ชายหนุ่มผู้หนึ่งลอยละล่องกลางทะเล เขาหมดสติและกำลังจะสิ้นใจ แต่ภายใต้สัมปชัญญะอันเลือนรางมีเสียงหนึ่งแว่วกระซิบให้เขามีชีวิตรอดต่อไป เพื่อสานต่อโชคชะตา
ชายหนุ่มผู้นี้มีนามว่าเซธ เขาถูกทะเลซัดเกยมาที่ชายหาด หญิงสาวกับชายชรามาพบเข้าและช่วยเอาไว้ ดูเหมือนทั้งคู่จะพูดถึงความเชื่อมโยงบางอย่างกับคริสตัล...
ชายหนุ่มหนุ่มฟื้นขึ้นในโรงแรมของเมืองฮาลซิโอเนีย เมืองใหญ่กลางทุ่งหญ้าอันสงบสุข ชายหนุ่มแนะนำตัวว่าเขาเป็นเพียงกลาสีเรือธรรมดาๆที่เรือแตกแล้วก็ตกน้ำไป ที่เหลือนั้นเขาจำอะไรไม่ได้แล้ว หญิงสาวกล่าวว่านี่อาจเป็นเจตจำนงค์ของคริสตัล จากนั้นชายชรานามเซอร์สโลนมาตามหญิงสาวไปพบกับราชาเวอน่อน หญิงสาวแนะนำตัวว่านางคือกลอเรียแห่งมิวซ่า อดีตองค์หญิงของอาณาจักรที่ล่มสลายไปแล้ว หญิงสาวให้ชายหนุ่มพักผ่อนก่อนและเดินจากไป
พระราชาคุยกับหญิงสาวเรื่องหาคู่แต่งงานเพื่อสืบทายาทราชวงศ์มิวซ่าที่ล่มสลาย ซึ่งหญิงสาวก็ปฏิเสธไปตามระเบียบเพราะนางมีภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ต้องกระทำ คือการกอบกู้สมบัติสำคัญประจำราชวงศ์คือคริสตัลทั้งสี่ นายกรัฐมตรีฮอเท็นแห่งฮาลซิโอเนียซึ่งเป็นคนจัดเตรียมทุกอย่างถึงกับไม่พอใจ แต่พระราชาก็ออกหน้าปกป้องหญิงสาว เพราะสองอาณาจักรเป็นมหามิตรกันมายาวนาน
ด้านชายหนุ่มกล่าวขอบคุณกับเจ้าของโรงแรม หลังจากพูดคุยทำให้พบว่าสถานที่แห่งนี้เขาไม่คุ้นเคยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มออกเดินสำรวจและกลับไปยังชายหาด ที่นั่นเขาพบหญิงชราผู้หนึ่งยืนดูร่องรอยที่คลื่นยักษ์เหลือทิ้งไว้ ทันใดนั้นก็มีกอบลินป่าปรากฏออกมาโจมตี ชายหนุ่มรีบออกหน้าปกป้องหญิงชรา แต่ก็มีเวทย์ไฟปรากฏมาโจมตีกอบลินเหล่านั้น ชายหนุ่มนักเวทย์และหญิงสาวปรากฏตัวขึ้น ทั้งสองแนะนำตัวว่าชื่อเอลวิสเป็นนักศึกษาพเนจร และอเดลเป็นนักรบรับจ้างที่เอลวิสจ้างมาอีกที เอลวิสออกเดินทางตามหาศิลาแอสเทอริสก์ซึ่งทำให้คนเปลี่ยนอาชีพได้ ทั้งสองถูกชะตากับเซธจึงชวนชายหนุ่มไปดริ้งค์กันในเมือง
ขณะเดียวกัน องค์หญิงกลอเรียและผู้เฒ่าเซอร์สโลนก็มีผู้มาเยือน เป็นผู้ถือครองศิลาแอสเทอริสก์สองคนนามแด็กและเซลีเน่ ทั้งสองจับเด็กเป็นตัวประกันบังคับให้กลอเรียส่งมอบคริสตัลลม แต่กลอเรียไม่มีคริสตัลใดๆจึงยอมเอาตัวเองเป็นตัวประกันแทนเด็กน้อย แด็กฉวยโอกาสทำร้ายเซอร์สโลนจนบาดเจ็บและพาตัวองค์หญิงกลอเรียไป
เซธ เอลวิสและอเดลกลับมาที่เมืองก็พบเด็กน้อยร้องขอความช่วยเหลือ พวกเขารีบไปหาเซอร์สโลนที่นั่งบาดเจ็บอยู่จึงพาไปพักผ่อน เอลวิสได้ยินชื่อมานานว่าท่านหญิงเอ็มม่ากล่าวถึงบ่อยๆ (เอลวิสเป็นลูกศิษย์ของเอ็มม่า แต่เอ็มม่าเสียไปได้ 6 เดือนแล้ว) เอลวิสได้คัมภีร์ลึกลับที่เอ็มม่าทิ้งไว่แต่มันจะต้องใช้ศิลาแอสเทอริสก์ในการเปิดผนึก เอลวิสจึงออกตามหาแอสเทอริสก์นับแต่นั้นมา
เซธเสนอตัวช่วยเหลือองค์หญิงกลอเรียแทนผู้เฒ่า ส่วนเอลวิสเมื่อรู้ว่าศัตรูเป็นผู้ถือครองศิลาแอสเทอริสก์ก็ขอติดตามไปด้วย ทั้งสี่เดินทางไปยังรังโจรทางตอนเหนือของเมืองฮาลซิโอเนีย เมื่อถึงด้านใน เซอร์สโลนวางอุบายใช้ศิลาแสงทำให้ศัตรูตาพร่า และให้พวกเซธฉวยโอกาสช่วยเจ้าหญิงกลอเรียออกมา แต่ขณะที่กำลังจะหนีพวกศัตรูก็ล้อมไว้หมดแล้ว ทั้งหมดจึงไม่มีทางเลือกนอกจากสู้กับพวกโจรซึ่งนำโดยแด็กผู้ถือครองแอสเทอริสก์อาชีพแวนการ์ด และเซลีเน่ผู้ถือครองอาชีพนักเวทย์ขาว ขณะที่กำลังจะสู้นั้นคริสตัลลมได้ส่องแสงและมีปฏิกิริยากับตัวเซธ นั่นทำให้เซธเข้าสู่นิมิตที่พาเขามายังสถานที่แห่งหนึ่ง เสียงปริศนากล่าวขึ้นซึ่งเซธจำได้ว่าเป็นเสียงเดียวกับที่เขาได้ยินขณะตกทะเล เสียงปริศนากล่าวว่าแท้จริงเซธได้ตายไปในทะเลแล้ว แต่ด้วยพลังของศิลาวาตะ (คริสตัลลม) ได้ช่วยเซธไว้ และตอนนี้มันได้ให้ทางเลือกแก่เซธ จะเลือกทางตายอย่างสบาย หรืออยู่เพื่อสานต่อโชคชะตา เซธเลือกมีชีวิตต่อ (แน่ล่ะ) ศิลาวาตะจึงมอบพลังพิเศษให้เซธ และเมื่อเขาคืนสติ เซอร์สโลนแตกตื่นดีใจและกล่าวว่า เซธนั้นเป็นพวกเดียวกับเขา เป็น "ผู้กล้าแห่งแสง" เซธและพวกเอาชนะสองดูโอและได้รับศิลาแอสเทอริสด์ "แวนการ์ด" และ "นักเวทย์ขาว" มา
ทุกคนกลับมาที่เมืองฮาลซิโอเนียและแยกย้ายกันไป เซธได้พบหญิงชราที่เขาเคยช่วยที่ชายหาดอีกครั้ง หญิงชรามอบเรือน้อยให้เซธเป็นการตอบแทน
ทุกคนมารวมตัวกันอีกครั้งที่โรงแรมในเมือง กลอเรียกล่าวขอบคุณและบอกถึงภารกิจของตนที่ต้องรวบรวมคริสตัลที่ถูกขโมยไปกลับมา มิเช่นนั้นด้วยพลังแห่งคริสตัลหากใช้ในทางผิดจะก่อให้เกิดหายนะอันใหญ่หลวงตามมา การที่ทะเลพิโรธจนเรือเซธแตกในตอนแรกก็เชื่อว่าเป็นพลังจากคริสตัลวารี เซอร์สโลนขอให้ทุกคนช่วยเหลือในภารกิจนี้ ซึ่งเซธก็ตกลงทันที เอลวิสก็ขอร่วมด้วยเช่นกันเพื่อออกตามหาศิลาแอสเทอริสก์ซึ่งตกลงอยู่มือขององค์กรลึกลับที่ขโมยคริสตัลไป ส่วนอเดลก็กำลังออกตามหาน้องสาวที่หายตัวไป ทุกคนจึงตกลงร่วมทางในภารกิจขององค์หญิง
คืนนั้นเซอร์สโลนเข้ามาคุยกับเซธเป็นการส่วนตัว เขาเล่าว่าเขาเองก็เป็นผู้ที่เคยได้รับพรจากศิลาวาตะเมื่อห้าสิบปีที่แล้ว และร่วมออกเดินทางกับกลุ่มในอดีตเพื่อกำจัดจอมมาร "Night Nexus" หนึ่งในคณะนั่นคือราชาก็อดริค ปู่แท้ๆขององค์หญิงกลอเรีย นั่นทำให้คณะของเขาเป็นที่รู้จักในนาม "ผู้กล้าแห่งแสง" (ท่านหญิงเอ็มม่า อาจารย์ของเอลวิสก็เป็นหนึ่งในคณะผู้กล้าแห่งแสงด้วยเช่นกัน) และตอนนี้เซธก็เป็นผู้ที่ศิลาวาตะเลือกเพื่อมาแทนที่เขา เซอร์สโลนขอให้เซธสัตย์สาบานด้วยชีวิตว่าจะปกป้ององค์หญิงกลอเรีย เซธก็ตกลงอย่างไม่ลังเล
รุ่งเช้ากลอเรียแจ้งคณะถึงจุดหมายคือเมืองซาวาลอนซึ่งคาดว่าศิลาวารีอาจอยู่ที่นั่น ทุกคนออกเดินทางโดยไม่รู้เลยว่า ชายผู้หนึ่งเจ็บแค้นกับการออกเดินทางอย่างปลอดภัยขององค์หญิงกลอเรีย เขาคือคนเดียวกับที่ว่าจ้างแด็กและเซลีเน่ก่อนหน้านี้ เขาก็คือ..โฮเท็น นายกรัฐมนตรนั่นเอง และในตอนนี้เขาก็ได้เตรียมแผนการลับๆ บางอย่าง
นอกเมือง เซธและพวกได้พบกับอสูรประหลาดรูปร่างหมูตัวใหญ่ที่สวมชุดและพูดภาษามนุษย์ได้ มันแนะนำตนเองว่าชื่อทรัฟ เป็นมอนสเตอร์ใจดีที่มีเพื่อนเป็นมนุษย์ ทรัฟได้ทำแหวนของเพื่อนหล่นหายจึงหาคนมาช่วยเหลือ เมื่อหาพบ (และเจอมอนสเตอร์รังควาญเล็กน้อย) ทรัฟก็ของคุณพวกเซธเป็นอันมากและขอตัวจากไป
ทั้งหมดเดินทางมาถึงหุบเขาแห่งการคร่ำครวญซึ่งเป็นทางผ่านไปสู่ซาวาลอน ระหว่างทางเซอร์สโลนขออนุญาตแวะหลุมศพภรรยาของเขาซึ่งอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ เมื่อออกเดินทางต่อนั้นเอง ระหว่างทางกลับพบนายกรัฐมนตรีโฮเท็นขวาวทางไว้ เขาโผล่หางออกมาทันทีและขอให้เราส่งศิลาวาตะให้เขา เมื่อปฏิเสธเขาจึงหยิบศิลาแอสเทอริสก์ออกมาและกลายร่างเป็น...อาชีพพระ
ก็ไม่ทราบว่าท่านนายกฯไปเอาความมั่นใจจากที่ใดว่าสองมือจะสู้แปดเท้าได้ เมื่อพ่ายแพ้อย่างยับเยินและถูกชิงศิลาแอสเทอริสก์มาแล้ว ท่านนายกก็ร้องขอชีวิตเป็นพัลวัน แต่ทันใดนั้นเสียงหนึ่งดังขึ้นมาขัดจังหวะการสนทนาของทุกคน
"น่าสมเพช..."
สิ้นเสียงชายร่างสูงผมยาวสีขาวในชุดเกราะอสูรสีดำผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น นายกฯเรียกเขาว่า "อดัม" เขาบ่นถึงความไร้ประโยชน์ของนายกฯ แล้วเงื้อดาบมารฟันใส่ทันทีจนนายกฯ ร่วงลงไปกองกับพื้น อดัมหันกลับมาและบังคับให้กลอเรียส่งมอบศิลาวาตะ เมื่อกลอเรียปฏิเสธเขาก็ลงมือทันที
แม้ทุกจะรวมพลังหมาหมู่แต่ก็ไม่อาจต่อกรอดัมได้เลยเขาบีบคอกลอเรียยกขึ้นและชิงเอาศิลาวาตะไปอย่างง่ายดาย จากนั้นจึงเหวี่ยงกลอเรียลงพื้นอย่างรุนแรง (นี่นางเอกนะเฮ้ยยย) อดัมตั้งใจจะเข้ามาซ้ำ แต่เซอร์สโลนก็ขวางดาบของอดัมและให้ทุกคนหลบหนี ตนจะถ่วงเวลาให้เอง เซธรีบอุ้มกลอเรียและพาทุกคนวิ่งหนีสุดชีวิต เซอร์สโลนแม้จะชราแต่ก็สมกับที่เคยเป็นผู้กล้า แม้จะไม่อาจเอาชนะอดัมแต่ก็ต่อสู้ได้อย่างสูสี อดัมยินดีที่ได้ประมือกับศัตรูทีี่คู่ควรอย่างผู้กล้าแห่งแสง แต่เซอร์สโลนกล่าวตอบว่าเขามิใช่ผู้กล้าแห่งแสงอีกต่อไป เซอร์สโลนหันมองเหล่าหนุ่มสาวที่วิ่งหนีเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะระเบิดพลังร่ายใช้ท่าไม้ตาย ทำลายเส้นทางภูเขาตัดขาดอดัมกับกลุ่มเซธออกจากกัน ทำให้พวกเซธหนีรอดไปได้อย่างปลอดภัย
ทว่า...กระบวนท่านี้ต้องแลกมาด้วยชีวิตของเซอร์สโลน
อดัมเอ่ยปากชมเซอร์สโลนที่เสียสละ เขาไม่คิดจะตามต่อเพราะเป้าหมายของเขาได้บรรลุแล้ว เขาได้ครอบครองศิลาวาตะในที่สุด
...
ไม่นานหลังจากนั้น หนุ่มสาวทั้งสี่ได้ทำหลุมฝังศพของชายชราผู้สละชีวิตตนเองเพื่อพวกเขาไว้ข้างๆหลุมศพของภรรยา เซธให้คำมั่นว่าเขาจะรักษาสัญญา ไม่ทำให้ผู้เฒ่าต้องผิดหวัง ทุกคนกล่าวอำลาครั้งสุดท้ายก่อนจะมุ่งหน้าเดินทางต่อไป...

และโลโก้ Bravely Default 2 ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง...

-- จบบทนำ --