Final Fantasy 6
ไฟนอล แฟนตาซี 6
บทสรุปเกม
WALKTHROUGH
-
Final Fantasy 6 [By Soi13 WM] -
Final Fantasy 6 [By Mink]
-
Final Fantasy 6: [1.World of Balance - By rpgclassics.com] -
Final Fantasy 6: [2.World of Ruin - By rpgclassics.com]
-
Final Fantasy 6 [By อิ๊
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ] -
Final Fantasy 6 [By shonocha] -
Final Fantasy 6 [By ป๋าเปี๊ยกอยากแคสต์]
-
Final Fantasy 6 [By Zande]
-
Final Fantasy 6 [ EndlessChannel TH]
'Gau inthe Veldt'
"ครอบครัว, ทุ่งหญ้า และชายชราสติฟั่นเฟือน"
.
"เจ้าเป็นช่างนาฬิกาใช่ไหม ข้ารอพวกเจ้ามานานแล้ว มันไม่ดังมา 10 ปีแล้ว" ชายชราเรียกกลุ่ม Sabin ที่หลงเข้าไปบ้านของเขาว่าเป็นช่าง จากนั้นก็บอกให้ซ่อมนั่นนี่อยู่สักพัก จนปาร์ตี้ทั้งหมดเข้าใจว่าชายชราสติไม่ดี
.
"เด็กเหรอ? ที่นี่ไม่มีเด็ก ทำไมต้องเอาเด็กมาด้วย พูดแล้วสยอง! พวกแกออกไปได้แล้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะเอาพวกแกไปทิ้งที่ 'The Veldt'"
.
เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงจำบทสนทนาที่ชายชราสติเพี้ยนคุยกับ Sabin และคณะได้ดี โดยเขาทิ้งท้ายด้วยการขู่ว่าจะเอาพวกเขาไปปล่อยทิ้งไว้ใน The Veldt หรือดงสัตว์ร้าย ที่ต่อมาเราจะได้พบ Gau ในทุ่งแห่งนี้
.
Gau เด็กชายที่เติบโตบนทุ่ง The Veldt ซึ่งไร้ความอบอุ่นและการดูแลจากครอบครัว Gau ถูกทิ้งตั้งแต่ยังเป็นทารก พ่อของเขาไม่ยอมรับเขาได้และเข้าใจผิดว่าเขาเป็น “สัตว์ประหลาด” ทำให้ Gau ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสัตว์ป่าและสภาพแวดล้อมที่แสนอันตรายตั้งแต่วัยเยาว์
.
ความโดดเดี่ยวคือสิ่งที่เขาคุ้นเคย ทุ่ง The Veldt เป็นทั้งบ้านและสนามรบที่ต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ Gau จึงเป็นเหมือนผลผลิตของทุ่งสัตว์ร้ายแห่งนี้ ที่หล่อหลอมให้เขาเป็นคนที่เข้มแข็งและไม่ย่อท้อต่อความโหดร้ายของโลก
.
ความหมายที่ลึกซึ้งของคำว่า 'The Veldt'
.
ความน่าสนใจของเรื่องนี้คือคำว่า "Veld" ที่แปลว่าทุ่งหญ้า แต่คนทั่วไปและชายชราเรียกทุ่งสัตว์ร้ายว่า "The Veldt" ซึ่งมีตัว "T" เพิ่มเข้ามาในตอนท้าย ซึ่งก็จะไปตรงกับชื่อเรื่องสั้นของ Ray Bradbury ที่ถูกเขียนขึ้นในปี 1950
.
“The Veldt” เป็นเรื่องสั้นที่เล่าเรื่องในอนาคต ในบ้านที่ใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติที่เรียกว่า "Happylife Home" ซึ่งมีห้องเนอสเซอรีที่สามารถสร้างสถานที่ใดก็ได้ตามจินตนาการของเด็ก ๆ โดยใช้ "telepathic emanations" หรือการสื่อจิตเป็นตัวควบคุม และห้องนี้ถูกใช้สร้างทุ่งหญ้าแอฟริกาที่เต็มไปด้วยสิงโต
เด็ก ๆ ใช้เวลาและจินตนาการในห้องเนอสเซอรีอย่างไม่มีขอบเขต พ่อแม่ของพวกเขาไม่สามารถให้ความรักและการดูแลที่แท้จริงได้ ทำให้เด็ก ๆ เหล่านี้หลงทางในโลกจำลอง ต้องโดดเดี่ยวท่ามกลางทุ่งหญ้า และสูญเสียความสัมพันธ์กับครอบครัว
.
Gau และเด็ก ๆ ใน “The Veldt” ต่างสะท้อนถึงความสำคัญของการให้ความรักและการดูแลที่เหมาะสมในกระบวนการเติบโตของเด็ก ๆ เมื่อเด็กขาดความรักและการชี้แนะ พวกเขาอาจกลายเป็นคนที่หลงทางในโลกที่โหดร้าย ถูกหล่อหลอมด้วยความเจ็บปวดและความโกรธแค้น
.
แม้ตอนท้ายของเรื่องจะแตกต่างกัน โดย Gau ได้เพื่อนร่วมเดินทางที่แสนอบอุ่น แต่เด็ก ๆ ในเรื่องสั้นกลับจินตนาการให้เทคโนโลยีสร้างสิงโตในทุ่งหญ้า ล่าและกัดกินพ่อแม่ของพวกเขา เพราะพ่อแม่ขู่ว่าจะปิดห้องจินตนาการแห่งนี้
.
ท้ายสุดเรื่องนี้อาจไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับต้นฉบับของเกม เพราะภาษาญี่ปุ่นเรียกทุ่งสัตว์ร้ายนี้ว่า "Kemonogahara" แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษก็เลือกคำว่า "The Veldt" มาใช้ ซึ่งต้องบอกว่า น่าสนใจมากเลยทีเดียว
.
แม้ว่าจะไม่มีการเชื่อมโยงทางเนื้อเรื่องโดยตรงระหว่างเรื่องของ Bradbury กับ Final Fantasy VI แต่ก็มีองค์ประกอบทางธีมหลายอย่างที่สะท้อนกัน นั่นคือ การที่เด็ก ๆ ขาดการดูแลที่ใกล้ชิดจากผู้ปกครองนั่นเอง
.
และสุดท้ายจริง ๆ ผมก็ไม่แน่ใจเรื่องราวต่อไปมากนัก เพราะเล่นไปเขียนไป เจออะไรสนุก ๆ ก็มาเล่าให้ฟัง ถูกบ้างผิดบ้าง คงได้สรุปอีกทีตอนเล่นจบ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่า ชายชราบ้าคนนั้นเป็นอะไรกับ Gau หรือไม่ หรือจะมีเรื่องเซอร์ไพรส์มากขึ้นกว่าเดิม
.
ขอบคุณการวิเคราะห์สนุก ๆ ยูทูบช่อง Shococha เพื่อน ๆ ที่สนใจคลิปเต็ม ดูได้ในคอมเมนต์ครับ
.
