะมาช่วยด้วยใช่ไหม?

 

Cloud ได้ยินเช่นนั้นก็หันหลังไปกำลังจะเดินไป แล้วเขาก็หยุดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันกลับมาตอบว่า

 

Cloud: ถ้ายอมจ่ายค่าจ้างให้นะ

 

แล้ว Tifa ก็ยิ้มให้ Cloud ก็ยิ้มตอบให้กับเธอ

Tifa หันไปยิ้มให้ Cloud

 

พวกเขาเดินทางต่อไปจนใกล้จะถึงตัวตึก Shinra Tower ทันใดนั้นพวกเขาก็ต้องมาเผชิญหน้ากับหุ่น Valkyrie อีกครั้ง หุ่น Valkyrie ไล่ยิงพวกเขาอย่างไม่หยุดยั้ง Barret เห็นว่าไม่สามารถสลัดหลุดการไล่ล่าของหุ่น Valkyrie ได้ พวกเขาจึงจำเป็นต้องปักหลักต่อสู้อย่างเลี่ยงไม่ได้

ทั้งสามต่อสู้กับหุ่นยนต์โดรน Valkyrie

 

การต่อสู้ดำเนินไปได้ไม่นานหุ่น Valkyrie ก็ไล่ยิงจนทั้งสามต้องกระโดดหนีลงไปบนโครงอาคารด้านล่าง แต่หุ่น Valkyrie ก็ตามลงมาอย่างไม่ลดละ Valkyrie ยิงใส่ Barret กับ Tifa จนคานเหล็กที่พวกเขายืนอยู่เกือบจะพังตกลงมา Cloud เห็นว่าทั้งสองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เขาจึงใช้ปืนยิงตะขอโหนตัวไปช่วยทั้งสองจนหนีออกมาได้สำเร็จ แต่หุ่น Valkyrie ก็บินตามพวกเขามาแทบจะทันที แล้วการต่อสู้ก็ดำเนินต่อไป

Cloud ใช้ปืนยิงตะขอโหนเข้าไปช่วย Tifa กับ Barret

 

จนสุดท้ายทั้งสามก็สามารถกำจัดหุ่น Valkyrie ลงได้ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกเมื่อหุ่น Valkyrie ทำการระเบิดตัวเองจน ทำให้พื้นที่พวกเขายืนอยู่เริ่มพังลงมา

หุ่นโดรน Valkyrie ระเบิดตัวเองจนพื้นที่ทั้งสามยืนเริ่มถล่มลงมา

 

ตอนนี้พื้นที่เขายืนอยู่เริ่มเอียงจน Tifa ลื่นไถลจนตกลงไป Cloud เห็นเช่นนั้นก็กระโดดตามไปคว้าร่างของเธอเอาใว้ แล้วใช้ปืนยิงตะขอของเขายิงเกี่ยวกับพื้นด้านบนได้สำเร็จ ขณะนั้น Barret ก็กำลังตกลงมาเช่นเดียวกัน เขาใช้ปืนยิงตะขอเกาะพื้นแล้วก็กำลังพุ่งตัวขึ้นไปตาม Cloud กับ Tifa มาติดๆ แต่ปรากฏว่าตะขอของ Barret ฝังไม่ลึกพอทำให้หัวตะขอหลุดออกจากพื้นที่เกาะ ร่างของ Barret จึงร่วงลงไปด้านล่างในทันที

ร่างของ Barret กำลังร่วงลงไปด้านล่าง

 

Cloud เห็นเหตุการณ์จึงตะโกนเรียก Tifa, Tifa ก็ไม่รอช้าหยิบปืนยิงตะขอของเธอยิงใส่ร่างของ Barret ที่กำลังตกลงไป Barret เห็นเช่นนั้นก็ใช้มือของเขาคว้าจับหัวตะขอจากปืนของ Tifa เอาใว้ได้ทันท่วงที

Tifa ยิงปืนตะขอของเธอใส่ Barret

 

เมื่อ Cloud กับ Tifa ชึ้นมาถึงพื้นด้านบนก็ช่วยกันดึงร่างของ Barret ขึ้นมา ทั้งสามรอดมาได้อย่างหวุดหวิดอีกครั้ง Cloud เอื้อมมือไปฉุดร่างของ Tifa ขึ้นแล้วเดินไปหา Barret

 

Barret: นี้มันชักเริ่มจะตื่นเต้นมากเกินไปละ
 Tifa: ใช่
 Tifa: และยังจะมีมากกว่านี้รอเราอยู่
 Barret: ก็ว่างั้น
 Cloud: หวังว่าทุกๆคนอุ่นเครื่องกันเสร็จแล้วนะ

 

แล้วทั้งสามก็มาถึงทางมาถึงจุดที่ตึก Shinra Tower ตั้งอยู่ได้สำเร็จ

Barret รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดอีกครั้ง

 

[ภาพตัดมาที่ตึก Shinra Tower]

 

ตอนนี้ภายนอกอาคารมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตราอยู่เต็มไปหมด

 

ที่หน้าอาคาร Cloud กำลังยืนมองตึก Shinra Tower ที่ตั้งตระหง่านอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว Tifa กับ Barret ก็เดินตามมาสมทบ

Cloud เดินทางมาถึงตึก Shinra Tower แล้ว

 

ทั้งสามกำลังยืนดูการรักษาภัยนอกตัวอาคารของตึก Shinra Tower เพื่อที่จะวางแผนหาทางลอบเข้าไปในตัวอาคาร แล้ว Barret ก็เห็นรถคันหนึ่งวิ่งเข้ามาจอดหน้าตัวอาคาร

 

Barret: รถวาก้อนมาต้อนรับอีกคัน
 Tifa: ต้องบอกว่า ฉันอดคิดไม่ได้จริงๆว่าพวกเราหมดหนทางแล้ว
 Barret: แต่เธอก็รู้ว่าบางสื่งถึงแม้จะหมดหนทางแต่ก็มีค่าพอที่จะต่อสู้เพื่อมัน
 Cloud: มาคิดทบทวนแผนกันอีกครั้งดีกว่า
 Barret: แต่ ฉันมีไอเดีย
 Barret: จู่โจมที่ด้านหน้า กระสุนปลิวว่อน ฟังดูเข้าท่าใช่ไหม
 Cloud: บอกฉันอีกทีสิว่านี่เราพานายมาทำไม?

 

แล้ว Cloud ก็มองดูรถบรรทุกคันหนึ่งวิ่งเข้าไปทางด้านหลังตึก ทำให้เขาคิดแผนออก

 

Cloud: ทางเข้าด้านหลัง
 Cloud: เราจะเข้าไปทางที่จอดรถด้านหลัง

 

แล้วทั้งสามก็ดำเนินการตามแผนของ Cloud

ที่หน้าตึกมีการรักษาความปลอดภัยอยู่อย่างหนาแน่น

 

ทั้งสามวิ่งไปที่สะพานเพื่อจะดักรอรถบรรทุกของ Shinra ให้วิ่งผ่านมา

 

Tifa: การรักษาความปลอดภัยแน่นหนามาก
 Barret: หึ แสดงว่าพวกมันรู้ว่ากำลังสู้อยู่กับใคร
 Cloud: บางอย่างทำให้ฉันไม่คิดว่าการป้องกันทั้งหมดนี้มาเพื่อป้องกันพวกเราฝ่ายเดียว
 Cloud: บางทีอาจจะเพราะพวก AVALANCHE หรือก็ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเพราะพวก Wutai
 Barret: ไม่น่าจะเป็น Wutai หรือว่าเป็นเพราะสัญญาหยุดยิง?
 Cloud: นั่นจะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่หยุดรบกันชั่วคราวเท่านั้น
 Barret: ไม่ว่าจะเป็นทางไหน ฉันก็จะทำให้มันต้องกลัวพวก AVALANCHE พวกมันหมดเวลานั่งเล่นอย่างมีความสุขในตึกหรูๆแล้ว
 Cloud: ยังจำได้ไหมว่าเรามานี่เพื่อช่วย Aerith? เราไม่ต้องการเรียกร้องความสนใจให้มากเกินความจำเป็น
 Cloud: เราต้องเคลื่อนไหวอย่างฉลาด
 Barret: เออ ฉันรู้แล้วน่า!
 Barret: แต่รู้ไหมว่าในใจฉันกำลังกำลังร่ำร้องเพื่อจะล้างแค้น?
 Barret: ฉันเป็นเหมือนระเบิดเวลา ที่ไม่ช้าก็เร็วก็จะต้องระเบิดออกมา!
 Cloud: งั้นก็ขอให้ระเบิดช้าๆเถอะ
 
 แล้วพวกเขาก็วิ่งมาหยุดรออยู่ที่สะพานเพื่อรอโอกาสที่รถบรรทุกจะวิ่งผ่านมา

 

Tifa: คันนั้นไง... นั่นรถบรรทุกของ Shinra ไม่ใช่เหรอ?
 Cloud: มาเถอะ

 

เมื่อรถคันนั้นขับผ่านทั้งสามก็กระโดดขึ้นไปอยู่บนหลังคารถบรรทุก

ทั้งสามกระโดดขึ้นไปหลบอยู่บนหลังคารถบรรทุก

 

ที่ทางเข้าด้านหลัง มีทหารยืนคุ้มกันอยู่เป็นจำนวนมาก รถบรรทุกค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปที่ด่านตรวจ เมื่อรถหยุดลงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เดินตรวจรอบคัน Cloud ส่งสัญญาณให้ทุกคนอยู่นิ่งๆเอาใว้

 

พวกเจ้าหน้าที่ไม่พบสิ่งผิดปกติจึงปล่อยให้รถบรรทุกเข้าไปได้ Barret ถึงกับถอนหายใจแล้วพูดว่า “เฮ้อ ทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดี“ ไม่ทันขาดคำรถก็ออกตัวอย่างแรงทำให้ Barret ที่นั่งอยู่หงายหลังกำลังจะตกลงมาจากรถ Tifa เห็นเหตุการณ์ก็พยายามจะคว้าตัวเขาใว้แต่ก็ไม่ทันการ ทำให้ทั้งสองคนพลัดตกลงไปด้วยกันทั้งคู่ พวกเขาตกลงไปทับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนที่อยู่ด้านหลังพอดี Cloud เห็นเช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องซ่อนตัวอีกต่อไป เขาจึงกระโดดตามลงไปอีกคน แล้วทั้งสามจึงเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ด่านตรวจ

Barret พลัดตกจากหลังคารถบรรทุก Tifa พยายามจะคว้าตัวเขาเอาใว้

 

ทั้งสามต้องฝ่าทหารจำนวนมากเพื่อเข้าไปในตัวอาคาร เมื่อพวกเขาสามารถเข้ามาในตัวอาคารได้แล้ว พวกเขาก็แปลกใจที่ภายในไม่มีคนอยู่เลย

 

Tifa: นายคิดว่าพวกนั้นจะจับตัว Aerith เอาใว้ที่ไหน
 Cloud: ฉันคิดว่าน่าจะอยู่ในห้องวิจัย มันมีความเป็นไปได้มากที่สุด
 Barret: แล้วห้องนั้นมันอยู่ที่ไหน?
 Cloud: ชั้นบน อาจจะใกล้ๆชั้นบนสุด นั่นเป็นที่ๆเราจะไป
 Barret: อาจจะงั้นเหรอ?
 Tifa: เราน่าจะลองใช้เครื่องควบคุมที่หน้าโต๊ะเคาน์เตอร์ต้อนรับลองค้นหาดู

ภายในห้องโถงรับรองของ Shinra Tower กลับไม่มีคนเฝ้าอยู่เลย

 

ทั้งสามเดินไปยังโต๊ะเคาน์เตอร์ต้อนรับ แต่ปรากฏว่าเครื่องควบคุมทั้งหมดมีกำแพงเลเซอร์ป้องกันเอาใว้ทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าไปใช้งานได้ พวกเขาจึงเดินขึ้นไปที่ด้านบนของตึก ปรากฏว่าประตูทุกบานถูกล็อคอยู่ พวกเขาจึงจำเป็นต้องหาคีย์การ์ดเพื่อมาเปิดประตูเหล่านั้น Cloud บอกว่าเขาเห็นคีย์การ์ดอยู่ใบหนึ่งที่โต๊ะเคาน์เตอร์ต้อนรับ แต่โต๊ะนั้นมีกำแพงเลเซอร์ป้องกันอยู่การที่จะเข้าไปได้นั้นจะต้องเข้าจากด้านบนเท่านั้น Tifa จึงออกความคิดว่าเธอสามารถโหนตัวไปตามโคมไฟที่แขวนอยู่เพื่อเข้าไปที่โต๊ะได้

 

ว่าแล้ว Tifa ก็เริ่มดำเนินการตามแผนของเธอในทันที เธอกระโดดขึ้นไปบนโคมไฟแล้วกระโจนจะไปจับหลอดไฟที่แขวนอยู่ แต่เธอกระโดดไปไม่ถึงทำให้เธอร่วงตกลงไปที่ชั้นล่าง Cloud กับ Barret เห็นเช่นนั้นก็ตกใจรีบวิ่งไปดู แต่โชคยังดีที่เธอตกลงไปบนโซฟา 



Tifa ตกลงไปบนโซฟา Cloud กับ Barret รีบวิ่งตามมาดู

 

เธอจึงมองหาเส้นทางอื่น คราวนี้เธอโหนตัวอ้อมไปจนสามารถหาทางเข้าไปยังโต๊ะเคาน์เตอร์ต้อนรับได้สำเร็จ แล้วก็หยิบคีย์การ์ดที่อยู่บนโต๊ะมาได้ Tifa ไม่รอช้าเธอตรงไปที่เครื่องควบคุมเพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัยในทันที

Tifa โหนตัวเข้าไปที่โต๊ะเคาน์เตอร์ต้อนรับได้สำเร็จ

 

แต่แล้วอยู่ๆระบบรักษาความปลอดภัยก็ถูกปิดลง

 

Barret: ยอดเยี่ยมมากสาวน้่อย!

 

Tifa หันไปมองอย่างสับสน เพราะเธอไม่ใช่เป็นคนปิดระบบรักษาความปลอดภัย

 

Tifa: แต่ฉันยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะ...
 Barret: ฉิปหายละ แต่ก็เอาวะ
 Barret: แล้วเธอใช้ไอ้เครื่องนั่นหาห้องทดลองได้ไหมว่ามันอยู่ชั้นไหน?
 Tifa: คิดว่าได้นะ ขอเวลาเดี๋ยว
 Tifa: เจอแล้ว ห้องทดลองของศาสตราจารย์ Hojo ชั้น 65 น่าจะเป็นที่นี่แหละ
 Tifa: พวกเราสามารถไปชั้น 59 ได้โดยใช้ลิฟต์หรือไม่ก็ขึ้นทางบันได
 Tifa: แต่ถ้าจะไปชั้นที่สูงกว่านั้นเราจะต้องไปที่โต๊ะเคาน์เตอร์ต้อนรับที่ห้อง Skyview Hall
 Cloud: งั้นก็ไปชั้น 59 กัน
 Barret: ได้

 

แล้วพวกเขาก็ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 59

ทั้งสามขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 59

 

ภายในลิฟต์Barret พูดขึ้นว่า

 

Barret: หลังจากพวกเราไปถึงแล้วจะเอายังไงต่อ?
 Cloud: ก็จะมีการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาขึ้น แล้วก็ข้อกำหนดต่างๆ
 Cloud: มันจะยากขึ้นเรื่อยๆ

 

แล้วอยู่ๆลิฟต์ก็มาหยุดที่ชั้น 10 ประตูลิฟต์กำลังจะเปิดออกทำให้ทั้งสามคนรู้สึกตกใจ เมื่อประตูลิฟต์เปิดขึ้นพวกเขาก็เจอกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนที่กำลังยืนรอขึ้นลิฟต์อยู่ เจ้าหน้าที่เห็นว่ามีคนบุกรุกก็ยิงปืนเข้าใส่ทันที Cloud ยกดาบของเขาขึ้นกันแล้วก็กะโดดออกมาจาลิฟต์ พวกเขากำจัดเจ้าหน้าที่ทั้งสองลงได้อย่างไม่ยากเย็นแล้วก็เดินกลับเข้าลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนต่อไป

ชั้นที่ 10 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองยินอยู่ที่หน้าลิฟต์

 

ในลิฟต์ Tifa พูดขึ้นว่า

 

Tifa: สงสัยจังว่าลิฟต์จะหยุดอีกไหม
 Barret: บางทีคนก็น่าจะพยายามใช้ไอ้บันไดบ้านั่นกันบ้างนะ
 Cloud: ถ้ามันหยุดอีกเราก็จะจัดการเหมือนที่ทำเมื่อกี้ ไม่เป็นไรเราเอาอยู่

 

แล้วลิฟต์ก็ดังอีกครั้ง

 

Barret: ไม่ต้องให้เรารอนานเลยนะ ว่าไหม?

 

ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้น 20 คราวนี้ Barret ไม่รอให้เจ้าหน้าที่ได้ตั้งตัวเขาพุ่งเข้าไปเล่นงานเจ้าหน้าที่สามคนที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์ทันที

ชั้นที่ 20 Barret พุ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในทันที

 

เช่นเดิมพวกเขาใช้เวลาไม่นานก็กำจัดเจ้าหน้าที่ทั้งสามลงได้ แล้วก็กลับขึ้นลิฟต์ไปต่อ

 

Barret: ขึ้นยาวไปถึงชั้นบนเลยนะ
 Tifa: นี่พวกเราถูกซุ่มโจมตีอยู่หรือเปล่า?
 Cloud: หรือเธออยากจะใช้บันได...
 Barret: ในเมื่อนายพูดประเด็นนี้ขึ้นมาฉันก็จะตอบให้... ไม่

 

แล้วเสียงประตูลิฟต์ก็ดังขึ้นอีกครั้งที่ชั้น 30 คราวนี้ทุกคนชักอาวุธเตรียมพร้อมลุยเต็มที่ แต่ประตูเปิดออกมากลับพบว่ามีพนักงานออฟฟิตหญิงคนหนึ่งยืนหาวอยู่ เธอตกใจมากเมื่อเห็น Cloud และพวกถืออาวุธเตรียมพร้อมอยู่ในลิฟต์ Cloud จ่อดาบของเขาเข้ามาแทบจะถึงหน้าเธออยู่แล้ว เธอเห็นเช่นนั้นก็ถึงกับอ้าปากค้าง ยกมือขึ้นยอมแพ้ ทั้งหมดค้างอยู่ท่านี้จนประตูลิฟต์ปิดลง

ชั้นที่ 30 สาวออฟฟิตตกใจถึงกับอ้าปากค้าง ยกมือขึ้นยอมแพ้

 

เมื่อประตูปิดลง Tifa ก็พูดขึ้นว่า

 

Tifa: อึ่ม มีคนธรรมดาทำงานอยู่ที่นี่ด้วย
 Barret: เธอน่าจะโทรไปขอความช่วยเหลือแล้ว

 

แล้วเสียงประตูลิฟต์ก็ดังขึ้นอีกครั้งที่ชั้น 40 Barret สงสัยว่าคราวนี้จะเจอใครอีก แล้วประตูลิฟต์ก็เปิดออกมา คราวนี้ Cloud, Tifa, และ Barret กลับยืนรอดูอยู่เฉยๆที่มุมลิฟต์มีพนักงานหนุ่มคนหนึ่งเดินคุยโทรศัพท์กับแม่ของเขาเดินเข้ามาในลิฟต์เขาบอกแม่ว่าเขาปลอดภัยดีไม่ต้องเป็นห่วง

 

แล้วประตูลิฟต์ก็ปิดลง ลิฟต์มาหยุดอีกทีที่ชั้น 45 แล้วหนุ่มพนักงานคนนั้นเดินคุยโทรศัพท์ออกไปจากลิฟต์ ทั้งสามยืนอยู่เฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ชั้นที่ 40 พนักงานหนุ่มออฟฟิตคุยโทรศัพท์กับแม่เขา

 

แล้ว Tifa ก็พูดขึ้นอีก

 

Tifa: คนธรรมดาที่มีครอบครัวมีเพื่อน มีคนแบบนี้ทำงานให้กับ Shinra อยู่เต็มไปหมด
 Tifa: บางทีคนเราก็แค่พยายามจะดูแลคนที่พวกเขารักอย่างดีที่สุด
 Tifa: ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่เราต่างก็รู้ดีอยู่แล้ว แต่...
 Tifa: บางครั้งเราก็ลืมไปอย่างง่ายดาย
 Barret: คนดีที่รับใช้ปีศาจร้ายก็ใช่ว่าจะไม่มีบาป
 Barret: เขาจะต้องสำนึกและยอมรับฐานที่เข้าไปมีส่วนร่วม
 Barret: เขาจะต้องลืมตามารับรู้ความจริงที่ว่า หัวหน่าองค์กรของเขาได้ผลประโยชน์จากการทำร้ายโลก
 Barret: และเมื่อถึงตอนนั้นเขาจึงจะสามารถไถ่บาปของเขาได้
 Barret: ฉันรู้ว่าเธอเองก็รู้เรื่องนี้ [หันไปมอง Tifa]
 Tifa: ฉันรู้
 Cloud: Tifa เราจะต้องพุ่งความสนใจไปที่การช่วย Aerith
 Tifa: ฉันรู้ ฉันจะทำเช่นนั้น

 

แล้วเสียงประตูลิฟต์ก็ดังขึ้นอีกครั้งที่ชั้น 59 แล้วประตูก็เปิดออก

ชั้นที่ 59 พวกเขามาถึงจุดหมายแล้ว

 

[ภาพตัดมาที่ห้องทดลอง Materia]

 

Scarlet ที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาอาวุธขั้นสูงของ Shinra กำลังนั่งดูนักวิจัยของเธอทำการทดลอง Mako กับ Materia อยู่ มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเข้ามารายงานว่าได้เวลาประชุมแล้ว แต่เธอหยุดเจ้าหน้าที่คนนั้นใว้ไม่ให้พูดต่อเนื่องจากการทดลองกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว

Scarlet กำลังเฝ้ารอผลการทดลองอย่างใจจดใจจ่อ

 

เจ้าหน้าที่ๆคุมกล้องวงจรปิดได้หันไปดูการทดลองเพียงชั่วครู่ ปรากฏว่ากล้องตัวที่สามารถจับภาพพวก Cloud ที่ขึ้นมายังชั้น 59 กลับถูกแฮกและภาพในกล้องก็ถูกแก้ไขจนไม่สามารถมองเห็นพวก Cloud ที่บุกรุกเข้ามา

 

เมื่อการทดลองมาถึงจุดสุดท้าย Materia ในหลอดทดลองเริ่มแตกตัวและโดขึ้นอย่างรวดเร็วจนพวกนักวิจัยในห้องไม่สามารถจะควบคุมได้ Scarlet เมื่อเห็นเช่นนั้นก็ทราบแน่ชัดว่าการทดลองล้มเหลว เธอจึงเดินออกจากห้องทดลองในทันที ไม่นานก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นจากในห้องทดลอง เธอบอกให้เจ้าหน้าหน้าห้องเก็บกวาดข้างในให้เรียบร้อยแล้วเธอก็เดินทางไปประชม

การทดลองในห้องวิจัยของ Scarlet

 

Cloud และพวกมาถึงชั้น 59 ที่เป็นห้อง Skyview Hall ได้สำเร็จ

 

Barret: นี่คือห้อง Skyview Hall สินะ? เดาว่าห้องนี้น่าจะใช้เงินสร้างไปโครตเยอะ
 Cloud: เราไปหาโต๊ะเคาน์เตอร์ต้อนรับกันเถอะ

 

Cloud ก็ใช้คีย์การ์ดติดต่อที่โต๊ะเคาน์เตอร์ตอนรับ มีภาพโฮโลแกรมของพนักงานต้อนรับออกมาให้ข้อมูลว่าคีย์การ์ดของเขาเป็นแบบนักท่องเที่ยวสามารถใช้ขึ้นไปยังชั้น 60 ถึง 63 พวกเขาต้องทัวร์ไปทีละชั้นจนไปถึงชั้นที่ 63

 

Tifa คิดว่าตั่งแต่พวกเขาเข้ามาในตึกมันมีอะไรแปลกๆมากมาย ทุกอย่างดูราบรื่นจนเกินไป และเธอคิดว่านี่อาจจะเป็นกับดักก็ได้

 

ระหว่างเดินทางไปชั้น 60 พวกเขามาหยุดดูวิวของเมืองในตอนกลางคืนบนห้อง Skyview Hall

 

Barret: นี่มันโง่สิ้นดี
 Barret: คนที่มาที่นี่ตอนกลางคืนเพื่อดูวิว
 Barret: มันช่างสวย และมหัศจรรย์ และงดงาม
 Barret: แต่แสงไฟดวงเล็กๆเหล่านั้นทุกๆดวงมันสว่างไสวด้วยเลือดของเธอ (โลก)
 Barret: และมันก็สูบเลือดของเธอไปทีละเล็กละน้อย โดยไม่เคยหยุดคิดว่ามันจะจบลงอย่างไร
 Tifa: ใช่
 Barret: น่ากลัวแต่สวยงามล้วนเหมือนกันทั้งหมด

 

แล้วพวกเขาก็ขึ้นบันไดเลือนไปยังชั้น 60

ภาพวิวของเมือง Midgar จาก Skyview Hall

 

[ภาพตัดมาที่ชั้น 63 ที่ห้องทำงานของ Reeve]

 

Reeve กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เขาต้องการให้ตรวจสอบเตาปฏิกรณ์และเสารับน้ำหนักทั้งหมดเพื่อประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น แล้วเลขาของเขาก็นำรายงานความเสียหายของ Sector 7 มาให้เขา เหตุการณ์นี้ทำให้มีคนเดือดร้อนเป็นจำนวนมากเขาจึงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อวางแผนก่อสร้างเมืองขึ้นมาใหม่จนไม่ได้พักผ่อน ตัวเขาไม่เห็นด้วยกับแผนทำลาย Sector 7 ตั่งแต่แรกอยู่แล้วจึงทำให้เขาไม่สามารถยอมรับการกระทำเช่นนี้

 

แล้วภาพก็ตัดมายังห้องๆหนึ่ง มีคุณลุงหัวล้านคนหนึ่งกำลังเฝ้ามอง Reeve ผ่านมอนิเตอร์

ลุงคนหนึ่งกำลังจับตามอง Reeve ผ่านจอมอนิเตอร์

 

Cloud และพวกขึ้นมาถึงชั้น 60 ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ประวิติศาสตร์ของ Shinra เมื่อทั้งสามเข้ามายังห้องจัดแสดงก็พบรูปปั้นประธาน Shinra สีทองตั้งตระหง่านอยู่ที่ทางเข้า ภายในห้องมีการจัดแสดงภาพและวัสถุต่างๆที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของ Shinra นอกจากนี้ยังมีการแนะนำแผนกต่างๆของบริษัทรวมถึงผลงานของแต่ละหน่วยงานอีกด้วย

รูปปั้นประธาน Shinra สีทองตั้งตระหง่านอยู่ที่ทางเข้าพิพิธภัณฑ์

 

ที่ห้องด้านในได้มีการจัดแสดงโมเดลจำลองของเมือง Midgar และเล่าเรื่องเตาปฏิกรณ์ Mako มีเสียงจากไกด์แนะนำการจัดแสดงภายในห้องนี้ดังขึ้นว่า

 

นี่คือ Midgar บ้านของเราที่ถูกสร้างขึ้นด้วยสเกล 1 /10000 ไกด์: อย่างที่คุณเห็นอยู่นี่ รอบเมืองมีเตาปฏิกรณ์ทั้ง 8 วางเรียงเป็นวงแหวนอยู่กลางเมืองและทำให้ Midgar ทำงานทั้งวันทั้งคืน Mako ที่ไหลอยู่ใต้เท้าเราเป็นทรัพยากรที่ไร้ขีดจำกัด ที่ Shinra เราพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อที่จะสกัดมันออกมาและเปลี่ยนมันให้เป็นพลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้าซึ่งให้พลังงานกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ ต้องขอบคุณปาฏิหาริย์ของพลังงาน Mako ที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นกว่าที่เคย Mako ทำให้แสงไฟสว่างในยามค่ำคืน และทำให้ Midgar กลางเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับไหล และนี่คือชัยชนะของเทคโนโลยีและข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพของมนุษย์

โมเดลจำลองของเมือง Midgar

 

เมื่อการแนะนำจบลง Barret ก็พูดขึ้นว่า

 

Barret: ไม่มีสิ่งอื่นนอกจากคำโกหกคำโต!
 Cloud: ยกเว้นเรื่องที่ Mako ทำให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น
 Barret: มันทำให้ผู้คนตาบอดมากกว่า ตาบอดจนมองไม่เห็นความจริง
 Barret: แม้แต่ฉันเองก็ยังเคยเชื่อเรื่องโกหกของพวกมัน
 Barret: พอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมายิ่งทำให้ฉันโกรธมากขึ้น

 

แล้วทั้งสามก็ใช้คีย์การ์ดเปิดประตูขึ้นสู่ชั้น 61

 

ที่ชั้นนี้มีการจัดแสดงเกี่ยวกับเทคโนโลยีของ Shinra เมื่อทั้งสามเดินเข้าไปในห้อง Visual Entertainment Hall ที่ใช้จัดแสดงภาพยนตร์ก็มีการฉายภาพปรากฏขึ้นรอบตัวของพวกเขา

เสียงของไกด์ดังขึ้น

 

ในอดีตนานมาแล้ว โลกของเราเป็นที่อาศัยของมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า Ancient หลายพันปีก่อนที่เราจะค้นพบ Mako พวกเขาได้เคยบุกเบิกและนำมาใช้ก่อนแล้ว พวกเขาเรียนรู้ที่จะเก็บสะสมพลังงานที่ยิ่งใหญ่ที่ไหลเวียนอยู่ใต้เท้าของพวกเขาและเมื่อพวกเขาทำเช่นนั้นได้ พวก Ancient ก็ได้พัฒนาวิธีการที่จะควบคุมพลังงานที่อุดมสมบูรณ์นี้และนำไปใช้ตามความประสงค์ของพวกเขา

อารยธรรมของ Ancient เมื่อหลายพันปีก่อน

 

ผลผลิตจากน้ำพักน้ำแรงของพวกเขาหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันในรูปแบบของ Materia ชนิดต่างๆ 

 

ยังมีบันทึกโบราณของพวกเขาหลงเหลืออยู่ พวกเราเกิดขึ้นมาจากโลกใบนี้ พวกเราพูดกับเธอ (โลก) ด้วยเลือดเนื้อของเธอทำให้เรามีรูปร่าง พวกเราจะกลับไปยังดินแดนแห่งพันธสัญญาของเธอในวันหนึ่ง ด้วยพระเมตตาและกรุณาของเธอจะนำเราไปสู่สรวงสวรรค์ 

 

อนิจจาพวก Ancient ได้สาปสูญนานแล้ว เมื่อสองพันปีก่อนอุกาบาตได้ทำให้อารยธรรมของพวกเขาต้องถึงกาลอวสาน แต่ก่อนที่แสงของพวกเขาจะดับลง Ancient ได้พบกับดินแดนแห่งพันธสัญญาหรือไม่?

เมื่อสองพันปีก่อนอุกาบาตได้ทำให้อารยธรรมของ Ancient ต้องถึงกาลอวสาน

 

จนถึงตอนนี้พวกเราก็ได้แต่สงสัย สิ่งต่างๆได้เปลี่ยนไปและ Shinra Electric Power Company มีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปกับพวกเขา

 

เหมือนพวก Ancient พวกเราใช้ประโยชน์จากพลังงาน Mako พวกเขาอยู่บนนั้นกำลังดูเราอยู่ใช่หรือไม่? รอให้เราไปร่วมพวกเขาในมุมที่มีความสุขของโลก ดินแดนสีเขียวขจี ที่ซึ่งพลังงานที่ไร้ขีดจำกัดของ Mako จะมอบทุกสิ่งที่พวกเราต้องการ?

 

Shinra จะทำงานร่วมกับคุณเพื่อที่จะเติมเต็มความหวังของ Ancient และนำพาพวกเราไปสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญา เราจะไม่พักจนกว่าความฝันจะกลายเป็นจริง

Shinra จะนำพาพวกเราไปสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญา

 

Barret พูดขึ้นว่า จบละเหรอ? ทันใดนั้นก็มีภาพปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งสามเห็นว่ารอบตัวพวกเขาเป็นภาพของเมือง Midgar ผู้คนกำลังวิ่งหนีกันอย่างอลหม่าน Cloud มองขึ้นไปบนฟ้า เขาเห็นชายคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมยืนอยู่บนยอดตึกสูง

ชายคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมยืนอยู่บนยอดตึกสูง

 

เบื้องหลังชายคนนั้นเป็บลูกอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่กำลังพุ่งเข้าชนโลกในอีกไม่กี่อึดใจ ลูกอุกกาบาตกำลังพุ่งเข้ามาไกล้จนทำให้ฝุ่นควันกระจายคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ จนก่อตัวเกิดเป็นพายุจำนวนมากเข้าทำลายเมือง Midgar

อุกกาบาตพุ่งทำลายโลก

 

ถึงตอนนี้ Cloud มีภาพความทรงจำปรากฏขึ้นในหัวของเขา เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งสวดอ้อนวอน และก้อน Materia ในน้ำ เมื่อ Cloud ได้สติอีกครั้ง เขาเห็นชายในผ้าคลุมปรากฏกายขึ้นอยู่ข้างหน้าเขาเพียงครู่หนึ่งแล้วหายไป ชายคนนั้นถอดเสื้อคลุมออก ที่แท้ชายคนนั้นก็คือ Sephiroth เขายืนถือดาบยาวยืนอยู่หลัง Tifa แล้วเขาก็ทำร้าย Tifa จนล้มลงไปกองบนพื้น Cloud เห็นเช่นนั้นก็ร้องว่า “ไม่” เขาวิ่งเข้าไปหา Tifa แต่เธอกลับหายตัวไป

Sephiroth ยืนถือดาบยาวอยู่หลัง Tifa

 

Cloud กวาดตามองหา Tifa แต่กลับพบ Barret นอนกองอยู่บนพื้น ข้างกายมี Sephiroth ยืนถือดาบอยู่ใกล้ๆ แล้ว Sephiroth ก็หายไป Cloud หันไปรอบๆเพื่อหาตัว Sephiroth แต่แล้ว Sephiroth กลับมาปรากฏกายอยู่ที่ด้านหลังของเขา Cloud พูดขึ้นว่า “Sephiroth”

Sephiroth มาปรากฏกายอยู่ที่ด้านหลังของ Cloud

 

[ภาพตัดมาที่ Shinra Tower ช้ีน 69]

 

Palmer ผู้อำนวยการแผนกอวกาศและวิชาการของ Shinra กำลังเดินดิ่มชาของเขาอย่างมีความสุข ทันใดนั้นมีชายสวมชุดดำเดินเข้ามา เมื่อ Palmer เห็นก็ถึงกับทำถ้วยน้ำชาในมือของเขาตก เขาถอยหลบชายคนนั้นจนร่างไปชิดกับกำแพงตรงทางเดิน ชายชุดดำเดินผ่านเขาไปโดยไม่สนใจใยดี Palmer มองหน้าชายคนนั้นใกล้ๆก็ถึงกับตกใจอย่างสุดขีด แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ มันไม่มีทางเป็นไปได้”

ชายชุดดำเดินผ่าน Palmer ไป

 

[ภาพตัดมาที่ Barret]

 

Barret: เรื่องบ้าๆเมื่อกี้ทำให้ฉันอยากจะอ้วก ไม่ใช่แค่เพราะการนำเสนอเพียงอย่างเดียวแต่ตัวเนื้อหาก็ด้วย
 Barret: น่าจะขึ้นมาเตือนด้วยว่า! ไม่เหมาะสมกับเด็ก!
 Cloud: นั่นไม่ได้เป็นแค่หนัง
 Tifa: ไอ้อุกกาบาตลูกใหญ่นั่น... นี่มันเรื่องอะไรกัน?
 Barret: เหมือนที่ฉันพูดนั่นแหละ เป็นสิ่งที่ไม่ควรเปิดให้เด็กดู

 

แล้ว Cloud ก็นำคีย์การ์ดไปประทับเพื่อขึ้นไปยังชั้น 62 ต่อไป แต่อยู่ๆเครื่องที่แนะนำนักท่องเที่ยวก็หยุดทำงานไปอย่างกระทันหัน ประตูห้องเปิดออก มีชายชราคนหนึ่งยืนรอพวกเขาอยู่



ชายชราปรากฏตัวขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

 

Cloud และพวกหันมองชายชราคนนั้นอย่างตื่นตระหนก

 

ชายชรา: สวัสดีและยินดีต้อนรับ ผมสันนิษฐานว่าพวกคุณคือ  AVALANCHE? [ก้มหัว]
 ชายชรา: ผมชื่อ Hart ยินดีที่ได้พบกันทุกท่าน
 Hart : ผมมาที่นี่เพื่อนำทางพวกคุณไปพบกับท่านนายกเทศมนตรี Domino ตามคำขอของท่าน
 Barret: นายกเทศมนตรีของ Midgar? บุคคลไร้ความสามารถที่เป็นได้แค่กระบอกเสียงให้กับ Shinra หน่ะเหรอ?
 Hart: ถูกต้องแล้วครับ
 Hart: นายกเทศมนตรีของเมือง Midgar ที่รักของพวกเราเอง...
 Hart: เมืองที่งดงามที่สุดที่เคยสร้างมา นายกเทศมนตรี Domino คนนั้นถูกต้องแล้วครับ
 Hart: ห้อง Visual Entertainment Hall ประสบปัญหาทางเทคนิคในช่วงหลังนี้
 Hart: และท่านสงสัยว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อาจจะไปขัดขวางการเดินทางของพวกคุณ
 Cloud: แล้วนายกเทศมนตรีต้องการอะไรจากเรา?
 Hart: ผมเกรงว่าเรื่องนี้พวกคุณอาจจะต้องไปถามกับท่านเอง

 

พูดจบ Hart ก็หันหลังเดินนำทางพวกเขาไป

 

Barret: เดาว่าเราก็ควรจะต้องตามเขาไป

Hart พาทั้งสามมายังห้องสมุดขนาดใหญ่บนชั้น 62

 

แล้ว Hart ก็นำทางทั้งสามมายังช้นที่ 62 เมื่อเปิดประตูเข้ามาพวกเขาก็พบว่าที่นี่เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่

 

Barret: ดูที่นี่สิ
 Barret: แล้วยังไง นี่นายจะบอกฉันว่านายกเทศมนตรีเป็นพวกหนอนหนังสืออย่างงั้นเหรอ?

 

Hart ไม่ตอบ เขาผายมือให้ทั้งสามเดินตามเขามา แล้วเขาก็มาหยุดที่ตู้หนังสือตู้หนึ่ง เขาเอามือพลักหนังสือเล่นหนึ่ง แล้วประตูทางลับก็เปิดออก Hart พาทั้งสามเดินมาหยุดอยู่ที่ประตูบานหนึ่ง เขาบอกว่านายกเทศมนตรีรอพบพวกเขาอยู่ข้างใน Barret ตอบไปว่า “ถ้านี่เป็นกับดักละก็ แกตายแน่ เข้าใจไหม?”

 

Cloud เปิดประตูเข้าไปก็เห็นห้องที่เต็มไปด้วยจอมอนิเตอร์ เขาเห็นภาพพวกเขาปรากฏอยู่บนจอมอนิเตอร์เหล่านั้น

 

Barret: นี่มันไม่ถูกต้อง
 Domino: วิเศษ! ในที่สุดพวกนายก็มา
 Domino: ฉันเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองหลวงแห่ง Mako, Domino ยินดีรับใช้
 Domino: ฉันต้องบอกว่าพวกนายสามคนไม่ต่อยรอบคอบเท่าไหร่
 
 แล้ว Domino ก็นำภาพทั้งสามที่ลอบเข้ามาใน Shinra Tower เปิดขึ้นบนหน้าจอ

Domino นายกเทศมนตรีเมือง Midgar

 

Domino: ฉันสงสัยจริงๆว่าใครกันนะที่คอยเก็บกวาดสิ่งที่พวกนายทำเลอะใว้
 Cloud: นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?
 Domino: ไม่เอาน่าลองคิดสิ
 Domino: พวกนายถูกระบบรักษาความปลอดภัยตรวจพบหลายครั้ง
 Domino: เดินตรงเข้ามาหน้ากล้อง
 Domino: และทำสาวนักบัญชีตกใจกลัวแทบตาย
 Domino: พวกนายเคยได้ยินสัญญาณเตือนภัยไหมหล่ะ? ไม่เหรอ? ด้วยความยินดี?
 Domino: ฉันยังคิดเลยว่าขออย่าให้มือถือของพวกเธอดังเลย
 Domino: ใจของฉันเป็นพวก AVALANCHE
 Barret: ว่าไงนะ?
 Domino: สำหรับนายแล้ว มันน่าแปลกใจขนาดนั้นเลยเหรอ?
 Domino: พวกนายก็เห็นแล้วว่าพวกนั้นเอาฉันมาใว้ที่ไหน
 Domino: นายกเทศมนตรีของเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
 Domino: ถูกซ่อนอยู่ในห้องเก็บไม้กวาดลับในคลังเอกสารบ้านี่! พวกประสาท
 Domino: ไอ้พวกโง่ Shinra เฮงซวยนั่นคิดว่าฉันจะหุบปากแล้วยอมรับการระทำแบบนี้ได้อย่างงั้นเหรอ มันคิดผิดแล้ว! ผิดมากๆ!
 Barret: ก็ดีนี่อาจจะทำให้อะไรๆง่ายขึ้น
 Tifa: พวกเราต้องการจะบุกเข้าไปในห้องทดลองของศาสตราจารย์ Hojo
 Domino: ว่าไงนะ? เข้าไปทำไม?
 Domino: หมายความว่าพวกนายไม่ได้มาที่นี่เพื่อลงโทษประธาน Shinra หรอกหรือ?
 Cloud: พวกเรามาที่นี่เพื่อช่วยเพื่อนของเราที่ถูกจับตัวไป
 Barret: แต่ประธาน Shinra จะต้องโดนด้วย ถ้าถามความเห็นของฉันนะ
 Domino: จริงๆฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษหรอกนะว่าพวกนายจะทำอะไร ตราบเท่าที่มันจะทำให้ Shinra เจ็บ
 Barret: เยี่ยม
 Domino: ฉันพานานขึ้นไปได้ถึงชั้น 64
 Barret: ว่าไงนะ นายจะบอกฉันว่านายทำได้มากสุดแค่เนี่ย?
 Domino: ใช่จริงๆแล้วนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันทำได้
 Cloud: แต่นายเป็นนายกเทศมนตรีนะ
 Domino: แต่นายเป็นนายกเทศมนตรีงั้นเหรอ!? [โวย]
 Domino: ที่นี่มันดูเหมือนที่ทำงานของนายกเทศมนตรีหรือไง? ฉันได้รับเกียรติให้เป็นบรรณารักษ์ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น!
 Domino: พวกมันไม่เชิญฉันไปประขุมด้วยซ้ำ!
 Domino: จัดเรียงเอกสารกับรายงาน ฉันทำอยู่แค่นี้!
 Domino: มือกับนิ้วของฉันมีรอยกระดาษบาดมากกว่าผิวหนังเสียอีก
 Domino: ไม่มีใครรู้ความเจ็บปวดของฉัน ความทรมานของฉันในแต่ละวัน!
 Domino: พวกมันทำให้ฉันเป็นไอ้ตัวน่าสมเพชที่อยู่ในคราบมนุษย์
 Barret: โอเค!
 Barret: พวกมันปฏิบัติต่อนายผิดๆ เหมือนกับที่มันทำกับเรา แต่เราจะแก้ไขเรื่องนี้ให้ถูกเอง
 Barret: ดังนั้นช่วยสงบสติหน่อย
 Barret: หายใจเข้าลึกๆพวก หายใจเข้าลึกๆ
 Domino: ไหนเอาคีย์การ์ดของนายมาให้ฉันดูสิ

 

แล้ว Cloud ก็หยิบคีย์การ์ดยื่นให้ แล้ว Domino ก็เอาบัตรไปอัพเกรดให้พวกเขา

 

Domino: รับไปสิ
 Domino: พวกนายสามารถใช้มันเข้าไปในศูนย์สันทนาการที่ชั้น 63 ได้แล้ว
 Barret: แล้วหลังจากนั้นเราต้องทำยังไง?
 Domino: ให้พวกนายมองหาคนที่จะคอยประสานงานให้กับ AVALANCHE
 Domino: เข้าไปแนะนำตัวกับเขาแล้วเขาจะให้คีย์การ์ดไปช้น 64
 Domino: รหัสลับคือ
 Domino: “นายกเทศมนตรียอดเยี่ยมที่สุด”
 Domino: “นายกเทศมนตรีของ Midgar ไม่มีอะไรน้อยไปกว่านี้!”
 Domino: “ใครๆก็พูดว่าเขาเจ๋งกว่าทุกคน!”

 

ทุกคนได้ยินรหัสก็ถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก

 

Domino: แค่พูดว่า “นายกเทศมนตรี” แล้วคนนั้นก็จะตอบว่า “สุดยอด!” ด้วยความชื่นชม แค่นี้พวกนายก็เจอตัวเขาแล้ว
 Domino: เข้าใจไหม?

 

เมื่อทราบรหัสแล้วทั้งสามก็เดินทางไปที่ชั้น 63

Domino บอกรหัสลับให้ตามหาคนที่จะประสานงานให้ AVALANCHE

 

[ภาพตัดมาที่ห้องทดองของศาสตราจารย์ Hojo ที่ชั้น 66]

 

Hojo กำลังถามคำถาม Aerith เพื่อเรียนรู้ภูมิปัญญาของพวก Ancient

 

Hojo: แล้ว เกี่ยวกับดินแดนแห่งพันธสัญญาที่ล้ำค่าของพวกเธอ
 Hojo: พูดมาเถอะ Aerith เธอกำลังเข้าใจเจตนารมณ์ของฉันผิด
 Hojo: ฉันเพียงต้องการจะตอบสนองความโลภในเรื่อง Materia ของพวกเขาเพื่อที่ฉันจะได้กลับไปทำงานของฉันต่อ
 Hojo: งานของเรา ที่รัก

Hojo กำลังถามคำถาม Aerith เพื่อเรียนรู้ภูมิปัญญาของพวก Ancient

 

Aerith นั่งนิ่งไม่ตอบอะไร

 

Hojo: ตอนนี้เธอกำลังทำให้ฉันนึกถึงแม่ของเธอ
 Hojo: ฉันเสียใจมาจนทุกวันนี้
 Hojo: ถ้าตอนนั้นเธอเชื่อฉันแทนที่จะพยายามหนี มันก็คงไม่ลงเอยแบบนี้
 Hojo: ช่างเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้าที่ต้องสูญเสียสายเลือด Ancient ที่บริสุทธิ์คนสุดท้ายไป
 Hojo: แต่ก็ไม่ได้เสียไปทั้งหมดหรอกนะ เธออยากจะเจอแม่เธอไหมหล่ะ?
 Hojo: แม้ว่าจะต้องมองผ่านเลนส์ของกล้องจุลทรรศน์สักอันหนึ่งของฉัน
 Hojo: เธอคิดหรือว่าเราจะปล่อยให้ตัวอย่างอันล้ำค่าแบบนั้นให้เน่าเปื่อยอยู่ในท่อ?
 Hojo: เรารวบรวมและทำแคตตาล็อกทุกชิ้นส่วนของเธอ
 Hojo: ผม ผิวหนัง อวัยวะ ทุกชิ้นส่วนของกระดูกทุกๆชิ้น
 Hojo: ช่างน่าทึ่ง แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ก็ไม่ต่างจากตอนที่มีชีวิต
 Hojo: เหมือนเธอตอนนี้ไงที่รัก!
 Hojo: Ifalna นั้นสง่างามยิ่งนักจนถึงโครงสร้างเซลล์ของเธอ (ชื่อแม่ Aerith)
 Hojo: [หัวเราะอย่างโรคจิต]
 Hojo: และก็นี่ไง ความงดงามแบบเดียวกัน

 

แล้วก็มีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น

 

Hojo: จริงด้วย ได้เวลาประชุมอีกแล้ว
 Hojo: นั่นอยู่ตรงนั้นหล่ะ ฉันไปไม่นานหรอก

 

แล้ว Hojo ก็เดินจากไป Aerith ถึงกับสะบัดหน้าหนีด้วยความเจ็บแค้นจนสุดจะทน

Aerith ถูกขังอยู่ในหลอดทดลอง

 

เมื่อพวก Cloud ขึ้นมาถึงชั้น 63 ก็ออกตามหาคนที่จะช่วยประสานงานกับพวกเขาในทันที มีภาพข่าวปรากฏขึ้นมาบนจอมอนิเตอร์ขนาดยัก นักข่าวกำลังสัมพาษณ์ Heidegger ผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Sector 7

 

Heidegger โยนความผิดที่เกิดขึ้นใน Sector 7 ทั้งหมดให้พวก AVALANCHE โดยอ้างว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้ายของพวกเขา และทาง Shinra รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง Heidegger สัญญาว่าจะตามจับพวก AVALANCHE มาลงโทษให้จงได้

ศูนย์สันทนาการชั้น 63

 

พวก Cloud เดินตามหาผู้ประสานงาน ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็พบตัว ผู้ประสานงานบอกกับพวกเขาว่าจะไม่มอบคีย์การ์ดให้จนกว่าพวกเขาจะพิสูจน์ว่ามีความสามารถเพียงพอ เนื่องจากงานนี้มีความเสี่ยงสูงเขาจึงไม่สามารถมอบคีย์การ์ดที่สำคัญนี้ให้ใครก็ได้

 

ผู้ประสานงานตั้งเงื่อนไขว่าพวกเขาต้องชนะการประลองในเครื่องจำลองการต่อสู้ให้ได้เสียก่อน เขาถึงจะยอมมอบคีย์การ์ดให้ พวก Cloud จึงยอมรับเงื้อนไข

Cloud และพวกพบผู้ที่จะประสานงานกับพวกเขาแล้ว

 

ทั้งสามเข้าไปในเครื่องจำลองการต่อสู้ ที่นี่พวกเขาต้องต่อสู้กับหุ่นยนต์ Cutter สองตัว ซึ่งพวกเขาก็เอาชนะไม่ไม่ยากเย็น ผู้ประสานงานจึงยอมมอบคีย์การ์ดให้แก่พวกเขา 

 

แล้วผู้ประสานงานก็ถามถึงแผนของพวกเขา จนเมื่อทราบว่าพวกเขาจะไปช่วยเพื่อนที่ห้องทดลองของ Hojo เขาก็บอกว่าการจะเข้าห้องทดลองของ Hojo นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะคนที่จะสามารถเข้าไปในห้องนั้นได้จะต้องได้รับการอนุญาตเสียก่อน ซึ่งมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าไปได้ Cloud จึงถามว่าพวกเขาจะหาตัว Hojo ได้ที่ไหน ผู้ประสานงานจึงให้ข้อมูลว่าตอนนี้กำลังจะมีการประชุมบอร์ดผู้บริหาร การประชุมจะจัดขึ้นที่ห้องประชุม ประธาน Shinra, Hojo, และผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆก็จะอยู่ที่นั่นด้วย

 

Barret ได้ยินเช่นนั้นจึงคิดจะจับตัวประธาน Shinra เป็นตัวประกัน แต่ผู้ประสานงานบอกว่าถ้าทำเช่นนั้นจะมีทหารจำนวนมากตามไล่ล่าพวกเขาแน่ Cloud พูดขึ้นว่าพวกเขาต้องการจะรู้ว่าพวกนั้นประชุมอะไรกัน ผู้ประสานงานจึงให้ข้อมูลว่าให้พวกเขาเข้าไปในห้องน้ำชายแล้วปีนขึ้นไปในท่ออากาศ พวกเขาต้องคลานไปอยู่เหนือห้องประชุมเพื่อแอบฟัง Cloud เมื่อทราบเช่นนั้นก็กล่าวขอบคุณและเดินจากไป

 

แล้วพวกเขาก็มาเจอกับ Chadley ที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากเครื่องจำลองการต่อสู้ Chadley บอกว่าเขามารอพบ Cloud ที่นี่เพื่อคอยช่วยเหลือ เขาเล่าว่าเขาเป็นเด็กฝึกงานอยู่ในแผนกวิจัยและพัฒนาของ Shinra เขาจึงเข้ามาที่นี่ได้ เขายังได้แฮกเข้าไปในเครือข่ายเน็ตเวิร์คที่พวกผู้บริหารใช้เพื่อคอยช่วยเหลือพวก Cloud อีกด้วย เขายังบอกด้วยว่าตัวเขาจะช่วยเหลื่อและสนับสนุนพวก Cloud ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้

Chadley บอกว่าเขามารอพบ Cloud ที่ชั้น 63 เพื่อคอยช่วยเหลือพวกเขา

 

ระหว่างที่พวก Cloud กำลังจะเดินไปยังห้องประชุม พวกเขาก็มาพบกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคน ในขณะที่ทุกคนคิดว่าคงเลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้แค่โชคดีที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งจำ Cloud ได้ เจ้าหน้าที่คนนั้นจึงห้ามเจ้าหนี่ที่อีกที่มาด้วยกันไม่ให้จู่โจมใส่ทั้งสาม แล้วเขาก็เดินเข้ามาคุยกับ Cloud

 

เจ้าหน้าที่: Cloud? นายคือ Cloud ใช่ไหม?
 เจ้าหน้าที่: ให้ตายเถอะ!
 เจ้าหน้าที่: เยี่ยมไปเลยเพื่อน พวกเราเคยฝึกมาด้วยกัน
 เจ้าหน้าที่: ให้ตายสินี่นายยังแข็งแรงดีอยู่ใช่ไหม?
 เจ้าหน้าที่: บางคนบอกฉันว่านายถูกเก็บไปแล้ว แต่ฉันไม่เชื่อพวกนั้นหรอก!

 

ตอนนี้ Cloud รู้สึกเจ็บศีรษะอย่างรุนแรง

 

เจ้าหน้าที่: เฮ้ นั่งรอก่อนสิ เดี๋ยวฉันจะไปตาม Kunsel มาพบ
 เจ้าหน้าที่: เดี๋ยวฉันกลับมา!

 

ว่าแล้วเจ้าหน้าที่ทั้งสองก็เดินจากไป

เจ้าหน้าที่สองคนจำ Cloud ได้ พวกเขาเคยฝึกมากด้วยกัน

 

Barret เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจึงถามว่า “เพื่อนเก่า?” Tifa เห็นว่า Cloud มีอาการผิดปกติจึงเข้ามาดูอาการ

 

Tifa: เป็นอะไรไหม?
 Cloud: ไม่เป็นไร
 Tifa: แต่นายเพิ่งจะ...
 Cloud: ฉันไม่เป็นอะไร พวกเราไปกันต่อเถอะ

 

ทั้งสามเดินออกมาจากห้องก็มาพบกับ ประธาน Shinra กับ Heidegger มาพร้อมกับเจ้าหน้าที่คุ้มกันจำนวนมากมายืนรอขึ้นลิฟท์อยู่

 

ประธาน Shinra: ฉันเชื่อว่าแถลงการณ์นั่นไม่มีจุดบกพร่องอะไรใช่ไหม?
 Heidegger: ใว้ใจได้ครับ
 Heidegger: ประชาชนหลงเชื่อเรื่องที่ Wutai สมรู้ร่วมคิดกับ AVALANCHE อย่างหมดใจ
 Heidegger: จนผมเองยังเกือบจะเชื่อไปด้วยว่าเป็นเรื่องจริง
 ประธาน Shinra: Wutai ได้ตอบโต้อะไรไหม?
 Heidegger: ถึงตอนนี้ยังไม่มี
 Heidegger: และถึงแม้ว่าพวกขี้ขลาดนั้นจะตอบโต้กลับมาจริง มันก็จะยิ่งเป็นผลดีกับเราและทำให้เรื่องของเราน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
 ประธาน Shinra: ดีมาก งั้นเราก็ดำเนินตามแผนต่อไป
 Heidegger: ขออนุญาตครับท่าน ยังมีอีกเรื่องนึง
 ประธาน Shinra: งั้นหรือ?
 Heidegger: มีข้อความจาก Palmer
 
 แล้วประตูลิฟท์ก็เปิดออก ทั้งหมดเดินเข้าไปในลิฟท์แล้วจากไป

ประธาน Shinra ยืนคุยอยู่กับ Heidegger

 

Barret เห็นประธาน Shinra อยู่ต่อหน้าแต่ไม่สามารถทำอะไรได้

 

Barret: ให้ตายสิ!
 Tifa: Barret
 Barret: เออ ใช่ ฉันรู้ เรามานี่เพื่อช่วย Aerith นั่นคือสิ่งสำคัญอันดับแรกของเรา
 Cloud: ใช่แล้ว เรามีโอกาสแค่ครั้งเดียว Hojo น่าจะเข้าประชุมด้วย นั่นน่าจะซื้อเวลาให้เราได้
 Cloud: เราต้องวางแผนอย่างระมัดระวัง
 
 แล้วทั้งสามก็ขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 64 ที่กำลังจะมีการประชุมเกิดขึ้น

Cloud ตามประธาน Shinra มายังห้องประชุม

 

เมื่อมาถึงพวกเขาก็มาถึงห้องน้ำชายตามที่ผู้ประสานงานได้ให้ข้อมูลใว้

 

Tifa: เอาหล่ะ ฉันจะรออยู่ข้างนอกนี่
 Barret: ห๊ะ? เธอจะรออยู่ที่นี่ไม่ได้นะ
 Cloud: Tifa มันอาจจะดีกว่าถ้าเธอจะมารอข้างใน
 Tifa: ไม่รู้สินี่มัน...
 Tifa: เออ ช่างมันเถอะนายพูดถูก

 

แล้วทั้งสามก็เดินเข้ามาในห้องน้ำ

 

Tifa: โอ้ ขอบคุณพระเจ้า ไม่มีใครอยู่ในนี้
 Barret: อยากจะแสดงให้พวกนั้นเห็นบ้างว่าคนที่อยู่ข้างล่างนั้นมันเป็นยังไง (โกรธที่เห็นห้องน้ำหรู)
 Tifa: ไม่เอาน่ามาหาท่ออากาศกันเถอะ
 Cloud: เจอละ

 

แล้ว Cloud ก็ปีนขึ้นไปถอดตะแกรงท่ออากาศออก Barret เห็นขนาดท่อเล็กเกินกว่าที่เขาจะเข้าไปได้

 

Barret: ฟังนะ ฉัน...
 Cloud: นายเฝ้าที่นี่ใว้
 Barret: ได้
 Tifa: งั้นให้ฉันไปกับนายนะ
 Tifa: ไม่อยากจะอยู่ที่นี่นานเกินกว่าที่จำเป็น
 Cloud: ได้สิ เธอตามมาละกัน

 

แล้ว Cloud ก็ปีนเข้าไปในท่อ

Tifa ไม่อยากอยู่ในห้องน้ำชายนานเกินไป

 

แล้ว Cloud กับ Tifa ก็คลานมาถึงห้องประชุม

 

Palmer: ผมพูดจริงๆ ผมเห็นเขา!
 Palmer: ผมเห็นเขากับตา! เดินอยู่ตรงทางเดิน!
 Heidegger: พวกเราไม่มีเวลามาฟังเรื่องไร้สาระนี่!

 

Palmer โมโหลุกขึ้นมาหา Heidegger แล้วพูดว่า

 

Palmer: เขาอยู่ห่างจากฉันเหมือนกับนายตอนนี้! ฉันช็อคถึงขนาดทำน้ำชาตก!

 

Heidegger ทนฟังต่อไปไม่ไหว ถึงกับเอามือทุบโต๊ะ แล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปหา Palmer

 

Heidegger: พอได้แล้ว!
 Heidegger: ถ้ามีผู้บุกรุกเข้ามาในตึก คนของฉันจะจัดการกับพวกมันเอง
 
 Palmer เห็นว่าไม่มีประโยชน์จะพูดกับ Heidegger จึงเดินไปหาประธาน Shinra

 

Palmer: แต่ท่านประธาน! ผมสาบานกับท่าน...
 ประธาน Shinra: [ยกมือให้ Plamer หยุดพูด]
 ประธาน Shinra: Reeve
 Reeve: ครับท่าน
 Reeve: ผมมีผลประเมินความเสียหายที่ Sector 7 และผมเกรงว่าตัวเลขนั้นมันเป็นหายนะ...
 ประธาน Shinra: ไม่ต้องเล่าเรื่องหายนะ หรือเรื่องเศร้าอะไรพวกนั้นให้พวกเราฟัง
 ประธาน Shinra: มีเรื่องอะไรอีกไหม?
 Reeve: ครับท่าน ผมยังได้ร่างแผนที่จะบูรณะ...
 ประธาน Shinra: นั่นไม่จำเป็น
 ประธาน Shinra: ในเมื่อเราได้ตัว Ancient มาอยู่ในการควบคุมอีกครั้ง
 Reeve: อ่า... ด้วยความเคารพครับท่าน ผมไม่เห็นว่ามันจะ....
 Scarlet: สองคำ Reeve “Neo Midgar”

Cloud และ Tifa ซ่อนตัวอยู่บนท่ออากาศเพื่อแอบฟังการประชุม

 

ประธาน Shinra: ในดินแดนแห่งพันธสัญญาของพวกเขา
 ประธาน Shinra: เราจะสร้างเมืองหลวงพลังงาน Mako แห่งใหม่ขึ้น
 Reeve: [ลุกขึ้นยืน] ท่านประธาน!
 ประธาน Shinra: เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าดินแดนแห่งพันธสัญญามันมี...

 

ประธาน Shinra ยกมือขึ้นให้ Reeve หยุดพูด Reeve เห็นเช่นนั้นจึงหยุดพูดแล้วนั่งลง

 

ประธาน Shinra: ศาสตราจารย์ Hojo
 Hojo: ผลการทดลองเป็นไปตามที่เราคาดเอาใว้
 Hojo: ตัวอย่างค่อนข้างจะด้อยลงเมื่อเทียบกับแม่ของเธอที่มีเลือดบริสุทธิ์ แต่ถ้าแค่ให้ได้ตามเป้าประสงค์ของเราเธอมีมากยิ่งกว่าพอ
 ประธาน Shinra: งั้นเธอก็พาพวกเราไปยังดินแดนแห่งพันธสัญญาได้ใช่ไหม?
 Hojo: เรื่องนั้น เราจะต้องรอดูกันต่อไปครับ ท่านประธาน
 Hojo: ผมอยากจะขออนุญาตจากท่าน
 Hojo: ผมต้องการได้รับอนุญาตจากท่านให้ใช้วิธี “รุนแรง” เพื่อให้เธอร่วมมือมากขึ้น
 Hojo: รุนแรงแต่อ่อนโยน
 Hojo: เธอเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่เราจะต้องจัดการอย่างระมัดระวัง
 Scarlet: ส่วนตัว ฉันไม่เคยมีปัญหากับการทรมาน
 Heidegger: ถ้าต้องการอะไรสามารถมาเอาจากคลังอาวุธของฉันได้เลย
 Hojo: ฉันมีความคิดที่จะใช้ยาที่มีผลทางจิตอะไรพวกนั้นมากกว่า เป็นแผลทางใจดีกว่าเป็นแผลทางกาย

 

พูดจบ Palmer ก็เผลอตัวหัวเราะชอบใจออกมา จนต้องรีบเอามือปิดปากเอาใว้

ประธาน Shinra: จัดการตามที่นายเห็นควร
 ประธาน Shinra: อย่างไรก็ตาม ห้ามทำผิดพลาดซ้ำสองอีก เข้าใจไหม?
 Hojo: ขออนุญาตพูด ท่านประธาน ผมมีไอเดียว่าเราจะลดความเสี่ยงลงได้อย่างไร
 Hojo: พูดง่ายๆก็คือเราสามารถสร้าง Ancient ขึ้นมาใหม่
 Hojo: ในกรณีนี้เมื่อเราไม่มีตัวอย่างที่สอง ทางเลือกของเราจึงต้องทำการระบุคู่ให้
 Hojo: ผมจะเริ่มด้วยการคัดเลือกผู้สมัครจาก SOLDIER ก่อน
 Hojo: ซึ่งนี่แน่นอนว่าจะต้องรวม S และ G Type ด้วย
 Hojo: บอกตามตรงว่าไม่สามารถบอกได้เลยว่าคุณสมบัติตัวของตัวอย่างที่ถูกผสมขึ้นมานั้นจะออกมาเป็นยังไง ดังนั้น...
 Hojo: พวกคุณมีความเห็นว่ายังไง

 

ทุกคนคิดหนัก ไม่มีใครกล่าวอะไรออกมา Cloud กับ Tifa ได้ยินมากพอแล้วจึงถอยกลับออกจากท่ออากาศ

 

ประธาน Shinra: ถ้าไม่มีอะไรเพิ่มเติม [พูดจบก็ลุกขึ้นหมายจะเดินออกจากห้องประชุม]
 Reeve: ท่านประธาน!
 ประธาน Shinra: เลื่อนการประชุมไปก่อน
 Reeve: ได้โปรดเถอะท่าน!

 

แล้วคนอื่นๆก็เดินออกจากห้องประชุมไป เหลือแต่ Hojo เขาพูดออกมาว่า “ได้กลิ่นตุๆ”

Hojo วางแผนที่จะสร้าง Ancient ขึ้นมาใหม่

 

Cloud กับ Tifa ออกมาจากท่อแล้ว Barret ก็ถามขึ้น

 

Barret: ว่ายังไงบ้าง?
 Cloud: ชายที่ใส่ชุดเสื้อแล็ป
 Cloud: ชายคนนั้นเป็นหัวหน้าแผนกวิจัยและพัฒนา เราต้องตามเขาไป
 Barret: โอเค แล้วหลังจากนั้นเราจะฆ่าไอ้ลูกหมานั่น
 Cloud: อย่าเพิ่งฆ่าเขาจนกว่าเขาจะนำเราไปเจอ Aerith นั่นคือแผนของเรา



พวก Cloud จะแอบตาม Hojo ไปจนกว่าจะเจอ Aerith

 

ทั้งสามวิ่งไล่ตามมาจนพบ Hojo ที่หน้าห้องทดลอง พวกเขาแอบเฝ้าดู Hojo อยู่ห่างๆ

 

Hojo: เขามาเดินอยู่ในทางเดินของตึกนี้ ใครจะไปเชื่อ
 Hojo: ฉันสงสัยจริงๆว่าจะหาทางเจอกับเขาตัวต่อตัวได้ไหม [หัวเราะ]
 Hojo: ฉันควรจะพบทายาทของพวกเขาได้ยังไง
 Hojo: อ่าา สงสัยเรื่องนั้นต้องเอาใว้ที่หลัง ก่อนอื่นเราต้องไปหาคำตอบก่อน
 Hojo: ใช้ยาออกฤทธิ์ทางจิตแบบธรรมดาน่าจะพอเพียง ไม่มีอะไรน่าจะทำให้เกิดความเสียหายในระยะยาว

 

ว่าแล้วเขาก็เอาคีย์การ์ดของเขาเปิดประตูห้องทดลองแล้วเดินเข้าไป ทั้งสามเห็นเป็นโอกาสจึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองก่อนที่ประตูจะปิดลง เมื่อลอบเข้ามาในห้องทดลองได้สำเร็จพวกเขาก็วิ่งตาม Hojo ไปจนถึงประตูที่ด้านใน Barret ใช้ปืนของเขาเล็งไปที่หลังของ Hojo แล้วพูดว่า

 

Barret: อย่าขยับ
 Barret: ฉันไม่ได้ขู่
 Hojo: ต้องการอะไร?
 Hojo: จะเอากระสุนฝังหัวแกสักโหลนึง นอกเสียจากแกจะเปิดประตูเดี๋ยวนี้

Barret เอาปืนจี้หลัง Hojo บังคับให้เขาเปิดประตู

 

ได้ยินเช่นนั้น Hojo ก็เดินไปเปิดประตู

 

Hojo: พวกนายน่าจะเป็นพวกกลุ่มที่สร้างปัญหาในระยะหลังนี้ พวกผู้ก่อการร้ายรักโลก?

 

Barret ไม่ตอบคำเขาแค่ผงกหัวให้ Hojo รีบเดินต่อไป

 

Hojo: ถ้าเช่นนั้นฉันก็นึกไม่ออกว่าพวกนายมีธุระอะไรกับฉัน
 Hojo: ประธานอยู่ข้างบน
 Hojo: ชึ้นไปสิ ชู้ว
 Barret: หุบปาก เดินต่อไป

 

แล้ว Barret ก็เอามือพลัก Hojo ให้รีบเดิน

 

Barret: ไม่ใช่เรื่องของแก รีบขยับตัวไปได้แล้ว!
 Hojo: หยุดผลักฉันแบบนั้น ฉันไม่เหมือนพวกแก ฉันไม่คุ้นกับการใช้กำลังทำร้ายร่างกาย
 Barret: เดี๋ยวแกก็ชินเอง
 Hojo: พวกนายต้องการอะไร?
 Barret: เพื่อนของเรา เธออยู่ในห้องทดลองของนาย
 Hojo: จริงเหรอ
 Barret: บอกฉันมาว่า Aerith อยู่ไหน
 Hojo: โอ้ ที่แท้เธอก็เป็นเพื่อนกับพวกแก
 Hojo: ได้ ได้ ได้ ถ้าอย่างงั้น ใชแล้ว เอาแบบนี้ละกัน
 Barret: พูดเสียงดังๆหน่อยได้ไหม?
 Hojo: ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่กำลังจินตนาการว่าเธอจะทำยังไงถ้าฉันเอาศพที่เพิ่งตายสดๆของพวกแกไปให้เธอดู

Hojo ถามพวก Barret ว่าต้องการอะไร

 

Barret ได้ยินเช่นนั้นก็จะเดินไปเล่นงาน Hojo แต่ Hojo ก็กดสวิทซ์ที่ถืออยู่ในมือทำให้มีมอนเตอร์หลายตัวตกลงมาจากด้านบน Hojo ฉวยโอกาสนี้วิ่งไปที่แพงควบคุมแล้วกดปุ่มอะไรบางอย่าง เสร็จแล้วจึงหันมาพูดว่า “ฉันสัญญาว่าพวกแกจะต้องเสียใจ” แล้วก็วิ่งหนีขึ้นลิฟท์ไป

 

ไม่นานหลอดทดลองก็เปิดออก มีร่างทดลอง H0512 ที่มีขนาดใหญ่มหึมาเดินเข้ามาจู่โจม Cloud และพวกในทันที

ร่างทดลอง H0512 ปรากฏตัวขึ้น

 

การต่อสู้ผ่านไปครู้ใหญ่พวก Cloud ก็สามารถกำจัดร่างทดลอง H0512 ลงได้ Barret พูดขึ้นว่า “เฮ้ Hojo มันกำลังหนี” แล้วพวกเขาก็วิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว

 

ภาพตัดมาที่สัตว์ทดลองตัวหนึ่งที่ถูกขังอยู่ภายในหลอดทดลองที่อยู่ในห้อง สัตว์ร้ายมีรูปร่างเหมือนหมาป่าลืมตาขึ้นมาจ้องมองพวกเขาอย่างเงียบงัน

สัตว์ร้ายรูปร่างเหมือนหมาป่าตัวหนึ่งลืมตาขึ้นมา

 

Cloud วิ่งตาม Hojo มาจนพบกับ Aerith ที่ถูกขังอยู่ในหลอดทดลอง หน้าหลองทดลองมีเจ้าหน้าที่พิเศษคุ้มกันอยู่เต็มไปหมด แล้วก็มีเสียงของ Hojo ดังขึ้นมาจากห้องสังเกตุการณ์ที่อยู่ด้านบนว่า

 

Hojo: น่าประทับใจมาก
 Hojo: ต้องขอขอบคุณพวกแกที่ทำให้ฉันสามารถเก็บข้อมูลการต่อสู้ที่ประมาณค่ามิได้
 Barret: แกอวดดีนักใช่ไหม
 Hojo: ผลลัพธ์ที่ได้จากการคาดคะเนโดยแบบจำลองการของฉันบอกว่ากองกำลังกลุ่มนี้น่าจะสามารถจัดการกับพวกแกได้ไม่ยาก
 Barret: เดี๋ยวแกจะได้เรียนวิธีคาดคะเนแน่ๆ
 Cloud: เราจะนำตัว Aerith กลับไป!
 Hojo: โอ้? “เอาเธอกลับไป” แกพูดอย่างงั้นหรือ?
 Hojo: ช่วยตอบฉันที่ว่า ฉันเข้าใจผิดไปหรือเปล่า เด็กสาวคนนี้ไม่ได้มาที่นี่ด้วยความเต็มใจงั้นหรือ?
 Hojo: หรือพวกแกตั้งใจจะบอกฉันว่าเธอเป็นสมบัติส่วนตัวของพวกแก?
 Barret: เธอยอมมาที่นี่เพราะว่าต้องการจะช่วย Marlene!
 Hojo: ฉันเกรงว่าแกจะเข้าใจผิด

 

แล้ว Hojo ก็ยกมือขึ้นสงสัญญาณให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมโจมตี ตอนนี้ทุกคนจับอาวุธขึ้นยืนประจันหน้ากัน

 

Hojo: แต่ยังไงฉันก็คงเลี่ยงจะไม่อธิบายให้ฟังไม่ได้
 Hojo: ห้องทดลองแห่งนี้เป็นบ้านของร่างทดลองที่เหนือธรรมดา ซึ่งวันหนึ่งจะเปลี่ยนโลกที่เรารู้จักไปตลอดกาล
 Hojo: ลองพยายามคิดถึงคนอื่นๆดูบ้างนะ

 

พูดจบ Cloud ก็พุ่งเข้าใส่พวกเจ้าหน้าที่พิเศษที่อยู่ตรงหน้าทันที

Cloud บอก Hojo ว่าให้ส่ง Aerith คืนมา

 

ไม่นานพวกเจ้าหน้าที่พิเศษก็ผ่ายแพ้

 

Barret: ดูเหมือนว่าแบบจำลองของแกจะผิดหว่ะ
 Hojo: จริงด้วย บางทีอาจจะมีตัวแปรที่ฉันไม่รู้
 Hojo: แต่ช่างมันเถอะ เดี๋ยวก็มีกำลังเสริมตามเข้ามา
 Cloud: แล้วพวกนั้นจะมาช่วยแกทันก่อนที่ฉันจะจัดการแกหรือเปล่า?
 Hojo: ให้ตายสิ แกเป็น SOLDIER เหรอ?
 Cloud: ใช่
 Hojo: ไม่ ไม่น่าใช่
 Hojo: โอ้ ตอนนี้ฉันจำได้แล้ว ความจำของฉันผิดพลาด
 Hojo: เจ้าหนูของฉัน แกไม่ใช่ SOLDIER...

Hojo จำ Cloud ได้แล้ว

 

พูดจบ Cloud ก็มีอาการเจ็บศีรษะ ทันใดนั้นพวกภูติจำนวนมากก็ปรากฏตัวขึ้น ภูติเหล่านั้นพุ่งเข้าไปหอบร่างของ Hojo ลอยออกไป

 

Hojo: นั่นอะไร? มันคืออะไร...
 Hojo: นี่มันช่างเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ!?
 Hojo: เกิดอะไรขึ้น!? พวกแกจะพาฉันไปไหน!?

พวกภูติหอบร่างของ Hojo ลอยออกไป

 

Barret: คราวนี้ไอ้พวกนั้นมันต้องการอะไรอีกละ?
 Aerith: Cloud! (เรียกให้ Cloud ช่วย)
 Cloud: Barret!
 Barret: ได้เลย ถอยออกไป!

 

แล้ว Barret ก็ใช้ปืนของเขายิงทำลายแพงวงจรไฟฟ้าที่ควบคุมหลอดทดลองของ Aerith จนพัง แล้วประตูหลอดทดลองก็เปิดออก ในขณะเดียวกันก็ยังทำให้หลอดทดลองที่ขังสัตว์ร้ายที่มีรูปร่างคล้ายหมาป่าเปิดออกด้วยเช่นกัน

ประตูหลอดทดลองที่ขังสัตว์ร้ายถูกเปิดออก

 

เมื่อประตูเปิดออก Aerith ก็วิ่งออกมา

 

Aerith: พวกนายมาช่วยฉัน
 Cloud: ถูกแล้ว
 Tifa: เธอเป็นอะไรไหม?
 Aerith: ฉันสบายดี!

Aerith วิ่งมาหาทั้งสามด้วยความดีใจ

 

ทันใดนั้นก็มีหุ่นยนต์สองตัวเข้ามาในห้อง

 

Barret: ขอบคุณมากที่ช่วย Marlene ฉันเป็นหนี้เธอครั้งหนึ่ง
 Cloud: ใว้ค่อยพูดกันที่หลัง

 

การต่อสู้ผ่านไปไม่นานพวก Cloud กำจัดหุ่นยนต์ทั้งสองลงได้สำเร็จ

หุ่นยนต์ทั้งสองเข้ามาในห้องทดลองเพื่อกำจัดผู้บุกรุก

 

Tifa: Aerith เธอเป็นอะไรไหม
 Aerith: ขอบใจ
 Tifa: ไม่ใช่เรื่องใหญ่
 Cloud: พวกเราออกไปจากที่นี่กันเถอะ

 

ทันใดนั้นสัตว์รูปร่างคล้ายหมาป่าก็กระโดดไต่กำแพงขึ้นมาหาพวก Cloud มันมองพวกเขาพร้อมกับส่งเสียงขู่คำรามอยู่ในลำคอ แล้วกระโดดหนีไป



สัตว์รูปร่างคล้ายหมาป่าก็กระโดดขึ้นมาขู่คำราม

 

Barret: ไอ้นั้นมันตัวอะไร?
 Aerith: เราต้องรีบไป!

 

แล้ว Aerith ก็วิ่งนำไป
 
 Tifa: Aerith!
 Barret: เกิดอะไรขึ้น!?
 Cloud: ไปกันเถอะ

 

แล้วทั้งสามก็วิ่งตาม Aerith ไปทันที ทั้งสามวิ่งออกมาที่ด้านนอกพวกเขามองเห็นหมาป่าตัวนั้นกำลังวิ่งเข้าหา Hojo ที่กำลังเดินโซเซไปที่ลิฟท์ Hojo สามารถหนีขึ้นลิฟท์ไปได้ทันก่อนที่หมาป่าจะวิ่งมาถึงตัว
 
 หมาป่าทำหน้าโกรธแค้นแล้วเดินกลับไปหาพวก Cloud ที่ยืนดูอยู่ Barret เห็นท่าไม่ดีจึงตั้งท่าเตรียมจะต่อสู้ แต่ Aerith หยุดเขาเอาใว้ แล้วพูดว่า “เด็กคนนี้เป็นเพื่อนเรา” แล้วเธอก็เดินเข้าไปหาหมาป่า เธอยิ้มให้แต่หมาป่าทำท่าขู่คำรามอย่างดุร้าย

สัตว์รูปร่างคล้ายหมาป่าขู่คำรามใส่ Aerith

 

แล้ว Aerith ก็ยื่นมือของเธอไปจับที่หัวของหมาป่า ทันใดนั้นก็มีแสงออกมาจากมือของเธอ แล้วหมาป่าตัวนั้นก็สงบลง Aerith เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มแล้วดึงมือของเธอกลับมา

Aerith ทำให้หมาป่าสงบลง

 

Barret: แล้วไอ้นี่มันตัวอะไร?
 หมาป่า: เป็นคำถามที่น่าสนใจ

 

ทุกคนตกใจเมื่อเห็นว่าหมาป่าพูดได้

 

Tifa: นี่มันเพิ่งพูดเหรอ?
 หมาป่า: พวกเธอถามว่า “มัน” คืออะไร หืออ...
 หมาป่า: ฉันก็คือสิ่งที่พวกเธอเห็นอยู่ตรงหน้านี่แหละ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
 หมาป่า: ฉันจะขอบคุณถ้าเราจบเรื่องนี้ไว้แค่นี้ ตงลงไหม?
 
 ทุกคนหันไปมองหน้ากันด้วยความฉงน แล้ว Tifa ก็มองเห็นรอยสักที่ต้นขาเขียนว่า XIII

 

Tifa: สิบสาม?
 หมาป่า: Hojo ตั้งสมญานามให้ฉันว่า “Red XIII”

หมาป่าแนะนำตัวว่าเขาคือ "Red XIII"

 

Tifa: งั้นเธอก็น่าจะมีชื่ออื่นอีก เธอชื่ออะไรเหรอ?

 

Red XIII ไม่ตอบแต่หันไปมองทางที่ Hojo หนีไป

 

Cloud: เขาหนีไปได้
 Barret: แล้วพวกเราจะไปจัดการไอ้ลูกหมานั้นไหม?
 
 เมื่อ Cloud มองไปที่ลิฟท์ก็ทำให้เขานึกถึงภาพๆหนึ่งขึ้นมาได้ ทันใดนั้นเขาก็เริ่มเจ็บศีรษะจนแทบทรงตัวไม่อยู่ แล้วก็มีภาพความทรงจำปรากฏขึ้นมา เขามองเห็นสิ่งหนึ่งอยู่ในหลอดทดลอง ตอนนี้ทุกคนเริ่มสังเกตุเห็นว่า Cloud มีอาการผิดปกติ ต่างก็รู้สึกตกใจ

 

Cloud พยายามจะประคองร่างของเขาเดินไปที่ลิฟท์ แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า

 

Cloud: Je..no..
 Cloud: โอ้... อ้า...

 

Cloud เดินมาถึงลิฟท์แล้วก็เอามือจับที่กระจก เขาเห็นภาพสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งอยู่ในหลอดทดลอง เขาเงยหหน้าขึ้น แล้วพูดออกมาว่า “แม่...”

Cloud มองเห็นสิ่งมีชีวิตชนืดหนึ่งในหลอดทดลอง แล้วก็พูดขึ้นว่า "แม่"

 

พูดจบ Cloud ก็ล้มลงหมดสติ Tifa กับ Aerith ร้องเรียกชื่อเขาเป็นเสียงเดียว

Cloud ล้มลงหมดสติ

 

[ภาพตัดมาที่ห้องสอบสวนกิจการทั่วไป ที่ชั้น B3]

 

Tseng กำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างอยู่บนโต๊ะ ใกล้ๆมี Rude อยู่ในห้องส่วน Reno หน้าตาบอบช้ำนอนอยู่บนโซฟา เขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่แล้วก็ถอนหายใจออกมา

 

Tseng: นายรู้ไหม Reno ฉันคิดว่านายน่าจะลาไปพักผ่อนบ้าง
 Reno: ไม่หล่ะ ฉันสบายดี
 Rude: แล้วพวกเราจะทำยังไงต่อไปกับ Sector 7
 Tseng: เราจะไม่ทำอะไรเลย
 Rude: กำลังคิดว่า ที่ทำไปนั่นมันจำเป็นด้วยหรือ?
 Tseng: ถ้าเราปฏิเสธก็จะมีคนอื่นมาทำงานนั้นจนเสร็จอยู่ดี
 Tseng: คิดซะว่าพวกเราได้ช่วยใครคนนั้นให้รอดพ้นจากความรู้สึกผิดจากจิตสำนึกของตัวเอง
 Tseng: บางทีนั่นอาจจะทำให้นายรู้สึกสบายใจขึ้น
 Reno: ใช่... ไม่เลย
 Tseng: งั้นเรามาลองคิดอีกแง่หนึ่งกันดู
 Tseng: พวกเขาเสียสละเพื่อให้สัดส่วนจำนวนคนมันสมดุล
 Reno: ว่าไงนะ?
 Tseng: หลังจากทุกสิ่งที่เราเอามาจากโลก เราก็ควรจะให้อะไรบางสิ่งกลับคืนไป
 Rude: นี่นายเชื่อแบบนั้นจริงๆเหรอ?
 Tseng: มันสำคัญด้วยเหรอ?

 

ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น Tseng รับสายแล้วพูดว่า “ตกลง เข้าใจแล้ว” เขาวางสายลงแล้วพูดว่า

 

Tseng: ท่านรองประธานเรียกตัวพวกเรา

พวก Turk กำลังคุยกันเรื่องภารกิจที่ Sector 7

 

โปรดติดตามตอนต่อไปในบทที่ 17

เครดิต
Credit

ยูทูป เกมส์มิ่ง
Gaming - YouTube

เกมที่เกี่ยวข้อง
Related games

ดาวน์โหลดเกม
GAME DOWNLOAD