ใน Fire Emblem: New Mystery of the Emblem ~ Hero of Light and Shadow  ฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดตัวใน Shadow Dragon ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงถูกนำมาใช้ในเวอร์ชันนี้

โหมดและระดับความยาก:

• นอกจากโหมดปกติแล้ว ยังมีโหมด "Hard", "Maniac" และ "Lunatic" โดยโหมด Lunatic จะยากกว่าระดับความยากสูงสุดของ Shadow Dragon (ซึ่งถือว่ายากมาก)
• หลังจากเลือกระดับความยากแล้ว คุณจะสามารถเลือกได้ระหว่าง "Casual" และ "Classic" ในโหมด Classic หากตัวละครตาย ตัวละครนั้นจะตายถาวร แต่ในโหมด Casual ตัวละครที่ตายจะฟื้นกลับมา
• ในบทถัดไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีผลเสียอื่นๆ นอกจากคุณอาจไม่ได้รับประสบการณ์เพิ่มเติมในบทนั้น และจะพลาดบางบทสนทนาเพิ่มเติมในตอนจบเกม
• เมื่อจบโหมด Lunatic จะปลดล็อคโหมด Lunatic' (มีอัญประกาศ) ในโหมดนี้ศัตรูจะโจมตีเป็นฝ่ายแรกเสมอ แม้ว่าคุณจะเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก็ตาม คล้ายกับทักษะ Ventage (Path of Radiance)

ใน Chapters บทต่างๆ

• ในบางบทมีหมอกสงคราม ซึ่งการมองเห็นของคุณจะถูกจำกัดตามตำแหน่งของตัวละคร เหมือนกับในโหมดมัลติเพลเยอร์
• วัตถุประสงค์ของบางบท ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่การยึดปราสาทหรือบัลลังก์... ยังมีบางบทที่วัตถุประสงค์คือการเอาชนะบอสหรือศัตรูทั้งหมด
• ในเกมนี้ไม่จำเป็นต้องทำการฆ่าศัตรูจำนวนมากเหมือนใน Shadow Dragon เพื่อปลดล็อคบทเสริม
• มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดต่างๆ ของศัตรูและการเสริมกำลังในแผนที่ โดยมีการเสริมกำลังเพิ่มขึ้นและศัตรูบางตัวจะเคลื่อนที่เมื่อเข้ามาใกล้พื้นที่บางแห่ง เช่น Astram ที่ใน SNES เขาจะตามคุณมาติดๆ

ตัวละคร

• ตัวละครเกือบทั้งหมดที่ปรากฏในเกม Marth ก่อนหน้านี้จะกลับมาปรากฏในเกมนี้ รวมถึงตัวละครจาก BS Fire Emblem ที่สามารถควบคุมได้ระหว่างเนื้อเรื่อง ยกเว้น Gotoh ที่จะปรากฏแค่ในบทสนทนา ตัวละครที่ไม่ได้ปรากฏในเล่ม 2 แต่กลับมาปรากฏอีกครั้ง ได้แก่ Bord, Cord, Barts, Caesar, Radd, Dolph, Macellan และ Tomas
• Wolf, Sedgar, Vyland และ Michalis สามารถรับสมัครได้ ซึ่งในเวอร์ชัน SNES ไม่สามารถทำได้
• คุณสามารถสร้าง "My Unit" ซึ่งทำหน้าที่เป็นอวตารของคุณ โดยกำหนด อาชีพ หน้าตา ทรงผมได้
• Bord, Cord และ Barts มีท่า Triangle Attack (โจมตีที่ทำให้เกิดการโจมตีคริติคอลอัตโนมัติ, ความเสียหาย x3) ซึ่งในเวอร์ชันก่อนหน้านี้จะเป็นท่าพิเศษของน้องสาวเพกาซัส (แม้ว่าใน FE อื่นๆ จะมีท่าแบบนี้อีก)
• มีโหมดใหม่ที่เป็นคู่มือหรือข้อมูลที่แสดงความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งหมดที่คุณพบ และข้อมูลเกี่ยวกับทวีป (เรียงตามพื้นที่และตัวอักษรด้วย) ซึ่งคล้ายกับข้อมูลที่คุณได้รับใน Radiant Dawn โดยจะสามารถใช้งานได้ตลอดเวลาระหว่างบทสนทนาเมื่อกดปุ่ม L

ตัวเลือกใหม่ในการเตรียมตัวก่อนการต่อสู้

• ในแต่ละบทจะมีบทสนทนาที่คุณสามารถอ่านได้ตามต้องการ เหมือนกับในเกม Path of Radiance หรือ Radiant Dawn ที่มีบทสนทนาในฐานทัพ โดยบทสนทนาเหล่านี้ไม่ได้ให้ของรางวัลอะไร (ยกเว้นไอเทมเมื่อมีบทสนทนาระหว่างตัวละคร 3 ครั้ง) แต่จะช่วยเสริมเรื่องราวและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวละครที่ไม่เคยพูดระหว่างการพัฒนาเกม ตัวละครหลัก "My unit" มักจะเป็นคนที่พูดคุยกับตัวละครอื่นๆ ซึ่งบางบทสนทนาก็มีความหลากหลายและน่าสนใจ
• ระบบใหม่ที่ตัวละครจะได้รับไอเทมหรือประสบการณ์ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นระบบสุ่ม แต่เวลาที่ใช้ในการหาของจะขึ้นอยู่กับเวลาจริงในโลกจริง มีไอเทมบางอย่างที่สามารถได้รับจากที่นี่เท่านั้น
• มี "Arena" เริ่มต้นจากบทที่ 5 ซึ่งสามารถต่อสู้ก่อนเริ่มแผนที่แต่ละบท โดยไม่ต้องเดิมพันเหมือนในสนามต่อสู้อื่นๆ นั่นหมายความว่าคุณจะจ่ายเงินเพื่อการต่อสู้ (และรับประสบการณ์) เท่านั้น ซึ่งช่วยให้ตัวละครที่เลเวลต่ำสามารถใช้งานได้ และคุณยังสามารถเลือกอาวุธที่ใช้ตามสถิติของศัตรูเหมือนกับในแผนที่ปกติ (ถ้าคุณคำนวณดีๆ ก็จะชนะทุกครั้ง) แต่ถ้าตัวละครตายจะตายไปตลอดกาล และถ้าเป็นโหมด Casual จะไม่สามารถใช้ตัวละครที่ตายไปได้ในบทถัดไป

การเล่นและการควบคุม

• เมื่อโจมตี, คุณสามารถสลับอาวุธได้อย่างรวดเร็วโดยกดปุ่ม X หรือ Y ซึ่งแตกต่างจากการต้องกลับไปยังเมนูก่อนหน้าแล้วเลือกอาวุธใหม่เพื่อเปรียบเทียบความเสียหายเหมือนในเกม FE ก่อนๆ ถึงแม้ว่าจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ เพราะคุณต้องติดตั้งอาวุธให้ตัวละครก่อนเพื่อให้เขาถืออาวุธที่คุณต้องการ หากคุณไม่ได้โจมตีจนจบเทิร์น ตัวละครจะเปลี่ยนอาวุธกลับไปเหมือนเดิม ใน Shadow Dragon ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ก่อนหน้านั้นคุณต้องเลือกอาวุธและจากนั้นจึงสามารถเปลี่ยนมันได้ (โดยไม่บอกปุ่มที่ต้องกด)
• การคำนวณน้ำหนักของอาวุธถูกเอาออก (เกมจะคำนึงถึงความเร็วในการโจมตีสองครั้งเท่านั้น)
• อาวุธและไอเทมที่เคยมีให้เฉพาะในร้านออนไลน์ (เช่น Brave และ Elysian Whip) ตอนนี้สามารถหาได้ในระหว่างการเล่นเกมปกติ
• ใน Shadow Dragon, คุณสามารถข้ามเทิร์นทั้งหมดได้... แต่ถ้าคุณเสียตัวละครระหว่างการข้ามเทิร์น เกมจะไม่แสดงให้เห็น ตอนนี้จะมีการแสดงผล
• มีระบบการจัดอันดับสุดท้ายเหมือนกับใน FE อื่นๆ ซึ่งคือในตอนจบเกมจะให้คะแนนคุณตามพารามิเตอร์บางอย่าง
• ใน Shadow Dragon เวอร์ชันญี่ปุ่นไม่มีแผนที่สำหรับมัลติเพลเยอร์ 5 แผนที่ (มีแค่ 1 แผนที่) แต่ในเวอร์ชันยุโรปและอเมริกามี 5 แผนที่ ซึ่งสามารถถือได้ว่าเป็นฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้เล่นชาวญี่ปุ่น
• ตัวละครผู้หญิงสามารถเปลี่ยนคลาสเป็น Generals และ Female Cavaliers ได้ ใน FE11 ไม่สามารถทำได้

กราฟิก

• การออกแบบยังคงเหมือนเดิมเกือบทั้งหมดจาก Shadow Dragon สิ่งเดียวที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือเมนูและการออกแบบโดยรวม ซึ่งมีสีฟ้ามากขึ้นและมีลักษณะโค้ง ที่ดูน่ามอง
• ภาพระหว่างบท (หรือ CG) ตอนนี้มีสีสันและมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีจำนวนมากขึ้นเมื่อเทียบกับใน Shadow Dragon
• เมื่อหน่วยโจมตีแบบคริติคอล ตัวละครจะหยุดชั่วขณะเป็นพันธุ์ของวินาที และจะมีแสงสีฟ้าอ่อนๆ ปรากฏขึ้นก่อนที่จะทำการโจมตี

ไอเทมและอาวุธ

• เนื่องจาก Dragon Stones ไม่สามารถแปลงร่างผู้ใช้ผ่านเมนูได้อีกต่อไป ทำให้ไม่สามารถมีมังกรบินที่มีการเคลื่อนที่ 12 ก้าวด้วย Tiki ได้เหมือนกับใน Shadow Dragon ที่มังกรเหล่านั้นใช้หินบิน
• "Lady Sword" มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับ Thieves, Bandits, Pirates และ Savages
• เวทมนตร์ "Dulam" (ทำให้เหลือชีวิตเพียง 1 คะแนนหากโดน) ถูกแทนที่ด้วย "Glower" (ทำให้ปฏิเสธการต้านทานของศัตรู)
• มีอาวุธและไอเทมใหม่ๆ
• ส่วนต่างๆ ของ Star Sphere จะให้โบนัสกับสถิติ (+1 หรือ +2) ไม่ใช่การเพิ่มการเติบโตเหมือนในอดีต ซึ่งทำให้คุณสามารถมีตัวละครเกือบทุกตัวที่มีค่าทุกอย่างสูงสุดได้
• สถิติของอาวุธต่างๆ ตามที่เห็นใน Shadow Dragon (FE11 ในวงเล็บ):
  • Levin Sword, พลัง 6 (10)
  • Hand Axe, พลัง 4 (8)
  • Brave Axe, ความแม่นยำ 70 (80)
  • Hauteclaire, พลัง 20 (18), และคริติคอล 10 (0)
  • Javelin, พลัง 3 (7)
  • Parthia, พลัง 18 (17), คริติคอล 10 (0)
  • Starlight, พลัง 17 (14), คริติคอล 10 (0)
  • Imhullu, ความแม่นยำ 80 (70)

สิ่งที่ถูกแทนที่หรือถูกลบออก

• ใน SNES คุณสามารถลงจากหลังม้าของตัวละครได้ และมันเป็นวิธีเดียวที่ตัวละครที่ขี่ม้าสามารถเข้าไปในพื้นที่ภายในได้ แต่ในเวอร์ชันนี้ (เหมือนกับใน Shadow Dragon) ไม่ได้เพิ่มตัวเลือกนี้ ทำให้บางบทค่อนข้างง่าย
• ใน SNES เมื่อคุณได้รับสเฟียร์ (หรือที่เรียกว่า orbs) ของ Shield of Seals (หรือ Fire Emblem) สเฟียร์เหล่านี้จะปรากฏในตอนเริ่มเกมตอนแนะนำ โดยที่โล่จะปรากฏและเปลี่ยนแปลงตามความคืบหน้าของเกม
• Geosphere ตอนนี้ไม่สามารถแตกได้แล้ว แต่จะปรากฏเป็นวัตถุเดียวกันที่ไม่แตก
• ใน BSFE ต้นฉบับมีเสียง, CG และเพลงของตัวเอง แต่ในเวอร์ชันนี้ไม่มี
• ในบทนำของ FE3 ตำนานเกี่ยวกับ Falchion และ Anri จะถูกเล่าผ่านภาพบางภาพ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว และแทนที่ด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับ Marth และพันธมิตร

สิ่งที่ยังคงเหมือนเดิม

• มีเพียง Marth เท่านั้นที่สามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านได้
• ไม่มีอาวุธแตก (อาวุธที่แตกไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากมีค่าสถิติต่ำและน้ำหนักสูงหลังจากที่อาวุธแตก ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ในเวอร์ชัน SNES)
• ตัวละครในสนามรบจะมีความแตกต่างกันแค่สีผมและคลาสเหมือนใน Shadow Dragon
• ไม่มีระบบช่วยชีวิต (Rescue) และไม่มีความเหนื่อยล้า (Fatigue)
• ไม่มีทักษะพิเศษเหมือนใน FE4/5 บน SNES หรือ Wii/GC
• ไม่มี Laguz
• ไม่มีระบบไบโอริธึม (Biorhythm)
• ไม่มีการสะสมประสบการณ์พิเศษที่สามารถได้รับจากการเล่นในแบบต่างๆ บน Game Cube และ Wii
• ไม่สามารถเคลื่อนที่บนแผนที่หลักเหมือนใน Sacred Stones

อ้างอิงข้อมูลจาก fireemblemwod.com