Skip to main content

Final Fantasy 7 Remake

(as "Final Fantasy VII Remake")

ไฟนอล แฟนตาซี 7 รีเมค


เนื้อเรื่อง Final Fantasy VII Remake Episode 1 (บทที่ 10 ถึง 12)

Final Fantasy 7 Remake



[ภาพตัดมาที่ห้องประธาน Shinra]

 

ประธาน Shinra นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานของเขา

 

ประธาน Shinra: เรายังอยู่ในกำหนดการไหม?
 Heidegger: ครับ พวก Turk กำลังปฏิบัติการอยู่ข้างบนแล้ว
 Heidegger: และใช่ครับ มันจะไม่มีการล่าช้าแต่อย่างใด
 Reeve: ได้โปรดเถอะท่านประธาน ผมอยากจะขอให้ท่านตัดสินใจเรื่องนี้อีกที ไม่สิผมขอร้อง
 Reeve: ที่เมื่องด้านล่างใน Sector 7 เป็นที่อาศัยของคนมากกว่า 50,000 คน ท่านประธาน...
 Shinra: ท่านผู้อำนวยการ Tuesti [พูดแทรกเพื่อเตือนให้ Reeve หยุดพูด]
 Reeve: อย่างน้อยก็ขอให้เราได้ประกาศแจ้งเตือนก่อนเถอะท่าน
 Heidegger: กลิ่นสาปผู้อำนวยการขี้ขลาดเหม็นไปทั่วห้องอีกแล้ว [พูดแล้วก็เอามือบีบจมูก]
 ประธาน Shinra: Reeve
 ประธาน Shinra: จะทำการใหญ่มันต้องมีผู้เสียสละ
 ประธาน Shinra: ยอมรับเรื่องนี้ซะ

 

Reeve ก้มหน้าลงอย่างเจ็บปวดและผิดหวัง

Reeve: ขอร้องให้ประธาน Shinra ล้มเลิกแผนที่จะถล่ม Sector 7

 

[ภาพตัดมายังท่อใต้ดิน]

 

Cloud ที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นค่อยๆได้สติแล้วลุกขึ้นยืน เขามองเห็น Aerith กับ Tifa นอนหมดสติอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของสัตว์ชนิดหนึ่งดังออกมาจากในอุโมงค์ เขายืนขึ้นเอามือจับดาบเอาไว้แน่นแล้วมองเข้าไปในท่อ “อะไรอยู่ในนั้น?” แล้วเอามือปิดจมูก “กลิ่นบ้านี่”

Cloud ได้ยินเสียงบางอย่างดังออกมาจากในอุโมงค์

 

แล้ว Cloud ก็เข้าไปปลุก Tifa

 

Cloud: Tifa?
 Tifa: Cloud...
 Tifa: พวกเราต้องรีบกลับไปที่สลัมเดี๋ยวนี้เลย!
 Cloud: ถูกของเธอ
 Tifa: แต่ฉันไม่อยากจะลาก Aerith มาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้
 Cloud: ฉันว่าเธอจะเข้าใจ
 Tifa: แล้วเธอรู้จักกันได้ยังไง?
 Cloud: ฉันช่วยเธอ เธอช่วยฉัน ช่วยกันไปช่วยกันมาแบบนี้
 Tifa: เรื่องมีแค่นี้ใช่ไหม?
 Tifa: แน่ใจนะว่าไม่มีอะไรอย่างอื่นเกิดขึ้น?

Tifa บอก Cloud ว่าไม่อยากดึง Aerith เข้ามาเกี่ยวข้อง

 

Cloud ไม่ทันได้ตอบ Aerith ก็ได้สติ เธอเริ่มขยับตัวลุกขึ้น แล้วพูดว่า “ให้ตายเถอะ” ทันใดนั้นก็มีเสียงสัตว์คำรามมาจากระยะไกลดังกึกก้องไปทั่ว ทั้งสามหันไปมองรอบๆบริเวณอย่างตื่นตระหนก ไม่นานก็มีมอนเตอร์ขนาดใหญ่เดินตรงมาที่พวกเขา ชื่อของมันคือ Abzu แล้วทั้งสามหยิบอาวุธของพวกเขาขึ้นมาต่อสู้ทันที

Abzu ลุกขึ้นคำราม แล้วการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น

 

Absu มีพลังมหาศาลทำให้การต่อสู้เป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่สุดท้ายก็สามารถกำจัดมันลงได้ ร่างของ Absu ฟุบลงไปนอนกองบนพื้น Cloud เก็บอาวุธของเขาแล้วหันหลังไปหา Aerith และ Tifa แต่ไม่ทันไร Absu ก็ลุกขึ้นมาอีกครั้งแล้วพุ่งใส่ทั้งสามคน ทั้งสามกระโดดหลบได้อย่างหวุดหวิด ทำให้ร่างของ Absu พุ่งชนทะลุกำแพงออกไป แล้วมันก็เดินหนีไป

Absu ล้มลงไปกองกับพื้น

 

Tifa: มันไปแล้ว
 Aerith: เธอคิดว่ามันอาศัยอยู่ในนี้หรือว่า...
 Cloud: มันก็คงจะเป็นสัตว์เลี้ยงของ Corneo
 Cloud: และเราก็เป็นอาหารเย็นของมัน

 

Aerith ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกโกรธ Tifa หันไปคุยกับ Cloud

 

Tifa: เฮ้... นายคงไม่เชื่อเรื่องบ้าๆที่ Corneo เล่าหรอกใช่ไหม?
 Tifa: Shinra คงจะไม่กล้าสละทั้ง Sector เพื่อจะทำลายกลุ่ม AVALANCHE หรอกจริงไหม?
 Tifa: การทำลายเมืองไปส่วนหนึ่ง จะทำให้ประชาชนต้องล้มตายเป็นจำนวนมาก ทั้งหมดนี่เพื่อที่จะกำจัดพวกเราอย่างงั้นหรือ?
 Cloud: ก็ไม่รู้สิ เธอคิดว่า Corneo เป็นคนประเภทที่จะแต่งเรื่องงี่เง่าแบบนี้ขึ้นมาเพียงเพื่อจะหลอกพวกเราแค่นั้นเหรอ?
 Tifa: ฉันจะไม่แปลกใจถ้าคนอย่างนั้นจะกุเรื่องนี้ขึ้น
 Aerith: แต่ถ้าเขาพูดจริงหล่ะ...
 Aerith: และมันก็มีโอกาสที่จะเป็นไปได้ไม่ใช่เหรอ?
 Aerith: ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเราก็ควรรีบไปนะ
 Aerith: แต่ถ้าสุดท้ายปรากฏว่าเขาพูดโกหก ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรนี่? จริงไหม?
 Tifa: อือ [พยักหน้า]

 

แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา Tifa ได้ยินก็รีบวิ่งไปทันที Cloud ตะโกนเรียกให้เธอรอก่อน

Tifa ไม่ค่อยแน่ใจว่าเรื่องที่ Corneo พูดจะเป็นเรื่องจริง

 

Tifa ก้มลงไปดูพื้นอุโมงค์ที่ด้านนอก

 

Tifa: ฉันคิดอยู่แล้วว่าอุโมงค์พวกนี้มันต้องเชื่อมต่อกัน
 Cloud: เกิดอะไรขึ้น?
 Tifa: ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าเราสามารถใช้อุโมงค์นี้เดินทางไปยัง Sector 7 ได้
 Tifa: ท่อระบายน้ำใต้ Sector 6 กับ 7 น่าจะเชื่อมต่อกัน ถ้าพวกเราหลงก็แค้เดินตามกลิ่นไป
 Cloud: นี่เป็นอีกบทเรียนหนึ่งที่เธอเรียนรู้มาจากพวกนั้นสินะ?
 Tifa: พวก AVALANCHE เคยบอกว่า พวกเขาใช้อุโมงค์ใต้ดินเหล่านี้เวลาที่ต้องเคลื่อนย้ายในสถานการณ์ฉุกเฉิน
 Cloud: เราจะไม่หลงแน่นะ
 Tifa: ฉันค่อนข้างมั่นใจ ข้างหน้าน่าจะมีท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ พวกเราลองหากันดูก่อน
 Aerith: นำทางไปเลย

Tifa แน่ใจว่าอุโมงค์ข้างล่างนี้จะสามารถพาพวกเธอไป Sector 7 ได้

 

ระหว่างเดินทาง Tifa หยุดคิดไม่ได้ว่า Shinra วางแผนอะไรไว้กันแน่เพราะว่าการจะทำลาย Sector 7 ทั้งเมืองเพื่อกำจัด AVALANCHE นั้นมันฟังดูไม่สมเหตุผลเลย Cloud ได้ฟังก็เห็นด้วยกับเธอ

 

เมื่อเดินทางมาถึงอุโมงค์แห่งหนึ่ง Tifa ก็จำเส้นทางได้ เธอบอกว่าจุดนี้เป็นจุดที่เชื่อมระหว่าง Sector 6 กับ Sector 7 พวกเขาต้องหาทางข้ามท่อระบายน้ำข้างหน้าเพื่อเข้าสู่ Sector 7  Cloud จึงหาทางเปิดสวิตซ์ประตูกั้นน้ำเพื่อให้น้ำไหลเข้ามาจนเต็มท่อระบายน้ำแล้วใช้ถังเหล้กที่ผูกอยู่กับแผ่นเหล็กทั้งสี่มุมมาเรียงต่อกันเป็นสะพาน Cloud เห็นว่าสะพานที่พวกเขาทำขึ้นอาจจะไม่มั่นคง เขาจึงขออาสาลองเดินข้ามไปดูก่อน

 

Cloud: ฉันจะลองข้ามไปดูก่อน ตกลงนะ? [แล้วก็ลองข้ามไป]
 Tifa: บ้าจริง ฉันหยุดคิดเรื่องที่ Corneo พูดไม่ได้
 Aerith: ฉันรู้... ฉันก็ด้วย
 Tifa: นี่มันน่าจะเป็นกลลวงอะไรสักอย่าง ไม่มีทางที่พวกนั้นจะกล้าทำถึงขนาดนี้
 Tifa: แต่... แต่ถ้า Corneo พูดความจริงหล่ะ...?
 Tifa: เราจะต้องรีบไปถึงที่นั่นให้ทันเวลาเพื่อที่จะหยุดเรื่องนี้ เราจำเป็นต้องทำ
 Aerith: ถูกของเธอ

 

พุดถึงตอนนี้ Aerith ก็ก้มหน้าลง สีหน้าเธอเศร้าอย่างผิดปกติ เหมือนว่าเธอมีเรื่องบางอย่างที่ปิดบังไว้ Tifa เห็นแล้วก็สงสัยจึงถามว่า

 

Tifa: Aerith เธอมีอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า?
 Aerith: หา?

Aerith เหมือนจะรู้อะไรบางอย่างแต่ไม่สามารถบอก Tifa ได้

 

ตอนนี้ Cloud เดินข้ามมาถึงอีกฝั่งแล้ว เขาจึงหันไปเรียกให้ทั้งสองให้เดินข้ามมา Tifa หันไปบอกกับ Aerith ว่าเธอจะไปก่อนแล้ว Tifa ก็เดินข้ามไปได้อย่างไม่ยากเย็น แล้วก็ถึงตา Aerith จะต้องเดินข้ามไป Aerith ดูไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เธอค่อยๆเหยียบเท้าลงแล้วพื้นสะพานก็เอียงไปมา Aerith พยายามจะทรงตัวแล้วเดินหน้าต่อไปอย่างทุลักทุเล Tifa กับ Cloud เห็นเช่นนั้นก็ได้แต่ยืนเอาใจช่วยด้วยความกังวล จนเธอเดินมาใกล้จะถึงอีกฝั่ง Aerith ก็เริ่มเอียงไปมาคล้ายจะทรงตัวไม่อยู่ Cloud บอกให้เธอกระโดด Aerith จึงกระโดดเข้าหา Tifa ที่ยื่นแขนรอรับเธออยู่ Tifa จับแขนของ Aerith เอาไว้ได้แล้วดึงเธอเข้ามากอด แล้วทั้งสามข้ามสะพานมาได้สำเร็จ

Aerith เกือบจะตกสะพาน Tifa จึงยืนมือเข้าช่วย

 

ทั้งสามเดินทางไปต่อ Aerith เห็น Tifa ทีสีหน้าเศร้าผิดปกติจึงพูดว่า

 

Aerith: เธอยังคิดเรื่องจานอยู่อีกเหรอ
 Tifa: ใช่
 Aerith: อนาคตมันเปลี่ยนแปลงได้
 Aerith: นั่นคือสิ่งที่ฉันคอยบอกตัวเองอยู่เสมอ
 Tifa: ใช่...? ฉันก็หวังว่าเธอจะพูดถูก
 Aerith: ลองทำแบบนี้ไหม? ลองคิดถึงอะไรที่สนุกๆ
 Aerith: หลังจากที่เธอช่วย Sector 7 ได้สำเร็จแล้ว เธอก็จะทำในสิ่งที่คิดเอาไว้
 Tifa: งั้นฉันจะ....
 Tifa: ไปช๊อปปิ้งที่ด้านบน!
 Tifa: ฉันจะไปซื้อของมาแต่งบาร์ ที่รองแก้ว
 Aerith: ฉันไปด้วยได้ไหม?
 Tifa: เธอต้องมาด้วยนะ!
 Aerith: งั้นเราไปเดตกัน! [แล้วทั้งสองก็หัวเราะออกมา]
 Tifa: ไว้ให้ Cloud ไปช่วยถือของ!
 Aerith: ให้เขาเป็นโจโคโบะขนของให้เรา!

 

สองคนแอบเดินซุบซิบกัน Cloud ได้ยินเธอพูดถึงชื่อเขาจึงเริ่มสงสัย

 

Cloud: เธอพูดอะไรเกี่ยวกับฉันหรือเปล่า?
 Tifa: เปล่า!

 

แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะคิกคัก

Aerith กับ Tifa วางแผนช๊อปปิ้งกัน

 

พวกเธอเดินต่อไปอีกไม่กี่ก้าวปรากฏว่าพื้นที่เธอเหยียบเกิดรอยแตกร้าวขึ้น และกำลังเริ่มจะพังลงมา Aerith กับ Tifa จึงรีบวิ่งออกจากจุดนั้นทันที Cloud เห็นเหตุการณ์อยู่ข้างหลังก็รีบวิ่งมาช่วยทั้งสอง แต่แล้วพื้นก็ถล่มลงมาตรงที่เขายืนอยู่พอดี ร่างของเขากำลังร่วงลงไปด้านล่าง

ร่างของ Cloud กำลังร่วงลงด้านล่าง

 

Aerith รีบยื่นกระบองของเธอให้ Cloud จับ โชคดีที่เขาเอื้อมมือคว้ากระบองของเธอได้ทัน แล้ว Tifa ก็รีบวิ่งเข้ามาช่วยดึงร่างของเขาขึ้นมาได้สำเร็จ

Aerith กับ Tifa ช่วยกันดึง Cloud ขึ้นมา

 

ทั้งสามเดินจนมาถึงบันไดทางออก ทันใดนั้นก็มีฟูง Sahagin สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่อาศัยอยู่ในท่อระบายน้ำจำนวนมากกระโดดขึ้นมาโจมตีใส่ทั้งสาม

 

Tifa: ดูเหมือนว่าพวกมันอยากจะโดนอีก
 Aerith: พวกเราไม่อร่อยหรอก! ไม่อร่อยเลยสักนิด!
 Cloud: รีบไป
 Tifa: เดี๋ยวนี้!
 Aerith: ตกลง!

 

แล้ว Cloud กับ Tifa ก็ช่วยกันต้าน Sahagin เอาไว้ แต่ศัตรูก็มาไม่ขาดสาย

Cloud กับ Tifa ช่วยกันต้านฟูง Sahagin

 

Cloud: เธอก็ไปด้วย!
 Tifa: แต่พวกมันมากันเยอะ
 Cloud: ฉันรับมือได้

 

Tifa ตกลงยอมจากไป เธอบอก Cloud ว่าให้เขารีบตามมาแล้วก็หนีออกไป Cloud หันกลับไปฟันใส่พวก Sahagin แล้วก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันเตือนเป็นครั้งสุดท้ายให้ถอยไปไม่งั้นก็ตาย!” เขาสู้ไปถอยไปจนสามารถหนีออกมาได้สำเร็จ

Cloud บอกให้ Tifa หนีไป

 

เมื่อทั้งสามออกมาจากท่อระบายน้ำได้พวกเขาก็เห็นเฮลิคอปเตอร์ของ Shinra บินตรงไปที่เสาค้ำที่รับน้ำหนักจานเอาไว้

 

ภายในเฮลิคอปเตอร์ Rude และ Reno กำลังเดินทางไปทำภารกิจ

 

Rude: ภารกิจกำจัดพวก AVALANCHE ได้รับอนุมัติแล้ว
 Rude: พวกเราจะดำเนินการตามแผน
 Reno: นี่มันบ้าจริงๆ ไม่รู้ว่าพวกนั้นคิดอะไรอยู่?
 Rude: ภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อยจะต้องถูกกำจัดลงอย่างรวดเร็ว พวกเราทำแบบนี้มาโดยตลอด
 Reno: กำจัดลงอย่างรวดเร็ว
 Rude: [ฟังแล้วก็พูดไม่ออก]
 Reno: ช่างเถอะ จะมามีจิตสำนึกเอาตอนนี้ก็คงจะสายไปแล้ว [ถอนหายใจ]

 

Tifa เมื่อเห็นเฮลิคอปเตอร์บินผ่านไปก็เริ่มใจไม่ดี

 

Cloud: น่าจะแค่บินตรวจการ
 Aerith: ไม่ต้องห่วง เราจะต้องไปถึงทันเวลา
 Tifa: [พยักหน้าแล้วยิ้มให้ Aerith]

Rude กับ Reno ได้รับการยืนยันให้ปฏิบัติการกำจัด AVALANCHE

 

พอขึ้นมาจากท่อพวกเขาก็พบว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่สุสานรถไฟ บรรยากาศรอบๆดูมืดมิดและวังเวง

 

Aerith: ที่นี่มันดูวิเวกวังเวงและค่อนข้างจะน่ากลัว
 Tifa: ไม่ค่อยมีใครมาที่นี่หรอก
 Tifa: แต่ไม่ใช่เพราะว่ามีมอนเตอร์อยู่หรอกนะ แต่เพราะว่ามันมีเรื่องเล่า
 Aerith: เรื่องแบบไหนเหรอ?
 Tifa: ทุกคนดูเหมือนจะเชื่อว่าที่สุสานรถไฟมีผีสิง
 Tifa: ใครก็ตามที่หลงทางในความมืดยามค่ำคืน จะไม่มีวันหาทางกลับบ้านของพวกเขาได้อีกตลอดกาล

 

Aerith ได้ฟังก็เริ่มมีอาการกลัวอย่างเห็นได้ชัด

 

Cloud: อย่างงั้นเหรอ?
 Tifa: ฉันไม่ได้บอกว่าฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงอะไรหรอกนะ แต่มันก็...
 Cloud: งั้นก็รีบไปกันเถอะ

Tifa เล่าว่าที่สุสารรถไฟมีเรื่องเล่าว่ามีผีสิงทำให้ Aerith เริ่มใจคอไม่ดี

 

พวกเขาเดินทางต่อไปจนมาถึงโกดังแห่งหนึ่ง ทันใดนั้นอยู่ๆประตูโกดังก็เปิดและลงปิดเอง Aerith ถึงกับร้องเสียงหลง “นั่นอะไรหน่ะ?” Cloud จึงเดินเข้าที่ประตู แล้วประตูก็กระเด็นออกมา ปรากฏว่ามีเหล่ามอนเตอร์แอบซ่อนอยู่ด้านหลัง Tifa เห็นเช่นนั้นก็โมโหแล้วพูดออกมาว่า “อย่ามาทำให้ฉันตกใจแบบนี้นะ!” ทั้งสามลงมือกำจัดพวกมอนเตอร์เหล่านั้นจนหมด แต่แล้วอยู่ๆ Tifa ก็พูดออกมาว่า

 

Tifa: ฉันคิดว่าฉันได้ยินเสียงเด็ก พวกเธอได้ยินเหมือนฉันไหม?
 Cloud: จะมีเด็กอยู่ที่นี่กลางดึกแบบนี้ได้ยังไง?
 Tifa: ว่าไงนะ? ถ้างั้น...

อยู่ๆประตูโกดังก็เปิดและปิดเอง

 

ทั้งสามเดินทางต่อไปจนมาถึงทางรถไฟ อยู่ๆก็มีภาพวาดปรากฏขึ้นมาบนพื้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา แต่เรื่องแปลกๆก็ยังไม่หมด ระหว่างทางพวกเขากำลังเดินอยู่บนตู้รถไฟ อยู่ๆก็ได้ยินเสียงเด็กจำนวนมากหัวเราะขึ้นมา 

 

Tifa: ห๊ะ? นั่นมันอะไรหน่ะ!?

 

แล้วอยู่ๆช่องบนหลังคารถไฟที่พวกเขายืนอยู่ก็ทรุดตัวลง ทำให้ทั้งสามคนตกลงไปในขบวนรถไฟ พวกเขาค่อยๆยืนขึ้น

 

Cloud: พวกเธอไม่เป็นอะไรนะ?
 Aerith: ยังดีอยู่... คิดว่าอย่างนั้นนะ
 Tifa: ฉันก็ยังอยู่ครบ 32

 

แล้ว Tifa ก็เดินออกไปดูที่ท้ายขบวน แล้วเรียกให้ทุกคนมาดู อยู่ๆก็มีภาพวาดปรากฏขึ้นมาบนประตูโกดังแห่งหนึ่ง ที่ภาพยังมีข้อความเขียนเอาไว้ว่า “มาสิ”

 

Cloud: นี่เรื่องจริง?
 Aerith: มาสิ อย่างงั้นเหรอ?
 Aerith: งั้น นี่คือการเชื้อเชิญ

 

Tifa ทำหน้าครุ่นคิดแล้วหันมามอง Cloud

ภาพวาดปรากฏขึ้นมาบนฝาผนังเขียนว่า "มาสิ"

 

แล้วทั้งก็เดินไปตามคำชวนเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในกันแน่ เมื่อเดินเข้าใกล้ ประตูก็ค่อยๆเปิดออกเหมือนเป็นการต้อนรับพวกเขา

 

Tifa: เอาไงกันดี?
 Aerith: อื้อออ... ฉันจะเล่นด้วย!
 Tifa: แต่ว่า...
 Aerith: ไม่เป็นไรหรอกน่า! อย่าลืมสิว่าเรามีบอดีการ์ดมาด้วย ของฉันเองแหละ!

 

พูดจบก็เดินไปกอดแขน Cloud

Aerith เดินเข้ามาเกาะแขน Cloud

 

Tifa เมื่อเห็นเช่นนั้นก็ทำหน้าบึ้งใส่ Cloud

 

Aerith: ถูกไหม?
 Cloud: ผีกับฉันไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ [ทำตัวไม่ถูก]

 

Tifa ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เธอรีบเดินเข้าไปคว้าแขนของ Cloud อีกข้างหนึ่งมากอดไว้แล้วพูดว่า

 

Tifa: นายก็แค่ถ่อมตัวใช่ไหม เชิญนายก่อนเลย!
 Cloud: แล้วพวกเธอจะยอมปล่อยให้ฉันไปได้หรือยัง?

 

Aerith หัวเราะแล้วเอียงคอไปซบไหล่ Cloud ส่วน Tifa ได้แต่ถอนหายใจ

Tifa และ Aerith เกาะแขน Cloud กันคนละข้าง

 

แล้วทั้งสามก็เดินเข้าไปในโกดัง พวกเขาเห็นเงาเด็กกลุ่มหนึ่งวิ่งอยู่บนขบวนรถไฟแล้วก็หายไป Tifa เห็นถึงกับอุทานออกมา

 

Tifa: นั่นอะไรหน่ะ!?
 Aerith: ดูนั่นสิ ตรงนั้น!
 
 แล้ว Aerith ก็วิ่งนำทั้งสองไปที่หลังตู้สินค้าที่ด้านใน

 

Aerith: เจอเธอแล้ว
 Aerith: เฮ้... มาคุยกันหน่อยดีไหม? แค่เดี๋ยวเดียว?

 

แล้วก็มีวิญญาณเด็กชายคนหนึ่งเดินออกมา Aerith เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มให้ แต่ Tifa ทำหน้าตกใจ แล้ววิญญาณของเด็กก็กลายร่างเป็นวิญญาณที่มีผ้าคลุมร่างเอาไว้ เขากำลังจะเดินเข้ามาหา Aerith แต่กลับมีวิญญาณอีกตนหนึ่งพุ่งเข้ามาชนจนวิญญาณเด็กชายกระเด็นออกไป แล้ววิญญาณตนนั้นก็ทำท่าทางข่มขู่ทั้งสาม Cloud บอกให้สาวๆถอยไปแล้วก็เข้าต่อสู้กับวิญญาณร้ายตนนั้น

วิญญานเด็กชายเดินออกมาหา Aerith

 

เมื่อกำจัดวิญญาณร้ายตนนั้นลงได้ Aerith ก็เดินไปหาวิญญาณเด็กชายอีกครั้ง

 

Aerith: เธออยู่นี่เอง
 
 Cloud เมื่อเห็นเช่นนั้นก็จับดาบหมายจะเข้าไปสังหารวิญญาณเด็กตนนั้น แต่ Aerith รีบห้ามเขาเอาไว้ Cloud หันมามองหน้า Aerith แล้วพูดว่า

 

Cloud: ไอ้สิ่งนั้นมันอันตรายนะ
 Aerith: ฉันรู้ แต่ถึงกระนั้น

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงเด็กหัวเราะดังขึ้นมา แล้ววิญญาณเด็กขายก็ค่อยๆลอยขึ้นไปเบื้องบน ร่างของเขากลายเป็นควันสีดำลอยไปที่ตู้รถไฟขบวนหนึ่งที่ถูกเคลนยกค้างเอาไว้ที่ด้านบน แล้วเคลนก็ค่อยๆเคลื่อนตู้รถไฟมาอยู่เหนือศีรษะของทั้งสามแล้วก็ปล่อยให้ขบวนรถไฟตกลงมาทับพวกเขา Cloud พูดว่า “วิ่ง!” ว่าแล้วก็กระโดดไปพลักร่างของ Aerith และ Tifa ออกไปจนพ้นอัตรายได้ทัน ตู้รถไฟตกลงมาบนพื้นเสียงดังสนั่น

 

Cloud: เธอปลอดภัยนะ
 Tifa: ใช่
 Aerith: ขอบคุณนะ Cloud เธอช่วยพวกเราเอาไว้

 

Cloud หันกลับไปมองก็พบว่าซากรถไฟได้ตกลงมาขวางเส้นทางของพวกเขาเอาไว้ พวกเขาจึงต้องหาทางอื่นเพื่อเดินทางไปต่อ

ซากรถไฟตกลงมาขวางทาง

 

พวกเขาเดินออกไปยังทางที่เข้ามา แต่แล้วก็มีเสียงประกาศจากนายสถานีดังขึ้นว่า รถไฟกำลังจะหยุดที่สลัม Sector 7 และจะมาจอดที่สุสานรถไฟ รถไฟจะออกจากสถานีเร็วๆนี้ กรุณาอย่ายืนขวางประตู ประตูรถกำลังจะปิดลง ประกาศจบก็มีเสียงเด็กหัวเราะดังขึ้นมา ไฟบนรถไฟขบวนหนึ่งติดขึ้นมาแล้วประตูก็เปิดออกเหมือนจะชวนให้พวกเขาขึ้นไป

 

ทั้งสามเดินเข้าไปในขบวนทันใดนั้นก็มีเคลนตัวหนึ่งเคลื่อนมายกตู้รถไฟที่อยู่ข้างหน้าของพวกเขาขึ้นไปข้างบนแล้วประตูรถไฟอีกด้านหนึ่งก็เปิดออก พวกเขาเดินออกมาจากขบวนไปถึงชั้นสองมีควันดำลอยผ่านหน้าของเขาเข้าไปในห้องๆหนึ่ง เมื่อเดินตามเข้าไปก็พบวิญญาณอีกสองตน พวก Cloud จึงกำจัดวิญญาณทั้งสองแล้วเดินทางต่อไป

Cloud เดินเข้าไปในขบวนรถไฟ

 

พวกเขามาถึงห้องหนึ่งมีภาพวาดพร้อมกับข้อความเขียนว่า “มาสิ” Cloud พยายามจะเปิดประตูเข้าไป แต่ห้องนั้นถูกล็อคอยู่และมีไฟฟ้าไม่พอจะเปิดประตู้นี้ได้ พวกเขาต้องไปยังห้องควบคุมเพื่อเปิดสวิตซ์ให้ไฟฟ้าทำงาน ระหว่างทาง Aerith มีความรู้สึกว่ามีคนกำลังแกล้งให้พวกเขาต้องวิ่งไปวิ่งมาอยู่ภายในโกดังนี้

 

ในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาจนถึงห้องตวบคุม Cloud ก็เข้าไปดูที่แผงควบคุมเพื่อหาทางเปิดสวิตซ์ให้ไฟฟ้าทำงาน แต่จู่ๆไฟในห้องก็ดับลง ทั้งสามตกใจกหันไปมองรอบๆ Tifa ที่กำลังกลัวเดินเข้ามาเกาะแขน Aerith เอาไว้แน่น ทันใดนั้นอยู่ๆของในห้องก็ลอยขึ้นเองแล้วก็พุ่งใส่ทั้งสาม แล้วก็มีพวกวิญญาณจำนวนมากพุ่งออกมาใส่พวกเขา Cloud พา Tifa หลบออกไปด้านข้าง แต่ Aerith กลับยืนสงบนิ่งเอามือกุมที่อกของเธอไว้ เหมือนกำลังสื่อสารกับพวกวิญญาณอยู่ แล้วเธอก็พูดว่า “จะมาจัดการกับพวกเธอเหรอ?” 

Aerith กำลังสื่อสารกับวิญญาณ

 

พูดจบเหล่าวิญญาณทั้งหลายก็บินมารวมตัวกันกลายเป็น Ghoul

 

Cloud พูดว่า “ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับพวกแกหรอกนะ!” แล้วก็พุ่งเข้าใส่ Ghoul ในทันที

Ghoul ปรากฏกายขึ้นแล้ว

 

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างยาวนานจนสุดท้าย Ghoul ก็ถูกกำจัดลง ร่างของมันค่อยๆสลายไป

 

Aerith: นั่นสนุกดีนะ...
 Aerith: ตลอดเวลาเธอเฝ้าคอยใครบางคนมาเล่นด้วย

 

Cloud ทำหน้าประหลาดใจแล้วเดินมาที่ Aerith

 

Cloud: นี่เธอพูดเรื่องอะไร?

Aerith คิดว่าพวกวิญญาณเด็กๆรอคนมาเล่นกับพวกเขามาโดยตลอด

 

Aerith ก้มหน้าลงแล้วยิ้มเล็กน้อยแต่ไม่ตอบคำ แล้วไฟก็สว่างขึ้นไปทั่วบริเวณ Cloud บอกให้ทุกคนกลับไปที่เคลนกันเถอะ ระหว่างทาง Tifa จู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า

 

Tifa: คนที่หลงทางในความมืดมิดยามค่ำคืน จะไม่มีทางหาทางกลับบ้านได้อีก
 Tifa: พวกเธอคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าวิญญาณพวกนั้นจับเราได้?
 Aerith: ฉันกลับสงสัยว่า บางทีคนที่ถูกกักขังอาจจะเป็นพวกเขาซะมากกว่า
 Cloud: เราช่วยหยุดพูดเรื่องนี้ได้ไหม
 Aerith: จะเป็นยังไงถ้าพวกนั้นถูกขังอยู่ที่นี่แล้วออกไปไม่ได้?

 

เมื่อไฟฟ้ากลับมาทำงาน Cloud จึงสามารถปล่อยขบวนรถที่ถูกยกขึ้นไปลงมาได้ เมื่อเชื่อมต่อขบวนรถไฟได้สำเร็จ พวกเขาก็สามารถเดินทางไปต่อกันได้แล้ว พวกเขาเดินทางมาจนถึงทางออกจากโกดัง ทันใดนั้นก็มีภาพวาดผีร้องไห้ปรากฏขึ้น แล้วก็มีร่างวิญญาณของเด็กผู้หญิงปรากฏขึ้นตามมาด้วย

 

เด็กคนนั้นกำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ Tifa เห็นหน้าเด็กคนนั้นอย่างชัดเจนแล้วพูดขึ้นมาว่า “Marlene?”

วิญญาณที่นั่งร้องไห้อยู่คือ Marlene!?

 

[ภาพตัดมายังบาร์ Seventh Heaven]

 

ได้ยินเสียง Marlene ที่นั่งกินข้าวอยู่กำลังเล่าเรื่องสุสานรถไฟให้ Tifa ฟัง ส่วน Tifa ก็ยืนหันหลังกำลังล้างจานอยู่

 

Maelene: และเด็กๆที่ถูกลมสีดำพัดไปก็จะต้องอยู่ในสุสานรถไฟไปตลอดกาล!
 Marlene: ดังนั้นพี่จะต้องอยู่ให้ไกล ไกลจากที่นั่น!
 Tifa: ก็ได้ ฉันจะอยู่ห่างๆ

 

แล้ว Marlene ก็กินข้าวของเธอต่อ

 

Marlene: จริงด้วย พี่จำ Betty ได้ไหม? เมื่อวานนี้เธอไปกับพ่อของเธอที่... ที่...

 

แล้ว Marlene ก็หยุดพูด Tifa เห็นว่า Marlene ไม่ยอมพูดต่อด้วยความสงสัยเธอจึงหันหน้ากลับไปดู เธอเห็น Marlene กำลังนั่งเศร้าอยู่ตรงนั้นเหมือนจะร้องไห้ แล้ว Marlene ก็พูดขึ้นว่า

 

Marlene: เมื่อไหร่พ่อจะกลับมา?
 Tifa: [ยิ้ม] จริงๆแล้ว คืนนี้เขาอาจจะไม่กลับ

 

พูดจบ Marlene ทำหน้าผิดหวังอย่ามากและกำลังจะร้องไห้ Tifa ได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ เธอไม่รู้ว่าจะปลอบ Marlene ได้อย่างไร

Marlene รู้สึกผิดหวังที่วันนี้พ่อของเธอไม่กลับบ้าน

 

[ภาพตัดกลับมายังสุสานรถไฟ]

 

Tifa เมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปหา Marlene ทันทีแล้วพูดว่า “Marlene เธอมาทำ...” ไม่ทันจะพูดจบร่างของ Marlene ก็สลายหายไปต่อหน้าทั้งสาม Tifa รู้สึกช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอหันกลับมาหาทั้งสองแล้วพูดว่า

 

Tifa: เราไม่ควรจะเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว 
 Cloud: เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น?
 Tifa: ไม่มีอะไรที่เธอต้องกังวล เรารีบไปกันเถอะ
 
 แล้วทั้งสามก็รีบเดินออกไปจากโกดัง

Marlene สลายหายไปต่อหน้า Tifa

 

ที่นอกโกดังมีหัวรถจักรจอดปิดทางอยู่ พวกเขาจึงเข้าไปบนหัวรถจักรคันนั้นเพื่อที่จะหาทางเดินเครื่องให้หัวรถจักรดันขบวนรถที่จอดขวางอยู่ให้เปิดออก Cloud คิดว่าหัวรถจักรน่าจะยังทำงานได้อยู่ว่าแล้วเขาก็ลองเดินเครื่องดู แต่ทันใดนั้นก็มีพายุสีดำก่อตัวขึ้นที่ด้านหลัง พายุดันให้หัวรถจักรเคลื่อนที่ออกไปทำให้เส้นทางถูกเปิดออกแล้วพายุก็สลายไปอย่างไร้ร่องรอย

พายุประหลาดดันหัวรถจักรเปิดทางให้แก่พวก Cloud

 

Tifa: ทุกคนปลอดภัยนะ?
 Cloud: ใช่ [พยักหน้า]

 

อยู่ๆวิทยุสื่อสารบนหัวรถจักรก็ดังขึ้น พวกเขาได้ยินเสียง Tseng หัวหน้าหน่วย Tusk กำลังพูดอยู่

 

Tseng: รหัสการแยกจาน (Plate ด้านบน) ก็คือ... เข้าใจไหม
 Reno: เออ เออ ฉันจำได้อยู่แล้วน่า! เราจะทำลายไอ้นี่ให้ตกลงไปเมื่อไหร่ก็ได้...
 Reno: ก็แค่...

ทั้งสามได้ยินเสียง Tseng พูดกับ Reno ด้วยวิทยุสื่อสาร

 

[ภาพตัดมาที่เฮลิคอปเตอร์ของ Turk]

 

Rude กับ Reno กำลังบังคับเฮลิคอปเตอร์ยิงต่อสู้กับวัยรุ่น 3 คน

 

Reno: นี่นายได้สั่งเสียอะไรก่อนตายไว้หรือยัง?
 Reno: เพราะฉันแน่ใจว่ายัง
 Tseng: Reno เกิดอะไรขึ้น? พวกเรามีปัญหาหรือเปล่า?
 Reno: ก็ไม่เชิง มีเด็กหนุ่มในพื้นที่กลุ่มเล็กๆกำลังพยายามป้องกันเสาแล้วยิงปืนใส่เราอยู่
 Tseng: พวกอยากจะเป็นฮีโร่งั้นสิ? ส่งกองหนุนเข้าไป

 

แล้วเฮลิคอปเตอร์ก็ยิงโดนเด็กหนุ่มคนหนึ่งร่วงลงไปนอนบนพื้น

 

Tseng: ยิ่งทำให้มีคนสนใจมาร่วมมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
 Reno: พวกเราเป็นแบบนั้นกันแล้วเหรอ หือ?
 Tseng: ภารกิจเสร็จแล้วค่อยติดต่อมา

Rude ขับเฮลิคอปเตอร์ยิงต่อสู้กับเด็ก 3 คน

 

[ภาพตัดมาที่พวก Cloud]

 

ทั้งสามตื่นตระหนกเมื่อได้ยินข้อความดังกล่าว

 

Cloud: Tifa...
 Tifa: พวกนั้นจะปล่อยให้จานตกลงมาจริงๆ
 Cloud: พวกนั้นทำไม่สำเร็จหรอกถ้า Barret และคนอื่นๆขวางเอาไว้
 Aerith: ที่พวกเราทำได้ตอนนี้คือรีบไป
 Tifa: ได้โปรด... ได้โปรดให้พวกเรากลับไปทันด้วยเถอะ

 

แล้วทั้งสามก็รีบเดินทาง Cloud เห็นว่ามีเฮลิคอปเตอร์อีกสี่ลำบินเข้าไปสมทบ

Tifa ทราบแน่ชัดแล้วว่าพวก Shinra จะทำลายจานด้านบนให้ตกทับคนในเมืองที่ด้านล่าง

 

พวกเขาเดินมาจนเกือบจะถึงทางออกก็มีวิญญาณสามตัวบินวนรอบตัว Aerith จนก่อตัวเป็นพายุสีดำ เธอเรียกชื่อ Cloud แล้วก็พยายามจะยื่นมือไปให้ Cloud ช่วยแต่ Cloud จับมือของเธอเอาไว้ไม่ทัน แล้วพายุก็พัดนำร่างของ Aerith หายไปต่อหน้าต่อตา

 

Tifa นึกถึงเรื่องเล่าที่ Marlene เคยเล่าเรื่องสุสานรถไฟเอาไว้ว่า “เด็กที่ถูกลมสีดำพัดไปก็จะต้องอยู่ในสุสานรถไฟไปตลอดกาล!”

Aerith โดนพายุพัดไป เธอพยายามเอื้อมมือไปจับมือ Cloud แต่ก็ไม่ทัน

 

ภาพตัดมาที่ Aerith เธอถูกขังอยู่ในสุสานรถไฟ รอบตัวมีวิญญาณบินอยู่ทั่วบริเวณ แล้วเธอก็เห็นวิญญาณเด็กชายกำลังเดินมาหาเธอ Aerith พูดกับเด็กชายว่า “เธอแค่พยายามจะช่วยใช่ไหม?” อยู่ๆวิญญาณก็หนีไปจนหมด มีควันสีดำปรากฏขึ้นแล้วควันก็ลอยมารวมกันเกิดเป็นปีศาจ Eligor มันพยายามจะสื่อสารกับ Aerith แล้ว Aerith ก็พูดขึ้นมาว่า “เป็นแกนี่เองใช่ไหมที่...” แล้วอยู่ๆรอบตัวเธอก็เต็มไปด้วยควันสีดำ

ปีศาจ Eligor พยายามจะสือสารกับ Aerith

 

ทันใดนั้นก็มีเงาร่างวิญญาณเด็กๆกำลังเล่นซ่อนหากันปรากฏขึ้น

 

เด็กชาย: พร้อมหรือยัง?
 เด็กชาย: ว่าไงพร้อมไหม!?
 เด็กชาย: ฉันพร้อมแล้ว!
 เด็กผู้หญิง: ฉันด้วย!
 เด็กชาย: เจอเธอแล้ว
 เด็กผู้หญิง: ไม่มีทาง!
 เด็กชาย: เราเจอตัวเธอแล้ว!
 เด็กชาย: อ่า หาฉันเจอจนได้
 เด็กชาย: เฮ้... แล้ว Aerith หล่ะ

 

แล้วก็มีภาพ Aerith ในวัยเด็กปรากฏขึ้น เธอพูดว่า

 

Aerith เด็ก: ฉันพร้อมแล้ว!
 Aerith เด็ก: [ยืนขึ้นแล้วพูดอีกว่า] ฉันพร้อมแล้ว!

 

เธอหันมองไปรอบๆ แต่ไม่มีเสียงใครตอบเธอเลย เธอจึงตะโกนออกมาอย่างดังว่า

 

Aerith เด็ก: ฉันบอกว่าฉันพร้อมแล้ว!

Aerith ในวัยเด็ก

 

Aerith ที่โตแล้วกำลังมองตัวเธอเองในวัยเด็กด้วยสีหน้าที่ดูเศร้า

 

Aerith เด็ก: มาหาฉันสิ!
 Aerith เด็ก: ฉันอยู่ตรงนี้... 

 

แล้วเสียงของ Aerith ตอนเด็ก ก็ฟังดูเศร้าเหมือนจะร้องไห้ เธอทรุดตัวลงร้องไห้ออกมา ทำให้ Aerith ตอนโต มองดูอย่างสะเทือนใจ

 

Aerith เด็ก: แม่...?

 

สิ้นเสียง Aerith ตอนโตก็ร้องไห้ออกมา

Aerith นึกถึงเรื่องในวัยเด็กของเธอ แล้วธอก็ร้องไห้ออกมา

 

ทันใดมันก็มีเสียง Cloud เรียกชื่อเธอดังขึ้นมา ไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร Cloud ก็พุ่งตัวเข้ามาหาเธอแล้วพาร่างเธอหลบรถม้าปีศาจที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเธออย่างเร็วได้อย่างหวุดหวิด แล้วรถม้าก็ลอยขึ้นไปบนฟ้า Cloud ก็เดินตามไปคุมเชิงเอาไว้ แล้ว Tifa ก็วิ่งเข้ามาดู Aerith แล้วพูดว่า “เฮ้ เราเจอเธอแล้ว: แล้วก็พยุงเธอลุกขึ้น Aerith ตอบว่า “เหมือนจะใช่”

 

ปีศาจรถม้า Eligor ก็วิ่งวนเป็นวงกลมล้อมทั้งสามเอาไว้ Cloud ยกดาบขึ้นเตรียมสู้ แล้วพูดว่า “ลุยกันเถอะ”

Eligor ปรากฏตัวขึ้นแล้ว

 

ทั้งสามต่อสู้กับ Eligor จนมาถึงช่วงสุดท้าย Tifa มองไปเห็นพวก Turk กำลังต่อสู้กันพวก AVALANCHE อยู่บนเสา

 

Tifa: รอก่อนนะทุกคน พวกเราจะไปช่วยแล้ว
 Tifa: แล้วแก... ลงนรกไปได้แล้ว!!!

 

พูดจบเธอก็กระโดดขึ้นไปบนรถม้าแล้วตีลังกาเตะใส่ Eligor จนระเบิดกลายเป็นผุยผง

Tifa ตีลังกาเตะใส่ Eligor จนระเบิด

 

Tifa: พวกเราไปกันเถอะ Cloud กับ Aerith ก็รับคำ ทันใดนั้นเองพวกวิญญาณเด็กๆก็ลอยออกมา

 

Tifa: วิญญาณตนนั้นเอง...

 

แล้ววิญญาณก็ถูกปลดปล่อยแล้วลอยหายไปเกิดเป็นดวงไฟเล็กๆลอยขึ้นไปทั่วท้องฟ้า

 

Aerith: ลาก่อน

 

แล้วทั้งสามก็หันหลังเดินทางไปที่เสาในทันที

วิญญาณเด็กๆกลายเป็นแสงไฟลอยขึ้นไปบนฟ้า

 

Tifa มองเห็นเสารับน้ำหนักจานตั้งอยู่ตรงหน้าเธอ เธอดีใจวิ่งไปพร้อมกับพูดว่า “เรามาถึงแล้ว” ทันใดนั้นก็มีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึงบินผ่านหน้าเธอไป เธอจ้องมองดูเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นบินจากด้วยความโกรธแค้น

ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงเสารับน้ำหนักจานด้านบน

 

[ภาพตัดมาที่การต่อสู้บนเสา]

 

กองกำลังติดอาวุธของกลุ่ม AVALANCHE กำลังต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ของ Shinra อย่างหนัก Barret ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับ Jessie, Biggs, และ Wedge มีเสียงประกาศดังมาจากเฮลิคอปเตอร์

 

เฮลิคอปเตอร์: ฟังนะ AVALANCHE!
 เฮลิคอปเตอร์: พวกแกถูกล้อมเอาไว้หมดแล้ว! วางอาวุธลงและมอบตัวกับกองกำลังรักษาความปลอดภัยในทันที!
 เฮลิคอปเตอร์: Shinra จะไม่ต่อลองกับผู้ก่อการร้าย!
 เฮลิคอปเตอร์: ถ้าขัดขืนเราจะใช้กำลังเข้าจัดการขั้นเด็ดขาด!
 เฮลิคอปเตอร์: ขอย้ำ Shinra จะไม่ต่อลองกับผู้ก่อการร้าย
 เฮลิคอปเตอร์: ขัดขืนเราจะใช้กำลังเข้าจัดการขั้นเด็ดขาด!
 Barret: นี่ไงจัดการขั้นเด็ดขาด ไอ้พวกเวร! [แล้วยิงปืนใส่]

Barret ยิงใส่เฮลิคอปเตอร์อย่างไม่ยั้ง

 

Barret ก็ยิงปืนกลของเขาใส่เฮลิคอปเตอร์อย่างไม่ยั้ง

 

[ภาพตัดมาที่ชั้นล่าง]

 

กองกำลังของ Shinra กำลังไล่ยิงสมาชิกของกลุ่ม AVALANCHE

 

เจ้าหน้าที่: หยุด! ฉันบอกให้หยุด! วางอาวุธลงเดี๋ยวนี้!
 สมาชิก AVALANCHE: ช่างหัวแกไอ้พวกเผด็จการสารเลว!

 

แล้วสมาชิก AVALANCHE คนนั้นก็ถูกยิงจนร่างร่วงลงไปที่ด้านล่าง

Cloud, Aerith, และ Tifa เดินทางมาถึงแล้ว

 

Cloud, Aerith, และ Tifa เดินทางมาถึงก็เห็นภาพการต่อสู้ที่หนักหน่วงที่เบื้องหน้า

 

Tifa: จะทำลายให้จานถล่มลงมาใส่พวกเรา ง่ายๆอย่างงั้นเลย
 Tifa: ไม่ ไม่มีทาง

 

พูดจบ Tifa ก็พุ่งตัวไปด้วยความโกรธ Aerith พยายามจะหยุดเธอไว้แต่ไม่เป็นผล แล้วเธอก็วิ่งตาม Tifa ไป Cloud รีบวิ่งตามมาสมทบ เขาเห็น Aerith และ Tifa หยุดอยู่ที่ลานกว้าง พวกเธอกวาดตามองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง Aerith พูดขึ้นมาว่า “ได้โปรดให้พวกเราผ่านไปเถอะ” แล้วพวกภูติก็ปรากฏกายขึ้นมา Cloud ไม่รอช้าพุ่งเข้าไปเอาดาบฟันใส่ภูติตนหนึ่ง ทั้งสองปะลองกำลังกัน Cloud ถามว่า “พวกแกเป็นอะไรกันแน่”

 

Aerith: Cloud, Tifa
 Aerith: ไม่ว่ายังไงก็ตาม พวกเราจะต้องฝ่าออกไปให้ได้!
 Tifa: ถูกของเธอ

 

พูดจบทั้งสามก็พยายามจะบุกฝ่าพวกภูติออกไปอย่างหักโหม

Cloud ใช้ดาบฟันใส่ภูติ

 

แต่พวกภูติก็มากันอย่างไม่หยุดยัง Tifa พูดขึ้นว่า “พวกมันมีมากเกินไป” พูดจบไม่ทันไรอยู่ๆพวกภูติก็ลอยจากไป ทำให้ Tifa รู้สึกประหลาดใจ Aerith มองพวกภูติแล้วกุมมือเหมือนอธิฐานอะไรบางอย่าง Cloud มองดูเธออย่างประหลาดใจจนต้องเรียกชื่อเธอออกมา แล้วอยู่ๆ Aerith ก็พูดว่า “ไปกันเถอะ” Tifa หันหน้าไปรับคำ

Aerith มองพวกภูติแล้วกุมมือเหมือนอธิฐานอะไรบางอย่าง

 

พวกเขามาถึงทางขึ้นเสา ที่นี่มีประชาชนจำนวนมากยืนดูการต่อสู้อย่างหวาดกลัว แว่วเสียง Barret ดังขึ้นจากด้านบน

 

Barret: พวกแกมีอะไรอีก? เอาออกมาเลย!
 Tifa: นั่น Barret นี่!

 

เธอเห็น Barret กำลังยิงต่อสู้กับเฮลิคอปเตอร์ แล้วจู่ๆก็มีการระเบิดเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ร่างของ Wedge กระเด็ดและกำลังร่วงลงมาจากด้านบน ทั้งสามเห็นเหตุการณ์ถึงกับร้องออกมา แล้ว Wedge ก็หยิบปืนยิงตะขอยิงไปเกาะกับพื้นบรรไดได้ทัน เขาโหนตัวอยู่สักพักก่อนจะตกลงมากระแทกพื้นที่ด้านล่าง ทั้งสามเห็นเช่นนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไปหา Wedge

Cloud, Aerith, และ Tifa วิ่งเข้ามาดูอาการของ Wedge

 

Wedge นอนร้องครวนครางอยู่บนพื้น

 

Cloud: นายเป็นอะไรไหม?
 Wedge: Cloud พวก Shinra มันจะถล่มเสารับน้ำหนัก!
 Cloud: ฉันรู้แล้ว [Cloud ตรวจดูอาการของ Wedge]
 Wedge: ฉันต้องกลับขึ้นไป... Barret และคนอื่นๆยังอยู่... [ไม่ทันพูดจบก็ร้องด้วยความเจ็บปวด]
 Cloud: หยุด!

 

Cloud หันไปบอกกับ Aerith กับ Tifa ให้ดูอาการของ Wedge เข้าจะขึ้นไปข้างบน

 

Aerith: ได้
 Wedge: ฉันก็จะไปด้วย! ฉันยังสู้ไหว!
 Wedge: Biggs เขา... พวกมันจะยิงฉันแล้วเขาก็...
 Tifa: Wedge ได้โปรด ให้ Cloud จัดการเถอะ
 Aerith: ไม่ต้องห่วงฉันจะรักษาเขาเอง

 

แล้ว Aerith กับ Tifa ก็เข้าไปพยุงร่างของ Wedge ขึ้น Cloud มองขึ้นไปเห็นพวกภูติกำลังลอยไปที่เสาทำให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจ

 

Wedge: อดทนไว้นะพวก จะขึ้นไปช่วยแล้ว!
 Cloud: Wedge ฟังฉันให้ดี นายรออยู่ที่นี่กับพวกเธอ

 

พูดจบ Cloud ก็รีบวิ่งขึ้นไป

Cloud มองขึ้นไปเห็นพวกภูติกำลังลอยไปที่เสาทำให้เขาสังหรณ์ใจ

 

ที่ด้านบน Biggs ได้รับบาดเจ็บจนแทบเดินไม่ไหว เขามองเห็น Cloud กำลังวิ่งขึ้นมาช่วย Biggs จึงพูดขึ้นว่า “มาได้เวลาพอดีทหารรับจ้าง” เขาหยิบปืนของเขาขึ้นมาแล้วกล่าวต่อ “ฉันจะต้องทำหน้าที่เคลียร์เส้นทางให้ก่อนที่นายจะมาแย่งซีน” แล้วกองกำลังของ Shinra จำนวนมากก็วิ่งเข้ามา Biggs ยกปืนของเขาขึ้นเล็ง

ฺBiggs จะสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อเปิดทางให้แก่ Cloud

 

[ภาพตัดมาที่ Cloud]

 

Cloud รีบวิ่งขึ้นไปด้านบน เขาต้องต่อสู้กับกองกำลังของ Shinra ตลอดทางจนในที่สุดก็มาพบ Biggs นั่งนิ่งพิงเสาเหล็กอยู่ ข้างกายของ Biggs มีภูติสองตนยืนอยู่ด้วย Cloud เห็นเช่นนั้นก็ตกใจอย่างมาก รีบวิ่งเข้าไปแต่ภูติก็มาขวางเขาไว้แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ทำท่าคุกคาม เขาเอามือจับดาบเตรียมต่อสู้ แล้วอยู่ๆพวกภูติก็จากไป เมื่อเห็นเช่นนั้นก็ไม่รอช้าเขาเรียกชื่อ Biggs แล้ววิ่งเข้าไปดูอาการในทันที

Cloud รีบวิ่งไปดูอาการของ Biggs

 

Cloud: Biggs!

 

Biggs ลืมตาขึ้น เขาเห็น Cloud ก็ดีใจแต่ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนแทบขยับตัวไม่ได้

 

Biggs: นายรอดมาถึงนี่จนได้ แต่ฉันอาจจะไม่รอด
 Biggs: เฮ้ แล้ว Wedge หล่ะ...
 Cloud: ไม่ต้องห่วง เขาจะหายในไม่ช้า
 Biggs: ดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น
 Biggs: ฉันน่าจะใช้ผ้าพันแผลมากกว่านี้ [พูดจบก็ไออย่างหนัก]
 Cloud: อย่าเพิ่งพูด
 Biggs: ข้างบนน้้นสถานการณ์เลวร้ายมาก [จับมือ Cloud มากำไว้แน่น]
 Biggs: Cloud สัญญากับฉัน
 Biggs: อย่าให้มันกลายเป็นเรื่องสูญเปล่า

 

[ถึงตอนนี้ผู้เล่นจะสามารถเลือกคำตอบได้]

 

Cloud: ฉันสัญญา
 Biggs: [หัวเราะ] นายเป็นคนดี
 Biggs: ที่ช่วย... ปลอบใจฉัน [พูดจบมือที่จับอยู่ก็ตกลง]
 Biggs: โอ้ มีอีกเรื่อง
 Biggs: บ้าน Leaf House มันเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า อยู่ในสลัม Sector 5
 Biggs: เด็กที่นั่น พวกเขาเป็นเด็กดี ฉันมักจะไปเยี่ยม... [ไออย่างรุนแรง]
 Cloud: นั่นนายจะต้องเป็นคนไปทำเอง
 Biggs: ให้ฉันเดานะ... นายไม่ชอบเด็กสินะ
 Cloud: ไม่ชอบ
 Biggs: แต่นายมี... อะไรหลายอย่างเหมือนเด็ก

 

Cloud เห็นอาการของ Biggs สาหัสถึงกับต้องเบี่ยงหน้าไป Biggs เอามือมาจับหัว Cloud

 

Biggs: โชคดีนะ... Cloud
 Biggs: อนาคตของพวกเรา... อยู่ในมือนายแล้ว

 

เขายกนิ้วโป้งให้กับ Cloud แล้วร่างก็สั่นสะท้าน คอเขาตกลง Biggs เสียชีวิตลงแล้ว

Biggs ฝากความหวังไว้ที่ Cloud

 

Cloud รู้สึกเสียใจจนแทบจะข่มอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ เขามองหน้า Biggs อีกครั้งแล้วพูดว่า “เรื่องนี้มันยังไม่จบ” แล้วเขาก็ลุกขึ้นเดินต่อไปโดยไม่หันมามอง เขามุ่งหน้าขึ้นไปด้านบนจนมาเจอเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งส่องไฟมาที่เขา


เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งส่องไฟมาที่หน้าของ Cloud

 

แล้วก็มีเสียงประกาศดังออกมาจากเฮลิคอปเตอร์พูดว่า

 

Reno: ทดสอบ ทดสอบ...
 Reno: ฟังไว้ พวกสวะ AVALANCHE!
 Reno: พวกเรารู้แผนชั่วของพวกแกที่จะทำลายเสารับน้ำหนักหมดแล้ว
 Reno: แต่พวก Turk... อะแฮ่ม! แต่ Shinra
 Reno: ซึ่งก็คือพวกเรา... จะไม่ยอมให้พวกแกรอดไปได้ ดังนั้นจึงอยากให้พวกแกรีบคลานกลับรูของพวกแกไป!
 Reno: ใช้ได้แล้ว ใช่ไหม?

 

ภาพตัดมาในเฮลิคอปเตอร์ Rude ตอบ Reno ว่า “ก็พอใช้ได้” แล้ว Reno ก็สังเกตุเห็น Cloud

 

Reno: เดี๋ยวก่อนนะ ฉันจำนายได้แล้ว...
 Reno: มีสเตอร์ “ระดับที่หนึ่ง” [หัวเราะ]
 
 แล้วก็หันปืนบนเฮลิคอปเตอร์เข้าใส่ Cloud 

 

Reno: ระดับที่หนึ่ง บ้าอะไรหล่ะ!
 Reno: เสร็จฉันละ!

 

แล้ว Reno ก็ยิงกระสุนใส่ Cloud อย่างไม่ยั้ง

 

Reno: แกหนีไม่พ้นหรอก!

 

Cloud วิ่งหลบกระสุนเป็นพัลวัน จนมาหลบอยู่หลังที่กำบัง แต่เฮลิคอปเตอร์ก็ยังสาดกระสุนใส่อย่างไม่หยุดยั้ง Cloud เห็นท่าไม่ดีจึงมองหาทางออก แล้ว Rude ก็ส่งเสียงประกาศออกมาว่า “ทิ้งอาวุธของแก แล้วมอบตัวซะ! Shinra จะไม่เจรจากับผู้ก่อการร้าย!” Reno ที่นั่งอยู่ข้างๆได้ยินก็ถึงกับหัวเราะออกมา



Cloud หลบเฮลิคอปเตอร์อยู่หลังที่กันบัง

 

Reno เริ่มจะหมดความอดทน เขาพูดกับตัวเองว่า “ให้ตายสิ ช่างหัวมัน ฉันไม่อยากเล่นเกมแล้ว” แล้วก็กระหน่ำยิงใส่ที่กำบังอย่างไม่ยั้งจนกำบังเริ่มพังเป็นชิ้นๆ เศษชิ้นส่วนของที่กำบังตกลงไปด้านล่างตรงที่ Aerith, Tifa และ Wedge นั่งอยู่ Tifa บอกให้ทุกคนก้มลง แล้วเธอก็กระโดดขึ้นหมุนตัวเตะเศษชิ้นส่วนกระเด็นออกไป

Tifa กระโดดเตะใส่เศษกำบังที่ตกลงมา

 

Aerith: ขอบคุณ
 Wedge: เกือบไปแล้ว

 

แล้ว Wedge ก็พยายามจะลุกขึ้นยืน Aerith จึงพยุงเขาขึ้น

 

Aerith: อาการเป็นยังไงบ้าง
 Wedge: ดีขึ้นมากแล้ว ขอบใจนะ

 

Tifa มองขึ้นไปด้านบนก็นึกเป็นห่วงเพื่อนๆของเธอ

 

Tifa: ขอโทษด้วย ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้... ฉันต้องไปช่วยพวกเขา
 Aerith: ไปเถอะ ทำตามหัวใจของเธอ
 
 Tifa พยักหน้ากับ Aerith แล้วก็หมายจะจากไป แต่เธอนึกอะไรขึ้นได้จึงหันกลับมาคุณกับ Aerith

 

Tifa: Aerith มีบาร์ที่ตั้งอยู่กลางเมืองชื่อ Seventh Heaven...
 Tifa: ฉันอยากจะขอให้เธอ...
 Aerith: พา Marlene ไปหลบในที่ปลอดภัยใช่ไหม?
 Aerith: ไม่ต้องห่วง ฉันจะไปหาเธอเอง

 

Tifa รู้สึกแปลกใจที่อยู่ๆ Aerith ก็รู้จัก Marlene เธอมองหน้า Aerith คล้ายอยากจะถาม แต่ Aerith ยิ้มตอบแล้วพยักหน้าให้เธอ Tifa จึงวิ่งเข้าไปกุมมือ Aerith แล้วพยักหน้าขอบคุณ เสร็จแล้วหันไปบอก Wedge ให้ช่วยนำทาง Aerith ไปที่บาร์ Wedge ตกลงรับคำแล้วบอกให้ Tifa ขึ้นไปแตะตูดพวก Shinra ได้แล้ว Tifa พยักหน้าแล้วก็รีบวิ่งขึ้นไป Wedge จึงหันไปบอก Aerith ให้ตามเขามา



Tifa เข้าไปกุมมือ Aerith เพื่อขอบคุณ

 

Wedge วิ่งนำ Aerith ไปในทันที เมื่อ Wedge มาถึงประตูก็เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนคุมไม่ให้คนออกจากพื้นที่ Wedge จึงวิ่งเข้าไปหาเจ้าหน้าที่แล้วขอให้พวกเขาเปิดประตูให้คนเหล่านี้ออกไปไม่เช่นนั้นทุกคนที่อยู่ที่นี่จะตายกันหมด แต่เจ้าหน้าที่ไม่ฟังเสียกลับพลัก Wedge จนล้มลง Aerith เห็นเช่นนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปหา Wedge

 

Wedge: ฉันมันไร้ประโยชน์ ฉันช่วยพวกที่อยู่ข้างบนไม่ได้ แม้กระทั่งข้างล่างก็ยังช่วยใครไม่ได้
 Aerith: นั่นไม่จริงเลย Wedge
 Aerith: อย่าเพิ่งรีบหมดหวัง พวกเรายังสามารถช่วยชีวิตคนได้อีกมาก
 Wedge: เธอไม่คิดว่าพวกเราจะหยุดพวกนั้นไม่ให้ปล่อยจานลงมาได้ใช่ไหม?

 

Aerith เมื่อได้ฟังก็ถึงกับพูดไม่ออก เธอคิดเช่นนั้นจริงๆ

Aerith ได้ฟัง Wedge พูดถึงกับพูดอะไรไม่ออก

 

Wedge: ฉันอยากจะเชื่อว่าพวกเรายังมีโอกาสชนะอยู่
 Aerith: [พยักหน้า] อึ้อ
 Wedge: แต่บางสิ่งบอกฉันว่า มันถึงเวลาที่เราจะต้องชดใช้แล้ว ความรู้สึกแบบนี้ เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม?
 Aerith: ใช่... ฉันเข้าใจ
 Aerith: แต่... นั่นไม่ใช่ข้อ้างเพื่อที่จะยอมแพ้
 Aerith: ฉันไม่อยากจะมานั่งเสียใจภายหลังว่า ทำไมวันนั้นฉันถึงไม่ทำแบบนี้นะ
 Aerith: ที่นี่ ตอนนี้ ฉันอยากจะทำทุกอย่างที่ฉันคิดว่าทำได้

 

พูดจบก็มีหุ่นยนต์ตัวหนึ่งปลิวตกลงมาจาเสาแล้วก็ระเบิดที่ด้านล่าง ชาวเมืองต้องหลบกันเป็นพัลวัล Wedge เห็นเช่นนั้นก็ลุกขึ้นมายืน เขามองไปรอบๆแล้วทอดถอนใจ แล้วเขาก็หันหน้าไปยังเจ้าหน้าที่แล้ววิ่งเข้าไปพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง จนทำให้เจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ต้องถอยร่นไป เขาพูดกับเจ้าหน้าที่คนนั้นว่า

 

Wedge: ฉันไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป 
 Wedge: แต่ฉันแน่ใจว่าฉันไม่อยากจะมาเสียใจกับสิ่งที่ฉันทำในคืนนี้

Wedge ตะโกนใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

 

เจ้าหน้าที่คนนั้นได้ฟังก็เหมือนได้คิดอะไรบางอย่าง แล้ว Wedge ก็พุ่งตัวไปยืนประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่อาวุโสอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วตะโกนใส่หน้าเจ้าหน้าที่คนนั้นว่า “ชีวิตของพวกเราอยู่ในกำมือของแก ถ้าแกไม่เปิดประตูพวกเราทุกคนจะตายกันหมด” ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่คนแรกก็เปิดประตูออกให้ เจ้าหน้าที่อาวุโสเห็นเช่นนั้นก็สั่งให้ปิดประตูในทันที แต่เจ้าหน้าที่คนแรกกลับปฏิเสธ และยังบอกกับชาวบ้านด้วยว่าให้ทุกคนรีบหนีไป

Wedge สามารถเกลี่ยกล่อมให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูให้ทุกคนออกไปได้สำเร็จ

 

Wedge รู้สึกภูมิใจที่เขาสามารถช่วยชีวิตคนอื่นๆได้สำเร็จ แล้ว Aerith ก็เรียกเขาพร้อมกับชี้นิ้วไปว่า Seventh Heaven ไปทางนี้ใช่ไหม Wedge จึงตอบไปว่า “เดินตรงไป แล้วให้มองทางขวาไว้ เธอจะไม่พลาดแน่ๆ” Aerith อาสาจะไปช่วย Marlene ด้วยตัวเอง Wedge จึงบอกว่างั้นเขาจะพาคนที่นี่ออกไปยังที่ปลอดภัย แล้วทั้งสองก็แยกกันปฏิบัติหน้าที่ของตน

 

Aerith รีบวิ่งไปที่บาร์ ระหว่างเธอก็ตะโกนบอกให้คนใน Sector 7 รีบหนีออกไป Marle ได้ยินที่ Aerith พูดจึงถามกลับไปว่า เธอรู้เรื่องที่เกิดขึ้นใช่ไหม? แล้วคนพวกนั้นกำลังทำอะไรกับเสารับน้ำหนัก? Aerith ไม่ตอบตรงๆ เธอตอบแค่ว่ามันยังพอมีเวลา Marle เข้าใจในทันที เธอถามต่อว่า พวกนั้นจะทำลายเสาให้จานตกลงมาใส่พวกเราใช่ไหม? Aerith ตอบว่าใช่ เมื่อชาวเมืองได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมาก Marle จึงให้ทุกคนรีบหนีไปยังที่ปลอดภัย ทุกคนจึงแยกย้ายกันไป

 

Marle หันกลับไปหา Aerith แล้วถามว่าว่าเธอเป็นพวก AVALANCHE ใช่ไหม Aerith ปฏิเสธแล้วบอกว่าเธอเป็นแค่เพื่อนของพวกเขา  Marle จึงฝากบอก Aerith ให้ไปบอกกับ Tifa ว่าให้เธอระวังตัวเองด้วยและไม่ต้องห่วงพวกเขาจะจัดการเรื่องที่นี่ให้เอง

Marle ฝาก Aerith ให้บอก Tifa ว่า "ระวังตัวด้วย"

 

ในที่สุด Aerith ก็วิ่งมาถึง Seventh Heaven ทันใดนั้นก็มีเฮลิคอปเตอร์สองลำพุ่งเข้าชนกัน มีอยู่ลำหนึ่งกำลังตกมาที่พวกเขา Aerith เห็นว่าวิถีที่เครื่องกำลังพุ่งตรงไปที่บาร์ แต่โชคดีที่เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นตกเฉี่ยวหลังคาบาร์ไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น

 

เฮลิคอปเตอร์ร่วงลงพื้นแล้วไถลมาระเบิดใกล้ๆจุดที่ Aerith ยืนอยู่ แรงระเบิดกระแทกร่างของ Aerith จนกระเด็นล้มลงไป ไฟจากการระเบิดเริ่มลุกลามไปตามบ้านเรือน ชาวเมืองเห็นเหตุการณ์ก็รีบนำน้ำมาช่วยกันดับเพลิง

แรงระเบิดจากเฮลิคอปเตอร์กระแทกร่างของ Aerith กระเด็นไป

 

Aerith ค่อยๆดันตัวลุกขึ้น เธอเป็นห่วงความปลอดภัยของ Marlene แต่โชคร้ายที่เฮลิคอปเตอร์ลำที่ตกลงมากลับขวางทางเธอทำให้ไม่สามารถไปที่บาร์ได้ Aerith จึงต้องวิ่งอ้อมไปอีกเส้นทางหนึ่ง เฮลิคอปเตอร์มีไฟลุกท่วมและระเบิดอยู่เป็นระยะ มีเด็กหญิงคนหนึ่ง (Betty) กำลังวิ่งหนี เธอล้มลงตรงหน้า Aerith เมื่อเห็นเช่นนั้น Aerith จึงรีบประคองเด็กขึ้นมา

 

ขณะนั้น Marle กำลังนำทางให้ทุกคนหนีออกไปผ่านทางอุโมงค์ Marle เห็น Aerith กับ Betty ก็รีบกวักมือเรียกให้ทั้งสองรีบมาหลบภัย Aerith จึงอุ้มเด็กขึ้นแล้วพาไปฝากไว้ กับ Marle ไม่ทันไรพ่อของเด็กก็มาเจอเธอ พวกเขาสวมกอดกันด้วยความดีใจ

Aerith ช่วย Betty จนมาพบพ่อ

 

Aerith ไม่รอช้ารีบมุ่งหน้าไปที่บาร์ต่อไป แต่เมื่อเธอกำลังเดินผ่านเฮลิคอปเตอร์อยู่ๆเฮลิคอปเตอร์ก็เกิดระเบิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง Aerith โดนแรงระเบิดกระแทกจนล้มลงไปนอนหมดสติ

Aerith กำลังเดินผ่านซากเฮลิคอปเตอร์ แล้วอยู่ๆก็เกิดระเบิดขึ้น

 

[ภาพตัดมาที่ Tseng ที่กำลังขับเฮลิคอปเตอร์อยู่]

 

Tseng: ยืนยันเครื่องตกไปอีกหนึ่งลำ
 Tseng: แต่นี่อาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้
 
 ตอนนี้ Tseng ขับเฮลิคอปเตอร์มาถึงจุดที่ Aerith นอนหมดสติอยู่ Tseng มองดู Aerith แล้วพูดว่า

 

Tseng: เปลี่ยนแผน
 Tseng: นายช่วยดูแลสถานการณ์ต่อจากฉันที
 Tseng: บางคนชอบการผจญภัยมากเกินไปหน่อยแล้ว

Tseng พบ Aerith นอนหมดสติอยู่บนพื้น

 

แล้ว Aerith ก็ได้สติ เธอค่อยๆลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งไปที่บาร์ เมื่อเข้ามาข้างใน เธอก็เริ่มออกตามหา Marlene ในทันที จนสุดท้ายเธอก็พบ Marlene นั่งหลบอยู่ใต้เคาน์เตอร์

Aerith พบ Marlene นั่งหลบอยู่ใต้เคาน์เตอร์

 

Marlene เมื่อเห็น Aerith ก็เงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า

 

Marlene: คุณเป็นใคร?
 Aerith: ฉันเป็นเพื่อนของ Tifa
 Marlene: อึม... แล้วเธออยู่ไหน?
 Aerith: ตอนนี้เธออยู่กับ Cloud และก็คนอื่นๆ
 Marlene: คุณพ่อด้วยเหรอ?
 Aerith: หมายถึง Barret ใช่ไหม? ใช่สิเขาก็อยู่ที่นั่นด้วย
 Marlene: แล้วพ่อจะไม่กลับบ้านเหรอ?
 Aerith: เขายังไม่กลับ ฉันถึงต้องมาหาเธอที่นี่ไง
 Aerith: Tifa ขอให้ฉันมา เธอบอกว่า “ให้ฉันช่วยดูแล Marlene”
 Aerith: ตอนนี้ที่นี่ไม่ปลอดภัย ฉันจะพาเธอไปยังที่ปลอดภัย ตกลงนะ? [แล้ว Aerith ก็ยื่นมือไปให้ Marlene จับ]
 Marlene: พวกนั้นจะทำลายบาร์เหรอ?
 Marlene: พวกเขาจะทำลายบ้านของเราเหรอ?

 

แล้ว Aerith ก็ผายมือออกให้ Marlene เข้ามากอด Marlene ค่อยๆเดินเข้ามา แล้ว Aerith ก็กอดเธอ

Aerith สวมกอด Marlene เพื่อปลอบใจเธอ

 

Aerith: ฉันรู้ว่ามันยาก
 Aerith: จำไว้ว่า เธอยังมีพ่อของเธออยู่ เธอสามารถสร้างบ้านขึ้นมาใหม่กับพ่อของเธอที่ไหนก็ได้
 Aerith: เราไปกันดีไหม?

 

Marlene ฟังแล้วก็ร้องไห้ออกมา เธอเข้าไปสวมกอด Aerith เอาไว้แน่นแล้วร้องไห้อย่างหนักจนทำให้ Aerith รู้สึกเศร้าไปด้วย

Marlene ร้องไห้และเข้าไปสวมกอดกับ Aerith

 

ทันใดนั้น Marlene ก็รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ เธอรีบผละออกจาก Aerith ในทันที Aerith ยิ้มแล้วเอามือจุ๊ปากไว้เหมือนจะบอกให้ Marlene เก็บเป็นความลับ Marlene พยักหน้า แล้ว Aerith ก็ลุกขึ้นมายื่นมือให้ Marlene จับ

Aerith ยิ้มแล้วเอามือจุ๊ปากให้ Marlene เก็บเป็นความลับ

 

Marlene จับมือ Aerith แล้วเธอก็พุ่งเข้ากอด Aerith

 

Marlene: พี่หอมจัง
 Aerith: เหรอ?
 Marlene: เหมือน... เหมือนกับดอกไม้ของเราเลย

 

แล้ว Marlene ก็วิ่งไปชี้ให้ดูดอกไม้ดอกหนึ่งที่ปักอยู่ในแจกันในบาร์ Aerith รู้ทันทีว่าเป็นดอกไม้ที่เธอให้แก่ Cloud (น่าจะรู้แล้วว่า Cloud เอาดอกไม้มาให้ Tifa) เธอยิ้มแล้วลูบหัว Marlene เธอจับมือพา Marlene กำลังจะเดินออกจากบาร์

 

Marlene: ไปกันเถอะ
 Aerith: รู้ไหม ที่บ้านใหม่ของเธอ เราจะปลูกดอกไม้เอาไว้เยอะๆเลย
 Marlene: พี่ให้หนูจะช่วยปลูกด้วยได้ไหม?
 Aerith: แน่นอนสิ ว่าแต่เธอชอบดอกไม้ชนิดไหนมากที่สุดหล่ะ?

 

แล้วทันใดนั้นก็มีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งลงจอดที่หน้าบาร์ ไม่กี่อึดใจ Tseng ก็เปิดประตูเข้ามาแล้วพูดว่า

 

Tseng: เธอสร้างปัญหาให้เรามาก Aerith

Tseng พบตัว Aerith แล้ว

 

Aerith เห็น Tseng เปิดประตูเข้ามาก็รู้สึกตกใจ Tseng เดินเข้ามาหา Aerith ทำให้ Aerith ต้องกางมือออกเพื่อปกป้อง Marlene ให้มาหลบอยู่ข้างหลังเธอ Tseng มองไปที่ Marlene แล้วพูดว่า “ก่อนที่เธอจะพูดอะไรต่อไป จงรู้ไว้ว่าเธอไม่มีทางเลือกมากนัก” Aerith ได้ยินก็หันไปมอง Marlene ที่กำลังหวาดกลัว เธอก้มลงแล้วพูดกับ Marlene ว่า “ไม่มีอะไรต้องกลัวนะ ตกลงไหม?” แล้ว Aerith ก็หันไปยิ้มให้กับ Tseng แล้วพูดว่า “อย่างงั้น... เรามาทำข้อตกลงกันดีไหม?” 

 

Tseng ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้ม เขาขยับเปิดทางให้แก่ Aerith และ Marlene แล้วผายมือออกเป็นการเชื้อเชิญให้ทั้งสองเดินออกไป Aerith จูงมือ Marlene แล้วเดินออกไปนอกบาร์

Tseng เปิดทางให้แก่ Aerith และ Marlene

 

[ภาพตัดมาที่ Cloud เขากำลังหลบอยู่หลังกำบัง]

 

Cloud เห็นแน่ชัดว่าไม่อาจหลบอยู่ตรงนี้ได้นาน เขาจึงพยายามจะมองหาทางออก 

 

Reno: โผล่หัวของนายออกมาแล้วให้ฉันจบเรื่องนี้ได้แล้ว
 Rude: บันได

 

Tifa กำลังวิ่งขึ้นบันไดมาถึงจุดที่ Cloud หลบอยู่ Cloud หันไปมอง Tifa

 

Reno: นกสองตัวกับปืนที่มีกระสุนโครตเยอะหนึ่งกระบอก!

 

Rude เมื่อได้ยินว่า Reno จะยิง Tifa เขาจึงหักหัวเฮลิคอปเตอร์ไปทางอื่นอย่างรวดเร็วจนหัว Reno กระแทกกับหน้าต่างเฮลิคอปเตอร์ Cloud เห็นเป็นโอกาสดีเขาจึงรีบวิ่งหนีออกมา กระสุนจากเฮลิคอปเตอร์ยิงพลาดไปโดนบันไดที่ Tifa ยืนอยู่ถล่มลง Tifa รีบกระโดดขึ้นแล้วเรียกชื่อ Cloud

Tifa กระโดดเอี้ยมมือไปให้ Cloud

 

Cloud เห็นเช่นนั้นจึงรีบยื่นแขนไปจับมือ Tifa เอาไว้แล้วดึงเธอเข้ามาหลบ

 

Cloud: นี่มันบ้าอะไร?
 Tifa: รับได้ดี!
 Cloud: เธอนี่มันบ้าจริงๆ!
 Tifa: ก็เหมือนนายนั่นแหละ ไม่ต้องพูดมากเพราะฉันไม่ไปแน่นอน

 

Reno กำลังหัวเสียที่ Rude ทำเสียเรื่อง

 

Reno: บ้าเอ้ย! แกอยากจะอธิบายหน่อยไหมว่ากำลังทำอะไรห๊ะ คู่หู
 Rude: อ่า... มือมันลื่น

 

Reno ทำหน้าไม่พอใจ แล้วก็ยิงไปยังจุดที่ Cloud หลบอยู่

 

Cloud: แล้ว Aerith หล่ะ?
 Tifa: ฉันให้เธอไปที่ Seventh Heaven เพื่อช่วย Marlene ออกมา
 Cloud: แล้ว Wedge?
 Tifa: ฉันขอให้เขานำทางให้เธอ
 Cloud: โอเค
 Tifa: เรายังยุติเรื่องนี้ทันอยู่ใช่ไหม?
 Cloud: ใช่
 Tifa: งั้นก็รีบไปกันเถอะ

Cloud กับ Tifa หลบการไล่ล่าของ Reno กับ Rude

 

แล้ว Rude กับ Reno ก็ขับเฮลิคอปเตอร์ไล่ยิงทั้งสอง Cloud กับ Tifa ก็พยายามวิ่งหลบตามมุม พร้อมกับเดินหน้าต่อไป

 

Reno: แล้วพวกแกคิดว่าจะไปไหนกัน?
 Reno: ก็ได้ ถ้าพวกแกจะเล่นกันแบบนี้ เอาแบบนั้นก็ได้
 Reno: ฉันเห็นแกแล้ว!
 Reno: อย่าทำให้พวกเราต้องเสียเวลาแล้วยอมแพ้ซะ

 

Reno ไล่ล่า Cloud และ Tifa พร้อมกับบ่นไปตลอดทาง

 

เมื่อ Tifa กับ Cloud เดินทางมาถึงชั้นๆหนึ่งก็มีการระเบิดอย่างรุนแรงที่ชั้นบนทำให้พวกเขารู้ทันทีว่ามีคนต่อสู้กันอยู่

 

ภาพตัดมาที่ Jessie กำลังเอาระเบิดโยนใส่เจ้าหน้าที่ของ Shinra จนลงไปกองอยู่บนพื้น Jessie เดินออกมาแล้วพูดว่า “เป็นยังไงพวกนายจะให้คะแนนอาวุธใหม่สุดเจ๋งของฉันเท่าไหร่ดี? สิบเอ็ดเต็มสิบ?” ทันใดนั้นก็มีเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็กส่องไฟมาที่เธอ Jessie หยิบระเบิดในมือของเธอขึ้นมาจูบแล้วพูดต่อ “วันนี้เป็นวันโชคร้ายของแกแล้ว เพราะว่าฉันไม่เคยพลาด” ตอนนี้มีภูติสามตนปรากฏที่ด้านหลังของเธอ

Jessie หยิบระเบิดขึ้นมาปาใส่เฮลิคอปเตอร์เล็ก

 

Cloud และ Tifa เห็นการระเบิดเกิดขึ้นก็รีบวิ่งขึ้นไปทันที เมื่อมาถึง Tifa เห็นภูติมามุงกันอยู่ข้างซากเหล็กกองหนึ่ง แล้วเธอก็เห็นร่างของ Jessie ถูกซากเหล็กทับนอนแน่นิ่งอยู่ เธอรีบวิ่งเข้าไปดูอาการของ Jessie อย่างเร่งรีบ ส่วน Cloud ที่ตามมาภายหลังก็รีบยกเหล็กออกจากร่างของ Jessie ในทันที

Jessie เห็น Cloud กับ Tifa เธอจึงพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง

 

 Jessie เห็นทั้งสองมาช่วยเธอ เธอจึงพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงของเธอดังเพียงแผ่วเบาจนไม่อาจได้ยิน

 

Tifa: โอ้ พระเจ้า...
 Jessie: Tifa... ถ้าเธอเห็นสีหน้าของตัวเองตอนนี้...

 

Cloud ยกซากเหล็กออกไปจากร่าง Jessie แล้วรีบเข้าไปอุ้มเธอขึ้น

Cloud เข้าไปอุ้มร่างของ Jessie ขึ้น

 

Jessie: งั้น... นายก็เป็นคนที่... จะได้ฟังคำพูดสุดท้ายของฉัน...

 

Tifa ได้ยินก็แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่

 

Jessie: ฮะ... ฉันโชคดีจริงๆ
 Cloud: พูดบ้าอะไร มันไม่ใช่คำพูดสุดท้ายสักหน่อย!
 Jessie: มันไม่เป็นไรหรอก Cloud... มันไม่เป็นไร
 Jessie: พวกมันเป็นระเบิดของฉันเอง พวกเขาก็เป็นเหยื่อของฉัน
 Jessie: ฉันเป็นแบบนี้ก็สมควรแล้ว

 

Cloud อุ้ม Jessie มาวางลงตรงที่ปลอดภัย

Cloud อุ้ม Jessie ออกมา

 

Jessie: ฮีโร่ของฉัน ช่างอ่อนโยน...
 Cloud: เธอต้องพยายามอดทนเข้าไว้!
 Jessie: [หัวเราะ] นี่มันอย่างกับละคร...
 Jessie: ฉัน... ฉันแค่หวังว่า...
 Jessie: ฉันจะได้อยู่กับนายอีกครั้ง... ทุกๆคน... กับอาหารของแม่...
 Jessie: ฉันอยากจะเชื่อ... จริงๆ.. ว่าเราสามรถกลับไปได้...
 Cloud: ใช่ เธอยังติดหนี้พิซซ่าฉัน
 Jessie: [หัวเราะ] ใช่สิ จริงด้วย
 Jessie: แต่... ฉันไม่คิดว่า...

 

พูดถึงตอนนี้ Tifa ถึงกับทรุดลงไปร้องไห้

Tifa ทรุดลงไปร้องไห้

 

Jessie เห็นเช่นนั้นจึงพูดว่า

 

Jessie: โอ้ไม่นะ... Tifa กำลังร้องไห้ นี่ฉันพูดอะไรผิด?

 

Tifa หันหน้าหลบสายตาของ Jessie แล้ว Cloud ก็หันหน้าออกไปอีกทางด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด แล้ว Jessie ก็กุมมือ Cloud เอาไว้

 

Jessie: นี่พวกนายไม่มีที่อื่นที่จะต้องไปหรอกหรือ
 Jessie: มันไม่สุภาพ... ที่จะจ้องแบบนั้น... รู้ไหม...

 

พูดจบมือของ Jessie ตกลงหลุดออกจากมือ Cloud เขารีบคว้ามือของเธอเอาไว้แล้วค่อยๆวางลง ส่วน Tifa ได้แต่ก้มหน้าร้องไห้ Jessie เสียชีวิตลงแล้ว

Jessie เสียชีวิตลงแล้ว

 

Tifa: Jessie
 Cloud: [มองไปที่ Tifa] เฮ้...

 

Tifa ยกมือของเธอขึ้นมาปิดหน้าแล้วร้องไห้ Cloud กำมือแน่นแล้วกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ เขาลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปที่ด้านบน

Tifa ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

 

เมื่อทั้งสองมาถึงชั้นบนสุดก็ได้ยินเสียง Barret ดังขึ้น เขากำลังยิงปืนใส่เฮลิคอปเตอร์ของ Reno และ Rude

 

Barret: ฉันยังไม่เสร็จธุระกับพวกแก ได้ยินไหม!?
 Barret: พวกแกคิดว่าจะขึ้นมาบนนี่ ทำอะไรตามใจแก แล้วบังคับให้เราก้มหน้ารับอย่างงั้นเหรอ!?
 Tifa: Barret!
 Barret: Tifa?

Barret ยิงใส่เฮลิคอปเตอร์อย่างบ้าคลั่ง

 

แล้ว Tifa ก็วิ่งไปหา Barret เฮลิคอปเตอร์ยิงปืนเฉียดร่างเธอไป Cloud เห็นเช่นนั้นก็วิ่งเข้ามาปกป้อง Tifa

 

Barret: ย้ายก้นของแกมาหลบหลังที่กำบังเดี๋ยวนี้!
 Barret: เดี๋ยวเฮลิคอปเตอร์ก็ยิงแกพรุนหรอก!

 

แล้ว Cloud ก็วิ่งไปหลบกับ Barret

 

Cloud: นายยังแข็งแรงดีอยู่ใช่ไหม?
 Barret: แน่นอนอยู่แล้ว พระเอกจะต้องรอดจนกว่าหนังจะจบ

 

แล้ว Barret ก็วิ่งออกไปยิงใส่เฮลิคอปเตอร์ Tifa ฉวยโอกาสวิ่งตามมาสมทบกับทั้งสอง

 

Barret: ยังไงพวกเราก็ยังต้องไปต่อ ถ้าเราต้องการจะทำงานนี้ให้สำเร็จ
 Barret: นายพร้อมนะ [พูดกับ Cloud]
 Cloud: แน่นอน

 

แล้วเฮลิคอปเตอร์ก็ยิงใส่ถังแก๊สที่พวกเขาใช้เป็นกำบังจนเกิดระเบิดขึ้น แต่ทั้งสามไหวตัวทันกระโดดหนีออกมาได้ทันเวลา

Cloud, Tifa, และ Barret หลบการโจมตีของเฮลิคอปเตอร์

 

Reno ที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์เปิดประตูออกมาแล้วพูดว่า “ได้เวลาแก้มือแล้ว” แล้ว Rude ก็โยนกระบองให้ Reno พร้อมกับขับเฮลิคอปเตอร์บินต่ำลงมา Cloud เห็น Reno กำลังเข้ามาใกล้

 

Cloud: แก!
 Reno: นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว... ไอ้ลูกหมา!

 

พูดจบ Reno ก็กระโดดลงมาโจมตีเข้าใส่ Cloud ทันที Cloud ก็ยกดาบกันไว้ได้ทัน

Reno กระโดดลงมาโจมตีใส่ Cloud

 

Cloud หมุนตัวฟันใส่ Reno ทันทีแต่ Reno ก็หลบออกไปได้อย่างรวดเร็ว เขาวิ่งตรงไปที่แพงควบคุมของจาน Cloud เห็นเช่นนั้นก็จะวิ่งตามไป แต่ Rude ที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ก็ยิงสกัดเขาเอาไว้ Barret จึงยิงปืนเข้าใส่เฮลิคอปเตอร์อย่างไม่ยั้ง แล้วหันไปบอกกัน Reno ว่า “แกเป็นรายต่อไป ไอ้ชั่ว”

 

Reno: ขอโทษทีนะพวกขี้แพ้ วันนี้จะต้องทำงานก่อน ไม่มีเวลามาเล่น

 

แล้ว Reno ก็บังคับแผงควบคุมเพื่อเปิดการทำงานให้เครื่องเริ่มกระบวนการแยกจานออก

Reno บังคับแผงควบคุมให้เริ่มกระบวนการแยกจานออก

 

Cloud เห็นเช่นนั้นก็รีบวิ่งเข้าใส่ Reno ในทันที เป็นจังหว่ะที่ Reno กำลังจะกดปุ่มเพื่อแยกตัวจานออกพอดี แต่ Cloud ฟันดาบมาถึงก่อน เขาจึงต้องหันกระบองไปรับดาบของ Cloud ไว้

Cloud สามารถหยุด Reno ได้ทันเวลา

 

Reno ใช้กระบอกของเขาดันกระแทกร่างของ Cloud ให้ถอยออกไป Cloud ตั้งท่าเตรียมพร้อม แล้วบอกให้ Reno กดปุ่มแยกจานได้เลย แต่ Reno รู้ดีว่าถ้าละสายตาจาก Cloud ไปกดปุ่มก็จะโดน Cloud เล่นงานทันที ดังนั้นเขาจึงต้องกำจัด Cloud ก่อน

 

แล้ว Tifa กับ Barret ก็มาร่วมกับ Cloud, Reno เห็นเช่นนั้นก็ยืนยิ้มเเยาะพร้อมกับพูดออกมาว่า “พวกแกสู้เราไม่ได้หรอก” แล้วการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น Reno ใช้ความเร็วของเขาโจมตีใส่ทั้งสาม ในขณะที่ Rude ขับเฮลิคอปเตอร์แล้วสาดกระสุนใส่พวก Cloud เมื่อสู้ไปได้ครู่ใหญ่ Reno เห็นว่าการต่อสู้เริ่มยืดเยื้อ Rude ที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์จึงเตรียมจะทิ้งระเบิดใส่พวก Cloud เขาบอกให้ Reno หลบไป Reno ได้ยินนั้นก็รีบวิ่งไปหลบในทันที แล้ว Rude ก็ขับเฮลิคอปเตอร์บินโฉบลงมาทิ้งระเบิดใส่ทั้งสาม แต่พลาดเป้าเขาจึงต้องบรรจุระเบิดใหม่ Reno ก็ออกจากที่ซ่อนคอยโจมตีให้ทั้งสาม Reno กับ Rude ประสานงานกันได้อย่างดี

 

ขณะที่ Rude จะโฉบลงมาทิ้งระเบิดอีกรอบ Cloud เห็นโอกาสจึงกระโดดเข้าโจมตีใส่เฮลิคอปเตอร์ของ Rude จนเกิดระเบิดขึ้น Reno เห็นเช่นนั้นก็ร้องเรียก Rude อย่างดัง เฮลิคอปเตอร์ตกลงตรงหน้า Reno แล้วระเบิดเป็นชิ้นๆ 

Cloud กระโดดขึ้นไปโจมตีใส่เฮลิคอปเตอร์

 

Reno ค่อยๆลุกขึ้น เขาเห็นแว่นตาของ Rude ตกอยู่ตรงหน้า Reno จึงค่อยๆหยิบแว่นของ Rude ขึ้นมา ทันใดนั้น Rude ก็เดินมาจับไหล่ของ Reno จากด้านหลัง Reno ยิ้มแล้วส่งแว่นตาให้ Rude แล้วพูดว่า 

 

Reno: โดนตัดปีกแล้วสินะ

 

Rude หยิบแว่นตามาสวม แล้วตอบ Reno ไปว่า

 

Rude: ฉันก็กะว่าจะลงมาช่วยนายอยู่พอดี
 Reno: มีอะไรที่จะพาเราหนีออกไปได้บ้างไหม... (เมื่อปฏิบัติภาระกิจเสร็จ)
 Reno: เอาเถอะ มาสอนพวกมันให้รู้จักคู่หู Turk Two-Step กันเถอะ

Rude หยิบแว่นตาขึ้นมาสวม

 

ทั้งหมดสู้กันอย่างดุเดือดแต่พวกของ Cloud ก็สามารถเอาชนะได้สำเร็จ Tifa รีบวิ่งไปหยุดการแยกตัวของจานในทันที แต่เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ขณะนั้นเองพวกภูติก็ค่อยๆลอยเข้ามา

 

Reno พยายามจะคลานไปหยิบอาวุธของเขาแต่ Cloud หยุดเขาเอาไว้ แล้วถาม Reno ว่าจะหยุดการทำงานได้ยังไง Reno ตอบไปว่า “ใครจะไปรู้หล่ะ” แล้วก็ทิ้งตัวลงนอนหมดสติไป

Cloud หยุด Reno ไม่ให้หยิบอาวุธ

 

Barret ที่คุมตัว Rude อยู่ก็เหลือบไปดู Cloud ชั่วขณะทำให้ Rude ฉวยโอกาสสลัดหลุดออกมาได้ แล้วเขาก็วิ่งตรงไปยังแพงควบคุม Barret เห็นเช่นนั้นจึงยิงใส่ Rude แต่ไม่โดน Cloud เห็นท่าไม่ดีจึงจะวิ่งเข้าไปหยุด Rude ไว้ แต่พวกภูติก็ลอยเข้ามาขวางเป็นจำนวนมาก Cloud กับ Barret พยายามจะโจมตีใส่ภูติเพื่อเปิดทางแต่ไม่เป็นผล

พวกภูติลอยเข้ามาขวาง Cloud

 

ทันใดนั้น Cloud ก็ได้ยินเสียง Tifa ร้องขึ้นมาคำนึง แล้วพวกภูติก็ลอยหายไป Cloud เห็น Tifa นอนหมดสติอยู่บนพื้นส่วน Rude ยืนอยู่ที่แพงควบคุม Cloud จึงพุ่งตัวเข้าใส่ Rude ด้วยความเร็วแต่ไม่ทันการ Rude ได้กดสวิตซ์ปุ่มยีนยันกระบวนการจานแยกตัวออกสำเร็จแล้ว

Rude กำลังจะกดปุ่มยืนยันเพื่อแยกจานออก

 

เสียงสัญญาณเตือนภัยให้รีบอพยพดังไปทั่วบริเวณ Cloud ยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยความตกใจ

 

Barret: แกไอ้สารเลว! แกทำอะไรลงไป!?

 

Cloud พุ่งเข้าใส่ Rede ด้วยความโกรธแค้น ส่วน Rude ก็วิ่งสวนออกมาหา Cloud เช่นกัน เมื่อเห็นเช่นนั้น Cloud จึงฟันดาบใส่ Rude ในทันที แต่ Rude ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาไถลตัวหลบดาบของ Cloud ออกมาได้อย่างหวุดหวิด

Rude ไถลตัวหลบดาบของ Cloud

 

Cloud หันหลังกลับหมายจะเข้าไปจัดการ Rude แต่ Tifa ได้สติร้องเรียกชื่อเขาขึ้นมาพอดี Cloud ได้ยินเช่นนั้นจึงเปลี่ยนใจรีบเข้าไปดูอาการของ Tifa เขาค่อยๆประคองร่าง Tifa ให้ลุกขึ้นนั่ง Rude เห็นเป็นโอกาสจึงรีบเดินไปแบกร่างของ Reno ขึ้นบ่า ส่วน Barret รีบวิ่งเข้าไปทำลายแพงควบคุมเพื่อหยุดการทำงานของเสารับน้ำหนัก

 

Rude พาร่างของ Reno มายังเฮลิคอปเตอร์ของ Shinra ที่บินมารับพวกเขาหลบหนี ก่อนไปเขาหันไปมองพวกของ Cloud แล้วพูดว่าเหลือเวลาอีก 5 นาที พูดจบก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์หนีออกไป

Rude แบกร่างของ Reno หนีขึ้นเฮลิคอปเตอร์

 

Tifa ลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่แพงควบคุม เธอพบว่ากลไกการแยกตัวเริ่มทำงานแล้ว

 

Tifa: พวกเราจะทำยังไงกันดี?

 

ไม่ทันไร Tseng ก็ปรากฏตัวขึ้นบนหน้าจอ

 

Tseng: ไม่มี ตอนนี้พวกนายทำอะไรไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
 Tifa: [ตะโกน] แกทำแบบนี้ไม่ได้!

 

แล้ว Tifa ก็เห็น Aerith วิ่งเข้ามาในกล้อง ทำให้เธอตกใจมากขึ้นไปอีก

 

Aerith: Tifa ฉันเจอ Marlene แล้ว!
 Tifa: Aerith?
 Barret: Marlene? Marlene ของฉันหน่ะเหรอ?
 Barret: พวกแกจะทำอะไรกับเธอ!?
 Cloud: เธออยู่ที่ไหน?
 Aerith: ฉันอยู่ที่...

แล้ว Tseng ก็โบกมือให้คนของเขาเอาตัว Aerith ออกไป

Tseng จับตั้ว Aerith กับ Marlene เอาไว้

 

Tseng: การกระทำของพวกแก ทำให้แกได้ติดต่อกับ Ancient โดยบังเอิญ อย่างไรก็ดีตอนนี้พวกเราได้ตัวของเธอกลับมาอยู่ในการคุ้มครองแล้ว และเป็นที่ๆเธอควรจะอยู่
 Tseng: ด้วยเหตุนี้ฉันขอให้พวกนายรับการขอบคุณอย่างจริงใจจากฉัน
 Tseng: น่าเสียใจที่ Sector ที่พวกนายยืนอยู่ได้ถูกตัดสินโทษไปแล้ว [เอานิ้วขึ้นจุ๊ปาก]
 Cloud: Ancient?
 Aerith: วิ่ง! พวกนายต้องรีบหนีตอนนี้!
 Tseng: แล้วเธอจะให้พวกเขาหนีไปไหนหล่ะ?

 

พูดจบ Tseng ก็ยุติการสื่อสารลง ตอนนี้จานค่อยๆแยกตัวออก และก็มีซากเหล็กร่วงตกลงมาทั่วบริเวณ ทั้งสามมองไปรอบๆเพื่อหาทางหนี

Tseng ยุติการสื่อสาร ทั้งสามต้องหาทางหนีออกมา

 

Tifa: ไม่ ไม่ ไม่
 Barret: ถ้าพวกเราไม่รีบหนีออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ พวกเรากลายเป็นศพแน่ๆ! เราจะต้องทำอะไรสักอย่าง!
 
 Tifa นั่งลงไปมองเมืองด้านล่างด้วยความเสียใจ Cloud รีบวิ่งเข้าไปดู Tifa ไม่กี่อึดใจ Barret ก็เรียกพวกเขาให้มาดูทางนี่

 

Barret: เฮ้ ทางนี้!
 Barret: เจอทางออกแล้ว! [ชี้ไปที่เชือกสลิง]

 

Cloud เรียก Tifa ให้รีบหนี แต่เหมือนว่า Tifa ตอนนี้ไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว Cloud จึงฉุดตัวเธอขึ้นแล้วดึงเธอวิ่งตรงไปหา Barret

Cloud ฉุดร่างของ Tifa ขึ้นแล้วรีบพาเธอหนี

 

Barret: เร็วเข้า เร็วเข้า!

 

แล้ว Barret ก็ใช้ปืนของเขายิงเพิ่อทำทางหนี มือข้างหนึ่งของเขาเกาะอยู่ที่สลิง เข้าหันไปเรียก Cloud กับ Tifa ให้รีบมา Barret เห็นทั้งสองวิ่งมาถึงก็กระโจนออกไปทันที Tifa กับ Cloud ก็กระโดดตามไปเกาะที่หลังของ Barret ร่างของทั้งสามโหนไปกับสลิง

 

ไม่กี่อึดใจเสาคำก็เกิดระเบิดออกมาอย่างรุนแรง จานที่ด้านบนเริ่มพังถล่มลงมาเบื้องล่าง 

ทั้งสามโหนสลิงหนีออกมาจากเสาค้ำยัน

 

ระหว่างที่โหนตัวอยู่ทั้งสามหันกลับไปมองภาพจานที่ถล่มลงมาทับเมืองข้าล่าง ผู้คนจำนวนมากวิ่งหนีกันอลหม่าน

 

Wedge ที่มาช่วยแมวบ้านเขาถูกพวกภูติตามรังควาน แล้วเขาก็มองเห็นซากจานกำลังตกลงมาใส่



Wedge เห็นซากจานกำลังตกลงมาใส่เขา

 

ประธาน Shinra มองดูเหตุการอยู่ในห้องทำงานของเขาที่ด้านบน เมืองข้างล่างกำลังลุกเป็นไฟ แต่เขากลับยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

ประธาน Shinra มองดูเหตุการณ์อยู่ในห้องทำงานของเขา

 

Cait Sith เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ถึงกับทรุดตัวลงก้มหน้าลง เขาเอามือทุบลงไปที่พื้นอย่างเจ็บใจ

Cait Sith เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ถึงกับทรุดตัวลง

 

Cloud, Barret, และ Tifa โหนตัวผ่านซากปรักหักพัง แรงระเบิดไล่หลังมา แล้วทั้งเมืองก็ลุกเป็นไฟ

Sector 7 กำลังลุกเป็นไฟ

เครดิต
Credit

ยูทูป เกมส์มิ่ง
Gaming - YouTube

เกมที่เกี่ยวข้อง
Related games

ดาวน์โหลดเกม
GAME DOWNLOAD