Skip to main content

Final Fantasy 16

(as "Final Fantasy XVI")

ไฟนอลแฟนตาซี 16


Final Fantasy XVI (By Decibel per Oxide)

Final Fantasy 5



บทสรุป Final Fantasy XVI

 

                                       บทสรุป Final Fantasy XVI

 

                                BY Decibel per Oxide

 

 

                            บางพงศาวดารได้กล่าวถึง …

 

0

 

วาลิสเธีย (Valisthea) ดินแดนที่ได้รับพรจากแสงแห่งมาเธอร์คริสตัล

และแสงสว่างแห่งคริสตัลนี้เองที่นำพาบรรพบุรุษของเหล่าให้หลุดพ้นจากความมืดมิด

แต่แล้ว สิ่งที่พวกเขาเห็นในแสงสว่างนั้นก็ก่อให้เกิดความเย้ายวน ซึ่งกลายเป็นสิ่งล่อใจเราให้กลับเข้าไปอยู่ใต้เงาของคริสตัล

 

               การเดินทางของเราจึงได้เริ่มต้นขึ้น 

 

                              🔶  A Flame Summoned 🔶

 

 

 

 

 

 




                               Year of the Realm 873

                 The Nysa Defile : The Dhalmekian Republic

 

 

                                                🔶 To kill a Dominant 🔶

 



      Aevis – ใกล้เช้าแล้วครับ ทั้ง 2 ค่ายกำลังเริ่มปั่นป่วนกันแล้ว

Tiamat – ทุกคนรู้กันดีแล้วนะ ถึงเป้าหมายของภารกิจเราในครั้งนี้ Dominant แห่ง Shiva .. แค่ Dominant เท่านั้น
Biast – คนเดียวเองหรอ แล้วมันจะสนุกไงอ่ะแบบเนี่ย? แล้วเราจะรู้ได้ไงว่ายัยผู้หญิงนั่นจะอยู่กับพวกมันจริงๆ?

Tiamat – พวกเราไม่ตั้งคำถาม แค่ทำตามคำสั่ง จำไว้แค่นั้นก็พอ เอาล่ะ เก็บของให้เรียบร้อย !

The Bastards เป็นกลุ่มมือสังหารชั้นยอดที่ทำงานให้กับ อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ Sanbreque 

ที่ปกครองโดย Dion Lesage  จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ มกุฎราชกุมารแห่งจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์แห่งซานเบรอค ผู้นำกลุ่มอัศวิน dragoons ผู้สูงส่งและในฐานะผู้คุมแห่งแสง  ผู้ครอบครองบาฮามุท 

เนื่องจาก  Sanbreque ถูกเรียกว่า อาณาจักรมังกร Bastards ทั้ง 4 ที่ประกอบด้วย Wyvern, Tiamat, Aevis และ Biast ซึ่งเป็นชื่อที่อิงจากมังกรจากซีรีส์ Final Fantasy และจากตำนานในประวัติศาสตร์

- Wyvern เป็นมังกรสองเท้าที่พบได้ทั่วไปในนิทานพื้นบ้านของยุโรป

- Tiamat เป็นมังกรในยุคดึกดำบรรพ์ในตำนานของชาวบาบิโลน

- Aevis ('avis' เป็นคำภาษาละตินสำหรับ 'นก') มอนสเตอร์ลักษณะคล้ายมังกรในเกมส์ Final Fantasy บ้างก็คล้ายนก

- Biast (หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Piast Dragon) เป็นสัตว์ในตำนานจากนิทานพื้นบ้านของโปแลนด์ 

 



Tiamat – มีสมาธิหน่อย Wyvern แกคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ภารกิจนี้สำเร็จ

Wyvern – ครับ จ่า ..

 

 

 

                            Battle of Nysa 

 

สงครามแห่ง Nysa เป็นการปะทะกันสั้น ๆ แต่นองเลือดระหว่าง 

 

สาธารณรัฐ Dhalmekian ประเทศที่ครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนใต้ของวาลิสเธียซึ่งเกิดจากรัฐห้ารัฐมารวมกันเป็นสาธารณรัฐและปกครองโดยสมาชิกรัฐสภา ผู้คนในสาธารณรัฐดึงเอาอากาศธาตุจาก Drake's Fang ซึ่งเป็น Mothercrystal ที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางเทือกเขามาใช้เป็นพลัง มี Dominant แห่ง Titan, เป็นผู้พิทักษ์รวมทั้งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาพิเศษให้กับสมาชิกรัฐสภา

       

และ Iron Kingdom ประเทศที่ตั้งอยู่ในหมู่เกาะเล็กๆอันโดดเดี่ยวนอกชายฝั่งสตอร์ม ทางตะวันตกของอาณาจักรวาลิสเธีย ที่นี่มีภาษาและศาสนาเป็นของตัวเองเรียกว่า ศาสนาบูชาคริสตัล Crystalline Orthodox แบบสุดโต่ง ซึ่งจากหลักคำสอนของ ออร์โธดอกซ์ ที่เชื่อว่าเหล่า Dominants เป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน และในหมู่เกาะนี้ ผู้ใดที่ได้ครอบครองพลังของ Eikon จะถือว่าเป็นผู้เคราะห์ร้ายที่จะถูกประหารชีวิตทันที Iron Kingdom ยังครอบครอง Drake's Breath ซึ่งเป็น Mothercrystal ที่ตั้งอยู่ที่ใจกลางเกาะแห่งหนึ่งของพวกเขา ซึ่งเป็นที่มาของความขัดแย้งกับ Rosaria ประเทศที่อยู่ใกล้เคียงมาช้านาน

 

โดยที่ชาว Dhalmckians หวังว่าจะยุติความขัดแย้งอันยาวนานกับ Ironblood ได้ โดยในการประชุมสภาที่ Zirnitra Stronghold ได้มีการขอร้องให้จักรวรรดิ Waloeder พันธมิตรของพวกเขาเพื่อช่วยเหลือพวกเขาในอุดมการณ์ของพวกเขา อย่างไรก็ตาม หลังการเจรจายุติลง ชาว Dhalmekians ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพึ่งพาพลังของไททันผู้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง  ซึ่งพวกเขาเป็นหนี้จำนวนมากอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นเวทีสำหรับการประลองระหว่างEikon Titan และ Eikon Shiva ของ Ironblood และนำมาซึ่งความสูญเสียของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินขนานับ 

 

                       แนวหน้าของกองทัพสาธารณะรัฐ                  

   

                            Biast – เรามาทันเวลาพอดี








Aevis – พวก Ironblood นี่มันสัตว์ร้ายชัดๆ โหดสัสเกินมนุษย์จริงๆ
Biast – ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้พวกมันคงไม่ต้องใช้ Dominant ใหม่ของพวกมันแล้วสินะ ... อะไร??

 






                       The Zirnitra Stronghold

                             The Nysa Defile

 

                  ทหาร สาธารณะรัฐ – ไปที่ประตู เดี๋ยวนี้ !!!         

            

หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ Dhalmekian – หมายความว่าไง ปฎิเสธ !! เจ้าจะไม่จับดาบของเจ้าเพื่อช่วยเรื่องของเรางั้นหรอ??

นายกรัฐมนตรี Dhalmekian – ใจเย็นก่อน ...  ราชาแห่ง Waloed เป็นแขกของเรานะ

อาณาจักรแห่งวาโลเอด (The Kingdom of Waloed) อณาจักรที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของ Valisthea ผู้อ้างสิทธิ์ครอบครองชายฝั่งแอชทั้งหมด มี Barnabas Tharmr ในฐานะ Dominant แห่ง โอดิน เป็นผู้ปกครองอาณาจักรคนปัจจุบัน จากการใช้พลังแห่งมาเธอร์คริสตัล Drake's Spine ของอาณาจักร 

จนทำให้ราชาที่มาจากคนพเนจรไร้แผ่นดินและไร้ชื่อองค์ใหม่นี้ สามารถกำจัดเหล่าสัตว์ร้ายในท้องถิ่นและพวกกบฏที่หมายจะลุกฮือต่อต้านการปกครองของเขา จนสร้างกองทัพอันเกรียงไกรขึ้นมา ทำให้ทวีปฝั่งตะวันออกอยู่ภายใต้ร่มธงของชาว Waloeder มาช้านาน ซึ่งตอนนี้เขาพยายามที่จะทดสอบความเกรียงไกรนั้นกับพรมแดนของเพื่อนบ้านของเขา

    ผู้บัญชาการกองอัศวินหลวง– ได้ยินฝ่าบาททรงตรัสแล้วนะ


ราชทูต –ชั้นสงสัยว่า ที่ท่านเรียกพวกเรามานี่แปลว่าท่านไม่เชื่อใจคนของท่านเลยงั้นหรอ? ก็ในเมื่อ Dhalmeks เป็นพลักดันให้พวกครูเซดกลับมาในสมรภูมิของอณาจักรแฝดไม่ใช่หรอ? หรือว่า ชั้นเข้าใจผิด?

ราชทูต – แล้วอีกอย่าง .. Dominant ของท่านยังไม่ได้ลงสนาม และถ้าเข้าลงมือ อัศวินของเราก็มีแต่จะเกะกะเปล่าๆ

หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ Dhalmekian – บางที่เธออาจจะไม่รู้ว่าตอนนี้พวก Ironblood มันมี Dominant ของมันเองแล้วนะ! เราคงจะโง่ตายเลยถ้าไปประเมินพวกมันต่ำแบบนั้น

Dominant – อัศวินของพวกมันน่ะกระจอก
หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ Dhalmekian – แกว่าไงนะ!!


Dominant – ถ้าป้อมปราการนี้พังเมืองหลวงก็แตกไปด้วย แล้วข้ามั่นใจว่าพวกครูเซดจะส่งเบี้ยชั้นดีเรียงหน้ากันเข้ามาก่อนที่เราคุยกันจบแน่

Dominant – เพราะงั้น ปล่อยเป็นหน้าที่ข้าเอง ..
หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ Dhalmekian – Kupka !!

      Hugo - วันนี้จะเป็นวันที่พวก Ironblood ก้าวเข้าสู่พายุใหญ่

 

                      Hugo - สงครามนี้กำลังจะจบลงแล้ว

                              ราชทูต – นี่เจ้าหัวขวด !!


                             Hugo – Benedikta

Benedikta – ดูแลตัวเองด้วยนะที่รัก
Hugo – สิงโตต้องระวังตัวตอนล่ากระต่ายด้วยหรอ? หรือเจ้าคิดว่าข้าเป็นอย่างหลัง

     Benedikta – เปล่าจ้าที่รัก คุณเป็นสิงโตอยู่แล้ว พ่อสิงโตของชั้น



Hugo – ข้าน่ะไม่กลัวไอ้เศษน้ำแข็งนั่นหรอกนะ Benedikta แต่ก็อยากได้ใครซักคนให้ความอบอุ่นกับข้าตอนกลับมาบ้านนะ


              Tiamat – ดูเหมือนทัพหน้าไปหมดแล้วนะ

 

Tiamat – นี่แหละโอกาสของพวกเรา ความวุ่นวายจะทำให้มันไม่สนใจพวกเรา
Biast – เปรี้ยงเดียวจบใช่มั๊ยงานนี้?
Tiamat – มันก็ต้องงั้นอยู่แล้วไม่ใช่หรอ ..เอาล่ะ ไปเอารถม้ามา

                   Wyvern – เดี๋ยว มีบางอย่างผิดปกติ 



                             อ๊ากกกก !!!

 





Tiamat – ไททั่น !! ... ดูเหมือนพวก Dhalmeks จะเบื่อกับการถูกเชือดแล้วสินะ


 


Biast – ฮ่าๆ ดูซิใครมาทักมายแกไอ้สารเลวเอ้ย !!
Tiamat – เอาล่ะ เรารีบไปกันเถอะ !

 



















                                  Wyvern – ระวัง !!




      Tiamat – แกจะมาตายที่นี่ไม่ได้นะ Wyvern รีบไปเร็ว !

 

                      Biast – ยังจะยืนบื้ออยู่อีกนานมั๊ยห๊ะ??

 


 

 

 

 

                         Wyvern – ระวัง !! Biast !!!


                    Biast – อ๊ากกกกกกกก !!!!!!



 

 

Wyvern – อ๊ากกกกกกกกกก !!!!!


 

             Tiamat – ชั้นบอกแล้วว่าแกจะมาตายที่นี่ไม่ได้นะ

 

                             Wyvern – … Biast …

 

                             เสียงเด็กผู้ชาย – Clive ! 

               เสียงเด็กผู้ชาย –  ตื่นได้แล้ว Clive !!

 

                        สิบสามฤดูร้อนก่อนหน้านี้ ……

                             Year of Realm 860

 

                                     Rosalitn 

                      The Grand Duchy of Rosaria 

 

ราชรัฐโรซาเรีย แคว้นอิสระเล็กๆในวาลิสเธียตะวันตกที่รวมตัวกันจากความสามัคคีจนสามารถก่อตั้งเป็นราชรัฐโรซาเรียที่รุ่งเรือง จนหลังจากหลายปีผ่านไป เหล่าราชวงศ์พบว่าพวกเขาถูกคุกคามจากการแพร่กระจายของ ไบล์ท ภัยคุกคามที่หากปล่อยไว้โดยไม่ตรวจสอบ จะนำอาณาจักรไปสู่ความพินาศอย่างไม่ต้องสงสัย ราชรัฐโรซาเรียจึงดึงอากาศธาตุจาก Drake's Breath ซึ่งเป็น Mothercrystal ที่ตั้งอยู่บนเกาะภูเขาไฟนอกชายฝั่งมาใช้ในฐานะ ผู้ควบคุมไฟ  ที่สามารถใช้พลัง Eikon แห่งไฟ สืบต่อกันมา 

Clive Rosfield ลูกชายคนโตของอาร์คดยุคแห่งโรซาเรีย ที่แม้ว่าทุกคนคาดหวังให้เขาสืบทอดเปลวไฟของฟีนิกซ์และตื่นขึ้นในฐานะ Dominant แต่โชคชะตากลับเลือกให้ Joshua น้องชายของเขารับภาระนี้แทน ทำให้ไคลฟ์อุทิศตนเพื่อฝึกฝนเพลงดาบจนเชี่ยวชาญแก่กล้า และได้รับการขนานนามว่า First Shield of Rosaria จนได้รับมอบหมายให้ปกป้องน้องชายของเขา โจชัว ในฐานผู้ครอบครองฟีนิกซ์

                                          🔶 Pride 🔶

                     ????? – ไง แค่นี้ยอมแพ้แล้วรึไง ? 





????? – ถ้านายไม่ได้ถูกเลือกให้เป็น โล่ ก็ยังมีอะไรให้ทำในคอกม้าอยู่นะ   เว้นเสียแต่ว่า นายสามารถปกป้องน้องชายนายได้ขณะนั่งกองกับเล้าหมู 

 

 

Joshua – ผมเชื่อว่าพี่ต้องทำได้แน่นอนครับ เพราะพี่ชายของชั้นดูแลชั้นมาตลอดเลย จริงๆนะ ใช่ป่ะครับพี่ !!
Jill – ลุยเลย คราวนี้นายตีเขาโดนแน่นอน
Joshua – อย่าเพิ่งยอมแพ้ตอนนี้นะครับพี่ 

 

 

               ผู้บัญชาการ Murdoch – จับอาวุธขึ้นมา !!

 

 

ผู้บัญชาการ Murdoch –  อย่าให้กองเชียร์ผิดหวังล่ะ มาเริ่มกันใหม่อีกที ไหนโชว์กระบวนท่าให้ชมหน่อยซิ

 

          Objective > เอาชนะ ผู้บัญชาการ Murdoch

 

เรียนรู้ระบบการต่อสู้เบื้องต้น

กดสี่เหลี่ยม > Malee Attack การโจมตีระยะประชิดด้วย 4 คอมโบ

พื้นฐาน 

กดสามเหลี่ยม > โจมตีแบบไฟใส่ศัตรูในระยะไกล 

กด R1 > หลบการโจมตีของศัตรู 

ในขณะหลบ หากอยู่ในระยะและจังหวะที่เหมาะสมจะทำให้เกิดสภาพการชะลอเวลาทำให้ศัตรูช้าลง สามารถสวนกลับด้วยการโจมตีระยะประชิด (สี่เหลี่ยม) หรือ เวทย์ (สามเหลี่ยม) ได้ทันที เรียกว่า > Precision Dodging 

 

กด O จะเป็นการใช้ท่า Eikonic Feats ซึ่งจะทำให้ Clive แข็งแกร่งและว่องไวเหนือมนุษย์ด้วยพลังของ Eikons ซึ่งความสามารถของพลังดังกล่าวก็แตกต่างกันตามการเลือกใช้งาน Eikons แต่ล่ะตัว เบื้องต้นตอนนี้ Clive ยังมีแค่พลังของ Eikons Phoenix การกด O จึงเป็นการใช้ท่า Phoenix Shift พุ่งเข้าหาศัตรูด้วยความรวดเร็วพร้อมเปลวเพลิงหุ้มร่างกาย 

การใช้ไอเทมขณะต่อสู้ สามารถกดเลือกใช้ตามปุ่มทิศทางตามที่ติดตั้งไอเทมไว้ 

 

เรียนรู้ระบบ Breaking Opponent’s will 

หรือการทำลายเจตจำนงในการต่อสู้ของศัตรูด้วยการทำให้ Will Gauge หรือเกจสีเหลืองใต้พลังชีวิตหมดลง ด้วยการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ศัตรูฟุบลงกับพื้นและอ่อนแอลง เรียกว่า Staggering ในขณะที่ Will Gauge กำลังค่อยๆฟื้นคืนกลับมาสู้ใหม่ ก็สามารถเข้าไปโจมตีมันฝ่ายเดียวได้จนกว่า Will Gauge ของมันจะกลับมาเต็ม

 

 Eikonic Ability > กด R2 ค้าง + ปุ่มต่างๆตามท่าของ Eikon ที่ติดตั้งไว้ ซึ่งตอนนี้ Clive มี Eikons Phoenix อยู่แค่ตัวเดียวจึงสามารถใช้ได้แค่ท่า Rising Flames ของ Phoenix เท่านั้น 

             ผู้บัญชาการ Murdoch – แพ้จนได้ เฮ้อ ...

     Joshua – ชนะแล้ว เห็นป่ะ บอกแล้วว่าพี่ผมต้องชนะ 

             Clive – ก็เล่นเอาผมเหนื่อยอยู่เหมือนกันนะ 

 

ผู้บัญชาการ Murdoch – ก็สมควรแล้วที่พ่อของนายเลือกนาย ... นายคือ โล่แห่งเปลวเพลิงของจริง และอย่าให้ใครมาบอกว่านายเป็นอย่างอื่น รวมทั้งชั้นด้วย 

ผู้บัญชาการ Murdoch – มองอะไรกันอยู่ได้วะ กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองกันได้แล้ว ไป๊ !!

 

                        Clive – อ๊ากก เจ็บเว้ยยย .....

 

 

Clive – Joshua ? … พี่ก็แค่เหนื่อยน่ะ เปลวไฟของฟินิกซ์คือของขวัญอันล้ำค่านะ อย่าเอามาใช้แบบเปล่าประโยชน์กับพี่แบบนี้เลย 
Joshua – จะเสียเปล่าได้ไงล่ะ ก็พี่เป็นโล่ที่คอยปกป้องผม ทำไมจะไม่ได้  

Joshua – แค๊กๆๆๆๆๆ 
Clive – นี่ไงเหตุผล ... เมื่อเช้านี้นายก็ไอ นายไม่ควรมาอยู่กลางแจ้งแบบนี้นานๆนะ 

Joshua – ผมไม่เป็นไรหรอกน่า แค่เป็นหวัดนิดหน่อยเอง 
Clive – อย่าไปฝืนมากนักรู้มั๊ย

 ทหาร - "นายท่าน" กลับมาแล้ว !!!!!
Joshua – พ่อกลับมาแล้วอ่ะพี่ ..ป่ะ ไปต้อนรับพ่อกัน !! 

 


 

สาวใช้- นายหญิงคะ ได้โปรด สถานที่แบบนี้ไม่ใช่ที่ที่นายหญิงจะมานะคะ 
Duchess Anabella – ชั้นยอมมาที่สกปรกๆแบบนี้ก็เพื่อลูกรักของชั้นต่างหากล่ะ  ..... ขอขอบคุณชาวโรซาเรียทุกท่านสำหรับความภัคดีที่ไม่เคยจางหาย

Duchess Anabella – ไง Joshua ลูกรัก ...ลูกไม่ควรออกมานอกประตู เราคุยเรื่องนี้กันแล้วไม่ใช่หรอ?
Joshua – ผมขอโทษครับ 


                          Clive – สวัสดีครับแม่ ... 

       Duchess Anabella – มาเถอะโจซัวท่านพ่อรออยู่นะ 

Duchess Anabella – Lord Murdoch !
Murdoch – เอ่อ ... ครับ นายหญิง ..







ทหาร – ช่างเป็นวิธีปฎิบัติต่อเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองได้เท่าเทียมดีจริงๆ เลย
ทหาร – ข้ารู้ มันไม่ใช่ความผิดของเขาซะหน่อย ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเกิดมาเป็นฟินิกซ์ได้ซะที่ไหน

 

Clive – เราก็ควรตามพวกเขาเป็นด้วยเหมือนกันนะ ... 
Jill – อืมม ... 

 







           Arcduke Elwin – ตามสบายเถอะเพื่อนข้า 

Joshua – ขอต้อนรับกลับบ้านครับพ่อ 
Arcduke Elwin – ขอบใจมาก Joshua .. เราสบายดีใช่มั๊ย?
Joshua – ครับพ่อ ผมสบายสุดๆเลยครับ วันนี้ผมกับ Jill ก็เพิ่งไปดู Clive ซ้อมมาด้วยล่ะ 
Arcduke Elwin – โอ้ งั้นหรอ ดีๆ 

       Clive – เฮ้ เงียบๆหน่อยสิ Torgal ไม่ใช่ตอนนี้นะ 

            Arcduke Elwin – วันนึงมันจะเป็นหมานักล่าที่ดี 

 

Clive – ครับพ่อ 
Arcduke Elwin – ยืนขึ้นเถอะยัยหนู 
Jill – ขอบคุณค่ะ นายท่าน 
Clive – ทางเมืองหลวงดีใจกันมากที่ท่านพ่อกลับมาอย่างปลอดภัย 

Arcduke Elwin – สงครามกำลังใกล้เข้ามาแล้ว ลูกพ่อ เราต้องเตรียมพร้อม

Clive – สถานการณ์มันเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรอครับ?
Arcduke Elwin – มาที่ห้องบัลลังก์ เราจะคุยเรื่องนี้กันที่นั่นก็แล้วกัน 
Clive – ครับ !

                             Jill – Torgal กลับมานี่ !!

Jill – นี่แกคิดว่าจะไปไหนเนี่ยห๊ะ?  ไคลฟ์มาที่นี่ก็เพื่อจะพบท่านดยุคไม่ใช่หรอ? งั้นก็รีบไปสิ 
Clive – อืมม ได้ๆ 

 

 

                               🔶 Sunrise, Sunset 🔶

 

Objective > เดินทางเข้าไปในห้องบัลลังก์ 

 

ในการเดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจ ถ้าไม่เน้นสำรวจค้นหาอะไรก็สามารถกด L3 เกมส์ก็จะมีไกด์นำบอกที่ทางให้ไปให้  

 

Clive – เอ้านี่เจ้าทำแอปเปิ้ลตกแล้ว ... ไม่เป็นไรยังไม่เสียหาย ยังใหม่อยู่เลย 

ทาส – เอ่อ ครับ ..

 

เจ้าของทาส – ข้าต้องขอโทษด้วยนายท่าน อย่ากังวลกับเจ้าหมอนี่เลย รีบก้มหัวให้นายท่านสิเจ้าโง่ 

ทาส – เอ่อ

เจ้าของทาส – ไม่ต้องพูดดดด รีบก้มหัวสิ !!

 

 Clive – เขาก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรนี่ จริงๆนะ

เจ้าของทาส – อย่าไปใจดีกับพวกมันมากเลยครับ การที่มันได้มายืนต่อหน้านายท่านแบบนี้มันก็ไม่สมควรมากอยู่แล้ว ทำไมทั้งพวกจักรวรรดิกับสาธารณะรัฐถึงปฏิบัติต่อ Bearers ไม่ดีก็ไม่รู้ ซึ่งเขาโชคดีมากที่เกิดอยู่ในดินแดนการปกครองของพ่อของท่าน และข้าก็เตือนเขาทุกวันถึงเรื่องนี้ 

Clive – พวกท่านยืนขึ้นเถอะ ได้โปรด 

 

Clive – ชั้นเชื่อว่า ความโชคดีของเขาจะยังอยู่

เจ้าของทาส – แน่นอน หากนั่นเป็นความปรารถนาของพ่อของท่าน 

Clive – อย่าทำงานหนักเกินไปล่ะ โปรดจำไว้ว่าทั้งหมดก็เพื่อประโยชน์ของอณาจักรนี้ที่พวกท่านกำลังรับใช้ 

เจ้าของทาส – เราทุกคนก็คิดแบบนั้นแหละ นายท่าน ...เอาล่ะ ข้าขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะครับ ...

 

 

Bearer ส่วนใหญ่จะมีรอยสักที่แก้ม  ซึ่งบ่งชี้ว่าพวกเขากำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือของชนชาติใดชนชาตินึง และถูกตราหน้าว่าเป็นทาสเพราะมักถูกมองว่า เป็นแค่เครื่องมือเนื่องจากความสามารถในการใช้เวทมนตร์โดยไม่ต้องใช้พรจากคริสตัล Mothercrystals พลังของพวกเขาอาจไม่ทรงพลังเท่า Dominant แต่ยังไงพวกเขาก็เป็นสิ่งที่ต้องระวัง 

 

การใช้เวทมนตร์มากเกินไปจะทำให้ร่างกาย Bearer เสียหายและอาจทำให้กลายเป็นหินได้ ซึ่งการกลายเป็นหินนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับมนุษย์ที่ใช้คริสตัลเพื่อเสกเวทมนตร์ บางอณาจักรที่เข้มงวดเรื่องนี้ทำการตรวจสอบว่าเด็กแรกเกิดหลังคลอดทันทีว่ามีความสามารถเหมือน Bearer หรือไม่ มี Bearer บางคนสามารถหลบหนีการตรวจสอบและไม่ถูกทำเครื่องหมาย แต่กรณีนี้หายากมาก

 

Joshua – อ่า Clive คือ ผม …. พี่กำลังกังวลเรื่องสงครามนั่นใช่มั๊ยครับ ? พวกทหารบอกฟีนิกซ์จะช่วยพวกเขา แต่ ผมไม่แน่ใจว่าจะทำได้มั๊ย

Clive – ไม่ต้องห่วงนะโจชัวร์ ถึงเวลาพี่จะนำทางให้เอง และพี่จะปกป้องนายด้วย พี่จะปกป้องนายเสมอนะ 

Joshua – ผมรู้ ขอบคุณครับพี่ 

 

 

 

 

Duchess Anabella – นี่พวกแกไม่เข้าใจรึไง พลังของฟินิกซ์สถิตอยู่กับโจชัวร์ แค่โจชัวร์เท่านั้น ถ้าความเจ็บป่วยใดเกิดขึ้นกับเขา นั่นส่งผลถึงหัวบนบ่าของพวกแกด้วย อย่าละเลยหน้าที่อีกจำไว้ !!

 

 

                                   ห้องบัลลังก์

 

 





                                      Jill - โชคดีนะ 








        Clive – ผมมาตามคำบัญชาแล้วครับ , your grace

 

Arcduke Elwin – เอาล่ะ เลิกเลียบู๊ทข้าได้แล้ว แม่เจ้าไม่ได้อยู่ที่นี่ 

 

Clive – สถานกาณ์ตามดินแดนต่างๆดีขึ้นบ้างมั๊ยครับ ?

Arcduke Elwin – ไม่เลย ส่วนใหญ่ก็ถูก Blight กลืนกินจนดำมืดไปหมด ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ Blight ได้ครอบครองพื้นที่ตอนเหนือทั้งหมดแล้ว น่าจะพอซื้อเวลาได้ไม่นานก่อนมันจะข้ามพรมแดนมา 

Clive – ด้วยเปลวไฟ ..

 

Arcduke Elwin – เตียงทั้งหมดในเมืองหลวงถูกจับจองโดยพวกที่หนีมาจากแดนมรณะ แม้จะพยายามส่งพวกเขาไปยัง Port Isolde แต่พวกเขาก็ยังตามมาอีกมาก ยิ่งเราล่าช้าเรายิ่งใกล้ภัยพิบัติมากขึ้น เราต้องเดินหน้าลุยกันแล้ว 

 

        Clive – จะเผด็จศึกกับ Iron Kingdom งั้นหรอครับ?

 

Lord Murdoch – เราแลกมันกับพวกมันมานานเกินไปถึงเวลาต้องจบเรื่องนี้แล้ว 

Arcduke Elwin – อย่างน้อยที่สุด ก็เพื่อรักษา Drake’s Breath ให้ปลอดภัย เพราะถ้าไม่มีพรจาก MotherCrystal เราก็ไม่สามารถต้านการแพร่กระจายของ ไบล์ท ได้ 

 

Clive – พวก IronBlood ไม่ยอมแพ้ง่ายๆแน่นอน ศึกนี้ใหญ่หลวงนัก 

 

Arcduke Elwin – เราจะเดินทางไป Phoenix Gate พรุ่งนี้ เพื่อฟังถอยคำของบรรพบุรุษของเราตามประเพณี 

 

   Clive – งั้นผมขอตามไปด้วยในฐานะ โล่ของโจชัวร์ ครับ !!

 

    Arcduke Elwin – ไม่ พ่อมีบางอย่างให้แกทำก่อน 

 

Lord Murdoch – นายคงพอได้ยินข่าวมาบ้างแล้ว เรื่องสัตว์ร้ายที่มาจากทางเหนือเข้ามายังพรมแดนของเรา 

Clive – ถ้าข่าวลือเรื่อง ก็อปลินในบึง Stillwind ละก็ ใช่ครับ เคยได้ยิน

 Lord Murdoch – งั้นนายคงรู้นะว่าต้องทำไง ชั้นมีมือดีสองคนให้ร่วมเดินทางไปกับนายด้วย พรุ่งนี้เราจะขึ้นเหนือตอนเช้า ส่วนนายก็ไปที่บึง Stillwind ค้นหาและกำจัดเป้าหมายเสร็จแล้วค่อยตามไปเจอกันที่ Phoenix Gate

 

                        Arcduke Elwin – มานี่สิลูกพ่อ

 

Arcduke Elwin – นี่คือเวลาที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเจ้าและเป็นทางเดียวที่จำทำให้แม่แกหุบปากซะที ...หึหึ 

 

Clive – ผมจะทำหน้าที่ตามคำบัญชาให้ดีที่สุดครับ , your grace

 

Arcduke Elwin – ดี งั้นก็พักผ่อนให้เพียงพอ เราจะเดินทางกันรุ่งสางเลย 

Clive – ครับ !!  , your grace

 

 

                                      Active time Lore 

 

 

กดหน้าทัชสกีนที่จอยค้างเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ Active time Lore หรือการเรียนรู้ประวัติศาสตร์แบบเร่งด่วน ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวการเดินทางของ Clive ที่คุณจำเป็นต้องรู้เอาไว้

 

 

 

Lord Murdoch – สงครามครั้งนี้เราค่อนข้างคาดหวังกันมาก ไม่ใช่แค่เรื่องการครอบครอง Mothercrystal เท่านั้น แต่เราไม่อาจยอมให้พวก Ironblood จอมโหดเหี้ยมขึ้นมายึดครองฝั่ง Storm ได้ 

Clive – ผมรู้ ผมยอดตายดีกว่าต้องตกเป็นทาสการยึดคลองของพวกมัน ยังไงก็ขอให้พรุ่งนี้เดินทางปลอดภัยนะครับ 

Lord Murdoch – นายก็ด้วยไคลฟ์ ขอให้ดาบของนายดีพอที่จะผ่านทุกอย่างไปได้นะ 

 

 

 

Objective > เดินขึ้นไปที่ห้องนอนของ Clive 

 

 








Duchess Anabella – ครั้งนี้คุณจะไปนานแค่ไหนคะ?

Arcduke Elwin – ไม่นานหรอก ไม่ 4 ก็ 5 วันได้ 

Duchess Anabella – คุณพูดกับโจชัวร์รึยังคะ?

Arcduke Elwin – ชั้น เอ่อ ชั้นไม่สามารถทิ้งเข้าไว้ข้างหลังได้หรอกนะ สายเลือด Rosfield ก็ไหลอยู่ในตัวเขาเหมือนกัน 

 

Arcduke Elwin – ก่อนจะออกรบ เราจะไปทำพิธีกรรมที่ประตู ฟินิกซ์ ตามประเพณีของเรา คุณก็รู้ 

 

Arcduke Elwin – และมีเพียง Dominant หนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะเข้าไปที่ Apodytery ได้  ใช่ ชั้นจะต้องพาโจชัวร์ไปด้วย 

 

     Duchess Anabella – นี่คุณจะบ้าหรอ ลูกยังเด็กอยู่เลยนะ 

 

Arcduke Elwin – เธอคิดว่าชั้นไม่รู้รึไง ? แต่เขาก็เป็นรัชทายาทและเป็น ฟีนิกซ์ด้วยเช่นกัน !  เธอไม่สามารถจะสวมเสื้อผ้าของเด็กทารกไปตลอดหรอก และก็ไม่ต้องห่วงหรอก Clive จะปกป้องเขาเอง ถึงเขาจะอายุแค่ 15 แต่ก็พร้อมจะเป็นทหารแล้ว และเป็นได้ดีด้วย ! เขาจะเป็นโล่ที่ดีที่สุดของโจชัวร์

 

Duchess Anabella – คุณเห็นอะไรในตัวเขามากกว่าเห็นในตัวคนที่เป็นฟีนิกซ์อีกนะ เขาถูกปฎิเสธ จำไม่ได้หรอ? ตระกูลเราไม่เคยมีใครล้มเหลวแบบนี้ เขามันไร้ค่า เหมือนไอ้พวกชาวบ้านทั่วไปนั่นแหละ

 

Arcduke Elwin – ผมก็เหมือนกัน ที่รัก 

Duchess Anabella – งี่เง่า คุณคือ อาร์คดยุคแห่งโรซาเรียนะ !!

Arcduke Elwin – ไม่ใช่อีกแล้ว 

 

Arcduke Elwin – เธอก็รู้ว่า ชั้นได้นั่งบัลลังก์ก็เพราะพ่อมาจากไปก่อนเวลาอันสมควร ชั้นก็แค่นั่งรอจนกว่า โจชัวร์ จะโตพอ ก็เท่านั้น 

 

        Duchess Anabella – คุณเป็นลูกคนโตของตระกูล

 

                       ได้ครองบัลลังก์ก็เหมาะสมแล้ว

 

Duchess Anabella – คุณไม่ได้ทำให้สายเลือดอันสูงส่งของเราต้องอับอาย

 

Arcduke Elwin – หากไม่มีคนอย่าง ไคลฟ์ คอยปกป้องพวกเรา สายเลือดอันสูงส่ง ของเธอก็คงจะตายไปนานแล้ว 

 

Arcduke Elwin – เราแค่เพิ่งต้นเท่านั้น .... พรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้า ผมต้องนอนแล้ว 

 




 

     Clive – ถึงเวลาแล้วสินะ ..... เวลาที่จะพิสูจน์ตัวเอง 

 

Jill – อธิฐานกับดวงดาวอยู่หรอ?

Clive – ชั้นคงแก่เกินจะทำแบบนั้นแล้วล่ะนะจิล ...เดี๋ยวชั้นคงต้องนอนแล้วล่ะ

Jill – อืมม ชั้นรู้ ...




Jill – พรุ่งนี้นายจะต้องเดินทางไปกับพวกเขาด้วยใช่มั๊ย?

Clive – ก็ชั้นเป็นโล่ของโจชัวร์นี่นา ต้องคอยปกป้องเขา เขาเองก็ต้องเสี่ยงมาก ชั้นก็แค่ว่าหวังว่าจะช่วยให้เขาพ้นจากอันตรายจากตัวเขาเอง 

Jill – Clive . นาย ...

 

Clive – แล้วชั้นก็มีอีกภารกิจนึงต้องไปทำก่อน งานนี้เป็นครั้งแรกที่พ่อสั่งให้ชั้นเป็นคนคุมทีมเองด้วยล่ะ  

 

Jill – ถ้านายไม่ยอมไปขอพรกับ Metia เพื่อให้กลับมาอย่างปลอดภัย เดี๋ยวชั้นไปขอพรให้เองนะ 

 

 






 

 

Jill – จะมีสงครามเกิดขึ้นอีกสินะ ใช่มั๊ย? ตั้งแต่ชั้นมาอยู่ที่นี่ ชั้นเพิ่งรู้สึกสงบ คิดว่าสงครามระหว่างประเทศของเราจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วซะอีก แต่ 

 

                  มันคงไม่มีวันจบสินะ สงคราม เนี่ย ?

 

Clive – สงครามครั้งต่อไปจะใหญ่กว่าที่เคยเจอมา

Jill – แต่นายจะไม่เป็นไรใช่มั๊ย Clive ? ยังไงนายก็คือ โล่แห่งโรซาเรียที่ได้รับพรจาก ฟีนิกซ์  

 






Clive – ที่นี่เริ่มหนาวแล้ว เรากลับเข้าข้างในกันเถอะ ..... คุณผู้หญิง

 

                              Jill – ฝันดีนะ Clive 

 



                                     เช้าวันรุ่งขึ้น ....

 

 

 

   Clive – โทษทีนะ Ambrosia วันนี้เราไม่ได้ไปล่าสัตว์กันหรอกนะ 

 




Jill – ไม่ต้องกลัวนะ นายจะต้องทำได้ดีแน่นอน

Joshua – อืมมม ชั้นจะพยายามก็แล้วกัน !

 




                             Jill – นายก็โชคดีนะไคลฟ์ 

 






Arcduke Elwin – เพื่อข้า !!  วันนี้เราจะเดินทางไป Phoenix Gate ขอให้พรจาก Mothercrystal ไปกับพวกเราด้วย 

 

ทหาร – และจงปกป้องเปลวเพลิงของวิหคตลอดไป !!!  เฮ !!!!!!!!!!!!!!!

 



คนเลี้ยงโจโกโบะ –  ลอร์ด โรสฟิลด์ ผมจะดูแลมันอย่างดีจนถึง Phoenix Gate เลยครับ 

Clive – ขอบใจมากนะ

 

ทหาร – พวกเราพร้อมออกเดินทางแล้วครับท่านลอร์ด 

ทหาร – ข้าอยากจะบอกว่า รู้สึกเป็นเกรียติมากที่ได้รับใช้และเคียงข้างท่านครับ

 

Clive – ต้องบอกก่อนว่า ภารกิจของเราครั้งนี้ไม่ใช่การไปตรวจสอบอย่างเดียวนะ เพราะถ้าเจอพวกก็อปลินจริง พวกมันคงไม่ยอมออกจากพื้นที่ง่ายๆแน่นอน มันเป็นมอนสเตอร์ที่ดุร้าย การประเมินพวกมันต่ำเกินไปจะทำให้มันเป็นอันตรายต่อเราได้

ทหาร – ไม่ใช่วันนี้หรอกครับ เราไม่พลาดแน่นอน !

 

Clive – Wade . Tyler ใช่มั๊ย?  เอาล่ะ  ไปทำหน้าที่ของเรากันเถอะ 

Wade – ด้วยความยินดีครับท่านลอร์ด 

Tyler – ตามคำบัญชาเลยครับ 

Clive – งั้นก็ไปที่บึงนั้นกันเถอะ !   

 

 



  Clive –  ขอให้พรจาก Mothercrystal ไปกับพวกเราด้วยเถิด  

 

 

                                     Stillwind

 

ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของ Rosaria บึงที่มีอารยธรรมเก่าแก่ ตอนนี้ถูกทิ้งร้างเพราะผู้คนที่เคยตั้งรกรากต้องหนีออกจากพื้นที่เนื่องจากหวาดกลัวเหล่าสัตว์ร้ายที่หนีมาจากแดนมรณะ

 

Clive – จับตาดูพวกก็อปลินเอาไว้ให้ดีล่ะ ตามรายงานว่าพวกมันอยู่ที่นี่ 

Tyler – จากนี้ไปมีแต่หนองน้ำเต็มไปหมดเลย เดินระวังๆด้วยครับนายท่าน 

 

 

                                  Lost in a Fog

 

Clive – ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าที่แบบนี้เคยมีคนอาศัยอยู่ด้วย 

Tyler – หมู่บ้าน Stillwind อยู่ข้างหน้านี่แหละครับ แม้จะเหลือแตกซากก็เถอะ 

 

                Tyler – เดี๋ยวครับ ...นั่นไงพวกมัน

 

 



                           Clive – เอาล่ะ ลุยกันเลย 

 

Objective >> กำจัดฝูง Goblin Mugger ให้หมด 

 

 

Clive – พวกก็อปลิน ... จริงตามที่เคยมีข่าวมาจริงๆด้วย 

Tyler – เราลุยต่อกันเถอะครับ ผมว่าข้างหน้ายังมีอีกแน่นอน 

 

 

Objective >>  ลุยเข้าไปจนถึง Drowned Village กำจัดก็อปลินอีกฝูง ลุยต่อเข้าไปยังหมู่บ้านด้านในต่อจะพบพวกก็อปลินออกมาล้อมแบบปิดทางหนีพร้อมกับตัวจ่าฝูงที่ออกมาบัญชาการณ์ด้วยตัวเอง 

 

Wade – นี่มันกับดักนี่หว่า 

Tyler – นายท่านครับ เอาไงดี  ..

Clive – เออ กำลังคิดอยู่ 

 

Clive – นั่นไงตัวจ่าฝูง อยู่บนหลังคา แต่สงสัยคงต้องจัดการพวกลิ้วล้อของมันก่อน ออกมาเพียบเลย 

 

Objective >> กำจัดฝูง Goblin Mugger ให้หมด แล้วตัวจ่าฝูงจะเรียกลูกสมุนร่างยักษ์ออกมา 

 

                                  BOSS – Gigas 

Clive – ดูเหมือนไอ้ตัวจ่าฝูงมันจะหนีไปแล้ว

Wade – หนีทำไมว่ะ กลับมาสู้กันก่อนสิไอ้ขี้ขลาด !!

Tyler – เรารีบตามมันไปเถอะครับ ก่อนที่มันจะเรียกพวกมาอีก !

 

Objective >> ไล่ตามจ่าฝูง Goblin

 

 



                Clive – ไง ไม่มีที่ให้หนีแล้วสินะ ! 

 

 





 

Clive – เฮ้ย !! อะไรวะเนี่ย !!?

Wade – ชิหายแล้วแบบนี้ !!

 

Tyler – morbol งั้นหรอ?

Clive – มันมาไกลจากทางใต้เยอะเลยนะเนี่ย !!

 

                          BOSS – Morbol 

 

                               Clive – ..แฮกๆๆ .... 

 

Tyler – น้ำครับ ... ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้เห็นไอ้เจ้านี่ ไม่ใช่แค่ก็อปลินแล้วที่หนีมาที่ Rosaria แต่มี morbols ด้วย ..

 

Clive – ชั้นจะรอขอให้พ่อส่งกำลังทหารออกไปจัดการพวกมัน ถ้าเราไม่จัดการมันที่นี่ตอนนี้ ไม่นานมันไปถึงประตูเมืองเราแน่

Wade – ผมว่าเราควรจะกลับกันได้แล้วนะครับ ขืนอยู่ที่นี่ถึงตอนกลางคืนน่าจะไม่ดีนักหรอก 

Tyler – ถ้าเราออกเดินทางตอนนี้เราน่าจะถึง Phoenix Gate ก่อนค่ำแน่นอน 

 

 







                   Clive – ไอ้ "Blight" บ้าเอ้ย …..

 

 

หากจะกล่าวให้รู้ถึงความเข้าใจเกี่ยวกับ ภาวะพิบัติ ที่เรียกว่า Blight ก็ต้องย้อนอดีตไปเมื่อ 1,500 ปีก่อนเกมจะเริ่มต้น

 

ได้เกิดสงครามครั้งใหญ่ทำให้อาณาจักรลอยฟ้าล่มสลาย เศษซากของอาณาจักรดังกล่าวได้ตกลงสู่พื้นโลกวาลิสเธีย ก่อให้เกิด ภูเขาคริสตัลขนาดมหึมาที่เรียกว่า คริสตัลมารดา (Mothercrystal) คั่นระหว่างสองทวีป วาลิสเธีย (Valisthea) จนทำให้ทวีปถูกแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งตะวันตกเรียกว่า Storm ส่วนฝั่งตะวันออกเรียกว่า Ash

 

คริสตัลมารดา ที่ตั้งตระหง่านสูงขึ้นไปเหนืออาณาจักรที่ตั้งอยู่รายรอบพวกมันเป็นเวลานานหลายชั่วอายุคน ซึ่งทำให้ผู้คนทั่วทั้งทวีปได้รับ พรแห่งคริสตัลมารดา หรือ "เอเธอร์" อากาศธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่กลายเป็นพลังงานเวทย์มนต์ให้ประชาชนในโลกนั้นได้ใช้กระทำการต่าง ๆตามศรัทธาของตน แต่ ความเสื่อมของ "เอเธอร์" ก็นำมาซึ่งโทษมหันต์ไม่ต่างกัน มันได้ก่อให้เกิดภาวะพิบัติที่เรียกว่า Blight เผาไหม้กลืนกินพื้นดินและสรรพชีวิตให้เน่าตายรุกรามบานปลายไปทั่วทั้งทวีป  

 

ทั้ง พร และ โทษภัย จาก คริสตัลมารดา ได้นำมาซึ่ง สงครามนับครั้งไม่ถ้วนทั่วทุกหนแห่งเพื่อแย่งชิงพลังของคริสตัลมารดาที่อยู่ในการครอบครองของแต่ละอณาจักร ไปพร้อมๆกับต้องรับมือกับ Blight ภัยพิบัติที่กำลังรุกคืบกลืนกินทั่วทั้งทวีป ในอีกไม่ช้าก็เร็ว  

 

ความหวังหนึ่งเดียวคือ บุคคลพิเศษที่ได้รับเลือกจากพรของคริสตัลมารดาให้ตื่นขึ้นในฐานะ ดอมมิเน้นท์ (Dominant) ร่างอวตารของสิ่งมีชีวิตในตำนานที่มีพลังมหาศาลนามว่า เอคอน (Eikon) หนึ่งตนต่อหนึ่งธาตุเพื่อรักษาสมดุล แต่ทว่า แต่ละอณาจักรหาได้ใช้พลังของ Eikon ของตนเพื่อหยุดยั้ง เภทภัย เพื่อ รับมือกับ Blight แต่กลับนำพลังนี้ไปรับใช้อำนาจ เพื่อความทะเยอทะยานของตนเอง

 

 

 

                                     Phoenix Gate 

 

ป้อมปราการเก่าริมทะเลไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ปกป้องโรซาเรียจากศัตรูทางตอนเหนือมาตั้งแต่ยุคอดีตกาล แต่ยังทำหน้าที่เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของอณาจักรตามความเชื่อว่าเป็นสถานที่สำหรับติดต่อกับ Dominant บรรพชน เพื่อฟังคำแนะนำก่อนที่จะออกทำศึกสงครามที่สำคัญๆของบ้านเมือง 

 

 

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ...................

 

Wade – ทันใดนั้น ! ดวงตาแดงกร่ำนับพัน เดี๋ยวๆๆ อย่าเพิ่งตื่นเต้น เดี๋ยวก่อน รอให้พวกนายได้ยินสิ่งนี้ก่อน 

 

นายท่านของพวกเราก็ชักดาบออกมา ฉับบบบ !!! ไอ้จ่าฝูงก็อปลินก็กรี๊ดร้องออกมา !! แล้วพุ่งตรงลงกระเพาะของไอ้มอร์โบล

 

ทหาร – สุดยอดดดดดด !! ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ทหาร –  เล่ามาอีก เล่าอีกๆๆๆๆๆ

 

Tyler – ดื่มและมีความสุขให้เต็มที่ พรุ่งนี้พวกเราจะมีงานใหญ่ต้องทำกัน !!

 

Tyler – มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีนะที่ได้เห็นลูกศิษย์ของคุณสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง นายน้อยของเราต้องมีอนาคตที่สดใสแน่นอน 

Murdoch – ใช่ และในวันนึงเขาอาจยอมเข้าร่วมกับพวกเรา 

 

 



Arcduke Elwin – เป็นอะไร ไม่สนุกหรอ?

Joshua – เปล่าครับพ่อ แค่เหนื่อยนิดหน่อย

Arcduke Elwin – เยี่ยมเลย .. แต่ก็นะ วันนี้เป็นวันที่ยาวนานทีเดียว

 

Joshua – พวกเขาชอบ Clive กันใช่มั๊ยครับ?

Arcduke Elwin – ใช่ พี่ชายลูกเป็นโล่ที่ยอดเยี่ยม พวกเราภูมิใจในตัวเขา

 

Joshua – พ่อครับ ... ทำไม Dominant ต้องมาเกิดที่ตระกูลของเราตลอด? ไม่เห็นจะยุติธรรมเลย 

Arcduke Elwin – เราคงไม่สามารถดำรงอยู่ได้ถ้าไม่ได้รับพรจากคริสตัล แล้วคริสตัลก็ใช้เวทย์มนต์ผ่านพวกเรา 

 

Arcduke Elwin – ลูกคือผู้ที่ได้รับพร โจชัวร์ พรที่ทำให้เกิดมาเป็น Dominant ผู้ใช้พลังแห่ง Eikon ตระกูลของเราถูกเลือกให้มีหน้าที่แบ่งปันพลังนี้ไปสู่ผู้คน นั่นแหละคือหน้าที่ที่พวกเราต้องทำ 

 

ตามชั้นมา เด็กน้อยเอ๋ย มาสู่ทุ่งหญ้าที่เขียวขจี 

ตามเปลวไฟมา แล้วลุกขึ้นจากเงามืด

 

ได้ยินเสียงของโรซาเลี่ยนที่ดังขึ้นมา

ถูกพัดพาโดยปีกแห่งชีวิต ของวิหคเพลิง 

 

ด้วยสายลม ที่พัดพา 

ในดินแดนอันยิ่งใหญ่แห่ง Storm 

 

       Arcduke Elwin – ดังอีก พี่น้องเรา ดังอีก !!!!!!!

 

 

แหงนหน้าขึ้นมาท้องฟ้าสีครามอันไร้ขอบเขต 

ดูว่าไฟในท้องฟ้ากวักเพรียกหาได้อย่างไร 

 

 

     Joshua – ชั้นไม่คิดว่า ชั้นจะถูกคิดถึงแบบนั้นหรอกนะ ..

 

 



Clive – น่าสงสารจิล ... เธอคงต้องตกใจแน่ถ้ารู้ว่าแกแอบตามมาด้วย  

คำว่า “เป็นหมาที่ดี” สำหรับแก น่าจะเกินจริงไปหน่อยมั้ง  

 

Joshua – มาหลบอยู่นี่เอง 

Clive – แล้วนายมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?

Joshua – ก็ผมไม่เห็นพี่ในงานเลี้ยงนี่

 

Clive – งานเลี้ยง เป็นช่วงเวลาเดียวที่ โล่ จะถูกดูแลอย่างดี และ ชั้นไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของเค้กและ ale (เอล เป็นคำโบราณหมายถึง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ทำจากมอลต์จากข้าวบาเลย์) 

Joshua – ส่วนชั้นก็ไม่ชอบผัก ฮ่าๆๆ 

Clive – ฮ่าๆๆๆๆๆ 

 





Joshua – ผมได้ยินเรื่องที่พี่ฆ่า morbol ด้วยล่ะ พวกทหารร้องเพลงสรรเสริญพี่กันใหญ่เลย

Clive – พวกเขาไม่เคยใช้งานพี่น่ะสิ พอเห็นชั้นเข้าเป็นทหาร ทุกคนก็จะมองชั้นว่าต้องแบบนายน้อยนิสัยเสีย

 

Clive – ถ้าชั้นไม่จับดาบ ชั้นก็เป็นได้แค่ตัวตลก ความล้มเหลวของบุตรคนหัวปีของท่านดยุค นายเป็นคนที่ทุกคนเชื่อถือ ชั้นล่ะอิจฉาจริงๆเลย

 

Joshua – มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ พวกเขาไม่ได้เชื่อผม พวกเขาเชื่อในพลังของ Dominant 

 

Clive – น้องพี่ ... ฟีนิกซ์น่ะ คือผู้คุ้มกฎผู้อยู่เหนือความเป็นและความตายนะ 

Joshua – มันไม่ยุติธรรมเลยอ่ะ มันควรจะเป็นพี่มากกว่า ผมน่ะ ไม่มีอะไรที่ไปนำผู้คนได้หรอก ผมไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น ไม่เหมือนพี่

 

           Clive – ฟังนะ ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง 

 



Clive – เจตจำนงของพวกเรามันเริ่มขึ้นเมื่อนานมาแล้ว เมื่อบรรพบุรุษของเราถูกเลือกให้เป็น Dominamt ในฐานะ ดยุคแห่งโรซาเรีย ทั้งหมดก็เพื่อให้มั่นใจว่า เมื่อใดก็ตามที่ประเทศของเรายืนอยู่บนขอบหน้าผา ฟีนิกซ์จะลุกขึ้นมาจากเปลวเพลิงเพื่อฉุดเราให้พ้นจากปากเหว ชะตากรรมของโรซาเรียคือสิ่งที่ Dominant ต้องแบกรับไว้บนบ่า มันเป็นหน้าที่ที่นายต้องรับภาระนั้น 

Joshua – แล้วพี่ล่ะครับ? ...

 

Clive – พี่ก็เกิดมาเพื่อเป็นโล่ปกป้องนายไง นั่นเป็นเหตุผลที่ชั้นได้รับพรแห่งฟีนิกซ์เพื่อใช้ปกป้องอนาคตของเราให้ปลอดภัย ไม่ว่าอะไรก็ตาม และไม่ว่ามันจะยากแค่ไหน ชั้นก็จะไม่มีวันทำให้นายผิดหวังแน่นอน 

 

Joshua – ขอบคุณนะครับพี่ที่คอยดูแลผมมาตลอด ...แค๊กๆๆๆๆ 

Clive – ก่อนที่ชั้นจะทำแบบนั้นได้ นายต้องดูแลตัวเองก่อน เข้าใจนะ

 

Joshua – เราเข้าไปข้างในกันเถอะครับ ได้เวลานอนแล้ว ฝันดี .. Torgal

 

 

 





 

 

 

                       Flight of the Fledgling 

 

 

ทหาร – ข้าเอาเสบียงจากเมืองหลวงมาส่ง

ทหาร – พวกนายใช้เวลาในการส่งอาหารนานเกินไปแล้ว ได้ชิมเสบียงดูแล้วใช่มั๊ย?

ทหาร – แน่นอน 

 

คนเฝ้าประตู – สินค้าดีจากทางเหนือ คนส่งก็กล้าดี มาซะดึกเลย เก็บไวน์ไว้ให้เราด้วยล่ะ

 

                                         อ๊ากกก !!

 



ทหาร – ประตูหน้าทางสะดวก กัปตัน !

กัปตัน – ทำตามแผนที่วางไว้ 

 






                          Joshua – นี่มันกลิ่นอะไร ...?

 

Wade – ขออภัยด้วยนายน้อย ข้า Wade เอง ท่านคงจำไม่ได้หรอก 

Joshua – จำได้สิ มีเรื่องอะไรหรอ?

Wade – เราถูกโจมตี ข้าไม่รู้ว่าพวกไหน แต่พวกมันเข้ามาในปราสาทแล้ว ข้าจะพาท่านไปที่ปลอดภัยเอง 

Joshua – งั้นก็ไปกันเลย 

 

Joshua – ทุกอย่างกำลังไหม้ 

Wade – ถอยออกมานายน้อยข้าจัดการพวกมันเอง !!

 

Joshua – แฮกก ๆๆ

Wade – พวกนี้มัน ...

 

Joshua – ชั้นเพิ่งเห็นพวกเขาหัวเราะอย่างมีความสุขในงานเลี้ยงอยู่แท้ๆ 

 

Wade – นี่มันชุดของ Sanbrequois นี่ .. แต่ ทำไมพวกจักรวรรดถึง ...?

Joshua – เราต้องรีบตามไปช่วยท่านพ่อ !!

 

 

Wade – บ้าเอ้ยย มีพวกมันอยู่เต็มไปหมดเลย !!

 

Wade – Tyler !!  บ้าเอ้ย แผลลึกซะด้วย !!

Joshua – เดี๋ยวชั้นช่วยเอง 

 

 



Tyler – นายน้อย อย่า ท่าน ...

Joshua – ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวก็หาย 

 



Joshua – Clive !!

Clive – โจชัวร์ !!

 

Clive – นายไม่เป็นไรนะน้องพี่ .. Tyler นายบาดเจ็บหรอ?

Tyler – ข้ารอดแล้ว นายน้อยช่วยข้าเอาไว้ครับ 

 

 

Wade – นายท่าน !! ลอร์ด Murdoch !!!

 

Murdoch – นายทำดีมากที่ช่วยนายน้อยเอาไว้ได้ Wade 

Arcduke Elwin – ชั้นเป็นนี่นายแล้วนะ ทหาร 

Clive – เราคงกลับทางเดิมไม่ได้แล้ว รีบออกทางประตูหลังกันดีกว่า 

 

 



          Arcduke Elwin – O mia lost elan Tu isag elythe 

 

 



Arcduke Elwin – หวังว่าลมจะช่วยเกื้อหนุนเจ้าให้ไปถึง Rosalith ทันเวลา

 

 

ทหารจักรวรรดิ – แกปล่อยให้ไอ้ดยุคกับ Dominant หนีไปได้ยังไง!! ไปตามหาพวกมันให้เจอ!!!!

 

Clive – ทางนั้นสามารถอ้อมไปที่ประตูทางเหนือได้ ที่นั่นมีคอกโจโกโบะอยู่ พ่อครับรีบพาโจชัวร์หนีไปยังที่ปลอดภัยก่อนเลย 

Joshua – ไม่ !! ผมจะไม่ไปโดยไม่มีพี่ !! ก็พี่เป็นโล่ปกป้องผมจำไม่ได้หรอก?

 

Clive – จำได้สิ ชั้นต้องอยู่ที่นี่เพื่อต้านศัตรูเอาไว้เพื่อให้นายหนีไปไง 

 

Murdoch – ผมจะไปสั่งกำลังทหารที่เหลืออยู่ทั้งหมดให้ไปรวมกันที่ประตูครับ ท่านรีบไปก่อนเลย

 

Clive – ชั้นต้องทำหน้าที่ของชั้น ส่วนนายก็ต้องทำหน้าที่ของนายด้วย เข้าใจนะ?

Joshua – เข้าใจครับ

Clive – นายต้องดูแลพ่อให้ปลอดภัยด้วยนะ ชั้นไว้ใจนายนะโจชัวร์ 

 

 

 






 

 



ทหารจักรวรรดิ – กัปตันครับ

กัปตันทหารจักรวรรดิ – จัดการมัน !!

 

                    Clive – อย่าให้มันรอดซักตัว !!!

 

                          Boss – Imperial Captain 

 

Murdoch – จัดการหมดแล้ว นายไม่เป็นไรใช่มั๊ย?

Clive – ผมไม่เป็นไร ห่วงพ่อกับโจชัวร์มากกว่า เรารีบตามไปกันเถอะ!!

 

 



 

 

 

 

                           Murdoch – Clive ระวัง !!!!!

 

                Boss – Knight of the Blinding Dawn 

 

Dragoon – มาเต้นรำใต้แสงจันทร์กัน 

Murdoch – กองทหาร Dragoon ของจักรวรรดิ

Dragoon – แกเนี่ยนะ โล่ของฟีนิกซ์ ฮ่าๆๆๆ 

 

Murdoch – นายไม่เป็นไรใช่มั๊ย?

Clive – ผมโอเค 





Murdoch – ถึงกับส่งหน่วยพิเศษ Dragoon มานี่กะจะรบกันเลยหรอวะเนี่ย ? 

Clive – ยังหรอก ผมว่ามันยังมากันน้อยไป พวกมันไม่ได้มายึดปราสาทแต่หมายล่าหัวต่างหาก ... งานเราเสร็จแล้วรีบไปหาพ่อกับโจชัวร์กันเถอะ !

 

                     Murdoch – เดี๋ยวก่อน นายดูนี่สิ 

 

ผ้าคาดเอวพวกนี้เราเพิ่งทำใหม่ๆเมื่อวานแล้วแจกที่ Rosalith งานนี้ เกลือเป็นหนอนแล้ว แล้วถ้ามันมีพวกมันคนอื่นอีกล่ะ?

Clive – งั้นพ่อกับโจชัวร์ก็กำลังมีอันตราย !!!

Murdoch – งั้นต้องรีบแล้ว เรียกพาหนะนายมาด่วนเลย 

 

             Clive – อ่ะ อ๊ากก !!  เสียงอะไรวะเนี่ย ?

 

 

 







 

                                ประตูทางทิศเหนือ

 

 



Joshua – Torgal !! แกไม่เป็นไรใช่มั๊ย ขอบคุณพระเจ้าที่แกปลอดภัย

 

Arcduke Elwin – เราจะเดินทางกลับไปที่ Rosalith เพื่อรวบรวมกำลังพลมา ชั้นอยากให้พวกนายคุ้มกัน โจชัวร์ ให้กลับไปที่เมืองหลังอย่างปลอดภัย

 

 ...เอาล่ะ โจชัวร์ รีบออกเดินทางได้แล้ว ....... อ๊ากกกกกกก !!

 

                              Joshua – พ่อ !!!!!!!!!!!!!! 

 





   ทหาร – ขอโทษด้วยนะนายท่าน แต่มันจะไม่มีทางเกิดขึ้น 

 

 Arcduke Elwin – แก ...!!  ไอ้นกสองหัวสกปรก !!!

Joshua – ถอยออกมา พ่อ ! ..ชั้นเตือนพวกแกแล้วนะ !!

Arcduke Elwin – รีบหนีไปโจชัวร์ !!!

 

                      Arcduke Elwin – อ๊ากกกกกกก !!!

 

                          Joshua – ห๊ะ .... ฮืออ !!

 

 









 

Wade – ไอ้พวกทรยศ !!!!!

Tyler – นายน้อย ..อั๊กก .. หนี !!!!!

 

 

 

                              Joshua – ฮืออ ... ฮืออ ...



Clive – นายเองก็ต้องทำหน้าที่ของนายด้วยนะ นายต้องปกป้องพ่อให้ปลอดภัย 

 

           Joshua – ฮือออ .... ชั้นต้อง .... ชั้นจะต้อง ....

 

 








 

 

                            Joshua –  Clive .. ชั้นไม่ ...

 



                      Clive – พี่เชื่อในตัวนายนะ โจชัวร์ ..

 

                            Joshua –  อ๊ากกกกกกกกก !!!

 

 

 










                                    Tyler – ฟีนิกซ์ !!!! 

 

 






Murdoch –  ฟีนิกซ์ !???

Clive – โจชัวร์ !!!!!!!!!!!!!!!!

 

 

 

                                  Clive – โจชัวร์ !!

 

 

 

Clive – โจชัวร์ !! หยุด !!!!  เดี๋ยวนะ เขาควบคุมตัวเองไม่ได้นี่ .. ชั้นต้องทำอะไรซักอย่าง !!

Murdoch – อย่า นายน้อย ถอยออกมา !!! …. Clive !!!

 

 



            Clive – โจชัวร์ นายกำลังเจ็บปวดใช่มั๊ย? 

 

    Clive – อั๊กก ...บ้าเอ้ย ไม่ใช่ตอนนี้ ! …. อ๊ากกกก !!   ไม่เอาน่า นายเป็นโล่ของเขานะ

 

        นายต้องทำหน้าที่ของนายสิวะ !!! อ๊ากกกก !!  

 

                            Clive – แก ... แกมันตัวอะไร !!??

                   Murdoch – นายน้อย!  อ๊ากกกกกกก !!!!

 






Murdoch – ม่ายย เป็นไปไม่ได้  ไม่ๆๆๆ Eikon แห่งไฟ ตนที่ 2 งั้นหรอ? 

 

                 เป็นไปไม่ได้ !!! ……. อ๊ากกกกกกก !!!!!!

 



         Phoenix – ฮืออออ  ... แกเป็นใคร?? …แฮกกกๆๆ...  

 

 

Phoenix – อย่ามายุ่งกับชั้น !!! ออกไป เดี๋ยวชั้นจะฆ่าแกนะ !!! ออกไป !!

 

      Phoenix – ชั้นจะฆ่าแก Eikon!  ชั้นจะฆ่าแก !!!

 

 

 Phoenix – หยุดได้แล้ว! ... นี่มัน Apodytery นี่?  พอได้แล้วววว !! 

 

 

Phoenix – แกจะทำลายทุกอย่าง!! ..ปราสาทพังหมดแล้ววว !!

 

 



 

 

 

 

 

     Phoenix – ชั้นต้องจัดการหยุดเขา !! เพื่อช่วยผู้คน !!

 

 

 

Phoenix – เปลวไฟชั้นอาจจะยังไม่แข็งแกร่ง แต่จะไม่มีวันตาย !!

 

 








              Phoenix –  ม่ายยยยยยยย !!! อย่า !!

 

 

                          Torgal –  โฮ่งๆๆๆ !!

 

                        Clive – Torgal หรอ? 

 

Clive – ไม่!! หยุดนะ ปล่อยมือออกจากน้องชั้นเดี๋ยวนี้ !!!!

Phoenix – ช่วยด้วย !! ช่วยผมด้วย ... Clive !!

 

 



Clive – โจชัวร์ !!! หยุดนะ !! ชั้นสาบานว่าจะปกป้องเขา !!

Clive –  ได้โปรดดด !! หยุดเถอะ !! 

 

 

 

                              Clive –  โจชัวร์ !!!!!



                          Clive –  ม่ายยยยย !!!!!!!

 

Clive – ไอ้ฆาตกร ... แกมัน ไอ้ฆาตกร !!! ชั้นจะฆ่าแก ชั้นจะตามฆ่าแก !!

 






กัปตันทหารจักรวรรดิ – นี่มันฝีมือปีศาจชัดๆ เป็นความอัปยศของฟีนิกซ์ แต่ก็ช่วยไม่ได้ 

 

กัปตันทหารจักรวรรดิ – อ่อ ..ผมต้องขอแสดงความเสียใจด้วยครับ มีอะไรที่เราช่วยได้โปรดได้บอกเถิด .

 

Duchess Anabella – คุณยังทำไม่มากพอ กัปตัน  ..โจชัวร์ลูกรักของชั้น โลกทั้งใบของชั้น ไม่อยู่แล้ว ชั้นทำได้แค่ภาวนาให้มีที่สำหรับชั้นในโลกที่พระองค์พยายามจะสร้าง 

กัปตันทหารจักรวรรดิ – เข้าใจแล้ว ...

 

 



              กัปตันทหารจักรวรรดิ – นายท่าน ทางนี้ !!

 

กัปตันทหารจักรวรรดิ – ซากปรักหักพังคงปกป้องเขาจากเปลวไฟ แล้วเราจะจับเขาเข้าคุกดีมั๊ยครับ? 

Duchess Anabella – ไม่อ่ะ ... ฆ่าทิ้งดีกว่า 

 

Duchess Anabella – เดี๋ยวก่อน สามีชั้นบอกชั้นตลอดโดยไม่เคยเบื่อเลยว่า เขาเป็นทหารที่ดี 

 





ชั้นมั่นใจว่าเขาจะเป็นกำลังสำคัญในแนวหน้าของกองทัพจักรวรรดิ ได้แน่นอน นั่นแหละตำแหน่งที่เหมาะสมของเขา 

 

กัปตันทหารจักรวรรดิ – จับตัวมันไป !

 

กัปตันทหารจักรวรรดิ – เชิดหน้าหน่อยไอ้หนุ่ม แกกำลังจะได้เป็นทหารจักรวรรดิแล้ว !!

 

                                      Clive – โจชัวร์ .... 

 

 


 

 

                            Tiamat – ตื่นซะทีนะแก 



Wyvern – โทษที .... สถานการณ์เป็นไงบ้าง?

Tiamat – เอาเป็นว่า .. Shiva กับ Titan ก็ยังฟัดกันนิดหน่อย ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้อะไรง่ายขึ้นเลยอ่ะนะ 

 

Tiamat – ว่า ..?

Aevis – ก็อย่างที่คุณคิดไว้ไม่ผิด พวกครูเซดถอยแล้ว 

Tiamat – โอเค งั้นเราก็ตามกันต่อ 

Wyvern – แต่กำลังพลเราเหลือแค่นี้เองนะครับ จ่า 

 

Tiamat – ถ้าเรากลับไปโดยไม่มีหัวของ Shiva ชะตากรรมเราก็คงไม่ต่างกับ Biast หรอก และ ชั้นจะใช้โอกาสกับพวก Ironblood อย่างน้อยๆก็ได้สู้จนตัวตาย ..ก็แค่นั้นแหละ  ...... เอ้า !!

 

 

 

     Wyvern – ชั้นยังไม่ยอมตายหรอก .. ยังไม่ใช่วันนี้ ...

 

Aevis – งั้นก็ตามนั้น ไม่อยากตายก็ตามมา เรายังมีพวกทหารศัตรูให้ล่าอีกเยอะ 

 

 

 

 

                                13 ปี ต่อมา .......

 

                         Year of the Realm 873

 

          The Nysa Defile : The Dhalmekian Republic

 

และไคลฟ์ก็ได้กลับมาจากภวังค์ของเขาสู่ความโกลาหลที่คลุกกรุ่นจากการเผชิญหน้ากันระหว่าง Shiva กับ Titan ซึ่ง Tiamat ได้เตือนเขาในฐานะ Wyvern หนึ่งในสมาชิกทีมล่าสังหารของจักรวรรดิ กับภารกิจที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงของเขา

 

 

                                      🔶  A Chance Encounter 🔶

 

Aevis – พวกเขาคาดหวังให้เรามาฆ่าไอ้ตัวที่ทำอะไรแบบนี้ได้ยังไงฟ่ะเนี้ย?

Tiamat – พวกมันไม่ได้ทำ ยัยผู้หญิงคนนั้นต่างหาก 

 

Aevis – คุณได้ยินอะไรมั๊ย? 

Tiamat – นั่นไง ข้างล่างนั้น พวกทหารที่กำลังถอยทัพ

 

Tiamat – ดูเหมือน ไททั่น น่าจะจัดการพวก Ironblood เพื่อนเราลงได้ แต่ พวกที่เหลืออยู่ไหนกันนะ ดูแล้วนี่ไม่น่าจะใช่ทัพหลักแน่นอน 

Aevis – เดี๋ยวนะ ! ดูนั่นสิ !!

 

 

            Iron Crusader – เดินต่อได้แล้วไอ้พวกขี้เกียจ!!

 

Aevis – โชคเข้าข้างเราแล้วครับจ่า นั่นไงเธอ

Tiamat – เธอเป็น Dominant หรอ? นายแน่ใจนะ?

Aevis – Crystalline Orthodox เป็นความเชื่อที่ล้าหลังของพวกคนที่ล้าหลัง 

 

Aevis – สำหรับพวก Iron Kingdom พวกเขาถูกสอนว่า Dominant คือความผิดปกติที่ไม่บริสุทธิ์ซึ่งเกิดจากบาปที่เลวร้าย มีแต่นักบวชของพวกมันเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบพิธีไพรมิ่งได้ ซึ่งผมเห็นมีหลายคนเลย  

 

       Tiamat – เอาล่ะ เราต้องจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ลุยเลย !!

 

        Iron Crusader – ศัตรูซุ่มโจมตี!! คุ้มกันหลวงพ่อเอาไว้ !!

 

 



Iron Crusader – มานี่ !! 

เด็กสาว – อย่า ได้โปรด !!

 

Iron Crusader – ถ้าแกไม่เหลือน้ำแข็งอยู่ในตัว ดาบนี่คงช่วยได้ ไปจัดการพวกมันไม่งั้นนังเด็กนี่ตาย !!

 

                   Boss – Shiva / Ironblood Crusader 

 

Shiva – .. มาจัดการให้มันจบๆไปซะ ... 

Tiamat – Aevis พอจะฆ่าพวก Ironblood ให้ซักคนสองคนได้ป่ะ?

Aevis – ยินดีอย่างยิ่งเลยครับ !!

Tiamat – Wyvern แกโฟกัสที่เป้าหมายเอาไว้ 

Wyvern – เข้าใจแล้ว ! 

 



 

 

 

Tiamat – มันตายยัง!?

Wyvern – คิดว่ายังนะ ..

 

             Aevis – จะรอให้พ่อมาตัดริบบิ้นเรอะไง!?  

 

 






Wyvern – เอ่อ ... ไม่ ไม่ๆๆๆ นั่นมัน ไม่ใช่ ต้องไม่ใช่เธอ ไม่ใช่ที่นี่ ... 

 



                    Aevis – ลีลาจังวะ มาชั้นจัดการเอง !!

 

Aevis – อ๊ากกกกก !!!

Tiamat – แม่งเอ้ยยย !!

 



     Tiamat – ดูเหมือนว่าเราจะมีคนมาแจมว่ะ Wyvern 

 

Iron Crusader – จัดการไอ้ตัวน่ารังเกียจนั่นซะ !!!

Tiamat – แกจะทำอะไรก็แก ? ย้ายตูดมานี่เลยมาช่วยชั้นจัดการไอ้พวกสารเลวนี่เร็ว !!

Wyvern – โทษทีนะ Jill ...

 

                     BOSS - Ironblood Crusader

 



Tiamat – ตายให้หมดซะไอ้พวกบ้า .... ชั้นจะถามแกอีกครั้ง Wyvern!  ตัดหัวนังนั่นมาแล้วเราจะได้จบเรื่องนี้กันดีๆ 

 

Wyvern – ชั้น .. ชั้นทำไม่ได้ .... แล้วก็ ไม่อยากจะทำด้วย !!

Tiamat – แกจะทรยศจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์งั้นหรอ !!?

 

Wyvern – ทรยศงั้นหรอ ? ชั้นจำไม่ได้ว่าไปถวายสัตย์ปฎิญญาณกับจักรพรรดิของแกตอนไหน ? พวกแกอาจซื้อฝีมือชั้นได้แต่ความภัคดีไม่ได้มีไว้ขาย !  ชั้นก็แค่ต่อสู้เพื่อความอยู่รอด 

 

                                  BOSS – Tiamat 

 

Tiamat – แล้วแกคิดว่าชั้นภัคดีกับมันรึไง แต่เราจะโดนจักรวรรดิหมายหัวแน่ถ้าเรากลับไปมือเปล่า ถ้าแกไม่ให้หัวเธอก็เอาหัวแกมา !!

Wyvern – ก็บอกแล้วไงจ่าว่าชั้นจะไม่ตายวันนี้ เธอก็ด้วย 

 

Tiamat – แกลืมแล้วใช่มั๊ยว่าใครพลักดันให้แกมาอยู่แถวหน้า ใครสอนแก ! ใครให้ชื่อแกตอนที่แกไม่มี !!

Wyvern – พูดอย่างกับเราเหมือนกันซะงั้นแหละจ่า ชั้นมีชื่ออยู่แล้ว และไม่มีลืมมันแน่นอน !!

 

Tiamat – ยังคงยึดติดกับอดีตเหมือนกับเสื้อผ้าที่ขาดวิ้นของแกสินะ ชั้นน่าจะปล่อยแกเน่าตายไปตั้งแต่ 13 ปีที่แล้วซะ ตอนที่แกไม่มีใคร ตัวคนเดียว ชั้นเป็นคนยื่นมือเข้าช่วยแกเอาไว้ !!

 

 

 







                            Wyvern – อ่อ ... ไม่นะ บ้าเอ้ย !

 

 

 

 

 

 







                        Ironblood Crusader – อ๊ากกกกกกกก !!!!

 

 

 

 





                                  ?????? –  ทางนี้ !

 



???? – เอ่อ ซิด !

Cid – Bloody Wind …. นายน่ะ บอกให้ตามมา !!

 

                             Wyvern – แม่งเอ้ยย ...

 





Benedika – ฮิวโก้ ที่รัก ...สิงโตทะเลทรายที่ชั้นภูมิใจ เมื่อต้องการให้ล่ากระต่าย ชั้นคาดหวังมากกว่าไททั่นผู้ยิ่งใหญ่ซะอีก 

 

Benedika –  นายเอาราชินีน้ำแข็งแบกไว้บนหลัง ไม่ต้องสงสัยเลยจริงๆ

 





Benedika –  แต่นายต้องทำงานให้หนักกว่านี้ถ้าอยากได้รางวัลนี้อ่ะนะ 

 

มือขวาของ Benedika – นายหญิงครับ สายฟ้านั่นมัน ...

Benedika – เดี๋ยวแกก็จะได้รู้จักเขามากขึ้น อีกไม่นานหรอก 

 

       .. นายนี่ยังเป็นไอ้งูพิษไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ ... ซิด 

 

       Benedika – ระดมมาเพิ่มอีก เรามีงานต้องทำ !!

 





                Wyvern – จิล นี่เธอจริงๆหรอเนี่ย ??

 

      Wyvern – แล้วเจ้าหมาตัวนี้มัน หมาดี ของใครกันน้า ?

 

        Cid – แล้วสรุปเจ้าหมาที่ช่วยนายเอาไว้นี่หมาใคร ?

 

Wyvern – Torgal 

Cid – ห๊ะ?

Wyvern – มันชื่อ Torgal

 

Cid – นี่นายรู้จักมันหรอ ? ดีเลย จะได้ไม่ต้องเป็นภาระชั้น ตลกดี ชั้นคิดว่าคนอย่างนายน่าจะเหมาะกับ โจโคโบะ มากกว่าซะอีก 

 

                           Cid – Clive Rosfield !

 

 

 

Cid – ย่างก้าวดั่งเปลวเพลง ดุร้ายดั่งไฟป่า นั่นแหละ พรแห่งฟีนิกซ์ ได้ยินข่าวลือมาตลอดว่านายยังไม่ตาย แต่ไม่คิดว่าจะจริง 

 

Cid – ไม่เอาน่า ใจเย็น ....ชั้นคงไม่ถ่อมาถึงนี่เพื่อจะทำร้ายนายหรอกน่า พ่อรูปหล่อ ในทางกลับกัน เธอมีค่าพอที่จะทำให้ชั้นยอมให้รองเท้าเปื้อนโคลนก็แล้วกัน

 





Cid – อืมม ร่างกายทรุดโทรมเนื่องจากถูกใช้งานหนัก แต่ยังไงก็ถือว่าดีในฐานะตัวเลือกที่สอง แบกเธอไปได้เลย 

 

 



Clive – ลองก้าวเข้ามาอีกก้าวนึงสิ ! ชั้นพูดจริงนะ !!

Cid – เป็นชั้นจะไม่ทิ้งเธอไว้นี่แน่ในเมื่อเรามีเตียงอุ่นรออยู่ 

 

Cid – เอ้าแบกเธอไปได้แล้ว ... นายเองก็มากับด้วยสิ อยากจะช่วยเธอไม่ใช่รึไว

Goetz – เอ่อ ซิด ถ้าเราไม่รีบกลับ Nan เอาเราตายแน่เลยนะ 

 



    Cid – มาเถอะ แล้วชั้นจะเล่าทุกอย่างให้ฟังตอนถึงที่พักแล้ว 

 

 

 
 

 

 

                                       The Hideaway 

 

เศษซากของหุบเขาที่รกร้างซึ่งครั้งนึงเคยเขียวขจีหลังจากถูกกลืนกินโดย ไบล์ท คงต้องเป็นคนโง่เขลาอย่างถึงที่สุดไม่ก็สิ้นหวังแบบหาที่สุดไม่ได้ถึงจะเรียกดินแดนมรณะแห่งนี้ว่า บ้าน  

 

                              Central Storm 

 

                               the Deadlands

 

 



cid – อีกแปบก็ถึงแล้วล่ะ 

Clive – แต่ .. ตอนนี้เรากำลังอยู่ใจกลางแดนมรณะเลยนะ 

cid – ตาแหลมไม่เบานะนายเนี่ย 

 



cid – ไบล์ท มันกัดกินที่นี่จนตายซากหมดแล้ว นั่นหมายถึง ไม่มีต้นไม้ ไม่มีนก และ ไม่มีเวทย์มนต์ แล้วก็ ไม่มีเพื่อนบ้านด้วย 

 

Clive – เป็นที่สุดท้ายที่ใครๆคิดจะมา

cid – หึ .. ช่ายย 

 

                         Cid – Home sweet home ..

 

 

                    Hideaway / Central Storm

 













Cid – ที่นี่คือซากโบราณสถานร้าง แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับมันช่วยป้องกันเขม่าดำไม่ให้เข้าปอดเรา

Clive – แล้ว คุณอยู่รอดได้ยังไงถ้าไม่มีเวทย์มนต์ ?

 

Cid – ใครว่าอยู่ไม่ได้? ทำงานให้หนักไว้ ใช้สมองให้น้อยหน่อยก็อยู่ได้แล้ว .. อ่ะ นายคงหิวแน่เลย เชื่อมั๊ย มันโตในนี้เลยนะเนี่ย ...ไม่กินก็ตามใจ 

 

 



????? – คุณกลับมาแล้ว 

Cid – อืมม Tarja 

 

                 Tarja – แล้วเธอก็คงเป็น Dominant สินะ ?

 

 

Cid – เธอไม่รู้สึกตัวมาตั้งแต่เราเจอเธอแล้ว อยากให้เธอช่วยตรวจอย่างละเอียดหน่อย 

 Tarja – โอเค Goetz พาเธอขึ้นมาชั้นบนเลย 

 

Goetz – ตะ แต่ Nan จะ ...

Tarja – ไม่ต้องห่วงเรื่อง Charon หรอกน่า เดี๋ยวชั้นจัดการเรื่องเงินค่าจ้างให้

Goetz – อืมมๆ ก้อด้าย ...

 

Cid – เธอเป็นหมอที่เก่งที่สุดของที่นี่ นายไม่ต้องกังวลอะไรหรอก ไปสิ ไปลองเดินดูรอบๆดูได้เลย ชั้นขอตัวกลับ Solar ก่อนนะ เดินสำรวจจนพอใจแล้วตามไปคุยกับชั้นที่นั่นก็แล้วกัน

 

                                  Clive Ability 

 

                                                           

Malee attack – กด สี่เหลี่ยมเพื่อโจมตีศัตรู ใช้ต่อเนื่องได้ 4 ครั้ง 

Magic – กดสามเหลี่ยม ยิงเวทย์มนต์โจมตี 

Aerial attack – กดกด สี่เหลี่ยมขณะกระโดดลอยตัวกลางอากาศเพื่อโจมตีศัตรู ใช้ต่อเนื่องได้ 3 ครั้ง

Dodge – กด R1 หลบ 

Jump – กด X กระโดด 

Precision Dodge – การหลบไปพร้อมกับการโจมตีสวนกลับ กด R1 หลบแล้วกด สี่เหลี่ยมหรือสามเหลี่ยมทันทีเพื่อ Counterattacks 

Lunge – กด X + สี่เหลี่ยม พุ่งแทงศัตรูแล้วตามด้วยยิงเวทย์ 

Downthrust – กด X + สี่เหลี่ยมขณะโดดลอยตัวกลางอากาศเพื่อโจมตีศัตรูจากบนลงล่าง 

Burning Blade – กดสี่เหลี่ยมค้างทำให้ดาบติดไฟเพื่อเพิ่มพลังโจมตี 

Taunt – กด R2 + ทัชเพด ยั่วยุศัตรูเพื่อดึงความสนใจ 

Swift Recovery –  กด R1  ขณะถูกโจมตีจนล้มเพื่อเด้งตัวลุกขึ้นมาทันที 

Stomp – กด X อีกครั้งหลังกระโดดเพื่อเลอยตัวให้สูงขึ้นช่วยเพิ่มระยะเวลาการโจมตีศัตรูในจุดที่สูงๆได้ 

Charged Magic – กดสามเหลี่ยมค้างเพื่อชาร์จพลังเวลาก่อนยิงเพื่อเพิ่มความรุนแรง

Magic Burst – กดสามเหลี่ยมใช้เวทย์หลังจากกดโจมตีจะเป็นการโจมตีสลับใช้เวทย์อย่างรวดเร็ว

 

                         🔥 Phoenix Abilities

 

Phoenix Shift – กด O ใช้ Blessing of the Phoenix เพื่อลดช่องว่างระหว่างเป้าหมายด้วยการพุ่งเข้าไปโจมตีอย่างรวดเร็ว และสามารถทำได้ทั้งการโจมตีระยะประชิดและการยิงด้วยเวทย์มนตร์ได้ทันทีในขณะที่พุ่งเข้าหาเป้าหมาย

Scarlet Cyclone - หมุนอย่างรวดเร็ว สร้างวงแหวนแห่งไฟที่จะเผาศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในระยะ

Rising Flames – เรียกปีกเพลิงโจมตีงัดศัตรูขึ้นด้านบน สามารถปล่อยศัตรูที่เบากว่าให้ลอยขึ้นไปในอากาศได้

Heatwave - เรียกกำแพงของเปลวไฟออกมาก่อนที่จะปล่อยคลื่นพลังเวทย์ไฟกระแทกรุนแรงใส่ศัตรู 

Flames of Rebirth - เรียกเสาไฟขนาดใหญ่ออกมาเผาศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในเปลวเพลิง ขณะเดียวกันก็ฟื้นฟู HP ของ Clive บางส่วนด้วย

 

                        🔶  Hide , Hideaway 🔶

 

 

Objective >> ขึ้นไปคุยกับ Cid ที่ห้องชั้นบน

Cid – เพิ่งทำโปรเจคสัตว์เลี้ยงของชั้นเสร็จ อย่าน้อยเธอก็ไม่กัดมือชั้นตอนให้อาหาร นั่งก่อนสิ .....

 

Cid –  ..... โอเค ไม่เป็นไร ก็หวังว่าเราจะแก้ปริศนาอันลึกลับของ Clive Rosfield ผู้น่าสงสารได้สำเร็จอ่ะนะ

Cid –... Bearer ของกองทัพ จักรวรรดิ Sanbrequois ที่ถูกส่งไปทำภารกิจหลังแนวข้าศึก คำสั่งก็คือ ใช้สถานกาณ์ที่กำลังวุ่นวายของสงคราม ลอบเข้าไปเชือด Dominant เป้าหมายท่ามกลางความโกลาหล

 

     Clive – ก็ชั้นไม่รู้ว่าเป็นเธอนี่ .....ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ได้ ...?

Cid – และเพื่อช่วยเธอ นายก็เชือดคอไอ้จ่าหัวหน้าของนายแล้วพาเธอหนีมาที่หุบเขานี้ หวังว่านายจะจำได้นะว่าจักรวรรดิทำยังไงกับผู้หลบหนี 

และ เพื่อนเอ๋ย เราต่างก็รู้ว่า นายคงหนีได้อีกไม่ไกล ..คุณหลงมาไกลมากเลยนะ ลอร์ด โรสฟิลด์

Cid – มาๆ ดื่มหน่อย เดี๋ยวชั้นจะดูเป็นเจ้าบ้านที่ไม่ดี
Clive – ตกลงนายจะทำยังไงกับเธอ?



Cid – ทำอะไร ต้องทำอะไร? ไม่ทำอะไรทั้งนั้นอ่ะ ตอนนี้เธอมีชีวิตของตัวเองแล้ว ถ้าชั้นอยากจะใช้เธอ ชั้นจะบอกนายทำไม จริงมั๊ย? ที่ชั้นทำทั้งหมดก็แค่ อยากช่วย ทั้ง Dominant อย่างเธอและผู้ที่ถูกตีตราแบบนาย แน่นอน เพราะทุกอณาจักรไม่ยอมรับ เราถึงเลือกที่จะมาอยู่ในถ้ำแบบนี้ และนั่นคือสาเหตุที่เราต้องการผู้ถูกตีตราผู้รู้จักปลายดาบจากอีกด้านดี แบบนาย ...ตกลงนายจะว่าไง Clive ? … นายจะร่วมกับเรามั๊ย?

 

Clive – นายคือ ซิด สินะ ... ผมเชื่อใจคุณก็เพราะคุณทำสิ่งที่ถูกต้องกับ จิล แต่ จนกว่าชั้นจะล้างแค้นให้น้องผมได้ ..ผมจะเดินตามทางของตัวเอง

Cid – ล้างแค้นงั้นหรอ?
Clive – น้องผมถูกฆ่า ...โดย Dominant แห่งไฟอีกตัว
Cid – แฝดผู้ชั่วร้ายของฟินิกซ์ ข่าวลือที่ว่าตอนนี้คงพิสูจน์แล้วว่ามันเป็น เรื่องจริง

Clive – ที่ผมยืนหยัดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ก็เพราะน้องชายผม โจชัวร์  สินสามปีที่ผมรอคอยโอกาสนี้ นอนในที่โสโครก ดื่มน้ำจากท่อระบายน้ำ ฆ่าคนมากเกินกว่าที่จะนับ

Clive – คุณพูดถูก เรื่องที่จักรรวดิจะไม่ปล่อยให้คนที่หนีจากมันลอยนวล แต่นั้นแหละ เป็นโอกาสที่ดีของผม โอกาสสุดท้าย

Cid – ซึ่ง เป็นสาเหตุที่นายยอมเข้าร่วมกับเรา
Clive – ชั้นยังไม่ได้บอกเลยว่าจะร่วม

Cid – เออๆ แค่สนใจ ชั้นรู้ๆ ...หน่วยสอดแนมของชั้นรายงานว่ามีกลุ่มผู้ถูกตีตราที่หลบหนีมาจากทางตอนเหนือในหมู่บ้านที่อยู่ภายใต้การปกครองของพวกจักรวรรดิที่ชื่อ Lostwing และหนึ่งในพวกนั้นเชื่อว่าเป็น Dominant แห่งไฟ

Clive – เขาแน่ใจหรอ?
Cid – ไม่รู้ดิ ลองไปถามเขาดูกันมั๊ยล่ะ?

          Clive – นี่ ไม่ได้หมายถึงว่าผมจะเข้าร่วมกับคุณนะ

       Cid – ก่อนออกเดินทาง เตรียมตัวให้พร้อมไว้จะดีที่สุด

 


นายสามารถหาทุกอย่างที่นายต้องการได้ที่โถงหลัก แต่บางอย่างก็ไม่มี ... ขอให้สนุกนะ 

 

Objective >> ลงมาสำรวจที่ห้องโถงชั้นล่าง

Goetz – นะ นาย ... โอ้ ไม่ๆๆๆๆๆ 
Clive – Goetz ใช่มั๊ย ดูเหมือนชั้นมีบางอย่างจะขอให้ช่วยหน่อย คือ ซิด บอกให้ชั้นเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับภารกิจ แล้วนายพอจะแนะนำอะไรได้บ้างมั๊ย?

Goetz – เอ่อ .. ที่ ถ้าเป็นพวกไอเทมก็ต้องร้าน Charon’s Toll ของป้าชารอน อ่ะ แต่ เอ่อๆ คิดอีกที นายน่าจะลองไปคุยกับร้านทำอาวุธของ Blackthorne ก่อนจะดีกว่า
Clive – เขาเป็นช่างตีอาวุธสินะ โอเค งั้นไปร้านทำอาวุธก่อนก็ดีเหมือนกัน 

Goetz – อ่อ เดี๋ยวๆๆ นายต้องใช้นี่ด้วย เผื่อ Blackthorne จะมามุขแบบไม่เห็นนายในสายตาอะไรแบบนี้ หรืออาจจะไม่ก็ได้ กันเหนียวไว้ก่อนก็ดี 

Clive – คุณคือ Blackthorne ใช่มั๊ยครับ 
Blackthorne – ถ้าใช่แล้วจะทำไม! ข้าไม่มีเวลามาคุยไร้สาระหรอกนะ!!
Clive – ผมก็ไม่ได้มาเพื่อคุย คือผมต้องเดินทางไปทำภารกิจกับ Cid เลยต้องการหาอาวุธยุทโธปกรณ์หน่อย 
Blackthorne – ต่อให้แกจะไปนอนกับเทพี Greagor  บนเตียงศักดิ์สิทธิ์ของนางข้าก็ไม่สนหรอก 
Clive – ขนาดนั้นเลย ... เฮ้อ

      เลือกใช้คีย์ไอเทม Continental Rum ที่ได้มาจาก Goetz

Blackthorne – โอ้ ... ไอ้เจ้าบ้า Goetz แน่เลย !!  .. เออ ก็ได้ๆๆ เอาล่ะ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ ..ไหนข้าขอดูเจ้าหน่อยสิ … โอ้ตาย ข้าเดาว่าของที่เจ้าติดตัวมาแค่โดนลมตดม็อคก็น่าจะต้านไม่ไหวแล้ว ไอ้จักรวรรดิหน้าเลือดมันคงอยากเห็น Bearers ของมันตายมากกว่าได้ใส่ชุดเกราะและอุปกรณ์ที่เหมาะสมแน่เลย โอเค เพื่อเห็นแก่ไอ้เจ้า Goetz ชั้นจะช่วยเท่าที่จะทำได้ก็แล้วกันนะ 

 

            ร้าน Black Hammer ของ Blackthorne

ตอนนี้คุณสร้างอุปกรณ์ใหม่และการอัพเกรดอุปกรณ์ต่างๆสามารถทำได้แล้วที่ร้านตีเหล็กตราบใดที่คุณมีสูตรหรือวัตถุดิบที่ต้องการเพียงพอ

ไอเทมที่ใช้ในการสร้างสาธิตคือ Iron Belt +1 จาก วัตถุดิบ Iron Filings 12 ชิ้น 

Blackthorne – เข้มขัดนั่นจะช่วยเพิ่มการป้องกันให้นาย ต่อไปถ้าต้องการอะไรต้องหาวัตถุดิบมาเองนะ
Clive –  จะจำให้ขึ้นใจเลย ขอบคุณครับ 
Blackthorne –  อืมม แนะนำนะ อย่าปล่อยให้ Cid มาตัดสินใจว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับนาย โอเคนะ 

 

! Notices

หากมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการอัพเดทสต็อกไอเทมของร้าน Charon’s Toll หรือสูตรสร้างอุปกรณ์ใหม่ๆของ Black Hammer ก็จะมีการแจ้งเตือนเป็นข้อความทางขวาบนของจอ และแสดงเป็นไอค่อนสีเหลืองที่ร้านนั้นๆให้เห็นหรือเมื่อเปิดดูแผนที่ การแจ้งเตือนนี้รวมถึงภารกิจใหม่ๆด้วย

 

Clive –   ของขวัญนั่นได้ผล ขอบคุณมาก Goetz 
Goetz – เอ่อ... เอ่ออ... 

ชายที่กำลังหงุดงหงิด – มาเร็ว! ใกล้ถึงแล้ว !!  เจ้านะ ไปหาผ้าห่มมาหน่อย เยอะเลยๆ เร๊ว!

ชายที่กำลังหงุดงหงิด – เอาล่ะ เราต้องทำให้เขานอนสบายๆเหมือนนอนเตียง แล้วก็ใครก็ได้ไปหาน้ำมาให้หน่อย !

Goetz – เอ่อ ดะ เดี๋ยวผมไปเอาถังมาให้คับ !!!  นายอ่ะไปดูสิว่า Otto เขาต้องการอะไรอีก !!
Clive – เดี๋ยว ชั้นเนี่ยนะ !? ... เฮ้ออ ชั้นต้องพาตัวเองเข้ามาหาเรื่องวุ่นวายพวกนี้ เพื่อ?

Clive – พวกเขาเป็นใครหรอครับ? 
ชายที่กำลังหงุดงหงิด – ห๊ะ พวกเขาเป็น Bearers ของจักรวรรดิ แล้วนายอ่ะใคร?  ... บ้าเอ้ย อาการแบบนี้ไม่น่าพ้นคืนนี้แน่ 

ชายที่กำลังหงุดงหงิด – ชั้นคิดว่านายคงหาทางขึ้นไปห้องพยาบาลที่ชั้นบนถูกใช่มั๊ย ช่วยไปตาม Tarja มาหน่อย 

Clive –  .. นี่คือคนที่ดูแลจิลอยู่สินะ 

 

Objective >> ไปตาม Tarja ที่ห้องพยาบาลชั้นบน

 Tarja  - เพื่อนนายกำลังนอนพักอยู่ พอเธอหายดีแล้วค่อยมาใหม่แล้วกัน 
Clive –  ผมไม่ได้มาหาจิล แต่คุณต้องลงไปข้างล่าง มี Bearers ที่บาดเจ็บที่คุณต้องดูแล 
Tarja  - ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ !!?
Clive –  เฮ้ออ .. ก็บอกอยู่นี่ไง ....

Tarja  - เอาล่ะ เขาไม่เป็นไรแล้วล่ะ แต่ยังไงชั้นคงต้องตรวจทั้งคู่อย่างละเอียดในห้องพยาบาลอีกที ..... งานของชั้นเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น

ชายที่กำลังหงุดงหงิด – ผ่านไปอีกวันในที่ซ่อนตัวแห่งนี้ 
Clive – มีพวก Bearers เข้ามาที่นี่ในสภาพแบบนี้บ่อยหรอครับ?
ชายที่กำลังหงุดงหงิด – มันไม่ง่ายเลยที่จะปลดโซตรวนของตัวเองออก เมื่อถึงเวลานั้น ส่วนใหญ่ก็ถอดใจ นั่นเพราะพวกเขานั้นตายไปนานแล้ว ซึ่ง 2 คนนั้นยังถือว่าโชคดี ... อ่อ ผมชื่อ Otto ถ้านายต้องการอะไรก็บอกได้ตลอดนะ 

Clive – เอ่อ Otto ผมอยากจะได้ของใช้บางอย่างน่ะ
Otto – ถ้างั้นร้านของ Lady Charon น่าจะเต็มใจให้บริการเลยอ่ะนะ แล้วก็ ขอบคุณที่ช่วยนะ แล้วเจอกัน 
Clive –ไม่แน่ใจนะว่าจะเจออีกมั๊ย ผมอาจไม่ได้อยู่ที่นี่
Otto –อืมม  ก็เข้าใจ แต่ตราบใดที่นายยังอยู่ที่นี่เราก็ยินดีต้อนรับเสมอ และสิ่งที่นายช่วยเราในวันนี้เราจะไม่ลืมเลย 

 

                              Sidequest Unlocked 

เควสย่อย จะปรากฏในรูปแบบเป็นไอค่อนสีเขียวตรง NPC ที่มีภารกิจเสริมให้ทำ โดยรายละเอียดทั้งเควสหลักและเควสย่อยสามารถเข้าดูรายละเอียดได้ในหัวข้อ Journal ใน Main Menu 

เมื่อรับภารกิจแล้ว วัตถุประสงค์ (Objective) ของภารกิจจะปรากฏจะปรากฏในรายการ สิ่งที่ต้องทำ (to do) ทางมุมขวาของหน้าจอ 

 วัตถุประสงค์ (Objective) ของทั้ง ภารกิจหลัก (สีแดง) และ ภารกิจเสริม (สีเขียว) ที่จะแสดงขึ้นมาให้เห็นพร้อมกันนั้นสามารถจัดลำดับความสำคัญในการทำก่อนหลังได้ใน Main Menu ด้วยการกด X ในภารกิจที่ต้องการทำก่อน 

                       📗 Sidequest – Food for Thought

รางวัล 
500 Gil
Wyrrite (Craft item)

 

                          ร้านอาหาร Fat Chocobo

 

หัวหน้าพ่อครัว Kenneth – อ่า สมาชิกใหม่ของเรา วันนี้งานล้มมือจริงๆบอกเลย ชั้นกำลังต้องการคนช่วยอยู่พอดีเลย ร้านอาหาร Fat Chocobo เป็นที่ต้องการของลูกค้าจำนวนมาก คนเลยเยอะหน่อย นายช่วยชั้นเสริมอาหารให้ซักทีสองทีจะได้มั๊ย? ซึ่งแน่นอนผมมีค่าเหนื่อยตอบแทนให้ด้วย หลังจากเสร็จงานก็ไปหยิบของในกล่องนั่นไปใช้ได้เลย 

Objective Quest >> นำอาหารไปเสิร์ฟลูกค้าให้ครบ 3 โต๊ะ

 

หัวหน้าพ่อครัว Kenneth – เสร็จแล้ว?? เยี่ยมมากเลย รวดเร็วดีจัง
Clive -  3 คนนั้นเป็น Bearers ที่ไม่ใช่ทาสที่รอคอยความพอใจของเจ้านายแต่ต้องการการดูแลอย่างเท่าเทียม 

หัวหน้าพ่อครัว Kenneth – ใช่แล้ว ความเท่าเทียมเป็นรากฐานสำคัญในการตั้งชุมชนเล็กๆของเรา นอกกำแพงนี้เราอาจถูกดูถูกว่าเป็นแค่ทาส พูดได้เฉพาะตอนเจ้านายจะพูดด้วย กินได้เฉพาะเศษอาหารที่เจ้านายแบ่งให้ แต่นั่นเป็นซุปร้อนๆมื้อแรกที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม ที่นี่ เราเป็นอิสระอย่างแท้จริง พูดตามความพอใจและกินตามใจปรารถนา นั่นคือเหตุผลที่พวกเราเชื่อในวิสัยทัศน์ของ Cid 

โอเค ตอนสัญญาที่ให้ไว้ นายไปหยิบค่าเหนื่อยของนายในกล่องไม้นั่นได้เลย แล้วก็ขอบคุณมากนะไคลฟ์หวังว่าจะแวะเวียนมาหากันอีกนะ  

                        📗 Sidequest – Make and Mend 

รางวัล
Meteorite (Craft item)
Gil Bug (Traded item)

หัวหน้าช่างไม้ Geoffroy – บ้าเอ้ย ไม้ไม่พออีก ไอ้ถ้าจะเดินไปเอามาเพิ่ม ไอ้แผ่นที่แปะไว้นี่หล่นหมดแน่ .... อ้าว นาย มาถูกเวลาพอดี ชั้นอยากจะให้ช่วยไปเอาเศษไม้มาเพิ่มให้หน่อยได้มั๊ย?  ชั้นพยายามอย่างหนักเพื่อจะซ่อมแซมรักษาสถานที่นี้เอาไว้ ซึ่งพูดตรงๆเลยว่า บางอย่างมันก็เกินเยียวยาจริงๆ 

ก็รู้ว่าเป็นปฎิมากรรมของอารยธรรมของ The Fallen แต่งานฝีมือของพวกเขาก็จะไม่อยู่ตลอดไปหรอก นั่นแหละคือสาเหตุที่ชั้นต้องหาทางยันกำแพงนี้เอาไว้ก่อนมันจะถล่มลงมาใส่พืชผักที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวของเรา 

Clive – แล้วผมจะไปหาไม้มาจากที่ไหนได้?
หัวหน้าช่างไม้ Geoffroy – ลองไปถามแถวๆ White Adze ดู พวกเขาจะบอกนายเอง 

 

    Objective Quest >> เดินไปหาช่างไม้อีกที่แล้วหยิบไม้มา 

Clive – แค่นี้คงพอนะครับ
หัวหน้าช่างไม้ Geoffroy – โอ้ ขอบคุณมาก แบบนี้กำแพงนี้ก็จะไม่ถล่มทับเราแล้ว 
Clive – ฟังดูเป็นลางไม่ดีเลยนะครับ 

หัวหน้าช่างไม้ Geoffroy – มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก มันก็แค่เป็นทางเลือกที่ทำได้ สำหรับบ้านเรา ให้อบอุ่นปลอดภัย แค่นี้ก็ไม่ขออะไรแล้ว .. เอ้านี่ ..
Clive – แค่นี้เอง ไม่ต้องก็ได้ครับ 
หัวหน้าช่างไม้ Geoffroy – เพื่อนเอ้ย มันไม่สำคัญหรอกว่านายจะต้องการมันหรือเปล่า แต่นายเป็นพวกเดียวกับเราแล้ว 

 

                       คุณสมบัติใหม่ใน Hideaway 

 

The Thousand Tomes แหล่งรวมรวมข้อมูลความรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นใน Valisthea ตั้งแต่คำศัพท์พื้นฐาน ไปจนถึงบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ 

Harpocrates – เหตุผลที่ข้าถูกทุกคนที่นี่เรียกว่า Tomes ก็เพราะเอ่อ เพื่อนๆ ที่ข้าเก็บสะสมไว้ ข้าเป็นนักสะสม ซึ่งไม่ใช่ ของมีค่าหรืออะไร แต่เป็น เรื่องราว ควมเป็นมาทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเกาะแห่งนี้ มันเป็นสิ่งที่ข้าหลงใหลไม่จบสิ้นจริงๆ แต่อนิจจา วันเวลาแห่งการท่องไปทั่วอณาจักรเพื่อค้นหาเรื่องราวใหม่ๆนั้นชั้นทิ้งไว้ข้างหลังมานานแล้ว ดังนั้นชั้นจึงทำหน้าที่แบ่งปันสิ่งที่ชั้นรวบรวมมากับคนที่ต้องการความรู้จากมัน

ซึ่งข้อมูลใหม่ๆจะเพิ่มเข้ามาหลังจากการที่ไคลฟ์เดินทางไปตามที่ต่างๆเพื่อเก็บเกี่ยวความรู้กลับมา ระดับ Wisdom (ภูมิปัญญา) ของไคลฟ์ก็จะเพิ่มขึ้น เริ่มจาก นักวิเคราะห์สมัครเล่น Amateur Annalist 

 

The Orchestrion จุดเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่สามารถเปลี่ยนธีมเพลงที่ได้ยินขณะอยู่ใน Hideaway

โดยแทร็กต่างๆสามารถสะสมมาได้จาก รางวัลหลังจบภารกิจ , ร้านค้า หรือใน หีบสมบัติ  

 

                           ร้าน Charon’s Toll  

 

Clive – ผมต้องการไอเทมของใช้สำหรับการเดินทางไป Lostwing  Otto บอกว่าคุณสามารถหาให้ได้ 
Charon  - ว่าไงนะ? นายเพิ่งมาอยู่ใหม่ใช่มั๊ย คิดว่ามันเหมาะสมมั๊ยที่จะมาเรียกร้องเอานู้นนี่นั่นกับหญิงชราที่น่าสงสารก่อนที่จะแนะนำตัวเองแบบนี้?

 Clive – ผม ไคลฟ์ครับ 
Charon  - โอเค ไคลฟ์ ชั้นได้ยินมาว่าเจ้าหมานี่เป็นของนายหรอ? จะบอกว่า ตั้งแต่มันตาม Cid มาในคืนนั้น ชั้นก็เห็นคางของมันถูกลูบทั้งวันและท้องมันก็อิ่มตลอด ตอนนี้ชั้นว่ามันจะต้องเป็นหน้าที่การดูแลของนายแล้วนะ ยกเว้นนายจะทิ้งมันอีก 

Clive –  ผมไม่ได้ทิ้งและไม่มีวันทิ้งมันแน่นอนครับ ขอบคุณที่ดูแลมันแทนผมมาตลอด

Charon  - โอเค ดี แล้วเอ่อ สรุปว่านายจะมาซื้ออะไรงั้นหรอ? อะไรนี่คิดว่าชั้นจะชะเลียเอาของหายากของชั้นให้ฟรีๆเพื่อประจบที่นายเป็นท่านลอร์ดหรอ? ที่นี่ชีวิตไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอกพ่อหนุ่ม เอาล่ะ ไหนของดูเงินหน่อยสิ 

Clive –  เอาแค่นี้แหละครับ
Charon  - ทำไมเงินกับชื่อเสียงของนายมันต่างกันจัง แล้วนายจะรับมันไปดูและเลยใช่มั๊ย ? แล้วก็จ่ายค่าตอบแทนที่ชั้นดูแลมันมาตลอดด้วย .... ก็ได้ ก็ได้ คราวนี้ชั้นยกเว้นให้ก็ได้ แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะ 

ตอนนี้ร้านชั้นเริ่มจะรกแล้วต้องเคลียร์โล๊ะของเก่าทิ้งหน่อยจะได้มีที่สำหรับของใหม่ที่กำลังจะมา ชั้นวางไว้ตรงแท่นหินหน้าร้านนั่นน่ะ นายจะเอาไปใช้ก็ได้นะ 

Clive –   เอ่อ ขอบคุณครับ 
Charon  - ขอบคุณชั้นเรอะ? ... ม่าย ขอบคุณหมานายเถอะ 



ในขณะที่ไคลฟ์กำลังเข้าไปเก็บไอเทมที่ป้าชารอนเจือจุนให้ แท่นหินโบราณใกล้ๆก็เริ่มส่องแสงและพาตัวไคลฟ์เข้าไปสู่ที่ว่างของมิติ

 

                                  Arete Stone 

แท่นหินอาเรเต้ คือ ประตูเข้าสู่ช่องว่างของมิติที่มีสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่ปรับแต่งได้ และเป็นพื้นที่ปลอดภัยของไคลฟ์เพื่อใช้ฝึกฝนฝีมือกับความสามารถต่างๆในการต่อสู้ให้คล่องแคล่วกับศัตรูที่สามารถควบคุมได้ 

Hall of Virtue โถงแห่งคุณธรรม หนึ่งใน Training Mode ที่ไคลฟ์สามารถเข้าถึงได้ครั้งแรกที่เข้ามา คือสนามรบที่สามารถปรับแต่งได้ที่ทำให้ไคลฟ์สามารถทดสอบความสามารถใหม่ๆกับศัตรูทุกรูปแบบอย่างปลอดภัย สามารถกดทัชเพดเปิด Training Menu เพื่อปรับแต่งรูปแบบต่างๆตามความพอใจได้

                   Cid – เอาล่ะ พร้อมออกเดินทางได้แล้ว 

Charon  - จะไปแล้วสินะ?
Cid – ก็มีแต่ป้านั่นแหละที่ผมคิดถึงอยู่ตลอดจริงๆนะ Lady Charon 
Charon  - คงไม่มีใครห้ามแกไม่ให้ไปได้เลยใช่มั๊ยล่ะ ?
Cid – แม่ง พูดกับหมา ... นึกว่าพูดกับเรา ไปเถอะ งานนี้สนุกแน่นอน

             Clive –  อืมม ... ไปลุยกัน Torgal

การเดินทางด้วย Fast Travel ไปยังจุดภารกิจตามสถานที่ต่างๆ ที่ปลดล็อกออกมาด้วยการรับภารกิจสามารถเปิด World Map ในเมนูหลัก หรือจากการค้นหาเครื่องหมายบอกทางที่เรียกว่า Obelisks

 

 

                             The Greatwood 

             อาณาเขตพื้นที่ Holy Empire of Sanbreque 

ป่าใหญ่ Greatwood  มีอาณาเขตที่กว้างขวางและรกชัฏจนถูกเรียกว่า ป่าคืนนิรันดร ที่บอกถึงความหน้าแน่นของต้นไม้ที่ตะวันมิอาจส่องถึง รวมถึงสัตว์ร้ายนานาพันธ์ที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย มันจึงทำหน้าที่เสมือนเป็นเกราะป้องกันทางธรรมชาติระหว่าง Crystal belt กับ จักวรรดิ ศักดิ์สิทธิ์ จากนักเดินทางที่โง่เขลาที่ผ่านเข้ามา 

Cid – แม่งเอ้ย ยุงเยอะชิบเลย !! 
Clive – ผมบอกคุณแล้วว่าให้ไปทาง Crystal Road 
Cid – แล้วชั้นก็บอกนายว่า เราเป็นพวกนอกกฎหมาย นายอยากให้พวกล่าค่าหัวทั่วทั้ง Storm มารุมทึ้งเราจนเละจากที่นี่จนถึงจักวรรดิ ศักดิ์สิทธิ์ รึไง? แล้วอีกอย่าง ใช้ทางลัดผ่านความงดงามของธรรมชาติมันแย่ตรงไหน?

Clive – พื้นที่ในดินแดนแห่งความตายเริ่มอ้างสิทธิ์ขยายพื้นที่ในอาณาจักรมากขึ้นทุกวัน การมีสถานที่แบบนี้อยู่ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก ยังมีทั้งแมลงวันและพวกเลือดเต็มไปหมด
Cid – อีกไม่นานเราก็กำลังเข้าสู่อาณาเขตของจักรวรรดิแล้ว นายโอเคนะ?
Clive –  ไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ ..

Cid – มันเป็นหมาล่าเนื้อที่ดีนะ เดี๋ยวมันจะแสดงให้นายเห็นว่ามันสามารถออกล่าอย่างไม่เกรงกลัวอะไรเลยอย่างที่นายต้องการเลยล่ะ
Clive –  ดีใจที่แกกลับมานะ Torgal 
Cid – เอาล่ะ ลุยกัน เราต้องรีบผ่านที่นี่ไปให้ได้ก่อนมืด ชั้นไม่อยากติดอยู่ในป่านนี้ตอนกลางคืนอ่ะนะ 

 

                           Fanning Embers 

 

จากนี้ไป Torgal จะเข้าร่วมกลุ่มในปาร์ตี้ต่อสู้เคียงข้าง Clive ในการเดินทาง จึงต้องเรียนรู้ การออกคำสั่ง สำหรับสั่ง Torgal ในการต่อสู้ 

Pet Command ใช้งานโดยกดปุ่มทิศทางซ้ายสลับกับหน้า item Shotcut 

ขึ้นบน – Sic กัด 
ทางขวา – ฮีลให้ Clive 
ลงล่าง – Ravage โจมตีใส่ศัตรูเพื่อทำให้ลอยขึ้นกลางอากาศ ใช้ในกรณีให้ Clive ทำคอมโบต่อ

** หากใส่ Ring of Timely Assistance Torgal จะทำการช่วยโจมตีอัตโนมัติตามสถานการณ์โดยไม่ต้องกดคอมมานด์คำสั่งเอง 

** คุณสามารถเข้าไปลูบหัวเล่นกับมันได้ด้วยการกด X ที่ตัวมัน

Cid –  ชั้นบอกรึยังว่าที่นี่มีสัตว์ดุร้ายด้วยนะ ? แต่ ไม่มีอะไรที่นักฆ่าฝึกหัดจะรับมือไม่ได้ ใช่มั๊ยล่ะ?
Clive –  ฟังแล้วอุ่นใจมากเลย ....

                           Cid –  ชูวว ระวัง ...

Cid – เจ้านี่มันลงใต้มาทำบ้าอะไรไกลถึงนี่เนี่ย?
Clive – คงมาหาอาหาร ที่ที่มันมาน่าจะไม่มีหมาป่าให้ล่าแล้วล่ะ ก็ทางตอนเหนือคือส่วนแรกของอาณาจักรที่ถูก Blight กัดกิน 

Clive –  โบราณสถานพวกนั้น มันมีอยู่ทุกที่เลยหรอเนี่ย?
Cid – บางคนบอกว่า ครั้งนึงมันเคยปิดกั้นดวงดาวบนท้องฟ้า ร่วงลงมาคือทางเลือกเดียวที่พวกมันทำได้ เป็นบทเรียนที่ดีที่เราควรเรียนรู้เอาไว้ แต่มันรอได้ รีบไปต่อกันเถอะ

                        Mini-boss :  Dragon Aevis 

 

 

                               Mini-boss : Fafnir 

 

 

                               Clive – แฮกๆๆ ....... 

            Clive – ห๊ะ ?  .. บ้าเอ้ย ไม่เอาน่า ยังไม่ตายอีก

                                 Cid – ถอยไป !!

 





















            Clive – คุณเป็น .. คุณเป็น Dominant งั้นหรอ?

Cid – เออ ..ชั้นเป็น ...แต่ชั้นไม่ได้เลือกซะที่ไหน ดันไปถูกใจ Ramuh เข้าอ่ะนะ

Clive – ซิด .. คุณบอกว่า อยากจะช่วยทั้ง Dominant และ Bearers แต่ แล้วคุณได้อะไรหรอ? ทำไปเพื่ออะไร?

Cid – ชั้นอยากได้อะไรอ่ะหรอ? ก็คง เหมือนกับพวกเราทุกคนนั่นแหละ สิ่งที่เราต้องการและสมควรได้รับมัน ไง

Cid – นอกจากพลังพิเศษบ้านี่ เรา Dominant และ Bearers ก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากคนอื่น ความสามารถในการใช้เวทย์มนต์ อัญเชิญสัตว์อสูร ควรได้รับการเคารพไม่ใช่หรอ? แต่เรากลับถูกขับไล่แบบพวกนอกรีต พวกเรามากมายถูกใช้แล้วถึงเหมือนกับเครื่องมืออะไรซักอย่าง เราเป็นมนุษย์นะ ทำไมต้องตายอย่างไร้ค่าแบบนั้นด้วย 

Clive – ผมเข้าใจ .. แล้วที่คุณบอกว่าจะก่อสงครามล่ะ?
Cid – ฮ่าๆ นายชมเกินไปแล้ว แต่วันเวลาการเป็นนักปลุกระดมของชั้นมันเรื่องนมนานมากแล้ว ชั้นก็แค่อยากให้คนประเภทเดียวกับเราได้มีโอกาศได้เลือกที่จะตายตามเงื่อนไขของเราเองบ้างก็เท่านั้น ว่ามั๊ย? 

… เอาล่ะ ไปกันได้แล้ว ..

Cid – ขอถามอะไรหน่อยสิ Clive นายคิดว่าจะทำยังไงเมื่อเจอ Dominant แห่งไฟตนนั้น ?

Clive – คิดว่าผมจะทำอะไรล่ะ? ผมจะไร้ความปราณีกับมันเหมือนที่มันทำกับน้องผม และก็จะตัดลิ้นใครก็ตามที่พยายามจะบอกให้ผมหยุดทำ

 

Clive – เดี๋ยว ! เงียบก่อน !! …. พวกหน่วยสอดแนมของจักรวรรดิงั้นหรอ?

Cid – เหมือนมันจะมำไกลบ้านอยู่นะเนี่ย
Clive – ลองตามมันไปดูดีกว่า ..

Benedikta – แล้วไงต่อ?
ชาวบ้าน – ผมเห็นพวกมันลงไปทางนั้น ทั้งหมดเลย , Greagor เป็นพยานได้ครับ 



Benedikta – ดีมาก 
ชาวบ้าน – อั๊กกกก !!!! ….พวกเราเดินทางต่อกันได้แล้ว 

ชาวบ้าน – ผมไม่เข้าใจ .... นี่ผมยังไม่ได้พิสูจณ์ว่าภัคดีต่อจักรรวดิอีกหรอ? แล้วไหนล่ะรางวัลของผม ...

Benedikta – จริงๆแล้วเจ้านายชั้นให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดเลยล่ะ ถ้าแกไม่รีบทรยศเพื่อนร่วมชาติของแกเพื่อแลกเงินซะก่อน 



 

                     ชาวบ้าน – อ๊ากกกกกกกกกกกก !!!!




Cid – Benedikta Harman ผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองของ Waloed ถ้าเราจับนางมาได้ล่ะก็ 

ทหารสอดแนมของ Waloed – เฮ้ยพวกแกน่ะ!! ทิ้งอาวุธและยอมจำนนเดี๋ยวนี้ ไอ้พวกจักรวรรดิ !!!


 

                        Cid – งั้นก็เข้ามา ให้มันจบๆไป 

                             BOSS – Midnight Raven 



 

Clive – แฮกๆๆ ... 
Cid – มันคิดว่าเราเป็นพวก จักรวรรดิ นายก็คงดูเหมือนด้วยแหละ แถมสู้อย่าง สมศักดิ์ศรีโล่แห่งโรซาเรียผู้ได้รับพรจากฟินิกซ์อย่างแท้จริง สุดยอดไปเลย ฮ่าๆ  

Cid – จะว่าไป ชั้นก็สงสัยอยู่ว่า ไอ้เจ้า Eikon แห่งไฟอีกตนมันให้พรด้วยรึเปล่า นายว่ามั๊ย?

Clive – คุณไม่เชื่อผมหรอ? 

Cid – ก็ ผู้สร้าง ได้สร้าง Eikons จากธาตุทั้ง 8 เพื่อหมายให้เป็นผู้คุมกฎเพียงหนึ่งกฎ ไม่ใช่ว่าชั้นจะมาอ้างหลักคำสอนมากเกินไปหรอกนะ แต่เหตุผลมันก็ชัดเจนอยู่ ไฟก็ต้องมีเพียงหนึ่งเดียวเสมอเหมือนธาตุอื่นๆทั้งหมด ไม่อาจเกิดใหม่ได้ถ้าตัวเก่าไม่ตายก่อน และนั่นก็ต้องใช้เวลาหลายปี ประเด็นคือ นายดูไม่เหมือนคนที่กำลังโกหกชั้นอยู่ 

ก็คงจะมีแค่คนเดียวที่จะให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ และ ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ Lostwing 

Cid – เช่นเดียวกับพวก Waloeder เพื่อนของเรา เดาว่างั้นนะ เราต้องรีบก่อนที่จะมืด

Clive – แล้วถ้ามีใครมาเห็นศพพวกนี้ล่ะ?
Cid – ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็จะผิดหวังอย่างแรงน่ะสิ 

 



-----------------------------------------------------------------------------

                            The Arete Stone >> Update



                           

   อัพเดทเพิ่มเติมการเข้าถึงใหม่ Stage Replay และ Arcade Mode 

 

Arcade Mode 

 

เป็นโหมดสำหรับความท้าทาย โดยในโหมดอาร์เคต คุณสามารถเล่นด่านที่ผ่านมาก่อนหน้าได้อีกครั้ง ในระดับความยากที่สูงขึ้นกว่าเดิม พร้อมข้อจำกัดต่างๆเพื่อความท้าทายที่มากขึ้น เช่น

 

-ห้ามสวมใส่ Timely accessories (ทำให้คุณต้องหลบเองทั้งหมด) 

-ห้ามปรับเปลี่ยนอาวุธขณะเล่น 

 

 

ด้วยจะมีการนับ Score จากเทคนิคการเล่น ซึ่งจะสังเกตได้ทางขวาของจอยิ่งใช้ถ่วงท่าที่ซับซ้อนมากคะแนนจะยิ่งสูงก็จะนำมาซึ่ง Rank ที่สูงตามมาหลังจบด่าน

 

 

 

Stage Replay

 

ในโหมดสเตทรีเพลย์ คุณสามารถเล่นด่านที่ผ่านมาก่อนหน้าได้อีกครั้ง ในระดับความยากเท่าเดิม เหมาะสำหรับ เพื่อเล่นทบทวนกับฉากเดิมที่เล่นไปแล้ว ตามเก็บไอเทมที่ตกหล่นหลงลืมและเก็บโทรฟี่ที่เคยทำไม่ได้จากการเล่นครั้งแรก ,เพื่อปั๊มเลเวล , AP ,เงิน แต่การเล่นรอบ 2 EXP ที่ได้จากการกำจัดศัตรูจะน้อยกว่าเดิม รวมถึงไอเทมที่ดอร์ปจากศัตรูก็อาจจะไม่เหมือนเดิม  

 

-----------------------------------------------------------------------------

 

 

                                Orabelle Downs

                      The Holy Empire of Sanbreque

ที่ราบอันงดงามที่ทอดยาวตลอดทางตอนใต้ของ จักรวรรดิ ศักดิ์สิทธิ์ (Holy Empire) มีชาวบ้านอาศัยอยู่ประปราย เว้นแต่ คนบางคนที่รู้ว่าตัวเองรู้ดีว่าจะไปไหน 

Cid – กะว่าจะมาถึงให้ทันก่อนจะมืดซะหน่อย ..
Clive – ผมไม่คิดว่ามันจะอยู่ใกล้แค่นี้เอง แล้ว พวกมันสร้างหมู่บ้านรอบๆที่นี่ทำไมเนี่ย? 
Cid – มันเคยเป็นซากปรักหักพังที่ล่มสลาย (Fallen Ruin) ชั้นเคยได้ยินคนเรียกมันว่า เรือเหาะ น่าเสียดายที่ไม่ทันเห็นตอนมันบินอยู่บนท้องฟ้า 

Clive – คุณคิดจริงๆหรอว่าไอ้ Dominant มันจะอยู่ที่หมู่บ้านนั่น
Cid – หน่วยสอดแนมของชั้นไม่มีคำว่าพลาด และชั้นก็เชื่อใจเขามากๆด้วย นั่นแหละชั้นถึงบอกว่าเราควรจะรีบไป มาเถอะ !

เรียนรู้เกี่ยวกับ Obelisks พบเจ้าเสานี้ในพื้นที่ไหน นั่นแปลว่าคุณจะสามารถ Fast Travel จาก World Map มาตามเสาพวกนี้ได้ทันที 

 

                             🔶 Louder than Words 🔶

Objective > เดินข้ามผ่านพื้นที่ Gautland's Bales ของ Orabelle Downs ไปจนถึงทางเข้าหมู่บ้าน

 

                              หมู่บ้าน Lostwing 

                     The Holy Empire of Sanbreque



 



Clive – ไม่มีวี่แววของพวก รอยัลลิสต์ เลย 
Cid – และก็ไม่เห็นชาวบ้านซักคนด้วย แบบนี้มันเงียบผิดปกติไป แม้แต่เวลาแบบนี้เนี่ยนะ 
Clive – แล้วเราเอาไงต่อ?  
Cid – ก่อนอื่นชั้นจะไปตามหาหน่วยสอดแนมของชั้นก่อน ส่วนนายก็ลองสำรวจๆรอบๆแถวนี้ดู

Clive – เดี๋ยว แล้วผมจะรู้ได้ไงถ้าคุณเจอเขาแล้วอ่ะ? 
Cid – ถามได้ดี .... ก็ตะโกนบอกไง...
Clive – ตะโกน .... เฮ้อ.. แล้วผมจะรู้มั๊ยเนี่ยว่าคนไหน? 

Objective >เดินสำรวจภายในหมู่บ้าน จนถึงจุดหมายของภารกิจ 

 

 

Clive – ไม่เป็นไรๆ ไม่ต้องร้อง ชั้นไม่ใช่พวกนั้นหรอกนะ ชั้นก็พวกเป็น เอ่อ เป็นทหารของ จักรวรรดิ และพวกเรามาเพื่อช่วย หนูรู้มั๊ยว่าครอบครัวของหนูถูกจับไปที่ไหน?

เด็ก – อยู่ที่โบสถ์ค่ะ ฮืออๆๆๆ 

Clive – โอเค เดี๋ยวชั้นจะไปช่วยพวกเขาเองนะ แต่ตอนนี้หนูต้องหาที่ปลอดภัยหลบก่อน เข้าใจนะ?


 

 

              Objective > เดินเข้าไปที่โบสถ์ของหมู่บ้าน

 

ชาวบ้าน – อ๊ากกก !!
หน่วยสอดแนมของซิด – เฮ้ยย พวกเขากำลังจะตายอยู่แล้วถ้าไม่รีบพาไปรักษา !!
ทหาร – หุบปากได้แล้วไอ้หมาสกปรก !!


ทหาร – ….. อ๊ากกกก !!!
หน่วยสอดแนมของซิด – นายมาสายนะ !!


Cid – ไคลฟ์ โว้ยยยย !!!!!

หน่วยสอดแนมของซิด – ชั้นนึกว่านายจะไม่มาซะแล้ว 
Cid – นายยังไม่ตาย แค่นั้นก็พอ Gav 
Gav – ก็เกือบอยู่เหมือนกัน พวกชาวบ้านพวกนี้ชั้นก็พอช่วยเท่าที่จะช่วยได้อ่ะนะ แต่ 

Clive – เอาจริงดิ ตะโกน เนี่ยนะ ? ผมนึกว่าคุณล้อเล่นซะอีก 

Gav – นี่แก ?
Cid – ไม่เป็นไร นั่นเพื่อนชั้นเอง ... แล้ว นี่คือคนทั้งหมดในหมู่บ้านแล้วหรอ?
Gav – ไม่ครับ ยังมีพวก รอยัลลิสต์ อีกนิดหน่อย พา Bearers มาด้วย พวกมันมาถึงก่อนคุณมาไม่นาน 
Clive – ห๊ะ? แล้วมี Dominant มากับพวกมันด้วยมั๊ย??
Gav – ก็อาจจะนะ แต่ยังไม่เห็นแค่แสดงพลังว่าเป็น Dominant


 

                                   ทหาร – ห๊ะ!!!

Cid – นายช่วยตามไอ้แขกที่ไม่ได้รับเชิญของเราไปหน่อยว่ามันไปไหน!?






      Objective > วิ่งตามทหารศัตรูไปจนถึงลานกว้างในป่าหลังหมู่บ้าน

 

Benedikta – มีข่าวจากหน่วยลาดตระเวนของเรารึยัง?
มือขวา – ยังเลยครับ นายหญิง แต่มีข่าวเรื่องพวก Dominant ที่ไม่ได้รับเชิญของเรา ก็แค่เรื่องขั้นเวลาก่อนงานใหญ่ ไม่ต้องห่วงหรอกครับนายหญิง

Benedikta – ดีมาก แล้วพวกที่เหลือล่ะ?
มือขวา – พวก Bearers ที่เหลือเราพาตัวไปที่ป้อม Caer Norvent แล้วครับ 
Benedikta – บางคนอาจยังควรค่าที่จะเก็บไว้ บางทีมันอาจเป็น Dominant แต่ตบตาเราก็ได้ 
มือขวา – พวกเขาจะยังปลอดภัย ตามคำบัญชาครับนายหญิง


มือขวา – ท่านสุภาพบุรุษ !! …ขอแจมด้วยได้มั๊ย?  ฮ่าๆๆ เพื่อนายหญิงแห่งวายุ และ องค์ราชาของเรา !!! ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

Benedikta – ถุยยยย !!! นี่ทหารของพระราชาดื่มอะไรแบบนี้เนี่ยย รสชาติอย่างกับฉี่ !!!
มือขวา – ดูจากลมหายใจของพวกมันก็น่าจะประมาณนั้นอ่ะครับ ฮ่าๆๆๆๆ 

 


      ทหาร – นะ นายหญิง Benedikta!!! ทหารอิมพีเรียล !!


Benedikta – แทนที่แกจะฆ่าพวกมัน แต่กลับพามันมาหาเราเนี่ยนะ !!ทหาร – เอ่อ .. เมตตาด้วย  นายหญิง ! .. อ๊ากกกกกกก !!!!

                          Benedikta – ว้าวว ดูสินี่ใคร



Benedikta – ว้าวว ดูสินี่ใคร เจ้า Bearer หนุ่มน้อยของพวกจักรวรรดิ ก็ดี เพราะชั้นกำลังเบื่อพอดี 








Clive – มายังไงวะเนี่ย? 
Benedikta – ร่ายรำหน่อย Chirada !!!       



 

                             BOSS – Chirada

 

       Benedikta – ฝีมือดีนี่ แม้จะเป็นพวกถูกตีตราก็เถอะ 


   

                                 Cid – ไคลฟ์ !!!!

Benedikta – ดูซิว่าใครมา? .... นี่นายจะรวมเรื่องเก่ากับเรื่องนี้แล้วเช็คบิลทีเดียวเลยใช่ป่ะ?


           Cid – ใครขอความเห็นเธอหรอ Benedikta?

Benedikta – ไง คุณ Cidolfus ! .. เออ ว่าแต่ ทำไมคุณถึงทรยศอณาจักรของตัวเอง? ชั้นถามคุณอยู่นะ ท่านผู้บัญชาการณ์ !

Cid – ทำไมอ่ะหรอ? เพราะชั้นโคตรจะเบื่อเธอกับราชาของเธอไง!
Benedikta – แล้วคราวนี้จะมาชิงตัวพวกถูกตีตราของชั้น มีแผนอะไรอีกล่ะ?
Cid – เธอบอกชั้นสิ 

   ทหาร – นายหญิง Benedikta เราได้ตัว Dominant แล้วครับ !!


      Benedikta – ชอบมีเรื่องมาขัดจังหวะตลอดเลยว่ามั๊ย?


                                  Clive – อั๊กกกก !!!!


                               Cid – นางหนีไปแล้ว


Cid – Gav ตามนางไป !  … เดี๋ยวไคลฟ์ นายได้ยินมั๊ยว่านางกำลังจะไปที่ไหน?

Clive – ไม่ 
Cid – งั้นเราควรกลับไปรอที่ Lostwing กันก่อนดีกว่า พวกเช้าบ้านที่ถูกจับอาจได้ยินอะไรมาบ้างก็ได้
Clive – แต่ เราจะรอไม่ได้นะ !!
Cid – เอาน่า ชั้นส่ง Gav ไปสอดแนมแล้ว เจ้านี่มันจมูกดี เชื่อชั้นสิ

 

                            หมู่บ้าน Lostwing




Cid – อืมมม จริงๆแล้ว มันไม่เกี่ยวกับ Bearers ใช่มั๊ย ? พวกมันกำลังมองหา Dominant อยู่สินะ ?

ชาวบ้าน – ใช่ครับ พวกเราเลยต้องพาพวกเขาไปซ่อน อย่างกับเราแอบซ่อนตัวประหลาดไว้ บางคนก็ซ่อนตัวใต้หลังคา พอถูกจับได้ก็ไม่มีการลงโทษอะไรเลย 

ชาวบ้าน – พอคนในหมู่บ้านปิดปากเงียบไม่มีใครยอมบอก พวกมันก็เลยจับหมดทุกคนทั้งคนที่ถูกตีตรากับคนที่ไม่ถูกตีตรา 

Cid – ก็เลยเอาพวกคุณมาขังไว้ใต้โบสถ์ เพื่อรอเผื่อมีคนมาช่วย พวกคุณรู้มั๊ย มันจะไม่เป็นแบบนี้ถ้าพวกคุณยอมรับคำเชิญจากผม 

ชาวบ้าน – ไม่ต้องมาพูดเลย ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันหมดอยู่แล้ว แต่ที่นี่คือบ้านของเรา ก็ไม่ได้ว่าพอมีเรื่องเราจะไม่ช่วยซะหน่อย 

Cid – ชั้นก็ว่างั้นแหละ 

 

มาฟังเรื่องราวของลอร์ด Dion ผู้กล้าหาญกันเถอะ …♬♪

ผู้เลี้ยง wyrms ไว้เป็นพันแต่ก็สังหารมันได้เป็น 10 เท่า 

พยุหเสนาหลายร้อนพันที่นำโดยนักรบมังกรผู้เยาว์วัย

และมองดูศัตรูนับล้านกำลังหาทางหนีไป และ หนีไป ♪♬


Cid – ฟังนะ ไคลฟ์ การล้างแค้น ยังไงก็ไม่มีวันได้เขากลับมา ไม่มีวัน 


Clive – เมื่อ 13 ปีก่อน ผมเห็นไอ้ Dominat นั่นฆ่าน้องชายผม ต่อหน้า และผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่ตอนนี้ผมทำได้ 


ผมเลยจะฆ่าไอ้ห่านั่นเพื่อทำให้ดวงวิญญาณน้องผมไปสู่สุขคติ หลังจากนั้น จะเป็นยังไงผมก็ไม่สนหรอก 



    Cid – ชะตากรรม .. นายพร้อมใจจะเป็นทาสของมัน ..สินะ 

 

 

ในขณะเดียวกัน ........

 

                                  Caer Norvent 

                     The Holy Empire of Sanbreque


Benedikta – ด้วยบารมีที่แผ่ขยายของเขา ทำให้เราเชื่อว่าจักรวรรดิมิอาจต้านทาน แต่จริงๆแล้วเราพบว่ารากฐานที่สำคัญของจักรวรรดินั้นกำลังสั่นคลอน ด้วยคนขี้ขลาดและฆาตกรที่อยู่เบื้องหลัง ในขณะที่บาฮามุธ เป็นเสมือมผู้นำกองทัพ นั่นแปลว่าเจ้าชายหนุ่มน้อยกังลังปกป้องบัลลังก์ที่พร้อมจะโดนโค่นล้มแม้โดนสายลมพัดมาแค่เล็กน้อย


Benedikta –ชั้นถามอะไรหน่อยสิ ..ทำไมเจ้าถึงไม่ลุกขึ้นต่อต้ายนพวกมัน? ในเมื่อพลังในการสังหารทวยเทพในตัวเจ้า แม้ฟินิกซ์ก็ยังมอดไหม้ในเปลวไฟของเจ้า แต่เจ้ากลับไม่ยอมสู้ ไม่ยอมหนี และไม่ยอมรับในพลังของตัวเจ้าเอง 


Benedikta –บางทีเจ้าอาจกำลังสองจิตสองใจอยู่ แต่ขอเสนอของชั้นยังคงเหมือนเดิม เข้าร่วมกับเราแล้วเจ้าจะได้รับปฏิบัติด้วยความเคารพในแบบที่เจ้าควรได้รับ 


Benedikta –เอาเป็นว่า ชั้นจะให้เวลาเจ้าตัดสินใจซักพักก็แล้วกันนะ .. อ่อนโยนกับเขาหน่อยนะผู้คุม 

 

                              หมู่บ้าน Lostwing


                 Cid – ไคลฟ์ ตื่น! … Gav กลับมาแล้ว 

Gav – ข้าเจอป้อมแห่งนึงเป็นฐานที่มั่นของพวกจักรวรรดิแม้จะดูไม่แข็งแกร่งมากสำหรับพวกรอยัลลิสต์ พวกมันจับ Bearers เอาไว้ที่นั่น ข้ามั่นใจ 
Cid – ถ้าหากคำสั่งของ Benedikta เป็นไปในทางลับ นางอาจไม่ได้เดินทางมาพร้อมทหารจำนวนมากก็ได้ นั่นหมายความว่านางดูแลนักโทษที่จับมาอย่างใกล้ชิดมากๆ
Clive – ซึ่งมี Dominant รวมอยู่ในนั้นด้วย 
Cid – ถ้าเราสร้างความวุ่นวายนิดหน่อยก็น่าจะลอบเข้าไปในป้อมได้ไม่ยาก


Gav – แล้ว ..แล้วผมล่ะ ??

Cid – ถามได้ดี Gav ชั้นอยากให้นายซุ่มรออยู่นอกป้อม รอชั้นช่วยคนออกมาแล้วพาพวกเขาไปในที่ที่ปลอดภัย 
Gav – งั้นผมก็อดทำเรื่องสนุกๆเลยอ่ะดิ แล้ว ทำไมเจ้าหมอนั่นได้เข้าไป!?


Cid – ไคลฟ์ไม่ได้จมูกดีเหมือนนาย เขาสะดุดหน้าผาก่อนจะพาพวกนั้นให้รอดแน่นอน ไม่เอาน่า Gav นายเก่งในงานของนายอยู่แล้ว 
Gav – โอเค ฮ่าๆๆ เอางั้นก็ได้ และ ผมแนะนำว่างานนี้ระวังเซอร์ไพรซ์ไว้หน่อยก็ดี ..ส่วนนาย อย่าทำให้เขาผิดหวังก็แล้วกัน 

Clive – ไม่แน่นอน .... เอาล่ะ เราจะไปกันยัง?
Cid – ยังก่อน เราจะเดินทางตอนเช้า
Clive – แต่ มัน อยู่ตรงนี้แล้วนะ 
Cid – ก็ถ้าเราไปตอนนี้เราน่าจะถึงตอนเช้าพอดี รวมถึงทหารของมันก็น่าจะพร้อมตั้งรับเต็มพิกัดด้วย ใจเย็นน่า ไคลฟ์ พวกมันเพิ่งมาถึง คงจะอยู่ที่นั่นอีกซักพักนั่นแหละ เรามีโอกาสแค่ครั้งเดียว นายคงไม่อยากเสียมันไปใช่มั๊ยล่ะ?

 

 

                          The Dead of Night 

 

ในขณะที่ Dominant แห่งไฟลึกลับที่ Clive กำลังไล่ล่าอยู่ในเงื้อมมือของหน่วยข่าวกรองของอาณาจักร Waloed โดยการนำของ Benedikta จากการให้ข้อมูลของ Gav หน่วยสอดแนมของ Cid , Clive ถูกแนะนำให้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมกับ ควินเตน คนที่กว้างขวางในหมู่บ้าน

 

 

 

       Objective >เดินเข้าไปคุยกับ Quinten บริเวณกลางหมู่บ้าน

 

Cid – ไง Quinten ชั้นว่างานนี้เราคงใช้เวลากันทั้งคืนแน่เลย

Quinten – นึกแล้วเชียว ... แล้วนั่นนายพาใครมา?

Cid – อะไรนะ คนนี้อ่ะหรอ นายจะต้องไม่เชื่อแน่ถ้าชั้นบอกไป ที่คือเพื่อนเก่าที่น่าสงสารของเรา 

Clive – น่า น่าสงสาร ??  งั้นแสดงว่าเขารู้เรื่องสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เล็กๆของคุณด้วยงั้นหรอ? ผมไม่คิดว่าคนทั่วไปอยากจะปล่อยให้พวกคุณมีอิสระนะ จากที่ตรวจสอบล่าสุด ความคิดเห็นเดียวคือ อยากจับเข้าคุก 

 

Quinten – ชั้นรู้ดีหรอกน่าว่ามันเสี่ยง แต่ค่าตอบแทนมันก็คุ้มอยู่นะ

Clive – มีอะไรคุ้มกว่าข้อมูลของ Dominant แห่งไฟของคุณอีกงั้นหรอ?

Quinten – Dominant หรอ? ที่นี่อ่ะนะ? ชั้นก็โคตรจะอยากเห็นเหมือนกันนะ

Clive – งั้นคุณก็คงไม่ ... 

Quinten – ก็ไม่เชิงนะ ที่แน่ๆไม่มีอะไรที่ผ่านเข้ามาใน Lostwing แล้วจะรอดผ่านสายตาชาวบ้านไปได้หรอก อย่างเช่น ตราบนหน้าของนายไง 

 

Quinten – มีชาวบ้านเคยเห็นครั้งนึง และคงไม่ต้องบอกเลยว่าพวกเขาจะตอบคำถามคนที่ถูกตีตราแบบคุณแบบไหน ...เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ไม่ก็คงแกล้งหูหนวกไปเลย ก็อย่างที่เคยเป็นมานั่นแหละ ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณถูกหมายหัวแล้ว แต่ ไม่ต้องห่วง ชั้นแก้ปัญหาที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของคุณได้  ขอให้มันเป็นประโยชน์กับ Cid เป็นพอ 

 

Quinten – เอานี่ไป แล้วนายจะพบว่า มันมีพลังลึกลับที่ทำให้พวกชาวบ้านเปิดปากได้บ้าง .. ขอให้พระแม่นำทางนายนะ 

 

Cid – นี่อาจเป็นอาณาเขตของจักรวรรดิ แต่ไม่ใช่ที่ Lostwing คำพูดของเขาเป็นวาจาสิทธิ์ 

Clive – แต่ .. เพราะอะไรหรอครับ?

Cid – ตอนนี้นายไม่ต้องห่วงเรื่องนั่นหรอก เชื่อชั้น ทุกคนรู้ว่าตราของ Quinten มันหมายถึงอะไรก็พอแล้ว ตอนนี้เราสามารถนั่งรับพรของพระแม่สบายๆอยู่ที่นี่หรือเอาไปใช้ประโยชน์ในการหาข่าวของ Dominant นั่น นายก็เลือกเอาก็แล้วกัน 

 

 

Objective >เดินเข้าไปคุยหาข้อมูลกับชาวบ้าน 2 คน 

 

คนตัดไม้ – อ่อ นายเอง ท่าน Quinten ยอมรับในตัวนายแล้ว ชั้นรู้ๆ ชั้นคิดว่านายกับซิดนอนแล้วซะอีก ก็นะ อย่างว่า Gav รู้ โลกรู้ ถ้านายเจอเขาก็ฝากขอบคุณเขาด้วยที่ดูแลพวกเรามาตลอด ว่าแต่ นายมีเรื่องไรให้ช่วยหรอ?

Clive – คือผมกำลังตามหา Dominant แห่งไฟอยู่ Gav คิดว่าเขาอาจเข้ามาหลบอยู่ที่นี่ 

คนตัดไม้ – พวกเราเห็น Bearers หลายคนที่เข้ามาที่นี่ และจำได้ว่ามีคนนึงที่ควบคุมไฟได้ ไม่แน่ใจว่าเขาเป็น Dominant มั๊ยนะ แต่พวก Waloeders ให้ความสำคัญกับเขามาก

Clive – แล้วคุณเห็นเขาจะๆเลยมั๊ย?

คนตัดไม้ – ยังไม่มีโอกาสเข้าใกล้เลย แต่ Bearers อาจจะเห็นนะ 

 Clive – ขอบคุณครับ

 

ชาวบ้าน – นั่นตรา hanged man นี่ แสดงว่านายท่าน Quinten เห็นว่านายสำคัญมากแน่ๆ ที่แน่ๆนายทำสิ่งที่ดีในวันนี้ คือไร้ไอ้พวกสารเลวนั่นไปได้ ถ้านายไม่มาช่วยไว้ ชั้นคงตายไปพร้อมคนอื่นๆไปแล้ว

 Clive – คนอื่นๆที่ว่า มีคนที่เป็น Dominant รวมอยู่ด้วยมั๊ย? Dominant แห่งไฟน่ะ ?

ชาวบ้าน – น่าจะมีนะ พวก รอยัลลิสต์ คิดว่าเขาเป็น สภาพผอมมีแต่กระดูกใส่ผ้าคลุมแบบพวกคริสตจักรเกรกอเรียน ** 

 

** สาวกผู้บูชาเทพีเกรกอร์ (Greagor) คริสตจักรเกรกอเรียน ศาสนาประจำชาติของจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์แห่ง Sanbreque

 

Clive – คุณจำอะไรเกี่ยวกับเขาได้อีกมั๊ย?

ชาวบ้าน – อืมมม จำได้ว่าเขาไม่เคยอยู่คนเดียว เพราะมีคนรับใช้หญิงไปไหนมาไหนด้วยตลอดเลย แม้กระทั่งในโบสถ์ จากนั้นพวกรอยัลลิสต์พาตัวเขาไปก่อนที่พวกคุณจะมาถึง 

Clive – ขอบคุณครับ

 

Cid – บอกสิว่านายมีข่าวดีมาบอก .... อืมมม .... เด็กหนุ่มที่ใส่ฮู้ดงั้น? แค่นี้เองหรอ ? แต่ก็ 

Clive – แต่อะไรครับ?

Cid – ชั้นก็แค่คิดว่า ทำไมไอ้เจ้า Dominant แห่งไฟทำไมมันไม่เผาพวกรอยัลลิสต์แล้วหนีไปซะ หรือมีเหตุผลที่เขาลังเลและชั้นคิดว่ามันคงเกี่ยวกับเพื่อนของเราแน่

Clive – หมายความว่าไงครับ?

 

Cid – ชาวบ้านคนนึงบอกชั้นว่า พวกเขาถูกจับแยกกันอยู่ พวก Waloeders จะใช้เธอมาเป็นตัวประกันเพื่อไม่ให้เขาเผาทุกอย่าง ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เขาแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นเป้าหมายระดับสูง เขาระวังตัวตลอด เจ้าเล่ห์ และไม่ต้องการให้ใครพบตัว นั่นเป็นปัญหาสำหรับทั้งกับเราและพวกรอยัลลิสต์ แต่ก็ถือว่าดีแล้วที่ยังมีข้อมูลเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาบ้าง ตอนนี้เราไปหาห้องที่มีเตียงนุ่มๆกันก่อนดีกว่า

 

Cid – แล้วไหนเตียงนุ่มๆของพวกเราล่ะ?

Quinten – เตียง ? ผมจำได้ว่าคำขอของคุณคือ แค่ค้างคืน ซึ่งนั่นผมว่า พื้น ก็น่าจะเหมาะสมแล้วนะ 

 

Cid – โอเค ก็ยังดีกว่านอนบนหินเปียกๆ  ขอบคุณมาก Quinten ครั้งหน้าถ้าคุณไปที่ที่ hideaway ของผม พื้นของเราก็จะเป็นที่พักของคุณเหมือนกัน 

 

Quinten – ไม่ต้องขอบคุณหรอก ผมไม่ได้ทำการกุศลนะ Cid แต่เอาเถอะ เพื่อแลกเปลี่ยนกับพื้นของผม เพราะผมคงต้องพึ่งคุณอีกนานเลย พวกรอยัลลิสต์มันสร้างเครื่องกีดขวางปิดกั้นถนนทางใต้เอาไว้ตอนพวกมันมายึดหมู่บ้านนี้ และพอมันไปมันก็ไม่ได้เอาออกซะด้วย ผมหวังว่ามันจากหายไปก่อนคุณจะไปนะ 

 

                      Cid – เออ เอาตามที่สะดวกเลย 

 


คืนต่อมา .....

 

Cid – เฮ้ออ การรื้อสิ่งกีดขวางครั้งแรกใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้แฮะ แต่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวก็เสร็จ  

Clive – ผมไม่สนหรอก 

Cid – ถ้านายจะไปตอนนี้ เราจะไปถึงป้อมนั่นมืดพอดี รออีกหน่อยไม่ได้หรอ?

Clive – ไม่อ่ะ ผมขี้เกียจที่จะรอแล้ว ... ถนนนั่นไปทางใต้ใช่มั๊ย ?

Cid – นายโชคดีแล้วล่ะ เพราะชั้นรู้จักทางลัดอีกทาง 

 

 

Objective > ไปที่ทางออกทางทิศใต้ของหมู่บ้าน

 

Clive – พวกรอยัลลิสต์มันคิดอะไรอยู่กับนะ ทำไมต้องยึดป้อมที่ตัวเองไม่สามารถครอบครองได้

Cid – ก็พวกเขาไม่ได้ต้องการเป็นเจ้าของมันน่ะสิ บางทีราชาชอบทำสิ่งที่ไม่ควรทำ 

Clive – ราชาหรอ?

 

Cid – นี่นายคิดว่าพวกเขาตั้งใจทำงั้นหรอ? นี่ก็แค่เรื่องสนองตัญหาอย่างนึงของฝ่าพระบาท และพระองค์ก็มีความพยายามอย่างที่สุดเพื่อทำเรื่องแบบนี้ให้สำเร็จซะด้วย แต่ยังไง Caer Norvent ก็ยากที่จะแตก มันไม่ยอมสยบแม้กระทั่งกับพวกรอยัลลิสต์





Cid – ปกติชั้นถนัดลุยเข้าทางประตูหน้าเลยนะ แต่งานนี้คงต้องใช้ไหวพริบมากกว่านั้นหน่อย

Clive – มีประตูระบายน้ำเก่าอยู่ใต้สะพานด้วย ผมว่ามันน่าจะพาเราเข้าไปในส่วนใต้ป้อมได้

 

Clive – เอ่อ .. ซิด .. เราต่างก็รู้ว่าผมมาที่นี่เพื่ออะไร? แต่ เพราะอะไร ถึงช่วยผมล่ะ คุณต้องการอะไรหรอ? ทำไมคุณถึงเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเพื่อคนที่ถูกขับไล่แค่ไม่กี่คน? แล้วถ้าเกิด มีใครซักคนในพวกผู้มีอำนาจรู้ว่าคุณทำอะไรกับ ทรัพย์สิน ของพวกเขา ...

 

Cid – พวกเขาก็คงตัดหัวชั้นใส่กล่องล่ะมั้ง แต่นี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของ Dominant หรือ Bearers หรอกนะ มันเป็นเรื่องของเราทุกคน ... ชั้นต้องการอะไรน่ะหรอ?  ชั้นก็แค่ อยากสร้างสถานที่ที่นึง สำหรับคนทุกคน ที่ไม่สำคัญว่าคุณเป็นอะไร แต่ คุณเป็นใคร โลกนี้คงจะไม่พร้อมที่จะมีสถานที่แบบนั้นหรอก ก่อนจะถึงวันนั้น ชั้นจะใช้พลังที่ได้รับมาเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ยังมีความหวัง 

 





Clive – ช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับ Benedikta ให้ผมฟังหน่อยสิ 

Cid – นางคือ การตัดสินใจที่แย่ที่สุดและดีที่สุดเท่าที่ชั้นเคยทำมา อย่าประเมินเธอต่ำเกินไปนะ Clive การต่อสู้กับ Eikon ของเธอไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำแล้วเดินหนีได้ 

Clive – Garuda เจ้าแห่งวายุ ..สินะ

 

             Cid – ไคลฟ์ ไปกันเถอะ จังหวะเหมาะแล้ว 



                              Caer Norvent 

 

                   The Holy Empire of Sanbreque

 

ครั้งนึงเคยเป็นฐานที่มั่นของ จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ ก่อนจะถูกปลดประจำการเลิกใช้งาน เพราะขัดต่อเชิงกลยุทธตามตำแหน่งที่ตั้งในแถบคริสตัลที่เป็นกลาง ปัจจุบันใช้เป็นที่ฝึกทหารใหม่ของจักรวรรดิ 

 















 




 

Barnabas – Thalan ล่มสลายแล้ว …ตอนนี้ดินแดนทางตะวันออกเป็นของพวก Orcs 

Benedikta – ชั้นจะให้คนของชั้นเตรียมตัวให้พร้อมเดิมทางก่อนเที่ยง 

Barnabas – ไม่ต้องหรอก .. 

Benedikta – แต่มันเกี่ยวกับเรื่องเหมือง ถ้าปราศจาก อดามันไทต์ ...

Barnabas – ไบส์ท มันกลืนกินเหมืองไปนานแล้ว อีกอย่าง คุณก็มีหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้ว 

Benedikta – ได้ค่ะ ฝ่าบาท 

Barnabas – แต่ล่ะวันความมืดได้กลืนกินอาณาจักรของเรามากขึ้น ดินแดนต่างก็อดอยากด้วยให้ชีวิตกับอากาศธาตุของมัน ผู้คนต่างแห่กันไปที่ Mothercrystals เพื่อขอพรอย่างสิ้นหวัง สงครามที่เราทำก็เพื่อครอบครองพรนั้น มันทำลายเราจากภายใน เร่งให้เราไปสู่ความหายนะของตัวเอง

 

Benedikta – ดังนั้นท่านจึงทำในสิ่งที่ต้องทำ 

Barnabas – ชั้นต้องรวบรวม Dominants ... เพื่อยุติขอพิพาษทั้งหมด เพื่อ ระเบียบใหม่ ในวันพรุ่งนี้ของเรา .. โลกต้องได้รับการฟื้นฟู และ ชั้นก็เห็นว่ามันต้องเป็นเช่นนั้น 

 



 

Benedikta – ท่านทำเกือบสำเร็จแล้ว ถ้า Cidolful ไม่ทรยศเราเสียก่อน 

Barnabas – เขาอีกแล้วหรอ? คุณยังต้องการอ้อมกอดเขาอยู่อีกหรอ?

Benedikta – ไม่แน่นอนอยู่แล้วค่ะฝ่าบาท ชั้นจะรับใช่ท่าน ท่านคนเดียวเท่านั้น

Barnabas – ชั้นจำได้ดี ในวันที่คุณเข้าไปที่ห้องโถงนั้นเป็นครั้งแรก มือที่ซีดเซียวของคุณบีบมือเขาแน่นราวกับไม่อยากปล่อยมือจากเขา 

 

Benedikta – แต่นั่น ... นั่นมันนานแล้วนะคะ แขนของท่านเท่านั้นที่ชั้นต้องการ ตอนนี้และตลอดไป 

Barnabas – อีกไม่นาน ที่รัก อีกไม่นาน เดี๋ยวก็รู้ จะเป็นมือของใครที่จะปกป้องไม่ให้แผ่นดินนี้ตกอยู่ในความมืดมิด 

 

    Benedikta – กอดชั้นหน่อยสิฝ่าบาท แล้วอย่าปล่อยชั้นไปนะ 



 

 

มือขวาของ Benedikta –ยามคนนึงของเราขาดการติดต่อไป ไม่รายงานมาตามเวลาตามคำสั่งครับ 

 

Benedikta – สั่งคนของเราเข้ามาในป้อมให้หมด Gerulf 

Gerulf – พวกมันเข้ามาที่นี่แล้วสินะครับ 

Benedikta – ปล่อยให้ Cid กับสัตว์เลี้ยงของมันให้เขาไปถึงโบสถ์ ชั้นจะรอจัดจัดหนักพวกมันอยู่ที่นั่นเอง 

 

 
 

 

 

          Benedikta – ยังไงซะ คุณก็กลับมาหาชั้นอีกจนได้ 

 

                                    Caer Norvent 

 

                       

                                    🔶  Headwind 🔶

 

 

Clive – เคลียร์ ... นี่น่าจะเป็นส่วนล่างของป้อม  

Cid – เวทย์ดีนี่ วันหลังนายสอนชั้นบ้างก็ดี 

 

Clive – ในที่คุมขังนี้ว่างเปล่า ไม่มีใครเลย

Cid – แล้ว? จะยอมแพ้แล้วรึไง?

 

 

Objective > หาทางขึ้นไปถึงชั้นบนของป้อม จนถึงโบสถ์ 

 

 
 





Cid – มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่เนี่ย?  .... หืมม  .. มาสวดมนต์เอาตอนนี้ไม่สายไปหน่อยเร้อ ?

 

Benedikta – ชั้นดูสิ้นหวังถึงขนาดต้องก้มลงกราบแทบเท้าเทพเจ้าจอมปลอมงั้นเลยหรอ? … ชั้นมารอคุณต่างหาก 

 

Cid – คงไม่ใช้เวลานานเกินไปใช่ป่ะ พอดีรีบน่ะ  ... ทั้งหมดนี่ก็เพื่อคุยเจ๊าะแจ๊ะกันตอนเที่ยงคืนเนี่ยนะ โอเค งั้นก็คุยเลยแล้วกัน ชายหญิงที่เธอเอามาจาก Lostwing อยู่ที่ไหน ?

 

Benedikta – คุณหมายความว่า Dominant อยู่ที่ไหนใช่มั๊ย? พอดี Waloed ต้องใช้บริการพวกเขาอย่างไม่มีกำหนดอ่ะนะ …. ไม่เอาน่า Cidolfus ชั้นต้องการคุณจริงๆนะ คิดถึงสิ่งที่เราจะสร้างร่วมกันสิ โลกที่เราช่วยกันสร้าง-ขึ้นมาใหม่ได้

 

Cid – เธออ่ะนะต้องการชั้น กษัตริย์ของเธอต่างหากที่ต้องการ ชั้นเองก็กำลังสร้างโลกใหม่อยู่ แค่ไม่ใช่กับเขาก็เท่านั้นเอง ความฝันที่บิดเบี้ยวของไอ้สารเลวนั่น กับสัญญาที่มันไม่เคยรักษา ชั้นไม่ต้องการทั้งสองอย่างนี่จากมันทั้งนั้นแหละ

 

Benedikta – ราชา Barnabas ช่วยคุณเอาไว้ แล้วมาพูดถึงท่านแบบนี้อ่ะนะ ไม่รู้จักความจงรักภักดีบ้างเลยงั้นหรอ?

Cid – ห๊ะ? ภักดี กับคนที่หลอกใช้ชั้น เหมือนกับหลอกใช้เธออ่ะนะ?

Benedikta – คุณไม่รู้จักชั้น Cidolfus!!

 

Cid – เธอพูดถูก ชั้นไม่รู้จักเธอ ไม่รู้ว่าเธอเป็นใครหรือต้องการอะไรอีกแล้ว รู้แค่ที่เธอเคยบอกกันชั้นว่า เธอเหนื่อยกับการวิ่งหนีแล้ว ว่าเธอแค่อยากเป็นอิสระ อิสระจากทุกสิ่ง ถ้าตอนนั้นเธอไม่ได้โกหกชั้น แล้วอะไรที่เปลี่ยนไป?  อะไรคิดว่าเธอต้องเสียสละตัวเองเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ?

 

Benedikta – เสียสละงั้นหรอ? ชั้นใช้พลังความสามารถของชั้นให้เป็นประโยชน์แล้วคุณจะมาบอกให้ชั้นต้องละอายใจหรอ??

 

Cid – ถ้าไม่ละอายใจงั้นทำไมเธอถึงต้องเสียใจกับตัวเองด้วย ??

 

Benedikta – พูดปลุกใจได้ดีมากท่านผู้บัญชาการณ์ !! ชั้นมันโง่เองที่คิดว่าคุณจะเปลี่ยนความคิดได้ !! คนเดียวที่ชั้นรู้สึกเสียใจก็คือ คุณ !! 

 

Benedikta – พอๆๆ ชั้นจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ..ถ้าคุณเลือกที่จะยืนขั้นกลางระหว่าง ฝ่าบาทกับความฝันของเขา ถ้างั้นชั้นก็ไม่มีทางเลือก !!

 

                          Benedikta – ลาก่อน Cidolfus!! 

 








                         Cid - ถอยไปไคลฟ์ อ๊ากกก !!

 


 

                           Cid – สามรุมหนึ่งเลยงั้นหรอ !!?

 

 

 

 



                             Cid – อ๊ากกกกกกก !!

 

                                 Clive –  Cid !!!

 

                          Benedikta – จัดการมันซะ !

 

 



                              BOSS – Chirada 

 

Clive –  Cid !!! คุณโอเคมั๊ย?

Cid – แล้วชั้นดูโอเคมั๊ยล่ะ?

 

Cid – Benedikta กำลังจะไปหา Dominant ..ถ้าเธอยังไม่ได้ไป นายต้องอย่าปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้นะ ..และอย่าลืม Benedikta นางมีปีก แต่นายไม่มี 

Clive – แล้วคุณล่ะจะทำยังไง ?

Cid – ก่อนหรือหลังชั้นหยุดหายใจล่ะ? ... โทษที 

 

                             Clive – ไปกัน Torgal 

 

Objective > เดินขึ้นไปหา Benedikta ที่ดาดฟ้าของป้อม

 

Benedikta – ชั้นสารภาพตรงๆเลยว่า ชั้นคาดหวังกับตาลุงซิดเอาไว้มากอยู่




Benedikta – แต่กับนาย คนชั้นไม่ได้คาดหวังอะไรเลยกลับจัดการกับเหล่าน้องสาวของชั้นถึง 2 ครั้งแล้ว ชายที่มีพรสวรรค์อย่างน้อยหายากนะ ทำไมนายถึงไปเลือกเข้ากลุ่มกับพวกตลาดล่างแบบนั้นล่ะ?  แต่ถ้านายโหยหามานานความอบอุ่นของครอบครัวที่ห่างหายไปนาน นายก็จะพบความอบอุ่นมากเกินพอภายใต้ปีกของชั้น 

Clive – แกก็รู้อยู่แล้วว่าชั้นต้องการอะไร? เอาตัว Dominant นั่นมาให้ชั้นแล้วจะปล่อยแกไปโดยสันติ

Benedikta – นี่นายกล้าเรียกร้องจากชั้นงั้นหรอ? ดูสถานะตัวเองด้วยลูกแกะน้อย คนโง่ที่เป็นคนเลี้ยงแกะต้องฟังทุกเสียงของแกะในฝูง แต่ชั้นไม่ต้อง และขี้เกียจทนกับคนแบบนายแล้ว 

 





Clive – อ๊ากกกกก !!!
Benedikta – ผู้ถูกตึตรา งั้นหรอ? สงสัยชั้นคงจะดูแกผิดไปนะ ...ไม่มีใครฟัง แกหรอก !! ไม่มี !!!!


      Benedikta – มานี่มาเจ้าแกะน้อย .. มาให้แม่เชือดนี่มา 

                      BOSS - Benedikta (ร่างแรก)

 

         Clive – มันอยู่ที่ไหน !? และชั้นจะไม่ถามซ้ำ !!

 

 

  Benedikta – อ๊ากกกกก !!!!
  Clive – อั๊กก !!!



                    Benedikta – แกจะต้องชดใช้ !!!

                 Benedikta – อ๊ากกกกก !!!!


  Benedikta – กินนี่ไปซะ !!!

                           Clive – อั๊กก !!

 

                 Benedikta – อ๊ากกกกก !!!!

         Benedikta – ไอ้หมาเหี้ยเอ้ยยย !!!

 

 






                    Clive – Torgal !!!!


Benedikta – เชิญร้องไห้ตามสบายเลย ...ตอนนี้ไม่มีใครจะมาช่วยแกแล้ว 


                     BOSS - Benedikta (ร่างสอง)

 





            Benedikta – โชคร้ายหน่อยนะ !!


                 Benedikta – อ๊ากกกก !!!

           Benedikta – แม่งเอ้ยยยยยย !!!!

 



                 Benedikta – อ๊ากกกก !!!   

 



Benedikta – กะ แก !! แกมันก็แค่ไอ้พวกถูกตีตรา ทำไม ทำไม !!!!!!

Benedikta – ทำไมแกถึงทำแบบนี้ได้ ทำไมแกถูกไม่ตาย ทำไมแกต้องรอดตลอด !! ทำไม !!!!

Cid – คำตอบนั้นง่ายมากเลย Benedikta ..เพราะเขาสู้เพื่อบางสิ่งที่เขายึดมั่นยังไงล่ะ 


         Benedikta – หุบปาก !!! ทำไมแกยังไม่ตาย !!!

Clive – เราเล่นตามเกมส์ของแกแล้ว ที่นี้บอกว่า ว่ามันอยู่ที่ไหน !!!

     Benedikta – แก เป็นใคร? ... แกมันเป็นตัวอะไรกันแน่ ...?

 

 

 

 




                         Cid –  ไคลฟ์ นายทำอะไรน่ะ ?


                        ?????  - อยู่นี่เอง ..




                Clive – อ๊ากกกกกก!!!!

 

 

 

 




                  Benedikta – พอกันที !!

 


                  Benedikta – ห๊ะ?? อะไรกันเนี่ย .. ทำไม??

               Benedikta – นางไปแล้ว ... 
               Clive – เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ??





               Benedikta – เอานางคืนมา !!!


                 Gerulf - นายหญิงครับ !!!


Benedikta – นางไปไหน ..Garuda ไปไหน ??? เกิดอะไรขึ้นกับชั้น ...แกทำอะไรลงไป !!?
Gerulf – มองผมนี่นายหญิง เราต้องการคุณนะ ...เราต้องหนีแล้วครับ ป้อมกำลังถล่ม !!  .. มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย !??


Cid –  พลังของเธอ ... นายเอาพลังของเธอมางั้นหรอ? นายทำแบบนั้นได้ยังไง?

Cid –  บ้าเอ้ย !! ป้อมกำลังถล่ม หวังว่าพวก Bearers คงหาทางหนีออกมาทันนะ  . ไคลฟ์ ที่นี่กำลังพังลงมาแล้ว และ ชั้นไม่อยากอยู่ที่นี่ตอนนั้นแน่ 

Cid –  เดี๋ยวก่อน ไคลฟ์ !! ถ้าไอ้ Dominant นั่นมันเป็นคนเผาที่นี่ นั่นก็แปลว่ามันหนีไปได้แล้ว 
Clive – แม่งเอ้ย !!

 

                            Margrace – หือ .. นั่นมัน … !?


ผู้ติดตาม – ข้าได้สร้างความวุ่นวายเบี่ยงเบนความสนใจตามคำบัญชาแล้วค่ะ นายท่าน พวกชาวบ้านหนีกันอลหม่านเลย ซึ่งเราเองก็ควรไปเหมือนกัน 
                         Margrace – อืมม เข้าใจแล้ว 

ตอนนี้ Clive ได้ครอบครองพลังแห่ง Eikons Garuda แล้ว จึงสามารถสลับใช้งานพลังของ Eikons ได้ด้วยปุ่ม L2         

 

                              Garuda Abilities

Deadly Embrace – กด O ส่งกรงเล็บออกไปจับศัตรูแล้วดึงเข้าหาไคลฟ์ ถ้าใช้กับศัตรูที่ตัวใหญ่ที่หนักกว่าจะทำให้ล้มลงแทน 

Gouge – เรียกกรงเล็บคู่โจมตีฟาดไปมาอย่างรวดเร็วในระยะเวลานานสร้างความเสียหายต่อเนื่องกับศัตรู สามารถใช้กลางอากาศได้

Wicked Wheel – หมุนตัวโจมตีซัดศัตรูให้ลอยขึ้นไปบนอากาศ ทำให้สามารถโจมตีต่อเนื่องตอนลอยตัวอยู่ได้ 

Rook's Gambit - กระโดดกลับการโจมตีแล้วโจมตีเคาน์เตอร์สวนกลับอย่างรุนแรง 

Aerial Blast - เรียกพายุทอร์นาโดไล่ตามศัตรูที่อยู่รอบ ๆอย่างต่อเนื่อง

 

                         🔶 Wing of Change 🔶 

การต่อสู้ระหว่างไคลฟ์กับ Dominant แห่งสายลมไม่เพียงจบลงด้วยชัยชนะแต่ไคลฟ์ได้แย่งชิงพลังแก่นแท้ของ Eikons Garuda มาเป็นของตัวเองได้ด้วย ในขณะที่ไคลฟ์กับซิดกำลังงุนงงกับสถานการณ์ที่ผลิกผัน ก็ต้องรีบอพยพออกจากป้อม Care ที่กำลังถล่ม

 

Cid – โอ้ เช้าแล้วสินะ ..และแล้วไอ้พวกทหารก็มาจนได้ คงต้องฆ่ามันให้หมดโทษฐานที่ทำให้เราพลาดอาหารเช้า มาเถอะ ถ้าพวกมันจับได้ตอนเราออกจากป้อมกำลังไฟไหม้มันอาจโทษว่าเป็นฝีมือของเรา 

   Objective > ลุยศัตรูออกไปจนถึงประตูทางออกทางเหนือ 


Gav –  โว้ๆๆๆ นี่ผมเอง ผมเอง !!
Cid –  บ้าเอ้ย Gav พวดพลาดออกมาแบบนี้อยากฆ่าตัวตายรึไง?

Gav –  ไม่ใช่ชั้นไม่ชอบเล่นกับไฟหรอกนะ แต่ ระเบิดนั่นไม่ใช่ฝีมือพวกคุณหรอกนะ?  ใช่มั๊ย? … โอเค ตามผมมา ทางนี้ !! 

Gav – ถ้าไม่ใช่ฝีมือคุณหรือพวก Bearers ที่ถูกจับมา แล้วใครทำอ่ะ?
Cid –  ถามได้ดี ... อาจจะเป็นใครซักคนที่ไม่ได้เลือดเย็นที่จะต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตายล่ะมั้ง? แต่ที่สำคัญ พวกเขาปลอดภัยจากบางสิ่งที่พวกเขาไม่อยากเป็น


Gav – ผมก็แค่ทำงานของผมอ่ะนะ เอ่อ ว่าแต่ แล้ว Dominant ของเขาล่ะ?

Clive – หนีไปแล้ว ... อีกนิดเดียวแท้ๆ 


Gav – ไม่เป็นไร ชั้นตามรอยให้ได้ 
Clive – ทำไมนายถึง ....


Gav – ซิดเล่าเรื่องครอบครัวของนายให้ชั้นฟังแล้ว นายสูญเสียความเป็นตัวเองกับพวกกองทัพจักรพรรดิ บางทีการแก้แค้นอาจเป็นทางเดียวที่ทำให้นายก้าวไปข้างหน้าได้ ก็ได้ 

Clive – ขอบคุณมาก ..
Gav – รักษาตัวนะ พรรคพวก 

                   Cid – ชั้นว่าเขาคงชอบนายแล้วล่ะ 

Benedikta – นางไปแล้ว .... นางไปแล้ว ....
Gerulf – นายหญิงรีบเดินต่อเถอะครับ ที่นี่ยังอันตรายอยู่ 


        Benedikta – แล้วชั้นจะทำยังไงต่อไปดี? .... Barnabas 

Gerulf – อีกนานมั๊ยกว่าจะถึงถนนเลียบชายฝั่ง?
ทหาร – ถ้าเดินทางช้าแบบนี้เราคงไปไม่ถึงก่อนค่ำแน่ครับ 


Benedikta – ถ้าเขารู้ ...เขาจะโยนชั้นทิ้งไป เหมือนกับคนอื่นๆ ชั้นจะทำยังไงดี?


            Gerulf –  นายหญิง ...เราต้อง ..อ๊ากกก !!!!!

                              Benedikta –  Gerulf …. 

 


        โจรป่า – ดูสิเราเจออะไร ฮ่าๆๆๆๆ ได้ราคาดีแน่ๆแบบนี้ 

โจรป่า – แต่ทาสที่ไร้ค่าบางคนเราก็สามารถทำอะไรได้โดยไม่ทำให้มันราคาตกอ่ะนะ ฮ่าๆๆๆ 


Benedikta –   ออกไปนะ !! ไปให้พ้น !!!
โจรป่า – ฮ่าๆๆๆๆๆๆ 




       Cid – ไม่เป็นไรแล้วนะ พวกมันทำลายเธอไม่ได้อีกแล้ว 



                                Cid – มาเถอะ .. กลับบ้านกัน 




                    Benedikta – แบบนี้สินะ Cidolfus ?

        Benedikta – บทลงโทษจากการที่ชั้นไม่เชื่อฟังคุณ?

  Benedikta – อ๊ากกกกก !!!!  ..โลกที่เลวร้ายแบบนี้ 

Benedikta – มันสมควรตาย สมควรตายให้หมด !!!

      Benedikta – ตาย !!  ตาย !!! ตาย !!!!!









    Clive – ห๊ะ !??  …… ซิด  
    Cid – นายก็รู้สึกสินะ 

          Clive – Garuda …กำลังตื่นขึ้น ..

        ????? – เทพนิยาย ... เทพนิยาย 


Cid – เธอถูกอากาศธาตุกลืนกินมากเกินไป จนควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว 


Cid – ถ้า Garuda ไม่หยุด พายุของนางได้พัดป่านี้เรียบหมดแน่ รวมถึงพวกเราด้วย !!

            Clive –  ผมจะหยุดเธอเอง !!



Cid – นายอ่ะนะจะหยุดเธอ !!
Clive – ผมได้ยินอีกแล้ว ... มีบางคนกำลังเรียกผมอยู่ 

Cid – ดะ เดี๋ยวว !! ทำไมไม่รู้จักฟังกันบ้างวะเนี่ย !! ไคลฟ์นายยังไม่เข้าใจ นั่นไม่ใช่พายุตามธรรมชาติที่นายจะอยู่ๆก็วิ่งเข้าไปหรอกนะ ความเกรี้ยวกราดของ Benedikta ไม่มีขอบเขต และชั้นก็ไม่อยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในพายุนั่นด้วยสิ 
Clive – แต่ผมจะไป ดูสิว่าจะมีอะไร ! และจะไม่มีวันหันหลังกลับด้วย 
Cid –… ชั้นน่าจะไปกับ Gav ซะก็ดี 

 

Objective > ฝ่าดงลูกๆของ Garuda ใน The Dragon’s Aery ไปจนถึงจุดกำเนิดของพายุ  

              

         Clive –   มันอยู่ในนั้น ผมรู้สึกได้ 

 

 

 

                           The Eye of the Tempest 

เกิดจากความดำมืดที่ฝั่งลึกอยู่ในจิตใจของ Benedikta จนทำให้เกิดลมหมุนขนาดใหญ่ที่ควบคุมไม่ได้จากความโกรธเกรี้ยวของ Garuda 

 

 

 

 





                                 Clive – เดี๋ยว !!!

Cid – มีอะไรหรอไคลฟ์ ?
Clive – ไอ้ Dominant นั่น ! ได้คนที่ฆ่าน้องชายผม 
Cid – นายแน่ใจนะ ?
Clive – มันเป็นภาพจำที่ผมเห็นในทุกๆคืนตลอด 13 ปีที่ผ่านมา มองดูภาพเปลวไฟของ Eikon เผาไหม้โจชัวร์ 

                     Cid – ไคลฟ์ระวัง !!!



Clive – ซิด !!
Cid – ชั้นอยู่นี่ Torgal ก็ไม่เป็นไร พวกเราไม่เป็นไร นายล่วงหน้าไปก่อนเลย รีบไป !!

            Clive – ซิด !! บ้าเอ้ยย !! ขอโทษด้วยนะ .... 

 

                             🔶  AWAKENING 🔶

 

   Objective > ตาม Dominant แห่งไฟปริศนาไปตามทาง 

Clive – บ้าเอ้ยย !! แกหยุดชั้นไม่ได้หรอก !! ชั้นไม่ได้มาที่นี่เพราะแกนะ Garuda !! …. แม่งเอ้ย คิดว่าชั้นเป็นของเล่นรึไง ??

 

 

 



                       Clive – แกเรียกชั้นมาทำไม !! 

 

 

 

                                BOSS – Garuda 

 

การต่อสู้กับศัตรูที่มีขนาดใหญ่กว่า มันจะเริ่มทรุดตัวลงมาเมื่อ Will Gauges ลดเหลือ 50% ถ้าใช้ท่า Deadly Embrace เพื่อจับมันดึงลงมาอีกจะทำให้มันล้มลงได้ง่ายขึ้น

 

 

 



                Clive –  อ๊ากกกกกก !!!!

 



         Clive – แกมันก็เป็นได้แค่ ไอ้ตัวประหลาด!!

Clive – และ ชั้น จะไม่มีวัน อั๊กกก !!! ปล่อยให้แกมันยืนขวางทางหรอกโว้ยยย !!!


              ?????? – จงตื่นขึ้น ... บุตรแห่งโชคชะตา 

 

 




           ?????? – จงตื่นขึ้นมา Ifrit !!!

 

 

 

 

 





                     Cid – ไคลฟ์ !!!!!!!

 

 

 

 





                        Ifrit  VS Garuda 

 

การบังคับร่างอิฟรีด 

สี่เหลี่ยม – โจมตีระยะใกล้ / กดโจมตีขณะศัตรูล้มจะเป็นท่า Pummel 

สามเหลี่ยม – Fireball โจมตีระยะไกล 

R1 – หลบ 

O –Lunge พุ่งชาร์จโจมตีจากระยะไกล 

** สามารถดูความสามารถเพิ่มเติมที่เมนู Eikonic Ability 

 

 




Cid – ไคลฟ์ หยุดได้แล้ว !!!!!!! นั่นยังเป็นนายอยู่ใช่มั๊ย ไคลฟ์ ?

       Cid – บอกให้หยุดไง หยุดเดี๋ยวนี้  !!!

 

 




               Ramuh – ข้าบอกให้หยุด !!!

 

 

 

 

 

 





                    Cid – ฉิบหายหมดแล้วพื้นที่นี้

         Cid – นายดีเกินไป ... นั่นแหละปัญหาของนาย  .... 

Cid – โธ่เอ้ย ไคลฟ์ ... ปีศาจที่นายตามหา มันอยู่ในตัวนายนี่เอง ให้ตายเถอะ ไม่อยากจะเชื่อเลย ... และ ชั้นรู้ว่า มันหมายความว่ายังไง ..

 

 

 

 

 



   Cid – ทำไม ... ทำไมเธอต้องเชื่อเขาด้วย ... ?

Benedikta … นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการจริงๆใช่มั๊ย?

 

 

 





                          ในเวลาต่อมา ............. 

 

                                  Belenus Tor 

                   The Holy Empire of Sanbreque

 

   Belenus Tor ตั้งชื่อตาม ยอดเขา ที่สูงของอณาจักร Sanbreque เป็นพื้นที่เนินหญ้ากว้างไปจนบรรจบกับช่องแคบ Autha ชายฝั่งทะเลแห่งเกรซ ..

 

ในปีแห่งอณาจักรที่ 873 เป็นสนามรบชี้ขาดกับอณาจักร Waloed ที่กำลังล้มเหลวในการกอบกู้ฐานที่ตั้งหลักในฝั่ง Storm  

 

 

Royal Knight – พระองค์เสด็จแล้ว !! ทรงพระเจริญ !!
Royal Knight – เพื่อ Waloed !!

 

 



     Dion – จะเรียกว่า ราชาที่กล้าหาญหรือสิ้นหวังดีนะ 


ทหาร – ฝ่าบาทจะทรงเจอกับคนแบบตัวต่อตัวหรือไม่ครับ? 
Dion – แน่นอนอยู่แล้ว 

ทหาร – ขอให้ลมหายใจแห่ง Greagor จงหนุนนำปีกของท่านด้วยเถิด !

   Imperial Soldier – นั่น บาฮามุธ ราชาของพวกเรามาแล้ว !!!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 






Dion – จัดทัพใหม่!
Dragoon Knight Commander – ทันทีเลยครับ !!

                 ทหาร – ฝ่าบาทครับ ข่าวจากเมืองหลวง


Dion – มีการก่อวินาศกรรมงั้นหรอ?
ทหาร – การโจมตีของพวกมันเกิดขึ้นบ่อยและกระจายไปหลายจุดมากขึ้นครับ แม้กระทั่งในเมืองหลวง

Dion –เมืองหลวงหรอ?  แล้วเสด็จพ่อท่านเป็น ...?
ทหาร – ท่านปลอดภัยดีครับ แต่ท่านให้มีการระดมกำลังเพื่อป้องกันเมืองมากขึ้น เราเลยคาดว่า ไม่น่าจะมีกำลังเสริมมาแน่นอนครับ 

Dion – ไม่เป็นไร นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ การปกป้ององค์จักรพรรดิสำคัญกว่า งั้นชั้นจะรับมือกองทัพศัตรูอยู่ที่นี่เอง 

                  Dion – ชั้นจะจัดการมันให้หมดทุกคน !

 

                                 The Hideaway

 

 

 





             Clive – เป็นชั้นนี่เองสินะ ....... 

 

               Clive – ที่เป็นคนฆ่าโจชัวร์ ... 

Cid – อ่า ตื่นแล้วเรอะ !!? นายนี่มันมีเรื่องให้เซอร์ไพรส์ตลอดจริงๆเลยนะ อย่างแรกก็จัดการ Garuda จากนั้นก็เป็นไอ้ตัวบ้านั่น ..นายไม่รู้มาก่อนเลยหรอว่ามันอยู่ในตัวนายมาตลอดอ่ะ ?

                             Clive – เอาเลยสิ ...
                              Cid – เอาอะไร?

                  Clive – ฆ่าผมซะ !!!!

มันเป็นผมเองแหละที่ฆ่าเขา!! ผมนี่แหละที่ฆ่าโจชัวร์!  ฆ่าแม่งหมดนั่นแหละ !!!

Clive –  ผมเป็นตัวประหลาด!! สมควรตายไปซะ !!! จัดการสิ จบมันเดี๋ยวนี้ !! ได้โปรด ฆ่าผมซะ ! ได้โปรด !!! …..  อ๊ากกกกก !!! ….อั๊กก !!!

 

 

Cid – ชั้นคิดว่าเรื่องฆ่านายอ่ะชั้นจัดให้ได้ ถ้านายต้องการอ่ะนะ แต่ก่อนอื่น ชั้นคิดว่าชั้นอยากให้นายได้ประโยชน์จากสติปัญญาที่ไร้กาลเวลาของชั้นก่อน 

 

Cid – เพราะสำหรับชั้นแล้ว ตราบใดที่นายยังหายใจอยู่ นายก็อาจทำตัวเองให้เป็นประโยชน์ได้อยู่  แต่งตัวซะ ไม่ต้องแก้ผ้ายั่ว นายไม่ใช่สเปคชั้น เสร็จแล้วก็ไปเจอชั้นที่ห้องโถง

                      Clive – จะเอาไงต่อดีวะเนี่ยเรา .. ?

                               🔶The Wages of Guilt 🔶

Clive ที่เพิ่งรู้ความจริงว่า Dominant แห่งไฟตนที่ 2 ที่ฆ่าน้องชายของเขาเมื่อ 13 ปีก่อนนั้นไม่ใช่ใครอื่น นอกจาก ตัวเขาเอง ภาพจำของฆาตกรที่ฆ่าน้องชายของตัวเองคือตัวเองเสมือนคมดาบที่เฉือดเฉือนจิตใจ จน Clive ต้องขอร้องให้ Cid มอบความตายให้เขา แต่ Cid มีแผนที่อื่นที่จะทำให้เขาหลุดพ้นจากความทรมานของตัวเอง 

Cid – อ่า ในที่สุดก็คลานออกมาจากห้องใต้ดินจนได้สินะ นายอาจอยากจะขอบคุณที่ชั้นช่วยปกปิดเรื่องตัวตนของนายเอาไว้ 
Clive – ไม่ ...
Cid – โอ้  เลือดนักสู้ของนายยังไม่หมดนี่หว่า ? งั้นฟังนะ ชั้นได้นัดกับ Gav เอาไว้แล้ว ถ้านายลืมไปว่า นายคือคนที่ทำให้เขาต้องออกไปแทรกซึมหาข่าวให้
Clive – มันไม่สำคัญแล้วล่ะ ...
Cid – นี่ฟังนะ ในขณะที่นายกำลังพักผ่อนในห้องขัง Gav ยังคงออกหาข่าวเรื่อง Dominant คนนั้นของนายอยู่ และตามรายงานล่าสุดเหมือนเขาจะได้เบาะแสแล้วด้วย อย่าลืมว่า Gav ต้องเหนื่อยเพื่อปัญหาของนาย อย่างน้อยสิ่งที่ทำได้คือ ทำหน้าที่คนจรจัดที่น่าสงสารที่เคยเป็นหน่อยก็ดี Gav นัดเจอเราที่ Kingfall ..เราจะออกเดินทางทันทีที่นายพร้อม 

 

                                  The Kingsfall 

                    The Holy Empire of Sanbreque

 

สถานที่ที่เป็นตาน้ำเก่าแก่ที่ถือว่าเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำลำธารแห่งเดียวของอณาจักร ซึ่งว่ากันว่า เกิดจากความเสียใจของราชาผู้ล่วงลับที่สูญเสียทั้งชีวิตและอณาจักรไป จนเป็นที่มาของชื่อ น้ำตกแห่งราชา


Cid – เมื่อก่อนนี้ ที่นี่เคยเป็นเส้นทางการค้าที่รุ่งเรืองมาก พอไบล์ทมันคืบคลานมาถึง ผู้คนก็จากไปหมด และมันก็ถูกทิ้งร้างอย่างที่เห็น แต่อย่างน้อยมันก็เป็นทางลัดที่ดีมาก Gav รออยู่ไม่ไกลจากนี้มาก รีบไปกันเถอะ 

 

 



Cid – นี่นายยังไม่เลิกโทษตัวเองอีกหรอ?
Clive – อย่า ... ขอล่ะ ..

Cid – ลองคิดดูสิไคลฟ์ ข่าวลือทั้งหมดมันชี้ไปที่ .... เดี๋ยวแปบนะ ...

Cid – นั่นมันสัญญาณของพวกจักรวรรดิ มันไม่ควรอยู่ที่นี่แล้วนี่เพราะป้อมของพวกมันก็ถูกทิ้งร้างไปหลายปีแล้ว เรื่องของเราไว้ค่อยคุยกัน เดี๋ยวชั้นขอตามไปดูพวกแม่งก่อน นายล่วงหน้าไปเจอกับ Gav ก่อนนะ 

Clive – แต่ เพื่ออะไร? ก็เราทั้งคู่ต่างก็รู้ว่า ...
Cid – ห้าม แต่ ... รีบไปได้แล้ว 

 

                       The Hunter and the Hunted 

Clive – จะทำไปเพื่อ? งี่เง่าชะมัด ก็ในเมื่อ Dominant แห่งไฟตัวนั้นมันคือชั้นเอง เราส่ง Gav ไปล่าห่านมายังจะดีซะกว่า ...

          Objective > เดินทางไปยังจุดนัดพบกับ Gav 

 

                        Mini Boss – Minotaur 

 

 



         ทหารจักรวรรดิ –  จับมัน !! อย่าให้มันหนีไปได้ !!!

Clive – Gav !!! 
ทหารจักรวรรดิ – ใครมาอีกวะเนี่ย !?
ทหารจักรวรรดิ – ไอ้นี่มันคนหนีทัพ เด็ดหัวมัน !!
Clive – อย่ามาขวางทาง !!!

 

 



       ทหารจักรวรรดิ – มันอยู่นี่ ไอ้คนหนีทัพ ฆ่ามัน !!!

 

 



                   Cid – ไคลฟ์ สถานการณ์เป็นไง !!?

Clive – คุณมาช้า และ Gav กำลังมีปัญหา !!
Cid – ว่าไงนะ !?
Clive – พวกทหารจักรวรรดิรู้ที่อยู่เขาแล้ว เราต้องไปช่วยก่อนที่พวกมันจะถึงตัวเขา

Cid – เข้าใจแล้ว ... ชั้นมาที่นี่เพื่อแต้มต่อ จะได้สู้สีกันหน่อย มีใครจะค้านมั๊ย?

    Cid –  ชั้นจะจัดการมังกรส่วนนายจัดการได้ Dragoon โอเคนะ?

     BOSS – Knight of the Dying Sun / Imperial war Aevis 

 

                  Cid – รีบไปเร็วไคลฟ์ !!!

 

 

                   Clive – GAAAAV !!!

 

 

 

 




                   Gav – ไคลฟ์ !!!
              Clive – จับมือชั้นเร็ว !!

 

              Gav – ช่วยชั้นด้วยยย !!!

     Joshua – ช่วยด้วย ช่วยผมด้วยไคลฟ์ !!

                         Clive – ชั้นจับนายได้แล้ว !

 

Cid – ชั้นบอกแล้วว่า ไคลฟ์จมูกดีไม่เท่านาย และเขาจะสะดุดหน้าผา 
Gav – นั่นแหละปัญหาของคนที่มีจมูกแบบผม ที่มักจะไปติดตรงที่ที่ไม่มีใครต้องการ แต่ถ้าไม่ใช่เพราะคุณสองคน วันแห่งการดมกลิ่นของชั้นคงจะจบลงไปนานแล้วล่ะ .... ขอบคุณนะไคลฟ์ จากใจเลย
Cid – ว่าแต่ นายได้ข่าวอะไรมาบ้าง?

Gav – ชั้นพอรู้แล้วว่าเพื่อนนายกำลังไปที่ไหน?
Clive – Gav ..คือ ชั้น .... 
Gav – มันกับผู้ติดตามของมันกำลังเดินทางไปยังที่ที่เป็นบ้านเกิดของนาย ... โรซาเรีย … อยากให้นายเห็นตอนที่มันทำกับพวกทหารจักรวรรดิตอนที่พยายามจะหยุดมัน ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่า มันคือ Dominant แห่งไฟ แน่นอน 

              Clive – ไม่ใช่หรอก มันคงไม่ .... 

Cid – ไคลฟ์ ชั้นเคยเห็นนายเปลี่ยนร่างเป็น Eikon จะๆด้วยตาตัวเองมาแล้วนะ และก็ ใช่ มันก็มีความเป็นไปได้ที่นายจะเป็นคนฆ่า ฟินิกซ์ แต่ก็ไม่ใช่แค่นายคนเดียวนี่ ยังมีไอ้หนุ่มนี่ที่นายเห็นอยู่ท่ามกลางการทำลายล้างในตอนนั้นด้วยอีกคนไม่ใช่หรอ? ใช่ ชั้นก็เห็นมันด้วย นายไม่ได้ฝันหรือมโนไปเอง และมันก็อยู่ข้างนอกนั่น 

                 Clive – แต่ มันเป็นใครผมก็ไม่รู้?
                  Cid – ถามชั้นแล้วชั้นจะรู้มั๊ยวะ? 

Cid – แต่ ชั้นรู้อย่างนึงว่า นายไปตามหามันให้เจอพวกหาคำตอบเรื่องนี้ได้ และยิ่งกว่านั้น นายเคยสาบานเอาไว้แล้ว 
Clive – อะไรนะ?
Cid – ก็นายเคยบอกว่า นายสาบานจะแก้แค้นให้น้องของนาย และจะไม่มีวันหยุดจนกว่าจะล่าตัวผู้ที่มารับผิดชอบกับเรื่องนี้ 

Cid – เพราะงั้น ก็ไปล่าตัวไอ้คนที่จะรับผิดชอบกับเรื่องนี้ และถ้าไม่ใช่มันคนนั้น ก็ค่อยฆ่าตัวตายทีหลัง 
Clive – ซิด ...คือ เอ่อ ผมอยากจะ ..
Cid – ถ้าอยากจะขอบคุณ ไม่ต้องมาขอบคุณชั้น ขอบคุณ Gav นู่น 

                      Clive – ขอบคุณมากนะ Gav 
                      Gav – เออ เออ ฮ่า ๆ 

              ผู้ติดตาม – ปีนี้ไม่มีพวกนกอพยพมาแล้ว ...

Margrace – ดินแดนแห่งความตายนี้ได้กลืนกินที่อยู่อาศัยของพวกมันไปหมด ...  เวลาของเราก็ใกล้จะหมดแล้ว ..
ผู้ติดตาม – ไม่น่าจะเกินวันสองวันเราก็คงถึงโรซาเรียแล้วล่ะค่ะ 

 

 

Margrace – กลับไปยังสถานที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด 

 

        Margrace – ...เขาจะต้องหยุด สิ่งที่เขากำลังทำอยู่เสียที   

         

                             The Hideaway 

                  Central Storm / Deadlands 

       

Gav – เขาพ่นไฟอย่างรุนแรงอย่างกับภูเขาไฟระเบิด 
Cid – นายเคยเห็นภูเขาไฟมาก่อนรึไง ?


Gav –อะไร? นี่พวกเดียวกันจริงป่ะเนี่ย?
Tarja – ไคลฟ์ !!!!

Tarja – เพื่อนนายอ่ะรู้สึกตัวแล้วนะ 
Clive – เอ่อ ... ครับ .
Cid – รีบไปหาเธอสิ ไอ้ซื้อบื้อเอ้ย !!

Cid – เอาล่ะ หย่อนยานกันนานเกินไปแล้ว Goetz มากับชั้น แล้วก็ Gav นายไปทำแผลที่แขนให้เรียบร้อย 
Gav – โอ๊ยยย เจ็บๆๆ  ชั้นจะอยู่ได้นานแค่ไหนเนี่ยหมอ??
Tarja – แล้ว เอ่อ... ?
Gav – เออ มาเหอะน่า .... ให้เขาคุยกันสองคนก็พอ มาเถอะๆๆ


         Objective > เดินขึ้นไปหาจิลที่ห้องพยาบาล 

 

 

 



                     Jill – จริงด้วย เป็นนายจริงๆด้วย 

   Clive – ใช่ ชั้นเอง 
   Jill – ไคลฟ์ !!

 

Jill – นายยังไม่ตาย ...
Clive – เธอก็ด้วย ... ชั้นไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ

Clive – แล้วแผลเธอเป็นไงบ้าง? หายดียัง?
Jill – อืมม ดีขึ้นแล้วล่ะ Tarja เล่าให้ชั้นฟังหมดแล้ว นายช่วยชีวิตชั้นไว้
Clive – หลังจากนั้น ชั้นก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ... โทษนะ คือ แล้วเธอมาอยู่กับพวกมันได้ยังไงหรอ จิล? ทำไมถึงสู้เพื่อพวกมันล่ะ?

Jill – Ironblood .. พวกมันบุกเข้ามาหลังจากข่าวเกี่ยวกับ Phoenix Gate แพร่กระจายไปไม่นาน โรซาเรียซึ่งไร้ผู้นำ ราชวงศ์ก็อยู่ในความสับสัน อณาจักร Iron Kingdom ที่เห็นความอ่อนแอของเราก็กระโจนเข้าใส่ทันที พวกมันฆ่าพวกผู้ชายทิ้งและจับตัวผู้หญิงทั้งหมดไป 

Clive – และจับเธอกลับไปที่ Ironholm 
Jill – พวกมันคิดว่าจะสนุกกับชั้นก่อนจะตาย แต่พอพลังของชั้นตื่นขึ้น ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป .. ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก 

Clive – ชั้นได้รับแจ้งข่าวว่าพวก Ironblood ได้ตัว Dominant ไว้และเอาไว้ใช้ในสงครามของมัน

Jill – อืมม พวกมันให้ทางเลือกกับชั้น ระหว่าง ช่วยพวกมันสู้ในสงคราม หรือไม่ก็ ต้องทนดูพวกมันเชือดผู้หญิงของอาณาจักรเราทีล่ะคน 

Clive – และพวกมันก็เรียกเราว่า Dominant … 
Jill –  ห๊ะ? เราหรอ ..? … แล้วเอ่อ ไคลฟ์ มันเกิดอะไรขึ้นที่ Phoenix Gate หรอ? 

Clive – ... เป็นชั้นเอง ที่ฆ่าโจชัวร์ 
Jill –  ไม่ ไม่จริงหรอก ชั้นรู้จักนายดี นายไม่มีวันทำแบบนั้นแน่ 



Clive – จริงสิ ก็เมื่อไม่กี่วันมานี้ชั้นก็เพิ่งกลายร่างเป็นมันอีกครั้ง Eikons แห่งไฟตนที่ 2 ... ชั้นคือคนที่ต้องรับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด 
Jill –  ไคลฟ์ ...
Clive – ทุกครั้งที่ชั้นนึกถึงคืนนั้น ... 

 

Clive – จำได้ว่า ไอ้คนที่ใส่ผ้าคลุมนั่นมันพูดอะไรบางอย่างกับชั้น มันพูดว่าอะไรกันนะ ... ?

                            ????? –... เราเจอนายแล้ว

 

Clive – ใช่ .... “เราเจอนายแล้ว“ ... มันหมายความว่าอะไรกัน?
Jill –   ไคลฟ์ ชั้นคิดว่า เราควรกลับไปที่นั่นอีกครั้ง ที่ Phoenix Gate ชั้นจำเป็นต้องรู้ให้ได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่นั่นกันแน่ ซึ่งแน่นอนว่านายรู้แล้ว และ ถ้าเรื่องที่นายบอกกับชั้นกับสิ่งที่นายทำลงไปเป็นเรื่องจริง และนายทำมันลงไปจริงๆ

        Jill –   ถ้างั้น เราก็จะไปเผชิญหน้ากับมันพร้อมๆกัน  

                       Clive – จิล ...คือ ชั้น ..  

                          Clive –  อืม ก็ได้ ... 

Tarja – เอาล่ะ เธอต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วจ้า ส่วนนายต้องออกไปก่อนนะ ท่านลอร์ด เราไม่อยากให้นายตื่นเต้นไปกว่านี้ 

                       Clive – เอ่อๆๆ โทษทีครับ .. 

                     Jill –   อีกเดี๋ยวเจอกันนะไคลฟ์ 

 

 

Clive – ชั้นเองก็ต้องเตรียมตัวด้วยเหมือนกัน เพื่อการเดินทางไกลของเรา

 

 

 

                            Sidequest Unlocked 

 

A Place For Everyone - ที่ร้านอาหาร Fat Chocobo

Moving Heaven and Earth - ในพื้นที่เกษตรกรรมและวิจัยพันธุพืช 

 

 

                  📗  Sidequest – A Place For Everyone

 

รางวัล 

EP – 20

SP - 100

 

 

                         ร้านอาหาร Fat Chocobo

 

 

หัวหน้าพ่อครัว Kenneth – อ้าวไคลฟ์ ว่าแล้วว่านายจะต้องปักหลักอยู่ที่นี่ยาวๆแน่นอน ไงคุ้นกับที่นี่บ้างยัง?

Clive – ก็พยายามทำความคุ้นเคยกับที่นี่อยู่

หัวหน้าพ่อครัว Kenneth – ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะ หวังว่านายคงมีโอกาสมาช่วยงานชั้นอีกนะ มีรางวัลให้เหมือนเดิมนั่นแหละ 

Clive – ไม่ต้องสงสัยเลย ดูเหมือนมันคงเป็นหนทางทำเงินของที่นี่

หัวหน้าพ่อครัว Kenneth – เราก็แค่พยายามทำให้มันดีกว่าคนที่เราเคยรับใช้อ่ะนะ และตอนนี้ชั้นก็กำลังต้องการมือหนึ่งในการส่งเสบียงไปให้สหายที่เป็นลูกค้าประจำที่กำลังงานยุ่งของเรา ชั้นมีสามเมนูที่ต้องส่งให้ลูกค้าจอมขยันที่ไม่ยอมมากินที่ร้านอ่ะ นายว่าไง ?

Clive – ได้สิ ผมยินดีช่วย

 

 

Objective > นำอาหาร 3 เมนูไปส่งให้ลูกค้าตามจุดเครื่องหมาย ! สีเขียวทั้ง 3 จุดในพื้นที่ 

 

 

 

คนดูแล Chocobo – ว้าว กลิ่นหอมจัง หวังว่านั่นสำหรับชั้น ใช่มั๊ย?

Clive – ใช่ครับ เมนูไข่ต้มกับขนมปังที่ทำจากแป้งสเปลท์  ส่งตรงจากพ่อครัว Kenneth เลย

 

 

                        boiled eggs with spelt bread

 



คนดูแล Chocobo – โอ้ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ เจ้านกพวกนี้มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขาดความอบอุ่น มันไม่ยอมให้ชั้นทิ้งมันไปกินอะไรที่ร้าน Fat Chocobo เลยล่ะ 

Clive – พวกมันคงทำให้คุณยุ่งอยู่ตลอดแน่ๆเลยสินะครับ 

คนดูแล Chocobo – ก็แทบไม่ได้พักเลยล่ะคะ ซึ่งกินที่กรงของพวกมันนี่น่าจะเหมาะกับชั้นที่สุดแล้ว แล้วอีกอย่างขืนชั้นไปกินที่ร้านกลิ่นของพวกมันที่ติดตัวชั้นไปคงทำให้ลูกค้าคนอื่นไม่เจริญอาหารนักหรอก ใครจะมีเวลาไปอาบน้ำแต่งตัวสวยๆไปทานอาหารแล้วปล่อยให้เจ้าตัวน้อยน่ารักนี้รอได้ล่ะว่ามั๊ย? ยังไงก็ขอบคุณที่เอาอาหารมาส่งให้นะ ฝากขอบคุณพ่อครัว Kenneth ด้วยล่ะ 

 

พัศดีเรือนจำ – ทำไมกลับมาเร็วจัง คิดว่าชั้นจะหลับยามอีกล่ะสิ ใช่มั๊ย?

Clive – พ่อครัว Kenneth ให้ผมเอาอาหารมาให้เผื่อคุณอาจจะหิว 

พัศดีเรือนจำ – เขาคิดถูกแล้ว พอท้องชั้นเริ่มร้องคำรามล่ะก็ แม้แต่ไอ้เสือ Coeurl ก็ยังต้องเผ่นเลยนะจะบอกให้ 

 Clive – ถ้าปล่อยให้การ์ดหมดแรงเพราะหิวคงจะไม่ใช่เรื่องดีสำหรับที่นี่แน่ๆ 

พัศดีเรือนจำ – มันก็ไม่เชิงหรอก แต่บางครั้งผู้คนก็จำเป็นต้องการคนที่คอยปกป้องพวกเขาเพื่อให้หลับเต็มตาในตอนกลางคืน นั่นไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำก็ได้หรอกนะ ซึ่งที่นายทำมันถูกแล้ว 

 

นักสังคมสงเคราะห์ – มีอะไรให้ช่วยหรอครับ?

Clive – พ่อครัว Kenneth ให้ผมเอาอาหารมาให้

นักสังคมสงเคราะห์ – อ่า เยี่ยมเลย ได้ยินมั๊ยลุงอาหารของเรามาแล้ว ความอยากอาหารของลุงยังอยู่มั๊ย?

Clive – เขาป่วยหรอ?

นักสังคมสงเคราะห์ – ก็น่าจะเป็นแบบนั้นนะ ผู้ป่วยที่ไม่ต้องการนักกายภาพบำบัดแล้วจะถูกส่งมาที่นี่ เพื่อพักฟื้นร่างกาย และ ผมมีหน้าที่คนที่ดูแลตัวเองไม่ได้ ซิ่งจะมีเวลาน้อยมากที่จะทำเรื่องอื่นแม้แต่เรื่องกินก็เถอะ ก็ดีใจนะที่ Kenneth ยังเห็นว่าชั้นยังต้องการอาหารอยู่ ผมจึงชอบคนที่มีน้ำใจแบบเขาและคุณเสมอ ขอบคุณมากครับ 

 

หัวหน้าพ่อครัว Kenneth – โอ้ ส่งเสร็จแล้วหรอ เอ้านี่ ค่าจ้างของคุณตามสัญญา

Clive – สถานที่หลบภัยแห่งนี้น่าทึ่งมาก ทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็จะมีสถานที่ของตัวเอง  

หัวหน้าพ่อครัว Kenneth – จริงๆแล้วมันเป็นความภูมิใจของเราเลยล่ะ เชื่อผม ดีใจที่คุณมาเห็นด้วยตาตัวเอง แน่นอนว่าคุณเองก็มีที่ของคุณเหมือนกัน แม้คุณอาจกำลังอยู่ในช่วงพิสูจน์ตัวเองอยู่ แต่ที่นี่คุณจะมีที่ของคุณเองเสมอถ้าคุณต้องการ

Clive – ดีแล้วที่คุณพูดแบบนั้น

หัวหน้าพ่อครัว Kenneth – ก็มันเรื่องจริงนะ และไม่มีใครในหมู่พวกเราปฎิเสธว่าไม่ใช่ ผมหวังว่าเราจะได้รับทุกสิ่งดีๆที่คุณนำมาให้ชุมชนเล็กๆของเรานะ 

 

 

          📗  Sidequest – Moving Heaven and Earth

 

รางวัล 

EP – 18

Valley Madder 10 (ไอเทมสำหรับ Craft)

Sharp Fang 20 (ไอเทมสำหรับ Craft)

Bloody Hide 30 (ไอเทมสำหรับ Craft)

 

Bohumil หัวหน้านักพฤกษศาสตร์ – นี่ๆ นาย เจ้าหน้าใหม่ ชั้นขอความช่วยเหลือหน่อยสิ 

Clive – มีอะไรหรอครับ?

Bohumil หัวหน้านักพฤกษศาสตร์ – คือ ผู้ช่วยชั้นที่ชั้นให้ออกไปเก็บตัวอย่างดิน ยังไม่กลับมาเลยอ่ะ ชั้นก็มัวแต่ห่วงจนไม่มีสมาธิจะทำอะไรเลย ได้โปรด ขอร้องล่ะ ช่วยไปเช็คให้หน่อยสิ ชั้นอยากรู้จริงๆ

Clive – ได้ เดี๋ยวผมไปเช็คให้ 

Bohumil หัวหน้านักพฤกษศาสตร์ – เยี่ยมเลย ขอบคุณมาก ยังไงเดี๋ยวผมมีค่าตอบแทนให้ด้วยนะ

Clive – แล้วเธออยู่ที่ไหนหรอ?

Bohumil หัวหน้านักพฤกษศาสตร์ – Gaultand’s Bales แถวชานเมือง Lostwing ซึ่งก็อาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับ Bearer อย่างเราเท่าไหร่ แต่ดินที่นั่นมันสุดยอดเลยนะ เอาล่ะรีบไปได้แล้ว 

 

 

Objective > เดินทางไปที่ Orabelle Downs 

 

                       Martelle – ช่วยด้วยยยย !!!

 

 

Objective > กำจัด Vine Spinner ให้หมด

 

Clive – คุณบาดเจ็บหรือเปล่า?

Martelle – ก็อาจจะยากว่านี้ถ้าคุณมาช่วยไม่ทันอ่ะนะ เดี๋ยวนะ คุณเพิ่งมาใหม่ที่ hideaway ใช่มั๊ย?

Clive – ใช่ ..ผมไคลฟ์ 

Martelle – ชั้น Martelle ว่าแต่ นายมาทำอะไรแถวนี้หรอ?

Clive – มาตามหาคุณไง ที่นี่ไม่เหมาะกับ Bearer เท่าไหร่หรอกนะ 

Martelle – เรื่องนั้นชั้นรู้แล้ว ก็ดินที่นี่มันเดินไปให้เราเก็บไม่ได้นี่

 

Clive – แล้วถ้าผมจะเก็บไอ้ดินนั่นให้คุณเองล่ะ? คุณก็ต้องกลับไปที่ Hideaway เลยนะ แล้ว สรุปว่าคุณต้องการอะไรแบบไหน?

Martelle – ชั้นก็ต้องการแค่ดินธรรมดานี่แหละ และชั้นคงจะโง่มากถ้าปฎิเสธความช่วยเหลือจากคุณหลังจากเพิ่งเกิดเรื่องมา ดินที่อยากจะให้หาคือ สีดำ อุดมสมบูรณ์ และ มีกลิ่นหอม คุณจะรู้เองเมื่อคุณเห็นมัน 

Clive – สีดำ อุดมสมบูรณ์ และ มีกลิ่นหอม .. โอเค งั้นควรกลับไปที่หลบภัยได้แล้วดูเหมือน Bohumilจะกังวลเรื่องคุณเอามากๆถึงขนาดจะออกมาตามหาคุณด้วยตัวเองเลยนะ

Martelle – ดูเหมือนว่า .. ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ แต่ชั้นจะไม่เถียงกับคุณหรอก ยังไงก็ขอบคุณก็แล้วกันที่มาช่วย 

 

Objective > เก็บตัวอย่างดิน Vineyard soil ตามจุดเครื่องหมาย ! สีเขียวทั้ง 4 จุดในแปลงเพาะปลูกมาให้ครบ แล้วเดินทางกลับไปให้ Bohumil ที่ Hideaway

 

Bohumil หัวหน้านักพฤกษศาสตร์ – อ่า นายกลับมาแล้ว เป็นไง ปลอดภัยดีนะ?

 

Clive – อ่อ … ผู้ช่วยคุณ เธอก็ยืนอยู่นี่ไงครับ ไม่ถามอ่ะ?

Bohumil หัวหน้านักพฤกษศาสตร์ – ไม่ใช่ยัยเด็กนี่ ชั้นหมายถึงดินอ่ะ ดิน นายเอามาด้วยป่ะ?

Clive – … ครับ ..

 

Bohumil หัวหน้านักพฤกษศาสตร์ – นั่นแหละ เยี่ยมมาก ตอนแรกชั้นเห็น Martelle กลับมามือเปล่านี่แทบเป็นลม ด้วยสิ่งนี้ มันจะทำให้การวิจัยของชั้นสามารถทำต่อไปได้ ก่อนอื่นต้องวัดค่าดู ชั้นต้องรู้ว่าตัวอย่างดินนี้มีค่าอีเธอร์อยู่เท่าไหร่ ตอนอยู่ที่นั่น ...บลาๆๆ

Clive – เดี๋ยวนะ นี่คุณไม่คิดที่จะ ..

 

Martelle – ห่วงชั้นบ้างหรอ ใช่มั๊ย? ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ผิดหวัง เพราะเขาคงไม่สนใจอะไรบอกจากงานวิจัย

Clive – แต่มัน ..

Martelle – ไม่เป็นไรค่า ชินแล้ว เขาก็เป็นแบบนี้แหละ

 

Martelle – ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เราคงปลูกอะไรในซากปรักหักพังนี่ไม่ได้แน่ ถือว่าเป็นราคาที่ต้องจ่ายที่เล็กน้อยมากๆค่ะ ซึ่งคุณเองก็ต้องจ่ายด้วย เพราะเขาขอให้คุณช่วยไม่ใช่หรอ? … นี่ค่ะ ค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆ แม้จะไม่ได้มากมายแต่ก็ขอให้รับไปเถอะ

 

Martelle – ใจก็อยากให้ผลไม้กับคุณด้วย แต่ ถ้าให้คุณกินมันตอนนี้ ชั้นว่าคุณไม่ขอบคุณชั้นถ้าชั้นแน่ๆ ถึงกระนั้น เราก็จะพยายามปลูกสิ่งที่ควรค่าในการกินให้ได้ในซักวัน ซึ่งถ้ามันสำเร็จ ชั้นจะให้มันกับคุณเป็นคนแรกแน่ค่ะ 

 

 

 

Clive – ว้าว พวกเขามี moogle ด้วย ชั้นไม่เคยเห็นกับตาซักที 

Moogle – ช่าย ชั้นเองแหละ ตัวเป็นๆเลยล่ะ ปลื้มซะสิ Kupo!

Clive – จำได้ว่ามันเขียนไว้ในบันทึกเกี่ยวกับสัตว์ในตำนานของพ่อ พวกมันอาศัยอยู่ในป่าลึกและไม่ค่อยจะเปิดเผยตัวเองให้มนุษย์เห็นมากนัก 

Moogle – หืมม มีความรู้ดี ไม่ธรรมดานะเจ้าหมอนี่ แต่เขายังไม่รู้จัก Nektar the Bold เพราะชั้นไม่ใช่ Moogle ธรรมดาๆ Kupo!

Clive – นายชื่อ Nektar หรอ? ชั้นไคลฟ์ นะ

 

Moogle – ห๊ะ? นี่นายเข้าใจภาษา Moogletongue ด้วยเรอะ??

Clive – อืมม เออว่ะ ... ดูเหมือนจะเป็นงั้นนะ .... 

Moogle – เยี่ยมไปเลย Kupo!!!!  ตั้งแต่ที่พวกเขาพาชั้นมาที่นี่ ชั้นก็พยายามพูดกับพวกเขาแต่ไม่มีใครเข้าใจเลย ได้แต่เอา Pom pom ของชั้นฟาดกำแพงด้วยความหงิดหงิด Kupo!

Clive – ดูท่าจะเจ็บนะ 

Moogle – แต่ตอนนี้นายอยู่ที่นี่แล้ว ชั้นคงไม่ต้องเจ็บ Pom pom อีกแล้ว เพราะนายได้ยินชั้น นายฟังชั้นรู้เรื่องจริงๆด้วย Kupo!

 

 

Objective > เข้าไปคุยกับ Charon ที่ร้านขายไอเทมและ Accessories

 

Charon – ไง เอาอะไรดีวันนี้ ?

Clive – ผมแค่จะมาบอกลาน่ะครับ เรากำลังจะเดินทางกันแล้ว 

Charon – ตัดสินใจได้ดี ยังไงก็ดีกว่าถูกฝังอยู่ในความมืดมิด นายต้องขอบคุณผู้หญิงคนนั้นให้มากๆเลยนะ

Clive – ผมรู้ครับ และจะทำแน่นอน 

Charon – เอาล่ะ จะซื้ออะไรก็ว่ามา เราก็รู้ดีว่านายไม่ได้มาเพราะแค่อยากคุยกับชั้นใช่มั๊ย? 

 

Gav – ในที่สุดก็ตัดสินใจได้แล้วสินะ ?

Clive – อืมม เรากำลังเดินทางไป โรซาเรีย ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

Gav – ย้อนรอยความทรงจำใช่มั๊ยล่ะ ? … โรซาเรียอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เคยเป็นแล้วนะไคลฟ์ ไม่ใช่ตั้งแต่พวกจักรพรรดิบุกเข้ามาแล้ว ทันที่ที่นายเจอแว๊บแรกของปัญหา นายรีบตรงไปที่ Martha’s Rest ถามหาเจ้าของที่ดิน เธอเป็นพวกของเรา นายบอกเธอไปเลยว่าเป็นเพื่อนกับ Cid เดี๋ยวเธอจะช่วยนายหาทางออกของปัญหาเอง  

Clive – เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากนะ Gav ไม่ได้นายช่วยชั้นคงไม่รู้จะทำยังไง

 

Gav – ม่ายหรอก ... ชั้นก็แค่ ทำตามหน้าที่เท่านั้นเอง ไม่ต้องขอบคุณอะไรใหญ่โตขนาดนั้นก็ได้น่า ...ฝืดด !! … ดูแลตัวเองด้วยล่ะ โอเค๊?  เอ่อ บ้าเอ้ย มัวแต่เชย์ กู๊ดบายกัน แล้วเวลาแบบนี้ซิดเขาไปไหนฟ่ะเนี่ย?

Clive – ถ้าเขากลับมาบอกว่าชั้นฝากขอบคุณเขาด้วยแล้วกัน 

 

                         Jill – โทษทีที่ให้รอนานนะ ..

                Clive – พร้อมแล้วใช่มั๊ย คุณผู้หญิง ?

 

                                  Jill – พร้อมค่ะ 

 





 

                                  Three Reeds 

 

พื้นที่ในบริเวณโรซาเรียฝั่งตะวันออกที่เคยเป็นที่ทำการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ หลังจากที่มีน้ำท่วมขังสูงขึ้นก็กลายสภาพเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ไม่อะไรสามารถอาศัยอยู่ได้นอกจากปลิงและกิ้งก่า 

 

Jill – โรซาเรีย ... 13 ปีแล้วสินะ ..

Clive – แต่สายลมนี้ กลิ่นใบหญ้า ชั้นยังจำได้ไม่เคยลืม

 

Jill – นายยังไม่เคยกลับมาเลยหรอ?

Clive – ... ไม่เคย ... พวกผู้ถูกตีตราถูกพวกกองทัพจักรวรรดิจับตาดูอย่างเข้มงวด เธออาจถูกตัดหัวได้เลยถ้าแค่รู้จักกับพวกผู้ถูกตีตรา นอกจากเคยปฎิบัติหน้าที่อยู่ก่อนหน้า 

Jill – ... อืมม เข้าใจแล้ว 

 

Clive – และ เหตุผลหลักเลยก็คือ ชั้นกลัว ...กลัวที่ต้องกลับไปที่นั่น

Jill – ... ชั้นรู้ .. 

 

Clive – แต่ตอนนี้ ชั้นอยู่ที่นี่แล้ว ซึ่งต้องขอบคุณเธอนะ เอาล่ะ เราไปต่อกันเถอะ 

 

 

                                🔶  Homecoming 🔶

 

                  The Imperial Province of Rosaria 

                            จักรวรรดิ โรซาเรีย 

 

Clive – โรงแรมบนเนินเขานั่นน่าจะเป็น Martha’s Rest Gav บอกว่าเจ้าของที่นั่นเป็นมิตรของเรา 

Jill – รวมถึงคนของเธอด้วยรึเปล่า?

Clive – พวกจักรวรรดิมักจะไม่ค่อยญาติดีกับคนที่ถูกตีตราแบบชั้น ถ้าใครถามก็บอกไปว่า ชั้นเป็นทหารที่ถูกตีตรา ที่สาบานจะปกป้องเจ้านายที่นี่ก็แล้วกัน

 

Objective > เดินทางไปที่โรงแรม Martha’s Rest

 

                    📗 Sidequest – What a Bird Wants

 

รางวัล

Exp – 18 

Sharp Fang 10

Blood Hide 5 

 

Rowan – เฮ้ ทางนี้ คุณจะช่วยรบกวน เอ่อ .... บ้าเอ้ย พวก Bearer นี่หว่า ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างซะแล้ว แต่ก็นะ เศษคริสตัลก็ยังดีกว่ากลับบ้านมือเปล่า แม้ว่าจะต้องเสี่ยงใช้งานพวก Bearer ก็เถอะ ...เออนี่ นายเข้าใจชั้นใช่มั๊ย? คือชั้นอยากให้ช่วยอะไรหน่อยน่ะ 

 

Rowan – ไอ้นกบ้าพวกนั้นคงได้กลิ่นสินค้าของชั้นแน่ๆเลย ตอนนี้พวกมันล้อมรถขนส่งของชั้นเต็มไปหมดเลย และ ชั้นก็ต้องส่งของช้าแน่นอนแบบนี้ คือ ชั้นมีของพิเศษที่ต้องส่งให้ถึงก่อนมืด ซึ่งชั้นก็คงทิ้งรถสินค้าไปตอนนี้ไม่ได้ซะด้วย นายจะช่วยแวะไปที่ Martha’s Rest เพื่อส่งของให้หน่อยได้มั๊ย แบบเร็วๆเลยอ่ะ 

Clive – ได้สิ 

 

 Rowan – สุดยอดสปิริตเลยแบบนี้ เอาล่ะ เอานี่ไป ส่งให้เจ้าของคอกโจโคโบะนะ ห้ามให้คนอื่นเด็ดขาด เขาติดค้างของบางอย่างกับชั้นอยู่ ถ้าเขามอบให้นาย นายก็เอาไปให้เจ้านายของนายได้เลยนะ ขอบคุณล่วงหน้าอ่ะ รีบไปได้แล้ว และก็อย่ามัวไปแวะที่อื่นให้เสียเวลาล่ะ 

 

Objective > นำสินค้าไปส่งให้เจ้าของคอกโจโคโบะที่หน้าโรงแรม Martha’s Rest

 

Clive – คุณเป็นเจ้าของคอกโจโคโบะใช่มั๊ยครับ พอดีคนส่งสินค้าฝากให้เอาของมาให้คุณน่ะครับ  

Gerard – ใช่แล้วนี่แหละของผม ถูกแล้ว ว่าแต่ทำไม Bearer อย่างนายถึงมาส่งให้แทนที่จะเป็นไอ้คนส่งของโง่ๆนั่น มันไปไหนหรอ?

Clive – รถสินค้าเขาโดนโจโคโบะป่าล้อมอยู่เลยมาส่งให้เองไม่ได้ 

Gerard – ก็น่าจะต้องเป็นงั้นอ่ะนะ ก็รถของเขาเต็มไปด้วยหญ้า Gysahl นี่ 



Clive – หญ้า Gysahl หรอครับ?

Gerard – ของโปรดพวกโจโคโบะไง ถ้านายขนหญ้า Gysahl เต็มคันรถแล้วมัดไม่สนิท พวกนกมันได้กลิ่นต่อให้ห่างเป็นไมล์มันก็จะวิ่งมาแน่ แต่อย่าเข้าใจชั้นผิดว่ารู้ทั้งรู้แต่ก็ยังขนหญ้า Gysahl ก็มันเป็นการลงทุนที่ดีน่ะสิ สำหรับพ่อค้าที่เข้าใจมันเท่านั้นนะ ซึ่งในเคสนี้ พ่อค้าโลภมากของเราคงได้บทเรียนที่แสนสาหัสแล้วล่ะ 

 

Gerard – แต่ยังไงซะ ก็ถือว่าชั้นได้รับของแล้วนั่นแหละเรื่องสำคัญ เอานี่รางวัล แล้วก็อย่าลืมเอาไปให้เจ้านายของนายแล้วฝากขอบคุณเขาให้ด้วยล่ะ 

 

                                  Martha’s Rest

                     The Imperial Province of Rosaria

 

Clive – เอาล่ะ ถึงแล้ว ... ก็หวังว่า Martha คงเป็นมิตรอย่างที่ Gav บอกไว้อ่ะนะ

Jill – ยังไงก็ต้องลองดูซักตั้ง จริงมั๊ย?

 

Jill – ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าเจ้าของที่นี่อยู่มั๊ย?

คนดูแลโรงแรม – ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครถามและเขามากับ Bearer ของจักรวรรดิด้วยหรือเปล่าอ่ะนะ 

Jill – ถ้ามันเป็นความลับเพื่อความระวังตัวก็ไม่เป็นไรค่ะ งั้นคุณพอจะแนะนำเส้นทางที่ปลอดภัยทางตะวันตกให้หน่อยได้มั๊ยคะ?

คนดูแลโรงแรม – ก็เธอมากับบอดี้การ์ดขนาดนั้นจะกลัวอะไรอีกล่ะ?

 

คนดูแลโรงแรม – สำหรับ Bearer ในโรซาเรียไม่มีอะไรง่ายหรอกนะ โดยเฉพาะอย่างเขารับรองดึงดูดความสนใจได้ไม่ยาก และถ้าถูกจับได้ คุณเองก็คงจะซวยไปด้วยแน่ๆ 

Clive – เราจะพยายามห่างๆพวกทหารเอาไว้ให้มากที่สุดครับ พอดี Gav บอกว่าคุณช่วยเราได้

คนดูแลโรงแรม – Gav …? …. เอาล่ะ ตามมาทางนี้ !

 


Martha – ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยนะที่ก่อนหน้านี้พูดไม่ค่อยดี ชั้นค่อยข้างเรื่องการคุยกับคนแปลกหน้าอ่ะนะ 

 

ชั้นชื่อ มาทาร์ เป็นเพื่อเก่าของ ซิด เขาบอกก่อนหน้านี้แล้วว่าเขาค่อนข้างมีความหวังกับ Bearer เพื่อนใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วม ชั้นว่าคงหมายถึงคุณแน่นอน เอาล่ะ สรุปว่าพวกคุณกำลังจะไปที่ไหน?

Clive – เรากำลังจะไปที่ Phoenix Gate ครับ เรามีอะไรที่จะต้องหาคำตอบที่นั่นนิดหน่อย 

Martha – อืมม .. งั้นหรอ? ถ้าพวกคุณต้องการจะหาทางเลี่ยงพวกทหารก็คงต้องเส้นทางที่ผ่านเมือง Eastpool น่าจะปลอดภัยที่สุด แต่ตอนนี้สะพานด้านหลังที่จะไปที่นั่นมันดันพังอยู่เนี่ยสิ เราเองก็ไม่ได้ค้าขายกับหมู่บ้านนั้นมาเป็นอาทิตย์แล้วเหมือนกัน ชั้นกำลังส่งช่างไม้ของเราไปซ่อมมันแต่เขาก็ดันติดงานอื่นอยู่ยังไม่กลับมาเลย 

 

Jill – แล้วคุณคิดว่าเกิดอะไรไม่ชอบมาพากลกับเขารึเปล่าคะ?

Martha – ชั้นก็แค่อยากให้เขาเสร็จงานของเขาแล้วกลับมาเร็วๆก็เท่านั้น เรื่องอื่นไม่ได้คิดเลย

 

Clive – งั้นเราจะไปตามเขาเองเพื่อให้แน่ใจว่าเขาปลอดภัย เราทั้งคู่ก็ต่างก็อยากให้สะพานนั่นซ่อมเสร็จเร็วๆเหมือนกัน และช่างไม้ของคุณก็น่าจะเป็นคนเดียวที่จะซ่อมมันได้

Martha – ถึงว่าทำไมซิดถึงเชียร์คุณจัง ถ้าคุณทำให้ได้ ชั้นก็คงเป็นหนี้คุณอ่ะนะ 

Jill – แล้วที่คุณบอกว่าเขาออกไปทำงานน่ะ ที่ไหนหรอคะ?

Martha – เขาบอกว่าจะลงไปที่หนองน้ำเพื่อตรวจสอบสะพานอีกด้านข้างประตู Fallen Gate 

Clive – บึงนั่นค่อนข้างอันตราย เราต้องรีบไปดูเขาหน่อยแล้ว 

Martha – บันไดเล็กข้างๆประตูจะลงไปที่บึงนั้นได้เร็วที่สุด เขาชื่อว่า Bernard ถ้าคุณเจอเขาก็บอกว่า Martha ส่งคุณมา และเขาต้องรีบมาซ่อมสะพานฝั่งที่จะไป Eastpool ด่วนเลย 

 

                          📒 Quest: Building Bridges 

 

รางวัล

Exp – 50

SP – 100 

Gil – 1100 

Craft item – Meteorite 

 

Objective > ลงบันไดเล็กทางขวาของสะพานทางเข้าเมืองไปที่บึง Three Reeds ด้านล่าง 

 

   Objective > จัดการฝูงแมงป่อง Cray Claw ให้หมด 

 

Bernard – ขอบคุณครับคุณผู้หญิง คุณช่วยชีวิตผมไว้แท้ๆ 

Jill – คุณผู้หญิง?..ไม่น่าจะใช่หรอกค่ะ ... คุณคือ Bernard ที่เป็นช่างไม้ใช่มั๊ยคะ? 

Bernard – ใช่ครับ ผมนี่แหละ ถึงชื่อผมจะไม่ได้โด่งดังอะไรก็เถอะ 

Jill – ชั้นเป็นเพื่อนของ Martha เธอส่งให้เรามาตามหาคุณน่ะค่ะ 

 

Bernard – โอ้ ผมขอบคุณมากๆเลยครับ ผมเพิ่งตรวจงานเสร็จกำลังจะกลับแต่พวกมอนสเตอร์ก็เข้ามารุมกินผมซะก่อน ถ้าคุณไม่ผ่านมาทางนี้ผมคงเป็นอาหารมันไปแล้ว

Jill – ดีใจที่คุณปลอดภัยนะคะ

Bernard – แบบนี้ผมคงต้องไปขอบคุณคุณเจ้าของโรงแรมแล้วล่ะ

Jill – จริงๆแล้วเธอให้เรามาตามคุณเพื่อให้คุณไปซ่อมสะพานฝั่งที่จะไปยังเมือง Eastpool น่ะค่ะ

Bernard – แบบโอ้ แน่นอน ผมว่าจะไปซ่อมให้อยู่แต่ก็มัวแต่ทำนู้นทำนี่จนลืมเลย เดี๋ยวผมจะรีบไปจัดการซ่อมให้เดี๋ยวนี้เลยครับ !!

 



Bernard – ผมเช็คแล้ว โครงสร้างมันยังแข็งแรงอยู่แค่ต้องเปลี่ยนสลิงกับแผ่นพื้นสะพานนิดหน่อย น่าจะใช้เวลาไม่นานอ่ะครับ 

Jill – ขอบคุณค่ะ Bernard เราหวังว่าจะใช้เส้นทางไปยังเมือง Eastpool ไวๆ ขอบคุณที่ต้องรีบให้ทำหลังจากที่คุณเจอเรื่องแย่ๆมานะคะ

Bernard – คุณช่วยชีวิตผมไว้ แล้วการซ่อมสะพานก็เป็นสิ่งเดียวที่จะตอบแทนให้ได้ ขอบคุณมากคุณผู้หญิง แล้วก็นายด้วยไอ้ลูกชาย นายเป็นเพื่อนกับชิดซินะ เราเป็นเพื่อนกันมานาน ถึงจะไม่นานเท่า Martha แต่ก็ถือว่านานพอตัวอยู่นะ โอเค เดี๋ยวผมจัดการซ่อมให้ พวกคุณไปบอก Martha ว่าผมไม่เป็นไร และสะพานจะเสร็จเร็วๆนี้แน่นอนครับ 

 

Martha – อ่า พวกคุณกลับมาแล้ว เป็นไงบ้างเจอช่าง Bernard มั๊ย? 

Jill – เจอค่ะ เขาปลอดภัยดี และตอนนี้กำลังไปดำเนินการซ่อมสะพานที่จะไปยังเมือง Eastpool ให้อยู่ เขาบอกจะเสร็จเร็วๆนี้ค่ะ 

Jill – เยี่ยมเลย ขอบใจมากนะที่ช่วยหาช่างซ่อมสะพานให้

Clive – เขาคงไม่ได้ซ่อมแน่ถ้าเราไปเจอเขาก่อน พวกมอนสเตอร์ที่นั่นยิ่งขี้เล่นอยู่ด้วยสิ



Martha – Blight มันคงกัดกินทางเหนือนจนหมดแล้ว พวกมอนสเตอร์มันเลยไม่มีอาหาร เลยมาลงมาหาอาหารจนถึงนี่ .. เขาก็ไม่ควรจะไปคนเดียวเลย ชั้นน่าจะสั่งให้คนคุ้มครองไปกับเขาด้วย แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ ชั้นคงไม่มีอะไรจะตอบแทนให้มากมายนักหรอก แต่คุณสามารถพังที่โรงแรมนี้ได้ฟรีจนกว่าสะพานจะเสร็จเลยนะ 

 

Martha – ระหว่างรอต้องการเครื่องดื่มอะไรมั๊ยล่ะ? เหล้า Imperial Gold ดีมั๊ย? รสชาติอาจจะไม่ได้ดีมากแต่ก็แก้กระหายน้ำได้นะ

Clive – ไม่ล่ะครับ ขอบคุณ ... ผมอยากรู้ว่า ทำไมที่นี่ถึงมี Bearers น้อยมากๆ 

Jill – ใช่ ตอนเรายังเด็กมีมากกว่านี้เยอะเลย 

Clive – เป็นฝีมือของพวกจักรวรรดิหรอครับที่จับพวกเขาไป?

 

 

Martha – พวกเขา ถ้าไม่ถูกจับไปเป็นทหารกองผสมก็ถูกพาไปใช้งานที่เมืองหลวง Oriflamme  ดูเหมือนว่าคนงานเหมืองที่ Drake’s Head จะหาคนมาทำงานยากก็เลยใช้พวกเขาไปแทน เมื่อก่อนพวกเขาแจกคริสตัลให้กับประชาชนอย่างกับแจกขนม sugar plums  แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ทุกวันนี้พวกเขาอ้างเหตุผลต่างๆนานาเพื่อชิงเอา Bearers ของพวกเราไปทำงานที่อื่น ชั้นรู้ดีว่าพวกจักรวรรดิปฎิบัติกับพวกผู้ถูกตีตราอย่างกับขี้ แต่เพิ่งมาเห็นด้วยตัวเองก็ตอนนี้

 

ชาวบ้าน – อ่า Thea ยินดีด้วยนะ มีลูกใหม่อีกคนแล้ว อ้าวแล้วไม่ได้เอาลูกสาวมาด้วยเรอะ?

Thea – มันเป็น Bearers น่ะสิ เด็กที่ชั้นอุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือนดันเป็น Bearers ซะงั้น 

หญิงชาวบ้าน – โธ่เอ้ย แล้วเธอให้เขาไปกับพวกทหารแล้วหรอ?

Thea – ชั้นทิ้งไว้ที่ป้อมทหารนั่นแหละ ให้พวกเขาจัดการกันเอาเอง ขี้เกียจรอที่กำจัดมันไปทีหลัง ชั้นอยากทำให้มันหายไปตั้งแต่ตอนนี้เลยมากกว่า 

หญิงชาวบ้าน – จัดการเรียบร้อยแล้วก็หมดปัญหาสินะ?

 

ลูกของ Thea – แม่ เขาไม่ใช่น้องชายผมใช่มั๊ย?

Thea – ไม่ชาหรอกจ๊ะ แต่หนูจะมีน้องเร็วๆนี้แหละ รอหน่อยแล้วกัน เข้าใจมั๊ย?

ลูกของ Thea – ครับแม่ 

 

Martha – ไม่อยากจะเชื่อเลยใช่มั๊ยล่ะ? สมัยที่ท่านดยุคเอลวินยังอยู่ พวก Bearers ถูกดูถูกเหยียดแต่เขาก็ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ แต่ตอนนี้พวกเขาถูกด้อยค่ามาก ขนาดขอทานยังไม่ถ่มน้ำลายใส่เลย 

 

 

 

Martha – ในเมื่อคุณไม่อยากดื่ม งั้นก็ช่วยเอานี่ไปส่งให้ที่โบสถ์ให้หน่อยสิ มันอาจจะบีบหัวใจหน่อยนะ แต่ชั้นอยากให้คุณเห็นด้วยตาตัวเอง 

Jill – เราจะเห็นอะไร แล้วโบสถ์อยู่ที่ไหนงั้นหรอ?

Martha – โบสถ์ Glaidemond แถวๆชายฝั่ง Sorrowise Bay บอกบาทหลวงที่นั่นว่าชั้นส่งคุณมา เดี๋ยวเขาจะโชว์ให้พวกคุณดูเองนั่นแหละ

Clive – เข้าใจแล้วครับ 



                           📒 Quest – A Bearer’s Lot 

 

รางวัล

Exp – 30 

Gill – 1000

 item 

-Steelsilk 5 (Crafting item) 

-Bloody Hide 5 (Crafting item)

-Gil Bug 2 (ไอเทมสำหรับขาย)

 

 

     Objective > เดินทางไปยังโบสถ์ Glaidemond แถวๆชายฝั่ง Sorrowise 

 

Jill – ชั้นรู้ว่า เด็กนั่นกำลังถูกทดสอบ เพราะชะตากรรมของ Bearers ถูกกำหนดไว้แต่แรกเกิด 

Clive – มันก็คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่กังวลเรื่องนี้ ..ชั้นรู้ แต่ลูกในใส้ที่ถูกพ่อแม่ตัวเองรังเกียจโดยไม่ใช่ความผิดของเขานี่มัน ...

Jill – เราไม่รู้เลยว่าการเกิดมาแล้วต้องเป็นแบบนั้นมันเป็นยังไง จริงมั๊ย?

Clive – ไม่ ....


                              Glaidemond abbey 





 

บาทหลวง – สวัสดีครับ ผมเกรงว่าโบสถ์ของเราคงไม่สะดวกสำหรับคนทั่วไปหรอกนะครับ ขอให้ Greagor จงอวยพร 

   Jill – เรามาที่นี่เพื่อเอาของบริจาคของ Martha มาให้น่ะค่ะ 

 

        บาทหลวง – เข้าใจแล้ว ... งั้นเชิญตามพ่อมาข้างในเถอะ .

 

Bearers – ผม ... ผมยังไม่อยากตายยยย ... ได้โปรด หลวงพ่อ มีอะไรสำหรับความเจ็บปวดนี้ได้บ้าง ผมขอร้อง 

Bearers –  ...... แสงมันเริ่มน้อยลงแล้ว ผมไม่อยากตายอย่างโดดเดี่ยวแบบนี้ 

บาทหลวง – ไม่เป็นไร ชั้นอยู่นี่แล้ว 

 

 

 

Jill – คนพวกนี้เป็นใครหรอคะ?

บาทหลวง – คนพวกนี้เป็น Bearers ของ Martha เธอให้พ่อช่วยดูแลเพื่อให้บรรเทาความเจ็บปวดของพวกเขาน่ะ ก็เท่าที่พ่อจะทำได้ เท่าที่เวลาของพวกเขาเหลืออยู่

 

Clive – คำสาปได้พรากพวกเขาไป ทั้งหมดนี่เลย ...

บาทหลวง – ก็เหมือนกับ Bearers ทุกคนนั่นแหละที่ถูกบังคับให้ต้องชดใช้จากของขวัญที่เขาได้รับ

 

ทุกครั้งที่ดึงพลังของ aether มาใช้ ร่างกายของพวกเขาก็จะค่อยๆกลายเป็นผลึกหิน จนสุดท้ายก็จะเหลือแค่หินและความเจ็บปวด แล้วก็ถูกโยนทิ้งไป ไม่มีอะไรที่พ่อหรือ Martha จะเปลี่ยนแปลงมันได้ แต่อย่างน้อยเราก็สามารถทำให้ชั่วโมงสุดท้ายในชีวิตพวกเขาได้เจ็บปวดน้อยลง 

 

บาทหลวง – จงมีศัทธราเถิดลูกเอ๋ย เพราะเจ้าจะคืนชีพอีกครั้งและพบความสุขที่เจ้าเคยถูกปฎิเสธในชีวิตนี้ 

Bearers –  ขอบคุณครับ .... หลวงพ่อ ...

 

 

 



 

บาทหลวง – พ่อต้องขอขอบคุณสำหรับยาที่พวกคุณนำมาให้ มันอาจทำให้ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตของเขาเป็นช่วงเวลาที่สงบสุขที่สุดก็ได้ 

 



 

 

บาทหลวง – ถ้าคุณเจอ Martha ฝากบอกเธอด้วยว่า พวกเขาเสียชีวตไปอีก 2 คนแล้ว ... 

 

      Objective > เดินทางกลับไปหา Martha ที่โรงแรม 

 

Martha – อ่า พวกคุณกลับมาแล้ว ขอบคุณนะที่จัดการเรื่องนี้ให้ 

Clive – หลวงพ่อฝากมาบอกด้วยว่า ... พวกเขาเสียชีวตไปอีก 2 คนแล้ว ... 

Martha – เข้าใจแล้ว .... มา ... ขึ้นมาข้างบนหน่อย ..

 

Martha – เอาล่ะ คราวนี้พวกคุณคงรู้แล้วใช่มั๊ย?

Clive – ผม .ผม เคยเห็นแต่ Bearers ที่ตายในสนามรบ แต่ไม่เคยเห็นแบบที่ 

Martha – นั่นเพราะพวกเขาเกิดมาอย่างแตกต่าง ไม่มีอะไรที่สามารถพรากของขวัญที่พวกเขารับมาได้ มันจึงพรากความเป็นมนุษย์ของเขาไปแทน 

มีหลายคนที่ได้แต่สงสารชะตากรรมของเหล่า Bearers แต่ตราบใดที่เราได้แค่นั่งร้องไห้ให้พวกเขา เราก็จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย 

 

Jill – คุณก็เริ่มร่วมมือกับซิดเพื่อเป็นเครื่องมือให้เจตนารมณ์ของคุณแข็งแกร่งขึ้น 

Martha – สิ่งที่ชั้นทำมันก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น ใช่ผลกำไรจากโรงแรมนี้เพื่อช่วยพวก Bearers ผู้เร่ร่อนที่ยากไร้

Clive – แล้วที่บาทหลวงบอกว่า Bearers พวกนั้นเป็นคนของคุณล่ะ?

Martha – ใช่ พวกเขาเป็นทรัพยสินของชั้นตามกฎหมาย ทุกค่าแรงที่ดูเกินราคาไปของชั้น ทั้งหมดก็เพื่อรักษาพวกเขาทำที่จะทำได้ ... เฮ้ออ ...ก็นะ แต่อย่างน้อยเราก็ไม่ได้เจอเรื่องแย่ๆทั้งหมดหรอกเพราะตอนนี้ Bernard ซ่อมสะพานเสร็จแล้ว คุณสามารถใช้เส้นทางนั้นเดินทางไปเมือง Eastpool ได้แล้วล่ะ นายมีคำถามที่ต้องการคำตอบอยู่ใช่มั๊ย? ก็ขอให้โชคดีก็แล้วกันนะ

Clive – ขอบคุณมากครับ Martha

 

Martha – อ่อ เกือบลืมไปเลย ซิดกับชั้นมีพรรคพวกอยู่ที่โรซาเรียอีกหลายคน สวมนี่เอาไว้พวกเขาจะรู้ว่าพวกนายเป็นหนึ่งในคนของเรา และอย่าลืมว่าที่นี่ต้อนรับนายเสมอ 

 

 

 

Martha – นายพูดถูกซิด ... นั่นคือพวกเขาจริงๆ ลอร์ดรอสฟิลด์และเลดี้วอร์ริก กลับมาหาเราแล้ว ...และ ขอให้เขาอยู่กับพวกเรานานๆด้วยเถอะ 

 

 

 

                                Clive – ซิด ?

 

Cid – อ่า ไคลฟ์ ? ชั้นว่าชั้นทิ้งนายไปแล้วนะเนี่ย 

Clive – แขนคุณเจ็บงั้นหรอ?

Cid – เออ ตอนนี้ใช้พลังสายฟ้าได้แค่เล็กๆน้อยๆเท่านั้น ไม่สามารถใช้ฟาดงวงฟาดงาแบบเมื่อก่อนได้แล้วล่ะ ชั้นว่ามันเหมือนการได้ประดับยศจากการรับราชการมานานอะไรประมาณนั้น และก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีด้วย 

 

Cid – ว่าแต่ นายคงไม่ได้มาที่นี่เพื่ออวดแผลจากสงครามแข่งกับชั้นใช่มั๊ย?

Clive – เอ่อ ไม่หรอกครับ

Jill – ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ทำให้พวกเรานะคะ 

Cid – เออ .. ถ้านายกำลังจะไปก็ระวังตัวกันด้วยล่ะ แต่ชั้นมันใจว่าพวกนายจะมีชีวิตทื่ยืนยาวขึ้นถ้าอยู่ห่างจากชั้นอ่ะนะ 

 

                  Goetz – ซิด !! ….. เฮ้ออ ไม่ไปซักที ....

 

Cid – ที่ผ่านมา ... ชั้นเคยรู้จักผู้หญิงคนนึง เธอก็เป็นทาสของโชคชะตาเหมือนกับนาย ... ชั้นอยากจะช่วยเธอ ...

 

จนกระทั้ง..ชั้นเริ่มคิดได้ว่า ไอ้ที่ว่า ทำได้ จริงๆแล้วมันแค่การคิดเอาเอง ไม่ใช่ความจริง  

Clive – ซิด ... 

 

Cid –  ชั้นไม่ใช่ผู้กอบกู้อะไรหรอก ก็แค่ไอ้โง่ที่หยิ่งผยอง ก็เท่านั้น .. ชั้นที่พยายามพูดเพื่อให้คนสร้างอนาคตให้ตัวเขาเองแต่แทนที่จะยื่นค้อนให้เขา ชั้นกลับซัดเขา ด้วยตัวชั้นเอง ก็แค่อยากจะบอกว่า ไม่ว่าไอ้บ้าที่ไหนก็ตามถ้ามันไม่อยากฟังสิ่งที่นายอยากจะบอก แนะนำว่านายควรจะหุบปากไปซะดีกว่า

 

       แต่ ไคลฟ์ ชั้นอยากจะบอกอะไรนายอย่างนึง ...

 

Cid – นายไม่ใช่ตัวประหลาดหรอกนะ นายก็ยังเป็นคนเดิมเหมือนที่นายเคยเป็นมาตลอดนั่นแหละ ยอมรับสิ่งนั้น นายอาจจะรอดพ้นจากชะตากรรมของนายได้ 

Clive – ชะตากรรมของผมงั้นหรอ?

 

Cid – ฟังนะไอ้หนุ่ม นายอาจจะมีชีวิตที่ยากลำบาก และชั้นก็ไม่เห็นว่าอะไรๆมันจะง่ายขึ้นเลยซักนิด นายอาจไม่สามารถช่วยชีวิตใครได้อีก แต่ในท้ายที่สุดแล้ว นายจะสามารถช่วยให้ตัวเองปลอดภัยได้ 

Clive – ผมจะพยายามครับ ..

 

Cid – และเธอ จิล ชั้นต้องขอโทษด้วยที่ไม่มีเวลาคุยด้วยเลย แต่ชั้นเชื่อว่าเธอจะดูแลไอ้หนุ่มนี่ได้อย่างดีแน่นอน 

Jill – ค่ะ ชั้นจะทำให้ได้

 

Cid – เก็บของหมดยัง Goetz!!  เราควรกลับกันได้แล้ว ไม่อยากให้พวกเขารอนาน 

 

                 Cid – งั้นก็ลากันเลยนะ !!

 

-----------------------------------------------------------------------------

 

 

แสงสว่างแห่งคริสตัลที่นำพาบรรพบุรุษของเราให้หลุดพ้นจากความมืดมิด ด้วยพรที่เสริมส่งให้ก่อกำเนิด Dominant ในหมู่ผู้คนที่ได้รับเลือกให้ครอบครอง Eikons มนต์อสูรแห่งธาตุผู้ทรงพลัง ที่ก่อให้เกิด การแย่งชิง ส่วนต่างของความเท่าเทียมต่ออำนาจของแต่ละอณาจักรที่ได้ครอบครองมัน

 

แต่ภายใต้แสงสว่างนั้น Bearer ผู้อยู่ใต้เงาของคริสตัล มนุษย์ผู้ตื่นขึ้นมาพร้อมบ่วงกรรมกับความสามารถในการใช้เวทมนตร์โดยไม่ต้องใช้พรจากคริสตัล ถูกมองว่าเป็นศาสตร์มืด ซึ่งคัดต่อกฎบัญญัติแห่งมาเธอร์คริสตัลที่เป็นแก่นแท้ของพลังหนึ่งเดียว 

 

พวกเขาจึงถูกใช้เป็นเครื่องมือของทุกชนชาติถูกตราหน้าว่าเป็นทาสถูก ตีตรา ทำเครื่องหมาย ให้หมดความชอบธรรมในความเป็นมนุษย์  พลังที่เปรียบเสมือน ของขวัญ แต่ทุกครั้งที่ดึงพลังของอีเธอร์มาใช้ ร่างกายของพวกเขาก็จะค่อยๆกลายเป็นผลึก จนสุดท้ายก็จะเหลือแค่ หิน และถูกโยนทิ้งไปก่อนความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจะจางไป 

 

หลุมศพไร้ญาติที่ถูกซ่อนอยู่แถวชายฝั่ง Sorrowise ไม่ไกลจากโบสถ์ Glademond อาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่บาทหลวงและ Martha จะทำให้พวกเขาได้คือ ได้ตายในฐานะมนุษย์ 

 

 

-----------------------------------------------------------------------------

 

 

 

                                 Sidequest Unlocked

 

False Friends 

Crytalline Lifeline

Beast against Beast 

 

 

                        📗  Sidequest - False Friends 

 

รางวัล

Exp – 20 

SP – 100 

item

Magicked Ash 10

Meteorite 1 

 

Brennan – ตอนนี้ชั้นยุ่งอยู่ ไม่มีเวลาคุยหรอก …อ้าว ไคลฟ์ ใช่มั๊ย? Martha เล่าเรื่องให้ฟังหมดแล้ว นายคือปีศาจที่มากับดาบคนนั้น 

Clive – คุณดูกำลังรีบๆนะ กำลังไปไหนหรอ?

Brennan – ไม่ไกลหรอก หวังว่านะ ...แต่ไม่อยากจะมัวเสียเวลาเพราะอาจทำให้ใครคนนึงตายได้ถ้าไปไม่ทันอ่ะนะ

Clive – ฟังดูซีเรียสนะ เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?

Brennan – มันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกถ้าเกิดพวกเขาไม่รู้ว่าเขาเป็น Bearer แถมตอนนี้อดีตเพื่อนของเขาก็พยายามจะจับตัวเขาให้ได้ด้วยสิ 

Clive – Bearer คนนั้นอยู่ไหนครับ?

Brennan – เขาคงไม่โง่รอให้พวกจักรวรรดิมาถึงหรอก คงน่าหนีออกนอกเมืองไปแล้วแน่ๆ และคนที่จะจับตัวเขาก็คงตามไปหาตัวเขาในไม่ช้า ชั้นจึงต้องรีบถึงตัวเขาให้ได้ก่อนโดยเร็วที่สุด นี่ ถ้านายพอมีเวลาและสนใจรับงานเล็กๆน้อยๆช่วยไปตามหาเขาให้หน่อยสิ ได้มั๊ย ?

Clive – ได้สิครับ พวกเรา Bearer ด้วยกันก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว 

Brennan – ของใจมากไคลฟ์ ถ้าได้นายช่วยต้องตามหาตัวเขาทันแน่นอน เขาชื่อว่า Norreis เราต้องพาเขาไปหา Martha ให้ได้ก่อนพวกจักรวรรดิมาเจอ

 

Ronald – เฮ้ยแก่เจอมันยังวะ อะไร มัวแต่ยืนบื้ออยู่ได้ไอ้แก่ ชั้นบอกให้ไปจับมันมาไง !!! ไอ้บ้านั่นมันหลอกชั้น มันทำตัวเป็นพวกเดียวกับเรามาตลอดเลย ชั้นจะจับตัวมันไปให้พวกจักรวรรดิ นั่นน่ะสมควรแล้วสำหรับมัน รีบไปสิวะ!! ถ้ามันหนีไปได้ก่อนแกซวยแน่ !!

Brennan – รู้แล้วน่า Ronald นี่ไง ชั้นจ้างคนตามหาเขาแล้ว 

Ronald – ห๊ะ? ส่ง Bearer ไปจับ Bearer เนี่ยนะ? ไม่ชอบเลยวะ แบบนี้ ชั้นตามหามันเองเลยดีกว่า

Brennan – ใจเย็นน่า Ronald ข้างนอกนั่นอันตรายมากนะ เราไม่อยากให้นายต้องบาดเจ็บกลับมาอ่ะนะ 

Ronald – จริงๆนายไม่อยากส่งมันมาให้ใช่มั๊ย ห๊ะ?

Brennan – ไคลฟ์ ช่วยหน่อย ตามหาคนของเราให้เร็วที่สุด เดี๋ยวชั้นจะหาทางทำให้ Ronald ใจเย็นลงเอง มีคนบอกว่าเห็น Norreis ไปทาง Fallen Gate นายลองถามชาวบ้านแถวนี้ก็ได้เผื่อเขาจะเห็นอะไรบ้าง ช่วยหน่อนนะ 

 

Objective > เดินทางออกไปทาง Fallen Gate เพื่อตามหา Norreis

 

Clive – โทษนะครับ คุณรู้จักคนที่ชื่อ Norreis รึเปล่า?

ทหารรับจ้าง – รู้สิ ชั้นเห็นตอนเกิดเรื่องด้วย เขาวิ่งไปทางนั้นแบบไม่เหลียวหลังเลย ดูรีบมาก เห็นเขาถือตะเกียงไปด้วยนะ น่าจะกะออกไปค้างคืนแน่เลย 

Clive – เขาน่าจะไปทางหนองน้ำ เอ่อ ขอบคุณมากครับ 

 

Clive – ตะเกียงนี่เป็นของที่ Norreis ถือมาแน่ๆ อย่างน้อยมันก็ทำให้ชั้นรู้ว่าเขาไปทางไหน ?

 

Clive – Norreis ? ใช่มั๊ย?

Norreis – ปล่อยผมไปเถอะ !!

Clive – นายยังไม่ถูกตีตรานี่ แล้วจะหลบซ่อนทำไม?

Norreis – เจ้า Ronald ส่งนายให้มาตามชั้นสินะ? ส่งสุนัขรับใช้พวกจักรวรรดิ มาตามจับเพื่อนที่ดีที่สุดเนี่ยนะ ? ตอนเราอยู่ด้วยกัน ชั้นไม่เคยลืมสายตาที่เกลียดชังของมันเลย แต่ไม่สำคัญหรอก เพราะชั้นกำลังจะถูกจับไปเป็นทาสแล้ว เหมือนกับ Bearer คนอื่นๆ ได้โปรดอย่าจับผมไปเลย นายก็รู้ว่าพวกมันปฎิบัติกับเรายังไง?

 

Clive – Ronald ไม่ได้ส่งชั้นมาจับนายหรอก แต่คนของ Martha ส่งชั้นมาช่วยนาย เพื่อมั่นใจว่านายจะปลอดภัย 

Norreis – ผมไม่เข้าใจ ...

Clive – Martha คอยช่วยเหลือพวก Bearer มาตลอด เธอเป็นมิตร นายเชื่อใจเธอได้ เชื่อชั้นสิ 

Norreis – ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย แต่ก็ไม่แปลกใจหรอกเพราะเธอเป็นคนที่ใจดีมากๆ 

Clive – งั้นตะเกียงนี่ชั้นขอไปเป็นหลักฐาน ส่วนนายรอที่นี่ก่อน หลบๆไว้ เดี๋ยวชั้นไปบอกคนของ Martha ให้  

 

Norreis – ขอบคุณครับ ! มีไม่กี่คนหรอกที่จะใจดีขนาดนี้ แล้วก็ขอโทษด้วยนะครับ ผมรู้แล้วว่าคุณไม่ใช่สุนัขรับใช้พวกจักรวรรดิ แถมตรงกันข้ามด้วยซ้ำ

Clive – ไม่เป็นไร ชั้นเคยถูกเรียกแย่กว่านี้เยอะเลย อ่อ ชั้นเจอตะเกียงนี่ตกอยู่คงจะเป็นของนายสินะ?

Norreis – ขอบคุณครับ ผมทำตกตอนถูกมอนสเตอร์โจมตีน่ะ แต่ผมไม่ได้เสียดายอะไรถ้าจะทำมันหายไป รอนเป็นคนให้มาน่ะครับ 

Clive – เอาล่ะ เดี๋ยวชั้นเคลียร์ให้ เราต้องรีบจบเรื่องนี้ก่อนพวกจักรวรรดิจะมาเจอนาย 

 

Clive – เฮ้ออ ...  Bearer ที่ไม่ถูกตีตรา คงจะใช้ชีวิตอิสระเป็นปีๆสบายๆเลยถ้าไม่ถูกเพื่อนทรยศซะก่อน 

 

Brennan – อ้าวไคลฟ์ ว่าไง เจอเขามั๊ย?

Ronald – ไง เจอไอ้ห่านั่นมั๊ย?

Clive – เจอแต่ศพเขาถูกสัตว์ประหลาดฉีกเป็นชิ้นๆไปแล้ว แล้วก็นี่ 

Ronald – ไหนดูดิ๊ ... ไม่นะ เป็นไปไม่ได้ !!

Clive – ไง จบได้ยัง หรือต้องพานายไปดูศพ?

 Ronald – ไม่ !! เอ่อ ชั้นหมายถึง กระดูกของ Bearer มันจะมีประโยชน์อะไรเล่า? มันตายแล้วก็จบ แต่อย่าให้รู้นะว่านายโกหกน่ะ อย่าลืมนะว่าปล่อยให้ Bearer ที่ยังไม่ถูกตีตราหนีไปนี่โทษหนักนะเฟ้ย !!

 

Brennan – จริงหรอไคลฟ์? .. Norreis เขา .... 

Clive – เขายังไม่ตายหรอก ผมเจอเขาที่กระท่อมที่หนองน้ำ และเขากำลังรอคุณอยู่ 

Brennan – โอ้ นายนี่มันสุดยอดไปเลย นายทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วรู้มั๊ย?  ยังไงก็ขอบใจนะ เอานี่ ค่าเหนื่อย ไม่มากมายอะไรหรอก แต่ได้โปรดรับไปเถอะ 

 

 

                  📗  Sidequest - Crytalline Lifeline

 

 

รางวัล

Exp – 18 

SP – 1000 

item

Magicked Ash 10

Wyrrite 10  

 

Clarke คนขายปลา - นี่ นายคือ Bearer ที่ทำงานให้ Martha ใช่มั๊ย? ขอแรงหน่อยสิ วันนี้ชั้นดวงซวยมากที่ทำผลึกคริสตัลตกที่บึงบ้านั่น ใช่ ดูโง่มากชั้นรู้ มันเลยทำให้ชั้นใช้พลังพิเศษไม่ได้ก็เลยแช่แข็งปลาที่จะเอาไปส่งที่ตลาดไม่ได้เลย แค่ปีนลงไปที่บึงไม่ไกลหรอกแต่คุ้มค่าจ้างแน่นอน 

Clive – เดี๋ยวผมลงไปดูให้ แต่จะเจอหรือเปล่าผมให้สัญญาไม่ได้หรอกนะ

Clarke คนขายปลา – แค่ลองไปดูให้ก็ขอบคุณมากแล้วล่ะ เออ แล้วก็ ลืมบอกไปอย่างเกี่ยวกับคริสตัลนั่น มันอาจโดนตัวประหลาดได้ไปแล้วก็ได้นะ 

Clive – ได้ไปหรอ?

Clarke คนขายปลา – ก็หมายถึงกินไปนั่นแหละ ไอ้พวกปูบ้าพวกนั้นมีเป็นฝูงเลยนี่สิ 

Clive – ดูเหมือนผมคงต้องทุบกระดองหาแล้วล่ะ

Clarke คนขายปลา – ไม่ต้องห่วงหรอกตรงจุดที่พวกมันอยู่ใกล้สุดไม่ได้มากขนาดนั้น บันไดทางลงอยู่ตรงนั้นนะ 

 

   Objective > ลงไปที่บึง กำจัด Bog Crab เพื่อหาคริสตัล 

 

Clarke คนขายปลา – นายกลับมาแล้ว ไง เจอมั๊ย?

Clive – นี่ของๆคุณใช่มั๊ย ?  > Foul Crystal

Clarke คนขายปลา – สุดยอด!! นายเจอมันจริงๆด้วย!!

 

Clarke คนขายปลา – ถ้าปล่อยให้ปลาพวกนี้อยู่กลางแดดนานกว่านี้ก็คงหมดความสดกันพอดี

Clive – ครั้งหน้าก็ระวังหน่อยแล้วกัน 

 

Clarke คนขายปลา – แน่นอน สัญญาเลย คงจะไม่ไปเหวี่ยงแหจับปลาโดยไม่ระวังอีกแล้วล่ะ ถ้าชั้นไม่มีคริสตัลนี้ก็เอาปลาที่จับได้ไปขายในเมืองไม่ได้อยู่ดี เมื่อก่อนเราหาเงินมาจ่ายภาษีได้ไม่ยากเลย แต่ตอนนี้มันไม่ง่ายแล้ว ลืมเรื่องเอาเงินไปใช้จีบสาวหรือใช้จ่ายได้เลย คริสตัลพวกนี้หายากขึ้นทุกวันเพราะพวกจักรวรรดิค่อนข้างเข้มงวดกับการแจกจ่ายให้ชาวบ้าน ถ้าเสียมันไปชั้นได้กลายเป็นขอทานแน่เลย  

 

Clarke คนขายปลา – การใช้ชีวิตโดยไม่มีคริสตัล นึกภาพไม่ออกเลยว่ามั๊ยล่ะ? นายช่วยชีวิตชั้นไว้ รับรองว่าจะไม่ยอมพลาดอีกแน่นอน 

 

 

 

                                  🔶  Holding On 🔶

 

Objective > เดินทางออกจากเมืองทางประตูทิศเหนือผ่านพื้นที่ Greensheaves ปลายทางคือเมือง Eastpool 

 

Clive – Martha บอกว่า Blight ได้แพร่กระจายจนมาถึงทางใต้แล้ว พลักดันพวกมอนสเตอร์ตามมาด้วย ซึ่งชั้นกล้าพูดได้เลยว่าเดี๋ยวเราคงได้เห็นอะไรที่เราไม่เคยเห็นระหว่างทางนี่แหละ

Jill – งั้นเราก็ต้องหูตาไวให้มากขึ้นด้วย 

 

                     📗  Sidequest -Beast against Beast 

 

 

รางวัล

Exp – 20 

item

Wyrrite  10

Meteorite 1 

 

นายพราน Fredric – ขอโทษนะ คือชั้นอยากจะยืมมือนายหน่อยสิ บ้าเอ้ย โชคร้ายดันเจอพวกถูกตีตราอีก ... เฮ้ออ  ยิ่งไม่มีเวลาจะเถียงอยู่ด้วย เอ๊ะ? นั่นสัญญาลักษณ์ Slumbering Chocobo นี่ นายเป็นคนของ Martra หรอ? งั้นก็เยี่ยมเลย หวังว่าเธอคงไม่ว่าหรอกนะถ้าชั้นจะใช้คนของเธอจัดการหมาป่าให้เนี่ย เราพยายามหาทางจัดการกับพวกมันเองแล้ว ทั้งว่าเหยื่อล่อ อะไรต่างๆนานา จะฆ่ามันให้หมดก็เกินกำลังของเรา                     

Clive – ผมคิดว่า Blight คงไล่มาให้ลงมาหาอาหารที่นี่ 

นายพราน Fredric – ใช่ ตอนแรกชั้นคิดว่าที่นี่น่าจะไม่มีเหยื่อให้มันล่า แต่คงเป็นพื้นที่เดียวที่มีความหมายกับพวกมัน Martra นางไม่ใช่คนโง่ เพราะงั้นนายต้องมีฝีมือบ้างล่ะถึงเข้าร่วมกับเธอได้ ยังไง ช่วยเราจัดการกับพวกหมาป่าหน่อยได้มั๊ย? 

Clive – ได้สิ ปล่อยไว้ก็อาจเป็นภัยกับคนอื่นอีก

นายพราน Fredric – Brice คนของชั้นอยู่แถวสะพานข้างหน้าลองแวะไปดูให้ด้วยไม่รู้ว่าจะปลอดภัยมั๊ย?

 

   Objective > เดินเข้าไปจัดการฝูง Starving Wolf 

 

Clive – เอาล่ะ เรียบร้อย เราไปบอก Brice กันเถอะว่าตอนนี้เขาสามารถเดินทางต่อได้แล้ว 

 

Clive – นายคือ Brice ใช่มั๊ย?

Brice – แล้วเกี่ยวอะไรกับนายด้วยเจ้า Bearer?

Clive – เพื่อของนายบอกให้ชั้นมาจัดการพวกหมาป่าให้ ซึ่งเราก็กำจัดพวกมันหมดแล้ว 

Brice – เชื่อก็โง่แล้ว Bearer คนเดียวจะจัดการฝูงหมาป่านั่นได้ยังไง? แต่ถ้ายังไม่ได้จัดการฝูงหมาป่านั่นนายคงมาถึงที่นี่ไม่ได้แน่นอน นี่นาเป็นคนมีฝีมือสินะ?  ฮ่าๆ Fredric นายนี่มันสุดยอดจริงๆที่ส่งสัตว์ร้ายมากำจัดสัตว์ร้ายได้ ... แต่ก็เอาเถอะ นายทำหน้าที่ของนายได้ดีมากเจ้า Bearer อย่าลืมเอารางวัลที่ชั้นให้ไปให้เจ้านายด้วยล่ะ 

 

Clive – ชั้นจำตอนที่มาที่นี่สมัยยังเด็กๆกับลอร์ด Murdoch ได้ ในตอนนั้น โรซาเรียแตกต่างจากที่อื่นมาก

 

                              เมือง Eastpool

               The Imperial Province of Rosaria

 

                     Jill – ดูมันเงียบๆผิดปกตินะ ... 

 

            ชาวบ้าน – คุณ ... คุณคือ Clive Rosfield นี่??

 

Hanna – นี่ชั้นเองค่ะ Hanna ... ภรรยาของ Rodney Murdoch !

Clive – เลดี้ ฮานน่า !!

 

Hanna – ชั้นว่าแล้วว่าต้องเป็นคุณจริงๆ คุณแทบไม่เปลี่ยนไปเลยนะ! ลอร์ด marquess และ Jill ก็ด้วย ดีใจจังเลยที่ได้เจอพวกคุณทั้งคู่อีกครั้ง

Jill – เราก็ดีใจมากที่ได้เจอคุณอีก เลดี้ ฮานน่า

 

Hanna – ถ้าคุณพอมีเวลา รบกวนมาที่บ้านหน่อย ชั้นอาจจะไม่มีอะไรให้ แต่ ชั้นมีของที่เป็นของคุณจะให้ค่ะ

 

 



 Hanna – แล้วคุณก็ออกเดินทางท่องไปตามที่ต่างๆตั้งแต่ตอนนั้นสินะ?

ชั้นเข้าใจดีถึงเรื่องที่ต้องหลบหนีพวก Ironblood แต่นี่ นี่หรอคือเส้นทางของคนที่เป็นวัยรุ่นต้องเจอ 

 

Clive – มันไม่ง่ายเลยครับ .... แต่เราก็มีชีวิตรอดมาได้ ... และเอ่อ ..

Jill – และตอนนี้เราก็กลับมาแล้ว ซึ่งเราดีใจและมันเป็นเรื่องที่ดีมากๆที่ได้เห็นคุณยังปลอภัย Lady Hanna 

 

Jill – คุณคิดว่ากะจะอยู่ที่เมือง Eastpool นี้ไปตลอดเลยหรอคะ? ชาว Rosalith ยังคงได้รับพรจาก Mothercrystal เหมือนเดิมไม่ใช่หรอ? คุณก็น่าจะย้ายไปทื่อื่นได้ 

 

Hanna – สำหรับชั้น ..  บ้านหลังนี้มีความทรงจำมากมาย ตราบใดที่อยู่ที่นี่แล้วชั้นยังอยู่ได้อย่างสงบสุข ชั้นก็ยังคงอยู่ที่นี่ค่ะ 

 

แม้ว่าเมืองหลวงจะไม่อนุญาติให้พลเรือนเข้าไปตามคำสั่งดัชเชสก็เถอะ ไม่สิ ต้องเรียกว่า ราชินี ... การแต่งงานของ Anabella กับจักรพรรดิแห่ง Sanbreque เกิดขึ้น ที่นี่ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก 

 

Clive – ใช่ .. ใช่ครับ ..

Hanna – อ่อ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น ...

Clive – ไม่เป็นไรครับ ไม่จำเป็นต้องขอโทษผมหรอก ... แต่ แม่ผมไม่ยกเว้นแม้แต่สามีของคุณหรอครับ นางน่าจะไม่ปฎิเสธคนที่เป็นแม่ทัพนะ ?

 

Hanna – เอ่อ .. คุณคงไม่ได้ยินข่าวสินะ ... Rodney เสียตั้งแต่คืนแห่งเปลวเพลิงนั่น ... เขาไม่ได้กลับมาจาก Phoenix Gate 

 






     Clive – ผะ ...ผม ขอโทษ ....

     Jill – ไคลฟ์ ...?

 

Hanna – โถ ..เด็กน้อยที่น่าสงสารของชั้น ... คุณดูอ่อนล้านะ การเดินทางที่ผ่านมาคงดึงเรี่ยวแรงไปจนหมด ชั้นว่าคุณพักผ่อนก่อนดีกว่านะ เอาไว้วันหลังค่อยคุยกันต่อ .. 

 

Jill – แน่ใจนะว่านายไม่อยากนอนในบ้านน่ะ ?

Clive – ชั้นทำไม่ได้ ... หลังจากที่ชั้นทำแบบนั้น ชั้นทำไม่ได้ ..

Jill – Lady Hanna บอกว่าจะเอาชุดใหม่มาเปลี่ยนให้คุณตอนเช้า เธอเป็นคนที่ใจดีมากๆเลย 

 

 



Clive – 13 ปี แห่งการเข่นฆ่า ... 13 ปี ที่ปราศจากความหวัง แม้เพียงริบหรี่ 

 

Clive – มีแค่ โจชัวร์ เท่านั้น ที่ทำให้ชั้นเดินหน้าต่อไปได้ ชั้นสาบานว่าจะแก้แค้นกับความตายของเขา ชั้นจะฆ่าคนที่ฆ่าเขาให้ได้ ... 

 

Clive – นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่ของชั้นมีความหมาย 

 

Clive – แต่ ถ้า ชั้นเป็นคนฆ่า Joshua , Murdoch และคนอื่นๆล่ะ??

 

          Clive –  แล้วชั้นจะหายใจต่อไปเพื่อกันวะ !!?

 

Jill – ชั้นเองก็ถามตัวเองแบบนั้นเหมือนกัน ตอนชั้นเข้าร่วมสงคราม มีหลายร้อยคนต้องตาย มากมายหลายชีวิต ไม่มีโอกาสได้เติบโต 

 

... ในวันนั้น ที่ Dhalmekia ชั้นจำต้องเข้าร่วมกับพวกมัน เพื่อให้ทุกอย่างมันจบลงซักที ชั้นทนไม่ไหวอีกแล้วหากการมีชีวิตอยู่หมายถึงต้องทำแบบนั้น ขอไปเกิดใหม่ด้วยร่างกายอื่นดีกว่า 

 

                  Clive –  ชั้นขอโทษด้วยนะ ..

 

    Jill – นายจำตอนที่เรามองดวงจันทร์ที่ระเบียงนั่นได้มั๊ย?

 



Jill – ชั้นได้กล่าวคำอธิษฐานกับ Metia และ คำอธิษฐานนั้นก็ได้รับคำตอบ 

 

Jill – นายกลับมาหาชั้นอีกครั้ง นั่นแปลว่า สวรรค์ต้องมีแผนสำหรับเราแน่นอน 

 

     Jill – ชั้นว่า ....  เราพักผ่อนกันดีกว่า 

    Clive –  เอ่อ ...ก็ดีเหมือนกันนะ ..

 

                Jill – ราตรีสวรรดิ์นะ ไคลฟ์ ... ฝันดีค่ะ 

 

Clive –  ขอบคุณนะครับ Lady Hanna .. บางทีตอนนี้ผู้คนจะไม่หลุดพ้นจากสายตาผมอีก 

Hanna – พอคุณใส่ชุดนี้แล้ว คุณดูเหมือน Elwin ตอนที่อายุเท่าคุณเลยค่ะ 

 

 

Clive –  คุณไปเอาชุดเก่าๆของพ่อผมมาจากไหนครับเนี่ย?

Hanna – ก่อนที่ Elwin จะเป็น Archduke ครอบครัวเรามักจะไปเที่ยวพักร้อนด้วยกันบ่อยๆ เขากับ Rodney ก็เสมือนเป็นพี่น้องกัน 

 

Hanna – ชุดนี้อยู่ในตู้จนใยแมงมุมขึ้นเหมือนชุดอื่นๆมาหลายปีแล้ว 

Clive –  ผมรู้สึกขอบคุณพวกเขามากๆ และ ขอโทษด้วยที่ผมพรากความทรงจำนี้จากคุณไป 

Hanna – เปล่าเลย ... นั่นเป็นความต้องการของพ่อคุณมาแต่แรกแล้ว 

 

Jill – ชุดของเขาเหมาะกับนายเหมือนกันนะ ขอบคุณนะคะ Lady Hanna 

Clive –  ใช่ ..ขอบคุณครับ คุณใจดีกับพวกเรามาก

 

Hanna – ไม่หรอก ชั้นต่างหากที่ต้องขอบคุณ อาจจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆแต่การได้พบพวกคุณอีกครั้งทำให้ชั้นกลับไปมีความสุขอีกครั้ง ลาก่อนนะคะ นายท่านและนายหญิงของชั้น 

 


      Objective > เดินไปที่ประตูทางออกของเมือง

 

 

 

 

ชายชรา – เดี๋ยวคุณ คุณคือ นายท่าน Elwin ใช่มั๊ย? พระเจ้า ไม่ใช่นี่ คุณคือลูกชายคนโต Clive Rosfield 

Clive – เอ่อ คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ ... 

 

ชายชรา – โอ้ คุณหลอกผมไม่ได้หรอก ก็คุณเหมือนกับพ่อของคุณขนาดนั้น แม้ว่าคุณจะไม่ได้ส่วมชุดของนายท่านก็เถอะ ช่างสง่างาม ... นั่นเป็นชุดที่ Hanna เก็บเอาไว้ ถ้าจำไม่ผิด เธอเคยบอกว่า จะไม่มีวันทิ้งมันจนกว่าจะเจอลูกชายของนายท่านกลับมาอีกครั้ง และแล้วก็ถึงวันนั้นจนได้ ว่าแต่ ทำไมถึงไม่พา Bearers ของคุณกลับไปด้วยล่ะ ?

Clive – Bearers ของผมหรอ?

 

Clive – โทษทีนะครับท่านนายกเทศมนตรี ตอนผมมาที่เมืองนี้ล่าสุดก็ตั้งแต่ตอนยังเด็ก ผมก็เลยไม่รู้จักคุณเลย

นายกเทศมนตรี – โอ้ แปลกแฮะ คุณจำอะไรไม่ได้เลยหรอ? มีการเปลี่ยนแปลงมากมายตั้งแต่โรซาเรียตกเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิ มี Bearers ไม่น้อยที่รับใช้ตระกูลของคุณ

 

นายกเทศมนตรี – เมื่อครั้งที่ Ironblood โจมตี โรซาเรียเมื่อ 13 ปีก่อน มี Bearers มากมายที่ต้องสูญเสียเจ้านายที่หนีมาอยู่ที่นี่ บ้างก็ออกค้นหาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพวกเขา 

Clive – และไม่เคยกลับมา 

นายกเทศมนตรี – ใช่ .... แผนที่เรามีตอนแรกคือส่งพวกเขากลับบ้าน แต่พวกจักรวรรดิกลับมาถึงที่นี่ก่อน เมื่อโรซาเรียตกเป็นของ Sanbreque พวกเขาก็ไม่มีบ้านให้กลับอีกต่อไป 

 

นายกเทศมนตรี – ในสมัยที่พ่อของคุณยังอยู่ Bearers คนไหนที่สูญเสียเจ้าของจะตกเป็นของพวกขุนนางแทน เราจะมอบพวกเขาให้เจ้าหน้าที่ต่างๆเพื่อหาตำแหน่งใหม่ให้พวกเขา และ พอเราเห็นว่าพวกจักรวรรดิปฎิบัติกับ Bearers ของเขายังไง จึงรู้ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการ พวกเขาจึงแห่กันมาที่นี่แทน 

 

Clive – และคุณจะมอบพวกเขาให้ผมงั้นหรอ?

นายกเทศมนตรี – ก็พวกเขาตกเป็นสิทธิ์ของคุณโดยชอบธรรมเพราะมันถูกเขียนไว้ในพินัยกรรมแล้ว และพวกเขาคงดีใจที่จะรับใช้คุณมากกว่าซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ซึ่งหลายคนเดิมก็ทำงานให้กับตระกูล Rosfield อยู่แล้ว

Clive – แต่ สภาพผมในตอนนี้น่าจะไม่เหมาะจะเป็นเจ้านายใคร และพวกเขาจะไม่ปลอดภัยถ้าอยู่กับผมด้วย

 

นายกเทศมนตรี – อืมม เข้าใจแล้ว ยกโทษให้ชายชรากับความคิดเพ้อฝันของเขาด้วยเถอะนะ ..... ผมฝันกลางวันมานานเกินไปแล้ว ..แต่ถึงกระนั้น ผมก็อยากให้ช่วยกรุณาเมตตาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยครับ 

Clive – ถ้ามันเป็นอำนาจของผม ...

นายกเทศมนตรี – หนึ่งในนั้นคือ Bearers ผู้สูงอายุที่ยังคงจงรักภักดีกับนายท่าน Elwin ...คนนี้ผมไม่แนะนำให้คุณรับไปใช้งานนะ แม้เขาจะเป็นคนที่ดีมากๆไม่ต่างจากพ่อของคุณ แต่ตอนนี้เขาเลอะเลือนมากแล้ว แค่คุณไปพบเขาแล้วบอกว่า ลูกชายของนายท่าน Elwin ยังมีชีวิตอยู่ก็พอ

 

Clive – เป็นเกรียติอย่างยิ่งครับ 

นายกเทศมนตรี – ขอบคุณมากครับนายท่าน ตอนนี้วันๆเขาก็ได้แต่นั่งดูผู้คนทำหน้าที่ของตัวเอง ถ้าคุณไปให้เขาเห็นหน้าคงเป็นอะไรที่ดีมากๆเลย 

 

 

                       📒 QUEST: Back in the Day

 

 

รางวัล

Exp – 40 

SP- 100 

Gil - 1200

item

Magcked Ash  10

Meteorite 1 

 

Jill – ดูเหมือนเขาจะไม่อยู่แถวนี้นะ?

Clive – ยังไงเราก็ไม่สามารถไปโดยไม่ได้เจอเขาก่อนไม่ได้หรอก ชั้นทำให้ท่านนายกเทศผิดหวังมาแล้วครั้งนึง มันคงจะโหดร้ายถ้าชั้นจะทำอีกครั้ง 

Jill – งั้นเราลองถามคนแถวนี้ดูก็แล้วกัน 

 

ชาวบ้าน – อืมม ไม่คุ้นหน้าเลย คุณมาที่ Eastpool ทำไมหรอ? มาเที่ยวหรอ?

Jill – เรากำลังมองหา Bearers ชราคนนึงอยู่ คุณพอจะเห็นบ้างมั๊ย?

ชาวบ้าน – ถ้าคุณหมายถึงตาแก่ Bearers ที่เหมือนจะรออะไรอยู่ตลอดล่ะก็ ..ว่าแต่ คุณมีธุระอะไรกับเขาหรอ ถ้าไม่ว่าอะไรขอถามหน่อย คุณมาจากเมืองหลวงหรอ?

Jill – …ก็ทำนองนั้น ...

 

ชาวบ้าน – งั้นก็ยินดีที่ได้พบเพื่อนชาว Rosalithian อีกครั้ง ชั้นก็เกิดที่นั่นเหมือนกัน และคงไม่ต้องมาที่นี่ถ้านายท่าน Elwin ไม่ตายในกองไฟ ทันทีที่ ดัชเชสเข้ามารับตำแหน่งราชินี มันก็ไม่เหมือนเดิมอีก ทั้งตบตี กระทำรุนแรงต่างๆนานา ภาษีก็ขึ้นไปเท่าตัว ทั้งที่ครึ่งนึงของผลผลิต Blight ก็เอาไปกินหมดอยู่แล้ว .. โอ้ ..ต้องขอโทษด้วยที่มาบ่นเรื่องที่คุณก็รู้อยู่แล้ว และชั้นก็ควช่วยคุณเรื่องตาแก่ Bearers นั่นไม่ได้ เพราะบางทีเขาก็หายไปนาน แต่ก็มักจะกลับมาที่นี่เพื่อรออะไรซักอย่างเสมอ 

 

ชาวบ้าน – ดีครับคุณผู้หญิง มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า?

Jill – เรากำลังมองหา Bearers ชราคนนึงอยู่ คนที่เคยรับใช้ตระกูล Rosfield คุณพอจะเคยเห็นรึเปล่า?

ชาวบ้าน – อ๋อ ตาแก่นั่น ... วันนี้ผมยังไม่เห็นแกเลยนะ ปกติเขาจะมานั่งจินตนาการเรื่องสูตรอาหารอะไรไปเรื่อยเปื่อยตามสไตล์เขา 

Jill – ทำอาหารหรอคะ?

ชาวบ้าน – ก็เขาเคยทำงานในครัวในปราสาท ตระกูล Rosfield อ่ะครับ ตอนนี้เขาก็ยังคิดว่ากำลังทำงานอยู่เลย มีคนเคยเห็นเขาพูดคนเดียว เหมือนพูดกับท่านดยุคด้วยล่ะ ...  ฝันกลางวัน ... ไม่รู้สิ ผมว่ามันดีที่สุดที่ Bearers ที่อยู่ที่นี่จะทำได้ล่ะมั้ง ผมล่ะนึกภาพไม่ออกเลยว่าพวกขุนนางที่ไม่ใส่ใจเรื่องการซื้อขายแลกเปลี่ยน Bearers มันเป็นยังไง คุณว่ามั๊ย?  แต่ยังไงก็เถอะ เขาคงอยู่แถวๆนี้ไม่น่าจะไปไกลหรอก 

 

...อ่อ เดี๋ยวนะ บางทีเขาก็ชอบไปคุยอยู่ที่คอกโจโกโบะของ Patrick คุณลองไปหาดูก็แล้วกันครับ 

 

Patrick – เฮ้ออ เขาหายหัวไปไหนเนี่ย?

Jill – โทษทีนะคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอ?

 

Patrick – ก็ตาลุง Bearers ที่ผมกำลังคุยๆอยู่ ละสายตาแปบเดียวหายไปไหนก็ไม่รู้? แล้วเขาก็ไม่ได้อยู่ที่บ่อน้ำหรือที่ที่เขาเคยไปด้วยสิ 

Jill – คุณคือ Patrick ใช่มั๊ย?

Patrick – ก็ใช่ ...แต่

 

Jill – Bearers ที่คุณกำลังตามหา คือคนแก่ๆที่เคยทำงานในครัวในปราสาท ตระกูล Rosfield ใช่มั๊ยคะ?

Patrick – ใช่เลยครับ แล้วคุณรู้ได้ยังไงหรอก็คุณไม่ได้อยู่ที่เมืองนี้นี่ ? แต่ดูเหมือนคุณคุ้นเคยหรืออยู่เมืองนี้มาตลอด

 

Patrick – ... อ๋อ มันเป็นงี้นั่นเอง ... ถ้าคุณทำงานให้ตาลุงนายกเทศนั่น คุณก็คงต้องช่วยผมตามหาตาแก่ Bearers ด้วยก็แล้วกัน ...อืมม ดูเหมือนเขาจะหลงลืมๆนิดหน่อยนะ ชอบบอกว่านายของเขาจะมาตามเขากลับไปทำงานที่ปราสาทอยู่ตลอด ผมต้องคอยดูแลเขาตลอดเพื่อไม่ให้สร้างปัญหา แต่ถ้าเขาไปที่อื่นเองก็สุดปัญญาของผมแล้ว 

Jill – เข้าใจแล้ว งั้นคุณตามหาในเมือง ส่วนเราจะออกไปหารอบๆเมืองด้านนอกเอง 

 

Clive – ดูนั่น ! เหมือนมีคนยืนอยู่ตรงหน้าผา!!

Jill – ดูเหมือนจะเป็นเขานะ เราต้องรีบแล้ว! 

 

Jill – และ ... เอ่อ เรามีแขกไม่ได้รับเชิญด้วยสิ

Clive – ต้องรีบจัดการก่อนมันจะไปทำร้ายตาลุงนั่น 

 

Clive – ลุงไม่เป็นไรใช่มั๊ย? เรากลับบ้านกันเถอะ 

Bearers ชรา – นายท่าน !!! ท่านกลับมาหาผมจริงๆด้วย !! ผมรอท่านมานานมาก แต่ในที่สุดท่านก็มา

 

Clive – ผม เอ่อ ไม่ใช่คนที่ลุงคิดหรอกนะ ..... 

Jill – .. ไคลฟ์ !!

Clive – อืมม ขอโทษที่ให้รอนานนะ 

 

Bearers ชรา – ไม่เป็นไรเลยครับนายท่าน ผมอธิฐานตลอดเพื่อให้ท่านกลับมา และนานเลยกว่าคำอธิฐานก็เป็นจริง แล้วเราจะกลับปราสาทกันเลยมั๊ยครับ แล้วยังมีตำแหน่งให้ผมในห้องครัวหรือเปล่า?

Clive – ยังก่อนครับลุง เรายังไม่กลับปราสาทในตอนนี้เพราะผมมีสิ่งสำคัญที่ต้องทำ คงต้องใช้เวลาซักพัก ลุงช่วยรออยู่ที่เมืองนี้จนกว่าภารกิจจะลุล่วงได้มั๊ยครับ?  ผมสัญญาว่า ถ้าเสร็จเรื่องแล้วจะกลับมารับ

Bearers ชรา – ได้สิขอรับนายท่าน เพื่อคุณผมรอได้ รอจนตายผมก็ยอม 

 

 



นายกเทศมนตรี – ขอบคุณท่านทั้งสองมากๆนะ ท่านเมตตามาก ความทรงจำที่ได้รับใช้ท่านดยุคเป็นแสงสว่างเดียวของเขาท่ามกลางความมืดมิดของยุคสมัย และตอนนี้แสงสว่างนั่นก็สว่างขึ้นอีกนิดหน่อยแล้ว แน่นอนว่ามันไม่มีอะไรเลยนอกจากความเพ้อฝัน แต่มันก็ดีความจริงที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้

 

นายกเทศมนตรี – Blight มันคืบคลานเข้ามาถึงหน้าบ้านเราแล้ว เมื่อพืชผลเริ่มล้มตาย ผู้คนก็จะจากที่นี่ไป ถ้าไม่ใช่เพราะ Lady Hanna ช่วยขายสินค้าเพื่อเลี้ยงพวกเราคนที่นี่คงอดตายไปนานแล้ว เราต้องการพวก Bearers อยู่ที่นี่อย่างปลอดภัย ซึ่งตอนนี้เราอาจทำได้ แต่ถ้าปาฎิหารไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน แม้เศษขนมปังเราก็อาจมีไม่พอจะแบ่งปันให้พวกเขาอีก 

 

Jill – มันจะเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรอ?

 นายกเทศมนตรี – เลวร้ายขนาดที่พวกเขาอาจร้องขอให้พวกทหารจักรวรรดิมาจับไปยังจะดีกว่าเลยล่ะ แต่ถ้าพวกมันรู้ว่าพวกเขามาจากไหน ไอ้พวกสุยัขรับใช้จักรวรรดิมันก็จะถ่มน้ำลายรดแล้วบอกว่าเราเป็น ศัตรูของจักรวรรดิ 

 

Clive – ผมรู้จักชายคนนึง ชื่อ Cid เขายินดีที่จะให้ที่พักกับพวก Bearers ที่ต้องการบ้านใหม่ เอาไว้ผมจะคุยให้หลังกลับมาจาก Phoenix Gate นะ 

นายกเทศมนตรี – ขอบคุณมากนายท่าน !! แล้วคุณจะเดินทางผ่านเมืองนี้ตอนขากลับอีกหรือเปล่าครับ บางทีเราอาจมีเวลาคุยกันอีก เกี่ยวกับอณาคตของหมู่บ้านและสิ่งที่เราควรทำให้ Lady Hanna ในฐานะที่เธอช่วยเรามาตลอด

Clive – แน่นอน เอาไว้กลับมาเราค่อยคุยเรื่องนี้กัน 

นายกเทศมนตรี – งั้นก็เดินทางปลอดภัยนะครับ นายท่านและนายหญิง 

 

 

Objective > เดินทางจากเมือง Eastpool ไปยัง Phoenix Gate 

 

 

                                   The Dim

 

ก่อนหน้านี้ ที่นี่เคยเป็นป่าที่เขียวขจีเต็มไปด้วยสรรพชีวิต ก่อนที่ Blight จะเข้ามาถึงแล้วเปลี่ยนเป็นซากกิ่งไม้ที่พุพังเน่าเหม็น แม้แต่สัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดที่สุดก็ไม่อย่างจะย่างกรายเข้ามา                                

Clive – ดินแดนแห่งความตาย ... ไม่มีอะไรเหมาะกับชื่อนี้อีกแล้ว 

Jill – ไม่คิดว่าพวกเขาจะอยู่ใกล้กับมันขนาดนี้เลยนะ 

Clive – ไม่แปลกหรอกที่พืชผลของพวกเขาล้มตายจนหมดก็ Blight มันดูด aether จากดินไปจนหมดแล้ว และเมื่อน้ำในดินหยดสุดท้ายหมดลงไร่นาของพวกเขาก็จะเป็นแบบนี้ ไม่มีพืช ไม่มีสัตว์ ไม่มีชีวิต ...

Jill – และไม่มีพวกมอนสเตอร์ด้วย ชั้นถือว่านั่นเป็นความกรุณาเล็กๆน้อยจากมัน 

Clive – นำพลังชีวิตของดินแดนออกไปและทิ้งปัญหาเอาไว้ นั่นแหละมัน 

Jill – ชั้นนึกภาพไม่ออกเลยจริงๆว่าที่นี่เป็นยังไงก่อน Blight จะเข้ามา

 

                              Jill – นั่นไง Phoenix Gate 



Clive – มันผิดพลาดตรงไหนกันนะ 

Jill – มาเถอะไคลฟ์ ถึงเวลาจะต้องค้นหาความจริงกันแล้ว 

 

                                  Buried Memories

 

                               Phoenix Gate Ruin

                   The Imperial Province of Rosaria

 

Jill – ที่นี่เหมือนกับเวลาหยุดนิ่งเลย 

Clive – ชั้นว่าคงไม่มีใครอยากกลับมาที่นี่กันหรอก ... ไม่สิ ... ชั้นก็แค่ทิ้งมันไว้ .. ไปลองเดินดูรอบๆกันเถอะ 

 

   Clive – ชั้นจะทำมันได้จริงๆหรอ?

   Jill – ถ้าไม่ใช่นายแล้วจะใคร?

 

  Torgal – โฮ่งๆๆๆๆๆ 

  Jill – มีอะไรหรอ Torgal !! …. ห๊ะ? ไคลฟ์ มาดูนี่ !!

 



                                     Clive – นั่นมัน !!! 

 

Clive – มันคือคนเดียวที่จะบอกชั้นได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น !! ชั้นต้องรู้ให้ได้ !!!

 

Clive – มันหายไปไหนแล้ว ?

Jill – ชั้นก็ไม่เห็นเหมือนกัน 

Clive – บ้าเอ้ย ไอ้นี่มันอย่างกับปลาไหล !

 

Jill – ที่นี่มันคือที่ไหนเนี่ย? … เหมือนเทวสถานอะไรซักอย่าง ?

Clive – จริงด้วย เธอไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ที่นี่คือโถงประตู 

Jill – ประตูหรอ?

 

Clive – นู้นไง ประตู มันคือทางเข้าโบราณสถานที่ล่มสลายมีแต่ Dominant แห่ง Phoenix เท่านั้นที่จะเปิดมันได้ 

Jill – ซึ่งเป็นที่มาของชื่อปราสาท .. ที่ที่โจชัวร์ควรจะ ....

 

Clive – ใช่ เขาควรจะได้เข้าประตูนี้ในตอนเช้าเพื่อฟังคำแนะนำจากบรรพชน 

Jill – แล้วนายจะต้องเข้าไปกับเขาด้วยมั๊ย?

 

Clive – ไม่ได้หรอก Apodytery เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าไม่ใช่ Dominant เข้าไม่ได้ ชั้นและโล่คนอื่นๆต้องรอที่นี่ และสวดอ้อนวอนให้พวกเขากลับมาอย่างปลอดภัย  ....ไอ้หมอนั่นมันหายไปไหนว่ะเนี่ย ??

Jill – หรือ มันอาจเข้าไปข้างใน ?

Clive – มันเข้าไม่ได้หรอกต้องใช้พลังของ Phoenix ….  เดี๋ยวนะ ..

 



 

 

                         Clive –  ขอบใจนะโจชัวร์ 

 

    Jill – นายแน่ใจนะว่าจะเข้าไป?

   Clive – แทบรอไม่ไหวเลยล่ะ  

 

 

                            The Hall of the Ancestors

 

Clive – มีอีกประตูนึง ดูสิว่าจะเปิดได้มั๊ย  ที่นี่มันซากปรักหักพังที่ล่มสลายแล้วจริงๆหรอเนี่ย?

 

Jill – จริงจะเรียกมันว่า ซาก ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เหมือนกับมันเพิ่งสร้างเมื่อวาน

Clive – เธอเคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนมั๊ยเนี่ย?

 

                                 Clive – จิล !!?

 

   Jill – เอาไงดี ?

  Clive – ก็อย่างเคยนั่นแหละ !

 

 

Objective > กำจัด Fallen Bug / Fellen Hunter / Defense Node 

 

Jill – ไอ้พวกบ้านี่มันมาได้ไง หรือมันอยู่ที่นี่ตั้งแต่ก่อนที่มันตกลงมาอยู่แล้ว?

 

 

Objective > ลุยเข้าไปด้านในซากปรักหักพังที่ล่มสลาย

 

                          Mini boss - Fallen Guardian 

 

Clive – จะไม่ให้พักหายใจกันเลยใช่มั๊ย?

 

Clive –  ดูเหมือนเราจะอยู่ท่ามกลางเครื่องจักรที่พยายามจะฆ่าเรานะ  ไอ้ฮู๊ดนั่นมันเข้ามาที่นี่จริงๆหรอเนี่ย?

Jill – เราไม่มีวันรู้จนกว่าจะเข้าไปให้สุดทางหรอก ไปกันต่อเถอะ !!

 

 



  Jill – ชั้นไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย ...

  Clive –  เหมือนกัน ..



                              BOSS – IRON GIANT

 

Jill – ไอ้พวกนี้มันตัวอะไรกันแน่? แล้วทำไมมันถึงต้องโจมตีเราด้วย?



Clive –  พวกมันคงถามเหมือนกับเรา เพราะอย่าลืมว่าเราเป็นคนบุกเข้ามาที่นี่ พวกมันอาจแค่พยายามปกป้องบ้านของมันก็ได้ 

 

Clive –  จิลดูนั่น ..

Jill – มันดูเหมือน ภาพจิตกรรมฝาพนังโบราณอะไรซักอย่าง ?

Clive – ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตามก็คุ้มที่จะลองเข้าไปดูใกล้ๆกว่านี้ 

 

                               Mini boss – Lich 

 

 

Objective > เมื่อเข้ามาจนถึงโถงใหญ่ เข้าไปกำจัดศัตรูเพื่อกดสวิตซ์ในห้องทั้งสองฝั่งเพื่อให้แสงจากอักขระที่พื้นมารวมกันที่ห้องกลาง ก็จะสามารถกดสวิตซ์เลื่อนทางเดินจากด้านล่างขึ้นมาเชื่อมให้เป็นทางเดินเข้าไปด้านในได้ 

 

    Clive –  มันไม่ใช่ทางตันสินะ?

    Jill – เห็นได้ชัด ว่าไม่ใช่ 

 

   Jill – ภาพนี้มันเก่าแก่ขนาดไหนเนี่ย? … พันปี ? หรือ มากกว่าอีก?



 

Clive – ไม่รู้เหมือนกัน แต่ชั้นไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย แล้วในภาพคือใคร พระเจ้าหรอ?

 

                         Clive – อ๊ากกกกกกก !!!

 

 

 




                              Clive –  ห๊ะ?  …. แก !!! 

 

 



 Clive – อ๊ากกกกกกก !!!  ....  แกคือ Dominant แห่งไฟตนที่ 2 ใช่มั๊ย? … แกเป็นใครกันแน่ !!???

 

                             ?????? – แกไง 

 



                   ?????? – เราคือ แก !!

 

                      Clive – ห๊ะ ..... อะไรกันเนี่ย !??

 

 



                         Clive – ชั้นกลับมาที่ ....... 

 



             Clive – โจชัวร์ !! ...หยุดนะ ...

 

 

 

     Clive – หยุดดด !!!  บอกให้หยุดดดดด !!!!

 


     
       Clive – หยุดดด !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!   

 

 



            Clive – ชั้น ... ชั้นเป็นคนทำ ... ชั้นเป็นคนฆ่าเขา 

 

Clive – โจชัวร์เลือกชั้น ให้เป็นโล่ของเขา เขาจึงให้พรกับชั้น และขอให้ชั้นช่วยปกป้องเขาให้ปลอดภัย 

 

   Clive – ชั้นควรปกป้องเขาในวันนั้น เพราะมันเป็นหน้าที่ของชั้น 

 

                                    Joshua –  ไคลฟ์ 

 

                                 Clive – โจชัวร์ !!!

 

   Clive – ฮือออออ ฮืออออออออ ...พี่เสียใจ ที่ทำให้นายผิดหวัง ...

 



           Clive – โจชัวร์ตาย ... เพราะชั้นเป็นคนฆ่าเขา ....

 

Clive – และชั้นก็โทษคนอื่นในสิ่งที่ชั้นทำ เพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกผิด ชั้นกลัวว่า การยอมรับความจริงเรื่องนี้ ชั้นจะสูญเสียสิ่งที่ชั้นเหลืออยู่น้อยนิดไป เพราะงั้น ชั้นจะหนีจากทุกสิ่ง 

 



Clive – และตอนนี้ นายพร้อมที่จะยอมรับความจริงหรือยัง?

Clive – ใช่ชั้นเอง ชั้นรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่มันเป็นสิ่งที่ชั้นต้องทำ

 

 



           Clive – ในที่สุดวิญญาณของโจชัวร์ก็ไปสู่สุขคติ 

 

  Clive – ไม่ว่าความจริงที่รอชั้นอยู่จะขมขื่นเพียงใด ชั้นก็จะฝืนทน 

 

 

 



 

Clive – เข้ามา Ifrit! แสดงให้ชั้นเห็นหน่อยว่าแกมันของจริงแค่ไหน

 

                       BOSS – INFERNAL EIKON

 
 







   Clive –  ไม่จริง ... 

 

Clive –  นายกำลังปฎิเสธแม้ว่า ความจริง กำลังจ้องมองมาที่นานงั้นหรอ มาเถอะไคลฟ์ ! มาเผชิญความกลัวกัน !!

 

                    BOSS – INFERNAL SHADOW

 
 







                           Clive –  อะไรวะเนี่ยย !!!

 







                             Clive – แฮกกก ...!!!

            Clive – นายไม่อยากจะหนีอีกแล้วใช่มั๊ยล่ะ?



        Clive – ชั้นไม่เป็นไร ชั้นเบื่อที่ต้องวิ่งหนีจากนายแล้ว 

 

                     Clive – เป็นหนึ่งเดียวกันสินะ ...

 

 Clive – ถึงเวลาที่จะค้นหาว่าเราเป็นใคร ให้มันรู้เรื่องกันไปซักที 

 

                                  กด L3 + R3












          Clive – เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา Ifrit !!

 
 



           Clive – พอกันที ... ตอนนี้ชั้นรู้ความจริงแล้ว 

 





              Clive – แกมันไม่ใช่ Ifrit  … ชั้นต่างหาก  

 

 
 




 

                    ?????? – ในที่สุด แกก็ยอมรับความจริง 

 

 

 

      ?????-  แกเกิดมาเพื่อใช้พลังที่ไร้ขีดจำกัด จงน้อมรับมันซะ 

 

 

 

 



 

                Clive – อั๊กกก ... อ๊ากกกกกกกกก !!!!!

                               Clive – ห๊ะ !!???

 

 

   Jill  - ไคลฟ์ นายโอเครึเปล่า? 

   Clive – จิล ?



Clive – ชั้นโอเค ... ไม่เป็นไร ... ในนี้ไม่มีอะไรหรอก ไอ้ฮู๊ดนั่นไม่ได้อยู่ที่นี่ เราควรไปกันได้แล้ว 

 

 

 

 




Jill – ไคฟล์ นายแน่ใจนะว่าไม่ได้เป็นอะไร? ถ้ามีอะไรก็บอกกันได้นะ

Clive – แค่บอกกับตัวเองชั้นก็ลำบากใจจะแย่อยู่แล้ว ...ชั้นตื่นขึ้นในฐานะ Dominant แห่งไฟที่นี่ ในปราสาทนี้ และชั้นก็วิ่งหนีมันตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา 

 

Clive – แต่ตอนนี้ชั้นรู้แล้ว ว่าชั้นเป็นใคร ชั้นคือ Eikon แห่งไฟตนที่สองที่ฆ่าน้องชายตัวเอง และเผาปราสาทนี้จนมอดไหม้เป็นหน้ากลอง มันคือชั้นเอง Ifrit 

Jill – ไคลฟ์ ...

 

 



Clive – คืนนั้นชั้นคร่าชีวิตผู้คนไปมากมายและทำลายอีกหลายๆอย่าง รวมทั้งเธอด้วย และ ชั้นจะต้องชดใช้สิ่งที่ชั้นก่อ แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ชั้นต้องรู้ความจริงทั้งหมดก่อน  ว่าทำไม Eikon แห่งไฟตนที่สองถึงเกิดขึ้นได้ และ ทำไมชั้นถึงถูกเลือกให้เป็น Dominant ... ไอ้ฮู๊ดคนนั้นเป็นใคร และมันต้องการอะไร? 

 

Clive – ชั้นต้องรู้ให้ได้ ... และตราบใดที่ชั้นยังมีลมหายใจอยู่ก็ต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์ด้วยเช่นกัน 

Jill – เราจะหาคำตอบของนาย ด้วยกัน ชั้นก็อยากรู้ว่าจริงด้วยเหมือนกัน ซึ่งยังมีเวลาพออีกเหลือเฟือสำหรับการชดใช้หลังจากที่เราทำสำเร็จแล้ว 

Clive –  ชั้นก็หวังว่าเธอจะบอกอย่างงั้น ชั้นไม่คิดว่าจะทำมันได้สำเร็จถ้าไม่มีเธอหรอกนะ เธอไม่เคยปิดบังความจริงหรือโกหกเลยตั้งแต่เด็กๆแล้ว เธอไม่เปลี่ยนไปเลยซักนิด

 

Jill – นายเข้าใจผิดแล้ว ชั้นเปลี่ยนไปนะ แต่ชั้นก็ไม่อยากจะเป็นคนเดิมอีกแล้ว เพราะสิ่งที่นางทำลงไปไม่ควรได้รับการให้อภัย

 

Jill – แต่มันก็ได้นำเราให้กลับมาพบกันอีกครั้ง 

Clive –  ขอบคุณนะจิล 

 


 

Margrace – ถ้าเขาอยู่ที่นี่ ... ถ้างั้น .. ที่ชั้นรู้สึกกระวนกระวายใจที่ Caer Norvent ก็คงจะเป็น .... จะมัวมาสับสนไม่ได้ เวลาไม่คอยท่าแล้ว 

 

 

                            ในขณะเดียวกัน ........... 

 

                                    Castle Dazbog

 

                       Hugo -  อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก !!!!

 

Hugo – บอกมาว่าใครเป็นคนทำ ข้าจะให้มันได้เจอชะตากรรมไม่ต่างกัน !!

 

ทหาร – คนที่มาส่งหีบนี้ เอ่อ มันบอกว่า ซิด เป็นคนจ้างให้มันมาส่งครับ 

 

                   Hugo -  อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก !!!!

 

Hugo –  ชั้นอุตสาห์ปล่อยให้แกใช้ชีวิตกับหนูสกปรกของแก แล้วดูสิว่าแกตอบแทนชั้นยังไง !!!? หาตัวมันให้เจอ !! แล้วข้าจะบดขยี้มัน ถลกหนังมัน !! ฉีกหัวใจของมัน !! รวมทั้งไอ้พวกโสโครกของมัน !!

 

           Hugo – และจะส่งพวกมันทั้งหมดไปลงนรก !!!

 

    Hugo –  ออกไปตามหามันเดี๋ยวนี้ !!!!!

   ทหาร – คะ ... ครับนายท่าน !!!

 

 



                           Hugo –  Benedikta ...

 

 

                            🔶 The Meaning of Life 🔶

 

 

                                -Ifrit Awoken -

 

 

                              Eikonic Ifrit Ability 

 

-Limit Break – กด L3+R3 เมื่อเกจลิมิตที่ทองเต็ม

-Ignition

-Will-o’-the-Wykes 

 

Jill – แล้วเราเอาไงต่อ?

Clive – เราต้องกลับไปเมือง Eastpool ก่อน เพราะชั้นสัญญากับตาลุงนายกเอาไว้ ชั้นจะคุยกับเขาเรื่องการอพยพ Hanna กับพวกของเธอ แม้ว่าเธออาจไม่อยากจะจากที่นี่ไปก็เถอะ แต่ชั้นคิดว่าพาพวกเธอไปอยู่กับซิดจะปลอดภัยมากกว่า เรารีบไปกันเถอะ ชั้นสังหรณ์ใจยังไงก็ไม่รู้ 

 

                                 เมือง Eastpool

 

 

 

    Clive – พวกทหารจักรววรดิ ไม่ๆๆ !!!!

     Jill – มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ??

 

Imperial Champion – เผามันทั้งเป็นทั้งไอ้พวก Bearers และพวกที่ช่วยเหลือมัน !! ตามคำสั่งของราชินี Anabella 

 

                  Mini – Boss: Imperial Champion 

 

 

 

 

Clive –  ผมเสียใจ ... Lady Hanna ... คุณควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้จากที่คุณช่วยทุกคนที่นี่ ..ซึ่ง ดีกว่าแม่ของชั้นเยอะ ..

 

Gav – แม่งเอ้ยย !!! มาไม่ทันจนได้ !!!

Clive –  Gav!!

Gav – ไคลฟ์ !!?

 

Gav – คำสั่งของราชินี Anabella สินะ? เรารู้มาว่าเมือง Eastpool แอบซ่อนพวก Bearers เอาไว้ เพราะคิดว่าพวกเขาจะปลอดภัยถ้าอยู่ที่นี่ แสดงว่างานนี้เกลือน่าจะเป็นหนอน ถ้าพวกเรามาเร็วกว่านี้คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้

Clive –  แม่ชั้นมักจะดูถูกพวก Bearers มาตลอด แต่พ่อของชั้นโอบอุ้มพวกเขาในขณะที่ชาติอื่นถ่มน้ำลายลด เพียงแค่เพราะเขามีพลังที่คนอื่นไม่มี 

 

Jill – ทำไมต้องฆ่าหมดทุกคน พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แค่ต้องการอิสระเท่านั้น

Clive – โลกที่ตัดสินอาขญากรรมด้วยความตาย นั่นแหละเราถึงต้องทำเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงมัน 

 

Clive – Gav พวกเราอยากจะช่วย

Gav – คิดว่านายมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำซะอีก

Clive – ก็มี แต่รอได้ 

Gav – ถ้างั้นนายคงต้องไปบอกซิดว่านายเปลี่ยนใจจะเอาด้วย เขาอยากจะให้นายมาร่วมด้วยตลอดอยู่แล้ว และนายคงต้องรีบหน่อยเพราะล่าสุดเห็นว่าซิดกำลังเตรียมเดินทางด้วย 

Jill – แล้วพวกศพชาวบ้านล่ะคะ ....? 

 

Gav – นี่พวกนาย ชั้นจะให้ช่วยฝังศพพวกชาวบ้านหน่อยได้มั๊ย?

Cole – ได้อยู่แล้วครับ เราจะทำให้พวกเขาได้รับการฝังอย่างเหมาะสมครับ

Clive – ขอบใจทุกคนมากๆ

Gav – เอาล่ะ เรารีบไปกันเถอะ

 

????? – เอาล่ะ เจ้าหนูสกปรก ช่วยพาไปที่รังของพวกแกหน่อย 

 

????? –  พอดีลอร์ด Kupka ต้องการจะส่งข้อความไปให้นายของแกแต่ยังหาที่อยู่ไม่ได้อ่า ฮ่าๆๆ

 

 

                             🔶Righting Wrongs 🔶

 

 

                              The Hideaway 

                       Central Storm , Deadland 

 

 

            Clive – ที่นี่นับวันยิ่งแออัดขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ 

 

Cid – ชั้นบอกตัวเองเสมอว่า ความพลุกพล่าน ถึงว่าเป็นพรอย่างนึง อย่างน้อยก็ยังพอมีเวลานั่งคิดอะไรเงียบๆตอนที่ชั้นตายไปแล้ว  ว่าแต่ นายเจอคำตอบในสิ่งที่นายตามหาหรือเปล่าล่ะ?

 

Clive – ผมเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งนี้มันเป็นของขวัญหรือคำสาปกันแน่ แต่ก็ช่างเถอะ เพราะยังไง ผมก็ได้รับมาแล้ว แต่มีสิ่งที่ผมพูดได้อย่างเต็มปาก 

 

ผมคือ Dominant Ifrit และไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้ เป็นภาระที่ต้องแบกรับไว้จนวันตาย 

 

Cid – พูดอีกก็ถูกอีก ...การให้อภัย รวมถึง การไถ่บาป เริ่มต้นจากการยอมรับความจริงเท่านั้น เป็นเส้นทางที่เราทุกคนต้องเดิน ไม่ว่าประวัติของเราจะสวยหรูแค่ไหนก็ตาม 

 

Clive – ซิด ครั้งนึงคุณเคยบอกผมว่า คุณอยากจะสร้างสถานที่ที่ทุกคนสามารถที่จะตายตามเงื่อนไขของตัวเอง 

Cid – ก็จริง

Clive – ผมลองคิดๆดูแล้ว ทำไมถึงไม่สร้างสถานที่ที่ทุกคนสามารถที่จะมีชีวิตอยู่อย่างอิสระล่ะ ? .. 13 ปีที่ผ่านมา ความตาย คือสิ่งเดียวที่ผมได้เรียนรู้ และหม่กหมุนกับมันอย่างมาก ชีวิตแบบนั้นมันแทบไม่มีค่าอะไรเลย ไม่ว่าจะ Bearers หรือพวกขอทาน ต่างก็เดินไปมาอย่างไร้ทิศทางไปจนวันตายโดยที่ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองก็มีสิทธิ์ในการเลือกใช้ชีวิตเช่นกัน และผมก็ไม่สามารถไม่ใส่ใจความทุกข์ของพวกเขาได้อีกต่อไป 

Cid – มันคือ การไถ่บาป สินะ?

 



Clive – นั่นคือคำตอบที่พวกเราค้นพบครับ 

Jill – เป็นสิ่งเดียวที่เราต้องการค่ะ 

 

Cid – ชั้นแนะนำให้พวกเธอทั้งสองคน ทำในเรื่องของตัวเองให้เต็มที่จะดีกว่านะ 

Clive – ก็นี่แหละเรื่องของเรา 

 

Cid – โอเค ถ้างั้น ... ด้วยไฟและน้ำแข็งของพวกนาย อาจทำให้แผนของชั้นได้ผลก็ได้ 

Clive – แล้วอะไรคือปัญหาที่คุณกำลังเจออยู่ในตอนนี้ครับ ?

 

 



Cid – วิธีที่ดีที่สุดที่เราจะแอบเข้าไปในเมืองหลวงของพวกจักรวรรดิ

                  ....... และไปเยี่ยมแม่ของนายกัน 

 

 

 

 

         ก่อนหน้านี้ ................

 

 

 

                                      Oriflamme 

                     The Holy Empire of Sanbreque 

 

 

                             The Coucil of Elders

                                Whitewyrm Lair 

 

 

คาร์ดินัลจากทางเหนือ – ตอนนี้พื้นที่ทางการเกษตรที่สุดท้ายของเราที่อยู่ทางตะวันออกถูก Blight กลืนกินไปหมดแล้ว 

 

 

คาร์ดินัลจากทางตะวันออก – หากปราศจากผลผลิตจากที่นั่น เมืองหลวงของเราคงมีปัญหาในเรื่องการสะสมเสบียงให้เต็มก่อนหน้าหนาวแน่นอน 

 

 

คาร์ดินัลสูงสุด – และถ้าตอนนั้นมฤตยูดำพวกนั้นมาถึงเมืองหลวงของเรา ...

 

 

????? – แต่พวกเจ้าก็ไม่ทำอะไรเลยนอกจากยกตนข่มท่านทะเลาะกันอยู่แบบนี้

คาร์ดินัลสูงสุด – ฝ่าบาท ..?

 

 

จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ – หากจักรวรรดิกำลังต้องการดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ เราคงต้องมองไปที่ พื้นที่ทางใต้

 

 

คาร์ดินัลจากทางเหนือ – เอ่อ ฝ่าบาทหมายถึงการยึดครอง Crystalline Dominion นั่น เราผูกพันกันด้วยพันธะสัญญาที่ต้องเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน พวกเขาเป็นรัฐที่มีพรมแดนร่วมกัน เราสาบานว่าจะเคารพสิ่งนั้นนะครับ 

 

 

จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ – ท่านสุภาพบุรุษ เราสาบานกันไว้หรือเปล่าว่าจะยอมให้ประชาชนของเราอดอยาก? 

 

เมืองหลวงของเราจะพังทลายถ้ามีผู้คนจำนวนมากมากพยายามอพยพเข้ามาเพื่อหนีจาก Blight และถ้ามีอาหารไม่มากพอที่จะเลี้ยงดูผู้คนที่เข้ามาในกำแพงเมืองของเราล่ะ? เราจะเลี้ยงดูพวกเขายังไง .. ต้องตั้งสติกับปัญหาพวกนี้ให้ดีๆ 

 

จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ – หรือพวกเจ้าจะงัดข้อกับศัตรูจากอีกฝากของทะเลของเรา ... จะส่งทหารของเราออกไปให้พวกมันที่มีอยู่เป็นพันๆเชือด!? ..

 

 

 ในขณะที่จักรวรรดิกำลังหลั่งเลือดพวกเจ้าก็เอาแต่นั่งพล่ามเม้าท์กันเหมือนยายแก่ในโรงน้ำชา และยังหน้าด้านเรียกตัวเองว่าเป็นผู้นำของเขาอีกหรอ?

 

 

จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ – Sanbreque จะไม่มีค่าอะไรเลยหากไม่มีพลเมืองของนาง รับเป็นเพียงผู้รับใช้ของพวกเขา หากดินแดนของพวกเขาถูกแย่งชิงไป ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะหาดินแดนใหม่ให้พวกเขา 

 

 

คาร์ดินัลจากทางตะวันตก – ตะ แต่ว่า ฝ่าบาทครับ?

คาร์ดินัลจากทางตะวันใต้ – ฝ่าบาทคงไม่ได้ความว่าเรากำลังจะทำสงครามเพื่อยึดครองประเทศอื่นใช่มั๊ยครับ??

 

 

จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ – ข้าก็หมายความตามนั้นแหละ !! ถึงเวลาที่อณาจักรของเราต้องขยับขยายแล้ว ..นี่เป็นพระประสงคแห่ง Greagor ผู้ยิ่งใหญ่ 

 

 

คาร์ดินัลจากทางตะวันตก – แบบนี้คงได้เกิดความโกลาหลแน่ๆ

คาร์ดินัลจากทางตะวันใต้ – อย่างงั้นเราต้องหาทางเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชน 

คาร์ดินัลสูงสุด – แต่มันจะเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร์???

คาร์ดินัลจากทางตะวันตก – แล้วกองทหารของเราล่ะ? จะพอมั๊ย หรือเราต้องจัดตั้งกองทหารกองหนุนเพิ่ม ?

คาร์ดินัลจากทางตะวันตก – อย่างกับมีใครอยากจะสู้กับ Dhalmeks งั้นแหละ?

 

 

จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ – ข้าจะไม่รั้งพวกเจ้าไว้หรอกนะ อยากจะไปไหนก็เชิญเถอะ 

 

 

จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ – ตอนนี้ลูกชายข้าอยู่ที่ไหน?

ผู้รับใช้ – เจ้าชายกำลังต้านพวกศัตรูอยู่ที่ช่องแคบ Autha ขอรับ หากฝ่าบาทต้องการพบ ข้าจะส่งข่าวให้เจ้าชายกลับมาที่เมืองหลวงได้ทันทีเลย

 

 

จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ – ไม่จำเป็นหรอก ...บอกเขาให้รักษาตัวให้ดีก็พอ เพราะเราต้องใช้งานความแข็งแกร่งของบาฮามุธอีกครั้งในเร็วๆนี้

ผู้รับใช้ – น้อมรับคำบัญชาขอรับ..

 

 

                                The Hideaway 

                      Central Storm , Deadland 

 

 

Clive – เดี๋ยวนะ? ผมหูฟาดไปหรือเปล่า? คุณกำลังจะบอกว่า มาเธอร์คริสตัล คือต้นเหตุที่ทำให้โลกนี้กำลังตายงั้นหรอ???  ... คุณบ้าไปแล้วหรอ??

 

 

    Cid – เมื่อก่อนชั้นก็เถียงถ้าจะให้คิดแบบนั้น แต่ไม่ใช่วันนี้

 

 

Cid – พวกเราได้เห็นมันเกิดขึ้นกับตามาด้วยตัวเองแล้ว พื้นที่ว่างเปล่าที่ครั้งนึงเคยเป็นทุ่งหญ้าที่เขียวขจี ตอนนี้แห้งผากไร้ซึ่งอีเธอร์ ไม่มีแม้กระทั้งหนูที่มาอยู่อาศัย แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไง? ชั้นใช้เวลาหลายปีเพื่อหาคำตอบนั้น กระทั่งชั้นเห็นมันมาอยู่ตรงหน้า

 

 

Cid – มันอยู่ในคริสตัลอันเดียวกับที่เรามองว่ามันเป็น พร วิเศษ ... เอาล่ะ ฟังนะ อย่างคริสตัลนี้ มันทำให้เราเสกเวทย์มนต์ได้ยังไง? 

 

 

คำตอบคือ โดยดึงเอาอีเธอร์มาจาก มาเธอร์คริสตัล แล้วคริสตัลพวกนี้มาจากไหน?

Gav – ง่ายจะตาย ก็มาจากมาเธอร์คริสตัลไง  

 

 

Cid – มันก็คริสตัลอันเดียวกันแค่ว่ามันเป็นที่ยอมรับเพราะมันสะดวกในการพกพาเท่านั้นเอง 

Jill – แต่ มาเธอร์คริสตัลมีมวลมาก บางอันใหญ่เท่าภูเขา 

Cid – นั่นแหละปัญหา ลองนึกดูว่าถ้าขนาดมันขนาดนั้นมันจะต้องดึงอีเธอร์มาขนาดไหน ส่วนมันเกิดขึ้นยังไงนั้น? ชั้นก็คงจะไม่ได้รู้ถึงเรื่องหรอกว่ามั๊ย? 

 

 

Clive – เราถูกสอนมาว่า มาเธอร์คริสตัล เป็นของที่ถูกประทานมาจากสวรรค์ และ อีเธอร์จากมันก็คือ พรจากสวรรค์ เป็นเวลาหลายศตวรรษที่หลายประเทศต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิง พรจากสวรรค์ นั้น ถ้าสิ่งที่คุณพูดเป็นความจริง ทำไมถึงไม่มีใครสังเกตุเห็นความจริงข้อนี้เลยล่ะ?

 

 

Cid – ใครบอกว่าพวกเขาไม่รู้ บางทีความจริงมันก็เป็นเรื่องไม่สะดวกที่จะพูดออกมา

Jill – ไม่สะดวกสำหรับใครคะ?

Cid – ผู้ที่อยู่สูงขึ้นไป .... พระเจ้าล่ะมั้ง?

 

 

Clive – แล้วตอนนี้คุณอยากจะทำอะไรกับคริสตัลครับ แล้วเอ่อ เราจะไม่ช่วยพวก Bearers หรือ Dominant อีกแล้วหรอ?

 

 

Cid – ชั้นยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไม่ทำ ชั้นให้คำมั่นไปแล้ว ยังไงชั้นก็จะรักษามัน แต่ถ้าเราเดินหน้าในเส้นทางนี้อย่างเดียว ก็คงมีแค่ชะตากรรมเดียวที่รอคอยอณาจักรนี้อยู่



 และเราก็คงทำให้คนของเราเป็นอิสระไม่ได้ถ้าพวกเขานอนตายภายใต้เถ้าถ่านของ Blight และก็ไม่มีที่ไหนที่สามารถสร้างสถานที่ที่ทุกคนจะใช้ชีวิตตามเงื่อนไขของตัวเองได้ด้วย 

 

 

Cid – เป็นการเอาชนะด้วยการจัดการที่ต้นเหตุยังไงล่ะ ดังนั้นเราจึงต้องทุบโลกใบเก่าถึงเพื่อจะสร้างใบใหม่ขึ้นมาแทน แล้วพวกนายว่าไง เอากับชั้นด้วยมั๊ย?

 

 

Clive – ผมคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะตอบแทนความเชื่อของคุณ

 

 

Gav – ฮ่าๆ นายคงหมายถึง เอาด้วยสินะ ตอนนี้เราอยู่ในเรือลำเดียวกันแล้วนะ 

 

 

Clive – เฮ้ออ ... มึนตึบ ...ด้วยข้อมูลที่ซิดยัดเข้าหัวชั้นเมื่อกี้ คงต้องหา Potion ซักสองสามขวดเพื่อเยียวยาด่วนเลย…

 

 

 

 

 

                            Sidequest Unlocked 

 

Red Letter Day

Needs of the Many

 

 

 

                    📗 Sidequest – Red Letter Day

 

รางวัล

Exp – 20 

Item

Wyrrite 20 

Sharp Fang 10

 

 

Glenn , พนักงานส่งพัสดุ – มันหายไปไหนฟ่ะเนี้ย?? จดหมายนั่น ไม่ๆๆๆๆ 

Clive – คุณทำจดหมายอะไรหายหรอครับ? หวังว่าคงไม่ใช่ของสำคัญนะ

Glenn , พนักงานส่งพัสดุ – ไม่ใช่แค่จดหมายหรอกครับ แต่พัสดุทั้งหมดหล่นหายหมดเลย ก็กระเป๋าผมขาดมันเลยหล่นหายไปโดยไม่รู้ตัวเลยจริงๆ

Clive – มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ?

Glenn , พนักงานส่งพัสดุ – นี่นายยังบอกไม่แย่อีกหรอ? ชั้นเป็น พนักงานส่งพัสดุ นะ ชั้นต้องส่งของให้ถึงมือผู้รับสิ แล้วจะมีพนักงานส่งพัสดุแบบชั้นไปทำไม ซึ่งนั่นหมายถึง จะไม่มีสมุนไพรส่งถึงหน่วยพยาบาล หรือ ไม่มีเนื้อสัตว์ส่งโรงครัว และที่แย่กว่านั้น จดหมายที่หายนั่นเป็นจดหมายที่ส่งถึงซิด ซึ่งเป็นจดหมายที่เขารอมาหลายวันแล้วด้วย 

Clive – บางทีคุณควรลองย้อนกลับไปดูตามเส้นทางที่ผ่านมานะ

Glenn , พนักงานส่งพัสดุ – ถ้าทำได้ชั้นจะตามหาจากชายฝั่งไปถึงอีกฝั่งเลยล่ะ แต่หน่วย Cursebreakers ที่กำลังออกปฎิบัติงานนอกพื้นที่ก็กำลังรอพัสดุจากชั้นอยู่อ่ะดิ ซึ่งถ้าช้าชั้นโดนถลกหนังทั้งเป็นแน่นอน

 

 

** Cursebreakers คือหน่วยปลดแอก Bearers ของซิด ที่ออกปฎิบัติการณ์เพื่อช่วยเหลือ Bearers ตามสถานที่ต่างๆ ** 

 

 

Clive – คนในที่หลบภัยนี้ก็จำเป็นต้องใช้สิ่งของนั่นเหมือนกัน งั้นเดี๋ยวผมไปตามหาจดหมายกับของต่างๆให้ แล้วที่ล่าสุดที่คุณเคยผ่านมาคือที่ไหน?

Glenn , พนักงานส่งพัสดุ – น่าจะเป็นแถว Gaultand’s Bales นะ เพราะชั้นต้องเดินผ่านพุ่มไม้พวกนั้นมันอาจจะมาเกี่ยวกระเป๋าของชั้นจนขาดก็ได้ ถ้านายสามารถไปตามเก็บของที่ชั้นหล่นหายมาให้ชั้นได้ ก็เหมือนกับคุณได้ช่วยเราทุกคนที่นี่ และยิ่งถ้าคุณเจอจดหมายของซิด ก็จะได้ช่วยชีวิตชั้นด้วย 

Clive – ถ้ามันตกที่นั่นเดี๋ยวผมก็คงเจอแหละ

Glenn , พนักงานส่งพัสดุ – ขอบใจมาก งั้นผมขอตัวไปส่งพัสดุอื่นก่อนนะเดี๋ยวจะไม่ทัน อ่อ รีบหน่อยนะ เพราะซิดไม่ชอบรออะไรนานๆอ่ะนะ

Clive – ชั้นก็คิดว่าเขาคงไม่ชอบอะไรแบบนั้นแน่นอน 

 

 

Objective > เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจย่อยที่ Gaultand’s Bales

 

 

เมื่อเข้ามาในพื้นที่แล้วเก็บพัสดุที่ตกในจุด ! สีเขียวให้หมด แต่ยังขาดจดหมายของซิด Clive จึงไปสอบถามชาวบ้านที่ทำไร่องุ่นแถวนั้นดู

 

 

ชาวบ้าน – แต่งตัวดีเกินจะมาเก็บองุ่นป่ะเนี่ย? คุณมาหานายท่าน Quinten หรือเปล่าคะ?

Clive – ผมมาตามหาจดหมายที่ตกอยู่แถวนี้อ่ะ คุณพอจะเห็นบ้างมั๊ย?

ชาวบ้าน – จดหมายหรอ .. ไม่เห็นนะ ...แต่ เดี๋ยวชั้นเห็นหมามันคาบเศษกระดาษอยู่ในปากไม่รู้จะใช้จดหมายหรือเปล่านะ 

Clive – แล้วมันไปทางไหนครับ?

ชาวบ้าน – เห็นมันวิ่งเข้าไปที่หมู่บ้าน Lostwing อ่ะ เพราะมีคนให้อาหารมันอยู่

 

 

Objective >เข้าไปที่หมู่บ้าน Lostwing ตรงจุดที่หมาอยู่ เก็บจดหมายแล้วนำกลับไปให้ Glenn ที่ The Hideaway

 

 

Glenn , พนักงานส่งพัสดุ – อ้าว นายกลับมาแล้ว ชั้นเองก็เพิ่งกลับมาถึงเมื่อกี้เหมือนกัน โชคดีที่ Otto ยังไม่เห็นชั้นนะเนี่ย แล้วนายเจอ เอ่อ 

Clive – ของนายที่ตก เจอสิ นี่ไง

Glenn , พนักงานส่งพัสดุ – ดีจังที่มันยังไม่หาย แล้วจดหมายล่ะ !

Clive – จดหมายก็เจอ 

Glenn , พนักงานส่งพัสดุ – โอ้ ไม่ต้องหลบซ่อนๆอีกต่อไปแล้วผม ขอบคุณมากกก เรื่องเสบียงหายก็ว่าแย่แล้วแต่จดหมาย Cid หายที่งานหนักเลย 

Clive – มันเป็นข้อมูลจากพวก Cursebreakers หรอ?

Glenn , พนักงานส่งพัสดุ – เปล่า นั่นมันจดหมายของลูกสาวเขา ตอนนี้เธอกำลังเรียนอยู่ที่ Kanver และข่าวจากเธอก็จะทำให้ Cid มีสติอยู่เสมอตอนเธอไม่อยู่อ่ะนะ 

Clive – ไม่เคยเห็นเขาพูดถึงลูกสาวเลย 

Glenn , พนักงานส่งพัสดุ – คงจะงานยุ่งแหละ แต่ยังไงก็ขอบคุณนะที่เสียเวลาช่วยคนส่งของไม่ให้โดนฟ้าผ่าตายน่ะ ..เอานี่ค่าเสียเวลาของนาย .. วันนี้ถ้าอยากได้อะไรจาก Cid ให้รีบเลยนะเพราะวันนี้เขาจะใจดีเป็นพิเศษเลยล่ะ




 

                   ข้อความในจดหมายของ CID  

 



ถึง ลูกสาวสุดที่รักของพ่อ Mid, 

 

ลูกก็รู้ว่าพ่อไม่ใช่คนชอบพูดเล่น ดังนั้นพ่อจะพูดตรงๆ คือพ่อต้องการชื่อสำหรับกิจการเล็ก ๆ ของเรา ไอเดียที่พ่อคิดไว้เล่นๆก็มี  ~ Nautilus Highwind, Invincible ~ พ่อเกรงว่ามันน่าจะเหมาะกับชื่อเทพนิยายมากกว่าเรือเดินทะเลอ่ะนะ

 

 เขาว่ากันว่า ถ้าเราขาดไหวพริบอะไร เราก็จะได้ไหวพริบอื่นมาชดเชย ดังนั้นพ่อเลยคิดว่า เรื่องการตั้งชื่อ น่าจะใช้ความสามารถของคุณจะดีกว่า 

 

ทำให้พ่อภูมิใจนะ. 

 

จากพ่อของลูก   

Thank source

https://twitter.com/musebigenkai/status/1674662288979296256?s=46&t=ulSsVaxGtLqPc7BQxFP0Kg     

 

 

 

                  📗 Sidequest – Needs of the Many

 

รางวัล

Exp – 20 

Item

Wyrrite 30 

Sharp Fang 30

Meteorite 1

 

 

Alban , บรุษไปรษณี – ปกติเขาไม่เคยช้านะ นายหายไปไหนเนี่ย Randal?

Clive – ทุกอย่างโอเคนะครับ? 

Alban , บรุษไปรษณี – ขอโทษทีนะพ่อหนุ่ม ชั้นคิดอะไรเลยเพลินไปหน่อย พอดีมัวแต่ห่วงเพื่อนน่ะ เขาหายไปซักพักแล้วยังไม่กลับมาเลย นายคงรู้นะว่าพวก Bearer เวลาไปที่อื่นมันไม่ค่อยจะปลอดภัยนัก

Clive – แต่ที่นี่ก็ปลอดภัยอยู่แล้ว เขาจะไปทำไม?

Alban , บรุษไปรษณี – เพื่อเงินไงล่ะ? น่าเศร้าที่พวกเราต้องการมันมากกว่ากลัวที่จะเสี่ยง การอยู่ที่นี่ ความปรารถนาดีไม่ใช่ทางรอดหรอกนะ มีแต่ Charon ที่มีเงินทุนหนาๆเท่านั้นแหละที่ไม่มีปัญหา ... เอ่อ คุณเป็นทหารของจักรวรรดิงั้นหรอ? 

Clive – เคยเป็นน่ะครับ 

Alban , บรุษไปรษณี – ถ้างั้นชั้นมีเรื่องจากขอร้องหน่อยสิ? ชั้นมันแก่เกินไปที่ออกไปแกะรอยแล้ว ช่วยตามหาเขาให้หน่อยได้มั๊ย?

Clive – จะลองดูครับ

Alban , บรุษไปรษณี – โอ้ ขอบคุณมาก เพื่อของชั้นชื่อ Randal นายน่าจะลองไปตามหาเขาที่หมู่บ้าน Lostwing เขาเคยทำงานให้กับ Quinten ชั้นมั่นใจว่าเขาต้องรู้แน่นอน 

 

 

Objective > เดินทางไปยังจุดหมายของภารกิจย่อยที่ร้านของ Quinten ในหมู่บ้าน Lostwing

 

 

Quinten – อ่า นายเป็นเด็กของ Cid ใช่มั๊ยเนี่ย? มีอะไรให้รับใช้ล่ะ?

 Clive – ผมมาตามหา Bearer ที่ชื่อ Randal น่ะ ได้ยินว่าเขามาทำงานกับคุณ เห็นเขาหายไปจาก The Hideaway นานแล้วเพื่อของเขาเลยให้ผมมาเช็คดูว่าเขาปลอดภัยมั๊ย?

Quinten – Randal หรอ? อ่อ คนส่งของ ใช่ๆชั้นรู้จัก ชั้นก็แปลกใจเหมือนกับที่เขากลับมาช้า จริงๆเขาควรกลับมาได้แล้วนะ ยังมีงานให้ทำอีกเยอะเลย 

Clive – งั้นเดียวผมไปเช็คดูให้ ส่งเขาไปทำงานที่ไหนหรอ?

Quinten – เขาต้องไปรับของจากเพื่อนของชั้นที่ Laybert’s Pass หวังว่าคงไม่เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรอกนะ ยังไงช่วยไปเช็คดูให้หน่อยนะ ไคลฟ์ 

 

Objective > เดินทางออกไปยังทางออกทางทิศใต้ของหมู่บ้าน ไปยังจุดหมายของภารกิจย่อยที่ Laybert’s Pass

 

 

Clive – นายโอเคนะ?

คนของ Quinten – ขอบคุณพระเจ้า นายเป็นพวกเดียวกัน รถสินค้าของเราถูกพวกมันโจมตี ชั้นหนีมาได้ แต่ Randal ก็รู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องสวบบท Hero แต่เขาก็ยังจะไปสู้กับพวกมันอีก ได้โปรดช่วยไปดูเขาหน่อยว่าปลอดภัยหรือเปล่า? พวกมันอยู่ที่สุดถนนทางนู้นน่ะ 

 

 

Objective > เดินไปยังจุดหมายของภารกิจย่อยตรงจุดรถสินค้า แล้วกำจัดฝูงก็อบลินให้หมด 

 

 

                          Mini boss – Hill Gigas

 

 

Clive – ขอโทษด้วยนะ Randal ที่ชั้นมาช้าไป เขาไม่ควรมานอนเน่าตายข้างถนนแบบนี้ ต้องไปคุยกับควินเตนดู 

 

 

Quinten – อ่อ นายกลับมาแล้ว คนของชั้นเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังหมดแล้ว แต่ ทำไมนายกลับมาคนเดียวล่ะ? ….เขาไม่รอดสินะ ... บ้าเอ้ย !!

Clive – ศพเขาอยู่ไม่ไกลจากประตูทางทิศใต้ ผมหวังว่าคุณคงทำสิ่งที่ควรทำให้เขาได้ 

Quinten – แน่นอน เดี๋ยวชั้นจะให้คนไปเอาศพของเขามาฝังให้เรียบร้อย เฮ้อ ชั้นรู้ว่าเขาเป็นคนกล้าหาญ แต่ก็บู่มบ่ามด้วย ...น่าสงสารจริงๆ.. เจ้าโง่เอ้ย ...

Clive – คุณรู้จักเขามานานแล้วหรอครับ?

Quinten – ก็ไม่นานหรอก ชั้นชอบที่เขากล้าที่จะรับงานที่มีความเสี่ยง และเขาก็ชอบชั้นที่จ่ายให้อย่างงาม

Clive – ก็เพราะมันช่วยให้เขาอยู่อย่างสบายใน The Hideaway

Quinten – เดี๋ยวชั้นจะส่งข่าวไปบอก Cid เอง เชื่อว่าเขาคงไม่พอใจกับชะตากรรมของ Randal นักหรอก และนายก็คงไม่ค่อยแฮปปี้เช่นกัน ...อ่ะ สำหรับค่าเหนื่อยของนาย 

 

 

 

Objective > เข้าไปซื้อของที่ร้านป้า Charon เพื่อเตรียมออกเดินทาง

 

 

Charon – พระเจ้า ... สุดท้าย Cid ก็ลากนายให้อยู่มาถึงตอนนี้จนได้สินะ คราวนี้ไปไหนล่ะ?

Clive – Oriflamme ครับ

Charon – บุกเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์เลยเรอะ!? มีธุระอะไรถึงกับต้องเข้าไปที่นั่นล่ะ ... อืมม คิดอีกที ไม่รู้จะดีกว่าอ่ะนะ ...แต่ถ้าจะพูดถึง Oriflamme ชั้นได้ยินมาว่าเส้นทางการค้าที่จะมุ่งลงใต้ค่อนข้างพลุกพล่านเลยนะ ... ถ้าถามชั้น ชั้นว่า ที่นั่นเบียร์ห่วยแตกและชาก็เหมือนฉี่หมูป่ายังไงยังงั้นเลย แต่ยังไงก็ลองเข้าไปคุยกับ Otto ดูเผื่อเขาจะให้ข้อมูลอะไรดีๆบ้าง 

 

 

Otto – นายจะไปจริงๆแล้วสินะ? cid พูดเรื่องแผนทำลาย มาเธอร์คริสตัล ตั้งแต่วันแรกที่เขารู้จักชั้นเลย แล้วตกลงเขาว่าไง?

Clive – เขาบอกว่าสิ่งที่เรากำลังจะทำเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เราเลยกำลังออกเดินทางไปที่เมืองหลวงในไม่ช้านี้แหละ

Otto – ก็อย่างว่า นายคงไม่สามารถเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมได้หรอก ดูเหมือนว่าการหลบซ่อนที่พวกรอยัลลิสต์มอบให้เขานั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้ที่จะทำให้จิตวิญญาณของราชาเฒ่านั่นสลดได้ กองทหารของพวกเขากำลังเดินทัพอีกครั้ง และคราวนี้พวกมันกำลังจะลงใต้ 

Clive – ทำสงครามครั้งใหม่งั้นหรอ?

Otto – ก็เป็นไปตามที่เทพเกรเกอร์ผู้ยิ่งใหญ่ต้องการ สาวน้อยกระหายเลือดนั่น แต่ก็นะ ยังไงนั่นก็คือพระเจ้าสำหรับนายจริงมั๊ย? ถึงกระนั้นก็เถอะ ก็ถือว่าความโกลาหลเป็นโอกาสที่เอื้อประโยชน์ให้กับงานของเรา และเมื่อมีลมหนุนหลัง กลุ่มคนที่มีความคิดเดียวกันก็จะเริ่มพร้อมใจแทรกซึมเข้าสู่ Oriflamme และนั่นจะทำให้เมืองหลวงเกิดปัญหาแน่นอน และ ถูกแล้ว ใครที่เดินทางเข้าไปยัง Oriflamme ก็ต้องผ่าน Northreach นายโชคดีแล้วล่ะเพราะชั้นรู้วิธีการแทรกซึม ... 

 

 

Otto – ไม่ๆๆ ไม่ใช่แบบนั้น ไม่ได้แนะนำให้นายไปเที่ยว The Dame หรอกนะ แต่ The Dame เป็นหนทางที่ทำให้นายเดินผ่านด่าน Northreach ได้อย่างปลอดภัย ชั้นจะรีบส่งข่าวไปในตอนเช้าเพื่อบอกให้เธอรู้ว่านายกำลังไป นางเป็นมิตรที่ดีและชั้นมั่นใจว่าเธอจะทำให้นายลุกเป็นไฟแน่นอน ฮ่าๆ

Clive – ก็ดีครับ แต่ใครคือ The Dame และจะพบเธอได้ที่ไหน?

Otto – เธอเป็นเจ้าของสถานที่ที่ทรงอิธิพลที่สุดใน Northreach ที่ชื่อ The Veil …เป็นที่ที่ผู้หญิง เอ่อ ... นายคงรู้นะว่าชั้นหมายความว่าอะไร?

Clive – ผู้หญิง …. อ๋อ โอเค เข้าใจครับ

Otto –อย่าไปทำให้เธอตาบอดเพราะหลงเสน่ห์นายเอาล่ะ ชั้นจะรอฟังรายงานตอนนายกลับมานะ ฮ่าๆๆๆ

 

 

                          Alliant Report Unlocked

 

อัลไลแอนท์ รีพอร์ท คือ รายงานความเคลื่อนไหวและความเป็นไปของสถานการณ์โดยรรวมของหน่วย Cursebreakers และ พันธมิตรตามที่ต่างๆ ส่งกลับมาที่ The hideaways ซึ่งจะทำให้ทราบถึง ปัญหา การร้องขอ ภารกิจเสริมใหม่ๆทั่วทั้งวาลิสเธียว่าเกิดขึ้นที่ไหนบ้าง ทำให้สะดวกในการเดินทางไปจุดของภารกิจโดยไม่ต้องเปิดหาจากแผนที่ให้วุ่นวาย 

 

 

 Gaute - อ่า นายคือหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามานี่เอง Gaute ยินดีให้บริการครับผม Otto ให้ผมคอยอ่านรายงานที่ส่งมาจากพันธมิตรของเรา แล้วเลือกปัญหาที่เกิดขึ้นตามที่ต่างๆจากการร้อขอจากผู้คนที่อาจทำให้หน่วย Cursebreakers หรือ อาสาสมัครแบบนายสนใจที่จะรับงานช่วยเหลือ ยังไงถ้านายก็ลองดูก่อนก็ได้เผื่อจะสนใจ 

 

 

                               Sidequest Unlocked 

 

Welcoming Committee

Dying on the Vine 

While the Cat’s Away

 

 

                   📗  Sidequest – Welcoming Committee

 

รางวัล

Exp – 15

Item

Gil Bug 1 

 

Objective > เดินทางมาที่จุดหมายของภารกิจที่เมือง Lostwing 

 

 

Alain – อ่า ถ้าจำไม่ผิด นายคือคนของ Cid ซินะ อยากจะรบกวนให้นายช่วยอะไรหน่อยได้มั๊ย?

Clive – ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณต้องการให้ผมช่วยเรื่องอะไร?

Alain – มี Bearer ที่เพิ่งมาใหม่ 2 คนจาก Oriflamme และราคาการรับรองของ Quinten เพื่อให้ไปโน้มน้าวให้เจ้าของใหม่ยอมรับไปดูแลก็ค่อนข้างแพง ชั้นทำใจไม่ได้จนไม่กล้ามองพวกเขาเลย จะช่วยก็ช่วยไม่ได้มากเพราะพวกเขาไม่ยอมพูดเลย

Clive – พวกเขาคงกลัวคุณมั้ง 

Alain – ก็คงจะใช่ ต้องใช้ Bearer ด้วยกันพวกเขาคงยอมเปิดใจ นายช่วยไปคุยกับพวกเขาหน่อยได้มั๊ย แนะนำวิธีปรับตัวให้เขา แค่บอกว่า พวกเขาจะปลอดภัยที่นี่ อยากได้อะไรก็ให้บอก พวกเขานั่งกันอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนจะเริ่มหายใจไม่สะดวกแล้วด้วย 

Clive – ได้ เดี๋ยวผมลองคุยให้

 

 

Clive – คุณเพิ่งมาใหม่ใช่มั๊ย? ต้องการอะไรหรืออยากให้ผมช่วยหาให้มั๊ย? ที่นี่พวกคุณจะปลอดภัย ไม่มีใครจะลงโทษคุยเพียงแค่คุยกับเขาหรอก

Bearer – จะ จริงหรอ? คือ ผมหิวมาก น้องผมก็ด้วย เรากำลังหิวมมากๆครับ

Clive – งั้นรอนี่นะ ผมจะลองไปดูที่โรงแรมว่ามีอะไรที่พอเอามาให้พวกคุณกินได้บ้าง 

 

 

Clive – ผมขออาหารอะไรก็ได้ที่คุณมีตอนนี้ 2 ที่ครับ 

คนดูแลโรงแรม – โทษนะ เราเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองก็จะแย่แล้ว ไม่มีพอให้คนนอกหรอกนะ

Clive – ไม่ใช่สำหรับผม ผมจะเอาไปให้ Bearer ที่มาใหม่สองคนน่ะ

คนดูแลโรงแรม – อ่อ เอ่อ ..ชั้นไม่เห็นตราสัญลักษณ์ของ Quinten ถ้างั้นคุณเอาไวน์กับขนมปังตรงนั้นไปได้เลย มากเท่าที่ต้องการเลยค่ะ

 

 

Clive – มากเท่าที่ต้องการเลยหรอ แค่มีตราของเจ้าของโรงแรมเนี่ยนะ?

คนดูแลโรงแรม – ใช่ค่ะ เพราะนายท่าน Quinten สั่งไว้แบบนั้น และนายท่านว่าอย่าให้แขกของท่านไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงด้วย เอาอาหารทางนู้นไปให้พวกเขากินให้เต็มที่เลยค่ะ

 

 

Clive – นี่ครับ ไวน์กับขนมปัง พวกคุณกินได้เลย

Bearer – พี่คะ ที่นี่อยากกับฝันแนะ เรานั่งเล่นได้โดยไม่มีใครมาด่า และกินได้มากขึ้นด้วย 

Bearer – ใช่ พี่ก็แทบไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน 

Clive – พวกคุณเป็นอิสระแล้วนะ ต่อไปถ้าหิวหรือต้องการอะไรสามารถบอกได้ตลอดเวลานะ

Bearer – ขอบคุณครับ สำหรับทุกอย่าง ขอบคุณมากๆ

 

 

                  📗 Sidequest – Dying on the Vine

 

รางวัล

Exp – 15 

Item

Sharp Fang 10

Black Blood 1 

 

 

Objective >เดินเข้าที่จุดหมายของภารกิจในห้องเก็บไวน์ของบ้านหลังนึงในเมือง Lostwing

 

 

Emile -  ผม ผม ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ ..ดะ เดี๋ยวนะ พระเจ้า คุณติดตราสัญลักษณ์ Hanged man นี่ ผมนึกว่าพวกโจรซะอีก ถ้าคุณเป็นเพื่อนกับ นายท่าน Quinten งั้นคุณก็คงจะช่วยผมได้แน่นอน คือ ตอนนี้ไร่องุ่นที่เป็นเสมือนหน้าตาของเมือง Lostwing กำลังถูกพวกตัวต่อยักษ์เข้ามาก่อกวน

Clive – คุณก็เลยจะหาคนที่จะช่วยกำจัดศัตรูพืชให้คุณใช่มั๊ย?

Emile -  แน่นอนสิ ผมไม่เคยเห็นมันมาไกลจากป่าขนาดนี้มาก่อนเลย อาจจะตามกลิ่นมา กลัวว่าพวกมันจะกินผลผลิตที่ดีที่สุดของเมืองเราจนหมดซะก่อน ผมเคยพยายามไล่มันด้วยตัวเองมาแล้วแต่มันไม่หนีอ่ะ ถ้าไม่ได้องุ่นมาทำไวน์ให้ทันเวลาท่าน Quinten คงเอาผมตายแน่ๆ ดูแล้วนายคงจะพอรับมือมันได้แน่นอน ทำไมนายไม่ทำอย่างที่สหายควรทำให้กันหน่อยล่ะ?

Clive – โอเค เดี๋ยวผมไปจัดการมันให้ 

Emile –  โอ้ ขอบคุณมาก พวกมันอยู่ที่ไร่องุ่นใน Gaultand’s Bales รีบหน่อยนะ Lostwing กำลังต้องการองุ่นพวกนั้น !!

 

 

Objective > เดินทางไปที่ไร่องุ่นใน Gaultand’s Bales หน้าทางเข้าเมือง Lostwing จัดการพวกฝูง Vintner wasp ให้หมด 

 

 

Clive – ต่อแตนพวกนั้นจะไม่มีวันมาก่อกวนกับผลผลิตคุณได้อีกแล้วล่ะครับ

Emile – โอ้ ขอบคุณครับ นายท่าน Quinten คงจะปวดหัวแน่ถ้าผมทำผลผลิตเสียหาย จะบอกว่าผมมีรางวัลให้คุณด้วยนะ เอ้านี่ 

 Gaultand ของเราเป็นพื้นที่ทำให้อณาจักรของเรามั่งคั่ง ให้เพื่อนเราได้มีอาหาร เพื่อใช้คัดคานพวกจักรวรรดิที่หน้าประตูของเรา ไร่องุ่นเป็นความคิดของท่าน Quinten เพื่อเป็นที่ทำงานของ Bearer เพื่อให้พวกเขาปลอดภัยในพื้นที่ของเรา

Clive – ผมดีใจที่ได้ช่วยครับ 

Emile – ผมจะให้พวกเขารับรู้ถึงความเมตตาของคุณ เมื่อผลผลิตขององุ่นพร้อมแปรสภาพเป็นไวน์ แก้วแรกพวกเราจะยกเพื่อให้เกรียติกับคุณแน่นอน 

 

 

                📗  Sidequest – While the Cat’s Away

 

รางวัล

Exp – 20

Item

Wyrrite 10 

Steelsilk 5

 

 

Objective > เดินทางมาที่จุดหมายของภารกิจที่ Martha’s Rest 

 

 

พนักงานโรงแรม – เดี๋ยวก่อน ชั้นจำคุณได้ คุณเป็นเพื่อนของ Martha ได้โปรดช่วยเราด้วยค่ะ ขอร้องล่ะ

Clive – ช่วยเรื่องอะไรหรอครับ?

พนักงานโรงแรม – พวกโจรค่ะ มันเข้าไปในโรงแรมแล้วพยายามจะฆ่าคนในนั้น ชั้นก็เลยรีบหนีออกมาเพื่อหาคนช่วย ได้โปรดเข้าไปช่วยพวกเขาด้วยนะคะ 

Clive – เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ พวกมันมีกี่คนรู้มั๊ย?

พนักงานโรงแรม – ชั้นรีบหนีออกมาไม่ทันได้นับเลยค่ะ พวกมันดูโหดเหี้ยมมากเลย ระวังตัวด้วยนะคะ

 

Objective > เข้าไปในโรงแรม กำจัดพวกโจรให้หมด 

 

 

Brigand – ฮ่าๆๆ Golden Stables คลังแสงของข้า นัง Martha ซ่อนอะไรไว้เอาออกมาให้หมด !! …. โอ้ ...เจ้าหมอนี่ ดาบสวยนี่ แต่หนักไปสำหรับแกป่ะ อย่างหวังจะให้เป็นข้ออ้างให้พวกข้าปราณีแกนะ 

 

 

พนักงานโรงแรม – นี่ไงคะ ฮีโร่ของ Golden Stables

Martha – พวกมันคงคิดจะเล่นเราให้ล้มลุกคลุกคลานอีกครั้ง ขอบคุณที่มีคุณอยู่ใกล้ๆ ไอ้พวกขี้ขลาดนั่นคงไม่กล้าเข้ามาที่นี่แน่ถ้าชั้นยังอยู่

Clive – แต่ ถ้าผมจำไม่ผิด คุณเคยบอกว่าคุณมีคนคุ้มครองที่นี่อยู่ไม่ใช่หรอ?

Martha – ใช่ เรามี Bloodaxes คอยดูแลโรงแรมของเราอยู่ และพวกเขาก็มีหน้าที่ดูแลความสงบในพื้นที่ด้วย ชั้นก็พยายามแบ่งหน้าที่ให้เขาทำอย่างเหมาะสมแล้วล่ะ แต่ครั้งนี้เขาคงกำลังยุ่งจริงๆ เราอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิไม่ได้แปลว่าพวกมันจะทำให้เราปลอดภัย ซึ่งถ้าไม่ใช่ Bloodaxes ของชั้นพวกพ่อค้าคงไม่กล้าเดินทางมาที่นี่แน่ 

Clive – เข้าใจล่ะ เป็นบริการที่ดีสำหรับโรซาเรียเลยจริงๆ 

Martha – เหมือนกับที่คุณทำในวันนี้ คือการเป็นคนที่มีประโยชน์ เอ้านี่ รางวัลของคุณ

พนักงานโรงแรม – และชั้นจะมีของอร่อยๆให้คุณตอนคุณแวะมาวันหลังด้วยค่ะ

Martha – เอาล่ะ เลิกฉ้อเลาะ เรามีงานต้องเคลียร์ทำความสะอาดที่นี่ให้เรียบร้อย รีบไปจัดการก่อนที่ชั้นจะซัดเธอด้วยไม้ถูพื้น 

 

 

ทหารรับจ้าง Bloodaxes – นายคือคนที่ช่วยจัดการไอ้พวกโจรนั่นใช่ป่ะ? Martha เล่าให้ทุกคนฟังหมดแล้ว ผู้กล้าที่เผชิญอันตรายด้วยจิตใจที่ดีงาม ชั้นล่ะนับถือเลยจริงๆ

Clive – คารวะแบบโรซาเรี่ยนหรอ?

 ทหารรับจ้าง Bloodaxes – พูดว่าไงดีนะ มันเคยชินอ่ะนะ นิสัยเก่าแก้ยากหวังว่าจะเอาไปฟ้องท่านอุปราชหรอนะ ฮ่าๆ ถ้าเรามีคนแบบคุณมากกว่านี้ โรซาเรียอาจจะยังอยู่ ยังไงก็ขอบคุณนะที่ช่วยที่นี่เอาไว้ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ

 

 

Objective > คุยกับ Gav ที่ The Hideaway

 

 

                            The Hideaway 

                     Central Storm , Deadland 

 

 

Gav  - แหม่ๆ เหมือนจะมีคนใจร้อนรีบไปนะเนี่ย 

Clive – ก็แค่ทำตามคำสั่งแค่นั้นเอง ...

Gav  - ตลก ปกตินายไม่เคยเป็นคนแบบนี้

Clive – ใครจะไปเชื่อฟังได้เท่านายล่ะ Gav 

Gav  - ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

 

 

Cid – ถือว่าเป็นวันที่ดีสำหรับมุขตลก จริงมั๊ย?

Clive – เรามากับครบแล้วใช่มั๊ยครับ?

Cid – จริงๆแล้วจะบอกว่า งานนี้ Gav จะไม่ได้ไปด้วยหรอกนะ

Jill – งั้นเราก็ไปแค่ 3 คนเนี่ยนะ?

 

 

Cid – Drake’s Head เป็นจุดสำคัญที่สุดของพวกจักรวรรดิ ถ้าสำเร็จ Oriflamme ซึ่งเป็นเมืองหลวงได้โกลาหลแน่ แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเราจะลอบเข้าไปถึงนางได้ง่ายๆหรอกนะ ยิ่งใช้คนน้อยลงเท่าไหร่โอกาสสำเร็จก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น อย่างน้อยถ้าแผนล้มเหลวเราก็ใช้ Eikons ในการหนีได้ 

Clive – แต่ Cid คือ ผมยังไม่แน่ใจเลยว่าจะควบคุมเขาได้มั๊ย Ifrit ยังไปๆมาๆตามใจอยู่

Cid – โดยปกติแล้ว Eikons ก็เหมือนดินระเบิดของ Dominant อยู่แล้วล่ะ แม้นายจะเป็น Dominant ที่ไม่ปกติก็เถอะ 

Gav  - แหม่ ก็เขายังได้รับพรจากฟินิกซ์ด้วยนี่ จริงป่ะ?

Cid – ยังไม่รวมที่ดึงออกมาจาก Garuda อีกนะ และชั้นเคยบอกนายไปแล้วนะว่าเขาก็ยังเคยเป็น โล่แห่งโรซาเรีย ด้วย รับประกันเลยว่า เขาจะตัดเส้นทางออกจากเมืองหลวงให้เราหนีได้ถ้าจำเป็นได้แน่นอน 

Clive – มาลองดูกันครับ 

Cid – เรามีโอกาสที่จะถูกจับได้น้อยลงถ้าแยกกันไป อีกสองสามวันไปเจอกันที่ Northreach ก็แล้วกัน 

 



Cid – …. และ เพื่อป้องกันนายสองคนทำตัวไม่เหมาะสม ... Jill มากับชั้น 

Clive – เฮ้อออ .... 

 

 

 

 

 

   Objective >เดินทางไปยัง เมือง Lostwing

 

 

 แล้วออกทางประตูทางออกเมืองทางทิศเหนือผ่าน Claireview มุ่งสู่ Northreach

 

 

Clive – ต่อไปก็ไปรวมกลุ่มกันที่ Northreach สินะ แต่ต้องรีบไปเจอ Cid กับ Jill ก่อนที่ Dame จะเจอตัว … จากที่ Otto เล่าให้ฟัง สังหรณ์ใจยังไงไม่รู้

 

 

   Objective >ใช้เส้นทาง Claireview มุ่งสู่ Northreach

 

 

Clive – พวกทหารเคยพูดถึงเรื่องซ่องโสเภณีหน้าเหนือของด่าน หวังว่า Dame อะไรนี่คงมีเพื่อนอยู่ทางใต้นะ 

 

 

                                     Northreach

                       The Holy Empire of Sanbreque

 

 

Objective > สำรวจหน้าด่าน Northreach จนเจอเสา Obelisk และหญิงสาวที่เป็นเป้าหมายของภารกิจ 

 

 

               Clive – ขอเวลาซักครู่ครับคุณผู้หญิง

 

 

หญิงสาว – ครู่เดี๋ยวเองหรอ? ชั้นมั่นใจว่าคุณคงไม่ใช่เวลากับชั้นแค่ครู่เดียวแน่นอน คุณผู้ถูกตีตรา ..

Clive – ผมผิดเองแหละ โทษทีครับ 

 

 

หญิงสาว – ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ชั้นลองคิดๆดูแล้ว คุณไม่ค่อยมีกลิ่นอายของผู้ถูกตีตราในแบบของคุณเองเลยนะ ...ดอกไม้ .. Otto มีวิธีที่ทำให้ชั้นพอใจมากกว่า Cid เยอะเลยจะบอกให้ แล้วคุณล่ะ คิดว่าจะทำให้ชั้นพอใจได้มั๊ย ไคลฟ์ ?

 

 

Clive – คุณคือ The Dame งั้นหรอ?

หญิงสาว – ชั้นว่าเราปล่อยให้ชื่อที่ไม่มีตัวตนนี้สำหรับลูกค้าที่ชั้นไม่ค่อยชอบหน้าจะดีกว่านะ

 

 

Isabellle – เรียกชั้นว่า อิสซาเบล เถอะ Otto บอกชั้นแล้วว่าชั้นเชื่อใจคุณได้ ชั้นเชื่อใจคุณได้ ใช่มั๊ย?

 

 

Clive – คุณเชื่อใจผมได้แน่นอน ว่าแต่ ทำไมคุณถึง ... 

Isabellle – ช่วยคุณ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เราควรทำไงล่ะ เมื่อนานมาแล้ว Cid ให้ความเมตตากับชั้นแบบที่ไม่เคยมีใครทำให้มาก่อน ชั้นไม่มีวันลืมวันนั้นแน่นอน ถ้าไม่มีเขาในวันนั้นก็คงไม่มีชั้นในวันนี้ ชั้นจึงตั้งใจจะตอบแทนเขาในทุกครั้งที่ชั้นทำได้ 

 

 

Isabellle – นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ขวางระหว่างคุณกับอะไรก็ตามที่คุณกำลังแสวงหาในเมืองหลวงศัดิ์สิทธิ์ เกรงว่าทหารยามคงจะไม่ปล่อยผู้ถูกตีตราที่ไม่มีนายผ่านเข้าไปง่ายๆ..

Clive –เว้นแต่ว่าอะไรหรอครับ?

 

 

Isabellle – เว้นแต่ว่า เจ้านายของคุณจะพาเข้าไปยังไงล่ะ ใช่ นั่นหละวิธีที่ง่ายและดีที่สุดแล้ว แต่ ... ชั้นไม่ได้จะช่วยฟรีๆหรอกนะ

 

 

Clive – ดะ เดี๋ยวสิ นี่คุณกำลังจะทำอะไรเนี่ย?

Isabellle – จุ๊ๆๆ ชั้นไม่อยากให้ใครเห็นว่า ทำไมชั้นทนกับผู้ถูกตีตราที่ไม่ยอมเชื่อฟังของชั้นได้หรอกนะ

 Clive – คนที่ตีตรานี้กับผมมันก็ไม่ใช่เจ้านายผมมากไปกว่าคุณหรอกนะ

Isabellle – ตั้งแต่คุณได้ตรานี้มาคุณก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากรับมา แต่วันนี้ ชั้นจะทำให้ตรานั่นให้สิ่งที่คุณต้องการแน่นอน ... ก็แค่เล่นตามเกมส์ไปก็เท่านั้นเอง 

 

 

ทหารยาม – อ่า มาดาม จะกลับไปที่ The Veil แล้วหรอครับ?

Isabellle – แน่นอนสิจ๊ะ แล้วเราก็พร้อมให้บริการพวกนายแล้วนะ 

ทหารยาม – แล้วไอ้หมอนี่ใครหรอครับ?

Isabellle – ทำไมหรอ? ก็ผู้คุ้มกันคนใหม่ของชั้นไง ถนนไม่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงและพวกรอยัลลิสต์หรอกนะ 

ทหารยาม – อ่อ อย่าใช้งานมันหนักนักล่ะครับ ฮ่าๆ

Isabellle – นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณแล้วล่ะ เจอกันตอนอาทิตย์ตกนะจ๊ะ

 

 

ทหารยาม – เดี๋ยวก่อน!! … ก็แค่ไอ้พวกถูกตีตราสวะๆทั่วไปแหละวะ แต่โชคดีชิบเป๋งเลยที่ได้ทำงานกับ the Dame …รีบไปให้พ้นๆหน้าได้แล้วไป๊ !!

 

 

Isabellle – ไม่เลวเลยนี่

Clive – ไม่เลวเลยงั้นหรอ? พวกมันอาจจะจำผมได้ก็ได้นะ

Isabellle – แต่ก็จำไม่ได้ไม่ใช่หรอ แต่ถึงจะจำได้พวกเขาก็จะไม่ทำอะไรหรอก ทหารรักษาการณ์พวกนั้นเป็นลูกค้าที่ดีของชั้น เรามี ...ข้อตกลงร่วมกันอยู่ เหมือนกับคุณกับชั้นตอนนี้ไง เอาล่ะ ถ้าสนใจก็ตามชั้นมา เรามีเรื่องที่ต้องคุยกับที่ The Veil 

Clive – อย่างกับชั้นมีทางเลือกนักนี่ ...

 

 

Isabellle – ถ้ามีใครบอกว่าจะให้เธออยู่เป็นเพื่อบอกไปว่าเธอไม่สบายนะ

 

 

ชายหนุ่ม – เอ่อ ผมขอสาวๆมาช่วยผมเตรียมอ่างน้ำซักคนได้มั๊ย?

Isabellle – ไม่จำเป็น !!

 

 

Isabellle – อ้าว ไคลฟ์ที่รัก มาแล้วหรอ?  ขอต้อนรับสู่ The Veil นะคะ

 

 

Clive – ขอบคุณที่อุตสาหมองเห็นผมเข้ามานะครับคุณผู้หญิง ผมเป็นหนี้คุณอยู่

Isabellle – แหม่มาถึงก็เข้าประเด็นเลยนะ บอกแล้วไงว่าให้เรียกว่า อิสซาเบล ไง อะไรทำให้คุณตึงเป๊ะขนาดนี้เนี่ย รับรองว่าไม่ใช่ได้อธิพลมาจาก Cid แน่นอน 

Clive – เห็นคุณบอกว่าไม่ได้ช่วยฟรี แล้วคุณต้องการให้ผมช่วยทำอะไรงั้นหรอ? ผมไม่อยากให้เพื่อนผมคอยนานน่ะ

Isabellle – ถ้าคุณหมายถึง Cid กับผู้หญิงคนนั้น ไม่ต้องห่วงหรอก พวกเขายังมาไม่ถึงจุดนัดพบเลย และ otto บอกให้ชั้นอำนวยความสะดวกพวกเขาอย่างดี หายห่วงน่า และ ใช่ค่ะ ชั้นอยากให้คุณช่วยหน่อย อยากให้ช่วยตามหาคนให้หน่อย เป็นหนึ่งในสาวๆของชั้นเอง นางชื่อ Tatienne หายไปหลายวันแล้ว ชั้นกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเธอ

 

 

Clive – ผมรู้สึกว่า ผมอาจจะใช้เวลาทั้งชีวิตกับงานค้นหาคนหายนะ ทั้งที่ผมไม่เคยบอกเลยว่าเก่งด้านนั้นซะหน่อย

Isabellle – ชั้นเชื่อค่ะว่าคุณจะทำให้ดีที่สุดแน่นอน แล้วก็ เอานี่ไปด้วย 

 

 

Isabellle – ตรา Moon & Star เพื่อพิสูจน์ความเชื่อนั้น และและหวังว่าจะเพียงพอที่ละสายตาจากการมองใบหน้าหล่อเหลาของคุณอย่างใกล้ชิดเกินไป เอาล่ะ ชั้นมีธุระที่ต้องทำที่ Iron Flagon นิดหน่อย ถ้ามีอะไรคืบหน้าก็ไปหาชั้นที่นั่นก็แล้วกัน 

 

 

                            📒 Quest : The Dame 

 

 

สาวใน The Veil – คุณใส่เข็มกลัดของ Dame แสดงว่าเธอเชื่อถือคุณมากแน่ๆ

Clive – มากพอที่จะให้ผมตามหาเพื่อนร่วมงานของคุณ เธอชื่อ Tatienne 

สาวใน The Veil – งั้นก็แสดงว่าเธอยังไม่กลับมาสินะ

Clive – คุณพอจะเห็นนางก่อนหายตัวไปบ้างมั๊ย?

สาวใน The Veil – วันก่อนที่เธอหายไปชั้นเห็นเธอร้องไห้ เห็นว่าเธอทำหวีซึ่งเป็นของขวัญที่ได้จาก Dame หายไป มันอาจจะไม่หรูหราอะไรแต่มันมีความหมายกับโลกของเธอ Tatienne เธอเป็นเด็กกำพร้าที่มอง Dame เสมือนแม่เหมือนเราทุกคน 

Clive – เธอก็เลยเสียใจ 

สาวใน The Veil – ชั้นไม่มีโอกาสได้ปลอบเธอเลย แต่บางคนอาจมีโอกาส Tatienne แชร์ห้องกับเพื่อนของเธอ นั่นไงคนที่นั่งอยู่ริมสระน้ำนั่นไงคะ

 

 

เพื่อนร่วมห้อง Tatienne – คุณนี่เอง ผู้คุ้มกันคนใหม่ที่สาวๆเค้าพูดถึงกัน คุณจะออกไปทำงานข้างนอกหรอ อย่าให้เครียดก่อนจะถึงงานจริงคืนนี้ล่ะ

Clive – คุณเป็นเพื่อนร่วมห้อง Tatienne งั้นหรอ? เธอได้พูดอะไรกับคุณบ้างมั๊ยก่อนหน้านี้ 

เพื่อนร่วมห้อง Tatienne – ก่อนที่เธอจะหายตัวไปใช่มั๊ย? สิ่งเดียวที่เธอต้องการคือ ไปพบใครบางคน เธอไม่เคยบอกชื่อคนๆนั้นแต่ชั้นพอเดาได้ว่าเธอหมายถึงใคร เขาเป็นเด็กหนุ่มจากกองทหารรักษาการณ์ เขาค่อนข้างทำตัวงี่เง่า เขายอมทุ่มทุก Gil เพื่ออยู่กับ Tatienne และเล่นงานทุกคนที่มาซื้อเวลาของเธอ ชอบตามเธอไปทุกที่อย่างกับหมาหลงทาง แรกๆ Tatienne ก็ชอบแต่พอนานไปเธอก็เริ่มกลัว เธอคงไม่อยากบอกใครโดยเฉพาะ Dame ที่พาเธอเข้ามาที่นี่อย่างภาคภูมิใจ เธอคงไม่อยากให้นางผิดหวังในตัวเธอ

Clive – เธอเคยเห็นทหารคนที่ว่ามั๊ย?

เพื่อนร่วมห้อง Tatienne – เห็นสิ เขาพยายามจะบุกเข้ามาในห้องของเราหลายครั้ง เขามีบาดแผลที่ตาข้างนึง เห็นบอกว่าได้มาจากการต่อสู้

Clive – ข้อมูลของคุณช่วยได้มากเลยครับ 

เพื่อนร่วมห้อง Tatienne – อย่าปล่อยให้เขาหนีไปได้นะ ตามหาเขาแล้วอาจจะเจอเธอก็ได้ 

 

 

Clive – โทษครับ ผมมาตามหาชายที่มีแผลที่ตาน่ะ

ทหาร – ตามหาผู้ชาย! นี่แกคิดว่าที่นี่เป็นซ่องรึไงไอ้พวกถูกตีตรา? ไปไกลๆตีนเลยไป!!

ทหาร – ระวังปากหน่อยเพื่อน เขาใส่เข็มกลัดของ Dame ถ้าเขาเอาเรื่องเราไปฟ้อง ประตู The Veil ปิดใส่หน้าเราแน่นอน 

ทหาร – เอ่อ ขอโทษที ชายคนเดียวที่มีแผลที่ตาก็คงเป็น Yannick แหละ แต่ชั้นก็ไม่เห็นเขานานแล้วเหมือนกันนะ 

ทหาร –  หลายวันก่อนเห็น Yannick บอกว่าเขากำลังไปติดต่อทำการค้าที่ Moore นะ 

Clive – ขอบคุณมากครับ  ....Moore หมู่บ้านสุดท้ายบนถนนสู่ Oriflamme ชั้นว่าควรจะบอก อิสซาเบล ให้รู้ว่าชั้นกำลังจะไปที่ไหน

 

 

Isabellle – ไคลฟ์ บอกชั้นทีว่าคุณมีข่าวดีเกี่ยวกับ Tatienne

Clive – เรื่องทั้งหมดที่ผมสืบมาได้มันเป็นแบบนี้ครับ ....................

Isabellle – โธ่เอ้ย ... Tatienne เธอน่าจะบอกชั้น ...

Clive – Yannick ทหารคนที่ผมพูดถึง เขาอยู่ที่ Moore พวกของเขาบอกว่าเขาจะไปติดต่อการค้ากับพ่อค้าที่นั่น แต่เหมือนจะไปนานเกินไปเหมือนกัน

Isabellle – คุณก็เลยวางแผนจะไปสืบที่ Moore ต่อสินะ 

 

 

Clive – คุณไม่อยากให่ทำแบบนั้นงั้นหรอ?

Isabellle – ก็เอ่อ การที่จะให้คุณไปที่นั่นอาจได้ไม่คุ้มเสียเพราะคนที่ Moore ค่อนข้างมีความเป็นตัวเองสูง พวกเขาเกลียดพวก Bearers เอามากๆ และมีโอกาสที่เขาจะแจ้งพวกทหารเมื่อเห็น Bearers อย่างคุณ

Isabellle – แต่ก็มีคนที่ Moore ที่เป็นหนี้บุญคุณชั้นไม่น้อยเหมือนกัน คนนึงเขาชื่อ Bertrand ทำงานในคอกโจโคโบะ บอกเขาว่าชั้นส่งคุณมา เขาจะช่วยคุณเอง 

Clive – ถ้าผมได้เรื่องอะไรจะกลับมาบอกคุณก็แล้วกันนะ

 

 

                       Northreach Sidequest Unlocked 

 

The Want Beyond the Wall

Friend of the People 

Pride comes before a Fall 

 

 

 

                 📗 Sidequest – The Want Beyond the Wall

 

รางวัล

Exp – 18 

Gil – 1000 

item

Steelsilk

Bloody Hide 

 

 

 

พ่อค้า Etienne – เอ่อ ผมเห็นคุณใส่เข็มกลัด Moon & Star แสดงว่าคุณเป็นคนของ Dame ใช่มั๊ยครับ?  ผมอยากรบกวนขอความช่วยเหลือหน่อยได้มั๊ย แน่นอนผมมีค่าเหนื่อยให้ด้วยครับ 

Clive – แล้วคนที่จะให้ผมช่วยคือใครก่อนครับ

พ่อค้า Etienne – ฮ่า ๆๆ ขอโทษทีครับ ผม Etienne เป็นพ่อค้าผู้ถ่อมตัว แต่ก็โชคดีพอที่ได้รู้จักกับ Dame น่ะครับ คือ ผมมีธุรกิจที่ต้องซื้อขายนอกกำแพงนิดหน่อย แล้วพวกทหารยามก็ชอบขี้สงสัยด้วย ตอนนี้ส่งของช้ามากแล้ว จะดีมากถ้ามีใครไปส่งแทนผมให้หน่อย และคงไม่มีใครเหมาะเท่าคนที่ทำงานให้ The Veil อีกแล้ว รบกวนช่วยสละเวลาช่วยผมหน่อยได่มั๊ย?

Clive – ได้สิ

พ่อค้า Etienne – อ่า เยี่ยมเลย งานก็ง่ายๆผ่านประตูด่านออกไปส่งของให้ลูกค้าผมสองสามคนแค่นั้นแหละ มีคนขายของชำ , คนปรุงยา แล้วก็คนกลั่นเหล้า คุณก็แค่บอกว่า ของที่คุณพกมานั้น “สดจากโต๊ะของเจ้านาย” แค่นั้นแหละ

Clive – ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายใช่มั๊ย?

พ่อค้า Etienne – ไม่แน่นอน ก็แค่เรื่องเล็กน้อยๆที่ชาวบ้านนอกกำแพงชอบกันเท่านั้นเอง แต่ถ้าคุณคิดจะแอบดูของแนะนำว่าอย่าดีกว่า ย้ำเลยว่า อย่า  

 

 

Objective > นำของจากพ่อค้าไปส่งให้พ่อค้านอกกำแพงด่าน 3 คน

 

 

นายช่าง – มาทำบ้าอะไรแถวนี้ไอ้คนโดนตีตรา ไปเลย ชิ้วๆๆๆ 

Clive –  ผมเอาของจาก Etienne มาส่ง .... “สดจากโต๊ะของเจ้านาย”

นายช่าง – โธ่แล้วก็ไม่บอก ..ฮีๆๆ เวลาที่ยากลำบาก แต่นี่จะทำให้มันน้อยลง อย่างน้อยก็ซักแปบอ่ะนะ ขอโทษด้วยที่ตอนแรกพูดไม่ได้ด้วย รอแปบนะ . เอ้านี่ ...บอก Etienne ด้วยว่าชั้นเป็นคนรักษาคำพูดเสมอ 

Clive –  น้ำหอม หรอ?

นายช่าง – ที่สุดแห่ง Oriflamme ตามที่สัญญาไว้ 

 

 

คนขายสมุนไพร – ชั้นไม่มีธุระกับพวกถูกตีตราเว้ย 

Clive –  แต่ผมมี .. นี่จาก Etienne .... “สดจากโต๊ะของเจ้านาย”

คนขายสมุนไพร – ชั้นไม่รู้จักนาย แล้ว Etienne ไปไหน!

Clive –  อีกฝากของกำแพง เดาว่าเขาคงไม่อยากจ่ายให้ทหารยาม เลยให้ชั้นมาส่งแทน 

คนขายสมุนไพร – หรอ งั้นเอาของมา …นี่มันเบากว่าเดิมนี่ ไอ้คนถูกตีตรา แกหลอกชั้นหรอ?

Clive –  ไม่เอาก็คืนได้นะ ผมจะได้ส่งกลับ 

คนขายสมุนไพร – ไม่ต้อง!! อวดดีนะแกระวังจะโดนนายแกตัดลิ้น หากแกหลอกชั้นล่ะก็ชั้นแจ้งจับแกแน่ . เอ้านี่ …แล้วไสหัวไปซะ !!

Clive – ซิก้าร์หรอ?

คนขายสมุนไพร – เออ แล้วซิการ์นั่นก็มีค่ามากกว่าชีวิตแกด้วย ถือดีๆ

 

 

แม่ค้าขายสุรา – เตือนไว้ก่อนนะ ชั้นไม่ขายให้คนแบบแก ต่อให้มีเงินก็ไม่ขาย เจ้านายแกไปไหน?

Clive –  ผมเอาของจาก Etienne มาส่ง

แม่ค้าขายสุรา – จริงดิ ไม่รู้นะว่าเขามี Bearer เป็นของตัวเองด้วย แบบนี้ธุรกิจบูมแน่นอน เอาล่ะ ส่งของมาเร็วก่อนที่พวกทหารจะมาเห็น ...และนี่ สำหรับ Etienne

Clive – ไวน์หรอ?

แม่ค้าขายสุรา – ไม่ใช่ไวน์ธรรมดานะ แต่เป็นของดีเลยล่ะ กลั่นพิเศษสำหรับลูกค้าชั้นดีของชั้น ถ้าพวกทหารเจอมันรับรองมันยึดไปทันทีแน่นอน เก็บรักษาดีๆล่ะ โอเค๊?

 

 

พ่อค้า Etienne – อ่า นายกลับแล้ว

Clive – นี่ของคุณครับ

พ่อค้า Etienne – โอ้ ขอบคุณมาก รับรองเลยว่า Dame ต้องดีใจแน่นอน 

Clive – นางจะดีใจมั๊ยถ้ารู้ว่าคุณต้องแลกของพวกนี้มาด้วยอะไร?

พ่อค้า Etienne – คริสตัล อ่ะนะ น่าอายตรงไหน?

Clive – ทำไมถึงไม่บอกผมแต่แรก?

พ่อค้า Etienne – การจะหลอกที่ดีต้องหลอกพวกกันเองก่อน ชั้นไม่อยากเสี่ยงให้นายตื่นเต้นที่ได้ถือของมีราคาตอนผ่านพวกทหาร จะโดนจับได้เอา และเราทั้งคู่ก็จะโดนข้อหา ขายคริสตัล โดยไม่ได้รับอนุญาต แน่นอน และพอนายไม่รู้ นายก็จะทำงานสบายขึ้น จริงป่ะละ? แม้จะเสี่ยง คนนนอกกำแพงก็ยังยอมเอาของที่ดีที่สุดของพวกเขาเพื่อแลกกับมัน 

Clive – ผมเพิ่งรู้ว่า คริสตัล เป็นของหายากสำหรับที่นี่ ?

พ่อค้า Etienne – หายากเหมือนฟันของโจโคโบะเลยล่ะ คุณคิดว่าผมเป็นคนไม่ดีที่หาประโยชน์จากความยากลำบากของคนอื่นล่ะสิ?

 Clive – ผมคิดว่า คุณกำลังทำในสิ่งที่เชื่อว่าจำเป็นต้องทำมากกว่า 

พ่อค้า Etienne – ใช่มั๊ยล่ะ และไม่ต้องสงสัยเลยว่า Dame ต้องเห็นด้วยแน่นอน ...และนี่คือรางวัลสำหรับคุณนะ 

 

 

 

                 📗  Sidequest – Friend of the People

 

รางวัล

Exp – 18

Gil – 1000

item 

Magicked Ash 25 

 

 

Mathieu – ผมไม่รู้มาก่อนเลยนะว่า Bearer ก็สวมเข็มกลัด Moon & Star ด้วย และขอบคุณพระเจ้าที่ผมเจอคุณ ผมเชื่อใจคุณได้ใช่มั๊ย?

Clive – เกี่ยวกับเรื่องอะไรครับ?

Mathieu – เกี่ยวกับความจริงที่ว่า Dame แห่ง the Veil พยายามช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากมาตลอด โดยเฉพาะพวก Bearer ที่ถูกพวกชนชั้นสูงของจักรวรรดิปฎิบัติด้วยความป่าเถื่อน 

Clive – ใช่ครับ ว่าแต่ คุณอยากให้ผมช่วยอะไร?

Mathieu – เมืองนี้เหมือนถูกพวก Bearer แบกไว้บนบ่า พวกเขาถูกใช้ให้ทำงานทุกอย่างด้วยความลำบากและอดอยากเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพื่อหวังรายได้แต่กำลังเล่นกับความทุกข์ยากของคนอื่น เป็นการกระทำที่โหดร้ายผิดธรรมดาเอามากๆ ถ้าเป็นในบ้านเกิดของผม พวกที่ชอบดูถูกเหยียดหยามเพื่อนร่วมชาติจะถูกตัดจมูกประจานแน่นอน แม้ว่าผมจะพยายามปิดเป็นความลับเรื่องการแอบช่วยเหลือพวกเขาก็ยังไม่วายแอบถูกสงสัยจับตามองตลอด ซึ่งนำไปสู่คำขอร้องผมในอิสระที่ผมไม่สามารถทำได้ 

Clive – ได้สิครับ คุณอยากให้ผมช่วยอะไรหรอ?

Mathieu – ขอบคุณมาก ผมมีอาหารมือพิเศษ ซึ่งอาจจะไม่ดีเลิศอะไรแต่แตกต่างจากสิ่งที่พวกกินมาตลอดแน่นอน เอานี่ อาหารที่ชั้นพอหาได้จากค่ายทหาร ช่วยเอาไปช่วยแอบๆแจกจ่ายให้ Bearer 3 คนที่กำลังหิวโหยเพราะถูกใช้งานอย่างหนักหน่อย ผมแอบเห็นพวกเขาถูกใช้งานโดยไม่ได้พักเลย น่าสลดใจ ผมไม่อยากให้ผู้คนมองเป็นการกระทำที่ไร้เมตตาของเรา ส่วนผมคงต้องรีบกลับเข้าเมืองหลวงก่อน พูดคุยกับคุณนานเกินไปไม่น่าจะเป็นผลดี 

 

 

Objective >นำอาหารจาก Mathieu ไปแจก Bearer 3 คน

 

 

Clive – ผมมีของมาให้ครับ 

Bearer – จาก เชมเบอร์ลิน หรอ? ขอบคุณนะคะ ..แต่คุณต้องรีบไปเดี๋ยวนี้ 

Blacksmith – เฮ้ย ไอ้คนถูกตีตรา ใครสั่งให้แกหยุด โหมไฟของแกต่อไปสิ ส่วนแกก็กลับไปเข้าคอกของแกได้แล้ว ไป๊!!

 

 

Clive – ดูเหมือนนายควรจะพักซักหน่อยนะ นี่อาหารของนาย 

Bearer – ขอบคุณครับ แต่ชั้นคงไม่กล้ากินที่นี่หรอก กลัวจะมีใครมาเห็นเข้า

Clive – มันแย่แบบนี้มาตลอดเลยหรอ?

Bearer – มันแย่กว่าก่อนที่ เชมเบอร์ลิน จะเข้ามาช่วยเหลือ ถ้าไม่ได้เขา ชั้นกับอีกหลายๆคนคงตายไปแล้วล่ะ 

 

 

  ครูฝึกทหาร - อ๊ากกก !!! พอได้แล้วไอ้ห่าเอ้ย ไปไกลๆตีนเลย 

 

 

Clive – รับนี่ไปสิ นายอาจต้องการมัน 

Bearer – โอ้ เชมเบอร์ลิน ฝากคุณมาหรอ? แต่น่าเสียดาย งานชั้นยังมีอีกเยอะเลย ถ้าไม่รีบไปรักษาพวกเขาคงตีชั้นแน่นอน 

Clive – แต่นายต้องพักนะ 

Bearer – พักไม่ได้หรอก ชั้นมีแผลที่ต้องรักษามีกระดูกที่ต้องต่ออีกเยอะเลย 

Clive – แล้วนายล่ะ บาดเจ็บอะไรหรือเปล่า?

Bearer – มันรอได้ เหมือนกับความหิวของชั้น แต่ก็ขอบคุณนะ 

 

 

Clive – คนเลี้ยงวัวยังมีความเคารพต่อวัวของเขามากกว่าที่จักรวรรดิดูแล Bearer อีก ...ยังไงซะ .. ลองไปหาข้อมูลต่อที่ The Veil ดีกว่า

 

 

หญิงสาวใน The Veil – ว่าไง? นายมาเรื่องงานหรือเพื่อความบันเทิงล่ะ?

Clive – เรื่องงานครับ แต่ไม่ใช่งานของผม เชมเบอร์ลิน ให้ผมช่วยเรื่องการส่งอาหาร 

หญิงสาวใน The Veil – อ่า ในที่สุดเขาก็หาผู้ช่วยได้ซักที อย่างที่ชั้นได้ยินมาเพื่อนของเขาคนที่แล้วที่ศาลให้ความสนใจเขาเป็นอย่างมากเลย 

Clive – เขาเป็น เชมเบอร์ลิน จริงๆหรอ? 

หญิงสาวใน The Veil – ตอนแรกที่เขามาใช้บริการของเรา พวกสาวๆคิดว่าเขาเป็นแค่ ลุงใจดี แค่นั้น เขาเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนึงที่รู้สึกไม่โอเคกับการที่พวกจักรวรรดิปฎิบัติกับ Bearer 

 Clive – หายากมากสำหรับคนในตำแหน่งแบบเขา 

หญิงสาวใน The Veil – สิ่งที่เขาทำจะไม่สูญเปล่าแน่นอน สำหรับ Dame แค่สะกิดนางนิดเดียวก็พอแล้ว และเขาจะเป็นนักบุญผู้อุปถัณภ์ผู้หิวโหยแห่ง Northreach สาวๆเพื่อนๆชั้นอาจเสียคุณลุงผู้ใจดีไปแต่พวก Bearer จะได้คนที่ดูแลเขาแทน เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เราจะไม่บ่นอะไรแน่นอน อย่างน้อยมันก็น่าจะเป็นเรื่องความเชื่อสำหรับคุณว่าอย่างน้อยๆคนแบบเขาก็มีอยู่จริงๆ รวมถึงคนแบบคุณด้วย ไม่แปลกที่ทำไม Dame ถึงแพ้ทางคุณนัก  

 

 

               📗 Sidequest – Pride comes before a fall 

 

รางวัล

Exp – 20 

Gil – 1100

item 

Meteorite  1 

 

 

Leon ทหารรักษาการณ์ – เฮ้ย นายของแกไปไหนไอ้คนถูกตีตรา แกไม่รู้หรอว่า สนามฝึกซ้อมมันไว้สำหรับทหารจริงๆอ่ะ !!

Robin ทหารรักษาการณ์ – กำลังหาอะไรอยู่หรอวะ โทษทีนะ กองทหารรักษาพระองค์น่าจะไม่เหมาะกับแกหรอกนะ ไร้สมองอย่างแกมันต้องทหารราบโว้ย 

Clive – ชั้นก็แค่ผ่านมาก็แค่นั้น 

Robin ทหารรักษาการณ์ – ดะ เดี๋ยวนะ ไอ้สารเลวนี่มันใส่เข็มกลัด Moon & Star ด้วยหรอเนี่ย?

Leon ทหารรักษาการณ์ – ว่าแล้วทำไมมันถึงกล้าวางมาดทำเป็นเจ้าของที่ขนาดนี้ 

Robin ทหารรักษาการณ์ – Dame ชอบหัวเราะเยาะเย้ยเราเวลาที่ไปคุ้มครองนาง แกว่าถ้าเอาชนะไอ้นี่ได้จะคุ้มค่าพอที่เป็นสุดยอดคู่หูของจักรวรรดิหรือเปล่าวะ?

Leon ทหารรักษาการณ์ – ลองซักตั้งก็ไม่เสียหลายนี่หว่า ว่าไงล่ะ เจ้าคนถูกตีตรา แสดงให้เราเห็นหน่อยดิว่าแกคู่ควรกับเข็มกลัดนั่นยังไง 

Clive – ไม่จำเป็นอ่ะ

Leon ทหารรักษาการณ์ – งั้นก็คงไม่ต้องสงสัยแล้วว่า คงมีแต่ทหารที่สุดกล้าหาญอย่างเราที่คู่ควรกับการดูแล Dame 

Clive – เฮ่อออ ... เออก็ได้ พวกนายวอนเองนะ 

Leon ทหารรักษาการณ์ – ดี งั้นให้เวลาแกไปเตรียมตัวให้พร้อมก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าเป็นการต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรม 

 

 

    Objective > เอาชนะทหารรักษาการณ์ Leon และ Robin ในการประลอง 

 

 

Robin ทหารรักษาการณ์ – พระเจ้า!! ไอ้สารเลวนี่มันเหงื่อไม่ออกด้วยซ้ำ 

Leon ทหารรักษาการณ์ – จะเป็นคนของ Dame หรือไม่เขาก็ยังเป็นพวกที่ถูกตีตรา อย่าให้จ่ารู้เรื่องนี้จะเป็นการดีที่สุด 

Robin ทหารรักษาการณ์ – ถึงว่าสิเขาถึงให้เราพักการฝึกซ้อม ที่แพ้นี่อาจเป็นเพราะหญ้ามันเก่าก็ได้ 

Clive – เฮ่อออ ...ชั้นว่าชั้นไปดีกว่า 

Leon ทหารรักษาการณ์ – เออ ไปไหนก็ไป อย่าน้อยๆชั้นก็รู้ว่า Dame ถูกดูแลอย่างปลอดภัยแน่นอน 

Robin ทหารรักษาการณ์ – นี่ๆ ช่วยอะไรเราหน่อยสิ ถ้านายจะเล่าให้ Dame ฟังถึงเรื่องนี้ ช่วยบอกว่าเราก็พอมีฝีมือนิดหน่อยก็ยังดี นะๆ 

 

 

 

Objective > เดินทางจากด่าน Northreach ผ่าน Royal Meadows เพื่อไปยังจุดหมายของภารกิจที่หมู่บ้าน Moore

 

 

                               Royal Meadows

 

 

Clive – Oriflamme ….. Bearers ต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหนเพื่อเติมเต็มยุ้งฉางให้พวกแก 

 

 

                                  หมู่บ้าน Moore

 

 

Clive – ถ้าชาวมัวร์จิตใจแคบอย่างที่อิซาเบลบอก ก็ไม่น่าแปลกใจที่จักรวรรดิไม่เคยส่งหน่วยของชั้นมาที่นี่เลย 

 

 

Clive – นายคือ Bertrand ใช่มั๊ย Dame ส่งชั้นมา 

Bertrand – ก็คงจะใช่อ่ะนะ ทุกครั้งที่ชั้นได้ยินชื่อนางนั่นแปลว่านางต้องการอะไรซักอย่างทุกที บอกมาเลยต้องการอะไร?

Clive – หนึ่งในสาวๆของ Dame หายตัวไป ชั้นถูกส่งมาให้ตามหานาง ทหารรักษาการณ์คนนึงที่น่าจะรู้เรื่องของเธอมาคุยธุรกิจกับพ่อค้าที่นี่ 

Bertrand – มีพ่อค้ามากมายที่เข้ามาเร่ขายของที่นี่เพราะเป็นเส้นทางระหว่างไปเมืองหลวง แต่เห็นพ่อค้าคนนึงมีเรื่องทะเลาะกับทหาร 

Clive – เขายังอยู่ที่นี่มั๊ย?

Bertrand – พ่อค้านั่นน่ะหรอ? ยังอยู่ ยืนขาแข็งให้ทหารด่าอยู่นานเลย จากที่ชั้นได้ยินนะ ประเด็นคือ คนที่นี่พร้อมจะแขวนคอพวกคนที่ถูกตีตรามากกว่าจะช่วยเขา แม้ว่าจะมีเข็มกลัดของ Dame ก็เถอะ 

 

 

พ่อค้า – มีอะไรไอ้คนถูกตีตรา เจ้านายแกไปไหน? จะต้องให้ชั้นเรียกทหารมาจับมั๊ย?

Clive – ผมมาจาก Northreach Dame ส่งผมมา บางที่คุณอาจเคยได้ยินชื่อของเธอบ้าง 

พ่อค้า – แน่นอน รู้จักสิ นางเป็นสุภาพสตรีที่ดีมากๆ แล้ว เธอต้องการอะไรจากชั้นรึ?

Clive – มีข่าวบอกว่าคุณเคยโต้เถียงกับทหารที่มีแผลที่ตาเมื่อสองสามวันก่อน

พ่อค้า – ใช่ ผมเองแหละ ก็เขามีหวีที่อ้างว่าเป็นของเก่าแล้วอยากจะมาแลกเป็นของใหม่ แต่ถึงมันจะเก่าแต่มันไม่มีราคาอะไร เจ้าทหารนั่นก็พยายามจะเถียงว่ามันมีราคาก็เลยทะเลาะกัน แต่สุดท้าย พอเห็นผมยังยืนยันว่ามันขายไม่ได้ราคา เขาเลยยอมซื้อหวีอันใหม่แม้มันจะแพงก็ตาม

Clive – แล้วคุณรู้มั๊ยว่าเขาไปไหนต่อ?

พ่อค้า – โอ้ย ลูกค้าผมส่วนใหญ่เขาก็ไม่ได้มาบอกหรอกว่าจะไปจู๋จี๋กับสาวที่ไหน แต่ถ้าถามผม ซากปรักหักพังนั่นน่าจะเหมาะที่จะทำอะไรแบบนั้นอ่ะนะ 

Clive – ขอบคุณมาก 

พ่อค้า – ไม่เป็นไร ผมทำทุกอย่างได้เพื่อ Dame ไม่ว่าอะไรก็ตาม แต่ก็อย่าลืมบอกเธอล่ะว่าผมช่วย นั่นจะช่วยผมได้มากๆเลย 

 

 

Objective > เดินทางไปที่จุดหมายภารกิจที่ซากปรักหักพัง กำจัด Bloated Wolf ที่กำลังกินซากศพอยู่ให้หมด 

 




Clive – พวกหมาป่ากำลังยุ่งกับสิ่งนี้อยู่นั่นเอง ดูจากคราบเลือดที่แห้งกรัง น่าจะเสียชีวิตนานแล้ว ... หวีนั่น ... นี่คือเธอสินะ Tatienne

 

 

ทหารรักษาการณ์ – ถ้านั่นเป็นเธอจริง ทหารที่นอนตายข้างก็คงเป็น Yannick  หญิงสาวที่ Yannick ออกไปเดินเล่นด้วยทุกคืน เขาบอกว่านางชื่อ Tatienne

Clive – คุณตามผมมาหรอ?

ทหารรักษาการณ์ – ทำไมชั้นถึงต้องทำหรอ ก็เพราะชั้นถูกส่งให้ออกมาตามหา Yannick และจากที่เห็น ดูเหมือนชั้นจะเจอแล้วอ่ะนะ 

Clive – งั้นเราทั้งคู่ก็ได้เจอคนที่เราตามหาแล้ว 

ทหารรักษาการณ์ – เขาเป็นคนขี้หึง คงทนไม่ได้ถ้าผู้หญิงของเขามีคนอื่น วันนั้นเขาเห็นเธอมีหวีอันใหม่ก็เลยคิดว่าเธอมีคนใหม่ก็เลยบอกเพื่อนๆว่าจะตามหาและฆ่ามันให้ได้ ชั้นรู้แค่ว่าเขาจะมานัดพูดคุยที่ Moore แล้วเขาก็หายตัวไป ไม่กล้บมาเลย 

Clive – ถ้าคุณหมายถึง หวี นี่ มันเป็นของขวัญจาก Dame ที่ให้เธอ

ทหารรักษาการณ์ – ถ้า Yannick ถามก่อนซักนิด ก็คงไม่ .......

Clive – เขาคงจะขโมยหวีของเธอไปขายเพื่อจะซื้ออันใหม่ให้เธอ เพื่อขอแต่งงาน  

 

 

ทหารรักษาการณ์ – แต่งงานหรอ? พวกเขาจะไปไหนต่อหรอ? คงไม่ได้กลับไปที่ Northreach ที่มี Dame รออยู่แน่นอน และเรารู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับทหารรักษาการณ์ ฝากบอก Dame ด้วยว่าเราเสียใจที่ต้องเสียเธอ เดี๋ยวถ้าผมส่งคนมาเก็บศพ Yannick เสร็จแล้วจะส่ง Tatienne กลับไปที่ The Veil เอง 

Clive – มันจะดีหรอ?

ทหารรักษาการณ์ – เราจะไม่ปกปิดเรื่องนี้ สิ่งที่เราอยากให้เกิดขึ้นมากที่สุดคือ ไม่อยากให้ Dame ถือโทษโกรธเรา เอ่อ พูดถึงเธอก็นึกขึ้นได้ ผมเห็นเธอมาที่หมู่บ้าน Moore เมื่อครู่นี้เอง ยังไงก็ช่วยเล่าให้เธอฟังหน่อยได้มั๊ย มันคงจะดีกว่าถ้าออกจากปากนาย 

 

 

Isabelle – โอ้ ดูเหมือนคุณยังปลอดภัยดี ชั้นจะมาบอกว่า เพื่อนของคุณมาถึงที่จุดนัดพบแล้วนะ พวกเขาให้คุณไปเจอที่โบสถ์เล็กๆทางตะวันออกของที่นี่

Clive – ขอบคุณมากครับ แต่คุณไม่ต้องเดินทางมาบอกเองถึงที่นี่ก็ได้ ยังไงผมก็จะไปหาคุณอยู่ดี 

Isabelle – แล้ว คุณเจอ Tatienne รึยัง ?

Clive –  …………………………..

 

 

Isabelle – โธ่... Tatienne ของชั้น ..ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลูกค้าจะหลงรักโสเภณี โดยเฉพาะลูกค้าที่อายุยังน้อยและมาไกลจากบ้าน น้อยครั้งมากที่เรื่องแบบนี้จะจบลงด้วยความสุข 

 

 

Clive –  ผมเจอสิ่งนี้อยู่กับ Tatienne คิดว่าคงเป็นของคุณ

Isabelle – ขอบคุณที่เอามาคืนให้ชั้นนะ ชั้นจะเผามันไปพร้อมกับศพของเธอ

Clive –  ผมคงต้องไปแล้วนะ 

Isabelle – ก่อนที่คุณจะไป ชั้นมีของขวัญอีกชิ้นจะให้เพื่อเป็นการขอบคุณ The Veil เป็นผู้สนับสนุนของเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของจักรวรรดิหลายคน จากคำบอกเล่าของคนปากโป้งคนนึง ดูเหมือนว่ากองทัพจักรวรรดิกำลังเตรียมยกทัพลงใต้

Clive – Otto ก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน 

Isabelle – แล้วเขาบอกหรือเปล่าไม่ใช่แค่กองทหาร แต่ทั้งหมดเลย ชั้นคิดว่านี่ไม่ใช่การยกทัพไปทำสงคราม แต่ดูเหมือนจักรพรรดิกำลังจะทิ้งเมืองหลวง แต่จริงหรือเปล่ายังไม่ได้รับการยืนยัน ...ยังไงก็ ดูแลตัวเอง เดินทางปลอดภัยนะ ไคลฟ์

 

 

 

                         Moore Sidequest Unlocked 

 

Plaything 

All Bark 

 

 

 

                            📗  Sidequest – Plaything

 

รางวัล

Exp – 18 

Item

Magicked Ash 

 

 

Lisette – ฮือออๆๆ คุณเห็น Chloe ของหนูมั๊ยคะ? หนูปล่อยออกจากคอกมาตอนหนูกำลังทำงานบ้าน ตอนนี้ยังไม่กลับมาเลยค่ะ เธอกลัวจะหายไปจัง คุณช่วยตามหา Chloe ให้หนูหน่อยได้มั๊ย?

Clive – จะลองดูให้นะ แต่ไม่รับปากนะว่าจะเจอหรือเปล่า ไหนลองบอกลักษณ์ของมันมาสิ

Lisette – เธอมีขนสีขาวสวย เธอชอบให้ชั้นลูบตอนเสียใจ และเธอเป็นเด็กดีมาตลอดเลย เงียบๆแต่ใจดี เธอชอบวิ่งเล่นที่ทุ่งข้าวสาลี หนูรู้ว่าทุ่งมันกว้างแต่เธอก็ไม่เคยหลงมาก่อนเลยนะ เธอกำลังหิวด้วย ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว หนูเป็นคนมีหน้าที่ให้อาหารเธอเองค่ะ

 

 

ชาวไร่ – หืมม พวกถูกตีตรา เป็นคนต่างถิ่นด้วยใช่มั๊ยถ้าให้เดา จะให้ช่วยอะไรหรอ? ว่ามา 

Clive – มีเด็กในหมู่บ้านให้ผมมาตามหาสัตว์เลี้ยงของเธอ ชื่อ Chloe ไม่ทราบว่าคุณพอจะเห็นบ้างมั๊ย?

ชาวไร่ – Chloe หรอ? อ๋อ สัตว์เลี้ยงของยัยหนู Lisette อ่ะนะ ครั้งล่าสุดที่เห็นน่าจะแถวๆกังหันลมนะ 

 

 

Clive – Chloe !! แต่ อืมมม มีขนสีน้ำตาลกับขาว แกไม่ใช่ Chloe ใช่มั๊ย?

 

 

แล้วแกเห่าอะไร? ห๊ะ ... เหมือนมีคนนอนอยู่ แอบงีบตอนทำงานหรอ? หวังว่าเขาคงไม่ว่าถ้าเข้าไปขัดจังหวะนะ 

 

 

Clive – คำสาปคริสตัลสินะ ....

Lisette – Chloe ชั้นเรียกหาเธอตั้งนาน ไม่ได้ยินหรอ?

Clive – ห๊ะ? อะไรนะ !?

Lisette – ตื่นได้แล้ว เธอนอนนานไปแล้วนะ ได้เวลากลับบ้านแล้ว Chloe ทำไมถึงกลายเป็นหินเนี่ย ชั้นแค่ให้เธอเล่นกลให้ดูนิดหน่อยเอง เธอก็รู้ว่าเธอเป็นตัวโปรดของชั้นนะ ไม่มี Chloe ตัวไหนที่ขนสวนเท่าเธอเลย อีกหลายเดือนเลยก่อนที่พ่อจะให้ตัวใหม่กับชั้น ต้องรอให้หมดแรงทำงานไม่ไหวกันนั่นแหละ 

 

 

Clive – เห็นเธอเป็นของเล่นของเธองั้นหรอ? ขนาดที่ตายก็ยังไม่สนใจเลยสินะ!

Lisette – เธอไม่ได้ตาย เธอแค่แปลงเป็นหิน

Clive – นั่นเขาเรียก คำสาปคริสตัล และนั่นแปลว่า ตาย!! และเธอจะไม่ฟื้นขึ้นมาแล้ว จะตั้งชื่อ Bearer คนใหม่ว่า Chloe อีกมันก็ไม่เปลี่ยนอะไรหรอก!!

Lisette – ไม่ๆๆ อย่าพูดแบบนั้นสิ

Clive – มันคือเรื่องจริง ถ้าเธอไม่มีตรานั่น เธอก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงคนนึง เป็นลูกสาวของใครซักคนเหมือนกับเธอ

Lisette – แต่พ่อบอก Bearer ไม่มีครอบครัว ....

Clive – มีสิ ทุกคนมีครอบครัว แต่ถูกพรากมา ทำให้ไม่ได้เจอกันอีก!!! และตอนนี้เธอเป็นครอบครัวของ Chloe ตั้งแต่วันที่รับเธอเข้ามา จดจำเธอเอาไว้ อย่าได้ลืม!!

 

 

Lisette – ฮือออๆๆๆ หนูขอโทษ ... ชั้นเสียใจ Chloe ฮื้อออออ..

 

 

 

                          📗 Sidequest – All Bark

 

 

Benoit – มาช้าจัง มัวแต่ทำอะไรอยู่วะ?

Clive – มาช้าอะไร?

Benoit – พวกเขาไม่ได้บอกแกรึไงว่าไอ้พวกสัตว์พวกนั้นมันกำลังเล่นงานลูกชั้นอยู่ มัวแต่ยืนบื้ออยู่นั่นแหละ รีบไปช่วยเขาสิ เร็วๆ !!

Clive – ก็ได้ แล้วเขาอยู่ไหน?

Benoit – ว้าว พูดจา ดูสิเขาส่งพวกถูกตีตราอะไรมาให้ชั้นเนี่ย ลูกชั้นอยู่ทางนู้นตรงชายฝั่ง รีบไปฆ่าพวกสัตว์ร้ายพวกนั้นซะ !!

 

 

             Objective > เข้าไปจัดการ Rabid Wolf เพื่อช่วยเด็ก

 

 

Denis – ไม่นะ !! นี่แกฆ่าหมาชั้นทำไม !! ชั้นจะฆ่าแกให้ตายเลยคอยดู!! พ่อชั้นจะตีแกแน่ Bearer ต้องไม่ชนะ พวกมันไม่เคยชนะ !!! อย่ามองชั้นแบบนั้นสิ เราก็แค่เล่นสนุกกันเท่านั้นเอง 

Clive – แค่เล่นสนุกงั้นหรอ?

Denis –  ทำไมแกพูดแบบนี้ ชั้นจะฟ้องพ่อคอยดู

 

 

Clive – ถูกหมาป่าฆ่าสินะ … แต่เอาจริงๆก็โทษหมาป่าก็ไม่ถูก .. 

 

 

  ต้องมีใครซักคนหยุดเรื่องนี้ ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นกับคนอื่นอีก !!

 

 

Benoit – เฮ้ยแก แกกล้าดียังไงมาว่าลูกชั้น แกฆ่าสัตว์เลี้ยงของเขาแล้วยังเสนอหน้ากลับมาอีกหรอ? หมาพวกนั้นมันต้องฝึก พอมันฝึกแล้วมันก็จะมีค่ากว่าคนแบบแก พวกแกมันก็แค่ของที่มีไว้ให้เล่นสนุก ทำได้แค่นั้น และแน่นอน ตอนนี้ชั้นเริ่มจะไม่สนุกแล้ว 

Clive – ชั้นก็เหมือนกัน แกต้องชดใช้ในสิ่งที่แกทำ !!

Denis – ดูมันพูดสิพ่อเห็นมั๊ย ผมไม่ชอบมันเลย 

Benoit – เดี๋ยวก่อน นี่แกไม่ใช่ Bearer ที่ชั้นซื้อมาใช่มั๊ย? กล้าดียังไงมาหลอกชั้นห๊ะ?? บาปของทาสก็คือบาปของเจ้านาย ไปสิ ไปเรียกนายผู้ต่ำช้าคนนั้นมา !!

 

 

                 [เลือก – That Wretch would be me ] 

 

Clive – ชั้นไม่เคยเป็นหนี้บุญคุณใคร และชั้นไม่รับคำสั่งจากใคร !!

Benoit – โกหก คิดว่าชั้นไม่เห็นตราบนหน้าแกรึไง!!

Clive – หุบปากแล้วฟัง !! Bearer ที่แกฆ่าตาย พวกเขาก็เป็นคนเหมือนกัน พวกเขากลัวและเจ็บเหมือนกับแก!! และถ้าแกไม่ต้องการจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขาก็ควรจำไว้ว่า เราไม่ใช่ของเล่นของแก !!

 

 

Denis – พ่อครับ ผมกลัวไอ้นี่ .....

Benoit – กล้าดียังไงมาขู่ชั้น กล้าดียังไง !!!

Denis – เราหาซื้อหมาใหม่ก็ได้พ่อ เอาให้ใหญ่กว่าเดิมเลย 

Benoit – ได้เลยลูกพ่อ ชั้นจะให้พวกชาวบ้านหามาให้ เอาตัวใหญ่ๆมาไล่งับหัวไอ้พวก Bearer ให้ขาดไปเลย !!

 

 

Clive – ชั้นไม่สามารถจะทิ้งเขาไว้ตรงนี้ได้ พวกเขาต้องได้รับการฝังศพอย่างเหมาะสม จะต้องมี Bearer ต้องเสียชีวิตเพื่อกีฬางี่เง่าของคนบางคนไปอีกซักเท่าไหร่ 

 

 

Raymond – มีคนตกเป็นเหยื่อมากมายจากกีฬาของพวกขุนนาง คุณคงเป็น ไคลฟ์สินะ

Clive – คุณรู้ชื่อผมได้ยังไง?

Raymond – Dame … ผมทำงานให้เธอ ด้วยความสมัครใจ การฝังพวกผู้เคราะห์ร้ายพวกนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ 

 

 

Clive – คุณก็เลยมาที่นี่เพื่อฝังพวกเขางั้นหรอ?

Raymond – นายหญิงให้จัดการเพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อนกกา ไหนคุณก็อยู่ที่นี่ด้วยแล้ว ช่วยผมหน่อยก็แล้วกัน 

Clive – เต็มใจเลยล่ะครับ มาส่งพวกเขาไปสู่สุขคติกัน 

 

 

Raymond – ภาระของพวกเขาสิ้นสุดลงแล้วในชาตินี้ ผมเดาว่าคุณเป็นคนฆ่าหมาของเจ้าขุนนางนั่นสินะ?

 

 

Clive – ใช่ ผมทำเอง ผมว่าเดี๋ยวมันก็หาหมาตัวใหม่มาอีก และทันทีที่มันมาถึงก็จะต้องมี Bearer ต้องตายอีกเยอะ ไม่เข้าใจเลย ทำไมพวกเขาถึงส่งพวกเราไปให้โดนเชือดแบบไม่แคร์อะไรเลย?

 

 

 Raymond – ง่ายจะตาย คุณจะเข้าใจได้ไง ก็คุณไม่ใช่พวกเขา  Bearer เป็นเครื่องมือเมื่อจำเป็น และเป็นของเล่นเมื่อไม่เป็นที่ต้องการ และถ้าตายก็สามารถหาซื้อใหม่ได้ตลอด แต่ถึงกระนั้น ทัศนคติแบบนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะลอยนวลเสมอไปหรอกนะ 

 

 

โฮ่งงงงงๆๆๆ แฮ่ๆๆๆๆๆๆๆ 

Benoit – อ๊ากกก 

Denis – พ่อจ๋า อ๊ากกกกกกกก !!!

 

 

Clive – นั่นคุณเป็นคนทำหรอ?

Raymond – ผมเปล่า … หมาต่างหาก มันเป็นเรื่องปกติ เอาสัตว์เข้ามาในบ้าน บางตัวมันก็สามารถฉีกคอคุณออกไปได้ในทันที ก็เหมือนกับ Bearer จะเป็นยังไงถ้าพวกเขาลุกขึ้นสู้กลับ ผมล่ะสงสัยจริงๆ 

ดินแดนนี้มีไอ้พวกชั่วอีกเยอะ เสียไปสองคนผมไม่เสียดายหรอก แล้วก็นี่ครับ ค่าเหนื่อยของคุณ  

Clive – ไม่เป็นไรหรอกครับ 

 

 

Raymond – รับไปเถอะ คุณไม่รู้หรอกว่าเส้นทางของเราจะมาบรรจบกันอีกเมื่อไหร่ 

 

 

 

 

Objective > เข้าไปยังจุดนัดพบกับ Cid และ Jill ที่โบสถ์ร้างด้านหลังหมู่บ้าน Moore

 

 

Clive – มีปัญหาระหว่างทางกันหรอ? ทำไมช้าจัง

Jill – ไม่มีสาระสำคัญอะไรให้ต้องพูดถึงหรอกค่ะ

Cid – อย่างที่จิลบอกนั่นแหละ มันแย่กว่าที่ชั้นคิด เมืองหลวงมันมีทหารเต็มไปหมดเลย 

Clive – ผมก็เหมือนกัน ผู้หลบหนีกำลังจะกลับบ้านแล้ว 

Cid – นั่นคือเหตุผลที่เราต้องใช้ประตูหลัง 

 

 

                           The Pleasure Houses 

                    เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ Oriflamme 

 




                              Jill – อะ แฮ่มมมๆๆๆ !!

 

 

Cid – ไม่เอาน่า ทั้งสองคนเลย .... เออใช่ "ซ่อง"  ก็ชั้นนึกถึงสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดของจักรวรรดิได้ที่นี่ที่เดียวนี่ 

Jill – เอาจริงดิ ดูจะไม่ค่อยส่วนตัวเท่าไหร่เลยนะ 

 

 

Clive – เอาล่ะ สรุปเราเอาไงต่อ?

Cid – เราจะเข้าทาง Glass Gate แต่ต้องรอให้มืดก่อน 

Clive – แต่ตรงนั้นเป็นจุดโหลดสินค้าที่มีการป้องกันหนาแน่นที่สุดจุดนึงของ Sanbreque ทั้งหมดเลยนะ

Cid – แต่ก็ไม่ได้มากที่สุด ก็นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีอ่ะนะ นอกจากนั้น เท่าที่ชั้นรู้มันเป็นทางลัดเข้าไปสู่หัวใจของอณาจักรได้เลย

 

 

Clive – ทางลัด? …แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าตรงไหนเป็นช่องโหว่ของการป้องกันของพวกจักรวรรดิ?

Cid – เอาเป็นว่า ชั้นเคยทำในสิ่งที่คล้ายๆแบบนี้มาก่อนก็แล้วกัน และอาจจะลงเอยด้วยการวิ่งหนีตูดแจ้นจากการโดนบาฮามุธไล่ถล่ม แต่นั่นก็ไม่สำคัญหรอก

Clive – เฮ้อออ ...

 

 

Jill – ถ้า มาเธอร์คริสตัลเป็นคำสาปที่ทำให้เกิด Blight จริงๆล่ะคะ?

Cid – ถ้า เนี่ยนะจิล? พูดซะผมเจ็บจี๊ดเลยนะ

Jill – ชั้นก็แค่จะพยายามบอกว่า ถ้าพวกผู้มีอำนาจรู้เรื่องนี้ ทำไมพวกเขาถึงปล่อยให้มันดำเนินต่อไปล่ะ?

Cid – ในกรณีถ้าคุณไม่ได้สังเกต ผู้คนในอณาจักรนี้เกรงกลัวพระเจ้า และผู้นำทางศาสนาของพวกเขาก็คิดถึงแต่ ตัวเอง พวกเขาจะทำทุกทางที่จะยึดอำนาจไว้ ส่วนพวกที่เหลือก็แค่หนทางที่ทำให้บรรลุสิ่งนั้น ท่านที่ที่คุณลุกขึ้นต่อต้านพวกเขา คุณก็จะถูกตราหน้าว่า ล้มเจ้า คนนอกศาสนา คนนอกกฎหมาย ถูกเฆี่ยนตีลงโทษ ไม่ก็ถูกจับขังลืม 

 

 

Clive – คนนอกกฎหมาย …

Cid – ใครก็ตามที่ควบคุมคริสตัลก็ควบคุมอณาจักร แต่คนแบบเราสามารถใช้พลังเวทย์มนต์ได้โดยไม่ได้พึ่งพวกเขา สำหรับผู้ปกครองแล้ว พวกเราเป็นทั้งเครื่องมือที่สะดวกที่สุดและอันตรายที่สุด 

Jill – แต่ ... อะไรทำให้เขาคิดว่ามีสิทธิ์ใช้พวกเรา แล้วปล่อยให้ตายตอนร่างกายหมดแรง?

Cid – เคยเห็นพวกคุณนางร้องไห้เสียใจตอนทำเหยือกแตกหรือเสือขาดมั๊ยล่ะ? ชะตากรรมของเราไม่มีความหมายอะไรกับพวกเขาหรอก 

 

 

Cid – ไม่ ...นี่ไม่ใช่การต่อสู้ที่เอาชนะได้ด้วยคำพูด  เชื่อชั้นเถอะ ชั้นคยพยายามแล้ว .. แต่ที่ผ่านมาไม่เคยได้ผลเลย โลกยังไม่พร้อมที่จะรับฟัง เพราะงั้นจะพูดเพื่อ? ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับฟังหรือให้เราได้มีโอกาสพูด เราก็จะตัดสินชะตากรรมของเราด้วยวิธีอื่น ..พวกนายไม่สามารถตำหนิคนที่ต้องการยุติเรื่องทั้งหมดนี้ได้หรอก จริงมั๊ย? 

 

 

Clive – ผมก็ไม่ตำหนิหรอก แต่คนที่คุณต้องใจจะขโมยความสะดวกสบายของชีวิตเขาล่ะ? คุณยินดีที่จะให้พวกเขาเรียกว่า อาชญากร หรือเปล่า?

 

 

       Cid – ซิด ผู้นอกกฎหมาย !! เออ นั่นแหละชั้นล่ะ  

 

 

Jill – อย่างน้อยคุณก็น่าจะแกล้งทำเป็นจริงจังหน่อยก็ได้นะ 

Cid – มีศรัทธาหน่อยจิล แม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วยกับการเลือกที่พักของผมก็เถอะ และ นั่นจะทำให้สิ่งที่ชั้นทำ ถูกจดจำ ไคลฟ์ ชั้นยินดีจะเล่นบทวายร้ายว่ะ

 

 

Cid – อย่างแรก เรามีประตูที่จะต้องพังเข้าไป และเราคงไม่มีเวลาจะย้อนกลับมาอีกนานเลย ทำตัวให้พร้อมก่อนไปก็แล้วกัน 

 

 

            Cid – โลกมันช่วยตัวมันเองไม่ได้หรอกนะ 

 

 

 🚨 คำเตือน ! … ก่อนเข้าทำภารกิจหลักนี้ อย่าลืมแวะกลับไปทำภารกิจเสริมใน The Hideaway ให้หมดก่อน เพราะคุณจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว 

 

 

 

 

                                  Drake’s Head 

              Oriflamme , The Holy Capiral of Sanbreque

 



Clive – ที่นี่มีทหารไม่มากเท่าไหร์

Cid – โชคดีที่เจ้าหน้าที่ดูแลเมืองไม่จริงจังกับงานยามเหมือนนาย

 

 

Cid – นี่ถือว่าเป็นลางดี 

Clive – นี่อาจไม่ใช่แผนที่แย่อะไรเท่าไหร่เหมือนกันนะ

Cid – พูดแบบนี้หมายความว่าไงฟ่ะเนี่ย ?

Clive – มีแค่ ทางลัดลับ ของคุณเท่านั้นแหละที่ไม่ได้ลับอย่างที่คุณโม้เอาไว้ 

Cid – ด้นสดซักครึ่งนึงก็สนุกดีนี่ ชีวิตเราสั้นเกินกว่าจะวางแผนให้สมบูรณ์นะ นายต้องการแต่แผนที่ต้องเป๊ะ ต้องสมบูรณ์แบบ ทำให้นายต้องเตรียมพร้อมอยู่ตลอด มันจะทำให้นายไม่รู้จักโตและชะล่าใจ 

Clive – อย่างเช่นทำงานให้คุณใช่มั๊ยล่ะ?

Cid – ไคลฟ์ ไอ้หนู ... แม้ความท้าทายแค่เล็กน้อยในชีวิตก็มีโอกาสที่จะทำให้เติบโตและเปลี่ยนแปลง นายต้องรู้จักยอมรับช่วงเวลาแบบนี้เอาไว้บ้างนะ ปล่อยให้มันค่อยๆแผ่กระจายในหัวใจของนายด้วยการเติมเต็มความรู้สึกลึกๆที่อยู่ข้างใน 

Clive – การรอดตายจากศัตรูอย่างหวุดหวิดมันไม่ได้ช่วยเติมเต็มความรู้สึกลึกๆข้างในอะไรของผมซักนิดเลยนะ 

 

 

Jill – หึหึ ..

Cid – ขำอะไรจ๊ะ?

Jill – เปล่าค่ะ ก็แค่ สงสัยว่าคุณสองคนเม้าท์กันจบยัง?

 

 

Cid – โอเค เราเข้าไปให้ถึงหัวใจของ มาเธอร์คริสตัล ตามแผนกันเถอะ ทำลายมันซะ แล้วทุกอย่างก็ถล่มลงมาเอง 

 

 

Clive – แต่ทางที่จะเข้าไปสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ด้านในจะไม่มีการป้องกันที่แน่นหนาหรอ?

Cid – งั้นเราก็ต้องน้อมรับช่วงเวลานั้นเพื่อใช้มันเพื่อเติบโตและเปลี่ยนแปลง โอเค๊?

 

 

 

                                The Crystals’s Caurse 

 

 

Objective > ลุยเข้าไปจนถึง Glass Gate 

 

 

Cid – ห้องไม่ว่างแฮะ เอาล่ะ ไม่ต้องลอบแล้ว ลุยให้เละไปเลย 

 



Cid – โอ๊ะ โอ่ ดูเหมือนช่วงเวลาเพื่อการเติบโตและเปลี่ยนแปลงที่ว่ามาถึงแล้ว

 

 

Imperial Cannonier – นี่ให้ข้ามาทำอะไรที่นี่เนี่ย? ขอแมลงให้บี้เยอะกว่านี้หน่อยไม่ได้หรอ? ขอแนะนำให้พวกแกรู้จักกับปืนครกของข้า และข้าจะแฮปปี้มากๆที่จะได้ยัดกระสุนใส่พวกแก !!

 



 

                     Mini Boss - Imperial Cannonier

 

Cid – บ้าน้ำลายซะด้วยสิ

Clive – งั้นเราไปทำให้มันหุบปากกัน !!!

 



Clive – นั่นมัน ?

Cid – เอาแล้วไง ... มันกำลังตื่นรู้ (akashic) การเชื่อมต่อกับคริสตัลแม่ ในนั้นไม่มีอะไรอยู่แล้วนอกจากการเกลียดชังและเครียดแค้น มาช่วยยุติความทรมานของเขาเถอะ 

 



Clive – แฮกๆๆๆ 

Cid – ชั้นไม่เคยคุ้นกันอะไรแบบนี้ซักที จะ akashic หรือไม่ก็เถอะ ยังไงเขาก็ยังเป็นคนๆนึง .... คนที่จมอยู่ใน aether 

Jill – ไม่ใช่เส้นทางที่ใครๆจะเข้าถึงได้หรอกนะ 

 

 

Clive – ไปต่อกันเถอะ ...

Cid – พวกทหารยามที่เฝ้าที่นี่ก็เหมือนกับโทษประหาร กษัตริย์ซิลเวสเตอร์มันไม่ได้มาใส่ใจหรอก ..หายใจเข้าลึกๆแล้วสูดอากาศธาตุพวกนี้เข้าไป ใครว่าการเป็น Dominant ไม่มีประโยชน์ 

 

 

Clive –นี่มัน aetherflood ใช่มั๊ย?

Jill – จริงๆไม่ควรมีใครอยู่ที่นี่ คนงานทั้งหมดไม่สามารถรอดได้แน่

Cid – บอกเลยว่า ที่ชั้นเคยลอบเข้ามาครั้งล่าสุดไม่ใช่ที่นี่ นั่นแปลว่าเราต้องรีบแล้ว ก่อนที่ aether มันจะเล่นงานเรา และชั้นก็ไม่อยากรู้ด้วยว่ามันเล่นงานคนอื่นๆยังไง 

 

 

                            The Glass Mines

 

 

Jill – ดูพวกคนงานเหมือง กับพวกทหารยาม ...

Cid – akashic ... พวกมันถูก aether กลืนกินจนกลายเป็นมอนสเตอร์หมดแล้ว  สิ่งที่เราจะทำได้คือกำจัดเขาออกจากความทุกข์ทรมานของเขา

 

 

Clive – Isabelle เธอได้ข่าวมาว่าพวกจักรวรรดิกำลังจะทิ้งเมืองหลวง เพราะอะไรก็ไม่รู้ ?

Cid – อะไรนะ?? นี่เธอให้นายเรียกว่า Isabelle ได้เลยหรอ? …ช่างเถอะ แต่ถ้าถามเหตุผลเรื่องนั้น ก็น่าจะเป็นพราะ aetherflood นี่แหละ  พระเจ้า พวกทหารที่เฝ้าประตูนั่นไม่ได้กันคนออกไปด้วยซ้ำ 

Clive – พวกอยู่ที่นั่นเพราะ akashic กลืนกินต่างหาก

 

 

                              Clive – โดดข้ามมา !!

 



         Cid – อืมม เหมือนจะไม่ไกลเท่าไหร่ น่าจะพอไหว

 



Cid –  อ๊ากกก!!!... อึ๊บบบ ช่วยหน่อยได้มั๊ยเนี่ย?

Clive – เกาะไว้ก่อนนะครับ!!

Cid – อ๊ากกก!!!

Clive – ขึ้นมาครับ!!!

 

 

Jill – เฮ้อออ เกือบไปแล้วสิ 

Cid – ไม่ค่อยจะกระฉับกระเฉงเหมือนก่อนเลยแฮะ 

 

 

Clive – ผมถือว่านั่นคือการบอก ขอบคุณ ของคุณก็แล้วกันนะ 

Cid – มองในแง่ดี อย่างน้อยนายก็จะได้ไม่ต้องสูญเสียใครอีก 

 

 

     Objective > ลุยเข้าไปจนถึงโถงทางเข้าวิหารศักด์สิทธิ์

 

 

                              The Path of the Goddess

 




       Jill – โห .... ชั้นก็รู้นะว่ามันใหญ่ แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้  

 

 

                   Cid – นั่นไงทางเข้าไปยังวิหารศักด์สิทธิ์

 



Cid – นึกว่าเขาจะแก้ไขไปแล้วซะอีก ต้องขอโทษทางจักรวรรดิด้วยนะ

Clive – เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่าคุณ ...

 

 

Cid – ใช่... เกมซ่อนหาเล็กๆของชั้นและบาฮามุธจบลงที่นี่ ด้วยต้นทุนที่น่าเศร้าของสถาปัตยกรรมที่สวยงามแห่งนี้ โทษชั้นไม่ได้นะเพราะเขาเริ่มก่อน

 

 

Clive – ตอนที่ผมยังเป็นทหารของพวกจักรวรรดิ พวกทหารที่มีหน้าที่ดูแล The Glass Gate เล่าถึงเรื่องราวของสิ่งที่เรียกว่า ผู้พิทักษ์ 

Cid – ชั้นก็ไม่รู้ว่าจริงมั๊ย เพราะมาครั้งที่แล้วชั้นไม่เห็นอะไรแบบที่ว่า แต่อันที่จริง ชั้นไม่ได้มาไกลถึงขนาดนี้ด้วยซ้ำ 

 

 

?????? – ก๊าซซซซซซซซซซ !!!

Jill – เสียงมันมาจากไหน?

 



?????? – ก๊าซซซซซซซซซซ !!!

Cid – ผู้พิทักษ์  คงหมายถึงไอ้ตัวนี้สินะ !!

Clive – ก็แค่สัตว์ที่น่าสงสารที่เป็นเหยื่อของ aetherflood เท่านั้นแหละ

 

 

                           BOSS - Akashic Dragon  

 



Jill – แฮก ...

Clive – ไม่บาดเจ็บอะไรนะ?

Jill – อืมม ชั้นไม่เป็นไร

 

 

Cid – ส่วนในของวิหารอยู่ถัดจากประตูนั่นไป ตอนนี้พวกทหารอาจรู้ว่าเราเข้ามาที่นี่แล้วก็ได้ เราต้องรีบแล้ว ไม่มีผู้บัญชาการณ์ที่ดีคนไหนจะส่งรู้น้องมายังสถานที่เต็มไปด้วย aether ขนาดนี้หรอก 

 

 

Cid – อั๊กก ... ไคลฟ์ ...หากที่เราทำไปทั้งหมดนี้ได้ผล พรจากคริสตัลจะเริ่มจางหายไป น่าจะส่งผลที่เลวร้ายสำหรับพวกเรา แต่สำหรับคนทั่วไปและโลกใบนี้มันจะเริ่มดีขึ้น ฉะนั้น ….

 

 

ในฐานะคนที่ครอบครองอีเธอร์เป็นกลุ่มสุดท้ายจะทำให้ความสามารถของเราเป็นที่ต้องการมากขึ้น ชั้นหมายถึง เราจะถูกล่า มากขึ้น ชั้นหว้งว่าในท้ายที่สุด พวกเขาจะเห็นว่าเราไม่มีทางเลือกอื่น มันเป็นทางเดียวที่จะนำพาเราทุกไปในที่ที่ดีขึ้นกว่านี้ 

 

 

Clive – ซึ่งตอนนี้ผมอีกคนก็อาจจะเริ่มไม่มั่นใจแล้วล่ะมั้ง โชคดีที่เราสองในสามยังเชื่อในตัวคุณอยู่ 

 

 

Cid – งั้นเรามาเริ่มทำตามแผนกันเลยก็แล้วกัน ได้เวลาเข้ารับตำแหน่งที่สุดแสนจะน่ากลัวแล้ว ....  ซิด วิเชียส (Cid the Vicious) ใช่มั๊ย ?

 




                    Clive – หัวใจของ Sanbreque ..

 

 

               Cid – ย๊ากกกกกกกกกกกกก !!!!!!!!!!! 

 

 

       Cid – ไม่ได้ผล .... ชั้นว่าคงต้องใช้ดาบที่ใหญ่กว่านี้แล้วล่ะ 

 

 

Clive – ดาบของผมใหญ่กว่า 

Cid – อ๊ะๆๆๆๆ 

 

 

Cid – ขอบใจนะไคลฟ์ แต่แบบ ชั้นอุปมาอุปมัยน่ะ แกนของมันต้องแข็งเป็นพิเศษอยู่แล้ว Tarja คงจะโกรธแน่ถ้าเธอได้ยินอะไรแบบนี้ เอาล่ะ ถอยไปหน่อย ที่นี่กำลังจะแคบลงกว่าเดิมแล้ว

 









   Jill – ไคลฟ์ ...ดูนั่นสิ !!

  Clive – นะ นั่นมันอะไรวะเนี่ย?  ….ห๊ะ !!!!

 

 

                           Clive – ซิดดดดด !!!!!

 



Clive – ห๊ะ! …. Ifrit …. เราต้องใช้ Ifrit !!  มาหาชั้นเดี๋ยวนี้ Ifrit ชั้นรับมือมันไม่ได้ถ้าไม่มีนายนะ !!

 



                    Clive – อ๊ากกกกกกกกกกกก !!!!!

 

                     

                                 ????? – มิธอส .....

 

 

                     Clive – ไม่ !!! …. อีกแล้วหรอ!!!

 

 

               ????? –  ให้เราเห็นความแข็งแกร่งของเจ้า 

 

 

                 Clive – อ๊ากกก! นายอยู่ที่ไหน ...!? Ifrit !!  

 






        Clive – นี่ชั้นอยู่ที่ไหนวะเนี่ย ? ไม่สิ ชั้นเคยมาที่นี่มาก่อน ...

 





????? –  Typhon … ผู้เคยถูกขับไล่ ความอวดดีนี้จะต้องถูกชดใช้  ..Dominant …

Clive – แกอีกแล้ว ... แกเป็นใคร!? ต้องการอะไร !!!?

 

 

                Clive – แม่งเอ้ยย .... มันยังไม่ตายย !!!

 

 

 

            ????? –  จงปลดปล่อยพลังในตัวเจ้าออกมา ...

 

 

                Clive – พลังนั่นมันไม่ใช่ของแก ...

 




                     Clive – แต่มันเป็นของชั้น !!!

 




            Ifrit – ข้าจำได้หมดแล้ว ....ข้าคือเปลวไฟ .....

 

 

                       Ifrit – ข้าคือ อิฟริท !!!!!!!

 

 

                                 BOSS – Typhon

 



Typhon – ตอนนี้แกจะแสดงความแข็งแกร่งให้เราเห็นได้รึยัง ..

 

 

              BOSS – Typhon the Transgressor 

 

 

                       Ifrit – เดี๋ยวจัดให้ !!

 







 

               ?????? – ช่างเป็นพาหะที่เหมาะสมที่สุด 

 



                           Jill – ไคลฟ์ !!!

 

 

Cid – อ่า ไง หลับสบายมั๊ย ?

Clive – คุณบาดเจ็บหรอ ?

 

 

Cid – เนี่ยหรอ? นี่แค่รอยขีดข่วนเท่านั้นแหละ ... 

Clive – เราจะรักษาคุณเอง 

Cid – ที่นี่อ่ะนะ ... ม่าย นายทำไม่ได้หรอก 

 





              ?????- จากนี้เราจะเป็นหนึ่งเดียวกัน ....

 

 

 

Cid – ชั้นรู้ว่าแกเป็นใคร ... และถ้าแกคิดว่าชั้นจะปล่อยให้แกได้เขาไปล่ะก็ ...




 

                     Cid – คิดให้ดีๆอีกรอบ !...

 




        ?????? – ทำไมแกถึงปฎิเสธชะตากรรมของตัวเอง? 

 

 

       ?????? – ทำไมแกถึงปฎิเสธจุดประสงค์ของแก?



Clive – ซิด ๆๆๆ  .... ทำใจดีๆ ซิด !!

Cid – เสร็จไปหนึ่งล่ะ ....นั่นเพียงพอแล้วสำหรับชั้น

Clive – ไม่ต้องพยายามพูดแล้วซิด ...

 

 

Cid – ไคลฟ์ .... ที่ผ่านมา ชั้นนึกว่าชั้นมีคำตอบทั้งหมดแล้ว จนกระทั่งได้พบนาย ชั้นก็ได้เรียนรู้ว่า ไม่ใช่ความตายที่ดีหรอกที่เราควรจะต่อสู้เพื่อมัน แต่เป็นชีวิตที่ดีต่างหาก 

 



Cid –  มันคงจะดีถ้าคนๆนึงจะเลือกชะตากรรมของเขาเองได้ แต่ถ้าเขาเลือกไม่ได้ว่าเขาจะต้องเจอกับอะไรล่ะ ...ประเด็นคือ ... เราเลือกได้เสมอ ..ฉะนั้นชั้นจึงเลือก 

 

 

Clive – ซิด..!! ไม่ๆๆ อย่าทำแบบนี้ !! ได้โปรดดด !!!!

Cid – ที่เหลือ อยู่ในกำมือนายแล้วนะ

 

 

 

 ....พรจากคริสตัลคือ คุก ไคลฟ์ และหากโลกต้องการ อาชญากร เพื่อช่วยให้หลุดพ้น .......



                   Clive – พอได้แล้ว ......ได้โปรด ....

 

 

      Cid – ชั้นคิดว่า ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่านายอีกแล้ว .......

 



 



   Clive – อ๊ากกกกกกกกกกกกกก !!!!!!!!!!!!!

 

 

?????? – ปฎิเสธ ....  นี่คือวิธีที่แกล้มเลิกความตั้งใจของตัวเองงั้นหรอ? บางที มันอาจถึงเวลาที่แกต้องเรียนรู้ถึง ...

 




  ?????? –  สถานะของตัวเองในแผนการที่ยิ่งใหญ่นี้ ...

 



???????? –  In Ashen Grip ... เถ้าถ่านที่ยังคุกกรุ่น หากทำให้ลุกไหม้ ไฟก็จะจุดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

 

 





 

 

                    ???????? –  ผมขอโทษนะไคลฟ์ ....

 

 

???????? –   อ่า นายจำชั้นได้หรอเนี่ย?  ชั้นเห็นนายปกป้องพวกเขามาตลอด นั่นเป็นอะไรที่กล้าหาญมากนะ 

 

 

          ???????? –   ชั้นรู้ว่าแกยังอยู่ที่นั่น .... Ultima !

 





Ultima – โอ้ นายรู้ชื่อของพวกเราด้วย? แล้วนายรู้อะไรอีก ... Phoenix?

 

 

Joshua – การเดินทางของชั้นทำให้รู้อะไรมากมายเกี่ยวกับแกและความทะเยอทะยานของแก 

 

 

Joshua – ชั้นรู้ว่าแกพยายามแยกชั้นออกจากพี่ชายของชั้น ...

 

 

Joshua – และชั้นก็รู้ว่า พลังของเขาคือสิ่งที่แกกำลังตามหา  แต่ แกจะรู้มั๊ยว่า ...ถ้าแกอยากได้เขา แกต้องผ่านชั้นก่อน 

 

 

                           Ultima – เอางั้นก็ได้ .....

 



Joshua – ลมหายใจของบรรพบุรุษของข้าช่วยเติมเต็มปอดนี้เพื่อให้ข้าปีดเป่าบทเพลงแห่งความทุกข์เข็ญนี่ด้วยเถิด ...

 



                       Ultima – ป้องกันได้ด้วย? ...

 



     Joshua – แก !! เลิกยุ่ง !! กับพี่ชายชั้น !! ได้แล้ว !!!!!!!

 

 

Joshua – สิ่งนี้ทำให้เราเคว้งคว้าง หาทิศทางไม่เจอ ..

Ultima – ข้าเห็นด้วย ..งั้นเราเลิกเล่นเกมกันซะทีนะ Phoenix เราจะขอรับ พาหะ ของเรา 

 

 

           Joshua – และชั้นจะบอกแกว่า ... ฝันไปเถอะ

 




  Ultima – ไฟนี้มันเปล่าประโยชน์ ...แกก็รู้ว่านี่แกกำลังจะเผาอะไร...

 

 

Joshua – แกมันก็แค่ ร่างชั่วคราว ชั้นไม่โง่พอที่คิดว่าชั้นสามารถทำร้ายแกได้หรอก แต่เพื่อปกป้องพี่ชายของชั้น ... ชั้นว่าชั้นทำได้นะ 

 



                             Clive – โจชัวร์ …??

 



                  Ultima – ไฟพวกนี้ ไม่ใช่เพื่อทำลายนี่ ....

 

 

           Joshua – ดูเหมือนแกจะลืมไปแล้วนะ ว่าชั้นเป็นใคร?

 



                   Joshua – อ๊ากกกกกกกกกกก !!!!!!!

 

 

                       Joshua – เอาสิ ... 



Joshua – ... ถ้าแน่จริง ..ตอนนี้ก็ลองเอาตัวพี่ชายของชั้นไปสิ ...

 

 

                             Joshua – เพื่อน 

 





 

               ในขณะเดียวกัน ...... ที่ The Hideaway 

 




??????? – มันต้องอยู่ที่นี่สิวะ??? ชั้นทำให้ลอร์ด Ku[ka ผิดหวังไม่ได้อีกแล้วนะโว้ย !!  …ตามหาไอ้ซิด ไม่งั้นเราตายห่ากันหมดแน่ !!

 



Tarja – Gav เราต้องหนีแล้วเร็ว !!!!!

Gav – ไปไม่ได้ถ้าไม่มีสิ่งนี้ ...ขอเอาคริสตัลก่อน ...แฮกๆๆ 

 

 

ทหาร – ซิดไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ เราจะส่งข่าวไปมั๊ย?

หัวหน้าทหาร – ดูเหมือนจะไม่จำเป็นแล้วล่ะ ..

 



Gav – แม่งเอ้ยยย !!!!  นายไปทำบ้าอะไรอยู่ที่ไหนวะ ซิดดดดด !!!?

 

 

                   Gav – นายมัวไปทำบ้าอะไรอยู่ที่ไหน !!!!!??

 

 

 

                                  5 ปีต่อมา ....

 

 

                           Year of the Realm 878

 

 

                                   Kostnice

                      The Dhalmekian Republic

 

 

 

                             🔶 Cid the Outlaw 🔶

 

 

 

สเต็กโชโคโบะ ไส้กรอกโชโคโบะ ทั้งหมดมาจากฟาร์มนกที่เลี้ยงอย่างดีด้วยผักผักเขียว เป็นสูตรดั้งเดิมที่คุณไม่อาจหาได้จากที่อื่น ..ลองชิมซักคำสิครับ!!

 

 

ผมมีพริกและถั่วลันเตา ถั่วลิสงค์กับหัวผักกาดแดง ถ้ามันได้ลงไปในหม้อปรุงอาหารของคุณ จะช่วยเพิ่มรสชาติได้อย่างดีนักเลยจะบอกให้ !!

 

 

ยากล่อมประสาท ยารักษาโรค ยาบำรุงร่างกาย ขี้ผึงทาผิว ยาพอกสมานแผล  เชิญเลือกได้ตามสะดวกเลยครับ !! ปรุงๆสดทุกเช้า

 




เด็กขายยา - ยาบำรุงร่างกาย ขี้ผึงทาผิว ยาพอก ...ไม่ทราบว่าสนใจ Potion ซักขวดมั๊ยคะคุณผู้หญิง ..?

 

 

เด็กขายยา – บางทีมันอาจจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยเวลาต้องเดินทางได้นะคะ?

 

 

Jill – เอ่อ หนูเก่งมากนะแต่ชั้นยังไม่อยากได้หรอกจ๊ะ

เด็กขายยา – งั้นขอให้พระแม่ทรงนำทางคุณนะคะ

 

 

                       Clive – รีบไปกันได้แล้ว 

 



                     Viktor – ยินดีที่ได้เจอคุณนะ Cid 

 

 

Clive – เราได้ข่าวอะไรบ้าง?

Viktor – พวก Bearers ส่วนใหญ่ถูกจับอยู่ที่ ศาลเก่า ที่ชานเมือง ผมแทบไม่ต้องบอกเลยว่าใครรออยู่ที่นั่นบ้าง แต่เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขายังคงถูกจับอยู่ที่นั่น 

 

 

Clive – การ์ดส่วนตัวของ Kupka สินะ 

Viktor – มันเป็นกับดัก .. และคงจะไม่ใช่พวกคนดีนักหรอกที่รออยู่ที่นั่น 

 

 

Jill – พวกมันหวังจะได้อะไรจากการทำแบบนี้งั้นหรอ?

Clive – ชั้นจะไปช่วยพวกนั้นให้ได้ก่อนค่ำ 

Viktor – คุณจะทำแบบนั้นไม่ได้ !!  สหายของเรามากมายไม่ได้เสียสละชีวิตเพื่อให้คุณมาถูกเชือดที่สลัมแห่งนี้หรอกนะ!!

 

 

Clive – เพราะงั้น พวก Bearers ที่ถูกจับอยู่ที่ศาลนั่นก็ต้องทุกขทรมานต่อไปสินะ ?

Viktor – ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ผมหมายถึงว่าคุณยังไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยงช่วยพวกเขาในตอนนี้ก็ได้ ....แม่งเอ้ย !! คุณนี่มันหัวดื้อพอๆกับ Cid คนเก่าเลยจริงๆ ...โอเค ตามใจคุณเลย 

 

 

Viktor – แล้วอย่าบอกว่าผมไม่เตือนคุณล่ะ? ตอนนี้คุณคือซิดแล้ว  ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาอีก เราจบแน่ 

 




Bearers – คุณต้องเชื่อพวกเรานะ ถ้าเรารู้เราก็บอกไปแล้วจริงๆ 

Kupka Private Guard – แต่แกยังช่วยไม่มากพอ

 

 

Bearers – ขอโทษด้วยเถิดนายท่าน เขาไม่ได้ตั้งใจทำให้ไม่พอใจ 

Kupka Private Guard – หุบปากน่าไอ้แก่ !!!

 

 

Clive – ไม่มีวี่แวว Hugo ..

Jill – ชั้นเดิมพันเลยว่า มันคงคิดว่าลูกสมุนที่ใช้เป็นกับดักพวกนี้จะมีฝีมือระดับเดียวกับเราแน่เลย

Clive – ถ้างั้น งานนี้ก็คงจะกินหมูสินะ 

 

 

Bearers – ขอร้องล่ะ อย่าทำร้ายพวกเราเลยค่ะ

Kupka Private Guard – หุบปากหมายถึง เงียบ โว้ยไอ้พวก Bearers ขยะ!  

 



 

                 Kupka Private Guard – ห๊ะ?? แกเป็นใคร!!!

 



    Clive – ไม่เป็นไร ทุกอย่าง โอเค พวกนายปลอดภัยแล้ว …..

 



Clive – ชั้นมาที่นี่เพื่อเป็นแต้มต่อ มีใครจะคัดค้านมั๊ย?

Kupka Private Guard – นั่นแหละ มัน !! ไอ้ Cid คนนอกกฎหมาย!!

 



   Jill – ทุกคน ทางนี้ !!

   Bearers – พวกเราหนีเร็ว !!

 



        Kupka Private Guard –  รีบไปเรียกกำลังเสริมมาสิวะ !!!!

 

 

Clive – พวก Bearers ล่ะ?

Jill – ปลอดภัยแล้ว 

Clive – งั้นก็ลุยกันเลย

 



Kupka Private Guard – เอาล่ะ ทุกคนถอยออกมา เดี๋ยวให้เจ้าเหมียวจัดการมันแทน ....แกจะต้องชัดใช้ในสิ่งที่แกทำลงไป Cid !!

Jill – ระวังนะ ไอ้ตัวนี้มันเร็วมากๆ  

Clive – งั้นเราก็ต้องเร็วกว่ามัน 

 

 

                Boss – Republican war Panther 

 



      Kupka Private Guard – พอกันที หนีก่อนพวกเรา !!!!

 

 

Jill – พวกมันคงไปบอก Hugo แน่ๆ   

Clive – ช่างมัน .... มันนองเลือดมากเกินไปแล้วสำหรับวันนี้ 

 




Bearers – ถุย !! ไอ้ฆาตกร !! เพื่อนๆของพวกเราตายกันหมดก็เพราะแก !! ได้ยินมั๊ย?? พวกมันใช้เราเป็นเหยื่อล่อแกให้ออกมาจากหลุมที่เหม็นเน่าของแก  ทั้งหมดมันเป็นเพราะแกปล่อยให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ !!!

 

 

Bearers – ใช่ !! แล้วยังจะเสนอหน้ามาที่นี่อีก !!! เราไม่เคยขอให้ช่วยเลย คิดว่าเราจะขอบคุณงั้นหรอ? ยังไงพวกเขาก็ไม่ยกโทษให้เราหรอก เราถูกทำเครื่องหมายไปแล้ว !!

Jill – เกือบ 5 ปีนะที่เราลุกขึ้นต่อสู้เพื่อให้คนแบบพวกเรามีชีวิตที่ดีขึ้น !!! เพื่อให้เราถูกปฎิบัติอย่างเท่าเทียม พวกคุณไม่ต้องการรึไง !!?

 

 

Bearers – สิ่งที่เราต้องการคือ อย่ามายุ่งกับพวกเรา แกโผล่มาทีไรก็มีแต่พวกเราที่ต้องบาดเจ็บล้มตาย !!

 

 

     Clive – ไม่เป็นไรจิล ..พอแล้ว ... .. ผมต้องขอโทษด้วยนะ 

 



Bearers – ก็แค่ เลิกยุ่งกับพวกเรา นี่บ้านของเรา ยังไงเราก็ต้องอยู่ที่นี่ ไม่ใช่นาย

 

 

Clive – Cid เคยบอกเราว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเขาจะเปลี่ยนทัศนะคติ 

Jill – เอาเถอะ .. ว่าไงก็ว่าตามกัน ...

 

 

                           Clive – เรากลับกันเถอะ 

 

 

                                        Ramuh Ability 

 

 

Blind Justice – ท่าเบสิคพื้นฐาน ยิงลูกบอลสายฟ้าแบบติดตามเป้าหมายใส่ศัตรูตั้งแต่หนึ่งตัวไปจนถึงการล็อกเป้าพร้อมๆกันหลายตัว ท่านี้ไม่ใช่ท่าที่เป็นการโจมตีโดยตรงไม่ใช่การโจมตีที่รุนแรง แต่เมื่อยิงลูกบอลสายฟ้าไปติดที่ตัวศัตรูเป้าหมาย หากมีการโจมตีไปยังลูกบอลสายฟ้านั้นก็จะเกิดการช็อตอย่างรุนแรง โดยการใช้การยิงลูกบอลสายฟ้าติดศัตรูเอาไว้แล้วสั่งให้ Torgal เข้าโจมตีศัตรูก็จะทำให้เกิดการช็อตทำลายศัตรูอย่างรุนแรง และความสามารถในการชะลอเวลาในการเล็งของท่านี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเวลาสักวินาทีเพื่อชะลอเวลาเพื่อหยุดและคิดจากการต่อสู้ที่รวดเร็ว 

 

 

Pile Drive - ใช้ไม้เท้าของ Ramuh ฟาดลงพื้นสร้างระเบิดแบบ Area of Effect ด้วยไฟฟ้าโจมตีศัตรูที่อยู่ในรัศมีเป็นวงกว้าง ความสามารถในการซัดศัตรูให้กระเด็นจะทำให้ศัตรูที่รอดชีวิตจากการถูกไฟฟ้าช็อตครั้งแรกผงะถอยกลับไป Pile Drive ยังมีเวลาร่ายสั้นและคูลดาวน์ ทำให้คุณสามารถกระโจนเข้าใส่ศัตรูจำนวนมากเพื่อให้มันเสียจังหวะก่อนที่จะโจมตีด้วยท่าอื่นๆ

 

 

Thunderstorm – สร้างสายฟ้าฟาดลงมาใส่ศัตรูเป้าหมายและพื้นที่รอบๆ ด้วยการที่มันสามารถโจมตีได้หลายครั้งติดต่อกัน การสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาสั้น ๆ จะทำให้ศัตรูที่ติดอยู่ในนั้นมึนงงได้ง่าย ท่านี้เหมาะในการโจมตีศัตรูจากระยะไกลเพื่อทำให้ศัตรูที่อยู่ไกลเสียจังหวะเพื่อใช้ซื้อเวลาในการจัดการศัตรูใกล้ก่อน แม้ว่าคาถานี้จะเหมาะในระยะไกล แต่ก็สร้างความเสียหายเพิ่มเติมหากคุณใช้ในระยะใกล้ แม้ว่าท่านี้จะใช้ระยะเวลาการร่ายที่นาน แต่ในขณะที่ Clive ใช้ท่านี้ การหมุนไม้เท้าของ Ramuh ขึ้นเหนือศีรษะ ศัตรูที่โดนไม้เท้าจะได้รับความเสียหายด้วย ทำให้คุณสามารถโจมตีระยะใกล้กับโจมตีระยะไกลไปพร้อมๆกันเลย

 

 

Lightning Rod – สร้างลูกกระแสไฟฟ้าทรงกลมที่เป็นเสมือนสายล่อฟ้า เพื่อสร้างความเสียหายกับศัตรูที่เข้ามาโดน แม้ว่าท่านี้จะสามารถใช้ในการป้องกันในเกมรุกของศัตรูจำนวนมากๆได้ดี แต่ด้วยการต่อสู้ที่รวดเร็วซะเป็นส่วนใหญ่ ท่านี้จึงเป็นท่าที่มีความสำคัญน้อยมากจนไม่มีใครอยากเสียพื้นที่ 1 Slot เพื่อสวมใส่มัน

 

 

Judgement Bolt – ท่าโจมตีด้วยสายฟ้าที่ทรงพลังมหาศาลจากฟากฟ้าที่สร้างความเสียหายกับศัตรูเป้าหมายเดี่ยวได้รุนแรงที่สุดของ Ramuh และทำให้ศัตรูเสียงการทรงตัวได้ดีมาก แต่จะใช้เวลาในการคลูดาวน์นานมาก 

 

 

                                     The Hideaway 

 

 

                         Bennumere , Central Storm

                            

 

Clive – คืนนั้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เราได้ทำลายสัญลักษณ์แห่งความหวังสำหรับหลายๆคน ด้วยเหตุผลที่เราไม่มีวันรู้ ซึ่งเราจะโทษพวกเขาไม่ได้หรอกถ้าเขาจะคิดว่าเราเป็นต้นเหตุความทุกข์ยากของพวกเขา 

 

 

แม้ว่าทั้งหมดที่เราทำก็เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของพวกเขาก็ตาม พวกเขาก็ยังเห็นว่าสิ่งที่เราทำในวันนี้ทำให้พวกเขาต้องลำบาก บางครั้งการรักษาฝีก็ต้องใช้หอกแทง

Jill – ชั้นอดสงสัยไม่ได้เลยว่า เราเลือกถูกหรือเปล่า?

Clive – ตอนที่ Cid บอกว่าเขาจะสร้างโลกที่พวกเราเป็นอิสระ นั่นรวมถึงทุกคนต้องมีอิสระในการเลือกของตัวเองด้วย 

 

 

Clive – อันที่จริง ชั้นไม่คิดว่ามันสำคัญสำหรับพวกเขาหรอกว่าทางเลือกของเราจะถูกหรือผิด นั่นเป็นทางเลือกของพวกเราเท่านั้น 

Jill – ชั้นคิดถึงเขานะ ....

 

 

Clive – โลกที่เราสามารถอยู่หรือตายได้อย่างเท่าเทียม นั่นแหละคือสิ่งที่เขาต้องการ คือสิ่งที่เราต้องการ นั่นคือเหตุผลที่ชั้นใช้ชื่อของเขา นั่นคือเหตุผลที่ชั้นยอมแบกรับมรดกของเขา และชั้นจะไม่ยอมให้อะไรมาขวางทางเรา 

 

 

Obolus คนแจวเรือ – เอาล่ะ คู่รักสุดหวานแหว๋ว สิ้นสุดเส้นทางของเราแล้ว ..บ้านที่แสนอบอุ่น ...

 



 

                              🔶   Home sweet home 🔶

 

 

Otto – อ่า นายกลับมาแล้วสินะ ไคลฟ์ การรายงานการผจญภัยของคุณเพิ่งส่งมาถึงเมื่อเช้า Viktor ฝากขอบคุณมากด้วยนะ 

Clive – ผมว่า Kupka น่าจะพลาดที่ส่งทหารโง่ๆมาจับผม ส่วนพวก Bearers ที่นั่นไม่มีใครเข้ามาร่วมกับเลยแม้แต่คนเดียว ...ดูเหมือนจะไม่มีใครอยากจะเข้าร่วมกับเราในฐานะ Outlaw ..แล้วมีข่าวอะไรคืบหน้าตอนผมไม่อยู่มั๊ย?

Otto – ยังไม่มีอะไรสำคัญ Gav กำลังจับตากองทัพของสาธารณรัฐอยู่ อีกไม่กี่วันก็น่าจกลับมาแล้วล่ะ 

Clive – โอเค ถ้าต้องการตัวผม ผมอยู่ในห้องวางแผนนะครับ 

 

 

Otto – มันยังไม่สามารถใช้งานได้เต็มที่เท่าไหร่ คงต้องหาที่ที่ดีกว่าเรือเหาะที่กำลังจะจมเพราะกองหนังสือ

Clive – ปล่อยให้เธอเป็นอย่างที่เธอเลือกที่จะเป็นเถอะ ผมเชื่อว่าเธอมีเหตุผลของเธอ 

 

 

Clive – ผม.. เอ่อ ผมคงไม่ได้มารบกวนนะ?

Vivian – อ่า กลับมาจากภารกิจแล้วหรอ? ชั้นเริ่มคิดแล้วที่คุณเอาตัวรอดมาได้ถึงวันนี้ไม่น่าจะเพราะโชคอย่างเดียวแน่

Clive – คนชอบพูดกันแบบนั้นอ่ะนะ Vivian Ninetales 

Vivian – นี่มันก็แค่หนึ่งในสี่จากสิ่งที่ชั้นทำในชีวิต และไม่มีสิ่งไหนที่น่าจดจำเป็นพิเศษ ..ว่าแต่ชั้นได้รับเกรียติให้ช่วยอะไรขึ้นงั้นหรอ? หรือว่า คุณต้องการมาหาความรู้จากชั้น?

Clive – แล้วมันแปลกหรอครับ?

Vivian – ดี! งั้นเรามาเริ่มจากบทเรียนแรก ความรู้เกี่ยวกับอาณาจักรต่างๆ กับคำถามที่ว่า ..เรามาที่นี่ได้ยังไง?

 

 

แม้ว่าการปกครองของ Sanbreque ในอณาเขตทางเหนือจรดตะวันออกเฉียงเหนือจะสืบถอดมาอย่างยาวนาน แต่เราก็ได้เห็นแล้วว่า Blight เข้ากลืนกินและแย่งชิงพื้นที่ของพวกเขามากขึ้นในแบบที่ไม่อาจเลี่ยง

 

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเปิดศึกกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหว้งข้ามช่องแคบไปใช้ชีวิตในทุ่งหญ้าที่มีความดำคล้ำน้อยลง 

 

แต่โอดีน ก็รีบลงดาบของเขาเร็วกว่าที่ Waloed จะยอมสละพื้นที่ฝั่ง Ash 

ในขณะเดียวกัน จักรวรรดิก็ต้องจ่ายด้วยราคาแสนแพงสำหรับใบหญ้าทุกใบที่อยู่ใต้รองเท้าของ Sanbrequois 

 

 

ไม่น่าแปลกใจเลยที่กษัตริย์ Sylvestre ตั้งเป้าไปที่ Crystalline Dominion ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ง่ายกว่าแต่มี Aether ไม่ได้น้อยไปกว่ากันแทน 

 

 

เมื่อ 5 ปีที่แล้ว  .....ขณะที่คุณกำลังยุ่งกับการบุกไปทำลาย Drake’s head พวกจักรวรรดิก็เริ่มเคลื่อนไหว ออกปราบปรามเพื่อบ้านที่เป็นกลางก่อนหน้านี้ อย่างอณาจักร Crystalline Dominion จนราบคราบแล้วทำการสถานปณา เมืองหลวงใหม่ของจักรวรรดิ จาก Oriflamme เป็น Twinside และทำการอ้างสิทธิ์ในการเป็นศูนย์กลางของโลกอย่างเต็มตัว 

 

 

แน่นอนว่า ไม่มีที่ไหนที่จะเหมาะกับการเป็นรัฐทหารมากกว่าที่นี่อีกแล้ว เพราะจากที่นี่กองทัพของอณาจักรศักดิ์สิทธิ์สามารถโจมตีเพื่อขยายอำนาจได้จากทั้ง 2 ฝั่งของดินแดนพร้อมๆกัน สัญญาห้ามรุกรานเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขาอยู่ในการควบคุม แต่ถ้าพวกเขาพร้อมจะฉีกสัญญาแม้ไม่ได้ถูกยั่วยุล่ะ เวลา น่าจะเป็นผู้ให้คำตอบได้ดีที่สุด 

 

 

จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ Sanbreque

สาธารณรัฐ Dhalmekian

อาณาจักร Waloed

และ แน่นอน เพื่อนของเรา Haearann .. The Iron Kingdom

ใครจะเหลือรอดเพื่อเป็นที่หนึ่ง ชั้นไม่แน่ใจว่า จนถึงเลือดหยดสุดท้ายเลยหรือเปล่า 

 

 

Clive – คุณเกิดที่ Twinside สินะ แล้วคุณไม่กลัวอะไรจะเกิดกับบ้านเกิดตัวเองบ้างหรอ?

Vivian – โอ้ เมฆดำจะไม่มารวมตัวกันเหนืออณาจักรหรอก แต่ถึงมันจะมา ที่ผ่านมานางก็ทนมาได้ตลอดอยู่แล้ว เมื่อพายุลูกนี้ผ่านไป ชั้นมันใจว่านาวก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม 

 

 

Vivian – เอาล่ะ ที่นี้เรามาพูดกันเรื่องค่าเล่าเรียนวันนี้กันดีกว่า แค่ทำงานง่ายให้ชั้นเรื่องนึง แล้วเราก็หายกัน 

Clive – หายกัน ..โอเค ..

Vivian – ช่วยเอาหนังสือเล่มนี้ไปคืนในห้องเก็บบันทึกโบราณหน่อย บอกตาลุงนั่นว่าชั้นใช้มันเสร็จแล้ว  

Clive – อืมม ...ถือซะว่าได้โอกาสไปเยี่ยมตาลุงนักประวัติศาสตร์ของเราหลังจากที่ไม่ได้เจอนานก็แล้วกัน…

 

 

⦿ถามเรื่องภาพรวมและหน้าที่ของ Vivian 

 

 ชั้นคิดว่าบทบาทของชั้นชัดเจนมากๆในตอนนี้ ชั้นยินดีที่จะนำเสนอองค์ความรู้ให้กับพวกนาย ทั้งเรื่องการทหารและการเมือง จากอดีตมาสู่ปัจจุบัน เพื่อเป็นแสงนำทางไปยังอนาคต ซึ่งบทบาทของพวกคุณก็ทำให้ชั้นแน่ใจว่าชั้นคงได้รับเรื่องราวอัพเดทเกี่ยวกับสถานะการณ์ของอณาจักรได้มากที่สุดเท่าที่คนของคุณจะรวบรวมได้ เพื่อใช้ในการเปิดเมินแต่ละประเทศหลักๆที่มีบทบาทในตอนนี้ และแน่นอน เพื่อเป็นการตอบแทนการบรรยายความรู้ของชั้น การเพิกเฉยต่อคำแนะนำจากความเชี่ยวชาญของนาง Ninetales คนนี้ที่เป็นเสมือนติวเตอร์ของพวกนาย ขอจงอย่าหาทำ 

 

⦿ถามเกี่ยวกับเรื่อง เหตุผลการมาเข้าร่วมที่ hideaway 

 

ชั้นยอมรับว่าตั้งแต่ชั้นเริ่มเป็นอาจารย์และสอนอยู่ในมหาลัย Kanver และไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ Cid the outlaw เป็นหนึ่งในศิษย์ที่มากมายของชั้น ชั้นไม่คิดว่านักศึกษาของชั้นจะเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบชีวิตของชั้น และเราต่างก็รู้ว่ามันจบลงยังไง คงปีนึงได้แล้วมั้ง? มันเป็นเรื่องที่อันตรายมากนะ สำหรับจิตใจที่อยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่คนอื่นพยายามปิดมันเป็นความลับ ถ้าไม่ได้คุณกับเพื่อนมาช่วยเอาไว้ ความอยากรู้อยากเห็นของชั้นคงทำอันตรายชั้นถึงชีวิตไปแล้ว ซึ่งไม่เพียงแค่ทางรอดเท่านั้นนะ แต่ยังเป็นสัญญาของชีวิตใหม่ในฐานะ ครูสอนพิเศษให้กลุ่ม Outlaws ของพวกนายด้วย สัมพันธภาพที่เชื่อถือได้สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในโลกแห่งวิชาการ บอกเลย 

 

⦿ถามเกี่ยวกับอณาจักร Crystalline บ้านเกิดของเธอ

 

บ้านเกิดเมืองนอนที่รักของชั้น ชุมทางแห่ง Valisthea ที่มีคนมากมายตามท้องถนนที่คอยฟังข่าวสารจากทุกพื้นที่อันห่างไกลของอนาจักร มาเธอร์คริสตัลของที่นั่นก็พิเศษกว่าที่อื่น เป็นดินแดนที่ยังไม่ถูก Blight รุกราน มันเป็นประเทศที่มีความสุขจริงๆ หรืออย่างน้อยก็จนกระทั่งกองทัพของจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ Sanbreque จะเข้ามารุกรานและสถาปณา Twinside เป็นเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์แห่งใหม่บนชายฝั่งที่เคยเป็นกลางของ Crystalline ชั้นเจ็บปวดมากที่เห็นดินแดนที่ชั้นรักเปลี่ยนไปและต้องมานั่งทำความรู้จักกับมันใหม่ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ชั้นไม่ได้คิดมาก่อนเลยจริงๆ การตัดสินใจที่จะทิ้ง Oriflamme ซึ่งเป็นเมืองหลวงของตัวเองมาตั้งแต่บรรพชน ดูเหมือนงานนี้ จักรพรรดิ Sylvestre ดูจะห้าวเกินเบอร์ไปหน่อยที่เลือกที่จะทำแบบนี้ ซึ่งชั้นไม่เคยคิดว่าคนแบบเขาจะกล้าทำ 

 

ความสำคัญของ State of Realm หรือการตรวจสอบสถานการณ์ปัจจุบันของอณาจักรที่ Vivian รวบรวมเอาไว้ 

 

 

การเช็คดูสถานกาณ์โดยรวมของอณาจักรในห้องแผนที่ เพื่ออัพเดทเหตุการณ์ในปัจจุบันของ Valisthea ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา 

 

 

ซึ่งจะเป็นการแสดงภาพรวมของไทมไลน์ของกลุ่มของไคลฟ์และอณาจักรต่างๆที่เคลื่อนไหวระหว่างที่ไคลฟ์ดำเนินภารกิจของเขา จนถึงดูความสัมพันธ์ของผู้คนต่างๆที่อยู่รอบตัวไคลฟ์ที่อัพเดทตามการเดินทางของเขา  

 

ทั้งนี้และทั้งนั้น State of Realm เป็นเพียงข้อมูลภาพรวมในมุมกว้างทั้งหมดของเกมส์ สำหรับผู้เล่นที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกประกอบความเข้าใจมากกว่า ฟังก์ชั่นที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องราวการเล่นของผู้เล่นให้ได้เปรียบหรือเสียเปรียบกับสถานการณ์ต่างๆของเนื้อเรื่องของเกมแต่อย่างใด 

 

 

The Shelves….

 

 

 

Clive – ลอร์เลสแมน ฮาร์โปเครติส 

Harpocrates – โอ้ ฮ่าๆ เป็นชื่อที่ชั้นไม่เคยได้ยินมานานแล้ว อันที่จริง ชั้นลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามันเคยเป็นชื่อของชั้นอ่ะนะ ยินดีตอนรับกลับบ้านนะไคลฟ์ คิดถึงนายเสมอนะ 

Clive – วิเวียนฝากหนังสือนี่มาคืนให้คุณครับ 

Harpocrates – โอ้ นักวิชาการประจำบ้านนี่อ่านหนังสือเร็วกว่าเจ้า Tett เด็กหนุ่มที่ทำทาร์ตมะนาวซะอีกนะ ชั้นเองก็อยากทำแบบนั้นบ้างนะ แต่ ชั้นไม่มีคุณสมบัติที่จำเป็นคนที่อยากทำอะไรตามอำเภอใจ ไม่ว่าจะการพูดหรือทำทาร์ต ยังไงก็ตามผมก็ได้พยายามค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกตัวประหลาดที่คุณเจอที่ Drake’s Head แต่ตราบใดที่ผมไม่สามารถเข้าถึงห้องสมุดใหญ่อย่างที่ Oriflamme หรือ Dominion การจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมคงจะมีโอกาสน้อยมาก ต้องขอโทษด้วยนะ 

Clive – ได้โปรด ไม่ต้องขอโทษผมเลยครับ เอาไว้เดี๋ยวผมจะให้คนลองออกไปค้นหาหนังสือใหม่ๆมาให้คุณเพิ่มดูว่าพอจะทำได้มั๊ย?

Harpocrates – ชั้นเกรงว่ามันจะไม่ใช่หนังสือที่ชั้นต้องการมากกว่า บางที ถ้าจำไม่ผิด ทางเหนือน่าจะยังมีห้องสมุดอยู่นะ 

Clive – เดี๋ยวผมจะลองดูให้นะครับ 

Harpocrates – คุณใจดีมากๆเลยนะ จะมีกี่คนในโลกจะยอมทำตามนักประวัติศาสตร์แก่ๆใกล้ลงโรงแบบผม

 

 

Tett – มันคงจะไม่เหนื่อยเกินไปสำหรับคุณนะที่ต้องออกไปขโมยนู้นนี่นั่นกลับมาตลอด ...ได้ไรมาอ่ะ ต่อให้เป็นแค่ Kupo Nuts เราก็เอาอยู่ดี  

Crow – ปกติก็ได้มาเต็มกระเป๋าตลอดนี่ รีบเอาไปให้ moogle สิ !!

Harpocrates – หยุดพูดแบบนั้นกันได้แล้ว !! เราต่างก็รู้ว่า moogle อะไรนั่น มันไม่มีหรอก 

 

 

Clive – ฝาแฝดสินะครับ 

Harpocrates – ใช่ ในฐานะเด็ก พวกเขามีโอกาสได้หัวเราะน้อยเกินไป การสูญเสียพ่อแม่มันหนักหนามากสำหรับพวกเขา แต่อย่างน้อยเขาก็เก็บความรู้สึกได้ดี ไททั่น พรากหลายอย่างของพวกเขาไปมากเหลือเกินในคืนนั้น ยังไงบาดแผลทางจิตใจก็ยังไม่สามารถรักษาได้ในเร็ววันหรอก

Clive – นั่นคือเหตุผลที่เราต้องให้เวลากับพวกเขามากเท่าที่เขาต้องการ

Harpocrates – นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ เหมือนกับที่ชั้นต้องให้เวลาคุณไปพักผ่อนบ้าง ขอให้เป็นวันที่ดีนะไคลฟ์ 

Clive – เช่นกันครับ .....งั้นชั้นคงต้องพักซักหน่อยก็ดีเหมือนกัน ...

 

 

Tarja – ใช้เวลาไม่นานคุณก็แก้ปัญหาให้ทุกคนได้หมดแล้ว นายเป็นผู้นำที่ดีไคลฟ์ เข้ากับหน้าบึ้งๆของนายได้อย่างดีเลยล่ะ  

Clive – ผมถูกตีตรามาก็หลายปี พอไม่มีมันก็เลยทำตัวไม่ถูกน่ะ แต่อย่างน้อย มันก็รู้สึกถึง การเป็นตัวของตัวเอง และนั่นต้องขอบคุณคูนมากๆเลย Tarja 

Tarja – ต้องขอบคุณมีดผ่าตัดนะที่มันทำหน้าที่ของมันได้อย่างดี อ่อ ก่อนชั้นจะลืม หน่วยม้าเร็วของเราเอาจดหมายจาก Gav ไปวางให้บนโต๊ะในห้องคุณแล้วนะ 

Clive – เขาไม่ใช้ Stolas หรอ? โอเค เดี๋ยวผมจะอ่านดู 

Tarja – แล้วก็อย่าลืมพักซะหน่อยด้วยล่ะ 

 

 

 

“ตอนนี้กองทัพของสาธารณะรัฐกำลังมุ่งไปที่ Twinside และ พี่เบิ้มหินกลิ้งของเรา ถูกเรียกตัวไปที่แนวหน้า ชั้นว่ากำลังมีบางอย่างที่บิ๊กบั้มกำลังจะเกิดขึ้นแน่นอน แล้วค่อยเจอกันตอนชั้นกลับไปก็แล้วกัน”  .. Gav

 

 

Jill – Gav ว่าไงบ้างคะ?

Clive – ตอนนี้กองทัพของสาธารณะรัฐกำลังเดินทัพ แล้วปล่อยให้ Hugo รับผิดชอบที่ Ran’dellah เมืองหลวงของสาธารณรัฐ Dhalmekian

ถ้ามันกับพวกกำลังยุ่งกับการปกป้องเมืองหลวงของมัน แน่นอนว่ามันคงไม่สร้างปัญหาให้เราได้

Jill – ก็ถือว่าเป็นข่าวดีสินะ 

 

 

Clive – ข่าวดีหรอ? มันยิ่งกว่านั้นอีก นี่แหละคือโอกาสหนึ่งเดียวที่พวกเรารอมาตลอด

 

 

Jill – ดูสิว่าเรามาไกลขนาดไหนแล้ว ทั้งหมดที่เรามีที่นี่ เพื่อนๆเรา พวกเขารู้สึกแฮปปี้กับที่นี่บ้างรึเปล่านะ?

Clive – 5 ปี ... เป็น 5 ปีที่ยาวนานจริงๆ

 

 

Clive – ถ้าชั้นควบคุมพลังของชั้นได้ เราก็มีประสบความสำเร็จมากกว่านี้ ทุกครั้งที่เอื้อมมือออกไปไขว้คว้ามันก็เหมือนมีอะไรมาฉุดรั้งเอาไว้ตลอด 

 

 

Jill – การอัญเชิญ Eikon มีราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆหรอกนะ ร่างกายของนายรู้เรื่องนี้ดีที่สุด มันแค่พยายามช่วยนายไม่ให้หลุดพ้นจากการเป็นตัวเอง 

Clive – และภาระทุกอย่างที่ชั้นแบกรับไม่ไหวก็ต้องตกไปถึงเธอน่ะสิ 

 

 

Jill – ทุกภารกิจของเรา ทำให้ชั้นตั้งคำถามกับทุกสิ่งที่ชั้นรู้ แต่มีสิ่งนึงที่ชัดเจนมากๆ คริสตัลพวกนั้นช่วงชิงทุกอย่างไปมากกว่าสิ่งที่มันให้เรา เพื่อแลกกับความสะดวกสบายแค่ชั่วขณะแต่เราต้องทนทุกข์ทรมานไปชั่วชีวิต สงครามครั้งแล้วครั้งเล่า การสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า

 

 

 และตอนนี้ มันกำลังปล้นบ้านของเรา ให้เหลือไว้เพียงเถ้าถ่าน แต่นายพยายามที่จะเปลี่ยนมัน เราพยายามที่เปลี่ยนแปลงสิ่งนั้น ซึ่งสำหรับชั้น นั่นไม่ใช่ ภาระ 

 

 

                       Clive – ผมรู้ ......แต่ว่ามัน ....

 

Jill – พยายามอย่าลืมว่า เรามาอยู่ที่นี่ได้ก็เพราะโจชัวร์ให้โอกาสที่สองกับเรา ถ้าจะปล่อยให้ของขวัญที่ล้ำค่านี้ต้องเสียไป มันน่าเสียดายนะ 

 



Clive –  ใช่ เขาทำ เขาอยู่ที่นั่น วันนั้น ซึ่งมันไม่ใช่ภาพลวงตาแน่นอน ชั้นได้ยินเขาเรียกชื่อ ... Ultima 

 

 

Clive – ถ้าโจชัวร์ยังมีชีวิตอยู่ เขาก็คงกำลังออกตามหา ... สิ่งนั้น 

Jill – นายคิดว่าเขาจะไม่มีวันได้กลับมางั้นหรอ?

Clive – ชั้นรู้ว่าเขาต้องกลับมา และเราต้องทำตัวให้พร้อมสำหรับวันนั้น 

 

 

                Jill – ถ้างั้นก็ .... แด่โลกที่ไม่มี มาเธอร์คริสตัล 

 

 

                  Clive – แด่โลกที่ไม่มี มาเธอร์คริสตัล

 

 

                             Clive – และ แด่ ซิด 

 

 

 

                               ในขณะเดียวกัน ...

 

 

                        ณ.  ดินแดนทางตอนเหนือ

 

                      

 

                   Joshua – ที่นี่ไม่มีอะไรเหลือแล้ว 

 

 

ผู้ติดตามโจชัวร์ – ชั้นรู้แล้วว่า Blight มันแพร่กระจายอย่างเร็วมากค่ะนายท่าน แต่นี่ มันเร็วเกินไป เร็วกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลย

Joshua – คงจะเหลือเวลาอีกไม่มาก ก่อนที่จะไม่เหลือดินแดนฝาแฝดนี้อีกต่อไป

 

 

Joshua – ในขณะที่โลกกำลังใกล้ถึงจบขึ้นเรื่อยๆ และที่นี่ตอนนี้ เรากลับกำลังไล่ตามเงาอยู่ บอกหน่อยพี่ชาย

 

 

           ..ความพยายามของเราไม่ได้เปล่าประโยชน์ใช่มั๊ย?

 

   

 

                               🔶 The Gathering Storm 🔶

 

 

                                  The Hideaway 

                         Bennumere , Central Storm

 

 

 

Otto – นายท่าน Clive , ขอเวลาซักครู่ครับ ถ้าคุณ ....โอ้ ขอโทษด้วยครับ ผมไม่ตั้งใจจะเสียมารยาท ..

Jill – ไม่เป็นไรค่ะ เรากำลังคุยเรื่องกลยุทธ์กันอยู่ 

Clive – เชิญพูดได้เลยอ๊อตโต้

Otto – เรื่องของ Martha ที่โรงแรมครับ มีข่าวว่าเธอหายตัวไป เดี๋ยวผมไปคุยเรื่องนี้ต่อที่ the mess ก็แล้วกันครับ 

 

 

Clive – สรุปเรามีข้อมูลอะไรบ้าง อ๊อตโต้?

Otto – มีข่าวว่าทหารรักษาการณ์ของจักรวรรดิในโรซาเรียเริ่มเข้าควบคุมที่ Martha’s Rest ก็มีเลือดตกยางออกกันนิดหน่อย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่ในตอนนั้นอยู่ๆ มาร์ธาก็หายตัวไปโดยไม่ได้บอกใครเลย นั่นมันไม่ใช่แนวของเธอ ไคลฟ์ มีอะไรไม่ชอบมาพากล 

Clive – คุณคิดว่าเรื่องนี้มีการวางแผนไว้หรอ?

Otto – มันแน่นอนอยู่แล้ว ตั้งแต่ทหารจักรวรรดิสังหารหมู่ที่ Eastpool จักรวรรดิก็เข้ากระชับพื้นที่จับตาดูพื้นที่ระแวกนั้นแบบไม่กระพริบตาเหมือนกับไข่ของพวกขุนนางเลย พวกที่เคยถูกหมายหัวหลายคนต้องหลบหนีเพราะพวกทหารจะจับพวกเขาในข้อหา ผู้ทรยศต่อบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อป้องกันการสบคบคิดการฟื้นฟู ตระกลูรอสฟิลด์ ให้กลับมามีอำนาจขึ้นมาใหม่ และตอนนี้ไอ้พวกสารเลวนั้นก็เริ่มมาสนใจพวก Bearers ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็นทาสของมัน ซึ่งเรื่องพวกนี้มาร์ธารู้ดีอยู่แล้วเพราะการรวบรวมพวก Bearers ให้เข้ามาเป็นพวกเรามันยากขึ้น  

Clive – และตอนนี้เธอก็มาหายตัวไป ซึ่งถ้าเธอถูกพวกจักรวรรดิจับได้ คิวต่อไปก็ต้องเป็นพวกเราแน่นอน 

Otto – ตอนนี้พวก Cursebreakers บางส่วนเริ่มเข้าพื้นที่ที่โรงแรมแล้ว พวกเขาอาจทำให้การค้าหามาร์ธามันง่ายขึ้น หรือถ้ามันแย่แบบที่ผมคิด คุณก็คงต้องเป็นคนช่วยพวกเขาทั้งหมดแทน

Clive – ไม่ต้องห่วง อ๊อตโต้ ผมจะพยายามทำให้ทุกคนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย

 

 

             Obolus คนแจวเรือ – ไอ้ Blight บ้าเอ้ยย !!!

 

 

                     📗  SideQuest: Caulk & Bawl 

 

 

รางวัล

Exp – 250

SP -250 

ไอเทม 

Badge of Might +1 (เพิ่มพลังโจมตี 12 Point)

 

 

 

Clive – มีอะไรหรอครับ?

Obolus คนแจวเรือ – ถ้าไม่นับเรื่องเรือชั้นเป็นรู ทุกอย่างก็โอเค๊ !

Clive – น้ำที่นี่ไม่เป็นดั่งใจสินะครับ ?

Obolus คนแจวเรือ – ทำไงได้ก็มันเป็นเส้นทางเดียวที่เราจะใช้ได้ที่นี่ นอกจากว่าคุณจะดูดไอ้เหมือกดำพวกนี้ออกจากทะเลสาบนี้ได้ ไอ้สารละลายบ้านี่มันกัดกินไม้ไปเรื่อยๆจนเละเหมือนที่เจ้าเด็ก Tett ทำทาร์ตเลม่อนให้เรากินเลย จริงๆมันก็อุดรูไม่อยากถ้าเรามียางไม้หรือน้ำมันดิบ แต่เราไม่มี เดาว่าที่แอ่งน้ำนั่นน่าจะพอมีอยู่บ้างนะ 

Clive – เดี๋ยวผมลองแวะไปดูให้นะ Obolus เรือของคุณเป็นทางเดียวที่จะพาเราไปยังแผ่นดินใหญ่ ถ้าไม่มีมันเราแย่แน่ๆ

Obolus คนแจวเรือ – โอ้ ชั้นดีใจนะที่มีใครซักคนเห็นคุณค่าของมันอ่ะนะ การทำยางมะตอยต้องใช้ยางไม้ ซึ่งคุณก็รู้ว่าไม่มีต้นไม้ใน Deadland ซึ่งผมคงไม่ใจร้ายที่จะให้คุณไปหลงป่าแล้วลากต้นไม้มาที่นี่หรอกนะ ครั้งนึงชั้นเคยได้ยินว่า มันมีไอ้พวกมอนสเตอร์ต้นไม้ที่มีขี้ผึ้งเหลวสำหรับจับแมลงแถวๆน้ำตก Coeurl Tail Falls ชั้นว่าแค่นั้นก็น่าจะพอใช้ได้นะ 

Clive – ฟังดูง่ายกว่าไปหลงป่าแล้วลากต้นไม้มาเยอะเลยครับ 

 

 

Objective > เดินทางไปยัง Three Reeds กำจัดมอนสเตอร์ Thorny Thistle ที่จุดเป้าหมายของภารกิจจะได้คียไอเทม Pitcher Wax มา 

 

 

Obolus คนแจวเรือ – ไง ได้ Wax มารึเปล่า?

Clive – นี่ครับ 

Obolus คนแจวเรือ – แหวะ !! กลิ่นอย่างกับตดโจโคโบะ แต่ชั้นคิดว่า Argo มันคงไม่รังเกียจตราบใดที่ทำให้มันอยู่เหนือคลื่นได้

Clive – Argo? นี่คุณตั้งชื่อให้เรือด้วยหรอครับ ?

Obolus คนแจวเรือ – อืมม ชื่อเหมือนพ่อของชั้น เขาก็เคยเป็นคนพายเหลือมาตั้งแต่ก่อน Blight จะมา ตอนนี้เรือของเขาพุพังหมดแล้ว และก็ต้องขอบคุณคุณมากนะ ที่ทำให้เขาแล่นเรือได้อีกครั้ง

 

 

 

Objective > เดินทางไปยัง Martha’s Rest

 

 

 

                               Martha’s Rest

 

 

Jill – เกิดอะไรขึ้นที่นี่เนี่ย? 

Clive – มาเถอะ ลองไปถามพวก Cursebreakers ดู

 

 

Cole – อ้าว Cid ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าคุณจะมา?

Clive – ผมรู้ว่าพวกคุณเอาอยู่แต่ Otto คิดว่าคุณอาจต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง และ ดูเหมือนน่าจะเป็นแบบนั้นนะ

Cole – จะว่าแบบนั้นก็ได้ครับ ..พวกเขาบอกว่าทหารจักรวรรดิบุกเข้ามาอย่างกับพายุ ไม่มีใครรอดชีวิตจากความโกรธของพวกมัน มาร์ธาพยายามเข้ามาเพื่อไกล่เกลี่ย แต่ความพยายามของเธอกับทำให้เธอถูกจับจนเธอต้องหนีไปและการโจมตีก็ทวีรุนแรงมากมากกว่าเดิม 

Clive – แล้วพอจะรู้มั๊ยว่าเธอหนีไปไหน?

Cole – ถ้าดูจากร่องรอยตามเส้นทางแล้วเธอน่าจะมุ่งไปทาง Sorrowise Bay 

Jill – โบสถ์ที่เธอซ่อนพวก Bearers เอาไว้ !!

 

 

Clive – ไอ้สารเลวเอ้ย !! …จิลกับผมจะรีบไปถึงตัวเธอก่อนพวกมัน คุณช่วยดูแลคนบาดเจ็บที่นี่ก่อนแล้วกัน 

Cole – ได้ครับ ... เอ่อ ผมลืมบอก พวกเช้าบ้านบอกว่าเขาได้ยินพวกทหารจักรวรรดิพูดถึง การคัดทิ้ง (Culling) ผมไม่รู้ว่าแผนการมันจะใหญ่ขนาดไหน แต่ฟังดูไม่ดีเลย ยังไงก็ต้องระวังตัวด้วยนะ Cid 

Clive – ฆ่าเพื่อลดจำนวนประชากร Bearers สินะ … คุณเองก็ต้องระวังตัวด้วยนะ 

 

 

                  📒 Quest: Dark Clouds Gather

 

 

Objective > เดินทางไปยัง โบสถ์ Glaidemond 

 

 

Clive – นั่นมัน ....

Jill – มาร์ธา !?

 

 

Clive –มาร์ธา คุณบาดเจ็บหรอ?

Martha – ไม่ต้องห่วงชั้น คนที่โบสถ์ต่างหากที่คุณต้องห่วง รีบทำอะไรซักอย่างเร็ว ...

 

 

Jill – มันเกิดอะไรขึ้นหรอคะ?

Martha – เกิดอะไรขึ้น!!??? ก็ไอ้พวก Black shields นะสิถามได้!!!

Jill – Black shields ??

 

 

Martha – ไอ้พวกสารเลวนั่นมันบุกเข้ามาจับบาทหลวงกับชั้นที่กำลังช่วยพาพวก Bearers หนีอยู่ พวกมันจะจับเราทั้งคู่แขวนคอ แล้วผู้ป่วยก็ลุกขึ้นมาจากเตียง ...ทุกคนช่วยกันต้านพวกทหารจักรวรรดิทั้งที่ก็แทบไม่มีแรง แต่ก็พอทำให้ชั้นหนีออกมาได้ 

 

 

Clive –บางที … พวกเขาอาจยังรอดอยู่ก็ได้ .. มาร์ธา คุณพอจะมีแรงเดินกลับไปยังโรงแรมไหวมั๊ย?  Cole กับพวก Cursebreakers รออยู่ที่นั่นแล้ว 

Martha – น่าจะไหวอยู่นะ ขอบคุณนะ ไคลฟ์ 

 

 

Clive – โล่ดำ ….มันกล้าเอาคำว่า โล่ มาล้อเล่นงั้นหรอ?  หน้าที่ของ โล่ ในโรซาเรียมีหนึ่งเดียวนั่นคือปกป้อวพลเมืองของอณาจักร !!

Jill – ดูเหมือนพวกจักรวรรดิจะเริ่มทำเกินไปมากขึ้นทุกทีแล้วนะ

 

                            โบสถ์ Glaidemond 

 

 

Jill – เรามาไม่ทันหรอ?

Clive – พวกเขาอาจจะหลบอยู่ข้างในก็ได้ ..

 

 

Jill – ไม่นะ !!! 

Clive – บ้าเอ้ย ... !!

 

 

ทหารจักรวรรดิ – ชั้นก็นึกว่าหมดแล้ว พวกแกที่มันเยอะจริงๆเลยนะ  

Jill – ไอ้ฆาตกร!! พวกแกเป็นคนฆ่า Bearers ในนี้!!

ทหารจักรวรรดิ – เดี๋ยวนะ พวกแก 2 คนไม่ใช่นี่ .อ่า... อีนังเจ้าของโรงแรมนั่นส่งมาสินะ !!! การสมรู้ร่วมคิดกับจักรวรรดิก็ถือว่าเป็นคนผิดร้ายแรงเหมือนกัน!

 

 

Black shields – และพวกมันจะต้องโดนลงโทษตามกฎหมาย สถิตย์อยู่ในความมืดมิดคอยชำระล้างราตรีที่คลุมเคลือเพื่อต้อนรับรุ่งอรุณของวันใหม่ที่ยั่งยืนด้วยดาบที่เราได้สาบานไว้

 

 

Clive – แกบังอาจกล้าเอ่ยถ้อยคำพวกนั้นได้ยังไง!! พวกแกไม่มีเกรียติพอหรอก

 

 

                           BOSS - Black shields

 

 

Clive – น่าจะหมดทุกตัวแล้วมั้ง 

Jill – ชั้นก็คิดว่างั้นนะ .... ชั้นยังไม่เห็นศพของบาทหลวงนะ เขาอาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ ลองค้นดูให้ทั่วๆกันเถอะ ...

 

 

Jill – บาทหลวง ....

Clive – Bearers พวกนั้น ตายเพราะปกป้องเขา พยายามฝืนใช้เวทย์มนต์ที่มีอยู่ในร่างกายที่เหลือเพียงน้อยนิดเข้าต่อสู้ จนร่างกลายเป็นผลึก ...

Jill – ไคลฟ์ มีคนนึงยังหายใจอยู่ค่ะ

 

 

Clive – เราเป็นเพื่อนของมาร์ธา เรามาช่วย

Bearers – พวกทหารจักรวรรดิตายหมดแล้วหรอ ..?

Clive – หมด ไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว 

 

 

Bearers – ถ้าเป็นยังงั้นจริง ก็คงจะดี .. Black shields กับภารกิจ ฆ่าเพื่อลดจำนวนประชากร Bearers ยังคงดำเนินต่อไป ... โรซาเรียจะยังไม่ปลอดภัยถ้าเราไม่ช่วย ...ฝากบอกมาร์ธาด้วยว่า ..ให้ขอความช่วยเหลือจาก Cid ..และบอกเธอว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ความผิดของเธอ ....

Clive – ได้ ... ผมจะบอกให้ 

 

 

Cole – Cid คุณอยู่ไหน !!?

 

 

Clive – ผมอยู่ในนี้ !! เราเจอผู้รอดชีวิตด้วย !!!

Jill – ไคลฟ์ … เขาตายแล้ว ..

 

 

Cole – ผมจะฝังศพท่านบาทหลวงเอง แต่ว่า สำหรับ Bearers ผมว่าเขาคงไม่อยากตายแบบนี้ 

Jill – ไม่ เขาไม่อยาก แต่เขามีทางเลือกของตัวเอง พวกเขารู้ชะตากรรมของตัวเองอยู่แล้ว และก็เลือกที่จะยอมรับมันตามเงื่อนไข ... ต่อสู้เพื่อคนที่สู้เพื่อพวกเขา ...

Cole – มาร์ธาบอกว่า พวกเขาลุกขึ้นจากเตียงเข้าต่อสู้กับพวกทหารจักรวรรดิเพื่อถ่วงเวลาให้บาทหลวงและเธอหนี ชั้นรวบรวมศพของ Bearers ไว้แล้วและเราควรเอาเขาไปลอยอังคารในกระแสน้ำ

Cole – มีสะพานชักอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ที่ Riddock’s jump ที่นั่นกระแสน้ำจะเชี่ยวมาก ท่านบาทหลวงมักจะไปทำที่นั่น ถ้าท่านยังอยู่...

Clive – ผมเอาไปเอง 

Jill – ชั้นก็ Cole จะอยู่ที่นี่เผื่อพวกทหารจักรวรรดิที่เหลือจะโผล่มาอีก 

 

 

                         📒  Quest: Release 

 

 

Objective > เดินทางไปยังที่สะพาน Riddock’s jump




 

ระหว่างทางจะเจอกับการแนะนำให้รู้จัก มอนสเตอร์พิเศษที่เรียกว่า Notorious Marks เหล่ามอนสเตอร์หายากที่ทั้ง ดุ อึด และมีร่างกายที่ใหญ่โตกว่ามอนสเตอร์ปกติ หากเอาชนะมันได้ ก็จะได้ทั้งเงินรางวัล ไอเทมพิเศษ ระดับของชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้น 

 

 

1.Ahriman : Notorious Marks Rank C [LV.25] 

Bounty 

5000 Gil

Renown 10 

 

-----------------------------------------------------------------------------

 

  Notorious Marks อีก 2 ตัวที่ล่าได้ตอนนี้เลย คือ

 

 


2.The Angel of Death (Aruna) Rank: C

 

 

 

Location: Sanbreque > Northreach > Claireview

 

 


 3.Belphegor Rank: B

 

 

 

Location: Rosaria > Eastpool >  Broken Hilt

 

 

         ตอนนี้  Notorious Marks ถูกกำจัดไปแล้ว 3 ตัว 

 

 

ส่วน Notorious Marks ตัวที่เหลือทั้งหมดตั้งแต่ 4 - 32 ต้องรอให้มีการปลดล็อค Hunt Board ที่ The Hideaway ก่อน (ในเหตุการณ์ถัดจากนี้) 

ถึงจะปรากฎตัวออกมา

 

 

 

 

                                  Riddock’s jump

 

 

Clive – ดังนั้น น้ำจะชำระภาระของเจ้าและแบบมันออกไปสู่ทะเล และตอนนี้ เจ้าจะสู่เสรีที่แท้จริง ...

 

 

Jill – หวังว่าดวงวิญญาณของพวกเขาจะไปสู่สุขคติและเสรีนะ 

Clive – ผมก็หวังว่าอย่างนั้น ... แล้วพวกทหารจักรวรรดิเป็นไง?

Jill – ฆ่าทิ้งหมดแล้ว ยังน้อยไปถ้าเทียบกับที่มันทำกับเรา ... ชั้นว่าเราควรรีบกลับโรงแรมกันดีกว่า Cole ค่อนข้างจะห่วงมาร์ธามาก

 

 

                           Martha’s Rest

 

 

Martha – ไม่มีใครรอดสินะ ...

Clive – ผมเสียใจด้วยครับ แต่มีคนนึงก่อนตายเขาฝากให้บอกคุณว่า อย่าโทษตัวเอง 

Martha – แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ใช่ความผิดของชั้น ก็ไม่ได้แปลว่า เลือดพวกเขาไม่ได้เปื้อนมือชั้น ...Cole บอกว่าคุณไปลอยอังคารให้พวกเขา คุณทำดีแล้วนะ ซึ่งมันควรจะเป็นชั้น ..นี่เป็นความผิดของชั้นเอง

Clive – แต่คุณไม่รู้นี่ว่ามันจะเกิดขึ้น

Martha – จะว่าไม่รู้ก็ไม่ถูก ชั้นทำเป็นหูทวนลมต่อข่าวที่ได้ยินมาอย่างโง่เขลา ข่าวลือที่ว่ามันเริ่มได้ยินมาเมื่อเดือนก่อนว่า จะมีปีศาจสวมชุดสีดำมาที่นี่เพื่อฆ่าพวก Bearers ที่กำลังหลบหนี ...ชั้นคิดว่ามันเป็นแค่ข่าวลวงที่พวกจักรวรรดิปล่อยออกมา คงไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องน่ากลัวที่ทำให้พวกชาวบ้านกังวล 

 

 

Clive – ถ้าเป็นเวลาปกติ คุณอาจจะคิดถูก แต่ดูเหมือนไอ้พวก Black Shield มันจะทำแบบนั้นจริงๆ ทำไมมันถึงทำแบบนั้น ... นั่นแหละคำถาม เห็นได้ชัดว่าแม่ผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่ๆ แต่ผมก็บอกไม่ได้ว่านางจะทำไปเพื่อ?

 

 

Martha – ชั้นไม่อยากรู้หรอกว่าอะไรอยู่ในหัวนาง ที่อยากได้ตอนนี้คือ ดาบและคนซักนิดหน่อย ไม่สิ ขอเป็นขวานใหญ่ๆซักอันดีกว่า ถ้าพวกทหารจักรวรรดิมันจะคิดว่ามันจะทำอะไรกับคนของชั้นก็ได้ก็คงต้องทำให้รู้สึกตัวกันหน่อย !! …อ่า เกือบลืม มีข้อความจาก Otto มาถึงคุณก่อนที่คุณมาถึง เขาบอกว่า ตอนนี้ Gav กลับมาแล้ว

 

 

Clive – งั้นผมคงต้องขอตัวก่อนนะ ส่วนที่นี่คุณจะไม่เป็นไรแน่นอน 

Jill – จะให้ชั้นอยู่เป็นเพื่อนก็ได้นะถ้าคุณต้องการ

Martha – ไม่จำเป็น ตอนนี้ชั้นพร้อมแล้ว ขอให้มาเถอะไอ้พวกจักรววรดิ ถ้าชั้นหนีก็ตราหน้าชั้นว่าอีกระจอกได้เลย 

 

 

 

 

           🐤  Spacial Quest: The White-Winged Wonder 🐤

 

 

Rowan – นี่ๆคุณอย่างเพิ่งผ่านไป ...ที่พกนั่นดาบของคุณป่ะ? มันก็ต้องใช่อยู่แล้วไอ้เราก็ไม่น่าถาม เดาว่าคุณต้องใช้มันได้อย่างคล่องแคล่วแน่นอน คำถามคือ คุณอยากจะใช้มันรึเปล่านี่สิ เพราะตอนนี้ฝูงโจโคโบะผู้มีคุณธรรมกำลังต้องการความช่วยเหลือ 

Clive – โจโคโบะ... ผู้มีคุณธรรม?

Rowan – ก็ตามนั้นแหละ เจ้านกป่า ตัวเบิ้อเริ่ม แบบ ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆนะ ไวท์ฮาร์ทและฝูงของเธอเป็นนกที่กล้าหาญที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา พวกมันคอยปกป้องนักเดินทางจากพวกโจรมาตลอดเลย 

Clive – โจโคโบะ... สู้กับพวกโจร...?

Rowan – จริงๆ มันเพิ่งช่วยผมจากไอ้พวกโจรเมื่อวานนี้เอง และตอนนี้พวกโจรนั่นมันกลับมาล้างแค้นพวกนกแล้ว ไปสิ มัวแต่ยืนอยู่ได้ ไปช่วยพวกมันหน่อยเร็วๆ !!

Clive – ก็ได้ ..แล้วผมจะเจอเจ้าโจโคโบะพวกนั้นได้ที่ไหน?

Rowan – นู่นๆผมเห็นมันไปทางนู้นอ่ะ ไอ้พวกโจรมันไล่ตอนมันไปที่ท่าเรือเก่า มันเป็นทางตัวด้วย ไปช่วยไวท์ฮาร์ทและฝูงของเธอ ไม่มีนกตัวไหนในโลกเป็นแบบนี้อีกแล้ว เธอเป็นฮีโร่ของพวกชาวบ้าน ไม่ต้องกลัวว่าจะหาไม่เจอ พอคุณเจอก็รู้ทันทีเลยล่ะ  รีบไปสิ !!

 

 

Clive –ไวท์ฮาร์ท งั้นหรอ? เป็นชื่อที่เหมาะกับโจโคโบะซะจริงๆเลย .. ขนสีขาวนี่มัน ชั้นจำได้ว่า Ambrosia ก็มีคนแบบนี้เหมือนกันนะ

 

 

หัวหน้าโจร – ในที่สุดก็จนมุมจนได้ แกไม่เห็นพวกเราที่ซ่อนอยู่ใช่มั๊ยล่ะ ฮ่าๆ แกทำให้ธุรกิจชั้นแย่ลง แต่มีใครบางคนยอมจ่ายเพื่อเอาหัวแกไปแขวนพนังแน่นอน 

 

 

Clive – ไม่ใช่ที่นี่ พวกเขาไม่ต้องการหรอก

หัวหน้าโจร – โอ้ ...ทำไมล่ะ?

Clive – เพราะเธอเป็นฮีโร่ของที่นี่ไง ถ้าแกทำเธอเจ็บ ชั้นก็เล่นแก

 

 

หัวหน้าโจร – ไปไหนก็ไปซะ ไม่งั้นเราจะทำให้แกเจ็บตัวทั้งคู่เลย ดีมั๊ย?

 Clive – ก็ได้ แล้วอย่าหาว่าไม่เตือนล่ะ 

 

 

                      Mini Boss – Huntsman 

 

 

Clive – พวกแกปลอดภัยแล้วนะ .. ไวท์ฮาร์ท สินะ?

Torgal – อี๊ดๆๆๆๆ โฮ่งๆ 

ไวท์ฮาร์ท – Kweh !!

Clive – แกรู้จักมันด้วยหรอ Torgal?

 

 

                      Clive – เดี๋ยวนะ ...แผลนั่น ...

 



                      Clive – ปะ เป็นไปไม่ได้ ....

 

 

                      Clive – Ambrosia งั้นหรอเนี่ย?

 

 

Clive – เป็นแกจริงๆด้วย แกยังไม่ตาย แถมมีฝูงของตัวเองด้วย 

 

 

Rowan – ไง จัดการมันเรียบร้อยแล้วใช่มั๊ย?? ผมทนรอไม่ไหวเลยตามมาดูว่าคุณเป็นไงบ้าง คุณเจอไอ้พวกโจรชั่วมั๊ยล่ะ แน่นอนคุณต้องเจอมันอยู่แล้ว 

 

 

Rowan –ดีจังที่พวกนกก็ไม่บาดเจ็บด้วย 

Clive – ใช่ ..แต่ไม่ใช่แค่นั้นนะ เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ ..................

 

 

Rowan – อ๋อ แบบนี้นี่เอง ผมก็คิดไว้แล้วเชียวว่านกฮีโร่พวกนี้ครั้งนึงต้องเคยเป็นของใครซักคนมาก่อน และผมกล้าพูดเลยว่าเหมาะมากที่เธอเคยเป็นของคุณ ว่าแล้วว่าเจ้านกฮีโร่ต้องเรียนรู้จากนักรบที่มีจิตใจดีแบบคุณแน่นอน การที่จะมีนกแบบเธอได้ต้องใช้เงินเยอะเลยนะ ว่าแต่คุณเป็นลอร์ดหรือเจ้าคนนายคนอะไรซักอย่างแน่ๆ ใช่ป่ะ?

Clive – ผม เอ่อ ....

Rowan – ไม่ๆ ถ้าลำบากใจไม่ต้องตอบก็ได้ ผมขอโทษที่ถามมากไป ไม่ว่าคุณเป็นใคร คุณทำสิ่งที่ดีให้กับผม

 

 

Ambrosia – Kweh !!

Clive – เป็นอะไรหรอ?

Rowan – นางอย่างกลับไปอยู่กับเจ้านายอีกครั้งนะสิ 

Ambrosia – Kweh !!

Rowan – เห็นมั๊ยผมบอกแล้ว ดูเหมือนเพื่อนๆของเธอก็อยากตามไปด้วยนะ

 

 

Clive – สรุป แกอยากไปอยู่กับชั้นจริงๆใช่มั๊ย?

Ambrosia – Kweh !!

 

 

Rowan – เป็นภาพที่อบอุ่นหัวใจจริงๆ ผมอยากจะเล่าให้เพื่อนๆที่คอกฟังจะแย่แล้วเนี่ย อ่อ แปบนะอย่าเพิ่งไปไหน เดี่ยวผมมา !!!

 



Rowan – ไง ชอบมั๊ย? หล่อเลยใช่มั๊ยล่ะ ?

Clive – เธอต้องชอบแน่นอน แล้วผมต้องจ่ายคุณเท่าไหร่ครับ?

Rowan – อ่า แค่เศษหนังไม่กี่ชิ้นเอง ผมต่างหากที่เป็นหนี้เจ้าไวท์ฮาร์ท ถึงจะเศร้าที่เธอต้องไปกับคุณก็เถอะ แต่เธอก็มีสิทธิ์ที่จะมีความสุขและสิ่งดีๆอื่นๆจากนี้ไป ไม่ต้องห่วงไม่มีเธอเราก็อยู่กันได้ ได้ยินมั๊ย ไวท์ฮาร์ท ขอให้สนุกกับการเดินทางไปกับเจ้านายของแกนะ

Ambrosia – Kweh !!

 

 

Rowan – อืมมม แต่ผมว่าผมเหมือนจะเคยเห็นคุณที่ไหนมาก่อนน้า ....?

ใช่ๆ ตอนที่รถสินค้าผมถูกโจโกโบะป่าโจมตี แล้วคุณมาช่วยผมใช่ป่ะ? แต่ เอ๊ะ ไม่ๆๆ ไม่สิ คนนั้นเป็น Bearer นี่หว่า… 

Clive – เอ่อ ผมมันคนหน้าโหลน่ะ 

Rowan – ก็ต้องไม่ใช่อยู่แล้วอ่ะเนอะ ผมนี่ชอบทำตัวเองให้ขายหน้าตลอดจริงๆเล๊ย เอาเถอะ ผมต้องกลับไปทำงานต่อและ ขอให้โชคดีทั้งคู่เน้อ !!

 

 

Clive – แกดูแลฝูงของแกเถอะนะ ถ้าชั้นจะใช้งานจะเรียกก็แล้วกัน 

Ambrosia – Kweh !! Kweh !! 

 

 

หลังจากนี้ ไคลฟ์และผู้ติดตามจะสามารถขี่โจโกโบะในการเดินทางได้แล้ว

 

 

R3 – เรียกโจโกโบะ / ยกเลิกการขี่โจโกโบะ

X – ขึ้นขี่ 

R2 - ควบ (เร่งความเร็ว)

L2 - ดึงบังเหียน (หยุดเร่งความเร็ว)

 

ในกรณีเจอศัตรูในขณะกำลังขี่ 

ถ้าเป็นศัตรูขนาดเล็ก สามารถกดสี่เหลี่ยมให้นกโจมตีได้

แต่ถ้าศัตรูโจมตีโดนโจโคโบะมันจะหนีไปทันที 

 

 

 

                               The Hideaway 

 

                      Bennumere, Central Storm

 

 

 

Gav – อ่า ไคลฟ์ ชั้นคิดถึงนายชิบเป๋งเลยว่ะ 

Clive – ไหนรายงานของชั้น?

Gav – อะไรฟ่ะ เนี่ยหรอคำพูดสำหรับ Gav เพื่อนเก่าของนายอ่ะ?

 

 

Otto – ถ้านายต้องการคำพูดดีๆงั้นนายก็มาผิดที่แล้วล่ะ..ที่นี้ก็นั่งได้แล้วเจ้าโง่

 

 

Gav – นายจำได้มั๊ยว่าจักรวรรดิบุกเข้ายึด Crystalline Dominion ได้เร็วขนาดไหนหลังจากที่คริสตัล Drake’s Head ถูกทำลาย? และอณาจักรอื่นๆต้องโทษตัวเองขนาดไหนที่พวกเขาไม่ทำเองตั้งแต่แรก?

 

 

Tarja – ครึ่งศตวรรษแห่งเสรีภาพต้องหายไปเพราะความตั้งใจของคนบ้า มันมากเกินไปสำหรับสนธิสัญญาห่าเหวนั่น 

Gav – เห็นได้ชัดว่าสนธิสัญญาระหว่างดินแดนที่ยังไม่ถูกทำลายกับความตั้งการคริสตัลในโลกที่มากขึ้น มากเกินกว่าที่พระองค์จะต้านทาน และในที่สุดสาธารณรัฐ Dhalmekian ก็ตัดสินใจตามความเหมาะสม ใช้คำว่า ปลดแอก เป็นข้ออ้างในการทำสงครามกับ Sanbreque

 

 

Gav – ขณะที่เรากำลังพูดกันอยู่ กองทหารก็เรียงรายอยู่หน้าประตู Dominion เพื่อต้องการให้จักรวรรดิยอมจำนนเพราะขาดเสบียง

Jill – และตอนนี้ทุกสายตาก็จับจ้องไปที่ช่องแคบ Autha 

Clive – ในขณะที่ทั้งสองอณาจักรต่างเอาโล่ของตัวเองเข้าฟาดฟันกัน คนที่เหลือก็แค่ลับดาบของตัวเองให้คมเพื่อรอเสียบฝ่ายชนะที่เหนื่อยล้า ..พวกเขาจะไม่ทันสังเกตุเราที่กำลังลอบเข้าไป 

Clive – ถึงเวลาแล้วที่เราต้องจัดการมาร์เธอร์คริสตัลอันต่อไป 

 

 

Clive – มาร์เธอร์คริสตัลทั้ง 4 ยังคงอยู่ทั้งในฝั่ง Storm และ Ash 

 

 

                Clive – Drake’s Breath ใกล้กับ Ironholm 

 

 

                   Clive – Drake’s Fang ใน Dhalmekia 

 

 

                    Clive – Drake’s Spine ใน Waloed 

 

 

       Clive – และ Drake’s Tail ที่ Crystalline Dominion

 

 

Gav – เมื่อกองทัพส่วนใหญ่ของ สาธารณรัฐ Dhalmekian เคลื่อนทัพไปประชิด Twinside คริสตัล Drake’s Fang ก็ไม่มีการปกป้อง

 

 

Clive – แต่นั่นเป็นสิ่งที่ Kupka มันคาดหวังว่าเราจะทำ ที่ผ่านมาเรารู้แล้วไม่ใช่หรอว่ามันรักมุขกับดักของมันขนาดไหน 

 

 

    Clive – แต่ยังไงก็ยังมีสถานที่ที่นึงที่ไม่มีใครคิดว่าเราจะไป

 

 

Jill - Drake’s Breath

Gav – ที่กั้นขวางระหว่างมันกับเรามีแต่ทะเล และชั้นไม่คิดว่าจะว่ายน้ำได้เก่งนักหรอกนะ 

 

 

    Clive – ก็ใช้เรือสิ ... ชั้นรู้จักคนที่ Port Isolde ที่พอช่วยได้ 

 

 

Gav – ใครหรอ?

Clive – ลุงของชั้น Byron Rosfield 

Gav – ลอร์ด Byron Rosfield แห่ง Seven High Houses อ่ะนะ !!? เจ้าสัวใหญ่ที่ถือครองที่กว่าร้อยเมืองน่ะหรอ?? ...เอ๊ะ!! แต่เดี๋ยวนะ นายมันก็ Rosfield นี่หว่า  !!

 

 

Clive – ชื่อของลุงชั้นทำให้เขาเริ่มต้นขึ้นในโลกนี้ แต่ความฉลาดของเขาทำให้เขาพบความสำเร็จและความรุ่งเรือง พร้อมทั้งกองเรือมากมาย

 

 

       Gav – เยี่ยม !! ถ้างั้นจะรออะไรกันล่ะฟ่ะ !!? ฮ่าๆๆๆๆ 

 

 

 

                             Otto’s counter open now 

 

 

เคาน์เตอร์ของอ๊อกโต้ สิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ในที่หลบภัยที่พร้อมเปิดให้บริการแล้ว ประกอบด้วย 

 

Alliant Report 

The Patron’s Whisper 

The Hunt Board 

 

                        The Patron’s Whisper

 

 

Desiree – ไง ไคลฟ์ ขอต้อนรับสู่ เสียงกระซิบของผู้อุปถัมภ์ ค่ะ 

Clive – เสียงกระซิบของผู้อุปถัมภ์ ?? หมายถึงมีใครสักคนคอยดูแลเงินที่พื่อนของเราบริจาคมาใช่มั๊ย?

Desiree – ก็ไม่เชิงนะ ชั้นก็แค่ดูแลไอเทมต่างๆที่ส่งมาจากผู้ส่งที่ระบุว่าให้คุณเป็นการส่วนตัว คุณจะดูมั๊ยล่ะว่าเรามีอะไรบ้าง 

 

 

ทุกๆภารกิจเสริมจะมีรางวัลที่ไคลฟ์จะได้เมื่อทำงานสำเร็จนั่นคือ renown หรือชื่อเสียง และผลของทุกภารกิจที่ไคลฟ์ทำก็ทำให้ผู้คนทั่วอณาจักรกล่าวถึงสิ่งดีๆที่ไคลฟ์ทำให้ ผู้คนเหล่านั้นจึงอยากสนับสนุนจากที่ไคลฟ์เคยช่วยเหลือด้วยการส่งเงินและสิ่งของต่างๆมาให้แทนคำขอบคุณ โดยไอเทมต่างๆที่ถูกส่งมาจะมีเรื่องราวประกอบด้วยว่า เพราะอะไรเขาถึงส่งมา ซึ่งไอเทมเหล่านี้ก็ต้องแลกด้วยค่า  renown หรือระดับชื่อเสียงที่ไคลฟ์มีเช่นกัน  เช่น 

 

 

pillow talk จากการสนทนาหลังการมีเซ็กซ์ของโสเภณีที่งานยุ่ง เธอบอกว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของชั้นใช้เวลาส่วนใหญ่ในการพูดคุยหลังเสร็จกิจถึงเรื่องสิ่งที่คุณทำในฐานะ Cid the Outlaws มากกว่าสิ่งที่ตัวเขาทำ เธอจึงอยากจะขอบคุณไคลฟ์ด้วยการส่งไอเทมที่ลูกค้าลืมไว้ที่หัวเตียงมาให้ ซึ่งก็คือ ไอเทมที่แลกได้ นั่นคือ Berserker Ring  

 

 

รายชื่อ Accessories ที่ใช้ Renown Points แลกเปลี่ยนได้ 

 

Cleric's Medallion

Effect : เพิ่มพลังการรักษาของ Potions + 40%

 

High Cleric's Medallion

Effect : เพิ่มพลังการรักษาของ High Potions ขึ้น 25%

 

Talisman of Priming 

Effect : เพิ่มระยะเวลาการใช้งานของ Lionheart Tonic: +30 วินาที

 

Berserker Ring

Effect : เพิ่มความสามารถในการโจมตี (ชั่วคราว) หลังการใช้ Precision Dodge แต่ละครั้ง

 

Ring of Swiftshot

Effect : ชาร์จ Magic Cooldown: -0.2 วินาที

 

Genji Gloves

Effect : พลังโจมตีเพิ่มขึ้น + 5%

 

Dire Wolf Jess

Effect: เพิ่มความเสียหายคอมโบ 5%

 

 

                              The Hunt Board

 

 

Clive – เกิดอะไรขึ้น Nektar ?

Nektar –ก็เกิดอย่างงี้นี่แหละ Kupo !!

Clive – Hunt Board หรอ? เป็นประกาศของ Cursebreakers ที่พบเห็นสัตว์ร้ายที่น่ากลัวเป็นพิเศษ ที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อการดำเนินภารกิจต่างๆของเราหากปล่อยให้พวกมันเดินเตร่อย่างอิสระ ถึงแม้พวกเขาอาจจะไม่สามารถจัดการพวกมันได้ตั้งแต่แรกเห็น แต่ก็ทำรายงานแจ้งไว้เผื่อจะจัดการในวันหลัง ใช่มั๊ย?

Nektar – ใช่ซะที่ไหน เราต้องการความช่วยเหลือจากคุณต่างหาก ใช่ชั้นต้องการให้คุณจัดการมันให้หมด Kupo !!

Clive  - ก็นะ ผู้คนใน วาลิสเธีย ที่เจอทั้งการคุกคามของ Blight เอย สงครามเอย แล้วยังต้องมาเจอพวกสัตว์ร้ายที่น่ากลัวแบบนี้อีก ซึ่ง Cursebreakers เองก็ยุ่งจนไม่มีเวลาจัดการ ... บางที่ชั้นอาจทำได้ หรือไม่ก็ ต้องลองดูซักตั้ง

 

รายงานการพบเห็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวจะถูกส่งมาที่ Hunt Board เพื่อหวังว่าผู้กล้า (อย่างเช่น ไคลฟ์) จะออกตามล่าและกำจัดมันให้หมด 

 

 

ซึ่งสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่ว่าก็คือพวก Notorious Marks ทั้ง 32 ตัว และไคลฟ์กำจัดไปแล้ว 3 ตัวก่อนหน้า ที่จะปรากฏให้เห็นใน Hunt Board ซึ่ง ที่เหลืออีก 29 ตัวก็จะปรากฏตัวขึ้นเมื่อ มีรายงานการพบเจอส่งมาที่ Hunt Board นี้ โดยจะปลดล็อคออกมาตามลำดับเหตุการณ์ของเนื้อเรื่อง 

 

------------------------------------------------------------------------

 

 

 

                   📗  SideQuest – The Fruits of Her Labors 🍎

 

 

Cormac นักพฤกษศาสตร์ – เอ่อ Cid …ผมขอพูดอะไรกับคุณหน่อยได้มั๊ยครับ?

Clive  - ทุกอย่างโอเคนะ?

Cormac นักพฤกษศาสตร์ – ก็โอเคครับ เอ่อ แต่ อย่างที่คุณรู้ เราพยายามปลูกต้นไม้ที่นี่

Clive  - ผมดีใจมากที่มีบางสิ่งจากที่ซ่อนตัวเดิมยังคงอยู่ที่นี่ 

Cormac นักพฤกษศาสตร์ –มันเป็นความภูมิใจและความสุขของ Martelle เลยล่ะ มันเป็นต้นอ่อนที่เธอช่วยขุดขึ้นมาจากซากปรักหักพัง 

 

 

แล้วดูตอนนี้สิ ในที่สุดความพยายามของเธอก็ได้รับผลตอบแทน ผมรับหน้าที่ดูแลต่อ หลังจากที่เธอ ..เออ หลังจากที่เธอตาย และ ตอนนี้ผลของมันก็เริ่มจะกินได้แล้วนะครับ ไม่ใช่แค่กินได้แล้วนะ ยังอร่อยอีกด้วยครับ 

 

 

Clive  - ชั้นว่ามันเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆสำหรับหลายๆคนที่นี่เลยนะ 

Cormac นักพฤกษศาสตร์ – ผมเลยคิดว่า ผลผลิตแรกของมันควรเป็นของพวก Cursebreakers เพื่อตอบแทนในสิ่งที่พวกเขาทำให้เรา คุณ เอ่อ จะช่วยรับมันไปแจกจ่ายให้พวกเขากินได้มั๊ยครับ? ผมว่ามันคงจะดีกว่าถ้าพวกเขาได้รับจากคุณ

Clive  - มันคงจะไม่น้อยถ้า bearer ได้รับข่าวดีที่แสนอร่อยเรื่องนี้ด้วยนะ

Cormac นักพฤกษศาสตร์ – ขอบคุณนะครับ เธอเองก็มีจุดอ่อนเรื่องนี้เสมอ ถ้าเอาไปให้พวก Cursebreakers เสร็จแล้วผมจะแบ่งไปให้ bearer ด้วย นี่ครับ ... เราเรียกมันว่า แอ๊ปเปิ้ล มาร์เทล เพื่อเป็นการระลึกถึงเธอด้วย .... ได้ยินมั๊ย Martelle?  ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงซะที 

 

 

Clive  - ดูเหมือนคุณสองคนลาภปากแล้วนะ นี่ครับ ด้วยความอนุเคราะห์จาก Martelle

Fabien – Martelle หรอครับ? อืมม เหมือนผมเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนนะ?

Clarisse – สาวน้อยจากแปลเพาะไง ใช่มั๊ย?

Fabien – ใช่ๆ เธอนั่นเอง สาวแปลกที่รักต้นไม้มากกว่าคน 

Clarisse – แล้วก็กล้าหาญมากๆด้วย จำได้มั๊ยตอนเธอวิ่งไปเก็บต้นไม้มาซ่อนตอนไททั่นโจมตีน่ะ แต่ เดี๋ยวนะ?

Fabien – อ่า อร่อยมาก นี่คือแอ๊ปเปิ้ลจากต้นอ่อนนั่นงั้นหรอเนี่ย? เธอต้องภูมิจใจมากแน่ๆเลย ขอบคุณนะ Cid 

 

 

Clive  - นี่ครับ ของขวัญจากแนวหลัง สำหรับการทำงานของพวกคุณ

Corentin – พระเจ้า ...ผมไม่เคยเห็นแอ๊ปเปิ้ลในที่หลบภัยมานานมากแล้วนะ มีแต่ตาแก่ Cid เท่านั้นแหละที่ทำให้ผมท้องร้องได้ เขาจะรีบกินมันทันที่ที่มันออกผล ซึ่งมันทำให้ Martelle โมโหตลอด แต่ก็นะ ไม่มีใครโกรธคนอย่างเขานานหรอก 

Clive  - นั่นแหละซิดที่ผมรู้จัก 

 

 

Otto – นี่กะว่าจะเก็บไว้กินคนเดียวหมดเลยเรอะ??  เดี๋ยวนะ นั่นแอ๊ปเปิ้ลของ มาร์เทล ใช่มั๊ยเนี่ย?

 

 

 ชั้นดีใจมากๆนะที่มีคนสานต่องานของเธอ มันไม่ง่ายเลยนะ การปลูกต้นไม้ในดินแดนมรณะแบบนี้ เธอคงมีความสุขถ้ารู้ว่าความพยายามของเธอไม่สูญเปล่า 

 

 

Otto – ไคลฟ์ นายช่วยบอกเด็กที่ดูแลสวนให้มาหาชั้นหน่อยนะ 

 

 

Corentin – เฮ้อ ขอบคุณซักคำก็ไม่มี เอาเถอะอย่างน้อยๆผมก็ยังมีมารยาทอยู่บ้าง ขอบคุณมากนะ Cid เอาไว้ทั้งตะกร้านี่แหละ ผมจะเอาไปแจกให้คนอื่นๆได้กิน เขาจะได้รู้ว่าควรจะชมเชยคนสวนของเรายังไง จริงมั๊ย?

 

 

Clive  - พวก Cursebreakers ฝากคำขอบคุณมาน่ะ แล้วพวกเขาก็ชื่นชมคุณกันยกใหญ่เลยด้วยนะ เห็นได้ชัดว่าเขาชอบ แอ๊ปเปิ้ล มาร์เทล มากๆ

Cormac นักพฤกษศาสตร์ – พวกเขายังจำเธอได้หลังจากที่ผ่านมาหลายปีแล้วอ่ะนะ ?  เธอเป็นคนที่ใจดีมากๆแม้แต่คนที่พูดตะกุกตะกักลิ้นพันกันซื้อบื้อๆแบบผม ทำไมคนดีแบบเธอต้องมาตายด้วย

 

 

Cormac นักพฤกษศาสตร์ – เธอทุ่มเททุกอย่างกับงานของเธอ และไม่ยอมพักจนกว่าผลไม้ของเราจะหวานพอ และตอนนี้เราทำได้แล้ว พอเธอตาย ผมเลยตั้งชื่อต้นอ่อนนี่ตามชื่อของเธอ และตอนนี้มันก็โตเต็มที่แล้ว Martelle จะมีชีวิตอยู่ในทุกผลของมัน

Clive  - และความฝันของเธอคงตายไปพร้อมกับเธอแล้วถ้าคุณไม่รักษาเอาไว้ นั่นเป็นสิ่งที่คุณควรจะภูมิใจนะ 

 

 

Cormac นักพฤกษศาสตร์ – ผมยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยจริงๆ แต่ก็ ขอบคุณนะ คุณใจดีกับผมมากกว่าที่ผมควรได้รับ 

Clive  - อ่อ แล้วก็ Otto เรียกให้คุณไปพบน่ะ บอกให้คุณเอาแอ๊ปเปิ้ลไปให้เขาด้วย และถ้าไม่ว่าอะไรผมอยากจะขอด้วยซักหน่อย 

Cormac นักพฤกษศาสตร์ – ไม่ว่าแน่นอนอยู่แล้วล่ะครับ ผมก็เห็นว่าคุณทั้งคู่ก็ช่วยดูแลพวกเรามาตลอดนะ 

 

 

Cormac นักพฤกษศาสตร์ – เห็นมั๊ย พวกเขาชอบผลไม้ของเธอนะ Martelle เยี่ยมไปเลยใช่มั๊ยล่ะ? ผมว่าคงถึงเวลาแล้วที่จะปลูกพี่น้องให้คุณเพิ่มแล้วว่ามั๊ย?

 

 

และ Martelle Apples ก็จะเป็นไอเทมตั้งโชว์ใน Wall of Memory ที่ห้องของไคลฟ์ด้วย

 

 

เผื่อคุณจะลืมไป Martelle ก็คือ Bearer สาวที่เป็นลูกน้องของนักพฤกษศาสตร์ คนก่อนหน้าที่ Cid’s hideaway ที่ไคลฟ์เคยไปช่วยเธอตอนเควสหาดิน  Moving Heaven and Earth นั่นเอง

 

 

 

                              Hawk’s Cry Cliff 

 

                              Southern Rosaria 

 

 



Jill – นายคิดว่ามันดีแล้วหรอที่ปล่อย Gav เอาไว้ ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นะ

Clive  - ผมต้องการให้เขาคอยจับตาความเคลื่อนไหวที่ Dhalmekia ไม่อยากให้ไอ้ Kupka มันแว้งกัดตลบหลังเราอีก ซึ่งมีแค่เขาเท่านั้นที่ทำได้ 

 

Clive - และไม่ใช่ซิดหรอกหรอที่บอกว่าเรื่องแบบนี้เหมาะสำหรับ Dominant มากกว่า? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นโอกาสที่คนที่เขารักเติบโตและเปลี่ยนแปลง 

 

 

Jill – ชั้นคิดไว้แล้วว่าซักวันชั้นคงต้องกลับมาที่นี่อีก ...กลับมาที่ Ironholm 

Clive – ทำไมถึงคิดงั้น?

Jill – หลังจากที่คุณรู้ความจริงแล้ว คุณก็ได้รับโอกาสที่ได้เผชิญหน้าอดีตของตัวเอง และถ้าหากชั้นต้องการเคียงข้างนายตลอดไป ชั้นก็ต้องทำแบบนั้นเหมือนกัน 

 

 

Clive – งั้นเราจะเผชิญหน้ามันด้วยกัน 

Jill – จนถึงวันสุดท้าย 

Clive –  ไปกันเถอะ !!

 

 

                                🔶 Bloodlines 🔶

 

 

 

Jill – นายคิดว่างานนี้แม่นายจะเลยเถิดไปถึงไหน มันจะมีโศกนาฎกรรมแบบ Martha’s Rest อีกหรือเปล่าก็ไม่รู้?

Clive – มีโอกาสมาก เพราะงั้นเราถึงต้องรีบไง ยังมีหมู่บ้านและที่ตั้งถิ่นฐานอีกมากระหว่างที่นี่กับ Port Isolde เราต้องแวะหาข้อมูลจากทุกที่แถวนี้เท่าที่ทำได้ เริ่มจากหมู่บ้าน Amber 

 

 

Clive –  นั่นไงเป้าหมายของเรา ทางใต้ 

Jill – นายสามารถมองเห็นปราสาทจากที่นี่ได้เลยนะ 

Clive –  และยังห่างไกลจากโลกกว้างอีกเยอะ 

 

 

Objective > เดินทางไปยังหมู่บ้าน Amber .....

 

 

 

                             หมู่บ้าน Amber

                The Imperial Province of Rosaria 

 



ชาวบ้าน – เนี่ยอ่ะหรอความยุติธรรม  ถ้าลอร์ด Elwin ยังอยู่เขาจะไม่มีวันทำแบบนี้หรอก 

ชาวบ้าน – เงียบได้แล้วตาแก่ เดี๋ยวเขาก็หาว่าเราเป็นรอยัลลิสต์หรอก

Clive –  จิล ดูนั่น !

 

 

Black Shield – โรซาเรียต้องชำระล้างสิ่งสกปรกที่เกาะกินเพื่อให้ลุกขึ้นทะยานสู่วันใหม่อย่างสมศักดิ์ศรี ซึ่งคงน่าเสียดายหากพวกชาวบ้านเพียงไม่กี่คนยังมีการระเมิดกฎ เจ้าต้องช่วยเป็นหูเป็นตาเรื่องนี้ด้วยนะ

ผู้ใหญ่บ้าน – แน่นอนครับนายท่าน เรายินดีให้ความร่วมมือกับท่านด้วยความเต็มใจ 

 

 

Clive –  แม้แต่หมู่บ้านเล็กๆที่ไม่มี Bearer พวก Black Shield ก็ยังเข้ามาวุ่นวายเนี่ยนะ? 

Jill – นั่นแปลว่าพวกมันมาที่นี่เพื่อตามหาใครหรืออะไรบางอย่างแน่นอน

Clive – ลองถามพวกชาวบ้านดูดีกว่าเผื่อเขาจะบอกอะไรเราบ้าง 

 

 

เด็กหนุ่ม – นายเห็นพวกมันแล้วนี่ ใช่มั๊ย?

Clive – ห๊ะ ?

เด็กหนุ่ม – ก็พวก Black Shield เมื่อกี้ไง นายเห็นพวกมันแล้วใช่มั๊ย?

ถึงชั้นไม่เคยเห็นพวกมันมาก่อนก็รู้ว่าพวกมันคือ Black Shield แน่นอน 

Clive – พวกมันเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรกงั้นหรอ?

เด็กหนุ่ม – นายคิดว่าไงล่ะ? หมู่บ้าน Amber แทบไม่มีตัวตนอยู่ในแผนที่ด้วยซ้ำ แต่อยู่ๆพวกเขาก็คือว่าเราซ่อนผู้ปลุกระดมบ้าบออะไรนั่นเอาไว้ แต่ถ้ามีจริงๆชั้นคงส่งให้พวกมันแล้วกลายเป็น Black Shield ซะเองไปแล้ว 

 

 

Jill – โทษทีค่ะ เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นหรอคะ?

ชาวบ้าน – เธอไม่ได้ยินหรือไง มันมีตัวป่วนโจมตีทหารรักษาการณ์ ปล้นสดมย์ และพวกมันบอกว่ามี Black Shield ถูกฆ่าด้วยนะ พวกจักรวรรดิต้องการคำตอบเรื่องนี้ และอะไรที่พวกจักรวรรดิต้องการ มันต้องเอาให้ได้ 

Jill – ก็ไม่ทุกอย่างหรอก

ชาวบ้าน – เปิดหูเปิดตาเอาไว้ล่ะ Black Shield บอกว่ามีรางวัลให้อย่างงามสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับผู้กระทำผิด

 

 

Jill – นี่นายคิดว่า ไอ้ตัวป่วน ที่พวกจักรวรรดิกำลังตามหามันใช่เรารึเปล่า?

Clive – ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เราต้องหาคำตอบให้ได้

 

 

Clive – อ่อ หวัดดีเพื่อน เราเป็นนักเดินทางนะ 

ชาวบ้าน – ชั้นรู้แล้วล่ะ ต้องการอะไรหรอ?

Clive – เราสงสัยว่าพวกทหารจักรวรรดิที่มาเมื้อกี้ ....

ผู้ใหญ่บ้าน – ห้ามบอกอะไรคนแปลกหน้าทั้งนั้น!! ชั้นคุยกับคนในหมู่บ้านหมดแล้ว และเราไม่มีอะไรจะบอกคุณหรอก พวกคุณพวกไปจาก Amber ซะแล้วอย่างได้กลับมาอีก!!

Clive – อย่างน้อยผมก็ขอถามหน่อยนะว่าทำไม?

ผู้ใหญ่บ้าน – ชั้นไม่รู้ว่าพวกคุณเป็นใครและมาทำไม แต่การมาของคุณจะทำให้เราตกอยู่ในอันตราย พวกจักรวรรดิมันเหี้ยมโหดมากแต่ตราบใดที่เรายังไม่ต่อต้านและเคารพพวกมัน เราก็จะปลอดภัย บางคนอาจเรียกว่า ยอมจำนน แต่ถ้ามันทำให้รอดตายชั้นก็ยอม ชั้นไม่อยากให้หมู่บ้านนี้เป็นเหมือน Eastpool 

Clive – งั้นเราก็ขอไปตามทางของเราก็แล้วกัน 

 

 

Clive – ชาวบ้านพวกนั้นใช้ชีวิตโดยมีมีดจี้ที่คอตลอด ด้วยความเชื่อผิดๆว่าถ้าพวกเขายอมให้ความร่วมมือจะได้รับความเมตตา 

Jill – การเชื่อฟังที่ถูกซื้อด้วยความกลัว ..

Clive – เธอเป็นอะไรหรอ?

Jill –เปล่า ไม่มีอะไร สรุปตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าพวก Black Shield มันตามหาใคร? 

Clive – ก็นะ ไม่ว่ามันจะเป็นใคร พวกจักรวรรดิก็มองว่ามันมีค่าพอที่จะออกตามหาจนสุดล้าฟ้าเขียวแบบนี้ แต่นอกจากมาร์ธาแล้วจะมีใครกล้าหาญพอที่จะงัดข้อกับพวกจักรวรรดิอีกกันนะ ? ชักอยากเจอพันธมิตรใหม่คนนี้ซะแล้ว แต่เราจะถึงตัวเขาก่อนพวกจักรวรรดิหรือเปล่านี่สิ? เอาล่ะ ลองไปหาข้อมูลที่หมู่บ้านถัดไปต่อเถอะ  

 

 

    Objective > เดินทางไปยังหมู่บ้าน Auldhyl ......

 

 

Jill – รอยเลือด ไคลฟ์

Clive – ดูเหมือนจะยังสดๆอยู่เลยนะ 

Torgal – แฮ่ !!! โฮ่งๆ !!!!

 

 

     Clive – มีอะไร Torgal !?  … พวก Black Shield !!

 

 

Black Shield – อ่า พวกแกรู้อยู่แล้วว่าเราเป็นใครแล้วยังจะชักดาบใส่อีกเรอะ? แต่เอาล่ะ ยังไงก็ต้องขอบคุณพวกแกที่จะได้ประหยัดเวลาในการสอบสวนของเรา  

 

 

.... สถิตย์อยู่ในความมืดมิดคอยชำระล้างราตรีที่คลุมเคลือเพื่อต้อนรับรุ่งอรุณของวันใหม่ที่ยั่งยืนด้วยดาบที่เราได้สาบานไว้ ..

 

 

               Clive – สะเออะพูดประโยชน์นี้อีกแล้วนะ!!

 

 

                         Mini Boss - Black Shield

 

 

Clive – เอาล่ะ ตอบมาแล้วชั้นจะทำให้ตายแบบไม่เจ็บปวด พวกแกกำลังตามหาใครอยู่?

Black Shield – ทำไม แก ...เรามาเพื่อส่งข้อความ ...

 

 

เพื่อนของแก ไอ้พวกผู้ถูกตีตราทุกตัวที่แกช่วยออกมาจากค่ายของเรา พวกเขารอแกอยู่ที่หมู่บ้าน Auldhyl ...  ผู้พิทักษ์แห่งเปลวเพลิง

 

 

Jill – นั่นไงประตูหมู่บ้าน Auldhyl

Clive – เราต้องรีบแล้ว !!

 

 

                           The Auldhyl Docks 

                          หมู่บ้านท่าเรือ ออลดิล

 





                       Clive – นี่มันฝีมือของแม่ชั้น ...

 

 

Jill – แต่ ทำไม .. ทำไมถึงต้องฆ่าไม่เลือกแบบนี้ !!

Clive – ชั้นไม่รู้ ...อันที่จริงชั้นไม่เคยเข้าใจนางจริงเลยซักที ..แต่ครั้งนี้มัน ..

 

 

Clive – ชั้นจะต้องรู้ให้ได้ว่าอะไรทำให้นางบ้าคลั่งได้ขนาดนี้ และชั้นต้องหยุดมัน  ..... เราไปกันเถอะ 

 

 

Clive – แต่  เราคงจะปล่อยพวกเขาไว้แบบนี้ไม่ได้หรอก 

Jill – ใช่ เราไม่ทำแบบนั้น ... แต่ถ้า Black Shield เดินทางลงใต้ได้เร็วแบบนี้ บางทีตอนนี้พวกมันอาจถึงที่ Port Isolde แล้วก็ได้ 
Clive – เฮ้อ .... โอเค

 



                                  Bewit Bridge 

 

 

ผู้อพยพ – ผมเห็นพวกทหารจักรวรรดิที่ใส่ชุดสีดำมาที่ท่าเทียบเรือเมื่อวันก่อน พอเช้ารุ่งขี้น เจ้ากาทั้งหลายก็ไม่เห็นดวงอาทิตย์อีกเลย  

 

 

ผู้อพยพ – พวกเขาบอกว่ามีเคอร์ฟิว แล้วก็ไม่ยอมให้เรากลับบ้านเฉยเลย แล้วเราจะรอดไปถึงคืนวันพรุ่งนี้ได้ยังไงเนี่ย??

 

 

นักเดินทาง – ต่อไปคุณก็คงไม่ได้เจอผู้ลี้ภัยตามบ้านในบริเวณโดยรอบของ Port Isolde อีกแล้ว เพราะมันจะเป็นที่ซ่องสุมของพวกโจรและทหารชุดดำที่น่าสมเพส

 

 


Quietsands ……

 

 

Jill – Lazarus …เกิดอะไรขึ้นกับสถานที่แห่งนี้กันนะ ?

Clive – ฝีมือแม่ชั้นอีกนั่นแหละ พวกขุนนางที่นี่ก็ไม่มีโอกาสได้ขัดขืน ยังไงก็ขอให้ลุงของชั้นดีกว่านี้  

 



                                     The Rose Gate 

                           ประตูทางเข้าเมือง  Port Isolde

 

 

 

ผู้อพยพ –  ได้โปรดเมตตาเราด้วย !!!

ผู้อพยพ –  ไอ้พวกสุนัขรับใช้อุปราชเอ้ยยย !!! พวกแกจะไม่ให้พวกเราผ่านไปไม่ได้นะโว้ยยย !!

ผู้อพยพ – ให้เราเข้าไปเถอะ ถ้าปล่อยให้เราอยู่นอกประตูแบบนี้เราตายแน่

 

 

ทหาร – ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้ !!!

ผู้อพยพ –  คริสตัลพวกนั้นก็เป็นของพวกเราทุกคนนะ !!

ทหาร – ไอ้พวกสกปรกเอ้ยย ออกไปให้หมดไป๊!!!! ถ้ายังไม่ยอมไปจะฆ่าแม่งให้เลย !!!

ผู้อพยพ – ก็เอาสิวะ !!!!

 

 

Clive – แบบนี้ ถ้าเข้าแบบปกติคงยากแล้วที่จะไม่มีใครสังเกตเห็น เราต้องหาทางเข้าทางอื่นแล้วล่ะ หรือเราอาจจะลองคุยด้วยเหตุผลดู ไม่ก็ติดสินบนเขา?

Jill – ชั้นว่าคงไม่สำเร็จหรอกนะ พวกทหารที่นั่นก็คงเหมือนกันหมด คิดว่าพอทางอื่นอีกมั๊ย?

Clive – เอาจริงๆแล้วก็มีนะ แม้จะไม่อยากจะใช้ทางนั้นก็เถอะ ..

 

 

Clive – ลุงชั้นเคยเล่าว่าพวกขุนนางสร้างอุโมงค์ไว้สำหรับหนีออกมาเที่ยวนอกเมืองโดยไม่ให้ใครเห็น ...ใช่ ทาง Lazarus

 

 

Clive – เราจะหาทางลอบเข้า Port Isolde จากทางนั้น 

Jill – นายแน่ใจหรอ? แต่ที่นั่นถูกทิ้งร้างมานานแล้วนะ แน่ใจหรอว่าจะปลอดภัย

Clive – ตราบใดที่มันยังถูกทิ้งร้าง มันก็น่าจะปลอดภัย.

 

 

Jill – ข่าวดีคือ เราไม่เจอพวก Black shield เลยตั้งแต่ผ่านหมู่บ้าน Auldhy มา

Clive – บางที มันอาจจะเจอคนที่มันตามหาแล้วก็ได้ 

 

 

                              🔶  Black Light Burns 🔶

 

 

 

      Objective > เดินทางไปยังทางเข้าเขตพื้นที่ Lazarus

 

 

                           The Lazarus District 

 

 

Clive – เฮ้อ ... ที่นี่ ตอนนี้ไม่เหมือนแบบที่ชั้นจำได้เลย 

Jill – ไม่น่าเชื่อว่าเพชรในมงกุฎจะเสียความแวววาวได้เร็วขนาดนี้ 

 

 

Clive – เอ่อ ... ดูเหมือนมันจะไม่ถูกทิ้งร้างแล้วนะ ...

?????? – เฮ้ยพวกแกเป็นใคร ? พวกเรามีคนบุกรุกโว้ย !!!

Clive – ต้องขอโทษด้วยนะ คือ เราไปก็ได้ ..เฮ้อ ...หรือ ไม่ไปก็ได้!

 

 

                       Mini Boss – Lazarus Bandit 

 

 

????? – คนที่ต่อสู้ได้แบบนั้นคนเดียวที่ชั้นรู้จัก ...เขาตายไปแล้ว 

Clive – บางทีอาจถึงเวลาแล้วที่นายจะเข้าร่วมกับเขา 

 

 

                              ????? – อ๊ากกกกก !!! ... 

 

 

????? –  พรแห่งฟินิกซ์ !!!?  เป็นไปไม่ได้ ผมนึกว่าคุณตายไปแล้วซะอีก !!

 

 

Wade – ต้องขอโทษด้วยนายท่านที่ทำตัวไม่เหมาะสม คุณไม่ต้องกลัวพวกเราแล้วล่ะครับ ... เป็นคุณจริงๆด้วย !!

 



                         Clive – เซอร์ Wade !!!

 

 

            Wade – ฮ่าๆๆ เราไปคุยข้างในกันเถอะครับ 

 

 

Jill – งั้นคุณก็คือพวกที่ไม่ยอมยอมศิโรราบสินะ?

Wade – เราหนีออกไปก่อนที่พวกจักรวรรดิมันจะทำแบบที่เคยทำกับพวกเรา หลังจากนั้นไม่นานเราก็รวมกลุ่มกันจัดตั้ง Guardians of the Flame ขึ้นมา จากกลุ่มคนที่ยังจงรักภัคดีต่อโรซาเรีย ..แต่ด้วยกำลังที่น้อยนิด เราก็ไม่สามารถต้านทานพวกจักรวรรดิได้ 

 

 

Wade – แต่ เราเห็นแล้วว่าการเข้ามาของพวกเราเป็นเรื่องที่พวกชาวบ้านยินดี แม้ว่าในช่วงหลังๆมานี้ เราทำได้แค่ช่วย Bearers ไม่กี่คนให้รอดพ้นเงื้อมือของพวกจักรวรรดิ

Clive – การฆ่าล้างบาง .. เราเห็นมาแล้วที่หมู่บ้าน Auldhy

Wade – ใช่ !! การกระทำที่ชั่วช้าของไอ้พวก Black shield และนายหญิงของมัน !!

 

 

Clive – คุณคงหมายถึงแม่ของชั้น .. ชั้นไม่เข้าใจเลยว่าเธอทำไปเพื่ออะไร? เราต่างก็รู้กันว่านางเกลียด Bearers แต่นางก็ไม่ปฎิเสธที่พวกเขาก็มีค่าต่ออณาจักร 

 

 

Wade – คุณไม่ผิดหรอกนายท่าน ที่ไม่สังเกตเห็นเลดี้ Anabella ไม่สนใจอณาจักรของเรา นางแทบไม่ได้ดูแลบ้านเกิดของนางเลยด้วยซ้ำตั้งแต่การสังหารหมู่ที่ Eastpool ตั้งแต่เรามอบรัชทายาทองค์ใหม่ให้กับจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ ความคิดที่นางมีต่อ Bearers ก็เริ่มรุนแรงขึ้น เพราะอะไรผมก็ไม่รู้หรอก บางทีนางอาจจะทนไม่ได้ที่จะมีใครก็ตามมาบังอาจท้าทายลูกสุดที่รักของนางก็ได้  

Clive – ลูกของนาง .....?

 

 

Guardians of the Flame- เซอร์ Wade! พวก Black shield กำลังทำลายแค้มป์ของผู้อพยพครับ มันนำกำลังมาเต็ม Bewit Bridge เลยครับ 

Wade – งั้นเราก็ไปเตรียมตัวให้พร้อม!!

 

 

Wade – นี่เป็นทัพหลักของพวก Black shield ด้วยครับ ถ้าเราตัดหัวมันได้ บางที ...เราอาจป้องกันไม่ให้สิ่งที่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ ออลดิล ไปเกิดทื่อื่นอีก ถ้าผมไม่ทำอะไรเลย เลือดของเหยื่อรายต่อไปก็จะเปื้อนมือชั้น  

 

 

Clive – นาย ...รวมทั้งพวกเราด้วย เราเองก็ได้เห็นโศกนาฎกรรมของพวกที่กล้าเรียกตัวเองมา shield และกระทำความชั่วในนามของแม่ชั้น !  ชั้นไม่สามารถให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นต่อไปได้ เราต้องหยุดความบ้าคลั่งนี้ !! 

Jill - เราต้องทำ ให้เราไปกับคุณด้วยนะ เพื่อโรซาเรีย 

 

 

Wade – นั่นแหละเป็นสิ่งที่ผมอยากได้ยิน ! เอาล่ะ ถ้าคุณต้องการแบบนั้น ผมก็ยินดีที่จะรับใช้เคียงข้างกับนายท่านครับ !!

Jill - และเราก็จะร่วมสู้กับคุณ 

Clive – เซอร์ Wade นำเราไปทำหน้าที่ของเราเถอะ !

Wade – ด้วยความยินดีครับ นายท่าน !!

 

 

Clive – ชั้นว่างานนี้เราต้องใช้ความพยายามที่มากกว่าไหวพริบของเรานะ 

Jill - ก็หวังว่า เซอร์ Wade จะมีไพร่พลที่ดีพอนะ 

 

 

Clive – เอาล่ะ เซอร์ Wade บอกเรามาว่าแผนเป็นยังไง?

Wade – ไม่มีพิเศษเลยครับ คุณกับเลดี้จิลแล้วก็ผม ไปยั่วยุที่ Bewit Bridge เพื่อล่อให้กองกำลังหลังของ Black shield ออกมา ในขณะที่  Guardians of the Flame กองหนุนของผมที่ซ่อนตัวตามเนินเขาจะเข้าโจมตีตลบหลังพวกมัน นั่นจะทำให้เราต่อสู้บนสะพาน Bewit Bridge ได้อย่างไม่ต้องกังวล แม้พวก Black shield จะมีจำนวนมากก็จริง แต่มันมักแยกเป็นกลุ่มย่อยๆ ซึ่งนั่นทำให้เราได้ประโยชน์ 

 

 

Clive – กลุ่มย่อยแค่ไหน?

Wade – ย่อยพอที่เราจะรับมือได้สบายครับ ยิ่งได้คุณกับเลดี้จิลมาช่วยแล้วยิ่งด้วยแล้ว ผมยิ่งรับมือได้สบายเลย 

Clive – แต่ ก่อนที่เราจะมาถึงคุณก็ใช้แผนนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ?  แล้วมันจะต่างจากเดิมตรงไหน? ฮ่าๆๆๆ 

 

 

Guardians of the Flame- เซอร์ Wade ครับ เราจัดการฝังพวก Bearers เรียบร้อยแล้วครับ 

Wade – ดีมาก เอาล่ะ เตรียมพร้อมรบกันได้แล้ว 

Guardians of the Flame- ครับผม !!!

 

 

Wade – เราทำได้เต็มที่ก็แค่ฝังศพพวกเขา แต่สิ่งที่เดียวที่จะทำให้พวกเขาไปสู่สุขคติได้คือ กำจัดพวก Black shield ให้สิ้นซากครับ 

Clive – ซึ่งเรากำลังจะทำมัน เดี๋ยวนี้ !

 

 

                     QUEST: Black or White 

 

 

Objective > เดินทางไปยังสะพาน Bewit Bridge

 

 

Wade – รับรองพวกมันต้องติดกับแน่ เพราะเกมของที่นี่มันก็เป็นแบบแมวจับหนูมาตลอดอยู่แล้ว 

 

 

ผู้อพยพ - แม่งบังอาจมาทิ้งชั้นไว้ข้างทางแบบนี้ไอ้พวก Black shield!

ผู้อพยพ - มาเถอะลูก เราไปหาสะพานอื่นกัน 

ผู้อพยพ - ไอ้ชาติขั่วเอ้ย โชคดีนะที่ข้าไม่มีขวานในมือ 

 

 

   Wade – พวกมันอยู่นั่นไงนายท่าน พร้อมก็สั่งมาได้เลย !!

 

 

   Black shield - อะไรอีกวะ พวกแก ก็ชั้นสั่งไปแล้วนี่ !!!

 

 

Wade – เรามีข้อความถึงท่านอุปราช จาก Guardians of the Flame

 

 

Black shield - ฮ่าๆๆ แกคิดดีแล้วหรอที่จะส่งข้อความผ่านพวกเราอ่ะ ! แค่ไอ้คนพเนจรสองคนกับผู้หญิงแล้วก็หมาเนี่ยนะ? ถ้าแกคิดว่าจะต้านทาน Black shield ได้ ก็เข้ามา !!!!  ตายไปพร้อมกับเปลวไฟอะไรของแกนั่นแหละ !

 

                             Mini boss - Black shield      

 

                   

    Wade – เพื่อโรซาเรีย !!

    Clive – เพื่อโรซาเรีย !!!!

 


Knight of the Lasting Dark - แม้จะเป็นผู้กระทำผิดแต่ก็ช่างมีจุดยืนอันสูงส่ง ซึ่งเรื่องนั้นพวกแกได้พิสูจน์แล้ว 



 

 

Knight of the Lasting Dark - แต่ดินแดนแห่งนี้ ต้องการการชำระล้าง 

 

 

                 BOSS - Knight of the Lasting Dark

 

 

Jill - ดูท่าจะหมดแล้วนะ 

Clive – ชั้นก็ไม่เห็นเหมือนกัน งั้นแผนเราก็สำเร็จ

Wade – มันโคตรเวิร์คเลยต่างหากครับ ฮ่า ๆ เราส่งไอ้พวกชาติชั่วนี่ลงนรกหมดแล้วครับนายท่าน บางทีอาจจะเพียงพอแล้วกับการหยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ที่นี่ อย่างน้อยๆก็ตอนนี้ 

Clive – แม้ว่าชั้นจะรู้ดีว่าแม่ชั้นจะจัดการกับการสูญเสียนี้ยังไงก็เถอะ นางต้องรีบเพิ่มจำนวนลูกน้องของนางให้มากขึ้นแน่นอน 

 

 

Wade – แล้วทุกอย่างก็จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ..ผมมักสงสัยเสมอว่าประเทศที่เรารักมันหายไปหรือยัง? ไร่นาที่เน่าตายไปหมด ประชาชนที่อดอยาก เราต่อสู้เพื่อให้เปลวไฟของเรานั้นยังคงอยู่ แม้พวกเราจะถูกศัตรูเข่นฆ่าล้มตาย คนอื่นๆก็ลุกขึ้นมาแทนที่ ยังไงซะ มันก็คือบ้านของเรา และเราจะสู้เพื่อมัน อย่างที่เคยเป็นมาและตลอดไป ตราบใดที่เพลิงแห่งฟินิกซ์ยังลุกโชนอยู่ในใจของเรา อธิปไตยแห่งประเทศเราก็ไม่มีวันตาย และผู้ที่ภัคดีต่อประเทศนี้อาจจฝันถึงในซักวัน เมื่อมาตฐานของโรซาเรียอยู่เหนือโรซาลิธอีกครั้ง 

Clive – เซอร์ Wade … คือ ชั้น ...เอ่อ 

Wade – ตอนนี้ผมว่าเราควรถอยกลับไปยัง Port Isode ก่อนที่กำลังเสริมของมันจะมา ดีมั๊ยนายท่าน?

 



Clive – สรุปว่าลุงของชั้นให้การสนับสนุนการต่อสู้ของนายมานานแค่ไหนแล้ว?

Wade – ก็ต้องแต่ต้นเลยล่ะครับ ลอร์ด ไบรอน เป็นคนแรกที่ผมเข้าไปขอความช่วยเหลือหลังจากก่อตั้ง Guardians of the Flame ผมถึงรู้จักเส้นทางลับของอุโมงค์นี่ ไม่งั้นคงถูกพวกทหารรักษาการณ์จับได้แล้วถูกแขวนคอไปนานแล้วล่ะ 

Jill - ชั้นว่า การขอเข้าพบอย่างเป็นทางการอาจจะดูน่าสงสัยนะ

 

Wade – และต้องทำอย่างแนบเนียนด้วย เพราะถ้ารองผู้ว่ารู้ว่าลอร์ด ไบรอนเป็นผู้สนับสนุนพวกเรา ท่านคงโดนยึดทรัพย์และถูกจับขังแน่นอน แม้ว่ามันจะทำให้เขาต้องเจ็บปวด แต่เขาก็จะได้สวมบทลอร์ดผู้ภัคดีโดยรู้ว่าการเดินทางผิดนิดเดียวอาจทำให้เขาหายนะได้ นั่นทำให้เขาต้องระวังตัวอยู่เสมอ และอย่าแปลกใจถ้าเขาจะปฎิเสธให้เข้าพบโดยเฉพาะเมื่อกับคนที่อ้างชื่อหลานที่ตายไปแล้วของเขา 

Clive – งั้นชั้นก็ต้องหาทางพิสูจน์ว่าชั้นไม่ใช่ผีหรือคนที่ปลอมตัวมาสินะ 

 

 

Wade – และผมมีบางอย่างที่สามารถช่วยให้ง่ายขึ้น นี่คือสัญลักษณ์ของ Guardians แสดงมันต่อผู้ที่จงรักภัคดีต่อโรซาเรีย รับรองผ่านฉลุย 

Clive – ชั้นจะสวมมันด้วยความภาคภูมิใจเลยล่ะ 

Wade – ซึ่งคุณควรต้องทำอย่างยิ่งเพราะผมไม่อยากให้คนของผมโจมตีคุณอีกอ่ะนะ

 

 

 Wade – ถ้าเซอร์ Tyler หรือท่านผู้บัญชาการณ์มาเห็นคุณตอนนี้ ..ก็คงจะดีนะ ...

Clive – ขอบคุณมาก เซอร์ Wade ถ้าหากคุณต้องการอะไรบอกชั้นได้ตลอดนะ 

Wade – ทราบแล้วครับ คุณควรไปได้แล้ว นายท่าน 

 

 

 

                                   Port Isode

 

                   The Imperial Province of Rosaria 

 

 

                                Rosfield Manor

 

 

Jill - ที่นี่น่าอยู่จัง ... นายคิดว่าเขาจะเชื่อจริงๆหรอว่าเราเป็นใคร?

Clive – ก็เราไม่มีทางเลือกนี่ แต่ชั้นคิดว่าลุงชั้นคงไม่เชื่อหรอก เขาคงคิดว่าเราเป็นโจรมาหลอกปล้นเขา 

 

 

  Byron - ชั้นแปลกใจนะเมื่อรู้ว่าหลานชายของชั้นมาเยี่ยม !

 

 

Byron - Clive Rosfield ตายไปนานแล้ว และสำหรับโทษที่แกเอ่ยนามของเขา เจ้าต้องชดใช้ลิ้นของแกมาเดี๋ยวนี้ !!

 



    Byron - นี่แกยังจะกล้าล้อเลียนข้าอีกงั้นเรอะ !!!!!!!!!

 

 

Clive – นี่ข้าเอง เซอร์ Crandall แห่ง Camelot ผู้รับใช้อันภัคดีต่อเซอรีนไฮเนส saint sybil the unshod 

 



Clive – Madu เจ้าพ่อมดที่ชั่วร้าย สำหรับความผิดของเจ้าที่มีต่อโบสถ์และราชบัลลังย์ ข้าจะตัดหัวเจ้า !!!

 





Byron - ข้าขอสาปแช่งเจ้า นังโสเภณีโสโครก ..แม้ในความตายเจ้าก็ยังทำร้ายข้างั้นรึ? ดีเลย ข้าจะเปิดประตูนรกให้เจ้าเห็นที่เป็นบ้านของเจ้าอีกครั้ง !!

 

 

Clive – สุดยอดเลยครับลุง ลุงยังคงเป็น Madu ที่ดีที่สุดใน Twin เหมือนเดิม 

 



Byron - โอ้ ไคลฟ์ ไอ้หลานรัก ฮื่ออออ ที่เจ้าจริงๆหรอเนี่ย ???

 

 

Byron - เจ้าก็ยังชอบฉากนี้ใน The saint and the Sectary และก็ไม่ยอมให้ลุงเล่นเป็นเซอร์ Crandall เหมือนเดิมเลยนะ 

 

 

    Clive – ผมมีเรื่องจะขอร้องให้ช่วยครับลุง ไบรอน 

 

 

Byron - Rutherford รีบแจ้งพ่อครัว เรามีแขก เราจะเลี้ยงฉลองกันเดี๋ยวนี้ !!

Clive – แต่ลุงครับ ...

Byron -เจ้าไม่สามารถทำให้ข้าตื่นเต้นกับเรื่องราวปาฎิหารนี้ตอนท้องว่างได้หรอกนะ ฮ่าๆๆๆ 

 

 

Byron - ไปเลย ไปนั่งรอตามสบาย … Rutherford เตรียมอาหารรึยัง!!?

 

 

 

Byron - เพราะเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เลยทำให้หลานมาช้างั้นสินะ ?

 

 

ตั้งแต่ได้เป็นอุปราช Anabella ก็เป็นหนามหยอกอกเหล่าผู้จงรักต่อโรซาเรียมาตลอด แต่ความโหดร้ายเหล่านี้ กลายเป็นความชั่วร้ายอันดับต่ำล่าสุดของนางเลย บางอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ไม่รู้สิ ลุงว่าผู้หญิงที่เราเคยรู้จักได้หายไปแล้ว ตอนนี้เหลือแต่สัตว์ประหลาดที่มาแทนที่เธอ 

 

 

                         Jill - สัตว์ประหลาดงั้นหรอ ? …

 

 

Byron - ไม่ว่ามันจะดีหรือร้าย ลุงก็ถูกแต่งตั้งให้ปกครองเมืองนี้ ดังนั้น การเสแสร้งทำเชื่อฟังก็ต้องมา ลุงทำได้ก็แค่แอบช่วย Wade และกลุ่มของเขาอย่างลับๆ แค่นั้น เขาบอกว่า ท่านเสี่ยงมามากเพื่อโรซาเรีย ประเทศชาติเราจะเป็นหนี้ท่านตลอดไป 

 

 

Byron - ตั้ง 20 ปีเลยนะ ไคลฟ์ ... ประเทศชาติที่บรรพบุรุษและพ่อของหลานปกป้องมามันไม่มีอีกแล้ว

 

 

 บางทีมันอาจดีกว่านี้ถ้าลุงเป็นคนกล้าหาญแบบพ่อของหลาน 

 

 

Byron - เอาล่ะ ถ้าอยากได้เรือ ก็จัดเรือให้เลย !!  ลุงมีห้องครัวบนเรือให้ด้วยนะ ตอนนี้กำลังเพิ่งเอาสินค้าลงกันอยู่ สามารถเตรียมพร้อมออกเดินทางได้ภายในไม่กี่อาทิตย์

 

 

Jill - แล้วคุณ เอ่อ เชื่อเรามั๊ยคะ เกี่ยวกับเรื่องราวทุกอย่าง?

 

 

Byron - เชื่อเธอมั๊ยหรอ? ฮ่าๆ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่เชื่อในครั้งแรกที่ฟังคนอื่นพูด และจนถึงคืนนี้ ก็มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะเชื่อว่า หลายชายชั้นยังมีชีวิตอยู่ และอีกอย่าง ชั้นก็มีแหล่งข่าวที่ดีพอที่จะทำให้มั่นใจว่า ไคลฟ์พูดความจริง 

 

 

Clive – แหล่งข่าว ? ... ใครหรอครับ??

Byron - ใครน่ะหรอ? ก็เจ้าเองนั่นแหละ หลานเป็นคนที่โกหกไม่เนียนที่สุดยังไงล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ 

 

 

  Clive – จะ จริงหรอ จิล?

  Jill - มันก็ไม่เชิงอ่ะนะ ...

 

 

Byron - ยังจะไม่รู้ตัวอีกเรอะ? มันคงช่วยไม่ได้ที่ต้องทนอยู่กับความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ของหลานชายชั้นอ่ะนะ 

 

 

Byron - และอีกอย่างที่ชั้นไม่อยากจะเชื่อเลยก็คือ หลานคือ Cid เนี่ยนะ ?? นายคือเด็กดีมาตลอด แต่ตอนนี้กลายเป็นพวกนอกรีต นอกกฎหมายไปซะแล้ว แต่ ถ้าชั้นเข้าใจไม่ผิด นั่นก็ทำให้ชั้นเป็น ลุงของคนนอกกฎหมาย ด้วยใช่ป่ะ?

 

 

Byron - เอาล่ะ แล้วเราจะปล้นใครก่อนดี Rutherford เอามีดสั้นมาให้ชั้นหน่อยดิ๊!!  งานนี้ได้มันระเบิดระเบ้อแน่เว้ย ฮ่าๆๆๆ 

 




Clive – เป็นเรือที่ดีอยู่เหมือนกันนะว่ามั๊ย? … เธอจะพาเราข้ามทะเลไปยัง Drustanus ภายใน 3 วัน .... คิดอะไรอยู่หรอ?

 

 

Jill - สัตว์ประหลาด ... ตอนที่ชั้นรับใช้ Iron Kingdom ชั้นทำเพราะว่า มันไม่มีทางเลือก 

 

 

เพราะมันรู้ว่าไม่มีวันทำให้ชั้นยินยอมที่จะทำ พวกมันก็หันไปใช้คนอื่น

 

 

Jill - และชั้นก็กลายเป็น หุ่นเชิด ...ชั้นปล่อยให้พวกมันดึงเชือกใช้งานชั้น แล้วชั้นก็ได้แต่บอกตัวเองว่า ที่ชั้นยอมจับดาบไม่ใช่มือของชั้น แต่เป็นมือของพวกมัน ชั้นหลอกตัวเองจากความจริงเพื่อที่จะไม่รู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องที่เกิดขึ้น และก่อนที่ชั้นจะรู้ตัว ชั้นก็ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น

 

 

Jill -  ...ชั้นกลายเป็นสัตว์ประหลาด ..

Clive – จิล ...

 

 

Jill -  ชั้นไม่อยากเป็นสัตว์ประหลาด ไคลฟ์ นายเข้าใจใช่มั๊ย? … ชั้นต้องการเลือกเส้นทางอื่น .. เส้นทางที่ดีกว่า ชั้นอยากใช้ชีวิตตามเงื่อนไขของตัวเอง แต่ก่อนที่ชั้นจะทำแบบนั้นได้ ชั้นต้องจัดการกับอดีตของชั้นก่อน 

 

 

Clive – และตอนที่เธอจะทำแบบนั้น ..ชั้นก็ยืนเคียงข้างเธอเหมือนกับที่เธอเคียงข้างชั้นมาตลอด 

 

 

Jill - ขอบคุณนะไคลฟ์  ชั้นต้องชดใช้บาปของชั้น และเมื่อมันจบลง ความรู้สึกว่าตัวเองเป็นสัตว์ประหลาดก็จะหมดไป ...

 

 

Clive – แค่ สัญญากับชั้นว่าเธอห้ามตายไปกับมันก็พอ 

Jill - ... อืมม ...

 

 

Clive – ตอนนี้ เราควรพักผ่อนกันได้แล้วนะ เราไม่ได้กลับไปยัง Bennumere นานแล้ว กว่าเรือจะพร้อมเดินทาง เรายังพอมีเวลาเล่นเรื่องมากมายให้เพื่อนคนอื่นๆฟังก่อนไป 

 

 

 

                         🔶 Here Be Monster 🔶

 

 

                           The Hideaway 

 

                 Bennumere , Central Storm

 

 

Vivian - กลับมาแล้วหรอ ลอร์ด Rosfield ? ชั้นดีใจนะที่คุณมาหาชั้นคนแรกเนี่ย แสดงว่าเราเริ่มจะซี้กันแล้วสิ ?

Clive – ก็ไม่ได้ซี้อะไรหรอกนะ แค่ต้องการคำแนะนำจากคุณน่ะ 

Vivian - อ่า เข้าใจพูดนะ ...สรุป วันนี้อยากรู้เรื่องอะไรคะ?

Clive – ผมอยากรู้เกี่ยวกับ Iron Kingdom 

Vivian - งั้นเป้าหมายต่อไปก็คือ Drake’s Breath สินะ …เข้าใจแล้ว 

 

 

Vivian - มาร์เธอร์คริสตัลที่ผุดขึ้นจากทะเลเดือด ครั้งหนึ่งสายเลือดแท้ของโรซาเรียเคยฝ่าคลื่นมาเยือน แต่แล้ว Ironblood ก็เริ่มเคลื่อนไหว

 

 

Vivian - อย่างที่คุณรู้ Iron Kingdom ปกครองเกาะทางตะวันตกของฝั่งสตอร์ม หรือพูดให้ชัดกว่านั้นมันก็เปรียบเสมือน โบสถ์ แต่ไม่ใช่แค่แนวทางปฎิบัติแบบศาสนาประจำชาติทั่วไป แต่มีไว้เพื่อบงการมวลชน ไม่สิ Iron Kingdom ก็คือรูปลักษณ์ที่แท้จริงของศาสนา Crystalline Orthodoxy ดังนั้น ถ้าอยากจะเข้าใจ Iron Kingdom ก็ต้องเริ่มจาก Crystalline Orthodoxy ก็อุปมาตามชื่อนั่นแหละ Orthodoxy ก็คือ มาร์เธอร์คริสตัลอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา 

 

 

และพวกเขาก็ไม่ถือสาหาความกับพวกนอกศาสนาที่เอาสิ่งของที่เขาเคารพบูชาไปใช้เติมน้ำอ่างน้ำหรือจุดไฟในตะเกียงเล็กๆน้อยๆ

 

 

ที่จริงแล้ว ผู้ศรัทธาจริงๆถือว่า aether เป็นสิ่งที่ผิดบาปต่อหลักศาสนาด้วยซ้ำ และสำหรับพวกเขาแล้ว เหล่า Dominant ถือว่าเป็นเครื่องมือของความชั่วร้าย แม้พวกเขาจะรู้แล้วสามารถนำมาใช้งานได้มากกว่าจะต่อต้านในฐานะศัตรู  

 

 

ประมาณ 80 ปีที่แล้ว ทางตอนเหนือของ Storm คริสตัล Drake’s Eye พังทลายลงไม่นานหลังจากนั้น  ดินแดนทางเหนือผู้สืบสายมาจากราชรัฐโรซาเรียที่ผู้คนต่างไล่ล่าหา aethe แต่ก็ต้องโดน Blight ไล่หลังเช่นกัน และในขณะที่ Shields of Flame ยกทัพขึ้นเหนือ Iron Kingdom ก็สบโอกาสของมัน ไม่กี่วันต่อมาพวกครูเซดก็ยกพลขึ้นบกที่เกาะ Mt. Drustanus ที่อยู่ของคริสตัล Drake’s Breath และยึดมันมาจากมือของโรซาเรีย  

 

 

โรซาเรียพยายามที่จะทวงคืน แต่ก็ไม่เป็นผล ชั้นเดาว่าในช่วงชีวิตของคุณคงเหลือขุนนางที่เคยเหยียบชายฝั่ง Mt. Drustanus ไม่กี่คนหรอก จนสุดท้ายภายใต้อำนาจของพวกจักรวรรดิโรซาเรียก็หมดโอกาสที่จะทวงคืน Ironblood จึงถือครองเกาะนั้นไว้จนถึงทุกวันนี้ 

 

 

และด้วยเหตุนี้ เส้นทางที่พวกเขาต้องการที่จะเดินทัพบนแผ่นดินใหญ่

ก็คือการใช้สปายในการแทรกซึมเมื่อมีโอกาส 

 

 

Vivian - มาร์เธอร์คริสตัลจึงเป็นทั้งสำหรับการเคารพบูชาและเป็นประตูสู่ทวีปแผ่นดินใหญ่ ทำให้ เกาะ Mt. Drustanus เป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพวกมัน ซึ่งซักวันนึง Oethodox Cruasde ก็จะขึ้นแผ่นดินใหญ่เพื่อมาร์เธอร์คริสตัลส่วนที่เหลือ โดยเอาชีวิตเข้าแลก 

 

 

Clive – ซึ่งทั้งปู่และพ่อของผมต่างก็ต้องยอมแลกหมัดกับ Ironblood เพื่อครอบครอง คริสตัล Drake’s Breath มาตลอด ซึ่งหากไม่เกิดเรื่องที่ Phoenix Gate เสียก่อน เราคงได้ล่องเรือไปฟัดกับพวกมันกันแล้ว 

Vivian - แต่กลับโดนพวกมันตลบหลังบุกเมืองหลวงโรซาเรีย ทำลายเมือง ฆ่าพวกชายและจับผู้หญิงไปเป็นเชลย รวมทั้ง จิล ... ชั้นก็ไม่ว่าอะไรนะถ้าคุณอยากจะแก้แค้น ไคลฟ์ 

Clive – เป้าหมายผมคือ ทำลายมาร์เธอร์คริสตัล แค่นั้น แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ

 

 

Clive – เธอพร้อมจะไปรึยัง?

Jill - คิดว่าพร้อมนะ ..

Clive – จิล ตอนที่เธอบอกชั้นว่าจะต้องจัดการอดีตของเธอ ไม่ใช่เรื่องทำลาย คริสตัล Drake’s Breath ใช่มั๊ย?

 

 

Jill - ไม่ใช่ .. ชั้นหมายถึง Imreann ผู้นำของ Crystalline Orthodoxy คนที่ทำให้ชั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ในตอนนี้ และใช่ ชั้นจะฆ่ามัน ..เป็นสิ่งที่ชั้นต้องทำเพื่อทิ้งอดีตที่เลวร้ายไว้ข้างหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้า 

 

 

Jill - และชั้นคงไม่มีวันทำได้ถ้าไม่มีนายอยู่เคียงข้างชั้น

Clive – แน่นอน ชั้นอยู่เคียงข้างเธอเสมออยู่แล้ว

Jill - ชั้นก็เช่นกัน เราจะทำลายคริสตัล Drake’s Breath ด้วยกัน ซึ่งหวังว่า ซิด คงกำลังมองเราอยู่นะ ..

Clive – เราจะทำให้เขาภูมิใจ 

 

 

 

 

                   📗 SideQuest - A Culinary Pilgrimage 

 

 

Clive – ชั้นว่าชั้นไม่ได้ให้นายมาเป็น นักวิชาการ นะ Yvan ?

Yvan -  อ่อ เนี่ยหรอครับ นี่มันคือคำภีร์แสวงบุญทางด้านอาหารของวาลิสเธียเลยล่ะครับ ผมยืมมาจากห้องสมุดของที่นี่แหละครับ เท่าที่อ่านดู ดูเหมือนไม่มีสิ่งมีชีวิตอะไรที่กินไม่ได้เลยในวาลิสเธีย 

Clive – ถ้าจะให้ชั้นลองพวกเปิบพิสดารล่ะก็ไม่ล่ะนะ ขอบคุณ

Yvan -  ไม่เอาน่า ความรักในการผจญภัยของคุณหายไปไหนหมดเนี่ยซิด? ผมพูดตามตรง แค่เห็นสูตรอาหารพวกนี้ก็อยากจะคว้ามีดออกไปหันเนื้อแล้ว ตั้งแต่เมนูย่างไปจนถึงขนมหวาน เล่มนี้มีหมดเลย ผมล่ะอยากทำมันออกมาเป็นอาหารจริงๆซักทีนะ 

Clive – ถ้างั้นชั้นก็ขออวยพรให้นายสมหวังก็แล้วกันนะ 

Yvan -  อ่า แต่ผมไม่ใช่นักล่านี่ครับ แค่หนอนถ้ำตัวเล็กผมก็เกือบตายแล้ว แต่คุณได้ คุณช่วยทำให้เมนูเหล่านี้กลับมามีชีวิตอีกครั้งได้นะ นะๆ?

Clive – แม้ในใจลึกๆชั้นจะอยากบอกว่า ไม่ แต่ก็ เอาเถอะ ได้ ชั้นจะช่วย สรุปนายอยากจะทำเมนูอะไรว่ามา

Yvan - เยี่ยมเลย !! ขอบคุณครับ เอ่อ ผมอยากทำ Chancer’s Stew ครับ ในหนังสือบอกครั้งนี้เมนูนี้เป็นที่ชื่นชอบของนักยิมแห่ง Oriflamme แม้แต่ผู้เขียนก็บอกไม่เคยได้ชิมมาก่อนด้วย ปัญหาคือ สูตรอาหารนี้ส่วนผสมหลักยังไม่ชัดเจนนัก มันเขียนว่า มันเป็นสัตว์ประหลาดที่ช่วยทำให้คนทำอาหารได้ง่าย ใช้ทำน้ำซุปมากกว่าเอาเนื้อมาใช้ และมันมี สีม่วงจนน่าเกลียด ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไร? 

Clive – แล้วหนังสือบอกอะไรอีก?

Yvan - บอกว่า มีเพียงดอกไวโอเล็ตที่หอมหวานที่ผลิบานบนดอกกุหลาบ 

Clive – ดอกกุหลาบ ..Roses .. Rosaria รึเปล่า? มีพ่อค้าเนื้อที่ Martha’s Rest ที่ชั้นรู้จักอยู่ เอาไว้เดี๋ยวจะลองไปถามให้ 

 

 

Objective > เดินทางไปยัง Martha’s Rest .....

 

 

Flesher - อ้า ยินดีต้อนรับครับคุณลูกค้า ช่วงนี้เนื้ออะไรๆก็จะหายากหน่อย แต่ถ้า Gil ถึงพอก็อาจพอช่วยได้นะ คุณกำลังหาอะไรอยู่หรอ?

Clive – เนื้อที่มี สีม่วงจนน่าเกลียด แบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน ผมมีข้อมูลมาแค่นี้แหละ โทษที 

 

 

Flesher - ม่วงจนน่าเกลียด อืมม เหมือนผมเคยได้ยินคนพูดถึงในสมัยเด็กๆ ผมว่าคุณกำลังหมายถึง หางแมงป่อง มันจะม่วงจนน่าเกลียดตอนที่ต้มมันเสร็จ เขาเลยพูดถึงมันแบบนั้น สมัยก่อนในยุคสงครามมีอะไรกินได้กินกันหมดนั่นแหละ โชคดีที่สมัยนี้ไม่มีแล้ว แล้วก็คงไม่มีใครเอาของแบบนั้นมาขายด้วย

Clive – แล้วมีแมงป่องที่ใกล้ๆแถวนี้บ้างมั๊ยครับ?

Flesher - ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นแถว Three Reeds นั่นแหละครับ 

 

 

Objective > เดินทางไปยัง Three Reeds .....กำจัด Lowland Scorpions ... แล้วนำเอาคีย์ไอเทม Unwonted Violet กลับไปให้ Yvan

 

 

Yvan - ไงๆ คุณได้วัตถุลับของผมมารึเปล่า? 

Clive – นี่ไง น่าจะใช่นะ 

Yvan - ว้าววว ไหนดูสิ ...ผมจะทำยังไงกับมันดี ถ้ามันไม่ใช่ล่ะ ดูทรงแล้วน่าจะมีพิษแน่เลย?

Clive – แล้วถ้านายคิดผิดล่ะ ถ้ามันเป็นเนื้อ ม่วงเกิ๊น อะไรนั่นจริงๆอ่ะ?

Yvan - อืมมม งั้นใส่ลงหม้อให้มันจบๆไปจะได้รู้กันไปเลย รอแปบนะครับ 

 

 

Yvan - ผมขอแนะนำให้รู้จักกับ Chancer’s Stew เมนูลับอันเก่าแก่ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งจากเถ้าถ่านแห่งความสับสน !!  เอาช้อนมาเลยซิด กินตอนร้อนๆเลยจะอร่อยมาก

Clive –  เอ่อ ... ยังไม่หิวน่ะ นายเอาก่อนเลย ... 

Yvan - ถ้าผมฟาดจนเรียบแล้วจะมาเสียดายทีหลังไม่ได้นะ !!

 

 

Yvan - อ้วกกกกกกกกก !!!!  รสชาติเกินบรรยายยยย เหมือนกำลังจะจมโคลนตายยยย !!!  …แต่ถึงอย่างนั้น ..พอผ่านไปแปบนึง รสชาติมันก็ซับซ้อนขึ้น ..... ต้องจดเอาไว้ 

 

 

Yvan - พอเริ่มฟื้นตัวจากรสชาติของมันแล้ว ผมรู้สึกว่าไม่เคยสัมผัสรสชาติที่ดีขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆนะ ขอบคุณมากซิด ! ผมจะต้องแบ่งปันเมนูพิเศษนี้ต่อ และจะไม่ยอมพักจนกว่า เมนู Chancer’s Stew จะตั้งอยู่หน้าของผู้คนในที่หลบภัยแห่งนี้ทุกคน !! ถ้าเกิดมันปังขึ้นมาสงสัยต้อเพาะพันธ์แมงป่องไว้ทำเองซะแล้ว อิอิ 

 

 

 

 

                   🔨  Special Quest: Blacksmith's Blues 🔨

 

 

August - อ่อ ไคลฟ์ เจอคุณพอดีเลย 

Clive –  มีอะไรหรอครับ?

August - ก็ Blackthorne เพื่อซี้ผมอ่ะดิ เขาดูไม่เป็นตัวของตัวเองเลยช่วงนี้ แต่ถ้าจะให้พูดตรงๆ เขาก็เป็นแบบนี้มาซักพักแล้วล่ะ ปกติถ้าเขารมณ์ บ่จอย เราก็แค่ดื่มกันแก้วสองแก้วเดี๋ยวเขาก็หายแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ มันมีอะไรบางอย่างที่รบกวนจิตใจเขา ถามยังไงก็ไม่ยอมบอก มันทำให้เขาหมดไฟในการทำงานไปด้วยนี่สิ ถ้าเราทั้งคู่ลองไปถามเขาตรงๆเลย และยิ่งเขาก็เคารพคุณอยู่ เราอาจได้คำตอบก็ได้นะ คุณว่าไง?

Clive –  ก็ได้ ถ้าคุณคิดว่าผมช่วยได้อ่ะนะ

August - ถ้าเขาเห็นเราเข้าไปหาพร้อมกันเดี๋ยวเขาจะรู้ว่าผมมาบอกคุณ เอาเป็นว่า ผมเขาไปก่อนแล้วกัน คุณก็ค่อยตามเข้าไปที่ร้านตีอาวุธของเขาแล้วกัน

 

 

Blackthorne - ตอนแรกก็ August แล้วนายก็ตามมาอีกไคลฟ์ ตกลงนายสองคนจะเอาไงกับชั้นแน่ !?

Clive –  August ห่วงว่าคุณจะมีอะไรที่อึดอัดใจอยู่ในตอนนี้ บางทีคุณอาจจะบอกผมบ้าง เราอาจจะช่วยได้นะ 

Blackthorne - เอาจริงดิ? ชั้นบอกนายแล้วใช่มั๊ย August? ว่าอย่ามายุ่งกับเรื่องของชั้น แล้วดูนายทำสิ ?

August - โธ่ เพื่อน ชั้นก็แค่อยากจะช่วยน่ะ มีอะไรไม่สบายใจบอกกันบ้างก็ได้? หรือบอกเขาก็ได้ นายไม่รู้หรอกถ้าได้ระบายออกมามันจะทำให้นายดีขึ้นนะ ก็แค่พูดมันออกมา ได้โปรดเพื่อน ชั้นห่วงนายนะเว้ย 

Blackthorne - หุบปากไปเลยนายน่ะ ก็บอกไม่มีอะไร งี่เง่าฉิบเป๋ง !! มันไม่ใช่เรื่องที่ชั้นจะไปรบกวนใครที่ไหนล่ะ !!

Clive –  ทำไมคุณถึงบอกเราไม่ได้หรอ?

 

 

Blackthorne - Charon กับชั้น กำลังตกลงกันว่า เอ่อ.. มันเกี่ยวกับเรื่องการแข่งขันเรื่องอาวุธและชุดเกราะเจ๋งๆ อะไรทำนองนั้น เมื่อวันก่อนเธอโชว์พวกชุดเกราะของเธอให้ชั้นดู มันยอดเยี่ยมมาก เป็นเครื่องหนังระดับ Masterpiece ที่ทั้งเบาและแข็งแกร่งกว่าที่มันควรเป็น ....เมื่อเทียบกับที่ชั้นมีในตอนนี้ เฮ้ออ...ต่างกันลิบลับเลย ชั้นควรซื้อไอ้วัตถุดิบบ้านั่นตั้งแต่แรก แต่ก็มัวแต่ทำหยิ่ง แล้วพอตอนนี้ ... ทุกครั้งที่จับค้อนมันก็รู้สึกว่าขั้นมันเป็นช่างตีเหล็กที่กระจอกจริงๆเลย ไง สบายใจกันรึยัง ไงฟังแล้วช่วยอะไรได้มั๊ยล่ะ เอาล่ะ ไสหัวไปได้แล้ว !!

 

 

August - ที่ผ่านมาชั้นนึกว่า Blackthorne เต็มไปด้วยพลังที่รุนแรงเหมือนพายุที่มีเมฆที่เต็มไปด้วยเบียร์ซะอีก ใครจะคิดว่าจะมาคิดมากน้อยใจกับไอ้ เครื่องหนังโง่ๆนั่นได้  

Clive –  Blackthorne ภูมิใจในผลงานของเขาเสมอนั่นแหละ เรื่องแบบนี้มันก็เหมือนกับตั้งคำถามกับตัวเองเรื่องความมั่นใจในตัวเอง ผมคิดว่าถ้าไม่ช่วยเขาอะไรๆมันจะเลวร้ายลงแน่ เพราะมันจะส่งผลต่องานของเขาด้วย เขาบอกว่า เขาควรจะซื้อชุดเกราะตัวนั้น บางทีเราควรตามหาพ่อค้าคนนั้นนะ? อย่างแรกคงต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมกับป้า Charon ดูก่อน 

 

 

Clive –  Blackthorne บอกว่าคุณเพิ่งได้เครื่องหนังซึ่งเป็นสุดยอดงานฝีมือมา

August -และเขาก็หงุดหงิดมากตั้งแต่เห็นมัน เราก็เลยอยากจะมาหาซื้อให้เขาอ่ะครับ 

Charon - เสียใจด้วยนะ ขายหมดแล้ว ไม่คิดว่า Blackthorne จะสนใจนะเนี่ย? เจ้าหมอนั่นทำออกมาได้ดีจริงๆนั่นแหละ ช่างหนังคนนั้นแม้จะดูเป็นคนแปลกๆหน่อยก็เถอะ เรื่องของเรื่องคนที่สั่งให้เขาทำดันไม่ยอมจ่ายเงินเขา ชั้นก็เลยรับชื้อไว้เองหมด ในราคาที่ยุติธรรมด้วย

Clive –  แล้วเราจะไปหาช่างหนังคนนั้นได้ที่ไหนครับ?

Charon - ก็อย่างที่บอก เขาเป็นคนแปลกๆ ไม่มีหน้าร้านอะไรหรอก แถมเป็นคนที่ไม่ไว้ใจพวกนักล่าอีก ก็เลยออกไปล่าสัตว์ที่จะมาใช้เป็นวัตถุดิบด้วยตัวเองตลอด ตอนนี้ก็คงตามรอยสัตว์ไปตามรังของมันล่ะมั้ง เห็นว่าผลงานต่อไปของเขาคือ Griffinhide Greaves นะ

 

 

August -เออ ชั้นเห็นรายชื่อ Griffin อยู่ใน Hunt Board พอดีเลย พวก Cursebreakers กำลังวางเดิมพันว่าใครจะปราบมันได้พอดีเลย เหมือนมันจะอยู่ที่ไหนซักแห่งใน Sanbreque หรือ Caer Norvent นี่แหละ ไม่แน่เจ้าช่างทำหนังคนนั้นอาจกำลังไปล่ามันอยู่ก็ได้ นายลองแวะไปดูสิ เรื่องล่ามันคงต้องยกให้นายนะไคลฟ์ ส่วนชั้นจะลองไปถามพ่อค้าในตลาดดูเผื่อใครจะรู้ที่อยู่ของเขา

 

 

Objective >เข้าไปถาม Nektar ที่ Hunt Board เกี่ยวกับ Griffin จนได้รายละเอียดและตำแหน่งของ Dozmare มา

 

 

 เดินทางไปที่จุดวาร์ปไป Caer Norvent River Gate >>>> 

 

 

 

                         Boss - Notorious Mark: Dozmare

 

 

Clive –   คุณไม่เป็นไรนะ?

Kamil - ต้องบอกว่า รอดตายแล้วถึงจะถูก เจ้ากริฟฟินนั่นมันพุ่งมาจับผมไว้ก่อนจะยิงธนูเสียอีก ดีนะที่แอบในพงหญ้าทันจนมันมองไม่เห็นไม่งั้นคงตายไปแล้วล่ะ 

Clive –  ก็เกือบอ่ะนะ 

 

 

Kamil - ผมชื่อ Kamil เป็นช่างทำหนังผู้ต่ำต้อย ถ้าคุณไม่ได้กลิ่นมันจากตัวผมอ่ะนะ

Clive –  แต่เท่าที่ผมได้ยินมาคุณไม่ได้ต่ำต้อยนะ คุณจำของที่ขายให้กับแม่ค้าที่ชื่อ Charon ได้มั๊ย 

 

 

Kamil - โอ้ อย่างเธอนี่คงจะลืมยากอ่ะนะ นางเสื้อกเกราะจากผมหลังจากที่ผู้ซื้อของผมบินหนีไม่ยอมจ่าย ค่อนข้างชินแล้วล่ะสำหรับผม แม้ว่าค้าขายกับเธอจะแทบไม่ได้กำไรเลยก็เถอะ แต่ถ้าไม่ได้เธอซื้อไว้ก็คงขาดทุนยับ เดี๋ยวนะ เธอส่งคุณมาให้เอาเงินคืนงั้นหรอ?

Clive –  เธอไม่ได้ส่งผมมาหรอก .. คือ เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ................

 

Kamil - ว้าว นี่เล่นเอาผมปลื้นเลยนะเนี่ย

Clive –  ก็สมควรอยู่ เพราะเขาเป็นนักตีเหล็กชั้นยอดที่ไม่ค่อยจะชมใครเท่าไหร่หรอกนะ 

Kamil - ส่วนใหญ่ช่างตีเหล็กก็จะอี้โก้สู้กันทุกคนแหละ ยากที่จะมีใครที่จะมายกย่องงานฟอกหนังแบบของผม และนึกภาพไม่ออกเลยว่านักดาบที่เก่งกาจเช่นคุณ ดาบของคุณก็คือเหล็กที่เขาตี สุดยอดไปเลย จริงๆผมก็อยากจะช่วยเพื่อนที่เป็นช่างฝีมือเหมือนกันนะ แต่ว่า ...เอาเถอะ ก็ได้ๆ ผมว่าคุณควรจะเอาสิ่งนี้ให้เขานะ

Clive –  มันคือ ?

Kamil - หนังแบบเดียวกับที่ผมทำชุดเกราะขายให้ Charon น่ะครับ ถ้าช่างตีเหล็กคนนั้นมีฝีมือจริงๆเขาจะรู้เองแหละว่ามันคืออะไร

Clive –  แน่ใจนะ?

Kamil - นี่ คุณช่วยชีวิตผมนะ และต้องขอบคุณด้วยซ้ำที่ทำให้ผมกลับบ้านพร้อมหนังกริฟฟินเท่าที่จะยกไปไหว ผมจะโกหกคุณเพื่อ?   ใจจริงก็อยากจะสอนเขาทำมันด้วยเลยนะแต่ติดตรงเรื่องกฎความลับทางการค้าเนี่ยสิ 

Clive –  แล้วผมจะบอกก็แล้วกันนะว่าเขาจะทำมันออกมาแบบไหน 

Kamil -ถ้างั้นก็จะขอบคุณมากๆเลยล่ะ ผมต้องขอตัวก่อนนะมีงานสนับมือที่ต้องรีบทำน่ะครับ แล้วก็ฝากขอบคุณช่างตีเหล็กคนนั้นด้วยนะที่ชอบงานผม

Clive –  ได้เลย และก็ขอบคุณคุณด้วยนะ 

 

 

The Hideaway >>>

 

 

August - ไง ไคลฟ์ ? เจอเขามั๊ย?

Clive –  เจอสิ ...และเขาก็มอบสิ่งนี้มาให้คุณพร้อมแสดงความนับถือด้วย 

Blackthorne - นี่นายล้อเล่นใช่มั๊ยเนี่ย?

Clive –  เขาบอกว่า ต้องขอโทษด้วยที่สอนให้คุณทำไม่ได้ แต่ถ้าคุณมีฝีมือจริงๆคุณจะรู้เองว่าจะทำมันออกมายังไง

Blackthorne - อ่า นั่นเป็นความลับของเขาสินะ เจ้าเลห์เอ้ย เขาทอให้เลเยอร์มันไขว้กัน ไม่แปลกที่มันจะทนขนาดนี้ และน้ำมันที่ใช้เคลือบหนังก็ไม่ธรรมดาซะด้วย เป็นงานที่ดีมาก ดีกว่าที่คิดเยอะเลย 

August - เรอะ? แต่สำหรับชั้นดูยังไงก็แค่หนังธรรมดา แต่ถ้ามันทำให้นายแฮปปี้ได้ชั้นก็โอเคแล้ว แล้วนี่นายจำชื่อเขาได้มั๊ยเนี่ย ไคลฟ์?

Clive –  Kamil . ถ้าจำไม่ผิดนะ 

August - นั่นไง ว่าแล้ว!! มีช่างทำหนังไม่กี่คนในอณาจักรนี้หรอกนะที่ออกล่าด้วยตัวเอง ถึงว่าสิ ชั้นถามที่ไหนก็เจอแต่ชื่อของเขา เห็นว่าเขาเป็นช่างทำหนังมาจาก Tabor อ่ะนะ ยังไม่รวมประวัติที่ยาวเหยียดของตระกูลเขาอีกที่พวกพ่อค้าเล่าให้ฟังอีกเพียบ 

Clive –  งั้นเราก็เก็บเป็นความลับต่อไปก็แล้วกันนะ 

 

 

Blackthorne - ฟังนะ ขอโทษด้วยที่ชั้นงี่เง่าใส่พวกนาย และทำให้พวกนายต้องลำบากอีก จริงๆชั้นควรเงียบไว้จะดีกว่า แต่ยังไงซะก็ต้องขอบคุณที่ทำให้ชั้นเจอเขา สิ่งนี้ทำให้ชั้นมีกำลังใจมากขึ้นเยอะเลย

August - มันไม่ใช่ไอเดียชั้นหรอกนะ ไอเดียของไคลฟ์นู้น เขาบอกว่ามันจะเวิร์ค

Clive –  ดีใจที่ได้คุณคนเดิมกลับมานะ Blackthorne

 

 

Blackthorne - คงไม่คิดว่าชั้นจะมองงานแบบนี้ออกสินะ แต่ชั้นพอจะรู้แล้วว่าทำไมเขาต้องออกล่าด้วยตัวเอง เขารู้ดีว่าเขาต้องการสัตว์ประเภทไหน และนั่นเป็นวิธีที่เขาทำมันเรียงซ้อนกันอย่างดงาม และไม่ต้องให้ชั้นบอกหรอกนะว่า น้ำมันที่ใช้ทาหนังนี่มันเป็นยังไง แต่ชั้นคิดว่าชั้นสร้างอะไรดีๆออกมาได้ มันจะเป็นอะไรที่พวก Cursebreaker จะได้ไม่มีปัญหาในการดูแลมัน เอาล่ะ ขี้เกียจพูดแล้ว เริ่มงานกันเลยดีกว่า

 

 

Clive –  ดูเหมือนเราคงไม่ต้องไปหาช่างตีเหล็กคนใหม่แล้วสินะ 

August - แถมทำให้คนเดิมดีเหมือนใหม่ด้วยนะ เอาล่ะ เสร็จงานของเราแล้ว ผมมีงานต่อทำอีก ขอบคุณนะไคลฟ์ที่ช่วยพาเพื่อนผมกลับมา

 

 

เมื่อจบภารกิจแล้วจะได้ Drakeslayer’s Belt Design Draft มาซึ่งก็คือ สูตรหรือแบบแปลนสำหรับสร้าง Drakeslayer’s Belt

 

 

ซึ่งตอนนี้จะยังสร้างไม่ได้ เพราะขาดวัตถุดิบที่ต้องใช้อยู่ 1 อย่างนั่นคือ Electrum ที่เป็นรางวัลสำหรับการสังหาร Notorious Mark: Severian ที่เป็นเป้าหมายของ Hunt Board ที่จะปลดล็อคให้ล่าหลังจบภารกิจหลัก "Fire and Ice"

 

 

 

                                    🔶 Fire and Ice 🔶

 

 

                            The Boiling Sea 

                             Western Storm 

 

 

Clive –  เทคนิคเจ๋งนี่ แช่แข็งและละลายน้ำทะเลเพื่อสร้างหมอก เธอหัดใช้พลังในแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย?

 

 

Jill - อาจารย์สอนให้ชั้นทำเพื่อให้พวกครูเซดใช้ประโยชน์ตอนนำกองเรื่อออกทะเล เพื่อหลีกเลี่ยงการมองเห็นของศัตรู .... ซี๊ดด !!

 



Clive –  เป็นอะไรรึเปล่า?

Jill - ชั้นไม่เป็นไร ...

Clive –  ไม่ .. ชั้นว่าเป็นนะ ..

Jill - นี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่จะกลับไปที่นั่น อาจเป็นโอกาสเดียวที่จะได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ยังไงชั้นก็จะต้องทำ ไม่ว่าจะต้องสูญเสียแค่ไหนก็ตาม 

Clive –  เข้าใจแล้ว 

 



Jill - นั่นยังไงล่ะ มาเธอร์คริสตัลของ Iron Kingdom 

Clive –  Drake’s Breath ……

 



                               Drake’s Breath 

                            The Iron Kingdom 

 

 

Clive –  กระแสน้ำที่รุนแรง รอบเกาะมีแต่หินแหลมคม แถมมี artherflood อีก เกาะนี้เสมือนเป็นป้องปราการโดยธรรมชาติดีๆนี่เอง 

 

Jill - แต่ความปลอดภัยนี่แหละทำให้ตายใจ .. ปล่อยให้เรือนั่นลอยตามน้ำไปเลยจะได้ไม่มีใครเห็น 

Clive –  อืมม เราไปกันเถอะ 

 

 

Jill - วิหารแห่งคริสตัลศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้านในภูเขา ถ้าเดินตามทางเดินนั่นไปจะเข้าไปที่ประตูหลังได้ 

Clive –  แม้มันจะอยู่ในเงื้อมมือของ Ironblood มานานแต่ครั้งนึงมันเคยเป็นของเรา 

 



Jill - ก็ไม่ต่างกับชั้น เกือบ 13 ปีแล้วที่ก้อนหินก้อนนี่เป็นเสมือนบ้าน จนรู้ความลับของมันเป็นอย่างดีเลยล่ะ เส้นทางนี้ถูกทิ้งร้างหลังจากเกิด artherflood พวกมันก็ไม่มีเวรยามคอยป้องกันอีกเลย

 

 

Clive –   พวกมันเป็น Akashic กันหมดเลยเนี่ย!? 

Jill - เกิด artherflood กระจายไปทั่ว เมื่อก่อนก็ไม่เคยเลวร้ายขนาดนี้ วิธีเดียวที่จะผ่านพวกมันไปได้ก็คือกำจัดพวกมัน 

 

Clive –  แล้วแผ่นดินไหวนี่มันเกิดอะไรขึ้นหรอ?

Jill - มันก็เกิดขึ้นตลอดนั่นแหละ เป็นเรื่องปกติของที่นี่ อย่าไปใส่ใจเลย ขึ้นไปอีกหน่อยพอผ่านสวนรกขชาติเก่าก็จถึงทางเข้าถ้ำแล้ว 

 



Jill - ดูที่นี่สิ ...แหยะมากๆ

Clive –  เดี๋ยวนะ นี่มัน ?

 



 

             Clive –  ไม่มีอะไรที่โล่แห่งโรซาเรียจะรับมือไม่ได้สินะ 

 

 

                           BOSS - Akashic Morbol 

 

 

                               Mt. Drustanus 

 

 

Clive –  ที่นี่อย่างกับเตาหลอมไม่มีผิดเลย ...

Jill - เรากำลังเข้ามาด้านในภูเขาไฟ ไม่ร้อนก็แปลกแล้ว 

 

 

Clive –  สั่นขนาดนี้นี่ชั้นควรต้องกังวลมั๊ยจิล?

Jill - ก็อาจจะนะ เหมือนมันจะสั่นแรงกว่าเดิม มีบางอย่างผิดปกติ 

 




                     Jill - รีบไปก่อนที่มันจะละลาย !!

 

 

Clive –  เฉียดฉิวเลย ..

Jill - คนเราก็พลาดกันได้น่า ...ชั้นจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว

Clive –  โอเค ... ไม่ทำแล้ว 

 



 Jill - เราใกล้จะถึงห้องสวดแล้ว   
  Clive –  อะไรอีกวะเนี่ย !?

 

 

Jill - ปีศาจตัวนึง ที่มันไม่เคยออกมาจากลาวาเลย ปกติมันจะรักสันติ แต่ทำไม่คราวนี้มันถึงโจมตีเราเนี่ย?

Clive –  พูดแบบไม่รู้ๆเลยนะ ชั้นว่าภูเขาไฟลูกนี้กำลังจะระเบิดแน่นอน 

 

 

                           BOSS - Flame Lizard 

 

 

Clive –  เรียบร้อย 

Jill - อ่า ...

Clive –  เธอบาดเจ็บหรอ?

Jill - แค่ร้อนน่ะ 

 

 

Clive –  เอ้านี่ น้ำ 

Jill - ขอบคุณ 

Clive –  หวังว่าที่เพื่อนเราทยอยออกมาสร้างความป่วนปวนโครมกันระหว่างทางแบบนี้พวกทหารยอมคงไม่ได้ยินนะ 

 

 

Jill - ประตูทางเข้าห้องด้านในอยู่ข้างบนนั่นไง มันจะพาเราเข้าไปยังวิหารคริสตัลศักดิ์สิทธิ์ …ชั้นต้องจบเรื่องนี้ไคลฟ์ ก่อนที่ความร้อนจะจบชั้นแทน

Clive –  .เข้าใจแล้ว 

Jill - พอเราเข้าไปที่ Comraich ซึ่งอยู่ข้างๆที่พักของพวกหญิงรับใช้ มันเป็นเสมือนรังที่จอแจที่สุด

Clive –  นั่นหมายถึงเราจะลอบหลบสายตาพวกมันเข้าไปยากขึ้นสินะ 

Jill - ไม่เป็นไร ที่นั่นมีคนที่ชั้นอยากเจอมากๆอยู่ด้วย 

 

 

                         Clive –  ทางสะดวก เข้ามา

 



                     Jill - ห๊ะ!? เลดี้ Marleigh นี่ชั้นเองค่ะ

 

 

Marleigh - พระเจ้า ..! จิล นี่เธอจริงๆหรอเนี่ย? 

Jill - นี่ชั้นจริงๆ เลดี้ Marleigh

Marleigh - เราคุยที่นี่ไม่ได้ เอาล่ะ ตามมาทางนี้ค่ะ

 

 

Marleigh - ดีใจจริงๆที่คุณปลอดภัย 

 Jill - เหมือนกันค่ะ

Marleigh - แล้วนี่จะกลับมาที่นี่อีกเพื่ออะไร? เธอโง่รึเปล่ายัยหนู? หรือว่าเบื่อกับอิสระภาพของตัวเองแล้ว?

 

 

Jill - ต้องขอโทษด้วยนะคะ ชั้นกลับมาก็เพราะ ต้องทำในสิ่งที่ไม่ได้ทำ บอกชั้นหน่อยว่า ไอ้สังฆราช มันอยู่ที่ไหน?

Marleigh - เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมามันเพิ่งเข้าไปใน Comraich เพื่อทำพิธีขอพรแห่งคริสตัล 

Jill - คุณหมายความว่า ไอ้ปีศาจนั่นมัน ...

 

 

Jill - ไคลฟ์! เราต้องรีบไปที่วิหารคริสตัลศักดิ์สิทธิ์กันแล้ว เดี๋ยวนี้เลย!!

 

 

Jill -เลดี้ Marleigh คุณต้องหนีออกจากที่นี่ เก็บของแล้วไปได้เลย 

Marleigh - ฟังนะจิล ....

 

ทหารครูเซดเดอร์ - ทางนี้ เร็ว !!!

Clive –  เรามีแขกมาเยี่ยมแล้ว 

 

 

Marleigh - ทางนี้ !! ไปตามทางเดินนี้ไปมันจะตรงไปยังห้อง Comraich ได้ รีบไปได้แล้ว เร็ว!!

 

 

Jill - ขอบคุณนะคะ คุณให้ความกรุณาชั้นมาตลอด เหมือนแสงในยามมืดมิด ดูแลตัวเองด้วยนะคะ ได้โปรด ...คุณควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ ชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข สัญญานะคะ ชั้นต้องไปแล้ว ..

 

 

            Marleigh - ชั้นสัญญาถ้าเธอจะทำแบบนั้นเหมือนกัน 

 

 

                                     The Oratory 

 

 

Jill - มาเถอะไคลฟ์ เราใกล้จะถึงห้อง Comraich แล้ว 

Clive –  มีคนรอต้อนรับเราเพียบเลยด้วย

Jill - ที่ผ่านมาเราได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นพอแล้วนะ 

 

 

Jill - ไคลฟ์ มีเรื่องนึงที่นายควรจะรู้ไว้ ชั้นได้เห็นไอ้สังฆราชมันทำในสิ่งที่ไม่ควรมีใครได้เห็น และชั้นสาบานว่ามันต้องตายด้วยมือชั้นเท่านั้น 

Clive –  ชั้นเข้าใจ เธอก็เผชิญหน้ากับปีศาจของเธอ ชั้นก็เผชิญกับปีศาจของชั้น 

 

 

                                The Comraich

 










                             Jill - Imreann !!!!

 

 

สังฆราช Imreann - Dominant แห่ง Shiva !!  เจ้ากลับมาเพื่อไถ่บาปกับความผิดที่เจ้าก่ออย่างงั้นรึ?

 

 

Jill - หลายปีที่ผ่านมา ชั้นทำตามคำสั่งของแก เพื่อสู้ในสงครามของพวกแก 

 

 

ทั้งหมดก็เพื่อปกป้องเด็กๆที่แกพรากพวกเขามาจากครอบครัว เหมือนกับชั้น!

 

 

Jill - แล้วแกปฎิบัติต่อพวกเขายังไงหลังจากที่พรากเขามา?

 

 

Jill - แกจับพวกเขาล่ามโซ่ แล้วเชือดคอพวกเขา !!

Clive –  ไอ้ปีศาจเอ้ย !!

 

 

สังฆราช Imreann - ฮ่าๆๆ วิญญาณของพวกแกมันแปดเปื้อนไปด้วย aether ข้าก็แค่ชำระล้างความเสื่อมทรามให้พวกเขาก็เท่านั้นเอง 

 

และข้าได้ชำระบาปให้พวกเขาแล้วตามประสงค์ของพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ กลับเนื้อกลับตัวเสียเถิด เจ้าสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งหลาย !!!

 

สำหรับสัตว์ประหลาดนอกรีตอย่างแก หากบังอาจเข้ามามายังห้อง Comraich อันศักดิ์สิทธิ์นั้นจะถือว่าเป็นความผิดที่ต้องรับโทษถึงตาย

 

 

Jill - ใช่ แกพูดถูก ชั้นมันสัตว์ประหลาด และวิญญาณของชั้นก็เป็นสีดำ ..แม้จะไม่ใช่เพราะผลของ aether ก็ตาม แต่ความชั่วร้ายของคนแบบแกที่ทำให้หัวใจของชั้นถูกปิดกั้นและจมอยู่ในความมืดมิด ชั้นก็ต้องให้แกชดใช้เหมือนกัน

 

... นี่คือการไถ่บาปของชั้น เพื่อที่ชั้นจะไม่เป็นสัตว์ประหลาดของแกอีกต่อไป และชั้นก็จะไม่ยอมให้แกสร้างสัตว์ประหลาดตัวไหนขึ้นมาอีก !

 

 

สังฆราช Imreann - ฮ่าๆๆ เป็นแค่สัตว์เลี้ยงจะมาแว้งกัดเจ้านายงั้นหรอ?  เข้ามาเลยนัง Dominant ทำแบบที่แกเคยทำ นังสัตว์ประหลาด!!!

 

 

Jill - ถ้าชั้นสัตว์ประหลาดแล้วแกมันตัวอะไร Imreann!! ชั้นถูกบังคับให้ฆ่าตามคำสั่งของแก แต่ไม่มีวันอีกแล้ว 

 

ครั้งนึงชั้นเคยคุกเข่าให้แก แต่คราวนี้ถึงคราวแกต้องคุกเข่าศิโรราบให้กับชั้น !!!!



 

                         สังฆราช Imreann - ฆ่ามัน !!!




 Jill - ตอนนี้แหละ ไคลฟ์ !!

 Clive –  ได้เลย !!

 




                   สังฆราช Imreann - อะไรกันเนี่ย !!!

 

 








            Clive –  จิล !!!!  … บ้าเอ้ย เราต้องการ Ifrit เดี๋ยวนี้เลย !!

 

 

                       Clive –  เร็วสิ จำให้ได้ว่ารู้สึกยังไง?

 

 

                                Clive –  Ifrit !! 

 

 

                   Clive –  อะไรวะเนี่ย? ทำไมถึงทำไม่ได้ !!?

 




                    Clive –  เธอคงต้านลาวาไว้ตลอดไม่ได้แน่ 

 

 

                           BOSS - LIQUID FLAME

 




                                     Jill - อั๊กกก .....

 

 

Clive –  จิล เธอไม่เป็นไรนะ ??

Jill - ไม่เป็นไร .... นายไปทำลายให้จบๆไปไคลฟ์ ... 

 

 

                           Jill -  ใช้นี่ ทำลายมัน ...

 









Clive –   คุณกำลังดูอยู่ใช่มั๊ย ซิด? ..เราใกล้คำว่าเสรีภาพไปอีกก้าวแล้วนะ

 

 

        สังฆราช Imreann - คริสตัล ..... นั่นพวกแกทำอะไร???

 

 

                                Jill - อ๋อ เราทำลายมันไง 

 

 

สังฆราช Imreann - ห๊ะ? อะไรนะ ..... สัตว์ประหลาด ... นังสัตว์ประหลาด!!!

 

 

                  นังสัตว์ประหลาด!!! แกรู้มั๊ยว่าแกทำอะไรลงไป !!!!!!

 

 

Jill - รู้สิ หลวงพ่อ ก็ชั้นกำลังฆ่าสัตว์ประหลาด!! เพื่อกลายเป็นพวกนอกรีตไง!

สังฆราช Imreann - อ๊ากกกกก !!

 

 

               Jill - ขอให้พรแห่งคริสตัลจงไปพร้อมกับแกก็แล้วกัน ....

 

 

Clive –  มันจบแล้ว จิล 

Jill - อืมม ใช่ 

Clive –  และ Shiva ก็ได้รับเกรียติของนางกลับคืนมาแล้ว ต่อไป ภาระอันยิ่งใหญ่ก็จะตกอยู่กับเธอแล้ว

Jill - ขอน้อมรับด้วยความเต็มใจเลยล่ะ นี่คือบาปที่ชั้นต้องชดใช้ ตอนนี้ชั้นสามารถต่อสู้เคียงข้างนายอย่างเต็มภาคภูมิแล้ว 

 




Jill - ไคลฟ์ดูนั่นสิ ? 

Clive –  ห๊ะ? มันมี Phoenix Gate อีกแห่งนึงหรอเนี่ย?

 

 

Clive –  บ้าเอ้ย !! ที่นี่กำลังจะถล่ม เราต้องรีบหนีแล้ว

Jill - เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยล่ะ 

 






Marleigh - โธ่จิล .... ชั้นทำตามสัญญาแล้ว เธอเองก็ต้องรักษาสัญญาด้วยนะ

 

 

 

 

ในขณะเดียวกัน .......

 



                            The Crystal Road 

                                 Crystal Belt

 

 

Joshua - อั๊ก !! แค่กๆๆๆ 

ผู้ติดตาม - เราไปพักตรงนั้นกันก่อนดีกว่าค่ะ 

 





Joshua - อั๊ก !! แค่กๆๆๆ 

เด็กสาว - คุณเลือดออกนี่ ชั้นมี Tonic ติดมานิดหน่อย นี่ค่ะ

 

Joshua - เอ่อ ชั้นขอบคุณเธอมากนะ จากใจจริงเลย รับรองเลยว่าชั้นยังไม่ตายแน่นอน ได้โปรด เอายาเก็บไว้ให้คนที่เขาต้องการจริงๆจะดีกว่านะ 

เด็กสาว - โอ้ เอ่อ ค่ะ ถ้าคุณต้องการแบบนั้นก็ได้ 

 

 

Joshua - มันทำให้รู้สึกถึงพี่ชายของชั้นขึ้นมาเลย ชั้นกลัวว่าเขาจะกลายเป็นเป้าหมายของ Uptima อีกครั้ง ..แต่ทำไมถีงเป็นตอนนี้หลังจากเงียบหายไปถึง 5 ปี ? … ชั้นคงกักเขาต่อไปได้อีกไม่นานเท่าไหร่หรอก 

ผู้ติดตาม - นายท่าน ...

Joshua - อย่าๆ เดี๋ยวมือเธอจะแปดเปื้อนเปล่าๆ 

 



Joshua - ดูคนพวกนั้นสิ เป็นเหมือนสายน้ำที่ไหลลงทะเล 

ผู้ติดตาม - หรือแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ สำหรับพวก ดูเหมือน Crystalline Dominion จะเป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวท่ามกลางความมืดมิด ที่ต้องเสียบ้านให้กับ Blight มากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ต้องเดินทางของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ในขณะที่คนอื่นๆต้องสูญเสียโชคชะตากับ Dhalmekian ..แล้วตอนนี้คุณกำลังตามหาอะไรที่ Dominion หรอคะ?

 

 

Joshua - Dion Lesage 

ผู้ติดตาม - คุณหมายถึง มกุฎราชกุมารแห่ง Sanbreque หรอคะ?

Joshua - หรืออีกหลายนาม Dion the Bold , Prince of Dragoons , Odin’s nemesis หรือแค่ง่ายๆก็ Bahamut …ชั้นเคยเจอเขาครั้งนึงตอนยังเป็นเด็ก เขาเป็นคนที่กล้าหาญและรับใช้อณาจักรอย่างไม่ย่อท้อมาตั้งแต่สมัยนั้นเลยนะ 

ผู้ติดตาม - และ ... คุณมั่นใจหรอคะว่าเขาจะฟังที่คุณพูด?

Joshua - โลกเรากำลังใกล้ที่จะล่มสลายแล้ว และมือทีมองไม่เห็นก็กำลังทำหน้าที่ของมัน อธิพลของ Ultima กำลังแผ่ขยายไปทั่วอณาจักร รวมถึง Sanbreque ด้วย และถ้าพระองค์เป็นชายคนนั้น ซึ่งชั้นเชื่อว่าเขาเป็น และขอภาวนาให้เขาเป็น คำกล่าวที่จะบอกกับเขาจะทำให้เขาไม่อาจหนีความจริงได้

 

 

Joshua - เฮ้ออ ... ในขณะที่มาเธอร์คริสตัลกำลังแตกสลายไป  เปลวเพลิงแห่งนิรันดร์ก็เริ่มสั่นคลอน และท้องฟ้าสีครามก็เริ่มมัวหมอง ....

 

 

เราโชคดีแค่ไหนที่ได้รับพรแห่งคริสตัล เหมือนนกในกรงทองที่ถูกเลี้ยงดูอย่างดีจนอ้วนพี แต่ตอนนี้ งานเลี้ยงกำลังจะเลิกราแล้ว เราจึงต้องหนีแม้ต้องเจ็บปวดที่ต้องจากบ้านไป แต่นั่นก็คือสิ่งที่เราต้องทำเพื่อเป็นอิสระ 

 

 

Joshua - แล้วอะไรล่ะที่คนเราขาดมันไม่ได้ พรที่นำไปสู่คำสาป หรือ เสรีภาพที่นำไปสู่การสูญเสียจากสิ่งที่เคยมี ? แม้แต่ชั้นเองก็หาคำตอบไม่ได้เหมือนกัน แล้วนายล่ะ ไคลฟ์ ? 

 

 

Joshua - แค้กๆๆๆๆ 

ผู้ติดตาม - นายท่าน เราไปหาที่พักกันก่อนดีกว่า เราคงยังกลับไปยัง Dhalmekian trail ไม่ได้ตราบใดที่คุณยังไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม 

ชั้นรู้ว่าคุณมีหน้าที่ที่ต้องแบกรับ แต่ถ้าสุขภาพคุณแย่ ...

Joshua - ชั้นรู้ ....ขอบใจนะ Jote 

 






 

 

 

ในขณะเดียวกัน .......

 

 

 

                                      Ran’dellah 

                         The Dhalmekian Republic

 

 

 

         ที่ว่าการกระทรวงยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐดัลเมเคียน  

 

 

รัฐมนตรี - ความพยายามของกองทัพที่จะทำลายแนวป้องกันเพื่อเข้ายึดครอง Isles of Ark ล้มเหลวอีกแล้ว 

รัฐมนตรี - ก็เพราะว่ากองเรือของคุณมันไร้ประสิทธิภาพไง จะให้เราถอนกำลังกลับเมืองหลวงหรือเปล่าล่ะ?

 

 

นายกรัฐมนตรี - พอแล้ว!!! ทั้งคู่เลย เราต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าจักรวรรดิตั้งใจฝ่าฝืนกฎหมายซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมของอณาจักร แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายเราก็สูญเสียมากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

Hugo - สถาณการณ์ที่เลวร้ายมักจะอยู่ระหว่าง คุณกับรางวัลของคุณ กองทัพของ Sanbreque ได้แต่นั่งดูเฉยๆในขณะที่พวกคุณเข้าประชิดกำแพงของอณาจักรพวกมัน พวกมันก็คงพยายามจะหาทางออกจากการถูกปิดล้อมนี้  เพราะเชื่อเถอะว่าเสบียงในเมืองหลวงไม่ได้จะเหลือมากแล้ว แล้วผู้ปกครองที่แสนฉลาดของเราไปไหนแล้ว? การติดสินใจเข้าสู่สงครามโดยไม่มีแผนรับมือกับความวุ่นวาย เนี่ยนะ ? ทหารของพวกมันกำลังอดอยากขณะรอคำสั่งจากเจ้านายของมัน 

 

 

รัฐมนตรี - ก็ถ้านายยอมลงสนามพวกเขาก็คงจะอิ่มท้องในตอนค่ำนี้แน่ๆ

 

 

Hugo - ถ้าชั้นลงสนามรบ บาฮามุธก็ต้องลงด้วยเหมือนกัน ที่นี้ก็ฉิบหายหมดทั้งเกาะแน่ๆ แทนที่จะปลดปล่อย Dominant ออกมาสู้ทำให้มันเน่าตายอยู่ในนั้นไม่ดีกว่าหรอ?  เว้นแต่พวกคุณต้องการให้เป็นแบบนั้น 

 

นายกรัฐมนตรี - หากท่านใดมีความรู้หรือวิธีแก้ปัญหานี้ก็เสนอมา เรายินดีจะรับฟัง 

Hugo - อืมมม ... ให้เข้ามา 

 



นายกรัฐมนตรี - นั่นมัน จักพรรดินีแห่ง Sanbreque นี่?  .ตกลงนี่มันหมายความว่าอะไรกันแน่ ลอร์ด Kupka ? 

 

 

Hugo - ก็หมายความว่า ชั้นขี้เกียจให้คำแนะนำกับพวกคุณแล้วยังไงล่ะ

 

 

Hugo - ชอบหน้าตาของพวกนั้นตอนที่คุณเดินผ่านประตูเข้ามาจังเลย เรียกว่างงกันเป็นแถวแบบที่ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองกันเลย ฮ่าๆ พูดตรงๆแม้แต่ผมก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าคุณจะตอบรับคำเชิญของผมเหมือนกันนะ

 

 

Hugo - อืมม เป็นข่าวที่เล่นเอาช็อคเหมือนกันนะ ที่ว่า ซิด ไม่ใช่ลูกโสเภณีแต่กลับเป็นลูกของจักพรรดินี  ลูกชายสุดที่รักของคุณ ไคลฟ์ 

 

 

Anabella - ไร้สาระ ให้เอาข่าวปลอมมาปล่อยให้คุณแบบนี้เนี่ย? ชั้นไม่เคยใช้เวลาร่วมกับพวกอาชญากรแม้แต่เพียงวินาทีเดียว นอกจากตอนประหารมันในคุก ชั้นมาที่นี่กับลูกชายของชั้น ไม่ใช่เพื่อฟังข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริงของคุณ แต่เพื่อหาข้อยุติระหว่างอณาจักรของเราต่างหาก

 

 

Hugo - ได้อยู่แล้ว ตราบใดที่คุณยอมรับที่จะทำตามเงื่อนไขของเรา ซิด มันพรากคนๆนึงที่มีความหมายต่อผมไป ผู้หญิงที่ชื่อ Benedikta ผมสาบานว่าจะให้มันได้รับความตายไม่ต่างกัน เรื่องนี้มันจะ ...ทำให้คุณไม่สบายใจ แต่คุณจะเสียหายอะไร หนำซ้ำยังช่วยกำจัดรอยเปื้อนบนพระนามอันสูงส่งของคุณด้วย และเพื่อเป็นการตอบแทน ผมจะปล่อย Sanbreque ให้อยู่ในเงื้อมมือของคุณ ท่านจักพรรดินีแห่งจักรรวดิแซนเบรก  

 

 

Anabella - และทั้งหมดก็เพื่อความรักของนางคณิกาธรรมดาๆคนนึง จะ Dominant หรือไม่ ก็ไม่สามารถหลีกหนีการให้กำเนิดได้ และสัตว์ร้ายก็ต้องอยู่กับสัตว์ร้ายอยู่วันยังค่ำ 

 

 

มันมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่รอเจ้าอยู่ Olivier ลูกรักของแม่ อีกไม่นานลูกจะขึ้นครองราชในฐานะมกุฎราชกุมารแห่งแซนเบรก  

 

 

และเมื่อพ่อของเจ้าจากไปอยู่กับ Greagor ผู้ยิ่งใหญ่แล้ว เจ้าก็จะกลายเป็นจักรพรรดิโดยชอบธรรม 

 

 

ระเบียบเก่าจะถูกทำลายแล้วเจ้าก็จะสร้างโลกขึ้นมาใหม่ภายใต้ความรุ่งโรจน์ของเจ้า

 

 

                     Anabella - อีกไม่นานหรอก ....

 

 

 

 

                                 🔶After the Storm 🔶

 

 

                                 The Hideaway 

 

                      Bennumere , Central Storm

 



Clive –   อืมม เธอก็เข้าไปในนั้นนานแล้วนะ ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆเลย 

 

 

Objective > เดินเข้าไปที่ห้องพยาบาล

 

 

⭐ แต่ก่อนเข้าไปยังจุดหมายของภารกิจหลัก สำหรับ The Hideaway เพื่อทำเควสย่อยที่เพิ่มเข้ามาใหม่ก่อน ก็ดี ⭐ 

 

 

                              Hunt Board update 

✨New Notorious Marks

-Sekhret Rank: B

-Severian Rank: B

 

 

Sekhret Rank: B

 

 

Fast travel มาที่ Martha’s Rest แล้วเดินขึ้นเหนือมาที่ตำแหน่งในแผนที่ 

 

 

Severian Rank: B

 

 

Fast travel มาที่ Martha’s Rest แล้วเดินมาทางทิศตะวันตกตามตำแหน่งในแผนที่

 

 

เมื่อกำจัด Severian สำเร็จจะได้คีย์ไอเทม Electrum ซึ่งเป็นไอเทมในการสร้าง Drakeslayer’s Belt  จากแบบแปลน Drakeslayer’s Belt Design Draft ที่ได้มาจาก Special Quest: Blacksmith's Blues ก็จะสามารถสร้าง Drakeslayer’s Belt  ออกมาได้แล้ว 

 

 

 

 

                      📗 SideQuest - Cut from the Cloth 

 

 

Hortense - โธ่เว้ย อย่าเพิ่งมากวนตอนนี้ได้มั๊ย ...อ้าวไคลฟ์หรอ?

Clive –  เป็นอะไรหรอครับ?

Hortense - คือ ชั้นกำลังจะตัดเสื้อผ้าซัก 2 ชุด แต่ก็ไม่มีผ้าลินินเลยน่ะ ดูเสื้อผ้าของสาวๆ 2 คนนั้นสิ แทบจะเป็นผ้าขี้ริ้วอยู่แล้ว ไม่ใส่แล้วขาดเป็นชิ้นๆก็บุญแล้ว ชั้นก็ไม่กล้าบอกไปตรงๆเพราะถึงเป็นที่หลบภัยก็ต้องมีมารยาทกันบ้าง คุณคงไม่อยากจะปล่อยเอาไว้จนเสื้อผ้านางขาดเป็นชิ้นๆใช่มั๊ย?

Clive –  แน่นอนว่าไม่ครับ แล้วมีอะไรให้ผมช่วยได้บ้าง?

Hortense - โอ้ยตายแล้ว น่ารักจังเลย ชั้นจ่ายเงินซื้อผ้า 2 ผืนที่ Northreach ไว้ สีฟ้าและสีแดง แต่ไม่ยอมมาส่งซะที รอนานแล้ว ชั้นกำลังหาใครซักคนเอาใบเสร็จนี้ไปรับมันมาให้หน่อย

Clive –  และใครบางคนนั่นก็คือ ผม ใช่มั๊ยครับ?

Hortense - ใช่ เลย แล้วก็ดูๆดีล่ะ อย่าโดนเขาหลอกได้ ชั้นสั่งไว้ 2 ผืนสีฟ้ากับสีแดง ต้อง 2 สีนี้เท่านั้นนะ 

 

 

Objective > เดินทางไปที่ร้านขายผ้าที่ Northreach

 

 

Draper - คุณลูกค้าสนใจ ผ้าสำลีขนอ่อน ซักผืนมั๊ยคะ หรือจะ ผ้าลายทางสีขาวสลับฟ้ากับ ผ้าลวดลายรูปแฉกแนวขนานเป็นรูปตัว v ก็มีนะคะ 

Clive –   ผมเอาแค่ลินิน 2 ผืนครับ จ่ายเงินแล้ว นี่ครับใบเสร็จ

Draper -เอ่อ ต้องขออภัยด้วยนะคะนายท่าน สินค้าพวกนี้ยังส่งมาไม่ถึงเลยค่ะ กองคาราวานเดินทางมาจาก Boklad ตั้งแต่ 2 วันที่แล้วตอนนี้ยังไม่ถึงเลย แม่ชั้นบอกว่าอาจเจอพวกโจรมาดักปล้นซึ่งเธอก็มักจะคิดว่าโจรปล้นตลอดแหละค่ะ

Clive – แล้วกองคาราวานที่ว่ามุ่งหน้าไปทางไหน ใต้งั้นหรอ?

Draper -ใช่ค่ะ น่าจะขนพวกเครื่องเทศกับของจุกจิกมาด้วย เดี๋ยวนะ คุณคงจะไม่คิดที่จะ ..

Clive –  ว่าจะลองไปเช็คดูหน่อย นั่นแหละที่ผมคิด 

Draper - โอ้ งั้นก็ขอให้ปลอดภัยนะคะ 

 

 

Objective > เดินทางด้วย Obelisk ไปที่ Caer Norvent Glorieuse Gate 

 

 

พ่อค้า - ถ้าสินค้ามันสภาพแบบนี้ใครจะมาซื้อของๆชั้นกันล่ะที่นี้

คนส่งสินค้า - ตะ แต่มันแทบจะไม่เสียหายเลยนะครับ 

Clive –  มีอะไรกันหรอครับ?

 

 

พ่อค้า - ถ้าแกเป็นโจรที่คิดจะมาขโมยสินค้าของชั้นล่ะก็แกต้องผิดหวังอย่างแรงเลยล่ะ และต้องขอบคุณเจ้าโง่นี่ด้วยที่เข้ามาตอนนี้พอดี 

คนส่งสินค้า - อยู่ๆคุณก็พรวดพราดเข้ามาขวางทางรถเองนะครับ 

พ่อค้า - และจากนั้นไอ้นกบ้าพวกนั้นก็เกือบจะเหยียบชั้นตาย

คนส่งสินค้า - ชั้นต้องการค่าเยียวยา จะจ่ายเงิน หรือ ด้วยสินค้าที่แกขนมาก็ได้ ไม่งั้นชั้นจะแจ้งทหารรักษาการณ์ให้จับแกไปแขวนคอแน่!!

พ่อค้า - สินค้าพวกนี้ผมต้องเอาไปส่งที่ Northreach น่ะครับ พวกพ่อค้าแม่คงไม่พอใจแน่ถ้าต้องให้คุณไป 

Clive - คุณคงไม่ได้บังเอิญมาจาก Boklad ใช่มั๊ย?

คนส่งสินค้า - ชะ ใช่ครับ เอ่อ คนที่ตลาดส่งคุณมางั้นหรอ? ถ้างั้นได้โปรดช่วยผมด้วยเถอะครับ ผมยอมจ่ายให้ตามที่คุณขอเลย 

พ่อค้า - โอ้ เจ้าโง่นี่มีคนคุ้มกันด้วย แต่เสียใจนะเพื่อน เราจะเอามันไปทั้งหมดนั่นแหละ !!  ... เฮ้ยย !! ไอ้ นักฆ่า ได้เวลาขนของแล้ว !!

 



ทหารรับจ้าง - ข้าบอกแล้วว่าอย่าเรียกแบบนี้ และเราควรจะขนของเสร็จนานแล้วถ้าแกไม่มัวแต่พล่ามอยู่แบบนี้ 

Clive - เหมือนอย่างที่หนึ่งในลูกค้าของคุณบอกผมเป๊ะๆเลย ถ้างั้นก็มาจบเรื่องนี้กันเถอะ 

 

 

                            Mini Boss - KILLER 

 

 

พ่อค้า - เออๆๆๆ ก็ได้ๆๆๆ จะทำอะไรก็เรื่องของพวกแกเหอะ !! โธ่ไอ้นักฆ่ากระจอกเอ้ยย !!

Clive - คุณไม่บาดเจ็บนะ

คนส่งสินค้า - เอ่อ ไม่เป็นไรครับ 

 



คนส่งสินค้า - ดูเหมือนไอ้โจรนั่นจะทำงานให้มันในการปล้นสินค้าของผม และมันคงทำสำเร็จถ้าคุณไม่มาช่วยเอาไว้ สินค้าของผมปลอดภัย รวมถึงชีวิตของผมด้วย คุณต้องยอมรับของตอบแทนจากผมแล้วล่ะ 

Clive - ผมว่าเราไปคุยกันที่ Northreach น่าจะปลอดภัยกว่านะ 

 

 

Draper - อย่างที่แม่ชั้นบอกจริงๆด้วย ไม่พ้นพวกโจรตลอดนั่นแหละ

คนส่งสินค้า - และถ้าไม่ได้นักรบที่ใจงามคนนี้มาช่วย คุณก็คงต้องซื้อสินค้าของคุณคืนจากไอ้นั่นด้วยราคาที่แพงสองเท่าแน่นอน และถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมคงต้องขอตัวก่อน ผมต้องไปแวะทำธุระที่ Veil ก่อนจะกลับ Bollad .. ลาเลยแล้วกันครับ 

 

 

Draper - โอ้ เกือบลืมเลย คุณมาเอาลินินที่สั่งไว้ใช่มั๊ย? และต้องบอกว่าสินค้าของคุณทั้งสองชิ้นไม่เสียหายเลยด้วย และ ชั้นได้เพิ่มผ้าความยาวพิเศษไปให้เพิ่มอีกมัดนึงด้วยนะ แถมให้ฟรีๆเพื่อเป็นการขอบคุณจ้า 

Clive - คุณแน่ใจนะ?

Draper - แม่ของชั้นบอกเสมอว่า เราควรตอบแทนใครก็ตามที่ช่วยปกป้องสินค้าของเรา 

 

 

Objective > เดินทางเอาผ้ากลับไปให้เจ้าของร้านผ้าที่ The Hideaway 

 

 

Hortense  - อ้าว ไคลฟ์ กลับมาแล้วหรอ ขอโทษที่ทำให้คุณต้องเสียเวลานะคะ ว่าแต่ได้ของที่ชั้นสั่งมามั๊ย?

Clive - ได้สิครับ 

Hortense  - ไหนดูสิ อืมม มีทั้งฟ้าและแดง ครบถ้วน ...แต่เดี๋ยวนะ แต่ชั้นไม่ได้สั่งผ้าไหมกับผ้ากำมะหยี่นะ นี่มันของพรีเมี่ยมอย่างดีเลยนะ พระเจ้า ถ้าจะให้ชั้นจ่ายพวกนี้ด้วยก็ไม่ไหวหรอกนะ ! 

Clive - คุณไม่ต้องห่วงหรอก Hortense นั่นเขาให้ฟรี เป็นของรางวัลเล็กๆน้อยๆจากที่ผมช่วยงานเขาไป จะให้ผมเอาไปคืนก็ได้นะถ้าคุณไม่ต้องการ

Hortense  - ใจเย็นๆไคลฟ์ ชั้นว่ามันยังพอใช้ประโยชน์ได้อย่างดีเลยล่ะ เออ ว่าแต่ คุณชอบผ้าผืนไหนมากที่สุดล่ะ

 

 

ผ้าลินินปักสีดำ

ผ้าไหมคอนติเนนตัลสิขาว

ผ้ากำมะหยี่สีแดงอมเขียว

 

Clive - อืมมม ไม่ร้สิครับ ...เอาผืนนี้ก็แล้วกัน

 

 

 

Hortense  - ชั้นว่าจะเอาไปให้จิลตัดชุดน่ะ คุณไม่รู้หรอว่าเธอก็ตัดเย็บเสื้อผ้าเป็นนะ?

Clive - ผมเคยรู้แค่ว่าเธอเคยเรียนเย็บปักถักร้อยตอนอยู่ที่ปราสาท

Hortense  -เธอเคยเรียนด้วยหรอ? คุณสองคนโตมาด้วยกันที่ Rosalith ใช่มั๊ย?

Clive - ก็ไม่เชิงด้วยกันหรอกนะ ..แต่ พ่อของผมเคยไปยุติการจารจลที่ดินแดนทางเหนือ จิลถูกนำตัวมาเพื่อให้เป็นหลักประกันว่า Silvermane พ่อของเธอจะรักษาความสงบสุขตามที่สัญญาเอาไว้ 

 

 

Hortense  -อย่างนี้เธอก็เป็นเจ้าหญิงสินะเนี่ย? ชั้นจะบอกว่า คนบางคนมีแค่อากาศเท่านั้นที่เป็นของเขา ไม่ได้มีอะไรมากมายไปกว่านั้น ชั้นมักจะบอกเธอเสมอว่าจะเย็บเสื้อผ้าที่ดีที่สุดให้เธอ ซึ่งเธอก็มักจะบอกเสมอว่า เปลืองผ้า เอาไปตัดให้เด็กๆที่ไม่มีจะดีกว่า

Clive - อย่าเข้าใจเธอผิดเลยครับ เธออาจจะผูกพันกับชุดล่าสุดที่คุณตัดให้เธอมากกว่า 

Hortense  - บางครั้งชั้นก็แอบคิดไม่ได้ว่า เธอไม่เคยเปลี่ยนมันเลยด้วยซ้ำ 

Clive - บางทีเธออาจจะได้ของขวัญจากคุณ แค่ให้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน ผมว่ายังไงเธอไม่ปฎิเสธหรอกครับ 

Hortense  - อืมม ชั้นจะลองดู 

 

 

 

 

                  🌻 Special Quest: The Root of the Pronlem 🌻

 

 

 

Nigel หัวหน้านักพฤกษศาสตร์ - ซิด ผม เอ่อ ผมรู้ว่าการที่เรามาอยู่ที่นี่เพราะเราเลือกที่จะปล่อยวางกับอดีตเพื่อมุ่งไปสู่อนาคต แต่ยังไงก็เถอะ ผมสงสัยว่า เอ่อ ผมรู้ว่าคุณมาจากโรซาเรียและผมต้องการให้ซักคนที่มีความรู้เกี่ยวกับที่นั่นอยู่พอดีเลย ผมรู้มาว่าที่นั่นมีสมุนไพรรักษาโรคหลายชนิดที่ไม่มีที่อณาจักรอื่น หนึ่งในนั้นคือ ดอกไม้ที่ชื่อ morganbeard ซึ่งมีฤทธิในการเพิ่มประสิทธิภาพของสรรพคุณของยาต่างๆได้ 

Clive - ผมก็ไม่ได้ฝึกเรื่องการใช้การรักษาด้วยสมุนไพรมานานแล้วนะ วัยเด็กส่วนใหญ่ของผมหมดไปกับเรื่องนอกกำแพงเมืองอ่ะนะ 

Nigel หัวหน้านักพฤกษศาสตร์ - แย่จัง คุณคงรู้นะว่ายาส่วนใหญ่ที่เรามีใช้กันอยู่ที่นี่จะซื้อมาจากที่อื่น และถ้ายาบางตัวมาช้า ผู้ป่วยก็จะได้รับผลกระทบ คือถ้าเราได้ดอก morganbeard มาปลูกที่นี่ เราก็คงรักษาชีวิตคนไว้ได้มากขึ้น และแน่นอนว่าผมคงไม่มีปัญญาบุกป่าฝ่าดงไปหามาด้วยตัวเองหรอกครับ ถ้าบังเอิญคุณออกไปทำภารกิจแถวโรซาเรีย ผมเลยอยากจะขอให้คุณช่วยไปหามาให้หน่อย 

 

Clive - ได้สิ แล้วเจ้าดอก morganbeard มันหน้าตาเป็นยังไง? 

Nigel หัวหน้านักพฤกษศาสตร์ -ตามตำราบอกว่า ดอกไม้นั่นมีสีเหลืองสดใสและใหญ่เท่าตาของก๊อปลิน พวกมันมักจะเติบโตเบ่งบานที่ หนองน้ำ Sorrowise และเท่าที่ผมเรียนรู้มาอีกอย่าง กลิ่นของมันมักเย้ายวนพวกมอนสเตอร์เข้ามาใกล้ด้วย ซึ่งผมมั่นใจว่าคุณคงมีฝีมือพอที่จะรับมือมันได้แน่นอน

 

 

Objective > เดินทางด้วย Obelisk ไปที่ Martha’s Rest มุ่งตะวันตกสู่หนองน้ำ Sorrowise

 

 

Clive - เขาพูดถูก ไอ้พวกน่าเกลียดนี่มันชอบดอกไม้นี้จริงๆด้วย 

 

 

Clive - สีเหลืองสดใสหรอ งั้นนี่คงเป็นดอก morganbeard ชัวร์  อืมม กลิ่นที่คุ้นเคยนี้ มันทำให้คิดถึงบ้านจริงๆเลย

 

 

Objective > เดินทางเอาดอกไม้กลับไปให้ Nigel ที่ The Hideaway 

 

 

Clive - เอ้านี่ ผมเจอดอกไม้ที่คุณให้หาแล้ว

Nigel หัวหน้านักพฤกษศาสตร์ - ว้าว มันสวยงามมากๆ เหมือนกับที่เขียนไว้บันทึกเป๊ะเลย แล้วคุณเจออะไรที่สร้างปัญหาให้ป่ะครับ ?

Clive - ก็นิดหน่อย แต่ แปลกที่กลิ่นของมันทำให้ผมคิดถึงตอนเด็ก ทั้งที่ผมแทบจะจำดอกไม้พวกนี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่เรามักปลูกมันไว้ในสวนของปราสาท และถ้ามันมีมีฤทธิในการเพิ่มประสิทธิภาพของสรรพคุณของยาต่างๆได้ด้วย พวกเขาคงปลูกมันไว้เพื่อทำยาเพื่อรักษาน้องผมแน่เลย 

Nigel หัวหน้านักพฤกษศาสตร์ - นั่นแหละคือเหตุผลที่เราต้องปลูกมันไว้ที่นี่ เดี๋ยวผมลองเอาบางส่วนของมันไปสกัดดู เผื่อมันจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณในตอนเดินทาง 

 

 

ปลดล็อก morganbeard Extract [Key item] 

 

สารสกัดมอร์แกรเบียร์ดบริสุทธิเพียงหยดเดียวกับยาใดๆก็ตามมันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสรรพคุณของยานั้นๆขึ้นอีก ซึ่งมันจะทำให้ Potion และ high potion ฟื้นฟู HP ได้สูงขึ้น และ ยาที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งอย่าง Stoneskin หรือ lionheart tonics ก็จะส่งผลได้นานขึ้นด้วย 

 

 

Objective > เดินเข้าไปที่ห้องพยาบาล

 

 

 

Tarja - ชั้นทำได้เต็มที่ได้เท่านี้แหละนะ ที่เหลือมันก็อยู่ที่เธอแล้ว เธอต้องดูแลตัวเองให้ดีๆนะ 



 

                    Jill - เข้าใจแล้วค่ะ และก็ขอบคุณมาก

 

 

Tarja - คำสาปแพร่กระจายมากขึ้น ดูแลให้เธอพักผ่อนมากๆด้วยล่ะ 

 

 

Clive - ถ้าเธอบาดเจ็บหรือไม่ไหวก็บอกได้นะ ชั้นเข้าใจ 

Jill - ชั้นยังไหวน่า 

 

 

Clive - แต่เธอก็ไม่ควรต้อง ...ไม่อีกต่อไป

Jill - นี่มันไม่ใช่การต่อสู้ของนายคนเดียวนะไคลฟ์ มันเป็นการต่อสู้ของเรา

 

 

Jill - และเมื่อเราเห็นแล้วว่าคุณจะต้องสู้หนักแค่ไหน มันก็เป็นแรงบรรดาลใจให้เราต้องทำเช่นเดียวกัน หรือ นายอยากจะกอบกู้โลกด้วยตัวเองมากกว่า?

Clive - ไม่ ...ไม่แน่นอน ชั้นไม่สนใจเรื่องแบบนั้นหรอก 

 



 

Gav - ไคลฟ์ ! นายอยู่ไหนวะเนี่ยย !!!?

Clive - อยู่ในนี้ !

Jill - เกิดอะไรขึ้นหรอคะ?

 

 

Gav - โรซาเรียถูกโจมตี !!

Clive - อะไรนะ!?

 

 

Gav - เราเช็คแล้ว มันไม่ใช่กองทัพของ Dhalmekian แต่มันเป็นกลุ่ม Men of the Rock จาก Drake’s Fang กลุ่มทหารส่วนตัวของ Hugo พวกมันกำลังเริ่มทำลายประตูปราสาท

Clive - พวกมันกำลังตามหาชั้นสินะ?

Gav - ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น ...ดูเหมือนไอ้ Hugo มันคงรู้แล้วว่า Cid คือใคร

Jill - ถ้างั้นมันก็เป็นกับดักน่ะสิ ?

Gav - มันก็กับดักตลอดนั่นแหละ ของโปรดไอ้ Hugo มันเลย

Clive - งั้นชั้นก็จะไปที่ Rosalith !

Jill - นายจะบ้าหรอไคลฟ์ นั่นแหละคือสิ่งที่มันอยากให้เป็น!

Clive - ฟังนะ .. ชั้นไม่รู้หรอกว่าไอ้ Kupka มันโกรธแค้นอะไรกับซิด แต่ตราบใดที่มันยังไม่ตาย โลกนี้ก็ไม่มีวันสงบสุข มันได้ลากทุกฝ่ายใน Storm เข้าสู่สงครามที่ไร้จุดหมาย เพียงเพื่อตามหาชั้น ฉะนั้น ชั้นไม่อาจจะยืนดูเฉยๆในขณะที่บ้านเกิดของชั้นกำลังลุกเป็นไฟหรอกนะ  

 

 

                   Clive - Hugo Hupka จะต้องตาย !

 

 

Gav - ชั้นต้องสูญเสียเพื่อนมากมายก็เพราะไอ้หมอนี่ และไม่อยากจะเสียใครอีกแล้ว เพราะงั้น ไปฆ่าไอ้ชาติชั่วนี่กันเถอะ !

Jill - ชั้นเอาด้วย ยังไงซะเราก็ต้องลุยด้วยกัน !

Clive - ได้เลย 

 

 

Otto - ไง Gav แจ้งข่าวนายแล้วใช่มั๊ย?

 Clive - ครับบอกแล้ว เรากำลังจะไปที่ Rosalith แต่อยากจะรู้สถานการณ์โดยรวมก่อน เรามีข่าวอะไรอัพเดทอีกมั๊ย?

Otto - เพื่อนๆเราที่อยู่อณาจักรอื่นๆ ส่วนใหญ่ ไม่มีใครคิดว่า Dhalmekian จะเปิดฉากแนวรบใหม่กับพวกจักรวรรดิ ยังไงลองไปหาข่าวเพิ่มเติมกับ Vivian เธอน่าจะเข้าใจสถานกาณ์ได้ดีกว่าชั้น 

 

 

Vivian - ว้าว นี่ชั้นเซอร์ไพรซ์เลยนะ การบรรยายของชั้นไม่เคยมีคนเข้าฟังมากขนาดนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย 

Clive - เรากำลังจะเดินทางไป Rosalith เพื่อกำจัด Kupka ตอนนี้มีสถานการณ์อะไรที่เราควรรู้บ้างครับ ?

Vivian - แหม่ ลอร์ด รอสฟิวส์ ชั้นรู้น่าว่าคุณอยากกลับบ้านมากแค่ไหน แต่เพื่อเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันอย่างถ่องแท้ เราต้องเข้าใจความเป็นมาของมันก่อน 

 

 

Vivian - เรามาเริ่มกันที่เรื่องของ Hugo Kupka ก่อน หรือจะเรียกว่า ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของ Dhalmekian ซึ่งเป็นตำแหน่งอย่างเป็นทางการของเขา ในฐานะสาธารณรัฐที่โดดเด่นเรื่องการค้า ไม่มีตำแหน่งไหนที่ทรงอิธิพลมากไปกว่านี้อีกแล้ว 

 

ซึ่งมันได้มอบทั้งความมั่งคั่งและพลังพิเศษให้กับเขา แม้ว่าอย่างหลังเขาอาจไม่ได้ตั้งใจได้มันมาก็เถอะ การเป็นDominant แห่ง Titan ยังเป็นปราการด่านสุดท้ายของ Dhalmekian ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาใช้ประโยชน์จากมันมาตลอด 

 

 

Vivian - แล้วทำไมเขาถึงแทรกซึมเข้าไปถึง Drake’s Fang ซึ่งเสาหลักของสาธาณรัฐจากการกุมอำนาจของรัฐสภาได้  แล้วพวกมันก็รีบซื้อความจงรักภัคดีในฐานะกลุ่มติดอาวุธส่วนตัวที่ไร้นาม และมันคือกองทัพเดียวที่กำลังมุ่งไปโจมตีโรซาเรียอย่างที่เรากำลังพูดถึง  

 

 

Vivian - เอาจริงๆมันคือดินแดนของจักรวรรดิ หวังว่าคงไม่ต้องเตือนคุณหรอกนะ นั่นบอกได้ว่าตอนนี้จักรวรรดิกำลังมุ่งเป้าไปที่อื่น เช่นเดียวกับ Dhalmekian ที่กำลังบุกยึด Crystalline Dominion ซึ่งเป็นที่ที่กองทัพของพวกมันกำลังมารวมตัวกันอยู่ในตอนนี้ มีเพียงทหารรักษาการณ์ไม่กี่นายเท่านั้นที่อยู่เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับเมืองขึ้นทางตะวันตกอย่างโรซาเรีย ส่วนอีกครึ่งถูกทิ้งไว้กับความล่มสลายของ Drake’s Breath 

 

 

เมื่อภัยคุกคามจาก Ironblood ลดลงพวกเขาก็แทบไม่ได้มีการระวังป้องการการรุกรานทางทะเลเลย ดังนั้น ในตอนนี้จึงมีกองกำลังเพียงหยิบมือของจักรวรรดิที่กำลังปกป้องชายฝั่งของโรซาเรียอยู่ และ Kupka ก็รีบสั่งบุกทันทีที่เขารู้เรื่องพวกนี้ พวกเขายกพลขึ้นบกทางชายฝั่งโรซาเรียโดยไม่ต้องเผชิญหน้ากองเรือที่ออกมาต่อต้านใดๆเลย

 

 

 Vivian -...ทั้งหมดนั้นก็เพื่อคุณ ..ไคลฟ์ เขาต้องการหัวคุณ Kupka กับคนของมันบุก Rosalith ไม่ใช่เพื่อยึดครอง แต่เพื่อล่อให้คุณออกมา 

 

 

Jill - คุณบอกว่ากองกำลังของ Kupka ผ่านชายฝั่งของโรซาเรีย แล้วเมือง Port Isode เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?
 Vivian -ตามที่ Guardians of the Flame รายงานมา กองเรือของ Dhalmekian ผ่านไปโดยไม่สนใจอะไรเลย ถึงแม้ว่าไม่มีใครบอกแต่พวกเขาก็รู้ทันทีว่า Kupka กำลังบุก Rosalith พวกเขาเลยระดมพลตามไปทันที และในไม่ช้า ที่นั่นก็จะถูกจัดเตรียมให้เป็นสถานที่ต้อนรับการกลับบ้านอย่างกล้าหาญของพวกคุณ แต่การเข้าเมืองหลวงครั้งนี้จะยากกว่าตอนหนีออกมา เพราะคนของ Hugo ได้ยึดสะพาน Bewit Bridge เอาไว้แล้ว ซึ่งแม้แต่จักรวรรดิที่พยายามจะแย่งชิงมันกลับมาก็ยังไม่สำเร็จ และพวกมันคงไม่ยอมทำพลาดเหมือนพวกจักรวรรดิที่ละเลยต่อการระวังป้องกันชายฝั่งของเขา นั่นแปลว่า ทะเลรอบเมือง Rosalith ถูกพวก Dhalmekian ควบคุมไว้อย่างแน่นหนา ถ้างั้นลองตอบหน่อยสิ รักเรียกของชั้น เส้นทางที่ดีที่สุดที่จะเข้าไปยัง เมือง Rosalith ในตอนนี้คือทางไหน?

 

 

Clive - ทางเหนือ เราจะข้ามพรมแดนทางเหนือตรงบริเวณใกล้กับ Phoenix Gate จากนั้นใช้เส้นทางผ่านเมือง Stillwind ลงไปที่เมืองหลวง มันอาจไม่ใช่ทางที่เร็วที่สุด แต่อย่างน้อยก็จะไม่มีใครสังเกตเห็นเรา 

Vivian - ความรู้เล็กน้อยๆเกี่ยวกับท้องถิ่นตัวเองช่วยได้เยอะเลย 

 

 

Gav - ถ้าเราก็มีทางที่เหมาะสมที่จะไปกันแล้ว งั้นก็ลุยกันเลย!!

Vivian - อ้าว งานนี้นายได้ไปด้วยหรอ?

Gav - อ่า ชั้นรอมานานแล้วที่จะล้างแค้นกับไอ้หมอนั่นจะพลาดได้ไงล่ะ

Clive - งั้นพวกเราออกเดินทางกันเถอะ

Gav - นำทางไปได้เลย !

 

 

                           🔶 Capital Punishment 🔶

 

 

                                  Rosalith

                The Imperial Province of Rosaria 

 



กัปตันทหารจักรวรรดิ - ป้องกันประตูหน้าเอาไว้!!

ทหารจักรวรรดิ - ครับผม !!

 

 

Gav - Hugo กับคนของมันกำลังยุ่งอยู่เลย ตอนนี้มันทำลายกำแพงชั้นนอกได้แล้ว พวกทหารจักรวรรดิทำได้แค่ตั้งรับอยู่ในกำแพงเมืองชั้นใน แต่คงซื้อเวลาไม่นานก่อนป้อมจะพัง ไอ้พวกห่านั่นมันกะทำลายไม่ให้เหลือแบบลบออกจากแผนที่อะไรทำนองนั้นเลย 

 

 

Jill - เพื่อคนๆเดียวพวกมันต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรอ!?

Gav - ชั้นว่าถ้านายมีไหวพริบพอน่าจะลอบเข้าไปถึงตัวปราสาทแบบไม่ให้พวกมันรู้ได้แน่ ส่วนชั้นจะไปบอกพวกชาวบ้านที่ยังติดอยู่ที่หนีให้หนีไปก่อน

Clive - ระวังตัวด้วยล่ะ

Gav - เช่นกัน อย่าทำอะไรที่ชั้นไม่ทำล่ะ 

 

 

Clive - แม่งเอ้ย !! ชั้นว่าชั้นเตรียมใจมาแล้วว่าจะเห็นอะไรแบบนี้นะ แต่แบบ ..

Jill - ชั้นรู้ มันเหมือนกับฝันร้าย ก็ที่นี่มันเคยเป็นบ้านเรานี่  มาเถอะไคลฟ์ ไปทำเรื่องนี้ให้มันจบๆ

 

 

Objective > ลุยเข้าไปจนถึงหน้าทางเข้าปราสาท 

 

 

 

 

Rosalith Castle >>

 

 

                            Mini Boss - Coeurl 

 

 

Jill - อ๊า !!!

Clive - ห๊ะ!? จิล !!!!

 

 

Hugo - ในที่สุดเราก็พบกันจนได้นะ Cid … หรือจะเรียก ลอร์ด Rosfield ดี ชั้นตามหาแกมานานแล้ว 

Clive - ปล่อยเธอไป Kupka !!!

 

 

Hugo - ชั้นดีใจมากนะที่แกตอบรับคำเชิญ ต้องขอโทษกับความไม่สะดวกด้วย ชั้นมีปัญหาเรื่องการตกแต่งสถานที่นิดหน่อย ไง แกชอบสิ่งที่ชั้นทำกับที่นี่ป่ะ?

Clive - ไอ้ชาติชั่วเอ้ยย !!!

Hugo - น่าเสียดายที่บรรพบุรุษของแกไม่สามารถมาเข้าร่วมกับเราได้ แต่ชั้นก็แน่ใจนะว่าแกได้พิสูจณ์แล้วว่าเป็นเพื่อนที่น่าสนใจ

 



Jill - อ๊า !!!

Hugo - ใจเย็น น้องเกล็ดหิมะ ชั้นยังไม่อยากให้เธอละลายไปก่อนจะถึงโชว์ของเธอนะ 

 





                Hugo - เอาล่ะ เตรียมเข้าสู่การแสดงโชว์ได้ !!!

 




              Gav - เยี่ยมเลยแบบนี้ …เฮ้อ ...งั้นชั้นคงต้องลงมือแล้ว 

 

 

ทหารของ Kupka - พูดแล้วก็เสียดายที่ต้องประหารยัยนั่น ไม่น่าเป็นคนของไอ้นอกรีตนั่นเลย

ทหารของ Kupka - ช่ายย ชั้นนี่โคตรรอยากได้นางเลย ฮ่าๆ 

 

 

ทหารของ Kupka - เฮ้ยย !!! เตรียมตัวได้ ท่าน Kupka ให้มาพาตัวแกไปเป็นพยายานในการประหารชีวิตหวานใจของแกวะ 

 

 

                    ทหารของ Kupka - อ๊ากกกกกกกก !!!



Clive -  Gav !! 

 Gav - ชูว !!!!

 

 

Gav - หมดปัญญาปลดโซ่คริสตัลสินะ? แต่ไม่ต้องห่วงชั้นจะแกะให้นายง่ายๆภายในพริบตาเลย 

Clive - Jill ล่ะ เธออยู่ไหน?

 Gav - อยู่ที่สวนด้านหน้า 

Clive - บ้าเอ้ย !! เราต้องรีบแล้ว !!

 

 

Gav - มีการส่งสัญญาณให้ทหารทั้งหมดในปราสาทถอนทัพแล้ว ยกเว้นที่นี่ที่เต็มไปด้วยทหารของ Kupka !!  เดี๋ยวชั้นอ้อมไปอีกด้าน ชั้นจะเดินขึ้นไปด้านบนแล้วอ้อมไปด้านหลัง เร็วได้ใจป่ะล่ะ?  ….เอ่อ เกือบลืม เอ้า!! ดาบของนาย ...แล้วเจอกัน 

 

 

                 Clive - รอก่อนนะจิล ชั้นกำลังจะไปช่วยแล้ว 

 

 

                           Clive - เธอห้ามตายนะจิล !!!





Gav - หวังว่านายคงจะมีแผนนะไคลฟ์ เพราะถ้าไม่มีเราได้ชิบหายกันหมดแน่ 

 



                     Clive - ห๊ะ! ….. ลุยเลย Torgal !

 





             ทหารของ Kupka - ไอ้หมาป่านั่น .... อ๊ากกกกกกก !!!!!!

 



                        Clive - อะไรวะเนี่ย Torgal !??

 



                            Clive - ยืนไหวมั๊ยจิล?

 

 

Hugo - ไม่เอาน่า ลอร์ด Rosfield อย่าบอกนะว่าไม่ชอบการแสดงโชว์ของชั้นน่ะ?

 

 

                         Clive - พอได้แล้ว !!!!

 

Hugo - ช่ายย บางทีอาจถึงเวลาที่ต้องเสิร์ฟอาหารจานหลักกันแล้ว หวังว่าแกคงกำลังหิวนะ !!!

 

 

Gav - นี่ดาบของเธอ  

Jill - ขอบใจ

Clive - เอาล่ะ อยู่ใกล้ๆกันไว้นะ แล้วก็ ขอบคุณนะ Torgal 

 

 

                  Mini Boss - Stone Gaoler & Stone Headsman

 

 

 

Clive - หมดแล้ว 

Gav - แค่ตอนนี้ ชั้นรับประกันได้ว่าพวกมันยังไม่หมดแน่ และมันจะไม่หยุดล่าเราจนกว่าไอ้ Kupka จะตาย เพราะงั้นนายรีบเข้าไปจัดการมันให้จบๆให้ไวเลย

Jill - นายเข้าไปจัดการมันเถอะ ถ้ามีพวกมันมาอีกเราจะต้านเอาไว้ให้เอง 

Clive - เข้าใจแล้ว ระวังตัวกันด้วยล่ะ 

 

 

                              Clive - Kupka !!

 



     Hugo - แกมาสายนะ มีปัญหาเรื่องการเดินทางงั้นหรอ?

 

 

   Clive - ก็แค่เพลินกับความบันเทิงของแกนานไปหน่อยน่ะ 

 

 

Hugo - ช่างน่ายินดีเสียยิ่งกระไร ....แกมาเพื่อปกป้องบัลลังก์ของพ่อแกงั้นสินะ ลอร์ด ลอสฟิลด์ ?

 

 

Hugo - หึหึ ...ดยุคแห่งโรซาเรีย ....อณาจักรที่ไร้ผู้ปกครอง กองทัพ หรือแม้แต่ประชาชน ช่างเป็นอณาจักรที่ไร้ค่าจริงเลยว่ามั๊ย? ….จริงๆแล้ว ข้าไม่เห็นบัลลังก์ที่ควรปกป้องด้วยซ้ำ ..

 



Clive - ไม่ !!!!!! … หยุดเล่นเกมของแกได้แล้ว !! บอกมาว่าแกต้องการอะไรกันแน่ !??

 

 

Hugo - หัวของ Cid ในกล่อง ..ลองจินตนาการถึงความผิดหวังของข้าสิว่าเขาต้องพบจุดจบโดยฝีมือของคนอื่น แต่ก็โล่งใจที่ได้รู้ว่า แกได้ใช้นามที่ชั่วช้าสามานย์ของมันให้ชั้นได้ยินถึง 3 ครั้ง 

 



Hugo -เจ้านายของแกเชือดคอ Benedikta Harman และทำให้ร่างของนางต้องมีมลทิน!!

 

 

Hugo - หากแกเลือกที่จะใช้นามของไอ้ฆาตกรคนนั้น แกก็รับผิดชอบแทนความผิดของเขาด้วย !!

Clive - อาชญกรรมเดียวที่ชั้นจะบอกคือ ของชั้นเอง !! Cid น่ะใช้พลังของตัวเองและทุกๆอย่างที่มีเพื่อช่วยผู้หญิงคนนั้น เธอนะผ่านการช่วยชีวิตมานับไม่ถ้วนแล้ว

 

 

Clive - และชั้นก็ทำในที่สิ่งที่เขาทำไม่ได้ ...ชั้นนี่แหละ Hugo ที่ฆ่า Benedikta

 

 

Hugo - เป็นแกเองหรอ!? …. แก! … แกเป็นคนฆ่าเธองั้นหรอ !

Clive - เออ ชั้นทำเอง !

Hugo - งั้นโชคชะตาก็เข้าข้างชั้นแล้ว .. ข้าเคยคิดมาตลอดว่า ความปารถนาสูงสุดของชั้นคือการพรากคนที่มันรักเหมือนกับที่มันทำกับข้า แต่ข้าคิดผิด และชั้นจะต้องแก้แค้นให้สาสม 

 



Hugo - เรา ...เราแบ่งปันความฝันซึ่งกันและกันมาตลอด ...ข้าจะเป็นราชาผู้ปกครองโลกนี้เพียงหนึ่งเดียว!!

 

 

Hugo - และนางก็จะเป็นราชินีของข้า และรวมปกครองเสมือนเทพเจ้าร่วมกัน!

 

 

        Hugo - และแกทำลายความฝันนั้นจนเป็นผุยผง !!!!

 

 

Hugo - ได้ยินมั๊ย ไอ้รอสฟิลด์ !! แกต้องชดใช้ในสิ่งที่แกทำลงไป ข้าจะฉีกแกเป็นชิ้นด้วยมือข้าเอง !!!

 

 

Clive - แล้วแกล่ะ !? ดีตายห่าแล้วสินะ?  กี่คนแล้วที่ต้องตายเพราะฝีมือแก กี่ความฝันที่แกทำลายไป !!!?  แกไม่ใช่คนเดียวหรอกที่ต้องทนเห็นโลกรอบตัวต้องแตกสลายน่ะ !!! แกจะไม่ได้น่าสงสารสำหรับชั้นแม้แต่นิดเดียว Kupka!ไม่สงสาร และ ไม่ปราณี !!

 

 

                                    งั้นก็ตายซะ !!!

 



                            BOSS - Hugo Kupka

 

 

Hugo - แกต้องตายด้วยมือข้า ไอ้รอสฟิลด์ !! ความเกลียดชังที่ข้ามีกับแกมันไม่มีที่สิ้นสุด!!! จะใช้ที่นี่เป็นหลุมฝังศพของแกซะ !!!

 

 

Hugo - โลกได้เลือกแล้ว !! และข้าคือตัวเลือกนั้น !! ทั้งโลกคืออณาจักรของข้า ตลอดไป !!!!

 



   Hugo - อ่าก แฮกๆๆๆๆ  

   Clive - แฮกก ……

 





              Hugo - อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก !!!

 



                Hugo - มะ  มือ .... มือข้า ....มือข้า !!!!

 

 

                  Hugo - ไอ้ลูกกระหรี่เอ้ยยย !!!!

 



                      Clive - ห๊ะ!?? ..อั๊กกก..!!

 

 

                    Hugo - ข้าจะฆ่าแก ข้าจะฆ่าแก !!!!!

 

 

       ชายปริศนา - แหม่ๆ ทำงานหนักเกินไปมันไม่ดีหรอกนะ ...

 

 

                           Clive - ดะ เดี๋ยวก่อน !!!!

 

 

            ชายปริศนา - เอาไว้วันหลังนะ ... Mythos 

 

 

Gav - น่าจะหมดแล้วนะ

Jill - ก็หวังว่างั้น ...

Gav - ไอ้พวก Waloeder สวะเอ้ย ! ใครไปเชิญมันมาวะเนี่ย?

 

 

Gav - ถึงจะไม่ใช่เซอร์ไพรซ์ที่สุดของวันนี้ก็เถอะ แต่แกไปเรียนการทำแบบนี้มาจากไหนวะเนี่ย Torgal ?  ใส่เกราะเนี่ยนะ ... สงสัยแกคงจะไม่ยอมบอกแน่

Jill - Gav เราต้องรีบไปตามหาไคลฟ์นะ 

Gav - โทษที โอเค ไปกัน 

 

 

Clive - ยังเหลืออีกตัวนึง !

Jill - กำลังเป็นห่วงอยู่พอดีเลย

Clive - เหมือนกัน 

 

 

Clive - ชั้นเกือบจะฆ่ามันได้แล้วแท้ๆเลย ถ้าไม่ใช่เพราะดันได้พลังมันมาก่อนเลยเสียจังหวะ ..

Gav - ถ้ามันยังไม่ตายยังไงชั้นก็หาตัวมันเจอจนได้แหละน่า 

Clive - พวกรอยัลลิสต์มาถึงเมื่อไหร์?

Gav - ไม่นายหลังนายเข้าไปข้างใน พวกมันไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกังวลหรอก

Clive - นายไม่เห็นคนที่พาตัว Kupka ไปเลยหรอ? 

Gav - เดี๋ยวนะ นายคิดว่าพวกเขาจะมาที่นี่เพื่อช่วยมันอ่ะนะ? แม่งเอ้ย ถ้าชั้นรู้ก่อนก็ดี เสียสมาธิทีไรไอ้สารเลวนั่นก็หนีไปจนได้ แล้วเอาไงต่อดีเรา

 

 

 

Clive - กลับที่ซ่อนตัวก่อน ตอนนี้ชั้นเหนื่อยจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว ดูจากหน้านายก็คงจะไม่ต่างกัน จิลเองก็เจอมาหนักมาก เรื่อง Kupka เดี๋ยวค่อยว่ากัน 

Gav - เอางั้นก็ได้ เราจะได้มีโอกาสไขปริศนาเวทย์มนต์ใหม่ของนายด้วย 

 



 

 

 

                                The Hideaway 

 

 

 

 

                      Bennumere , Central Storm

 

 

 

Tarja - รู้ถึงสภาพตัวเองบ้างมั๊ย สภาพเธอตอนนี้น่ะมันแย่ยิ่งกว่าที่นี่อีกนะจะบอกให้ ! แบบนี้เรียกว่าดูแลตัวเองดีแล้วใช่มั๊ย!? ไม่ต้องมาแก้ตัวอะไรแล้วคุณผู้หญิง ชั้นขอสั่งให้เธอฟัง รู้เรื่องนะ?

Jill - ค่า …พักก็พัก ...

 

 

Clive - ไม่ต้องห่วงหรอ Gav เธอรับมือไหวน่า 

Gav - แต่เราก็ไม่ควรปล่อยให้เธอถูกได้ Hugo จับไปนะ ก็รู้อยู่ว่ามันชั่วขนาดไหน คำถามคือ ตอนนี้มันอยู่ที่ไหนนี่สิ?

Clive - แล้วไอ้พวกรอยัลลิสต์ด้วย พวกมันมาทำบ้าอะไรกันที่นั่นนะ? 

Gav - ชั้นยังอดสงสัยไม่ได้เหมือนกัน ตลอดทางกลับบ้านนี่ก็คิดมาตลอดเลย

 

 

Clive - Otto อาจจะพอรู้อะไรบ้างก็ได้ ชั้นจะลองไปถามเขาดู

Gav -ส่วนชั้นจะไปคุยกับตาลุง Tomes เอง 

Clive - Loresman Harpocrates เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้หรอ?

Gav - ก็เรื่องน้องหมาของนายแปลงร่างสวมเกราะน่ะสิ ไม่เคยเห็นหมาตัวไหนทำแบบนี้ได้มากก่อนเลย พนันเลยว่าตาลุง Tomes ต้องเคยอ่านผ่านตามาบ้างแหละ แต่สิ่งที่อยากรู้มากกว่าคือ หลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น? โชคดีที่ทุกอย่างผ่านมาได้ด้วยดี Torgal ช่วยเราเอาไว้ ถ้าไม่งั้นจิลอาจจะ …

Clive - ได้ๆ บอกชั้นด้วยแล้วกันถ้านายรู้อะไรมา

 Gav - นายก็ด้วยล่ะ

 

 

Clive - จิล เธอต้องเชื่อฟัง Tarja ด้วยนะ อย่าดื้อล่ะ 

Jill - อืมม ได้สิ ขอบคุณนะ 

 

 

 

                      Clive ได้รับพลัง Eikon แห่ง Titan     

 

 

 

 

                                                     Titan Abilities

 

 

      Titanic Block – กด O เพื่อการ์ดบล็อกการโจมตีของศัตรู 

 

 

เมื่อตั้งการ์ดในจังหวะที่ศัตรูโจมตีมาพอดีสามารถกด □ สามารถใช้เปิดการโจมตีโต้กลับต่อเนื่องอย่างรุนแรงได้ถึงสามครั้ง

 

 

 

Upheaval - ฟาดกำปั้นลงกับพื้น สร้างความเสียหายแก่ศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในระยะ 

 

 

ถ้ากดปุ่มค้างไว้จะมีเกจขึ้นมา หากกดให้ตรงเกจสีแดงได้ทันจะทำให้โจมตีรุนแรงมากขึ้น

 

 

Windup – ต่อยไปข้างหน้าด้วยหมัดจรวดดินระเบิดอย่างรุนแรง  ถ้ากดปุ่มค้างไว้จะมีเกจขึ้นมา หากกดให้ตรงเกจสีแดงได้ทันจะทำให้โจมตีรุนแรงมากขึ้น

 

 

       Raging Fists – ปล่อยหมดรัวใส่ศัตรูอย่างราดเร็วและรุนแรง 

 

 

และถ้าปล่อยหมดขณะตรงกับการโจมตีของศัตรูจะกลายเป็นการแพรรี่ด้วยหมัดรัวโจมตีที่รุนแรง 

 

 

Earthen Fury – ใช้มือทั้งสองข้างงัดพื้นดินขึ้นมา ทำให้แผ่นดินพุ่งสูงขึ้น ส่งศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงลอยกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง

 

 

 

 

                                            Missives 

 

 

ฉันขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นที่โรซาลิธ ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงหากไม่มีคุณ  Gav และ Torgal ต่อสู้อย่างดุเดือด เป็นอีกครั้งหนึ่งที่คุณอยู่ที่นั่นเมื่อฉันต้องการคุณมากที่สุด และสำหรับสิ่งนั้น ฉันจะขอบคุณตลอดไป เมื่อได้เห็นเมืองที่ฉันรู้จักที่เป็นเสมือนบ้านของฉันเหลือเพียงเปลวเพลิงและซากปรักหักพัง ทำให้ฉันเสียใจมากในใจ แต่มันผ่านไปแล้ว ทั้งหมดนั้นมันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเราแล้ว เราต้องให้ความสำคัญกับที่นี่และเดี๋ยวนี้ ความทรงจำของเราจะยังรอเราอยู่เมื่อทุกอย่างจบลง

 

 

 

                       🔸  Bolts from the Blue 🔸  

 

 

 

 

                           Hunt Board Update 

 

 

                       Muddy Murder (Flan Prince)

 

 

อยู่ในเขตอณาจักร Rosaria วาร์ปมาที่จุดเสา Obelisk ที่ Hawk's Cry Cliff แล้วเดินทางขึ้นเหนือไปที่พื้นที่ Auldhyl   

 

 

 

Objective > เข้าไปคุยกับ Otto 

 

 

Clive - อ๊อตโต ได้ข่าวดีบ้างมั๊ยครับ?

Otto - ก็พอมีแต่ก็ไม่ได้ดีมาก แล้วจิลเป็นไงบ้างล่ะ?

Clive - เธอยังโอเคอยู่ แต่ Tarja อยากให้เธอได้พักบ้างน่ะ  คุณพอจะมีข้อมูลมั๊ยพอตอนนี้ Kupka มันหนีไปไหน? 

Otto - ตอนนี้ Vivian พยายามจะแกะรอยมันอยู่ แต่ยังไม่มีวี่แววเลย ตอนนี้เราส่งนกสื่อสารไปถึง Cursebreaker และพวกของเราทางตะวันตกเพื่อบอกให้ช่วยจับตาดูความเคลื่อนไหวอะไรก็ตามที่มันดูไม่ปกติ ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไรอัพเดทกลับมา นั่นคือสิ่งที่เรามีดีที่สุดในตอนนี้

Clive - โอเค ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมรีบแจ้งผมเลยนะ 

 

 

Mid - ว่าไงไคลฟ์ เมื่อแต่ยุ่งกับการกู้โลกอยู่หรอ ?

Clive - อ้าว Mid กลับมาเมื่อไหร่เนี่ย?

Mid - ก็เพิ่งมาถึงเนี่ย

Otto - แล้วไม่เรียนหนังส้งหนังสือแล้วรึไงห๊ะ?

 

 

Mid - ซิ่วไว้ก่อนค่า !!!  ก็ตั้งแต่ Kupka มันบุกโรซาเรียนั่นแหละ ที่ Kanver โวยวายกันใหญ่ ไอ้นี่มันบ้าไปแล้ว แม่งขี้โกงนี่หว่า คราวนี้ถึงตาเราบ้างแล้วล่ะ คุณต้องมีสมาธิกับเรื่องพวกนี้ด้วยนะ อ๊อตโต้ ?

Otto - เออ ก็ได้ๆ เธอชนะจ้า 

Clive - กลับมาคราวนี้จะอยู่นานแค่ไหนหรอ?

 

 

Mid -ยังไม่รู้เลย แต่น่าจะซักพักแหละ แต่ยังไงก็ตาม ระหว่างที่ชั้นอยู่ที่นี่ก็หวังว่าจะได้คุณช่วยอะไรบ้างนะ

Clive - Mid เธอจะมาคาดหวังให้ชั้น ...

 

 

 

Vivian - ได้โปรด เชื่อเธอเถอะนะ ในขณะที่เรากำลังยุ่งกับการตามรอยเจ้า Kupka พวกคุณก็น่าจะพอมีเวลาเหลือซักนิดหน่อยบ้างล่ะ

Mid - อ่า ศาสตราจารย์ !! ไม่ได้เห็นหน้าคุณมานานเลยนะเนี้ย ปกติจะมัวแต่หมกตัวอยู่ในห้องหนังสือเก่าที่เต็มไปด้วยฝุ่นไม่ใช่หรอ?

Vivian - หึหึ ชั้นก็ยังทำแบบนั้นอยู่จนกระทั่งชั้นได้ยินเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมานี่แหละ ซึ่งก็เหมือนเดิม ความเบิกบานดั่งอากาศบริสุทธิ์ของเธอเล่นเอาความคิดชั้นกระจัดกระจายจนคิดอะไรไม่ออกตามเคย 

 

 

Mid - นั่นถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกันนะจารย์ ...เอาล่ะ ได้ยินท่านอาจารย์พูดแล้วนะ ไปเจอชั้นที่ห้องเก็บของด้วยตอนคุณว่าง โอเค๊? 

Otto - เอ่อ ดะ เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อน !! …. เบิกบานดั่งอากาศบริสุทธิ์กับผีอะไรล่ะ?

 

 

Obolus - นี่ อ๊อตโต้ นายติดเงินชั้นอยู่นะ

Otto - เงินอะไร? ติดตอนไหน?

Obolus - ก็ Mid บอกว่าให้มาเก็บค่าพายเรือกับนายไง?

Otto - นังเด็กบ้าเอ้ยยย !!!

 

 

Objective > เข้าไปคุยกับ Mid ที่ Storeroom 

 

 

Mid - อ่า คุณว่างแล้วหรอไคลฟ์?

Clive - ชั้นมันคนง่ายยุ่งไม่มีวันว่างหรอก

Mid - โอเค งั้นเข้าประเด็นเลยแล้วกัน ชั้นอยากจะเปลี่ยนห้องเก็บของด้านล่างนี่ให้เป็นห้องทำงานชั้นเหมือนที่บ้านพ่ออ่ะ 

Clive - แต่เธอเพิ่งกลับมาเองนะ Mid?

Mid - แล้ว?  ชั้นคิดมาก่อนหน้านี้ซักพักแล้วล่ะ

 

 

Mid - พ่อบอกว่าชั้นมีความสามารถพิเศษเรื่องวิศวกรรม เลยสอนชั้นทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตลอดแล้วส่งชั้นไปเรียนอย่างจริงๆจังๆที่ Kanver เพื่อเรียนในเรื่องที่เขาไม่รู้ มันจึงเป็นความฝันของเขาที่วันนึงชั้นจะเอาความสามารถของชั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ 

 

 

Mid - แล้วชั้นจะช่วยให้ได้ถ้ามัวแต่อยู่ในมหาลัย ชั้นเรียนมามากพอแล้ว ถึงเวลาต้องลุยงานแบบจริงๆจังซะที ชั้นรู้ว่าชั้นช่วยคนที่นี่ได้แน่ ชั้นเลยอยากจะทำ

 

 

Clive - อยากให้ซิดมาเห็นเธอตอนนี้จัง ก็ได้ ชั้นจะบอกอ๊อตโต้ให้ว่าเธอจะอยู่ที่นี่ 

Mid - เย้ !! ว่าแล้วว่าคุณจะต้องโอเค เพราะงั้นชั้นถึงมีรายชื่องานเตรียมไว้ให้คุณทำด้วย 

Clive - ชั้นเนี่ยนะ?

Mid - แล้วจะใครล่ะ?

Clive - เฮ้ออ . แล้วเธออยากให้ชั้นทำอะไรหรอ?

Mid - ก่อนอื่นเลย ชั้นต้องการอุปกรณ์และวัสดุในการเริ่มก่อสร้าง มีแบบที่ชั้นต้องการอยู่ อ่ะนี่รายชื่อพวกของที่ชั้นต้องการให้คุณไปหา ส่วนวัสดุอื่นๆชั้นพอทำเองได้ นอกจากนั้นก็ต้องการให้คนมีฝืมือที่ใจดีๆมาช่วย ชั้นต้องการช่างไม้ แต่น่าจะยืมมือคนของที่นี่ได้อยู่นะ ใช่ป่ะ?

Clive - ต้องการแค่นี้หรอ?

Mid - แค่ตอนนี้ ที่เหลือค่อยว่ากัน 

 

 

                       📒 Quest: Getting to Work 

 

 

Objective > เข้าไปคุยกับ Charon 

 

 

Charon - กำลังคิดอยู่พอดีว่าคุณไปไหน Mid กลับมาแล้วคุณรู้ยัง?

Clive - ผมเจอเธอแล้วครับ เธอมีแผนที่จะสร้างห้องทำงานในห้องเก็บของชั้นล่าง เลยขอให้ผมมาช่วยซื้อวัสดุกับคุณน่ะ นื่ครับรายการ ....คุณคิดว่าพอจะหาของพวกนี้มาได้มั๊ย?

Charon - แค่นี้อ่ะนะ ชั้นคงไม่ได้เป็น Trader ระดับต้นๆได้หรอกถ้าเรื่องแค่นี้ทำไม่ได้

Clive - งั้นก็เยี่ยมเลยครับ ในเรื่องของการชำระเงิน ...

 

 

Charon - ไม่ต้องจ่ายแล้ว กี่ร้อยครั้งแล้วที่เด็กผู้หญิงคนนี้ทำเพื่อพวกเรา ถ้าไม่ใช่เพราะฟิวเตอร์ของเธอเราคงดื่มอะไรไม่ได้นอกจาก Blightwater นั่นมันคงทำให้เราตายไปนานแล้ว เดี๋ยวได้ของมาครบแล้วชั้นจะส่งไปให้ Mid เองนะ 

Clive - ขอบคุณครับ Charon

 

 

Objective > เข้าไปคุยกับ Blackthorne 

 

 

Clive - Blackthorne คุณยุ่งอยู่รึเปล่าครับ? ผมมีเรื่องให้คุณช่วยทำหน่อย Mid เธอฝากมา เธอต้องการเครื่องมือบางอย่าง ตามลิสต์นี้ ....คุณคิดว่าพอจะสร้างได้มั๊ย?

Blackthorne - บ้าไปแล้ว นี่เธอจะให้สร้างของพวกนี้บนซากยานเหาะเนี่ยนะ? อืมม จะลองดูก็แล้วกันนะ บอกเธอว่าถ้าทำเสร็จแล้วชั้นจะเอาไปให้ ..ถ้าไม่มีปัญหาอะไรอ่ะนะ ...

 

 

Objective > เข้าไปคุยกับช่างไม้ 

 

 

Bardolph - อ่า มีอะไรให้รับใช้ครับท่าน ซิด ?

Clive - Mid ต้องการช่างไม้มาช่วยสร้างห้องทำงานของเธอที่ห้องเก็บของชั้นล่างหน่อย ผมก็เลยคิดถึงคุณคนแรกเลย

Bardolph - ใจจริงผมก็อยากช่วยเธอหรอกนะถ้าทำได้ แต่งานที่ผมต้องทำเพื่อไม่ให้ที่นี่มันถล่มก็เต็มมือเหมือนกัน ยังมีรูอีกมากเลยที่ต้องอุดและถ้าผมไม่รีบทำให้เสร็จพวกเราได้จมน้ำกันแน่ ผมอยากจะมีเวลาไปช่วยเธอนะแต่มันไม่มีจริงๆ ถ้าไม่ต้องเป็นผมได้มั๊ยล่ะ? ผมมีเพื่อนที่เป็นช่างไม้อยู่คนนึง เขาชื่อ Bernard อยู่ที่ โรงแรม Martha’s Rest พอได้มั๊ย?

Clive -  ถ้าเป็นเพื่อนของคุณ ก็โอเคเลย ผมจะลองไปถาม Martha ดูว่าจะช่วยพูดให้ได้มั๊ย ขอบคุณนะ Bardolph

 

 

Objective > เดินทางไปที่ Martha’s Rest

 

 

Martha - อ้าวว ไคลฟ์ ลมอะไรหอบคุณมาที่นี่เนี่ย?

Clive - คือเราต้องการช่างไม้ให้มาช่วยต่อเติมบ้านเราหน่อย เลยอยากจะมายืมตัวช่างไม้ที่ชื่อ Bernard ซักส

องสามวันได้มั๊ยครับ?

Martha - ชั้นไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว เราเป็นเพื่อนกันนะ ลืมแล้วหรอ?

Clive - ขอบคุณนะ Martha แล้วพอจะรู้มั๊ยว่าเขาอยู่ที่ไหน?

Martha - เห็นว่าเขาไปธุระที่ซากหมู่บ้านแถวๆ Cressida ไม่รู้ไปทำอะไรนะ

Clive - โอเค งั้นเดี๋ยวผมลองไปหาเขาแถวนั้นดู ขอบคุณนะ Martha

 

 

Objective > เดินทางไปยังจุดภารกิจทางตะวันตกของ Greensheaves

 

 

Bernard - คุณคนที่เคยช่วยชีวิตผมไว้นี่ ทำไมคุณถึงมาไกลถึงที่นี่ล่ะเนี่ย?

Clive - พอดี Martha บอกว่าคุณอยู่ที่นี่ ผมมีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อยครับ

Bernard - ตอนนี้เลยหรอ? 

 

 

Bernard - อืมมม ให้ผมช่วยสร้างห้องทำงานงั้นหรอ?  แต่คงต้องจัดการเรื่องงานซ่อมสะพานนี่ก่อนนะ ถ้ามาร์ธาไม่ว่าอะไรที่ชั้นไป ผมก็โอเคตามนั้น แค่บอกให้ผมรู้ว่าให้ไปที่ไหนก็พอครับ ...ว่าแต่ ผมมีเรื่องจะขอร้องให้ช่วยก่อนไปได้มั๊ย?

Clive - แน่นอนครับ

 

 

Bernard - นั่นคือหมู่บ้าน Cressida ที่ผมเติบโตมา ตอนนี้เหลือแต่ซาก กับหลุมศพของพ่อแม่ผมที่อยู่ที่นั่น ผมอยากจะเข้าไปเยี่ยมพวกท่านหน่อยเลยพยายามซ่อมสะพานเพื่อข้ามมา แต่ที่นั่นมันเต็มไปด้วยมอนสเตอร์  คุณน่าจะพอมีฝีมือที่จะจัดการพวกมันได้ คงไม่ว่านะถ้าคุณจะช่วย ...

Clive - ผมทำให้ได้อยู่แล้วครับ 

Bernard - ขอบคุณนะ แล้วก็ระวังตัวด้วยล่ะ

 

 

Objective > จัดการฝูงมอนสเตอร์ที่ซากหมู่บ้าน Cressida ให้หมด

 

 

                            Mini boss - Wivre 

 

 

Bernard - ขอบคุณนะพ่อหนุ่ม ที่นี่พวกเขาก็จะได้หลับอย่างสงบซะที 

Clive - หมู่บ้านนี้มันร้างมานานรึยังครับ?

Bernard - หลังจากถูกถล่มทั้งจาก Blight และพวกจักรวรรดิ ก็ไม่สามารถทำมาหากินอะไรได้แล้ว ชาวบ้านก็หนีกันหมด น่าจะครบ 10 ปีแล้วหลังจากเกวียนคันสุดท้ายขนของออกไป มองเข้าไปทีไรก็ไม่ใช่ Cressida ที่ผมรู้จัก

Clive - เสียใจด้วยนะครับ 

 

 

Bernard - ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณไม่สามารถอยู่กับอดีตได้แม้มันจะดีแค่ไหนก็ตาม ทันทีที่ผมกราบไหว้หลุมศพพ่อแม่ผมเสร็จผมจะตามคุณไปที่ Hideaway ทันทีเลย 

 

 

Objective > เดินทางกลับไปคุยกับ Mid ที่ The Hideaway

 

 

Mid - ไงไคลฟ์ งานเรียบร้อยดีใช่มั๊ย?

Clive - อืมม ชั้นสั่งของทุกอย่างให้หมดแล้ว และช่างไม้ที่ชื่อ Bernard จาก Martha’s Rest ก็กำลังเดินทางมาที่นี่เร็วๆนี้ 

Mid - เยี่ยมไปเลย !!

Clive - แล้ว เอ่อ ...มีอะไรที่ต้องการอีกมั๊ย?

 

 

Mid - ตอนนี้ไม่แล้ว Blackthorne กับป้า Charon เอาของที่สั่งมาส่งให้ครบแล้ว และชั้นก็ออกแบบทั้งหมดไว้เสร็จแล้ว รอ Bernard มาถึงเราก็จะเริ่มงานกันเลย  อดใจรอแทบจะไม่ไหวแล้วเนี่ยยยย !!!

 

 

 

 

                                  Sidequest Unlock!

 

Sidequest – The Weight of Command 

Sidequest – Do No Harm 

 

 

               📗 Sidequest – The Weight of Command 

 

 

Dorys - มีเวลาซักครู่มั๊ยคะ ซิด ? ตอนนี้ทีมของ Cursebreakers ทีมนึงได้ขาดการติดต่อไประหว่างปฎิบัติหน้าที่แถว Northreach 

Clive - ทีมไหน?

Dorys - ทีมของ Cole ค่ะ พวกเขาออกไปช่วยเหลือพวก Bearers ที่กำลังถูกนำไปขาย ในขณะที่จะเข้าโจมตีรถม้าคันเป้าหมายก็ถูกพวก ก็อปลิน เข้าลอบโจมตีก่อน ทีมได้พยายามส่งข่าวเพื่อขอความช่วยเหลือมา แต่นั่นมันก็หลายวันมาแล้ว พวกเขาควรกลับมาถึงแล้ว แต่ไม่ได้ข่าวอะไรจากพวกเขาเลย ชั้นห่วงพวกเขามาแต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง?

Clive - พวกเขารู้อยู่แล้วว่างานที่ทำเป็นงานอันตราย พวกเขาจะไม่เป็นอะไรแน่นอน 

Dorys - แต่ถ้าพวกเขาถูกฆ่าตายหมดล่ะ? …. ก่อนที่พวกเขาจะออกไป ชั้นมักจะเตือนพวกเขาเสมอว่า ทำไมเราถึงต้องทำแบบนี้ เรากำลังหนีจากอะไร และเรากำลังปลดปล่อยผู้คนจากสิ่งใด แต่ชั้นไม่รู้เลยว่า คำพูดของชั้นจะส่งผลต่อพวกเขายังไง? พวกเขาอาจต้องเสี่ยงเพราะสิ่งที่ชั้นพูดก็ได้ 

Clive - ก็ได้ ผมจะลองออกมาตามหาพวกเขาดู เราคงจะนอนตาหลับมากขึ้นถ้ารู้ว่าพวกเขาปลอดภัย

Dorys - พวกนั้นกำลังขนทาสอยู่ที่ไหนซักแห่งแถว Dragon’s Aery ชั้นเกรงว่า คงบอกข้อมูลคุณได้แค่นี้ …

Clive - แค่นี้ก็พอแล้วครับ ที่เหลือเดี๋ยวให้ Torgal สะกดรอยต่อเอง 

 

 

Objective > เดินทางมาที่ Dragon’s Aery 

 

 

Clive - โคล อยู่นี่เอง ดีใจนะที่พวกนายยังปลอดภัย

Cole - เอ่อว่าแต่ คุณมาทำอะไรที่นี่เนี่ย?

Clive - Dorys ให้มาตามหานาย เธอเห็นนายไม่ส่งข่าวกลับไปหลายวันเลยเป็นห่วงน่ะ 

Cole - ผมให้ม้าเร็วส่งข่าวไปตั้งแต่ตอนที่อยู่ The Dame ใน Northreach แล้วนะ นึกว่าคนที่ hideaway จะรู้ข่าวแล้วว่าเราปลอดภัย 

Clive - ช่างเถอะ ยังไงผมก็มาแล้ว ดูเหมือนคุณกำลังช่วยพวก Bearers อยู่ใช่มั๊ย?

 

 

Cole - นี่แค่บางส่วน ยังมีบางคนไม่กล้าออกมาจากรถม้าเพราะกลัวพวกก็อปลินที่เข้ามาโจมตี ผมเองก็อยากเข้าไปช่วยนะซิดแต่ พวก Bearers ตรงนี้ก็อ่อนแอเกินกว่าจะป้องกันตัวเอง 

 

 

Clive - คุณทำถูกแล้วล่ะ แล้วรถม้านั้นอยู่ตรงไหน?

Cole - ใช้เส้นทางลงใต้ไปหน่อยเดียวก็เจอแล้วครับ

Clive - เอาล่ะ คุณดูแลคนเจ็บอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน ผมจะไปจัดการช่วยพวกนั้นเอง 

Cole - ได้โปรดรีบหน่อยนะครับ กลัวพวกนั้นจะโดนพวกก็อปลินจับกินทั้งเป็นเสียก่อน 

Clive - ผมไม่ยอมให้เกิดขึ้นแน่นอน 

 

 

Objective > เข้าไปที่จุดที่เกวียนจอดอยู่ กำจัดก็อปลินให้หมด 

 

 

Clive - ผมเป็นมิตรนะ ยังมีพวกคุณเหลือรอดอยู่อีกมั๊ย? แล้วทำไมคุณถึงไม่หนีไปพร้อมกับคนอื่น ถ้าพวกก็อปลินมันพังเข้าประตูไปได้พวกคุณคงไม่รอดแน่

Bearers - จะหนีไปเพื่ออะไร? ยังไงเราก็ต้องอยู่แบบตายทั้งเป็นอยู่ดี 

Clive - ก็คงงั้น แต่เรามาที่นี่เพื่อให้ทางเลือกกับคุณ เสรีภาพ ความปลอดภัย ชีวิตแบบที่พวกคุณถูกปฎิเสธมาตลอด มากับเราเถอะ เราจะปกป้องพวกคุณเอง 

 

 

Cole - ซิด ผมไม่ควรปล่อยให้คุณ ..... นึกว่าจะสายไปแล้ว ขอบคุณพระเจ้า

Clive - ชายคนนี้ยอมเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อให้พวกคุณมีโอกาสครั้งที่สองของชีวิตเลยนะ 

Bearers -ก็ได้ครับ พวกเราจะไปกับคุณตามที่คุณต้องการ ...

Clive - เราแค่อยากพาคุณไปที่ที่ปลอดภัย หลังจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณเลยว่าจะใช้ชีวิตแบบไหน คุณเลือกเองได้เลย

Cole - ทางนี้ปล่อยให้เราจัดการเองครับซิด เดี๋ยวผมจะพาทุกคนกลับไปที่ hideaway เอง 

Clive - ขอบคุณมาก ผมจะไปบอก Dory ก็แล้วกันว่าพวกคุณปลอดภัยดี

 

 

Objective > เดินทางกลับไปคุยกับ Dory ที่ The Hideaway

 

 

Dory - ซิด ชั้นเพิ่งได้ข่าวที่ส่งมาจาก The Dame หลังจากที่คุณออกไปได้ไม่นาน ถ้าชั้นใจเย็นรออีกหน่อย ชั้นก็คงจัดการเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเองแล้ว แต่ก็ไม่ ชั้นตัดสินใจผิดพลาดไปจริงๆ 

Clive - โคลกับคนอื่นๆกลับมาอย่างปลอดภัย คุณตัดสินใจถูกแล้วล่ะ 

Dory -เปล่าเลย ชั้นแค่โชคดี ชั้นตามข่าวเรื่องทาสพวกนั้นมาหลายเดือนแล้ว และชั้นก็ส่งโคลรวมถึงคุณให้ไปจัดการเรื่องนี้ แทนที่จะจัดการด้วยตัวเอง หัวหน้าแบบไหนถึงจะส่งคนไปเผชิญอันตรายโดยไม่ประเมินความเสี่ยงก่อน? ชั้นควรเตือนโคลและคนอื่นๆให้มากกว่านี้ อย่างน้อยก็ควรถอยออกมาทันทีที่รู้ว่าจะเปิดอันตราย  

 

 

Cole - พวกเราได้สาบานแล้ว เหมือนกับคุณแหละ Dorys 

Dory - ดีใจที่คุณปลอดภัยนะโคล ชั้นขอโทษจริงๆ 

Cole - ด้วยความเคารพ พวกเรา Cursebreakers ไม่ได้เสี่ยงชีวิตเพราะคุณสั่ง แต่เรายอมเสี่ยงเพราะความเชื่อของเราเอง ไม่มีใครกังขาต่อการเข้าร่วมความเสี่ยงนี้ในฐานะ Cursebreakers หลังจากที่ลบตราประทับนั่นแล้ว

Clive - เราทุกคนรู้ดีว่ามันต้องใช้ความกล้าหาญแค่ไหน

Dory - โคล ..ชั้นไม่เคยกังขากับความกล้าหาญของพวกคุณเลย มีเพียงแต่ความสามารถของชั้นในการประเมินสถานการณ์เท่านั้นที่ควรจะดีกว่านี้ 

 

 

Dory -ขอบคุณนะซิดที่ยังเชื่อในตัวชั้น แม้ว่าชั้นจะไม่สมควรได้รับมันก็ตาม บางครั้งชั้นก็สงสยว่า ชั้นควรจะไปเสี่ยงตายร่วมกับคนอื่นๆมากกว่าคอยแต่สั่งพวกเขาหรือไม่?  แต่ ชั้นคือ Cursebreakers คนนึงที่สาบานแล้ว ชั้นมีหน้าที่ของชั้นและชั้นมั่นใจว่า ชั้นคือคนที่เหมาะสมที่สุดกับหน้าที่นี้แล้ว 

Clive - เมื่อถึงเวลานั้น คุณทำได้อยู่แล้ว

 

 

                         📗 Sidequest – Do No Harm 

 

 

Clive - นายเหมือนกำลังกังวลอะไรอยู่เลยนะ Rodrigue ?

Rodrigue - Tarja มอบหมายงานให้ผมทำหน้าที่ ลบตราของพวก Cursebreakers ออก นี่เป็นครั้งแรก ผมก็เลย เอ่อ ..ผมไม่แน่ใจว่าจะทำได้มั๊ย ผมกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดผมทำพลาด คุณอาจผ่านตรงนั้นมาแล้วด้วยดี แต่ ยังมีอีกหลายคนที่ไม่รอดแทนที่จะหายดี นี่มันคุ้มค่าที่จะเสี่ยงชีวิตจริงๆหรอครับ?

Clive - นายไม่ต้องให้ชั้นตอบคำถามนี้ก็ได้ ถ้านายรู้ว่าตอนนี้เรากำลังต่อสู้เพื่ออะไรอยู่?

 

 

ชั้นก็หวังเอาไว้มากพอๆกับนายว่าวันนึงพวก Bearers จะสามารถเดินเคียงข้างคนอื่นได้อย่างเท่าเทียม แต่จนถึงวันนั้น ตราพวกนี้เป็นอุปสรรคที่เราต้องผ่านมันไปให้ได้ เราต้องลบมันออกเพื่อให้โดนตรวจจับ การผ่าตัดอาจเป็นอันตรายก็จริง แต่มันก็จำเป็นเช่นกัน และชั้นมั่นใจว่าพวกเราทุกคนพร้อมที่จะยอมรับความเสี่ยงนี้ด้วยความเต็มใจ 

 

 

Rodrigue - ผมรู้ครับ แต่ยังไงก็อยากจะให้มีทางที่ดีกว่านี้ แต่ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะทำในสิ่งที่ต้องทำให้ดีที่สุด อย่างแรกเลย เราต้องเตรียมพร้อมร่างกายของผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดให้ได้รับความเจ็บปวดน้อยลง ซึ่งนั่นแหละที่ผมทำไม่ได้ เพราะที่นี่มี ออร์โมเนีย น้อยมาก เรามีใบไม้ที่จะสกัดมันออกมาไม่พอ 

Clive - งั้นบอกว่านายต้องการอะไร?

Rodrigue - คุณจะไปหามาให้หรอ ? โอ้ ขอบคุณมากๆ ไม่มีใครรู้จักสมุนไพรดีเท่า Tarja แล้วเธอก็บอกว่าสารสกัดจากดอก Errmonea นั้นสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดได้ดี มันจะง่ายมากเลยถ้าคุณรู้ว่าจะหามันได้ที่ไหน และโชคดีที่ผมรู้ ตอนที่ผมเดินผ่านแม่น้ำใกล้กับหมู่บ้าน Amber ในโรซาเรียผมเห็นดอกไม้สี่ฟ้าสดใสนั่น

 

 

Objective > เข้าไปที่จุดที่ Hawk’s Cry Cliff แล้วเดินเข้าไปหน้าหมู่บ้าน Amber  > กำจัดศัตรูในพื้นที่แล้วเก็บดอก Errmonea กลับมาให้ Rodrigue

 

 

Rodrigue - หวังว่าคุณไม่เจอปัญหาตอนหา Errmonea นะ 

Clive - เรื่องปกติอยู่แล้ว เอานี่ Errmonea ของนาย 

Rodrigue - โอ้ ใช่เลย นี่แหละ ได้มาเยอะกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ผมกล้าบอกเลยว่า แบบนี้คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเลยซักนิดบอกเลย ถ้าผมทำได้อ่ะนะ ...

Clive - นายทำได้อยู่แล้ว Tarja เชื่อในตัวนาย ชั้นเองก็ด้วย ที่นี่คงแย่ถ้าไม่มีหมอผู้เชี่ยวชาญแบบนาย 

Rodrigue - ขอบคุณนะครับ เป็นคำพูดที่ดีมากๆ แต่ความจริงมัน ...โทษที ผมแค่ ยังกลัวอยู่ ...

 

 

ตราพวกนี้เป็นมากยิ่งกว่าหมึกที่เขียนบนผิวหนัง แต่มันมีส่วนผสมของนมของ Wyvern ที่ทำให้ซึมไปใต้ผิวหนัง เหมือนโทษประหาร แค่พลาดเกิดแผลเพียงนิดเดียว พิษของมันจะทำให้ผู้ป่วยติดพิษในการแสเลือดตายได้ในทันที และแม้จะทำสำเร็จก็ต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสวันแล้ววันเล่าจนกว่าบาดแผลจะสมาน

 

 

Rodrigue - ผมมาเป็นหมอก็เพราะอยากช่วยเหลือคนไม่ใช่ฆ่าพวกเขา ผมไม่อยากฆ่าใครอีกแล้ว 

Clive - Cursebreakers มีชีวิตที่ยากลำบาก และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น พวกเขาแฝงตัวอยู่ในเงามืด ต้องเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ โดยรู้ว่าความพยายามของพวกเขา ชัยชนะของพวกเขาจะไม่ได้รับการสรรเสริญ แต่เราไม่เคยต้องการอาสาสมัครให้ทำแบบนี้เลย พวกเขาอาสาทำเอง นายรู้มั๊ยเพราะอะไร?

Rodrigue - เพราะความเชื่อ ...พวกเขาเต็มใจที่จะตาย ..

Clive -พวกเขาเต็มใจที่จะต่อสู้ ยอมสละชีวิตเพื่อสร้างโลกให้คนแบบเรา ซึ่งมันมีค่ามากว่าทรัพย์สินใดๆ และชั้นรู้ว่างานของนายมันไม่ง่าย แต่ภายใต้มือที่ถือมีด นายก็มีไหล่ให้เขาพักพิง จงเข้มแข็งเพื่อพวกเขาเถอะนะ 

 

 

Rodrigue - หึ คุณพูดเหมือน Tarja เลย คุณรู้มั๊ยครั้งนึงเธอเคยบอกผมว่ายังไง? เป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกว่าผู้ป่วยกำลังทุกข์ทรมานโดยลำพัง แต่เป็นหน้าที่ของหมอที่ต้องทำคือ ทำให้พวกเขาเลิกคิดแบบนั้น ขอบคุณนะที่ทำให้ผมจำถ้อยคำนี้ขึ้นมาได้ ผมจะไม่ท้ออีกแล้ว ไม่อีกแล้ว !!

 

 

 

Objective > เข้าไปเยี่ยมจิลที่ห้องพยาบาล 

 

 

Tarja - อ้าว ไคลฟ์ ว่าไง?

Clive - จิลอาการเป็นไงบ้าง Tarja ?

 

 

Tarja - กำลังอยู่ในขั้นตอนการรักษา แต่เธอต้องพักต่ออีกหน่อย 

Clive - แน่นอน คุณดูแลเธออย่างดีเลยใช่มั๊ย?

Tarja - ก็จะทำอย่างสุดฝีมือเท่าที่จะทำได้แหละ อ่อ Gav มาถามหาคุณน่ะ เขาบอกมีข้อมูลให้ดูที่ห้องสมุดน่ะ 

Clive - ห้องสมุดหรอ? เออ ใช่ เขาคงไปถาม Harpocrates เรื่อง Torgal จนได้เรื่องแล้วแน่ๆเลย 

 

 

Objective > เข้าไปห้องสมุด 

 

 

Gav - ไคลฟ์ นายไปไหนมาฟ่ะเนี่ย? ชั้นมีเรื่องจะบอกนายเรื่อง Torgal หน่อย

นายไปเจอมันที่ไหนหรอ? หมายถึงที่แรกที่เจออ่ะนะ 

Clive - พ่อของชั้นพามาหลังจากที่ท่านกลับจากดินแดนทางเหนือน่ะ พวกเขากำลังข้ามทุ่งหิมะก็ได้ยินเสียงมันร้องอยู่ตัวเดียว เหมือนมันจะหลงฝูงมานี่แหละ เขาเลยพามาด้วย 

Gav - อ่ะ ได้คำตอบแล้ว ลุงว่าไง Tomes?

 

 

Harpocrates - อืมม ก็ทำให้ทฤษฎีจของชั้นมีน้ำหนักมากขึ้นอ่ะนะ ไคลฟ์ ชั้นคิดว่า Torgal ไม่ใช่หมาล่าเนื้อธรรมดาๆ แต่เป็น หมาป่าน้ำแข็ง ซึ่งเป็นสัตว์พื้นเมืองที่หายากทางตอนเหนือของวาลิสเธีย มีเพื่อนเก่าของชั้นคนนึงเคยพูดถึงมันว่า หมาป่าน้ำแข็งทำหน้าที่พิทักษราชินีแห่งแดนเหนือ ทนทานต่อ aether และสามารถใช้เวทย์มนต์ได้ตามต้องการ มันถูกเรียกว่า Fenrir 

 

 

                  Clive - Fenrir the frost wolf  งั้นหรอ?

 

 

Harpocrates - แม้ในพงศาวดารจะไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน แต่ชั้นเชื่อว่า ราชินีแห่งแดนเหนือก็คือ Dominant แห่ง Shiva เด็กหญิงจากแดนเหนือและหมาป่าที่ซื่อสัตย์ของเธอ คนนึงตื่นขึ้นในฐานะ Dominant แห่ง Shiva และอีกหนึ่งก็ตื่นขึ้นในฐานะ Fenrir

Clive - คุณหมายความว่า Jill เป็นคนปลุกพลังของ Torgal ให้ตื่นขึ้นงั้นหรอครับ?

Gav - ห๊ะ? เป็น Fenrir เลยหรอ?

Clive - คนชอบคิดว่ามันเป็นหมาของชั้น แต่ส่วนใหญ่ Torgal กับ Jill แทบแยกกันไม่ออกเลย มันเติบโตมาในฐานะสหายผู้ซื่อสัตย์ของ Dominant แห่ง Shiva หลายปีต่อมาพลังของมันก็ตื่นขึ้น 

Gav -เมื่อตอนที่เจ้านายมันต้องการมันให้ช่วยที่สุดสินะ ใช่ ตอนที่ Torgal พุ่งระเบิดพลังใส่พวกศัตรู จิลคงอยากให้มันทำแบบนั้นในใจแน่เลย 

Harpocrates - ก็น่าจะประมาณนั้น แม้ว่าพลังของ Torgal จะเป็นของมันเองตามสิทธิ์โดยกำเนิดของมันในฐานะ หมาป่าน้ำแข็ง แค่ต้องช่วยปลดล็อกนิดหน่อยเท่านั้นเอง 

 

 

Gav - เยี่ยมไปเลยนะ Torgal

Clive - นายเป็น Good hound ที่ดีกว่าที่เราคิดเยอะเลย 

Harpocrates - และอย่างที่คุณเคยกังวลในตอนแรก ตอนนี้คุณคงไม่ต้องห่วงสุขภาพของมันแล้วล่ะนะ แต่ยังไงมันก็ยังมีความอยากอาหารเหมือนสัตว์ทั่วไปอ่ะนะ ก็เมื่อเช้าชั้นเจอมันจมูกจมอยู่ในไข่ของชั้นนะสิ ฮ่าๆๆ 

 

 

Mid - อยู่นี่กันนี่เอง ชั้นตามหาซะทั่วเลย ช่างไม้ Bernard มาถึงแล้วนะ ชั้นต้องการคำแนะนำของคุณนะ เราจะได้เริ่มงานกันซะที 

Clive - โอเค เดี๋ยวชั้นจัดการให้นะ แปบเดียว 

 

 

Mid - ว้าว สุดยอดไปเล๊ยยย !!!  ชั้นคงทำไม่สำเร็จถ้าไม่ได้คุณช่วย แล้วก็ทุกๆคนด้วย 

 

 

และชั้นสัญญาจะชดใช้ให้ด้วยฝีมือและผลงานของชั้น รอหน่อยแล้วกันนะ ชั้นจะสร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่โลกไม่เคยมีมาก่อนให้ดู !!

Clive - ชั้นจะรอดูก็แล้วกันนะ 

 

 

Objective > เข้าไปคุยกับ Vivian ที่ห้องวางแผน 

 

 

Clive - เราจะล่า Kupka กันยังไงดี?

Vivian - วงกลมมันยังกว้างมากอยู่เลย เราพบพวกทหารแปลกๆมากมายในที่ที่ไม่ควรจะเจอ แต่มันก็ยังไม่บ่งชี้อะไรที่ชัดเจน ก่อนอื่น เราต้องรู้ให้ได้ว่าพวกมันออกจากโรซาเรียไปทางทิศไหน ?

Clive - โอเค งั้นลุยต่อเลย ถ้าจะมีใครที่จะต่อจิ๊กซอร์ของเรื่องนี้ให้เข้ากันได้ ก็คงจะเป็นคุณนั่นแหละ ต่อให้มันต้องใช้เวลาแค่ไหนผมก็รอได้  

 

 

Clive - ........................... 

Vivian - ห๊ะ? เอาตอนนี้เลยเรอะ!?

Clive - ทำไมล่ะ ไม่ได้หรอ?

 

 

Vivian - รู้มั๊ย ไคลฟ์ สมแล้วที่คุณไม่ได้สืบทอดบัลลังก์ของพ่อคุณอ่ะนะ ไม่งั้นชาวบ้านที่ยากจนของคุณคงต้องกลัวคุณแน่นอน 

Clive - คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่อ้างสิทธิ์ในมงกุฎของเขาแน่นอน 

Vivian - ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย ..... 

 

 

Otto  - เอ่อ ... ไคลฟ์ ขอเวลาแปบได้ป่ะ?  คือเรา เอ่อ มีแขกมาเยี่ยมน่ะ 

Clive - แขกหรอ?

 



Byron - อ่ะ ค่าเหนื่อยของเจ้า ฮ่าๆๆ 

Obolus - โห ... ซิ้งใจหลายนายท่าน 

 

 

                               Clive - ลุง Byron !?

 

 

Byron - ไง ไคลฟ์ ไอ้หลานรักของลุง !!  เตรียมถังเบียร์ ตั้งเตาอบได้เลย ลุงคนโปรดของเจ้ามาถึงที่นี่แล้ววว !!!  ฮ่าๆๆๆๆๆๆ 

 

 

 

 

  ในขณะเดียวกัน .........

 

 

 

                                      Twinside

 

                    The Holy Empire of Sanbreque

 

 

                        ท้องพระโรง ,  พระราชวังหลวง 

                        

 

 

หัวหน้าคาร์ดินัล - รัฐบาลสาธารณรัฐ Dhalmekian ขอสงบศึก เราจะเอายังไงดีครับ?  

คาร์ดินัลแห่งตะวันออก - ถ้าพวกเขายอมรับผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผมก็ไม่คัดค้าน 

คาร์ดินัลแห่งตะวันตก - แต่ยังไงเราก็ต้องยืนกรานให้พวกเขาชดใช้ค่าเสียหายทางสงคราม เพราะร้านค้ามากมายใน Twinside ก็ต้องการการเยียวยา

คาร์ดินัลแห่งทิศใต้ - ใช่ แม้เราจะมีสมบัติอีกมากมาย แต่เราก็ต้องการให้ Dhalmekian จ่ายให้เราเพิ่ม

 

 

หัวหน้าคาร์ดินัล - แน่นอนว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากการแทรกแซงอย่างทันทวงทีของท่าน เจ้าชาย Olivier 

คาร์ดินัลแห่งทิศเหนือ - อันที่จริงผมสงสัยว่าจะมีใครในพวกเราอีกที่กล้าทำข้อตกลงกับ ไททั่น ผู้ยิ่งใหญ่ หรือมีสติปัญญาพอที่จะเอาชนะเขาได้ 

 

 

 

คาร์ดินัลแห่งตะวันตก - จักรวรรดิเป็นนี้ท่านอย่างล้นพ้น ขอให้พระแห่งคริสตัลสถิตย์อยู่กับท่านเถิดฝ่าบาท 




จักรพรรดิ Sylvestre - ดีมาก 

หัวหน้าคาร์ดินัล - คำถามคือ แล้วเมื่อไหร่พวก Dhalmeks จะถอนทหารออกไปเสียที 

จักรพรรดิ Sylvestre - ไฟของ Dion สามารถกำจัดมันออกไปได้ก็แค่ชาย ยังไงไททั่นมันก็ยังไม่ถอนทัพจนกว่าสินธิสัญญาจะจบลง ดังนั้นเราควรเจรจาต่อไปให้เวลาพวกเขาในการรวบรวมทรัพย์สมบัติเท่าที่จะทำได้ไป และเมื่อพวกเขาให้สิ่งที่เราต้องการหมดแล้ว  สินธิสัญญาก็แค่กระดาษแผ่นเดียว ไม่มีค่าอะไรหรอกจริงมั๊ย?

 

 

หัวหน้าคาร์ดินัล - ตะ แต่ฝ่าบาท ถ้าส่งเจ้าชาย Dion ลงสนาม พวกศัตรูก็จะส่ง Dominant ออกมาสู้ด้วยแน่นอน ถึงแม้เราจะมีชัยก็ต้องเกิดการสูญเสียมากมายทั้งสองฝ่าย

จักรพรรดิ Sylvestre - เจ้าไม่ต้องไปกลัว Hugo Kupka หรอก เขากำลังยุ่งอยู่กับแนวรบทางตะวันตก ต่อให้พวก Dhalmeks ไปรับเขามายังไงก็ไม่ทัน แต่ถ้าทัน ก็คงไม่มีอะไรที่จะมันเท่าได้ดู Bahamut กับ Titan ฟัดกันอีกแล้ว

 

 

Dio - ประเด็นของท่านคืออะไรครับฝ่าบาท? ถ้าเกิดการต่อสู้กับจริงๆประชาชนจะเดือดร้อนหนักนะครับ 

 

 

จักรพรรดิ Sylvestre - มันก็คงต้องมีการสูญเสียกันบ้างแหละ แต่ ตายได้เดี๋ยวก็เกิดใหม่อีกน่า ทุกบ้านที่ถูกเผาทำลายไปเราก็สร้างใหม่ได้เหมือนกัน ยังไงจักรวรรดิก็ต้องอยู่รอดต่อไป 

 

 

Dio - ............................... 

จักรพรรดิ Sylvestre - ดิออน 

Dio - ครับฝ่าบาท 

จักรพรรดิ Sylvestre - มานี่มา 

 




                 จักรพรรดิ Sylvestre - ไปเตรียมตัวออกรบ 

 

 

Dio - แต่ .. ฝ่าบาท 

จักรพรรดิ Sylvestre -อย่าให้ชั้นต้องพูดซ้ำ กลับไปที่แค้มป์แล้วรอคำสั่ง 

 

 

Dio - หากท่านต้องการแบบนั้น ฝ่าบาท ผมก็จะออกเดินทางทันที 

 



           Dio - ขอพระเจ้าทรงอภัยให้ท่านด้วยเถิด ...

 

 

จักรพรรดิ Sylvestre - โหรทำนายว่ายังไงบ้าง?

คนรับใช้ - ดวงดาวเห็นฟ้องต้องกันขอรับฝ่าบาท เงาแห่งการทรยศหักหลังกำลังครอบงำจิตใจของเจ้าชายดิออน 

 

 

จักรพรรดิ Sylvestre - Anabella พูดถูก .. เจ้าทำให้ข้าผิดหวัง ดิออน 

 




                              The Hideaway 

 

                       Bennumere, Central Storm

 



 

Objective > เข้าไปคุยกับ Byron 

 

 

Byron- ไง ไอ้หลานรัก รู้มั๊ยลุงคิดถึงแกแค่ไหน ฮ่าๆ

Clive - แล้วนี่ลุงเจอที่นี่ได้ยังครับเนี่ย?

Byron- ก็ต้องขอบคุณ เซอร์ Wade เขาช่วยได้เยอะเลย เป็นทหารที่ดีจริงๆเลย หลานก็เหมือนกันนะ ลุงได้ยินเหล่า Guardians ที่บอกเราถึงเรื่องความกล้าหาญของหลานที่ Rosalith เพราะงั้นลุงถึงได้ถ่อมาถึงนี่เพื่อสอบถามความถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วยตัวเอง 

Clive - เห็นว่า ลุงกำลังทำงานร่วมกับ Guardians of the Flame ในการช่วยอพยพประชาชนจาก Rosalith ไป Port Isolde งั้นหรอครับ?

Byron- ช่าย ทำไมหรอ?

Clive - ถ้างั้นผมมีเรื่องจะสอบถามลุงหน่อย ได้โปรดเข้ามาข้างในก่อนครับ 

 


Byron- ได้สิ ...เออ นี่ เจ้าคนนั้นน่ะ  ชั้นมีเหรียญทองอยู่สองพันเหรียญในหีบนั่น ยังไงช่วยยกไปเติมใส่คลังของหลานชั้นหน่อยนะ 

 

 

                   Gav - สะ สอง สองพันเลยหรอออออ !!?

 

 

Byron- เกรงว่าที่เล่าไปทั้งหมดคือทุกอย่างที่ชั้นรู้อ่ะนะ

Vivian - มีกองเรือเล่นผ่าน Port Isode ไปทางใต้งั้นหรอ?  อืมม น่าสนใจแฮะ

Byron- ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถบอกอะไรคุณมากไปกว่านี้ ชั้นไม่คิดด้วยซ้ำว่า Kupka ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ที่ Rosalith ยิ่งคนที่ทำเป็นหลานชั้นด้วยแล้ว ยิ่งแทบไม่เชื่อเลย 

 

 

Clive - คุณคิดยังไง วิเวียน ?

Vivian - คิดยังไงหรอ จากข้อมูลเรื่องกองเรือของ Dhalmekian กับความเคลื่อนไหวล่าสุดของพวกจักรวรรดิ จิ๊กซอร์สุดท้ายของปริศนานี้ก็ได้ต่อเป็นรูปเป็นร่างแล้ว มา ชั้นจะอธิบายให้ฟัง 

 

 

 

Vivian - เรารู้กันแล้วว่า กองเรือของ Kupka เข้าสู่โรซาเรียทางชายฝั่งที่ไม่มีการป้องกัน แขกที่ไม่ได้รับเชิญของเราอย่างพวก Waloed อาจทำแบบเดียวกันรึเปล่า ? เพราะกองเรือของพวกนั้นเลื่องชื่อในการเดินทางจากสนามรบนึงไปอีกสนามรบนึงอย่างรวดเร็ว 

 

 

และใน Einherjar หรือ Black Galleon พวกเขาก็ได้แสดงแสนยานุภาพของกองเรือที่รวดเร็วไม่ต่างจากทหารม้าในตำนานของอณาจักรมาแล้ว  เรือธงที่เหมาะสำหรับรอดผ่านดินแดนที่แยกออกจากกันมีความสำคัญต่อความทะเยอทะยานของพวกเขานอกเหนือจากอำนาจในฝั่ง Ash 

 

 

ใช่ ดูเหมือนว่ากองเรือของพวกรอยัลลิสต์ก็ขึ้นฝั่งทะเลด้านเดียวกันจริงๆ ถ้างั้น คุณลองคิดดูสิว่า ถ้าคุณเป็นคนพาไททั่นหนีเอาตัวรอดจะไปทางไหน?

 

 

Drake’s Fang ที่ที่อุดมไปด้วยอีเธอร์ที่มากพอสำหรับใช้ร่ายเวทย์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของ Hugo แต่ นั่นก็ต้องจะต้องผ่านการเดินทางอย่างยากลำบากในพื้นที่ทะเลทรายในส่วนแหลมทางใต้

 

 

แต่พวกรอยัลลิสต์จะให้ Kupka นั่งเรือของสาธารณรัฐ Dhalmekian หนีผ่าน Port Isode ไปทางใต้ให้คุณเห็นเพื่อ?  ยังไม่รวมต้องร่องเรือหลายอาทิตย์ก่อนจะอ้อมไปถึง Drake’s Fang แบบนี้ ชีวิตของ Kupka ที่กำลังบาดเจ็บจะราบรื่นมั๊ย?  ไม่มีทางแน่นอน ! แบบนี้ Hugo ได้ตายก่อนถึงที่หมายแน่ และทาสผู้ซื่อสัตย์ที่เป็นคนพาเขาหนียิ่งไม่มีทางยอมแน่นอน 

 

 

แล้วแผนของ Waloeders เพื่อนของเราเป็นยังไง?  พวกเขาไม่ได้หนีทางชายฝั่ง แต่เป็น ทะเลทราย และการเดินทางผ่าน Velhroy ก็เหมือนการเดินทางชิวๆ ที่ทำให้ไททั่นได้ไปนอนพักบนเตียงสบายๆก่อนที่กองเรือของพ่อครัวจะเข้าเทียบท่าเรือเสียอีก พนันด้วยชีวิตชั้นยังได้เลย 

 

 

Byron- ไอ้พวก Waloeders ก็เป็นคนแทรกแซงสินะ ชาติชั่วจริงๆเลย อืมม ชั้นพอจะนึกออกแล้วว่ากองเรือที่ชั้นเห็นมันแปลกยังไง พวกคนบนเรือดูเศร้าๆเหมือนกำลังไว้ทุกข์ เหมือนกับพวกเขาแกล้งทำให้ทุกคนเข้าใจว่า เจ้านายของพวกเขาตายแล้ว  

Vivian - เฉียบแหลมมากเลยค่ะ ลอร์ด รอสฟิลด์  และตอนนี้คุณมีคำตอบแล้วว่า จะหา Kupka ได้ที่ไหน ตามพวกรอยัลลิสต์ไปตามเส้นทาง Velkroy มุ่งสู่ Drake’s Fang และหวังว่าตอนนี้มันจะเย็นลงจริงๆอย่างที่เขาพูดกันในสาธารณะรัฐนะ 

 

 

Byron - ให้ลุงร่วมทางไปด้วยนะไอ้หลานรัก หลังจากแวะเยี่ยมหลานที่นี่แล้ว ลุงก็ว่าจะเดินทางไปทำธุระที่ Kanver-ward ต่ออ่ะนะ 

Clive - ยินดีที่ได้ร่วมทางครับลุง ยังไงขอเวลาผมไปเตรียมตัวแล้วบอกเพื่อนๆแปบนึงนะครับ ทุกคนจะได้รู้ว่าเรากำลังจะไปไหน 

Byron - ได้ๆ แต่เร็วหน่อยล่ะ เวลาไม่คอยท่านะไอ้หลานรัก 

 

 

Clive - Otto ได้เรื่องแล้ว Kupka อยู่ที่ Drake’s Fang ผมต้องออกเดินทางก่อนจะมืด 

Gav - เดี๋ยวๆ นายคงไม่ได้คิดจะลุยเดี่ยวใช่มั๊ยห๊ะ?

Clive - งานนี้ชั้นไม่ได้จะไปทำลายคริสตัลแต่จะไปล่าหัวไอ้ Kupka ชั้นจะไม่เสี่ยงถ้าไม่จำเป็น สัญญาเลย 

Otto - ดินแดนรอบๆ Drake’s Fang ถือว่าเป็นถิ่นของ Kupka เลย ถ้านายต้องการความช่วยเหลืออะไรก็ให้ถามหา Ruzena Dalimil หรือคนจะรู้จักในชื่อ กระต่ายทะเลทราย 

Clive - เธอเป็นใครครับ?

Otto - เป็นเพื่อนร่วมงานเก่าเพียงคนเดียวของซิดที่ชั้นรู้จัก สามารถไปเจอเธอได้ที่ Dalimil Inn เราไม่ได้ยินข่าวเธอเลยหลังจากการตายของซิด และชั้นคิดว่าซิดคนใหม่จะทำให้เธอกลับคืนสังเวียนได้ 

Clive - ขอบคุณครับ ผมจะจำไว้

Gav - แล้วเอ่อ .... ลุงของนายอ่ะ เขาจะอยู่ต่ออีกมั๊ย?

Clive - ไม่ต้องห่วงหรอก เขาจะไปกับชั้นด้วยนี่แหละ

Gav - เฮ้อออ โล่งอก ...

Clive - Gav Otto ชั้นให้พวกนายดูแลที่นี่แทนนะ 

Otto - สบายใจได้ เราจะดูแลให้เอง 

 

 

 

 

ก่อนคุยกับ Byron เพื่อออกเดินทาง ตรวจสอบสถานะของ Hunt Board ที่อัพเดทก่อนเพื่อปลดล็อค Notorious Marks ตัวที่ 8 A Hill to Die On หรือ Fastitocalon ซึ่งจะอยู่ในพื้นที่ระหว่างการเดินทางที่กำลังจะไป 

 

 

 

 

                           🔶 Riddle of the Sandv 🔶

 

 

 

                              The Velkroy Desert 

 

                         The Dhalmekian Republic

 



Byron - เฮ้ออ ... สมัยวัยรุ่นนี่ลุงผ่านเส้นทางนี้บ่อยเลยนะ แต่นั่นมันก็นานมากแล้ว .... ตอนนี้ชักไม่ไหว  ....จำได้ว่าตรงนั้นมีจุดแลกเปลี่ยนสินค้าของพวกพ่อค้าอยู่ เส้นทางไปยัง Drake’s Fang ต้องผ่านที่นั่นด้วย เราไปแวะพักที่นั่นได้นะ  

 

ตำแหน่งของ Notorious Marks ตัวที่ 8 A Hill to die on หรือ Fastitocalon 

 

 


อยู่ในพื้นที่นี้ ตามแผนที่ในภาพ แวะเข้าไปจัดการเสียก่อน

 

 

Objective > เดินทางผ่าน Trading post >>

 

 

                        >>> ไปยังหมู่บ้าน Dalimil ปากทางสู่ Drake’s Fang

 

 

            Byron - นี่ยังไงล่ะ ที่ตั้งของโรงแรม Dalimil Inn 

 

 

หลานรู้มั๊ยความร้อนนี่มันทำให้ชั้นกระหายน้ำมาก เราควรหาอะไรดื่มก่อนจะขาดน้ำตายนะ 

 



Clive - ดูนั่นสิ นั่นมันพาหนะของ Ashen อย่างไม่ต้องสงสัย 

Byron - พวกมันมาไกลจาก Stonhyrr มากเลยนะ พวก Waloeder เพื่อนเราคงพักจิบน้ำคลายร้อนที่โรงแรมแน่นอน แกคงต้องหาที่เดินเล่นก่อนนะ Torgal เพราะเขาคงไม่ให้หมาเข้าหรอก เอาล่ะ  เราเข้าไปที่โรงแรมกันเถอะ 

 




สาวเสิร์ฟ - ไง รับอะไรดีคะ ?

Byron -  …………

 

 

Clive - เอ่อ .. โทษทีนะ พอดีเพื่อนชั้นจะพูดก็ต่อเมื่อท้องอิ่มอ่ะนะ ..แล้วมีอะไรแนะนำบ้างมั๊ย?

สาวเสิร์ฟ - ถ้าคุณชอบอะไรเบาๆ เราก็สามารถทำซุปโจโคโบะพร้อมถั่ว lentils กับน้ำผึ้ง 

Clive - งั้นจัดมาสองเลย แล้วก็ เอล ด้วยนะ  

สาวเสิร์ฟ - โอเคค่า !!

 

 

Byron - เพื่อนเนี่ยนะ!?

Clive - หรือลุงอยากเป็นคนรับใช้ผมล่ะ ?

 

 

Joshua - แค๊กกกๆๆๆๆๆๆๆ 

Jote - นายท่านคะ ดูเหมือนอาการจะยังไม่ดีพอสำหรับการเดินทางนะ ถ้าท่านจะให้ชั้นไปตามใครซักคนที่พอรักษาท่านได้มาดูอาการของท่าน่าจะดีกว่านะคะ

Joshua - ไม่ๆ เราต้องรีบเดินทางต่อ เจ้าชาย Dion จะกลับมาที่แค้มป์แล้ว ก่อนที่เขาจะออกไปที่แนวหน้าต่อ ชั้นต้องคุยกับเขาตอนนี้เท่านั้น หมดจากนี้จะไม่มีโอกาสอีกแล้วล่ะ เธอเข้าใจใช่มั๊ย?

Jote - เข้าใจค่ะนานท่าน แต่อย่างน้อยคุณก็ต้องกินยาของคุณก่อนไป ชั้นจะไปเอาน้ำมาให้นะ 

 

 

ทหารหลวง - พวกเขาบอกให้เราเฝ้าระวังให้ดี แต่ ที่นี่ก็เห็นมีแต่ทราย !

ทหารหลวง - ชั้นได้ยินมาว่าพวกเขาพาแขกของเรากลับอย่างราบรื่น ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเราน่าจะได้ออกเดินกันแล้ว อีกไม่นานหรอก 

ทหารหลวง - ทำไม ผบ ต้องลากเรามาที่นี่เพื่อมาคอยปกป้องไอ้นั่นด้วย ชั้นไม่อยากทำแบบนั้นเลยจริงๆ จะ Dominant หรือไม่ไอ้หมอนั่นมันก็โคตรจะอีเดียดเลย 

 

 

Byron - พวกมันหมายถึงไอ้ Kupka แน่นอน !!

Clive - ชูวววว !!! ดังไปแล้วครับลุง 

 

 

Clive - เอาล่ะรีบกินจะได้รีบไป เราต้องเดินทางกันอีกนาน ..... ลุงครับ !

Byron - โทษที ....

 




ทหารหลวง - นายสองคนน่ะเป็นนักเดินทางใช่มั๊ย? ชั้นกับคนของชั้นก็คนแปลกถิ่นเหมือนกัน บางทีพวกนายอาจช่วยบอกเรื่องเส้นทางกับเราได้ มากับเราซักแปบสิ 

Clive - โทษทีนะครับ พอดีเรามีธุระด่วนที่ Kanver น่ะ เลยต้องรีบไป

ทหารหลวง - ไม่เอาน่าพวก นายน่าจะพอมีเวลาซักชั่วโมงหรือสองชั่วโมงบ้างล่ะ

 

 

Clive - ผมเกรงว่า เราจะไม่มีเวลาน่ะสิครับ ....ถอยไปก่อนครับลุง 

Byron - ด้วยความยินดีเลย

 

 

                               Mini Boss - Royalists 

 

 

Byron - อ่ะนี่ ค่าเสียหาย ...อ่อ แล้วชั้นแนะนำอย่างนะ ซุปนี่ถ้าเพิ่มเกลืออีกหน่อยนี่จะอร่อยมากกว่านี้ 

 

 

 Jote - เดินไหวมั๊ยคะนายท่าน?

Joshua - เกิดอะไรขึ้นหรอ?

 

 

Jote - ดูเหมือนข้างล่างจะมีเรื่องกันค่ะ เราต้องหนีแล้วไหวมั๊ยคะ?

Joshua - แค๊กๆๆๆๆ ไหว ... ชั้นยังไหว

 



Clive - อ่า ...???  

Byron - ไคลฟ์เป็นอะไรหรอ?

 

 

 

Byron - มีอะไรไคลฟ์?

Clive - ไม่มีอะไรครับ เราไปกันเถอะ 

 




                  Clive - นายอยู่ไหนกันนะ? ...โจชัวร์

 

 

Byron - นี่ ถ้าเรายังไม่รู้ว่า Kupka มันอยู่ที่ไหนแน่ เราก็ควรจะหาข้อมูลตอนนี้เลยนะ 

Clive - ลุงก็ได้ยินแล้วนี่ว่าพวกรอยัลลิสต์มันพูดเองว่า แขกของพวกมันอยู่ที่ Drake’s Fang เราควรรีบไปก่อนที่พวกมันจะโผล่มากันอีก 

 



Byron - อ่า พวกมันปิดเส้นทางที่เป็นทางเดียวที่จะไปยัง Drake’s Fang แล้ว สงสัยลอร์ด Kupka คงไม่อยากรับแขกในตอนนี้ 

Clive - ยังไงเราก็ต้องผ่านประตูนั่นไปให้ได้

 

 

Byron - โดยไม่ใช่กำลังสินะ เพราะที่ผ่านมาเราก็ได้รับความสนใจมากพอแล้ว 

Clive - ถ้าเราจะใช้เล่ห์เหลี่ยมในการผ่านไป ดูเหมือนเราคงต้องขอความช่วยเหลือ กระตายทะเลทราย กันแล้ว 

Byron - Ruzena Dalimil หญิงผู้ลึกลับ ..แล้วเราจะตามหาเธอเจอได้ยังไงในเมื่อเรารู้จักแค่ชื่อของเธอ?

Clive - เธอเคยเป็นผู้ร่วมงานของ Cid  และเพื่อนร่วมงานของ Cid ส่วนใหญ่ จะเป็นคนที่ได้ใจคนในพื้นที่ ผมว่า Ruzena Dalimil ก็น่าจะเหมือนกัน 

Byron - ก็หวังว่ามันจะช่วยจำกัดวงในการค้นหาให้แคบลงอ่ะนะ งั้นเราก็ต้องเริ่มจากลองถามพวกชาวบ้านดูว่าใครเป็นขาใหญ่ของที่นี่สินะ 

 

 

 

Objective > สอบถามข้อมูลกับชาวบ้าน 2 คน 

 

 

พ่อค้าเร่ - มีอะไรให้ช่วยรึ ท่านนักเดินทาง ?

Byron - เดี๋ยวลุงคุยเอง .... คือเราเป็นตัวแทนของบริษัทการค้าที่เก่าแก่ที่สุดใน Port Isode ซึ่งเรากำลังขยายธุรกิจของเรามายังภูมิภาคนี้ เลยอยากรู้ว่าคุณพอจะรู้จักผู้ประกอบการชั้นนำของ Dalimil บ้างมั๊ย? พอแนะนำได้มั๊ยว่าควรไปหาเขาได้ที่ไหน?

พ่อค้าเร่ - อืมม ที่เมืองนี้เรามีชื่อในเรื่อง ตลาด โรงอาบน้ำแร่ แล้วก็ช่างตีเหล็ก ผมว่าพวกคุณควรจะลองไปสอบถามกับธุรกิจพวกนั้นดูนะ 

Byron - โอ้ ..ขอบคุณครับ ช่วยได้มากเลย แล้ว เอ่อ คุณพอจะรู้จักผู้หญิงที่ชื่อ Ruzena Dalimil บ้างมั๊ย?

พ่อค้าเร่ - เกรงว่าจะไม่รู้จักนะ

Byron - โอเค ยังไงก็ขอบคุณมากๆครับ

 

 

แม่ค้าแผงลอย - มีอะไรหรอ? ไม่เห็นหรอว่าชั้นกำลังยุ่ง?

Clive - เรารบกวนเวลาไม่นานหรอกครับ คือเรากำลังตามหาคนๆนึงอยู่ ผู้หญิงที่ชื่อ Ruzena Dalimil คุณพอจะรู้จักมั๊ย?

แม่ค้าแผงลอย - ไม่เคยได้ยินมาก่อน 

Clive - แล้วถ้าเราจะหาพ่อค้าที่รวยที่สุดในเมืองจะหาได้ที่ไหน?

แม่ค้าแผงลอย - ง่ายนิดเดียว ก็ The Briar’s Kiss ไง คุณจะไม่เจอร้านดีเหล็กที่ไหนในช่องแคบนี้ดีเท่าที่นี่อีกแล้วล่ะ เจ้าของอาจเป็นแค่ผู้สืบทอดกิจการแต่เขาก็ทำได้ดีนะ

Clive - The Briar’s Kiss งั้นหรอ? ขอบคุณมากครับ 

 

 

Byron - ชั้นสงสัยว่าไอ้เจ้าของที่เป็นผู้สืบทอดกิจการนี่มันจะใช่คนที่เราตามหาอยู่รึเปล่านะ ถ้านายบอกว่า คนที่ทำงานกับซิดต้องเป็นคนมีอธิพลในพื้นที่ อธิพลย่อมมาพร้อมกับ อายุ และประสบการณ์เสมอ เชื่อลุง

 

 

คนแจวเรือ - มีอะไรให้ช่วยหรอครับ?

Byron -คือเรากำลังตามหาคนๆนึงอยู่ ผู้หญิงที่ชื่อ Ruzena Dalimil คุณพอจะรู้จักมั๊ย? และก็น่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับเสาหลักในการค้าที่เก่าแก่ของที่นี่ด้วย

คนแจวเรือ - งั้นคงต้องไปถาม Ferda เขาอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว และเคยร่วมทำธุรกิจกับตระกูลพ่อค้าเก่าๆมาเยอะ ลองไปที่โรงอาบน้ำแร่ดูเจอเขาแน่นอน เขาอาจรู้จักคนที่พวกคุณตามหาอยู่ก็ได้ 

Byron - โอ้ ..ขอบคุณครับ

 

 

Clive - ขอโทษนะครับ คุณใช่ Ferda หรือเปล่า?

Ferda - ใช่แล้ว ชั้นเองแหละ มีอะไรให้ช่วยรึท่านนักเดินทาง?

Clive - ว่ากันว่าคุณอยู่ที่นี่มานาน คุณพอจะรู้จักผู้หญิงที่ชื่อ Ruzena Dalimil บ้างมั๊ย เธอน่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีชื่อเสียง

Ferda - แล้วคุณมีธุระอะไรกับ กระต่ายทะเลทรายงั้นหรอ?

Clive - เธอเคยเป็นเพื่อนสนิทของผมน่ะ พอดีมีเรื่องจะให้ช่วยหน่อย

Ferda - ไปเจอชั้นที่ bordello แล้วกันเดี๋ยวชั้นจะบอกทางให้อีกที 

 

 

Byron - หลานเชื่อใจมันจริงๆหรอ?

Clive - ตอนนี้ดูเหมือนเราจะไม่มีทางเลือกนะครับ 

Byron - นั่นไง ...

 

 

????? - พวกนายสินะที่ถามนู้นนี่นั่นไปทั่วเมืองอ่ะ ?

Clive - โธ่ ไม่เอาน่า เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย

????? - อย่ามาแกล้งโง่ และถ้าพวกแกพยายามจะมายุ่งกับธุรกิจของเรา พวกแกคงต้องเจ็บตัวแล้ว 

 

 

                           Mini Boss - Bandits 

 

 

Clive - เอาล่ะ พวกแกทำงานให้ใคร เจ้านายแกผู้ชายหรือผู้หญิง !?

????? - ผู้ชายครับ เจ้านายผมผู้ชาย เขาบอกว่าต้องการจะทดสอบพวกคุณ

 

Ferda - แม้ว่าอาจจะดูเหมือนจะมากกว่าทดสอบก็ตาม

????? - ท่าน Ferda?

Byron - ใช้แผนปิดประตูตีแมวแบบนี้ไม่ดีนะ 

Ferda - ผมว่าฝีมือดาบของพวกท่านเอาอยู่อยู่แล้วล่ะครับนายท่าน ความสามารถที่เหมาะสมกับคนที่เป็น พวกนอกรีต 

Clive - คุณรู้ว่าเราเป็นใครงั้นหรอ? แล้วไงต่อ เรียกพวก Men of the Rock มาจับเราเอาค่าหัวงั้นหรอ?

 

 

Ferda - นั่นไม่ใช่การตัดสินใจของผมหรอกนะ งานของเราเสร็จแล้ว เอาล่ะ พาพวกเขาไปหา Ruzena เธอน่าจะอยากรู้จักพวกเขา

????? - ได้ครับนายท่าน เอาล่ะ งั้นพวกคุณตามผมมาที่ Lock of Leisure ได้เลย 

 

 

    ????? - นี่ครับ โรงตีเหล็กของ L’ubor ที่ชื่อ The Briar’s Kiss

 

 

Byron - อ่า  เจ้าของที่เป็นผู้สืบทอดกิจการที่ว่าสินะ คงไม่ใช่ผู้หญิงที่มากประสบการณ์อย่างที่คิดไว้ซะแล้ว มันมีอะไรผิดพลาดตรงไหนเนี่ย

Clive - มันก็น่าจะผิดพลาดกันได้แหละครับ แต่ อันที่จริงก็หลายปีแล้วนะที่ซิดไม่ได้เจอเธอ ...โทษที เขา และไม่ว่าเจ้า L’ubor คนนี้จะเป็นใคร เขาก็ต้องได้รับการเคารพจากเรา 

 

 

L’ubor - คนของชั้นบอกว่า นายกำลังต้องการความช่วยเหลืองั้นหรอ ซิดอีกคน 

Clive -  ชั้นคงไม่ทำให้นายต้องเสียเวลามากหรอก ชั้นแค่อยากช่วยให้พาผ่านประตูทางทิศใต้ก็เท่านั้นเอง 

 

 

L’ubor - ฮ่าๆๆๆๆๆๆ งั้นหรอ? …. บอกหน่อยสิว่าอะไรคือสินค้าที่สำคัญที่สุดของพ่อค้า ไม่เอาน่า ทุกคนย่อมรู้ดี เพราะถ้าไม่รู้นายก็จะไม่มีค่าอะไรเลย และ ตอนนี้ก็เห็นอยู่ว่า นายไม่มี และ ก็เหมือนกับพวกรายเพราะชั้นในตอนนี้ ก็ไม่มี เหมือนกัน ชั้นไม่ได้มีหน้าที่จะต้องคอยช่วยเหลือสุนัขหลงทางตามถนนนะ นายไม่เห็นหรอ ชั้นก็งานยุ่งเหมือนกันนะเว้ย 

 



Byron - ชั้นว่า ปล่อยให้มันพล่ามไปคนเดียวเถอะ 

L’ubor - ยังไงคุณก็ต้องไปหาคนอื่นช่วยอยู่ดี อย่าลืมบอกเขาล่ะว่า คุณคือนักเดินทางสองคนที่ก่อเรื่องในโรงแรมที่ทหารกำลังตามหาตัวอยู่อ่ะ คุณคงไม่อยากให้พวกเขาด่วนตัดสินใจอะไรผิดลงไปใช่ป่ะ ?

Byron - แกนี่มัน !!!

 

 

Clive -  ถ้างั้น เราต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อใจ ?

L’ubor - ชั้นชอบหมอนี่แฮะ ยอมทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ คนอย่างนายนี่มันจะมีที่อยู่ในใจชั้นเป็นพิเศษอยู่แล้วล่ะ ทำไมนายไม่รอขอล่ะ ? แต่ทุกคำขอก็ต้องมีสิ่งที่ชั้นต้องการเป็นการตอบแทนเสมอนะ 

Clive -  แล้วนายต้องการอะไร?

 

 

Byron - นี่อย่าบอกนะว่าหลานจะไปเชื่อไอ้คนหน้าซื่อใจคดแบบมันเนี่ย?

Clive -  เราเองก็ต้องฟังความต้องการของเขาเหมือนกัน  เป็นเรื่องปกติที่พันธมิตรของซิดจะต้องการการรับรองจากคนแปลกหน้า และถึงแม้เขาจะเป็นพันธมิตรของซิดแต่เมื่อ 5 ปีก่อนเขาก็ยังเด็กอยู่ 

 

 

L’ubor - งั้นเรามาพูดในเรื่องสิ่งที่ชั้นต้องการกันดีกว่า ชั้นอยากให้นายจัดการกับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นที่ Dalimil ให้หมดไป ทำได้เมื่อไหร่ก็กลับมาบอก แล้วชั้นจะช่วยเหลือตามที่นายต้องการ จนถึงตอนนี้ ชั้นก็ขอให้นายโชคดี 

Byron - โธ่ไอ้เด็กบ้าเอ้ย จะสั่งให้ทำก็พูดให้มันเคลียร์หน่อยก็ไม่ได้ !

L’ubor - มีมารยาทหน่อยตาหนวดเทา ลุงควรจับแมงปอด้วยน้ำหวานนะไม่ใช่น้ำส้มสายชู 

Byron - นี่แกเรียกชั้นว่าอะไรนะ!?

L’ubor - ต้องขอโทษด้วยนะ คำแนะนำก็ต้องมีค่าตอบแทนอยู่แล้ว ...ใบ้ให้หน่อยก็ได้ จงตามรอยคริสตัล หวังว่าชั้นจะไม่ทำให้มันง่ายเกินไปสำหรับพวกนายนะ

 

 

Byron - เฮอะ ง่ายจะตาย!! เล่นเกมทายปริศนาอย่างกับเด็กๆแบบนี้ เราแยกกันไปหาข้อมูลกันเถอะไคลฟ์ 

Clive -  ได้ครับ ระวังตัวด้วยนะลุง 

 

 

 

                  📒  QUEST: Follow the Crystals 

 

 

Objective > สอบถามข้อมูลกับชาวบ้าน 3 คนเกี่ยวกับปัญหาในเมือง

 

 

Clive -  โทษทีครับ ผมอยากจะถามเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวกับคริสตัลหน่อยได้มั๊ยครับ?

พ่อค้า - คุณก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่ 

Clive -  ผมได้ยินแต่ข่าวลือน่ะครับ 

พ่อค้า -ไอ้พวกหัวขโมยบ้านั่นขโมยคริสตัลสำหรับใช้งานของเราไปหมด สามัญชนแบบเราแทบจะไม่มีใช้หรือแบ่งปันให้กันเลยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา แถมยังหาซื้อไม่ได้ด้วย แม้แต่ในตลาดมืดก็ไม่มีใครแบ่งให้เรา 

 

 

Clive -  ขอรบกวนเวลาหน่อยได้มั๊ยครับ?

คนเลี้ยงม้า - ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรื่องอะไรอ่ะนะ 

Clive -  แค่อยากจะถามอะไรหน่อย เมือง Dalimil เหมือนจะเจริญที่สุดถ้าเทียบกับหมู่บ้านอื่นที่ผมผ่านมา เพราะอะไรหรอครับ ?

คนเลี้ยงม้า - ก็นะ เราอยู่ใกล้ Drake's Fang แบบนี้ทหารที่มีหน้าที่ดูแลคริสตัลจำเป็นต้องมีสถานที่ใช้เงินที่พวกเขาหามาอย่างยากลำบากน่ะสิ พวก Men of the Rock ใช้เงินอยากกับไม่มีวันพรุ่งนี้งั้นแหละ 

 

 

โสเภณี - ให้พวกชั้นช่วยอะไรดีคะคุณทหาร ให้ขัดดาบให้มั๊ย?

Clive -  ผมไม่ใช่ทหารหรอกครับ

โสเภณี - งั้นก็ไปซะ เราให้บริการแต่ Men of the Rock เท่านั้นค่ะ!

Clive -  พวกคุณมีข้อตกลงกับพวกนั้นงั้นหรอ?

โสเภณี - อย่ามาทำเป็นแกล้งโง่สิคะ พวกเรารู้หรอกน่าว่าขนมปังด้านไหนที่ทาเนยน่ะ ชั้นไม่อยากอยู่กับพวกคนอนาถาตอนที่พวกกระเป๋าหนาที่อยากใช้เงินมาเคาะประตูหรอกนะ รู้แล้วก็รีบไปซะ 

 

 

Clive -  ตอนนี้พอรู้แล้วว่าปัญหาของเมืองนี้มันคืออะไร ว่าแต่ลุง Byron จะได้อะไรมาบ้างก็ไม่รู้ เขาอาจจะกลับมารอที่ห้องพักแล้วก็ได้ 

 

 

เด็กเสิร์ฟ - นายนั่นเอง หนึ่งในไอ้พวกคนที่ทำลายข้าวของในโรงแรมของชั้น กลับมาทำไมอีกห๊ะ? ยังสร้างปัญหาไม่พอรึไง?

Clive -  ผมมาตามให้เพื่อนน่ะ คนที่มากับผมไง คุณพอจะเห็นเขามั๊ย?

เด็กเสิร์ฟ - สุภาพบุรุษคนที่มากับนายอ่ะนะ ชั้นเห็นเขาขึ้นบันไดที่อาคารนั้นไปไม่นานนี้เอง  

 

 

            Clive -  ห๊ะ? ลุงไปทำบ้าอะไรกับพวกนั้นเนี่ย?

 

 

Byron - เงินมัดจำแค่นี้พอรึเปล่าล่ะ?

Men of the Rock - บ้าไปแล้ว นี่มัน ไข่มุกดำเลยนะ 

Byron - นี่เป็นหนึ่งในสมบัติที่ผมสะสมไว้ ซึ่งผมก็ยินดีที่จะแบ่งให้ถ้ามีเหตุผลมากพอ

Men of the Rock - ได้สิ ผมก็แน่ใจว่าเราน่าจะตกลงกันได้นะ แต่ไม่ใช่ที่นี่

 

 

 

 

Clive -  อธิบายมาเลยนะว่าทำไมลุงถึงไปให้ของขวัญกับพวกทหารของ Kupka อ่ะ?

Byron - เหยื่อล่อไงไอ้หลานรัก หลานไม่สามารถล่าอะไรได้ถ้าไม่มีมันหรอกนะ ก่อนหน้าชั้นถามไปจนทั่วตลาดแล้วว่าจะหาซื้อคริสตัลได้ที่ไหน แต่หาไม่ได้เลยเพราะมีการห้ามไม่ให้ซื้อขายคริสตัล แต่นั่นเป็นการดึงดูดความสนใจของพวกทหารแบบที่ชั้นไม่รู้ตัว พวกมันบอกว่าจะหาคริสตัลมาให้ได้ถ้าชั้นมีปัญญาจ่ายให้มากพอ 

Clive -  ไข่มุกนั่นเป็นข้อพิสูจน์ของลุงสินะ?

Byron - ลุงนึกว่าพวกมันจะขอมากกว่านี้ซะอีก ไอ้มุกนั่นก็ของกระจอกน่าขายได้เต็มที่ก็แค่ 5 แสนเอง ถือว่าเป็นค่าใช่จ่ายที่น้อยมากสำหรับลุงอ่ะนะ ว่าแต่หลานล่ะได้อะไรมาบ้าง?

 

 

Clive -  คริสตัลหายไปจากตลาดมาซักพักนึงแล้ว พวกชาวบ้านคิดว่ามีคนขโมยจากพวกเขาไป ในขณะที่ทหารของ Kupka ใช้เงินอย่างบ้าคลั่งไปทั่วเมือง พนันได้เลยว่าไอ้ทหารที่ลุงคุยด้วยน่าจะขโมยคริสตัลไปขายเพื่อเกรงกำไร

Byron - ลุงว่าหลานพูดถูก 

Clive -  งั้นเราไปหาพวกมันตามที่มันนัดลุงไว้กันเถอะครับ 

 

 

 

Byron - นั่นแสดงให้เห็นว่า อย่าประมาณ Rosfield ต่ำเกินไป อยากเห็นหน้าพวกมันตอนยิ้มไม่ออกเต็มทีแล้ว ลุงนัดพวกมันไว้ที่พื้นที่รกร้างของทะเลทราย Velkroy เพื่อหลีกเลี่ยงคนอื่นมาเห็น 

Clive -  จุดที่เหมาะสำหรับการดีลหรือล้มดีลสินะ?

Byron -  และลุงมั่นใจว่าหลานเอาอยู่ตอนที่ดีลมันล่มอ่ะนะ ใช่มั๊ย?

Clive -  แน่นอนอยู่แล้วครับ 

 

 

Objective >เดินทางไปยังจุดนัดพบทางตอนใต้ของทะเลทราย Velkroy

 



Men of the Rock - นึกว่านายท่านจะไม่มาซะแล้ว ได้เอาเงินมาด้วยรึเปล่าครับ?

Byron - ในระยะเวลาสั้นๆแบบนี้ ชั้นก็รวบรวมมาได้เท่านี้แหละ 

Men of the Rock - ว้าว คุณเอามาทั้งหมด 500 เลยหรอเนี่ย?

Byron - ก็มันเป็นราคาที่ตกลงกันไม่ใช่หรอ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมขอดูคริสตัลหน่อยสิ 

Men of the Rock -แน่นอน ได้สินายท่าน 

 

 

Byron - ไม่เลวๆ คุณไม่ได้โกหกจริงๆด้วย แล้วเรื่องการรับประกันความปลอดภัยล่ะ ชั้นจะรู้ได้ไงว่าระหว่างการเดินทางจะไม่ถูกยึดเป็นทรัพย์สินของสาธารณะรัฐอ่ะ?

Men of the Rock - ทรัพย์สินพวกนี้ไม่ได้เป็นของสาธารณะรัฐอีกแล้ว และจริงๆแล้วคุณก็ไม่ได้ซื้อจากเรา คุณกำลังซื้อจากพวกเขา ....

 

 

ทหารหลวง - และเราก็ไม่มีอำนาจหน้าที่อะไรในเขตนี้ ไม่ต่างจากท่านหรอกนายท่าน เรามีเรือ และสามารถไปส่งท่านได้ทุกที่ที่ท่านต้องการ ถ้าเราตกลงราคากันได้แล้วอ่ะนะ 

Byron -  พวกรอยัลลิสต์มาไกลถึงที่นี่เลยเรอะ?

 

 

Men of the Rock - ทำไมล่ะ ก็เพื่อรวบรวมคริสตัลจาก Drake's Fang ไง ก็เราเป็นพันธมิตรกัน พวกเขาควรได้รับส่วนแบ่งจากมาเธอร์คริสตัลด้วย และด้วยความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเราเลยเลือกที่แบ่งผลประโยชน์ร่วมกัน และในตอนนี้คริสตัลเหล่านี้เป็นทรัพยสินอย่างเป็นทางการของอณาจักร Waloed แล้ว ไม่ว่ายังไงก็คงไม่มีใครมายุ่งกับเรื่องนี้หรอก 

Byron -  ได้ยินชัดแล้วใช่มั๊ย? ว่าพวกมันเป็นพันธมิตรกัน!!!

 



Clive -  มันก็คงจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้วอ่ะนะ  

Men of the Rock - ห๊ะ? นี่มันหมายความว่าไงเนี่ยนายท่าน 

ทหารหลวง - ไอ้พวกชั่วเอ๋ย มันไม่ได้ตั้งใจมาทำธุรกิจกับเรานี่หว่า? พวกเรา ฆ่ามันให้หมด !!!!

 

 

                         Mini Boss - Royal Knight 

 

 

Byron -  ว้าว ฝีมือไม่เลวนี่ไอ้หลานรัก เป็นไงชอบบทบาทตัวร้ายของลุงป่ะล่ะ คงคิดว่าลุงเล่นบนคนดีที่ผดุงความยุติธรรมเป็นอย่างเดียวอ่ะดิ๊?

L’ubor - สุดยอดไปเลยลุงเครา ต่อสู้โคตรเร้าใจอ่า !!

 

 

L’ubor - น่าเสียดายที่น่าจะมีผู้ชมมากกว่านี้ แต่บางที แบบนี้น่าจะดีกว่าก็ได้

Byron -  นายมาแอบดูตั้งแต่เมื่อไหร่?

L’ubor - ก็นานพอที่ได้เห็นการเล่นบททำธุรกรรมเลวๆของลุงอ่ะนะ ชั้นล่ะไม่อยากเชื่อเลยว่าลุงจะกล้าลดเกรียติตัวเองมาเล่นบทนี้ได้ อย่างเนียนอ่ะ

Clive -   นี่คงเป็นปัญหาที่นายพูดถึงสินะ พวก Men of the Rock ขโมยคริสตัลของชุมชน โดยมีพวกรอยัลลิสต์สมรู้ร่วมคิด แต่ตอนนี้มันจบลงแล้ว 

L’ubor - ใช่แล้ว ลำพังพวกชาวเมืองแทบไม่มีทางที่จะต่อกรกับคนของ Kupka ได้เลยไม่ได้พูดถึงทหารจากที่อื่น จนกระทั้งคุณสองคนมาที่นี่ 

 

 

L’ubor - เอาล่ะ เรามาขนคริสตัลพวกนี้กลับเมืองกันดีกว่า และถ้าพวกคุณไม่ว่าอะไรก็ช่วยขนมันขึ้นเกวียนด้วยก็ดีนะ 

 

 

L’ubor - นี่ชั้นมัวแต่ยุ่งจนลืมไปซะได้ ว่าแต่พวกคุณชื่ออะไรล่ะ?

Clive -   ไคลฟ์ 

L’ubor - โอเค งั้นซิดคนใหม่ก็ชื่อ ไคลฟ์ สินะ ...นึกว่าจะแย่กว่านี้ซะอีก เอาล่ะ ไคลฟ์ คุณได้ทำตามที่ตกลงกันแล้ว ผมก็จะทำเหมือนกัน จะผ่านประตูทางทิศใต้ของเมืองสินะ ? อันที่จริงพวกคุณก็มีส่วนช่วยทำไปแล้วอ่ะนะ เพราะพวกทหารถูกส่งกลับไปเพื่อจัดการปัญหาพวกทหารที่หายไปจากฝีมือคุณไง หากพวกคุณอยากจะผ่านประตูนั่น ตอนนี้ก็ไม่มีทหารอะไรมาเฝ้าแล้วล่ะ 

Byron -  ขอบคุณนะ และชั้นขออณุญาติจ่ายค่าเหนื่อยให้ด้วยก็แล้วกัน ซึ่งนายก็ได้รับไปแล้ว เพราะชั้นเห็นนายดึงเงินที่ชั้นจ่ายให้พวกมันออกมาจากศพพวกมันด้วย 

L’ubor - อ้าวหรอ นี่ผมเผลอหยิบมาด้วยหรอ แย่จัง

Byron -  แล้วชื่อของชั้นก็ไม่ใช่ ลุงเคราเทา ชั้นลอร์ด Byron Rosfield เว้ย รู้ไว้ซะด้วย แต่ยังไงก็ขอบใจมากนะไอ้หนู

L’ubor - ไม่ ผมสิ ต้องขอบคุณ คุณลุงเคราเทา 

Byron -  ก็บอกแล้วไงเล่า !!!!

 

 

L’ubor - เอานี่ไปสวมใส่ซะ เหล่าสหายของผมถ้าเห็นมันพวกเขาก็จะเป็นสหายของคุณด้วย และได้โปรดอย่าลังเลที่จะส่งข่าวออกไปว่า Ruzena Dalimil กลับมาร่วมงานกับ Cid อีกครั้งแล้ว !!

 

 

                      O mia lost elan. Tu isag elythe

 




 

L’ubor - ผมเชื่อในตัวคุณนะ Cid หรือจะให้เรียก Clive .. ดังนั้น อย่าทำให้ผมผิดหวังล่ะ ผมก็มีชื่อเสียงที่ต้องรักษาเหมือนกันนะ.

 



 

                          Dalimil SideQuest Unlock 

 

 

SideQuest - Carving Out a Niche 

SideQuest - Hot Water 

 

 

 

                     📗  SideQuest - Carving Out a Niche

 

 

 

 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - บางทีอาจารย์ L’ubor อาจกำลังล้อเล่นกับเราแน่ๆเลย ... 

Clive -   เป็นชั้นจะไม่มองข้ามเขาแน่นอน 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - อ้าว คุณไคลฟ์หรอ โทษทีครับที่ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ผม Sava เป็นลูกศิษย์ที่ประสบความสำเร็จน้อยที่สุดของอาจารย์ L’ubor และอาจเป็นอดีตลูกศิษย์เร็วๆนี้แน่ถ้าผมไม่ผ่านการทดสอบ บางทีผมอาจกระจอกเกินไปที่จะเป็นช่างตีเหล็กก็ได้ ในขณะที่ผู้คนกำลังแห่กันมาซื้ออาวุธที่ Briar’s Kiss แต่ผมกับทำเครื่องครัวไม่ได้ซักชิ้นเลยด้วยซ้ำ เขาต้องการให้ผมทำมีดแล่เนื้อที่ รวมจิตวิญญาณของ Dalimil ผมไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร ผมไม่รู้ว่าคุณรู้มั๊ยว่าเขาหมายถึงอะไรหรอครับ?

Clive -  เกรงว่าจะไม่รู้อ่ะนะ 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - ไม่เป็นไรครับ ขอโทษที่ต้องถามคุณนะ ผมว่าผมเก็บกระเป๋าไปเลยดีกว่า 

Clive -  จะให้ชั้นช่วยก็ได้ถ้านายต้องการ ? ชั้นรู้ว่า Briar’s Kiss นั้นยุ่งแค่ไหน และ L’ubor ก็คงต้องการคนที่มีความสามารถทั้งหมดที่เขาหามาได้เพื่อมาช่วยเขาอ่ะนะ 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - ได้เลยครับ ผมคงจะโง่มากถ้าปฎิเสธความช่วยเหลือจากคุณ 

 

 

Clive -  โอเค งั้นเราจะเริ่มจากตรงไหนดี?

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - เป็นคำถามที่ดี ถ้าจะพูดตามตรงผมก็ไม่เคยทำมีดอะไรมาก่อนเลย และคำปริศนานั่น จิตวิญญาณของ Dalimil ไม่เคยทำอะไรง่ายๆเลยสำหรับชายคนนั้น 

Clive -  เท่าที่เคยเจอมา คงมีวิธีเดียวคือต้องแก้ปริศนาของเขาให้ได้ และเราต้องการข้อมูลเพิ่มเติมที่ดีกว่านี้ 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - คุณพูดถูกดีกว่ามั่วเอาเองแบบนี้เยอะเลย อืมม เราจะไปหาข้อมูลกับใครก่อนดี ?  อืมม ใน Dalimil มีคนมากมายที่ใช้มีดในการเลี้ยงชีพ พวกพ่อค้าเนื้อ แล้วก็ พ่อครัว พวกเขาน่าจะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเครื่องมือทำมาหากินของเขาแน่นอน เอาล่ะ เรามีแผนแล้ว ผมจะลองไปคุยกับพวกพ่อครัว คุณลองไปคุยกับพ่อค้าเนื้อดู หรือใครก็ได้ที่คุณว่าเขาน่าจะรู้เรื่องมีด ขอให้มีใครซักคนพูดอะไรที่มีประโยชน์ออกมาด้วยเถอะ 

Clive -  ขอให้ได้เรื่องก็แล้วกันนะ

 

 

Objective > สอบถามข้อมูลเรื่องมีดกับชาวบ้าน 2 คน

 

 

 

นายพราน - มีอะไรงั้นหรอ? ตอนนี้ชั้นไม่ค่อยมีอารมณ์คุยเท่าไหร่อ่ะนะ

Clive -  โทษทีครับ ถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมอยากจะถามเกี่ยวกับการค้าของคุณหน่อย?  ผมอยากรู้ว่า มีดแล่เนื้อที่ดีต้องเป็นยังไง ผมว่าคุณก็คงมีใช้ซักอันนึงแน่ 

นายพราน - อืมม ต้องทนกับการใช้งาน ชั้นรับไม่ได้กับมีดที่เปราะบาง โดยเฉพาะขณะกำลังล่าสัตว์อ่ะนะ ถ้ามีดนายหักทุกครั้งที่ใช้มัน นายคงต้องรีบหาทางเอาตัวรอดแล้วเพราะนายคงต้องลำบากแน่ และ ทุกอาชีพก็เหมือนกันนั่นแหละ 

 

 

แม่ค้าขายเนื้อ - ว่าไงคะ รับอะไรดี?

Clive -  โทษทีครับ ถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมอยากจะถามอะไรหน่อย ผมอยากรู้ว่า มีดที่ดีต้องเป็นยังไง?

แม่ค้าขายเนื้อ - คุณเป็น ช่างตีเหล็ก สินะ ?

Clive -  อะไรประมาณนั้นครับ 

แม่ค้าขายเนื้อ - มีดที่ดีเป็นยังไงงั้นหรอ? อย่างแรกเลยและสำคัญที่สุด ต้องคม  มีดส่วนใหญ่จะทะลุไขมันได้หมด แต่เมื่อเจอ เอ็น ถ้าเป็นเหล็กราคาถูกก็จะทื่อได้ทันทีเลย ขอให้เป็นใบมีดที่สามารถฟันทุกอย่างที่วางบนเขียงชั้นให้ขาดสะบั้นได้ ชั้นก็แฮปปี้แล้ว

Clive -  มีดต้องคมอยู่เสมอ อืมม มีเหตุผลดี 

 

 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - ไงครับได้อะไรมาบ้าง?

Clive -  มีดที่ดีต้องทนและต้องคมอยู่เสมอ แต่ชั้นยังไม่เข้าใจเรื่อง จิตวิญญาณของ Dalimil อะไรที่ว่าเลย 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - ผมก็เหมือนกัน เท่าที่รู้มา พ่อครัวทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องการให้ใบมีดมีน้ำหนักเบา หนักไปจะเมื่อยไหล่ 

Clive -  อย่างน้อยก็ดีกว่าตอนแรกที่เราไม่รู้อะไรเลย จริงมั๊ย? อืมม บางที L’ubor อาจไม่ได้ตั้งใจให้คำว่า จิตวิญญาณของ Dalimil มันมีความหมายอะไรก็ได้ แต่ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเท่าที่เคยรู้มา เขาจะเลือกใช้คำอย่างระมัดระวังเป็นอย่างดี เราต้องพลาดอะไรไปแน่ๆ อะไรที่มันอยู่แค่ปลายจมูกแต่ดันมองไม่เห็นนี่แหละ 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - เท่าที่ผมได้เรียนรู้มาในการทำงานตีเหล็ก มีดมันจะแข็งแกร่งพอถ้าเราไม่ตีมันให้บางจนเกินไปที่เหลือก็ใช้ความพยายามลับมันให้คม ปัญหาคือ มันต้องเลือกระหว่าง ทนทานและเบานี่สิ ยังไงก็ทำไม่ได้ ไม่แน่ อาจารย์ L’ubor อาจต้องการให้ผมผิดหวัง 

Clive -  ไม่มีใครที่รู้เรื่องเหล็กดีที่นายจะปรึกษาได้อีกแล้วหรอ ลองนึกดีๆสิ?

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - อืมมม พ่อค้าเหล็กที่อาจารย์ L’ubor ชื่นชอบและซื้อเหล็กกับเขาตลอดทุกครั้งที่เขาผ่านมาที่ทะเลลาย Velkroy ผมว่าเธอน่าจะรู้อะไรบ้างแหละน่า

 

 

 

Objective > ออกไปคุยกับแม่ค้าขายเหล็กที่ Trading post กลางทะเลลาย Velkroy

 

 

 

Clive -  ไง ได้เรื่องมั๊ย? 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - ผมถามเธอแล้ว แต่ เอ่อ ...คุณช่วยบอกเขาอีกทีสิ 

แม่ค้าขายเหล็ก - ถ้าคุณต้องการมีดที่จะทำให้อาจารย์ L’ubor ถูกใจ มันก็พอมีตัวเลือกอยู่นะ

 

 

แม่ค้าขายเหล็ก -  มีดอดามันไทต์ที่เบาเหมือนขนนกที่คมอยู่ตลอดโดยแทบไม่ต้องลับมันเลย และแร่มีดอดามันไทต์ก็เป็นแร่ที่หาได้เฉพาะใน Ash มันจึงมีราคาที่ค่อนข้างแพงอยู่นะ

 

 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - และมันก็คงเกินสามารถของผมด้วย 

Clive -  หาได้เฉพาะใน Ash งั้นหรอ? อืมมม แล้วมีวัตถุดิบอะไรที่หาได้เฉพาะใน Dalimil บ้างครับ? เอาที่สามารถผสมกับเหล็กแล้วปรับแต่งทำให้มันเบาลงได้ 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - นายกำลังคิดอะไรอยู่หรอ?

Clive -  นายบอกว่า L’ubor พยายามฝึกนายให้ทำงานเหล็ก นั่นคือสิ่งที่เขาคาดหวังว่าจะใช้งานนาย แต่เขารู้ดีว่ามีดแล่เนื้อเล่มนึงมันหนักและบางเกินไป บางทีคำว่า Dalimil อาจจะไม่ใช่ปริศนา แต่เป็นคำพูดเปรียบเปรย  

 

 

แม่ค้าขายเหล็ก - ถ้าจะเอาแบบเป็นโลหะที่หาง่าย มีเฉพาะที่ Dalimil ราคาไม่แพงก็ต้อง หินปูน ซึ่งชาวบ้านที่มาตั้งรกรากที่นี่ก็มักจะไปหามันจากแหล่งของมัน และถ้ารู้เคล็ดลับก็สามารถละลายขับสิ่งสกปรกออกจากเหล็กด้วยเตาหลอมได้ไม่ยาก 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - เยี่ยมเลย! แล้วคุณพอจะรู้เคล็ดลับอะไรนั่นหรือเปล่า?

แม่ค้าขายเหล็ก - ชั้นเองก็ทำไม่เป็นหรอก แต่รู้จักช่างตีเหล็กที่รู้เคล็ดลับนั้น

 

 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - ดูเหมือนถึงเวลาที่ชั้นต้องเรียนรู้แล้วล่ะ ไคลฟ์ เอ่อ คุณช่วยผมมาเยอะแล้ว แต่ เอ่อ 

Clive -  หินปูน สินะ? ได้สิ เดี๋ยวชั้นจะไปหามาให้

 

 

 

Objective > เดินทางออกไปทางประตูทิศใต้ของเมือง Dalimil เข้าไปที่แหล่งหินปูน แล้วเก็บกลับมาให้  Sava

 

 

Clive -  เอ้านี่ หินปูน แค่นี้น่าจะพอนะ?

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - คุณนี่เป็นคนดีจริงๆเลยรู้มั๊ย แม่ค้าคนนั้นก็ด้วยที่อุตสาห์สอนเทคนิคการตีเหล็กกับผม เอาล่ะ มาดูกันว่า หินปูน จะเป็นความลับในการสร้างอาวุธที่เราหวังเอาไว้ได้มั๊ย 

 

 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - เสร็จแล้ว !!!  มีดที่หลอมขึ้นจากก้อนหินแห่ง Dalimil ซึ่งเป็นเสมือนจิตวิญญาณของที่นี่ 

Clive -  เป็นมีดที่ดูดีนะ 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - ก็หวังว่าอาจารย์ L’ubor จะถูกใจอ่ะนะ 

 

 

L’ubor - และชั้นก็เบื่อที่จะรอแล้ว 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - ต้องขอโทษด้วยครับอาจารย์ L’ubor

L’ubor - อืมมมม ...อย่างแรกเลย นายคิดว่านี่เป็นมีดที่คู่ควรกับคนที่ Dalimil หรือเปล่า?

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - ก็ เอ่อ น่าจะใช่นะครับ แล้วอาจารย์คิดว่าไงครับ?

 

 

L’ubor - ชั้นคิดว่าไงน่ะหรอ? ...อืมมม ก็ดูคมดีนะ แต่น่าจะใช้งานหนักไม่ได้ แล้วก็หนัก หนักเกินไป ก็นายไม่ได้เป็นคนถือมันไว้ แต่เป็นพวกพ่อครัวแม่ครัวที่นายขายให้ การใช้หินปูนในการทำนั้นนายมาถูกทางแล้วแต่มันทำให้นายห่างไกลจากจุดหมาย

 

 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - ผมหวังไว้มากว่าน่าจะสำเร็จ แต่ก็ ...

L’ubor - ชั้นก็ไม่รู้หรอกนะว่าใครเป็นคนสอนนายเรื่องเทคนิคพวกนี้ แต่มันทำให้เห็นถึงความคิดริเริ่มอย่างชัดเจน คำถามคือ นายคิดว่าชั้นจะขายได้เท่าไหร่หากชั้นทำสิ่งนี้ขึ้นมา ?

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - ผมทำให้แบบไม่คิดค่าจ้างเลยก็ได้ ถ้าคุณต้องการจะขายมันให้ได้ราคาแพงๆ

L’ubor - แล้วใครมันจะไปจ่ายไหวกันล่ะห๊ะ? พ่อค้าเนื้อหรอ? นายพราน? หรือกุ๊กในโรงแรม ? Dalimil เป็นที่อยู่ของพ่อค้าบ้านๆ ไม่ได้มั่งคั่งร่ำรวยอะไร จำไว้นะ Sava กฎข้อแรกของทุกๆธุรกิจ คือ นายต้องรู้จักลูกค้าของนายก่อน  

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - ครับอาจารย์

L’ubor - เอาล่ะ ยังไงก็ถือว่าผ่านก็แล้วกัน แค่ตอนนี้นะ และหวังว่านายจะอยู่ต่อไปให้นานกว่านี้ เริ่มงานพรุ่งนี้ ชั้นจะให้นายมีทั่งตีเหล็กเป็นของตัวเอง 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - ครับผม !!   เอ่อ ผมขอถามอะไรหน่อยนะ ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำยังไงถ้ามีคนขอให้คุณทำมีดแล่เนื้อ?

 

 

L’ubor - ชั้นก็จะทำอย่างที่ชั้นทำมาตลอดนั่นแหละ แต่ต้องรู้เสมอว่า ทำเพื่อใคร ถ้าเป็นพ่อค้าขายเนื้อก็ต้องแน่ใจว่าจะคมมากพอ แต่ถ้าเป็นนายพราน ชั้นก็จะทำให้มันถึกทนยิ่งกว่าไททั่น ถ้าเป็นกุ๊ก ชั้นก็จะทำให้มันเบาบาง และถ้าเป็นพวกขุนนางชั้นสูง ชั้นก็จะทำให้มันสวยดูมีราคา 

 

 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - สมกับเป็นท่านอาจารย์จริงๆ

Clive -  ดูเหมือนต้องแสดงความยินดีที่นายได้ทำงานแล้ว

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - ผมคงทำไม่ได้แน่ถ้าไม่ได้คุณช่วย ส่วนปริศนาของอาจารย์ จิตวิญญาณของ Dalimil ก็ไม่ได้เกี่ยวกับหินปูนหรืออะไรทั้งนั้น นั่นหมายถึงผมทำให้คุณต้องเหนื่อยวิ่งไปมาฟรีๆ

Clive -   นายผ่านการทดสอบ ได้งานทำ นั่นคุ้มค่าพอแล้ว ซักวันนึงนายจะสร้างผลงานของตัวเอง 

Sava ช่างตีเหล็กฝึกหัด - และเมื่อถึงวันนั้น ผมจะสร้างมีดแล่เนื้อที่ดีที่สุดแบบนี้คุณไม่เคยเห็นมาก่อนเลยคอยดู 

 

 

                       📗 SideQuest - Hot Water 

 

 

 

Clive -   เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?

Xaver เจ้าของโรงอาบน้ำแร่ - โรงอาบน้ำคงต้องปิดแล้วครับ ผมลงทุนไปมากตลอดปีที่ผ่านมา ไม่เหลืออะไรแล้ว เดี๋ยวนะ บางทีคุณอาจช่วยได้ คุณทำงานกับกระต่ายทะเลทรายใช่มั๊ย?

Clive -   ก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นงานอะไรครับ

Xaver เจ้าของโรงอาบน้ำแร่ - ผมอยากให้ช่วยกิจการโรงอาบน้ำของผมหน่อย น้ำมันเริ่มร้อนจัง และคริสตัลที่มีใน Dalimil ก็มีไม่เพียงพอที่จะทำมันให้เย็น ผมว่าแหล่งน้ำน่าจะมีปัญหาอะไรซักอย่างแน่ๆ ผมเองก็ไปเช็คด้วยตัวเองไม่ได้ ถ้าไปแล้วไม่มีคนเฝ้าเดี๋ยวพวกลูกค้าจะคิดว่าที่นี่ปิดแล้ว เลยอยากให้คุณลองไปเช็คดูให้หน่อยน่ะครับ แหล่งน้ำแร่อยู่ที่ Doeznow Terraces ถ้าเจออะไรก็มาบอกผมด้วยนะ 

 

 

 

Objective > เดินทางออกไปทางประตูทิศใต้ของเมือง Dalimil เข้าไปที่แหล่งน้ำแร่ที่ Doeznow Terraces 

 

 

 

                           Mini boss: Bath Bomb 

 

 

 

Xaver เจ้าของโรงอาบน้ำแร่ - ตอนนี้น้ำเริ่มมีความร้อนลดลงแล้วล่ะ ไม่นานน่าจะเปิดบริการได้ตามปกติ แล้วตกลงคุณเจออะไรที่ Terraces บ้างอ่ะครับ 

Clive -  ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดว่าจะเจออ่ะนะ ……………..

Xaver เจ้าของโรงอาบน้ำแร่ - อืมมม ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เชื่อในสิ่งที่คุณเล่านะ แต่ มอนสเตอร์ไฟเนี่ยนะ เป็นอะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย แต่ก็ช่างเถอะ ผมทำให้คุณต้องมาเสี่ยง เพื่อเป็นการขอบคุณ เอ้านี่ครับ ค่าเหนื่อยของคุณ

 

 

Objective > เดินทางออกไปทางประตูทิศใต้ของเมือง Dalimil

 

 

 

L’ubor - นึกว่ามาไม่ทันซะแล้ว 

Clive - มีอะไรหรอ L’ubor ?

L’ubor - ลืมถามไปว่า คุณกำลังจะไปไหนหรอ?

Clive - Drake’s Fang ไปกำจัดไอ้ Hugo Kupka 

L’ubor - อย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย งั้นผมมีความลับจะบอก ตอนนี้ Drake’s Fang เต็มไปด้วยพวก รอยัลลิสต์ Dhalmekia กับ Waloed เป็นพันธมิตรกันแล้ว อย่างที่คุณเห็น พวกทหารของมันร่วมมือกัน ทำงานด้วยกัน ที่ผ่านมาไม่เคยมีการให้กองทัพต่างชาติมาสร้างฐานทัพที่นี่มาก่อน คนของชั้นได้แฝงตัวเข้าไปที่นั่น แต่ไม่ได้รายงานกลับมาหลายวันแล้ว ชั้นกลัวว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าจะบุกเข้าถ้ำเสือจริงๆ ก็สัญญากับผมอย่างนึงว่าคุณจะเข้าไปทางเหมืองเพราะมีทหารคุ้มกันน้อยที่สุด ... ฟังนะ ชั้นเสียซิดไปคนนึงแล้ว ถ้าเสียไปอีกคน ผู้คนจะหาว่าชั้นไม่ใส่ใจ 

Clive -ไม่ต้องห่วง ผมไม่มีแผนจะตายก่อนไอ้ Kupka แน่นอน 

L’ubor - โอเค ก็ขอให้คุณทำตามแผนนี้ให้ตลอดก็แล้วกันนะ 

 

 

 

Objective > เดินทางผ่าน Doeznow Terraces >The Jaw เป้าหมายคือที่ตั้งมาเธอร์คริสตัล Drake’s Fang 

 

 

 

Byron - นั่นยังไงล่ะ Drake’s Fang

Clive - ซึ่งไอ้ Kupka ซ่อนอยู่ที่ไหนซักแห่งในนั้น 

Byron - พร้อมกับทหารจำนวนมากและการระวังป้องกันระดับสูงสุด หลานต้องมีสมาธิและฉลาดเข้าไว้ถ้าอยากจะถึงตัวมัน ระวังตัวด้วยล่ะ 

Clive - ครับลุง 

 

 

Byron - ก่อนที่แกจะไป ไคลฟ์ ลุงมีเรื่องอยากจะขอโทษ ...หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ Phoenix Gate และเรื่องราวที่เลวร้ายอีกมากมายที่ตามมา ลุงก็ได้แต่หนี ชั้นกลับไปที่บ้านแล้วพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ Vicereine พอใจ ลุงทรยศต่อประเทศของตัวเองเพื่อเอาตัวรอด เหมือนคนขี้ขลาด ..ลุงเสียใจ ...แต่มันยังไม่สายเกินไปนะไคลฟ์ โรซาเรียตกเป็นของเธอแล้วอย่างชอบธรรม และลุงก็พร้อมจะช่วยเพื่อชิงมันกลับมา ถ้าชั้นมีความกล้าหาญเท่านั้นชายชั้น ชั้นคงทำไปแล้ว แต่หลานทำได้แน่นอน 

 

 

Clive - ต้องขอโทษด้วยครับ ....แต่ ผมคงทำไม่ได้ ...ตอนนี้ ผมต่อสู้เพื่อที่จะสร้างโลกใหม่แล้ว โลกที่ดีกว่าเดิม ซึ่งเป็นที่ที่ทุกๆคนเกิดและตายตามเงื่อนไขของตัวเอง ผมถูกเลี้ยงดูมาในประเทศที่พยายามจะปรับสภาพความเป็นอยู่ของพวก Bearers และนั่นทำให้ผมรู้ว่า ประกายไฟแห่งเสรีภาพมันไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ แต่พ่อผมเป็นคนจุดมันขึ้นมา ซึ่งลุงจะเห็นผมพยายามเดินตามรอยเท้าพ่อมาตลอด และนั่นคือสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ 

 

 

ไม่ใช่โดยการปกครองโรซาเรีย แต่เป็นการแผ่ขยายอุดมคติไปสู่ทั่วทั้งแผ่นดิน Twin ซึ่งหากทุกดวงวิญญาณแห่งบรรพชนจะตราหน้าการกระทำของผมว่ามันคือ บาป แต่ผมก็มั่นใจว่า ความตั้งใจของผมนั้นถูกต้องแล้ว 

 

 

Byron - หลานนี่เหมือนพ่อมากๆเลยรู้มั๊ย ...ขอบคณนะไคลฟ์ ที่กลับมาหาลุง สมแล้วที่ลุงภูมิใจที่จะเรียกแกว่า หลานชาย มาตลอด ... เฮ้ออ โอเค เราคงต้องแยกทางกันตรงนี้แหละนะ และถ้าลุงโชคดีก็อาจทำให้เพื่อน Kanverian แบ่งปันความสามารถของเขา จริงๆลุงกะจะปล้นสมบัติของพวกมันเพื่อเอามาใช้เป็นกำลังเสริมให้เราไง ฮ่าๆ จนถึงวันนั้น ไอ้หลานรัก 

Clive - เดินทางปลอดภัยครับลุง 

Byron - หลานก็ด้วยนะ ระหว่างเรามีเรื่องที่ต้องคุยกันอีกเยอะ ถึงเรื่องการผจญภัยระหว่างหลานกับลุงตอนเราเจอกันอีกครั้งนะ 

 แกก็ทำให้ชั้นปลื้มเหมือนกันนะ Torgal ฮ่าๆๆๆๆๆ 

 

 

            Clive - ชั้นกำลังจะไปหาแกแล้วนะ ไอ้ Kupka !!

 

 

 

 

                                  Drake’s Fang

 

 

 

Hugo - แม่งเอ้ยๆๆๆๆๆๆๆ ทำไม่มันยังเจ็บอยู่อีก !!!!  ไอ้ห่านั่นมันทำบ้าอะไรกับชั้นวะ!???

 

 

                 Hugo - อ๊ากกกกกกกกกกกกกก !!!

 

 

Hugo - ชั้นจะฆ่าแกไอ้รอสฟิวส์ ชั้นจะควักหัวใจแกออกมาแล้วหั่นมันเป็นชิ้นๆ!

Harbard - ใจเย็นหน่อย ฮิวโก้ โต๊ะมันไม่ได้ทำให้นายเจ็บซักหน่อย 

 

 

Hugo - มันทำให้ชั้นต้องขายหน้า !! ชั้นเนี่ยนะ!! ถ้าแกไม่เข้ามาเสือกมันคงตายไปแล้ว !!!

Harbard - นายคิดว่าถ้าสู้ต่อไปนายจะชนะเขาจริงๆงั้นหรอ?

Hugo - ไททั่นจะทุบมันจนกลายเป็นผง 

Harbard - แล้วมันจะทำอย่างนั้นได้ยังไงถ้าไม่มีหัวอ่ะ?

Hugo - หุบปาก !!!

 

 

Harbard - นายยังแข็งแกร่งไม่พอ และนายก็ดันเรียกตัวเองว่า Dominant 

Hugo - แกเลิกล้อเลียนชั้นได้แล้ว Harbard!!

 



Hugo - อั๊กกก !!!

Harbard - เห็นมั๊ยว่านายมันอ่อนแอ ฮิวโก้ 

 

 

Hugo - แม่งเอ้ยยยยย !!!!

Harbard - แต่ไม่นานหรอก ตราบใดที่ยังมีไฟคลุกรุ่นอยู่ในตัวนาย ก็ยังพอมีหวัง อาจมีวิธีที่ทำให้นายแข็งแกร่งพอที่จะล้างแค้นได้ 

 

 

Hugo - งั้นบอกมา บอกมาว่าต้องทำยังไง ได้โปรด ชั้นยอมทุกอย่าง !!!

 

 

Harbard - หัวใจยังไงล่ะ?

Hugo - ยังไง !??

 

 

Harbard - มาเธอร์คริสตัล เป็นแหล่งรวมของอีเธอร์ที่เข้มข้นที่สุดในทุกสรรพสิ่ง บางทีนายอาจจะใช้ประโยชน์จากมันได้ แน่นอนว่า มาเธอร์คริสตัล ไม่เคยให้พรกับคนทั่วไป แต่ นายไม่ใช่คนทั่วไป ใช่มั๊ย ฮิวโก้ ไคลฟ์ รอสฟิลด์ขโมยพลังของนายไป และคนอื่นๆก็ประสบชะตากรรมเดียวกัน และก็ได้ค้นพบความแข็งแกร่งเพื่อเรียกใช้ Eikon ของตัวเองออกมาได้อีกครั้ง เหมือนกับ Benedikta Harman ...เธอเองก็ดื่มกินอีเธอร์จนได้พลังที่เกินความหยั่งรู้ของมนุษย์มา 

 

 

Hugo - เธอทำแบบนั้นหรอ .....

Harbard - ช่ายยย ..ทำแบบนั้น 

Hugo - Benedikta …. Benedikta ของชั้น ...

 

 

           Harbard - ไปเลยฮิวโก้ นายต้องตามแสงนั่นไป 

 




Harbard - หืมมม ... มิธอส อยู่ที่นี่งั้นหรอ?  งั้นก็ดีเลยนะสิ .... ฝ่าบาททรงควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า

 

 

 

                              🔶  Into the Darkness 🔶

 

 

 

                                    Drake’s Fang

 




Clive - Orcs งั้นหรอ ... พวกรอยัลลิสต์พามันจาก Ash ด้วยเนี่ยนะ? ตอนนี้พวกสัตว์ร้ายพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ Waloeder แล้วหรอ มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย !?

 

 

Objective > ลุยเข้าไปด้านในตามล่าหา Hugo Kupka 

 

 

 

                              Mini Boss - Orcish Warlord 

 



Clive - Kupka ไม่เคยทำอะไรครึ่งๆกลางๆ การเอามาเธอร์คริสตัลมาเป็นของตัวเองคงไม่พอ มันน่าจะสร้างปราสาทของมันขึ้นในนั้นด้วยแน่นอน  

 

 

                            Harbard - เริ่มการทดสอบได้ หึหึหึ  

 

 

                             BOSS - Undertaker

 

 

                 Clive - แฮกก ๆ.. ...... อย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย 

 



                    Harbard - โอ้ นี่คือพลังของ มิธอส สินะ ...

 

 

                                   Castke Dazbog

 

 

Clive - ศพพวกนี้ก็คงเป็นฝีมือพวก Orcs มันเกิดบ้าอะไรขึ้นที่นี่กันแน่ ทั้งหมดนี่เพื่อชั้นแค่นั้นหรอ หรือ เพื่อเขา?

 

 

            Clive - แกกำลังยุ่งอยู่สินะ Kupka ว่าแต่ มันอยู่ไหนกัน ?

 

 

                     Clive - หืมม ..หัวใจของ มาเธอร์คริสตัล

 

 

                             The Inner Sanctum 

                                   Drake’s Fang

 



Hugo - Benedikta …. เธอเป็นทุกอย่างขอชั้น ...ชั้น ชั้นคิดถึงเธอเหลือเกิน

 

 

Clive - Kupka !!!!!!!! 

Hugo - ชั้นสาบานต่อเธอเลยนะ ยอดรักของชั้น เราจะไม่มีวันพรากจากกันอีกต่อไป 

Clive - มันเป็นบ้าอะไรวะเนี่ย?

 




                     Hugo - ไม่ !! ไปให้พ้นจากเธอ !  Benedikta !!!

 



 

                 Hugo - ชั้นจะฆ่าแก ไอ้รอสฟิลด์ !!!!!!!

 



                     Clive - ฉิบหายแล้ว มันกำลังเริ่มเปลี่ยนร่าง 

 

 

                         Clive - เราต้องทำได้สิ ค้นหาเขา 

 

 

Clive - นายเคยทำสำเร็จมาแล้ว นายต้องทำได้อีกครั้ง ขอให้เปลวเพลิงจงมอดไหม้ไปกับนาย !!  ไม่สิ ....ปล่อยให้มันมอดไหม้ไป !!!!

 

 

                    Clive - จงสถิตอยู่กับชั้น Ifrit !!!!!!

 




 




 

                               BOSS - TITAN

 

 

Ifrit เรียนรู้อบิลีตี้ Brimstone 

ใช้งานโดย กด  R2 ค้างแล้วกด สี่เหลี่ยมค้างให้เกจความรุนแรงเริ่มเดิม ปล่อยปล่อยปุ่มสี่เหลี่ยมที่กดค้างไว้ตามระยะความรุนแรงที่ต้องการ

 

 

                           BOSS - TITAN LOST

 



                         Ifrit - สู้ตายโว้ยยยย !!!!!

 

 

                Ifrit - ชั้นกำลังไปหาแกแล้ว Kupka !!!

 


                           Ifrit - เจอตัวแกแล้ว !!!

 

 

                             Ifrit - ตายซะ !!!!

 











 

 

                       Clive - อั๊กกก ..! อ๊ากก !!!

 

 

                       Clive - อ๊ากก !!!!!!

 

 

           Clive - แกนั่นเอง  Ultima !! แกต้องการอะไร !!

 

 

Ultima - วิญญาณของเจ้าแปดเปื้อนไปด้วยเจตจำนงของมนุษย์ที่ไร้ค่า แต่ความกระหายในอำนาจของเจ้ากลับยังไม่ลดลงเลย ทุกครั้งที่เจ้ามีชัย เจ้าก็จะได้รับพลังเพิ่มขึ้น และในไม่ช้า เจ้าก็จะบรรลุความสมบูรณ์แบบ 

 

 

Clive - ชั้นไม่รู้ว่าแกหมายถึงอะไร ?

Ultima - แล้วเจ้าก็จะยอมรับพวกเรา มิธอส มันมิอาจหลีกเลี่ยง

 

 

    Ultima - เจ้าสร้างมันมาเพื่อการนี้ .... เจ้าก็ต้องยอมรับมัน 

 



                      Clive - ไม่มีวันหรอก !!!!

 






 

              Joshua - สู้มันไคลฟ์!! อย่าปล่อยให้มันเข้ามา !!!

 



Ultima - จิตสำนึก ...เราเห็นแล้ว เจตจำนงของมนุษย์นั้นไร้ค่า มันไม่สามารถดำรงอยู่โดยปัจเจคได้ ...

 

 

Ultima - เจ้าบรรเทาความอ่อนแอของมันด้วยการผสมผสานเข้ามาในจิตสำนึก เราเชื่อว่า เราเพียงต้องการกำจัดเจตจำนงเจ้าที่กำลังยึดพาหะของเรา 

 

 

ดูเหมือนว่าเราต้องตัดสายใยที่คอยสนับสนุนจิตสำนึกนั้นออกให้หมดเสียงก่อน ไม่เป็นไร ยังไม่ถึงเวลาที่จะสร้างโลกใหม่ของเรา เราจะลองไตร่ตรองดูอีกที  

 





                         Clive - ขอบใจนะ โจชัวร์ 

 

 



Harbard - ยังไม่เคยมีใครที่ควบคุมอีเธอร์มากมายขนาดนี้ได้โดยไม่โดนพลังท่วมตายมาก่อน เหมือนสามารถต้านแรงน้ำแม้ยืนอยู่ทะเล ชั้นคิดว่าฮิวโก้จะมีสมองกว่านี้ แต่จริงๆแล้วในหัวมันไม่มีอะไรนอกจากก้อนหิน 

 

 

Barnabas - Titan น่ะแข็งแกร่ง ...แต่ มิธอสนั้นแข็งแกร่งกว่า 

Harbard - ฝ่าบาท 

 

 

Barnabas - 5 ปี ที่ชายคนนี้มีชีวิตอยู่เพื่อแก้แค้น ยึดติดกับเรื่องที่เสกสรรขึ้น แม้มันจะพาเขาลงไปในเหวลึกก็ตาม เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวตนของตนเองได้ด้วยเจตจำนงเพียงอย่างเดียวหรอกนะ 

 

 

Harbard - ผู้ทรงอำนาจเท่านั้นถึงจะทำได้ .. ฮิวโก้ คุปก้า ชายผู้ถวายชีวิตให้ผู้หญิงที่เหลือแค่หัว ...โง่เหมือนกันหมด 

 

 

Barnabas - โอ้ ...การสูญสลายของมาเธอร์คริสตัลนั้นงดงามเสียยิ่งกะไร 

 

 

 

                  Holy Order of the Knight Dragoon 

 

                      North of the Isles of Ark 

 



Terence - ท่านต้องคำนึงถึงสุขภาพของตัวเองด้วยนะครับ เจ้าชายของข้า หากจำเป็นต้องแสดงพลังเพื่อไม่ให้ Dhalmeks อยู่ในอ่าว ท่านก็ควรเชื่อใจเหล่า Dragoon ของท่านนะครับ ข้าขอให้ท่านเรียกใช้ บาฮามุธ เป็นทางเลือกสุดท้ายเถอะครับ ความแข็งแกร่งของเขาต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงเกิน 

Dion - จักรวรรดิตกลงสงบศึกกับสาธารณะรัฐ แต่องค์จักรพรรดิยังมีแผนให้โจมตีต่อ ตอนนี้พวก Dhalmeks ยังไม่สงสัยอะไรก็จริง แต่ตราบใดที่เรารู้ว่าพวกมันกำลังคิดอะไรอยู่ สงครามก็ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น 

 

 

Dion - แต่ยิ่งกว่านั้น บาฮามุธ ยังเป็นอาวุธหลักของอณาจักร เมื่อประชาชนมองขึ้นไปบนฟ้า การได้เห็นเขาทำให้พวกเขายังมีความหวัง 

 



Dion - ต้องขอโทษด้วยนะ Terence …นายเป็นคนสำคัญของชั้น 

Terence - ข้าจะเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ของพระองค์ตลอดไป 

 

 

Dion - หากการอ้างเหตุผลของการซ้อมรบที่ไร้ยางอายของสภากระตุ้นให้สาธารณะรัฐฉีกสนธิสัญญาแล้วเริ่มสงครามครั้งใหม่ ทหารของเราต้องเข้าปะทะกับพวกเขาโดยการตัดผ่านกลางเกาะ แม้ไม่ทันที่จะขัดขวางกองกำลังที่ฝ่าแนวป้องกันทางใต้และบุกโจมตีฝั่ง Twin แบบนั้นเมืองหลวงจะกลายเป็นสนามรบ ประชาชนจะล้มตายจำนวนมาก ชั้นไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้นแน่นอน 

 

 

Terence - แต่อย่างน้อยท่านก็จะไม่ถูกบังคับให้ออกไปสู้กับ Titan 

Dion - อืมมม ... แล้วชั้นจะเลี่ยงการสู้รบได้ยังไงกันนะ 

 

 

ทหาร - มีจดหมายจากเมืองหลวงส่งมาถึงท่านครับ 

Dion - ไหนดูสิ ...... โอลิเวอร์จะได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิงั้นหรอ? ... นี่มันหมายความว่ายังไง!? เป็นคำสั่งของพ่อชั้นงั้นหรอ? ตอบมาเดี๋ยวนี้  !!!

ทหาร - ใช่ๆๆ ขอรับ พระองค์ส่งให้ฝ่าบาทรักษาที่มั่นนี่ไว้ และ ....

Dion - บ้าเอ้ยยย !!!!!

 

 

Dion - Terence ชั้นต้องกลับวังเดี๋ยวนี้ 

Terence - ผมจะไปเตรียมม้าให้ครับ !!

 




Dion - อะไรกับอีกล่ะ !!!??

Joshua - ต้องขอประทานอภัยที่เสียมารยาทนะครับฝ่าบาท 

 

 

Dion - ชั้นรู้จักนาย ..... ไม่ต้อง Terence!!  ตรงหน้าเรานั่นคือ ฟินิกซ์ นายคงไม่อยากถูกเผาหรอกนะ 

 

 

Joshua - หวังว่าผมคงไม่มารบกวนนะครับ 

Dion - ไม่หรอก แค่ไม่คาดหวังว่าจะได้เจอแขกผู้มีเกรียติแบบนี้ 

Joshua - พิธีรำลึกนั่นผ่านมากี่ปีแล้วนะ ? 20 ได้มั๊ย?

Dion - ชั้นนึกว่านายตายไปแล้ว..หรือชั้นกำลังพูดกับผีอยู่?

 

 

Joshua - หลายคนชอบเห็นว่าชั้นเป็นแบบนั้น แต่ ไม่ ผมยังไม่ตาย ก็แค่ 

 



Joshua - เจ้าชายดิออนแห่งราชวงศ์ Lesage ผมมีเรื่องจะเล่าให้คุณฟัง 

 

 

 

 

                                  The Hideaway 

 

                          Bennumere, Central Storm

 



      Clive - คงต้องแวะไปบอกข่าวดีกับ Otto ซะหน่อย 

 

 

 

                              🔶 Out of the Shadow 🔶 

 

 

 

 

Otto - ไคลฟ์ นายกลับมาแล้วหรอ?

Clive - ใช่ ผมกลับมาแล้ว พร้อมข่าวดี จะไม่มี Hugo Kupka ให้แกะขวางตาอีกแล้ว

Otto - เยี่ยมเลย สหายทุกคนของเราในบ้านของซิดแห่งนี้กำลังยิ้มให้นายอยู่

Gav - เราได้ข่าวที่ส่งมาจาก L’ubor บอกว่า Drake’s Fang ล่มสลายไปแล้ว ชั้นมั่นใจเลยว่าเป็นฝีมือนายแน่นอนใช่ป่ะ?

Clive - อืมม เรื่องมันยาวน่ะ

Gav -พนันได้เลยว่า ตอนนี้มันได้เข้ามาอยู่ในหน้าบันทึกประวัติศาสตร์ไปแล้ว 

Jill - ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะไคลฟ์

Clive - ดีใจที่ได้กลับมาอีกนะ เธอก็ดูดีขึ้นมากๆเลย 

Jill - ชั้นก็รู้สึกแบบนั้น นั่นแปลว่า ชั้นจะออกลุยไปกับนายได้แล้ว นายคงทิ้งชั้นไว้ข้างหลังแบบนี้อีกไม่ได้แล้วล่ะ 

Clive - รออยู่เลยล่ะ .... เอ่อ อ๊อตโต้ พวกรอยัลลิสต์มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้างมั๊ยตอนนี้ ?

Otto - นี่นายเพิ่งกลับมา ไม่คิดจะพักซักหน่อยก่อนหรอ?  เฮ้ออ ... ถ้านายอยากจะรู้ละเอียดๆคงต้องไปถามวิเวียนแล้วล่ะนะ 

 

 

 

 

Vivain - ว้าว ฮีโร่ผู้พิชิตของเรากลับมาแล้ว แทบไม่มีร่องรอยขีดข่วนเลยด้วย 

Clive - ก็มีนิดหน่อยแหละน่า 

Vivain - อันที่จริง คุณเลือกที่จะมาหาชั้นก่อนทันทีที่กลับมาแทนที่จะไปหาหมอ นั่นแปลว่าคุณได้อะไรสำคัญๆมาใช่มั๊ยล่ะ? อย่างเช่น เรื่องของ Waloeders 

Clive - ใช่เลยครับ ไม่ว่า Kupka กับพวกมันจะเกี่ยวข้องอะไรกัน แต่พวกรอยัลลิสต์ก็เป็นคนพาเขาไปยังหลุมศพของตัวเอง เช่นเดียวกับพวกที่ถูก Orcs สังหารที่ Drake’s Fang ... Orcs เลยนะ วิเวียน ผมไม่เคยเห็นมันที่ฝั่ง Storm มาก่อนเลย พวก Waloeders พาพวกมันมาที่ฝั่ง Ash ทำไม? แล้วทำไมถึงช่วย Kupka คนที่โจมตีอณาจักรของตัวเอง ก่อนที่จะปล่อยให้มาเธอร์คริสตัลของทั้งคู่สูญสลายไป?  มันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย 

 

 

Vivain -  แล้วคุณรู้จักเรื่องราวของ คนตาบอด กับ adamantoise มั๊ยล่ะ? ซึ่งเรามักจะหลงทางเพราะเราเพ่งไปที่เรื่องรายละเอียดตัวบุคคลมากเกินไป เราต้องมองภาพที่มันใหญ่กว่า และจะมีภาพไหนที่ใหญ่กว่าแผนที่ของชั้นอีกล่ะ?

 

 

อณาจักร Waloed อ้างอำนาจการปกครองเหนือดินแดน Ash ทั้งหมด มันเป็นประเทศที่ถูกช่วงชิงมาอย่างนองเลือดโดย Barnabas Tharmr หรือ Dominant แห่ง Odin 

 

 

สงครามประกาศเอกราช Kanverian ในปี 849 , สงครามอณาจักรแฝดปี 865 หรือ การรบที่ Belenus ปี 873  ไม่ว่าพวก Waloeders จะทำสงครามที่ไหนก็ตาม Odin ก็จะเข้าสู่สนามรบอย่างดุเดือดเสมอ แต่ในช่วงหลังๆมานี่ กษัตริย์นักรบเหมือนจะวางดาบลงแล้ว  

 

 

แม้ว่า การต่อสู้อันดุเดือดเพื่อแย่งชิง Crystalline Dominion แต่ Tharmr กลับไม่ส่งกองเรือไปช่วย Dhalmekian ที่เป็นพันธมิตรเลยแม้แต่ลำเดียว 

 

 

ในขณะเดียวกับ Blight ก็เริ่มทำลายล้างพื้นที่ในฝั่ง Ash มากขึ้น ในขณะที่ Waloeders ซึ่งเป็นประเทศที่บ้างสงครามกลับไม่สนใจที่จะแย้งชิงดินแดนใดๆเลย 

 

 

 แล้วเหตุใดจะต้องลำบากพากองทัพ Orcs เข้าสู่ใจกลางของ Drake’s Fang? โดยที่ไม่ใช่เหตุผลการแย่งชิงมาเธอร์คริสตัลมาเป็นของตัวเอง? แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าจะไม่มี Tharmr ร่วมลงแข่งในสงครามแย่งชิงคริสตัลใน Twin 

 

 

ยังก่อน เราแค่ยังไม่ได้เห็นมาตฐานของ Waloeders อย่างที่เคยเป็น Odin จะผงาดอีกครั้งแน่นอน แค่ว่าเมื่อไหร่เท่านั้นเอง 

 

 

Vivain -  ในความเห็นของชั้นไม่ว่า การทรยศของพวกรอยัลลิสต์กับ Kupka มันจะจบลงยังไง มันก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งในแผนการใหญ่ของชายที่สุดทะเยอทะยานคนนึงแน่นอน  

Clive - ราชา Barnabas 

Vivain - แต่ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่ต้องกังวล ถ้าจะรักษาโรคก็ต้องระบุอาการให้ได้ซะก่อน และลุงของคุณก็อาสาจะทำสิ่งนั่นอยู่ คือจับตาดูพวกรอยัลลิสต์ 

Clive - เขาจะเอาตัวเองมาเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ด้วยจริงๆหรอเนี่ย

Vivain - ดูเหมือนว่าเขาจะเอาจริงนะ ซึ่งหมายความตอนนี้เราทำได้แค่รอรายงานความคืบหน้าของลุงของคุณส่งมา แต่สำหรับคุณ ก็ไม่ถูกทั้งหมดนะ เพราะตอนนี้ผู้คนใน hideaway ต้องรับรู้ว่าความยุติธรรมได้ทำงานของมันแล้ว  ข่าวดีเรื่องการตายของ Kupka ยังไงล่ะ บาดแผลของพวกเขาจากคืนนั้นยังสดไม่จางหาย โดยเฉพาะคนที่อยู่กับซิดมานานที่สุด ไปบอกพวกเขาซะ ทำให้แผลในใจของพวกเขาสมานลง นั่นเป็นราคาสำหรับคำแนะนำในวันนี้ของชั้น 

Clive - ผมไม่คิดว่าคุณจะมีอารมณ์อ่อนไหวแบบนี้อ่ะนะ 

Vivain - ทำไงได้ ชั้นก็มนุษย์คนนึง และมนุษย์ทุกคนก็มีจิตใจที่อ่อนไหวอยู่แล้ว 

Clive - ใช่ พวกเราเป็นแบบนั้น เอาล่ะ ผมจะไปแจ้งข่าวให้พวกเขารู้เอง 

 

 

Charon - โอ้ ดูสิใครมา ชั้นกำลังอยากรู้พอดีเลย เรื่องที่เขาพูดๆกันนั่นจริงหรอ? 

Clive - เรื่องจริงครับ Kupka มันตายแล้ว 

Charon - อืมมม ไม่ต้องระแวงหลังกันอีกแล้วสินะ ก็ดี เพราะชั้นก็เมื่อยคอจะตายอยู่แล้ว แต่ก็อย่าเพิ่งอวดดีทำเป็นประมาทชะล่าใจไปล่ะ 

 

 

Clive - พอมีเวลาซักเดี๋ยวมั๊ย Blackthorne ?

Blackthorne - ไม่มี ชั้นกำลังยุ่ง 

Clive - ผมแค่อยากมาบอกว่า Kupka มันตายแล้วครับ  

Blackthorne - ชั้นจะบอกอะไรให้นะ ... ชั้นแม่งรอที่จะได้ยินคำนี่มานานแล้ว งั้นก็ดี จะได้เริ่มต้นใหม่ภายใต้การนำของซิดคนใหม่จริงๆซะที 

Clive - ผมจะพยายามใช้ชีวิตให้สมกับใช้ชื่อนี้ครับ 

 

 

Harpocrates - อ่า ไคลฟ์ อยากจะมาหาความรู้อะไรกับชั้นเรอะ?

Clive - เปล่าครับ ผมแค่อยากมาบอกว่า Kupka มันตายแล้ว 

Harpocrates - โอ้ งั้นมันก็เป็นเรื่องจริงสินะ 

 

Crow - ดูสิเขาร้องไห้ด้วย

Tett - เด็กโข่ง ฮ่าๆๆ 

Harpocrates - ร้องด้วยเหตุผลที่ดีเจ้าหนู มันเป็นน้ำตาแห่งความปิติยินดี เราต้องอธิฐานให้พ่อแม่ของพวกเธอไปสู่สุขคติ และพวกเขาก็จะร้องไห้ด้วยความปิติเหมือนพวกเรา และวันนี้จะไม่มีการเรียนการสอนใดๆ เราจะมีแต่งานรื่นเริงเท่านั้น พวกเจ้าไปเล่นได้เลย 

Crow / Tett - เยี่ยมเลย เย้ๆๆๆ !!!!!

 

 

Harpocrates - ในที่สุดยุคใหม่ก็มาถึงแล้ว ขอบใจนะไคลฟ์ ชั้นแทบอดใจที่จะประกาศข่าวนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว 

Clive - Harpocrates … หลังจาก Kupka ตาย ผมก็ได้เจอกับ Ulitma อีก ผมอยากรู้ว่ามันเป็นตัวอะไร คุณพอจะมีข้อมูลอะไรบ้างมั๊ย? 

Harpocrates - เสียใจด้วยนะ แต่ ไม่มีเลย ไม่ใช่ว่าชั้นไม่เคยลองนะ แต่ค้นจากบันทึกทางประวัติศาสตร์ของชั้นทุกเล่มแล้ว ไม่เจออะไรเลยจริงๆ มันเหมือนทุกอย่างถูกปกปิดเอาไว้เสมือนว่ามันไม่เคยมีอยู่มาก่อน 

Clive - แต่ผมเห็นมันด้วยสองตาตัวเองเลยนะครับ 

Harpocrates - ชั้นก็ไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อคุณนี่ แต่ดูเหมือนจะมีแค่คุณคนเดียวนะที่เห็นมัน แต่คนอื่นๆเห็นแค่สิ่งที่มันทิ้งเอาไว้ ราวกับพลังอันน่าสะพรึงกลัวแห่งธรรมชาติที่อยู่นอกเหนือการหยั่งรู้ของมนุษย์ ไม่ว่า Ultima ที่คุณเห็นมันจะเป็นของจริงหรือภาพลวงตา ชั้นก็ไม่สามารถรู้ได้ แต่ชั้นจะยังค้นหาความจริงต่อไปนะ 

 

 

Otto - นายแทบไม่ได้พักเลยนะตั้งแต่กลับมาเนี่ย ตกลงวิเวียนมอบหมายงานอะไรให้อีกล่ะ?

Clive - ก็แค่บอกกล่าวอะไรนิดหน่อยๆ .......... 

Otto - แสดงว่าท่านอาจารย์ก็มีด้านอ่อนไหวเหมือนกันนะเนี่ย ไม่รู้มาก่อนจริงๆแฮะ 

Clive - ไม่หรอกครับ เธอพูดถูก ทุกคนดีใจเมื่อได้ยินข่าวนี้ 

Otto - ชั้นนึกถึงเพื่อนๆที่ที่ซ่อนเก่า พวกเขาน่าจะตายตาหลับเมื่อได้ยินข่าวนี้ แต่ดูเหมือนนายจะลืมบอกไปคนนึงนะ ซิดก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น 

Clive - อืมม คุณพูดถูก ผมจะทำ ทำแน่นอน 

Otto - เมื่อไหร่ที่นายจะไปก็อย่าลืมชวน Mid ไปด้วยล่ะ เธอได้แต่โหมงานหนักเพื่อสร้างห้องทำงานของเธอเพื่อให้พ่อเธอภูมิใจ ชั้นจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายเธอไปเยี่ยมหลุมศพพ่อเธอเมื่อไหร่

Clive - ได้ครับ ผมจะลองไปชวนเธอดู 

 

 

Mid - ไง ไคลฟ์ ต้องการไรป่ะ?

Clive - ชั้นว่าจะไปเยี่ยมหลุมศพซิดซะหน่อยน่ะ ก็เลยว่าจะชวนเธอไปด้วย 

Mid - โทษที ตอนนี้ไม่ได้อ่ะ ชั้นกำลังยุ่งมากเลย ชั้นกำลังจัดการเรื่องโครงสร้างของ Stack เครื่องควบคุมการถ่ายเทความร้อน (thermal displacement) อยู่ 

Clive - ถ.. ถ่ายเทความร้อน ?

Mid - นี่ไง ที่ชั้นออกแบบไว้ 

Clive - แล้วมันคือ ?

 

 

Mid - เรือที่เร็วที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา มันคือ The Enterprise ยังไงล่ะ !

ชั้นกับพ่อช่วยกันออกแบบมันขึ้นมา ในขณะที่เรือธรรมดาๆใช้แรงลมในการขับเคลื่อน แต่เรือของเราติดตั้งเครื่องยนต์ mythril เจ้านี่มันก็เหมือนกับ behemoth ที่กำลังโกรธ ซึ่งสะสมความร้อนเอาไว้จำนวนมากยิ่งกว่านรกเสียอีก ซึ่งนั่นทำให้เราต้องติดตั้ง Stack สำหรับควบคุมการถ่ายเทความร้อน ยังไงล่ะ 

 

 

Mid - เรื่องตัวเรือชั้นคุยกับช่างต่อเรืองที่อู่เล็กๆที่ Kanver ไว้แล้ว แต่ Stack นั้นซับซ้อนกว่าเราจึงต้องสร้างมันขึ้นที่นี่ แต่ยังมืดแปดด้าน เลยไปโพกัสเรื่องตัวเรือที่อู่ก่อน เรื่องไปเยี่ยมหลุมศพพ่อน่ะ ชั้นไปด้วยแน่ แต่ขอเสร็จงานนี้ก่อนก็แล้วกัน 

 

 

Clive - เฮ้ออ … แล้วมีอะไรให้ชั้นช่วยมั๊ย? 

Mid - นั่นแหละที่ชั้นอยากให้คุณพูดออกมา อย่างแรกเลย ชั้นต้องการชิ้นส่วนบางอย่าง 

 

 

Stack จะประกอบด้วยองค์ประกอบหลักที่สำคัญๆ 3 อย่าง มี แผ่นโลหะที่เคลือบอยู่ด้านนอกเพื่อระบายความร้อนของเครื่องยนต์ helm ที่อยู่ส่วนหัวสำหรับระบายความร้อนไปในอากาศ และ เกราะป้องกันด้านข้างเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเรือลุกไหม้

 

 

Clive - สวมเกราะทั้งตัวกันเลยสินะ งั้นเราควรเริ่มไปหามันมาทีละอย่างจะดีกว่า

Mid - งั้นคุณควรจะเริ่มจาก แผ่นโลหะที่เคลือบอยู่ด้านนอกก่อน ชั้นจะออกแบบแล้วเขียนรายการวัตถุดิบที่ต้องการให้ จากนั้นก็เอาไปให้ Blackthorne เขาจะรู้เองว่าจะทำยังไง 

 

 

Clive - Blackthorne ผมขอถามอะไรหน่อยสิ  ?

Blackthorne - อะไรอีกล่ะ !?

Clive - เอ่อ Mid อยากให้คุณสร้างสิ่งนี้หน่อยน่ะ 

Blackthorne - ชั้นว่าที่ผ่านมาชั้นเคยบอกไปแล้วนะว่าชั้นไม่ทำเรื่องไร้สาระอีกแล้วน่ะ?  แต่ก็เอาเถอะ คราวนี้อะไรอีกล่ะ ?

Clive - เธอบอกว่าคุณจะรู้เอง นี่ครับ 

Blackthorne - พระเจ้าช่วย ...ชั้นไม่รู้นะว่าคุณจะเอาเจ้านี่ไปทำอะไร สร้างน่ะสร้างได้ แต่มันไม่ง่ายเลยนะ และชั้นต้องการตัวช่วย คุณไปเรียก Gav กับ Otto มานี่ก่อนก็แล้วกัน 

 

 

Otto - งานนี้ Mid ดึงเรามาร่วมแจมด้วยอีกแล้วสินะ? ถ้านั่นจะยอมให้เธอไปเยี่ยมหลุมศพพ่อของเธอได้ชั้นก็ยอมล่ะวะ 

Gav - เอาไงก็เอา .... แล้วจะให้เราทำอะไรหรอ?

Blackthorne - เอาล่ะ ดูนี่นะ ...

 

 

Blackthorne -แผ่นโลหะที่ Mid ต้องการให้ทำนั้นใช้เหล็กในเรทแบบตีดาบทั่วไปไม่ได้แน่ เราต้องการอะไรบางอย่างที่เจอความร้อนมากๆแล้วยังคงรูปร่างอยู่ได้ นั่นหมายถึงเราต้องการ alloy หรือโลหะผสมที่ไม่แตกหรือหักงอเมื่อเจออณุภูมิตามที่เธอต้องการ ชั้นต้องการสิ่งนั้น ในขณะที่งานก็ยังล้นมือ เพราะงั้นชั้นถึงเรียกพวกนายมา ก็เพื่อให้ไปหามันมาให้ชั้น  

 

 

Blackthorne - สิ่งที่ชั้นกำลังตามหาอยู่คือ ทรายชนิดพิเศษที่เรียกว่า Stardust ซึ่งหาได้จากที่ทะเลทราย Velkroy เท่านั้น ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ ซัพพลายเออร์ของชั้นน่าจะมีอยู่ในคลังอยู่ แค่รอที่จะซื้อมันมาแค่นั้น 

 

 

Otto - ชั้นว่างานมันจะเสร็จเร็วขึ้นเราแยกกันไปนะ กลุ่มนึงไปเก็บทรายที่ว่า 

Gav - ส่วนที่เหลือก็ไปเอาวัตถุดิบที่เหลือจากซัพพลายเออร์ของ Blackthorne มาที่นี่  

Blackthorne - เอาล่ะ งั้นก็แบ่งทีมกันเองว่าใครจะไปเอาอะไรแล้วมาบอกชั้น 

 

 

                         📒 Quest: Letting off Steam I 

 

 

ก่อนทำเควสนี้ จะต้องเลือกว่าจะไปกับใครระหว่าง Otto กับ Gav ซึ่งการตัดสินใจไปกับใครก็ตามจะไม่ส่งผลต่อเนื้อเรื่อง แต่จะได้มีอีเวนท์โมเม้นท์กับคนนั้นที่เป็นเรื่องส่วนตัวมากขึ้น 

 

 

ผมเลือก ไปกับ Gav >>> 

 

 

 

Gav - แล้ว เอ่อ ไอ้เจ้า Stardust นี่มันหาได้จากที่ไหนงั้นหรอ?

Blackthorne - ที่แม่น้ำสายนึงที่ไหนผ่านซากโบราณสถานทางใต้ของทะเลทราย Velkroy มีลักษณ์เป็นทรายสีดำมักเกยตื้นแถวๆชายฝั่ง 

 

 

Gav - ทางใต้ของทะเลทราย Velkroy งั้นก็เลย Dalimil ไปหน่อยสินะ โอเค เดี๋ยวชั้นจะล่วงหน้าไปสำรวจพื้นที่แล้วก็หาจ้างเกวียนเอาไว้ตอนขนกลับเลยล่ะกัน 

Clive - โอเค งั้นไปเจอกันที่แม่น้ำเลย 

Otto - ขณะที่พวกนายไปเล่นพายเรือกันส่วนชั้นจะไปเอาวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ของ Blackthorne มาที่นี่เอง ดูแลตัวเองกันด้วยล่ะ

 Gav - ลุงก็ด้วยนะ แล้วก็อย่าไปโดนพวกมันหลอกล่ะ  

Otto - หลอกชั้นเนี่ยนะ? ก็ลองดูสิ 

 

 

Objective > เดินทางไปที่เมือง Dalimil แล้วออกไปทางประตูฝั่งตะวันตกเพื่อเข้าไปที่พื้นที่ทางใต้ของทะเลทราย Velkroy

 

 

 

Clive - ขอโทษที่ให้รอนะ Gav 

Gav - มาสายก็ดีกว่าไม่มาอ่ะนะ ชั้นลองเซอร์เวย์ดูแบบคร่าวๆแล้ว ตรงนี้น่าจะเหมาะที่สุดในการเก็บ Stardust ชั้นก็ไม่รู้นะว่า Blackthorne กำลังคิดไรอยู่เพราะชั้นถามคนที่ Dalimil แล้วมีแต่บอกว่า Stardust มันไม่ใช่ของมีราคาอะไร แต่ถ้า Blackthorne อยากได้มันจริงๆ เราก็ต้องหาไปให้เขาอ่ะนะ 

Clive - งั้นเรามาลุยกันเลย 

 

 

     Objective > เก็บ Stardust ในพื้นที่เป้าหมายมาให้ครบ 5 อัน 

 

 

Gav -นายเก็บเสร็จแล้วหรอ? ได้มาแค่ไหนอ่ะ?

Clive - น่าจะมากพอ หวังว่านะ 

Gav - โอ่ ให้ตายดิ นายชนะอีกแล้ว หวังว่ามันจะมากพอสำหรับตาลุง Blackthorne นะ ...เฮ้ นี่ ก่อนเราจะกลับชั้นขอคุยอะไรหน่อยได้มั๊ย?

 



Gav - นานมากแล้วนะที่เราไม่ค่อยมีโอกาสได้คุยกัน คุณแบบแมนๆอ่ะนะ ย้อนกลับไปสมัยที่นายใช้นามของซิดเป็นครั้งแรกเราก็ยังมีเวลาคุยกันตลอด ปรึกษากันว่าจะทำนู่นนี่นั่น 

Clive - ก็งานเข้าตลอดนี่นะ 

Gav - ทั้งปี  ...ไหล่ของนายมันเริ่มจะตึงแล้วงั้นหรอ? ทุกวันนี้แทบไม่มีใครเห็นนายเดินไปไหนมาไหนใน hideaway เลย ส่วนใหญ่ก็ไปธุระที่อื่น นายควรหาเวลาพักบ้างนะรู้มั๊ย?

 

 

Clive - คำพูดของคนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่หลังแนวข้าศึกเนี่ยนะ

Gav - ก็นายเป็นคนให้ชั้นไปเองไม่ใช่หรอ?

Clive - ชั้นรู้ว่าชั้นพึ่งพาคนอย่างนายได้ Gav 

Gav - เช่นกัน นายสามารถส่งชั้นไปไหนก็ได้ ทุกที่ที่นายต้องการเลย ชั้นยินดีที่จะไปเสมอ อย่างน้อยก็รู้สึกปลอดภัยเพราะยังมีบ้านให้กลับ ขอบใจนายมากนะ 

 

Gav - โอเค เม้าท์กันพอแล้ว เราเอาของกลับไปให้ Blackthorne กันเถอะก่อนที่เขาจะหงุดหงิดเอาค้อนไปฟาดใส่ใคร 

Clive - นายกลับไปก่อนเถอะ แล้วก็หลังจากไปถึงแล้วก็พยายามพักบ้าง

Gav - พักแน่นอน แต่หลังจากที่ Blackthorne ได้สิ่งที่เขาต้องการแล้วอ่ะนะ 

 

 

Clive - Blackthorne ได้สิ่งที่คุณต้องการครบแล้วใช่มั๊ย?

Blackthorne - ครบแล้ว รวมทั้ง Stardust ก็เพียงพอ

Gav - เราน่าจะหาเวลาไปทำอะไรแบบนี้ด้วยกันให้บ่อยขึ้นนะ

Blackthorne - ชั้นจะเริ่มประกอบแผ่นระบายความร้อนเข้าด้วยกันแล้วนะ อาจะต้องใช้เวลาหน่อย ใจเย็นๆก็แล้วกัน ตอนนี้จะไปทำอะไรก็ไปทำเลย อย่ามายืนหายใจรดต้นคอแบบนี้ อึดอัดว่ะ 

Clive - ขอบคุณมาก Blackthorne ชั้นจะไปบอก Mid ว่าคุณกำลังทำมันอยู่ 

 

 

Clive - ตอนนี้ Blackthorne กำลังเริ่มประกอบแผ่นระบายความร้อนเข้าด้วยกันอยู่นะ 

Mid - เยี่ยมเลย !! เสร็จไปหนึ่ง เหลืออีก 2 

Clive - แล้วต่อไปอะไร?

Mid - ก็ helm ที่อยู่ส่วนหัวสำหรับระบายความร้อนไปในอากาศไง สำหรับการสร้างเจ้านี่เราต้องหาเศษเหล็กที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้ามาทำ 

Clive - หาจากซากปรักหักพังงั้นหรอ? ชั้นนึกว่าของพวกนั้นมันใช้งานอะไรไม่ได้แล้วซะอีก  

Mid - แต่เรายังไม่ได้ลองเลยนะ

Clive - ห๊ะ อะไรนะ?

Mid - บังเอิญมีซากปรักหักพังแห่งนึงมันพังลงมา และชิ้นส่วนที่แตกออกมันก็มีรูปร่างและขนาดที่เหมาะกับที่เรากำลังต้องการพอดีน่ะสิ ... Whatshername เพิ่งกลับมาจากที่นั่น เธอจะบอกรายละเอียดให้คุณฟังได้ 

Clive - Whatshername เนี่ยนะ ? ก็ได้ ...

 

 

Helena - อ่อ ซิด คุณมาคุยเรื่อง helm ใช่มั๊ย?

Clive - เอ่อ ใช่ Mid ให้มาถามเธอน่ะ 

Helena - โอเค งั้นชั้นจะบอกรายละเอียดให้ฟัง 

 

 

Helena - ที่คุณเห็นนี่คือเครื่องยนต์พลัง mythril ในขณะที่ mythril ที่ถูกเผาเพื่อสร้างพลังงานมันจะสร้างความร้อนออกมาด้วย จากนั้นความร้อนนั้นจะถูกควบคุมโดยแรงดัน เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้ความร้อนส่วนเกินให้พุ่งกระจายขึ้นไปในอากาศ และหากเราพึ่งพา thermal Plating เพียงอย่างเดียวเพื่อให้ได้ผลนี้ อัตราความร้อนสะสมก็จะเกินค่าสัมปสิทธิ์การเคลื่อนที่ของ Plating  หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ เครื่องปฎิกรณ์ก็จะร้อนมากเกินไปจนระเบิดได้ จึงเป็นหน้าที่ของ helm ที่จะมาทำหน้าที่เชื่อมต่อกับ Plating แล้วทำหน้าที่เป็นแผงระบายความร้อนเพื่อดูดซับพลังงานส่วนเกินทั้งหมด ซึ่งการทดลองของเราทำให้รู้ว่า Ceramics ที่ล่วงหล่นลงมามีความสามารถในการทนทานความร้อนได้ดีมาก มันสามารถดูดซับความร้อนได้ดีกว่าทุกวัตถุดิบที่เราหาได้ในปัจจุบัน 

 

 

Helena - ไม่เพียงแค่นั้น มันยังกันน้ำและกันสนิมได้ด้วย เป็นวัสดุที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่จะป้องกัน hood ของเรือ แต่ถ้าน้ำทะเลหรือน้ำฝนเข้าไปในเตาปฎิกรณ์อย่างเหมาะสมมันก็จะระเหยเองได้ทันที แล้วทีนี้ ...

Clive - พอเถอะ ...ผมเข้าใจแล้ว Mid บอกว่าเราต้องไปหาสิ่งนี้ที่ Fallen ruin หรอ? แล้วตกลงมันที่ไหน?

 

 

 

Helena - อ่า ค่ะๆๆ ที่ Laubert’s pass ใกล้ๆกับเมือง Lostwing ประเด็นคือ พวกเราเองก็สามารถไปเอามันมาได้ไม่ยากเลย ถ้าไม่มีแขกที่ไม่รับเชิญที่อาศัยอยู่ที่นั่นมาคอยก่อกวน มันอันตรายเกินไปที่จะเดินเข้าไปเอามาเฉยๆอ่ะค่ะ

Clive - งั้นผมช่วยเอง 

Helena - โอ้ ขอบคุณมากค่ะซิด ชั้นจะรีบรวบรวมทีมงานแล้วไปที่นั่นทันที เราจะไปรอคุณที่ซากปรักหักพังก็แล้วกันค่ะ 

 

 

                   📒  Quest: Letting off Steam II

 

 

 

Objective > เดินทางไปที่ Caer Norvent River Gate เพื่อไปยังจุดหมายของภารกิจ 

 

 

Helena - โอ้ ขอบคุณที่มานะซิด ซากโบราณสถานอยู่ตรงนั้น และไอ้เจ้าตัวประหลาดที่ชั้นเล่าให้ฟังนั่นด้วย เอ่อ คุณคงไม่ว่าอะไรนะที่จะ เอ่อ ....

Clive - แน่นอน เดี๋ยวผมกลับมา 

 



Clive - นี่คงเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่ว่าสินะ เอาล่ะ ถึงเวลาต้องไปแล้ว 

 

 

                            Mini Boss - ahriman 

 

 

 

Helena - ขอบคุณมากนะคะไคลฟ์ 

Clive - หมดปัญหาของคุณแล้วนะ 

Helena - ค่ะ คงไม่รบกวนคุณแล้ว ทางนี้เดี๋ยวเราจัดการกันเอง แล้วจะนำส่งวัตถุดิบที่ได้ตามไปนะคะ 

Clive - โอเค เดี่ยวผมไปบอก Mid เองว่าคุณกำลังทำงานอยู่ 

 



Clive - Helena กำลังเก็บวัตถุดิบสำหรับทำ helm ของคุณอยู่ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี น่าจะเอาส่งให้ได้เร็วๆนี้ 

Mid - เยี่ยมเลย เสร็จไปอีกงานแล้วสินะ 

Clive - แล้วที่ต้องทำอีกอย่างคืออะไร?

Mid - เอ่อ  ใช่ๆ ส่วนของเกราะ อันนี้อาจจะยุ่งยากหน่อย Plating นั้นพอที่จะทำให้เครื่องยนต์ไม่พังได้จริง แต่ยังมีความร้อนที่คายออกมาเพียงพอที่จะทำให้เรือลุกเป็นไฟอยู่ นั่นทำให้เราต้องการเกราะสำหรับป้องกัน กักเก็บความร้อนเอาไว้ด้านใน เหล็กที่ชั้นมีอยู่ก็พอทำได้นะ แต่น้ำหนักมันมากเกินไป ถ้ารวม Plating กับ helm ที่หนักอยู่แล้ว นั่นจะทำให้เรือจมก่อนจะเดินทางด้วยซ้ำ ชั้นต้องการอะไรที่มันเบากว่านี้ คิดจนหัวจะแตกแล้วแต่ก็คิดไม่ออกซักที

Clive - ปกติ ถ้าชั้นต้องการความรู้ที่ยังคลุมเครือ คนที่ต้องปรึกษาก็คงเป็นใครไม่ได้นอกจาก Harpocrates 

Mid - Tomes สินะ? งั้นเอาแบบแปลนไปให้เขาดูด้วยล่ะกัน 

 

 

Clive - Harpocrates พอจะมีเวลาซักหน่อยมั๊ยครับ?

Harpocrates - สำหรับเธอ ชั้นมีเวลาให้เสมอแหละไคลฟ์

Clive - จริงๆเป็นเรื่องของ Mid น่ะครับ รบกวนดูนี่หน่อย 

 

 

Harpocrates - อืมมม เกราะป้องกันสำหรับเครื่องยนต์ mythril งั้นหรอ? นี่คงนัวตกรรมชิ้นต่อไปที่ยัยหนู Mid จะสร้างสินะ ? แล้วที่เขียนอยู่ๆรอบๆนี้คืออะไรล่ะ?

Clive - เธอมีข้อจำกัดในเรื่องการหาวัตถุดิบสำหรับเอามาทำเกราะ ซึ่งต้องใช้วัตถุที่ทนความร้อนและกักเก็บความร้อนได้ดีเพื่อป้องกันไฟไหม้เรือและน้ำหนักเบามากเพื่อไม่ให้เรือจมอ่ะครับ ซึ่งเธอยังนึกไม่ออกว่าต้องใช้วัสดุอะไรดี 

 

 

Harpocrates - อืมม เข้าใจแล้ว 

Clive - คุณพอจะมีข้อมูลบันทึกอะไรที่พอจะช่วยได้มั๊ยครับ? 

Harpocrates - บางทีอาจไม่ใช่วัสดุที่เธอต้องการ แต่เป็นแนวทางที่แตกต่างออกไป 

Clive - คุณหมายความว่าอะไร?

Harpocrates -ลองมองจากน้ำที่นี่ ซึ่งมีความเป็นกรด ที่กัดกร่อนมากกว่าน้ำปกติทั่วไป ไม่ว่าจะไม้หรือเหล็กรับรองไม่เหลือ แม้แต่บ้านที่เราสร้างอยู่ตอนนี้ก็ตาม 

Clive - แต่ Bardolph ก็ต้องเคลือบเงาเอาไว้ทุกด้านเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกกัดกร่อน และ Obolus ก็มักจะบ่นว่า ถ้าไม่มีมันเราแย่แน่ๆ ..อืมม ผมเข้าใจและ

Harpocrates - ประวัติศาสตร์ Greagorian เคยบันทึกถึงเรื่อง Moondew ที่สามารถต้านทานได้แม้แต่ไฟจากมังกร ก่อนที่พวกมังกรหรือ Wyverns จะถูกฝึกให้เชื่อง พวกขุนนางจะฉาบกำแพงปราสาทด้วย Moondew เพื่อป้องกันไฟของมังกร ซึ่งถ้าเอามันไปเคลือบกับวัสดุอะไรก็ได้ที่ Mid จะใช้งานก็น่าจะใช้เป็นเกราะได้ ส่วนจะใช้วัสดุอะไร บางที Bardolph กับObolus อาจช่วยได้ เอาไว้ชั้นจะลองบอกพวกเขาให้ ส่วนถ้าคุณอยากจะช่วยหาวัตถุดิบนี้ให้ Mid แนะนำให้หาเพื่อนไปด้วยซักสองคนนะ บางทีความรู้จากอดีตอาจเป็นประโยชน์กับเราในปัจจุบันก็ได้ 

 

 

Tarja - ได้ข่าวว่าต้องการคนช่วยงานงั้นหรอ?

Clive - ใช่ครับ ผมกำลังจะไปตลาดเพื่อหาซื่อวัตถุดิบที่พอหาได้ กำลังหาคนไปเป็นเพื่อนพอดีเลย 

Harpocrates - ส่วนอีกคนก็มาช่วยชั้นคิดหาวัสดุที่เหมาะที่สุดสำหรับใช้ทำเกราะ ส่วนจะให้ใครไปกับคุณก็เลือกได้เลยนะไคลฟ์ 

 

 

                        📒 Quest: Letting off Steam III

 

 

 

ก่อนทำเควสนี้ จะต้องเลือกว่าจะไปกับใครระหว่าง Tarja กับ Jill ซึ่งการตัดสินใจไปกับใครก็ตามจะไม่ส่งผลต่อเนื้อเรื่อง แต่จะได้มีอีเวนท์โมเม้นท์กับคนนั้นที่เป็นเรื่องส่วนตัวมากขึ้น 

 

 

แน่นอน ผมเลือก ไปกับ Jill >>> 

 

 

Jill - โอเค งั้นตอนนี้เราต้องหาอะไรบ้างคะ ?

Harpocrates - ชั้นเตรียมรายการไว้ให้แล้ว 

Jill - white chocobo eggs , pepio nuts ? คุณแน่ใจแล้วหรอว่าลิสต์พวกนี้ถูกต้อง เพราะดูเหมือนสิ่งเหล่านี้มัน ...เป็นของกินที่น่าอร่อยมากนะคะ ดูส่วนผสมมันแปลกๆนะ 

 

 

Harpocrates - แม้ของพวกนี้มันจะดูธรรมดา แต่เอฟเฟคของมันมีศักยภาพมากซึ่งไม่เคยมีใครเอามาใช้ประโยชน์ในสมัยนี้มากนัก และมันก็ถูกเก็บไปใช้จนเกือบจะหายไปหมด จน moondew ในปัจจุบันไม่ค่อยมีใครต้องการ แต่สามารถหาได้ง่ายๆ แม้ในตลาดที่ Nortreach ก็มีขายเต็มไปหมด 

 

 

Jill - โอเค งั้นชั้นล่วงหน้าไปก่อนแล้วกันนะไคลฟ์ นายพร้อมเมื่อไหร่ก็ไปเจอกันที่ Nortreach

Tarja - พวกคุณสองคนเที่ยวให้สนุกนะ 

Clive - คุณก็ด้วยล่ะ Tarja

 

 

Objective > เดินทางไปที่ Nortreach

 



 

Objective > ซื้อไอเทม 2 อย่าง (Garlic , Pepio Nut) จากพ่อค้าเป้าหมาย  

 

 

Jill - ได้ของมาครบป่ะคะ?

Clive - ครบสิ นี่ไง

Jill - กระเทียม กับ เปปิโอนัท โอเคครบ งั้นเราเอาไปให้ Harpocrates กันเถอะ แต่ เอ่อ ก่อนไป เดินคุยกันซักหน่อยได้มั๊ย? 

 



Jill - ขอบคุณนะที่วันนี้ชวนชั้นมาด้วย 

Clive - ชั้นก็อยากไปไหนกับเธอในเรื่องอื่นที่ไม่ใช้การต่อสู้ฆ่าฟันบ้างอ่ะนะ มันทำให้ชั้นนึกถึงตอนเราเป็นเด็ก เธอยังจำได้มั๊ยล่ะ ตอนที่เราเดินเล่นกันที่ตลาดใน Rosalith และไปเที่ยวเล่นตามที่ต่างๆด้วย 

 

 

Jill - จะลืมได้ไงล่ะ  ตอนที่เจ้า Torgal ชอบทำตลกๆก็ด้วย จำได้มั๊ยตอนที่มันได้กลิ่นใส้กรอกจนวิ่งไปอย่างไวจนเราแทบตามไม่ทัน ตอนนี้ไม่ต้องตามจับแล้วนะเจ้าหนู ฮ่าๆๆ 

Torgal - โฮ่ง !!! 

 

 

Clive - แล้วเธอมีของส่วนตัวจะซื้อไปด้วยเลยมั๊ยล่ะ?

Jill - ก็มีนะ Molly ที่อยู่ในห้องครัวบอกชั้นเรื่องร้านขายพายสุดอร่อย เดี๋ยวจะแบ่งให้นายลอง รับรองว่านายต้องชอบแน่นอน แล้วก็ขนมปังพวกนี้ ทั้งใหญ่และขาวเหมือนกับที่มีขายใน Rosalith เลยเนอะ ชั้นว่าจะซื้อซุปมาจิ้มกิน แต่ชั้นไปลองชิมแฮมตากแห้งของพ่อค้ามาชิ้นนึงแล้วมันแบบ … อ่าห์ 

Clive - ไหวมั๊ยเนี่ย ฮ่าๆ 

 

 

Jill - โทษที ...แล้วก็ นายพูดถูก ชั้นรู้สึกเหมือนตอนเป็นเด็กอีกครั้งเวลาอยู่กับนาย ...ไคลฟ์ แปลกมั๊ยที่ชั้นรู้สึกมีความสุขกับเรื่องนี้?

Clive - ไม่แปลกหรอก มันเป็นชีวิตที่ควรจะเป็น และชีวิตเราก็จะเป็นแบบนั้นเมื่องานของเราเสร็จสิ้นแล้ว เราจะใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ 

Jill - ชั้นก็หวังแบบนั้น ... ขอบคุณนะไคลฟ์ 

 

 

Jill - สงสัยว่าเราควรจะกลับกันได้แล้วนะ เราต้องรีบเอาของพวกนี้ไปให้ Harpocrates แล้วเจอกันที่ hideaway นะ 

 

 

Clive - การทำเกราะป้องกันคืบหน้ายังไงบ้างครับ Harpocrates?

Harpocrates - เป็นไปด้วยดีเลยล่ะ ซึ่งก็ต้องขอบคุณความช่วยเหลือของคุณด้วยนะ ชั้นกำลังคุยกับ Tarja เรื่องการใช้ moondew ให้ดีที่สุดยังไง พอได้ชิ้นส่วนครบเราก็จะเริ่มกันเลย 

Tarja - คุณคงต้องเชื่อใจชั้นนะ  เพราะชั้นมีสูตรส่วนผสมลับสองสามอย่างที่เรียนรู้มาระหว่างทาง 

Clive - ผมรู้ว่าคุณต้องทำได้อยู่แล้ว แล้วเรื่องเกราะล่ะครับ 

Harpocrates - เป็นไปด้วยดี Bardolph กับ Obolus กำลังทำให้อยู่ 

Jill - ไม่นานทุกอย่างก็น่าจะเสร็จ 

Clive - ขอบคุณทุกคนมากๆครับ 

Tarja - เออนี่ จิล เธอไปช่วยงานในห้องพยาบาลหน่อยสิ มีงานเล็กๆน้อยที่ต้องการให้ช่วยอยู่

Jill - ได้เลยค่ะ

 

 

Jill - อ่อ ไคลฟ์ ขอบคุณนะ มันเป็นเรื่องที่ดีมากๆเลยที่ได้อยู่กับนายน่ะ 

 

 

Harpocrates - เอาล่ะ งานของเราต้องนี้น่าจะใกล้เสร็จแล้ว นานๆที่ได้ลงไม้ลงมือแบบนี้ก็สนุกเหมือนนะ พอเพราะกับ moondew เสร็จแล้ว ก็เหลือแค่เอามันไปประกอบกับชิ้นส่วนพวกนั้นเท่านั้นแหละ จากนั้นก็ต้องทดสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าจะแน่ใจที่สุด ยังไงก็ต้องไปบอกยัยหนู Mid ให้รอหน่อยก็แล้วกันนะ 

Clive - ได้ครับ เดี๋ยวผมไปบอกเธอให้ ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับ Harpocrates

 

 

 

Clive - โทษทีที่ต้องให้รอนะ ตอนนี้เกราะกำลังเริ่มทำแล้ว 

Mid - คุณหาได้แล้วหรอว่าจะใช้วัสดุอะไรอ่ะ? 

Clive - ไม่ใช่วัสดุ แต่ Harpocrates ทำสารเคลือบกันความร้อนสำหรับชิ้นส่วนของเธอแทน เขาเป็นคนควบคุมการผลิตและทดสอบด้วยตัวเองเลย

Mid - สุดยอดไปเลย คุณนี่ไม่ทำให้ชั้นผิดหวังจริงๆเลย 

Clive - ไม่ต้องขอบคุณชั้นหรอก ชั้นมันก็แค่เด็กวิ่งไปซื้อของอ่ะนะ 

Mid - เอาล่ะ ที่เหลือก็หาทางรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ไปหาตาลุง Black Hammer กัน!!!

 

 

Blackthorne - นี่ จริงๆชั้นเป็นช่างตีเหล็ก ชั้นต้องสร้างดาบ โล่ ไม่ใช่ตัวระบายความร้อน ดิสซะดองแด้ง บ้อบออะไรนี่

Mid - Displacement Stacks ต่างหากล่ะ 

Blackthorne - ก็เหมือนกันนั่นแหละ ไม่ว่ามันจะเรียกว่าอะไร ชั้นคงประกอบมันที่นี่ไม่ได้หรอก มันแคบไป ต้องออกไปข้างนอก Mid เธอเอาชิ้นส่วนทั้งหมดไปที่ดาดฟ้า ส่วนที่เหลือชั้นจัดการเอง 

Mid - ได้เลย!!

Blackthorne -อ่อ แล้วก็เอาค้อนที่ใหญ่ที่สุดมาให้ชั้นด้วย มันต้องใช้การตีอย่างแรงและแม่นยำที่สุด

 

 

 

ในเวลาต่อมา ....

 

 



Mid - เสร็จแล้วววว !!! ในที่สุดก็ทำสำเร็จจนได้ !!!! 

Blackthorne - ขอบคุณพระเจ้าที่แม่งเสร็จซะที อาทิตย์กว่าแล้วที่ไม่ได้ทำงานอะไรเลย 

Mid - ขอบคุณนะ ไคลฟ์ Blackthorne แล้วก็ทุกๆคนเลยที่ช่วย เสร็จไปหนึ่งล่ะ ที่นี้ก็เหลืออีก 3 

Clive - ห๊ะ!??? เดี๋ยวนะ?

 

 

Mid - โอ้ โทษทีนี่ชั้นไม่ได้บอกคุณหรอ? Enterprise มี เครื่องยนต์ mythril 4 เครื่อง แล้วชั้นก็ต้องการ Displacement Stacks อีก 3 อัน 

Clive - อย่าบอกนะว่า ....

Mid - ไม่ต้องห่วง พวกคุณทำตัวต้นแบบไว้แล้ว ที่เหลือทีมของชั้นที่ Kanver จะทำส่วนที่เหลือเองจ้า 

Blackthorne - งั้นก็ลากันตรงนี้แล้วกัน งานของตัวเองยังไม่ได้ทำเลย มัวแต่มาช่วยงานเธอนี่แหละ ทีหลังมีงานอะไรก็เก็บไว้ทำเองล่ะ ลาขาดล่ะ !!

 



Clive - เป็นอะไรหรอ?

Mid - เปล่าเป็น ... แต่นี่มัน  ฝันที่เป็นจริงเลยนะ ชั้นฝันเห็นภาพ Enterprise แล่นทะยานไปแตะเส้นขอบฟ้าเพื่อไปยังชายฝั่งที่ไม่มีใครไปมาก่อน ค้นหาดินแดนที่ยังไม่ถูก Blight กลืนกิน มันเป็นแผนที่ชั้นกับพ่อคิดกันเอาไว้มาตลอด เมื่อเรื่องเลวร้ายมาถึงจุดที่ร้ายที่สุด พื้นดินใน Twin ดำมืดจนไม่สามารถอยู่ได้ เราก็ยังมีโอกาสรอด นั่นคือสิ่งที่ Enterprise ควรจะเป็น โอกาสสุดท้าย เมื่อเราต้องการมัน ชั้นไม่อยากให้มันเป็นแค่เรือชูชีพที่เราเกาะไว้ยามเราสิ้นหวัง ชั้นต้องการให้ผู้คนเลือกที่ล่องไปกับมัน ไม่ใช่เพราะไม่มีทางเลือก ในโลกที่เราไม่ต้องพยายามเอาชีวิตรอด แต่เป็นโลกที่เราอยู่ได้จริงๆ

 Clive -นั่นแหละคืองานของชั้น คือสิ่งที่ชั้นกำลังทำอยู่ และชั้นจะทำให้ทุกอย่างเพื่อให้เธอได้สิ่งที่เธอต้องการ

 

 

Mid - คุณคงไม่รีบหายไปไหนใช่มั๊ย? เอาล่ะ ชั้นตัดสินใจแล้ว อีกไม่นาน Enterprise จะออกทะเลได้จริงๆ และเมื่อถึงวันนั้นชั้นจะให้คุณเป็นคนควบคุมมันด้วยตัวเองเลย เพราะชั้นเชื่อในตัวคุณ นั่นคือแผนของเรา 

 

 

Clive - เธอแน่ใจหรอ?

Mid - มีบางสิ่งบอกชั้นว่า ถ้าเป็นพ่อชั้นเขาก็คงต้องการทำแบบนั้นเหมือนกัน 

Clive - เขาต้องภูมิใจในตัวเธอแน่นอน 

Mid - เออ คุณว่าจะไปเยี่ยมหลุมศพเขาใช่มั๊ย? 

Clive - ใช่ และเธอต้องไปด้วย เพราะตอนนี้เธอเสร็จงานแล้ว 

Mid - ได้เลย แต่ขอเคลียร์อะไรนิดหน่อยก่อนนะ ไม่นานหรอก

Clive - โอเค ชั้นจะไปบอกกับ Otto เรื่องการเดินทางของเรา ทำไรเสร็จแล้วก็เข้าไปหาก็แล้วกันนะ 

 

 

                            📫 Missives Quests

 



เควสย่อยที่สามารถรับได้ที่ Reading Table ใน Clive’s Chambers 

 

 

 

                              Off the Record 

 

Gaute กำลังจัดการทำบัญชีแยกประเภทตามคำสั่ง Otto แต่เจอบางสิ่งที่ผิดปกติจึงเรียกให้ไคลฟ์เข้าไปช่วยตรวจสอบ 

 

 

Clive - มีปัญหาเรื่องบัญชีแยกประเภทงั้นหรอ? จริงๆเขาควรจะปรึกษา Otto มากกว่านะ ? 

 

 

                           📋 Quest: Payback 

 

 

Gaute - ไคลฟ์ คุณได้รับจดหมายของผมรึยัง?

Clive - ได้สิ ชั้นถึงมานี่ไง

Gaute - ชูววว !! อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยว Otto ได้ยิน 

Clive - แค่นี้เบาพอยัง ..

Gaute - คือ ผมมีข่าวร้ายจะแจ้ง hideaway ของเราอาจจะต้องจ่ายเงินพวกเจ้าหนี้ต่างๆล่าช้า และ เอ่อ มันอาขเป็นความผิดของผม แต่ผมสาบานเลยนะว่าผมจัดการทุกอย่างดีแล้ว ตอนแรกผมคิดว่าเราจะมีเงินมากพอ แต่จริงๆมันกลับเป็น ศูยน์ ผมคิดผมอาจจะแก้ไขได้นะ แต่มันต้องใช้เวลา และ ...ผมต้องการความช่วยเหลือเพื่อไม่ให้ Otto รู้เรื่องนี้ 

 

 

Otto - แต่ชั้นว่าสายไปแล้วล่ะ

Gaute - อ่ะ อ่า คุณนั่นเอง แหมอยู่ๆก็โผล่มาตกใจหมดเลย 

Otto - เข้าประเด็นเลยล่ะกัน นายลืมจ่ายเงินให้เจ้าหนี้ของเรา และพอเกิดปัญหาแทนที่จะมาคุยกับชั้น นายกลับเรียกไคลฟ์ให้มาหาโดยหวังว่าเขาจะช่วยนายออกจากหลุดที่นายขุดเอง แล้วนายคิดไคลฟ์ซึ่งเป็นเจ้าของที่นี่จะชอบที่นายทำให้ที่นี่ล้มละลายงั้นเรอะ ?? ช่างเป็นแผนที่ฉลาดมากกก ทำแบบนั้นเพื่อ? เอาล่ะ สรุปว่าเราจะต้องจ่ายใครบ้าง? 

Gaute - เอ่อ ก็ Martha แล้วก็ the Dame  … แล้วก็ ป้า Charnon แต่รวมแล้วแค่ 500 เท่านั้นเอง 

Otto - นี่เราเป็นหนี้เพื่อนทั้ง 3 คน ที่เราไว้ใจที่สุด 5 ล้าน Gil งั้นหรอ?

Gaute - คนละ ครับ คนละ 5 ล้าน ....

 

 

Gaute - ก็พวกเขาให้เงินก้อนใหญ่เรามาเพื่อใช้ในการก่อสร้าง hideaway ขึ้นมาใหม่ และ เอ่อ ผมก็เลย ผลั้งเผลอไปบ้าง ...

Otto - เฮ้อ ...บัญชีแยกประเภทนั่นเป็นความรับผิดชอบของชั้น และชั้นก็ตัดสินใจมอบความไว้วางใจนั้นให้กับนาย งั้นนี่ก็เป็นความผิดของชั้นเอง 

 

Clive - ถ้าเรารับมือไม่ไหว ชั้นลองขอความช่วยเหลือกับลุงดูก็ได้นะ

Otto - ไม่ๆ เราจะไม่ทำแบบนั้น และนายก็ไม่ต้องไปทำให้กระเป๋าเงินลอร์ดลอสฟิลด์เบาลงอีกแล้ว ที่ผ่านมาเขาช่วยเรามาเยอะแล้วและเขาไม่ควรมาเห็นเราเป็นขอทาน และเราก็ต้องหัดเรียนรู้ที่จะยืนด้วยขาตัวเองให้ถ้าเราจะทำงานแบบนี้ 

Clive - ก็จริง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณต้องแบบรับมันไว้คนเดียวนี่ครับ มันต้องมีอะไรที่ผมสามารถช่วยได้บ้างสิครับ 

Otto - ก็คงจะเป็นอย่างนั้น … นายคิดว่าไงถ้าชั้นจะเอาของนี้ไปใช้หนี้ Martha กับ the Dame?

 

 

 

Clive - หินหรอ?

Otto - ห๊ะ? นายบอกว่าหินเนี่ยนะ นี่น่ะมันมีค่าเป็นแสนเลยนะจะบอกให้ มันเป็นสิ่งที่ Cid กับชั้นเอาไว้ใช้เวลาที่การเงินมันฝืดเคือง ซึ่งมันน่าจะพอใช้หนี้ 15 ล้านของเราได้ ถ้าเจ้าหนี้เราฉลาดกว่านายอ่ะนะ 

Clive - ผมว่าน่าจะพอคุยกับได้นะ 

Otto - จริงๆชั้นครวเป็นคนทำเรื่องนี้เองนะ แต่ นายก็รู้ว่าที่นี่มันเป็นไง 

Clive - ผมรู้ ผมถึงอยากจะช่วยยังไงล่ะ

Otto - Gaute แกรู้มั๊ยว่าทำไมชั้นถึงต้องให้ Star ruby สองก้อนนี้กับไคลฟ์มันหมายถึงอะไร  

Gaute - เพราะ ..คุณกลัวว่าป้า Charon ฆ่าผมใช่มั๊ย?

Otto - ใช่เลย เพราะชั้นอยากให้ Charon ฆ่านาย 

 

 

Gaute - ผมคงต้องถูกไล่ตะเพิดแน่งานนี้ 

Clive - อย่าห่วงเลย ชั้นมั่นใจว่า Charon จะเข้าใจอ่ะนะ 

Gaute - คุณคิดงั้นจริงๆหรอครับ?

Clive - ไม่อ่ะ ชั้นไม่คิดงั้น ...

 

 

Objective > เดินทางเอา Star Ruby ไปให้ Martha และ Isabelle 

 

 

Martha - อ้าว ไคลฟ์ มีธุระอะไรหรอถึงมาเนี่ย?

Clive - ก็ไม่ชาธุระของผมหรอกครับ แต่ดูเหมือนเราเป็นหนี้คุณอยู่ก้อนนึงจากที่คุณช่วยเราสร้างบ้านใหม่ ก็เลยหวังว่าคุณจะรับสิ่งนี้ไว้เป็นค่าตอบแทน

Martha - Star Ruby หรอ? ชั้นคงรับไว้ไม่ได้หรอกนะ มันมีค่ามากกว่าจำนวนเงินที่เป็นหนี้ชั้นสองเท่าเลยนะ 

Clive - ก็คิดว่าเป็นดอกเบี้ยก็แล้วกันครับ 

Martha - ดอกเบี้ย เนี่ยนะ ถ้ามีคนรู้ว่าเงินแค่นี้ยังเอาดอกเบี้ยคงไม่มีใครกล้ายืมชั้นอีกแล้วล่ะ ว่าแต่ ทำไมคุณถึงมาคุยเรื่องพวกนี้กับชั้นล่ะ คงเพราะ Otto สินะ ถึงกับส่งท่านลอร์ดมาเคลียร์หนี้ให้นี่สงสัยว่าตาเฒ่านั่นคงงานยุ่งอีกแล้ว

Clive - ก็คงงั้นครับ เขาก็ยุ่งเกือบทุกวัน และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ hideaway ยังคงยืนหยัดอยู่ได้จนถึงวันนี้ 

 

 

Martha - คิดถึงตอนนั้น ที่นั่นไม่มีอะไรอยู่นอกสายตาอดีตผู้บัญญาการที่เพิ่งเกษียณ เขาเป็นเพื่อนร่วมงานคนแรกของซิดก็ว่าได้ ทุกคนรู้ดีว่า ถ้าไม่ได้แขนแกร่งๆคู่นั่นกับสติปัญญาในหัวเขา บ้านหลังนั้นคงไม่มีวันเติบโตมาได้ขนาดนี้แน่ Cid อาจเป๋นหน้าตาของ hideaway แต่ Otto คือกระดูดสันหลัง จนเมื่อ Cid จากไป ทุกคนก็กังวลว่า Otto จะถอดใจ ยอมแพ้ 

Clive - เขามันประเภทคนอึดตายยาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบจิตใจเขาอย่างมาก 

 

 

Martha - แต่เขาก็ไม่ได้ยอมแพ้นี่ ใช่มั๊ยล่ะ? ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ ถ้าจำไม่ผิดเขาเป็นเสนอชื่อคุณให้มาเป็น Cid คนต่อไป และรวบรวมพรรคพวกให้มาอยู่ล้อมรอบคุณด้วย ชั้นคิดว่าอะไรที่เขาเห็นในตัว Cid เขาก็เห็นในตัวคุณด้วยเหมือนกัน แล้วทำไมเราทุกคนจะไม่คิดเหมือนกัน อาจจะดื้อน้อยกว่าแต่หล่อกว่าเป็นสองเท่าเลยนะ แถมคุณยังเป็นเพื่อนที่ดีด้วย 

Clive - อืมม ผมก็ว่างั้น ...

 

 

 

Clive - คุณผู้หญิง ผมเอาของขวัญมาให้คุณครับ 

Isabelle - ของขวัญหรอ? เนื่องในโอกาสอะไรหรอคะ? …. ว้าวว ไคลฟ์ คุณเอาชนะใจตัวเองได้แล้วสินะ 

Clive - Otto ฝากมาให้คุณน่ะครับ เพื่อทดแทนหนี้ที่คุณจ่ายค่าทำบ้านใหม่ให้ และชดเชยที่เราจ่ายหนี้ให้ล่าช้าด้วย 

Isabelle - อ่อ คุณทำให้ชั้นผิดหวังนะไคลฟ์ อุตสาห์คิดว่าคุณมีใจแล้วซะอีก แล้วก็ฝากไปบอก Otto ด้วยว่าเก็บเครื่องประดับของเขาไว้เถอะ และเท่าที่จำได้ชั้นก็เคยบอกเขาเป็นร้อยครั้งแล้วมั้ง เขาไม่ได้เป็นหนี้ชั้น และ hideaway ก็ด้วย การสนับสนุนของชั้นเป็นการทำด้วยความเต็มใจ มันยังน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับสิ่งที่ชั้นทำให้ได้

 

 

Clive - คุณเคยบอกผมว่า Cid ใจดีและเมตตาคุณมาก ผมเองก็อยากทำเหมือนกัน โปรดรับมันเพื่อเอาไว้ทำประโยชน์เถอะครับ อย่างน้อยๆก็เพื่อประโยชน์ของผมเอง และเพื่อ Otto และพวกเราทุกๆคนที่อยากขอบคุณในทุกๆความช่วยเหลือของคุณ

Isabelle - หว่านล้อมเก่งจริงๆเลยนะคุณเนี้ย Otto โชคดีมากนะที่มีคุณอยู่ด้วย ชั้นก็คิดมาตลอดเลยว่าจะมีอะไรที่จะมาทดแทนลูกชายของเขาได้ แต่คุณและทุกๆคนใน hideaway ก็เป็นเสมือนครอบครัว

Clive - Otto มีลูกด้วยหรอครับ?

 

 

Isabelle - เคยมี... เมื่อนานมาแล้ว Cid บอกชั้นว่า Otto เสียลูกชายไปตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก และโทษตัวเองมาตลอดที่ไม่สามารถช่วยลูกได้ ชั้นไม่รู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าเขาแบกรับเรื่องนี้มาตลอด 

Clive - ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย 

Isabelle - นอกจาก cid แล้ว ชั้นไม่เคยเห็นชายใดแบกรับความโศกเศร้าด้วยความเงียบมากเท่าเขาอีกแล้ว แม้จะดูเป็นค่อยนิสัยไม่ดี แต่ทั้งคู่ก็มีเพื่อนฝูงที่รายล้อมเขาพร้อมจะช่วยเหลือตลอด 

Clive - ผมก็เพิ่งจะเริ่มเห็นนี่แหละครับ 

 

 

Clive - ไง Gaute ยังไม่ตายสินะ ตกลง Charon ยอมรับ Ruby มั๊ย?

 Gaute - อ่า เรื่องนั้นน่ะ ผมก็พยายามอย่างเต็มที่แล้วล่ะ แต่นางก็ดื้อไม่ยอมรับไว้อ่ะครับ แถมนางยังปาใส่หน้าผมแล้วบอกว่า เอาหินโง่ๆนี่ไปไกลๆเลย 

Clive - อย่างป้า Charon เนี่ยนะ ปฎิเสธไม่ยอมรับการใช้หนี้ ?

Gaute - หรือผมพูดอะไรผิดก็ไม่รู้ 

Clive - ชั้นว่านายมีไหวพริบเรื่องพวกนี้มากพอน่า แต่เดี๋ยวให้ชั้นลองดูหน่อยก็แล้วกัน 

 

 

Clive - เอ่อ ป้า Charon ครับ Gaute บอกว่าคุณไม่โอเคกับหนี้ที่เราจ่ายให้ หรือคุณต้องการให้จ่ายเป็นเหรียญหรืออะไรคุณบอกได้นะครับ 

Charon - หนี้อะไร ชั้นจำไม่ได้ว่าคุณหรือใครมายืมทรัพย์สินที่ยากลำบากไปตอนไหน ชั้นอาจจะเผลอโยนทรัพย์สินของชั้นชิ้นสองชิ้นลงในหีบสมบัติแล้วลืมไปก็ได้ แต่นั่นมันคือการ บริจาค และคุณจะไปเรียกมันว่าการกุศลไม่ได้ด้วยถ้าจะไปขอคืน 

Clive - แน่นอนว่าไม่อยู่แล้วครับ แต่สถานการณ์ของเราตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว คุณคงไม่มองข้ามความกตัญญูของขอทานที่กลายมาเป็นเจ้าชายหรอกนะครับ 

Charon - โอ้ นี่นายกลายเป็นเจ้าชายแล้วหรอเนี่ย? ก็ได้ แต่ชั้นจะเอามันไปขายแล้วหักแค่ค่าเหนื่อยของชั้นที่เหลือนายเอาไป ไม่ว่านายจะชอบหรือไม่ก็ตาม โอเคมั๊ย?

 

 

Charon - นายไปได้เจ้านี่มาจากไหนเนี่ย? Star Ruby นี่ พ่อค้าบางคนที่เขาพร้อมจะซื้อในราคาหลายแสนเลยนะ ในขณะที่พวกขี้โม้บางคนอาจบอกว่าเขาฉกมาจากหัวเข็มขัดของ Cid The Outlaws ก็เลยอยากจะถามให้แน่ใจ และตอนนี้ชั้นมีผู้ซื้ออยู่ในใจแล้ว บางทีนายอาจจะรู้จักเธอแล้วด้วย สาวคอนติเนนทอลที่สวยงาม แต่ความงามของเธอถูกบดบังด้วยอุบายทางการค้าของเธอ นายคงไม่รังเกียจอะไรใช่มั๊ยล่ะ?

Clive - ไม่รังเกียจแน่นอนครับ แค่ฝากบอกเธอด้วยว่า ยินดีอย่างยิ่งที่ได้ทำธุรกิจด้วยนะ

 

 

Otto - ได้ยินมาว่านายเอา Star Ruby ทั้ง 3 ก้อนไปส่งแล้วใช่มั๊ย? …เอ้า Gaute รีบขอบคุณเขาซะสิ บางทีชั้นก็สงสัยนะว่าจะจ้างแกมาทำงานเพื่ออะไร

Gaute - อันที่จริง ผมก็ไม่ได้รับค่าจ้างมาเป็นเดือนแล้วนะครับ 

Otto - โอ้ มีทวงด้วย แล้วจำได้มั๊ยว่าแกติดหนี้ชั้นอยู่เท่าไหร่อ่ะ เอาล่ะแกรีบจัดการบัญชีให้เสร็จเรียบร้อยเลยนะถ้าไม่เสร็จก็ไม่ต้องโผล่หัวขึ้นมา !!

Gaute - คร๊าบบบบ ...

 

 

Clive - หืมม แก้วนี่ ผมว่าผมเคยเห็นมาก่อนนะ

Otto - ใช่ นายเคยเห็นแต่มันคงนานมากแล้วล่ะ มันคือ goblet ที่ Cid เคยใช้ ..และไม่ว่าจะเพราะอะไร ไม่ว่าเขาจะใช้มันมานานมากแค่ไหน มันก็ยังดูสะอาดอยู่เสมอเลย 

Clive - ผมรู้เรื่องราวเขาในอดีตน้อยมากเลยครับ 

Otto - ก็เหมือนกับทุกคนนั่นแหละ

Clive - แต่ดูเหมือน Matha กับ the Dame มีความทรงจำเกี่ยวกับเขาแบบยากจะลืมนะครับ  

 

 

Otto - ก็คงต้องเป็นแบบนั้นอ่ะนะ 

Clive - ว่าแต่ คุณรู้จัก Cid มานานแค่ไหนแล้วอ่ะครับ 

Otto - ก็น่าจะเกือบ 20 ฤดูร้อนเห็นจะได้ ย้อนกลับไปในสมัยนั้น ชั้นเป็นคนจัดการเรื่องบัญชีบนเรื่อสินค้า ชั้นเจอเขาครั้งแรกที่นั่นแหละ ชั้นลืมไปแล้วว่าเขากำลังจะไปไหน แต่มันเป็นค่ำคืนที่ยาวนานมากๆ เราดื่มเหล้ารัมกันบนเกาะยันเช้า ก่อนที่ชั้นต้องรีบกลับไปทำงานต่อ แล้วต่อมาไม่นานชั้นก็ลาออกเพราะไปทำสาวงามบนเรือมันท้อง แต่ชั้นกับ Cid ก็ยังรักษาสัญญาต่อกันว่า วันนึงเราจะได้ล่องเรือไปในท้องทะเลด้วยกันอีกครั้ง ก่อนที่โชคชะตาเหล่านี้จะเข้ามาแล้วบอกว่า ฝันไปได้เลย จากนั้นเวทย์มนต์นั่นก็ตื่นขึ้นในตัวลูกชายชั้น ก่อนที่จะได้ตั้งชื่อเขาด้วยซ้ำ และสุดท้าย ความสามารถพิเศษของเขาก็ไม่สามารถปกปิดได้อีกต่อไป 

Clive - แล้วคุณกับครอบครัวไม่สามารถมี ...

 

 

Otto - ครอบครัวของชั้นเป็นคนเรียกทหารมาจับเขา บอกว่าให้จับตัวประหลาดนี่ไปไกลๆ  .....แต่ชั้นหันหลังให้เขาไม่ได้ ชั้นทำกับเขาแบบนั้นไม่ได้ และตลอดชีวิตที่ผ่านมาชั้นก็ไม่เข้าใจว่าพวกเขาทำมันได้ยังไง 

 

 

Otto -  โชคดีที่ Cid ก็คิดเหมือนกับชั้น เขายืนเคียงข้างชั้นในขณะที่ชั้นกำลังอยากทำลายโลกใบนี้ให้พัง เขาคือคนที่ร้องไห้แทนชั้นในวันที่ชั้นไม่มีน้ำตา แล้วเขาก็สาบานว่าจะทำทุกอย่างเพื่อหยุดไม่ให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นอีก และเขาก็ซื่อสัตย์ต่อคำพูดของเขา เขาลาออกจากกองทัพ ลาภยศ เงินทองที่เคยมี เขาทิ้งทุกอย่างเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิดที่ไม่มีกล้าเผชิญ เมื่อชั้นเห็นแล้ว ชั้นก็ตัดสินใจจะติดตามเขาไปจนถึงวันสิ้นโลก

 




Otto -  เขาฉลาดเกินไปสำหรับตัวเขาเองเสมอ นั่นแหละคือ Cid มองโลกแบบที่มันเป็น ในขณะที่เราก็พร้อมจะทำตามแม้บางครั้งเราจะคิดว่ามันก็แค่เรื่องโกหกแต่ไม่ได้แสดงออกมา

 

 

 และมันไม่ง่ายเลยที่เขาต้องแบกภาระโดยลำพัง แต่เขาไม่ยอมให้มันมาหยุดเขา

 



เขาไม่เคยสูญเสียศัทธราในสิ่งที่เขาคิดว่ามันถูกต้อง แล้วทำให้เรามีศัทธรากับตัวเขา ศัทธราว่าเขาจะพาไปสู่ความจริง 

 

 

ชั้นสาบานกับตัวเองว่าจะหนุนหลังเขาเสมอ และพร้อมที่จะผยุงเขาขึ้นมายามเขาล้มลง 

 

 

Otto -  ขอโทษทีนะ ก็แค่คนแก่เล่าความหลัง เขาทิ้งของไว้เยอะเลย ชั้นต้องจัดการให้เรียบร้อยซะที 

 

 

                 Clive - นี่มัน นี่มันลายมือ Cid นี่นา ….

 

 

ถึง Otto 

 

ผมอาจจะกำลังเมา แต่ผมอยากบอกว่าที่นึ่คงพังแน่ถ้าไม่มีคุณคอยดูแล รักแกนะ ตาแก่หน้าบูด 

 

 

Clive - ผมเจอจดหมายนี่ ....

Otto - จดหมายอะไร?

Clive - ซิดเขียนถึงคุณบอกว่า ถ้าไม่มีคุณเราคงไม่เหลืออะไร

 

 

Otto - เขาควรจะพูดดีๆแบบนี้ซักครั้งก่อนที่เขาจะ ตายนะ แต่ทำไมต้องเป็นเขาด้วย ไม่จะเขาหรือจะใคร? ชั้นก็แค่อยากบอกเขาว่า ชั้นโคตรโกรธชิบหายเลย !! 

 



Otto - แต่นายคิดผิด ...ทั้งนายและเขา  ไม่ใช่แค่ชั้นที่ทำให้ hideaway แห่งนี้ยังอยู่ได้ แต่เป็น ทุกๆคนที่อยู่ที่นี่ ชั้นก็แค่คนที่คอยพลักให้เขาไปถูกทาง ซึ่งดูเหมือนชั้นจะทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว

Clive - หรือคุณอยากให้ Gaute เป็นผู้ถือหางเรือมากกว่าล่ะ?

Otto - ฮ่าๆๆ ชั้นอาจมีเวลาเหลือแค่ 2 ไม่ก็ 3 ปี แค่นั้นแหละมั้ง 

Clive -และผมจะอยู่คอยหนุนคุณไปให้ถึงวันนั้นนะ Otto 

 

 

Otto - เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป ... บางที ซิด คงอยากให้นายเก็บนี่ไว้ 

Clive - แต่ คุณ .....

Otto - ชั้นมีไอ้จดหมายบ้านี่แล้ว สบายใจได้ 

 

 

Otto - ขอบคุณสำหรับแสงส่องนำทางนะ ชั้นจะตอบแทนให้ในซักวัน 

 

 

                    Clive - คุณให้ผมแล้ว นี่ไง !

 

 

 

เมื่อจบเควส Cid’s Goblet ก็จะกลายเป็นไอเทมความทรงจำ ที่เอาไว้สำหรับตั้งโชว์อยู่ในห้องของไคลฟ์ 

 

 

A Bad Feeling ….

 

ชั้นว่ามันมีบางอย่างที่ไม่ค่อยปกติกับเจ้าหมาของนายนะ ถ้ากับมาเมื่อไหร่ก็แวะมาหาชั้นที่ร้านหน่อยก็แล้วกัน                - Charon 

 

 

Clive - เกิดอะไรขึ้นกับ Torgal งั้นหรอ? อืมม ตอนที่เจอมันล่าสุดก็ดูปกติดีนะ

 

 

 

                      📋  Quest: A Bone to Pick 

 

 

Clive - ผมอ่านจดหมายของคุณแล้ว เอ่อ แล้ว Torgal มันเป็นอะไรหรอ?

Charon - โอ้ โชคดีจังที่นายอ่านจดหมายของชั้นด้วย ชั้นก็ไม่ได้บอกว่ามันเป็นอะไร แค่รู้สึกแปลกๆ ที่ช่วงนี้มันไม่ยอมกินขนมที่ชั้นให้เลย ปกติบางทีมันก็ชอบแทะเศษกระดูกหักๆของ Molly แต่ตอนนี้ไม่มองมันด้วยซ้ำ เหมือนมันกำลังใจลอยคิดถึงเรื่องอะไรซักอย่าง นายคงไม่ได้เอามันไปใช้งานหนักเกินไปใช่มั๊ย?

 

Clive - ก็งานปกติแบบที่เคยทำนะครับ ...เป็นอะไรเจ้าหนู นายต้องการพักงั้นหรอ?

Torgal - อี๊ดดด ๆๆ 

Charon - นายบอกว่ามันเป็นอะไรนะ หมาป่าน้ำแข็งงั้นหรอ?

Clive - เห็น Harpocrates บอกแบบนั้นนะ 

Charon - บางทีมันอาจเป็นอะไรที่เกี่ยวกับความต้องการข้างในของมันก็ได้

Clive - ผมว่าคงต้องแต่พลังมันตื่นขึ้นที่ Rosalith แน่ๆเลย บางที Harpocrates อาจจะพอรู้ก็ได้ เดี่ยวแวะไปถามเขาดูดีกว่า 

 

 

Clive - เอ่อ ผมอยากรบกวนถามเรื่องเกี่ยวกับ Torgal เพิ่มเติมหน่อยสิครับ เห็น Charon บอกว่าตอนนี้มันดูแปลกๆ เธอบอกว่ามันไม่ค่อยอยากอาหาร มันไม่แตะกระดูกของโปรดเลย หรือมันเกี่ยวกับที่พลังของมันตื่นขึ้นมาก็ไม่รู้ครับ

Harpocrates - อืมมม .... มันอาจจะไม่เกี่ยวกับความอยากอาหารของมันก็ได้ Canids ทุกตัวล้วนมีสัญญาณในการล่า และโปรดปรานไขกระดูดสดๆที่อยู่ในตัวเหยื่อ และแม้ว่าจะเป็น หมาป่าน้ำแข็ง มันก็คงไม่แตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ ชั้นจึงคิดว่าปัญหาไม่ได้ใช่เรื่อง ความอยากอาหารของ Torgal แต่มันน่าจะไม่ชอบการ ปรนเปรอ ที่มากเกินไป และยิ่งเมื่อพลังของมันตื่นขึ้น มันอาจต้องการอะไรที่มากกว่าเดิม เศษกระดูกของ Charon คงไม่พอสำหรับมันอีกต่อไป สัญชาติญาณของหมาป่า หรือแม้แต่ หมาป่าน้ำแข็ง มันก็ชอบล่าเหยื่อที่ใหญ่กว่า ซึ่งกระดูกของพวกมันก็มีสารอาหารมากกว่า คุณลองหาเหยื่อให้มันล่า อาจจะเป็นพวกละมั่งแถวทุ่งหญ้าทางตะวันออกของ โรซาเรีย ก็ได้ ตัวใหญ่เป็นสองเท่ากับละมั่งปกติเลยล่ะ 

Clive - ผมจำไม่ได้ว่าเคยเห็นที่มีขนาดใหญ่แบบนั้นนะ

Harpocrates - ก็นะ ปกติสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ ก็ย่อมต้องมีชั้นเชิงในการระวังป้องกันตัวจากการถูกล่ามากกว่าปกติ มันเลยไม่ค่อยปรากฏตัวออกมาให้เห็นง่ายๆหรอก ล่าสุดเท่าที่ชั้นเคยเจอมาก็แถวหมู่บ้าน Cressida แต่นั่นมันก็นานมากแล้วล่ะ ตั้งแต่สมัยก่อนที่หมู่บ้านจะร้างเสียอีก 

Clive - งั้นผมจะเริ่มหาพวกมันจากที่นั่นเลยก็แล้วกันครับ 

 

 

 

Objective > เดินทางไปยัง Martha’s Rest แล้วมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้าน Cressida 

 

 

เข้าไปกำจัดฝูง Elder Antelope แล้วเอามันกลับมาให้ Torgal

 

 



Clive - น่าจะพออิ่มสำหรับแกนะ 

Torgal - โฮ่งๆๆๆๆๆๆๆ 

Clive - มันคงจะตอบว่า ใช่ มั้ง ยังไงเราก็ได้คำตอบของปัญหาแล้ว ต้องขอบคุณ Harpocrates ที่ช่วยชี้ทางสว่าง 

Torgal - โฮ่ง !

Clive - แกมันไอ้เจ้าเด็กโข่ยังเลิกแทะกระดูกไม่ได้ใช่มั๊ย? เอาเก็บไปกินที่บ้านได้นะ Torgal ป้า Charon คงโล่งใจที่แกกลับมาอยากอาหารได้อีกครั้ง 

 

 

 

Charon - อ่า นายพา Torgal ไปไหนมา เดินเล่นกันหรอ?

Clive - จะว่างั้นก็ได้ครับ คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ .....................

 

 

Charon - โอ้ กระดูกของ Molly มันไม่อร่อยถูกใจสินะเนี่ย ห๊ะ? ชั้นก็ไม่รู้ว่าต้องเลี้ยงมันแบบลูกหมาอ่ะนะ

Torgal - โฮ่ง !

 Charon - โอเคๆ ไม่ต้องเห่า ตอนนี้เรารู้แล้วว่าแกต้องการอะไรนะ เอาไว้ชั้นจะหาเก็บมาไว้ให้นะ

Clive - พอดีมันมีเหลืออยู่บ้างน่ะครับ ผมเลยเอาติดมาด้วย ป้าเอาเก็บไว้ก็แล้วกัน 

Charon - โอ้ นายมีหรอ ดีเลย ยังไงก็ฝากขอบคุณ Harpocrates ให้ด้วยนะ คนบ้าอะไรรู้ทุกเรื่องจริงๆ 

 

 

Harpocrates - อ่า ไคลฟ์ ว่าไง เจอความลับที่ว่ารึยัง?

Clive - ถูกเป๊ะ เลยครับ ตอนนี้ Torgal กลับมาอารณ์ดีเหมือนเดิมแล้ว 

Harpocrates - งั้นก็ดีแล้ว 

Clive - Charon ฝากขอบคุณมาด้วยครับ ที่คุณช่วยไขปริศนาให้

Harpocrates - ไม่เป็นไรๆ  เรื่องนี้มันทำให้ชั้นนึกถึงตอนที่คุณมาปรึกษาครั้งล่าสุด ชั้นกำลังคิดเรื่อง ความสามารถของ Torgal อยู่เลย คุณจำเรื่องที่เราคุยกันเรื่องจิลจะทำให้บทบาทของ Torgal เปลี่ยนไปได้มั๊ย? 

 

 

Clive - เรื่องที่ว่า พลังมันตื่นขึ้นได้ยังไงใช่มั๊ยครับ?

Harpocrates - ใช่แล้ว มันทำให้ชั้นได้ข้อสรุปที่มีเหตุผล แต่มันก็นำมาซึ้งคำถามบางอย่างในใจด้วย ตำนานว่า Fenrir จะรับใช้ Shiva แต่เพียงผู้เดียว แม้พลังของ Torgal ที่คุณเคยเล่าให้ฟังมันจะน่าสนใจ แต่มันค่อนข้างแตกต่างจากที่มีการบันทึกไว้นิดหน่อย  

Clive - แล้วคุณเห็นว่ายังไงครับ?

Harpocrates - Torgal อาจจะรับประโยชน์จากพลังของ Eikon มากกว่าหนึ่งตน ซึ่งเมื่อพิจราณาแล้ว นอกจาก จิล ยังมี คุณและน้องชายคุณด้วยที่ Torgal มันยอมทำตามคำสั่ง หรือแม้กระทั่งกับ Cid ถ้ามองในสถานการณ์ปัจจุบัน เหล่า Eikon ก็อยู่กันใกล้แค่เอื้อม หรือชั้นอาจต้องคิดใหม่ว่า เจ้า Fenrir มันก็มีหลายประเภท  และเมื่อ Dominant ของอณาจักรถูกคุณกำจัดมากขึ้น ซึ่งน่าจะคาดเดาได้ว่ามันก็ส่งผลถึง Torgal ด้วย 

Clive - เหมือนมันจะ แข็งแกร่ง ขึ้นเรื่อยๆสินะ 

Harpocrates - และถ้าจำไม่ผิด มันจะดุร้ายมากขึ้นด้วย โชคดีของเราที่มันเป็นพันธมิตร ไม่ใช่ ศัตรู อ่ะนะ 

 

 

Clive - จริงๆแล้ว มันเป็นมากกว่าพันธมิตรนะครับ มันเป็น เพื่อน ของผม

 

 

หลังจบภารกิจ จะได้รับ Cavall’s Fang Accessories ที่เมื่อไคลฟ์สวมใส่แล้วจะทำให้พลังโจมตีของ Torgal มากกว่าเดิม (นิดหน่อย) 

 

 

 

 

เกี่ยวกับ Blackthorne 

 

ขอขอบคุณที่คุณช่วยลาก Blackthorne ออกมาจากเรื่องรกสมองเมื่อคราวก่อน ประเด็นคือ ผมนึกว่าเขาจะปล่อยวางได้แล้ว ปรากฏว่า เอาอีกแล้ว ดูจากการเซื่องซึมของเขาในช่วงหลังบางทีผมอาจคิดว่า คราวนี้ไม่ใช่แค่เรื่องช่างหนังที่อยู่ในใจเขา แต่อาจเป็นเรื่องส่วนตัว ผมรู้ว่าคุณก็มีงานยุ่งตลอด แต่ถ้าเมื่อไหร่คุณว่างเราอาจหาเวลาไปถามเจ้าบ้านั่นกันว่าอะไรที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ (ในกรณีที่มันอาจไม่ใช่แค่เรื่องการตีเหล็ก) 

 

                                                                          -August 

 

 

Clive - อืมม หวังว่ามันคงไม่มีอะไรนะ แต่ชั้นแวะไปคุยกับ Blackthorne หน่อยก็ดี 

 

 

                  🔨 Special Quest: Blacksmith’s Blues II

 

 

 

Clive - Blackthorne คุณมีเวลาซักหน่อยมั๊ย?

Blackthorne - ซักหน่อยก็ไม่มี !

Clive - ผมคงใช้เวลาไม่นานหรอกครับ ผมแค่อยากจะถามคุณว่าตอนนี้คุณโอเคมั๊ย เพราะ August เขาห่วงคุณมาก คุณอาจจะยังเคลือบแคลงในงานของคุณอีกแม้ว่าคุณจะรู้เคล็ดลับในการสร้างเสื้อเกราะตัวนั้นแล้ว ตกลงยังมีอะไรคาใจคุณอยู่อีกรึเปล่า? บางทีถ้าพูดออกมาผมอาจจะช่วยได้

 

 

Blackthorne - ไอ้ลูกหมานี่เอาอีกแล้ว รู้ดีไปหมด เฮ้ออ... เรื่องเสือกนี่ยกให้มันจริงๆเลย มันก็แค่ .... พอดี Charon นางโชว์บางอย่างให้ชั้นเห็น มันเป็นสิ่งที่ชั้นไม่เคยเห็นมาก่อน มันคือ ดาบ ดาบแปลกๆที่มีคมแค่ด้านเดียว ส่วนเหล็กที่ชั้นทำก็ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาเลย แต่ คมของแม่งนี่สิ น่าจะตัดคนขาดสสองท่อนโดยที่มันเดินกลับบ้านแค่ท่อนเดียวแบบไม่รู้ตัวได้เลย

Clive - แล้วมัน เอ่อ เป็นปัญหาสำหรับคุณยังไงหรอครับ?

Blackthorne - ไม่ๆ มันไม่ได้ทำให้ชั้นมีปัญหาหรือหนักใจอะไรทั้งนั้นน่ะ แต่มันรบกวนจิตใจชั้น มันทำให้ชั้นหยุดคิดไม่ได้เลยว่า ทำยังมันถึงคมขนาดนั้นได้ 

 

 

Clive - สรุปว่า คุณอยากรู้ว่ามันทำได้ยังไงสินะ? และถ้าคุณรู้ เราก็สามารถติดอาวุธดีๆให้กับ Cursebreakers ได้ด้วย 

Blackthorne - จะว่างั้นก็ได้ ....

Clive - โอเค ผมจะลองหาคำตอบให้ก็แล้วกันนะ ทุกคนย่อมต้อนรับดาบที่คมกว่าเสมอ 

Blackthorne - แต่ชั้นก็ไม่รู้สึกดีจงดีใจอะไรมากหรอกนะ ยังไงก็โชคดีแล้วกัน

 

 

 

Clive - วันนี้คุณดูดีมากเลยครับป้า Charon 

Charon - มีอะไรก็ว่ามา อย่าอ้อมค้อม 

Clive - ผมอยากจะรู้เกี่ยวกับดาบที่คุณให้ Blackthorne ดู ไอ้ที่มันมีคมอยู่ด้านเดียวอ่ะครับ 

Charon - ต้องวิ่งวุ่นเพราะเจ้านั่นอีกแล้วสินะ คุณน่ะ ห๊ะ?

Clive - จะว่างั้นก็ได้ครับ แต่ผมอยากช่วยเขาให้ค้นพบวิธีทำงานที่ดีขึ้น และเขาจะได้มีสมาธิในการทำงานด้วย 

Charon - มันเป็นดาบหายาก ใน Twin นี่มีไม่กี่คน ส่วนใหญ่ก็จะเก็บสะสมเอาไว้ คงจะหาใครเอามาขายให้ยากหน่อย 

 

 

Clive - แล้วคุณบอกได้มั๊ยว่าใครเป็นคนซื้อดาบนั่นไป ?

Charon - นี่คุณคิดว่าชั้นจะยอมบอกชื่อลูกค้าของชั้นจริงๆเรอะ?  คุณคงไม่ได้จะคิดมาแย่งลูกค้าชั้นใช่มั๊ย? … เอาล่ะ หยุดมองชั้นแบบนั้นได้แล้ว!  ลอร์ด Ignac นั่นแหละที่ซื้อไป Dhalmekian นักสะสมอาวุธที่มีเงินมากว่าความคิด และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงอยู่ในรายชื่อลูกค้าระดับต้นๆของชั้น คิดว่าเขาน่าจะยังพักอยู่ที่โรงแรมใน Dalimil นะ โอ้แล้วก็ .... เขาค่อนข้างเป็นคนที่ประหลาดหน่อย เข้าใจความหมายนะ  

Clive - ขอบคุณที่เตือนนะครับ 

 

 

 

Objective > เดินทางไปยัง Dalimil Inn 

 

 

 

 

Lord Ignac - ชื่อเสียงชั้นป่นปี้หมดแล้ว หมดกัน งานนี้มีแต่ เจ๊งๆๆๆ !!

Radim - ใจเย็นก่อนขอรับ ลอร์ด Ignac ผมขอร้องล่ะ มันทำให้คุณดูไม่ดีเลยครับ 

Clive -ต้องขออภัยด้วยที่บุกรุกนะครับ แต่ ...

Lord Ignac - ออกไป! ออกไปให้พ้น !!!! ชั้นจ่ายค่าห้องก็เพราะไม่อยากให้ใครมายุ่ง ไป๊ๆๆๆๆ !!

 

 

Radim - ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ท่านลอร์ดกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ลำบาก และเขาก็ไม่ชอบแขกที่มาหาโดยไม่แจ้งล่วงหน้าด้วย 

Lord Ignac - Radim ไล่ไอ้โสโครกนั่นไปซะ !!

Radim - เอ่อ คุณช่วยไปรอผมด้านนอกซักครู่นะครับ 

 

 

Clive - ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้คุณมีปัญหา 

Radim - โอ้ยไม่เป็นไรหรอกครับ ท่านลอร์ดก็เป็นแบบนี้ตลอดแหละ ยิ่งเจอเหตุการณ์ไม่ดีตอนเช้า ก็เลยหนักเลยทีนี้ หีบทรัพย์สินของท่านลอร์ดถูกพวกโจรปล้นไป เจ้าของโรงแรมก็ถูกปล้นเหรียญทองไปจนหมดเหมือนกัน 

Clive - ไม่ทราบว่า ดาบเล่มนึงถูกขโมยไปด้วยหรือเปล่าครับ?  ดาบที่มีคมด้านเดียวที่ท่านลอร์ดซื้อไปจากแม่ค้าเพื่อนของผมน่ะ 

Radim - คุณรู้จักเลดี้ Charon ด้วยหรอ? .. ใช่ ผมเกรงว่าดาบเล่มนั้นก็ถูกชิงไปด้วย 

Clive - งั้นเดี๋ยวผมจะลองไปตามเอาหีบสมบัติของท่านลอร์ดคืนมาให้ แต่มีเงื่อนไขข้อนึง 

Radim - ผมคงให้อะไรที่เกินอำนาจของผมไม่ได้หรอกครับ 

Clive - ผมแค่อยากจะขอพบท่านลอร์ดแค่แปบเดียวแล้วผมก็จะไปครับ 

Radim - ถ้าข้อตกลงแบบนี้ ผมก็พอช่วยได้ครับ ตกลงตามนั้น

Clive - แล้วคุณพอจะเห็นมั๊ยว่าพวกโจรมันหนีไปทางไหน?

Radim - ผมน่ะไม่เห็นหรอก แม้จะลองไปถามคนอื่นๆแล้วก็ไม่มีใครเห็น แต่ ผมพอจะรู้ว่าพวกมันไปไหน The Bandit’s Bed ไงครับ ว่ากันว่าเหรียญทุกเหรียญที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้องใน Dalimil นั่นอยู่ในทะเลทราย Velkroy 

Clive - โอเค เดี๋ยวผมลองไปเช็คดู 

 

 

Objective > เดินทางไปที่ช่องแคบทางเหนือของ ทะเลทราย Velkroy แล้วกำจัดพวกโจรในพื้นที่ให้หมด 

 

 

Clive - นี่น่าจะเป็นหีบของ Lord Ignac ยังไม่เสียหายด้วย รีบเอากลับไปที่ Dalimil ก่อนดีกว่า 

 

 

Lord Ignac - ผมทราบเรื่องหมดแล้ว และอยากจะขอบคุณที่เอาของๆผมกลับคืนมาให้ ผมจะขอทราบชื่อคุณหน่อยได้มั๊ย? คุณพลเมืองดี 

Clive - Wyvern ครับ ยินดีที่ได้รู้จักท่านครับ 

Lord Ignac - เป็นชื่อที่น่าเกรงขามจริงๆเลย ดูเหมือนผมจะเป็นหนี้คุณนะ Wyvern Radim บอกผมแล้วว่าคุณต้องการอะไร ต้องการแค่นั้นจริงๆเรอะ?

Clive - ใช่ครับ ขอเวลาคุยกับท่านแค่สองสามนาทีก็พอ

Lord Ignac - ได้สิ งั้นก็พูดมาได้เลย 

 

 

 

Radim - นายท่านครับดูเหมือนคุณ Wyvern อยากรู้เรื่องดาบที่มีคมด้านเดียวที่ท่านเพิ่งได้มาน่ะครับ 

Lord Ignac - โอ้ ดาบเล่นนั้น งานศิลปะของจริงเลยนะ Charon อัพราคาซะผมเกือบตาย จนเกือบต้องขาย Radim ไปแล้วนะกว่าจะได้ดาบนั่นมา ว่ากันว่ามันถูกสร้างขึ้นที่เกาะอันห่างไกลจาก Twin มากมายนัก และถูกใช้โดยครูสอนดาบในสำนักดาบที่มีหนึ่งเดียวเท่านั้น พวกเขาเชื่อว่าไม่มีการต่อสู้ใดที่ควรใช้การโจมตีเกินหนึ่งครั้ง ดาบถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้โจมตีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องมีการโจมตีซ้ำอีก เป็นความโหดเหี้ยมที่สวยงามจริงๆ 

Clive - แล้วพวกเขาลับให้มันคมขนาดนั้นได้ยังไงครับ?

Lord Ignac - ถามได้ดี พวกเขาใช้หินลับมีดไง หินลับมีด มีตั้งแต่ละเอียดไปถึงหยาบ เขาใช้มันไล่ถูไปทีละก้อนเป็นหมื่นๆก้อนจนถึงก้อนสุดท้าย ดาบจึงคมเงางาม มันเป็นหินแร่ที่แตกต่างจากของอณาจักรเรา และกุญแจสำคัญคือ ส่วนผสมลับ แต่ การฟังชั้นเรื่องพวกนี้มันเล็กน้อยไม่คุ้มกับที่คุณลงแรงหรอกนะ Wyvern เอาไอ้นี่ไปด้วยเลยดีกว่า หินหายากที่ชั้นพูดถึงยังไงล่ะ สำหรับนักสะสม มันหายยากยิ่งกว่าตัวดาบเสียอีกนะ แบบนี้สิถึงจะเหมาะสมกับสิ่งที่คุณทำให้ผม 

 

 

Radim - เอ่อ ต้องขออภัยที่ต้องเสียมารยาท แต่เราเสียไปเวลาไปมากแล้วครับนายท่าน เราต้องออกเดินทางกันแล้ว 

Lord Ignac - จริงสินะ ผมกำลังแข่งกับนักสะสมคนอื่นๆ และผมนำหน้าพวกนั้นหนึ่งก้าวเสมอ แต่ถ้ามัวชักช้าพวกเขาจะตามทัน

Clive - ยังมีนักสะสมอีกหลายคนหรอครับ?

Lord Ignac - นับไม่ถ้วนเลยล่ะ แต่มีแค่คนเดียวที่เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของผม ลอร์ด Byron Rosfield !! มันเหมือนหอกข้างแคร่ของผมมาตลอด 

Clive - นึกภาพออกเลยล่ะครับ ....

Lord Ignac - งั้นเราก็ลากันตรงนี้นะ Wyvern หวังว่าโชคชะตาคงนำเรามาพบกันอีก ... Radim เตรียมออกเดินทางได้แล้ว 

 

 

Radim - ผมคิดว่าท่านลอร์ดน่าจะชอบคุณแล้วนะคุณ Wyvern ขอบคุณอีกครั้งสำหรับการช่วยเหลือนะครับ .... ผมกำลังตามไปครับนายท่าน !

 

 

Clive - ดูเหมือนลุง Byron จะเจอคู่แข่งที่น่าสนใจเข้าแล้ว มาดูกันว่า Blackthorne จะทำยังไงกับ หินลับมีด นี่กันดีกว่า 

 

 

Clive - โทษทีที่มาช้าครับ หวังว่าคุณจะเห็นว่ามันคุ้มค่าที่รอนะ  

Blackthorne - นายรู้เรื่องเกี่ยวกับดาบนั่นแล้วหรอ?

Clive - ดีกว่านั้นอีก .... นี่ครับ 

 

 

Blackthorne - หินลับมีดงั้นหรอ?

Clive - ใช่ แต่ไม่ใช่แบบที่คุณเคยเจอใน Valisthea 

 

 

Clive - ผมจะเล่าให้ฟัง ......................................... 

Blackthorne - อืมม ไม่แปลกที่ชั้นไม่สามารถทำให้ใบมีดมันคมแบบนั้นด้วยหินเจียรของชั้นได้ ชักดาบครั้งเดียวก็เสร็จเลยใช่มั๊ย ห๊ะ?  มันก็ไม่เลวนักหรอกถ้านายกำลังต่อสู้ด้วยการ ดวล อ่ะนะ แต่น่าจะไม่โชคดีในสนามรบ เมื่อศัตรูคนที่สองเข้ามา มันจะเป็นคนสุดท้ายของนาย ไม่ว่านายจะเก่งแค่ไหนก็ตาม 

 

 

Clive - แล้วมีวิธีไหนบ้างที่ทำให้พวก Cursebreakers เอาไปใช้ได้บ้าง?

Blackthorne - ด้วยหินลับมีดนี่กับเหล็กชนิดพิเศษที่เหมาะสม ชั้นอาจจะสร้างดาบที่สั่นสะเทือนทั้ง Twin ขึ้นมาได้ แต่ชั้นจะไม่แทนที่มันด้วยหินนี่ทั้งก้อนหรอก แต่ชั้นจะซอยมันให้บางๆ ถ้าทำแบบนั้น เราคงได้ดาบหลาย 10 เล่มจากมันได้สบายๆ

 

 

Blackthorne - ดาบที่พวก Cursebreakers ไม่รู้จะใช้มันยังไงคงทำให้พวกเขาผ่านการต่อสู้ไม่เกินครั้งแน่ๆ จึงไม่มีประโยชน์ที่ชั้นจะเลียนแบบดาบนั่นขึ้นมาถ้ามันใช้ประโยชน์ไม่ได้กับพวกเรา แต่ทำดาบในแบบของเราแล้วใช้หินลับมีดที่ละเอียดขนาดนี้ น่าสนใจมากกว่า จะเอาแบบอิฐร่วนๆหรือแบบทนๆ ลองนึกภาพของเหล็ก Valisthean คุณภาพดีที่คมกว่าที่พบในเกาะที่ห่างไกล จะให้ชั้นสร้างของก๊อปเรอะ ฝันไปเถอะ ชั้นจะสร้างสิ่งที่ดีกว่า รอดู

Clive - ผมว่าพวก Cursebreakers จะต้องชอบแน่นอนครับ ... แต่ก็อย่าหักโหมจนเกินไปนะ

Blackthorne - อย่ามาห่วงชั้นเลยพ่อหนุ่ม ชั้นทำงานหามรุ่งหามครั้งมาตั้งแต่อายุครึ่งนึงของนายนะ และชั้นก็ยังคงอยู่ที่นี่ตอนนายจากไปแล้วด้วย ...แต่ยังไงก็ ...ขอบคุณนะไคลฟ์ จากใจเลย ชั้นเป็นหนี้นาย August ก็ด้วย มันก็ดีเหมือนกันที่รู้ว่ายังมีใครซักคนห่วงเราอยู่ และสำหรับหนี้ที่ชั้นต้องจ่ายให้นาย ดาบเล่มใหม่เล่มแรกชั้นจะสลักชื่อของนายลงไปด้วย ถ้านายได้วัตถุดิบครบแล้วก็ค่อยมาหาชั้นก็แล้วกัน 

 

 

หลังจบเควสนี้จะได้รับ Excalibur Design Draft แบบแปลนการสร้างดาบเอกซ์แคลิเบอร์ ซึ่งส่วนผสมในการตีดาบนี้ยังขาดอยู่อีกอย่างคือ Bomb Ember ซึ่งเป็นไอเทมที่จะได้จาก Special Quest ถัดไป 

 

 

                      💊 Special Quest: Weird Science

 

 

Owain - นี่ซิด เอ่อ ผมว่าคุณน่าจะพอช่วยแก้ปัญหาอะไรให้ผมได้นะ ถ้าคุณอยากจะช่วย 

Clive - ลองเล่าให้ฟังสิครับ 

Owain - มันเกี่ยวกับเรื่อง alembic ที่หัวหน้าให้ผมทำน่ะ มันคืออุปกรณ์สำหรับใส่สารละลายที่คุณต้องการแยกองค์ประกอบมันออก ประมาณนั้น ปัญหาคือ มันไม่สามารถกำจัดสิ่งสกปรกออกไปจนหมดได้ ผมกำลังหาวิธีกรองเอาของเหลวออก และนั่นคือสิ่งที่ผมอยากให้คุณช่วย 

Clive - ได้สิ ผมว่าเจ้าอุปกรณ์นี้ Tarja ก็น่าจะใช้ประโยชน์จากมันได้ด้วย แล้วจะให้ผมทำอะไรกับไอ้ตัวกรองที่ว่าล่ะ?

Owain - ไม่มีอะไรจะทำได้นอกจาก ระเบิด เท่านั้น หัวหน้าบอกงั้น เธอเอาตัวอย่างที่ได้มาจากร้านค้าในมหาลัยให้ผมดู ผมนี่แทบไม่เชื่อสายตาเลย ถ้าคุณเอาน้ำที่ปนเปื้อน Blight ที่ดำปี๋เทลงไป พอออกมามันกลายเป็นน้ำสะอาดที่ใสราวกำลังลำธารบนภูเขายังไงหยั่งงั้นเลย ผมเลยศึกษาดูว่ามันพอจะหาได้จากที่ไหน รู้มั๊ยว่าผมพบอะไร มันคือเถ้ากระดูกของ bomb King ที่ทิ้งไว้หลังจากที่มันตายแค่นั้นเอง 

Clive - บอกมาเลยว่ามันอยู่ที่ไหน? ผมจะไปเอามันมาให้เอง 

Owain - ได้ ถ้าคุณเต็มใจอ่ะนะ ผมเห็นมันอยู่ใน Hunt Board ไม่กี่วันก่อน ใจผมก็อยากไปเองตั้งแต่ที่เห็นแล้วนะ แต่แบบ ไม่ค่อยถนัดอะไรแบบนั้นอ่ะดิ ในทางกลับ คุณน่าจะเหมาะกว่า

 

 

เข้าไปที่ Hunt Board ตรวจสอบใบประกาศข้อมูลของ bomb King

 

 

จากนั้นเดินทางไปยัง Dragon’s Aery แล้วลงใต้เข้าไปที่ The Imperial Chase เพื่อไปยังตำแหน่งที่ซ่อนตัวของ bomb King (ตามภาพในแผนที่)

 



                           Boss : bomb King 

 

 

เมื่อกำจัด bomb King ได้ก็จะได้ Bomb Ember ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับตีดาบเอกซ์แคลิเบอร์มาด้วย

 

 

จากนั้นก็เก็บ Bomb Ash ที่ bomb King ดอร์ปเอาไว้ แล้วเอากลับไปให้ Owain

 

 

 

Owain - เป็นไงซิด ล่าเจ้า bomb King เป็นไงบ้าง?

Clive - นี่ไงเถ้ากระดูกของมัน 

Owain - สุดยอดไปเลย แถมได้เยอะด้วย น่าจะพอทำให้ alembic เพิ่มเวลาการเดือดให้ยาวนานขึ้นอีกเยอะเลย คุณนี่มันสุดยอดของจริง 

 

 

Owain - เอาล่ะ เสร็จแล้ว The Telamon alembic และเหมือนมันจะได้ผลอย่างที่หัวหน้าบอกจริงๆด้วย !!

Clive - น่าประทับใจมาก

 

 

Owain - คำพูดของชายผู้ตัดก้อนหินที่ลุกไหม้ขาดสะบั้น ว่าแล้วก็ลืมว่าผมยังไม่ได้ตอบแทนคุณเลย 

Clive - ไม่จำเป็นหรอกครับ ถ้ามันเป็นประโยชน์กับคนที่ hideaway ก็เป็นรางวัลที่ดีที่สุดแล้วล่ะ 

Owain - ไม่เอาน่า ไม่ต้องอายหรอก ทำไมคุณไม่ให้ผมดูกระเป๋าหน่อยล่ะว่าคุณเก็บพวกยาต่างๆได้เท่าไหร่ ผมสามารถใช้เวทย์มนต์ปรับปรุงมันให้ได้นะ

Clive - เวทย์มนต์แบบไหนงั้นหรอ?

Owain - ก็เราสามารถใช้ alembic แยกสารประกอบสิ่งต่างๆได้แล้ว ซึ่งผมคิดว่า แม้แต่หนังที่ทนทานที่สุดก็ทำให้นุ่มได้ ซึ่งอาจทำให้สามารถเพิ่มชีวิตชีวาให้กับร้องเท้าเก่าๆ ทำให้เซฟค่าใช้จ่ายไปเยอะเลย หรือถ้าใช้กับกระเป๋ามันก็จะทำให้หนังคลายตัวสามารถเก็บยาเพิ่มได้อีกซักขวดสองขวดได้เลย 

Clive - โอ้ ถ้ามันไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายก็น่าลองนะ 

Owain - ไม่ต้องจ่ายซัก Gil แน่นอน มานี่ผมจัดการให้เอง 

 

 

Owain - เรียบร้อย ไง เป็นไงบ้าง?

Clive - อืมม รู้สึกมันยืดหยุ่นได้มากขึ้นนะ ขอบคุณนะ

Owain - เห็นป่ะ ผมบอกแล้ว  ...แล้วก็ไม่ต้องขอบคุณ ผมสิควรขอบคุณมากกว่า นี่เป็นการสนับสนุนจากทีมของ Mid มันคือความพยายามของพวกเราเพื่อคุณ ซึ่งหากไม่มีคุณ เราคงไม่พบความมหัศจรรย์ที่ผมทำให้กระเป๋าของคุณได้แน่นอน และอยากจะบอกว่ายังมีหลายอย่างที่เราทำได้กำลังจะตามมา

 

 

หลังจบเควส กระเป๋าของไคลฟ์จะได้รับการอัพเกรดให้ใส่ไอเทมได้มากขึ้น

Potion จาก 4 เป็น 6 

High Potion จาก 3 เป็น 4 

Strength tonic จาก 2 เป็น 3

Stoneskin tonic จาก 2 เป็น 3

 

 

และเมื่อได้ไอเทม Bomb Ember ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับตีดาบเอกซ์แคลิเบอร์จากเควสนี้มาแล้ว ก็สามารถนำเอาไปตีดาบ เอกซ์แคลิเบอร์ กับ Blackthorne ได้เลย 

 



        ⭐ Alliant Reports Quest ....Update

 

 

For Great Justice 

Use Your Loaf 

 

 

 

                   📗  SideQuest: Use Your Loaf 

 

 

 

The Dalimil Inn 

 

 

Matej พ่อค้าขนมปัง - อยู่ๆก็ไป ไม่คิดจะลากันซักคำ เฮ้อออ...

Clive - เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?

Matej พ่อค้าขนมปัง - อ๋อ ลูกศิษย์ของผมน่ะครับ อยู่ๆก็หายไป อยากจะออกไปตามหาแต่ก็ไม่มีคนเฝ้าร้าน แม้จะไม่อยากจะพึ่งคนแปลกหน้า แต่ได้โปรดช่วยดูให้ผมหน่อยว่าเขาอยู่ไหน ได้มั๊ยครับ?

Clive - ได้สิครับ แล้วปกติเขามีที่ไหนชอบไปเป็นพิเศษบ้าง?

Matej พ่อค้าขนมปัง - อืมมม ถ้าเดาไม่ผิดเขาน่าจะไปอยู่ที่ไหนซักแห่งที่ใกล้กับ Drake’s Fang ที่เขาเคยทำงานมาก่อน

Clive - ใกล้กับ Drake’s Fang งั้นหรอ? โอเค งั้นผมเริ่มจากแถวนั้นก่อนก็แล้วกัน 

 

Objective > เดินทางไปที่พื้นที่ The Jaw 

 

 

Clive - ขอโทษนะครับ 

Dusan - มีอะไรหรอ?

Clive - พอดีเจ้าของร้านขายขนมปังให้ผมมาตามหาคุณน่ะ

Dusan - ผมต้องขอโทษด้วย ... เรื่อง selfish sod สินะ?

 

 

Dusan - ผมไม่ควรจะเป็นคนทำขนมปังด้วยซ้ำ เจ้านายคงผิดหวังที่ให้ผมเข้ามาทำงานด้วย ..เวลาที่ผมมองไปที่ Drake’s Fang ผมจะรู้สึกสงบ ..แต่ตอนนี้ ดูมันสิ ...

Clive - นายคิดถึงมาเธอร์คริสตัลหรอ?

Dusan - จริงๆผมก็เกลียดมันนะ แต่มันก็เป็นสิ่งเดียวที่ผมรู้จักหลังจากทำเหมืองที่นั่นมาหลายปี และเมื่อมันแตกสลายไปดูเหมือนใจของผมก็จะสลายไปด้วย ผมเปลี่ยนจากจับผลั่วเป็นไม้นวดแป้ง แต่ผมไม่ใช่คนทำขนมปังที่ดีเลย พอใจผมสลาย ขนมปังที่ผมทำออกมาก็ดูไร้ค่าเหมือนกัน Drake’s Fang เป็นสิ่งเดียวที่สามารถเติมเต็มช่องว่างในตัวผมได้ ให้ตายเถอะ ผมรักมันจริงๆนะ แต่ตอนนี้ มันจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาแล้ว และคุณว่า ผมควรทำยังไง ที่มนุษย์ที่ไร้หัวใจคนนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกครั้ง 

 

 

Remember the good time

 

Clive - คิดถึงสิ่งดีๆของมาเธอร์คริสตัลเอาไว้สิ แล้วมันจะอยู่กับนายตลอดเวลาไม่ว่านายจะอยู่ที่ไหน 

 

 

Dusan - แม้ว่าขณะอบขนมปัง ..... ผมนี่มันโง่จริงๆเลย ขอบคุณมากเพื่อน ขอบคุณที่ช่วยทำให้ผมตาสว่าง !! ผมต้องรีบไปทำงานต่อแล้ว ขอตัวก่อนนะ!

 

 

Matej พ่อค้าขนมปัง - อ่า คุณนั่นเอง คนที่จุดไฟในการทำงานให้ลูกมือของผม ดูเหมือนคุณจะจุดไฟมากไปหน่อยพอมาถึงร้านเขาก็เข้าไปที่เตาอบเลย 

Dusan - หัวหน้าครับ สุดท้ายมันก็สำเร็จ !!! Drake’s Barm ผลงานสร้างสรรที่ไม่ซ้ำใครของผม !!!!

 



Matej พ่อค้าขนมปัง - ชั้นกล้าบอกเลยว่า ..สมบูรณ์แบบ !! มันเหมือน Drake’s Fang เป๊ะเลย!!

Dusan - ยอดเขาอันสูงชันของมัน เสมือน เกสรที่เชิญชวนให้คนมาลิ้มลอง ขนมปังของผมอาจดูยุบไปหน่อย แต่ จะเป็น Drake’s Fang ได้ยังไงถ้าไม่มีปล่องภูเขาไฟ 

 

 

Dusan - แล้วดู ใส้ที่อยู่ข้างใน เป็นผลึกเกลือที่เสมือนมันเต็มไปด้วยคริสตัลที่สวยงาม เจ้านายครับ ผมได้จุดหมายของผมแล้ว ผมจะสร้างผลงานเพื่อรักษาความทรงจำดีๆที่มีให้กับ Drake’s Fang 

Matej พ่อค้าขนมปัง - ถ้ารสชาติของมันสวยงามเหมือนที่นายสาธยายมา มันก็จะกลายเป็นการคิดค้นที่ยิ่งใหญ่ของนายแน่นอน 

 

 

Matej พ่อค้าขนมปัง - คุณไม่ใช่แค่นำลูกศิษย์ของผมกลับมา แต่ยังนำเอาอาหารแบบใหม่มาอยู่ในมือผมด้วย ผมไม่รู้คุณทำได้ไง แต่อยากขอบคุณด้วยใจจริงเลยล่ะครับ 

 

 

 

                    📗 SideQuest:  For Great Justice 

 

 

The Lostwing 

 

 

Quinten - อ้าว ไคลฟ์ มาได้จังหวะเหมือนเคย ผมกำลังมีเรื่องกังวลใจที่คุณอาจจะช่วยได้พอดีเลย

Clive - บอกมาได้เลยครับ

Quinten - มีข่าวลือจากพวกชาวบ้านว่าพบเงาตะคุ่มๆและเสียงฝีเท้ากรอบแกรบอยู่ในพงหญ้าแถวป่านอกหมู่บ้าน พวกเขาเลยกลัวว่าเราจะถูกเฝ้าดูอยู่ ด้วยสภาพอากาศตอนนี้ พวกเขาอาจกังวลกันไปเอง มันอาจไม่มีอะไรก็ได้ ก็ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณต้องเสียเวลา แต่ถ้ามันเป็นอะไรบางอย่างที่เป็นจุดเริ่มต้นของอันตราย ก็เลยอยากให้คุณลองไปตรวจสอบให้หน่อย

Clive - ได้แน่นอนครับ

Quinten - เยี่ยมเลย อย่างแรกแนะให้ลองสอบถามชาวบ้านดูก่อนเผื่อคุณจะรู้อะไรเพิ่มเติม

 

 

Clive - โทษทีครับ Quinten บอกว่าพวกคุณพบอะไรแปลกๆนอกหมู่บ้าน ตกลงคุณเห็นอะไรหรอครับ?

คนงานคอกม้า - เอ่อ ผมก็ไม่ได้เห็นเองหรอกนะเห็นเขาพูดๆกันน่ะ ส่วนผมทำงานอยู่ตรงนี้ ใกล้ๆกับประตูยังไม่เห็นอะไรผิดปกตินะ แต่ถ้ามีใครแอบเข้ามาในเมืองนี้ ผมจะรีบตะโกนบอกเอง

 

 

แม่ค้า - คุณเป็นอะไรรึเปล่าซิด? มีอะไรหรอ?

Clive - ผมแค่อยากจะถามคุณนิดหน่อยน่ะครับ Quinten บอกว่าพวกคุณพบอะไรแปลกๆนอกหมู่บ้าน ตกลงคุณเห็นอะไรบ้างมั๊ย?

แม่ค้า - ก็ไม่นะ ไม่เห็นอะไรเลย ขอโทษด้วยที่ช่วยคุณไม่ได้ ได้ยินแต่ที่พวกผู้ชายที่ทำงานในไร่องุนเขาพูดกัน แต่ยังไม่มีใครที่เห็นอะไรจริงๆซักคน 

Clive - ไม่เป็นไร ยังไงก็ขอบคุณมากครับ 

 

 

Clive - ขอเวลาซักครู่นะครับ ผมอยากจะถามคุณหน่อย Quinten บอกว่าพวกคุณพบอะไรแปลกๆนอกหมู่บ้าน ตกลงคุณเห็นอะไรที่ผิดปกติบ้างมั๊ย?

แม่บ้าน - ไม่เห็นนะคะ แต่ได้ยินเสียงแปลกๆ เหมือนเหล็กถูกัน เหมือนใครกำลังลับดาบ 

Clive - ได้ยินแถวไหนครับ?

แม่บ้าน - แถวๆ Laubert’s Pass ค่ะ ตอนชั้นออกไปเก็บสนุนไพรชั้นได้ยินมันดังออกมาจากพุ่มไม้ ชั้นเลยรีบวิ่งกลับบ้านแบบไม่เหลียวหลังเลย 

Clive - เดี๋ยวผมจะลองไปเช็คดู ขอบคุณครับ 

 

 

 

Objective > ออกจากประตู Cutter’s Gate ทางใต้ของหมู่บ้าน มุ่งหน้าไปยัง Laubert’s Pass

 

 

Torgal - โฮ่ง !!!

Clive - มันอยู่ตรงนั้นสินะ ..... ห๊ะ? พวก Black Shileds? ที่นี่เนี่ยนะ?

Black Shileds - บ้าเอ้ย มีคนเห็นเรา รีบจัดการมันก่อนที่มันจะหนี เร็ว!

 

 

                         Mini boss - Black Shileds

 

 

 

 

Quinten - อ้าว ไคลฟ์ เป็นไงเจออะไรบ้างมั๊ย?

Clive - ผมเจอพวก Black Shileds แถวๆ Laubert’s Pass จัดการพวกมันไปแล้ว 

Quinten - Black Shileds ไอ้พวกสุนัขรับใช้ของยัยอดีตราชินีสินะ ถึงแม้พวกมันจะกำลังรับใช้เจ้านายใหม่อยู่ แต่หนึ่งในนั้นคือคนที่ต้องการจะถอนรากถอนโคนชั้น และงานนี้ชั้นต้องสนใจแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าพวกสัตว์ร้ายจะได้กลิ่นเหยื่อของมันแล้ว แม่งเอ้ย ชั้นนึกว่าจะนานกว่านี้ จะได้มีเวลาเตรียมตัวมากกว่านี้ แต่ถ้าเราจนมุม เราก็ไม่มีทางเลือกที่ต้องโต้ตอบ 

Clive - โทษนะ ผมงงไปหมดแล้ว ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ใครเป็นคนส่งพวก Black Shileds มา และใครต้องการให้คุณตายงั้นหรอ?

 

 

 

Quinten - เพราะมันต้องการให้มันตายไง 

Clive - ใครครับ?

Quinten - อดีตผู้พิพากษาแห่ง Sanbreque ที่ชั้นสร้างที่นี่ก็เพื่อเขา 

Clive - ผมไม่เข้าใจ ทำไม่ต้องเป็นเขา ทำไมต้อง Lostwing?

Quinten - ผมว่าคุณควรจะรู้ความจริงซักทีเหมือนกัน 

 

 

Quinten - ครั้งนึงผมเคยอยู่ในกลุ่มสมาชิกตุลาการ ก่อนที่ชั้นจะเบื่อความอยุติธรรมของโลกใบนี้  ชั้นจึงสาบานที่จะต่อสู้กับมัน ซึ่งผมก็สู้กับมันจริงๆในแบบของผม ผมเห็นเจ้าหน้าที่หลายคนที่กระทำความผิดแต่ก็โยนความผิดให้กับผู้บริสุทธิ์ให้ต้องมารับโทษ คนที่ทำงานรับใช้กฎหมายแต่ดันทำลายคนที่ไม่มีทางสู้เนี่ยนะ และตลอดมาก็มีหัวหน้าผู้พิพากษาที่สนับสนุนผมมาตลอด คนที่เป็นพันธมิตรในการต่อสู้กับความอยุติธรรม จนวันนึงชั้นค้นพบว่า มีพวกเจ้าหน้าที่ใช้การล่าพวก Bearers เป็นเสมือนกีฬา แล้วชั้นก็โง่ที่ดันไปคุยเรื่องนี้กับเขาเพราะคิดว่าเขาจะสนับสนุนเหมือนเดิม แต่ผมกลับรู้ว่า ที่แท้เขาใช้เรื่องพวกนี้ การชี้เป้าพวกเจ้าหน้าที่ที่ทำผิด เพื่อปราบปรามเจ้าหน้าที่ชั่วๆ ก็เพื่อกำจัดคู่แข่งของเขาเอง ผมจึงยื่นฟ้องเขา

 

 

Quinten - จากนั้นเขาก็ตอบโต้ผมด้วยการฆ่าครอบครัวของผม ทั้งหมด แถมเขาก็ยังลอยนวลไร้ความผิดใดๆด้วย ผมสูญเสียทุกอย่าง ครอบครัว คนรัก หน้าที่การงาน ความศัทธาที่ผมคิดมาตลอดว่าความยุติธรรมสามารถจัดการได้ผ่านศาลก็จบสิ้นลงตั้งแต่วันนั้น ผมจึงเลือกใช้แนวทางของตัวเอง ผมตามล่าทุกคนรอบตัวเขาแล้วฆ่าพวกมันด้วยมือผมเอง แต่ชายคนนั้นก็พิสูจน์แล้วว่า มันเป็นเป้าหมายที่ยากยิ่งสำหรับผม

 

 

Quinten -  เพราะมันมีทั้งเงินและอำนาจที่คอยปกป้องมัน ผมจึงต้องสร้างกองกำลังของตัวเองขึ้นมา ผมมาที่นี่ ที่ Lostwing แล้วเริ่มรวบรวมอาสาสมัครที่มีความคิดเหมือนกัน 

Clive - แล้วทุกคนที่นี่รู้เหตุผลที่คุณต้องทำมั๊ยครับ?

Quinten - แน่นอน รู้สิ พวกเขาก็ต้องสูญเสียคนที่พวกเขารักจากการไล่ล่า Bearer เหมือนกัน ต้องเห็นเพื่อนถูกจับขังคุกแต่คนผิดจริงกลับลอยนวล ทั้งหมดเป็นฝีมือของหัวหน้าผู้พิพากษา บาดแผลของเราเหมือนกัน ความแค้นเดียวกัน เราจึงเป็นพรรคพวกกัน และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องชำระแค้นกันแล้ว 

 

 

Quinten - เรารู้ว่ามันซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ยามของพวกมันถูกฝึกมาอย่างดีเพียงใด เราไม่รู้เพียงเรื่องเดียวคือ แผนการของเขา จนถึงตอนนี้ และแผนการของเขาคงจะเริ่มนานแล้ว นั่นแปลว่าเวลาเราเหลือน้อยแล้ว พวกมันจะโจมตีเราเมื่อไหร่ก็ได้ เราก็ไม่รู้วันไหน แต่ที่แน่ เราโจมตีมันก่อนได้ 

 

 

Quinten - สหายทุกท่าน เตรียมตัวเข้าสู่สงครามได้ !!!

Clive - เควนติน ...... 

 

 

 

 

                            👹 Hunt Borad Update 👹

 

 

 

Notorious Marks ตัวที่ 9

👹Soul Stingers Rank: C

ตำแหน่ง : The Fields of Corava ใน Dhalmekia

 

 

ตำแหน่ง : วาร์ปมาที่ The Jaw แล้วเข้าแยกขวาในพื้นที่ The Sickle ก็จะไปถึง The Fields of Corava ได้ 

 

 

Notorious Marks ตัวที่ 10 

👹Grimalkin Rank: C

 

 

ตำแหน่ง : วาร์ปมาที่ The Jaw แล้วเข้าแยกขวาในพื้นที่ The Sickle แล้วลงใต้มายังตำแหน่งในแผนที่ 

 

 

Notorious Marks ตัวที่ 11

👹The Nine of Knives Rank: A

 

 

    ตำแหน่ง : วาร์ปมาที่ The Jaw อยู่กลางพื้นที่ 

 

 

 

Notorious Marks ตัวที่ 12

👹The Breaker of Worlds (Atlas) Rank: S

 

 

ตำแหน่ง : วาร์ปมาที่ The Martha's Rest แล้วไปที่หมู่บ้าน Cressida 

 

 

 

Otto - เป็นไงบ้างไคลฟ์ ? Mid หนีข้าม Twin ไปแล้วสินะ? ชั้นรับประกันเลยว่าเด็กคนนี้ยอมทำทุกอย่างเพื่อจะได้ไม่ต้องไปเยี่ยมหลุมศพพ่อของเธอ แก้ตัวไม่ได้เลยสินะว่าโดนหลอกอ่ะ ?

Clive - ก็เธอบอกว่ามี บางสิ่ง ที่จะต้องทำก่อน ผมว่าเธอน่าจะทำเสร็จเร็วๆนี้แหละน่า 

Otto - เธอบอกว่างั้นหรอ? ….ไคลฟ์ นายมันซื้อบื้อ ไม่มีหรอก ไอ้สิ่งที่ต้องทำของนางอ่ะ ตอนนี้นางน่าจะหนีกลับ Kanver ไปแล้ว

Clive - mid … งั้นผมคงต้องรีบตามไป น่าจะทันอยู่นะ 

 

 

Clive - Obolus คุณเห็น Mid บ้างมั๊ย?

Obolus - เห็นสิ นางเอาเรือผมไปนู้นแล้ว 

Clive - บ้าเอ้ย มาช้าไป 

Obolus - ตอนแรกผมก็บอกว่าจะพายไปส่ง เธอก็ไม่ยอม เธอจ่ายค่าเรือให้แล้วพายจ้ำไปอย่างเร็วเลย อย่างกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย ผมกำลังจะไปบอกคุณ คุณก็มาพอดีเลย แล้วก็ มีจดหมายมาถึงคุณด้วย คนของลุงคุณมาส่งให้

Clive - ขอบคุณนะ Obolus …. เกิดอะไรขึ้นอีกนะลุง 

 

 

ถึงหลานรัก 

 

การเดินทางของลุงสู่ Kanver ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเยี่ยม เพื่อนที่ลุงไม่เพียงแต่ตกลงที่จะแบ่งปันความลับในกล่องนิรภัยของเขากับเราเท่านั้น แต่ยังมีความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองที่แสนอิสระของเราอย่างมากด้วย และลุง็ได้รู้เกี่ยวกับความพยายามของเพื่อนตัวน้อยของหลาน แม้ว่าลุงจะเชื่อว่าโปเจค Enterprise ของ คุณหนู Telamon นั้นค่อนข้างกล้าหาญ  แต่ลุงสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ของแคนเวอร์จะใจดีกับเรื่องนี้รึเปล่านี่สิ  การใช้อู่เรือโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ว่าจะร้างแค่ไหนก็ตามไม่น่าทำได้ง่ายๆ และหากข่าวลือไปถึงเพื่อนของลุงแล้ว คงอีกไม่นานนัก กิลด์มาสเตอร์คงจะมาเคาะประตูบ้านเรา 

 ด้วยเหตุนี้ลุงจึงเขียนจดหมายนี้ถึงหลาน เพราะลุงอยากจะยืมเพื่อนของหลานที่ชื่อ Gav ซักวันสองวันเพื่อเขาจะได้เฝ้าดูและเตือนเราถึงการโจมตีที่กำลังจะเกิดขึ้น ลุงเชื่อว่าหลานจะพิจารณาข้อเสนอนี้หน่อยนะ

 

 คุณลุงที่รักของหลาน 

 

 

Clive - เกิดปัญหาที่ Kanver งั้นหรอ ....?   อืมม เราต้องหาใครซักคนไปคอยจับตาดู Mid แล้ว 

 

 

Gav - Mid หลอกให้เราทำงานสกปรกให้นางแล้วก็ล่องเรือหนีไปกับพระอาทิตย์ตกงั้นหรอ ?

Clive - ก็ประมาณนั้น 

Otto - ตอนนี้เราคงทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ แล้วก็จำไว้ว่า คราวหน้าถ้านายจะชวนเธอไปเยี่ยมหลุมศพพ่อ ให้จับเธอมันซะก่อนแล้วค่อยบอกเธอก็แล้วกัน 

Gav -ไม่เอาน่าลุง อย่าไปใจร้ายกับเธอนักเลย ได้ทำงานสกปรกให้เธอก็สนุกดีเหมือนกัน อย่างน้อยๆทุกๆคนก็ได้มีโมเม้นท์แบบมาร่วมมือร่วมแรงกันทำงานด้วยกันอ่ะนะ เหมือนสมัยที่เราสร้างที่นี่กันไง แล้วยังไงต่อเราจะไปที่ hideaway เดิมกัน? ส่วนชั้นก็ไปที่ Kanver สินะ ถึงขนาดลอร์ดลอสฟิลด์แห่ง Seven high house ลงทุนมาขอยืมตัวชั้นด้วยตัวเองเลยขนาดนี้ จะไม่ไปได้ไงว่ามั๊ย?

Clive - ในขณะที่ Gav ไปกับผม รบกวนคุณช่วยดูแลที่นี่แทนหน่อยนะ Otto 

Otto - สบายใจได้ ปล่อยเป็นหน้าที่ชั้นเอง ฝากทักทาย Cid กับคนที่นั่นด้วยก็แล้วกันนะ 

Gav - อ่อ แล้วก็ จิล บอกเธอโอเคแล้ว จะขอไปกับเราด้วยนะ เดี๋ยวเธอทำธุระเสร็จก็น่าจะตามเราไปที่นั่น 

Clive - หวังว่าคราวนี้เธอจะพูดความจริงนะ …

 

 

 

                                 Cid’s Legacy 

 

                                Central Storm

 







Clive - ซิด ... ผมจำสิ่งที่คุณบอกผมได้ดี ถ้าไม่มีใครฟังสิที่เราจะพูด เราก็ไม่จำเป็นต้องพูด ...แต่เรื่องนี้ผมคงต้องพูด ... เงาของ Hugo Kupka จะไม่ทอดมาบดบังเราอีกต่อไปแล้ว 

Gav - น่าเสียดายที่ฟินิกซ์ไม่สามารถอยู่สองแห่งพร้อมกันได้ ถ้าเขาอยู่กับเราตอนนั้น เขาอาจทำบางอย่างกับผู้ที่สูญเสียก็ได้ 

 

 

Clive -ฟินิกซ์ไม่สามารถชุบชีวิตคนจากความตายได้หรอก ชีวิตก็ย่อมตั้งอยู่และจบลงเป็นวัฎจักร เราถึงต้องพยายามมีชีวิตอยู่ในขณะที่ยังมีโอกาสไง แล้วก็ต้องไม่เป็นทาสของคริสตัล แต่ อยู่อย่างเสรีชน 

 



Jill - เราของร่วมด้วยได้มั๊ย? 

Clive - ป้า Charon แปลกใจมากเลยที่คุณมาด้วยน่ะ 

Charon - ชั้นก็แค่จะแวะมาดูว่านายเป็นยังไงบ้าง เดี๋ยวชั้นก็จะไปเติมสเบียงต่อแล้ว 

 






Charon - สมัยนั้น ที่นี่ยังสวยงาม ไม่เหมือนตอนนี้ 

Clive - ผมรู้ ... Blight กลืนกินเข้ามาหมดแล้ว 

 

 

           Clive - และอีกไม่นานเราก็คงไม่มีที่จะให้หนีอีกแล้ว 

 

 

Clive - แต่ภารกิจของเราก็ยังคงเดินหน้าต่อ เราจะไม่หยุดจนกว่าคริสตัลทุกก้อนจะหมดไปพร้อมความโหยหาอีเธอร์ มาเธอร์คริสตัลที่เหลืออีกหนึ่งเดียวใน Storm คือ Drake's Tail ใน Crystalline Dominion 

Jill -  เป้าหมายต่อไปของเราสินะ

Clive -เราจะไปกันที่ Twinside 

Gav - ตอนนี้มันกลายเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิไปแล้ว ไม่อยากคิดเลยว่ามันจะรักษาความปลอดภัยหนาแน่นขนาดไหน แน่นอนว่ามันจะหยุดนายไม่ได้หรอก แต่เราควรสำรวจให้ดีก่อนจะเข้าไปนะ 

Clive - เห็นด้วย 

 

 

Charon - ถ้าพวกนายจะไป Dominion ทำไมไม่พาเจ้ายักษ์ซื้อบื้อนี่ไปด้วยล่ะ ?

Goetz  - ห๊ะ !!! 

Clive - Goetz อ่ะนะ?

 

Charon - โอ้ ประทานโทษนะ ลืมไปแล้วหรอว่านายถูกหมายหัวใน Twin น่ะ? นายคงอยากปลอมตัวเป็นลูกน้องของพ่อค้าที่เดินทางมาขายของมากกว่านะ หรือนายมีแผนที่ดีกว่านี้?  นายเองก็อยากซื้อของด้วยตัวเองอยู่แล้วไม่ใช่หรอ Goetz ? โอกาสของนายมาถึงแล้วล่ะ  

 

 

Goetz - คุณให้ผมไปลุยกับพวกเขาจริงๆหรอ เนี่ยยยย เย้ๆๆๆๆๆ ขอบคุณครับ!

Charon - หยุดได้แล้วเจ้าโง่ ก่อนที่กระดูกชั้นจะหักเสียก่อน 

 

 

Charon - มีกองคาราวานที่จัดโดยสมาคมพ่อค้าเดินทางไปมาระหว่างตลาดใน Dominion กับ Boklad Markets  ถ้าแสดงบัตรเทรดเดอร์การ์ดของ Goetz พวกคุณก็สามารถเข้าร่วมเดินทางได้แบบเนียนๆ อย่างน้อยก็เสี่ยงน้อยกว่าเดินทางผ่าน Crystal Road ตรงๆแน่นอน 

Clive -ขอบคุณครับ Charon แล้วก็ ยินดีที่ได้เดินทางร่วมกับนายนะ Goetz 

Goetz - เย้ๆๆๆ โอเคครับ เดี๋ยวผมขอไปเตรียมตัวก่อนแล้วจะตามไปเจอพวกคุณที่นั่นนะ แล้วเจอกันที่ Boklad Markets  นะคร๊าบบบ !!

 

 

Clive - จิล เธอไปกับชั้น 

Jill - ได้เลย 

Clive - ส่วน Gav  …

Gav - เออๆ ชั้นรู้อยู่แล้วน่ากัปตัน 

Clive - ระวังตัวด้วยล่ะ 

 



Charon - นายเห็นมั๊ยซิด ? ลูกบุญธรรมของนายกำลังทำเรื่องผิดกฎหมายเล็กๆน้อยๆในแบบของตัวเองได้แล้ว 

 

 

ตอนนี้มีเพียง มาเธอร์คริสตัล เหลือเพียงหนึ่งใน Storm นั่นคือ Drake's Tail แห่งอณาจักร Crystalline ที่ตั้งอยู่ที่ใจกลางของ Valisthea ไคลฟ์และ จิลจึงมุ่งหน้าประชิดชายแดนของอณาจักรโดยหวังจะแทรกซึมเข้าทางเมืองหลวง Twinside ที่ขณะนี้ถูกปิดล้อมโดยกองทัพ จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ Sanbreque

 

 

🔶 Onward 🔶

 

Laetny’s Cleft Eastrern Dhalmekia

 



Clive - ตอนนี้เธอรู้สึกยังไงบ้าง ? Jill - ก็ รู้สึกดีนะ ต้องขอบคุณ Tarja ที่ช่วยดูแลรักษาให้ Clive - ดีใจที่ได้ยินงั้นนะ Jill - และ Totgal ก็มีส่วนช่วยด้วย จริงมั๊ยเจ้าหนู ? Totgal - โฮ่ง ! Objective > มุ่งหน้าสู่ย่านการค้า Bokled 

 

 

Clive - เส้นทางนี้เคยเป็นเส้นทางการค้าของพวกพ่อค้าที่ใช้เดินทางข้าม Scar จนสาธารณะรัฐได้สร้างถนนใหม่ขึ้นมา ซึ่งกว้างและสะดวกสบายสำหรับการเดินทางกว่าเดิม กองคาราวานเกวียนของพ่อค้าจากทุกทิศจึงมุ่งหน้าไปที่นั่นแทน 

Jill - เส้นนี้เลยถูกทิ้งร้างและเป็นที่อยู่ของพวกนอกกฎหมายสินะ 

Clive - ใช่เลย และชั้นมั่นใจว่าวันนี้คงเป็น พวกนอกกฎหมาย กลุ่มเดียวที่ผ่านทางนี้ 

 

 

📗 SideQuest : Get Cart 

 

 

Cvetko - นายคิดว่าไง? Jonasz - รอดมาได้ก็บุญแล้วอ่ะนะ Cvetko - จริงดิ มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ? Jonasz - ก็เออดิ ข้างหน้ากำลังมีปัญหาและมันก็เกินกำลังเราที่จะจัดการด้วย Clive - ผมกำลังจะผ่านทางนี้พอดี ข้างหน้ามีอันตรายงั้นหรอครับ? Cvetko - โอ้ แล้วถ้าเจ้าหนุ่มหน้าเหี้ยมคนนี้ล่ะ นายว่าจะเหมาะกับงานนี้ป่ะ? Jonasz - โคตรได้อ่ะ ถ้าเขายอมรับฟังเราอ่ะนะ .....เอ่อ นี่เพื่อน พอดีชั้นกับพี่ได้รับมอบหมายงานให้มาหาเกวียนสินค้าที่หายไป พวกนายเห็นกันบ้างป่ะ? Clive - ทำไมพ่อค้าถึงทิ้งเกวียนสินค้าของตัวเองล่ะ? Jonasz - ก็พ่อค้าโง่ไง แค่ได้ยินเสียงก็อบลินคำรามก็ทิ้งอาชีพของตัวเองวิ่งหนีไปน่ะสิ Cvetko - พอพวกเราออกมาตามหาเกวียนสินค้า ก็ดูเหมือนมันจะหายไปแล้ว ไม่ต้องสืบเลยก็รู้ว่า พวกโจรมันขโมยไป และถ้าให้เดาชั้นว่าตอนนี้มันก็คงซุ่มรอเหยื่อรายต่อไปบนถนนข้างหน้าแน่นอน แต่พวกเรา เอ่อ ไม่มีทักษะในการต่อสู้อะไร ก็เลย ... Jonasz - นายน่ะ ดูท่าทางนายก็มีฝีมือไม่เบาเหมือนกันนะ ยังไงพอจะช่วยพวกเราจัดการโจรพวกนั้นหน่อยได้ป่ะ? ยังไงถ้านายเดินทางไปทางนั้นก็ต้องเจอพวกมันอยู่ดี ถ้านายช่วยเรา เราก็จะให้รางวัลด้วย Clive - ก็นะ ยังไงชั้นก็ต้องเจอพวกมันอยู่ดี Cvetko - อืมม นายนี่ก็ฉลาดไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย พวกเราโชคดีจริงๆเลยที่เจอนายผ่านมา Clive - ก็ได้ ถ้าเจอพวกมันชั้นจัดการให้ แต่ชั้นคงไม่มีเวลาเอาเกวียนสินค้ามาส่งให้หรอกนะ Cvetko - ไม่เป็นไรๆเรื่องเกวียนสินค้าปล่อยเป็นหน้าที่พวกเราเอง นายจัดการพวกโจรก็พอ ที่เหลือเราจัดการเอง Objective > เดินเข้าไปตามทางข้างหน้าจนพบกลุ่มโจรอยู่ กำจัดพวกมันให้หมด 

 

 

                     Mini Boss - Desert Djinn

 

 

Clive - ถ้าจะขนของทั้งหมดในเกวียนนี่ออกไปน่าจะฝันร้ายแน่ๆ Cvetko - ดูเหมือนเราจะเจอคนที่เหมาะกับงานนี้เข้าแล้วว่ามั๊ย? Jonasz - เจอทั้งเกวียนสินค้าที่ถูกขโมยแล้วยังฆ่าพวกโจรตายหมดให้อีก แบบนี้พ่อค้าที่จ้างเรามาน่าจะปลื้นนะ Clive - เพื่อนนายคิดดีแล้วนะที่จะขนมันทั้งหมดออกไปจากที่นี่น่ะ Cvetko - เรื่องนั้นปล่อยให้หน้าที่ของพวกเราเถอะ จะปล่อยให้นักรบอย่างนายมาขนกระหล่ำปลีก็จะกระไรอยู่อ่ะนะ Jonasz - งานของนายจบแล้วน่าเพื่อน ไม่ต้องมากังวลอะไรแทนพวกเราหรอก เอานี่ ..รางวัลของนาย รับแล้วก็ไสหัวไปซะ Cvetko - ไม่เห็นจะต้องหยาบคายเลยนี่เพื่อน เพื่อโอกาสหน้าอาจได้ใช้บริการเขาอีกก็ได้ Objective > มุ่งหน้าสู่ย่านการค้า Bokled  

 

 

 

Clive - อย่างน้อยซากโบราณสถานที่ตกจากฟากฟ้าพวกนี้ก็ยังอยู่ ถ้าจำไม่ผิด ข้ามเส้นทางนี้ไปอีกหน่อยก็น่าจะถึงแล้ว The Final Sin The Dhalmekian Republic

 

 



Clive - นี่คือ Dzemekys สินะ Jill - ดินแดนแห่งทวยเทพ ช่างน่าประทับใจยิ่งนัก จำได้ว่าชั้นหลงใหลเรื่องราวของมันมาตั้งแต่เด็ก

 

 

Clive - นานมาแล้ว มนุษย์ถูกครอบงำด้วยความโลภและท้าทายเทพเจ้าเพื่อหวังแยงชิงอำนาจของพวกเขา การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นที่นี่ จนมันกลายเป็นน้ำตกหลงเหลือเป็นตำนานสืบสานต่อไป .... หากใครสามารถดำดิ่งลงไปได้ บางทีเราอาจจะได้รู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ก็ได้ Jill - ทวยเทพที่ได้รับชัยชนะได้ลงโทษพวกมนุษย์ที่กล้าขัดขืน ด้วยคำสาป 2 ประการ Clive - Dominants และ Bearers …พูดตามตรง ชั้นแปลกใจมาตลอดเลยที่พวกเขามอง Dominants และ Eikons ว่าเป็นคำสาป ทั้งที่ Dominants ที่เป็นเสมือนเป็นผู้ได้สืบทอดบัลลังย์ควรได้รับการยกย่อง เมื่อไหร่ที่ชั้นอ่านมาถึงส่วนนั้นของเรื่อง ชั้นมันคิดเสมอเลยว่าน่าจะต้องมีอะไรที่เข้าใจผิดแน่ๆ

 

 

Jill - นายมีหนังสือเก็บไว้เพียบเลยสินะ ? ในห้องของนาย ...ชั้นหมายถึงสมัยเด็กๆน่ะ Clive - พวกตำนานโบราณเป็นอะไรที่ชั้นชอบมากอยู่แล้ว การต่อสู้ระหว่างเทพกับมนุษย์ พ่อชั้นสนับสนุนให้ชั้นอ่านหนังสือให้มากที่สุด ท่านบอกว่ามันดีต่อการศึกษาของชั้น Jill - ก็นายเป็นเด็กผู้ชายธรรมดาๆเหมือนกับคนอื่นนี่นา ว่ามั๊ย?

 

 

Clive - หึหึ ... แค่ได้มองสถานที่เห็นนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เชื่อว่าตำนานพวกนั้นเป็นความจริง Jill - ชั้นรู้ Clive - เราอยู่ไม่ไกลจากย่านการค้า Bokled เท่าไหร่แล้ว ถนนข้างหน้าคนก็จะพลุกพล่านมากกว่านี้ Jill - งั้นเราก็ต้องระวังตัวให้มากขึ้น …ไปต่อกันเถอะ

 

 

Jill - มีอะไรงั้นหรอ ไคลฟ์ ? Clive - เปล่า ...ไม่มีอะไร ในขณะเดียวกัน .......

 

 

 

ท้องพระโรงหน้าของพระที่นั่งจักรพรรดิ /พระราชวังหลวงแห่งจักรพรรดิซานเบรอค 

 

 

 

Dion - กระหม่อมเห็นประกาศที่ส่งมาแล้ว เสด็จพ่อ ท่านทรงสละราชสมบัติให้ Olivier จริงๆหรอครับ? จักรพรรดิ Sylvestre - จริงๆ ชั้นลงบัลลังย์ให้เขาเอง จักรพรรดิ โอลิเวียร์จะสร้างจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ซานเบรอคขึ้นใหม่ 

 

 

Dion - จะให้เขาปกครองอณาจักรได้ยังไง? ก็เขายังเด็กอยู่เลย ! จักรพรรดิ Sylvestre - ชั้นจะคอยแนะนำเขาจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ Dion - แต่ว่า ท่านพ่อ ได้โปรด ... จักรพรรดิ Sylvestre - หรือว่า นานเท่าที่ชั้นจะทำได้ 

 

 

จักรพรรดิ Sylvestre - อณาจักรที่เราพยายามสร้างขึ้นก็เพื่อให้คนรุ่นใหม่ปกครองมัน และชั้นไม่คิดว่าจะมีใครเหมาะเท่านี้อีกแล้ว อ่อ แล้วก็อีกเรื่อง ข่าวใหม่สดๆร้อนๆเลย Hugo Kupka มันตายแล้ว Drake’s Fang ก็ถูกทำลาย เสาหลักของอณาจักรมันล่มสลายไปแล้ว

 

 

จักรพรรดิ Sylvestre - อีกไม่นาน ธงของจักรวรรดิของเราจะโบกสะบัดไปทั่วทุกหัวเมืองใน Storm จากนั้น Valisthea ก็จะหันมากราบไหว้จักรพรรดิของเรา 

 

 

                    Dion - สเด็จพ่อ นี่มันคำพูดของทรราชย์ชัดๆ !!

 

 

จักรพรรดิ Sylvestre - คำพูดของพระเจ้าต่างหาก จักรพรรดิที่ชั้นยินดีรับใช้ เกรเกอร์ผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้สร้างเลือดเนื้อเชื่อไขขึ้นมา 

 

 

จักรพรรดิ Sylvestre - กลับไปที่แค้มป์ของเจ้าแล้วเตรียมกองทัพให้พร้อมเอาไว้ Dion อีกไม่นานเราจะแสดงให้ทั้งโลกให้เห็นถึงพลังที่แท้จริงของ จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ซานเบรอค 

 

 

Dion - ท่านพ่อ ... ข้าว่า ท่านเปลี่ยนไปมาก นี่เป็นทางที่ท่านต้องการมันจริงๆงั้นหรอครับ ... หรือมันเป็นความทะเยอทะยานของผู้อื่น ... ของ Ultima ใช่มั๊ย?

 

 

จักรพรรดิ Sylvestre - นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!? ชั้นก็พูดออกมาจากใจของชั้นสิ จากใจของชั้นเท่านั้น !! แม้ว่าจะต้องขอบคุณ Anabella ของชั้นที่คอยเตือนความจำบางอย่างให้ชั้นด้วย เกี่ยวกับธรรมชาติของประเทศชาติ ...ผู้ปกครองมัน และ ประสงค์ของพระเจ้า

 

 

Dion - ท่านพ่อไปเชื่อคำพูดของนางคนทรยศนี่ได้ยังไง? นางทรยศประเทศของตัวเอง และ ฆ่าสามีของตัวเองด้วย  

 

 

Anabella - คุณเคยเป็นผู้รับใช้ที่ล้ำค่าของซานเบรอคมาตลอดนะ เจ้าชาย Dion และชั้นก็เชื่อว่าคุณจะรับใช้จักรพรรดิองค์ใหม่ของคุณยามสงครามมาถึง

 

 

Dion - ไอ้เด็กบ้านั่นอ่ะนะ !! จักรพรรดิ Sylvestre - หุบปากเดี๋ยวนี้ ไอ้คนอวดดี !

 

 

จักรพรรดิ Sylvestre - แกจะต้องสวามิภักดิ์เท่านั้น !! จะเป็นอื่นไปไม่ได้!! Dion - คะ ครับ ... ท่านพ่อ จักรพรรดิ Sylvestre - การสนทนาครั้งนี้จบลงแล้ว !!

 

 

จักรพรรดิ Sylvestre - มาเถอะฝ่าบาท สมาคมโรวีน่ากำลังรอท่านอยู่นะ Olivier - โห ต้องไปเจอพวกตาแก่โง่ๆพวกนั้นอีกแล้วหรอ น่าเบื่อจะตาย ผมหิวแล้วนะท่านพ่อ เราไปกินอาหารกลางวันแทนไม่ได้หรอ 

 

 

Anabella - เจ็บปวดมากงั้นหรอที่ไม่ได้สืบทอดบัลลังย์ของพ่อน่ะ? Dion - มันก็ไม่ได้ทำให้ชั้นแย่ลงหรอก! Anabella - มองในแง่ดีหน่อยสิ Dion การที่บาฮามุธเลือกเด็กที่มีชาติกำเนิดต่ำๆนั่นก็เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มากแล้วนะ นายสูงส่งขึ้นได้ก็เพราะปีกของเขา แต่มันจะไม่สูงไปกว่านี้อีกแล้วล่ะ กลัวว่าสายเลือดชั่วๆของนายจะแปดเปื้อนบัลลังย์เปล่าๆอ่ะนะ 

 

 

                    Dion - แกรู้อะไรเรื่องสายเลือดของชั้นงั้นเรอะ !??

 

 

 

ขณะเดียวกัน ทางด้านของ Clive …..

 

 

 


Objective > มุ่งหน้าสู่ย่านการค้า Bokled 

 

 

 

 

                          The Boklad Markets 

 

                    The Dhalmekian Republic

 

 

 

Jill - นี่คือที่ที่เรานัดกับ Goetz ไว้ใช่มั๊ย?

Clive - ใช่ เขาบอกว่าจะรอเราอยู่ที่นี่หลังเติมเสบียงเสร็จแล้วอ่ะนะ 

 



ทหารสาธารณรัฐ - สิ่งที่ผิดกฎหมายของจักรวรรดิและการประกอบอาชีพที่ผิดกฎของ The Crystalline Dominion นั้นยังมีผลอยู่ เฉพาะผู้ที่ทำธุรกิจใน Twinside ที่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากสาธารณรัฐเท่านั้นถึงจะผ่านเข้าไปได้ ผู้ที่มีความประสงค์จะข้ามพรมแดนเข้ามาในเมืองทุกคนต้องต่อแถวและเตรียมเอกสารให้ตรวจสอบก่อน 

 

 

Jill - ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่พวกเราเท่านั้นที่อยากออกไปจากที่นี่อ่ะนะ

Clive - และพวกมันก็เช็คอย่างละเอียดทีละคนด้วย ดูท่าว่ายังไงเราก็คงผ่านไปไม่ได้ถ้าไม่มีบัตรผ่าน งั้นเรารีบไปหา Goetz กันดีกว่า เขาคงอยู่ที่ไหนซักแห่งแถวๆนี้แหละ 

 

 

Clive - อ่า Goetz อยู่นี่เอง 

Goetz - เอ่อ ไคลฟ์ ผม ผม เสียใจ อย่าบอก Nan นะ 

Clive -ใจเย็นก่อน Goetz แล้วบอกมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น?

Goetz - บัตรผ่านทางสำหรับพ่อค้าของผมมันหายน่ะสิ! ถ้าไม่มีมันเราก็คงร่วมกองคาราวานเพื่อผ่านด่านไม่ได้แน่ๆ 

Jill - แล้วนายจำได้มั๊ยว่าเห็นมันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?

Goetz - ในกระเป๋าของผมเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แล้วจากนั้นก็มีเด็กคนนึงมาเดินชนผม แล้วผมก็จำไม่ได้แล้ว คุณคงไม่คิดว่าเด็กนั่นจะขโมยมันไปใช่ป่ะ?

Clive - ชั้นคงไม่แปลกใจหรอกที่ตลาดที่มีคนผลุกผล่านแบบนี้จะมีพวกล้วงกระเป๋าน่ะ 

Jill - เพื่อให้ได้บัตรผ่านกลับคืนมาเราก็คงต้องหาเด็กคนนี้ให้ได้ แล้วเราจะเริ่มจากที่ไหนดี?

Goetz - ผมรู้ว่าเราจะเริ่มจากที่ไหน ใน Boklad ผมมีเพื่อนอยู่คนนึงที่น่าจะช่วยพวกเราได้ ไม่มีใครจะรู้จักที่นี่แบบทุกซอกทุกมุมได้เท่าเธอหรอก เธอเป็นเจ้าของกองคาราวานสีแดงหรือ Crimson Caravan ที่อยู่ทางนั้น สังเกตุง่ายๆหน้าบ้านจะมีป้ายโจโคโบะสีแดงอยู่ พวกคุณสองคนล่วงหน้าไปก่อนเลย ผมจะลองเช็คของอีกรอบว่ามีอะไรหายไปอีกรึเปล่า

Clive - โอเค แล้วไปเจอกันที่นั่นก็แล้วกันนะ 

 

 

Eloise - กำลังมองหารถม้าให้เช่างั้นหรอ? คิด 10 ล้านสำหรับสองคนที่จะเดินทางไปที่ Crystalline Dominion ถ้าไม่มีก็ไปซะ 

 

 

Clive - เราไม่ได้มาเช่ารถม้าหรอกครับ 

Eloise - งั้นก็ บาย ไปไหนก็ไปซะ 

Goetz - ดะ เดี๋ยวๆ El อย่าเพิ่งไป นี่เพื่อนผมเอง 

Eloise - ให้ตายสิ Goetz นายกลับมาที่ Boklad อีกทำไมเนี่ย? เฮ้อ ...ป้า Charon ส่งนายมาสินะ 

 

 

Eloise - แล้วสรุป คราวนี้มีปัญหาอะไรอีกล่ะ?

Goetz - เอ่อ ...บัตรผ่านทางสำหรับพ่อค้าของผมมันหายน่ะสิ! โดนเด็กขโมยไปน่ะครับ 

Eloise - นายนี่มันโตแต่ตัวจริงๆเล๊ย

Jill - Goetz บอกเราว่าคุณรู้ทุกเรื่องในตลาดนี้ บางทีคุณอาจจะรู้ว่าทำไมพวกเด็กนั่นถึงทำแบบนี้ 

Clive - เราไม่ต้องการจะลงโทษอะไรเขาหรอกครับ แค่อยากได้บัตรผ่านคืนเท่านั้นเอง จากนั้นเราก็จะไปตามทางของเรา 

Eloise - เข้าใจแล้ว ...คุณสองคนก็ไม่มีบัตรผ่านสินะ หึหึ ไม่ใช่ว่าใครก็จะพาคุณไปในฐานะพ่อค้าได้หมดหรอกนะ เพราะงั้นคุณถึงมาหาชั้นใช่มั๊ยล่ะ?  เอาล่ะ ชั้นคงบอกไม่ได้หรอกนะว่าใครเป็นคนขโมยบัตรผ่านของคุณไป แต่ที่รู้แน่ๆคือ ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนั้น ...ชั้นอธิบายให้ฟังก็แล้วกัน .....

 

 

Eloise - ตั้งแต่ทัพของ Hugo เดินทัพไปยัง Dominion ทางสาธาณะรัฐก็เริ่มปราบปรามการค้าใดก็ตามที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับพวกจักวรรดิ์ นั่นหมายความว่า บัตรผ่านทางของพ่อค้าได้ถูกเปลี่ยนจากวิธีนึงของการผ่อนปรนทางการค้าให้กลายเป็น บัตรสำหรับข้ามพรมแดนไปเลย และเมื่ออุปสงค์มากกว่าอุปทาน บัตรผ่านจึงกลายเป็นสินค้าล้ำค่า ทำให้คนพยายามหาทางให้ได้มันมาด้วยวิธีที่มากกว่าที่กฎหมายกำหนด  

Jill - งั้นพวกเด็กๆก็ขโมยมันไปขายในตลาดมืดสินะ?

Eloise - ก็ ทั้งใช่และไม่ใช่ บัตรผ่านทุกใบนั้นระบุชื่อของเจ้าของเอาไว้ แต่กลับไม่มีผู้เสียหายรายใดไปร้องเรียนที่ด่านข้ามแดนเลย 

 

 

Clive - หมายความว่าไงครับ?

Eloise - ก็คงมีใครคนนึงเป็นผู้ดูแลบัตรที่ถูกขโมย ซึ่งก็เป็นพวกเดียวกับที่บังคับเด็กให้ไปขโมยมันมานั่นแหละ และก็คงเป็นคนดียวกันกับที่เอาบัตรของ Goetz แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าพวกมันเป็นใครก็ตาม พวกมันกำลังทำลายวิถีชีวิตของพ่อค้าที่ค้าขายอย่างสื่อสัตย์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงยืนหยัดสู้เพื่อพวกเขา ...พวกคุณจะยืนหยัดเคียงข้างพวกเรามั๊ยล่ะ? และคุณก็จะได้บัตรผ่านคืนด้วย แต่เราต้องแน่ใจว่า การขโมยอะไรแบบนี้จะไม่มีอีกต่อไป จัดการพวกที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดได้ด้วย ยิงนกสองตัวด้วยกระสุนนัดเดียว 

Clive - แล้วมันมีทางอื่นที่จะสามารถผ่านเข้าไปที่ Crystalline Dominion โดยไม่ต้องใช้บัตรผ่านอีกมั๊ย Goetz?

Goetz - ถ้าเราไม่พาคุณซ่อนตัวไปกับคาราวานพ่อค้า ก็คง เอ่อ ไม่รู้สิ ว่ายน้ำข้ามช่องแคบไปล่ะมั้ง ....แต่ถ้าทำแบบนั้นก็ต้องถูกพวกทหารจับได้อยู่ดีเพราะพวกมันคอยจับตาทางน้ำอยู่ตลอด 

Jill - นั่นแปลว่า ถ้าเราหาตัวคนที่ขโมยบัตรไม่เจอ เราก็ไม่มีทางผ่านไปยัง Crystalline Dominion ได้แน่นอน 

Clive - โอเค งั้นเราเอาด้วย 

Eloise - ขอบใจมากนะ เอ่อ ชั้นยังไม่รู้ชื่อพวกคุณเลย ชั้น Eloise ยินดีให้บริการ  

Clive - ผม ไคลฟ์ และนี่เพื่อนผม จิล 

Eloise - ยินดีที่ได้ร่วมงานด้วยนะไคลฟ์ 

 

 

 

Eloise -...เอ้านี่ Crimson Collar เจ้าของร้านทำเฟอร์นิเจอร์จะเป็นคนให้ข้อมูลในการค้นหา ใส่นี่แล้วเขาจะรู้ว่าคุณเป็นพวกเรา ชั้นแนะนำให้คุณลองไปคุยกับเขาดูก่อนก็แล้วกันนะ 

Clive - เจ้าของร้านทำเฟอร์นิเจอร์ โอเค เข้าใจแล้วครับ 

 

 

 

                        📒  Quest: To Catch a Thief 

 

 

 

Clive - เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ใช่มั๊ยครับ?

เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ - คุณกำลังหาสินค้าอะไรอยู่หรอครับ? โอ้ คุณใส่ Crimson Collar ของ Eloise ด้วยหรอ? งั้นผมว่าคุณน่าจะอยากรู้อะไรมากกว่าปกติแน่นอน 

Clive - Eloise เธอบอกว่าคุณช่วยเราตามหาพวกเด็กล้วงกระเป๋าได้ คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างครับ? 

 เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ - ที่รู้แน่ๆคือพวกมันจะจ้องแต่เหยื่อที่เป็นพ่อค้าที่ขนสมภาระมาจำนวนมาก ซึ่งมันจะทำให้เป้าหมายมองดูข้างหลังได้ยาก มีโอกาสน้อยมากที่พวกเขาจะรู้ตัว และถึงแม้จะจับพวกมันได้ พวก Imp ที่รู้ทุกตารางนิ้วของพื้นที่นี้ก็จะมีหนุนหลัง 

Jill - พวกมันคงตาเป็นประกายเมื่อเห็น Goetz แน่ๆ 

เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ - คนขายปลาแถวๆประตูก็พยายามตามหาตัวพวกเด็กๆอยู่เหมือนกัน คุณลองไปถามเธอดูก็ได้

 

 

แม่ค้าขายปลา - ปลาจ้าปลา มีทั้งสดและรมควัน คุณสนใจมั๊ยคะ .... อ่าใส่ Collar ของ Eloise ด้วย พวกคุณมีอะไรให้ช่วยหรอ?

Clive - เธอขอให้ผมตามจับพวกเด็กล้วงกระเป๋าก็เลยมาหาข้อมูลเพิ่มกับคุณน่ะครับ 

แม่ค้าขายปลา - งั้นหรอ? ชั้นจะบอกเท่าที่ชั้นรู้ก็แล้วกันนะ อย่างแรกนี่ไม่ใช่การทำกันแบบครอบครัว พ่อค้าที่ถูกขโมยบัตรบอกว่าพวกเด็กๆ แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่สกปรกเหมือนผ้าขี้ริ้ว ดูน่าจะเป็นเด็กจรสจัดมากกว่า ซึ่งที่นี่ก็มีอยู่ไม่น้อยเลย

Jill - พวกเด็กกำพร้าจากสงครามงั้นหรอคะ?

แม่ค้าขายปลา - ก็ส่วนนึง แล้วคุณเห็นพวกผู้ลี้ภัยตรงหน้าทางเข้ามั๊ยล่ะ? พวกเขากำลังมองหาการเริ่มต้นใหม่ที่ Crystalline Dominion ซึ่งบางคนก็ถือโอกาสกำจัดสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ออกไป 

Clive - แย่มาก ...

Jill - ใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ต้องรู้จักตัวตนของเด็กพวกนี้ดี ไม่ก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อนแน่นอน 

แม่ค้าขายปลา - คนควรจะลองถามพวกเด็กแถวๆนี้ดูก่อน ถ้าพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็อาจเคยได้ยินอะไรมาบ้างก็ได้นะ 

Jill - โอเค๊ ตั้งคำถามกับพวกเด็กๆ มันจะยากอะไรว่ามั๊ย?

 

 

Clive - มีเวลาซักเดี๋ยวมั๊ยหนู?

เด็กผู้ชาย - ต้องการอะไร?

Clive - ชั้นอยากรู้ว่าใครเป็นคนบังคับเด็กอย่างพวกเธอให้มาล้วงกระเป๋า?

เด็กผู้ชาย - ผมไม่รู้ ไม่เห็นมีใครบังคับอะไรนี่ อะไรใครล้วงกระเป๋า พี่จะจ่ายค่าข้อมูลป่ะล่ะ?

Clive - ไม่ ไม่จ่าย แต่จะทำให้นายมีปัญหาแทน ถ้าพวกมันติดต่อมาก็รู้นะว่าจะบอกพวกมันว่าอะไร

 

 

Clive - เอ่อ โทษนะ

เด็กผู้หญิง - พี่ต้องการอะไรคะ ? หนูไม่มีเงินหรอกนะ 

Jill - ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว เราไม่ได้มาทำร้ายเธอหรอกนะ แค่จะถามอะไรนิดหน่อย 

เด็กผู้หญิง - ถามเรื่อง?  

Jill - เราได้ยินมาว่ามีคนกลุ่มนึงบังคับให้เด็กอย่างพวกเธอมาล้วงกระเป๋าพวกพ่อค้านักเดินทาง เราอยากจะรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เราอยากจะหยุดพวกมันน่ะ 

เด็กผู้หญิง - หนูก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมาก แต่เพื่อนหนูที่ชื่อ Honza เขา เอ่อ …เขาบอกว่าเขาได้งานทำ แต่เป็นงานที่อันตราย

Clive - งั้นเราคงต้องตามหาเขาเพื่อลองถามดู 

Jill - แล้วเราจะหาตัว Honza เพื่อนเธอได้แถวไหนหรอ?

เด็กผู้หญิง - ปกติเขาอาศัยอยู่ที่เต้นท์นอกเมืองน่ะ

Clive - ขอบใจนะ ช่วยได้มากเลยล่ะ 

 

 

Honza - นี่รู้ป่ะ ไอ้อ้วนนั่นโคตรจิ๊กง่ายเลย มันแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำตอนที่ชั้นขโมยรองเท้าของมันมา 

เด็กผู้ชาย - ใช่ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้บัตรผ่านมาด้วยซะอีก แต่ ชั้นก็ไม่อยากเอาให้พวกนั้นเลย เราจะได้ออกไปจากกองขยะนี่ซะที 

Honza - รอโอกาสเหมาะๆก่อนแล้วกัน ถ้าพวกมันรู้มันเล่นเราตายแน่ 

 

 

 

Clive - พวกมันน่ะพวกไหนหรอ? แนะนำให้เรารู้จักหน่อยสิ 

เด็กผู้ชาย - บ้าเอ้ยย เรามีปัญหาแล้ววว เราจะทำไงกันดี !!!!

Honza - นายสองคนจะยอมให้ถูกจับก็เชิญ แต่ชั้นไม่อยู่ให้โง่หรอก!!

เด็กผู้ชาย - เดี๋ยวก่อน Honza นั่นนายจะไปไหน??

 

Clive - เด็กคนนั้นไง Honza จิลเธอดูเด็กสองคนนี้ไว้เดี๋ยวชั้นตามไปจับเขาเอง 

Jill- ได้เลย 

 

 

Clive - โทษทีครับ เมื่อกี้ คุณเห็นเด็กวิ่งผ่านไปมั๊ย เขาขโมยของบางอย่างไปจากเพื่อนผมน่ะ 

คนงานเลี้ยงโจโคโบะ - ผมเห็นเจ้าเด็กนั่นวิ่งเข้าไปในคอกโจโคโบะ แต่ ....

Clive - ขอบคุณครับ 

 

 

Honza - บ้าเอ้ย ชั้นจนมุมจนได้สิ!

Clive - ไม่ต้องกลัวนะ Honza ชั้นไม่ทำร้ายเธอหรอก แค่อยากจะถามอะไรหน่อยเท่านั้นเอง 

Honza - เฮ้ออ ก็ได้ๆ ดูเหมือนผมจะไม่มีทางเลือกเท่าไหร่อ่ะนะ 

 

 

Clive - ชั้นกำลังตามหาพวกที่บังคับให้เธอขโมยของไปให้พวกมันอยู่ พวกมันเป็นใคร? 

Honza - พวกมันเรียกตัวเองว่า Cast Stone ครับ พวกมันบอกว่าจะให้เงินกับผมถ้าผมทำตามที่พวกมันสั่ง ผมรู้ว่าพวกมันเป็นคนไม่ดี แต่ขนมปังก็ไม่ได้เป็นของฟรีเช่นกัน ไม่นานผมก็เริ่มรู้ว่าไม่เข้าท่าแล้ว โดนหลอกแน่นอน แต่ถ้าผมไม่ทำมันก็จะไปหาเด็กคนอื่นๆอีก เด็กที่พวกมันสามารถควบคุมได้ง่ายกว่า

 

 

Clive -  Honza ….

Jill - เจอตัวเขาแล้วหรอ?

Clive - อ้าว จิล แล้วใครดูเด็กสองคนนั่นล่ะ?

Jill - Eloise มารับตัวไปแล้ว แล้วเธอก็ส่งให้ Goetz กับชั้นตามมาหานาย

Goetz - อ่า นี่แหละเจ้าเด็กคนนี้แหละ 

Honza - ถ้าคุณต้องการบัตรผ่านคืน มันไม่ได้อยู่กับผมแล้ว ผมให้พวก Cast Stone ไปแล้วอ่ะครับ ไม่ว่าคุณจะทำผมอะไรผมยังไง ผมก็เอาคืนมาให้ไม่ได้แล้วล่ะ ไม่ใช่จะชอบพวกมันหรอกนะ แต่ถ้าไม่ได้เงินของพวกมันผมกับเพื่อนก็คงอดตายแน่นอน 

 

 

 

Torgal - แฮ่ ...!!!

ทหารรับจ้าง - ไอ้พวกขี้ขลาดเอ้ย เลิกบังคับพวกเด็กๆให้ทำตามคำสั่งของพวกแกได้แล้ว!!

 

 

Clive - ดะ เดี๋ยวก่อนๆ 

ทหารรับจ้าง - อ๊ากกกกก !!!!

Jill - อย่าทำร้ายเขานะไคลฟ์

 

 

Clive - นายกำลังเข้าใจผิด เราอยู่ข้างเดียวกันนะ 

ทหารรับจ้าง - ข้างเดียวกันกับผีอะไรวะ!!

 

 

             ทหารรับจ้าง - เดี๋ยวนะ เข็มกลัดนั่น แกไปเอามาจากไหน?

 

 

Goetz - ห๊ะ? นายท่าน Theo นี่?

Theodore - Goetz หรอ? นายมาทำอะไรกับพวกนี้เนี่ย!? นายคงเป็นคนที่น้องสาวชั้นพูดถึงสินะ 

Jill - น้องสาวงั้นหรอ?

 

 

Jill - Eloise ไม่ได้บอกเลยว่าเธอมีพี่ชาย

Theodore - เธอจะบอกทำไม ชั้นก็แค่นักดาบที่คอยหนุนหลังก็แค่นั้นเอง ผมชื่อ Theodore แล้วก็ขอโทษเรื่องก่อนหน้านี้ด้วยก็แล้วกัน 

Clive - แล้วนายรู้เรื่องพวก Cast Stone มั๊ย Theodore?

Theodore - พวกแร้งที่ทำให้ Boklad เป็นพื้นที่สำหรับล่า พวกมันแสวงหาประโยชน์จากคนมีเงินแล้วหลอกลวงพวกคนจนให้เข้าร่วมเพื่อทำงานให้มัน 

 

 

Theodore - ชั้นก็เฝ้ามองพวกมันมาตลอดและพยายามช่วยพวกผู้ลี้ภัยที่กำลังยากลำบากให้มากที่สุด แต่ดูเหมือนพวกมันจะเล่นต่ำๆกว่าที่ชั้นคิดไว้เสียอีก Honza เขาเป็นเด็กดี อย่าไปว่าเขาที่ต้องทำในสิ่งที่โดนบังคับให้ทำเลย ถ้าเขากับพวกไม่ยอมทำ พวกมันก็จะไปบังคับเด็กคนอื่นอีก ...นายชื่อ ไคลฟ์ สินะ ดูเหมือนน้องสาวชั้นจะขอร้องให้นายช่วยทำลายเครือข่ายเด็กล้วงกระเป๋าใช่มั๊ย? …   งั้นเราก็มีเป้าหมายเดียวกัน 

 

                        📒  Quest: Blood from the Stones

 

 

 

Clive - ได้สิ ตกลงแผนว่าไง?

Theodore - ก็จะอะไรซะอีกล่ะ ก็ตามหาพวก Cast Stones แล้วก็ฆ่ามันให้หมดไง นายได้บัตรผ่านคืน และชั้นก็ช่วยทำให้ Boklad เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยอีกครั้ง

Clive - งั้นก็ตกลงตามนั้น 

 

 

Theodore - Honza บอกมาว่าแค้มป์ของพวกมันอยู่ที่ไหน ไม่ต้องห่วงพวกมันจะไม่มีวันรู้หรอกว่าหนูบอกพวกเราน่ะ 

Honza - ผมไม่รู้หรอกครับว่าพวกมันอยู่ไหน ตอนที่พวกมันมารับของก็นัดเจอกันนอกเมือง ผมพยายามแอบตามพวกมันไปหลายครั้งนะแต่มันก็รู้ตัวตลอดเลย 

Clive - เอาเป็นว่า มันไปทางไหนก็พอ 

Honza - พวกมันไปตามถนนที่มุ่งหน้าไปทาง Laetny’s Cleft อ่ะครับ 

Clive - โอเคงั้นเราก็ไปแถว Laetny’s Cleft กัน 

 

 

Objective > เดินทางออกนอกเมือง กำจัดพวก Cast Stones ตามแคมป์ที่พักให้หมดจนถึงแค้มป์หลักที่ Laetny’s Cleft

 

 

                        Mini boss - Cast Stone 

 

 

Theodore - หึหึ พวกมันเคยบอกว่า อาชญกรไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าอะไร สร้อยทอง แหวน กระเป๋าเงิน บัตรผ่าน ของพวกนี้เป็นของพ่อค้าหลายสิบคนเลย

Clive - พวกมันเปลี่ยนชื่อบัตรผ่านรึยัง?

 

 

Theodore - เปลี่ยนบ้างแต่ยังไม่ทั้งหมด รวมทั้งของ Goetz ก็รวมอยู่ในนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ชั้นขอตรวจเช็คของแล้วเอามันส่งคืนให้กับเจ้าของทุกคนก่อนนะ แล้วชั้นจะเอาบัตรผ่านของ Goetz ไปให้ทีหลัง

Jill - เราควรไปบอกข่าวดีกับ Eloise นะ เรื่องที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณก็แล้วกันนะ Theodore

Theodore - ได้เลย แต่ เอ่อ อย่าลืมบอกเธอล่ะว่าผมก็ช่วยด้วย 

Clive - แน่นอนอยู่แล้วล่ะ 

 

 

Eloise - อ่า ไคลฟ์ ไง ล่าสนุกมั๊ย ชั้นเดาว่าน้องพี่ชายชั้นคงร่วมแจมด้วยสินะ?

Clive - คือ เรื่องทั้งหมดมันเป็นอย่างนี้ครับ ..........................

Eloise - พวก Cast Stone อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้นั่นเอง Theo ก็บอกให้ชั้นตามรอยพวกมันมาตลอดเหมือนกัน การที่พวกมันถูกกำจัดจนหมดนั่นมีข้อดีมากมายเลยล่ะ ปัญหาเรื่องล้วงกระเป๋าก็จะหมดไปซะที รวมถึงเรื่องบัตรผ่านของพวกพ่อค้าที่ถูกขโมยไปขายตลาดมืดก็ด้วย และหวังว่าบัตรผ่านของ Goetz คงยังอยู่ดีไม่หายไปไหนนะ เดี๋ยงคงต้องรอ Theo มาบอกก็แล้วกัน

 

 

Eloise - อ้าว พูดถึงก็มาพอดีเลย ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะพี่ชาย 

Theodore - ใจดีเหมือนเดิมเลยนะ Eloise  ... เอ้านี่ไคลฟ์บัตรผ่านของ Goetz บอกเขาด้วยว่ารักษามันให้ดีอย่าให้หายอีกล่ะ

Clive - ได้สิ ขอบใจนะ

Theodore - ผมสั่งให้เด็กๆเอาของที่ขโมยไปกลับไปคืนเจ้าของหมดแล้วล่ะ ส่วนอนาคตของพวกเขาคงต้องฝากเธอดูแล้วล่ะ Eloise คงไม่ว่าอะไรใช่มั๊ย?

Eloise - ได้แน่นอน ห้องเก็บของชั้นยังเหลือที่เยอะแยะ 

 

 

Eloise - ชั้นคิดว่าคุณคงพร้อมเดินทางผ่านด่านได้ในไม่ช้านี้แหละ แต่ก็คงต้องแนะนำตัวของพวกคุณให้เป็นที่ประจักรของคนที่นี่ก่อน จริงมั๊ย Cid? .. อ้าวช็อคเลยสิ ...  ไม่ต้องตกใจ เราอยู่ข้างเดียวกัน เพราะพวกเรา Crimson Caravans ยินดีและเต็มใจช่วยคนที่ควรช่วยเสมอ การขนย้ายของชั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นสินค้า ไม่ก็ Bearers ที่ต้องการหนีจากที่นี่ 

Theodore - และชั้นก็เป็นคนแรกที่น้องสาวชั้นช่วยพาหนี ไม่งั้นป่านนี้ก็คงถูกตีตราตั้งแต่เด็กไปแล้วล่ะ 

Eloise - เรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นบ่อยจนเราต้องทำเรื่องนี้กันเป็นธุรกิจประจำกันเลย 

Theodore - และดูเหมือนการต่อสู้ของเรามีอะไรตรงกัน จะว่าอะไรมั๊ยถ้าเราจะทำงานร่วมกันอีกครั้ง?

 

 

Clive - ยินดีและเป็นเกรียติอย่างยิ่งเลยครับ 

Eloise - และด้วยเกรียติของเรา 

Theodore - รับสิ่งนี้ไปนะไคลฟ์ Crimson Compass ของชั้น 

Clive - มันคือ ...

Theodore - El มีเพื่อนในชนชั้นสูง ส่วนชั้นมีพวกฟ้องในคนรากหญ้า เครื่องหมายนั้นทำให้พวกเขาเป็นพื่อนของนายด้วย 

 

 

Eloise - และเมื่อรวม Collar ของชั้นกับ Compass ของ Theo นายก็จะสามารถเป็นเพื่อนกับคนของเราทุกกลุ่มทุกชนชั้นในพื้นที่นี้ บัตรผ่านของ Goetz น่าจะพาพวกคุณผ่านไปกับกองคาราวานได้สบาย หรือถ้ากลัวจะเกิดปัญหานู้นนี่นั่น คนของเราก็สามารถช่วยคุณได้ ในราคาพิเศษ แน่นอน เริ่มต้นที่ 9 ล้าน สนใจมั๊ย?  

Clive - ผมขอไปกับกองคาราวานจะดีกว่านะ ..... 

 

 

Clive - เอ้านี่ Goetz บัตรของนาย อย่าให้หายอีกล่ะ

Goetz - บัตรผ่านของโผมมมม คุณเจอมันแล้วหรอ? ขอบคุณพระเจ้าไม่งั้น Nan คงฆ่าผมตายแน่ๆถ้ากลับไปโดยไม่มีมันอ่ะนะ ผมต้องไปขอบคุณ El กับ Theo ด้วย

 

Clive - แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง Honza? เธอกับเพื่อนไม่ต้องไปขโมยอะไรเพื่อใครอีกแล้วนะ แต่ถ้ามีคนพยายามจะบังคับเธอให้ทำแบบนั้นอีกก็รู้นะว่าต้องทำไง 

Honza - ครับผม ตอนนี้ คุณ El ให้งานผมทำแล้ว เป็นคนดูแลคอกโจโคโบะครับ แม้ค่าจ้างจะไม่ถึงครึ่งที่พวก Cast Stone เคยให้แต่เราก็สบายใจกว่าแต่แค่มีกินพอเลี้ยงตัวเองได้ก็พอแล้วครับ  

Clive - อืมม งั้นก็ดีแล้ว

 

 

Honza - แล้วก็ ผมต้องขอโทษคุณ Goetz ด้วยที่ขโมยบัตรผ่านของคุณนะ 

Goetz - ไม่เป็นไรๆ ยังไงชั้นก็ได้คืนแล้วทุกอย่างก็จบโอเค๊?

Honza - คุณเคยบอกว่าคุณกำลังเป็น Blacksmith ฝึกหัดหรอครับ? เอาไว้ผมจะเป็นลูกค้าคนแรกของคุณนะ ผมจะเก็บเงินมาซื้อดาบของคุณซักเล่ม 

Goetz - ได้เล๊ยย ชั้นจะพยายามให้ดีที่สุดเลยล่ะ 

 

 

Clive - เอาล่ะ เราต้องออกเดินทางกันแล้ว ชั้นจะไปรอที่เกวียนก็แล้วกันนะ แล้วก็จำไว้ให้ดีนะ Goetz พวกเราเป็นทหารรับจ้างที่นายจ้างมาคุ้มครอง อย่าลืมล่ะ

Goetz - ทหารรับจ้าง โอเคๆๆ 

Clive - นายจำแผนได้ใช่มั๊ย?  เราต้องตรงไปที่ Twinside เลย ชั้นกับจิลจะติดคุณไปถึงแค่ชานเมืองจากนั้นเราจะหาทางไปต่อเอง  

Goetz - โอเค ผมซื้อของที่ผมต้องการครบแล้ว เราไปกันเถอะ

Jill - เราต้องคอยดูแนวป้องกันของพวกจักรวรรดิด้วยนะ

Goetz - มีจัตุรัสที่มีหอระฆังขนาดใหญ่อยู่ใจกลางเมือง ถ้าพวกคุณเกิดหลงทางหรือต้องการอะไรเราจะนัดเจอกันที่นั่น โอเค๊?

Clive - ได้ๆ งั้นเราไปกันเถอะ 

 

 

 

ในขณะเดียวกัน .......

 




 

      ห้องรับรองในพระราชวังหลวงแห่งจักรพรรดิซานเบรอค 

 

 

Joshua - โอเค ผมเข้าใจ แต่คุณมั่นใจว่าพ่อของคุณไม่รู้เกี่ยวกับ อัลติม่า เลยงั้นหรอ?

Dion - ผมมั่นใจ ผมเชื่อว่าพลังอันช่วยร้ายได้เข้ามามีอธิพลเหนืออณาจักรซานเบรอคอยู่ในตอนนี้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าพ่อผมจะต้องรู้เรื่องด้วย ไม่ว่าจะดีหรือเลวแค่ไหนฝ่าบาทก็ตัดสินใจด้วยตัวท่านเองแน่นอน 

 

 

Joshua - งั้นเจ้ามารร้ายของเราก็คงกำลังทำงานอยู่ในเงามืดสินะ 

Dion - ตอนที่คุณเล่าเรื่องเจ้าปีศาจนั่นให้ฟังครั้งแรก ผมก็ยังมีข้อสงสัยอยู่นิดหน่อย สรุป เจ้าปีศาจนั่นพยายามสร้างความวุ่นวายไปทั่ว Valisthea ทั้งหมดก็เพื่อตามหาพี่ชายของคุณแค่นั้นอ่ะนะ? แต่บาดแผลนั่นของคุณก็ทำให้มั่นใจว่าไอ้มารร้ายตัวนี้มันคงกำลังทำงานของมันอยู่ 

 

 

Joshua - คุณจะได้คำตอบของคำถามนั้นแน่นอน ฝ่าบาท ตกลงคุณจะร่วมต่อสู้กับผมมั๊ย?

Dion - ยังก่อน คงจะไม่ใช่ในตอนนี้ 

Joshua - ฝ่าบาท ได้โปรด ...

Dion - อย่างที่คุณรู้ ตอนนี้กองทัพของ Dhalmekain เข้าประชิดประตูเมืองของเราแล้ว พวกมันเสียมาเธอร์คริสตัลของมันไปแล้ว และด้วยเหตุผลนี้ การเจรจาเพื่อสงบศึกคงจะพอมีหวังอยู่ แต่นั่นมันต้องทำก่อนที่พวกมันจะบุกเข้ามา และถ้าไม่มีบาฮามุธคอยรับมือพวกมันอยู่ที่นี่ ประชาชนของผมได้ตายหมดแน่ 

Joshua - แม้ว่าจะไม่ใช่ผลงานของ Hugo Kupka แต่ก็ต้องขอบคุณความพยายามของ อัลติม่า ผมรู้ดีว่าชะตากรรมของประชาชนในประเทศมีน้ำหนักเหนือกว่ามโนธรรมของท่าน แต่ถ้าเราไม่หยุดแผนร้ายของอัลติม่า พวกเขาจะยิ่งพบความเลวร้ายมากกว่าเป็นหลายร้อยเท่านะครับ ความโกลาหลจะกวาดล้างทุกอย่างใน Valisthea ลงสู่ขุมนรก ประชาชนทุกคนใน Twin จะตกอยู่ในอันตราย 

 

 

Dion - ผมเชื่อที่คุณพูดทุกอย่างเลย ฟีนิกซ์ ... แต่ผมก็มีหน้าที่ของผม ที่ต้องจัดการให้มันหลุดออกจากตำแหน่งให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม 

 



              Dion - แกรู้อะไรเกี่ยวกับสายเลือดของชั้น !?

 

 

Anabella - ชั้นรู้ว่ามันไม่คู่ควรต่อตำแหน่งอันสูงสุดของประเทศ ซึ่งควรเป็นของใครก็ตามมีเลือดบริสุทธิ๋มากกว่าอ่ะนะ แต่ อนิจจา ....ที่สายเลือดของนายมันไหลผ่านท่อระบายน้ำที่ Oriflamme จากโสเภณีที่ขายร่างกายแลกเงิน 

 

 

Dion - แล้วแกก็เอาเรื่องนี้ไปขู่พ่อชั้นหรอ?

Anabella - หึหึ ไม่อยู่แล้ว ก็แค่กระซิบข้างๆหูเขาแค่นั้นเอง ว่าลูกครึ่งของเขากำลังจะวางแผนกบฎน่ะ 

Dion - อะไรนะ !!?

Anabella - ในขณะที่ Sylvestre คร่ำครึอยู่กับคำทำนายของโหราจารย์ของเขา แล้วพวกเขาก็ฟังที่ชั้นพูดซะด้วยสิ 

 

 

                 Dion - แกพูดคำลวงใส่หูพวกเขา ...!!?

 

 

Anabella - ก็ถ้านายยังจะยังยอมจงรักภักดีต่อราชา Sylvestre ไม่แน่ฝ่าบาทของนายอาจสวมมงกฎใบกระวานให้ หรือไม่ก็ น้ำมันดิน 

 

 

                         Dion - ชั้นจะตัดลิ้นแกนังแม่มด !!!!

 

 

Anabella - ไง ไม่กล้าหรอ? … ไหนๆนายก็รับใช้จักรพรรดิมานาน ชั้นจะยกโทษให้กับความหยาบคายนี้ให้ว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นก็แล้วกัน ..เอาล่ะ รีบไปเตรียมตัวให้พร้อมไว้ฝ่าบาท จักรพรรดิ โอลิเวียร์ คาดหวังในตัวท่านมากนะ โอ้ หรือชั้นจะพูดว่า บาฮามุธ แทนดี ? 

 

 

 ขอให้ไฟของคุณทำให้ศัตรูเหลือแต่เถ้าถ่าน จนกว่าชาววาลิสเธียทุกผู้ทุกคนจะยอมศิโรราบน้อมเคารพผู้ปกครองโดยชอบธรรมที่แท้จริงของเขา 

 





Dion - ยังมีอีกหนึ่งความมืดมิดที่กำลังครอบงำซานเบรอคอยู่...และจนกว่าจะจัดการสิ่งที่กัดกินนี้ให้หลุดไปได้ เปลวไฟแห่งสงครามก็จะขยายวงกว้างขึ้นดั่งที่อัลติม่าปารถนา  

 

 

Joshua - ต้องขอโทษด้วยนะที่ครอบครัวทำให้คุณต้องทุกข์ขนาดนี้ 

Dion - คุณไม่ใช่คนรับใช้ของนางซะหน่อย ฟินิกซ์ นี่เป็นเรื่องของราชวงศ์ของชั้น และในฐานะที่เป็นสมาชิกคนนึงของราชวงศ์ชั้นต้องแก้ไขมัน 

 

 

Dion -  หลังจากจบเรื่องนี้แล้ว ทุกความแข็งแกร่งของชั้นจะเป็นของนาย 

 

 

                Joshua - ยังไงก็ต้องขอบคุณมากครับฝ่าบาท 

 



  Dion - เราจะทะยานสู่ฝากฟ้าด้วยกันเพื่อนำรุ่งอรุณใหม่มาสู่วาลิสเธีย 

 Joshua - ผมไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้วล่ะครับ 

 

 

Dion - Terence …

Terence - ขอรับองค์ชาย

Dion - นายคิดว่าสิ่งที่ชั้นกำลังทำเป็นเรื่องที่ผิดหรือเปล่า?

Terence - ผม ... เอ่อ เราคือ Dragoon และเรามีผู้นำแค่คนเดียวครับฝ่าบาท และเรายินดีที่จะเดินตามท่านไปจนถึงที่สุด 

 

 

                                 Dion - ขอบใจนะ 

 

 

Dion -...ต่อไปนี้จะเป็นกฤษฎีกาของชั้น จากความผิดจากการก่อาชญากรรมในการแย่งชิงมงกฎ 

 

 

Dion - ทรราช Anabella และลูกชายผู้กระทำการแย่งชิงนี้ จะต้องถูกประหาร !! แล้วอาณาจักรก็จะฟื้นคืนอีกครั้ง !!

 

 

 

ในขณะเดียวกัน .......

 

 

 

                      The Crystalline Dominion

 

                        ราชอาณาจักร คริสตัลลีน

 



Jill - ดูไม่รู้เลยว่าคนเหล่านี้กำลังอยู่ในภาวะสงคราม

Clive -พวกเขากลัว เลยพยายามดื่มเพื่อลืมมัน 

Jill - แล้วมีอะไรบ้างที่นายอยากจะลืม 

Clive - ..... 

 

 

Clive - ท่าเรือว่างเปล่า แผงขายของในตลาดกว่าครึ่งก็ด้วย ภายนอกเมืองอาจจะดูเงียบสงบ แต่ก็มีความกังวลในสถานการณ์แฝงอยู่ ...อืมม แต่ถ้าเรากระตุ้นมันซักหน่อยอาจเบี่ยงเบนความสนใจให้เราไปที่มาเธอร์คริสตัลสะดวกขึ้นนะว่ามั๊ย?

Jill - ว่าแล้วว่านายต้องพูดแบบนี้ เราควรส่งข้อความไปหา Gav นะถ้าเราต้องการใครซักคนที่จะทำแบบนั้น

Clive - งั้นเราก็วางแผนไปพลางเพื่อรอเขามาก็แล้วกัน

 



Torgal - โฮ่งงๆๆๆ !!!

Clive - เห่าอะไรเจ้าหนู?

 




Jill - เกิดอะไรขึ้นหรอ?

Clive - ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน  งั้นเราควรฉวยโอกาสนี้แหละ .... Torgal ! ไปกันเถอะ!

 

 

                           🔶 Fire in the Sky 🔶

 

 

Jill - ไฟกำลังไหม้เมืองชั้นใน 

Clive - ก็หวังว่า Goetz คงจะปลอดภัยนะ เขาบอกให้ไปเจอกันที่จตุรัส

Jill - ที่หอระฆังขนาดใหญ่ที่อยู่กลางเมือง ใช่มั๊ย?

 




Clive - มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย?

Jill - เข้าไปดูให้รู้กันเลยดีกว่า

Clive - อืมม  แต่ก่อนอื่นเราต้องตามหา Goetz ก่อน 

Jill - หวังว่าเขาคงจะปลอดภัยนะ 

 

 

              Dragoon Knight - นั่นไง จัดการผู้บุกรุกเร็ว !!!!!

 

 

                Clive - นี่มีนอะไรกันแน่ สงครามกลางเมืองงั้นหรอ?

 

 

                    Clive - นั่นไง หอระฆังขนาดใหญ่กลางเมือง

 

 

Jill - นายเห็นมั๊ยเขาอยู่ตรงไหน?

Torgal - โฮ่งๆๆๆๆๆๆ !!

 




           Clive - คงเป็นสัตว์เลี้ยงของพวก Dragoon สินะ ?

 

 

                          Boss - White Dradon 

 



               Goetz - ทางนี้ครับ!! พวกคุณไม่เป็นไรนะ ??

 

 

Clive - เฮ้อ .. เจอตัวซักที Goetz -

Goetz - ผมไม่รู้เลยว่ามีมังกรด้วย

Clive -เอาล่ะ เข้าไปข้างในต่อกันเถอะ !

 



Clive - อะไรอีกวะเนี่ย ? ...... ห๊ะ? นั่นมัน !!

Jill - หัวใจของมาเธอร์คริสตัลงั้นหรอ?

Clive - มันเกิดบ้าอะไรบนนั้นกันแน่ !?

 




                                Clive - บาฮามุธ ... !

 





Joshua - ฝ่าบาท! อย่าทำแบบนี้ !

Jote - เราต้องรีบหนีกันแล้วนะนานท่าน ไปเถอะ ชั้นขอร้อง!!

 

 

Joshua - นี่มันไม่ใช่แบบที่เราคุยกันไว้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ มีบางอย่างผิดปกติ ต้องเกิดอะไรขึ้นบนนั้นแน่ๆ ขอโทษทีนะ Jote แต่เราต้องหยุดเรื่องนี้

Jote - เดี๋ยว นายท่าน !!!!

 










 

 

 

Goetz - แล้ว เอ่อ เราจะเอาไงต่อล่ะครับ?

Clive - เราจะไปทำลายหัวใจของคริสตัล ทางที่ดีนายกลับไปก่อนจะดีกว่า

Goetz - อะไรนะ !!?

Clive - ทันทีที่ไฟเริ่มมอดลง พวกกองทัพของจักรววรดิและ Dhalmeks ก็จะบุกเข้ามาแน่นอน นี่อาจเป็นโอกาสเดียวของเราที่จะเข้าไปถึงหัวใจของคริสตัลได้  

Jill - ตอนนี้บาฮามุธก็หายไปแล้ว นายควรรีบหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้นะ 

 

 

 

Goetz - อะไรกัน !! แล้วจะให้ทิ้งพวกคุณในขณะที่พวกคุณกำลังลำบากอ่ะหรอ ไม่เอาหรอก ผมทำไม่ได้ ถ้าคุณอยู่ผมก็อยู่ด้วย ผมเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมก่อนจะมานี่ ถ้าคุณขาดเหลืออะไรก็บอกได้ตลอดเลยนะ แต่ผมจะไม่ยอมหนีไปไหน ถ้า Nan รู้นางเอาผมตายแน่ๆ 

Clive - ถ้างั้นก็ ขอบใจนะ Goetz

 

 

ตอนนี้ Goetz จะเปิดร้านเคลื่อนที่ในชื่อ Goetz’s Toll & The Big Hammer ที่คุณสามารถซื้อไอเทมและตีอาวุธกับเขาได้แล้ว 

 

 

Jill - Drake’s Tail อยู่ตรงนี้แล้วไคลฟ์ ถึงเวลาปลอดปล่อย Storm จากคำสาปคริสตัลแล้ว 

Clive - แน่นอนอยู่แล้ว แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าบาฮามุธยังอยู่ข้างนอกนั่น 

Jill - และชั้นกล้าบอกเลยว่าเราต้องได้เจอเขาอีกครั้งก่อนคืนนี้จะจบลงแน่นอน 

 




                          Clive - นั่นมัน ..... ฟีนิกซ์ !!

 



Clive - โจชัวร์ !!   .... เขาจะทำอะไรกันแน่?

Jill - เขาพยายามดึงความสนใจของบาฮามุธ

 

 

Clive - โจชัวร์ !!   

Jill - อย่าไคลฟ์ มันอันตรายเกินไป !!!

Clive - บ้าเอ้ย โจชัวร์ !! รอก่อนนะ พี่กำลังไปช่วย !!  

 

 

Clive - ชั้นต้องช่วยเขาให้ได้! .. นั่นเขาจริงๆด้วย โจชัวร์ !! พี่อยู่นี่!!

Jill - เขาไม่ได้ยินนายหรอกไคลฟ์ 

Clive - โจชัวร์ !!   

Jill - พวกเขามุ่งหน้าไปที่หัวใจของคริสตัล 

 

 

Jill - นั่นเป็นตึกของรัฐสภาของพวกเขานี่ มันรอดอยู่ได้ยังไงเนี่ย? …เขาจะไม่เป็นอะไรหรอกไคลฟ์ เขาเอาตัวรอดได้แน่นอน 

Clive - เราใกล้แล้ว

 

 

Torgal - แฮ่..!!!!!

Clive - หืมม ?

 



Clive - ดูเหมือนจะมีบางตัวไม่อยากให้เราเข้าใกล้สินะ !!

Jill - ชั้นไม่สนหรอกว่ามันต้องการอะไร !

Clive - เหมือนกัน !!

 

 

                               BOSS - Necrophobe 

 

 

Jill - ไอ้พวกตัวประหลาดพวกนี้มันแข็งแกร่งมาขึ้นเรื่อยๆ

Clive - เอาไว้คิดเรื่องพวกมันทีหลังเถอะ ตอนนี้เรามีเรื่องสำคัญเพียงหนึ่งเดียวที่ต้องโฟกัส 

Jill - หัวใจของคริสตัล ...

 


Clive - ชั้นว่าเราน่าจะทะลุผ่านตึกนี้ไปอีกฝั่งได้ ก็หวังว่าคงคุ้มค่าที่จะลองอ่ะนะ 

 

 

Clive - เงียบซิ ชั้นได้ยินเสียงใครอยู่ข้างบน 

Anabella - ใครน่ะ !!?

 



   Clive - แม่งั้นหรอ? ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่กันแน่??

 

 

                      Anabella - มันพยายามพรากเขาไปจากชั้น



                 Anabella -  ..โธ่ ลูกแม่ ...ลูกรักของแม่

 

 

Clive - นี่คือเด็กที่เกิดกับจักรพรรดิงั้นหรอ? ทำไมหรอแม่ ? เพราะอะไร? ทำไมแม่ถึงต้องทรยศพวกเราทุกคน!!

Anabella - แกไม่มีสิทธิ์ .... เราไปกันเถอะลูกแม่ 

 

 

                            Jill - ตอบเขาเดี๋ยวนี้ !!!!

 

 

Anabella - เราอุตสาห์รับเธอมาเลี้ยง ยังจะมาทำป่าเถื่อน สำนึกบุญคุณคนที่เลี้ยงดูเธอหน่อยสิ  

 

 

Jill - บอกให้ตอบ !!!!

Anabella - ท่าน Elwin คิดถึงบ้านเกิดที่ล้ำค่าของเขาอยู่เสมอ แต่บ้านเมืองที่เต็มไปด้วย Blight ที่กำลังกัดกินมันจะมีค่าอะไรล่ะ !!?

 

 

Clive - พ่อพยายามปกป้องประเทศของเขา และปกป้องคนของเขาทุกคน

Anabella - แต่หน้าที่ของผู้นำไม่ใช่การปกป้องประชาชน !!  ผู้นำต้องปกป้องอำนาจอธิปไตยของเขา และสายเลือดอันสูงส่งที่ไหลอยู่ในสายเลือดของครอบครัว

 

 

Anabella - ตราบใดที่สายเลือดยังไม่ถูกทำลาย ต่อให้ประเทศชาติล่มสลาย ก็สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้เสมอ !!!  ชั้นทำตามหน้าที่ของชั้น ซึ่งต่างจากเขา ชั้นพยายามรักษาสายเลือดของชั้นไว้ !! 

 

 

และตอนนี้ชั้นได้ให้กำเนิดบุตรชายที่มีสายเลือดอันสูงส่งที่คนทั้งโลกต้องคุกเข่าให้ นั่นแหละคือเหตุผลที่ชั้นมอบโรซาเรียให้ซานเบรอค 

 

 

Anabella - ชั้นจึงต้องเข้าร่วมกับ Lesages เพื่อให้กำเนิดผู้ที่จะมากอบกู้ดินแดนที่มืดมนนี้ ด้วยพรของทั้งบาฮามุธและฟีนิกซ์ 

Jill - เธอขายประเทศของตัวเองเพื่อเด็กคนนึงงั้นหรอ?

Clive - แล้วทำไมต้องมีอีกในเมื่อแม่มีโจชัวร์แล้ว !!!

Anabella - ชั้นไม่มีอะไรเลยต่างหาก !!!  แกเป็นลูกของพ่อแกมาตลอด ทั้งแข็งแกร่งและกล้าหาญ แค่พลังยังไม่ตื่นขึ้น !!! ถ้าโจชัวร์แข็งแกร่งได้หนึ่งในสิบของแกล่ะก็ !!!!

 

 

Anabella - พวกขุนนางต่างก็เยอะเย้ยที่ลูกคนโตของ Elwin เป็นลูกของนางสนม ในขณะที่ของชั้นก็ยังไม่พร้อมที่จะลืมตาดูโลก มันเป็นความอัปยศ! ความอัปยศที่ถูกพูดให้ร้ายโดยคนที่ต่ำต้อยกว่า พวกแกไม่วันรู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง !!!

 

 

Anabella - มันควรต้องเป็นแก!! ทำไมฟีนิกซ์ถึงไม่เลือกแก! ทำไม !!!!

 

 

Clive -ทุกช่วงเวลาในการตื่นขึ้นของโจชัวร์ถูกใช้ไปกับการที่ต้องแบกรับความคาดหวังที่แม่ ที่ฟินิกซ์ และพวกขุนนาง มีต่อเขา เพราะงั้นผมถึงเป็นโล่ให้กับเพื่อแบ่งเบาสิ่งที่เขาต้องแบกรับไง !! 

 

 

แล้วดูสิที่แม่ทำสิ !!? แม่ทำอะไรลงไป!! แม่ทรยศต่อสายเลือดของตัวเอง แล้วปล่อยให้ลูกชายของตัวเองเผชิญชะตากรรมของเขาเพียงลำพัง !!

 

 

Anabella -... โจชัวร์ ลูกของแม่ ....ชั้นไม่ตั้งใจจะทำร้ายเขา ชั้นสั่งพวกทหารไปชัดเจนแล้วว่าอย่าทำร้ายเขา ...แล้วทำไมแกถึงรอดในขณะที่คนที่ชั้นห่วงใยที่สุดต้องตาย !!

 

 

Clive - แม่ไม่ได้มองออกไปนอกหน้าต่างเลยหรอ!? โจชัวร์อยู่ที่นี่ ฟินิกซ์ยังไม่ตาย !! เขากำลังต่อสู้กับบาฮามุธอยู่ในขณะที่เรากำลังคุยกันอยู่เนี่ย!!!

 

 

     Anabella -... โธ่ โจชัวร์  ลูก แม่.... อ๊ากกกกกก !!!!!

 





 

                   Clive - ห๊ะ?   โจชัวร์ !!  โจชัวร์ ตื่น ตื่นสิ !!!!

 



      Clive - ชั้นคือ โล่ แห่งโรซาเรีย !! และชั้นจะทำหน้าที่ของชั้น !!!

 



                         Jill - เดี๋ยว ไคลฟ์ นายจะทำอะไร !!?

 










 Jill - Ifrit !!

Joshua - ..... อั๊กก ...... ไคลฟ์ ??

 

 

                                    Joshua - ไคลฟ์ !!!

 

 

                                   Ifrit  VS  Bahamut 

 

Ifrit สามารถเรียนรู้ความสามารถใหม่ Spitflare จากบาฮามุธ โดยการกด R2 + สามเหลี่ยม ยิงพลังเพลิงที่รุนแรงออกจากปากและสามารถใช้แกนอนาล็อคฝั่งซ้ายเล็งยิงได้อย่างอิสระ  

 

 

 

 

ศัตรูที่โดนท่านี้โจมตีใส่ จะเสียจังหวะและยกเลิกอบิลิตี้ที่กำลังจะใช้ทั้งหมด และหากยิงลำแสงไปจนสิ้นสุดท่าโดยไม่ยกเลิก จะทำให้เกิดการระเบิดที่รุนแรงปิดท้ายสร้างความเสียหายมากกว่าเดิม  

 

 

 

                                Phoenix  VS  Bahamut

 



                          Phoenix & Ifrit  VS  Bahamut

 



                                Ifrit Risen  VS  Bahamut

 








                              Clive - โจชัวร์ !!!

                                        Joshua - ไคลฟ์ !!!

 



                        Clive - น้องของพี่ 

                        Joshua - ผมขอโทษครับพี่ ...

 

 

Clive - นายปลอดภัย เราทั้งคู่รอดมาได้ ไม่มีอะไรสำคัญกว่านี้อีกแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีวันนี้ 

 



                             Jill - ในที่สุดก็เจอกันจนได้นะคู่นี้ 

 

 

                                 Joshua - จิล !? … Torgal!

 







                          Dion - นี่ … สำหรับ พ่อของชั้น !!!!

 




                   Anabella - ไม่นะ !! ลูกแม่ ! ไม่ !!!!!!!!

 




Dion - ผมทำสำเร็จแล้วครับพ่อ ...ปีศาจที่จะทำลายบ้านเมืองของเราไม่มีอีกแล้วครับ ....พ่อครับ ....

 

 

Jill - มาเธอร์คริสตัลกำลังถล่ม 

Clive - ใช่ เราต้องรีบหนีแล้ว  

Joshua - เดี๋ยวก่อนครับ 

 



Joshua - เราปล่อยเขาไว้แบบนี้ไม่ได้ ผมยังติดหนี้เขาอยู่ 

Clive - โอเค พาไปด้วยก็ได้ 

 





                       Clive - อั๊กก !! … อ๊ากกกกก !!!!!!!

 

 

 

 

จักรพรรดิ Sylvestre - ไม่สามารถทำอะไรให้พวกเขาหยุดได้เลยหรอ?

ผู้รับใช้ - ผมเกรงว่าจะไม่มีเลยครับ ฝ่าบาท พวก Dragoon ก็ไม่ยอมรับคำสั่งใครนอกจากองค์ชาย สภาเองก็ไม่มีอำนาจเข้าไปแทรกแซงด้วย 

จักรพรรดิ Sylvestre - แกเป็นบ้าอะไรของแกเนี่ย Dion? …ยังไงก็หาทางดับไฟที่ไหม้ในศาลากลางด้านในก่อนนะ ที่อื่นประชาชนรอได้ ...มัวยืนอยู่ทำไมล่ะ รีบไปสิ !!!

 

 

 

จักรพรรดิ Sylvestre - Dion.. นี่แก !! เสียสติไปแล้วหรอ !!!  สั่งให้พวก Dragoon หยุดเดี๋ยวนี้ !!!

 

 

Dion - เกรงว่าจะไม่ได้หรอกฝ่าบาท และก็อย่ากลัวไปเลยเพราะประชาชนจะไม่ได้รับอันตรายจากพวกเขาแน่นอน ผมมาที่นี่เพื่อช่วยท่านต่างหาก

จักรพรรดิ Sylvestre - ช่วยข้า? ช่วยจากอะไร!!? 

 

 

Dion - เงามืดที่แอบคลืบคลานอยู่ในใจกลางของ Sanbreque ...ทั้งหมดมันเกิดจากมเหสีของท่าน นัง Anabella ผู้ทรยศ!!

จักรพรรดิ Sylvestre - เอาอีกแล้ว Dion !!!

Dion - ท่านพ่อ แม้ว่าท่านจะมองไม่เห็น แต่ความมืดนั้นมันกำลังครอบงำท่านอยู่ มันทำให้ท่านหลงลืมตัวเองไป ครั้งนึงผมว่าท่านพ่อคงยังจำได้ ที่ท่านเคยปกครองด้วยเมตตาธรรม ไม่ได้โหดร้ายเยี่ยงนี้ !! ทำไมตอนนี้ท่านถึงหันหลังให้ประชาชน ทำไมท่านถึงเลือกที่จะก่อสงครามในตอนนี้ !!  ทุกคนในสภาสูงแห่งนี้เองก็เป็นพยานต่อความเปลี่ยนนั้นได้ และท่านก็รู้เช่นเดียวกันว่า คนที่มีหน้าที่จัดการเรื่องนี้ก็คือผม !! 

 

 

Dion -  ตอนนี้หุ่นเชิดของนางกำลังนั่งอยู่บนบัลลังย์ ถ้าตัดสายของหุ่นเชิดได้ เจ้านายมันก็ส่งพลังมาถึงนางไม่ได้อีก !!! 

Anabella - อะไรนะ !!?

จักรพรรดิ Sylvestre - Dion นี่แกกล้าชี้หอกของแกใส่บัลลังย์ของจักรพรรดิ์งั้นหรอ!!!  ทหาร มาจับตัวมันไปเดี๋ยวนี้ !!!!

 

 

Dion - สำหรับประชาชนที่ล้มตาย ก็สามารถเพาะพันธุ์ขึ้นมาใหม่ได้  บ้านเมืองที่ถูกเผาไหม้ก็สร้างขึ้นมาใหม่ได้ นั่นเป็นคำพูดของท่านไม่ใช่รึ! แต่เมื่อประชาชนคนสุดท้ายของท่านสูญสิ้นไปบ้านเรือนของพวกเขาก็จะเหลือแค่เถ้าถ่าน แล้วอณาจักรของท่านจะกลายเป็นอะไร? เป็นของผู้ปกครองมัน ? หรือเป็นของพระเจ้าของท่าน !?

 

 

Dion - ในขณะที่มาเธอร์คริสตัลก็พังทลายลงที่ละอันส่วน Blight ก็กำลังเข้ามากลืนกินทุกสิ่งที่เรารัก ประชาชนก็ต่างมองหากษัตริย์ของพวกเขาเพื่อให้มาช่วยปกป้อง 

 

 

แต่ถึงขนาดนั้น เขาเองก็ยังไม่เคยลงแรงเพื่อรักษาอนาคตตัวเอง แต่กลับทำเพื่อยึดครองทุกสิ่งที่เหลืออยู่ใน Twin ให้เป็นของตัวเอง แม้ว่าจะแลกด้วยทุกสิ่งที่ประชาชนผู้ภัคดีต่อเขาสร้างมา !!

จักรพรรดิ Sylvestre - Dion แกต้องเข้าใจนะ .....

 

 

Olivier - ก็แค่ ราคาที่ต้องจ่ายเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเองไม่ใช่หรอ? คุณเองก็ได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่ ดิออน มากพอที่จะเอาชนะชั้นหรือคนทั้งโลก ถ้างั้นก็ไปสิ จงไปยึดครอง Valisthea ทั้งหมดมาให้ชั้น ... พี่ชาย  

 






       จักรพรรดิ Sylvestre - อั๊กก .... นี่ข้า ...ข้า .... ดิออน ...

 

 

 

Olivier - โธ่ ท่านพ่อผู้น่าสงสาร ...ช่างให้ความสำคัญกับลูกจริงๆเลย แต่ การที่เขาต้องตายเพื่อปกป้องชั้นมันเป็นเรื่องปกติ แค่ว่าเมื่อไหร่เท่านั้นเอง  

Dion - แกวางแผนเอาไว้แล้วงั้นหรอ?

 

 

Olivier - และตอนนี้ มิธอส ก็ใกล้เข้ามาแล้ว งั้นก็ปล่อยให้เขาได้พิสูจน์ ชั้นจะรอดูว่าเขาจะชนะมั๊ย

 

 

                           Olivier - ไปสิ บาฮามุธ 

 

 

                           Olivier - ผู้สังหารกษัตริย์ 

 




           Dion - อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!!!!

 

 

 

Clive - อีกแล้วหรอ ....

Joshua - พี่ครับ ? เกิดอะไรขึ้นหรอ?

Clive - ช่างเถอะ ... เรื่องมันยาวน่ะ 

 

 

Joshua - แม่อยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ มากับเราเถอะ ..จับมือผม

 

 

Anabella - ไป!! ไปให้พ้นจากชั้นนะ ..นี่มันก็แค่ความฝัน แค่ฝันร้ายเท่านั้นเอง !! แกไม่มีทางจับชั้นได้หรอก ไอ้เงามืด ไม่มีวัน !!

 








                              Joshua - แม่ครับ ....

 




Ultima - หากเป็นจิตสำนึกที่ถักทอเจตจำนงของเจ้าเข้าด้วยกัน จิตสำนึกทำให้ขอบเขตระหว่างเจตจำนงของเจ้ากับผู้อื่นพร่ามัว

 

 

Ultima - แล้วเราจะแยกเจ้าออกจากกันอีกครั้ง ความสัมพันธ์ที่ผูกมัดพวกเจ้าเอาไว้จะถูกตัดออก

 

 

       Ultima -   และมนุษย์ชาติก็จะกลับคืนสู่ตำแหน่งที่เหมาะสม 

 



Ultima - ด้วยบรรพบุรุษผู้แรกเริ่มนี้ ยุคใหม่ของเหตุและผลจะเริ่มต้นขึ้น 

 

 

 

 

ในเวลาต่อมา ...................

 

 

                 ห้องพระบรรทม  / อาณาจักรแห่งวาโลเอด

 



Benedikta - คุณไม่อยากเล่นหรอ? มันก็นานแล้วนะ

Barnabas - ได้สิ ถ้าเธอต้องการ ...

Benedikta - คุณมีความโอนโยนไม่ต่างจากคนอื่นๆ

 

 

                  Hugo - ช่างเป็นสัตว์ที่อ่อนแออะไรเยี่ยงนี้ ...

 

 

Hugo - แม้จะได้รับพลังแห่ง Eikons เป็นของขวัญแต่การเป็นทาสของอารมณ์ที่แปรปรวนจะนำนายไปสู่หายนะ ..ดังนั้นนายเลยผูกมัดเจตจำนงของนายด้วยจิตสำนึก 

Barnabas - เป็นหัตถกรรมที่ไร้ค่าของคนที่น่าเวทนา ... 

 

 

Ultima - ในที่สุด บุตรแห่งไฟก็รวมกันเป็นหนึ่งเดียว และมันทำให้เปลวไฟของพวกเขาเจิดจ้าขึ้น แม้เพียงชั่วขณะ  อีกไม่นาน มิธอส ก็จะกลายเป็นพาหะอันสมบูรณ์แบบของเรา 

Barnabas - และจากนั้นโลกก็จะถูกสร้างใหม่อีกครั้ง 

 

 

Ultima - ก่อนที่จะตัดพันธะของความไว้ใจ ของความเคาระ และความรัก เมื่อจิตสำนึกทุกเส้นถูกตัดออก มิธอส ก็จะกลับมาเคียงข้างเรา โดยที่ พรีโมเจเนซิส ทั้งหมดจะถูกยกเลิก มวลมนุษย์ชาติก็จะพ้นวิบากกรรม และมิธอสกับความปราถนาของเขาแม้ยังคงถูกผูกติดกัน แต่เขาก็มีพลังพอที่จะสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้  ดังนั้น ข้าจึงมีข้อเสนอให้เจ้า ...จงค้นหามิธอสและแยกทุกคนออกจากกัน

Barnabas -  ..การทำลายสิ่งที่ไร้รูปร่าง  ท่านกำลังร้องขอในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้  

 

 

Ultima - ไม่มีอะไรที่ดาบสีดำของเจ้าตัดไม่ขาด … โอดิน  เราจะรวมเข้ากับมิธอส แล้วสร้างโลกใหม่ขึ้นมา ตราบใดที่พาหะของเราจะไม่ถูกอ้างสิทธิ์โดยมนุษย์ชาติ 

Barnabas - มันต้องสำเร็จแน่ นายท่าน เจตจำนงของข้าเป็นของท่าน

 




                             Barnabas - แม่ครับ ....

 

 

 

                            🔶 Things Fall Apart 🔶

 

 



 

                                  The Hideaway 

 

                          Bennumere, Central Storm

 

 




Jill  - น้องนายเป็นไงบ้าง?

Clive - หลับยาวตั้งแต่เรากลับจาก Dominion  Tarja บอกว่าอีกไม่นานเขาน่าจะกลับมาแข็งแรงได้เหมือนเดิม อย่างน้อยก็ซักพักนั่นแหละ แล้วเธอก็พบบางอย่างบนหน้าอกเขา อาการบวมเป็นวงกลมที่มีจุดแข็งๆเหมือนหินด้านใน 

Jill - คำสาปสินะ …. ไม่ว่าจะภูเขากี่ลูกที่เราเคยปีนป่าย หรือทุกความลำบากที่เราเคยผ่านมา ก็ยังมีอันที่รอเราอยู่อีกเสมอ ใช่มั๊ย?

Clive - อืมม มันไม่มีวันจบสิ้นหรอก ...

 



                    Clive - แม้แต่ท้องฟ้าก็ดูอ่อนล้าลงทุกที 

 

 

 

                          The Power of Light ability 

 

 

เมื่อไคลฟ์ได้รับพลังของ Bahamut จึงทำให้เขาถึงพลังเวทย์ที่มีองค์ประกอบของ แสง ในการโจมตี ประกอบด้วย 

 

 

Wing of Light - สร้างปีกให้ไคลฟ์ใช้ในการบินในอากาศได้ ในขณะเดียวกันก็ทำการชาร์จสะสมเวทย์ Megaflare เตรียมเอาไว้ (สะสมได้ 2 ระดับขึ้นไปตามแต่เลเวลของเวทย์) สามารถกด R1 เพื่อบินหลบไปมาได้ระหว่างรอ 

 

 

 เมื่อเต็มเมื่อไหร่ก็สามารถกด O เพื่อยิงเวทย์แสงติดตามทำลายปล่อยหมายทั้งหมดในพื้นที่ต่อสู้ได้เลย

 

 

Flare Breath - พ่นไฟแห่งแสงออกมาทำลายศัตรูอย่างต่อเนื่อง พลังโจมตีเบาแต่สามารถทำให้ศัตรูเสียจังหวะอย่างต่อเนื่องได้ 

 

 

Impulse - ยิงผลึกแสงออกมาติดตามโจมตีศัตรูหลายเป้าหมายพร้อมๆกัน เน้นโจมตีไปที่จุดอ่อนของศัตรู

 

 

Satellite - สร้างผลึกแสง ช่วยยิงเวทย์สนับสนุนเมื่อไคลฟ์ใช่้เวทย์โจมตีศัตรู

 

 

Gigaflare - ท่ายิงลำแสงขนาดใหญ่สุดรุนแรง ที่สามารถปรับมุมเล็งเป้าหมายอย่างอิสระ (ข้อเสีย ลำแสงใหญ่จนบังตำแหน่งของศัตรูจนบางครั้งยิงไม่โดนเป้าหมาย) 

 

 

Clive - ไง Otto ตอนนี้บ้านเมืองเป็นไงบ้าง สรุปให้ฟังหน่อย ?

Otto - บ้านเมืองหรอ ก็ดี ดีเลยล่ะ ถ้านายไม่ได้สังเกตุว่าพอฝั่ง Storm ไม่มีมาเธอร์คริสตัลแล้วสีของท้องฟ้ามันดูอย่างกับส้วมที่กำลังถูกเผาอ่ะนะ 

Clive - แล้ว Gav ล่ะ?

Otto - อยู่กับลุงของนายใน Free cities กำลังช่วย Mid ทำโปรเจค ชั้นส่งนกส่งข่าวไปบอกแล้ว แต่ยังไม่ตอบกลับมา

 

 

Clive - ตกลงคุณมีข่าวดีบ้างมั๊ยเนี่ย?

Otto - นั่นก็ขึ้นอยู่กับคำจำกัดความคำว่า ดี ของนายด้วยนะว่าอยู่ในระดับไหน?

Clive - โอเค ดีก็ดี แล้วคุณมีอะไรจะแนะนำบ้างเรื่องแผนต่อไป

Otto - แผนหรอ? ไม่ๆ ชั้นมันแค่คนส่งข่าว เรื่องแผนคงต้องให้ไปถามคนที่เหมาะกับงานนี้มากกว่าอ่ะนะ ก็คงจะ Vivian หรือ ต่าแก่ Tomes อะไรทำนองนั้น น่าจะเหมาะในการอัพเดทสถานการณ์ปัจจุบันให้นายได้ดีกว่า 

 

 

Vivian - ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตอนจบของการผจญภัยเล็กๆน้อยของคุณจะต้องจบลงด้วยหายนะที่อธิบายไม่ได้ทุกที แต่ก็นะจะไปโทษ Dominions ได้ตลอดหรอก บางทีพฤติกรรมของเจ้าชายก็คาดเดาไม่ได้เหมือนกัน 

Clive - ต้องขอโทษด้วยนะที่ช่วยบ้านเกิดคุณไว้ไม่ได้น่ะ 

Vivian - เพื่อนร่วมชาติของชั้นแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิดเยอะน่า แค่หอนาฬิกาพังไม่ได้แปลว่าทำลายจิตวิญญาณเขาได้ที่ไหน พวกเขาจะกลับมายืนหยัดได้อีกครั้งแน่นอน ดูพวกเราสิ ท้องฟ้าช้ำเลือดช้ำหนอง ม่วงอย่างกับ bog crabs ขนาดนี้ยังอยู่ได้เลย แม้จะดูตึงเครียด แต่ครียดไปก็ไม่ได้แก้ปัญหาที่มันยุ่งเหยิงนี้ได้หรอก 

Clive - คุณเชื่อว่าเรายังมีทางออกที่ดีกว่านี้มั๊ย?

Vivian - ชั้นไม่รู้ แต่ชั้นแน่ใจว่าเราต้องหาทางออกได้แน่ถ้าเรามีข้อมูบข้อเท็จจริงที่มากพอ

 

 

Vivian - ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดครึมตอนนี้ ทำให้ความหวาดกลัวและสับสนกำลังครอบงำวาลิสเธีย ดินแดนๆรอบๆมาเธอร์คริสตัลที่ล่มสลายเริ่มเหี่ยวเฉาเพราะขาด aether และสำหรับประชาชนทั่วไป คริสตัลที่ใช้เติมบ่อน้ำ จุดไฟ ตอนนี้กลายเป็นก้อนหินธรรมดา ไม่มีแม้แม้แสงหริหรี่ที่ใช้ป้องกันความมืด มันจึงไม่แปลกที่มันจะโน้มน้าวคนทั่วไปให้คิดว่า วันสิ้นโลก ใกล้จะมาถึงแล้ว แต่ ชั้นคิดว่า ทุกอย่างมันจะจบลงเร็วกว่าที่เราหวังเอาไว้น่ะสิ 

 

 

ในขณะที่โลกส่วนใหญ่กำลังต้องการ aether แต่บางทีจมอยู่กับมัน จนเกิด Akashic จำนวนมาก และท่ามกลางสัตว์ร้ายที่ไร้สามัญสำนึกและประเทศทั่วไปขาดคริสตัลสำหรับใช้เป็นเวทย์มนต์ในการกำราบมัน โรซาเรียและ Iron Kingdom คือสองอณาจักรแรกที่น่าจะล่มสลายก่อน ในขณะที่โศกนาฎกรรมใน Twinside ก็ทำให้จักรวรรดิ์ศักดิ์สิทธิ์เป็มอัมพาต ส่วน Dhalmekian ก็ดีกว่านิดนึง ได้ยินมาว่าเหล่ารัฐมนตรีหนีออกจากเมืองหลวงหลังจากการล่มสลายของ  Drake's Fang ส่งผลทำให้สถานะความเป็นสาธารณะรัฐต้องล่มสลายไป

 

 

ในขณะที่ Waloed ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวมากขึ้น มีคนพบเห็นพวก Einherjar นอกฝั่ง Storm กันมากขึ้น 

 

 

ก็สรุปง่ายๆ บ้านเมืองกำลังอยู่ในความวุ่นวาย ไม่สิ ทั้งโลกต่างหาก และดูเหมือนว่าอีกไม่นานอารยธรรมที่เราสร้างมาก็จะถูกคลื่นซัดไปจนหมดเหมือนกับเม็ดทราย 

 

 

 

Clive - ปราสาททราย ...

Vivian - มันก็ไม่ใช่การสรุปของชั้นหรอก แต่ดีที่สุดเท่าที่ได้ข้อมูลมา และมันค่อนข้างจะตรงไปตรงมามากกว่าแค่ ประเมิน ถ้าไม่มีการปกป้องจากประเทศ ประชาชนก็ต้องปกป้องตัวเอง 

Clive -ซึ่งก็คงเป็นทางออกแค่ทางเดียว ... 

 

 

Vivian - การปกป้องไร่นา โจโคโบะจากพวกโจรก็เรื่องนึง แต่รั้วไม้ก็คงป้องกันการรุกรานจากกองทัพไม่ได้หรอก ซึ่งถ้ากษัตริย์ของ Waloed บุกเข้ามาก็คงไม่มีใครมีปัญญาต้านทานเขาได้แน่นอน 

Clive - อืมม นอกจากพวกเรา 

 

 

Harpocrates - ถ้าให้ชั้นเดา คงมาถามเรื่องความผิดปกติของท้องฟ้าใช้มั๊ย?

Clive - ก็ประมาณนั้น คุณพอจะมีข้อมูลอะไรบ้าง Loreman ?

Harpocrates - เรื่องนี้คงไม่ต้องใช้โหรมาทำลายหรอก แค่มองด้วยตาก็เห็นแล้ว มันมีบางสิ่งกำลังรบกวนสวรรค์ ...และชั้นว่าการตอบคำถามที่ว่า Fallen น่าจะตอบได้ที่กว่าชั้นอ่ะนะ ... ในวันที่ 6 เหล่าทวยเทพได้ฉีกกระอาทิตย์ออกจากนภา เพื่อนำความมืดมิตรมาสู่เหล่าบุตรและธิดาที่หยิ่งผยองของตน ชั้นว่าคุณคงจำบทเรียนเรื่อง Sin of Dzemekys ในวัยเด็กได้ดีแน่นอน 

Clive - คุณคิดว่า พวกเขาเชื่อมโยงกัน และ Ultima ก็เป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่ต้องรับผิดชอบ 

Harpocrates - เขาได้แสดงพลังที่ทำให้เชื่อว่า มนุษย์อย่างเราเขื่อมโยงกับพระเจ้าแน่นอน 

Clive - อย่างมันไม่ใช่พระเจ้าหรอก !!

Harpocrates - อ่า แต่เขาจะกล้าพูดว่า ตอนนี้เขาไม่ได้เป็น ...แต่เทพนิยายที่เหล่าถึงบาปนั้นแทบไม่มีบันทึกทางประวัติศาสตร์เล่มไหนเลยที่บอกว่า มันเคยเกิดขึ้นจริงๆ ถ้าชั้นเป็นคนเขียนบันทึกเรื่อง Moss the Chronicler ชั้นคงอาจจะบอกคุณได้มากกว่านี้ และน่าเสียดายที่สำเนาของบันทึกนั่นสูญหายไปหมดแล้ว คงต้องขอโทษจริงๆที่ให้คำตอบคุณไม่ได้อ่ะนะ

Clive - ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ใช่ความผิดของคุณซักหน่อย แม้จะไม่มีบันทึกพวกนี้คุณก็มีสติปัญญามากพอที่จะช่วยเราได้อยู่ ซึ่งเราก็ต้องขอบคุณคุณมากกว่า 

 

 

Otto - ไคลฟ์ ดูเหมือนว่าเราจะงานเข้าแล้วล่ะ 

Clive - แค่เรื่องเดียวหรอ ครั้งแรกเลยนะเนี่ย 

Otto - อันที่จริงแล้ว 3 เรื่องต่างหากล่ะ ...มีข่าวข้อความส่งมาเพียบตอนที่นายไปคุยกับตาลุง Harpocrates … Martha เจอพวก Akashic มาเอออยู่หน้าประตูเมืองเต็มไปหมด ทาง Isabelle ก็กังวลใจเรื่องที่มีคนเจอพวกสัตว์ประหลาดเต็ม Northreach ไปหมด

Jill - ส่วนที่ Dalimil L’ubor ก็บอกว่ากำลังถูดกลุ่มพวกโจรเข้าโจมตี 

Otto - พวก Cursebreakers ที่กำลังกระจายออกช่วยชาวบ้านที่ Dominion ก็กำลังไม่พอด้วย แต่ถ้าจะมีกำลังพอชั้นว่าก็น่าจะมาไม่ทันเวลา นอกจากคน 2 คนที่น่าจะทำได้ 

Clive - ผมกับจิลสินะ 

Jill - นายพร้อมแล้วก็บอกนะ ไคลฟ์ 

 

 

                          👹 Hunt Board Update! 👹

 

 

👹Notorious Marks ตัวที่ 14 : The Ten of Clubs

 

 

พิกัด : อยู่ใน The Fields of Corava ใน Dhalmekia (ตามจุดในแผนที่) 

 

 

👹Notorious Marks ตัวที่ 15 : The Mageth Brothers

 

 

พิกัด: อยู่ที่ Quietsands หน้าเมืองท่าเรือ Port Isode ใน Rosaria (ตามจุดในแผนที่)

 

 

👹Notorious Marks ตัวที่ 16 : Svarog (ruin reawakened)

 

 

พิกัด: วาร์ปมาที่ East of the Glorieuse Gate ทางใต้ของเมือง Northreach ใน Sanbreque มุ่งลงใต้ต่อจนถึง Mornebrune  (ตามจุดในแผนที่)

 

 

 

 ตอนนี้จะมีเควสจากเนื้อเรื่องหลัก 3 เควสจากสามสถานที่ที่ต้องไปทำซึ่งจะปรากฎอยู่ใน Alliant Reports ประกอบด้วย 

 

 

 

📒Quest

Quest: Why We Fight ที่ Northeach 

Quest: The Flames of War ที่ Martha’s Rest

Quest: Down the Rabbit Hole ที่ Dalimil 

 

 

📗Side Quest ที่ Boklad Market

Onward to Discovery 

Bearer of Good News 

Live and Let Live 

 

 

 

 

                         📒  Quest: Why We Fight 

 

 

Objective > เดินทางมาที่ Northeach

 

 

สาวบริการ - เอ่อ นายท่าน 

Clive - เราได้ข้อความขอความช่วยเหลือจาก The Dame เรื่องการพบเห็นมอนสเตอร์แปลกๆ เรื่องนี้เราเข้าใจครับ 

สาวบริการ - ใช่ค่ะ ตาสีฟ้าเหมือน Akashic แต่มันแตกต่างจากเดิม แถมยังมีมากมายจนนับไม่ถ้วนเลยด้วย 

Jill - เหมือน Akashic แต่มันแตกต่างจากเดิมหรอ?

Clive - พวกสนุนของ Ultima ...แล้วคุณผู้หญิงของคุณไปไหนหรอ?

สาวบริการ - นางคงกำลังไปที่กองทหารรักษาการณ์เพื่อถามว่าจะรับมือกับเรื่องนี้ยังไงน่ะคะ

Clive - งั้นเดี๋ยวพวกเราไปดูเธอเอง 

 

 

ทหารรักษาการณ์ - มาดาม ได้โปรดเถอะนะ กว่าครึ่งของกองทหารเราถูกไปพวกนี้ฆ่าตายจนหมด แล้วเราก็เพิ่งเสียกัปตันไปเมื่อเช้าด้วย เราพยายามขอกำลังเสริมไปแต่ไม่มีคำตอบกลับมาจากเมืองหลวงเลยครับ แล้วจะให้ทำอะไรได้อีกล่ะครับ !?

Isabelle - ชั้นก็แค่อยากให้พวกคุณทำหน้าที่ของตัวเอง คนที่ The Veil ต้องการปกป้องของชั้น และชั้นก็จะปกป้องเขาเพราะความปลอดภัยของพวกเขาคือหน้าที่ชั้น และ พวกคุณอาจลืมไปว่า ผู้คนในเมืองนี้คือสิ่งที่พวกคุณมีหน้าที่ต้องปกป้อง แต่มันมากกว่านั้น พวกเขาเป็นมากกว่าแค่ประชาชน พวกเขาเป็นน้องคุณ เป็นพี่ของคุณ เป็นคนรักของคุณ ซึ่งคุณต้องเลือกเอาว่าจะวางดาบแล้วรอดูพวกเขาถูกฆ่าตายหรือลุกขึ้นไปทำสิ่งที่ถูกต้อง 

 

 

Philippe - คุณพูดถูก ที่นี่คือสิ่งที่เรามี คือสิ่งที่เราเหลืออยู่ 

ทหารรักษาการณ์ - แล้วเราจะรอดได้ยังไง ก่อนหน้านี้ก็ตายกันหมดแล้วนะครับ 

Philippe - เราก็แค่ต้องทำในสิ่งที่ต้องทำ ใต้เตียงกัปตันมีเหล้าอยู่ ระหว่างดื่มเรามาคุยเรื่องนี้กัน โอเคมั๊ย?

ทหารรักษาการณ์ - ก็ได้ครับ ...

 

 

 

Isabelle - อ่า ไคลฟ์ ไม่คิดว่าคุณจะรีบมาช่วยเร็วขนาดนี้ ชั้นกำลังลองหาทางจัดการเรื่องต่างๆด้วยตัวเองก่อนพอดีเลย 

Clive - ก็รีบมาเท่าที่จะทำได้เลยครับ เพราะคิดว่าคุณคงกำลังต้องการความช่วยเหลืออะไรแน่นอน 

Isabelle - โอ้ คุณนี่ช่างเข้าใจความต้องการของชั้นจริงๆเลยนะ

Jill - อะ แอ่มม !! เราแค่ต้องการรู้ว่าพวกมอนสเตอร์ที่ว่ามันอยู่ที่ไหน?

Isabelle - ลองไปถามพวกชาวบ้านที่รอดชีวิตดูสิ เขาน่าจะรู้แน่นอน 

Clive - ได้ครับ เราจะลองไปถามพวกเขาดู 

 

 

Clive - โทษทีครับ คุณคือพลหอกที่บาดเจ็บจากสัตว์ประหลาดใช่มั๊ย? ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นหรอครับ?

ทหารบาดเจ็บ - ผมกำลังจะไปหาครอบครัวที่หมู่บ้าน Moore เพราะได้ยินว่า aether กำลังแพร่กระจายอย่างหนัก ก็เลยไปดูว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วก็ไปเจอไอ้พวกตัวเรืองแสงนั่น มันโจมตีผมจากพงหญ้า ผมก็รีบหนีกลับมา ยังไม่ได้ทันได้เข้าหมู่บ้านเลยครับ 

Clive - เดี๋ยวเราจัดการมันเอง 

 

 

Jill - โทษค่ะ คุณเห็นเจ้ามอนสเตอร์ที่โจมตีคุณหรือเปล่า?

ผู้ลี้ภัย - มอนสเตอร์ ... เห็นค่ะ ...มันมาจากไหนก็ไม่รู้ พวกมันโจมตี joseph ก่อนแล้วก็ชั้น แล้วมันก็หายไปเลย 

Jill - คุณจำได้มั๊ยว่าเจอมันที่ไหน?

ผู้ลี้ภัย - บนถนนที่ Oriflamme เรากำลังจะไปที่หมู่บ้าน Moore  แล้วพวกมันก็ ..... joseph ของชั้นเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้

Jill - เขาจะไม่เป็นไร เราจะไปดูให้เอง คุณพักผ่อนก่อนนะ 

 

 

Jill - ชั้นว่าเราพอได้เรื่องแล้วนะ แถวๆหมู่บ้าน Moore นั่นแหละ เราไปที่นั่นกันเถอะ !

 

 

เมื่ออกมานอกเมืองจะพบว่า ตอนนี้ทุ่งกว้างที่ Royal Meadows ไม่ได้สดใสเหมือนเดิมแล้ว ท้องฟ้าเต็มไปด้วยความขุ่ยมัว มอนสเตอร์ต่างก็ซึมซับ eather จนเปลี่ยนเป็นพวก Akashic ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม และยังมีพวกลูกสมุนของ Ultima เพิ่มเข้ามาในพื้นที่ด้วย 

 

 

Objective > เดินทางไปที่ หมู่บ้าน Moore จัดการฝูง Thrall Revenant ให้หมด 

 

 

                            Mini Boss - Thrall Lich 

 

 

Isabelle - เมืองนี้เป็นหนี้บุญคุณมากๆนะคะ

Clive - อย่าเพิ่งขอบคุณเราเลยครับ พวกมันยังเหลืออีกเยอะ มากๆเลยด้วย พวกคุณต้องเตรียมรับมือพวกมันให้ดีๆ 

โอ้ แน่นอน จริงมั๊ยคะกัปตัน?

Philippe - ใช่ครับคุณผู้หญิง พวกเราทหารรักษาการณ์พร้อมแล้ว 

Isabelle - Philippe ในฐานะกัปตันคนใหม่ได้โน้มน้าวทหารให้อยู่ในหน้าที่ได้แล้ว อย่างน้อยก็ตอนนี้ 

Philippe - พอพวกทหารได้ยินว่ามาดามจะเมตตากับชายใดที่ยอมอุทิศตัวเพื่องานนี้ พวกเขาก็เลยคิดว่าคงไม่เจ็บตัวฟรีแน่นอน ก็ยอมรับว่าเป็นการพูดจูงใจที่เห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่ในยามนี้ มีทางไหนก็ต้องเอาไว้ก่อนแหละครับ ส่วนผมไม่ต้องพูดโน้มน้าวอะไรเลย เพราะผมเป็นทการที่จะปกป้องคนที่ผมรัก และประชนชนที่ผมรัก

Isabelle - หล่อแล้วยังปากหวานอีกนะเนี่ย 

Philippe - เอาล่ะ ผมของตัวไปเตรียมพวกทหารให้เรียบร้อยก่อนนะ 

 

 

Isabelle -  ไม่ต้องห่วง ชั้นไม่ได้เชื่อว่าพวกเขาจะช่วยแก้ปัญหาของชั้นได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอนะ แต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าเมื่อเช้า ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะไคลฟ์ที่มาช่วย 

 

 

หลังจากเควส ก่อนจะกลับ แวะไปสำรวจที่ซากเสา Arete Stone ในพื้นที่ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง ซึ่งเมื่อก่อนมันจะใช้งานไม่ได้ แต่ตอนนี้มันสามารถใช้งานได้แล้ว จริงๆแล้วมันคือสิ่งที่เรียกว่า Chronoliths  

 

 

Trial by Light : the hand of Mimas (การทดสอบ Eikon Bahamut) 

พิกัด - Royal Meadows 

 

 

เรียนรู้เกี่ยวกับ Chronoliths 

 

 

โครโนลิธ คือ Arete Stone ที่ซ่อนอยู่ในสถานที่ต่างๆ โดยเมื่อเข้าไปด้านใน จะพบว่า มันคือ accient menhir สนามทดสอบโบราณ ที่ไคลฟ์ ต้องเข้าประลองกับศัตรูภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้  

 

 

-ในแต่ล่ะ โครโนลิธ ที่พบในแต่ละที่ คือการทดสอบ Eikon แต่ละตัว -โดยการทดสอบจะประกอบด้วย 3 Stage และ Final Stage ที่มีบอสออกมาตอนสุดท้าย

- แต่ละ Stage จะต้องต่อสู้ด้วยพลัง Eikon ตัวที่โครโนลิธกำหนดไว้แค่ตัวเดียวเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนได้ 

-แต่ละ Stage จะมีการกำหนดเงื่อนไขให้ใช้ความสามารถของ Eikon นั้นๆเป็นการเฉพาะ แค่ 2 แบบ ไม่สามารถเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนไปใช้อันอื่นได้ 

- การทดสอบจะไม่สามารถใช้ไอเทมเติมพลังชีวิตได้

- การทดสอบทั้ง 3 ด่าน จะมีเวลากำหนดเอาไว้อย่างจำกัด สามารถบวกเพิ่มได้นิดหน่อยจากโบนัสในการใช้ท่าต่างๆ

- ถ้าเวลาหมดแล้วกำจัดศัตรูตัวสุดท้ายไม่หมด จะถือว่า ไม่ผ่าน และต้องเริ่มใหม่เท่านั้น

 

 

เมื่อชนะด่านทดสอบก็จะได้ ไอเทมพิเศษ เป็นรางวัล และ Trial ด่านทดสอบของ Eikon แต่ละตัวก็จะไปอยู่ใน Arete Stone ที่ The Hideaway ในเมนู Final Chronolith Trials ให้เล่นซ้ำเพื่อเก็บ Rank ต่อ 

 

 

 

 

                       📒  Quest: The Flames of War 

 

 

Objective > เดินทางไปที่ Martha’s Rest

 

 

 

Clive - มาร์ธา ดีใจที่คุณปลอดภัยนะ 

Martha - เช่นกันนะ ไคลฟ์ จิล 

Clive - อ๊อตโต้บอกว่าคุณถูกพวก Akashic โจมตี ตอนนี้สถานการณ์ที่นี่เป็นยังไงบ้าง?

Martha - หลังจากท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนไปไม่นานพอตกมืดพวกมันก็เล่นงานเราเลย มากันเป็นร้อยๆเลย พวกมันบุกโจมตีมาจากทางเนินเขา เราพยายามต้านไว้ เหลือแค่บางส่วนที่ผ่านเข้ามาในเมืองได้ ซึ่งนั่นก็มากเกินพอแล้ว ตอนนี้พวกที่เหลือก็ยังอยู่รอบๆเมือง มีคนที่พร้อมจะสู้ออกไปช่วยต้านเอาไว้ แต่พวกมันมีมากกว่ามาก

Jill - เอาไงดีไคลฟ์

Clive - เราคงต้องช่วยพวกเขาสู้ 

Martha - ชั้นคิดว่าพวกคุณจะไม่มาช่วยซะอีก เอาล่ะ ที่ต้องการตอนนี้คือที่ประตู Fallen Gate มีการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุด พวกคนที่กำลังสู้อยู่พอเห็นคุณมาช่วยคงจะดีใจมาก

 

 

สถานการณ์ฝั่ง ประตู Fallen Gate

 

 

Clive - พวกคุณตั้งใจมาปล้นที่นี่งั้นหรอ?

ทหาร - คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ ลอร์ด รอสฟิลด์ เรามาช่วยตามคำสั่งของมาร์ธาต่างหาก 

Clive -แล้วคุณรู้ชื่อผมได้ยังไง?

Guardian of the Flame - ต้องขอโทษด้วยที่เราไม่ได้แนะนำตัว พวกเราคือคนของ Guardian of the Flame ครับ 

 

Clive - อ้าว คนของ Wade หรอ? ทำไมถึงมาไกลถึงนี่ล่ะ? และหัวหน้าคุณไปไหน?

Guardian of the Flame - ท่าน Wade เดินทางมาที่นี่ก่อนหน้าเราแล้วพบว่าถูกพวก Akashic โจมตี เลยสั่งให้เรามาสมทบครับ

Clive - งั้นหรอ? ตอนนี้พาคนเจ็บเข้าไปพักในโรงแรมก่อนเถอะ 

 

 

Martha - เดี๋ยวชั้นดูแลพวกเขาเอง แต่แหม คุณก็ช่างไปคิดว่าพวกเขาเป็นโจรซะได้ เขาอุตสาห์มาช่วยแท้ๆ 

Clive - แล้ว Wade กับคนของเขามาถึงที่นี่ตอนไหนหรอครับ?

Martha - ก็หลังจาก Rosalith ล่มสลายไม่นาน พวก การ์เดี้ยน บางส่วนมาขอที่พักพิงเพราะเสียบ้านน่ะ 

 

 

ทหารรับจ้าง Bloodaxe - มาร์ธา เกิดเรื่องแล้ว กองสอดแนมที่กำลังกลับมาที่นี่ถูกพวก Akashic โจมตีที่หน้าลิฟต์ พวกเขามีพวกคนบาดเจ็บด้วย น่าจะรับมือไม่ไหวแน่ 

Clive - ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวเราไปช่วยเอง

Jill - พวกคุณคอยดูคนเจ็บที่นี่ก็แล้วกัน ถ้าใครพอสู้ไหวแล้วก็ส่งไปช่วยได้เลย

 

 

 

สถานการณ์หน้าลิฟต์ฝั่งทางออก Sorrowise 

 

 

Wade - ชั้นต้องการให้พวกนายพาคนที่บาดเจ็บขึ้นลิฟต์ไปหา มาร์ธา ด่วนเลย 

Oscar - แต่ ..แล้วท่านล่ะครับ ?

Wade - ทำตามที่สั่ง ออสก้า !!

Oscar - ครับๆๆๆ ...

 

 

Clive - เซอร์ Wade 

Wade - ลอร์ด รอสฟิลด์ คุณมาได้ยังไงเนี่ย?

Clive - มาร์ธาส่งข้อความข้อความช่วยเหลือไปน่ะ 

Wade - เราพยายามตามพวกมันไป จนพบว่าพวกมันมีเพียบเลย เรามีกำลังน้อยกว่าเลยเสียคนไปหลายคน 

Jill - พวกมันบุกมาอีกแล้ว !!!

 

 

Wade - บ้าเอ้ย เราต้องต้านไว้ให้คนเจ็บปลอดภัย 

Jill - คิดว่าเราเอาอยู่มั๊ยไคลฟ์?

Clive - ยังไงก็ต้องลอง ...นายเอาด้วยหรอเซอร์ Wade?

Wade - ลุยด้วยเสมอแหละนายท่าน 

Clive - งั้นมาทำหน้าที่เรากัน !!

 

 

Wade - ไม่มีใครบาดเจ็บนะครับ? …เป็นอีกครั้งที่พวกคุณช่วยดึงผมออกจากกองไฟ และน่าเสียดายที่ผมก็คงจะต้องเดินเข้าไปอีกครั้งแน่นอน 

Clive - นายไม่เคยหวั่นต่ออันตรายเหมือนเดิมนะเซอร์ Wade ควรค่ากับการเป็น โล่ แห่งโรซาเรียจริงๆ 

 

 

Martha - ดีใจที่เห็นพวกนายไม่เป็นอะไร

Clive - มีอะไรเกิดขึ้นอีกหรอครับ?

Martha - เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเห็นควันหนามากลอยมาจากทาง Eastwood 

Wade - มาอีกฝูงแล้วงั้นหรอ?

Clive - งั้นไปทำงานของเราให้เสร็จกันเถอะ !  ..ผมกับจิลจะไปจัดการพวกมันเอง พวกคุณดูแลคนเจ็บก็แล้วกัน 

Martha - ไม่ต้องห่วง คนของผมปลอดภัยแล้ว พวกคุณโชคดีก็แล้วกัน 

 

 

สถานการณ์หน้าประตูฝั่ง Greensheaves 

 

 

Clive - หมดยัง?

Jill - ชั้นไม่เห็นพวกมันแล้วนะ น่าจะหมดแล้วล่ะ

Wade - แต่อีกไม่นานพวกมันน่าจะมาอีก 

Clive - งั้นเราก็ต้องช่วยมาร์ธาเท่าที่เราจะทำได้ก็แล้วกัน 

 

 

Martha - พวกคุณเจออะไรข้างนอกนั่นบ้าง?

Clive - ก็เหมือนกับ เซอร์ Wade ... ฝูง Akashic 

Martha - ไม่ว่าพวกมันมาจากไหน แต่ตอนนี้มันหมดแล้ว หน่วยเฝ้าระวังของเราบอกว่า ในเขต Lowland เคลียร์แล้ว อย่างน้อยก็พอมีเวลาให้เรารักษาคนเจ็บได้ 

Jill - มีคนเจ็บมากมั๊ยคะ?

Martha - น่าจะมากกว่านี้ถ้าพวกคุณไม่มาช่วย ขอบคุณมากนะสาวน้อย 

Wade - ยังไงครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นชัยชนะของเรา แต่ตราบใดที่ท้องฟ้ายังมืดอยู่พวก Akashic มันต้องเพิ่มจำนวนขึ้นอีก และไม่สำคัญว่าพวกมันจะมาอีกหรือไม่ ไม่ช้าหรือเร็วมันมาแน่ ประเด็นคือ เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม ที่โรงแรมนี้เป็นชัยภูมิที่ดีมาก ผมอยากจะทำที่นี่เป็นด่านหน้าของเรา 

Clive - คุณจะว่าไงมาร์ธา ดูเหมือนคุณจะมีคนมาคอยดูแลอีกเพียบเลยนะ 

Martha - แหมก็พูดซะขนาดนั้น แน่นอน โอเค ชั้นเอาด้วย

 



หลังจากเควส ก่อนจะกลับ แวะไปสำรวจที่ซากเสา Arete Stone ในพื้นที่ ที่อยู่ใน Greensheaves ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง 

 

 

Chronoliths Trial by Fire : the hand of Hyperion (การทดสอบ Eikon Phoenix) 

พิกัด - Greensheaves 

 

 

 

 

                        📒  Quest: Down the Rabbit Hole 

 

 

 

Objective > เดินทางไปที่ Dalimil

 

 

L’ubor - อ่า Sid คู่หูใหม่ของคุณคราวนี้น่าเกรงขามกว่าตาลุงของคุณเยอะเลย …มีอะไร? ทำไมหน้าตาเคร่งเครียดกันจัง ผมควรต้องกังวลป่ะเนี่ย?

Clive - อ่อ ลืมไปว่ายังไม่ได้แนะนำให้รู้จักเลย

Jill  - ชั้น จิล ค่ะ ไคลฟ์เล่าเรื่องคุณให้ฟังเยอะเลย

L’ubor - เค้าโกหกทังเพ ...

Jill  - เห็นคุณส่งข้อความหาเราว่าที่นี่กำลังมีปัญหาเรื่องพวกโจรหรอคะ?

L’ubor - ใช่เลย แต่ดูเหมือนพวกคุณจะมาช้าไปนะ พวกมันบุกมาเมื่อวันก่อนได้สินค้ากับเงินไปนิดหน่อย 

Clive - รู้มั๊ยมันไปทางไหน?

L’ubor - คุณก็รู้ ทะเลทรายมันกว้างมาก แต่ อันที่จริงผมมีเรื่องที่ต้องห่วงมากกว่า

 

 

ชาวบ้าน - แกพูดแบบนี้กับชั้นได้ยังไงห๊ะ? พูดได้ยังไง!!

L’ubor - อ่า นั่นไง ยังไม่ขาดคำ ...ถ้าจะให้พูดก็คงประมาณว่า ..คือเรามีฉันทามติที่ยังตกลงกันไม่ได้นิดหน่อย เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นใน Dalimil ซึ่งในกรณีนี้ หมายถึงพวกเขากำลังสงสัยว่ามันเป็นฝีมือของพวกโจรหรือพวกเรากันเองน่ะ ผมเองก็พยายามพูดด้วยเหตุผลกับฝ่ายที่ไม้เห็นด้วยแล้ว แต่ก็นะ สำหรับ Desert Hare บางทีมันก็มีขีดจำกัดสำหรับที่นี่เหมือนกัน

 

 

Jill  - เราคงต้องลองไปคุยกับพวกเขาดูหน่อยแล้ว 

Clive -แล้วเธอคิดว่าพวกเขาจะฟังเราหรอ?

Jill  - ทำไมนายถึงคิดว่าพวกเขาจะไม่ฟังล่ะ?

L’ubor - ผมว่าเธอก็พูดมีเหตุผลนะซิด แต่ถึงคุณจะล้มเหลวคุณก็คงไม่เสียเวลาอะไรมากหรอกเพราะพวกเขาอยู่แค่อีกฝั่งของถนนนี้เอง 

 

 

โรงแรม Dalimil

 

 

Konrad - เธอจะไม่พูดแบบนี้ออกมาแน่ถ้าคนของเธอถูกเชือดคอ เลือดต้องล้างด้วยเลือด นั่นแหละวิธีของเรา !! เราในฐานะทหารรับจ้างจะติดหัวของพวกโจรบนฝาบ้านเพื่อให้เป็นบทเรียนของพวกที่เหลือ !!

Natakie - แล้วจะทำยังไงถ้าฝ่ายที่ถูกเชือดคือทหารรับจ้างของคุณเอง คุณมีปัญญาจ้างเพิ่มเองมั๊ยล่ะ? สู้เอาเงินไปซื้ออาหารดีกว่าถ้าจะไปจ้างทหารรับจ้างที่จะไปช่วยเพิ่มความโกรธแค้นให้พวกโจรอ่ะนะ !! และทั้งหมดมันก็จะไม่ทำให้พวกคุณท้องอิ่มด้วย !! เข้าใจที่ชั้นพูดมั๊ยเนี่ย?

 Konrad -แล้วจะทำไงถ้าพวกมันกลับมาอีก บางทีครั้งต่อไปที่ถูกเชือดอาจเป็นลิ้นของเธอก็ได้ !!!

 

 

Viktor- พอได้แล้ว !! ทั้งคู่เลย !!! แค่นี้ยังวุ่นวายไม่พอหรือไง? ถ้าไม่หยุดชั้นจะโยนพวกนายออกไปข้างนอกเอง !!! ถ้าพร้อมจะพูดคุยกันแบบคนที่โตๆกันแล้วก็ค่อยกลับมา !!

 

 

Clive - มันเกิดอะไรขึ้นหรอครับ?

Viktor- อ้าว Cid ..Jill ทำไมพวกคุณมาที่นี่เนี่ย?

Clive - ผมอยากจะถามอะไรหน่อยครับ มันเกิดอะไรขึ้นหรอ?

Viktor- ตอนนี้เมืองกำลังวุ่นวาย ร้านในตลาดก็หยุดค้าขายกันหมด ก็เหลือแค่ร้าน Briar’s kiss ที่พอจะหาซื้อเสบียงได้บ้าง ผมมาที่นี่เพราะท่าน L’ubor ขอร้องให้มาช่วยเจรจากับพวกโง่พวกนี้ แต่ตอนนี้คุณอยู่ที่นี่แล้ว ผมคิดว่าความโกรธของพวกเขาอาจจะลดลง 

Jill - คนพวกนั้นคือใครหรอคะ? ทะเลาะกันเรื่องอะไร?

 

Viktor- มันเกิดจากคนของ L’ubor ที่ดูเหมือนกับเราจะสร้างความรุนแรงจนชาวบ้านอีกฝั่งนึงกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่เหมือนกับที่เกิดใน kostnice ท้องฟ้ายังเปลี่ยนเป็นมืดได้ ใจคนก็คงจะเหมือนกัน ไม่แน่ก็อาจจะบ้าคลั่งกันทั้งเมือง 

Clive - เรื่องท้องฟ้า เราจะแก้ปัญหาเอง ส่วนตอนนี้ เราควรจะหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ Dalimil กันก่อนเถอะ 

Viktor- ก็ดีเหมือนกันครับ งั้นเราไปคุยเพื่อหาทางออกกัน

 

 

L’ubor - คุณเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วสินะ

Clive - ที่ผมเห็นคือชาวเมืองที่กำลังโกรธและหวาดกลัว ซึ่งก็มีเหตุผลทั้งสองฝ่ายด้วย แต่ถ้าปล่อยเอาไว้ เมืองอาจลุกเป็นไฟได้ 

L’ubor - นั่นแหละที่ผมคิดอยู่ แล้วเราจะทำไงกันดี? … ทั้งสองฝ่ายต่างก็หวังดีและอยากจะปกป้องการมีชีวิตอยู่ของตัวเอง ถ้าทำให้พวกเขาตกลงที่จะทำงานร่วมกันได้ก็คงดี ถ้าปล่อยให้แตกแยกเราก็จะมีแต่อ่อนแอลง

Jill - ซึ่งจะเข้าทางพวกโจรเลย 

Viktor- แล้วคุณมีอะไรจะแนะนำบ้างมั๊ย Cid the Outlaws?

 

 

Clive - อืมม ถ้าจะให้คิดในนามนั้นล่ะก็ ..... เขาก็คงจะปล่อยให้พวกเขาเลือกกันด้วยตัวเอง แล้วค่อยตามแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดที่ตกหล่นให้เห็นทีหลัง  

Jill - ฟังดูมันเหมือน เป็นสูตรสำเร็จของความหายนะเลยนะ ...

L’ubor - สูตรสำเร็จของความหายนะคือสิ่งที่มันเป็นอยู่ แต่บางทีการตระหนักรู้ด้วยตัวเอง จากการที่เราแกล้งตั้งคำถามถึงปัญหาแบบปลายเปิดเอาไว้ เพื่อให้พวกเขานึกถึงเหตุผลด้วยตัวเอง และแน่นอนว่าทั้ง Konrad และ Natalie ก็ไม่รับฟังเหตุผลจากอีกฝ่ายแน่นอน และถ้าจะให้คนเกริ่นให้พวกเขาคิดถึงเหตุผลของปัญหานั้น เราต้องหา บุคคลที่ 3 เป็นคนคุย

 

 

Viktor- แล้วจะเอาใครไปคุย? ก็ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายพุ่งไปที่เป้าหมายเดียวกันคือพวกโจร 

L’ubor - อืมม ดูเหมือนคราวนี้เราคงต้องวางแผนกันหน่อยแล้ว Viktor นายไปคนไปคุยเรื่องแขกของเรากับ Konrad และชั้นจะไปคุยกับ Natalie เอง

Viktor- ได้เลยครับ

 

 

L’ubor - อืมมม หน้าตาของพวกคุณไม่มีใครรู้จักในเมืองนี้แน่ นั่นอาจเป็นประโยชน์ ไม่ต้องห่วง ผมกับ Viktor จะเป็นคนพูดนำเอง ส่วนพวกคุณก็แค่ไหลตามน้ำไปก็พอ 

Clive - ไหลตามน้ำงั้นหรอ?

Jill -หมายถึงเราต้อง เออ ออ ห่อหมกไป ใช่ครับพี่ดีครับท่านไป น่ะ 

Clive - โอเค ...

 

 

Viktor- โอ้นี่ไง Lady of the Spear นางมานี่แล้ว .. Konrad ชั้นขอแนะนำให้รู้จัก Jayne ผู้บัญชาการณ์ของ Red Wings กิลด์ทหารรับจ้างที่เก่าแก่ที่สุดของ Free Cities 

Konrad - ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณผู้หญิง 

Jill - เช่นกันค่ะ 

Viktor- อย่างที่ชั้นบอกนั่นแหละ ชั้นเชิญท่านมาจาก Kanver เพื่อคุยกันเรื่องเกี่ยวกับสัญญา

Konrad - Viktor บอกว่าคุณปฎิเสธเขาไปงั้นหรอครับ? ที่ว่าไม่มีใครให้ว่าจ้างแล้วนั้นจริงรึเปล่า?

Jill - จริงยิ่งกว่าจริงซะอีก ไม่ใช่แค่พวกเราเท่านั้นนะ พวกขุนนางก็บอกอยากได้แบบที่มันคุ้มค่าจ้างหน่อย คุณคงรู้จัก Seven High house นะ?  นั่นจะต้องใช้คะแนนประเมินมากกว่า 2 ดาบเป็นอย่างน้อย จริงอยู่ว่าเราก็ยังพอมีคนของเราอยู่ แต่มันเหลือไม่กี่คน และคุณล่ะใช่คนที่เรามองหาอยู่รึเปล่า ? 

Viktor- ว่าไงล่ะ Konrad? นายกำลังบอกว่า ทหารรับจ้างที่เก่งที่สุดใน Dalimil อย่างนายกลับปกป้องเมืองตัวเองไม่ได้อย่างกับคนไร้ฝีมือเนี่ยนะ? คิดว่าพวกเด็กที่หนวดยังไม่ขึ้นจะล้างแค้นพวกโจรได้ดีกว่านายงั้นหรอ?

Konrad - ไม่ใช่แน่นอน !! เราจะแสดงให้พวกมันเห็นเองว่าพวกมันกำลังเผชิญหน้ากับใครอยู่ !!

 

 

Clive - หวังว่าคงได้ผลนะ 

Viktor- Konrad ไม่ได้ฉลาดอะไรหรอก เขาเป็นไม่ได้แม้แต่เทียนที่ส่องสว่างในห้องใต้ดินด้วยซ้ำ นั่นถึงต้องให้คุณผู้หญิงพูดแทนซิด เล่นได้เนียนมากเลยครับ 

 

 

L’ubor - นี่ไงล่ะ เขามาพอดีเลย Natalie ชั้นขอแนะนำให้รู้จัก ลอร์ด อันเดอร์ฮิลด์ แห่งกลุ่มพ่อค้าอันทรงเกรียติของ Ran’dellah 

Clive - เอ่อ ...ผม ลอร์ด อันเดอร์ฮิลด์ ยินดีรับใช้ครับ 

Natalie - อันเดอร์ฮิลด์ ...

L’ubor - ผมแค่เราเรื่องให้กับผู้หญิงคนนี้ฟังครับนายท่าน เกี่ยวกับร้านค้าในเมืองหลวงของท่านไง 

Natalie - L’ubor บอกว่า ไม่เพียงยุ้งฉางจะว่างเปล่าแต่สงครามทำให้ผลผลิตในฤดูกาลนี้อาจไม่เพียงพอด้วยงั้นหรอคะ?

Clive - แน่นอน เอ่อ ใช่แล้ว ประมาณนั้น พวกขุนนางเองก็กำลังกักตุนข้าวบาเลย์ ไวน์ ในเมืองทำให้ราคาสูงจนคนทั่วไปไม่อาจซื้อได้ไหว ที่เหลือก็รอเวลาให้เกิดการลุกฮือกันเท่านั้น

L’ubor - เห็นมั๊ย มันน่ากลัวมาก ถ้าเกิดอะไรแบบนั้นจริงเราคงต้องเตรียมพร้อมร้านค้าของเราเพื่อรับมือกับเรื่องแบบนี้แล้วล่ะ จริงมั๊ย? แม้ผมจะชื่นชมคุณที่จะออกมาช่วยปราบปรามพวกโจรร้ายเพื่อแก้แค้น แต่ดูเหมือนพวก Konrad กำลังทำเรื่องนี้อยู่แล้วนะ ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะงั้นผมว่าคุณคอยรวบรวมของใช้เล็กๆน้อยๆอย่าง อาหาร ยาสมุนไพร หรืออะไรก็ได้ที่เอาไว้ใช้เวลาเกิดเรื่องเลวร้ายน่าจะเหมาะกว่านะ เราต้องสู้กับความอดอยากกันไปอีกนาน ความเป็นหนึ่งเดียวกันจึงสำคัญมากๆ

Natalie - ก็ได้ ถ้ามันจะช่วยปกป้องบ้านเมืองของชั้น ชั้นก็จะทำ 

 

 

L’ubor - ขอบคุณมากนะไคลฟ์ แม้การแสดงของคุณมันจะห่วยไปหน่อย มันเหมือนคนงานมากกว่าพ่อค้าอ่ะนะ 

Clive - นางเชื่อก็พอแล้วน่า 

L’ubor - ก็จริง ได้ผลตามที่เราตั้งใจไว้ก็พอ เอาล่ะ ไปรอที่ร้านผมกันเถอะ รอให้หน่วยสอดแนมมาอัพเดทข่าวว่าเป็นยังไงบ้าง

 

 

Viktor- ข่าวดี ซิด ตอนนี้ทั้ง Konrad และ Natalie ต่างก็กำลังทำหน้าที่ของตัวเองกันอย่างดีมากๆ

Clive - ดีแล้วที่พวกเขาได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง 

L’ubor - แต่ เวลา ไม่ได้หรูหราเหมือนอาหารกลางวันหรอกนะ 

Clive - หน่วยสอดแนมของคุณเจอพวกโจรสินะ

L’ubor - อันที่จริงต้องบอกว่าพวกโจรเจอหน่วยสอดแนมของผมมากกว่า และตอนนี้มันก็กำลังมุ่งหน้ามาที่นี่แล้วด้วย มากันยกรังเลยล่ะ

Jill - เอาจริงดิ 

Viktor- พวกมันคงหวังจะมาปล้นอาหาร คราวนี้มันคงเอาไปหมดเมืองแน่เลย

L’ubor - ผมได้รับรายงานว่า พวกมันแบ่งออกเป็นสองกลุ่มกล่มมาจากทางใต้ อีกกลุ่มมาทางทะเลทราย มันกะจะรุมกินโต๊ะเราจากสองด้านกันเลย

 

 

Clive - งั้นผมกับจิลจะไปจัดการพวกที่มาจากฝั่งทะเลทรายเอง แล้วพวกที่เหลือล่ะ?

 L’ubor - พวกที่เหลือหรอ? เพื่อน นี่มันเมืองเรา คนทั้งเมืองต้องร่วมแรงร่วมใจกันปกป้องด้วย ผมรู้ว่ามันก็เสี่ยง แต่นี่ Dalimil นะ เราไม่ยอมเสียมันไปง่ายๆหรอก 

Viktor- ผมเข้าใจดีเรื่องที่การร่วมมือร่วมแรงกัน แต่ เมื่อครู่นี้พวกนั้นยัง ...

L’ubor - คำว่าร่วมแรงร่วมใจกัน ชั้นหมายถึง พวกเราด้วย 

Viktor- คิดว่าคุณจะไม่พูดงั้นซะแล้ว

Clive - เอาล่ะ ลุยกันให้เต็มที่เท่าที่จะทำได้ก็แล้วกันนะ !

 

 

สถานการณ์หน้าประตูฝั่งทะเลทราย 

 

 

Konrad - Natalie ผมติดค้างคำขอโทษกับคุณนะ พวกคุณทำได้ดีมากข้างนอกนั่น คงไม่มีโรงแรมแน่นอนถ้าไม่มีคนอย่างคุณ 

Natalie - ไม่มีพวกคุณเราก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน Konrad คุณช่วย Dalimil เอาไว้ 

Konrad - เรา ช่วย Dalimil ด้วยกันต่างหาก 

 

 

Clive - Konrad คงจะเปลี่ยนความคิดของเขาแล้วล่ะ 

Jill - ชั้นว่าทั้งคู่นั่นแหละ 

 

 

L’ubor - เสียดายจริงๆเลยที่ผู้มาเยือนจากทะเลทรายของเราจะไม่เข้าร่วมด้วย

Viktor-แผนเราสำเร็จ ซิด ...แต่ก็อดกลัวไม่ได้ว่าพวกโจรกระหายเลือดมันจะมากันอีก

L’ubor - ให้มันมาเถอะวิคเตอร์  นายก็เห็น เราเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว นั่นสำคัญที่สุด ส่วนคุณ ซิด การต่อสู้ของคุณทำได้ดีกว่าการแสดงเยอะเลย 

Clive - จะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกันนะ

 

 

หลังจากเควส ก่อนจะกลับ แวะไปสำรวจที่ซากเสา Arete Stone ในพื้นที่ ที่อยู่ใน Drakos Deep ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Dalimil  

 



Chronoliths Trial by Wind : the hand of Dione (การทดสอบ Eikon Garuda) 

พิกัด - Drakos Deep 

 



 

ตำแหน่ง Chronoliths Trial by Thunder : the hand of Iapetus (สนามทดสอบ Eikon Ramuh) 

 

 

 

    พิกัด - Norvent Valley / Caer Norvent River Gate 

 

 

 

ตำแหน่ง Chronoliths Trial by Earth : the hand of Titan (สนามทดสอบ Eikon Titan) 

 



 

   พิกัด - Northern Valkroy Desert 

 

 

 

 

                           Boklad Markets SideQuest 

 

 

SideQuest: Onward to Discovery 

SideQuest: Live and Let Live

SideQuest: Beare of Good News 

 

 

 

                    📗  SideQuest: Onward to Discovery

 

 

 

นักวิชาการ Jachym - อืมมม เหล็กมีรอยบาก และรูปร่างที่ดีมาก ผมกำลังหาดาบดีๆอยู่พอดีเลย เล่มนี้น่าจะคุ้มเงินที่เสียอยู่นะ ว่าไง สนใจจะขายให้ผมมั๊ย?

Clive - นี่คุณตั้งใจจะใช้มันจริงๆหรอ?

นักวิชาการ Jachym - ด้วยความที่ผมเป็นนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ของ Dzemekian เลยตั้งใจจะสำรวจซากโบราณสถานรอบๆพื้นที่นี้หน่อยน่ะครับ ผมก็เลยอยากหาเพื่อนร่วมทางที่แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องผมจากสัตว์ร้ายข้างนอกนั่นได้ ถ้าคุณยินดีที่จะทำ นอกจากค่าจ้างแล้วยังจะได้รู้ถึงเรื่องราวในประวัติศาสตร์อันยาวนานของ Dzemeks ด้วย สนใจมั๊ยล่ะ ?

Clive - โอเค ผมตกลง 

นักวิชาการ Jachym - เยี่ยมม งั้นเราไปกันเลย มันแต่เสียเวลาไม่ได้หรอก 

Clive - เอ่อ เดี๋ยวๆ …. เฮ้ออ  ขอให้คลาดแคล้วกับพวก Ne’er-do-well ก็แล้วกันนะ ...

 

 

จุดแรก ... จัดการกลุ่มโจร Ne’er-do-well 

 

 

Clive - ออกหน้าตลาดก็เจอซะแล้ว บาดเจ็บหรือเปล่าคับ?

นักวิชาการ Jachym - โชคดีที่ไม่เป็นไรเลย ขอบคุณที่มาช่วยได้ทันเวลานะ แต่ที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ 

 

 

นี่ไง ลองมองความงดงามที่น่าอัศจรรย์ตรงหน้าเรานี่สิ ซากปรักหักพัง มรดกแห่งอารยธรรมที่ล่มสลาย มันกลายเป็นภาพที่ชินตาของคนทั่วไปเพราะพบเห็นมานานจนมองไม่เห็นความอัศจรรย์ของมัน เราเรียกพวกมันว่า เรือเหาะ โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคำกล่าวที่ว่ามันหมายถึงอะไรที่อัศจรรย์แค่ไหน ถามจริง มันไม่มีอะไรที่ทำให้คุณอยากรู้ถึงเรื่องราวที่มาที่ไปของมันบ้างเลยหรอ?

 

 

แม้เราจะรู้ว่าซากอารยธรรมที่ล่มสลายมันเป็นสิ่งที่เราเกือบจะทำลายไม่ได้ ซึ่งสังเกตจากรอยแยกของหินที่เสมือนเป็นตราบาปสุดท้ายที่อยู่ใกล้ๆมันอย่างที่คุณเห็นอยู่ตรงหน้า 

 

 

มันเป็นความลับที่เย้ายวนให้ค้นหาอย่างไม่ต้องสงสัย นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายปริศนาทางประวัติศาสตร์ที่มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วนใน Dzemekian

 

นักวิชาการ Jachym - เอาล่ะ มาเถอะ เดินทางกันต่อ เรามีเรื่องที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย 

 

 

จุดที่สอง ... จัดการฝูงก็อปลิน 

 

 

Clive - การเรียนรู้ของคุณมันเหมือนการฆ่าตัวตายชัดๆเลยนะครับ 

นักวิชาการ Jachym - โอ้ ไม่หรอก ผมไม่ทำงั้นหรอก ไม่เห็นหรอความสง่างามของมัน ความยิ่งใหญ่ที่ทอดยาวอยู่ตรงหน้าเรา บาปครั้งสุดท้ายของความรุ่งโรจน์

 

 

ดั่งที่ Moss ** เคยกล่าวไว้ มีการสู้รบที่นี่ในสมัยโบราณ การต่อสู้ที่ดุเดือดจนปล่องภูเขาไฟแหลกสลาย (**บันทึกพงศาวดารของมอส "Moss the Chronicler" ซึ่งเป็นงานเขียนโบราณของนักวิชาการประวัติศาสตร์วาลิสเธียนชื่อ Moss)

 

 

เมื่อมนุษย์เข้าไปถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของตนเองได้ จึงนำมาซึ่งความโกธาของพระเจ้า และการแก้แค้นที่ตกทอดมาถึงพวกเขานั้น ใหญ่หลวงยิ่งนัก ...

 

 

นักวิชาการ Jachym - แต่ อนิจจา ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้กลับสูญหายไปตามเวลา แม้ว่าผมจะพยายามที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อให้ถึงวันได้ค้นพบมันก็เถอะ ...แต่ เราจะจมอยู่กับสิ่งนี้อย่างเดียวไม่ได้ ยังมีสิ่งอื่นอีกมากมายที่ผมอยากจะเห็น 

 

 

 นักวิชาการ Jachym -  ลุยต่อไปข้างหน้า ประวัติศาสตร์รออยู่ !!!!

Clive - เฮ้ออออ ........มันจะรอดมั๊ยเน้อ ...

 

 

 

จุดที่สาม ... จัดการฝูง Fallen echoes 

 

 

 

Clive - ไง ยังครบ 32 นะจารย์ ...

นักวิชาการ Jachym -  ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น ผมเป็นหนี้คุณอีกแล้ว เป็นอีกครั้งที่ฝีมือของคุณทำให้ผมประทับใจ พวกศัตรูพวกนี้คนทั่วไปก็เรียกแค่ ตัวประหลาด แต่นักวิชาการจะเรียกว่า echoes แม้ว่าใน บันทึกพงศาวดารของมอส จะเห็นด้วยที่ว่า การล่มสลายของ Dzemekys มาจากความโกรธแค้นของทวยเทพที่มีต่อมนุษย์ 

 

 

เขาให้อธิบายไว้เล็กน้อยเกี่ยวซากโบราณที่เราเห็นตรงหน้านี้ด้วยความงดงามอันวิจิตรบรรจง แต่มันไม่ได้ตอบโจทย์ทางวิชาการอะไรเลย ถ้ามองจากการสิ่งปลูกสร้าง มันคือการบุกรุกอาณาเขตของเทพเจ้ารึเปล่า?

 

 

นักวิชาการ Jachym -  อนิจจา ทั้งหมดมันก็แค่การคาดเดา แต่วันนึง บางที ผมอาจจะได้รู้ความจริง

Clive - ถ้าคุณไม่วิ่งเข้าหาปัญหาจนตายก่อนอ่ะนะ

นักวิชาการ Jachym -  คุณพูดถูก นอกจากคุณจะช่วยผมจากความตายมาหลายครั้ง คุณยังเป็นผู้ฟังที่ดีซะด้วยนะ 

Clive - ก็ ดีใจที่ได้ช่วยครับ แต่ คุณบอกว่าจะมาที่นี้เพื่อค้นหาอะไรบ้างอย่าง? 

นักวิชาการ Jachym -  ผมอาจจะพูดเกินจริงไปหน่อย จริงๆแล้วผมก็แค่อยากจะมาเปิดหูเปิดตาแค่นั้นแหละ  ช่วงหลังๆนี่แม้แต่เพื่อนนักวิชาการด้วยการยังเริ่มจะเบื่อความคิดของผมแล้ว ผมเลยอยากจะจ้างเพื่อนร่วมทางที่มาเป็น ผู้จำใจรับฟัง ก็เท่านั้นเอง 

Clive - คุณต้องการแค่นั้นจริงๆน่ะหรอ?

นักวิชาการ Jachym - เกรงว่าจะเป็นเช่นนั้นอ่ะนะ เอาล่ะ เราคงต้องกลับกันซะที

Clive - ดี ผมรอคำนี้มานานแล้ว อย่าวิ่งไปต่ออีกล่ะ...

 

 

นักวิชาการ Jachym - และแล้ว วันที่แสนสุขก็จบลง นี่ครับค่าเหนื่อยของคุณไม่รู้ว่าเงินเพียงเล็กหน่อยจะพอสำหรับการเสียเวลาการฟังผมพล่ามหรือเปล่าอ่ะนะ ?

 

 

                              📗 SideQuest: Live and Let Live

 

 

 

Kveta - ชั้นเคยเห็นคุณช่วยเหลือพวกของ Eloise บางทีคุณอาจจะเมตตาช่วยชั้นบ้างมั๊ยคะ?

Clive - ก็อาจจะนะ มีอะไรให้ช่วยงั้นหรอ?

Kveta - ช่วยหาคนน่ะ พอดีชั้นมีปัญหาเรื่องพวกหัวขโมยมานานมาก ทำยังไงก็หยุดไม่ให้พวกมันมาขโมยของชั้นไม่ได้ซักที ชั้นก็เลยไปเล่าให้เพื่อนๆฟังแล้วเพื่อนๆก็อาสาไปจับตัวพวกโจรให้ Josef ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ตอนนี้หลายวันแล้วเขายังไม่กลับมาเลย ก็เลยชักจะเป็นห่วงน่ะ

Clive - ได้สิ ผมจะลองดูให้ แล้วพอจะรู้มั๊ยว่าเขาไปตามจับโจรแถวไหน?

Kveta - น่าจะแถวถนน Old Dzemekys นะคะ บางทีเขาอาจจะโง่พอที่คิดว่าพวกขโมยพวกนั้นยังอยู่ที่ Boklad Josef ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาตลอดทำให้ผมเขาหงอกก่อนวัยอันควร ก็หวังว่าเขาคงไม่ชีวิตไปทิ้งเพราะข้าวสองสามกระสอบหรอกนะ  

Clive - ผมว่าแถวนี้ไม่น่าจะมีคนผมหงอกหลายคนหรอก น่าจะมีคนเห็นเขาบ้างก็ได้ เดี๋ยวผมลองไปสอบถามดูก็แล้วกัน

 

 

ผู้อพยพ - คุณต้องการอะไรหรอ ชั้นไม่มีเงินหรอกนะ

Clive - แค่ต้องการถามอะไรหน่อยครับ คุณพอจะเห็นทหารรับจ้างผมสีเทาผ่านมาทางนี้บ้างมั๊ย?

ผู้อพยพ - ผมหงอกหรอ เหมือนจะเห็นนะเมื่อกี้เขาย่องๆแอบผ่านไปที่ทางออก

Clive - พอรู้มั๊ยว่าเขาไปทางไหน?

ผู้อพยพ - แล้วชั้นจะรู้ได้ยังไง? ก็คงไปตามถนนนั่นแหละ คุณเองก็เหมือนกัน ควรไปได้แล้ว

 

 

ผู้อพยพ - คือเราไม่อยากมีปัญหาหรอกนะ

Clive - ผมแค่อยากจะถามหาคนน่ะคับ ทหารรับจ้างผมหงอกๆ 

ผู้อพยพ - ชั้นไม่เห็นหรอก

เด็กชาย - ผมเห็นๆๆ ผมเห็นเขาปีนขึ้นไปบนเนินหินตรงนั้นครับ ดูเหมือนเขาน่าจะตามหาพวกขโมยเจอแล้ว แม่ไม่ยอมให้ผมตามไปดู เธอบอกมีก๊อปลินอยู่บนนั้น มันชอบกินเด็กเป็นอาหารด้วย 

ผู้อพยพ - ชูววว เสียงดังเกินไปแล้ว

เด็กชาย - ผมก็แค่บอกเขาว่าแม่พูดว่ายังไงแค่นั้นเอง 

Clive - ถ้าชั้นเป็นนายชั้นจะฟังแม่ที่แม่พูดนะ 

 

 

Clive - พวกหัวขโมยที่ Josef ตามมามันมาอยู่ในแบบนี้จริงๆหรอเนี่ย?

 

 

Clive - ดูเหมือนเราจะเจอหัวขโมยของเราแล้วล่ะ พวกมันคงไม่แฮปปี้ที่ได้เจอชั้นเท่าไหร่หรอกนะ 

 

 

Clive - จบกันซะทีนะ ...

Josef - หยุดได้แล้ว !! อย่าฆ่ามันเลย มันแค่ต้องการปกป้องบ้านมันเท่านั้นเอง 

Clive - นายคือ Josef สินะ 

Josef - แต่ผมไม่รู้จักคุณนะ

Clive - คนส่งของเพื่อนของนายให้ชั้นมาตามหานาย เธอเป็นห่วงกลัวว่านายจะถูกพวกโจรฆ่าตายน่ะ

Josef - นี่ชั้นหายไปนานมากเลยหรอเนี่ย? การตามหาพวกขโมยไม่ใช่เรื่องยาก ที่ยากคือการรู้ว่าเราควรจะทำยังไงกับพวกมัน 

Clive - ชั้นว่าไอ้เจ้านี่มันซับซ้อนกว่าที่เห็นใช่มั๊ย?

Josef - ผมจะเล่าให้ฟัง .......................................

 

 

Josef - ก่อนที่ชั้นจะออกมาจากตลาดชั้นเคยเกลียดและไม่ยอมรับไอ้พวกหัวขโมยมาตลอด จนถึงตอนนี้ นายรู้มั๊ยทำไม? เพราะพวกหัวขโมยนี้ไม่สนใจแก้วแหวนเงินทองอะไรเลยนอกจากอาหาร ชั้นได้ยินข่าวลือเรื่องก็อปลินก็เลยตามรอยมาจนพบบ้านของพวกมันกับอาหารที่ถูกขโมยมาทั้งหมด ผมพุ่งเข้าไปหาด้วยมันความโกรธ แต่หัวหน้าของมันออกมาหาชั้น ในขณะที่ตัวอื่นๆก็ออกมาอ้อมล้อมอาหารและพร้อมจะถวายชีวิตปกป้องอาหารของมัน พวกมันอยากเป็นขโมยหรือทำเพราะแค่อดอยาก  เพราะคิดแบบนี้ก็นึกถึงตอนที่ตัวเองเคยลำบากขึ้นมาทันทีเลย 

Clive - นายก็เลยไว้ชีวิตพวกมัน เลยได้รับการไว้วางใจจากพวกมัน

 

 

Josef - ก็อปลินพวกนี้ไม่ใช่สัตว์พื้นถิ่นมันไม่รู้ว่าจะหากินในดินแดนที่แห้งแล้งนี้ยังไง ชั้นก็เลยสอนพวกมัน พอพวกมันรู้วิธีล่าสัตว์และหาอาหารเองได้แล้ว มันคงไม่โง่ที่จะเอาตัวเองไปเสี่ยงที่ Boklad ...ผมประทับใจมาก ไม่คิดว่าก็อปลินก็คิดด้วยเหตุผลเป็น ยังไงก็ฝากบอกเพื่อชั้นทีว่าชั้นปลอดภัยและจะรีบกลับทันทีที่เสร็จงาน อ่อ แล้วก็อย่าบอกเรื่องก็อปลินพวกนี้ล่ะ ชั้นไม่อยากให้พวกเขาตามมาที่นี่ ตอนนี้พวกมันจะไม่ขโมยอะไรอีกแล้ว 

Clive - ความลับของนายจะเป็นความลับตลอดไป ชั้นสัญญา

Josef - ขอบคุณมากๆเลย 

 

 

Clive - Josef เขาปลอดภัยดี เขาฝากมาบอกว่าทันทีที่เสร็จงานก็จะรีบกลับ

Kveta - เฮ้อออ โล่งอก 

Clive - แล้วก็ เขาเจอพวกหัวขโมยนั่นแล้ว และพวกมันจะไม่กลับมาขโมยอะไรที่นี่อีก 

Kveta - นั่นแหละที่เขาถึงบอกว่าควรหาผู้ชายดีๆไว้ข้างตัว แค่เขาบอกว่าจะไม่มีพวกหัวขโมยอีก ชั้นก็สบายใจแล้วล่ะ ขอบคุณที่ช่วยทำให้ชั้นสบายใจ นี่ค่ะ ค่าจ้างของคุณ 

 

 

                     📗 SideQuest: Beare of Good News

 

 

Omdrej เจ้าของโรงแรม - อืมมม พวกเขาน่าจะอยากรู้เรื่องนี้แน่ๆเลย

Clive - ข่าวร้ายหรอครับ?

Omdrej เจ้าของโรงแรม - อันที่จริงแล้วข่าวดีมากกว่าอ่ะนะ เป็นสิ่งที่ควรค่าต่อการฉลองเลยล่ะ ปัญหาคือพวกสาวเสิร์ฟยังใหม่มาก ทำงานกันยังไม่เป็น ผมเลยปลีกตัวไปชวนคนที่ผมอยากให้มาฉลองด้วยไม่ได้เลย

Clive - คงไม่เสียมารยาทนะครับถ้าจะถาม คุณจะฉลองเนื่องในโอกาสอะไรหรอ?

Omdrej เจ้าของโรงแรม - เนื่องในโอกาสที่ผมได้สุดยอดไวน์ Gaultand Sixty-six มาขวดนึงไงล่ะ มันเป็นไวน์ที่ส่วนใหญ่ระดับจักรพรรดิเขาดื่มกันไม่มีโอกาสมาถึงคอคนอย่างพวกเราง่ายๆหรอกนะ 

Clive - ผมก็เคยได้ยินมาบ้างครับ

Omdrej เจ้าของโรงแรม - โอ้ คุณก็รู้จักหรอ งั้นคุณก็เป็นคนมีรสนิยมคนนึงนะเนี่ย งั้นก็คงจะเห็นใจในสถานกาณ์ของผมด้วยใช่มั๊ย?  ผมอยากให้คุณช่วยไปแจ้งข่าวดีให้เพื่อนของผมสองสามคนหน่อย แน่นอนว่าคุณจะได้ค่าเหนื่อยด้วย

Clive - เรื่องแค่นี้เอง สบายมากครับ

Omdrej เจ้าของโรงแรม - โอ้ เยี่ยมเลย ขอบคุณๆ คุณไม่ต้องไปไกลหรอกนะ ทั้ง 3 คนอยู่ในตลาดนี่แหละ ก็มี Oldrich พนักงานส่งของ Milan พ่อค้าขายเนื้อ แล้วก็ Bolek ทหารรักษาการณ์ที่ประตูทางทิศเหนือ ทั้ง 3 เป็นเพื่อนรักของผม ช่วยบอกเขาว่าตอนเย็นให้มาผมที่โรงแรมนะ 

 

 

Clive - โทษครับ ผมจะหาคนส่งของที่ชื่อ Oldrich ได้ที่ไหนหรอ?

Oldrich - ผมเองแหละ คุณมีอะไรให้ขนส่งหรอ?

Clive - เจ้าของโรงแรมให้มาบอกคุณว่า ให้ไปหาตอนเย็น เห็นว่าจะฉลองที่ได้ไวน์ Gaultand Sixty-six มาขวดนึง

Oldrich - Gaultand Sixty-six เลยหรออ สุดยอดด!! ถ้าเข้าใจไม่ผิดมันน่าจะมากับลังที่ผมรับมาจาก Sanbreque แน่ๆเลย

Clive - จากจักรวรรดิส่งมา Boklad เนี่ยนะ? คุณต้องเป็นคนกล้ามากๆที่ไปขนมาในตอนนี้อ่ะนะ 

Oldrich - นั่นแหละหน้าที่ของคนส่งของแบบผม ในฝั่ง Storm นี้หายากที่จะมีใครกล้าข้ามไปตอนนี้ กะว่าครั้งหน้าจะไป Oriflamme จากนั้นก็คง Kanver หรืออาจจะไกลกว่านี้ นั่นก็ขึ้นอยู่เงินในกระเป๋าของลูกค้าด้วยว่าหนาแค่ไหน โอเค วันนี้ผมเหนื่อยมาพอแล้ว ไปหาไวน์ดีๆกระแทกปากดีกว่า ขอบคุณที่มาบอกนะ

 

 

Clive - คุณคือ Milan สินะครับ ?

Milan - ใช่ ผมเองแหละ รับอะไรดี?

Clive - เจ้าของโรงแรมให้มาบอกคุณว่า ให้ไปหาตอนเย็น เห็นว่าจะฉลองที่ได้ไวน์ Gaultand Sixty-six มาขวดนึง

Milan - แหมมม เขาช่างรู้ใจผมจริงๆเลย พอดีผมเพิ่งมีแฮมดีๆมาส่งเหมือนกัน 

Clive - ไวน์กับแฮม ว้าวว ทุกเรื่องที่โศกเศร้าใน Boklab คงหายเป็นปลิดทิ้งแน่นอน ใช่มั๊ยล่ะ?

Milan - ในสถานการณ์ตอนนี้ ไม่ว่าใครจะเดินทางไปไหนก็คงต้องเอาของดีติดตัวไปด้วยกันเขากันหมดแล้ว เมื่อก่อนนี้ ผมนี่ได้เนื้อดีๆจาก Sanbreque และสมุนไพรดีๆจาก Rosaria มาเพียบเลย แต่ตอนนี้ เป็นช่วงเวลาแห่งการลดคความอ้วนจริงๆเลย ของหายาก แม้แต่ใน Boklad ก็ไม่มีพ่อค้าพลุกพล่านเหมือนเดิม แต่ก็ช่างมันเถอะ อย่าไปคิดมาก ยังไม่ตายก็บุญแล้ว หาอะไรดีๆทำในตอนที่ยังทำได้ดีกว่า เช่น ไปดื่มสุดยอดไวน์ขวดนั้นไง ขอบคุณที่มาบอกนะ

 

 

Clive - ผมมาหา Bolek ที่เป็นการ์ดเฝ้าประตูนี้อ่ะครับ

Bolek - ก็เจอแล้วนี่ไง นายคงไม่ได้มาสมัครเป็นทหารใช่มั๊ย?

Clive - เจ้าของโรงแรมให้มาบอกคุณว่า ให้ไปหาตอนเย็น เห็นว่าจะฉลองที่ได้ไวน์ Gaultand Sixty-six มาขวดนึง

Bolek - ชั้นไม่เคยปฎิเสธ Gaultand หรอกนะ แต่ตอนนี้คงยังไม่เหมาะ ยังไงก็ขอบคุณที่มาบอกนะ 

Clive - คุณคงกำลังยุ่งสินะครับตอนนี้ ?

Bolek -หลังจากที่เกิดเรื่องที่ Dominion ก็ไม่มีใครสร้างค่ายผู้ลี้ภัยอีกแล้ว นั่นแปลว่าพวกเขาจะมาอยู่ที่นี่แทน ทุกวันนี้ชั้นต้องใช้เวลาทั้งวันในการไล่พวกขอทานมากกว่าเฝ้าประตูซะอีก แต่ก็มีพวกแก็งค์โจรมาช่วยจัดการไอ้พวกนี้ให้อีกทอด ก็ดูแล้วเป็นเหยื่อที่น่าสงสาร มันทำกับว่าพวกเขาไม่ได้ทุกข์ทรมานมามากพองั้นแหละ ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทุกวันนี้โลกมันเป็นบ้าอะไรกันหมดแล้ว แต่ก็นะ อืมมมม ...พูดแล้วก็เครียด ... ไวน์ชั้นเลิศน่าจะเหมาะที่สุดในตอนนี้ 

 

 

Clive - ผมไปแจ้งข่าวให้เพื่อนๆคุณหมดแล้วนะ อีกไม่นานพวกเขาคงตามมา

Omdrej เจ้าของโรงแรม - โอ้ ถือเป็นข่าวดี ขอบคุณที่ช่วยนะ มันถึงเวลาแล้วที่เพื่อนๆจะมานั่งล้อมวงกัน และไวน์นี้ก็เหมาะสมที่สุด เพราะมันก็ควรเป็นของพวกเขาพอๆกับที่เป็นของผมนั่นแหละ

Clive - ยังไงหรอครับ?

Omdrej เจ้าของโรงแรม - ผมคงไม่มีโอกาสได้ของดีๆแบบนี้ถ้า Oldrich ไม่ขนมาให้ Millan ก็เป็นลูกค้าชั้นดีที่ทำให้ผมมีเงินหาไวน์นี้มา และ Bolek ก็ช่วยรักษาความปลอดภัยให้เรามาตลอด และถ้าไม่มีตลาดนี้ ผมก็คงไม่มีลูกค้า ซึ่งมันก็คงไม่ควรค่าที่จะฉลองด้วย Gaultand Sixty-six จริงมั๊ย? ทุกคนย่อมต้องการไหล่ไว้พิง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของโรงแรมที่เบื่อโลกหรือนักดาบหน้าบึ้ง อ่า ดูเหมือนแขกผมจะมากันแล้ว !!

 

 

Oldrich - ไง ได้ข่าวว่ามี Gaultand Sixty-six ให้ชั้นหรอ? ถ้ารู้ว่าในกล่องที่ขนมาเป็นไวน์นี่ชั้นคงขายมันไปแล้ว ฮ่าๆ ไหนๆ เอามากระแทกปากซักแก้วสิ ถ้านายไม่หวงอ่ะนะ

Millan - Gaultand Sixty-six งั้นหรอ? ชั้นก็มีอะไรพิเศษๆของชั้นเก็บไว้เหมือนกันนะ 

Bolek - ขวดเดียว 4 คนจะพอหรอว้า ..แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อ่ะนะ 

Omdrej เจ้าของโรงแรม - มากันแล้ววว ท่านสุภาพบุรุษผู้เป็นดั่งเสาหลักของ Bollad ทั้ง 3 คน !! มาๆๆ นั่งๆ 

 

 

Omdrej เจ้าของโรงแรม - ความทุกข์ยากในโลกที่เลวร้ายที่มีมากมายตอนนี้ ต่างก็เยียวยาได้ด้วยมิตรภาพจากเพื่อนดีๆสองสามคน 

Clive - ถูกต้องที่สุดครับ !

 

 

 

 

 

                                  The Hideaway 

 

 

                          Bennumere, Central Storm

 

 

 

Otto - ดีใจที่เห็นนายกลับมานะ มีข้อความจากเหล่ามิตรสหายของเราส่งมาขอบคุณมากมายที่นายไปช่วยพวกเขาเอาไว้อย่างทันทวงที นายบริหารจัดการมันได้ยังไงหมดเนี่ย? 

Clive - โชคดีมั้งครับ แล้วตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นไงบ้าง?

Otto - อืมม ก็มี ผู้คนใน Storm ต่างก็ยังโศกเศร้าที่สูญเสีย มาเธอร์คริสตัล ไป อาณาจักนยังคงวุ่นวายอยู่ สีของท้องฟ้าสองวันมานี่ดูไม่ได้เลย ซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เรารู้ถึงเหตุผลของมันดี แต่ก็มีเรื่องดีๆอยู่บ้างอ่ะนะ Tarja บอกว่า น้องนายตอนนี้รู้สึกตัวแล้ว รีบไปที่ห้องพยาบาลเถอะ 

Clive - ขอบคุณนะ อ๊อตโต้

 

 

Joshua - ...ไม่ใช่ จักรพรรดิ Sylvestre หรอกครับ แต่เป็น Olivier ต่างหากที่เป็นหุ่นเชิดของ Ultima พอ Dion รู้เข้าก็พยายามที่จะสังหารนาง 

 

 

แต่พ่อของเขามารับหอกแทน นั่นมากพอแล้วที่จะทำให้เขาบ้าคลั่ง ถ้าผมเตือนเขาเรื่องภัยคุกคามจากอัลติม่าให้เร็วกว่านี้ก็คงจะดี ...ตอนนี้ทั้งอณาจักรแล้วก็เจ้าชายเละเทะไปหมด ...

 

 

Clive - โจชัวร์ นายรู้อะไรเกี่ยวกับ Ultima บ้าง?

Joshua - ไม่มากครับ ...แม้จะพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ... 18 ปีก่อน ตอนที่ผมนอนอยู่ใต้ซากปรักหักพังของ Phoenix Gate ไม่ใช่ความตายหรอกที่ย่างกรายมาหาผม แต่เป็นอีกคนนึงที่มาช่วยเหลือ ขณะผมพักรักษาตัว ผู้ที่มาช่วยเหลือผมก็เล่าให้ฟังถึงเรื่อง Ultima เป็นครั้งแรก และผมก็ไล่ตามมันตั้งแต่นั้นมา Ultima มันเคลื่อนไหวด้วยจุดประสงค์ที่ลึกล้ำและดำมืด และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม พี่คือสิ่งสำคัญในแผนของมัน มันจะไม่หยุดจนกว่าจะได้ตัวพี่ แม้จะต้องถล่มทุกอณาจักรจนราบคาบก็ตาม 

Clive - ทำไมถึงต้องเป็นชั้นล่ะ? ชั้นมีประโยชน์กับไอ้ตัวประหลาดนั่นยังไงหรอ?

Joshua - นั่นเป็นอีกหนึ่งในหลายคำตอบที่ผมยังไม่รู้ครับ แต่เรื่องนี้ ยังไงซะ พี่ก็คงถูกเลือกเพราะเหตุผลบางอย่างแน่นอน Dominant ทุกคนมีพลัง Eikon อยู่ในตัวเอง และถูกจำกัดไว้ด้วยพลังเดียว เช่นผม ไฟ ก็คือ ไฟเท่านั้น 

Jill - ส่วนชั้นก็ น้ำแข็ง เท่านั้น ...8 ผู้พิทักษ์กับ 8 ธาตุ แต่นาย ไคลฟ์ ..

 

 

Joshua -พี่แตกต่างจากคนอื่น พี่พิเศษกว่า ความสามารถของพี่เริ่มต้นที่ไฟแห่ง Ifrit … แต่กลับไม่จบแค่นั้น ความจริงที่ว่า ifrit สามารถดำรงอยู่ภายใต้ความขัดแย้งต่อทุกสิ่งที่เราคิดว่าเรารู้จักในฐานะ Dominant บางที Ultima อาจกำลังรอคอยคนแบบพี่อยู่ คนที่มีศักยภาพ ไร้ขีดจำกัด 

Clive - และชั้นก็เจอเรื่องนั้นมาหลายครั้งจนนับไม่ถ้วนแล้วด้วย ถ้า มัน ต้องการชั้นจริงๆทำไมถึงไม่ครอบงำเหมือนกับที่มันทำกับเด็กคนนั้นเลยล่ะ?

 

 

Joshua - ถ้าให้ผมเดา พี่กับมันอาจเข้ากันไม่ได้ จิตของมันไม่สามารถเข้ากับร่างของพี่ได้ 

Jill - จิตของมันหรอ? 

Joshua - จิตใจ การรับรู้ จิตวิญญาณ จะเรียกอะไรก็แล้วแต่ ผมเชื่อว่า Ultima ปรากฏตัวให้เราเห็นด้วยรูปแบบนั้นครับ นั่นคือเหตุผลที่ผมล้มเหลว ไม่สามารถกักมันไว้ในตัวผมได้ 

 

 

Clive - เดี๋ยวนะ กักไว้ในตัวนายงั้นหรอ?

Joshua - ทุกครั้งเมื่ออาทิตย์อัสดงผมจะรู้สีกหมดแรงทุกครั้ง แม้ว่าพลังของฟินิกซ์จะเยียวยาได้ แต่มันก็มีต้นทุนที่ต้องใช้แลกมา ต้องหาทางหยุดเขา และผมก็คิดวิธีนี้ขึ้นมา ...

Jill - นายคิดอะไรแบบนั้น 

Joshua - ก็ยังดีกว่าให้มันได้ตัวไคลฟ์ไป ยังไงผมก็เป็นจุดอ่อนของพี่ผมเสมออยู่แล้วล่ะ ...

Clive - แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านายต้องเสียสละตัวเองเพื่อช่วยชั้นนะ 

 

 

Joshua - แคกๆๆๆ แคกๆๆๆๆๆๆ !!!

Clive - โจชัวร์ !!!!

 

 

Tarja - ไคลฟ์ !!  Gav เพิ่งส่งข่าวมา !! ตอนนี้กองทัพ Akashic เข้าประชิด Kanver แล้ว!!

 

 

Clive - สถานการณ์เป็นไงบ้าง !!?

Otto - ก็อย่างที่ Tarja บอกนั่นแหละ เมืองหลวงของ Free City ถูกพวกมอนสเตอร์จำนวนมากเข้าโจมตี พวกทหารรักษาการณ์ก็พยายามเต็มที่แล้ว แต่จำนวนที่มากมายของมัน 

Jill - แล้วลอร์ด Byron กับ Mid หนีออกมาได้รึยังคะ?

Otto - ตอนนี้ยัง แต่ Gav พาทุกคนขึ้นไปซ่อนตัวบนยานของ Mid แล้ว

Jill- เราต้องไปช่วยพวกเขาออกมาไคลฟ์ 

Clive - แน่นอน !! อ๊อตโต้ส่งข่าวไปบอก Gav ให้เราอยู่นั่นก่อนนะ 

Otto - ได้เลย !!

 

 

Clive - วิเวียน ตอนนี้มีทางลัดที่เข้าไปยัง Free City ทางไหนได้บ้าง?

Vivian - ถ้าดูจากแผนที่ก็ ดูเหมือนจะมีถนนผ่าน Tabor ซึ่งเป็นทางที่จะเจอปัญหาน้อยที่สุดนะ 

Clive - งั้นก็เยี่ยมเลย ..ไปกันเถอะ จิล 

 

 

Joshua - ช่างบังเอิญจริงๆเลย Tobor เป็นเมืองที่ผมกำลังจะไปพอดี 

Jill - โจชัวร์ เตียงคือสิ่งที่นายต้องไปนอนมากกว่านะตอนนี้ 

Tarja - ใช่ ...ชั้นก็บอกเขาแบบนั้นไปแล้วเหมือนกัน

 

 

Joshua - ผมก็คงจะนอนต่อแน่ถ้า Tarja ไม่ได้เป็นหมอที่มีพรสวรรค์ในการรักษาขนาดนี้อ่ะนะ ซึ่งต้องขอบคุณเธอมาก ตอนนี้ผมว่าผมพร้อมที่จะลุยได้แล้วนะ พอดีมีคนรอผมอยู่ที่ Tabor ด้วยสิ 

 

 

Clive - ได้สิ งั้นไปด้วยกันเลย

Jill - แต่ไคลฟ์ ??

Clive - เอาน่า ถ้าเขาอยู่ใกล้ๆชั้น รับรองปลอดภัยแน่นอน ชั้นจะดูแลเขาเอง

Joshua - ขอบคุณครับพี่ 

 

 

ก่อนออกเดินทางที่ The Hideaway จะมีเควสย่อยปลดล็อคออกมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ในเนื้อเรื่องหลักบังคับให้ไม่สามารถแวะตามสถานที่ต่างๆได้ในตอนนี้ ทำให้เควสย่อยบ้างเควสไม่สามารถทำได้จนเสร็จสิ้น แต่ก็สามารถรับเรื่องเอาไว้ก่อนได้ 

 

 

 

                     🔓 The Hideaway SideQuest unlock 🔓

 

SideQuest: An Eye for an Eye

SideQuest: Not to be outdone

SideQuest: On Balance 

 

 

 

                     📗 SideQuest: An Eye for an Eye

 

 

Clive - ทุกอย่างโอเคมั๊ย Goetz ?  นายดูเหมือน อารมณ์ไม่ค่อยดีเลย

Goetz - ผมไม่รู้ว่าคุณหมายความว่าไง แต่ ผมรู้สึกสับสนนิดหน่อย ผมคิดว่า Nan อาจกำลังมีปัญหาอะไรอยู่แน่ๆเลย

Clive - นางเป็นอะไร? นายเล่าให้ชั้นฟังได้นะ 

Goetz - มันมีพ่อค้าประจำของเราคนนึงบอกว่ามีข่าวลือเกี่ยวกับเธอกระฉ่อนไปทั่ว Dalimil เลย พวกเขาบอกว่า เธอขายของให้พวกโจรกับพวกฆาตกร เอ่อ ผมรู้ว่า Nan เธอเป็นคนงกเรื่องเงิน แต่ นี่มัน …เธอไม่เคยทำธุรกิจกับคนไม่ดีเลยนะ โดยเฉพาะพวกที่ชอบทำร้ายผู้คน ผมอยากไปถามเธอด้วยตัวเองแต่แบบ เอ่อ ก็กลัวนางจะตัดลิ้นเอาน่ะครับ นางคงไม่กล้าจะตัดลิ้นคุณใช่ป่ะ?

Clive - ไม่หรอก เดี๋ยวชั้นจะลองไปถามให้ก็แล้วกันนะ 

 

 

Clive - ไงครับป้า Charon ธุรกิจเป็นไงบ้าง?

Charon - ก็ไม่แย่เท่าสภาพอากาศหรอกนะ 

Clive - ป้าทำธุรกิจทั้งในที่ซ่อนตัวและพื้นที่ด้านนอกด้วยหรอครับ?

Charon - มันก็พูดยากอ่ะนะ ...แต่เดี๋ยว ถามแบบนี้นายต้องการอะไรกันแน่? ที่ผ่านมาตลอด 5 ปี นายจ่ายค่าดูแลกับชั้นครึ่งนึง แต่ตอนนี้ ชั้นแทบจะกัดก้อนเกลืออยู่แล้วนะ 

Clive - ผม เอ่อ ผมก็แค่ถามดู ...โอเค ผมมาที่นี่เพราะได้ยินข่าวลือว่าป้าขายอาวุธให้พวกโจรน่ะครับ 

Charon - โอ้ งั้นหรอ? แล้วใครที่มันกล้าดีที่เอาเรื่องบ้าๆแบบนี้มาหาประโยชน์จากชั้นกัน มันรู้จักชั้นดีแค่ไหนเชียวห๊ะ??

Clive - เอ่อ ผมก็ได้ยินเขาพูดๆกันมาอ่ะครับ เห็นคนที่ Dalimil เขาลือกันแบบนี้ 

Charon - แล้ว ?? นายเชื่อมันรึไง? นายคิดว่าชั้นจะหากำไรจากเลือดของผู้บริสุทธิ์งั้นหรอ? ฟังนะ บางเรื่องชั้นก็ไม่ได้จะดีไปทั้งหมดก็จริง บางครั้งก็อาจมีเมินเฉยต่อความเลวเพื่อกระเป๋าเงินตัวเองบ้าง แต่กับยัยผู้หญิงคนนั้น ไม่มีทางอยู่แล้ว ถ้าจ่ายเงินแล้วแจ้งล่วงหน้าหน่อยก็จบ

Clive - โอเคครับป้า Charon ผมต้องขอโทษด้วยแล้วกันครับ ที่สงสัยในตัวป้า

 

 

 

Clive - ชั้นลองคุยกับป้า Charon แล้วนะ  

Goetz - นางว่ายังไง?

Clive - ป้าเค้าบอกว่า ข่าวลือไม่เป็นความจริง และชั้นก็โง่เองที่ดันคิดว่ามันจริง และ เราต้องทำบางอย่างเพื่อทำให้ทุกอย่างมันเคลียร์  แม้เธอจะเคยทำเรื่องไม่ดีมาบ้าง แต่มันก็ผ่านไปนานแล้ว ป้าพูดแบบนั้น 

Goetz - ดีแล้ว ที่ Nan ไม่ไปทำแบบนั้น แต่ ทำไมพวกนั้นถึงพูดถึงเธอแบบนั้นกันนะ? เธอไปทำอะไรให้พวกมันหรอ? มันไม่โอเคเลย 

Clive - ไม่ถูกแน่นอน แต่บางครั้งคนเราทำอะไรลงไปด้วยเหตุผลหลายอย่างที่เราก็ไม่รู้

Goetz - งั้นเราไปหาคำตอบกันดีป่ะ !? ไปถามไปพ่อค้าใน Dalimil คนที่พูดถึงเธอแบบนั้น

Clive - นายแน่ใจแล้วหรอว่ามันเป็นแผนที่ฉลาด ใครก็ตามที่ปล่อยข่าวลือนี้แปลว่ามันต้องไม่ชอบป้า Charon แน่นอน 

Goetz - โอ้ ก็จริงนะ .... แต่ นั้นแหละคุณถึงต้องไปกับผมด้วยไง ใช่มั๊ย ไคลฟ์?

Clive - เฮ้อออ... ก็คงจะต้องเป็นแบบนั้นอ่ะนะ 

 

 

Objective > เดินทางไปที่ Dalimil

 

 

 

 

Goetz - ไคลฟ์? มาฟังสิ ผมเจอคนนึงที่ได้ยินข่าวลือเรือง Nan ด้วย เอาสิครับเล่าให้เขาฟังแบบที่คุณเล่าเมื่อกี้ 

Jaro - ก็อย่างที่ชั้นพูดไปนั่นแหละ แม่ค้าแก่ๆที่ชื่อ Charon จะขายอาวุธให้ทั้งอัศวินหรือแม้แต่พวกโจร ขอให้มีเงินให้ก็พอ นางบอกว่ายิ่งเอาอาวุธใส่ในมือผู้คนมากเท่าไหร่การต่อสู้ฆ่าฟันก็จะมากขึ้น นาวก็จะฟันกำไรได้มากขึ้น สมแล้วที่ได้ฉายา ยมทูต อ่ะนะ

Clive - แล้วนายเคยเห็นแม่ค้า ยมทูต นี้ตัวเป็นๆบ้างมั๊ย?

Jaro - แน่นอน เคยสิ นางก็ค้าขายอยู่ที่นี่ทุกวันนั่นแหละ 

Clive - ที่ Dalimil เนี่ยนะ? ที่ไหน?

Jaro - นางมีแผงขายของในตลาดนี้แหละ แต่ถ้าเป็นแบบระดับหรูๆหน่อยก็น่าจะไปหานางได้ที่โกดังนอกเมืองอ่ะนะ แต่ก็ต้องใช้ความกล้าหน่อยนะที่จะไปในรังนางงูพิษแบบนั้นอ่ะ แต่ถ้าเพื่อประโยชน์ของนายเอง กล้าๆหน่อยก็ดี ชั้นจะเขียนแผนที่ให้นะ

 

 

Goetz - นี่ไคลฟ์คุณคิดว่า  Nan เป็นแม่ค้ายมฑูตคนนั้นจริงๆหรอ?

Clive - ก็คงจะไม่หรอกนะ นอกจากเธอมีวิชาแยกร่างอยู่ 2 ที่พร้อมกันได้ ก็นางอยู่ที่ร้านของนางที่ hideaway ตลอด แล้วจะมาเปิดร้านที่นี่ได้ไง จริงมั๊ย? เดี๋ยวชั้นจะไปดูที่โกดังนอกเมือง ส่วนนายลองไปดูที่แผงขายของ 

Goetz - ได้เลย ระวังตัวด้วยอ่ะ ไคลฟ์ 

 

 

Clive - ต้องใช้ความกล้าในการบุกเข้ารังงูพิษแล้วสินะ ...

Jaro - โอ้ แกมาจริงๆด้วยหรอเนี่ย นึกว่าจะไม่กล้า 

Clive - ชั้นไม่เชื่ออะไรที่แกซักคำอยู่แล้ว แล้ว เอาไงต่อ?

 

 

Jaro - นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับแกเลย จะเอาแบบตายช้าตายเร็ว ตายทรมานหรือไม่ทรมานแกเลือกได้เลย 

 

 

 

     ...เด็กๆ มันเป็นของพวกนายแล้ว ส่วนดาบมันชั้นขอ

 

 

Jaro - เอ่อ เดี๋ยววๆๆๆ แกมันจบเห่แน่

Clive - หรอ ? จบเห่ยังไง?

Jaro - ก็ถ้าท่าน Bauguin รู้ว่าแกฆ่าคนของเขา หัวแกได้หลุดจากบ่าแน่นอน เขาต้องการแค่เจ้าพ่อค้าปัญญาอ่อนที่เกาะชายกระโปรง Charon เท่านั้น จริงๆแกไม่ควรมาที่นี่ด้วยซ้ำ 

Clive - แกจะทำอะไรเขา?

Jaro - ท่าน Bauguin ต้องการให้มันเป็นตัวส่งข้อความให้ Charon ชั้นก็แค่คอยชี้ทางให้มันตอนมันมาที่นี่ก็เท่านั้น แต่ดันเป็นแกที่มา เอาสิ จะฆ่าก็ฆ่าได้เลย มัวรออะไร !!?

Clive - อย่างแกนะไม่ควรค่ากับดาบชั้นหรอก รีบไสหัวไปซะก่อนที่จะเปลี่ยนใจ!

Jaro - แม่งเอ้ยยย! เออ ไปก็ได้วะ ไอ้บ้าเอ้ยย !!!

 

 

Bauguin - ช่วยเอาอุ้งเท้าสกปรกๆของแกออกไปจากตัวชั้นหน่อย ไอ้ปัญญาอ่อน 

Goetz - อย่ามาเรียกชั้นแบบนั้นนะ !! แล้วก็เลิกให้ข่าวโกหกใส่ร้าย Nan ได้แล้ว !!

Bauguin - ได้สิ ง่ายจะตายไป เพราะจริงๆมันไม่ใช่เรื่องโกหก ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง และนางต้องชดใช้ความผิดของนางด้วยเลือด

Goetz - เลือดหรอ !!?

 

 

Clive -  Goetz นายไม่เป็นอะไรนะ?

Goetz - มัน มันจะฆ่า Nan มันบอกต้องชดใช้ด้วยเลือด 

Bauguin - ก็สมควรแล้วนี่ จากสิ่งที่นางทำ มันทำลายชีวิตชั้นและคนอื่นนับไม่ถ้วน!! การมีอยู่ของแม่ค้าที่น่ารังเกียจคนนี้คืออาชญากรรมที่ชั้นยอมให้มันเกิดขึ้นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว นายชื่อ Goetz สินะ? ชั้นไม่ได้มีเรื่องโกรธแค้นอะไรกับนายหรอกนะ แค่กับเจ้านายของนายเท่านั้น รีบหนีไปซะ อย่ามารับบาปแทนนางเลย 

 

 

Goetz - ไม่ !!! ชั้นไม่สนว่าเธอเคยทำอะไรมา แต่ชั้นจะไม่ให้แกทำร้ายเธอแน่!! ถ้าแกขืนแตะต้องเธอ ชั้นจะ ชั้นจะ ฆ่าแก !!!  ฆ่าแกด้วยมือชั้นเองนี่แหละ !!

 

 

Clive - อย่านะ Goetz!

Charon - เอาล่ะ พอได้แล้ว !!

 

 

Bauguin - Charon?

Charon - แกทำแบบนี้ได้ยังไง? สองคูหูนี้ก็เหมือนกัน คิดว่าชั้นโง่หรือไงที่ออกมาพร้อมกันแบบนั้นแล้วชั้นจะไม่รู้  ก็คิดมาตลอดนะว่าใครที่ Dalimil ที่จะทำให้ชั้นเสียใจได้แบบนี้ จนเรื่องราวในช่วงเวลาที่แสนสุขก็ผุดขึ้นมาให้นึกได้ ก็ทำให้เหลือชื่อแค่ชื่อเดียวคือแก Bauguin ใช่มั๊ย? 

 

 

Charon - ชั้นก็คิดว่าช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาจะทำให้แกคิดได้บ้าง แต่ก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย แม้แต่ชุดที่แกใส่ก็ยังเป็นกางเกงที่เปื้อนฉี่ตัวเดิม เราเคยเรียกว่าแกว่าอะไรนะ ...ไอ้ฉี่ราด ใช่มั๊ย?

 

 

Bauguin - แก อีนังป้าเอ้ยย !!!  ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดของแก!! และแกต้องชดใช้สิ่งที่ทำกับชั้น !!! อ๊ากกก !!!!!

 

 

Charon - Goetz !!!

Goetz - ก็บอกไปแล้ว ว่าถ้าแกแตะต้อง Nan ล่ะก็ แกต้องผ่านชั้นไปก่อน!

Bauguin - แม่งเอ้ยยย!!!

 

 

Charon - เจ๋งดีนี่เจ้าบึก เอาล่ะถอยไปได้แล้ว ชั้นจัดการต่อเอง 

 

 

Charon - ไง ฉี่ราดอีกมั๊ยเนี่ย? แกจำได้มั๊ยแกพูดกับชั้นว่าไงตอนเราเจอกันครั้งล่าสุด ?  

 

 

 

Charon -  “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” เลือกใช้คำได้ดีมาก  เอาล่ะ คำไหนคำนั้นนะ  

Bauguin - อ๊ากกกกกกกกกกกกกก !!!

 

 

Clive - เอ่อ แล้วเขา ...

Charon - ตาย หรอ? ไม่หรอก แต่ ก็เขาพูดเองว่าต้องการแบบนั้นนี่ ไม่ง่ายหรอกนะที่จะต้องใช้ชีวิตด้วยตาข้างเดียวน่ะ จริงๆชั้นเองก็รู้อยู่แล้วล่ะ อย่าบอกนะว่านายไม่ได้สังเกต ทำงานในธุรกิจเดียวกันก็เงี้ย เขาอ้างว่าชั้นไปขโมยกล่อสมบัติเขามา ซึ่งชั้นไม่ได้ทำ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดแค้นชั้นเลย จริงๆ ชั้นเอามาแค่นิดเดียวเองนะ ...ชั้นเห็นเขาหมดตัว เสียลูกค้าไป ก็รู้แล้วว่าซักวันเขาต้องกลับมาแก้แค้น แต่เขาดันล้ำเส้นที่ลาก Goetz มาเกี่ยวด้วย ... นายไม่บาดเจ็บอะไรนะ Goetz ?

Goetz - ไม่เลยครับ Nan แขนขาก็ยังครบอยู่ แล้วเอ่อ มันจะกลับมาอีกมั๊ยเนี่ย?

Charon - ในช่วงที่มันกำลังหัดมองด้วยตาข้างเดียว คงสำนึกได้บ้างแหละน่า แต่ชั้นรู้สึกว่า ไอ้ฉี่ราด มันคงเรียนรู้ได้แล้วล่ะ เอาล่ะ กลับบ้านกันได้แล้ว พวกนายเด่นกันพอแล้ววันนี้ 

 

 

Charon - ไม่มีอะไรทำให้ท้องใส้ปั่นป่วนได้เท่ากับการแก้แค้นอย่างโหดเหี้ยมอีกแล้วล่ะ 

Goetz - ผมต้องขอโทษด้วยครับ Nan ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เรื่องมันแย่ลง ผมแค่อยากจะปกป้องคุณเหมือนที่คุณปกป้องผมเท่านั้นเอง 

Charon - มันก็ต้องมีใครซักคนที่ต้องดูแลนาย ก็พ่อแม่นายไม่ได้สนใจนี่ เราสองคนอาจแย่กว่านี้ถ้าชั้นไม่รับนายมาเลี้ยงอ่ะนะ นายเป็นเสมือนนตาขวาของชั้นเสมอ Goetz และชั้นอยากให้นายเป็นของนายแบบนี้แหละ อย่าพุ่งไปหาปัญหาอีกรู้มั๊ย?

Goetz - แต่ ถ้าคุณมีเรื่องที่ต้องการให้ช่วยอีก ผมก็จะทำอีก คุณห้ามผมไม่ได้หรอกครับ 

Charon - เออ งั้นเชิญเล่นบนฮีโร่ของนายตามสบายเลย !!

Goetz - ได้คับ Nan ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน 

 

 

Clive - ไม่มีอะไรที่เขาจะทำเพื่อคุณไม่ได้หรอกผมว่า 

Charon - ก็คงงั้น อย่างน้อยเขาก็ได้มีโอกาสเลือกทางของเขาเอง เพราะซักวันเขาต้องดูแลตัวเองให้เป็น แต่จนถึงตอนนั้นเขาต้องการคนที่ดูแลเขา แบบที่คุณทำที่ Dalimil อย่าคิดว่าชั้นไม่เห็นคุณค่าเรื่องนั้นนะ 

Clive - ก็เขาเป็นเสมือนครอบครัวผมนี่ 

Charon - พอเลย อย่ามาดราม่าพาน้ำตาซึม แต่ถึงคุณจะเป็นคนโปรดของชั้น ราคา Potion ก็ยังเท่าเดิมนะ 

 

 

รางวัลที่ได้หลังจบภารกิจ คือ Continental Censer กระถางกำยานที่ตามคำบอกเล่าของ Charon 

 

 

กระถางธูปนี้อัดแน่นไปด้วยสนุนไพรและอำพันที่จะช่วยปัดเป่า ตั้งแต่แมลงไปจนถึงโรคระบาด ปกป้องบ้านจากหัวขโมย และ ปีศาจ ในขณะเดียวกันก็นำโชคดีและความรักมาให้ด้วย 

 

 

                     📗  SideQuest: Not to be outdone

 

 

หัวหน้าแม่ครัว Molly - นี่ไง มาพอดี คุณทำให้ชั้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้ เพราะงั้นคุณต้องช่วยชั้นเลยไคลฟ์ ชั้นต้องการหาคนช่วยทำสูตรนี้ 

Clive - เธอแน่ใจนะที่จะให้ผมช่วยทำครัวน่ะ 

หัวหน้าแม่ครัว Molly - สิ่งที่ชั้นต้องการแค่เวลาของคุณนิดหน่อยแค่นั้นแหละ อ่อ แล้วก็ดาบของคุณด้วย คุณคงพอจะจำสตูว์ของ Yvan ได้ใช่มั๊ย? แม้มันจะดูน่ากลัวทั้งหน้าแต่และกลิ่นแต่คนกลับชอบมันมากๆเลย ชั้นก็เลยอยากปรุงมันขึ้นมาอีกในแบบตัวเอง อ่านตำราอาหารแล้วแต่ก็แบบ 

Clive - มันเขียนไว้แบบคลุมเครือไม่ชัดเจนสินะ Yvan ก็เจอปัญหานั้นเหมือนกัน

หัวหน้าแม่ครัว Molly - ใช่เลยค่ะ แต่นี้เป็นห้องครัวของชั้น และชั้นจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆแน่นอน ถ้าคุณไม่อยากพลาดการเป็นคนโปรดของแม่ครัว คุณต้องช่วยชั้นนะ 

Clive - ผมไม่อยากเป็นคนโปรดของคุณหรอกนะ มอลลี่ แต่ผมจะช่วยเอง เอาล่ะ คราวนี้เมนูอะไร?

หัวหน้าแม่ครัว Molly - fried mortress of skyworm ไง ชื่อเจ๋งใช่ป่ะ?

สูตรมันอาจจะเบๆไปหน่อยสำหรับมือแม่ครัวระดับเทพอย่างชั้น แต่ชั้นว่าจะลองทำสูตรนี้กับ T อะไรๆก็ไม่เท่าไหร่หรอกยกเว้น drakesmint และ ตับของ skyworm อ่ะนะ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร?

Clive - Yvan บอกว่า ตำราอาหารเล่มนี้เก่ามาก ตั้งแต่ยุคแสวงบุญ วัตถุดิบบางอย่างอาจไม่มีอยู่แล้วก็ได้ หรือไม่ก็อาจเป็นสิ่งที่คนสมัยนี้ไม่รู้จักแล้ว

หัวหน้าแม่ครัว Molly - ถ้าเรื่องเก่านี่ งั้นก็คงจะมีคนเดียวแหละที่น่าจะรู้

Clive - Harpocrates สินะ โอเค ผมจะลองไปถามแกดู ถ้าเขาพอบอกได้ผมจะไปหามาให้ก็แล้วกันนะ 

 

 

Clive - Loresman Harpocrates ผมคงต้องพึ่งสมองคุณอีกแล้วล่ะ ถ้าคุณไม่ว่าอะไรอ่ะนะ ก็เรื่องตำราอาหารของ Yvan นั่นแหละ 

Harpocrates - อ่า Valisthea - A Culinary Pilgimage เป็นเล่มโปรดของชั้นเหมือนกันนะ เจ้าหนุ่มนั่นก็ทำสตูว์ Chancer ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเลยด้วย หวังว่าคงจะมีการทดลองทำเมนูอะไรใหม่ๆออกมาอีกนะ 

Clive - นั่นแหละครับผมถึงมาที่นี่ คุณพอจะรู้จัก drakesmint และ ตับของ skyworm บ้างมั๊ย?

Harpocrates - โอ้ มันเป็นอาหารอันโอชะระดับตำนานของ Sanbrequois เลยนะ พอนึกถึง mortress ทอดแล้วน้ำลายสอเลย …เอาล่ะ skyworm มันเป็นชื่อในยุคโบราณของ wyvern โดยตับบดของมันเป็นส่วนผสมของ mortress

Clive - ตับของมังกรเนี่ยนะ สมกับเป็น Sanbrequois จริงๆเลย

Harpocrates - ใครๆก็คิดว่าพวกเขาน่าจะเคารพต่อญาติๆของ บาฮามุธ ที่เป็น Eikon ของชาติตัวเอง แต่ก็ไม่เป็นแบบนั้น ฮ่าๆ  ชั้นคิดว่า ตับของมังกรตามสูตรนี้ต้องเป็น มังกรสีน้ำเงิน ตามสีของทะเลที่เป็นพื้นที่ที่มันอาศัยอยู่ 

Clive - โอเค เรื่อง ตับของมังกร เคลียร์ แล้ว drakesmint ล่ะครับ?

Harpocrates - drakesmint ในสมัยนี้เรียกว่า Saint’s bonnet สมุนไพรที่ขึ้นอยู่ตามชายฝั่ง Northreach มันมีสีเหลืองอร่ามที่แบบว่า คงจะยากมากถ้าคุณไม่เห็นมันอ่ะนะ ซึงไม่แปลกเลยที่ fried mortress of skyworm เป็นอาหารพื้นบ้านของคนในยุคนั้น ยังไงก็ขอให้โชคดีได้เจอมันล่ะไคลฟ์ 

 

 

 

Objective > เดินทางไปที่ Northreach

 

 

 

   เข้าไปกำจัด Blueback Wyvern ได้คีย์ไอเทม Raptor Liver 

 

 

 

    เก็บดอกไม้สีเหลืองตรงชายฝั่ง ได้คีย์ไอเทม Saint’s Bonnet 

 

 

หัวหน้าแม่ครัว Molly - ไงคะ Harpocrates บอกอะไรบ้าง?

Clive - แน่นอน เขาช่วยบอกว่าจะหาสิ่งที่คุณต้องการได้ที่ไหน นี่ครับ

หัวหน้าแม่ครัว Molly - แล้วสรุปว่าชั้นกำลังทำเมนูอะไรกันแน่เนี่ย หรือ ไม่รู้น่าจะดีกว่า 

Clive - วัตถุดิบที่คุณต้องการคือ ตับของ Blueback Wyvern และสมุนไพรที่เรียกว่า Saint’s Bonnet

หัวหน้าแม่ครัว Molly - อ่า ตับของWyvern หรอ อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่หนอนจริงๆตามชื่อของเมนูอ่ะนะ .. งั้นคุณรอแปบนะชั้นไปลองปรุงมันดูก่อน 

 

 

หัวหน้าแม่ครัว Molly - มาแล้วค่า fried mortress of skyworm และ Yvan เสนอตัวเป็นคนเทสให้ว่ามันกินได้มั๊ย ชั้นแค่เสนอให้เขามาชิม เขามาเลยนะแบบไม่ต้องขอร้องอะไรมากเลย 

Yvan - แน่นอน ผมถือว่าเป็นเกรียติอย่างสูงที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ของอาหารอ่ะนะ ใครจะปฎิเสธลงล่ะว่ามั๊ย? ... มาลองกัน 

 

 

Yvan - อ๊ววกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!

หัวหน้าแม่ครัว Molly - อ้าวว แบบนี้แสดงว่ากินไม่ได้แน่ๆเลย ...

Yvan - นี่มัน เวทย์มนต์หรือยังไงกัน? นี่มันเวทย์มนต์ชัดๆ !! ความกรอบของมันนั้นสมบูรณ์แบบสุดๆ รวมกับกลิ่นฉุนๆของดอก Saint’s Bonnet เข้าไปยิ่งแบบ !!!

 

 

Yvan - มันเหมือนเป็นพลังของธรรมชาติ มันเป็นรสชาติที่ดุร้ายและสง่างามที่ตื่นจากการหลับไหลมานานหลายศตวรรษ!!!

Clive - ดูเหมือนว่าเขาจะชอบนะ 

หัวหน้าแม่ครัว Molly - ชั้นก็ไม่รู้ว่าที่คุยพูดมามันเชื่อได้แค่ไหนอ่ะนะ แต่เอาเป็นว่าชั้นเชื่อก็แล้วกัน โอเค ดีก็ดี 

Yvan - ดี งั้นหรอ น่าทึ่งเลยต่างหาก! และชั้นขอท้าเลยว่าจะไม่มีพูดคำที่ตรงข้ามจากนี้ ซิด ผมแนะนำให้คุณหาชายหญิงกลุ่มนึงให้ออกไปล่า Blueback Wyvern เตรียมไว้เป็นวัตถุดิบซักสิบตัวเลยแล้วกัน 

Clive - เอาไว้จะลองดูนะ 

 

 

                        📗  SideQuest: On Balance 

 

 

 

Shirleigh - เอ่อ ซิด บางทีคุณอาจจะช่วยชั้นแก้ปริศนานี้ได้ 

Clive - ลองดูก็ได้ ใครหายตัวไปอีกล่ะ?

Shirleigh - ไม่มีใครหายไปค่ะ แต่เป็นเรื่อง เครื่องชั่งน้ำหนักของ Mid ที่เธอสร้างเอาไว้ใช้งานในห้องทำงานของเธอน่ะ ชั้นเอามันมาสอนเด็กเรื่องการชั้งน้ำหนัก แต่หลังจากนั้นมันก็หายไปเลยค่ะ ชั้นคิดว่าเด็กต้องเอามันไปเล่นที่ไหนซะแห่งแน่ แต่พอไปถามก็ไม่มีใครรู้เรื่องเลย ชั้นไม่อยากจะคิดหรอกว่าเด็กๆของชั้นมันจะโกหก แต่ชั้นก็ไม่มีทางเลือกที่ต้องลงโทษพวกเขาถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ จะขอบคุณมากถ้าคุณจะลองไปคุยให้หน่อย ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ห้องโถงใหญ่น่ะค่ะ 

 

 

Josselin  -เอ่อ ซิด !!

Clive - กำลังเรียนหนักกันอยู่หรอ? แล้วนั่นอะไรน่ะ?  เหมือนจะเป็นตาชั่งใช่มั๊ย?

Josselin  -เอ่อ ไม่ๆ ไม่ใช่ซะหน่อย !!

Aimee- มันไม่เหลือความเป็นตาชั่งอีกแล้วต่างหาก ...

Clive - มันพังแบบนั้นนานรึยัง?

Arthur - พวกเราขอโทษคร๊าบบ …

Josselin  - พวกเราไม่ได้ทำมันพังนะ เราแค่พยายามจะแยกชิ้นส่วนมันออกมาน่ะ !!

Aimee- แบบที่ Midadol ทำให้เราดูน่ะค่ะ

Clive - Midadol อ่ะน่ะ? แล้วเธอจะแยกชิ้นส่วนของที่เธอสร้างขึ้นมาทำไม?

Josselin  - ก็เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะเป็น ninja ไงครับ 

Aimee- คุณ Midadol บอกว่า ทางที่ดีที่สุดที่จะรู้ว่ามันทำงานยังไงคืด แยกมันออกมาดูและประกอบมันเข้าที่เดิมค่ะ 

Clive - โอเค แล้วพวกเธอคิดว่าจะทำมันได้มั๊ย?

Aimee- เอ่อ เรื่องนั้น ... 

Josselin  - ตอนแรกเราก็คิดว่ามันจะง่ายๆ แต่ ใส่มันกลับยังไงก็ไม่ได้อ่ะครับ

Arthur - เราเอาอันใหญ่สุดไว้ข้างล่าง แล้วก็ ....เอ่อ 

 

 

 

Clive - อย่างแรกเลย พวกเธอทั้ง 3 คนต้องเรียนรู้เรื่องความรับผิดชอบกัยสิ่งที่ทำลงไปก่อน จากนั้นก็ค่อยมาดูชิ้นส่วนของมันทั้งหมดทีละชิ้น แต่ละชิ้นจะมีหน้าที่ของตัวเอง และแต่ละหน้าที่ก็เชื่อมโยงกับส่วนอื่นด้วย ถ้ามีชิ้นหนึ่งชิ้นนึงหายไประบบของมันก็จะไม่ทำงาน มีชิ้นนึงที่พวกเธอรู้อยู่แล้ว คือตัว Body ที่เป็นไม้ เอาไว้สำหรับใส่ทุกอย่างเข้ามา แล้วชิ้นอื่นล่ะ ?

 

 

Clive - ชิ้นเล็กนี่คือ เกียร์ หรือเรียกว่า ฟันเฟือง พวกเธอเคยเห็นมาก่อนมั๊ย?

Josselin  - ผมเคย ในดันจี้ยนของ คุณ Midadol มีเจ้านี่ร่วงเต็มพื้นไปหมดเลย

Aimee- เธอเอาไว้ใส่สิ่งประดิษฐของเธอเพื่อให้มันหมุน หมุนๆๆ 

Clive - ถูกแล้ว มันมีหน้าที่ทำให้ชิ้นส่วนอื่นที่มาประกอบกับมันเคลื่อนที่ แล้วพวกเธอพอจำได้มั๊ยว่า ชิ้นส่วนไหนของตาชั่งที่มันเคลื่อนที่ได้ ?

Arthur - ผมจำได้!! แขนของมันขยับไปมาตอนเอาแอ๊ปเปิ้ลไปชั่ง แล้วก็มีใครบางคนมากินมัน ....

Josselin  - ไม่ใช่ความผิดชั้นซะหน่อย ก็นายดันมาชั่งมันก่อนอาหารกลางวันทำไมล่ะ

Aimee- ตอนนี้เรารู้แล้วว่าชิ้นส่วนไหนเคลื่อนไหวและเคลื่อนไหวยังไง งั้นเราเอาชิ้นส่วนอื่นมาประกอบก่อนแล้วดูว่าอันไหนไม่ขยับเราก็เอาเฟืองไปใส่ ดีมั๊ยคะ?

Clive - ก็ไม่ใช่ความคิดที่แย่นะ เห็นมั๊ย ไม่ยากเลย

 

 

 

Clive - ส่วนนี้เรียกว่า แขน ทำไมถึงเรียกมันว่า แขน ก็เพราะมันเหมือนแขนคนไง

Aimee- ใช่เลย แต่หนูว่ามันดูเหมือนปีกมากกว่านะ ปีกโจโคโบะ 

Josselin  - คุณคงเคยขี่โจโคโบะมาแล้วแน่ๆเลย ใช่ป่ะ? วันหลังสอนผมขี่บ้างนะ ?

Clive - จะลองคิดดูก็แล้วกันนะ เอาล่ะ แล้วแขนมันมีหน้าที่ทำอะไร?

Arthur - เอาไว้สำหรับยึดจับอะไรซักอย่าง เฮ้อ มันน่าจะเป็นตัวยึดตัวนี้ไว้แน่ๆเลย?

Clive - อืมม ไอเดียดี มาถูกทางแล้ว

 

 

 

Clive - ส่วนนี้เรียกว่า จาน พวกเธอคงรู้ดีกันแล้วนะว่าจานมีเอาไว้ทำอะไร?

Arthur - ผมรู้  Molly เอาไว้ใส่ไก่กับใส้กรอก

Aimee- แต่จานนี้มันไม่ได้ไว้ใส่ไก่หรอกเจ้าโง่เอ้ย มันเอาไว้ใส่ของที่จะชั่งต่างหาก

Arthur -  แต่ ถ้าชั้นอยากรู้น้ำหนัก Goetz ล่ะ? ชั้นว่าเขาคงขึ้นมาบนนี้ไม่ได้แน่ๆ   

Clive - ก็คงจะไม่อ่ะนะ .... 

Josselin  - แล้วโซ่นี่ละครับ เอาไว้แขวนจานป่ะ?

 

 

Clive - ใช่ ซึ่งหมายความว่ามีบางอย่างที่โซ่ผูกเอาไว้  เอาล่ะ ที่นี่เราจะเอาทุกชิ้นส่วนมาประกอบกันและเรียนรู้ว่ามันทำงานยังไง พวกเธอคิดว่าทำได้มั๊ย?

Josselin  - ทำได้อยู่แล้ววว !!

Clive - เอาล่ะ ที่นี้มาเริ่มกัน พวกเธอคอยบอกชั้นว่าจะให้ใส่ชิ้นส่วนแต่ละอันไว้ตรงไหน 

 

 

Josselin  - แน่นอนเราต้องเริ่มจากตัว Body ก่อน เพราะทุกชิ้นส่วนต้องประกอบไปที่มันถูกมั๊ย?

 

 

Aimee- แล้วก็เอาแขนใส่ไปที่ตัว Body เหมือนกับแขนหรือปีกของโจโคโบะ

Arthur - ต่อจากแขนก็เอาจานมาต่อกับโซ่เพื่อแขวนเอาไว้ ใช่มั๊ยครับ?

Clive - ดีมาก เอาล่ะมาดูกันว่ามันจะเวิร์คมั๊ย? …อึ๊บบ เอาล่ะ เสร็จแล้ว

 

 

Josselin  - เย้ เราทำได้แล้วววว!!

Aimee- โดยการช่วยเหลือจากซิด 

Clive -  ชั้นก็แค่เอาทุกอย่างมารวมกันเท่านั้นเอง แต่พวกเธอทั้งสามคอยบอกว่าต้องทำยังไง 

Josselin  - ใช่แล้ว เพราะพวกเราคือทายาทของ Midadol ยังไงล่ะ!

Clive - ทายาท หรอ? 

Josselin  - ช่าย เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในอนาคตนะ เราจะช่วยคนที่นี่ตอนเราโตขึ้น เหมือนคุณ Midadol

Aimee- คุณว่าไงล่ะซิด คิดว่าเราพร้อมรึยัง?

Clive -  ด้วยความช่วยเหลืออีกเล็กๆน้อยๆจาก Mid และ Shirleigh จะบอกว่าไม่พร้อมก็คงไม่ได้แล้ว แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น พวกเธอต้องจริงใจกับ Shirleigh ด้วย อย่าไปโกหกเธออีกนะ 

 

 

Arthur - เอ่อนี่ พวกเรา ....ดูเหมือนเราจะลืมใส่เฟืองนะ 

Josselin  - หรือว่าซิดลืมใส่มัน .... เฮ้ออออ 

 

 

Shirleigh - ไง คุณแก้ปริศนาของชั้นได้มั๊ย?

Clive - ก็อย่างที่คุณคิดนั่นแหละ เด็กๆซ่อนตาชั่งเอาไว้ หรือจะต้องเรียก เศษชิ้นส่วนของตาชั่ง ... ประมาณนั้น พวกเขาแยกมันออกเพราะอยากรู้ว่ามันทำงานยังไง

Shirleigh - โอ้ แบบนี้ Mid เพ่งกระบาลชั้นแน่ๆ

Clive - ผมว่าไม่หรอก เพราะนั่นเป็นไอเดียของเธอ ชั้นก็คนนึงที่เคยถูกสอนแบบนอกกรอบแบบนี้ 

Shirleigh - ต้องขอโทษด้วยนะซิด ชั้นรู้ว่าคุณก็ยุ่งๆอยู่ด้วย และยังไงเด็กๆก็ต้องได้รับการลงโทษอย่างถูกต้อง

Clive - ไม่จำเป็นหรอกผมว่า ดูเหมือน Mid จะรับเด็กๆทั้งสามอยู่ในการดูแลของเธอ เธอยังเรียกพวกเขาว่า เหล่าทายาทของมิด เลยนะ เธอต้องการให้พวกเขาตามรอยของเธอ เหมือนเธอกับพ่อ 

 

 

Shirleigh - เข้าใจแล้วค่ะ ว่าแต่ซิด คุณรู้มั๊ยว่าทำไมช่วงหลังๆ Mid ถึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่ล่ะ

Clive - เธอบอกว่าการเรียนของเธอถูกขัดขวางเพราะเหตุการณ์ที่ Kanver แต่ไม่รู้ว่าจริงมั๊ย?

Shirleigh - ไม่ใช่หรอกค่ะ ทางมหาลัยเสนอค่าคอมมิทชั่นให้เธอแลกกับค่าเล่าเรียนแบบเต็มจำนวนเพื่อแลกกับให้เธอช่วยสร้างเครื่องจักรสำหรับใช้ในสงคราม ถ้าเป็นคนอื่นก็คงเป็นโอกาสที่ดี แต่สำหรับมิดที่เสียพ่อจากสงคราม เธอคงไม่ทำแน่ และไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอเลือกทำให้ผู้คนมีความหวังท่ามกลางสงครามแทน 

Clive - นั่นอธิบายคำว่า ทายาทของเธอ ได้ดี …เธอทำงานเพื่อให้ทุกคนที่นี่มีชีวิตที่ดีขึ้น และชั้นก็ควรทำแบบนั้นเหมือนกัน 

Shirleigh - โอ้ คุณให้พวกเขามามากพอแล้ว และชั้นมั่นใจว่าทุกคนขอบคุณในสิ่งที่คุณทำให้พวกเขาแน่นอน 

 

 

                                📭 Missives Quest 

 

คำขอที่ต่ำต้อย 

 

นายท่านไคลฟ์ ผมต้องขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะตอนนี้ไม่มีใครที่ผมจะหันไปหาพึ่งได้แล้ว เนื่องมาจากขาดความสามารถด้านการต่อสู้อย่างเห็นได้ชัดของผม หากพูดตามตรง ผมเป็นเพียงคนรับใช้ ไม่ใช่ทหารรับจ้าง แต่ท่านลุงที่นับถือของคุณก็ได้เสนองานที่น่ารำคาญที่สุดแก่ผม และผมกลัวว่าจะทำได้ไม่เต็มที่ เรื่องโจรพวกนั้น ยังไงมาพบผมที่ื  Martha’s Rest หน่อยครับ ผมจะอธิบายสถานการณ์ของผมให้ขัดเจนอีกที 

 

และผมขอโทษสำหรับการร้องขอแบบกะทันหันที่ไม่สุภาพนี้ด้วย สถานการณ์บังคับให้ผมต้องทำจริงๆ 

 

เซบาสเตียน รัทเธอร์ฟอร์ด

หัวหน้าคนรับใช้ของ ลอร์ดไบรอน รอสฟิลด์

 

 

                 📗 SideQuest: Smooth Like Butler 

 

 

Objective > เดินทางไปที่ Martha’s Rest

 

 

 

Rutherford - โอ้ นายท่านนั่นเอง คุณได้รับจดหมายจากผมด้วย ผม เซบาสเตียน รัทเธอร์ฟอร์ด หัวหน้าคนรับใช้ในปราสาทของ ลอร์ดไบรอน รอสฟิลด์ ลุงของท่าน

Clive - ผมจำได้ เราเคยเจอกันมาแล้วนี่ 

Rutherford - ต้องขอบคุณที่สละเวลามานะครับ 

Clive - มันมีเรื่องอะไรที่ละเอียดอ่อนขนาดที่คุณไม่สามารถเขียนบอกได้งั้นหรอ?

Rutherford - ผมต้องขออภัยเป็นพันครั้งเลยครับที่ทำให้ไม่พอใจ ผมแค่อยากจะ...

Clive - เข้าเรื่องเลยเถอะ

Rutherford - ผมมาที่ตามคำสั่งลุงของคุณ จากการที่ได้รับมอบหมายให้เรียนรู้ว่า ผมสามารถทำอะไรได้บ้างจากสถานการณ์ปัจจุบันของอณาจักร และผมก็ได้เรียนรู้แล้วว่า การล่มสลายของมาเธอร์คริสตัลทำให้ฝั่ง Storm อยู่ในสภาพที่ยุ่งเหยิงไปหมด หลังจากท้องฟ้าเริ่มมืดลงการโจมตีของพวก Akashic ที่เคยเป็นเรื่องที่ไม่เคยพบเจอกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้ว กลไกเรื่องการปกครองพังหมดเพราะไม่มีพวกชาวบ้านให้ปกครอง มันจึงทำให้ดูสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง แต่ลุงของคุณมองว่า มันมีวิธีที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นและมุ่งมั่นที่สร้างความเปลี่ยนแปลง 

Clive - มันฟังดูค่อนข้างที่จะเป็น ภาระหน้าที่ที่จริงจังมากเลยสินะ 

Rutherford - ใช่เลยครับ ผมเลยต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานหลายคนจาก Seven High Houses แต่ อนิจจา ...ผมขาดการติดต่อกับเพื่อนร่วมงานสองคนนั่นไปแล้วสิครับ พวกเขาทั้งคู่ร่างกายแข็งแรงและได้รับการฝึกการใช้ดาบมาอย่างดี แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้ดูท่ามันจะไม่ปลอดภัยพอซะแล้ว 

Clive - ก็เลยอยากจะให้ผมไปตามหาพวกเขาใช่มั๊ย? และพวกเขาอยู่ที่ไหนกันบ้างครับ 

Rutherford - คนนึงเราส่งไปสืบข่าวเรื่องสาธารณะรัฐ ส่วนอีกคนไปที่เมืองหลวงเก่าของ Oriflamme ครับ 

Clive - นั่นเป็นอะไรที่กว้างมากนะ ผมจะเริ่มจาก Dalimil แล้วไล่ไปทางตะวันออกก็แล้วกัน 

Rutherford - ขอบคุณมากครับ ขอให้ประสบความสำเร็จและอยู่รอดปลอดภัยนะครับ 

 

 

Objective > เดินทางไปที่ Dalimil มุ่งหน้า Doeznow Terraces 

 

 

ทหาร สาธารณรัฐ Dhalmekian - ชั้นไม่เห็นเจ้านายของแกมาเลย เอาเป็นว่า แกควรเริ่มจากเอาทองแดงในกระเป๋าแกมาให้พวกเราทั้งหมดก่อนนะ 

คนรับใช้ - ผมก็บอกแล้วนี่ว่าไม่มีอะไรติดตัวมาเลย !!

ทหาร สาธารณรัฐ Dhalmekian - งั้นก็เอาเครื่องประดับและเหล็กที่แกสวมใส่อยู่ตอนนี้ก็ได้ 

 

 

คนรับใช้ - โอ้ คุณ ได้โปรดช่วยผมด้วยครับ พวกมันกำลังปล้นผม

Clive - เดี๋ยวผมจัดการเอง 

 

 

ทหาร สาธารณรัฐ Dhalmekian - แกคงเป็นเจ้านายของมันสินะ? ถ้านายจ่ายเงินที่มันติดพวกเรามาดีๆเราจะไม่เอาความที่แกบังอาจชักดาบใส่ทหารสาธารณรัฐอ่ะนะ

Clive - พวกนายก็สามารถกลับไปที่กองร้อยของนายได้นะ ชั้นจะไม่รายงานกัปตันของนายหรอก  

ทหาร สาธารณรัฐ Dhalmekian - ตามสบายเลย เพราะเขาไม่ค่อยจะให้แขกเข้าพบมากนักหลังจากที่เราตัดคอเขาอ่ะนะ 

 

 

             Mini boss - Dhalmekian Republic Soldiers

 

 

 

คนรับใช้ - มีการเปลี่ยนแปลงมากมายของทหารสาธารณรัฐ หลังจากที่สูญเสียคริสตัลและผู้นำของเขาไปอ่ะนะ 

Clive - งั้นคุณก็เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนสินะ?

คนรับใช้ - ก็มีบ้าง ผมถูกส่งมาที่นี่เพื่อสังเกตการณ์พวกมัน

Clive - คุณคือคนของ Rutherford ใช่มั๊ย? เขาส่งให้ผมมาตามหาคุณเพราะคุณขาดการติดต่อไปน่ะ

คนรับใช้ - งั้นก็ต้องขอบคุณมากๆนะครับ ปกติแค่พวกมันแค่คนสองคนผมก็พอไหว แต่นี่เป็นกองร้อยเลย ผมมาถึงที่ Dalimil เมื่อสองวันก่อน แต่พอผมเข้าไปขอพบกัปตันของทหารรักษาการณ์ของสาธารณรัฐ ไอ้พวกทหารพวกนี้ก็ยึดเอาของผมไปหมดแล้วก็จับขังคุกเฉยเลย  

Clive - พอไม่มีกัปตันแล้วพวกทหารพวกนี้ก็เลยคุมทุกอย่างแทนสินะ 

คนรับใช้ - โชคดีที่ผมติดสินบนพวกทหารที่เฝ้าคุกจนหนีออกมาได้ แต่ก็มาเจอไอ้พวกนี้อีก จนเจอคุณมาช่วยไว้นี่แหละ 

 

 

Clive - แล้วทหารกองหลักของไททั่นไปไหนกันหมดนะ พวกเขาจะยอมให้พวกนอกกฎหมายอยู่ในกลุ่มพวกเขาแบบนี้จริงๆหรอ?

คนรับใช้ - ผมว่ากองทหารหลักคงไม่รู้เพราะส่วนใหญ่ถอยกลับเมืองหลังหมดแล้วหลังจากคริสตัลล่มสลาย พวกทหารที่นี่ก็เหมือนถูกทิ้งให้ต้องดูแลตัวเอง

Clive - งั้นก็คงแย่กว่าที่เราคิดเยอะเลย คุณกลับไปที่โรซาเรียเถอะที่นี่ไม่ปลอดภัย

คนรับใช้ - ครับ ผมจะหากองคาราวานที่กำลังขึ้นเหนือ คุณคงไม่ว่าถ้าผมจะเอาถุงเงินของทหารพวกนี้ไปใช้ก่อนน่ะ?

 

Clive - ตามสบายเถอะ .... เอาล่ะต่อไปก็ไปหาคนของ Rutherford อีกคน ถ้าเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ Oriflamme งั้นก็คงต้องลองไปดักหน้าที่ Northreach ดูว่าจะตามรอยเขาเจอมั๊ย 

 

 

Objective > เดินทางไปที่ Northreach มุ่งหน้า Claireview 

 

 

Clive - จากที่นี่มีถนนหลายเส้นที่จะไปยังเมืองหลวงได้ คนของ Rutherford จะไปทางไหนก็ได้ ...หืมม เดี๋ยวนะ ...เกิดอะไรขึ้นหรอ?

Rockford - ถ้านายมากับพวกนั้นล่ะก็ ...พวกเขาช่วยคนข้าวของของชั้นออกไปหมดแล้วล่ะ 

Clive - เปล่าครับ ผมมาตามหาคนของ Rutherford

Rockford - งั้นคุณก็เจอแล้วล่ะ ..ผม Alistair Rockford ผู้ดูแล เลดี้ Ariane แห่งบ้าน Wellesley 

Clive - จาก Seven High Houses แห่ง โรซาเรียสินะ นานแล้วนะที่ไม่ได้เจอป้าทวดของชั้น ท่านสบายดีนะ ?

Rockford - ท่านหญิงของผมท่านเป็นหญิงพันปี ท่านยังแข็งแรงอยู่ครับ เธออนุญาตให้ผมไปช่วยงานลุงของคุณ ในขณะที่ผมกำลังเดินทางจากเมืองหลวงก็เจอพวกชาวบ้านถูกโจรปล้นบนถนนนี้ พวกเขาดูเหมือนพวกลูกจ้างที่ทำงานแถวๆนี้ แต่มันไม่สำคัญแล้วล่ะ ผมทำเท่าที่จะทำได้แล้วเพื่อช่วยพวกเขา 

Clive - พวกโจรมันไปทางไหนครับ?

Rockford - ผ่านประตูนี้ไปทางทิศใต้

Clive - โอเค เดี๋ยวผมจัดการเอง ส่วนคุณกลับเข้าไปที่ Northreach ก่อน เข้าไปที่ the Veil แล้วบอกพวกเขาว่าชั้นส่งให้มา 

Rockford - ขอบคุณครับ ขอให้พระคุ้มครองนะ 

 

 

               Objective > จัดการพวกโจรให้หมด 

 

 

Clive - เอาล่ะ นานควรรีบไปแวะเมืองที่ใกล้ที่สุดนะ อาจจะมีโจรกลุ่มอื่นๆอยู่แถวนี้อีกก็ได้

พ่อค้าเร่ - รับรองเลยว่าคุณไม่ต้องบอกผมซ้ำสองแน่ ขอบคุณนะครับ

 

 

Clive - อ้าว ผมบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าให้เข้าไปที่ the Veil

Rockford - ผมพยายามฝืน กลัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับรัชทายาทของท่านดยุคน่ะครับ 

Clive - เรียกผมว่าไคลฟ์เฉยๆก็พอ และผมก็ไม่เป็นอะไรหรอกครับ ผมห่วงคุณมากกว่า 

Rockford - ผมเอาตัวรอดได้ครับ

Clive - แปลกนะ เหตุเกิดใกล้ประตูเมืองขนาดนี้แต่ทำไมทหารรักษาการณ์ถึงไม่ออกมาช่วยก็ไม่รู้ 

Rockford - พวกทหารรักษาการณ์คงกำลังยุ่งเรื่องภารกิจในเมืองอยู่ บางวันไม่มีการส่งหน่วยลาดตระเวนมาด้วยซ้ำ ตอนนี้เหลือคนที่ทำงานในไร่นาไม่มากแล้ว คนขนส่งสินค้าก็ไม่ค่อยจะมี แผงต่างๆในตลาดว่างเปล่า ของที่มีก็ราคาสูงลิ้ว ไม่แปลกหรอกที่จะเกิดการแย่งชิงกันแบบนี้ คนที่โจมตีผมหน้าตาก็ไม่เหมือนพวกโจร เขาคงเป็นแค่คนที่อดอยากเท่านั้นเอง 

Clive -เอาล่ะ ฟังนะ Rockford ถ้านายอยากที่จะทำงานสืบสวนของนายต่อ ก่อนอื่นนายควรไปรักษาตัวก่อน เข้าใจนะ

Rockford - แน่นอนครับ ผมจะรีบกลับไปที่ Northreach เดี๋ยวนี้แหละ

แต่แค่อยากแวะมาดูกลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณแล้วก็จะมาขอบคุณด้วยครับ 

Clive -ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก ขอบคุณ Rutherford ที่ส่งผมมาจะดีกว่านะ 

Rockford - ผมว่าเขาคงสงสัยว่าผมไปไหนแน่ๆเลย ผมจะรีบส่งข่าวไปบอกเขาให้เร็วที่สุดครับ โชคดีนะครับ

 

 

Clive - ผมนึกว่าคุณไปแล้วซะอีก ทำไมคุณยังอยู่ที่นี่อีก?

Rutherford - ก็ที่นี่มีพ่อค้าเข้าออกหมุนเวียนอยู่ตลอด ข่าวสารก็ด้วย อ่อ แล้วผมก็ได้รับข้อความจากคนของผมทั้งสองคนแล้วล่ะ ตอนนี้พวกเขาเริ่มงานสืบสวนต่อแล้ว ต้องขอบคุณคุณมากๆนะ 

Clive - ผมก็แค่อยู่ถูกที่ถูกเวลาเท่านั้นแหละครับ ดูเหมือนพวกเขาทั้งคู่คิดว่าสถานการณ์ของอณาจักรกำลังแย่นะ 

Rutherford - ผมเกรงว่าคำว่า แย่ อาจจะเบาเกินไปนะครับ ตอนนี้ Storm กำลังอยู่ในวิกฤต ถ้าเราจะช่วยเราต้องรีบทำให้เร็วที่สุด เราต้องร่วมมือร่วมใจกับอย่างที่ลุงของคุณประสงค์ไว้ 

Clive - ผมก็คิดเหมือนกัน 

 

 

 

                         👹 Hunt Board Update!👹

 

 

👹Notorious Marks ตัวที่ 17: The Pack 

พิกัด: ทางใต้ของหมู่บ้าน Tabor ใน Dhalmekia

 

 

 

                              🔶 Cloak and Dagger 🔶

 

 

 

                                The Krozjit Echoes

 

 

                                Central Dhalmekia 

 

 

Joshua - อย่างกับฝันไปเลยนะครับ ที่เราสี่คนมาเดินด้วยกันเหมือนเมื่อก่อนอีกครั้ง

Clive - นายกำลังเอ็นจอยงั้นหรอ? แต่ก็อย่าลืมนะว่า ในขณะที่เรากำลังคุยกัน Gav กับคนอื่นๆกำลังตกอยู่ในอันตรายอยู่

Joshua - ถูกของพี่ .. ผมขอโทษครับ ..Jote เป็นหน่วยสอบแนมที่ดี ถ้า Kanver ถูกโจมตีเธอคงส่งข่าวมาบอกแล้วล่ะครับ 

Jill - Tabor อยู่อีกไม่ไกลจากนี้ เราควรเร่งฝีเท้าหน่อยแล้ว 

 

 

 

Clive - เราสามารถใช้ซากปรักหักพังพวกนี้ข้ามหุบเขาได้ แต่ระวังกันด้วยล่ะ 

Joshua - ถ้าพวกมันอนุญาติอ่ะนะ  พวก echoes ก็มีจิตสำนึกของตัวเองเหมือนกัน 

 

 

Jill - เล่าเรื่องเกี่ยวกับ Jote ให้เราฟังบ้างสิ โจชัวร์

Joshua - นางมีความมุ่งมั่นและภักดี แต่ก็อันตรายถึชีวิตด้วยคมดาบของนาง นิสัยคล้ายกับไคลฟ์ครับ แต่มีมารยาทมากกว่า ...

 

 

พ่อค้าเร่ - ไง คุณกำลังไปที่ไหนเนี่ย? ไปที่ Free City สินะ? อ่า ไม่เป็นไร ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร ทุกคนย่อมมีเหตุผลของตัวเองอ่ะนะ ยิ่งเป็นคนแปลกหน้าด้วย แต่สำหรับผม บอกตรงๆไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนต่อแล้วเนี่ย ตอนแรกของค้าขายอยู่ที่ Oriflamme แต่พอคริสตัลที่นี่ล่มสลายไปผมก็เลยกะลองไปเสี่ยงโชคค้าขายที่เมืองทะเลทรายดู 

 

 

Clive - คุณบาดเจ็บนี่? เกิดอะไรขึ้นหรอทหาร? หน่วยของคุณอยู่ไหน?

ทหารสาธารณรัฐ - เกิด Aetherflood ข้างหน้านั่น ... มันกลืนกินแค้มป์ของเราจนหมด คนของเรากลายเป็น ....แล้วก็เริ่มฆ่าฟันกันเอง ..มันมีหมู่บ้านอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ หมู่บ้าน Tabor คนที่นั่นมีน้ำใจกับเรามากๆ เราจะไม่มีวันให้พวกมอสเตอร์พวกนั้นหลุดเข้าไปถึงที่นั่นเด็ดขาด !!

 

 

 

                         📗 SideQuest: Bad Blood 

 

 

 

Clive - ผมจัดการเอง คุณพักอยู่ที่นี่เถอะ 

ทหารสาธารณรัฐ - ขอบคุณมาก ... ค่ายของเราอยู่ข้างหน้านั่น ไม่ไกลหรอก จะให้พวกมันเข้าไปที่ Tabor ไม่ได้นะ !! …. ยกโทษให้ผมด้วย ลอร์ด Kupka .

Clive - สู่สุขติเถอะ ทหาร ...

 

 

Clive - เขาบอกค่ายทหารอยู่ไม่ไกลจากนี่ หวังว่าพวก Akashic คงยังไม่ไปไหนนะ

Jill - ตรงนั้น Aetherflood แพร่กระจายทั่วไปหมดเลย พวกมันอยู่ที่นั่นแน่นอน 

Joshua - ระวังตัวกันด้วยล่ะทุกคน 

 

 

     Objective > จัดการพวก Akashic ในค่ายทหารให้หมด

 

 

 

ทหารสาธารณรัฐ - นี่พวกคุณน่ะ ได้โปรดช่วยด้วย ผมขาเจ็บ เดินไม่ได้! 

Clive - คุณเป็นทหารในกองนี้หรอ?

ทหารสาธารณรัฐ - ผมได้ยินเสียงการต่อสู้ เลยรีบมาช่วยแต่บาดเจ็บซะก่อน แล้วพวกที่ค่ายเป็นไงบ้างครับ 

Clive - ไม่มีใครเหลือแล้ว ...มีทหารคนนึงบาดเจ็บอยู่หน้าค่ายบอกให้ผมมาช่วย

 

 

ทหารสาธารณรัฐ - มีคนรอดชีวิตหรอ? ที่ไหน? บอกผมมา?

Clive - เขาบาดเจ็บหนักมาก ...ไม่รอดแล้วล่ะ

ทหารสาธารณรัฐ - เขาคิดถูกแล้วที่ส่งคุณมา ฆ่าไอ้พวกนั้นให้หมด พวกมอนสเตอร์นั่นไม่ใช่พวกฟ้องของผมอีกแล้ว ตอนนี้คนที่ Tabor ก็ปลอดภัยจากพวกมันแล้ว นี่ครับ ค่าเหนื่อยเล็กๆน้อยๆ รับไปครับ ...เอ้  เราเคยเจอกันมาก่อนป่ะเนี่ย? …

Clive - คุณคงจะจำคนผิดแล้วล่ะ ..

ทหารสาธารณรัฐ - เดี๋ยวนะ ...แผลนั่น ?

 

 

ทหารสาธารณรัฐ - ไอ้ชาติชั่วเอ้ย ! แกคือ Cid นั่นเอง !!! ข้าอยู่ที่ Kostnice ตอนที่แกฆ่าพี่น้องของข้า ข้าอยู่ที่ Rosalith ตอนแกฆ่าแม่ทัพของชั้น !!

Clive - สงครามระหว่างชั้นกับ Kupka มันจบลงแล้ว ชั้นไม่คิดที่จะลงโทษหรือฆ่าผู้ติดตามเขาหรอก 

ทหารสาธารณรัฐ - แต่ข้าอยาก!! ไอ้ขี้ขลาดเอ้ยย !! ชักดาบออกมา!! ข้าจะล้างแค้นให้ลอร์ด Kupka !!

 

 

👉เขาแทบจะยืนไม่ไหวแล้วนะ

ได้ ถ้านายต้องการ !

 

 

Clive - ไปรักษาแผลซะ หายหัวร้อนเมื่อไหร่ค่อยแวะไปหาชั้นก็แล้วกัน แม้ว่านายคงต้องตาย แต่ก็ยังดีกว่ารับใช้มัน หรือว่านายลืมคำสาบานที่ให้ไว้กับ สาธารณรัฐแล้ว?

ทหารสาธารณรัฐ - มันเป็นคำสาบานของข้า! แกจะไปรู้อะไร !

Clive - ชั้นรู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะรักษามันไว้ ชั้นจึงให้โอกาสนายเพื่อจะได้รักษามันไว้ 

ทหารสาธารณรัฐ - ไม่ๆๆ ข้าจะไม่ยอมให้แกหลอกหรอก!! ลอร์ด Kupka บอกว่าแกเป็นอาชญากร พวกนอกกฎหมาย!! ไอ้ฆาตกร! ไอ้ !!!!

Clive - แล้วนายกับคนอื่นๆล่ะ? ไม่เหมือนกันหรอ?

ทหารสาธารณรัฐ - ไม่เหมือนโว้ย !!   ถ้าแกจะไม่คิดจะฆ่าข้าก็ไสหัวไปซะ!!  และรู้ไว้ด้วยนะว่าชั้นจะตามล่าแก Cid !! ในซักวัน !!

 

 

 

Joshua - อีกนิดเดียวก็ถึงแล้วครับ

Clive - นายเคยมาที่ Tabor มาก่อนหรอ?

Joshua - มีไม่กี่ที่หรอกครับที่ผมไม่เคยไป 

 

 

ยามรักษาการณ์ - ขอต้อนรับสู่ Tabor นะคุณนักเดินทาง ที่นี่เราไม่ค่อยจะมีผู้มาเยือนเท่าไหร่หรอก 

 

 

 

                                    Tabor 

 

                     The Dhalmekian Republic

 

 

 

Clive - เอาไงต่อ โจชัวร์ ?

Joshua - เข้าไปที่บ้านตรงทางเข้าเมืองเลยครับ เธอรออยู่

 

 

                                 Clive - ห๊ะ !??

 

 

Jote - เป็นเกรียติอย่างยิ่งที่ได้เจอค่ะ ท่านลอร์ด ชั้น Jote ในฐานะ Knight of the Undying ผู้ทำหน้าที่ปกป้องนายท่าน โจชัวร์ รอสฟิลด์ ผู้ครอบครองเพลิงแห่งฟินิกซ์ 

Clive - โอ้ ...เอ่อ เข้าใจแล้ว ...

 

 

Jill - พอจะอธิบายเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียดได้มั๊ย? 

Clive - the Undying เป็นผู้รับใช้ที่ภักดีต่อบัลลังย์ของดยุค หรือ เจาะจงให้มากกว่านั้นคือ ดูแลเหล่าทายาทเป็นหลัก พวกเขารับใช้เรามาหลายชั่วอายุคนแล้ว แต่ไม่มีใครรับรู้เพราะพวกเขาทำงานอยู่เบื้องหลัง แฝงตัวในเงามืด

Joshua - นับแต่เริ่มก่อตั้งพวกเขาได้รับมอบหมายให้คอยดูแล ปกป้อง และรักษากฎของพิธีกรรมบรรพบุรุษให้ถูกสืบทอดอย่างถูกต้อง 

 

 

หลังจากเหตุการณ์ที่ Phoenix Gate เหล่า the Undying ก็เข้ามาดูแลและพาผมไปที่ปลอดภัย แม้กระทั้งตอนที่ผมหนีออกมาจากโรซาเรีย Jote ก็ตามมาดูแลและปกป้องผมในทุกที่ที่ผมไป ถ้าไม่ใช่เพราะดาบของเธอ ผมคงไม่มีทางรอดออกมาจากอณาจักรได้แน่นอน 

 

 

Clive - ยืนขึ้นเถอะ Jote เธอช่วยน้องชั้นเอาไว้ ชั้นเป็นหนี้บุญคุณเธอแล้ว และก็ไม่รู้จะชดใช้ยังไงหมดด้วย 

Jote - ชั้นทำตามหน้าที่น่ะคะ

Joshua - เอาเลย เล่าให้พวกเราฟังว่าเธอค้นพบอะไร

Jote - ได้ค่ะนายท่าน ...ก็คงเป็นไปตามที่คุณกลัวว่ามันจะเกิดขึ้นน่ะคะ ตามที่เราสอดแนมอยู่นอกชายฝั่งของ Crystalline Dominion ในวันที่คริสตัลล่มสลาย ความวุ่นวายทั้งหมดมันเป็นฝีมือของ Einherjar อย่างไม่ต้องสงสัย 

 

 

Joshua - กองเรือดำ Black Galleon งั้นหรอ?

Clive - โจชัวร์ Einherjar เป็นเรือธงของพวกรอยัลลิสต์ พวกมันมายุ่งอะไรใน Dominion?

Joshua - ก่อนหน้านี้ ผมรู้ว่า Waloed ก็เข้ามาแทรกแซงในเหตุการณ์ล่าสุดที่ Drake’s Fank เหมือนกัน ผมสัมผัสได้ถึงพลังอันชั่วร้ายของ Ultima เลยส่ง Jote และ the Undying ให้คอยตามติดเรื่องนี้ 

 

 

Jote - เราเชื่อว่า Black Galleon เริ่มถอดเสมอหลังจากการสู่รบเริ่มขึ้นไม่นานก่อนที่จะมุ่งหน้าไปทางใต้ 

Jill - ไปที่ Kanver งั้นหรอ?  งั้นพวกที่ปิดล้อมเมืองอยู่ตอนนี้ก็พวกทหารของ Waloeder ล่ะสิ ?

 

 

Joshua - ก็คงงั้น   และคนที่ออกคำสั่งให้ Black Galleon ออกเดินทางได้ก็มีอยู่คนเดียว ...Barnabas Tharmr 

 

 

 

ในขณะเดียวกัน ..........

 

 

 

ห้องประชุมสภาเมือง Free City แห่ง Kanver 

 

 

รัฐมนตรี Dhalmekian - นี่เราจะปลอดภัยในห้องประชุมนี้จริงๆหรอเนี่ย?!

หัวหน้ากิลด์แห่ง Kanver - เจ้าหน้าที่ดูแลเมืองรับค่าจ้างไปแล้ว เผื่อว่าคุณอยากจะรู้อ่ะนะ 

รัฐมนตรี Dhalmekian -มีเหตุผลมากมายที่พวกมันจะเชิดเงินหนีเอาตัวรอด!

หัวหน้ากิลด์แห่ง Kanver - ท่านจะหนีไปด้วยก็ได้นะท่านรัฐมนตรี ไม่มีใครห้ามหรอก!

หัวหน้ากิลด์แห่ง Kanver - ตลาดวาย ไฟไหม้โกดัง ท่าเรือถูกทำลาย Kanver ไม่มีเหลือแล้ว!!

รัฐมนตรี Dhalmekian - ในขณะที่อณาจักรกำลังวุ่นวายแต่คุณกลับคิดได้แต่เรื่องค้าขายเนี่ยนะ !!?

หัวหน้ากิลด์แห่ง Kanver - โอ้ งั้นก็ต้องขอโทษด้วยที่เราไม่รู้ว่าตอนนี้ Dhalmekia อยู่ได้ด้วยการบริจาคสินะ

รัฐมนตรี Dhalmekian - นี่แกกล้าดียังไง !!

 

 

ทหารรักษาเมือง - อ๊ากกกกกกกก !!!

Harbard - ท่านสมาชิกสภาผู้ทรงเกรียติ ..ต้องขออภัยแทนฝ่าบาทสำหรับการบุกรุกเข้ามาในครั้งนี้ด้วยนะครับ 

 

 

รัฐมนตรี Dhalmekian - พวกคุณทำอะไรเนี่ย? นี่มันหมายความว่ายังไง?

Harbard - ก็เรื่องปัญหาจุกจิกนิดหน่อยน่ะครับ แต่เกรงว่าผมซึ่งเป็นข้ารับใช้จะมาพูดก็จะกระไรอยู่ เชิญฝ่าบาทครับ 

 

 

Barnabas - เฮ้ออ ..ช่างเถอะ 

หัวหน้ากิลด์แห่ง Kanver - เดี๋ยว!! นี่แกทำกับลูกค้าของชั้นแบบนี้ได้ยังไง!?  อีกเดี๋ยวองค์ราชาก็จะเสด็จมาช่วยพวกเราจาก Akashic แล้วล่ะ!!

 



หัวหน้ากิลด์แห่ง Kanver - พระองค์มีพรแห่งสวรรค์ การแทรกแซงของพระเจ้า คือทางรอดของพวกเรา!!

หัวหน้ากิลด์แห่ง Kanver - และแน่นอนว่า ค่าชดเชยในสิ่งที่คุณทำมันก็น่าจะเจรจากันได้ เรื่องเจรจา เรายินดีบริการให้ด้วยราคาที่ย่อมเยาเลยล่ะ 

 

 


Harbard - ไอ้พวกโง่เอ้ย แกนี่มันไม่รู้อะไรกันเลยจริงๆ

รัฐมนตรี Dhalmekian - ฝ่าบาท ช่วยบอกด้วยถ้าผมพูดผิดไป แต่ผมสาบานว่า พวกปีศาจกำลังจะชำระล้าง Kanver ด้วยเลือดของประชากรของนาง ..โดยการบงการของ Waloed  …พวกท่านอย่าปฎิเสธเลยจะดีกว่า !!!  ทหาร! จับพวกมันไปขังคุกใต้ดินเดี๋ยวนี้ !!!!

 

 

                          Barnabas - พอได้แล้ว ..!

 

 

                            อ๊ากกกกกกกก !!!!!

 

 

 Barnabas - สิ่งมีชีวิตที่น่าสมเพช ที่เสนอคิดว่าตัวเองควรค่ากับการอยู่รอด เด็กผู้หญิงนั่นยังอยู่ที่นี่ ที่ไหนซักแห่งในเมืองนี้ จิตสำนึกผิดชอบชั่วดีของเธอยังคงน้อยนิดเมื่อเทียบกับความโอหังของพ่อที่ล่วงลับของเธอ 

 

 

Barnabas - จิตสำนึกผิดชอบชั่วดีที่ มิธอส ผูกยึดเอาไว้ และมันควรจะสิ้นสุดได้แล้ว  ... ไปเตรียมการต้อนรับเขาให้ดี ...

Harbard - ครับฝ่าบาท 

 

 

Barnabas - มาเลย มิธอส เข้ามา ชั้นมั่นใจเลยว่า เจ้าชายแห่งแสงคงไม่ทำให้คุณพึงพอใจหรอก ... 

 

 

 

Clive - ถ้างั้น นานแค่ไหนแล้วที่ Waloed ถูกครอบงำโดย Ultima?

Joshua - นานแค่ไหนหรอ? ถ้าดูจากการกระทำของ Barnabas ผมเดาว่าน่าจะไม่กี่ปี หรืออาจมากกว่านิดหน่อย 

Clive - แล้ว มันจะจบลงยังไง Ultima มันต้องการอะไรกันแน่?

Joshua - เอาแผ่นผ้านั่นให้พี่ชั้นดูหน่อย Jote

Jote - ได้ค่ะ 

 



Clive - พระเจ้า ...

Jill - เราเคยเจอที่ Phoenix Gate แล้วก็ที่ Drake’s Breath จากนั้นก็ที่นี่ แต่ มันคืออะไรงั้นหรอ?

Joshua - มันเก่ามาก มันเคยมีอยู่ในยุคโบราณ จนกระทั้งไม่มีใครศรัทธาจึงเหลือเพียงรูปภาพพวกนี้ และไม่มีใครบอกได้ว่าเจ้าสิ่งที่อยู่ใน Apodytery นั้นมันหมายถึงอะไรแม้แต่ Undying แต่ผมพนันเลยว่ามันต้องมีส่วนสำคัญที่ทำให้เราเข้าใจตัวตนของ Ultima ได้แน่ๆ 

 

 

ส่วน ร่างใหญ่ๆตรงกลางที่พวก Eikon มารวมกันด้านล่างนั่น ผมเชื่อว่ามันคือ Ultima  

 

 

Joshua - มันคงจะเป็นพระเจ้า หรือไม่ก็ใกล้เคียง และการดำรงอยู่ของมันเกินความหยั่งรู้ของเรา Eikon และเหล่า Dominant พวกเขาถูกกำหนดให้เป็นลูกน้องของมัน อย่างเช่น Barnabas ที่ยอมรับกับบทบาทที่ว่าแล้ว แต่บางคนก็ต่อต้าน เหมือนเช่น พี่ ไง ไคลฟ์ ซึ่งมันคงทำให้ทุกอย่างที่มันต้องการจะทำยากลำบากขึ้น เพราะงั้นมันจึงต้องการพี่มากเหนือสิ่งอื่นใด พระเจ้าไม่ชอบการขัดขืนหรอกนะ 

Clive -ไม่ ...ชั้นไม่คิดว่าพวกเขาจะทำแบบนั้นหรอก 

Joshua - ไคลฟ์ ผมขอเล่าเรื่องที่ซ่อนในทะเลสาปนั่นให้ Jote ฟังได้มั๊ย?

Clive - อืมม แล้วแต่เลย

 

 

Joshua - Jote ชั้นต้องพาพี่ชายชั้นไปที่ Kanver ระหว่างนั้นชั้นอยากให้เธอไปอยู่ในการดูแลของคนของไคลฟ์ เพราะมันจะปลอดภัยกว่า แม้ว่ามันจะเป็นที่ซ่อนตัวที่ดี แต่มันยังขาดนักรบฝีมือดีที่จะปกป้องมันยามมันถูกค้นพบ 

Jote - แต่การดูแลนายท่าน มันเป็นหน้าที่ของชั้นนะคะ?

Joshua - และมันก็เคยเป็นหน้าที่ของพี่ชายชั้นด้วย จำไม่ได้หรอ?

Jote - ถ้านายท่านต้องการเช่นนั้น ก็ได้ค่ะ ...แต่ได้โปรดรักษาตัวด้วยนะคะ เพราะถ้าหากเกินอะไรกับนายท่าน ชั้นคง ....

 

 

                          Joshua - อืมม ชั้นสัญญา ..

 

 

Jote - ขอตัวก่อนนะคะนายท่าน .. ท่านผู้หญิง

Clive - เราเป็นหนี้เธอนะ Jote

 




                    Joshua - เอาล่ะ เรารีบไปหาเพื่อนเรากันเถอะ !

 




 

Joshua - Cyril การสืบข่าวเป็นยังไงบ้าง?

Cyril - รายงานของผมจะอยู่กับนายท่านไปอีกนานเลยล่ะ

Joshua - อ่อ ใช่ Jote ไปทำหน้าที่อื่นแล้ว ชั้นคนสั่งเอง 

Cyril - แล้วหน้าที่ผู้คุ้มกันล่ะครับ 

Joshua - ฟูลทีมเลยล่ะ ก็อย่างที่นายเห็น First Shield ของชั้นกลับเข้ามารับตำแหน่งอีกครั้งแล้ว

 

 

Cyril - กระผม Cyril อัศวินแห่ง Undying และ bearer แห่ง Burning Quill

 

 

รับหน้าที่เป็นผู้บันทึกและเล่าขานการเดินทางของนายท่าน โจชัวร์ รอสฟิลด์ ในฐานะ ผู้ครอบครองเพลิงแห่งฟินิกซ์ และในฐานะอาร์คดยุคแห่งโรซาเรียโดยชอบธรรม 

 

 

Joshua - ผมสั่งให้ Cyril ให้ออกไปสืบสวนเรื่องต้นกำเนิดที่แท้จริงของ Ultima และทุกข้อมูลจากเหล่าพี่น้อง Undying ที่ถูกส่งมา จะถูกเก็บรักษาและเรียบเรียงเอาไว้ที่นี่ 

Jill - แล้วตอนนี้มี อัศวินแห่ง Undying กี่คนกันหรอ?

Cyril - ก็เรียกได้ว่า ยังไม่มากพอ ครับนายหญิง แต่พวกเราก็พร้อมจะรับใช้ฟีนิกซ์ด้วยทุกอย่างที่เรามีครับ ตามหลักความเชื่อเฉกเช่นที่ภาคีในอดีตของเราเคยปฎิบัติมา  

Clive - อ๋อ หรอ ...

Joshua - พี่มีคนของพี่ ผมก็มีของผมเหมือนกัน แต่ ตอนนี้พวกคุณจะคิดว่าพวกเขาเป็นพวกเราด้วยมั๊ย นั่นจะเป็นปัญหาหรือเปล่า?

 

 

Cyril - ฟีนิกซ์ก็เหมือนดวงตะวัน แต่เราเปรียบเสมือนเงาจากการส่องประกายของเขา และจากในเงามืดนั้นเรารับใช้ทั้งเขาและตอนนี้ก็ คุณ ด้วย 

 

 

Cyril - ได้โปรด รับสัญลักษณ์แห่ง Undying นี้ไว้ด้วยเถิด ตราบใดที่คุณสวมใส่มันไว้ คนของเราจะเปิดเผยตัวออกมาเพื่อรับใช้เมื่อคุณต้องการ 

 

 

Cyril -  และ... ถ้าไม่มีอะไรเพิ่มเติมแล้ว ..

Joshua - อืมม ทำหน้าที่ของนายต่อไปนะ

Cyril -  ขอรับ นายท่าน 

 

 

Joshua - โอเค งั้น เดินทางไป Kanver ตามเป้าหมายของเราต่อได้เลยครับพี่ 

Clive - อืมม ... เอาไว้คุยเรื่องนี้กันที่หลังก็แล้วกัน ...

 

 

 

 

                          Tabor SideQuest Umlock 🔓

 

SideQuest: Skin Trade

SideQuest: Carved in Stone 

 

 

 

                            📗  SideQuest: Skin Trade

 

 

 

พ่อค้าหนัง Karel - โอ้ คุณมีดาบด้วย นี่เป็นทหารรับจ้างป่ะเนี่ย ผมมีอะไรจะจ้างให้ฆ่าพอดีเลย 

Clive - หวังว่า คงเป็นคำพูดในเชิงเปรียบเทียบนะ ?

พ่อค้าหนัง Karel - ก็ทั้งใช่และไม่ใช่นั่นแหละ มันมีพวกกองคาราวานเค้าลือกันเรื่องการพบ elder dread aevid ตัวนึงอยู่แถวๆ Field of Corava ซึ่งก็ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับอาชีพของผมพอดีเลย เจ้า dread aevid มันเป็นสัตว์ดุร้ายที่เลี้ยงเอาไว้เพื่อฆ่าเท่านั้น แต่มันก็มีข้อดีข้อนึงที่ซ่อนอยู่นะ 

Clive - ข้อดีคือหนังมันขายได้สินะ?

พ่อค้าหนัง Karel - ใช่เลย ซึ่งจริงๆแล้วต้องเอาไปฟอกก่อนถึงจะสร้างออกมาเป็นสิงมหัศจรรห์ที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อนได้ หนังของ dread aevid เป็นของหายากมากนะ ถ้าได้มาต้องมีคนร้องไห้ด้วยความอิจฉาแน่นอน ถ้าคุณไปจัดการมัน ผมได้หนังคุณได้ค่าหัวของมัน แฟร์ๆเลยเอาป่ะ?

Clive - ได้สิ ผมจะล่า aevid มาให้คุณ

พ่อค้าหนัง Karel - แน่นอนคุณต้องรับอยู่แล้ว สถานการณ์บ้านเมืองเป็นแบบนี้ไม่รับก็โง่แล้วอ่ะนะ เอาล่ะ จากนี้คุณก็แค่ออกจาก Tabor ทางประตูทิศตะวันออก เจอทางแยกก็ไปทางตะวันตกจนถึงด่าน Tovany ผ่านเข้าไปก็จะถึง Field of Corava แล้ว ผมจะรอคุณกลับมาอย่างปลอดภัยอย่างใจจดใจจ่อเลยจริงๆนะ 

 

 

 

Objective > เดินทางไปยังพื้นที่ Field of Corava จัดการ dread aevid แล้วนำ หนังของมันกลับมาให้ Karel

 

 

 

Clive - นี่ครับ หนัง dread aevid ที่คุณอยากได้ ตามคำขอ

พ่อค้าหนัง Karel - โห ไม่คิดว่าคุณจะกลับมาเร็วขนาดนี้ ไหนๆขอผมดูซิ โอ้ นุ่นอย่างกับแก้มหญิงสาวแต่ก็ดูทนทานมาก นี่แหละคือทั้งหมดที่ผมต้องการ ไม่เสียแรงที่เชื่อใจคุณ คุณคงต้องเป็นนักล่าที่มีฝีมือแน่ๆเพราะกลับมาโดยไม่มีแม้รอยขีดข่วน เอางี้ ร่วมงานกับผมมั๊ย ถ้าได้ฝีมือแบบคุณมาเป็นหุ้นส่วน เราสองคนต้องเป็นราชาพ่อค้าแห่ง Dzemekys แน่นอน 

Clive - ผมไม่อยากจะทำอะไรแบบนั้นหรอกครับ แค่งานที่ทำอยู่นี่ก็ยุ่งมากแล้ว

พ่อค้าหนัง Karel - โอเค แม้ว่าผมจะเชื่อว่าเพราะโชคชะตาเลยทำให้เราเจอกัน แต่มันก็คงให้ผมต้องลงทุนขอร้องหรอกนะ แล้วก็ไม่อยากจะทำให้งานคุณเสียด้วย เอ้านี่ ค่าจ้างของคุณ

 

 

 

                     📗 SideQuest: Carved in Stone

 

 

 

นักโบราณคดี  Milos - โอ้ ขอบคุณ ในที่สุดก็มีคนสนใจผมซะที 

Clive - มีอะไรหรอครับ?

นักโบราณคดี  Milos - เมื่อก่อนที่มหาวิทยาลัย พวกนักเรียนของชั้นจะชอบฟังที่ชั้นสอน แต่น่าเสียดายที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้ ชั้นเลยต้องทิ้งบ้านเกิดกลายเป็นคนเร่ร่อนอยู่ที่นี่ 

Clive -มหาวิทยาลัย? คุณเป็นนักวิชาการหรอครับ?

นักโบราณคดี  Milos - ชั้นเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษเรื่องโบราณคดีที่มีชื่อเสียงที่สุดใน Valisthea เลยล่ะ บางคนไม่อยากจะเชื่อว่าชั้นต้องมาอยู่ในชุดผ้าขี้ริ้วแบบนี้ ในยุคที่ชั้นรุ่งเรืองไม่มีอะไรขัดขวางการเรียนรู้ของชั้นได้ แต่มาตอนนี้แค่เดินก็จะไม่ไหวแล้ว ทำให้คำตอบที่ชั้นแสวงหามันดูไกลเกินเอื้อมไปหมด คุณจะช่วยปีนบันได้แทนคนแก่อย่างชั้นทีได้มั๊ย? แน่นอนชั้นมีค่าเหนื่อยให้อยู่แล้ว 

Clive - ปีนบันไดอย่างเดียวหรอครับ ปีนแล้วยังไงอีก?

 

 

นักโบราณคดี  Milos - มันมีศิลาจารึกสองสามอันที่ชั้นอยากให้คุณไปอ่านน่ะ ที่นี่เล่าขานกันว่ามันมีวิญญาณโบราณได้สลักประวัติอันยาวนานของเมือง Tabor เอาไว้บนศิลาจารึกที่กระจายอยู่ทั่วหมู่บ้าน 

 

 

โดยศิลาจารึกทั้ง 3 จะตั้งอยู่ทางทิศ เหนือ ใต้ และ ตะวันออกของเมือง ซึ่งที่ชั้นมาที่นี่ก็เพื่อหวังว่า หินสลักเหล่านี้อาจช่วยไขปริศนาที่ชั้นคาใจอยู่ได้ ซึ่งจะว่าไปแล้ว ที่ Tabor นั้นเป็นที่เดียวที่ไม่มีการกล่าวถึงในส่วนของบันทึกทางเอกสารใดๆมาก่อนเลย ซึ่งทำให้ที่นี่ค่อนข้างแตกต่างจากที่อื่นๆ

 

Clive - แต่ผมไม่สัญญานะว่าจะทำมันได้อย่างสมบูรณ์แบบน่ะ 

นักโบราณคดี  Milos -เอาเป็นว่า จำเท่าที่จำได้ก็พอ ที่เหลือชั้นจะปะติดปะต่อเอง เข้าไปที่อาคารทรงโดมทั้งสามด้านของหมู่บ้านส่วนแท่นหินเดี๋ยวคุณก็เห็นเอง มันไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไรหรอก 

 

 

Objective > เข้าไปที่โดมทั้ง 3 ด้านของหมู่บ้านเพื่ออ่านข้อความจากแท่นศิลาจารึกทั้ง 3 อัน 

 

 

ผู้พิทักษ์แห่งคริสตัล ศิลาก้อนแรกแห่งทาบอร์

จงยึดถือเป็นที่สักการบูชาศักดิ์สิทธิ์ถืออันสูงส่งของเจ้า

จนกว่างานของพระมารดาจะสิ้นสุดลง 

 

 

ผู้พเนจรไปในพื้นที่ราบแห่งทองคำ จงหยั่งรากลึกลงในหิน

 หวนรำลึกถึงอดีตที่สูงส่งของเจ้าอย่างภาคภูมิ และ ทำให้หินเหล่านี้เป็นดั่งบ้าน

 

 

ลูกหลานของนักล่า บัดนี้เป็นชาวไร่ชาวนา ณ. แดนดินนี้

เก็บเกี่ยวพรตามที่สัญญา และ สรรเสริญพระหัตถ์อันสง่างามของเธอ 

 

 

 

Clive - จากที่พิจราณาดู หลักศิลาถูกซ่อมแซมเป็นอย่างดีครับ 

นักโบราณคดี  Milos - ชั้นอยากเห็นมันด้วยตาตัวเองจริงๆเลย ไหนลองบอกมาสิว่าคุณอ่านแล้วได้อะไรบ้าง? เริ่มจากหลักศิลาจากรึกของทิศใต้ก่อน มันเขียนว่าไง?

 

 

👉เลือกตอบข้อแรก

ผู้พิทักษ์แห่งคริสตัล ศิลาก้อนแรกแห่งทาบอร์

จงยึดถือเป็นที่สักการบูชาศักดิ์สิทธิ์ถืออันสูงส่งของเจ้า

จนกว่างานของพระมารดาจะสิ้นสุดลง 

 

 

นักโบราณคดี  Milos - เยี่ยมไปเลย ดูเหมือนผู้ที่สร้างเมืองนี้จะเป็นผู้ที่สืบทอดมาจากผู้ที่ตกจากฟากฟ้า ที่มีหน้าที่ปกป้องมาเธอร์คริสตัล แต่อย่างไรก็ตามก็สามารถทำให้พวกผู้พิทักษ์พ้นจากหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้ ชั้นคิดว่างั้นนะ? เอาล่ะ แล้วหลักศิลาจารึกทางทิศเหนือล่ะ มันเขียนว่าไง?

 

 

👉เลือกตอบข้อสอง

ผู้พเนจรไปในพื้นที่ราบแห่งทองคำ จงหยั่งรากลึกลงในหิน

หวนรำลึกถึงอดีตที่สูงส่งของเจ้าอย่างภาคภูมิ และ ทำให้หินเหล่านี้เป็นดั่งบ้าน

 

 

นักโบราณคดี  Milos - ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณอ่านมาถูกต้องแน่นอน เพราะมีร่องรอยของประเพณีของผู้เร่ร่อนใน  Tabor ให้เห็นอยู่บ้าง มันเป็นรากของผู้พิทักษ์ที่ปฎิบัติต่อเนื่องกันมาโดยไม่รู้ไม่มีเหตุผล แล้วก้อนสุดท้ายล่ะ มันเขียนว่าไง?

 

 

👉เลือกตอบข้อสอง

ลูกหลานของนักล่า บัดนี้เป็นชาวไร่ชาวนา ณ. แดนดินนี้

เก็บเกี่ยวพรตามที่สัญญา และ สรรเสริญพระหัตถ์อันสง่างามของเธอ 

 

 

 

นักโบราณคดี  Milos - ผู้ก่อตั้งที่นี่มีอาชีพเกษตรกรรม ปริศนาชิ้นสุดท้าย มันทำให้รู้ว่า จารึกทั้งสามคือตัวแทนของสามชนชาติที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่ในยุคโบราณ ประกอบด้วย ผู้พิทักษ์มาเธอร์คริสตัล , นักเดินทางจากอีกฝากของที่ราบและ นักล่าที่ผันตัวมาเป็นชาวนา 

 

 

นักโบราณคดี  Milos - ไม่แปลกใจเลยที่การสืบค้นเกี่ยวกับวัฒนธรรมของ Tabor ในยุคโบราณทำได้ยากมาก เพราะความเป็นมาของเหล่าผู้ก่อตั้งแยกออกเป็นสามทาง แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมข้อเท็จจริงเหล่านี้ถึงไม่เป็นที่รู้จักของนักวิชาการมากนัก เนื่องจากบันทึกทั้งหมดอยู่ที่ศิลาทั้งสามก้อนที่ตั้งอยู่ที่นี่นั่นเอง 

 

 

Clive - และต้องปีนบันไดหลายขั้นด้วยมั้ง?

นักโบราณคดี  Milos - เอ้านี่ค่าปีนบันได้ ฮ่าๆๆ  ขอบคุณมากๆนะพ่อหนุ่ม 

 

 

 

                 Notorious Marks ตัวที่ 17: The Pack 

 

 

           พิกัด: ทางใต้ของหมู่บ้าน Tabor ใน Dhalmekia

 

 

 

 

     Objective > มุ่งหน้า Kanver

 



            Joshua - ดูเหมือนพวกเขายังคงตั้งรับไว้ได้อยู่นะ  

 

 

Jill - นายพอจะรู้มั๊ยว่า Gav กับคนอื่นๆอยู่ที่ไหน?

Clive - ที่โกดังสินค้าใกล้กับท่าเรือ ซึ่งเราน่าจะเจอพวกเขาที่นั่น ถ้าไม่มีปัญหาอะไรซะก่อนนะ เรารีบไปกันเถอะ!

 

 

 

                                   Old Kanver

 

 

                      The Free Cities of Kanver

 

                      The Warehouse District 

 

 

 

                          Clive - เสียงดั่งฟ้าฟาด 

 

 

Gav - นายมาช้า ยังคิดเลยว่าสงสัยคงสะดุดหน้าผาตายไปแล้วมั้ง?

Clive - อย่างน้อยชั้นก็ยังจำได้ว่าคือนายอ่ะนะ Gav 

Gav - ดีใจที่เจอนะ แล้วเจอปัญหาอะไรระหว่างทางบ้างป่ะ?

Clive - ก็ยังเป็นอะไรที่รับมือได้อยู่น่ะ

 

 

Mid - ว่าแล้วเธอต้องมาด้วย ... เดี๋ยวนะ แล้วนั่นใช่คนที่ชั้นคิดป่ะเนี่ย?

Jill - ใช่เลยจ๊ะ

 

 

Clive - เอาล่ะ ทุกคน ชั้นขอแนะนำให้รู้จัก นี่ โจชัวร์ น้องชายชั้นเอง 

Mid - ไคลฟ์พูดถึงเรื่องนายให้พวกเราฟังตลอดเลย ชั้นชื่อ Midadol นะ เอ่อ ...... ใครๆก็เรียกกันว่า Mid น่ะ 

 

 

                       Joshua - ครับคุณผู้หญิง 

 

 

       Mid - โว้ๆๆๆ อะไรจะขนาดนั้น ฮ่าๆๆๆ ลุกๆ ลุกขึ้นเลย 

 

 

Byron - ไอ้หลานรักของลุง 

Joshua - ลุงไบรอน !!

Byron - เป็นหลานจริงๆด้วย ลุงไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าจะมีวันนี้

 

 

            Clive - เจ้า Akashic พวกนั้นถูกควบคุมงั้นหรอ?

 

 

Gav - ดูเหมือนจะเป็นงั้นอ่ะนะ ดวงตาดูว่างเปล่า แสงสีฟ้าลุกวาว แถมรุกคืบได้อย่างเงียบกว่าเดิมด้วย ดูก็รู้ว่าพวกมันเปลี่ยนไป 

Byron - คนของหลานพูดถูก ไคลฟ์ ชั้นเห็นพวกมันสองสามตัวในเมือง เคลื่อนไหวอย่างมีเป้าหมาย ไม่ใช่แบบที่มันเคยเป็นแน่นอน 

 

 

Clive - ฝีมือไอ้เจ้า Ultima สินะ?

Joshua - ก็อาจเป็นได้นะครับ 

 

 

Jill - แล้วผู้คนในเมืองล่ะ เป็นไงกันบ้าง?

Mid - เฮ้อ … ส่วนใหญ่ก็ตานกันหมด 

Gav - ส่วนใหญ่น่ะใช่ แต่ไม่ทั้งหมด 

 

 

Gav - ยังมีบางส่วนขังตัวเองอยู่ในบ้านของตัวเองก่อนที่พวกมันจะบุกเข้ามา บางส่วนอยู่ในเขตการค้าทางตะวันตก อีกส่วนอยู่ในเขต Far Bank 

Clive - อืมมม ยังไงซะพวกมันก็ต้องหาจนเจอ ประตูแค่นั้นกันพวกมันไม่ได้แน่ เราต้องรีบตามหาแล้วไปช่วยพวกเขา อย่างเร็วที่สุด

Joshua - แผนว่าไงครับ?

 

Clive - เราจะแบ่งเป็นสองกลุ่ม ชั้นจะไปดูที่เขตการค้า ส่วนนายข้ามแม่น้ำไปอีกฝากของเมือง ยังไงก็ฝากดูน้องชั้นด้วยนะจิล 

Jill - ได้อยู่แล้ว ชั้นพอรู้ตำแหน่งเขตที่อยู่อาศัยอยู่ ที่เหลือก็แค่ไล่ดูทีล่ะบ้าน

Joshua - เข้าใจแล้วครับ 

 

 

Byron - แล้วพวกเราล่ะ?

Clive - Mid เรื่องเรือไปถึงไหนแล้ว?

Mid- เรืออ่ะหรอ? เอ่อ เครื่องยนต์ mythril ต้องปรับจูนอีกนิดหน่อย

Clive - งั้นให้เร็วเลย ถ้าพวกเราเจอชาวบ้านที่รอดชีวิตจะได้รีบพาไปซ่อนตัวที่ hideaway ได้

Mid- ปล่อยเป็นหน้าที่ชั้นเอง 

Clive - ส่วนนาย Gav กับลุง ช่วยดูไม่ให้ Mid ก่อเรื่องให้ตัวเธอเดือดร้อนก็พอ 

Byron - ลุงว่าลุงเอาอยู่นะ

Gav - ชั้นจะดูแลความปลอดภัยเธอเอง

 

 

Mid - ดูเหมือนจะได้อยู่กับหนูอีกแล้วนะ  ไบรอน  ฮ่าๆๆ 

Byron - หน่อย!! นี่ ชั้นลอร์ด รอสฟิลด์ นะ ยัยช่างปะปาตัวน้อย !!

 

 

Joshua - งั้นเราก็ไปกันเลยมั๊ย?

Jill - ดูแลไคลฟ์ให้ปลอดภัยด้วยนะ Torgal 

Clive - พวกเธอสองคนก็ระวังตัวกันด้วยล่ะ 

Joshua - พี่ก็ด้วยนะครับ 

 

 

 

                                🔶 Evenfall 🔶 

 

 

Clive - ไปกันเถอะ Torgal ไปหาผู้รอดชีวิตกัน !!

Torgal - โฮ่ง!!

 

 

Clive - พวกเขาไม่มีทางรับมือไอ้พวกสัตว์ร้ายนั่นได้แน่นอน มันบ้าคลั่งกันใหญ่แล้ว !!! 

 

 

 

   Objective > ฝ่าดงศัตรูเข้าไปในเมืองเพื่อตามหาผู้รอดชีวิต 

 

 

 

Clive - โครมครามขนาดนี้ โจชัวร์กับจิลคงกำลังยุ่งอยู่แน่ๆเลย 

 

 

                        Mini boss - Orcish Warlord

 

 

Clive - มอนสเตอร์พวกนี้มัน !! … พลังของ Ultima มันขยายขอบเขตได้ขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย?   

 



Harbard - ยอมรับเลยว่า พวกคุณมันสร้างความปั่นป่วนได้ใจจริงๆเลย แต่ผมเองก็หวังว่าจะไม่น้อยไปกว่าคุณอ่ะนะ มิธอส 

 

 

Clive - แกอีกแล้วหรอ?  ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะต้องถึงขั้นได้แนะนำตัวให้รู้จักกันจริงๆ แกอยู่ในห้องใต้ดินของครอบครัวชั้น และตอนนี้แกก็มาอยู่ที่นี่พร้อมไอ้กองทัพ Akashic บ้านี่อีก

 

 

Harbard - มีมารยาทหน่อยสิ ลอร์ด รอสฟิลด์ พวกเขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกับคุณกับผมนะ แม้พวกเขาจะเต็มไปด้วยเจตจำนงที่ผลักดันไปสู่ความบ้าคลั่งมากไปหน่อย แต่พวกเขาก็บริสุทธิ์และ น่าเลื่อมใส  

 

 

Clive - อะไรนะ??

Harbard - และพวกเขาคือพวกที่เหลืออยู่ในเมืองที่ครั้งนึงมันเคยเต็มไปด้วยความวุ่นวายแห่งนี้

Clive - แกจะต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป!!!

Harbard - ก็แล้วแต่คุณเลย 

 

 

Harbard - ผมสารภาพเลยว่า ผมตั้งตารอสิ่งนี้มาก และต้องขอประทานความกรุณาให้อภัยด้วยเถอะฝ่าบาท ในเรื่องที่ไม่ต้องการให้ พาหะนี้เสียหาย 

 

 

Harbard - ข้าในนามของ สไลป์เนียร์แห่งตระกูลฮาร์บาน์ต ขอให้คุณยอมจำนนแต่โดยดี 

 

 

                                  BOSS - Sleipnir

 

 

Harbard - ต้องขอประทานโทษด้วยถ้าการแสดงของผมดูไม่ค่อยไม่ต้องตาต้องใจ ผมคงต้องจริงจังกับคุณในฐานะผู้ถูกเลือกมากขึ้นอีกหน่อย 

 



Harbard - หวังว่านี่คงน่าจะปลุกไฟในตัวคุณได้นะ 

Clive - อะไรอีกวะเนี่ย?

 

 

                 Harbard - ของขวัญจากคลังอาวุธของฝ่าบาท 

 

 

                             Harbard -  หอก Gungnir !!

 

 

                      Harbard - จับตาดูให้ดีๆล่ะ มิธอส !!

 



                    Sleipnir - ช่างเป็น พาหะ ที่แข็งแกร่งจริง ....... 

 



 

Joshua - ไคลฟ์ !!!

Jill - นายไม่เป็นไรนะ?

Clive - ไม่เป็นไร พวกเธอก็เหมือนกันสินะ จากที่เห็น 

Joshua - พวกเราไม่เป็นไรครับ 

Jill - แต่ ชั้นเสียใจ เราช่วยพวกเขาไม่ทัน 

Joshua - พอเราไปถึงพวกเขาก็ตายหมดแล้วครับ

Clive - ก็นะ ... ไม่เป็นไร พวกเธอทำเต็มที่แล้ว ชั้นคิดว่าเราก็คงมาช้าทั้งคู่แหละ 

 

 

Clive - งั้นรีบไปกันเถอะ ..... มีอะไรหรอ โจชัวร์?

Joshua - เปล่าครับ คิดว่างั้นนะ ....

 




 

Barnabas - จะรีบกลับไปไหนล่ะ มิธอส ?

Joshua - นั่นมัน ราชา ..

 

 

Barnabas - ใช่... และพวกแกควรคุกเข่าต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าข้า Barnabas Tharmr … ผู้ครอบครองแอซ และ กษัตริย์แห่งวาโลเอด 

 

 

                      Clive - จิล โจชัวร์ ถอยออกไป !

   



 

 



 

 

Barnabas - ใจร้อน บู่มบ่าม หุนหันพลันแล่น แกควรทำให้สมกับเป็นคนที่เอาชนะแม่ทัพของชั้นให้มากกว่านี้หน่อยนะ แต่ชั้นรู้แล้วว่าทำไมเจ้านายชั้นถึงต้องการตัวนายมาก พลังในตัวนาย มิธอส มันมีบางอย่างซ่อนเร้นอยู่

 

 

 

 

 

 

                  Clive - หยุดเรียกชั้นว่า มิธอส ซะที !!

 

 

                       Barnabas - แต่ มิธอส คือทุกสิ่ง

 

 

Barnabas - เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างทุกสรรพสิ่ง พาหะของพระเจ้า นั่นแหละ เจตจำนงของนาย 

 



  Clive - เจตจำนงของเนี่ยนะ ที่จะยอมมอบกายใจเพื่อทำสิ่งบ้าๆนี่?

 

 

Clive - ไม่ใช่สิ .. ฝ่าบาท เจตจำนงของชั้นก็ต้องเป็นของชั้นเอง ชั้นให้สัญญากับเพื่อน และ คนของชั้นไว้แล้ว 

 

 

              Clive - และไม่มีอะไรจะมาขวางทางชั้นได้ !!

 

 

Barnabas - นายจะยอมให้เจตจำนงที่หลังผิดนี่ขัดขวางเส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่ของนายเนี่ยนะ? 

 




 จริงๆแล้ว เจตจำนงแบบนั้นของนายมันก็เหมือนมะเร็งที่ต้องตัดทิ้ง

 

 

         Clive - ก็ลองเข้ามาตัดสิ !!  อ๊ากกกกกก !!

 

 

 

               Jill - ไม่ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! 

 




         Barnabas - แกมันก็อ่อนแอเหมือนกับคนอื่นๆนั่นแหละ 

 

 

            Jill - โจชัวร์! พาไคลฟ์หนีไป ชั้นจะถ่วงมันเอาไว้เอง !!

 





                        Gav - เฮ้ยยยๆๆๆ ทางนี้ๆๆๆ เร็ว !!

 



Barnabas - พลังที่มากมายเหนือคณานับขนาดนี้ พวกแกกลับมาใช้เหมือนของเด็กเล่นแบบนี้ซะได้  เสียของจริงๆเลย 

 

 





 

 

ในเวลาต่อมา .........................

 

 

 

 

                                      City Outskirts 

 

                              The Free Cities of Kanver

 

 

                                      The Ironwork 

 

 

 

Mid - เขาจะเป็นอะไรมั๊ยเนี่ย?

Joshua - ฟินิกซ์สามารถรักษาเนื้อหนังได้ แต่จิตใจเขา ต้องรอการฟื้นตัวด้วยตัวเขาเอง อันนี้ผมเกรงว่า มันต้องขึ้นอยู่กับเขาแล้วล่ะ

 

 

Joshua - สถานที่นี้น่าทึ่งมากๆ การจะสร้างขึ้นมาคงไม่ใช่เรื่องเล็กแน่ๆ แต่ ทำไมถึงต้องหลบซ่อนด้วยล่ะ มันมีปัญหาอะไรงั้นหรอ?

 

 

Mid - เรือลำนี้ รวมถึงหลายสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ที่โลกนี้ยังไม่พร้อม ถ้าพวกกิลด์ต่างๆรู้เรื่องที่เรากำลังทำอยู่ พวกเขาน่าจะหาทางฮุบไปจนหมด

 

 

Byron - ไง เขาเป็นไงบ้าง? แล้วก็ อย่าโทษตัวเองเลยว่าทำไม่ดีพอ ตอนเขามาถึงที่นี่ไม่ๆแทบไม่หายใจด้วยซ้ำ เราคงเสียเขาไปแน่นอนถ้าหลานไม่ได้ช่วยไว้

Joshua - เปล่าครับ Barnabas ตั้งใจแค่ตัดเส้นเอ็นในร่างของพี่ ไม่ได้จะเอาให้ตาย 

Byron - ตัดทุกเส้นเอ็นเลยเนี่ยนะ!?

Gav - เอามานี่ครับผมช่วยเองท่านลอร์ด ไม่รู้ผมคิดอะไรอยู่ถึงปล่อยให้คุณต้องลำบากขนาดนี้ 

Byron - เฮ้ออ แค่ยกน้ำแค่นี้จิ๊บจ๊อย ไม่มีได้เป็นปัญหาอะไรหรอกในการช่วยหลานชายชั้นเอ็นขาดทั้งร่างแบบนี้อ่ะนะ 

Gav - ผมรู้ครับ แต่ คุณทำเพื่อเรามาเยอะแล้ว เสียเงินมากมายทั้งที่ Hideawaw จากนั้นก็เรือนี่อีก 

 



Mid - ที่ผ่านมานายเสี่ยงชีวิตเพื่ออะไร? เพื่อเด็กผู้หญิงคนนึงที่นายแทบไม่รู้จักเนี่ยนะ? ทำไมนายต้องทำแบบนี้ด้วย!? นายนี่มันบ้าใช่มั๊ย!?

 

 

                     Clive - ชั้นก็ไม่ได้ถึงบ้าหรอก ....

 

 

Mid - ไคลฟ์ !! นายรู้สึกตัวแล้วหรอ!!?

Joshua -รู้สึกตัวแล้วหรอ!!?

Byron - หลานข้ารอดแล้ว !!!

Clive - ที่ชั้นทำไปทั้งหมด ก็แค่อยากช่วย แม้มันจะต้องเสี่ยงบ้างก็เถอะ ก็เหมือนกับ ซิด นั่นแหละ 

 

 

Clive - พ่อของเธอก็สู้เพื่อช่วยชั้นแบบนี้เหมือนกัน 

Mid - อืมม เขาก็น่าจะเป็นแบบนั้น 

 

 

Gav - แต่อย่าทำแบบนี้อีก ขอเลย 

Clive - แล้วพวก รอยัลลิสต์เป็นไงบ้าง?

Gav - ไปหมดแล้ว ทั้งหมดเลย รวมทั้ง Galleon ไม่ต้องสืบหรอกว่าราชามันไปด้วยมั๊ย เพราะ Einherjar คงไม่ออกเรือแน่ถ้ามีเขา แล้วก็ เอ่อ ...ไคลฟ์ จิล ยังไม่ได้กลับมานะ ...

 

 

Clive - นายหมายความว่าไง?

Mid - เธอช่วยถ่วงเวลา Barnabas ไว้ตอนพวกนั้นพานายหนีมาน่ะ 

 

 

Clive - ไม่เป็นไร Mid ... จิลยังไม่เป็นอะไร 

Joshua -  พี่ยังสัมผัส aether ของเธอได้สินะ และตราบใดที่ยังเป็นแบบนั้น ก็แปลว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ 

 

 

Clive - เราต้องตาม Black Galleon ไป!  จิลอยู่บนเรืองลำนั้น ชั้นมั่นใจ 

Mid - งั้นเราก็ตามมันไปเลย ใช้เรือของชั้นเนี่ย ด้วยเครื่องยนต์ mythril ที่ทรงพลังไม่ต่างจากโจโคโบะคลั่ง รับรองไล่ทันแน่นอน แต่ตอนนี้มัน ยังไม่พร้อมเท่าไหร่ ...ถ้าเร่งขนาดนั้น เครื่องได้ถูกฉีกเป็นสองส่วนแน่ๆ 

Clive - แล้วเธอมีทางแก้บ้างมั๊ย?

Mid - แน่นอน มีสิ ชั้นกับพ่อเคยคุยเรื่องนี้กัน ถ้าชั้นได้บันทึกเก่าของพ่อมาล่ะก็ ...

 

 

Gav - ถ้าบันทึกเก่าของพ่อมีอยู่จริงๆ เธอก็นับทับมันอยู่นั่นแหละ ของเก่าๆสมัยซิดยังอยู่ Otto เป็นคนจัดการทั้งหมด 

Clive - ก็ถือว่ายังพอมีหวังอยู่บ้าง

 

 

 Clive -งั้นเตรียมเรือให้พร้อมเดินทางเอาไว้ ชั้นจะไปคุยกับ Otto เอง 

Byron - เดี๋ยวๆ ร่างกายของหลานตอนนี้มัน ... 

Clive - แต่ โลกเยียวยาตัวเองไม่ได้นะครับ 

 

 

                               🔶 A Song of Hope🔶

 

 

                                  The Hideaway 

 

 

                          Bennumere, Central Storm

 

 

 

Otto - อ้าว ไคลฟ์ มาได้ไง ทำไมกลับมาคนเดียว? แล้วคนอื่นๆล่ะ? อย่าบอกนะว่า …

Clive - ทุกคนปลอดภัยครับ เรื่องมันยาว ผมจะเล่าให้ฟัง .........

 

 

Otto - นายที่มันทำอะไรครึ่งๆกลางๆไม่เป็นจริงๆสินะ? ..เอาล่ะ อย่างน้อยๆทุกคนก็ยังหายใจอยู่  ...อืมมม แต่เรื่องบันทึกของซิดนั่น ต้องขอโทษด้วย ชั้นเองก็บอกไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้านายจะหาอะไรที่เคยเป็นของเขา ..

Clive - มันอยู่ในซากปรักหักพังนั่น ...ผมรู้ 

Otto - แต่เราก็เก็บของทุกอย่างเท่าที่จะทำได้จากที่นั่นนะ ส่วนใหญ่ก็เอามาน่าจะเกือบหมดแล้วเพื่อเอามาสร้างที่นี่ สำหรับของๆพวกคนที่เสียชีวิตเราก็จะเอาไปให้ญาติเขาแทน ถ้าในกรณีของซิด ก็คงจะเป็น Mid นั่นแหละ 

Clive - งั้นผมจะลองไปค้นที่ห้องทำงานของเธอดูก็แล้วกัน 

 

 

 

                  📒  Quest: Like Father, Like Daughter

 

 

 

Clive - จำได้ว่าเห็นตุ๊กตานี้ในห้องเดิมของซิด คิดว่าน่าจะเป็นของ Mid แน่เลย อืมม เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน 

 

 

 

คำบอกใบ้ 

 

ถึง Midadol ของพ่อ

 

พ่อรู้ว่าหนูชอบแก้ปริศนา 

งั้นหนูต้องชอบสิ่งนี้

 

ในบรรดาสิ่งประดิษฐทั้งหมดของพ่อ อันนี้เลิศสุด 

ถ้าถึงตอนที่พ่อเลือกที่ที่สำหรับพักยาวได้แล้ว

ก็อดนึกถึงเรื่อง บทประพันธ์ที่ทำค้างไว้ของหนูไม่ได้ 

ลูกที่รักของพ่อ จนถึงตอนนี้มันก็นอนหลับใหลอยู่ในนั้นตั้งแต่แรกนั่นแหละ

 

พ่อขอตัวไปจัดการทำ เพลงสุดท้าย ให้เสร็จก่อนนะ

โชคดี   .......     Cid 

 

 

Clive - สิ่งประดิษฐที่ดีที่สุดของซิดงั้นหรอ ... ซิดซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ในบทประพันธ์ชิ้นแรกของ Mid งั้นหรอ? บางที otto อาจจะรู้ก็ได้ 

 

 

Otto - ไง เจออะไรมั๊ย?

Clive - ก็อาจจะ คุณพอจะเข้าใจหรือรู้เกี่ยวกับ เอ่อ บทประพันธ์ชิ้นแรกของ Mid บ้างมั๊ย?

Otto - บทประพันธ์ แต่งเพลงหรอ? ยัยเด็กนั่นมัน แยกเสียงสูงต่ำของดนตรีไม่ได้ด้วยซ้ำ เสียงอย่างกับ Banshee ไว้แต่นายหมายถึง orchestrion ตอนที่เธอประกอบสิ่งนี้ขึ้น ตอนนั้นเธออายุแค่ 11 ไม่ก็ 12 ขวบเอง นั่นทำให้เราทกคนแปลกใจกันมากๆ นายไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นซิดเขาภูมิใจในตัวลูกสาวแค่ไหน แล้วสรุปมันเกี่ยวอะไรกับสิ่งที่นายกำลังหาหรอ?

Clive - ผมคิดว่าซิดอาจจะซ่อนบ้างอย่างไว้ข้างในน่ะ

Otto - ไม่แปลกใจจริงๆ ถ้าลองเป็นสมบัติหรืออะไรที่สองคนนี้หามาได้ ครึ่งนึงจะถูกซ่อนไว้เสมอ 

 

 

Crow- ชั้นไม่ได้ทำมันพังนะ !

Tett - ชั้นก็ไม่ได้ทำ !

Clive - ทำอะไรพังอีกงั้นหรอเด็กๆ?

Crow- เปล่านะหนูไม่ได้ทำมันพังนะซะหน่อย !

Tett - พวกเราไม่ได้ทำ orchestrion นี้พังจริงๆนะครับ อยู่ๆมันก็พังเอง

Clive - เฮ้อ ...แล้วสรุปมันพังยังไง?

Tett - ลองฟังสิครับ .... เห็นมั๊ย มันพังแล้ว

Clive - ก่อนหน้านี้พวกเธอทำอะไรกับมันล่ะ?

Tett - เราก็แค่อยากฟังเพลงทั้งหมดพร้อมๆกันเลย 

Crow- เราก็เลยกดมันทุกปุ่มพร้อมๆกัน แบบนี้ ๆๆๆๆ  เห็นมั๊ยคะ

Clive - เฮ้ออ ... เอาล่ะ ถอยไป ชั้นจะซ่อมเอง 

 

 

Clive - อึ๊บบบ !! มันเหมือนมีอะไรติดอยู่ ระหว่างร่องเกียร์ ....อึ๊บ เอาล่ะ เป็นไง?

 

 

Crow- คุณซ่อมมันได้แล้ว!

Tett - ซิดซ่อมมันได้ด้วย ! เขาซ่อมอะไรได้หลายอย่างจัง 

Crow- เย้ๆ มีเพลงใหม่ด้วย 

Otto - เพลงนี้ไม่ได้ยินมาก่อนเลย 

Clive - มันเริ่มเล่นหลังจากที่ผมดึงเจ้านี่ออกมา ไม่รู้มันคืออะไร?

 



Otto - นี่ ไม่ต้องมองชั้นเลยนะ ชั้นก็ไม่รู้มันคืออะไร จำได้ว่าซิดเคยเอาให้ชั้นดูครั้งนึง แล้วบอกว่า มันคือสิ่งที่สร้างจากความฝัน และ มันจะทำให้ความฝันเป็นจริง หวังว่าเจ้าสิ่งนี้จะใช้กับเรือได้ด้วยเช่นกันนะ

Clive - ก็หวังว่างั้น มาลองดูสิว่ามันจะทำให้ความฝันเป็นจริงได้จริงมั๊ย

 

 

Tarja - กำลังตามหาคุณสองคนอยู่พอดีเลย 

Otto - คนไข้หายอีกแล้วหรอ?

Tarja - เอาจริงๆแล้วก็ใช่นะ ตอนนี้เจ้าชายหายไปแล้ว

Clive - Dion หายไปหรอ?

Tarja - จะว่า หายไป ก็คงไม่เชิง เพราะพอเขาลุกยืนได้ก็เดินไปเฉยเลย เขาฝากข้อความไว้กับ Obolus ก่อนจะเอาเรือออกไป เราควรตามไปมั๊ย?

 

 

Clive - ไม่ต้องหรอก เราไม่ได้ขังเขาไว้นี่ เขามีอิสระที่จะไปไหนก็ได้ ตามใจเขา

Tarja - ชั้นอยากให้เขาทำตามใจบนเตียงมากกว่าเพราะบาดแผลเขายังไม่หายเลย เหมือนกับนายนั่นแหละ Otto เล่าให้ชั้นฟังแล้วว่านายโดนอะไรที่ Kanver คือยังไง พวกเจ้าชายนี่ไม่ชอบการพักงั้นหรอ?

Clive  - เอาไว้ตอนผมกลับมาก็แล้วกันนะ 

Tarja - ยังไงก็อย่าหักโหมมากล่ะ 

Otto - แต่ถ้าเจ้าสิ่งนี้มันไม่ได้ผลจริงๆ ก็พยายามรอดกลับมาให้ได้นะ โอเคมั๊ย?

 

 

                The Hideaway SideQuest Unlock 🔓

 

Spacial Quest: Blacksmith’s Blue III

Spacial Quest: Please Sir, Can I have some Morbol 

SideQuest: Tears of Mercy

 

 

                     Alliant Reports Quest Unlock 🔓

 

SideQuest: For Great Justice II ที่เมือง Lostwing 

SideQuest: Rekindling the Flame ที่ Martha’s Rest

SideQuest: Trading Places ที่ Boklad Market 

 

 

              🔨 Special  Quest: Blacksmith’s Blue III

 

 

 

August - เออ ไคลฟ์ Blackthorne บอกว่า คุณช่วยเคลียร์ปัญหาให้เขาอีกแล้ว แต่ เอ่อ …

Clive  - คุณห่วงเขา ก็เลยอยากให้ผมช่วย 

August - ก็ ประมาณนั้น คือ พูดแล้วมันก็ตลกดี แบบ ชั้นช่วยขุนนางคนนึงขณะเดินทาง เขาก็เลยให้แหวนสีสันฉูดฉาดนี่มาเพื่อเป็นการขอบคุณ ชั้นก็เลยเอาไปอวด Blackthorne กะว่าเขาจะ ชอบ แต่ เขากลับเงียบไปเลย ผมก็พยายามจะทำให้เขาหาย แต่ คิดไม่ออกเลยว่าผมไปทำให้เขาอารมร์เสียเรื่องอะไร? บางที Blackthorne อาจจะยอมพูดถ้าคุณอยู่ด้วย มั้งนะ ?

Clive  - ผมคงต้องไปคุยกับเขาอีกแล้วใช่มั๊ย? แต่ก็นะ ผมคงปล่อยให้เขาอารมณ์บูดจนส่งผลต่องานของเขาไม่ได้เหมือนกัน 

 

 

Blackthorne - บ้าจริงเลย ไคลฟ์ อีกแล้วหรอ? นายว่างหรอถึงมาเสียเวลาแบบนี้ตลอดอ่ะ ?

Clive  - ก็ประมาณนั้น August บอกว่าเขาให้คุณดูแหวนวงนึง แล้วอยู่ๆคุณก็เงียบไป คุณมีเรื่องอะไรที่พอจะบอกเราได้มั๊ย?

August - เถอะน่าเพื่อน ถ้าไม่ใช่เกี่ยวกับแหวนนั่น แล้วชั้นไปพูดอะไรที่ไม่สบายใจก็ต้องขอโทษด้วยนะ 

Blackthorne - ก็เพราะแหวนนั่นแหละ มันทำให้ชั้นนึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ค่อยจะแฮปปี้ เป็นความทรงจำที่อยากจะลืมมากๆ 

August - ความทรงจำอะไรหรอ?

Clive  - คนเราก็มีอดีตที่ไม่ดีกันทั้งนั้นแหละน่า Blackthorne บางที ถ้าพูดมันออกมาบ้าง ก็อาจจะทำให้ดีขึ้นก็ได้ 

Blackthorne - บางทีมันก็ไม่ควรพูด มันเข้าใจยากนักรึไง?

August - โธ่ ไม่เอาน่าเพื่อน นะๆๆ 

 

 

Blackthorne - เออ ก็ได้ แหวนที่นายได้มาเป็นผลงานของ Zoltan เราเคยร่วมงานกันมาก่อน 

Clive  - เหมือนคุณจะไม่เคยพูดถึงเขาให้ฟังเลย 

Blackthorne - แล้วทำไมชั้นต้องพูด ชั้นไม่ได้เจอเขามาหลายปีแล้ว และครั้งสุดท้ายที่เจอ เราก็เกือบจะฆ่ากันตาย พอเห็นแหวนนั่นความทรงจำเกี่ยวกับเขาก็พลั่งพรูกลับมาหมด และดูเหมือนเขาจะพัฒนาไปมากกว่าที่ชั้นคิดไว้ แหวนนั่นเป็นงานที่ดีมากๆ 

August - ชั้นว่ามันก็สวยดีนะ น่าจะขายได้ราคาดีด้วย มั้งนะ แต่ มันสำคัญอะไรกับนายนักหรอ?

 

Blackthorne - มันสำคัญตรงที่ การแกะสลักโลหะเป็นฝันร้ายสำหรับชั้นมากๆ แต่เขากลับทำได้ดีมากๆ เขาทำได้ยังไงกัน?? อันที่จริง ชั้นไม่เคยทำอะไรที่ละเอียดขนาดนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ 

Clive  - แล้วไง? ก็คุณเป็นช่างทำชุดเกราะ ไม่ใช่ช่างจิลเวอรี่ซะหน่อย

Blackthorne - ชั้นเป็นสุดยอดช่างฝีมือแห่ง The hideaway นะ ไม่เคยขโมยเพื่อหาเลี้ยงชีพในโรงเหล็กที่หมู่บ้านห่างไกลซะหน่อย !!

 

 

Blackthorne - เกราะของชั้นช่วยทำให้พวกคุณปลอดภัย และ ดาบของชั้นก็ช่วยให้คุณฝ่าฟันอันตราย เพราะงั้นทุกครั้งที่ชั้นฟาดค้อนลงไปชั้นก็ทุ่มเทรายกายแรงใจลงไปในงานของชั้น เพื่อให้พวก Cursebreakers ได้สิ่งที่ดีกว่า และชั้นก็ไม่ยอมให้ Zoltan มันทำได้ดีกว่า 

Clive  - งั้นทำไมไม่ไปหาเขาเพื่อเรียนรู้ความลับของเขาล่ะ

Blackthorne - เดาว่าเขาคงจะไม่อยากเจอชั้นนักหรอก

Clive  - งั้นก็ทุ่มเทแรงใจทำงานต่อไปสร้างชุดเกราะและดาบดีๆให้พวก Cursebreakers ไว้ใช้งาน หากคุณทำได้ ผมจะไม่ว่าอะไรเลย แต่ถ้าคุณทำไม่ได้เพราะคุณมัวแต่คิดมากจนเสียสมาธิ เราก็ควรต้องทำอะไรซักอย่างกับเรื่องนี้นะ 

August - ชั้นว่าเขาก็พูดถูกนะเพื่อน และใช่ว่านายจะต้องไปคนเดียวซะเมื่อไหร่

Blackthorne - เออ ก็ได้

August - เยี่ยมเลย แล้วเออ เจ้าเพื่อนเก่าที่ชื่ออะไรนะ? Zoltan ใช่มั๊ย? เขาอยู่ที่ไหนหรอ?

Blackthorne - หมู่บ้าน Dravozd เขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่นั่น 

August - Dravozd งั้นหรอ อืมม ไม่ไกลจาก Tabor เท่าไหร่ ทางเหนือของ Fields of Corava ใช่มั๊ย? โอเค ไคลฟ์ ไปเจอกันที่นั่นเมื่อคุณพร้อมนะ 

 

 

Objective > เดินทางไปที่หมู่บ้าน Dravozd ทางตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่ Fields of Corava 

 

 

ถ้าเดินเก็บเวลแถวๆ Fields of Corava บ่อยๆจะเจอหมู่บ้านที่ปิดอยู่เข้าไม่ได้ และถ้าปลดล็อคเสาวาร์ปไว้แล้วก็ Fast travel ไปได้เลย

 

 

Clive  - ไง ทุกอย่างราบรื่นมั๊ย?

August - ไม่อ่ะ คนเฝ้าประตูคนนี้ไม่ยอมให้ผ่านเข้าไป

Clive  - ทำไมถึงปิดประตูหมู่บ้านหรอครับ?

Vit - ท่านหัวหน้าสั่งว่าห้ามให้ใครเข้าก่อนได้รับอนุญาตครับ ถ้าปล่อยให้พวกคุณผ่านเข้าไปรับรองมีปัญหาแน่นอน ผมว่าคุณกลับบ้านไปเถอะ

 

 

 

Blackthorne -นั่นแหละคือสิ่งที่ชั้นกำลังพยายามทำอยู่ไอ้โง่เอ้ย !! หยาบคายไม่เปลี่ยนไปเลยนะแกเนี่ย ?

Vit - ดะ เดี๋ยวนะ Blackthorne งั้นหรอ?

Blackthorne - ก็เออสิ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ

 

 

Vit - แล้วคุณมาทำบ้าอะไรที่นี่เนี่ย?

Blackthorne - ก็ตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์อ่ะนะ แต่แกถามก็ดีแล้ว ชั้นมาที่นี่เพื่อพบกับ Zoltan สิวะไอ้โง่ เพราะงั้น เปิดประตูห่านี้ให้ชั้นเข้าไปได้แล้ว !!!

Vit - กะ ก็ได้ครับ ...แค่อย่าไปทำสร้างปัญหาให้หัวหน้าก็พอ ....

Blackthorne - ชั้นสัญญาว่าจะไม่ซัดหน้ามาทันทีที่เจอ พอใจยัง?

Vit - งั้นก็เข้าไปเลยครับ ....

 

 

                           หมู่บ้าน Dravozd

 

                     The Dhalmekian Republic

 

 

 

August - โอ้ .. เนี่ยหรอ หมู่บ้าน Dravozd ที่นี่เขาไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรกันหรอ ทำไมเงียบจัง?

Blackthorne -มันเป็นหมู่บ้านแห่งการตีเหล็กน่ะ ตอนชั้นยังเป็นเด็ก ชั้นต้องตะโกนคุยกันเพราะมีเสียงค้อนตีเหล็กดังทั่วไปหมด ไคลฟ์ นายเข้ากับคนได้ดี นายไปคุยกับ Zoltan นะ 

August - เฮ้ ทำไมถอยกันง่ายๆแบบนี้ล่ะ ?

Blackthorne - ชั้นกับมันมีเหลือบาดหมางกันเยอะเกินที่จะคุยแล้ว มันมีแม่น้ำสายเลือดกั้นระหว่างเรา แต่ถ้าใครจะสร้างสะพานให้ชั้นก็พร้อมจะข้ามไป

Clive  - ได้สิ จะทำเท่าที่ทำได้ก็แล้วกัน 

 

 

ช่างตีเหล็ก - เร่งอีก เร่งอีก เอาให้ร้อนอีกสิวะ !!! ชั้นจะตีเหล็กนะโว้ยไม่ใช่ปิ้งขนมปัง ไฟแค่นี้จะไปพอได้ไง!!

Clive  - ขอโทษด้วยที่บุกรุกเข้ามานะครับ ผมกำลังหาหัวหน้าของที่นี่อยู่น่ะ

Zoltan - ชั้นเองแหละ .. บ้าเอ้ย บอกให้ปิดประตูไม่ให้ใครเข้ามาแล้วนะ เจ้าโง่เอ้ย !!!  ที่นี่ไม่ต้อนรับนาย รีบออกไปซะก่อนที่จะเกิดเรื่องไม่ดีกับนาย 

Clive  - Blackthorne มาที่นี่ครับ 

Zoltan - นายว่าไงนะ?

Clive  - เขาเดินทางมาใกล้มากเพื่อมาเจอคุณ

Zoltan - มันเนี่ยนะ จริงหรอ?

Clive  - จริงครับ เขารออยู่ที่ตีนบันไดนี่เอง 

Zoltan - ถ้างั้นก็ช่วยพามันกลับไปพร้อมกับนายด้วยแล้วกัน

Clive  - คุณเคยทำงานร่วมกันมาก่อนไม่ใช่หรอ?

Zoltan - ทำแล้วไง?

 

 

ช่างตีเหล็ก - แม่งเอ้ย ไฟร้อนไม่ได้ทีซะทีโว้ยยย!! ไอ้พวก Bearers นี่แม่งใช่ไม่ได้จริงๆเลย !!! เราไม่มีทางจุดเตาหลอมได้แน่ถ้าไม่ได้คริสตัลใหม่ๆมาใช้ 

Zoltan - เห็นมั๊ยเนี่ยว่าชั้นกำลังยุ่ง!?  รีบใสหัวไปได้แล้ว !! อ่อ แล้วถ้านายหาทางออกไปเจอก็ถาม Blackthorne เอาแล้วกัน มันรู้ดีว่าจะออกไปจากที่นี่ได้ทางไหน !!!  มันไม่ต้องการอยู่ที่นี่ นายก็เช่นกัน !!

Clive  - ครับ ... ไปก็ได้ครับ

 

 

Blackthorne - ให้เดานะ Zoltan ไล่นายให้ใสหัวไปใช่มั๊ย? 

Clive  - ใช่เลย เขาคงชอบความเป็นส่วนตัวล่ะมั้ง 

August - อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ทำอะไรรุนแรงอ่ะนะ

Blackthorne - คงจะไม่ง่ายหรอกที่จะพูดกับเขา หลังจากเจอสิ่งที่ชั้นทำลงไป

Clive  - บอกได้มั๊ยครับว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง? ถ้าอยากให้เราช่วย เราต้องรู้เรื่องทั้งหมด

 

 

Blackthorne - ชั้นทิ้ง Dravozd ทิ้ง Zoltan เพื่อหนีภาระของการเป็นผู้นำที่หัวหน้าที่กำลังจะตายกำลังทิ้งไว้ให้ นั่นแหละทั้งหมดของมัน นายรู้มั๊ยในโลกนี้มีช่างตีเหล็กอยู่ 2 ประเภท ในแบบของชั้น ผู้ชื่นชอบในงานฝีมือ ใครบ้างที่จะลงทุนทำงานแค่ชิ้นเดียวตั้งแต่เช้าถึงค่ำเพื่อให้ออกมาดีที่สุด กับอีกแบบนึง ทำแบบเดียวกันแต่ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน คนแบบ Zoltan ที่ทำงานทั้งเร็วและเฉียบคม ช่างตีเหล็กที่ทำใบมีดไม่กี่ร้อยใบก็เก็บเกี่ยวผลกำไรเป็นกอบเป็นกำ และเก็บไว้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่มีวันไหนเลยที่เราไม่กล่าวโจมตีซึ่งกันและกัน และจากนั้น ผู้คนก็เริ่มเลือกข้าง ถ้าปล่อยไว้ Dravozd คงต้องถูกแบ่งเป็นสองฝั่งแตกแยกตีกันแน่นอน ดั้งนั้น ชั้นเลยเลือกที่จะจากไป 

August - นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นก็ได้นี่

Blackthorne - Zoltan เป็นผู้นำที่ดีกว่าที่ชั้นเคยเป็นแน่นอน วิธีการของเขานำความเจริญและเป็นหนึ่งเดียวกันมาให้ Dravozd โดยไม่ต้องมีอุดมคติอันสูงส่งของชั้นมาขัดขวาง จนกระทั้งคริสตัลถูกทำลายจนหมด ไม่มีคริสตัลสำหรับจุดไฟเตาหลอม สถานที่แห่งนี้ก็ไม่ต่างจากตายไปแล้ว

 

 

August - มันขึ้นอยู่กับนายจะมองมันยังไงมากกว่า มันมีวิธีจุดไฟมากมายหลายวิธี ขนาดที่แดนมรณะของเราไม่มีคริสตัลยังจุดไฟได้เลย

Blackthorne - ซึ่งนั่นก็ต้องขอบคุณความฉลาดของซิด เขามองว่าคริสตัลเป็นตัวปัญหาไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาและใช้เวลาหลายปีที่จะทำสิ่งต่างๆโดยไม่ต้องพึ่งพามัน

August - นายเข้าใจที่ชั้นพูดใช่มั๊ย? ที่ใดมีเจตจำนง ที่นั่นย่อมมีหนทาง ที่ชั้นพยายามจะบอกคือ มันไม่ใช่ความผิดของนาย นายไม่รู้มันจะเกิดขึ้นนี่  

Blackthorne - มันไม่สำคัญหรอกว่าเป็นความผิดของใคร ชั้นไม่ต้องการเป็นช่างตีเหล็กที่ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่เพียงพราะว่า ชั้นเหลืออยู่เป็นคนสุดท้ายหรอกนะ 

 

 

Blackthorne - ไคลฟ์ Dravozd คงอยู่ได้ไม่นานหรอกถ้าไม่มีเตาหลอม นายคิดว่าจะแบ่งปันเครื่องเป่าลมของซิดให้โลกได้รู้จักรึยัง? ชั้นชี้ทางให้ได้ ส่วนการตัดสินใจเป็นเรื่องของนายนะ 

August - เดี๋ยวก่อน Blackthorne แต่ซิดสร้างสิ่งนี้ให้เราเพื่อที่จะได้เปรียบที่อื่นนะ แต่นายจะเอาไปให้พวกเขาเฉยเลย

Clive  - ไม่เป็นไร เอาเลย ที่นี่มันก็เหมือนบ้านของคุณ ชั้นคงจะไม่ปล่อยไปตามชะตากรรมหรอก ผลงานของซิดไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อเก็บซ่อนไว้ แค่รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะแบ่งปัน ถือว่าให้นี่เป็นก้าวแรกของเส้นทางในการปลดปล่อย Valisthea จากคุกของพรแห่งคริสตัลก็แล้วกัน Dravozd จะโชว์ให้โลกเห็นว่า มันเป็นไปได้ คุณคงไม่ว่าอะไรนะ August?

August - ก็ถ้าคุณพูดถึงขนาดนั้นล่ะก็ เอาสิ เพราะนี่คือการ เยียวยา ซิดคงพูดแบบนี้ออกมาจากหลุมศพ

Blackthorne - ขอบคุณนะ ไคลฟ์ แต่ชั้นคงต้องขอให้ช่วย การทำเครื่องเป่าลมไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียวหรอกนะ ชั้นอยากจะให้หาอะไรก็ได้ที่มันแข็งแรงพอที่จะพอขึงดิฐก้อนหรือสองก้อนไว้ได้

August - ได้สิ 

Blackthorne - ส่วนหน้าที่ของนาย ไคลฟ์ ไปล่า Salamander แล้วเอาหนังมันมาให้ชั้น ชั้นจะทำส่วนของถุงลมไม่มีอะไรที่จะทนความร้อนได้เท่าหนังของมันอีกแล้ว ซึ่งโชคดีของเราที่มันมีในแถว Field of Corava ใกล้ๆนี่เอง 

Clive  - งั้นก็ถึงเวลาล่าแล้วสินะ 

 

 

Objective > ออกไปยัง Field of Corava แล้วจัดการ Salamander ตัวเป้าหมาย เอาหนังกลับมาให้ Blackthorne

 

 

Blackthorne - ไง ได้หนังมามั๊ย?

Clive  - ไม่มีปัญหา

Blackthorne - อืมม แค่นี้ก็น่าจะพอ 

August - ที่เหลือก็แค่สร้างมันให้ออกมาให้ดี

Blackthorne - ถ้าทุกคนช่วยกันคนละไม้ละมือไม่นานก็เสร็จ 

 

 

ช่างตีเหล็ก - แม่งเอ้ยย ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่เวิร์ค แต่ได้ผลแฮะ ไฟร้อนดีจริงๆเลย แถมไม่ต้องพึ่งคริสตัลแม้แต่ก้อนเดียว 

ช่างตีเหล็ก - รู้มั๊ยว่ามันหมายถึงอะไร? 

ช่างตีเหล็ก - รู้สิวะ Dravozd ของเรารอดแล้วไง ! ฮ่าๆๆๆๆๆ 

 

 

Zoltan - ขอโทษเรื่องก่อนหน้านี้ด้วยนะ ที่พูดไม่ดีกับพวกนาย ชั้นขอถอนคำพูดทั้งหมดก็แล้วกัน สิ่งที่นายสร้างให้เรามันเหนือคำบรรยายจริงๆ นายช่วยหมู่บ้านของเราเอาไว้ 

Clive  - คุณควรจะขอบคุณ Blackthorne มากว่านะ เพราะเขาเป็นคนสร้างมัน

Zoltan - งั้นช่วยเอานี่ไปให้เขาหน่อยได้มั๊ย?

Clive  - มันคือ ..?

Zoltan - เถ้าถ่านหิน หลังจากที่เขาจากไป ชั้นใช้เวลาหลายปีในการที่จะใช้โรงตีเหล็กของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุด นั่นแหละคือคำตอบของชั้น โยนมันลงในกองไฟในเตาหลอม ไฟจะร้อนและลุกไหม้นานขึ้น สร้างความมหัศจรรย์ให้กับเหล็กที่ถูกตีขึ้นเหนือขนานับ นายบอกความลับของนาย เราก็บอกของเรา แลกกันแฟร์ๆ 

 

 

Zoltan -... ชั้นอิจฉา Blackthorne มาตลอด แม้กระทั้งตอนนี้ ตอนที่ผมเป็นหัวหน้าตลอดเวลาที่ทำงานก็อดจะเทียบกับเขาไม่ได้เลย คนที่นอนหลับได้แม้กระทั่งบนทั่งตีเหล็ก เขาเป็นอัจฉริยะ ธรรมดาและเรียบง่าย เขาคือคนที่ Dravozd ต้องการ

 

 

Zoltan -แต่เขากลับเอาความสามารถทั้งหมดทิ้งที่นี่ไป ทิ้งพรสวรรค์ทั้งหมดไปฟรีๆ แล้วนายยังแปลกใจที่ชั้นเกลียดเขาอีกงั้นหรอ?

Clive  -เถ้าถ่านหินนี่เราจะได้จากคุณเพิ่มอีกได้มั๊ย?

Zoltan - ชั้นคงต้องเริ่มจาก ให้อภัยเขาให้ได้ก่อน แล้วจากนั้นค่อยว่ากัน 

 

 

August - แหม่ คุณได้ยินเขาพูดแล้วนี่ ... Oriflamme ไม่ได้สร้างแค่วันเดียว ก็แค่นั้น เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนสองคนที่ยึดติดความแค้นไว้แน่นอย่างกับกำค้อนตัวเองขนาดนี้ แต่ที่สำคัญ แววตาของ Blackthorne กลับมามีประกายอีกครั้งแล้ว ซึ่งนั่นแปลว่างานของเราจบลงด้วยดี เขาน่าจะอยู่นี่ซักพัก ทำไมคุณไม่เอาเจ้าของขวัญนั่นกลับไปให้ปลอดภัยก่อนล่ะ

Clive  - งั้นผมเอาถ่านหินนี่ไปเก็บก่อนนะ แล้วคุณสองคนตามมาก็แล้วกัน

 

 

Clive  - ดีใจที่ทั้งคู่กลับมาอย่างปลอดภัยนะ 

Blackthorne -เอาจริงๆก็ไม่ได้อยากอยู่นานเกินสัปดาห์หรอกนะ ทั้งหมู่บ้านหันมาใช้เครื่องเป่าลมกันหมดหลังจากที่นายไป ยกเว้นไอ้เจ้า Zoltan ที่ยังไม่เห็นหนังหน้ามันเลย 

Clive  - โอ้ เกือบลืม ชั้นมีของบางอย่างให้คุณด้วย 

Blackthorne - เถ้าถ่านหินงั้นหรอ? นายเอามาจากไหน?

 

 

Blackthorne -นายแน่ใจนะว่าเขาให้สิ่งนี้กับชั้น ?

Clive  - แน่ใจสิ แต่เขาไม่ได้พูดอะไรมากนะ แต่ผมคิดว่าเขาอยากจะขอบคุณคุณนั่นแหละ

Blackthorne - พวกนายรู้ใช่มั๊ยว่าชั้นไม่มีวันทิ้งที่นี่แน่นอน ขอให้นายและ Cursebreaker เชื่อใจชั้นได้เลย ไม่มีเกรียติใดยิ่งใหญ่กว่าช่างตีเหล็กอีกแล้ว ชั้นคงไม่คลานไปหา Zoltan เพื่อขอให้มันให้อภัยชั้นหรอก แตชั้นจะใช้ถ่านหินของเขาให้เกิดประโยชน์ที่สุด แม้มันจะช่วยได้แค่หนึ่งชีวิตก็ตาม เขาก็จะได้รับคำขอบคุณจากชั้น นายบอกเขาเรียกชั้นว่าอะไรนะ?  อัจฉริยะ งั้นหรอ? และเขาก็อดหลับอดนอนเพื่อเลียนแบบชั้น?  แบบนี้ชั้นคงต้องไปหาอะไรทำบ้างแล้ว ชั้นก็มีชื่อเสียงที่ต้องรักษานะ !!

August - ดีใจที่ได้เห็น Blackthorne คนเดิมกลับมานะ

Blackthorne - บางที ชั้นก็ไม่รู้นะว่านายเป็นเพื่อนซี้ชั้นได้ยังไง? แต่ก็รู้สึกขอบคุณอยู่เหมือนกัน 

 

 

August - ไม่อยากจะบอกเขาเลยว่า เขานี่แม่งโคตรหัวรั้นเหมือนกันเลยจริงๆ

Clive  - มีแอบแข่งแอบขิงกันนิดหน่อยแบบนี้ก็คงดีสำหรับเขาแหละนะ

August - ก็จริงของนาย น่าเสียดายที่ Zoltan ไม่อาจปล่อยวางอดีตได้ เอาล่ะ ตอนนี้บ่นไปก็เปล่าประโยชน์ Blackthorne แฮปปี้ ผมก็แฮปปี้ นั่นพอแล้วสำหรับผม 

 

 

ปลดล็อก Ouroboros Design Draft สำหรับสร้างเข็มขัด Ouroboros

ซึ่งตอนนี้ ยังขาดวัตถุดิบอยู่ 2 อย่างคือ

 ■Stone Tongue

 ■Comet Feather 

ไอเทมทั้ง 2 อันจะได้จากการกำจัด Notorious Marks 2 ตัวที่จะปลดล็อคออกมาให้ล่าหลังจากนี้ 

 

 

        🌻  Special  Quest: Please Sir, Can I have some Morbol

 

 

 

Nigel - คุณยังจำพวกดอกไม้ที่คุณนำมาให้ผมได้มั๊ย?

Clive  -  เอ่อ มั้งนะ ... มีอะไรงั้นหรอ?

Nigel - เกรงว่าจะเป็นแบบนั้นนะ ผมสามารถนำ morganbeards มาปลูกให้ขึ้นได้ แต่ประเด็นคือ มันเป็นดอกไม้ที่หายากมาก และเกรงว่าดินที่นี่จะคุณภาพไม่พอสำหรับมันด้วย แต่ถึงงั้นผมก็คิดว่ายังพอมีทางอยู่

Clive  - อยากฟังจะแย่อยู่แล้ว....

 

 

Nigel - ผมจะเอา morganbeards แต่งกับ morbols …เอ่อ ผมรู้ๆๆๆ แต่ฟังผมก่อนนะ .. morbols มีนิสัยเจ้าอารมณ์ ไฟแห่งความโกรธที่อยู่ในตัวมันเต็มไปด้วย aether ที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่มันดูดมาจากบริเวณโดยรอบตัวมัน ผมเชื่อว่าถ้าเอา เถาของ morbols มาเชื่อมต่อกับ morganbeards สารอาหารที่ทำให้ morbols จะทำให้ดอก morganbeards บานได้ ผมรับประกันว่าที่ผมพยายามทำมันเป็นไปตามหลักของวิทยาศาสตร์ ผมแค่ต้องการ เถาของ morbols เพื่อพิสูจน์มัน 

Clive  - ที่คุณต้องการคือ เถาของมันแค่เส้นเดียวหรอ จาก morbols ธรรมดาๆตัวไหนก็ได้ใช่มั๊ย?  

Nigel - ใช่ครับ เถาเดียวพอ ส่วน morbols ถ้าตัวธรรมดาๆน่าจะไม่พอ แต่โชคดีที่มีข่าวลือว่ามีคนเจอตัวพิเศษแถวๆบึงในโรซาเรีย แน่นอนผมเห็นมีประกาศใน Hunt Board ด้วย แต่ก็แปลที่ทำไมมอนสเตอร์น่าสะพรึงกลัวแบบนี้ถึงมีการแจ้งเตือนเฉพาะ Hunt Board เท่านั้นก็ไม่รู้ 

 

 

                            Hunt Board update 

 

Notorious Marks ตัวที่ 18: Dread Comet 

Notorious Marks ตัวที่ 19: Carrot Mark

 

** ตอนนี้จะมี Notorious Marks ถูกปลดล็อกออกมา 2 ตัวคือ ตัวก่อนหน้านี้และตัวที่เป็นอีเวนท์เควส ก็แวะไปจัดการทั้งสองตัวให้หมดเลยก็แล้วกัน 

 

 

          👹 Notorious Marks ตัวที่ 18: Dread Comet 

 

 

📌พิกัด - เดินทางมาทางเสา Dravozd แล้วเข้าไปยังตำแหน่งช่องแคบทางเหนือของ The Fields of Corava (ตามตำแหน่งในแผนที่)

 

** จัดการได้จะได้ Comet Feather 1 ในวัตถุดิบในการใช้สร้าง เข็มขัด Ouroboros

 

 

           👹 Notorious Marks ตัวที่ 19: Carrot Mark

 

 

📌พิกัด - เดินทางมาทางเสา Three Reeds แล้วมุ่งหน้าไปทางเหนือของพื้นที่ ในเขตบึง The Whipring Water (ตามตำแหน่งในแผนที่)

 

** จัดการได้จะได้คียไอเทม Morbor Tendril สำหรับนำไปให้ Nigel และ ไอเทมวัตถุดิบ Morbol Flower 

 

 

 

Nigel - เอ่อ ซิด โทษนะ ผมอดสังเกตไม่ได้ คือ กระเป๋าคุณมันกระตุกๆอยู่น่ะ

Clive  - นี่ครับ เอาไปเลย มันเป็นปัญหาของคุณแล้ว

Nigel - ว้าว น่าทึ่งจริงๆเนื้อหนังยังกระเพื่อมด้วยความสดใหม่ดีจริงๆ ถ้าผมต่อเข้ากับ ดอก morganbeards ได้สำเร็จล่ะก็ อยากรู้จังมันจะเป็นไง เริ่มเลยก็แล้วกัน 

 

 

Nigel - นักพฤกษศาสตร์มักสงสัยกันว่า ดอก morganbeards มันบาดในดิน Blight ได้ยัง มันเป็นพลังเบ่งบานที่ไม่เคยเห็นดอกไม้ดอกไหนทำได้มาก่อน ทำไม ดอกเดซี่ที่ปลูกถ่ายเถา Morbol จึงให้ผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกัน กับดอกไม้สปีชี่อื่นๆก็เหมือนกัน 

 

 

Clive  - ดีใจที่ได้ช่วยนะ 

Nigel - คุณไม่ใช่แค่ช่วยเรานะซิด แต่คุณช่วยพวกเราเอาไว้  คุณจำสารสกัดที่ผมเคยให้คุณไปก่อนหน้านี้ได้มั๊ย? คราวนี้ผมลองกลั่นเพิ่มเติมด้วยดอก morganbeards ที่ทรงพลังนี่ คุณเชื่อมั๊ยว่าประสิทธิภาพของมันเพิ่มเป็นสองเท่าเลยล่ะ คุณสมควรได้รับมันไปในฐานะที่คุณช่วยเหลือผมมาตลอด ส่วนที่เหลือผมจะไปให้ Tarja ไว้ใช้ในห้องพยาบาล

 

 

** จบเควสนี้จะได้💊 Invigorated Morganbeard Extract Curiosity 

ซึ่งเมื่อเติมเข้าไปใน potion หรือยาเพิ่มประสิทธิภาพต่างๆ แปลว่า มันจะช่วยเพิ่มประสิทธิ์ภาพยาเติมพลังต่างๆ อย่าง potion ให้เติมพลังชีวิตได้มากขึ้นต่อการใช้งานหนึ่งครั้งหรือช่วยให้ยาเพิ่มประสิทธิภาพต่างๆใช้งานได้นานกว่าเดิม  

 

 

                    📗  SideQuest: Tears of Mercy

 

 

 

Rodrigue - พระเจ้า คุณมาพอดี ดีที่ยังไม่สายเกินไป 

Clive  - เกิดอะไรขึ้นหรอ?

Rodrigue - Tarja น่ะสิครับ เธอทำงานไม่ได้พักเลยตั้งแต่ลุงคนนึงที่เป็นคนป่วยคนล่าสุดเข้ามารักษา ผมเสนอตัวที่จะเป็นคนเฝ้าแทนเพื่อให้เธอไปพัก เธอก็ไม่ยอม เธอไม่ได้ออกจากห้องพยาบาลมาหลายวันแล้วนะไคลฟ์ เธอกดดันตัวเองทำงานไม่พักผ่อนแบบนี้ผมก็กลัวว่าสุขภาพเธอจะแย่ คุณช่วยไปคุยกับเธอหน่อยได้มั๊ย สั่งให้เธอไปนอนพักที่ห้องก็ได้ เพราะถ้าปล่อยไว้ผมกลัวจะเสียหมอดีๆไปน่ะครับ

Clive  - ชั้นจะไม่สั่งให้ Tarja ทำอะไรทั้งนั้นแหละ แต่จะลองไปคุยกับเธอให้ก็แล้วกัน 

 

 

Clive  - นี่ Tarja Rodrigue เขาห่วงคุณมากนะ แล้วที่เขาพูดก็จริงด้วย เราทุกคนชื่นชมในการทุ่มเททำงานเพื่อเราของคุณนะ แต่คุณก็ต้องหาเวลาพักผ่อนด้วย 

Tarja - เดี๋ยวถึงเวลาชั้นจะพักเองนั่นแหละ แต่ตอนนี้ขอทำให้เต็มที่ก่อนก็แล้วกัน เราเป็นหนี้เขามาก

Clive  - เขาเป็นใครหรอครับ?

Tarja - คนๆนึงที่ชั้นรู้จักในอดีต คนๆนึงที่ไม่จะตายโดยลำพัง น่าจะอีกไม่นาน คำสาปคริสตัลกัดกินจนหมดแล้ว ถ้าชั้นมี น้ำตา ก็คงบรรเทาอาการให้เขาอยู่ได้นานขึ้นอีกหน่อย และจากไปอย่างสงบได้ ถ้าไม่มีมันต้องทนความเจ็บปวดถึงสองสามชั่วโมงก่อนสิ้นลม

Clive  - น้ำตา จะช่วยเขาได้ยังไงหรอครับ?

Tarja - น้ำตาที่ว่าไม่ใช่น้ำตาชั้น แต่เป็น น้ำตาแห่งความเมตตา “Elysia” สิ่งนั้นเท่านั้นที่มีประสิทธิภาพพอ 

 

 

Rodrigue - คุณคงจะไม่ทำแบบนั้นจริงๆใช่มั๊ย Tarja?  ต้องมีบางอย่างที่เราทำให้เขาได้บ้างสิ

Tarja - บางครั้ง ความตาย อาจะเป็นความกรุณาที่ยิ่งใหญ่ที่เราสามารถให้เขาได้ นายน่าจะรู้ดีที่สุดนะ Rodrigue

Rodrigue - ครับ ผมทราบดี เรามีส่วนผสมที่จำเป็นทั้งหมดแล้วสำหรับ Elysia แต่มันไม่สดพอที่จะทำอะไรได้เลย ผมผสมยาให้ได้แต่คุณต้องหาสิ่งที่เราขาดไปมาให้

Clive  - บอกมาเลยครับว่าคุณต้องการอะไร?

Rodrigue - มีแมงมุมพิษชนิดนึงอาศัยอยู่ในป่า Norvent ใกล้กับ Laubert’s Pass เอาตาข้างนึงของพวกมันมาให้ผม เก็บมันมาดีๆ หลีกเลี่ยงอย่าให้มันผสมกับน้ำตา ผมจะเตรียมส่วนผสมอื่นไว้รอก็แล้วกันครับ 

Tarja - ขอบคุณมากนะ ไคลฟ์ ชั้นจะไม่ลืมบุญคุณในครั้งนี้เลย 

 

 

 

Objective > เดินทางไปทางเสาวาร์ป Northreach ผ่านที่ราบ Claireview มาที่จุดหมายของภารกิจ จัดการฝูงแมงมุม Miteling ในพื้นที่แล้วเอาตามันกลับไปให้ Rodrigue

 

 

Rodrigue - โชคดีที่คุณกลับมาแล้ว ดูเหมือน Tarja กำลังสติหลุดพอดี 

Clive  - นี่ครับของที่คุณต้องการ 

Rodrigue - ขอบคุณครับไคลฟ์ ใจจริงผมก็ไม่อยากให้ Elysia กับคนไข้เลย แต่ก็อาจจะจริงอย่างที่ Tarja พูดก็ได้ บางทีเราอาจทำได้แค่นี้ การฉีดยาเพียงเข็มเดียวก็จะขจัดความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานให้หมดไป รวมถึงความรู้สึกอื่นๆด้วย มันเป็นความตายที่อ่อนโยนก็จริง แต่ความตายก็คือความตายอยู่ดี ผมก็อยากจะให้มันมีทางเลือกอื่นจริงๆเลย 

 

 

Tarja - คุณรู้สึกยังไงบ้างคะตอนนี้?

คนไข้ - แสงสว่างไง มันล่องลอยไปบนคลื่น 

Tarja - ดีแล้ว งั้นก็ผ่อนคลาย ปล่อยให้เปลวคลื่นโอบอุ้มคุณไปในที่ที่ดี

คนไข้  - ขอบคุณมากนะ Tarja …ชั้นภูมิใจในตัวเธอจริงๆ ......

 



Tarja - เขาจากไปแล้วล่ะ ...ขอบคุณมากนะ Rodrigue คุณด้วยไคลฟ์

Rodrigue - อย่างน้อยผมก็เห็นเขาได้พักโดยไม่ต้องทรมาน

 

 

Tarja - ชายแก่ที่คุณเพิ่งช่วยวันนี้เขาเป็น อาจารย์ ของชั้นเอง ในสมัยอยู่ที่เกาะทางใต้ แนวหน้าของสงครามที่ไร้ความหมาย ชั้นยังเป็นแค่เด็กที่พวกเขาส่งไปที่เต้นท์คัดแยกผู้ป่วย เพื่อรักษาผู้บาดเจ็บ แต่ดินแดนที่ถูกทำลายโดย Blight เช่นนี้ ชั้นกลับเหมือนคนไร้ค่า จนเขาได้สอนศาตร์ในการเป็นหมอที่แท้จริงให้กับชั้น 

Clive  - ศาสตร์ ที่เราจะปล่อยให้สูญหายไปไม่ได้ ..

 

 

Tarja - น้ำตาแห่งความปราณี (Tears of Mercy) คือของขวัญที่เขามอบให้กับ Bearers ทุกคนบนโลก เพื่อทุเลาความเจ็บปวดของบาปสิ้นสุดลง 

Clive  - และเป็นความเมตตาที่ซิดเองก็เห็นดีเห็นงามด้วย 

Tarja - คุณเองก็คงรู้ดีว่าชะตากรรมของทหารที่เป็น Bearers เป็นยังไง เดินทางจากสมรภูมินึงไปอีกสมรภูมินึง โดยไม่รู้ว่าศึกไหนจะเป็นศึกสุดท้าย ผู้บังคับบัญชาก็ไม่สนกับการที่ต้องเสีย Bearers ซึ่งเป็นทาสของเขาไป ก็มีแต่ อาจารย์ ของชั้นนี่แหละที่สนใจมอบความสงบให้พวกเขาก่อนตาย 

 

 

Tarja -... ชั้นไม่มีน้ำตาจะเสียแล้วล่ะ ไคลฟ์ หลังจากต้องเห็นคนที่รักจากไปมากมาย ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว และเราต้องเป็นหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงนั้น 

Clive  - เราทำแน่ ผมให้สัญญา 

Tarja - ชั้นก็หวังเช่นนั้น ...

 

 

 

                  📗  SideQuest: For Great Justice II 

 

 

Objective > เดินทางไปที่เมือง Lostwing

 

 

Quinten - อ่า ไคลฟ์ ผมเกรงว่าเราคงต้องถึงเวลาล่ำลากันแล้วล่ะนะ อย่างที่คุณรู้ เวลาของคนเรามันสั้นมาก ตอนนี้เจ้าหัวหน้าผู้พิพากษาชั่วกำลังมาในที่ที่เรากำหนดไว้แล้ว เราต้องโจมตีตอนนี้เท่านั้น ก่อนที่เราจะจากกันผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่า แม้ว่าผมจะไม่ใช่คนที่คอยสนับสนุนคุณเสมอไป แต่ผมเชื่อใจคุณ เฉกเช่น ซิด คนก่อน 

Clive - ขอบคุณนะครับ ผมซาบซึ้งมาก และเข้าใจดีว่าตอนนี้คุณรู้สึกยังไง แต่ การแก้แค้นมันเป็นทางออกเดียวจริงๆหรอครับ ?

Quinten - มันเป็นทางเลือกเดียวที่ผมจะหาได้ และเป็นสิ่งที่ทำให้ผมมีชีวิตอยู่ได้มาจนถึงวันนี้ 

Clive - แล้ว กับทุกสิ่งที่คุณสร้างเอาไว้ที่นี่ล่ะครับ?

Quinten - ผมสร้าง Lostwing ก็เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ มันได้ทำตามวัตถุประสงค์เสร็จแล้ว ผมกับคนของผมทราบเหตุผลนี้ดีอยู่แล้ว เวลาที่เราต้องสู้มาถึงแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะ บางคนก็ร่วมสู้ไม่ได้ เด็ก คนชรา Bearers ที่ป่วย ชั้นจะมอบ Lostwing ให้พวกเขาดูแล ถ้าคิดว่ามันพอจะมีประโยชน์กับพวกเขา แต่หมู่บ้านที่มีแต่ เด็ก คนแก่ คนป่วย ไม่น่าจะเป็นที่หลบภัยที่ดีนักหรอก อ่อ ไคลฟ์ ผมมีเรื่องอยากจะรบกวนคุณหน่อยสิ คุณพอจะพาพวกเขาไปอยู่ที่ hideaway ได้มั๊ย? พวกเขาน่าจะอยู่รอดได้ดีกว่า แม้ว่า Lostwing จะต้องกลายเป็นเมืองร้างก็เถอะ 

Clive - ได้แน่นอนครับ 

Quinten - ขอบคุณนะ ตอนนี้พวกเขาส่วนใหญ่ออกจากเมืองไปซ่อนตัวที่ Gaultand’s Bales แล้วเพื่อความปลอดภัยถ้าพวก BlackShileld โจมตี 

Clive - เข้าใจแล้วครับ ผมจะดูแลเพื่อให้เขาเดินทางถึง hideaway อย่างปลอดภัย 

Quinten - ถ้างั้นการเตรียมการขั้นสุดท้ายของผมก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว ลากันตรงนี้นะ ไคลฟ์ ขอให้ Greagor นำทางเราทั้งคู่

 

 

Gaultand’s Bales

 

 

Clive - ทุกคนครับ Quinten ขอให้คุณเดินทางไปกับผมเพื่อความปลอดภัย เขาอาจจะดูแลให้พวกคุณปลอดภัยไม่ได้ในตอนนี้ แต่ผมทำได้ ผมมีที่ที่ปลอดภัยให้คุณอยู่ได้ 

Bearers - ก็ได้ครับ ถ้านายท่านต้องการแบบนั้น แต่ ซิด พวกเราคงไม่มีชีวิตมายืนอยู่ตรงนี้ถ้าไม่ใช่เพราะนายท่าน Quinten เราเป็นหนี้ชีวิตท่าน ดังนั้นเราจะไม่เสียมารยาทที่จะบอกเขาว่าควรทำยังไงกับชีวิตตัวเอง ถ้าเขาบอกว่าเราจะไม่ปลอดภัยใน Lostwing อีกต่อไปนั่นแปลว่า เขาจะไม่กลับมาแล้ว และถ้ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ ผมก็หวังว่าเขาจะผ่านไปถึงตอนจบตามที่เขาต้องการได้จริงๆ นั่นจะทำให้เราเห็นว่า ความยุติธรรม นั้นมันมีอยู่จริง 

Clive - ผมก็หวังเช่นนั้นเหมือนกัน

 

 

ทหารลาดตระเวน - ไคลฟ์ !!! ทุกคนไปไหนกันหมดอ่ะ? อย่าบอกนะว่าออกไปกันหมดแล้วน่ะ ?

Bearers - พวกเขาออกไปพร้อมนายท่าน Quinten หมดแล้ว !

ทหารลาดตระเวน - บ้าเอ้ย ซวยแล้วๆๆๆๆๆ

Clive - เกิดอะไรขึ้นหรอ?

ทหารลาดตระเวน - ผมเพิ่งมาจากคฤหาสน์ผู้พิพากษา เราต้องรีบบอกให้ Quinten อย่าบุกเข้าไปตอนนี้ !! ตอนนี้พวก Blackshield มันซุ่มรออยู่ พวกเขาไม่มีทางสู้กับไอ้พวกปีศาจนั่นได้แน่ ผมส่งข้อความไปเตือนพวกเขาก็ไม่ได้ด้วย !!! แบบนี้พวกเขาได้ตายหมดแน่ๆ 

Bearers - ไม่ๆๆ เราจะปล่อยให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ !!  ซิด คุณไม่ต้องห่วงพวกเรา รีบไปช่วยพวกเขาด่วนเลยครับ !! เราจะปล่อยให้ท่าน Quinten ตายก่อนไอ้ชาติชั่วนั่นไม่ได้!!

Clive - ได้สิ แล้วคฤหาสน์ของผู้พิพากษาอยู่ที่ไหน?

ทหารลาดตระเวน - ผ่านป่าทางตะวันออกไป เขาเรียกที่นั่นว่า Heavenhall ครับ

Bearers - สัญญากับเรานะซิดว่าคุณจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเขา

 

 

Objective > เดินทางไปทางเสาวาร์ป The Dragon’s Aery แล้วลงใต้ผ่านไปยังเขต the Imperial Chase จะพบ คฤหาสน์ของผู้พิพากษา

 

 

Clive - คุณโอเคนะ Quinten !!?

Quinten - ไม่โอเค แต่ยังไม่ตาย

 



Quinten -  ...เทียบกับที่คนของผมต้องเจอไม่ได้เลย พวกเขาติดตามผมมาโดยไม่ถามเลยซักคำ แล้วก็มาตายที่นี่อย่างสูญเปล่า 

 

 

Clive - คงเป็นสัตว์เลี้ยงของไอ้พวกนั้นน่ะ เควนติน คุณหลบไปก่อน ผมจัดการมันเอง 

Quinten - แต่ ...

Clive - คนของคุณไม่ได้ตายอย่างสูญเปล่า เขาตายเพื่อคุณ อย่าให้การเสียสละของพวกเขาต้องสูญเปล่าเลยครับ ! ไปทำในสิ่งที่คุณต้องทำซะ

Quinten - เอางั้นก็ได้!!

Clive - เข้ามาเลยเจ้าหมาน้อย !!

 

 

                             Mini boss - Minas 

 

 

Clive - มันจบแล้วสินะครับ?

Quinten - ใช่ มันจบแล้ว มันร้องไห้ ขอความเมตตา แล้วผมก็เฉือนหูมันจากข้างนึงไปอีกข้างนึง! มันเป็นสิ่งที่ผมฝันเอาไว้มาหลายปีมาก แผนทั้งหมดของผม สร้างเมืองในฝันอย่าง Lostwing ปลดปล่อยพวก Bearers จากโซ่ตรวนของเขา แล้วคัดเลือกพวกเขามาเพื่อทำตามจุดประสงค์ของผม ทั้งหมดก็เพื่อสิ่งนี้ แล้วนี่มันคืออะไร? ความยุติธรรมหรอ? ชีวิตของสหายที่ซื่อสัตย์ของผมต้องสูญสิ้นเพื่อให้ผมบางสิ่ง 

Clive - เควสติน ..

 

 

ทหารลาดตระเวน - นายท่าน เควนติน !! พระเจ้าดีใจที่ท่านปลอดภัย 

Quinten - นายยังไม่ตาย 

ทหารลาดตระเวน - ผมต้องขอโทษด้วยครับ ผมพยายามเตือนคุณแล้ว แต่ไม่ทัน ... เอ่อ จริงๆผมไม่อยากที่จะพูดเรื่องแบบนี้ตอนนี้เลยจริงๆ คือ Lostwing เกิดการท่วมของอีเธอร์น่ะครับ 

Quinten - ว่าไงนะ!?

 

 

Lostwing

 




Quinten - โธ่ Lostwing ..... Lostwing ของชั้น ! 

Clive - ดูพวกนั้นสิ มีพวก Akashic อยู่ที่นี่ด้วย

Quinten - พวกมันคงเข้ามาตอนที่เราออกไปแล้ว เลยต้องติดอยู่ในอีเธอร์ที่ท่วมเข้ามา แล้วประชาชนที่อยู่ข้างในล่ะ? ผมต้องรีบไปช่วยพวกเขา !!

Clive - บ้าเอ้ย เควนติน !!!

 

 

Objective > ลุยพวก Akashic เข้าไปใน Lostwing เพื่อตามหาเควนติน 

 

 

                          Clive - บ้าเอ้ยย เควนติน!!

 

 

Clive -  เควนติน !! มองผมนี่ เป็นอะไรมั๊ย? ขอบคุณพระเจ้า เขายังไม่ตาย ต้องพาเขาออกจากที่นี่ด่วนเลย 

 

 

 

Gaultand’s Bales

 

 

Clive - ขอต้อนรับสู่โลกคนเป็นนะ 

Quinten - แล้ว Lostwing ล่ะ?

Clive -  อีเธอร์ท่วมเต็มทั้งหุบเขาแล้ว 

Quinten - เข้าใจแล้ว ... งั้นทุกอย่างก็ถึงจุดจบแล้วสินะ .. ช่างเป็นวิธีในการบรรลุความทะเยอทะยานของชีวิตที่แปลกชะมัด 

 

Bearers - ไม่หรอกครับ นายท่าน เควสติน เก็บแรงเอาไว้ดีกว่า 

Quinten - เก็บไว้ทำไมล่ะ 

 

 

Quinten - สิ่งที่ชั้นอุตสาห์เพียรพยายามสร้างมา เหลือแค่ความว่างเปล่า ชั้นน่ะ ...ชั้นไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรแล้ว ...

 

 

Bearers - นี่คุณเป็นอะไรไปเนี่ย? คุณรับพวกเรามา อย่าบอกนะว่าเลี้ยงเราไว้ใช้สำหรับการแก้แค้นเท่านั้นน่ะ  เราเป็นมากกว่านั้นสำหรับคุณ พวกเราทุกคนรู้ดี 

Bearers เด็ก - ผม ผมนึกว่าคุณจะไม่กลับมาแล้วซะอีก ผมได้แต่อธิฐาน และอธิฐานเพื่อให้คุณทำสำเร็จ แล้วคุณก็ทำสำเร็จจริงๆ มันต้องมีเหตุผลอะไรซักอย่างสิครับ ว่ามั๊ย?  เราก็แค่กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ไม่ใช่หรอครับ? ที่ผ่านมาคุณดูแลพวกเราทุกคนมาตลอด

Bearers - งานของนายท่านเควสตินยังไม่จบนะครับ เราเชื่อว่าคุณเหมาะที่สุดแล้วที่จะเป็นพูดนำของเรา และคุณก็ยังคงเป็นอย่างนั้นมาตลอดจนถึงตอนนี้

 

 

Clive -  คุณอาจจะเสียเมืองไป แต่คุณไม่ได้เสียพวกชาวเมืองไปหมดนะ ตราบใดที่คุณยังอยู่และคอยนำทางพวกเขา

 

 

Quinten - ทำไม ...หลังจากที่ชั้น .....ทำไมยังอยากจะเดินตามชั้นกันอีก?

Bearers เด็ก - เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกันไม่ใช่หรอครับ?

Quinten - ครอบครัวหรอ?

Bearers - ใช่ครับ คนของนายท่านทุกคนก็คิดเหมือนกัน Lostwing ไม่ใช่หมู่บ้าน แต่เป็นที่ที่เราทุกคนอยู่ด้วยกัน 

ทหารลาดตระเวน - และตราบใดที่เรายังได้อยู่ด้วยกันที่นั่นก็จะเป็น Lostwing เสมอ 

Bearers - เราจะสร้าง Lostwing ขึ้นมาใหม่ที่นี่ ใน Bales 

Quinten - เริ่มต้นใหม่ หนึ่งชีวิตจากไป อีกหนึ่งชีวิตเกิดใหม่ทดแทน สร้างใหม่ทั้งทีจะสร้างแค่หมู่บ้านทำไม เราจะสร้างเมืองเลย หลังจากนั้นก็ประเทศ อะไรจะกล้ามาหยุดเราจริงมั๊ย?

Bearers - นี่แหละนายท่าน เกวนตินที่เรารู้จัก!!

Quinten - ได้โปรด ชั้นไม่ได้เป็นนายท่งนายท่านอะไรอีกแล้ว เรียก เควนติน เฉยๆก็พอ เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกันยังไงล่ะ 

 

 

Quinten - ชั้นขอถอนคำพูดก็แล้วกันนะไคลฟ์ ผมคงไม่ต้องขอให้คุณช่วยดูแลคนของผมอีกแล้วล่ะ 

Clive - ผมจะถือว่าคุณไม่เคยขอก็แล้วกัน 

Quinten - แต่คุณต้องรับรางวัลของคุณสำหรับความช่วยเหลือ ในนามของพวกเรา คุณช่วยผมไว้สองครั้งแล้ว ยังไม่รวมเรื่องอื่นๆอีก

Clive - ขอเป็นขวดสีแดงที่ดีที่สุดซักขวดสองขวดก็พอแล้วล่ะ 

Quinten - แน่นอน ไม่มีอะไรดีเท่านี้อีกแล้วล่ะ และชั้นคิดว่าปีนี้องุ่นออกผลผลิตดีที่สุดด้วยล่ะ ยังไงก็รอหน่อยก็แล้วกัน 

 

 

             Wall of Memories   Hanged man signboard 

 

 

ป้ายสัญลักษณ์ Hanged man ของโรงแรมกลางเมือง Lostwing ซึ่งขณะที่ท่วมท้นไปด้วยอีเธอร์เสียแล้ว เป็นภาพของชายสวมฮู้ด ถูกมัด และถูกแขวนคอ บางทีมันอาจจะสื่อถึงสิ่งที่เขาจะทำกับคนที่เขาต้องการแก้แค้น แต่ตอนนี้ เควนติน มุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตให้กับครอบครัว Lostwing ที่เหลืออยู่ บางที Hanged man อาจคืนชีพอีกครั้ง ภายใต้ชื่อที่แตกต่างออกไป 

 

 

                             Hunt Board update 

 

 

👹Notorious Marks ตัวที่ 20: The Man in Black (Holy Trumpitour)

 

 

         📌 พิกัด - ป่าลึกทางใต้ของ Lostwing (ตำแหน่งตามรูป) 

 

 

 

                    📗 SideQuest: Rekindling the Flame 

 

 

  Objective >   เดินทางมาที่ Martha’s Rest

 

 

Martha - อ่า ไคลฟ์ นี่แหละ คนที่ชั้นอยากจะเจอที่สุดตอนนี้ 

Clive - ครับ?

Martha - จำได้มั๊ยตอนที่เหล่า การ์เดี้ยนของ เซอร์ Wade ที่มาอยู่ที่นี่ตอนที่ Akashic โจมตีพวกเราน่ะ? ตอนนี้การ์เดี้ยนที่เหลือทั้งหมดก็มาอยู่ที่นี่หมดแล้วหลังจากค่ายของพวกเขาที่ Lazarus ถูก อีเธอร์ เข้าท่วม ชั้นก็ไม่รังเกียจหรอกนะที่จะมีหนุ่มๆมาคอยช่วยปกป้องน่ะ แต่เราไม่มีที่พักพอสำหรับพวกเขานี่สิ ถ้าชั้นทำได้คงจะสร้างค่ายทหารใหม่ให้พวกเขาแล้วแต่มันทำไม่ได้นี่สิ จะให้นอนตามกองฟาง โขดหิน มันก็นะ คนที่เราวางใจให้เขาช่วยปกป้องเราทั้งคน เราจะหาที่ให้พวกเขาพักที่ไหนดีถึงจะเหมาะสม? 

Clive - ผมเข้าใจเลยครับ

Martha - ยิ่งกว่านั้นพวก Bearers ก็มีเข้ามาให้เราช่วยเหลือมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงหลังๆมานี้ ปัญหาเรื่องที่พักเลยกลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมาทันที ที่เราคิดกันไว้คืนหาบ้านใหม่ให้พวกเขา เพื่อรองรับพวกที่จะเข้ามาเพิ่มด้วย ซึ่งชั้นหวังว่าคุณอาจพอช่วยได้และคงจะไม่เป็นภาระกับคุณเกินไปหรอกนะ? 

Clive - ไม่เป็นภาระอะไรหรอกครับ แล้วคุณพอจะมีไอเดียเรื่องบ้านใหม่ของพวกเขายังไงบ้างล่ะ?

 

 

Martha - อืมม ชั้นคิดว่าที่ Eastpool ก็ไม่ได้แย่หรอกนะ

Clive - Eastpool หรอ? ตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็ไม่ได้ไปที่นั่นนานแล้วเหมือนกันนะ

Martha - เรื่องโศกนาฎกรรมนั่นใช่มั๊ย? หากมีใครสามารถหยุดมันได้เราจะทำแน่นอน แต่ เรื่องมันจบไปแล้ว และผู้เสียชีวิตที่นั่นคงไม่อยากให้หมู่บ้านของเขาเป็นหมู่บ้านร้างหรอกนะ 

Clive - คุณพูดถูก

Martha - ที่นั่นอาจมี Blight กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ แต่ชั้นคิดว่าน่าจะใช้เวลาอีกหลายปี เหลือแค่ปัญหาเดียว พวก Cuttroats ใช้ที่นั่นเป็นรังของมัน และดูถ้ามันคงไม่ออกไปง่ายๆแน่นอน ไอ้พวกโจรชั่ว ชั้นต้องเสียคนของชั้นไปหลายคนก็เพราะพวกมัน คนของชั้นตอนนี้ก็ต้องคอยป้องกันพวก Akashic ก็เลยไม่มีเวลาไปจัดการพวกมันซักที แต่ตอนนี้เรามีเหล่า Guardians of the Flame มาคอยช่วยเลย ชั้นว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะล้างบางพวกมันเพื่อเอา Eastpool คืนมา คุณว่าไง?

Clive - แน่นอน ผมเอาด้วย Eastpool เป็นสถานที่ที่คนที่ผมรักอยู่ ผมจะไม่ยอมให้พวกโจรมาทำความทรงจำนั้นให้แปดเปื้อนหรอก ยินดีอย่างมากเลยที่จะไปจัดการไล่มันออกจากที่นั่น 

Martha - และชั้นมั่นใจว่าเหล่าการ์เดี้ยนต้องพร้อมใจที่จะติดตามคุณแน่นอน ชั้นพูดเรื่องนี้กับ เซอร์ Wade ไว้บ้างแล้วล่ะ คุณลองไปคุยกับเขาดูก็แล้วกัน

 

 

Clive - เซอร์ Wade ดีใจที่ได้เจอคุณอีกนะ ผมคุยกับมาร์ธาแล้ว เรื่องแผนการยึด Eastpool คืนมาจากพวกโจรที่คุณกำลังจะทำ

 Wade - ครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นแผนของเธอนั่นแหละ ผมเองก็แค่คนนอกเลยไม่กล้าที่จะเสนอความคิดอะไรไปมาก มันจะดูเป็นการฉีกหน้ากันเกินไป แต่ที่นี่เริ่มมี พวก Bearers ที่มีความกล้าหนีจากเจ้านายตัวเองเพื่อมาหาชีวิตอิสระเข้ามาให้ช่วยมากขึ้นจริงๆ เราต้องการหาที่อยู่ใหม่เพื่อรองรับพวกเขา และยังไม่เห็นที่ไหนเหมาะเท่า Eastpool เลย 

Clive - ผมก็คิดเหมือนกัน ก็เลยจะมาช่วยคุณเพื่อทำให้แผนมันสำเร็จไง

Wade - เป็นเกรียติและยินดีมากๆครับ ถ้าได้คุณมาช่วยต้องสำเร็จแน่นอน

Clive - ทำไมต้องรอผมด้วยล่ะ แล้วทำไมก่อนหน้านี้ไม่ทำ?

Wade -  เพราะตอนนี้คนของเรามีจำนวนน้อยลงมาก แถมถนนทั้งสายด้านนอกก็เต็มไปด้วย Akashic ที่เราต้องแบ่งกำลังมป้องกันไม่ให้พวกมันเข้ามาที่นี่ ไอ้เรื่องเข้าไปกวาดล้างโจรใน Eastpool ง่ายมากครับ แต่ถ้าพวก Akashic มันเข้ามาสบทบเราอาจซวยได้ง่ายๆ

Clive - งั้นผมจะเป็นไปจัดการพวกโจรใน Eastpool เอง ส่วนคุณนำพวกการ์เดี้ยนคอยต้านพวก Akashic ที่นอกหมู่บ้านเพื่อไม่ให้มันเข้าผสมโรง

Wade - ผมจะให้คุณไปเสี่ยงแบบนั้นคนเดียวได้ยังไงครับท่านลอร์ด 

Clive - เรื่อง Akashic สำคัญกว่า พวกโจรนั่นผมจัดการได้ไม่ยากหรอก

Wade - ถ้าคุณมั่นใจแบบนั้น ก็ได้เลยครับ ผมจะไปรวบรวมคนให้พร้อมเดี๋ยวนี้เลย คุณล่วงหน้าไปก่อนได้เลยครับ พวกเราจะตามไปทีหลัง แต่รับรองว่าไปทันแน่นอน 

Clive - ได้ งั้นเจอกันที่ Eastpool ก็แล้วกัน 

 

 

 

     Objective >   เดินทางไปที่ Eastpool เข้าไปกำจัดพวกโจรให้หมด 

 

 

                           Mini boss - Two Scoops 

 

 

 

Wade - สุดยอดเลยครับ นายท่านยังฝีมือดีเหมือนเดิมเลย 

Clive - คุณว่างพอที่จะดูผมสู้เลยล่ะ ผมคิดว่าคุณจะไปจัดการต้านพวก Akashic เอาไว้ซะอีก?

Wade - เราจัดการพวกมันจนเกลี้ยงถนนแล้วครับ เลยมีเวลาพอได้มาเห็นท่วงท่าที่งดงามของคุณพอดี

Clive - ตอนนี้พวกโจรน่าจะหมดแล้ว แต่ถ้ามันมาอีกพวกการ์เดี้ยนจะรับมือมันไหวใช่มั๊ย?

Wade - ไหวแน่นอนครับนายท่าน 

Clive - คนของคุณต้องคอยคุ้มกันพวก Bearers เดินทางมาที่นี่ด้วยใช่มั๊ย? แนะนำให้ส่งข่าวไปบอกให้พวกเขาทั้งหมดเดินทางมาได้เลย ก่อนที่จะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาแจมอีก 

Clive - ได้ครับ ผมจะบอกให้พวกเขาออกเดินทางมาทันทีเลยครับ

 

 

ในเวลาต่อมา ..... 

 

 

Bearers - นี่คือ บ้าน ของเราหรอเนี่ย? และ ไม่มีเจ้านายคอยบงการด้วย..

Bearers - ตอนนี้เราไม่มีเจ้านายแล้ว เราได้ใช้ชีวิตของตัวเองจริงๆซะที

 

 

Wade - นั่นคือทั้งหมดของพวกเขาครับ และยังไม่เห็น Akashic ที่อยู่ใกล้เคียงเลย จากนี้ก็คืองานสำคัญ นั่นคือสร้างที่นี่ขึ้นมาใหม่ มันไม่ง่ายหรอกหลังจากผ่านมา 5 ปี โชคดีที่โครงสร้างบ้านเรือนยังแข็งแกร่งพอเลยไม่เสียหายอะไรมาก อาจต้องลงแรงกันเยอะหน่อย แต่คุณจะได้เห็น Eastpool กลับมาผงาดอีกครั้งแน่นอน คุณรอดูได้เลย 

 

 

Clive - Lady Hanna ก็เสียชีวิตที่นี่นะเซอร์ Wade ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมอยากให้ Oscar ลูกของเธอมามีส่วนร่วมในการสร้างที่นี่ขึ้นมาใหม่ด้วยก็ดี 

Wade - ได้ครับ ผมไม่มีอะไรขัดข้องแน่นอน 

Clive - งั้นผมขอกลับไปบอกมาร์ธาก่อนแล้วกันว่าภารกิจสำเร็จและทุกคนปลอดภัยดี  ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไรส่งข่าวมาหาผมได้เลยนะ

Wade - ได้ครับ นายท่าน เดินทางปลอภัยครับ 

 

 

Martha - อ่า คุณกลับมาแล้ว เป็นยังไงบ้าง? เซอร์ Wade แจ้งข่าวมาก่อนหน้าแล้วว่า คุณจัดการพวกโจรหมดภายในพริบตาเลย สุดยอดจริงๆ แล้วเจออะไรที่มันสยองๆบ้างมั๊ย? คิดอีกที ไม่อยากรู้ดีกว่า คุณทำสำเร็จก็พอแล้ว  ตอนนี้เราสามารถสร้างหมู่บ้านใหม่ของเราได้แล้ว 

Clive - ก็น่าจะเป็นอย่างงั้น แล้วคุณจะตั้งชื่อมันว่าอะไรล่ะ?

Martha -ก็จะอะไรล่ะ ก็ Eastpool ไง เซอร์ Wade บอกชื่อนั้นมันดีอยู่แล้ว สถานที่นั้นเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นมากมายแต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่เคยมีเรื่องดีๆเลย จริงมั๊ย?  แล้วอีกอย่างเหล่าวิญญาณที่น่าสงสารอาจไปเกิดใหม่แล้ว แต่งานของเรายังไม่เสร็จ ซึ่งนั่นไม่ใช่หน้าที่ชั้นแล้ว แต่ถ้าเป็นการหาอาหาร ไม้ซุง หรือ ช่างเก่งๆ อันนี้พอช่วยได้  

Clive - ขอบคุณนะมาร์ธา 

Martha - ขอบคุณชั้นหรอ? ไม่ๆ ต้องขอบคุณคุณมากกว่าที่ช่วยเรา 

 

                           📗 SideQuest: Trading Places 

 

Objective >   เดินทางไปที่ Boklad Market

 

Eloise - อ้าว ไคลฟ์ คุณนี่อยู่ถูกที่ถูกเวลาตลอดเลยนะ เรากำลังต้องการใครซักคนที่มีความสามารถเช่นคุณพอดีเลย 
Clive - แล้วอยากใช้ความสามารถของผมไปทำอะไรหรอครับ?
Eloise - ความไม่เกรงกลัวความตายของคุณกับเพลงดาบของคุณไง 
Clive - ผมฟังอยู่
Eloise - ก็อย่างที่คุณทราบดีนั่นแหละ พอท้องฟ้ามืดครึมลงความโกลาหลก็ตามมา Ran’dellah ได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ เหล่า Bearers จากเมืองหลวงที่ต้องสูญเสียเจ้านายก็ถือโอกาสหนีออกจากเมือง แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถคงความเป็นอิสระได้นาน ส่วนใหญ่ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของ The Men of the Fist แบบยังไม่ได้ไปไหนไกลด้วยซ้ำ แต่กองทัพ Dhalmekian ก็พบว่าตัวเองไม่สามารถจัดการกับ Bearers จำนวนมากได้ สุดท้ายก็ต้องหาทางขายทิ้ง 
Clive -คุณก็เลยหาทางที่จะซื้อพวกเขามาเพื่อให้แน่ใจว่าพวก Bearers ที่ไร้นายจะปลอดภัยใช่มั๊ย? 
Eloise - แน่นอนว่าตอนนี้ราคาพวกเขาคงน่าดึงดูดใจไม่ก็อาจได้แบบลดแลกแจกแถมไปเลย 

 

Clive - แล้วเพลงดาบของผมต้องใช้ตอนไหน?
Theodore - แม้เราจะมีเงินพอที่จะซื้อ Bearers เหล่านี้ แต่เราไม่มีที่อยู่ให้พวกเขาหรอก ดังนั้นเราเลยต้องหาที่ทำกินใหม่ให้พวกเขา ที่ไหนซักแห่งที่ห่างไกลจากพวกสอดรู้สอดเห็นจนทำให้พวกเขากลายเป็นทาสอีกครั้ง และเราก็ได้พบที่นึง Kasjlok หมู่บ้านประมงร้างที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา เนื่องจากที่นั่นถูกปล่อยให้รกร้างเป็นเวลานานเลยทำให้พวกสัตว์ร้ายต่างๆเข้ามาครอบครอง  
Eloise - และด้วยเหตุนี้เราเลยต้องการนักดาบฝีมือดีจัดการพวกสัตว์ร้ายให้หมดเพื่อทำให้พวกเขาได้บ้านใหม่ยังไงล่ะ คุณสนใจจะช่วยมั๊ย?

Clive - แบบนี้ผมจะปฎิเสธได้ยังไงล่ะจริงมั๊ย?
Eloise - เยี่ยมเลย Theo ถ้านายไม่ว่าอะไรก็รบกวนเตรียมการเดินทางให้แขกของเราตามที่เราคุยกันไว้หน่อยได้มั๊ย?
Theodore - ได้เลย ปล่อยเป็นหน้าที่ผมเอง 
Clive - ดูเหมือนงานนี้นายคงต้องใช้ความพยายามอย่างมากเลยนะ
Theodore - แน่นอน ก็ทั้งค้นหาหมู่บ้านเหมาะๆ เตรียมที่อยู่ จัดหาผู้อยู่อาศัย กืทั้งหมดนั่นแหละ  ถึงแม้ผมจะเริ่มทำตอนนี้ แต่ผมก็จะทำทั้งวันทั้งคืนจนกว่าจะเสร็จนั่นแหละ งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า นายไปเคลียร์พื้นที่ให้พร้อมเดี๋ยวกองคาราวานของชั้นจะตามไป โอเคนะ?
Clive - จะพยายามทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน 

Eloise - คุณจะพบหมู่บ้านนี้ใน Cerdra’s Thread เลย Laetny’s Cleft ไป คนของชั้นจะช่วยเปิดประตูทางผ่านให้คุณเอง 
Clive - เข้าใจแล้วครับ หวังว่างานนี้ผมจะมีโชคนะ 
Eloise - ชั้นมั่นใจว่าอย่างคุณคงไม่ต้องการโชคหรอก

 

Objective >   ใช้เสาวาร์ปจุด Laetny’s Cleft แล้วเดินทางลงใต้ไปที่หมู่บ้านประมงร้าง จัดการมอนสเตอร์ที่อยู่ในหมู่บ้านให้หมด แล้วกลับไปหา Eloise ที่ Boklad

 

 

Clive - เอ่อ มีอะไรน่าสนใจหรอ Theodore?
Theodore- เงียบก่อน

 

พ่อค้า - นั่นคือเงื่อนไขของเรา และผมเชื่อว่าคุณจะให้ความสำคัญกับเขาอย่างเต็มที่ 
Eloise - แน่นอน ขอบคุณค่ะ 

 

Theodore- ไอ้หมอนี่อีกแล้ว 
Clive - แล้ว ใครหรอ? คนรู้จักหรอ?
Theodore- ทั้งใช่และไม่ใช่ นายไม่ต้องไปสนใจเรื่องเขาตอนนี้หรอก ว่าแต่ที่หมู่บ้าน Kasjlok ?
Clive - จัดการเรียบร้อย หมู่บ้านนั่นเคลียร์แล้ว 
Theodore- นายทำงานเร็วดีเหมือนเดิมนะ 
Clive - กำลังจะไปแจ้งให้ Eloise ทราบอยู่พอดี 
Theodore- ได้เลย เอ่อนี่ไคลฟ์ อย่าบอกเธอเรื่องที่ชั้นแอบดูเธอนะ เดี๋ยวชั้นจะเล่าให้ฟังหลังจบงานนี้ก็แล้วกัน ตกลงนะ?
Clive - โอเค เอางั้นก็ได้ 

 

Clive - Eloise ผมเพิ่งกลับมาจาก ตอนนี้หมู่บ้านนั่นเคลียร์จนปลอดภัยเรียบร้อยแล้วล่ะ 
Eloise - ขอบคุณนะไคลฟ์ นี่ค่าเหนื่อยของคุณค่ะ ตอนนี้คุณได้วางรากฐานให้กับโปรเจ็คเล็กๆของเราแล้ว เรามาเริ่มทำงานให้เสร็จกันดีกว่า อย่างแรกต้องแน่ใจก่อนว่า ข้อเสนอของเราพวก Bearers ยอมรับที่จะเข้าร่วมไม่มีการบังคับ 
Clive - คุณกำลังอยู่ในช่วงเจรจาอยู่สินะ?
Eloise - แน่นอน แต่ คนที่เป็นคนประสานงานพวก The Men of the Fist มีเลห์เหลี่ยมมากกว่าที่คิด เราจะพยายามดีลกับกองทัพให้สำเร็จ ก็อาจมีต้องสู้กับบ้างไม่ทางใดก็ทางนึง แต่สุดท้ายเราต้องชนะ ชั้นมั่นใจ 
Clive - ดีแล้วครับ ถ้าจะให้ช่วยแจ้งผมได้ตลอดนะ 
Eloise - ยังไม่แน่ใจว่าเราจะมีอะไรต้องขอให้ช่วยมั๊ย แต่ก็ขอบคุณก็แล้วกันนะ


Clive - ไง จบงานแล้ว นายมีอะไรจะเล่ามั๊ย?
Theodore-  ชายคนที่ชั้นกำลังเฝ้าดูอยู่ที่มาคุยกับพี่สาวชั้น เขาเป็นตัวแทนของ Silverpeak Consortium สมาคมพ่อค้าที่ใหญ่ที่สุดของย่านนี้ 
Clive - ดูเหมือนชั้นจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลยนะ 
Theodore-  พ่อค้ารายย่อยทุกคนใน Dhalmekia ตั้งแต่เหนือจรดใต้ล้วนเข้าร่วมกับเขา พวกเขาเลยมีอธิพลมากพอต่อ สาธารณรัฐ และพวกเขาพยายามตามตื้อ Eloise ให้เข้าร่วมมานานแล้ว และเมื่อพิจราณาปฎิกริยาของเธอก่อนหน้านี้ ดูเหมือนเธอจะยอมรับข้อเสนอ
Clive - แล้วทำไมนายไม่อยากให้เธอเข้าร่วมอ่ะ?
Theodore-  ชั้นอยากให้เธอทำสิ่งที่เธอทำแล้วมีความสุขมากกว่า และชั้นก็จะไม่ปฎิเสธโอกาสเช่นนี้ของเธอเช่นกัน Eloise เคยช่วยชั้นจากการเป็นทาส เราก็เลยมุ่งมั่นที่จะช่วยคนอื่นๆเช่นเดียวกับชั้น แต่นี่ไม่ใช่ชีวิตในแบบที่เธอต้องการหรอก และชั้นไม่อยากให้เธอทิ้งความฝันของเธอเองเพื่อชั้นหรอกนะ  เธอช่วยปลดปล่อยชั้น ในทางกลับกัยนเธอต้องหลุดพ้นด้วย 
Clive - นายเป็นคนดี Theo

Theodore- ชั้นก็ต้องขอบคุณนายทุกๆเรื่องที่ช่วยสาวของชั้นมาตลอดนะ และชั้นก็อยากตอบแทนบุญคุณด้วยการปลดปล่อยให้เธอไปใช้ชีวิตของตัวเอง แต่ทุกครั้งที่จะทำแบบนั้นเธอก็มักจะปฎิเสธมันเพื่อประโยชน์ของชั้นตลอดเลย 
Clive - เพราะเธอรักนายไง 
Theodore- ชั้นก็รักเธอ ชั้นเลยอยากเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เธอเห็นว่าชั้นแข็งแกร่งพอที่เธอไม่จำเป็นต้องเฝ้าอีกต่อไป แม้ว่าบางครั้งก็ยอมรับว่าต้องการความช่วยเหลือบ้าง และชั้นก็เชื่อว่าชั้นคงพึ่งนายได้บ้าง ว่ามั๊ย?
Clive - ยินดีเสมอ  
Theodore- ขอบคุณนะไคลฟ์ เอาล่ะ ชั้นกลับไปทำงานดีกว่า พวก Bearers คงเดินทางเองไม่ได้หรอก นั่นแหละงานของเรา Crimson Caravans !

 

                                                   🔶   Full Steam  🔶  

     

      The Ironworks  



Mid - ชั้นคิดถูก ไคลฟ์ พ่อชั้นจัดการทุกอย่างไว้หมดแล้ว 
Clive - เขาต้องภูมิใจในตัวเธอนะ Mid งานเขียนเขาอาจช่วยได้ก็จริงแต่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมันเพราะเธอต่างหาก .. สรุป เราจะตามมันทันมั๊ย?
Mid - Einherjar เป็นเรือที่ทั้งใหญ่และเร็วที่สุดตั้งแต่มีการสร้างมา แม้จะไม่มีลมหนุนจากด้านหลังเลยก็ยังยากที่จะตามทัน แต่นั่นมันเรือลำอื่น แต่นี่ไม่ใช่เรือทั่วไป นี่คือ Enterprise !!  โลกนี้ไม่เคยเห็นเครื่องยนต์อย่างที่พ่อชั้นสร้างแน่นอน 
Clive -  มันเทียบไม่ได้อยู่แล้วล่ะ 

 

Joshua - ไคลฟ์ พี่รู้อะไรเกี่ยวกับ Barnabas Tharmr บ้าง?
Clive - ก็รู้แค่จากคนเล่ากันมาแล้วก็พวกบทกวี ว่ากันว่า เขาล่องเรือมาที่ Ash จากดินแดนทางใต้ และดาบของเขาทำให้เขาชนะในทุกศึกจนได้ครองบัลลังย์ และ ดาบของเขา ดาบของโอดีน สามารถตัดทุกอย่างแม้สิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้น แต่ก็อย่ากังวลไปเลย เราทำสิ่งที่เราต้องทำเพราะต้องการที่จะอยู่รอด   
Joshua - สิ่งที่เราต้องทำ .......

Clive - ห๊ะ? มีเสียงคนกำลังมาทางนี้ รีบดับไฟเร็ว!!
Gav -  ชั้นคิดว่าแนวชายฝั่งนี้เป็นที่ซ่อนที่ดีที่สุดแล้วซะอีก  

Clive - Mid เรามีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมา !!
Mid - ห๊ะ!? 
Clive - ชั้นจะต้านพวกมันเอาไว้จนกว่าเรือจะพร้อมเดินทาง! และ ให้เร็วด้วย!

 

     Mid - บ้าเอ้ย ! ..ทุกคนเข้าประจำสถานี ! เตรียมออกเดินทาง !!

 

 

       Clive - พร้อมลุยนะทุกคน !!  … พวกมันเข้ามาแล้ว !!

 

                        กำจัดฝูง Akashic ให้หมด 

 

Clive - ถึงไหนแล้ว Mid ???
Byron - ชั้นว่าที่เธอพูดว่าเรือเธอเร็วน่ะ ของเร็วจริงๆนะ 
Mid - เร็วแน่ป๋า รอดูมันออกทะเลก็แล้วกัน แต่ตอนนี้ รอแปบ!!

Clive - คิดว่าน่าจะหมดแล้วนะ 
Mid - เอาล่ะ เรียบร้อย ย้ายตูดขึ้นมาบนเรือกันได้แล้ว เธอพร้อมออกเดินทางแล้ว !!
Byron - ได้ยินกัปตันเรียกแล้วนี่ ไปกันเถอะ 
Gav - ไคลฟ์ เดี๋ยวก่อน !!



Clive - เดี๋ยวนะ ชั้นนึกว่าเขา ตายไปแล้วซะอีก ?

Joshua - หรือว่ามันจะเป็นในสิ่งที่ผมกลัวว่ามันจะเกิดขึ้น  .... Sleipnir มันไม่ใช่คน แต่เป็นสิ่งที่โอดีนสร้างขึ้น 

Byron - ฟืนิกซ์ผู้ร้อนแรง นี่หลานไม่มีศัตรูแบบธรรมดาๆบ้างเลยเรอะ !!
Clive - พร้อมกับยก 2 กันรึยัง !?
Gav - เราพร้อมอยู่แล้ว จริงมั๊ยลอร์ด ลอสฟิลด์ ?
Byron - ไอ้หนุ่ม ครั้งนึงมีคนเรียกชั้นว่า เพชฌฆาต เลยนะจะบอกให้ หรือมันเป็นฉายาของขวานชั้น ช่างเถอะ มันก็หัวขาดได้เหมือนกันนั่นแหละ!!

Clive - Mid เปลี่ยนแผน !!  เธอออกเรือได้เลย เดี๋ยวพวกเราตามไป!!

Mid - ตามมา !? พวกนายจะตามมายังไง? ว่ายน้ำตามหรอ?? บ้าเอ้ยย เอาล่ะ ถอนสมอเรือได้ !!!   …เดินหน้าเต็มตัว !!!

 

                             กำจัดฝูง Sleipnir ให้หมด

Joshua - ระวังตัวกันด้วยนะทุกคน พวกมันไม่ล้มง่ายๆแบบศัตรูธรรมดา 
Byron - แต่พวกมันจะล้มแน่ เมื่อต้นโอ๊คตอนเจอขวานนั่นแหละ !! และโชคดีที่ชั้นมีขวานติดมาอันนึง 
Gav - เราจะสู้แบบนี้ไปนานแค่ไหนเนี่ย ??
Clive - นานที่สุดเท่าที่จะทำได้นั่นแหละ นอกจากว่านายจะมีแผนอื่น 
Gav - ที่ชั้นฆ่าไปนี่อย่างน้อยๆก็ 5 ตัวแล้วนะ ช่างแม่ง ฆ่าแม่งต่อก็ได้ !!

 

Mid - อ่า ทุกคน เรือเรากำลังออกพ้นชายฝั่งแล้วนะ!!
Joshua - เราควรไปที่เรือกันได้ยัง !!?
Clive - ยังก่อน รอสัญญาณจากชั้น !!

 

                           Mid - รีบมาได้แล้วไคลฟ์ !!

 



                  Clive - ทุกคนรีบไปขึ้นเรือ !!!











                             Clive - ไปเลย Mid !! 

 

 

                           Mid -  โอเค เดินหน้าเต็มตัว !!!

 


                             Mid -   เกาะใหดีๆนะทุกคน !!!!!

 

 

 

     The Naldia Narrow 

 

 

     เรือ Einherjar 

 



Jill - แกต้องการอะไร !!?

Barnabas - นั่นก็จากเรื่องยุ่งเหยิงที่เธอทำนั่นแหละ และทั้งหมดมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นเลย เธอคือข้อต่อรองของชั้นกับ มิธอส รับรองว่าเธอจะปลอดภัยจากอันตรายใดๆแน่นอน 

 

 

 

     The Free Cities of Kanver 

 

 

     เรือ Enterprise 

 

 

 

Mid - ทุกคนเข้าประจำตำแหน่ง !!  ระฆังทุกใบที่ดังขึ้นคือสายสัมพันธ์ระหว่าง สายน้ำ เรา และ เรือ  

 

 

Byron - ไม่รู้ว่า Mid จะมีเครื่องยนต์สำรองอีกมั๊ยนะ? ขี้เกียจพายจัง ตั้งแต่หลานๆฟื้นมาจากหลุมศพ โชคชะตาชั้นก็ดูเหมือนจะลดฉฮวบๆเลยนะ สรุปงานนี้นายมั่นใจแล้วนะไคลฟ์ ? ศัตรูที่หลานกำลังเผขิญมันน่ากลัวแถมยังมีจำนวนมากอีกด้วย 

Clive - ใช่ และพวกมันจะให้เราอยู่หรือตายตามเงื่อนไขของมันด้วย นั่นอาจจะตอบคำถามของลุงได้นะ 

Byron - หลานทำหน้าเหมือนพ่อหลานตอนเขากำลังมุ่งมั่นจะทำอะไรซักอย่างเลยนะ ฮ่าๆ  ในสนามรบ ลุงมีขวานอยู่แค่เล่มเดียว จะอยู่หรือตายก็เล่มนี้แหละ แต่สำหรับหลาน ลุงว่าน่าจะต้องการซัก 1 พัน และลุงเชื่อว่า เพื่อนของลุงใน Ran’dellah จัดให้ได้แน่นอน  ...ดูและตัวเองด้วยหลานรัก ลุงมีเรื่องมันๆของพ่อเจ้าจะเล่าให้ฟังอีกเพียบเลย และลุงคงจะเล่าไม่ได้ถ้าหลานตาย .. อีกครั้ง 

 

 

Clive - โชคดีครับลุง ขอให้ลมหนุนหลังไปตลอดทางนะ 

Byron - อืมม หลานก็ด้วยนะ โจชัวร์  ดูและตัวเองด้วย

Joshua - ผมจะระวังครับลุง 

Byron - ลาก่อนนะ หลานๆของลุง ตอนเจอกันอีกที ชั้นจะมาพร้อมกองทัพใหญ่เลยล่ะ ฮ่าๆๆ 

 



Clive - ก็นะ ... เราคงจะให้ลุงอยู่กับเราในสถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้หรอก จริงมั๊ย?

Joshua - เพราะจากนี้ไป เราก็ไม่รู้ว่ามันจะจบลงยังไงด้วย ...

 

 

 

    Twinside 

 

 

      The Holy Empire of Sanbreque

 

 

                            Dion - พระเจ้า …..

 

 

                          Dion - ทั้งหมดนี่ มัน ... 

 






                    Dion - นี่ชั้นทำอะไรลงไปเนี่ย ....

 



                   เด็กสาวขายยา - ห๊ะ? .. ฝ่าบาท !?

 

 

 


 The Naldia Narrow

 

 

     เรือ Enterprise 

 

 

 

Mid - ทะเลจากที่นี่ไปจนถึง Waloed ค่อนข้างกว้างมาก แต่เรือลำใดก็ตามที่จะมุ่งหน้าขึ้นเหนือจะต้องอ้อม Dzemekys เพื่อผ่านช่องแคบ คงทิศทางเดิมของเราไว้แล้วมุ่งเหนือ - ตะวันออกเฉียงเหนือ และเราต้องรีบไล่ให้ทันเจ้าเรือดำนั่นก่อนที่มันจะหายไป 

Clive - แล้วทำไมเธอถึงคิดว่ามันจะไม่ไปทางใต้หรอ?

 

Mid - เพราะด้วยลมแบบนั้นในน่านน้ำนั่นจะต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์กว่าจะถึง Stomhyrr 

Gav - มิดรู้ดีว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่น่าไคลฟ์ รับรองว่าดีกว่าพวกเราเยอะ ชั้นว่าทำตามที่เธอบอกน่าจะดีกว่านะ 

 

 

Bosun - เราเจอเรืออยู่บนเส้นขอบฟ้าครับ 

Mid -   นั่นแหละมัน !!!

 



Mid - เอาล่ะ หนุ่มๆ เดินหน้าเต็มตัว !!!  อัดเชื้อเพลิงเข้าไปให้เต็มที่เลย !!

 

 

Joshua - รู้สึกเหมือนกันใช้มั๊ยพี่?

Clive - อืมม จิล อยู่บนเรือนั่น !!

 

 

Mid - ทุกคน เตรียมเข้าประจำสถานีรับ !!!  คอยดูนะว่ายัยหนูของชั้นมันทำอะไรได้ !!!

 




Barnabas - เมื่อมีคนนึงนำ อีกคนก็ตาม ความผูกพันของจิตสำนึกที่เชื่อมโยงเข้าหากัน นำทั้งสองไปสู่ชะตากรรมที่เลวร้ายเฉกเช่นกัน 

 

 

Barnabas - นั่นทำให้ทุกการโจมตีของชั้นที่พยายามตัดมันให้ขาดกลับทำให้มันผูกยึดแน่นขึ้นกว่าเดิม 

 

 

                 Barnabas - ช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก ... 

 

 

    Barnabas - แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่มีสิ่งใดที่ดาบของชั้นตัดไม่ขาด !

 

 

 

 

                            Mid - แม่งเอ้ยยยย !!!

 




 

                                   Clive - Barnabas!

 

 

    Mid -  หักขวาเต็มกำลัง !!! และ เตรียมรับแรงกระแทก !!

 






Joshua - นี่เป็นโอกาสเดียวเท่านั้น!!

Clive - ชั้นจะไปตามหาเธอเอง 

 








           Mid - ชิบหายแล้ว ! ....  หักขวาเต็มกำลัง !!!

 

 

 
                     🔶 Through the Maelstrom 🔶

 

 

เรือ Einherjar

 

 

 

Objective > ลุยเข้าไปด้านในเรือเพื่อช่วยจิล  

 




 

                                Joshua - ไคลฟ์ ....

 

 

 

                                    Clive - ไม่!!!



         Clive -  รอแปบนะ ชั้นกำลังจะไปช่วย ทั้งคู่เลย 

 

 

Royal knight - มันอยู่นี่เอง !!  ระวังด้วย ราชาต้องการให้มันรอด 

 

 

Clive - จิล!!!

Jill - นายมาได้ยังไงเนี่ย?

Clive - เดี๋ยวเล่าให้ฟัง  เอามือมาชั้นแกะเชือกให้ !!

 

 

Clive - เธอเดินไหวมั๊ย?

Jill - ถ้าได้ออกจากที่นี่ยังไงก็ไหว !

 



                          Joshua - อยู่เฉยๆ !

 

 

Barnabas - ฟินิกซ์  เจ้าไม่ใช่ Dominant แห่งไฟแน่หรอ?  เพราะชั้นไม่เห็นอะไรนอกจากเปลวไฟ

 




                               Joshua - Odin … !

 





         Joshua - คงต้องเอาจริงแล้วสินะ !!  … อ๊ากกก !!!!

 











Clive - ไหวมั๊ย?

Jill - คิดว่าไหวนะ ...แต่ นี่มันที่ไหนกันเนี่ย?

 




                Clive - แก !!  แกทำอะไรกับโจชัวร์ !!

 

 

Barnabas - ฟินิกซ์น่ะหรอ?  โอ้ ข้าคิดว่าเขายังไม่ตายหรอกนะ จิตสำนึกจากวิญญาณที่อ่อนแอของเจ้ามันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เจ้านายข้าจึงหันมาหาดาบของข้า 

 

 

Barnabas - อีกไม่นานทั้งโลกก็จะถูกทาด้วยสีดำ และทุกสรรพชีวิตก็จะมารวมกันในฤดูใบ้ไม้ร่วงแห่งความตาย 

 

 

Clive - มันจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเราจัดการกับสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องพวกนี้ซะ มันจะไม่เกิดขึ้นถ้าเราทำลายมาเธอร์คริสตัลอันสุดท้ายและฟื้นคืนความสมดุลย์ให้โลกใบนี้ 

 

 

Barnabas - ไม่เอาน่า นี่เจ้าคิดจริงๆหรอว่ามันจะง่ายขนาดนั้นน่ะ ? Blight มันเป็นสิ่งที่มิอาจเลี่ยงได้ แม่แต่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่สามารถหยุดการกลืนกินของมันได้ ความพยายามของเจ้าจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยนอกจากความทุกข์ทรมาน เจ้าต้องยอมรับความจริง ยอมรับตัวตนของเจ้ากับพระเจ้า

 

 

Clive - เก็บไว้เถอะ ชั้นไม่สนหรอก !! ตราบใดที่ยังมีโอกาส ก็ยังมีโอกาสเลือก 

 

 

Barnabas - ยังคงหลงทางเหมือนกับใจที่มืดบอดของเจ้าเหมือนเดิม  

 

 

Barnabas - ถึงเวลาที่ต้องเรียนรู้ถึงชะตากรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่อาจเลี่ยงของเจ้าแล้ว แม้มันจะต้องเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม 

 

 

Clive - จิล รีบหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้นะ

Jill - ไคลฟ์  ไม่นะ !!

Clive - เชื่อใจชั้น จิล

 

 

 

 

                               BOSS: Barnabas

 

 

Barnabas - และด้วยเหตุนี้ แสงแห่งความหวังจึงต้องถูกตัดให้ขาด 

 




                         Clive - อ๊ากกกกกก !!!!!

 



Barnabas - นี่เจ้าจะยอมแพ้แค่นี้จริงๆน่ะหรอ?

Clive - ไม่มีวัน !!

 

 

    Clive - อั๊กกก !!

     Jill - ไคลฟ์ !!!

 

 

Barnabas - เจ้าไม่เห็นหรอ? ปรารถนาอันแรงกล้าของเจ้ากำลังจะฉุดรั้งให้เจ้าหลุดจากจุดประสงค์ที่แท้จริง

Clive - จุดประสงค์ที่แท้จริงของชั้นคืออะไร !!

 

 

Barnabas - มิธอส เราคือใคร? และอะไรคือ Dominant? ลมหายใจของผู้สร้างยังอบอวลอยู่บนริมฝีปากเราอยู่เลย เราแบกแสงแห่งพระองค์เพื่อเราจะได้ชี้นำมวลมนุษย์ในนามของพระองค์ เราเป็นเพียงการกระทำอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า 

 

 

Clive - เราเป็นได้มากกว่านั้น !!!

Barnabas - เจ้าเป็นอะไรไม่ได้เลยหากพระองค์ไม่ได้ประทานให้ พลังอันแสงยิ่งใหญ่ที่เราใช้ก็เป็นของพระองค์ และทุกครั้งที่เราพยายามจะหาประโยชน์จากมันให้ตัวเอง ความเป็นเราก็จะเริ่มเสื่อมสลาย 

 

 

Barnabas - มันจะทำให้เราแตกสลาย เผยความจริงของเราออกมา ภาพลักษณ์อันไร้ที่ติของเราก็จะถูกเปิดเผยออกมา ... Eikon มันมากเกินไปสำหรับคนเพียงไม่กี่คนที่พระองค์เลือกสรร ยกเว้นเจ้า มิธอส !

 



Barnabas - เจ้าสามารถใช้พลังของทุกตนได้ แต่ร่างของเจ้ากลับไม่ตอบสนองต่อความต้องการของมัน 

 

 

Clive - แกพูดเรื่องอะไร ??

Barnabas - ชั้นพูดเรื่องอะไรงั้นหรอ?

 

 

Barnabas - เราเหล่า Dominant คือหนทางไปสู่จุดจบ! เราถูกสร้างมาเพื่อเจ้า เพื่อเป็นความแข็งแกร่ง เป็นกำลังให้พระประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์และของเจ้าเสร็จสมบูรณ์

 

 

Clive - แล้วมันคืออะไร!??

Barnabas - เพื่อหล่อเลี้ยง เพื่อปรนเปรอ .... อย่างที่เจ้ารู้  เจ้าสามารถมองออกไปนอกกำแพงแห่งการจองจำจากการเห็นคุณค่าของตัวเอง และตราบใดที่เจ้ายังเพิกเฉยต่อสิ่งนี้ เจ้าก็จะไม่มีวันฝ่าแนงป้องกันของข้าไปได้แน่นอน แต่ถึงกระนั้น เจ้าก็อาจสบายใจได้ว่า เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียวในชะตากรรมอันเลวร้ายของเจ้า โซ่ตรวนแห่งความปรารถนาผูกมัดกับมนุษย์ทุกคน แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่พระองค์ผู้มีเมตตาได้ทรงสงสารต่อความสร้างสรรที่ผิดพลาดของพระองค์

 

 

Barnabas - และจะได้เห็นพวกเขากลับสภาพเดิมอย่างที่เป็นมา 

Jill - แล้วพวกเขาจะเปลี่ยนเป็นอะไรกันแน่!!?

Barnabas - ก็ ผู้รับใช้ที่ภักดีต่อพระเจ้า ไง

 

 

Clive - ไม่ !! แกจะเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็น Akashic !

Barnabas - ไม่ใช่เปลี่ยน มิธอส กลับไปเป็น ต่างหาก 

 

 

Barnabas - มนุษยชาติถูกชักจูงให้หลงผิดด้วยปรารถนาอันแรงกล้าของตัวเองมานานมากแล้ว ถึงเวลาที่พวกเขาจะกลับสู่โลกแห่งความเท่าเทียมที่สงบสุข ที่ซึ่งพวกเขาจะได้รู้จัก ความหลุดพ้น อีกครั้ง 

 

 

Jill - ความหลุดพ้น? และพรากทุกอย่างที่พวกเขารักเนี่ยนะ!!?

Clive - เราไม่ต้องการ ความหลุดพ้น เราช่วยตัวเองได้ และเราจะทำตามเงื่อนไขจากความต้องการของตัวเอง !!  ไม่ใช่เพื่อแก หรือเทพห่าเหวที่ไหนทั้งนั้น!!

 

 

Barnabas - ยิ่งทำท่าทีที่ท้าทายแบบนี้ยิ่งทำให้โซ่แห่งจิตสำนึกผูกรัดเจ้ามากขึ้น ... แต่บางที ความจริงข้อนี้อาจนำไปประยุกต์ใช้ได้  

 

 

                       Jill - ห๊ะ??  ไคลฟ์ !! ดูนั่น !!

 



Barnabas - ยิ่งเจ้าผูกพันกับ Dominant ที่เหลืออยู่มากเท่าไหร่  ความกระหายในความแข็งแกร่งของเจ้าก็จะยิ่งมากขึ้น จนกนะทั่งมันนำเจ้ากลับไปสู่คำตอบเดียวที่มีอยู่ หาใช่ทางอื่นที่เจ้ามุ่งหวังไว้ แต่กลับมาเหมือนเดิมทั้งหมด 

 




Jill - ชายฝั่ง Ash อยู่ไม่ไกลจากนี่เท่าไหร่ ชั้นว่าชั้นแช่แข็งต้านมันไว้ได้นะ

Clive - เดี๋ยว สภาพเธอตอนนี้มันยังไม่พร้อมนะ !!

Jill - พร้อมไม่พร้อมไม่รู้แต่ก็ต้องลองดู !!

 



         Jill - ตามมาไคลฟ์!! อย่าหันกลับไปมอง !!

 

The Shadow Coast 

  Western Ash 

 

 

 

Jill - หวังว่า คนอื่นๆจะปลอดภัยนะ 

Clive - Enterprise หนีออกจากพื้นที่ก่อนที่เราจะตกลงมาแล้ว พวกเขาทำได้อยู่แล้วน่าจิล และเดี๋ยวพวกเขาก็จะเห็นร่องรอยของน้ำแข็งที่จะนำทางมาหาพวกเราได้เอง เราก็แค่รอจนกว่าจะเช้าแค่นั้น

 

 

Clive - นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ชั้นแพ้ต่อ Barnabas ชั้นคงไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะเขา

Jill - บางที อาจไม่มีทางอื่นนอกจากยอมจำนนให้กับเจ้านายของมัน นอกจากว่านายจะไม่อยากทำแบบนั้น และไคลฟ์คนที่ชั้นรู้จักก็จะไม่มีวันทำแบบนั้นแน่ๆ

Clive - นั่นเป็นสิ่งที่เธอเชื่อ แต่เธอรู้จักชั้นจริงๆแค่ไหน? ถ้าเรื่องที่ Barnabas พูดเป็นเรื่องจริง ชั้นก็คงจะเป็นมอนสเตอร์มากกว่ามนุษย์ และทุกครั้งที่ชั้นเรียกเปลวไฟจากข้างใน รู้สึกเหมือนมันกำลังเผาผลาญตัวตนที่ชั้นเคยเป็น

 

 

Jill - นายคิดงั้นหรอ? แล้วเคยคิดถึงเรื่องสิ่งที่นายทำลงไปหรือเปล่า พลังที่นายใช้มันช่วยผู้คนไว้ได้มากมายแค่ไหน พลังน่ะ ไม่สำคัญหรอกว่ามันจะได้มายังไงหรือโดยใคร มันสำคัญว่านายจะใช้มันยังไงมากกว่า และนายเลือกที่จะใช้มันในทางที่ดี จริงมั๊ยล่ะ?

 

 

Clive - ยังไง ชั้นก็ใช้มันเพื่อฆ่า จะเกิดอะไรถ้ามันเป็นเจตจำนงจริงๆของชั้น ถ้าเป็นสิ่งเดียวที่ชั้นทำได้ดีที่สุดล่ะ ?

Jill - นายยังคงเป็นเด็กผู้ชายคนเดิมที่โตมาด้วยกันเหมือนเดิม กระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือ และ ก็ยังโดดเดี่ยวอยู่เสมอ เพราะนายไม่เคยรู้ถึงเรื่องนึง ว่าสิ่งที่จำเป็นที่ต้องรักษาไว้มากที่สุด นั่นคือ นายไง ไคลฟ์ คือนาย นายไม่เคยใช้เวลาในการช่วยเหลือตัวเองเลยซักครั้ง

 

 

Clive - ตัวชั้นเนี่ยนะ? ชั้นคิดว่า คงไม่มีใครช่วยชั้นได้แล้วล่ะ 

Jill  - ไม่มีใครหรอกที่จะช่วยเหลือไม่ได้ตราบใดที่เขาต้องการให้ช่วย นายสู้เพื่อความอยู่รอด และความอยู่รอดของนายก็ทำให้นายสามารถปกป้องผู้คนที่นายรักได้ นั่นแหละคือสิ่งที่นายทำ และเป็นสิ่งที่นายทำมาตลอด และชั้นรู้ว่านายจะไม่เปลี่ยน ดังนั้นชั้นจะช่วยนายเอง มอบสิ่งที่นายต้องการเพื่อปกป้องพวกเราทุกคน 

 

 

  Clive - จิล .... เธอแน่ใจหรอ?  ถ้านั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ งั้น ....

 

 

                    Jill - ไม่ต้องห่วงนะไคลฟ์ ทำเลย !!

 



Jill -  ภาระนี้ ชั้นจะให้ความแข็งแกร่งกับนายในการแบกรับมันเพียงคนเดียว

Clive - แต่ชั้นไม่ได้ตัวคนเดียวหรอกนะ ภาระนี้ที่ชั้นแบกรับ บาปของชั้น ความเจ็บปวดของชั้น ความโศกเศร้าของชั้น ตอนนี้ชั้นรู้แล้วสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนนึงของชั้น 

 

 

Clive - ถ้าชั้นจะลุยโดยฝากชีวิตไว้กับคนที่ชั้นรัก งั้นชั้นก็ยินดีที่จะแบกรับภาระของเธอด้วย จนถึงล้มหายใจสุดท้าย 

Jill - ไคลฟ์ ....

 





Clive - ชั้นสัญญากับเธอนะ จิล ชั้นจะหาหลีกหนีจากชะตากรรมนี้ให้ได้ ชั้นจะหาทางช่วยทุกคนให้ได้

 

 

Clive - เผื่อวันนึงเราจะได้ดวงพระจันทร์ด้วยกันอีกครั้ง 

Jill - และชั้นก็จะให้สัญญากับนายน่ะ ไคลฟ์  ว่าชั้นจะอยู่ที่นั่นไม่ว่านายจะเปลี่ยนเป็นอะไรก็ตาม 

Clive - ชั้นรู้ ...  ชั้นไม่คิดเลยว่ารอยยิ้มของเธอจะทำให้ชั้นมีความสุขได้ขนาดนี้ 

 



  เช้าวันรุ่งขึ้น ...





 

Jill - แล้ว Barnabas ล่ะ? เราต้องตามมันต่อมั๊ย?

Clive - ไม่ต้องหรอก เส้นทางของมันกับเราต้องมาบรรจบกันอีกครั้งแน่นอน ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตาม อีกอย่าง เรามีบางสิ่งที่สำคัญกว่าต้องทำก่อน 

 

 

Jill - Drake’s Spine สินะ มาเธอร์คริสตัลอันสุดท้าย 

Clive - เรือ Einherjar จมอยู่ใต้ทะเล Waloed ไม่กล้าไปยัง Storm ต่อแน่ถ้าไม่มีมัน และมันรู้แล้วว่าเรากำลังไปหาพวกมัน  เราต้องมีแผน และต้องเป็นแผนที่ดีด้วย 

 

 

      Jill - งั้นเรากลับบ้านไปเตรียมแผนดีๆกัน .. Ash รอได้อยู่แล้ว 

 

                           🔶  Across the Narrow  🔶  

 

 

                                      The Hideaway 

 

 

                               Bennumere, Central Storm

 

 

Otto - Mid เล่าให้ฟังว่า Odin ตัดทะเลขาดจนแยกเป็นทาง เธอนี่มักเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องอะไรที่มันเหลือเชื่อๆตลอดเลย    

Clive - ผมก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเหมือนกันนะ 

Otto - แล้วลุงของนายไม่มาด้วยหรอ?

Clive - เขาแยกตัวจาก Enterprise ไปก่อนแล้วครับ เราปรึกษากันว่า หลังจากที่ต้องปะทะกับเรือ Einherjar เรือเราคงยับเยินแน่นอน ลุงเลยรีบไปประสานช่างเก่งๆที่ Ran’dellah รอไว่ก่อน เรานัดเจอกับเขาอีกครั้งก่อนที่เราจะเดินทางไปฝั่ง Ash 

Otto - มันจะดีหรอ? ล่าสุดที่ได้ยินมาที่นั่นตอนนี้เต็มไปด้วยพวก Akashic นะ

Clive - เชื้อชั่วของ Ultma มันกำลังแพร่กระจาย? ก็หวังว่ามันจะไม่จริงนะ

Otto - เวลาของเราใกล้จะหมดแล้วสินะ? เราเองก็พยายามอย่างเต็มที่แล้วที่จะยึดที่นี่เอาไว้ นึกภาพไม่ออกเลยว่าพอถึงเวลานั้นจริงๆ ที่นี่น่าจะหลุดเป็นชิ้นๆแน่นอน แต่ถึงงั้น เราก็ยังพยายามทำต่อไปเหมือนเดิม ไม่แน่เรื่องเล็กๆน้อยที่เราทำอาจจะได้ผลก็ได้

Clive - ผมก็หวังอย่างนั้นเหมือนกัน

 

 

 

The Power of Ice Unlock > ตอนนี้ ไคลฟ์สามารถใช้พลังน้ำแข็งของ Eikon Shiva ได้แล้ว 

 

 

                                                       Shiva Ability

 

 

                                        Cold Snap

 

 

ท่ากด O พื้นฐานของอบิลิตี้ของชิวา ทำให้ไคลฟ์สามารถไถลไปมาบนพื้นน้ำแข็ง หากไถลไปโดนตัวศัตรูจะทำให้ศัตรูแข็งชั่วคราว 

 

 

และถ้ากด O ในขณะศัตรูที่เข้ามาโจมตีพอดีจะเป็นการแดชหลบแล้วเค้าท์เตอร์กลับด้วยพลังอันกระแทกน้ำแข็งเป็นวงกว้างทำให้ศัตรูที่โดนกลายเป็นน้ำแข็งชั่วคราว ทำให้ศัตรูกลายเป็นเป้านิ่งให้ใช้ท่าอื่นโจมตีต่อได้

 

                                        Ice Age 

 

 

ปล่อยธารน้ำแข็งออกไปอัดกระแทกศัตรู (กดปุ่มค้างเพื่อช่วยเพิ่มความรุนแรงได้)

 

 

 

                                     Mesmerize

 

 

ยิงชิ้นส่วนน้ำแข็งหลายชิ้นออกไปดึงศัตรู (ขนาดเล็ก) ให้เข้ามาใกล้ไคลฟ์ ศัตรูที่อยู่เป็นกลุ่มก้อนก็จะโจมตีได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าเป็นศัตรูขนาดใหญ่ท่านี้จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย 

 

 

                                      Rime 

 

 

สร้างผลึกน้ำแข็งขนาดใหญ่สร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องกับศัตรูทุกตัวที่ติดอยู่ในนั้น และสามารถสร้างผลึกเพิ่มในเป้าหมายอื่นได้ทันที ในขณะก้อนผลึกยังทำงานอยู่ก็ยังสามารถกดสี่เหลี่ยมยิงกระตุ้นไปที่ผลึกสร้างความรุนแรงต่อเนื่องได้อีกเรื่อยๆ 

 

 

ท่านี้สามารถโจมตีต่อเนื่องได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องรอเกจเต็ม เพียงแต่ มันไม่ทำให้ศัตรูบาดเจ็บอะไรมากมายนอกจากทำให้ศัตรูถูกถ่วงเวลา

 

 

                                 Diamond Dust 

 

 

สร้างพายุหิมะขนาดใหญ่ทำให้ศัตรูในรัศมีกลายเป็นน้ำแข็งก่อนแล้วอัดกระแทกลงพื้นสร้างความเสียหายด้วยธาตุน้ำแข็งอันพวกมันกระเด็นออกไป

 

 

ความสามารถของ Shiva สรุปรวมงานเป็นสกิลที่เน้นการซื้อเวลาให้ไคลฟ์มีโอกาสโจมตีต่อด้วยท่าอื่นมากกว่าจะโจมตีด้วยความรุนแรง

 

                   🔓  The Hideaway SideQuest Unlock 

 

 

 

◼Spacial Quest: Blacksmith’s Blue IV

◼Spacial Quest: Even Weirder Science 

 

 

                            📢 Alliant Reports Quest 

 

◼SideQuest: Under New Management ที่ Northreach

◼SideQuest: Rekindling the Flames II ที่ Martha’s Rest

◼SideQuest: Lines in the Sand ที่ The Dalimil Inn

◼SideQuest: Trading Places II ที่ The Boklad Markets

◼SideQuest: Duty Undying ที่ Tabor 

 

 

                                  📪 Missives Quest 

 

◼SideQuest: Self-Determination จาก Cold 

 

 

 

 

           🔨  Spacial Quest: Blacksmith’s Blue IV 🔪

 

 

August - คุณได้ยินข่าวร้ายแล้วสินะ ใช่มั๊ย?

Clive - ข่าวร้าย เรื่องอะไร?

August - ก็เรื่องหมู่บ้าน Dravozd บ้านเกิดของ Blackthorne ที่เราเคยไปช่วยเรื่องของช่างตีเหล็กพวกนั้นไง ?  เหมืองประจำหมู่บ้านของพวกเขาตอนนี้กำลังถูก aether ท่วมเข้ามาแล้ว 

Clive - แล้วตัวหมู่บ้านล่ะ? 

August - เรื่อง aether ตอนนี้หมู่บ้านยังปลอดภัย แต่มันมีปัญหาเรื่องพวก Akashic ที่ออกมาจากเหมืองกำลังเข้ามาโจมตีหมู่บ้าน Zoltan กับคนของเขา เตรียมการป้องกันอยู่ พวกเขาต้องการความช่วยเหลือและต้องเร็วด้วยนะ ซิดตอนนี้ Dorys ส่ง Cursebreakers บางส่วนเข้าไปช่วยเฝ้าระวังอยู่ แต่ก็อาจจะเกินกำลังของพวกเขาที่มีกำลังน้อยกว่า แถมหัวหน้าหน่วยก็ถูกกินไปแล้วด้วย ถ้าเราไม่รีบทำอะไรซักอย่างที่นั่นไม่เหลือซากแน่นอน 

Clive - ผมจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่นอน แล้ว Blackthorne รู้เรื่องมั๊ย?

August - ไม่แน่ใจนะ แต่ไม่รู้น่าจะดีกว่าไม่งั้นเขาก็จะทำเรื่องโง่ๆอีก แล้วคุณว่าเราควรจะบอกเขามั๊ยล่ะ?

Clive - ไม่ต้อง เขาไม่รู้จะดีกว่า 

August - โอเค แต่ตอนนี้ผมห่วงที่นั่นมาก อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ ผมล่วงหน้าไปก่อนนะแล้วเจอกันที่หมู่บ้าน Dravozd

 

 

 

Objective > เดินทางไปที่หมู่บ้าน Dravozd

 

 

 

August - อ่า มาแล้วหรอ ไคลฟ์ ?

Clive - แล้วพวก Akashic ล่ะ?

August - ส่วนใหญ่ยังอยู่ทางเหนือของหมู่บ้าน ผมคุยกับหน่วยสอดแนมแล้วพวกเขาบอกสถานการณ์เลวร้ายกว่าเดิม เพราะมีพวก Akashic ออกมาจากเหมืองเป็นฝูงเลย ผู้เฒ่า Snotty เลยสั่งปิดประตูทางเหนือไว้ ในกรณีที่พวกเขาจะแอบอยู่ในหมู่บ้านอ่ะนะ แต่มันคงซื้อเวลาไม่ได้นานหรอก 

 

 

Zoltan - ขอต้อนรับกลับมานะซิด ไม่สงสัยเลย ถ้า August รู้เรื่องนี้ ใครจะคิดว่าคนที่กอบกู้ Dravozd ไว้ในครั้งนั้นคือ Outlaw ผู้โด่งดัง คุณกลับมาช่วยพวกเราใช่มั๊ย?

Clive - แน่นอนครับ

 

 

Blackthorne - คิดว่านายจะหนีไปไหนโดยไม่มีชั้นได้งั้นหรอ?

 Zoltan -  Blackthorne ....

August - นายมาทำบ้าอะไรที่นี่เนี่ย!?

Blackthorne - ดูเหมือนพลลาดตระเวนคนนึงจะพูดเสียงดังเกินไปน่ะ ต่างจากเพื่อนรักของชั้นที่คิดว่าชั้นไม่ควรจะต้องรับรู้  ... ไง ไม่ได้เจอกันนานนะ Zoltan นานจนเราสองคนดูเป็น Codgers แก่ๆไปแล้ว 

Zoltan - นั่นเป็นวิธีขอโทษของแกหรอเจ้าโง่เอ้ยยย !!

August - นายไม่ต้องไปฟังเขาหรอกน่า นายก็ทำดีที่สุดแล้ว สำหรับหมู่บ้านของนาย แค่นั้นแหละ

Blackthorne - ใช่ ชั้นทำแล้ว แต่ยังไม่ทั้งหมด 

 

 

Blackthorne - อาจารย์ของเรา ไม่ได้ทิ้งความเป็นผู้นำไว้ให้เราสองคน เขาทิ้งไว้ให้ชั้น ช่างตีเหล็กที่ดีที่สุดใน Dravozd เป็นรองก็แค่ตัวเขา แน่นอนล่ะ มันเป็น ประเพณีงี่เง่า ในความคิดของชั้นเลย หากใครมีพรสวรรค์ก็ควรสนับสนุนเขาฝึกปรือฝีมือ อย่าขอให้เขาทำเรื่องที่ให้เกิดความบาดหมาง ซึ่งครึ่งชีวิตของอาจารย์เราก็เป็นแบบนั้นจนเขาตาย และชั้นจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นกับชั้นแน่ 

 

 

Zoltan - นายก็เลยยอมเสียครึ่งนึงของชั้นไปแทนสินะ?

 Blackthorne - เพราะนายคือคนที่ Dravozd ต้องการต่างหาก ...ภายใต้อุดมคติอันล้ำค่าของชั้น สถานที่แห่งนี้คงอยู่ได้ไม่ถึงปี ชั้นเลยต้องจากไปเพื่ออุทิศตัวให้งานโดยไม่ต้องมาห่วงถึงผลที่ตามมา เพราะชั้นไว้ใจนาย ชั้นอาจดูเป็นคนแก่ตัว แต่ชั้นก็แค่ทำในสิ่งที่ชั้นรู้สึกว่าต้องทำก็แค่นั้น 

Zoltan - สิ่งที่นายต้องทำคือทำหน้าที่ของนาย!!

Blackthorne -แม้ว่ามันต้องทำให้ทุกคนอดอยากงั้นหรอ!!!

Clive - พอได้แล้ว ! นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาเถียงกันนะ !! เอาไว้ตีกันหลังจากที่ Dravozd ปลอดภัยแล้วเถอะ !!

Zoltan - ก็ได้ ยังไงชั้นก็ได้พูดสิ่งที่อยากพูดไปหมดแล้ว 

Blackthorne - เออ ชั้นก็เหมือนกัน 

August - โทษทีนะไคลฟ์ ผมไม่ควรดึงคุณให้มายุ่งเรื่องของผมเลย แต่เรามีเวลาไม่มากแล้ว เราต้องตั้งสติแล้วทำอะไรซักอย่างก่อนที่ Akashic มันจะบุกมากินเราที่นี่ 

 

 

Clive - ถ้างั้นก็ลุยกันเลย อย่ามัวเสียเวลา

August - ถูกต้อง หลังจากที่คุยกับหน่วยสอดแนมล่าสุด น่าจะไม่มีอะไรเซอร์ไพรซ์อีกนะ อ่อ แล้วก็ Blackthorne นายกับ Zoltan รออยู่ที่นี่จะดีกว่า 

 

 

Bohdan - ตอนนี้พวก Akashic มันเริ่มเคลื่อนที่แล้วครับ !!

August - มันเข้ามาใกล้แค่ไหน?

Bohdan - อยู่หน้ากำแพงก็มองเห็นพวกมันแล้วครับ นี่ยังไม่รวมอีกมากที่จะออกมาจากเหมืองนะ 

August - เฮ้ออ ก็เพิ่งบอกอยู่ว่าอย่ามีเซอร์ไพรซ์ 

Bohdan - ถ้าพวกเราอยู่ในที่โล่งแบบนั้น พวกมันจะเข้ามารุมโจมตีเราทันที เราเลยกลับเข้ามาหลังกำแพงกันหมด

August - ดีแล้ว บอกพวกเราเข้ามาในกำแพงให้หมด แต่ก็เตรียมอาวุธให้พร้อมด้วย

Bohdan - รับทราบครับ !

 

 

Zoltan - ผมก็พร้อมจะสู้ด้วยเหมือนกันนะ 

August - ขอโทษด้วยที่ต้องขัดใจแต่นั่นหน้าที่เราครับ พอคนของผมเข้ามาหมดแล้ว คุณสั่งคนของคุณปิดประตูไว้ให้แน่นหนาก็พอ งานนี้ไม่ต้องการฮีโร่ไปโชว์เดี่ยว ถ้าคุณอยากจะช่วยจริงๆ ช่วยไม่กัดกันตอนนี้ก็พอ ได้ยินแล้วนะ

Blackthorne - ออกัสพูดถูก เชื่อเหอะ ชั้นเห็นมาแล้วว่าพวก Akashic มันทำอะไรกับเกราะแบบนั้นได้ แม้ทุกคนจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่มีทางรับมือพวก Akashic จำนวนขนาดนั้นได้หรอก 

Clive - ผมจะออกไปลุยเอง พอผมออกไปแล้วก็ผลึกประตูได้เลย ผมจะต้านมันไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

August - แล้วถ้ามันฆ่าคุณล่ะ?

Clive - นายก็สั่งอพยพหนีได้เลย แต่มันจะไม่เกิดขึ้นแน่ ชั้นให้สัญญา นายคอยดูแลที่นี่เอาไว้รอชั้นกลับมาก็แล้วกัน 

August - ไม่ต้องห่วง ปล่อยเป็นหน้าที่ผมเอง 

 

 

                Clive - ตัวไหนก่อนดี ? เรียงหน้าเข้ามาเลย !!

 



                Clive - หมดแล้วสินะ ? … อ่า ดูเหมือนจะยัง 

 

 

                       Mini boss - Canyon Chimera 

 

 

               Clive - เอาล่ะ คำถามคือ มันจะมีมาอีกมั๊ย?

 

 

August - ฮ่าๆ ไคลฟ์ ดีใจที่คุณยังไม่ตาย !!

Clive - ชั้นจัดการมันเท่าที่จะทำได้แล้ว 

August - มากที่สุด้ท่าที่จะทำได้ ฮ่าๆ ฟังเขาพูดเข้า มันน่าจะไม่เหลือให้ฆ่าแล้วมากกว่าครับ อย่างน้อยก็เกือบหมดแหละ 

Clive - เกือบหมดหรอ?

August - ครับ มีตัวสองตัวที่ข้ามกำแพงไปได้ แต่พวกเราจัดการเรียบร้อยแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วง 

Clive - ดีแล้ว พวกคุณจะได้พร้อมตอนมันกลับมาอีก

August - กลับมาอีกงั้นหรอ เรื่องนั้นเอาไว้ค่อยว่ากัน ตอนนี้คุณกลับไปข้างในก่อนเถอะ

 

 

Zoltan - ซิด ฮ่าๆ คุณนี่มันน่ากลัวยิ่งกว่าชื่อเสียงคุณเสียอีกนะ มากพอที่จะทำให้พวก Akashic ต้องฝันร้ายเลย เล่นเอาชั้นเกือบจะสงสารมันตอนเห็นคุณเชือดเลยนะ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ชั้นรู้สึกดีมากๆเลย Dravozd จะไม่ลืมสิ่งที่คุณทำให้ในวันนี้แน่นอน 

Clive - ผมเกรงว่าสิ่งที่ผมทำอาจจะช้าไปแล้วก็ได้ เพราะไม่มีอะไรจะหยุดการท่วมของ aether ได้ นั่นแปลกว่า สิ่งมีชีวิตใดก็ตามที่เขาไปในเหมืองนั่นต้องตายหมด จากนั้นมันก็จะมาบุกถึงกำแพงเมืองคุณอีกครั้ง 

August - ยังโชคดีที่การท่วมของ aether ไม่ได้แพร่กระจาย ไม่งั้นคงจะแย่กว่านี้ ผมไม่อยากที่จะพูดแบบนี้ แต่เวลาของหมู่บ้านคุณใกล้จะหมดแล้ว

Zoltan - ก็อาจจะเป็นอย่างงั้น แต่เราก็จะยังอยู่ที่นี่อยู่ดี เพราะสุดท้ายพอ aether มันท่วมหมดก็ไม่มีที่ไหนปลอดภัยอยู่ดี อย่างน้อยๆที่นี่ก็คือ บ้านของเรา แต่ยังไง เราก็จะผนึกประตูทางเหนือให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และคอยเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงเลย 

August - โอเค งั้นผมจะส่งให้คนของผมช่วยเสริมคุณอีกแรงแล้วกัน 

 

 

Zoltan - ส่วนนาย Blackthorne  2 ครั้งแล้วที่นายกลับมายามที่ Dravozd ต้องการนาย .... ยังไงก็ .... ขอบใจ นะ 

Blackthorne - ชั้นไม่ควรไปจากนี่แต่แรกแล้ว และถึงจะไปชั้นก็ควรจะบอกนายก่อนไป ... 

Zoltan - มันก็ถูกแล้วที่นายไม่บอกน่ะ เพราะไงชั้นก็ไม่ฟังนายอยูดีนั่นแหละ ชั้นอิจฉานายมาตลอด อะไรที่นายทำมันดูง่ายไปหมด แต่สำหรับชั้นมันแทบจะเป็นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ การจากไปของนายทำให้ชั้นสมบูรณ์แบบขึ้น แม้ว่าต้องเกลียดนายก็ตาม ทุกๆวันชั้นคิดตลอดว่าจะเป็นยังไงถ้านายยังอยู่ และสิ่งที่นายเคยพูดก่อนหน้านี้ก็เป็นเรื่องจริง นายได้เฉาตายอยู่ที่นี่แน่นอน 

 

 

Blackthorne - ในที่สุดเรามีสิ่งที่คิดตรงกันซะที ชั้นหวังว่าในท้ายที่สุด นายจะเข้าใจมัน นายรักษาที่นี่ให้ยังคงอยู่

Zoltan - รักษาไว้หรอ ชั้นทำให้มันดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่ Dravozd ก็ไม่ใช่อย่างที่เคยเป็นอีกแล้ว งานของเราเคยเป็นความภาคภูมิใจของ Dhalmekia แต่ตอนนี้เราสร้างแต่งานขยะๆเหมือนเดิมซ้ำๆไปวันๆเพราะมันทำกำไรได้ 

 

 

Zoltan -  มันไม่ใช่การสร้างงานฝีมืออีกต่อไปแล้ว ชั้นไม่กล้าจะส่งลูกชายไปรบโดยต้องสวมชุดเกราะที่เราทำด้วยซ้ำ ชั้นพยายามฝึกฝนฝีมือตัวเองต่อไปเพื่อพยายามเป็นตัวอย่างในฐานะผู้นำ แต่ไม่มีใครสนใจ แม้แต่เด็กฝึกงานในปราสาทโดยเฉลี่ยก็มีฝืมือไม่ได้ต่างจากช่างของเราด้วยซ้ำ  

 

 

Zoltan -  กลับมาอยู่กับเราเถอะ Blackthorne ทำให้คนในเมืองนี้มันดูว่า ผู้สร้างงานฝีมือจริงๆมันเป็นยังไง ชั้นจะคุมเครื่องเป่าลมให้เอง นั่นแปลว่าเราสามารถทำงานที่โรงตีเหล็กด้วยกันได้อีกครั้ง 

Blackthorne - มันเป็นข้อเสนอที่ดีมากๆ ดีเกินกว่าที่ชั้นควรได้รับเสียอีก และชั้นก็อยากจะรับนะ แต่ ชั้นต้องการที่อื่นมากกว่า ผู้คนที่นั่นฝากชีวิตไว้กับฝีมือการตีเหล็กของชั้น และชั้นก็ไม่กล้าทำให้พวกเขาผิดหวังด้วย 

Zoltan -  เฮ้ออ ก็แฟร์ดี 

Blackthorne - แต่ก็ไม่ได้แปลว่าชั้นจะแวะมาเยี่ยมบ่อยๆไม่ได้นี่ มาดูกันว่าเราจะสามารถจุดประกายความหลงไหลในงานฝีมือของเมืองนี้ได้อีกครั้งมั๊ย

 

 

Zoltan - แบบนี้ก็ได้ ชั้นชอบว่ะ 

Blackthorne - แล้วก็อย่าลืมบอกไอ้เจ้า Snotty อณุญาติให้ชั้นเข้าด้วยล่ะ?

Zoltan - ฮ่าๆ นายก็รู้จักมันดี มันให้นายเข้าอยู่แล้วล่ะ … Blackthorne ปรมาจารย์งานฝีมือกลายเป็นพวกนอกกฎหมายกำลังจะกลับมาช่วยเมืองของชั้น  รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเป็นล้นพ้นยังไม่รู้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีวันนี้ 

 

 

August - ชั้นว่าทุกอย่างจบลงด้วยดีแล้ว คุณว่าป่ะ?

Clive - ก็ดีกว่าที่ชั้นคิดไว้อ่ะนะ 

 

 

Zoltan - ซิด ผมมีบางอย่างจะให้คุณด้วย 

Clive - แล้วมันคือ ....?

Zoltan - สิ่งแทนคำขอบคุณ แต่ ผมตั้งใจจะให้มันเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่สำหรับคุณ การออกแบบดาบบางเล่มมันถูกส่งมาจากหัวหน้าจากรุ่นสู่รุ่น 

 

 

Blackthorne - เดี๋ยวก่อน Zoltan ดาบนั่น .. มันมีเหตุผลนะที่ยังไม่เคยมีใครตีดาบเล่มนั้นได้มาเป็นศตวรรษแล้ว ก็เพราะไม่มีช่างฝีมือคนไหนทัดเทียมกับงานนี้ได้ ชั้นยอมรับว่าถ่านขี้เถ้าของนายมันตีดาบได้โคตรดีเลย มันทำให้เรียนรู้การขัดเกลาขอบได้อย่างดีเลยล่ะ แต่การแกะสลักบนสิ่งนั้น มันจะทำให้ช่างอัญมณีร้องไห้เอาง่ายๆเลยนะ ไม่ใช่แค่แกล้งร้องด้วย 

Zoltan - นายคงลืมแล้วสินะว่านายนำเอาอะไรกลับมาที่ Dravozd ในตอนแรก ?  ชั้นรู้ว่าชั้นไม่สามารถเอาชนะนายด้วยค้อนหรือแหนบ ชั้นเลยหันไปหางานโลหะประเภทอื่น ระหว่างเราสอง ชั้นว่าเราก็ทัดเทียมกับปรมาจารย์ด้านงานฝีมือแล้วนะ 

Blackthorne - นายรู้มั๊ย ชั้นว่านายพูดถูกว่ะ ..ไคลฟ์จะว่าอะไรใหม่ถ้าจะให้ Zoltan ไปที่ hideaway ของเราด้วย ?

Clive - เต็มใจและยินดีต้อนรับเลยล่ะ ตราบใดทีเขาสาบานว่าจะเก็บมันเป็นความลับอ่ะนะ 

Blackthorne - โอเค เอาล่ะ Zoltan ไปเอาเครื่องมือมา เราไปสร้างตำนานกัน !!

 

 

 

Objective > เดินทางไปกลับไปยัง hideaway

 

 

 

Blackthorne - อ่า เขามาแล้ว 

Zoltan - เราจะได้เริ่มสร้างดาบที่เราสัญญากับคุณไว้กันซะที 

Blackthorne - ก็ตลกดีนะ แต่ ทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีนาย

 



Blackthorne - นายจำ Kamil ได้มั๊ย เราให้เขาหาหนังมาให้สำหรับทำที่จับดาบ ส่วนเหล็กที่ทำตัวดาบก็ถูกเผาด้วยเถ้าถ่านหินที่นายได้มาจาก Zoltan ก่อนหน้านี้ ส่วนใบมีดก็ลับด้วยที่ลับมีดที่ได้มาจากเกาะด้านนอก และสุดท้ายก็งานแกะสลักซึ่งเป็นผลงานชั้นเลิศของเพื่อนร่วมงานชั้น 

Zoltan - และความพยายามของทีมที่นำโดยช่างตีเหล็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ 

Blackthorne - เอาล่ะ เก็บคำกล่าวนั้นไว้จนกว่างานจะเสร็จก็แล้วกัน! ชั้นพร้อมแล้ว แล้วนายล่ะ?

Zoltan - เครื่องเป่าลมก็พร้อมเช่นกัน !! 

 

 

Blackthorne - อ่า พระเจ้า เราทำสำเร็จจริงๆด้วย 

Zoltan - ดาบที่ยุติดาบทั้งมวล ... Ragnarok 

Clive - มันเป็นอะไรที่ น่าประทับใจมาก 

 

 

Zoltan - และผมเชื่อว่าคุณจะดูแลมันอย่างดีที่สุด 

Clive - ขอบคุณมาก ทั้งคู่เลย 

August - นี่คงทำให้นายได้จับคู่สร้างผลงานกับช่างฝืมือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่จนสมใจนายแล้วสินะ? 

Blackthorne - เนี่ยหรอ? ไม่ๆ นี่คือการเดินตามรอยผลงานของช่างที่ยิ่งใหญ่ในอดีต มันคงต้องใช้เวลามากกว่านั้นในการสร้างผลงานชิ้นประวัติศาสตร์ของเราเอง และเราก็พร้อมแล้วสำหรับความท้าทายที่ว่านี้ ... เอานี่ 

Clive - อืมม ลิสต์รายชื่อวัตถุดิบงั้นหรอ?

Blackthorne - Zoltan กับชั้นพูดเรื่องนี้กันมาตลอดทางตอนที่มาที่นี่

 Zoltan - เราเชื่อว่า ด้วยวัตถุดิบพวกนี้เราสามารถสร้างดาบที่ดีกว่า Ragnarok ได้ ดาบที่คู่ควรกับ ผู้นอกกฎหมายในตำนานเช่นคุณ  

Clive - เริ่มจะอยากเห็นมันซะแล้วสิ งั้นขอลิสต์รายชื่อวัตถุดิบไว้กับผมล่ะกัน ผมจะลองตามหามันดู 

Blackthorne - ชั้นก็หวังว่านายจะพูดแบบนั้นอ่ะนะ 

August - งั้นก็ถือว่าเสร็จไปหนึ่งดาบในตำนานแล้วใช่ป่ะหนุ่มๆ? งั้นก่อนจะถึงตำนานเล่มต่อไปเราไปยกแก้วฉลองกันก่อนจะดีกว่ามั๊ย? แด่มิตรภาพที่กลับมาหลอมรวม !!

Blackthorne - เป็นความคิดที่ดีเหมือนกันนะ คราวนี้ไม่ต้องดื่มเพื่อลืมอดีตอีกแล้ว ถึงเวลาที่ชั้นจะมีอะไรให้ดื่มฉลองจริงๆซักที 

Zoltan - จากนั้นก็เตะถัง ฮ่าๆๆๆ เจ้าหนุ่มช่างตีเหล็กคนเดิมของชั้นกลับมาแล้วโว้ย !!!

 

 

เมื่อจบเควสนี้ ไคลฟ์จะสามารถตีดาบ Ragnarok กับ Blackthorne ได้ 

 

 

และได้แบบแปลนการสร้างดาบ Gotterdammerung ซึ่งถือว่าเป็น ดาบสุดยอดที่พลังโจมตีสูงที่สุดในเกมรอบแรก 

 

วัตถุดิบที่ต้องหาคือ

  1. ดาบ Ragnarok  ได้มาแล้ว ✅

 

 

  1. Orichalcum 3 อัน

ถ้าคุณตามล่า Notorious Mark Atlas และ Gorgimera แล้วตอนนี้ คุณจะได้มาแล้ว 2 อัน เหลืออีก 1 อันจะได้จาก รางวัลสำหรับการทำ Side Quest: Under New Management II. ที่จะปรากฎออกมาให้ทำใน Main Quest: Back to Their Origin 

 

 

  1. Darksteel 2 อัน 

-อันแรก ดอร์ปจาก  Notorious Mark: Usher to the Underworld (Thanatos) ซึ่งจะปรากฎใน Hunt board ใน Main Quest: Brotherhood.

-อันที่ 2 ดอร์ปจาก Notorious Mark: The Grim Reaper (Prince of Death) ซึ่งจะปรากฎใน Hunt board หลังจากทำ Side Quest: Under New Management II ใน Main Quest: Back to their Origin สำเร็จ

 

 

  1. Primitive Battlehorn 

-ดอร์ปจาก Notorious Mark: Gobermouch. ซึ่งจะปรากฎใน Hunt board ใน Main Quest : Brotherhood.

 

 

สรุปว่า จะยังไม่สามารถตีดาบ Gotterdammerung ได้จนกว่าจะถึง Main Quest: Back to Their Origin ซึ่งเป็นเควสหลักสุดท้ายก่อนถึงบอสใหญ่

 

               💼  Spacial Quest: Even Weirder Science 

 

วิศวกร Owain - อ่า ซิด หนึ่งเดียวคนนี้ที่ผมอยากจะเจอพอดี มีเวลาซักหน่อยมั๊ยครับ ?
Clive - อยากบอกนะว่าคุณต้องการ Bomb ash เพิ่มอีกน่ะ ..
วิศวกร Owain - โอ้ ไม่ๆ ไอ้นั่นเรามีเหลือมากพออยู่แล้วล่ะ ผมกำลังมีแผนจะทำให้อีกผลงานของหัวหน้ามีชีวิตขึ้นมาน่ะ คราวนี้ผมจะสร้าง เตาหลอมสำหรับถลุงแร่อันใหม่ มันจะมีฮู้ดที่มีเสียงก้องด้านบนสำหรับการระบายความร้อนและระบบรีไซเคิ่ลหมุนเวียน จรเจนเนอเรเตอร์ ที่จะ .... เอ่อ เอาเป็นว่ามันจะสามารถหลอมด้วยความร้อนที่มากกว่าเดิม ร้อนกว่าที่ Blackthorne ใช้ตีเหล็กในโรงเหล็กของเขาอีก จะเป็นรองก็แต่เครื่องยนต์ mythril ที่ร้อนกว่า แต่คุณไม่สามารถโยนแร่เข้าไปในนั้นให้มันออกมาเป็นโลหะได้ ปัญหาคือ เราไม่สามารถสร้างมันมาจากซากขยะเก่าๆทั่วไปได้ เราต้องการอะไรที่ดีกว่านั้น ผมได้ยินมาว่าคุณเคยช่วย Helena จัดการกับเรื่องนั้น ก็หวังว่าคุณจะช่วยผมด้วยเหมือนกันอ่ะนะ
Clive - ถ้ามันเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับ hideaway ผมก็เอาด้วยอยู่แล้ว แล้วไอ้ ของดี ที่ว่านี่คุณต้องการให้ผมไปหาอะไรมาให้?

 

วิศวกร Owain - ผมมีตัวอย่างอยู่ที่นี่นิดหน่อย เราเรียกมันว่า Spherical echoes 
Clive - วัตถุดิบของ Fallen สินะ งั้นเครื่องหลอมอันใหม่ก็คงทำงานคล้ายกับเครื่องยนต์ mythril 

 

วิศวกร Owain - ใช่แล้วครับ มันก็เหมือน Thermal helms ที่ทำจาหเซรามิคของพวก Fallen ซึ่งทนความร้อนได้ดีมากๆ แถมยังถ่ายเทความร้อนไปสู่ภายนอกได้ดีกว่าด้วย ถ้าเราเอามาแปะไว้ด้านนอกหม้อหลอมมันก็จะสะท้อนความร้อนกลับมาเข้ามาในเตาทันที ผมต้องการมันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้และผมรู้ว่าจะหามันได้จากที่ไหน ติดตรงที่มันมักจะมี ญาติๆตัวใหญ่ของมันคอยดูแลอยู่น่ะ
Clive -  สรุปว่า คุณจะให้ผมไปที่ซากปรักหักพังของพวก Fallen ทำลาย echoes ตัวสองตัวแล้วนำไอ้เจ้ากลมๆนี่มาจากพวกมัน ใช่มั๊ย? 
วิศวกร Owain - ถ้าโดยสรุปล่ะก็ใช่ครับ ประมาณนั้น มันมีอยู่ 3 สถานที่ที่ผมรู้ว่ามีมันอยู่แน่ๆ ในซากโบราณสถานที่เราเรียกว่า Lostplume , ที่ Silent sough ใน Dhalmekia แล้วก็ในซากโบราณสถานแห่ง Advent ในเขตจักรวรรดิ์ 
Clive -  โอเค ก็หวังว่าผมจะโชคดีเจอมันนะ 

 

 

Objective > เดินทางไปตามพิกัด 3 แห่ง 

◼ที่ Lostplume ทางเหนือของ Hawk’s Cry Cliff 
◼ที่ Silent sough ใน Krozjit Echoes 
◼ที่ ซากโบราณสถานแห่ง Advent ทางใต้ของ Northreach 

 

จัดการ echoes ในพื้นที่แล้วเก็บ Spherical echoes ของทั้ง 3 พื้นที่กลับมาให้ Owain

วิศวกร Owain - อ่า ซิด ไม่คิดว่าคุณจะกลับมาเร็วขนาดนี้ เป็นไง ข่าวดีหรือข่าวร้ายล่ะ?
Clive - ก็ต้องโชคดีอยู่แล้ว เอ้านี่ ...
วิศวกร Owain - โอ้ ใช่เลย นี่แหละๆ สุดยอดของโคตรสุดยอดเลยแบบนี้!  อดใจไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวผมขอตัวไปทำมันเลยก็แล้วกันนะ !!

 

วิศวกร Owain - เอาล่ะ ผมขอแนะนำให้รู้จักกับ เตาหลอม Talamon !! ไงล่ะไม่เลวใช่ป่ะ?
Clive - สวยงามมากเลย 
วิศวกร Owain - คุณได้ช่วยโรงถลุงของผมไว้ได้อีกครั้งแล้วซิด และผมจะไม่ปล่อยให้ความดีที่คุณทำให้สูญเปล่าไปโดยไม่มีผลตอบแทนแน่นอน 
Clive -  ไม่ต้องก็ได้ จริงๆนะ กระเป๋าของผมก็ยืดหยุ่นมากพอแล้วนะ 
วิศวกร Owain - อย่าพูดอย่างงั้นสิ ผมแน่ใจว่าจะปรับแต่งมันให้ดีขึ้นไปอีกได้แน่นอน 
Clive -   จริงๆคุณก็แค่ซื้ออันใหม่ใหญ่ๆให้ผมก็ได้นะ ...
วิศวกร Owain - แล้วตัวล็อคล่ะ มันดูแข็งไปหน่อยนะ ผมจะทำให้มันเปิดปิดสะดวกขึ้นและใส่ของได้มากขึ้นด้วย ผมรู้ดีว่าอัลลอยด์แบบใหม่มันทำงานยังไง เตาหลอม Talamon จะทำให้มันสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีก มันเป็นโลหะที่ทั้งสวยงามและแข็งแรง แต่มันก็แบบ ยืดขยายได้มากขึ้นด้วย คุณต้องไปเชื่อแน่เลย
Clive -   โลหะที่ยืดได้เนี่ยนะ? โอเค ถ้าคุณมั่นใจแบบนั้น 
วิศวกร Owain - รับรองว่าคุณจะรักมันเลยล่ะ ผมสัญญา รอแปบนะ เดี๋ยวทำให้เลย 


วิศวกร Owain - เอ้า เอาไปลองใส่ดู  เป็นไง ชอบมั๊ย?
Clive -  เยี่ยมไปเลย คุณนี่มันอัจฉริยะจริงๆเลยนะ ขอบคุณนะ Owain
วิศวกร Owain - ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า คุณสมควรได้รับมันอยู่แล้ว ผมจะลองฝึกใช้โลหะนี่ให้หลากหลายขึ้น มันจะทำประโยชน์ให้กับ hideaway มากๆ แต่ เอ่อ .... บางทีผมก็ยังคิดไม่ตกนะ คือตอนนี้มันยังคงเป็นงานของเราอยู่ใช่มั๊ย ไอ้การค้นหาวิธีใหม่ๆที่ทำให้ชีวิตที่นี่ง่ายขึ้นเนี่ย บางทีเราน่าจะเอาไปเผยแพร่กับคนด้านนอกด้วย วันนึงคนทั้งโลกจะได้เห็นและรู้จักเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐทั้งหมดที่คุณรวบรวมไว้ เริ่มจากกระเป๋านั่นก่อนเลย จำคำผมไว้ได้เลยครับ 
Clive -   พวกเขาจะไม่เชื่อสายตาตัวเองแน่นอน ผมมั่นใจ

หลังจบเควส ไคลฟ์จะได้รับ Expanded Potion Satchel ซึ่งเป็นกระเป๋าขยายแบบใหม่ที่จะช่วยเพิ่มความจุและเพิ่มจำนวนการเก็บโพชั่นและไอเทมติดตัวได้มากขึ้น 



                                  📪 Missives Quest 

 

                       📜  SideQuest: Self-Determination 

 

เรื่อง กัปตัน Dorys

ผมและ Cursebreakers คนอื่นๆเริ่มกังวลกับคุณภาพชีวิตของกัปตันของเรา แม้มันจะไม่ได้เกิดขึ้นอย่างชัดเจนแต่กัปตันก็ปฎิเสธการช่วยเหลืออยู่ตลอด ถ้าคุณพอจะมีเวลาหรือไม่ลำบากอะไรก็ช่วยไปคุยกับกัปตันให้หน่อย ดูว่าเธอกำลังมีปัญหาอะไรที่อาจต้องการความช่วยเหลือ

จาก Cold 

 

 

Clive - อืมม ก็ไม่รู้ว่า Dorys จะยอมเล่าให้ชั้นฟังมั๊ย แต่ลองไปคุยดูหน่อยก็คงไม่เสียหลายอะไร 

Clive -   Dorys อยู่ไหนนะ ปกติเคยอยู่แถวนี้ตลอด
Cherin - มีอะไรให้ช่วยรึเปล่า Cid ?

Clive -  ผมมาตามหา Dorys เธออยู่ที่นี่มั๊ย?
Cherin - เกรงว่าน่าจะไม่อยู่นะครับ ล่าสุดเธอออกไปธุระที่ Martha’s Rest ยังไม่กลับมาเลย อันที่จริง ก็งานของผมนั่นแหละ พอเธอรู้เกี่ยวกับภารกิจนี้ก็อาสาไปทำแทนผมเลย แถมไปคนเดียวด้วย 
Clive - งั้นหรอ? แล้วรู้มั๊ยว่าเป็นภารกิจเกี่ยวกับอะไร?
Cherin - ติดตามค้นหาข้อมูข่าวสารใหม่ๆน่ะครับ เกี่ยวกับพวก Bearers ที่คุณเคยช่วยเอาไว้ที่ Dragon’s Aery แต่หลังจากที่พวกเขากลับถิ่นฐานเดิมแล้วก็มีข่าวว่าพวกเขาถูกจับอีกรอบ กัปตันเลยพยายามจะเข้าไปขอพูดคุยกับคนที่จับพวกนั้นไป 
Clive - น่าจะเป็นเคสเดียวกับที่ทีมช่วยเหลือและปลดปล่อยทาสของ โคล กำลังติดตามอยู่หลังรู้ข่าวว่าพวกเขาถูกโจมตี ผมจะไปตามหาเธอเอง ที่ Martha’s Rest ใช่มั๊ย?
Cherin - ใช่ครับ ถ้าเธอยังไม่ไปไหนอ่ะนะ ยังไงก็ขอทุกอย่างโอเคนะครับ
Clive - ทำไมเธอถึงออกไปทำงานคนเดียวนะ ไม่แปลกหรอกที่โคลเป็นห่วง

 

Objective > เดินทางไปที่ Martha’s Rest



????? - ยินดีอย่างยิ่งเลยล่ะ Dorys เหมือนกับวันเก่าๆนั่นแหละ 
Dorys - ลองเอาข้อเสนอของชั้นไปคิดดูก็แล้วกัน 

 

Clive - กำลังสืบสวนอะไรอยู่งั้นหรอ?
Dorys - อ้าว ซิด มาทำอะไรที่ Martha’s Rest เนี่ย?
Clive - คุณไง ผมได้ยินว่าคุณออกมาทำงานที่นี่คนเดียว เพื่อตามหาทาสของเรา และผมเชื่อว่าคุณจะทำแบบรอบคอบ ใช่มั๊ย?
Dorys - แน่นอนสิคะ และต้องเป็นชั้นคนเดียวเท่านั้นด้วย Bearers ที่ Dragon’s Aery ยืนยันขอสงสัยที่ชั้นตามมาตลอด ว่าพวกค้าทาสที่เรากำลังตามอยู่เป็นคนที่ชั้นรู้จัก และนางไม่ใช่คนโง่ด้วย ถ้าเราทำอะไรโดยไม่รอบคอบ นางจะรู้ตัวและจะหายเข้ากลีบเมฆโดยที่เราตามตัวไม่เจออีก
Clive - ซึ่งก็คือผู้หญิงคนเมื่อกี้สินะ เคยรู้จักกันมาก่อนงั้นหรอ?
Dorys - จะว่างั้นก็ได้ นางกำลังรับชั้นเข้าทีมของเธอ ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะปิดจ๊อบที่ Rosaria แล้วและกำลังจะพาตัว Bearers ที่เธอจับมาทั้งหมดไปขายที่ Sanbreque หลังจากที่เธอเจอพวกมอนสเตอร์ระหว่างทางไป Northreach เธอก็เลยจะจ้างทหารรับจ้างมาคุ้มกันขบวนของเธอ ซึ่งเธออยากให้ชั้นร่วมงานด้วย เธอเป็นคนอันตราย ซิด แต่ชั้นมั่นใจว่าหยุดเธอได้แน่นอน 
Clive - งั้นผมไปด้วย ผมจัดการพวกคนคุ้มกันส่วนคุณช่วย Bearers ให้ปลอดภัย ตกลงเธออยู่ที่ไหน?
Dorys - Baum Arches แต่ไม่นานมันก็คงจะย้ายแค้มป์ไปแล้ว คุณล่วงหน้าไปก่อนเลย ชั้นส่งข่าวไปที่ hideaway เสร็จจะรีบตามไป 

 

Objective > เดินทางไปที่ Baum Arches ทางขวาของเมืองท่าเรือ Auldhyl 

 

 

Clive - โชคดี พวกมันยังไม่ย้ายแค้มป์ไปไหน ...แล้ว Dorys มารู้จักกับพวกค้าทาสนี้ได้ยังไงนะ สงสัยอยู่เหมือนกัน .... ?

 

คนค้าทาส - เอาล่ะ เรารอมานานมาพอแล้ว นางไม่มาแล้วล่ะ เตรียมทาสให้พร้อม เราจะออกเดินทางเดี๋ยวนี้ !!
ทหารจักรวรรดิ - เราจะกลับเข้าเมืองหลวงกันแล้วใช่มั๊ยครับ คุณผู้หญิง?
คนค้าทาส - อย่างเร็วที่สุดด้วย ก่อนที่ชั้นจะเริ่มเบื่อเวลาพวกนายเริ่มถามคำถามไร้สาระพวกนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เตรียมคนของนายพร้อมรึยัง? เราช้ามากแล้ว ถ้าชั้นไปไม่ทันเวลาชั้นจะหักค่าจ้างพวกนาย
ทหารจักรวรรดิ- ครับ คุณผู้หญิง
คนค้าทาส - อ่อ แล้วก็ ก่อนจะไป จัดการแขกไม่ได้รับเชิญให้หน่อย ฆ่ามันซะ!

 

                          กำจัด ทหารจักรวรรดิให้หมด 

 

 

Clive - นั่นมากพอแล้วหรอสำหรับการคุ้มกันของคุณน่ะ 
คนค้าทาส -อืมม ยังไงก็ยกโทษให้ความไม่ได้เรื่องของคนของชั้นด้วยก็แล้วกันชั้นเองก็ไม่ใช่นักดาบในแบบที่เคยเป็นอีกแล้วด้วย เอาเป็นว่า ชั้นยอมแพ้ก็แล้วกัน อยากจะทำอะไรก็เชิญ Cid the Outlaw 

 

Dorys - Cid !!
คนค้าทาส - อ่า Dorys ก็ว่าอยู่หายไปไหน เข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงมาช่วยเราที่นี่ ทรยศงั้นหรอ? มาอยู่กับพวกนอกกฎหมายนี่เอง
Dorys - เราสู้เพื่อเจตจำนงของเราเอง ก็ยังดีกว่าฆ่าเพื่อเงินแบบคุณ !! โทษทีนะซิด ชั้นควรก็ว่าจะบอกคุณนานแล้ว ...ผู้หญิงคนนี้คือ อดีตอาจารย์ของชั้นเอง นางจับ Bearers เด็กๆมาฝึกให้กลายเป็นอาวุธเพื่อให้บริการกับคนที่ให้ราคาสูงสุด! นางเลี้ยงดูชั้นเหมือนลูกสาว และชั้นก็ทำเรื่องเลวทรามเพื่อแลกกับความโปรดปรานของเธอ 

 

คนค้าทาส - มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นซะหน่อย เราสนุกด้วยกันจะตายไป เธอมีความกระตือรือล้นที่จะเรียนรู้อยู่เสมอ ฉลาดและมากฝีมือ ลูกคนอื่นๆของชั้นทุกคน ไม่ดาบก็หนังสือ เป็นเช่นนี้เสมอ แต่เธอแสดงให้เห็นแล้วว่า เป็นหนึ่งทั้งสองด้าน เพราะงั้นชั้นถึงเก็บเธอไว้ข้างกายยังไงล่ะ แล้วตอนนี้เอาไงดี แม่กริซน้อยของชั้น สาบานว่าจะกวัดแกว่งดาบเพื่อชั้นอีกครั้งมั๊ย?

 

Dorys - ชั้นไม่เคยสาบานว่าจะกวัดแกว่งดาบเพื่อคุณ ไม่เคยและไม่มีวัน ชั้นตอนสู้เพื่อเจตจำนงที่สูงกว่า เพื่อปลดปล่อย Bearers ทุกคนบนโลกใบนี้ ลาก่อน อาจารย์ และขอบคุณที่สร้างชั้นให้เป็นอาวุธอย่างที่ชั้นเป็นในวันนี้ 

 

คนค้าทาส - เธอยังเป็นคนรักความชอบธรรมเหมือนตอนยังเด็กไม่เปลี่ยนจริงๆ เพราะงั้นชั้นถึงรักเธอมากยังไงล่ะ 

 

Clive - แล้วคุณจะเอาไงกับนางต่อล่ะ?
Dorys - ชั้นจะไม่เป็นนักฆ่า อย่างที่เธออยากให้ชั้นเป็นอีกแล้ว ไม่อีกแล้ว และเธอจะไม่มีเพื่อนหรือคอนเน็กชั่นกับชนชั้นสูงในราชสำนักอีกต่อไป เรื่องนี้ The Dame จัดการให้เรียบร้อยแล้ว 
Clive - เอางั้นก็ได้ ถ้าคุณต้องการแบบนั้นอ่ะนะ
Dorys - อืมม และก็ขอบคุณคุณมาก กับทุกๆอย่าง ตอนนี้ชั้นขอตัวพา Bearers พวกนี้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อนนะ 

 

  Clive - ชั้นควรกลับไปบอกเรื่องนี้กับ Cole เขาจะได้สบายใจขึ้น 

 

 

Objective > เดินทางไปกลับไปยัง hideaway

 

 

Cole - ขอต้อนรับกลับบ้านนะซิด Dorys ส่งข่าวมาบอกว่าคุณช่วยพวก Bearers ที่กำลังถูกจับข้ามพรมแดนไปขาย   
Clive - และถ้าโชคดีพวกเขาก็จะมาอยู่กับเราที่นี่เร็วๆนี้แหละ อ่อ แล้วก็ตามที่คุณบอกในจดหมาย คุณไม่ต้องห่วง Dorys อีกแล้วนะ เ
Cole - ก็หวังแบบนั้นเหมือนกันครับ แต่เธอก็บอกเรื่องของเธอเอาไว้นิดหน่อยในรายงานบ้างแล้ว พวกค้าทาสที่เราตามตลอดทั้งเดือนเป็นอดีตอาจารย์ของเธอนี่เอง ผมเองก็เพิ่งจะรู้ แล้วก็ตอนนี้นางก็ถูกจับระหว่างเข้าไปที่ Sanbreque นางคงไม่ได้ออกมาเห็นตะวันอีกนาน จักรวรรดิอาจไม่ชอบ Bearers แต่พวกเขาไม่ชอบพวกค้าทาสมากกว่า เราควรจะปิดเอาไว้หรือบอก Dorys ดีครับ ? 
Clive - มันคงไม่ง่ายนักสำหรับ Dorys หรอก แต่ไม่ต้องห่วง ชั้นมั่นใจว่าเธอจะไม่เป็นอะไรหรอก  
Cole - ผมก็ว่างั้น บางทีคุณอาจจะรู้ดี คุณเองก็มีอดีตมากมายก่อนจะมาอยู่ที่นี่เหมือนกัน ผมเข้าใจครับ ยังไงก็ขอบคุณนะซิด พวกเรา Cursebreakers คงจะไปไม่ถูกถ้าไม่มี Dorys และ แน่นอน คุณด้วย 

 

 

                          📢   Alliant Reports Quest 

◼SideQuest: Under New Management ที่ Northreach
◼SideQuest: Rekindling the Flames II ที่ Martha’s Rest
◼SideQuest: Lines in the Sand ที่ The Dalimil Inn
◼SideQuest: Trading Places II ที่ The Boklad Markets
◼SideQuest: Duty Undying ที่ Tabor 

 

                📗  SideQuest: Under New Management 

 

            Objective > เดินทางมาที่ ที่ Northreach

 

 

Isabelle - โอ้ ไคลฟ์ นี่ชั้นจะทำยังไงดี ? ชั้นกับคนของชั้นกำลังจะไม่มีบ้านจะอยู่แล้ว
Clive - เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?
Isabelle - มีหัวหน้าพระราชาคณะมาจากเมืองหลวงกำลังจะมาอยู่ที่นี่ 
Clive -พระราชาคณะหรอ?
Isabelle - เป็นถึงประธานสภาสูงอาวุโสหัวหน้ารัฐบาลของจักรวรรดิ เป็นรองก็แต่พระราชาเท่านั้น ดำรงตำแหน่ง ดยุคแห่งออริเฟลม 
Clive - แล้วเขาต้องการอะไรจาก Northreach งั้นหรอ?
Isabelle - เขาตั้งใจจะเปลี่ยนที่นี่เป็นฐานทัพของทหารจักรวรรดิเพื่อเป็นรากฐานในการสร้าง Sanbreque ใหม่ เขาได้รับการสนับสนุนจากกองทัพที่เหลืออยู่ของจักรวรรดิ โดยสัญญาว่าเขาจะได้ความเคารพในอณาจักรใหม่ซึ่งสร้างขึ้นจากการยึดครองทรัพย์สินของประชาชน 
Clive - เขาตั้งใจจะปล้นประชาชนมาใช้ในการสร้างอณาจักรใหม่เลยงั้นหรอ?
Isabelle - เชื่อชั้นเถอะ ชั้นได้พยายามทุกๆอย่างแล้วเพื่อทำให้เขาหยุดทำเรื่องโง่ๆนี้ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงเขาก็ไม่ฟังชั้นเลย 
Clive - แล้วกัปตัน Philippe ว่ายังไงบ้าง? ตอนเมืองถูกโจมตี เขาก็เป็นคนนำทหารมารวมตัวกันได้อีกครั้ง เขาจะไม่สามารถต่อรองอะไรได้เลยหรอ?

Isabelle - จะให้เขาทำยังไง ต่อรองกับผู้มีอำนาจสูงสุดของ Sanbreque ในตอนนี้อ่ะนะ? แถมยังเป็นคนที่มีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูอณาจักร ที่ทหารจักรวรรดิคนของฟิลิปป์ส่วนใหญ่ก็ขึ้นตรงกับเขาอยู่ แม้ทหารส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ กัปตัน Philippe ช่วยเหลือมาตลอด แต่ก็แค่ให้ได้อยู่รอดไปวันๆ แต่ดยุคจะคืนความแข็งแกร่งและความปลอดภัยให้เขา ยิ่งในสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ ต่อให้ กัปตัน Philippe จะปลุกปั่นทำให้เกิดการต่อต้านยังไงก็ไม่มีทางที่พวกทหารจะยอมทำตามง่ายๆแน่นอน แถมประชาชนก็มีไม่มากความกระหายที่จะลุกฮืออะไรก็แทบจะไม่มีทาง
Clive - เราจะไปโทษพวกเขาก็ไม่ได้ซะด้วย ...

Isabelle - ไคลฟ์ คุณจะช่วยไปคุยกับดยุคเรื่องความไม่เห็นด้วยของชั้นหน่อยได้มั๊ย? ในฐานะที่คุณช่วยที่นี่มาตลอด พวกทหารน่าจะเคารพให้เกรียติคุณอยู่ ลองไปคุยกับเขาพวกเขาจะพาไปหาดยุคเอง คุณไม่เกี่ยวข้องกับความภัคดีใดๆกับพวกเขาน่าจะพูดได้เต็มปากกว่า กัปตัน Philippe คุณจะลองดูหน่อยมั๊ย ชั้นว่า ตอนนี้ไม่มีใครจะเหมาะไปกว่าคุณอีกแล้วล่ะ 
Clive - ผมจะลองดู แล้วผมจะหาตัว ดยุคแห่งออริเฟลม นี่ได้ที่ไหน ? …กองทหารรักษาการณ์สินะ ?
Isabelle - ใช่ค่ะ ตอนนี้เขาเป็นคนคุมกองทหารแล้ว 

                          Stern - โว่ๆๆๆ หยุดเลยๆๆ  ... 

Stern - โว่ๆๆๆ หยุดเลยๆๆ  ... โอ่ โทษทีผมจำไม่ได้ คุณคือคนของ Tha Dame ใช่มั๊ย? มีธุระอะไรกับกัปตันงั้นหรอครับ?
Clive - จริงๆแล้วผมมาขอคุยกับดยุคน่ะ ว่าจะขอเข้าไปคุยอะไรหน่อย
Stern - คือเราได้รับคำสั่งไม่ให้ชาวบ้านผ่านเข้าไปในตอนนี้อ่ะนะ แต่คุณน่าจะไม่เป็นไร เพราะท่านดยุคก็พอรู้เรื่องที่คุณช่วยเมืองเอาไว้อยู่  รอนี่นะเดี๋ยวผมไปบอกท่านให้ 

 

ดยุคแห่งออริเฟลม - ไง คุณคือคนที่เคยช่วยเมืองนี้และกองทหารักษาการณ์ของเราเอาไว้ จักรวรรดิเป็นหนี้คุณนะ ผมจะตอบแทนอะไรคุณได้บ้างล่ะ?
Clive - ผมแค่อยากจะมาสอบถามเกี่ยวกับแผนที่จะเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นฐานทัพของคุณหน่อย 
ดยุคแห่งออริเฟลม - อ่อ เรื่องนั้นน่ะหรอ คุณคงกังวลว่าเมื่อกองทัพเริ่มเติบโตมากขึ้นอาจจะส่งผลกับการทำงานของคุณสินะ คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก นักดาบฝีมือดีๆแบบคุณมีที่ให้อยู่เสมอนั่นแหละ จริงๆมันคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับ สถานที่ที่เหมาะสมในการโชว์ผลงาน เรื่องนั้นผมรู้ แต่ นานแล้วสำหรับที่นี่ที่ทหารผู้สูงศักดิ์ขาดการมีส่วนร่วมและถูกละเลย แต่จะไม่มีอีกแล้ว ทุกคนที่เห็นด้วยว่าจะสร้าง Sanbreque ขึ้นมาใหม่ตกลงกันว่า จะเริ่มต้นจากที่นี่ ใน Northreach
Clive - ทำไมต้องเป็นที่นี่ด้วยครับ?

ดยุคแห่งออริเฟลม - เมืองนี้โชคดีจากปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้โดยไม่ได้รับความเสียหายใดๆเลย แถมกองทหารที่เหลืออยู่ก็เพียบพร้อมเป็นอย่างดี ซึ่งเกินว่า Oriflamme หรือ Twinside ในตอนนี้มากมายนัก จักรวรรดิต้องการเมืองหลวง และชั้นเชื่อว่า Northreach เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดแล้ว โดยมี Caer Norvent เป็นป้อมปราการหลัก เป็นการประสานกันระหว่างเมืองหลวงและป้อมปราการป้องกันเมืองได้เป็นอย่างดีมากๆ เราต้องการแค่กำแพงขนาดใหญ่โอบล้อมป้อมกับเมืองไว้ด้วยกันเท่านั้น รับรองว่าแม้แต่ Twinside ก็ยังต้องอิจฉา 

ดยุคแห่งออริเฟลม - ตอนนี้แผนอยู่ในระหว่างเตรียมการก่อสร้างแล้ว อีกไม่นาน พวกทาสรับใช้พวกนั้น จะได้เรียนรู้ว่าพวกมันเทียบไม่ได้กับพลังของ Sanbreque ใหม่ของเรา!! 

Clive -ผมเกรงว่า คุณไม่ควรดูถูกพวกมันถ้าไม่รู้จักพวกมันดีจะดีกว่านะครับ ถ้าหากพวกมันกลับมาโจมตีอีกรอบคุณต้องให้ผู้คนใน Northreach ทุกคนรวมตัวกันสู้เพื่อปกป้องเมือง ซึ่งพวกเขาอาจจะไม่อยากที่จะทำเพราะพวกเขากลัวว่าจะสูญเสียสมบัติทางโลกของพวกเขา  

ดยุคแห่งออริเฟลม - ยังไงประชาชนก็ต้องทำตามคำสั่งผู้นำอยู่แล้วล่ะน่า หาก Sanbreque ถูกบรูณะขึ้นมาใหม่สำเร็จ เมืองก็ต้องมีรัฐบาลใหม่เข้ามาทำหน้าที่ ใครจะกล้าขัดขืน ด้วยเหตุนี้ การเก็บภาษีจึงเป็นสิ่งจำเป็น หรือใครก็ตามที่ประสงค์จะร่วมกองทัพก็สามารถทำได้ ซึ่งก็จะได้รับอาหาร เครื่องแต่งกายและค่าจ้างที่เหมาะสมสำหรับผู้พิทักษจักรวรรดิ์ แต่ก็ยังไม่วายมีพวกที่ชอบปล่อยข่าวเท็จโกหกประชาชนว่าผมจะยึดทรัพย์สินและไล่พวกเขาออกจากบ้าน
Clive - ผมคิดว่า พวกเขาคงกลัวที่จะสูญเสียสิ่งที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของพวกเขาไป

 

Sabine - ถูกต้อง !!  ตอนนี้ชาวบ้านธรรมดาๆก็แทบจะไม่มีเหลือแล้วด้วยซ้ำ แต่คุณก็พยายามตอกย้ำเรื่องนี้เข้าไปอีก คุณกำลังหว่านเมล็ดของอณาจักรใหม่ลงบนประชาชนที่มีค่าของคุณเอง!

ดยุคแห่งออริเฟลม - ซาบีน เราคุยเรื่องนี้กันแล้วไม่ใช่หรอ??
Sabine - ใช่ แล้วชั้นก็บอกกับคุณไปแล้วว่า การที่ผลักดันให้จักรวรรดิ์เผชิญหน้ากับประชนชนจะนำไปสู่การจราจล !!
ดยุคแห่งออริเฟลม - แต่ถ้าไม่มีจักรวรรดิก็ไม่มีประชาชนนะ !!
Sabine - และในมุมของคุณ พวกเขาก็เป็นได้แค่ ขอทาน !! นั่นเป็นสิ่งที่ Greagor ต้องการให้ผู้คนของเธอเป็นงั้นหรอ!???
ดยุคแห่งออริเฟลม -  อย่าอ้างพระนามนั่นให้เสื่อมเสีย ซาบีน !!

Clive - เอาเป็นว่า เดี๋ยวค่อยมาใหม่ดีกว่า ... อืมม การจารจลของประชาชนงั้นหรอ? ชักจะอยากรู้แล้วว่า จริงๆแล้วพวกชาวบ้านคิดยังไงเกี่ยวกับแผนของดยุค คงต้องลองไปถามพวกเขาดูซะหน่อยแล้ว 

Alemongers - อ่า คุณมองหาอะไรอยู่หรอครับ?
Clive - ผมแค่อยากจะถามความเห็นอะไรหน่อยน่ะ อยากรู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับ ดยุคแห่งออริเฟลม บ้าง?
Alemongers - อืมม ผมก็ไม่ค่อยอะไรหรอกนะ พวกพ่อค้านอกกำแพงอย่างเราๆก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็ต้องขอบคุณพวกขุนนางที่ให้เรามาตั้งร้านนอกกำแพงเมืองแต่แรก เห็นเขาว่าจะไม่อนุญาตให้คนเข้าไปในเมืองนั้นได้แบบเมื่อก่อนแล้ว และตอนนี้พวกเขากำลังจะไล่พวกเราไปโดยขู่ว่าจะยึดของทั้งหมดถ้าเราไม่ไป ถ้า The Dame บอกมาคำเดียวว่า ไม่ต้องการให้พวกนั้นอยู่ในเมือง ถังน้ำมันในมือผมพร้อมลั่นทันทีบอกเลย 

Clive - ผมได้ยินเกี่ยวกับดยุคคนนึงที่เพิ่งมาอยู่ที่นี่ เขาเป็นยังไงบ้างหรอครับ?
สาวใช้ในโรงแรม - เขาทำเหมือนที่นี่เป็นของเขางั้นแหละ แถมจะทำอะไรก็ไม่เคยเอ่ยขอกับทาง The Dame เลยทั้งๆที่เมืองนี้เป็นเมืองของเธอแท้ๆ 
Clive - งั้นก็แสดงว่าคุณอยากให้เธอดูแลเมืองมากกว่าสินะ 
สาวใช้ในโรงแรม - และเท่าที่ชั้นเขาใจ เธอก็ยังเป็นอยู่ไม่ใช่หรอ เหลือแค่ต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อให้ ดยุค นั่นไสหัวกลับไปที่ออริเฟลมซะที 

Clive - โทษทีครับ อยากจะถามอะไรหน่อยถ้าคุณไม่ว่าอะไร คุณคิดยังไงกับ ดยุคแห่งออริเฟลม บ้างครับ 
คนเลี้ยงโจโคโบะ - เฮ้ออ อย่าให้ผมเริ่มเลยครับ ไม่อยากจะพูด เหมือนคุณสร้างอะไรขึ้นมาให้กับตัวคุณเองที่ไหนซักแห่งเพียงเพื่อให้พวกขุนนางมาบอกคุณว่าให้มอบทุกอย่างที่คุณสร้างมาให้พวกเขา ถ้าเขาคิดว่าตำแหน่งของเขาและโซ่ของเขาใช้อ้างสิทธิ์ในการล้วงกระเป๋าของเราได้ เขาก็กำลังทำให้ความรุนแรงเริ่มตื่นตัวขึ้นมา เพราะเราก็พร้อมที่จะลุกขึ้นมาปกป้องสิ่งที่เป็นของเราเหมือนกัน !!

Clive - โทษนะครับ อยากจะถามอะไรเกี่ยวกับ ดยุคแห่งออริเฟลม หน่อยว่าคุณคิดยังไงกับเขาบ้าง?
ชาวเมือง - ก็นะ ผมว่าเขาสร้างศัตรูมากมายระหว่างเส้นทางที่เขาเดิน ผมหมายถึง คุณลองมองดูรอบๆตัวสิคุณจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอณาจักรดี พวกพ่อค้า พวกเขาอาจไม่ชอบยุ่งกับอะไรที่มันวุ่นวาย แต่ถ้ามันทำให้พวกเขาต้องเสียรายได้ที่เขาหามา อันนี้ก็ไม่แน่ ยิ่งถ้า ดยุค นั้นบอกว่าจะสร้างอณาจักรใหม่ขึ้นมา ผมแน่ใจเลยว่าทุกคนต้องลุกขึ้นมาต่อต้าน ต่อให้คนที่ไม่รู้เลยว่าอันไหนปลายดาบอันไหนด้ามดาบก็คงต้องหาทางที่จะสู้เหมือนกัน 

 

Cynical - อ่า คุณ คนที่เพิ่งไปคุยกับท่านดยุคเมื่อกี้นี่ 
Clive - ในนามของ The Dame ใช่ครับ ผมพยายามเกลี้ยกล่อมเขาไม่ให้เอาความต้องการของประชาชนมาเป็นของเล่น และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ฟังเอาซะด้วย คุณพอจะรู้เรื่องแผนของเขารึเปล่า?
Cynical - ชั้นเป็นแค่ทหารนะเพื่อน เขาบอกให้ทำอะไรก็ต้องทำอ่ะนะ ฟังนะ ชั้นก็ยังเคารพ The Dame เหมือนเดิมแต่ชั้นก็มีครอบครัวที่ต้องดูแลเหมือนกัน นั่นคือความภัคดีที่แท้จริงของชั้นที่ไม่ใช่เพื่อจักรวรรดิ์ แต่เพื่อภรรยากับลูกๆของชั้นต่างหาก ซึ่งถ้าดยุคมีเครื่องมือที่จะต่อกรกับไอ้พวกตาสีฟ้านั่นได้ ชั้นก็ไม่สนหรอกว่าเขาจะเป็นยังไง 

Clive - ผมได้ยินมาว่า ดยุคแห่งออริเฟลม กำลังจะเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นฐานทัพของทหาร คุณคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีหรือเปล่าครับ?
ทหารจักรวรรดิ - มันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะพูดอะไรได้หรอกนะ ที่ผมรู้ก็คือพระราชดำรัสขององค์จักรพรรพดิ์คือกฎหมายเว้นเสียแต่ว่าจะสั่งเป็นอย่างอื่น ดูนะ ไม่มีใครชอบภาษี หรือ ค่าธรรมเนียม หรอก แต่จักรวรรดิไม่ได้มาฟรีๆ เพราะเมื่อ Sanbreque ฟื้นคืนมาได้อีกครั้งทุกคนก็จะได้ผลประโยชน์ร่วมกัน 

Clive - กัปตันครับ พอจะมีเวลาซักเดี๋ยวมั๊ย?  
Philippe - สำหรับนายน่ะหรอ? มีแน่นอน ไคลฟ์ใช่มั๊ย? ขอบคุณในความช่วยเหลือในครั้งที่ผ่านมาด้วยนะ ว่าแต่ มีอะไรให้ผมช่วยงั้นหรอ?
Clive - ผมอยากจะถามคุณเรื่อง ดยุคแห่งออริเฟลม คุณจะเข้าร่วมกับแผนของเขาจริงๆหรอครับ?
Philippe - ถ้าจะให้พูดตรงๆ ผมก็ยังสองจิตสองใจอยู่นะ ทำหน้าที่ในฐานะทหารของกองทัพจักรวรรดิซึ่งทำให้ต้องทำตามคำสั่งของเขา แต่ ผมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับเขาทั้งหมด 
Clive - Philippe  ผมเคยได้ยินคุณเคยพูดว่า คุณมาเป็นทหารเพื่อปกป้องผู้คนที่คุณรัก รวมทั้ง the Dame ด้วย 
Philippe - ใช่แล้ว ผมพูดเองนั่นแหละ 
Clive - the Dame เธอก็ไม่เห็นด้วยกับ ดยุค เหมือนกัน เธอห่วงว่าพวกเขาจะฉีก Northreach ออกเป็นเสี่ยงๆ
Philippe - และเธอก็คิดถูกด้วย ขอบคุณนะ ไคลฟ์ ผมรู้แล้วว่าผมควรจะทำยังไง ปกป้องผู้คนที่ผมรักคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็แล้วแต่ เอาล่ะ หน้าที่เรียกร้องแล้ว ผมคงต้องไปก่อนนะ ขอบคุณอีกครั้ง ที่ทำให้คิดได้นะ

Isabelle - อ่า ไคลฟ์ เป็นยังไงบ้าง? คุณพูดกับดยุคนั่นรึยัง?
Clive - พูดแล้วครับ เรื่องเป็นแบบนี้ ............................
Isabelle - ยังไงเขาก็จะเอา Northreach เป็นฐานทัพทหารสินะ แล้วชั้นจะต้องปลอบใจชาวเมืองยังไงที่ข้าวของต้องถูกริบไปเพื่อการนั้น พวกเขาควรได้รับรู้เรื่องที่ดยุคจะสร้างอณาจักรใหม่ด้วย 

Clive - น่าเศร้าที่ดยุคนั่นให้ความสำคัญของ ความเชื่อฟัง มากกว่าต้องการฟังความเห็นของทุกคน โดยยืนยัน อำนาจรัฐ เป็นประเด็นหลัก ผมเกรงว่าประชาชนจะกลายเป็นแค่เบี้ยของหมากรุกที่ต้องเสียสละเพื่อสิ่งที่ดีกว่า โดยไม่สนว่าพวกเขามีความคิดที่แตกต่างออกไป พวกเขาอยากให้ชะตากรรมของเขาอยู่ในมือคุณมากกว่า ส่วนพวกทหารก็แค่ทำตามคำสั่ง บางคนก็ไม่เห็นด้วย ส่วนพวกที่เห็นด้วยก็เพราะวิสัยทัศน์ของดลุยมากกว่าตำแหน่งของเขา 

Isabelle - ชั้นเองก็คิดมากอยู่เหมือนกันนะ ถ้าชั้นสาบานว่าจะปกป้อง Sanbreque ชั้นก็คงกล้าพูดได้ว่า ชั้นไม่ต้องการอะไรอีกแล้วนอกจากเห็นมันคืนมาจากเถ้าถ่านเหมือนกัน ยังไงก็ขอบคุณนะที่คุณพยายามช่วย แต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ 

Philippe - ใครว่าแพ้? 
Clive - เครื่องแบบคุณล่ะ?
Philippe - ส่งคืนไปพร้อมกับใบลาออกของผมแล้วล่ะ

Philippe - ผมบอกคนของผมแล้วว่า ขออวยพรให้พวกเขาโชคดี ส่วนผมคงจะเลิกทำอะไรก็ตามที่กำลังทำอยู่และทำในสิ่งที่ควรทำ
Isabelle - แต่ ทำไม่ล่ะคะ?
Philippe - เพราะผมรู้แล้วว่า อะไรที่สำคัญที่สุดสำหรับผม ไง เลิกทำตามคำสั่งขุนนางแก่ๆ และหันมาปกป้องผู้คนที่ผมห่วงใย ..ปกป้อง Northreach ผมไม่รู้หรอกว่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นมันจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ แต่ผมมั่นใจว่ามันยังไม่หยุดยุ่งกับเราแน่นอน และถ้ามันกลับมาเราก็ต้องพร้อมที่จะรับมือพวกมัน เราต้องร่วมมือร่วมใจกัน พวกเราทุกคน ด้วยการนำของคุณ คุณผู้หญิงของผม ผมเชื่อว่าเราทำได้แน่นอน นั่นเป็นเพราะคุณที่ช่วยโน้มน้าวผม ไคลฟ์ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้าจะปฎิบัติตามคำสั่งหากคำสั่งนั้นขัดกับความเชื่อของตน 
Clive - ถูกต้องที่สุด 

Isabelle - เราทุกคนจะยืนเคียงข้างกัน มันคือความหวังที่ดีที่สุดของ Northreach และเป็นความหวังที่ยังอยู่ในกำมือเรา เราต้องพุ่งไปที่ศัตรูที่แท้จริงของเราเท่านั้น ขอบคุณนะ Philippe ที่ทำให้ชั้นรู้ว่าชั้นควรทำอะไร
Philippe - สำหรับคุณแล้วได้เสมอครับ แม่หญิงของผม พูดถึงการยืนเคียงข้างกัน คุณจะว่าอะไรมั๊ยถ้าผมจะยืมเด็กของคุณซักคนสองคนเพื่อเฝ้าระวังเมือง ผมเกรงว่าพวกทหารของดลุยจะทำอะไรเกินงาม 
Isabelle - ยินดีอย่างยิ่งเลยค่ะ 

Isabelle - ดูเหมือน Northreach จะยังไม่สิ้นหวังนะ ถ้าได้หนุ่มอย่าง Philippe และคุณมาช่วยสนับสนุนงานของเรา ส่วนชั้นยังไงก็จะพยายามต่อไป ด้วยความดื้อรั้นของชั้นที่คิดว่าจะทำให้ให้เขายอมร่วมมือกันเราให้ได้ ไม่ทางใดก็ทางนึง ซึ่งบางทีชั้นอาจต้องขอความร่วมมือของคุณอีกครั้ง แล้วเจอกันนะ  ไคลฟ์ 
Clive - แล้วเจอกันครับ 

                  📗  SideQuest: Rekindling the Flames II 

 

 

  ⟴  Objective > เดินทางไปที่ Martha’s Rest

 

Martha - อ่า ไคลฟฺ ชั้นเพิ่งส่งข้อความไปถึงคุณพอดีเลย ชั้นอยากจะให้คุณเอาของไปส่งให้ เซอร์ Wade ที่ Eastpool หน่อย เป็นเมล็ดพันธุ์สำหรับเพาะปลูกน่ะ คิดว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเขาต้องปลูกอาหารเอาไว้กินเอง และในระหว่างนี้ชั้นก็จะคอยจัดการของจำเป็นที่พวกเขาต้องการส่งไปให้ตลอดแน่นอน แต่ถ้าจะให้ Eastpool อยู่รอดจริงๆก็ต้องให้พวกเขายืนด้วยขาของตัวเองให้ได้ 

พวก Bearers ที่น่าสงสารพวกนั้นก็เหมือนกัน พวกเขาเป็นทาสมาทั้งชีวิต แต่ตอนนี้เขาเป็นนายของตัวเองแล้ว แต่ก็แปลกใจนิดหน่อยที่พวกเขาไม่รู้ว่าจะหาเลี้ยงตัวเองยังไง เลยต้องเป็นหน้าที่เราที่ต้องสอนพวกเขา และถ้าคุณสงสัยว่า ทำไมต้องเป็นคุณด้วย ก็เพราะขบวนขนเสบียงเริ่มเห็น Akashic ระหว่างทางมากขึ้น โดยเฉพาะรอบๆหมู่บ้าน

 

Martha - และ เซอร์ Wade ไม่ว่าเขาจะแสดงความกล้าหาญออกมาแค่ไหนเขาก็ต้องมีกังวลกันบ้างแหละ และถ้าเขาจะระบายให้ใครซักคนฟัง คนนั้นก็คงต้องเป็นคุณนั่นแหละ 
Clive - ได้สิครับ
Martha - ขอบคุณนะ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆคงไม่ขอร้องหรอก เอานี่ค่ะ เมล็ด Gysahl Greens เก็บไว้ได้นานหลายปี คงพอที่จะสอนให้พวกเขาปลูกได้
Clive - Gysahl Greens หรอ?

 

Martha - ชั้นก็ยอมรับอ่ะนะว่ามันใช่ผักที่น่ากินอะไรมากมาย แต่พวกมันตายยาก และ โตเร็ว น่าจะพอเติมเต็มหลุมเพาะปลูกให้เต็มไปในช่วงแรกๆก่อนได้ ดีกว่าปลูกแล้วตายตั้งแต่ฤดูแรก แถมโจโคโบะก็ชอบมันมากด้วย ถ้าปรุงให้ถูกวิธีรับรองอร่อยแน่นอน  ตอนที่ชั้นบอกว่าเราทุกคนต้องช่วยกันผลักดันให้ Eastpool ยืนด้วยตัวเองให้ได้ นั่นหมายถึงเราทุกคนจริงๆ 
Clive -  โอเค ผมจะจำคำพูดคุยไปบอกกับพวกเขาก็แล้วกันนะ
Martha -เซอร์ Wade รู้ดีว่าจะทำยังไงกับพวกเขา แต่ถ้าเขาไม่ทำล่ะก็...ชั้นไปแสดงให้เขาดูถึงที่เลยว่าจะต้องทำยังไง

 

    ⟴ Objective > เดินทางไปที่ Eastpool

 

 

Wade - อ่า ลอร์ด ลอสฟิลด์ คุณมีธุระอะไรที่ Eastpool หรอครับ?
Clive -  ส่งของให้ Martha น่ะ
Wade - โอ้ ... เมล็ด Gysahl Greens งั้นหรอ? … Martha คงอยากจะให้ที่นี่เติบโตได้ด้วยตัวเองแล้วสินะ? ตอนแรกผมยังคิดเล่นๆเลยว่า เราน่าจะใช้ทุ่งข้าวสาลีเก่านั่นเพาะปลูกได้ แม้มันจะไม่ได้ปลูกอะไรมานานแล้วก็เถอะ แต่ตอนนั้นมันไม่มีเมล็ดพืชด้วย 
Clive -  Martha บอกว่าให้คุณช่วยสอนพวก Bearers ในการเพาะปลูกด้วย พวกเขาจะได้ดูแลตัวเองได้ 
Wade - เป็นความคิดที่ไม่เลวเลยล่ะ พวก Bearers เพิ่งจะพ้นจากความเป็นทาสก่อนมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน 

พวกเขายังรู้จักกับอิสรเสรีภาพน้อยมาก การหาเลี้ยงตัวเองและคนที่ตัวเองรักก็ด้วย เว้นเสียแต่ว่าเราจะสอนพวกเขาให้รู้จักการใช้ชีวิตอย่างอิสระ ที่ผมกลัวก็คือถ้าเราบังคับมากไป สำหรับพวกเขาก็จะเหมือนแค่เปลี่ยนจากเจ้านายจากคนเก่ามาเป็นพวกเราแทน แต่ก็คงมีแค่ผมกับเหล่า Guardians ที่จะเป็นตัวอย่างให้พวกเขาได้ดีที่สุดในตอนนี้ผ่านองค์กรการกุศลของ Martha ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว เราทุกคนก็ต้องยืนด้วยลำแข้งของเราให้ได้ไม่ว่าจะเป็นพวก Bearers หรือ Guardians เองก็เถอะ 

 

Wade - น่าเสียดายที่พวกเราก็งานยุ่งเกินกว่าจะไปโพกัสเรื่องอื่นนอกจากเสริมแนวป้องกัน เพราะมีรายงานที่น่าตกใจเกี่ยวกับ…….
Guardian - ฝูงของพวกมันใกล้เข้ามาแล้วครับ !!!  พวกมันมาแล้วครับเซอร์ Wade ทั้งหมดเลย !!!
Wade - บ้าเอ้ย !! ชั้นนึกว่าเราจะมีเวลามากว่านี้ซะอีก ! เอาล่ะ เอาคนของเราบางส่วนตรึงกำลังไว้ที่จัตุรัส ที่เหลือส่งไปเป็นกำลังเสริม !!
Guardian - ครับ เซอร์ Wade!!

 

Clive - ฝูงหรอ?
Wade - Akashic ไงครับ กลุ่มใหญ่เลยล่ะ มีคนเห็นพวกมันป้วนเปี้ยนอยู่ทางตอนเหนือซักพักนึงแล้ว ผมประเมินแล้วว่าเราไม่มีคนพอจะต้านมันได้แน่นอนก็เลยวางแผนว่าจะสร้างกำแพงรอบเมืองป้องกันพวกมันแทน แต่ว่า ...
Clive - ตอนนี้คงไม่ทันแล้วล่ะ 
Wade - แต่ถ้ากำลังเสริมส่วนที่เหลือมาถึงที่นี่ก่อนพวกมันจะมาถึงเราอาจบุกทะลวงออกไปได้ แต่ผมเกรงว่าจะได้แค่ ถ้า น่ะสิ
Clive - แล้วถ้าเป็นกำลังเสริมจาก Eastpool ล่ะ ?
Wade - คุณหมายถึงพวก Bearers อ่ะนะ? เราพาพวกเขามาที่นี่ก็เพื่อให้พวกเขารอดไม่ใช่มาต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดอีกนะ
Clive - ก็คุณบอกเองว่า ขาดคนที่จะมาปกป้องหมู่บ้าน แล้วพวก Bearers ไม่ใช่คนหรอ? พวกเขาไม่อยากให้ Eastpool ปลอดภัยงั้นหรอ?  ถึงแม้พวกเขาจะไม่ใช่ทหารที่ได้รับการฝึกฝนอย่างพวก Guardian ของคุณ แต่พวกเขาก็สามารถช่วยอะไรได้ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยก็สามารถพิสูจน์ความแตกต่างระหว่างชัยชนะและความพ่ายแพ้ได้
Wade - จริงของคุณนะ นายท่าน ผมจะลองพูดกับพวกเขาดู 

 

Wade - เพื่อนๆทุกคน ผมมาขอร้องพวกคุณ คนของ Guardian มีไม่พอ เพราะศัตรูมีจำนวนมากเหลือเกิน และผมสาบานว่าเราจะจัดการพวกมันได้แน่ถ้ามีพวกคุณอยู่ข้างเรา 

Bearer - คุณก็แค่จะส่งเราให้ไปถูกเชือดแทน เพื่อเป็นเหยื่อหล่อไอ้พวกสัตว์ประหลาดพวกนั้น เพื่อที่คุณกับคนของคุณจะได้หาทางหนีได้ทัน คิดว่าเราจะเชื่อคุณหรอ ที่ผ่านมาเราก็พูดในสิ่งที่พวกคุณต้องการ บ้านมันไม่คุ้มที่จะตายเพื่อปกป้องมันหรอก  

                 Martha - แต่มันคุ้มที่จะสู้เพื่อมัน !!!

Martha - เซอร์ Wade ต่อสู้เพื่อให้พวกคุณได้มีโอกาสในชีวิตอีกครั้ง เหมือนกับที่ชั้นทำ เหมือนกับที่ซิดทำ !!  เราต่างก็ต้องการให้พวกคุณมีบ้าน สถานที่ที่คุณจะมีอิสระเสรี

 
 

Martha - และตอนนี้ก็มีแล้วนี่ไง? ที่นี่!  Eastpool !! ที่นี่คือหมู่บ้านของพวกคุณ คือบ้านของพวกคุณ !! และถ้าคุณไม่ต่อสู้เพื่อปกป้องสิ่งที่เป็นของคุณ คุณก็จะสูญเสียมันไป!  คุณรู้ดีในสิ่งที่ชั้นพูดไป โลกนี้มันต้องการพรากทุกอย่างไปจากพวกคุณ ทุกๆอย่าง!!

Martha - บ้านของคุณ เสรีภาพของคุณ ชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณ! แล้วคุณก็จะยืนๆเฉยๆปล่อยให้มันเกิดกับคุณเฉยเลยงั้นหรอ !!!? คุณจะยอมรับโชคชะตาที่เกิดมาถูกตีตราแล้วก็ตายโดยไม่คิดจะยืนหยัดเพื่อตัวเองเลยงั้นหรอ!!?

      Martha - หรือจะลุกขึ้นต่อสู้เยี่ยงหญิงชายผู้เป็นเสรีชน!!?

Bearer - ห๊ะ? นี่เธอจะทำอะไร ....?
Bearer - ชั้นเอาด้วย เอาดาบมาให้ชั้น ที่ผ่านมาชั้นไม่เคยคิดฝันว่าจะมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ตอนนี้มีแล้ว และชั้นจะไม่มีวันยอมที่จะเสียมันไป ชั้นจะปกป้องของๆชั้นแม้ว่าจะต้องตายก็เถอะ!!

Bearer - พวกเราเอาด้วย หญิงชายผู้เป็นเสรีชน จะต่อสู้เคียงข้างกัน !! เพื่อบ้านของเรา เพื่อ Eastpool !!
Bearer - เพื่อ Eastpool !!!!!

Wade - ขอบคุณนะ Martha 
Martha - เล็กน้อยน่า แค่สัญญาชั้นข้อเดียวก็พอว่าคุณจะแสดงให้พวกเขาเห็นว่า การต่อสู้ของเสรีชน นั้นเขาทำกันยังไง !!
Wade - ได้เลยครับ !!

Martha - ไง ไอ้ที่ว่าขาดๆตอนนี้คุณคงไม่ขาดแล้วสินะ 
Clive - ก็ต้องขอบคุณคุณนะ 
Martha - ขอบคุณชั้นน่ะหรอ? ชั้นก็แค่อยากแหกปากออกคำสั่งเองมากกว่าน่ะ 

Wade - ลอร์ด ลอสฟิลด์ คุณผู้หญิง เราพร้อมแล้วครับ 
Clive - แล้วคุณมีแผนยังไงหรอ? 
Wade - เราจะแบ่งเป็นกองกำลังเล็กๆหลายกอง แต่ละกองจะประกอบด้วย Bearer และ Guardian ประจำตามจุดยุทธศาสตร์ของเมือง เมื่อเจอกับพวก Akashic โดยแต่ละกองต้องพยายามที่จะไม่เสียทีพวกสัตว์ประหลาดเท่าที่จะทำได้ ต่อสู้เชิงถอยอยู่ตลอด  
Clive - คุณจะล่อมันเข้ามาในหมู่บ้านงั้นหรอ?
Wade - ใช่แล้วครับ เราไม่มีเวลาหรอยามากพอที่จะรักษาคนเจ็บ จึงต้องพยายามไม่บาดเจ็บ เน้นป้องกันตัวไว้ก่อน เราตั้งเป้าให้พวกมันมาอยู่ในจุดที่เราต้องการเท่านั้น ซึ่งที่นั่นก็คือ สตุรัสของเมืองที่ซึ่งเหมาะสำหรับนักรบที่เก่งที่สุดของเราจะใช้เป็นที่ที่จะจัดการมันให้หมดในครั้งเดียว นั่นหมายถึงคุณกับผมจะต้องเป็นคนจบชีวิตพวกมัน 
Clive - ฟังดูก็เป็นแผนที่ดีนะ แต่การล่าถอยของกองตัวล่อต้องใช้ผู้นำที่มีฝีมือและไหวพริบในการประสานงาน ซึ่งคุณมีคุณสมบัติที่ว่าไปครบเลย เซอร์ Wade ได้โปรด คุณต้องเป็นคนดูแลพวกเขา ปล่อยจุดปะทะสุดท้ายให้เป็นหน้าที่ผมเถอะ 
Wade - อ่า แล้วปล่อยให้คุณได้รับเกริยติยศอยู่คนเดียวอ่ะนะ?

Guardian - เซอร์ Wade ครับพวกมันมากันแล้ว 
Wade - งั้นนายก็ทำสิ่งที่ต้องทำได้เลย เราจะทำงานด้วยกัน ทุกคนเล่นในส่วนของตัวเอง และแต่ละคนช่วยปกป้องซึ่งกันและกันเพื่อไม่ให้มีคนบาดเจ็บล้มตาย แล้ว Eastpool จะคงอยู่ต่อไป  ... เพื่อโรซาเรีย !!! 
Guardian -เพื่อโรซาเรีย !!!

Wade - ไม่มีเวลามาเถียงกันแล้วล่ะครับ ผมจะทำตามที่นายท่านบอกก็แล้วกัน 
Clive - ผมก็จะทำตามที่คุณบอกเหมือนกัน 

Martha - งั้นเราก็คงต้องไปทำในส่วนของเราเหมือนกันสินะ
Bloodaxe - ใช่เลยครับคุณ Martha 

⟴ Objective > จัดการฝูง Akashic กลางจตุรัสของเมืองให้หมด 

Clive - น่าจะหมดแล้วนะ .
Wade - ลอร์ด รอสฟิลด์ เราต้องเปลี่ยนแผนแล้วครับ!!
Clive - เกิดอะไรขึ้น?

Wade - หน่วยสอดแนมของผมรายงานจากโรงแรมของมาร์ธาว่าพบ Akashic Coeurl ที่ Rhaianon’s Ride และมันกำลังมุ่งหน้าไปหาพวกเขา 
Clive - ในขณะที่ การ์เดี้ยน เกือบครึ่งอยู่ที่นี่อ่ะนะ?  เซอร์ Wade ตอนนี้ Akashic ที่อยู่ที่ Eastpool เหลือกี่ตัว?
Wade - มันก็บอกยากครับ คนของผมยังคงเจอพวกมันอยู่บ้าง แต่ผมคิดว่าสิ่งที่เลวร้ายกว่าคือสิ่งที่อยู่ข้างหลังเรามากกว่า ผมสามารถสั่งให้กองทหารหนึ่งหรือ 2 กองถอยทัพมาได้...
Clive - ไม่ต้อง ให้เขาทำงานของเขาให้เสร็จ ส่วนคุณก็อยู่ที่นี่แหละ เซอร์ Wade คนของคุณต้องการคุณ ผมจะไปจัดการ Coeurl เอง จัดการที่นี่เสร็จคุณค่อยตามไปสมทบก็แล้วกัน 
Wade - เอางั้นก็ได้ครับนายท่าน ขอพระเจ้าคุ้มครอง !!

 

⟴Objective >  เดินทางไปที่พื้นที่ Rhaianon’s Ride ทางใต้ของ Eastpool กำจัด Akashic Coeurl

 

Wade - ลอร์ด รอสฟิลด์ Coeurl ล่ะครับ?
Clive - ตายเรียบร้อยแล้ว


Wade - ขอบคุณพระเจ้า และก็ขอบคุณคุณด้วย นายท่าน ส่วนเราก็จัดการพวกหมดจนหมดฝูงแล้ว พวกการ์เดี้ยนของผมลาดตระเวณรอบๆหมู่บ้านสังเกตุการณ์อยู่ยังไม่พบพวกมันอีก ถึงจะยังพูดไม่ได้เต็มปากว่ามันจบลงแล้ว แต่ ณ. ตอนนี้คือน่าจะไม่มีแล้ว
Clive - ผมก็ว่างั้น 
Wade - เฮ้ออ เราทำได้แล้ว เราช่วย Eastpool เอาไว้จนได้

Wade - ขอบคุณเพื่อนๆทุกคน ขอบคุณจริงๆ
Bearer - ไม่ค่ะ เราสิต้องของคุณคุณ เซอร์ Wage คุณทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกัน สอนให้เรารู้จักความหมายของการต่อสู้เพื่อปกป้องสิ่งที่เรารัก
Bearer -เราไม่เคยมีอะไรเป็นของตัวเองมาก่อนเลย เราเลยไม่รู้ความหมายของการปกป้องมัน แต่ตอนนี้เรารู้แล้ว และได้ลงมือทำแล้วด้วย 
Bearer -ยกโทษให้เราด้วยนะ เซอร์ Wage ที่คุณและคนของคุณอุตสาหะช่วยเราแต่เรากลับไม่เชื่อใจคุณ แต่ตอนนี้หมดข้อสงสัยในใจแล้ว ตอนนี้เราเป็นเสรีชนแล้ว แล้วเราก็จะเริ่มใช้ชีวิตแบบนั้นตั้งแต่วันนี้ เราได้ปกป้องสิ่งที่เป็นของเรา บ้านของเรา Eastpool
Wade - และเราทุกคนจะทำมันด้วยกัน เพราะนี่คือบ้านของเรา และเราจะไม่ยอมให้ใครหรืออะไรก็ตามมาพรากมันไปจากเรา 
Bearer - เอาล่ะ เรามีงานต้องทำอีกเยอะ หมู่บ้านมันซ่อมแซมตัวเองไม่ได้หรอกนะ 

Clive - ที่นี่ไม่มีใครเป็นทาสอีกแล้ว 
Wade - พวกเขาคือชาวโรซาเลี่ยน สิ่งที่พ่อของคุณทำมาตลอด และผมเชื่อว่าถ้าท่านอยู่กับเราในตอนนี้ นี่คือสิ่งที่ท่านต้องการ 
Clive - ผมก็ว่างั้น 
Wade - ผมว่าผมจะอยู่ที่นี่ต่อนะครับนายท่านและจะทำเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยสร้างหมู่บ้านนี้ขึ้นมาใหม่ให้สมบูรณ์ เพราะหลังจากนี้ที่นั่จะเป็นบ้านของผมแล้ว และคงจะเรียกตัวเองว่าเป็น ชาวอีสพูลไม่ได้เลยถ้าไม่ได้ลงแรงสร้างมัน

Martha - ชั้นว่าตอนนี้คุณก็เป็น ชาวอีสพูล เต็มตัวแล้วล่ะ เซอร์ Wage และคุณควรจะภูมิใจเหมือนกับทุกคน ชั้นเองก็คงต้องลงแรงด้วยเหมือนกัน และตอนนี้ชั้นควรกลับได้แล้ว 
Wade - เราจะขอแรงสนับสนุนจากคุณได้อีกมั๊ยครับ Martha?
Martha - แน่นอนสิ เพราะชั้นก็ต้องการจากพวกคุณเหมือนกัน เราชาวโรซาเลี่ยนต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จริงมั๊ย?  อ่อ แล้วก็ไคลฟ์ ถ้าพอมีเวลาก็แวะมาที่ Golden Stable หน่อยนะ ชั้นยังไม่ได้จ่ายค่าจ้างขนส่งเมล็ดพันธุ์ให้คุณเลย 
Clive - ได้ครับ เดี๋ยวผมแวะไป 

Wade - นายท่านจำภารกิจ ล่า Goblins ที่ Stillwind Marshes ได้มั๊ย?
Clive - ใครจะลืมได้ลงล่ะ

Wade - อืมม มันมีภาพนึงที่ผมไม่เคยลืมเลย ใบหน้าของคุณตอนเผชิญหน้ากับ Morbol ยักษ์นั้นโดยไม่มีร่องรอยความกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว นับแต่วันนั้น มีหลายครั้งที่ผมรู้สึกท้อ อยากยอมแพ้ อยากวางดาบลงให้มันจบๆไป แต่ ทุกครั้งที่นึกถึงดวงตาของคุณในวันนั้นและจำได้ดีว่ามันหมายความว่ายังไง นั่นแหละคือ โล่แห่งโรซาเรีย ของจริง 

Wade - และไม่ว่า Eastpool จะต้องเผชิญกับการทดสอบอะไรผมก็จะไม่หวั่น ไม่มีวันสูญเสียความกล้าหาญไปแน่นอน ขอบคุณนายท่านมากๆครับ 
Clive -  เซอร์ Wade คุณก็คือ โล่แห่งโรซาเรีย ของจริงไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าจะ Eastpool หรือ โรซาเรีย มันจะปลอดภัยในมือของคุณแน่นอน 
Wade - ขอบคุณครับนายท่าน และผมก็เชื่อว่า โลกที่เหลืออยู่ก็จะปลอดภัยในมือของคุณเหมือนกัน 

 

 ⟴ Objective > เดินทางไปที่ Martha’s Rest

 

Martha - อ่า ฮีโร่ของเรากลับมาแล้ว โชคดีจริงๆที่คุณแวะมา รู้มั๊ยว่าคุณทำสิ่งที่ดีอะไรไปบ้าง ห๊ะ? นอกจากคุณส่งเมล็ดพันธุ์ให้ชั้นแล้วยังช่วยEastpool ไว้อีกด้วย 
Clive - ผมก็แค่ทำในสิ่งที่ต้องทำเท่านั้นแหละครับ 
Martha - แต่ยังไงคุณก็สมควรที่ต้องได้รับรางวัลอ่ะนะ เอ้านี่ รับไปซะก่อนที่ชั้นจะเปลี่ยนใจ 
Clive - ขอบคุณนะ มาร์ธา 

Martha - ตอนนี้ Eastpool ก็กลับมาเพาะปลูกได้อีกครั้งแล้ว และยังเป็นบ้านของ Bearers ที่กลายเป็นเสรีชนไปแล้ว ใครจะเชื่อว่าจะมีวันนี้ว่ามั๊ยห๊ะ?
Clive - มันเป็นความคิดของคุณแต่แรกแล้วนี่ครับ 
Martha - ชั้นรู้ แต่ชั้นก็อดคิดไม่ได้ว่ามันจะเป็นยังไง Bearers ที่มีชีวิตของตัวเอง ทำงานเพื่อตัวเอง เหมือนที่ hideaway ของคุณแต่ไม่ต้องหลบซ่อน แม้ว่าทุกวันนี้ที่โรงแรมของชั้นมันก็แทบไม่ต่างกัน คุณรู้มั๊ย การที่ได้เห็น Bearers ได้ใช้ชีวิตแบบนั้นมันทำให้ชั้นนึกถึงตอนที่เจอ Cid ครั้งแรก คิดถึงตอนนั้นก็เกลียดตัวเองอยู่เหมือนกัน 
Clive - ผมเดาว่าปกติคุณไม่ได้เจอหน้ากันสินะ? แล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะ?
Martha - ก็นะ ถ้าคุณอยากรู้จริงๆชั้นจะเล่าตอนที่เจอซิดครั้งแรกให้ฟังก็แล้วกันนะ อันที่จริงมันก็ไม่เชิงชั้นเจอเขาหรอก มันน่าจะเป็นเขาเจอชั้นมากกว่า

Martha - วันนึงเขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาที่นี่แล้วถามว่าใครเป็นเจ้าของ Bearers ที่นี่ พระเจ้า เขารู้ดีว่าคนที่จัดการเรื่อง Bearers ทั้งหมดคือชั้น ชั้นคิดว่าเขาคงเป็นผู้ตรวจการณ์คนใหม่และคิดว่า งานนี้น่าจะซวยแล้วเรา แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ก็เลยบอกไป 

 

และก่อนที่ชั้นจะรู้ตัว ไอ้คนเจ้าเหล่นั่นก็ตะคอกใส่หน้าชั้นประหนึ่งชั้นทำผิดมากมายทั้งที่ที่ผ่านมาชั้นก็ทำงานหนักมาตลอด เขาบอกให้ชั้นว่า

 "ถ้าอยากช่วยเหลือพวก Bearers ทำไมไม่ให้เสรีภาพกับพวกเขา! เพราะ Bearers ของชั้นก็ยังเป็นทาสไปจนตายเหมือนเดิม"

 ใจชั้นคิดไปว่า ถ้าเขาไม่ชอบสิ่งที่ชั้นทำเขาอาจจะหาเรื่องโดยการไปแจ้งพวกทหารก็ได้ 

Martha - แล้วรู้มั๊ยเขาทำไง?  เขายิ้ม แล้วก็ หัวเราะ ลั่นเลย แล้วชั้นก็ทำเหมือนกัน เราหัวเราะกันเฉยเลย และจากวันนั้นเราก็ทำสัญญากันว่า เมื่อใดก็ตามกำลังขัดสนหรือต้องการให้ช่วย อีกคนต้องมาอยู่เคียงข้างเสมอ 
Clive - อย่างที่คุณทำสินะ 
Martha - ก็นะ เราทั้งคู่ต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือ ทำให้คุณชีวิตของ Bearers ดีกว่าเดิม เช่นเดียวกับพ่อของคุณ เช่นเดียวกับคุณ รู้มั๊ยว่าชั้นเกิดในช่วงที่ Elwin เป็น Archduke พอดี เลยเห็นว่าเขาพยายามจะเปลี่ยนแปลงเรื่องพวกนี้ยังไง เขาเป็นคนที่ทะเยอทะยานมาก

Clive - ผมรู้ แต่ยิ่งมีความทะเยอทะยานสูงแค่ไหนก็ยิ่งบรรลุเป้าหมายได้ยากเท่านั้น นั่นคือเหตุผลที่พวกเราที่เดินตามรอยของเขาจึงต้องทำในสิ่งที่ซิดหรือพ่อของผมเริ่มไว้ให้สำเร็จ
Martha - คุณพูดถูกแล้ว และแม้ว่าถ้าเราทำมันไม่ได้ก็ย่อมมีคนข้างหลังมาทำต่อจากเราเสมอ และโชคดีที่เราเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว ซึ่งน่าจะมากพอที่จะให้คุณมีความหวังแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม 
Clive - มันก็ไม่เล็กน้อยหรอกนะครับ

Martha - เอาล่ะ รบกวนเวลาคุณมาเยอะแล้ว ชั้นคงต้องกลับไปทำงานของชั้นแล้ว เช่นหาอาหารเย็นให้กับทุกๆคนกินกัน ดีมั๊ย อย่างน้อยคนที่ช่วย Clive - Eastpool เอาไว้ควรจะได้รับอาหารอุ่นๆเป็นรางวัล และคุณกับชั้นก็คงไม่อยากออกไปช่วยโลกในขณะที่ท้องว่างแน่นอนว่ามั๊ย?
Clive - ผมว่าเป็นความคิดที่ดีเลยล่ะครับ 

 

                        📗 SideQuest: Lines in the Sand 

 

⇴Objective > เดินทางไปที่ The Dalimil Inn

 

L’ubor - อ้าวไคลฟ์ นี่ผมลืมใช้หนี้อะไรคุณอีกหรือเปล่าเนี่ย ?
Clive - ผมก็แค่แวะมาดูน่ะว่าเมืองเป็นไงบ้างหลังจากที่คุณนำให้ทุกคนมาเป็นหนึ่งเดียวกันน่ะ 
L’ubor - หลังจากวันนั้น มือของ Konrad และ Natalie ก็ห่างจากคอของกันและกันเป็นอย่างดีเลยครับ ชาวเมืองก็รักกันดี ของในร้านเราก็เต็ม พวกโจรก็ไม่มีมาวุ่นวาย ซึ่งก็เป็นดั่ง เลดี้ Jayne และ ลอร์ด Underhill เคยตั้งใจเอาไว้อ่ะนะ
Drika - คุณเป็นท่านลอร์ดหรอ? L’ubor ก็เป็นเหมือนกันนะ พวกเขากำลังแต่งตั้งเขาเป็น ลอร์ด แห่ง Dalimil เพราะสามารถหลุดการแตกแยกกันครั้งใหญ่ของคนในเมืองได้
L’ubor - เค้าเรียก นายกเทศมนตรี ลูก และการลงคะแนนก็ยังไม่ได้กำหนดเลยว่าวันไหน แต่ถ้าประชาชนที่นี่ต้องการชั้นจริงๆ ชั้นก็คงต้องยอมอ่ะนะ และสิ่งที่ชั้นจะทำอย่างแรกเลยคือ สร้างโรงเรียนไง ซึ่งก็จะทำให้เด็กๆอย่างเธอสองคนไปเรียนรู้อะไรที่มีประโยชน์มากกว่ามายุ่งเรื่องที่ผู้ใหญ่กำลังคุยกันแบบนี้ เอ่อ มีเรื่องนึงที่ผมแอบกังวลอยู่นิดหน่อย ที่ผ่านมาผมก็เห็นด้วยนะที่ Konrad และ Natalie ยอมทิ้งความขัดแย้งและความเห็นต่างมาช่วยกันจัดการพวกโจรที่โจมตีเมือง ในทางกลับกัน พวกโจรมันก็อาจใช้แนวทางเดียวกัน พวกมันได้สร้างสิ่งนึงขึ้นมาที่สามารถเรียกได้ว่าเป็น “กลุ่มคนนอกกฎหมาย” ขึ้นมาและก็เริ่มจะมีการเติมโตมากขึ้นทุกวัน
Rens - แต่เราก็ยังยืนหยัดสู้กับมันได้เหมือนครั้งที่แล้วไม่ว่าพวกมันจะบุกเข้ามามากแค่ไหนก็ตาม ใช่ป่ะ L’ubor
L’ubor - แน่นอนเราทำได้อยู่แล้ว ตราบใดที่เราเป็นหนึ่งเดียวกันเราจะสามารถรับมือกับทุกอย่างได้ เราสามารถเลือกชะตากรรมของเราได้แน่นอน 

L’ubor - แต่ การเผชิญหน้ายิ่งเราเจอมากขึ้นเท่าไหร่มันก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้นจนกว่าเราต้องเอาชนะมันแบบเด็ดขาด ซึ่งยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาอีก ความหวังหนึ่งเดียวของเราก็คือ ลดการเติบโตขององค์กรมันให้กลับมาอยู่ในระดับเริ่มต้น โดยการค้นหาไอ้พวกนักเลงปลายแถวๆที่มันอาจมีความตั้งใจที่จะร่วมกลุ่มพวกนั้น แล้วทำให้มันไม่สามารถทำได้ ไม่แน่ เอ่อ ลอร์ด Underhill อาจให้ความกรุณาช่วนเราอีกซักครั้ง ?
Clive - แล้วจะให้ผมปฎิเสธได้ยังไงจริงมั๊ย?
L’ubor - ขอบคุณท่านลอร์ดที่กรุณา ชั้นให้เขาประจำการที่ประตูทะเลทรายเพื่อรอรับเรื่องจากหน่วยสอดแนมของผม แหม่มีจิตใจเอื้อเฟื้อแบบนี้ทำให้ผมคิดถึงคุณขึ้นมาทันทีเลย 
Clive - โอเค งั้นผมจะไปคุยกับเขาเอง 

Clive - คุณยังอยู่ที่ Dalimil อยู่อีกหรอ วิคเตอร์?  ผมคิดว่าคุณกลับไป Kostnice แล้วซะอีก 
Viktor - อ้าวซิด ..อ๋อ ผมไปมาแล้วครับแต่กลับมาใหม่ ผมเริ่มจะชอบที่นี่เข้าแล้วสิ เลยพยายามจะปกป้องมันไม่ให้มีชะตากรรมเหมือนกับหมู่บ้านร้างอื่นๆ  มาสเตอร์ L’ubor ผู้เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นก็คงจะไม่อายที่จะหาประโยชน์อย่างเอาเปรียบแน่นอน ผมเลยถูกเรียกตัวมาอีกครั้ง ไม่ใช่แค่คุณหรอกนะไคลฟ์ แล้วสรุปว่าเขาให้คุณมาทำอะไรหรอ?
 Clive - เขาขอให้ผมช่วยฆ่าตัดตอนพวกโจรน่ะ เขาบอกว่าคุณอาจจะช่วยผมตามหาพวกมันได้ 
Viktor - คุณมาได้เหมาะจริงๆเลย ผมกำลังจะคุยกับ Komrad เรื่องการจัดกองกำลังของเราเพื่อจัดการพวกมันอยู่พอดี แค้มป์ของพวกมันมีหลายแห่งซึ่งยากเกินกว่าที่เราจะโจมตีได้พร้อมๆกันอย่างปลอดภัย แต่ถ้าเราร่วมมือกันโจมตีไปพร้อมๆกัน กำจัดแค้มป์โจรต่างๆให้มากที่สุดและเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้พวกมันมีเวลาในการระดมกำลังได้ 
Clive - เข้าใจแล้ว ว่าแต่แค้มป์ไหนที่อยากให้ผมช่วยจัดการ?
Viktor - มีแค้มป์หนึ่งอยู่ทางเหนือของแม่น้ำ ต้องข้ามทะเลทรายไปอีกฝาก 
Clive - เดี๋ยวผมจัดการให้เอง 

 

⇴Objective > เดินทางไปที่แคมป์โจรทางเหนือของทะเลทราย 

 

 

แล้วกำจัดกลุ่มโจรที่จุดเป้าหมายให้หมด 

 

Clive - เอาล่ะ น่าจะหมดแล้วนะ ต้องรีบกลับไปบอกวิคเตอร์ ...
Viktor - ซิด!! พระเจ้าคุณอยู่นี่เอง คุณโอเคมั๊ย? ดีใจที่เห็นคุณไม่ได้บาดเจ็บ  
Clive - เปล่าผมไม่เป็นไร ว่าแต่คุณตามมาทำไมเนี่ย?
Viktor - ในเมืองเกิดเรื่องขึ้นน่ะสิ ผมเลยรีบมาตามให้คุณกลับ Dakimil ด่วนเลย !!
Clive - เกิดอะไรขึ้น !
Viktor - คนทั้งเมืองกำลังลุกฮือกันน่ะสิ!! พวกเขาโกรธที่เพิ่งรู้ว่า L’ubor เป็น Bearer !!
Clive - ห๊ะ !?
Viktor - หน่วยป้องกันเมืองของเราปล่อยให้พวกโจรหลุดเข้ามาในเมืองได้น่ะสิ ในช่วงที่พวกมันกำลังหลบหนีเข้ามาในเมือง มีเด็กคนนึงเห็นมันเลยพยายามที่จะเรียกชาวบ้านให้รู้ พวกมันเลยพยายามจะฆ่าเด็ก แต่ L’ubor เข้ามาช่วยไว้ทัน ด้วย เวทย์ สายฟ้า ...โดยไม่ได้ใช้คริสตัล 

Clive - เป็นไปไม่ได้ ...
Viktor - ได้สิ ถ้าเขาเป็น Bearer และปกปิดมาตลอดหลายปี ซึ่งถ้าเป็นงั้นจริงผมก็ไม่โทษเขาหรอก ไม่มีใครอยากเกิดมาเป็น Bearer หรอก คนเราเลือกเกิดกันได้ซะที่ไหน แต่ถึงงั้นก็เถอะ สำหรับชาวเมืองที่คิดว่าตัวเองถูกหลอกมาตลอด โดยคนที่เป็นผู้นำของตัวเองทั้งๆที่อยู่ในฐานะทาส 
Clive - บ้าเอ้ยย 
Viktor - ผมไม่รู้ว่าเราจะเอาไงกันต่อดี แต่ที่แน่ๆ แต่ตอนนี้ L’ubor ต้องการเพื่อนที่ไว้ใจได้แน่นอน 
Clive - คุณพูดถูก เรารีบกลับกันเถอะ 

L’ubor - โอเค ทุกคนคงจะรู้หมดแล้วสินะ ฮ่าๆ ปกติก็ติดคริสตัลไว้ใกล้มือตลอดจนเป็นนิสัย แต่ตอนนั้นดันลืมซะได้ แต่ก็นะ ยังไงซะคนก็จะรู้อยู่ดีไม่ว่าช้าหรือเร็ว 


Rens - พวกเราขอโทษนะ L’ubor พยายามวิ่งหนีกันอย่างเต็มที่แล้วแท้ๆ 
Drika - แต่ก็ยังไม่พ้น ...
L’ubor - ไม่มีอะไรต้องขอโทษหรอกเจ้าหนู ชั้นน่ะอยากเล่นบทฮีโร่มานานแล้วไม่รู้หรอ ที่สำคัญ พวกเธอทั้งคู่ปลอดภัยก็ดีแล้ว 

ชาวบ้าน - ดูเขาสิ พูดกับเด็กๆเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย 
ชาวบ้าน - ชั้นกล้าพนันเลยว่าที่ผ่านมาเขาโกหกเราทุกเรื่องแน่นอน 

Viktor - เมื่อชาวบ้านคิดกันไปไกลแล้วก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลง เราควรจะต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว และอย่างเร็วด้วย เราต้องโน้มน้าวให้คนพวกนั้นอย่าให้ความอคติมาทำให้มืดบอด ต้องให้พวกเขารู้ว่า ศัตรูที่แท้จริงอยู่นอกกำแพงไม่ใช่ในนี้ 
Clive - ก็ได้ เดี๋ยวผมลองพูดกับทุกๆคนดู
Viktor - ดีใจที่คุณเห็นด้วยนะ ผมจัดการกับพวกชาวบ้านเอง ผมเกิดที่ Dhalmek พวกเขาน่าจะฟังผมบ้างแหละ 
Clive - ผมจะลองไปคุยกับคนในโรงแรมดูก็แล้วกัน 

Viktor - ทำให้ Konrad กับ Natalie จำให้ได้นะว่า L’ubor เคยเป็นใครมาก่อน พวกเขารู้ว่าชั้นกับ L’ubor เป็นเพื่อนกัน ตัวชั้นเองคงพูดไม่ได้เต็มปากหรอก ให้นายพูดน่ะดีแล้ว ยังไงซะ ลอร์ด Underhill แห่งสมาคมพ่อค้าแห่ง Ran’dellah อาจมีความน่าเชื่อถือและเป็นกลางมากว่า
Clive - ผมจะทำให้ดีที่สุดก็แล้วกันนะ .. L’ubor นายรออยู่นี่คอยดูพวกเด็กๆเอาไว้ล่ะ ผมให้สัญญาอะไรไม่ได้หรอกนะ แต่จะพยายามให้ดีที่สุดก็แล้วกัน
L’ubor - ผมก็คงขอให้คุณทำให้ได้แค่นั้นอ่ะนะ 

Clive - ขอโทษที่ต้องขัดจังหวะนะ ขอเวลาผมซักครู่ได้มั๊ย?
Konrad - อืมม เหมือนจะคุ้นหน้าคุณอยู่นะ ...
Natalie - ลอร์ด Underhill ใช่มั๊ยคะ จากสมาคมพ่อค้าแห่ง Ran’dellah?
Clive - เอ่อ ครับ ใช่ๆ คือผมอยากคุยเรื่อง L’ubor หน่อย 
Natalie - ข่าวลือเรื่องที่ว่าเขาเป็น Bearer สินะ ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ชั้นคิดว่างั้นนะ 
Konrad - ตอนนี้เขาไม่มีสิทธิ์เป็นนายกของเราแล้ว แล้วผมก็คงช่วยอะไรไม่ได้ด้วย 
Clive - แล้วสิ่งที่เขาทำมาล่ะ คุณค่าในตัวเขา จะ Bearer หรือไม่ เขาก็ยังมีคุณค่าต่อทั้งสาธารณรัฐเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน หรืออย่างน้อยๆก็ที่นี่ เขาทำสิ่งดีๆให้เมืองนี้มามากมาย มันจะไม่สามารถผ่อนปรนอะไรให้ได้เลยหรอ? 
Konrad - ผมปรนหรอ !? เขาแสร้งเป็นหนึ่งในพวกเรามาตลอด เขาคงหัวเราะลับหลังเราตลอดเวลา
Natalie - ชั้นต้องขอโทษด้วยนะท่านลอร์ด แต่เขาโกหกพวกเรา เขาโกหกคุณด้วย ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถเป็นที่เชื่อถืออีกต่อไป
Clive - แล้วคุณจะทำไงกับเขา? ไล่เขาจากเมืองของเขา แล้วปิดโรงตีเหล็กของเขางั้นหรอ?
Konrad - ก็อาจจะ! ซึ่งนั่นเป็นปัญหาของชาวเมือง Dalimil และจะขอบคุณมากถ้าคุณจะไม่มาแทรกแซงเรื่องนี้ 

Viktor - ผมคุยกับชาวบ้านหมดแล้ว พวกชาวบ้านตัดสินใจกันไปแล้ว ผมคงช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะครับ

Clive - ผมก็เหมือนกัน Konrad กับ Konrad ไม่ฟังอะไรเลย มันเป็นความหยิ่งผยองที่จะทำร้ายตัวพวกเขาเองแน่นอนแบบนี้ 
Viktor - คุณอาจไม่มีทางรู้เลยว่า เมื่อความโกรธของเขาเริ่มจางไปพวกเขาจะเริ่มเห็นที่นี่แตกต่างไปจากเดินแน่นอน .. ยังไงซะ เราควรไปแจ้ง L’ubor ก่อนจะดีกว่า 

L’ubor - ผมเดาว่า สถานการณ์คงจะสิ้นหวังสินะ?
Clive - มันก็ยังมีหวังอยู่นะ …แต่ 
L’ubor -แต่ คงไม่ใช่ในชาตินี้ น่าจะเป็นงั้นนะ 
Viktor - อย่าคิดงั้นสิ L’ubor ให้เวลาพวกเขาหน่อย เดี๋ยวก็กลับมาเหมือนเดิม เดี๋ยวเราจะพูดถึงความรู้สึกกับพวกเขาอีกทีตอนหลัง
L’ubor - ไม่ คุณไม่จำเป็นต้องทำงั้นหรอก เอาความพยายามของคุณไปใช้กับเรื่องอื่นจะดีกว่า
Viktor - แต่ ... L’ubor
L’ubor - Ruzena มักจะบอกกับผมเสมอว่า 

L’ubor - เหล็กมันโกหกไม่ได้ ใบมีดนั่นเป็นภาพสะท้อนที่ช่างตีเหล็กสร้างมันขึ้นมา จงสื่อสัตย์กับตัวเอง เธอต้องการบอกแบบนั้น มันน่าขำนะถ้าคุณรู้ว่า ชีวิตของเธอถูกพรากไปจากมีดที่เธอสร้างขึ้นเอง 

L’ubor - และผมไม่สงสัยเลยว่า เธอเองก็จะสื่อสัตย์กับตัวเองเสมอ และเชื่อในสิ่งที่เธอเชื่อจนถึงวันสุดท้าย และผมเองก็ต้องเป็นแบบนั้น ผมต้องทำสิ่งที่ผมรู้ว่ามันถูกต้องไม่ว่าใครจะมองผมยังไงก็ตาม 

L’ubor - และตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันเป็นยังไง ผมต้องยอมรับบทบาทใหม่ของผม ในฐานะ ผู้ร้าย เพื่อที่ชาวเมือง Dalimil จะได้มีบางสิ่งไว้ต่อต้านร่วมกันจนเป็นหนึ่งเดียวกัน มีแต่ความสามัคคีเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาต่อกรกับภัยคุกคามที่รอพวกเขาอยู่ได้ แม้ว่าการจากไปของผมจะดราม่ากันหน่อยก็เถอะ 

Rens - อย่าไปเลยนะครับ L’ubor คุณเป็นคนเดียวที่ใจดีกับพวกเรา 
Drika - เราคงต้องโดดเดี่ยว ...อีกครั้ง 
L’ubor - เชื่อชั้นเถอะเด็กๆ ชั้นไปน่ะดีที่สุดแล้ว ไม่ใช่แค่เพื่อเมืองนี้นะ แต่เพื่อพวกเธอด้วย 

Viktor - นี่เป็นทางออกที่ดีแล้วหรอ? พวกเด็กๆต้องการคุณนะ อย่างน้อยคุณก็จะได้มีโอกาสให้ชาวเมืองเปลี่ยนใจด้วย 
L’ubor - พวกเขาไม่เปลี่ยนใจหรอกวิคเตอร์ มันจบแล้ว 
Viktor - จบแล้ว ดูคุณพูดสิ มันก็เหมือนคุณกำลังโยนเมืองและเด็กเหล่านี้ไปให้หมาป่ากินนั่นแหละ ผมนึกว่าคุณจะดีกว่านี้ซะอีก ดูเหมือนคุณก็หลอกผมเช่นกัน !!
Clive -วิคเตอร์ ...
Viktor - ช่างเถอะ ..ทำสิ่งที่คุณต้องทำเถอะ ..

Clive - คุณแน่ใจหรอว่านี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณแล้วน่ะ L’ubor?
 L’ubor - ในบรรดาทางเลือกที่ชั้นมีทั้งหมดน่ะหรอ ใช่ นี่แหละดีสุดแล้ว แต่ แหม่ เกือบเสียมารยาทแล้ว นี่ครับค่าจ้างของคุณที่ช่วยกวาดล้างโจรพวกนั้น ...เดี๋ยวผมก็จะต้องไปเก็บของแล้ว
Clive - มีอะไรให้ผมช่วยมั๊ยครับ? อะไรก็ได้?
L’ubor - ผมจะไม่มีวันลืมเลย ขอบคุณนะครับ 

 

                        📗  SideQuest: Trading Places II 

 

⇴ Objective > เดินทางไปที่ The Boklad Markets

 

Theodore - อ่า ไคลฟ์ คุณคงดีใจที่ผมจะแจ้งให้ทราบว่า เรื่องการเจรจาขอซื้อตัวพวก Bearer จากพ่อค้ากำลังผ่านไปด้วยดี 
Clive - ถือว่าเป็นข่าวดีนะ
Theodore - ใช่แล้วครับ คนของเราใน Ran’dellah เพิ่งส่งข่าวมาว่า การนัดลงนามทำสัญญากำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้แหละ แต่ในทางกลับกันมันก็เป็นภารกิจที่ใหญ่ไม่ใช่เล่นสำหรับการเคลื่อนย้าย Bearer จำนวนมากพร้อมๆกัน ซึ่งเรากำลังเตรียมตัวกันอยู่ ซึ่งคุณจะช่วยผมให้มันเสร็จเร็วขึ้นใช่มั๊ย? 
Clive - ได้อยู่แล้ว แต่ ตอนนี้เนี่ยนะ? พวกมอนสตอร์เพียบเลยนะ?
Theodore - ไม่ใช่แบบนั้น ผมแค่ต้องการให้คุณไปถาม EL ที่กองคาราวานหน่อยว่า เรามีเวลาเตรียมตัวแค่ไหนก่อนที่ Bearer จำนวนมากจะมาถึง ผมจะได้ดูว่าจะต้องเตรียมเสบียงแค่ไหนถึงจะทัน 
Clive - โอเค เดี๋ยวผมไปถามให้

แม่ค้าขายปลา - ไม่เอาน่า อย่าโทษตัวเองเลย El มันเป็นความผิดของพวกเขาไม่ใช่ความผิดของคุณซะหน่อย 
Eloise - ชั้นรู้ แต่ ...
แม่ค้าขายปลา - ไม่ต้องมีต่งมีแต่อะไรทั้งนั้น โอเค๊?

Clive - เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ?
Eloise - Vonni ส่งข้อความของชั้นไปถึงพ่อค้าคนกลางของเราแล้ว การเจรจากับกองทัพสาธารณรัฐล้มเหลว พวกเขาดันไปทำข้อตกลงกับทางสมาคม Silverpeak ก่อนแล้ว แม้ว่าราคาจะลดลงในช่วงปลายปี นี่ขนาดเราเสนอที่จะให้ตามราคาเดิมเพื่อขัดขวางคู่แข่งรายอื่น แต่ทาง สมาคม Silverpeakให้ราคามากกว่าเกือบ 2 เท่า พวกกองทัพก็เลยยอม 
Clive - แล้วคุณไม่มีโอกาสยื่นข้อเสนอเพื่อตอบโต้เลยหรอ?
Eloise - ไม่มีโอกาสแล้ว การเจรจาจบไปแล้ว

Theodore - มีอะไรหรือเปล่า El? ผมเห็น Vonni เพิ่งเดินออกไปสีหน้าเธอดูไม่ดีเลย 
Eloise - เรื่องมันเป็นแบบนี้ ...................
Theodore - แต่ ผมนึกว่ามีพวกเรากลุ่มเดียวที่สนใจเกี่ยวกับ Bearers พวกนั้นนะ แล้วไอ้สมาคมบ้านั่นมันมารู้เรื่องนี้ได้ยังไง?
Eloise - ไม่ต้องแปลกใจ พวกเขามีหูมีตาทั่วทั้งสาธารณรัฐทั่วไปหมด แต่เรื่องนี้มันยังไม่จบ เพราะไงสมาคมก็ต้องเอา Bearers ไปขายต่ออยู่ดี และราคาที่พวกเขาจะขายก็ไม่น่าจะมีผู้ซื้อรายอื่นสู้ราคาหรอก ชั้นจะไปที่ Ran’dellah เอง 
Clive - คนเดียวอ่ะนะ คุณแน่ใจหรอ?
Eloise - คุณจะตามไปเป็นบอดี้การ์ดด้วยชั้นก็ไม่ได้ห้ามนะ? ยังไงก็ไปเจอชั้นที่ชั้นที่หน้าเมืองหลวงก็แล้วกัน ชั้นจะส่งข้อความนัดให้พวกเขามาเจอเอง ส่วนนาย Theo ไปที่ Kasjlok ไปเคลียร์พื้นที่ให้พร้อม แล้วเดี๋ยวเราจะตามไป เพราะนอกจากพวก Bearers กลุ่มที่เรากำลังเจรจาอยู่ก็ยังมีกลุ่มอื่นที่ตามมาสมทบอีก  


Theodore - ก็คงต้องเป็นหน้าที่ชั้นอยู่แล้วอ่ะนะ ดูเหมือนชั้นคงต้องทำตามคำสั่งจนกว่าเธอจะกลับมาจากการเจรจากับไอ้พวกสมาคม Silverpeak ผู้ที่พยายามอย่างหนักที่จะบ่อนทำลายแผนของเรา เธอไม่ยอมที่จะเข้าร่วมกับพวกมันอีกแน่ และเธอบอกว่ายังมีแผนสำรองสำหรับ Kasjlok อยู่อีกหากแผนนี้ล้มเหลว นั่นแปลว่าเธอตั้งใจที่จะอยู่กับเราต่อ แม้ผมจะฟังแล้วไม่ค่อยจะสบายใจเท่าไหร่แต่อย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่เธอเลือกเอง แต่เธอต้องการมันจริงๆงั้นหรอ? 

Clive - คุณต้องเชื่อใจเธอสิ 
Theodore - จริงของคุณ นั่นเป็นสิ่งที่เธอเลือกแล้ว ซึ่งผมเองก็ต้องทำส่วนของผมให้ดีด้วย ผมต้องไปทำงานต่อแล้ว ต้องรวบรวมคนไปที่ Kasjlok เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยว่ามีมอนสเตอร์มารบกวนมั๊ย ส่วนคุณก็ตามพี่สาวผมไปที่ Ran’dellah แล้วดูว่าจะหยุดนางไม่ให้ตัดหัวไอ้พวกพ่อค้านั่นได้มั๊ย ถ้าเธอไม่คิดถึงเรื่องโอกาสจะเสียไป ก็ต้องมีใครซักคนทำแทน 

 

⇴  Objective > เดินทางไปที่หน้าทางเข้าเมือง Ran’dellah 

 

Clive - ขอโทษที่มาช้านะ คิดว่าคุณจะไม่รอซะแล้ว คุณคุยกับพวกสมาคมไปยัง?
Eloise - ยัง นั่นไง มากันพอดีเลย 
ผู้นำสมาคม Silverpeak - คุณมีอะไรจะหารือกับผมงั้นหรอ?

Eloise - มีสิ ก็เรื่อง Bearers ที่คุณซื้อจากพวกกองทัพไปนั่นแหละ เราเตรียมการในการซื้อไว้หมดแล้ว แต่คุณก็มาตัดหน้าเฉยเลย 

ผู้นำสมาคม Silverpeak - คุณเข้าใจผิดแล้ว ทางสมาคมของเรามีความประสงค์ที่จะซื้อ Bearers กลุ่มนี้แต่แรกแล้ว มีแต่คุณนั่นแหละที่พยายามให้เราไม่สามารถเข้าร่วมประมูลได้ และความลังเลของคุณในการรับข้อเสนอของเราชี้ให้เห็นว่า เราตกลงกันไม่ได้อยู่แล้ว เราถึงต้องมาเจรจาธุรกิจกันต่อนี่ไงล่ะ 
Eloise - ชั้นไม่ได้ลังเล แต่ชั้นคงตัดสินใจไม่ได้ถ้าไม่เตรียมความพร้อมให้พวกเขาก่อน แต่ตอนนี้ชั้นเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว ตกลงคุณจะขายเท่าไหร่ว่ามา
ผู้นำสมาคม Silverpeak - และคุณก็ตัดสินใจช้าอีกเหมือนเดิม ไม่ทันแล้วล่ะ ปกติเราไม่ค่อยรับ สินค้าแนวนี้ โดยไม่คำนึงถึงผู้ซื้อหรอกนะ ผมขายให้คนอื่นไปแล้ว 

Eloise - ใครซื้อไป?
ผู้นำสมาคม Silverpeak - พ่อค้าจากอีกฝากของทะเล เพื่อนของผมเอง ถ้าคุณอยากได้คำปลอบใจอ่ะนะ เขายืนกรานว่าพวก Bearers จะได้รับการดูแลอย่างดี ให้เสื้อผ้าดีๆ หรือแม้กระทั่งให้นอนเตียงอย่างดีขณะเดินทางกลับ นั่นแหละคือสิ่งที่คุณจะได้รับในการดีลกับผู้คนที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินใหญ่
Eloise - ชั้นไม่รู้จัก

ผู้นำสมาคม Silverpeak - โอ้ ใช่ วัฒนธรรมในทวีปของพวกเขาค่อนข้างจะต่างจากพวกเรา พวกเขายอมจ่ายอย่างงามกับพวก Bearers แต่ปฎับัติกับเขาอย่างกับราชา แต่ก็ยังไงก็ชั่ง ตราบใดที่เขาจ่ายเงินแล้ว ผมก็ไม่สนหรอก
Eloise - ฟังดูมัน .... ไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่เลยนะ แต่ก็นะถ้าเขาออกจากชายฝั่งเราไปแล้วชั้นก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ถ้างั้นชั้นก็ขออนุญาติเปลี่ยนข้อเสนอใหม่ก็แล้วกัน เรื่องที่จะให้ชั้นเข้าร่วมสมาคมของพวกคุณ ก็ถือว่า จบไป เหมือนกัน
ผู้นำสมาคม Silverpeak - เพื่อร่วมงานของผมคงเสียใจแน่ถ้าได้ยินแบบนี้ 

 

The Boklad Markets

 

Clive - เสียใจด้วยนะที่คุณช่วยพวกเขาเอาไว้ไม่ได้ 
Eloise - อืมม ชั้นคงต้องโทษตัวเองสถานเดียว พวกเขาพูดถูก คุณก็ได้ยิน สมาคม Silverpeak สนใจที่จะซื้อ Bearers พวกนั้นก่อนชั้นซะอีก พวกมันบอกเป็นนัยๆด้วยซ้ำเรื่องการขอแลกกับให้ชั้นไปเข้าร่วมสมาคมของมัน ซึ่งแน่นอนว่าชั้น ไม่เอาด้วยอยู่แล้ว ชั้นแกล้งเป็นสนใจจะเข้าร่วมเพราะอยากได้ข้อมูลของ Bearers พวกนั้น แต่ชั้นก็โง่ที่ดันไปคิดว่าพวกมันจะไม่รู้ทัน อย่างน้อยก็รู้ว่าใครเป็นคนซื้อพวก Bearers นั่นไป และถ้าสิ่งที่พวกมันพูดเป็นความจริงอย่างน้อยพวก Bearers นั่นก็ถูกปฎิบัติอย่างดี แต่พวกเขาก็ควรได้รับมากกว่านี้ ชั้นอยากให้พวกเขาเป็นอิสระมากกว่า 

คนส่งของ - Eloise! Eloise!! แย่แล้วครับ มีข้อความส่งมาจาก Kasjlok บอกว่าหมู่บ้านถูกโจมตี มันมีสัตว์ประหลาดที่มีหัวเป็นมังกรลงมาจากภูเขา Theo กับพวกพยายามต้านพวกมันเอาไว้ให้นานที่สุด แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล พวกเขาต้องการความช่วยเหลือด่วนเลยครับ !!

Eloise - Theo !!
Clive - ผมจะไปช่วยเขาเอง
Eloise - เดี๋ยวจะชั้นจะรวบรวมคนก่อนแล้วจะตามไปนะ ขอให้เขาปลอดภัยด้วยเถอะ !!!

 

⇴  Objective > เดินทางไปที่หมู่บ้าน Kasjlok

 

Clive - Theodore ล่ะอยู่ที่ไหน!?
ลูกน้องของ ธีโอดอร์ - เขาล่อไอ้มังกรนั่นไปที่ต้นน้ำเพื่อให้มันออกจากหมู่บ้าน แต่ที่นั่นมีแต่ eather ท่วมเต็มไปหมด !! เราก็ได้แต่ภาวนาให้เขาปลอดภัยเท่านั้นเอง !!
Clive - แต่ชั้นทำได้ดีกว่านั้น!  Torgal มาเถอะ !!

Clive - บ้าเอ้ย eather ท่วมหนาเกินไป พวกมอนสเตอร์ที่นี่กลายสภาพไปหมดแล้ว !!

Clive - จะมัวเสียเวลาไม่ได้แล้ว ชั้นต้องรีบหาตัว Theodore ให้เจอก่อนที่มังกรจะเจอเขา 


     ก๊าซซซซซซซซซ !!!!!

      Clive -  ...ดูเหมือนมันจะเจอชั้นก่อนซะแล้ว !!

                            BOSS - Herensuge 

 

Theodore - ไคลฟ์ ....
Clive - Theodore บ้าเอ้ย นายทำให้ชั้นห่วงแทบแย่ 

       Clive - ห๊ะ! …….. เราต้องรีบออกจากที่นี่ ด่วนเลย !!

Theodore - ชั้นคิดว่า มันไม่ทันแล้วล่ะ .... จะเป็น Bearer หรือไม่ aerher ที่นี่มันก็มากมายจนมนุษย์ไม่สามารถรับได้ และไอ้เจ้ามังกรนั่นก็กัดไม่ปล่อยเลยเหมือนกัน ...

Theodore - ชั้นต้องขอบคุณนายมากๆเลยนะ ที่ช่วยจบเรื่องที่ชั้นจบไม่ได้น่ะ 

     Theodore - เพื่อทำความฝันของ EL ให้เป็นความจริง ....

Theodore - อ๊กกกก อ๊าก !!!
Clive - Theo !!

                          Theodore - อ๊ากกกกก !!!

Clive - Theo ! อย่า!!
Theodore - อ๊าก !!!

       Clive - Theo ! อย่าบังคับให้ชั้นต้องทำแบบนี้เลยนะ !!

                     Eloise - หยุดนะ Theo ! หยุด !!!!!

    Clive - อย่าเข้ามา! Eloise! ไม่งั้นเธอกลายเป็นแบบนี้อีกคนแน่ !!

    Theodore - E …. El …..

Clive - Theo ?

Theodore - ดูแลพี่สาวชั้นด้วย ....

Clive - นายจะทำอะไร Theo ?

 

Theodore - ลาก่อนนะ ...EI....

Clive - เดี๋ยวก่อน Theo !

 

 

 

 

                         Eloise - Theo ! ม่ายยยยย !!!!!

                   Clive - รีบออกจากที่ก่อนเถอะ Eloise

 

The Boklad Markets

Eloise - ขอบคุณมากนะไคลฟ์ ชั้นไม่เป็นไรแล้วล่ะ ...
Clive - นั่นคือความกล้าหาญที่เขาแสดงออกมา การช่วยล่อมังกรออกจากหมู่บ้านก็เหมือนกัน  ...สัญชาติญาณแรกของเค้าคือปกป้องผู้คนก่อนเสมอ นึกถึงความอยู่รอดของคนอื่นมากว่าตัวเอง 

Eloise - และตอนนี้เขาก็จากเราไปแล้ว ...เพราะชั้นส่งเขาไปที่นั่น ทั้งๆที่เขาก็ไม่ต้องการแท้ๆ ....
Clive - ใครว่าไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เขาพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณเห็นว่าเขาพร้อมที่จะยืนด้วยขาตัวเอง เพื่อที่คุณจะได้ใช้ชีวิตของคุณเองเสียที 
Eloise -ใช้ชีวิตของชั้นเองงั้นหรอ ...เขาไม่เคยยอมรับในสิ่งที่ชั้นเลือกเลยต่างหาก ...
Clive - เกิดอะไรขึ้นหรอ? คุณเคยเล่าให้ฟังว่า Theo คือ Bearers คนแรกที่คุณช่วยเอาไว้ 

Eloise - พวกเราเติบโตที่ Kamver เราเกิดในบ้านพ่อค้าใหญ่โตหลังนึง และชั้นได้รับเลือกให้สืบทอดธุรกิจของครอบครัว แต่ Theo ไม่ใช่ ในขณะที่ชั้นศึกษาเรื่องการค้าขาย แต่ Theo ชอบเล่นเป็นทหาร เติบโตช้าแต่มั่นคง จนกระทั่งเขาอายุ 15 พลังของเขาก็ตื่นขึ้น พ่อแม่ของชั้นพยายามไล่เขาออกจากบ้านให้ไปอยู่ในการดูแลของพวกทหาร และก่อนที่พวกเขาจะทำได้ชั้นก็พาเขาหนีออกมาอยู่ในการดูแลของชั้นแทน

Clive - Theo บอกบางอย่างกับผม ...เขาชื่อชมการกระทำของคุณมากๆที่ช่วยปลดปล่อยคนแบบพวกเขาจากการเป็นทาส แต่คุณควรจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เขาต้องการที่จะปลดปล่อยคุณจากสิ่งที่เขาเรียกว่า พันธะของคุณ เช่นเดียวกับที่คุณปลดปล่อยเขาจากพันธะของเขา

Eloise - ชั้นคงจะต้องโกหกถ้าจะบอกว่าไม่เคยแอบคิดเลยว่า ชีวิตชั้นจะง่ายแค่ไหนถ้าชั้นปล่อยให้ Theo ถูกจับไปแต่แรกแล้วอุทิศตัวเองเพื่อธุรกิจครอบครัวแทน 

แต่ไม่เคยเลยซักครั้งที่ชั้นเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง การได้อยู่กับน้องชายของชั้นมีความหมายมากกว่าชื่อเสียงและเงินทอง ชั้นแค่ต้องนึกถึงเขาในวันนั้นเพื่อเตือนตัวเองว่า ชั้นจะเลือกแบบเดิมอีกครั้งตามที่หัวใจมันเรียกร้อง

Eloise - เขาไม่เคยเป็นภาระของชั้นเลยซักครั้ง เขาคิดแบบนี้ได้ไงก็ไม่รู้ ถ้ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ชั้นคงจะทิ้งเขาไปนานแล้วล่ะ 

Clive - ผมมั่นใจว่าคุณจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน Eloise และเขาจะขอบคุณคุณเสมอที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้  ทั้งคุณและ Theo ต่างก็ไม่มีใครเป็นภาระของใคร เพราะคุณทั้งคู่ต่างก็รักซึ่งกันและกัน เขาจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตด้วยกัน คุณเองก็เช่นกัน  

Eloise - ถูกของคุณ นั่นคือทั้งหมดที่ชั้นต้องการ และนั่นคือที่ชั้นทำมาตลอด ทั้งหมดก็เพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกัน ...โธ่ Theo ทำไมนายถึงต้อง

                    Eloise - ฮื้อออออออออออ !!!!

 

Eloise - ชั้นรู้ว่า Theo ต้องการให้ชั้นก้าวต่อไป แต่ชั้นจะอยู่ที่นี่ ที่ Crimson Caravan เพื่อสานต่องานของเรา เราสร้างความแตกต่างให้ที่นี่ได้ เราช่วยผู้คน และช่วยพวกเขาให้ปลอดภัยได้ ชีวิตของชั้นไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว ดังนั้นชั้นจะทำในสิ่งที่เราต้องทำต่อเพื่อให้แน่ใจว่า ผู้คน ... Bearers ได้ไปในพื้นที่ที่เขาต้องการได้อย่างปลอดภัย สร้างรอยยิ้มให้ผู้คนอย่างที่เคยทำมาตลอด และสำหรับ Theo ไม่ว่าตอนนี้เขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม อยากให้นายรู้ว่า นี่คือชีวิตที่ชั้นเลือกมาตลอด และจะเลือกแบบนี้ตลอดไป

Clive - ผมก็เลือกเส้นทางของตัวเองเหมือนกัน และจะสนับสนุนคุณต่อไปเท่าที่จะทำได้ และทุกๆอย่างที่คุณต้องการ

Eloise - ขอบคุณนะไคลฟ์ เราจะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน เพื่อ Theodore 

 

                      Crimson Caravan Signboard 

ป้ายสัญลักษณ์ของ Crimson Caravans ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองตลาด Boklad เป็นรูปโชโคโบะที่เต็มไปด้วย ภาระ หลังจากการตายของ Theodore น้องชายของเธอ Eloise เลือกที่จะสานต่องานที่พวกเขาเริ่มต้นร่วมกัน เพื่อปลดปล่อย Bearers จากการเป็นทาส เช่นเดียวกับที่เธอได้ ปลดปล่อยเขาเมื่อหลายปีก่อน

 

 

                          📗 SideQuest: Duty Undying 

 

 

⇴Objective > เดินทางไปที่หมู่บ้าน Tabor

 

 

Cyril - ลอร์ด ลอสฟิลด์ มีอะไรให้ Undying รับใช้ในวันนี้งั้นหรอครับ?

Clive - ก็อาจจะ น้องชายผมบอกว่า หน้าที่ของพวกคุณคือ ภารกิจค้นหาคำตอบเรื่องต้นกำเนิดของ Ultima ถึงตอนนี้มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมบ้าง?

Cyril - ได้ข้อมูลมาน้อยมากครับ ผมเสียใจที่ต้องรายงานแบบนี้ แต่ยังไงก็ตาม พวกเราก็จะไม่หยุดจนกว่าความจริงจะเปิดเผย ตอนนี้นักโบราณคดีของเรากำลังค้นหาทุกซากโบราณสถานที่แห่งของอาณาจักรเพื่อหาร่องรอยของมันอยู่อย่างแข็งขัน 

Clive - ซากโบราณสถาน ชั้นเคยเจอมันตอนที่กลับไปที่ Phoenix Gate ก็เห็นร่องรอยของมันอยู่เหมือนกัน ทำให้เราแน่ใจว่าร่องรอยของ Ultima จะสามารถพบเห็นได้ในซากอารยธรรมของพวก Fallen แน่นอน 

 

 

Cyril - ราวกับมันเป็นที่สำหรับปกป้องความลับให้ถูกซ่อนอยู่ 

Clive - ความลับที่เราต้องเปิดเผยให้ได้โดยเร็วด้วย

Cyril - การทำงานของเราก็น่าสนใจเหมือนกันนะ ไม่ทราบว่านายท่านสนใจจะเข้าไปชมการทำงานที่หน้างานดูมั๊ย?

Clive - ได้ด้วยหรอ?

Cyril - ได้สิครับ ทีมสำรวจกำลังทำงานอยู่ที่ซากโบราณสถานที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก บางทีคุณอาจจะรู้จัก Kretov หมู่บ้านเล็กๆที่สร้างขึ้นรอบๆซากยานเหาะโบราณ ผมว่าจะไปเยี่ยมเพื่อนร่วมงานที่นั่นเพื่อเก็บข้อมูลพอดีเลย แต่ถ้าคุณจะไปเอง พวกเขาต้องยินดีมากๆที่ได้รับเกรียติในการส่งมอบข้อมูลเหล่านั้นให้กับคุณโดยตรงเลย 

Clive - ได้สิ ผมจะไปพบพวกเขาที่นั่นเองก็แล้วกัน 

Cyril - พวกเขาต้องยินดีมากๆแน่นอน ผมมั่นใจ ผมแนะนำให้คุณเดินทางไปทางเส้น Titan’s wake นะครับ คุณเคยใช้เส้นทางนั้นมั๊ย? มันจะพาคุณตรงไปยังหมู่บ้านได้เลยโดยไม่ต้องใช้เวลาเดินทางนาน 

Clive - ได้เลย ตามนั้นก็ได้

Cyril - เดินทางปลอดภัยนะครับนายท่าน ขอให้เปลวเพลิงแห่งนกไฟลุกโชนในใจคุณตลอดไป 

 

 

⇴Objective > เดินทางไปที่หมู่บ้าน Kretov โดยใช้เส้นทาง Titan’s wake ซึ่งเป็นเส้นทางเปิดใหม่ทางใต้ของหมู่บ้าน Tabor 

 

 

                                    หมู่บ้าน Kretov

 

 

          Clive - บ้าเอ้ย!  ไม่นะ !! …… พวกแกต้องชดใช้ !!!

 

 

                             กำจัดฝูง Fallen Echo ให้หมด 

 

 

Clive - เอาล่ะ น่าจะหมดแล้วนะ .... ที่คงจะเป็นเพื่อนร่วมงานของ Cyril

 

 

นักโบราณคดีของ Undying - พวกเราต้องขอขอบคุณคุณมากนะครับ คนแปลกหน้า 

Clive - พวกคุณคือ...?

นักโบราณคดีของ Undying - อ่า เราต้องขอโทษด้วยนะนายท่านที่จำท่านไม่ได้ ท่านคือ ลอร์ด รอสฟิลด์ ใช่มั๊ยครับ? พวกเราคือนักโบราณคดีที่ได้รับมอบหมายให้มาสำรวจพื้นที่นี้ แต่พอพวก echoes ปรากฎตัวขึ้นมาพี่น้องของเราก็เป็นเป้าโจมตีของมันทันที ซึ่งต้องขอบคุณพวกเขาแล้วก็นายท่านด้วยสำหรับความเมตตา เราจึงสามารถทำงานต่อได้ 

Clive - พวกคุณเรียกสิ่งนั้นว่า ความเมตตา งั้นหรอ? พี่น้องคุณอาจยังไม่ตายถ้าพวกคุณช่วยพาเขาไปที่ปลอดภัยก่อนที่จะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย การสำรวจนี่มันคุ้มค่าที่จะตายเลยหรอ?

 

 

นักโบราณคดีของ Undying - พวกเรามีหน้าที่เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับต้นกำเนิดของ Ultima ซึ่งเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุด และผมแน่ใจว่านายท่านต้องเห็นด้วยแน่นอน 

Clive - คุณคิดว่าผมจะเห็นด้วยกับการตายของพี่น้องคุณเนี่ยนะ?

นักโบราณคดีของ Undying - แน่นอนว่าผมคิดว่าพวกเขาก็จะคิดเหมือนกัน พวกเขาเสียสละเพื่อจุดประสงค์อันยิ่งใหญ่อันเป็นเกรียติแก่ Undying และตอนนี้ เราก็เป็นหนี้เกียรติคุณในการสถิตอยู่ของคุณ ทำไมนายท่านถึงรู้และมาที่นี่ได้งั้นหรอ?

 

 

Clive - Cyril บอกว่าพวกคุณกำลังทำงานอยู่ที่นี่ และผมก็เลยเดินทางมารับข้อมูลที่คุณค้นหาได้แทนเขาด้วย ซึ่งผมเห็นแล้วว่ามันต้องแลกมาด้วยอะไร โปรดอธิฐานให้พวกเขาด้วย ด้วยความขอบคุณยิ่งจากพวกเรา 

นักโบราณคดีของ Undying - นี่คับข้อมูลที่เราค้นพบได้ที่นี่ .... ขอให้เปลวเพลิงแห่งนกไฟลุกโชนในใจคุณเฉกเช่นที่ลุกโชนในใจของพวกเรา ...

 

 

การสละชีวิตเพื่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดมันก็เรื่องนึง แต่เพื่อการสำรวจเนี่ยนะ ? 

 

 

 

หมู่บ้าน Tabor

 

 

Cyril - อ่า กลับมาแล้วหรอครับนายท่าน? 

Clive - ผมเอาผลการค้นพบในเบื้องต้นของพวกเขามาให้ด้วย เอานี่ ...

Cyril - ขอบคุณอย่างสูงนายท่าน ผมจะรีบศึกษามันให้ถ่องแท้แล้วจะรีบแจ้งให้นายท่านรู้ทันทีถ้าเจอข้อมูลใดๆก็ตามที่เป็นประโยชน์ในการให้คุณสามารถต่อกรกับ Ultima ได้ 

Clive - Cyril … ทีมสำรวจของคุณหลายคนสูญเสียที่ Kretov ด้วยนะ และความสูญเสียพวกนั้นจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าคนที่เหลือไม่ได้รับคำสั่งให้ทำงานให้เสร็จแทนที่จะช่วยเหลือพวกฟ้องตัวเอง นั่นเป็นคำสั่งของคุณหรือเปล่า?

 

 

Cyril - เปล่าครับ นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาเลือกเอง Undying ทุกคนเลือกแล้วที่จะอุทิศชีวิตให้กับฟินิกซ์ มันเป็นหน้าที่ของเราและความตายก็คือการปลดระวางจากหน้าที่นั้น 

Clive - แม้ความตายนั้นสามารถหลีกเลี่ยงได้งั้นหรอ?

Cyril -นายท่าน ผมเกรงว่านี่ไม่ใช่ประเด็นสำหรับการโต้แย้งเพื่อให้เกิดผลนะครับ  Undying ทุกคนเลือกแล้วที่จะอุทิศชีวิตให้กับฟินิกซ์มาหลายชั่วอายุคน ซึ่งความเห็นของคุณต่อให้มันจะจริงแค่ไหน ก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงมันได้ เรามีชีวิตอยู่เพื่อรับใช้ฟินิกซ์ คำสั่งของเรามันมีเพื่อจุดประสงค์นั้น จุดประสงค์เดียวเท่านั้น 

 

 

Clive - Cyril ผมรู้ว่าคุณกับพวกฟ้องของคุณขานรับต่อคำสั่งของโจชัวร์เท่านั้น แต่ผมก็ขออนุญาตที่จะแนะนำก็แล้วกัน มันไม่มีเหตุผลที่ต้องให้ผู้ที่อุทิศตนเพื่อฟินิกซ์อย่างภัคดีต้องสละชีวิตตัวเองโดยไม่มีเหตุอันสมควร ดูแลทีมสำรวจของคุณเพื่อที่พวกเขาจะได้มีชีวิตอยู่เพื่อทำหน้าที่ไปนานๆ อย่าเพียงแต่คิดแต่จะรับใช้ฟินืกซ์ได้ยังไงอย่างเดียว แต่ต้องคิดว่าโจชัวร์อยากให้คุณรับใช้เขายังไงด้วย ได้โปรด เพื่อประโยชน์ของพวกเราทุกคน 

 

 

Cyril -ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับนายท่าน หากคุณอนุญาตให้ผมแสดงความเห็น ศรัทธาของพวกเราที่มีต่อนายท่าน โจชัวร์ รอสฟิลด์นั้นชัดเจนไม่อาจเปลี่ยนแปลง และเรา Undying จะทำในสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องเพื่อทำหน้าที่ของเราต่อนายท่านโจชัวร์ให้สำเร็จ เฉกเช่น First shield แห่งฟินิกซ์ ซึ่งผมแน่ใจว่าคุณเข้าใจความหมายของการกระทำนั้นดี 

Clive - ชั้นเข้าใจ ...

Cyril - งั้นเราก็มีจิตใจเดียวกัน และเราก็หวังว่าเราจะได้ทำหน้าที่นั้นร่วมกันต่อไปนะครับ 

 

                                   The Hideaway 

 

 

                          Bennumere, Central Storm

 

 

Clive - อาการเป็นไงบ้าง โจชัวร์? 

Joshua - ดีกว่าที่เคยครับ 

 

 

Tarja - แต่ยังห่างไกลกับคำว่า ดี ที่นายควรจะเป็นเยอะเลย บาดแผลกับรอยไหม้อาจหายดีแล้ว แต่ร่างกายของนายต้องรับภาระหนักมากตอนใช้พลังเวทย์

Joshua - แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง? ก็ศัตรูที่เราเผชิญหน้าอยู่มันไม่ใช่ศัตรูธรรมดา มันผู้ควบคุมความมืดเลยนะ ซึ่งยังแทบสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำ ราชา Barnabas จะฆ่าเราเมื่อไหร่ก็ได้แต่กลับเล่นเหมือนแมวล่าหนูยังไงยังงั้น 

 

 

Clive - นายก็ประเมินตัวเองต่ำเกินไปนะ 

Joshua - โธ่ พี่ก็เห็นๆกันอยู่ มีชายแค่หนึ่งเดียวที่สามารถสถาปณาตัวเองขึ้นมาเป็นราชาได้ คนๆนั้นก็คือ Barnabas ….โทษทีครับพี่ที่ต้องพูดออกไปแบบนี้ ..ผมก็แค่ ..ไม่เคยรู้สึกไร้พลังขนาดนี้มาก่อน โดยเฉพาะตอนที่คนจำนวนมากหวังพึ่งความแข็งแกร่งของเรา ... บางที 

 

....บางทีเจ้าชายอาจเป็นเหมือนกัน ...

 

 

            สลัมแห่งนึงใน The Crystalline Dominion

 

 

 

 

 

                      Dion - อ่า .... นี่มันที่ไหนกันเนี่ย .... ?

 

 

                  เด็กขายยา - ห๊ะ? อย่าเพิ่งขยับตัวนะคะ !!

 



               เด็กขายยา - นี่ค่ะ น้ำสะอาดอย่างดีเท่าที่จะหาได้

 



เด็กขายยา - คุณยายหนูเล่าให้ฟังว่า บางครั้งวิญญาณก็หลงทางได้ และโคมไฟก็จะนำพวกเขากลับมายังที่ที่เหมาะสม 

 

 

                  ชั้นก็ลอยมันลงบนน้ำเพื่อเธอ ยามเธอจากไป 

 

 

Dion - ปีศาจทำงานจากเงามืด …. แกเป็นคนบงการให้ชั้นทำสินะ Ultima?  ไม่สิ ไม่ใช่แก แต่เป็นชั้นเอง ความผิดของชั้น บาปที่ชั้นต้องแบกรับ และเพื่อการนี้ ชั้นจึงต้องชดใช้ 

 

 

เด็กขายยา - อาการบาดเจ็บของคุณกำลังหายดีแล้วค่ะ ยาพอกนั่นชั้นทำเองแหละ ดีจังที่เห็นคุณดีขึ้น

Dion - เธอทำมันเองเลยหรอ?

เด็กขายยา - หนูทำขายน่ะ ก็พยายามจะขายอยู่ แค่ได้ค่าขนมปังประทังชีวิตไปวันๆก็พอแล้วล่ะ

Dion - ต้องขอโทษด้วยนะ คือ ตอนนี้ชั้นไม่เงินติดตัวเลยน่ะ...

เด็กขายยา -

เด็กขายยา - หนูรู้ค่ะ แต่หนูก็ปล่อยคุณนอนตายอยู่ตรงนั้นไม่ได้หรอก 

 

 

เด็กขายยา - คุณจะไปแล้วสินะคะ ?

Dion - แน่นอน ก็ชั้นหายแล้วนี่ เพราะเธอรักษาชั้นไง แล้วก็ต้องขอบคุณยาพอกแผลของเธอมากๆนะ 

เด็กขายยา - สัญญาได้มั๊ยว่าคุณจะแวะมาเยี่ยมหนูอีก?

 




         Dion - ฟีนิกซ์ ... ดูเหมือนปีกของชั้นเป็นหนี้นายอยู่นะ ....

 

 

 

        The Hideaway

 

 

Joshua - บางที เขาอาจจะได้คำตอบแล้วก็ได้ ...พี่กำลังจะเตรียมกับไปที่ Waloed อีกเร็วๆนี้สินะ ผมไปด้วยได้มั๊ย?

Clive - ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องรอนี่ 

Joshua - งั้นผมไปด้วย 

 

 

Tarja - ว่าแล้ว ..... แต่ชั้นกะว่าพวกเขาน่าจะห้ามคุณซะอีก เอาเถอะ ยังไงก็อย่าลืมเอายาของนายติดตัวไปด้วยล่ะ  

Joshua - ผมไม่ลืมแน่นอน หมอ 

Mid - เตรียมพร้อมเดินทางกันยัง!?

 

 

Clive - ต้องใช้เวลาอีกนานมั๊ยกว่าที่เรือของเธอจะพาชั้นไปฝั่ง Ash ได้?

Mid - ก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะประมาณที่รามาที่นี่ล่ะมั้ง ? หรืออาจจะน้อยกว่าถ้าลุงคุณหาช่างเก่งๆมาซ่อม Enterprise ได้เร็วๆอ่ะนะ แล้วก็มันอยู่ที่ว่าเราจะเข้าท่าเรือจากที่ไหนด้วย 

Jill - ใช่ ที่ฝั่งนั้นเราเลือกไม่ได้หรอกนะว่าจะขึ้นฝั่งที่ไหนก็ได้น่ะ เราต้องสันนิฐานไว้ก่อนเลยว่าคนของฝั่ง Ash ทั้งหมดเป็นศัตรูและเราอาจถูกโจมตีทันทีที่พวกมันเห็นได้ 

Clive - งั้นเราก็ต้องหาท่าเรือที่เหมาะในการขึ้นฝั่ง Ash โดยไม่มีใครเห็น ซึ่งชั้นพอจะรู้แล้วว่าควรจะไปถามใคร 

Mid - อาจารย์น่ะหรอ งั้นชั้นจะบอกเธอแล้วกันว่าคุณจะไปคุยด้วย 

 

 

Joshua - ในขณะที่พี่กำลังวางแผนเกี่ยวกับเส้นทางการเดินทางของเรา ผมคงต้องแวะเข้าห้องสมุดหน่อยพอดีอยากจะปรึกษาท่านปราชญเกี่ยวกับ Ultima เพิ่มเติมหน่อย 

Jill - ส่วนชั้นจะไปบอกป้า Charon ให้เตรียมเรื่องสเบียงเอาไว้ให้พอ เพราะที่ฝั่ง Ash น่าจะหาไอเทมอะไรต่ออะไรไม่ได้ง่ายๆแน่นอน 

 

 

Tarja - ร่างกายของน้องชายคุณใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว เรื่องนี้คุณรู้ใช่มั๊ย?

Clive - ผมรู้ครับ ….

 

 

Vivan - อ่า ไคลฟ์ ก็ว่าอยู่ว่าเมื่อไหร่คุณจะมาซะที โปรดบอกให้ดีใจหน่อยว่าคุณจะช่วยพายัยหนูอัจฉริยะนี่ไปจากชั้นซะที 

Clive - เปล่าครับ ผมมาที่นี่เพื่อจะถามข้อมูลเรื่องฝั่ง Ash กับคุณน่ะ

Vivan - แล้วทำไมไม่ไปถาม Molly ล่ะ บางทีคุณอาจจะดูในเตาอบอันใดอันหนึ่งของเธอได้

Clive - ทันทีที่ เอนเตอร์ไพรซ์ซ่อมเสร็จเราก็จะเดินทางไปที่ Drake’s Spine กันแล้ว แล้วเราจะต้องหาจุดที่ปลอดภัยในการขึ้นฝั่ง Ash 

Mid- และควรเป็นที่ที่เรือชั้นจะเข้าเทียบท่าได้โดยไม่โดนระเบิดเป็นชิ้นๆซะก่อนด้วย 

Vivan - ถ้ามันง่ายขนาดนั้นแล้วเธอคิดว่า Waloed ต้านการรุกรานของศัตรูมายาวนานขนาดนี้ได้ยังไง ห๊ะ?  ไม่มีใครรู้จัก Ash ดีพอหรอกและข้อมูลที่เรามีก็ล้าสมัยมากแล้วด้วย ซึ่งก็ต้องขอบคุณราชา Barnabas ผู้แสนดีที่ปิดพรมแดนของ Waloed ไว้ตั้งแต่เขาขึ้นครองบัลลังย์ ซึ่งหากจะพูดเรื่องจุดปลอดภัยในการขึ้นฝั่งรับรองว่ามันคงไม่มีอยู่ในแผนที่ของชั้นแน่นอน 

Clive - งั้นก็แค่บอกทุกอย่างที่คุณรู้ก็พอครับ ผมมั่นใจว่าคุณต้องรู้มากกว่าเราแน่นอน 

Mid- และขอแบบไม่ถูกระเบิดเป็นชิ้นๆด้วยนะ

Vivan - ก็ได้ๆ ถ้ามันจะทำให้พวกคุณเลิกตอแยกับชั้นซะที แล้วก็บอกยัยหนูอัจฉริยะอย่าขัดจังหวะชั้นจนกว่าจะพูดจบด้วย !! เข้าใจ๊ !?

 

 

Vivan - Barnabas Tharmr หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ ราชาองค์สุดท้าย ถ้าพวกคุณเข้าใจเขาก็จะเข้าใจ Waloed ... Barnabas ยังเป็นเด็กตอนที่เขามาจากทะเลทางใต้ ก่อนที่เขาจะรวบรวมเผ่าต่างๆที่กระจัดกระจายบนฝั่ง Ash จนเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งๆที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ และหลังจากปลดปล่อยพวกเขาบน Veldermarke ที่น่าเกรงขามแล้ว เขาก็ตั้งบัลลังก์ของเขาบนซากปรักหักพังของอณาจักรโบราณนั่นตั้งแต่ตอนนั้น ชัยชนะที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้ง Valithea จากชื่อเสียงที่แพร่กระจายของ โอดิน 

 

 

นั่นคือในช่วงปี 843  และการที่กษัตริย์ยังประทับบนบัลลังก์ของเขาในอีก 40 ปีต่อมาโดยไม่ถูกแตะต้องจากกาลเวลาใดๆ และการเมินเฉยต่อสถานการณ์ก่อนหน้านี้ ทำให้ผู้คนสงสัยว่า โอดิน สูญสิ้นความกระหายในสงครามแล้วหรือไร? ...จนถึงตอนนี้  Einherjar กลับมุ่งมั่นที่จะต่อสู้ซึ่งเป็นการประกาศเจตนารมณ์อย่างกล้าหาญ

 

 

เหล่า Orcs รุมล้อม Drake’s Fang ในขณะที่ Akashic เต็มถนน Kanvers แม้ว่าความเสียหายจะเกิดขึ้นกับ Waloed ไม่ต่างกัน แต่จะรุนแรงแค่ไหนไม่มีใครรู้ได้เลย แม้ไม่มีแม้คำสั่งใดๆจากราชา Barnabas แต่มีสิ่งนึงที่เกิดขึ้นแน่ๆ คือ เป็นไม่ได้เลยที่ Waloed จะไม่เกี่ยวของกับพวกสัตว์ร้ายและ aether ที่ท่วมเข้ามาอย่างมากมาย ทั้งหมดมันบอกคุณได้ว่า เมื่อคุณเข้าไปฝั่ง Ash นั่นแปลว่าคุณกำลังจะเข้าไปในดินแดนที่คุณไม่เคยรู้จักมาก่อนอย่างแท้จริง

 

 

พื้นที่ส่วนใหญ่บนฝั่ง Ash ถูก Blight กลืนกินไปจนเกือบหมดแล้ว เหลือที่ที่คนยังสามารถอาศัยอยู่ได้ไม่กี่แห่งและมันถูกระวังป้องกันอย่างเต็มที่ ยังไม่รวมการระวังป้องกันจากธรรมชาติ กระแสน้ำนอกชายฝั่งที่แปรปรวนอย่างบ้าคลั่งซึ่งทำให้เรือที่ไม่แข็งแกร่งพอถูกซัดไปกระแทกโขดหินล่มได้ไม่ยาก แต่ Enterprise ก็เป็นมากกว่าเรือที่ไม่แข็งแกร่ง และ Mid ก็เคยเข้าไปจอดที่นั่นมาก่อนด้วย ซึ่งถ้าจะถามว่าใครที่รู้จัก Shadow Coast ได้ดีที่สุดที่จะพาเหล่าสุภสพบุรุษที่กล้าหาญขึ้นฝั่งนั่นได้ในตอนนี้ก็คือ Mid 

 

Vivan - ตอนนี้คุณคงได้คำตอบที่อยากได้หมดแล้วนะไคลฟ์ 

 

 

Clive - เธอคิดว่าจะกลับไปจอดที่ชายหาดนั่นอีกครั้งไหวมั๊ย Mid ?

Mid - ไปส่งคุณที่นั่นอ่ะนะ? มันก็ไม่ง่ายต้องเดากระแสน้ำให้ถูกด้วย แต่ก็ไม่ได้ยากจนทำไม่ได้ และก็คุ้มค่าที่จะทำด้วยจริงมั๊ย?

Clive - พูดอีกก็ถูกอีก ...

 

 

Clive - ขอบคุณมากนะวิเวียน

Vivan - ถ้าการหาความรู้ของคุณคือการถามนู่นนิดนี่หน่อยในโรงเตี้ยม ชั้นก็เริ่มสงสัยแล้วว่าถ้าการให้สติปัญญาแบบจริงจังของชั้นคงสร้างร้ายได้อย่างามแน่นอน 

Clive - เอาไว้จะมาถามใหม่ก็แล้วกันนะ 

 

 

... Mid ชั้นอยากให้เธอไปบอกทุกคนที่จะเดินทางมาประชุมกันที่ห้องโถงหน่อย เดี๋ยวชั้นไปตามโจชัวร์ที่ห้องสมุดเสร็จจะตามไป 

Mid - รับทราบค่า กัปตัน !!

 

 

Clive - ไง โจขัวร์ ได้เรื่องอะไรบ้าง?

Joshua - ไคลฟ์ พี่ต้องลองฟังนี่ ท่านปราชญ์ พูดให้เขาฟังหน่อย

Harpocrates -คุณจำได้มั๊ยตอนที่เราพูดถึง ความเป็นเทพเจ้าของ Ultima ก่อนหน้านี้ มันก็เลยทำให้ชั้นอยากค้นคว้าเพื่อเจาะลึกเรื่องนี้มากขึ้น และการค้นพบของชั้นก็ดูเหมือนจะฟ้องกับการค้นพบของนายท่าน โจชัวร์ ด้วย

Joshua - พี่คงรู้นะว่าภารกิจหลักๆของผมก่อนหน้านี้คือค้นหาต้นกำเกิดของ Ultima เริ่มจากภาพฝาพนังที่ Phoenix Gate แม้ว่าจะไม่รู้มาก่อนเลยว่ามันสำคัญ แต่ความลับของมันก็ซ่อนอยู่ตรงหน้าเรามานานแล้ว และตอนนี้ชั้นรู้แล้ว่าจะหาตัวอย่างที่สมบูรณ์ได้ที่ไหน สิ่งนี้จะเปิดเผยความจริงในสิ่งที่เราตามหากันมานาน 

 

 

Harpocrates - นายท่านไคลฟ์ ตลอดการเดินทางที่ผ่านมาคุณเคยได้ยินชื่อ Circle of Malius บ้างมั๊ย? ผมเดาว่าคงไม่ หรือก็แค่ได้ยินมาบ้าง แต่ในครั้งนึงที่ศรัทธายังเจริญรุ่งเรือง มันคือศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดใน Twin แม้ว่าในท้ายที่สุดมันจะเสื่อมความนิยมในฝั่ง Storm ก็ตาม แต่ความเชื่อก็ยังฝังรากอยู่ในศรัทธาของยุคใหม่เช่น Crystalline Orthodox

 

 

Clive - เดี๋ยวนะ คุณบอกว่ามันเริ่มจางหายไปจากฝั่ง Storm ..แล้วฝั่ง Ash ล่ะ? 

Joshua - อณุสรณ์สถานทางศาสนามักจะถูกรื้อถอนเมื่อมีศรัทธาใหม่ๆเกิดขึ้นมาแทน แต่หากในพื้นที่นั้นยังไม่มีศรัทธาใหม่ๆเกิดขึ้นอณุสรณ์สถานทางศาสนาเดิมๆน่าจะยังคงอยู่ และตอนนี้พี่คงรู้แล้วสินะว่าทำไมผมถึงต้องขอตามไปที่ Waloed ด้วย  

Harpocrates - ดูเหมือนอดีตยังมีอะไรที่ให้สอนเราอีกมาก แม้แต่ในเคสนี้ก็เช่นกัน มันจะเป็นไปไม่ได้เลยหากปราศจากขุดค้นเส้นทางจากประวัติศาสตร์ ชั้นคิดว่าคุณควรพกสำเนาของเอกสารพงศาวดารของที่ผูชี้แนะเก่าของชั้นไปด้วยนะ อย่างน้อยชั้นก็รู้สึกโล่งใจที่รู้ว่ามันอยู่ในมือคนดี 

Joshua - ผมจะปกป้องรักษามันด้วยชีวิตเลยครับ 

Clive - โจชัวร์ เสร็จธุระที่นี่แล้วก็ไปหาพี่ที่ห้องโถงหน่อยนะ เราจะประชุมกันก่อนออกเดินทางนิดหน่อย

 

 

Clive - เอาล่ะ ตอนนี้ทุกคนคงจะรู้แล้วว่าเรากำลังจะไปไหนและเพื่ออะไร ฉะนั้นผมจะไม่พูดอะไรให้มากความ แต่จะเน้นสิ่งที่สำคัญเท่านั้นพอ ถ้าเราพยายามจะเข้าใกล้ Stonhyrr จากทางทะเล มีโอกาสสูงมากที่จะโดนพบเห็นและถูกโจมตีได้ ดังนั้นเราจะลงที่ชายฝั่งทางตะวันตกแล้วเดินเท้าต่อไปยัง Drake’s Spin แทน 

 

 

Clive - ซึ่งผมจะบอกว่า มีแนวโน้มที่สูงมากที่ Ultima ได้ครอบงำฝั่ง Ash ไว้จนหมดแล้ว หากเราทำอะไรที่เป็นจุดสนใจมากไปคงจะดึงดูดสิ่งไม่พึงประสงค์มาหาเราแน่นอน ซึ่งหาเราไปกันหลายคนจะทำให้การเดินทางได้ช้าลง และด้วยเสบียงที่น่าจะหายากที่นั่น น่าจะไม่เป็นการดีกับพวกเรานัก ผมจึงคิดว่า ผมกับโจชัวร์จะไปที่นั่นกันสองคนเท่านั้น 

 

 

Clive - และ หน่วยสอดแนมที่ดีควรทำไง นายรู้นะ Gav? 

Gav - แน่นอน ชั้นรู้อยู่แล้วน่า แต่คงต้องยืมแผนที่ของอาจารย์วิเวียนเอาไว้กันเหนียวด้วย

Clive - เมื่อส่งพงกเราลงที่ Shadow Coast แล้ว พวกนายก็รีบถอนตัวไปที่น่านน้ำที่เป็นกลางและพยายามอย่าให้ใครเห็นด้วย และถ้าเกิดมีภัยขึ้นมาให้รีบกลับไปที่ฝั่ง Storm ทันที

Mid - ทำไมชั้นรู้สึกว่าเหมือนกำลังทิ้งใครบางคนไว้ข้างหลังก็ไม่รู้? เอาเป็นว่า เราของชั้นจะไม่ไปไหนถ้าไม่มีนายถือแก้วเหล้ายืนฉีกยิ้มอยู่บนดาดฟ้าเรือ โอเคนะ 

Clive - จิล Enterprise อาจจะดึงดูดความสนใจของพวก ลอยัลลิสต์หรือไม่ก็พวกโจรสลัด เธอต้องพยายามหยุดใครก็ตามที่พยายามจะขึ้นเรือด้วยนะ 

Jill - ไม่ต้องห่วงชั้นจะดูแลเรือและลูกเรือทุกคนอย่างดี เราทุกคนจะกลับบ้านพร้อมกัน 

Joshua - แต่ ....เอ่อ ก็ดีเหมือนกัน 

Clive - เอาล่ะ ถ้าไม่มีคำถามอะไรแล้ว เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปเจอกันที่ท่าเรือ

 

 

Otto - ถ้าคุณจะไปแล้วก็บอกด้วยนะ ผมมีอะไรจะพูดกับคุณนิดหน่อยก่อนไป

Clive - ได้สิ 

 

                     The Hideaway SideQuest Unlock !

 

 
 

 

                      📗  SideQuest: Phoenix, Heal Thyself 

 

 

 

Clive - Jote เป็นอะไรหรอ? ถ้าเธอปัญหาอะไรบอกชั้นได้นะ ชั้นอาจช่วยเธอได้ก็ได้ 

Jote - นายท่าน ใช่ ...ใช่ค่ะ บางทีคุณอาจจะช่วยได้ ...เรื่องน้องชายของคุณ ตอนนี้อาการเขาแย่ลงเรื่อยๆ แม้ว่าจะพยายามจะปกปิดมันอย่างเต็มที่ แต่รอยโรคร้ายบนหน้ าอกมันเจ็บมากขึ้นในแต่ละวัน 

Clive - ชั้นเองก็กลัวอยู่เหมือนกัน 

Jote - มันมียาอายุวัฒนะบางชนิดที่สามารถบรรเทาความเจ็บปวดของผู้ถูกสาปได้ แต่ ...

Clive - แต่ อะไรหรอ?

Jote - แต่ในเคสของน้องชายคุณมันหนักกว่านั้น ยาที่ชั้นเตรียมไว้เริ่มจะไม่เป็นผลอีกแล้ว จนชั้นปรึกษากับ Tarja และสหายของชั้นในกลุ่ม Undying ก็บอกว่ามียาอีกตัวที่ให้ผลที่รุนแรงกว่า และโชคดีที่ชั้นค้นหาสูตรมาจนได้มีส่วนผสมบางตัวที่หายากมาก และของที่เคยมีเก็บไว้ก็เริ่มจะหมดแล้ว ถ้าเราไม่หาเพิ่มให้ทัน เกรงว่าความเจ็บปวดของน้องชายคุณจะเพิ่มขึ้นจนเกินเยียวยา นายท่านค่ะ ชั้นรู้ดีว่ามิบังอาจที่จะขอให้คุณช่วย แต่ เพื่อน้องชายของคุณ พอจะช่วยได้มั๊ยคะ?”

 

 

Clive - เพื่อโจชัวร์ ได้ทุกอย่าง 

Jote - ขอบคุณคะนายท่าน

Clive - แล้วส่วนผสมที่สำคัญที่ว่าคืออะไรหรอ?

Jote - มันเป็นสมุนไพรที่หายากที่เรียกว่า Stonawort ค่ะ ซึ่งมันจะเติบโตเฉพาะในจุดที่มี aether หนาแน่นเท่านั้น ซึ่ง aether ที่สะสมในลำตันมันจะช่วยต่อต้านคำสาปได้ เราค้นหาจนพบที่นึงที่โรซาเรีย แต่ตอนนี้ aether เข้าท่วมจนไม่สามารถเข้าไปได้แล้ว เราได้ลองค้นหาที่ใหม่แล้ว แต่ยังไม่เจอที่อื่นเลยนอกจากที่นี่ 

Clive - สรุปว่าแค่เข้าไปเก็บ Stonawort นี่ได้ใช่มั๊ย? แล้วมันไม่ได้รับอันตรายจาก aether เลยหรอ? 

Jote - ใช่ค่ะ 

Clive - งั้นชั้นไปเอาให้เอง

Jote - แต่ นายท่าน ...

Clive - ก็ในเมื่อ Stonawort ที่ขึ้นที่นี่เป็นทางเลือกเดียวในขณะที่ยังหาที่อื่นไม่ได้ และผมเป็น Dominant aether ไม่สามารถทำอันตรายได้ 

 

 

Jote - ก็ได้ค่ะ ... Stonawort มีลักษณะเป็นต้นสีแดงเหมือนเลือด ขึ้นอยู่แถวๆ ท่อระบายน้ำ ลองหาดูต้องเจอแน่นอน ส่วนชั้นจะเตรียมส่วนผสมอื่นๆไว้รอ 

 

 

⟴Objective > เดินทางไปที่พื้นที่ Three Reeds 

 

 

เข้าไปในเขต Trans-Rosarian Aqueduct ทางใต้ของ Three Reeds 

 

 

                       จัดการฝูง Akashic ในพื้นที่ให้หมด 

 

 

             เก็บ Stonawort ทั้ง 3 ต้นในพื้นที่แล้วนำไปส่งให้ Jote 

 

 

 

The Hideaway

 

 

Clive - Jote ผมเอา Stonawort ที่คุณตามหามาให้แล้ว นี่ใช่มั๊ย? หวังว่าจะพอนะ?

 

 

Jote - นี่แหละค่ะ ใช่เลยนายท่าน ชั้นว่าน่าจะพอใช้ไปจนกว่าเราจะเจอที่ใหม่ได้ค่ะ 

Clive - ชั้นดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะ 

Jote - คุณกับน้องชายของคุณนี่เหมือนกันจริงๆเลยนะคะ คุณมักจะคิดว่าจะช่วยเหลือคนอื่นยังไงโดยไม่สนถึงอันตรายที่จะมาถึงตัวเอง 

 

 

Clive - ก็ยังไม่เท่าที่เธอทำเพื่อน้องชายชั้นหรอกนะ เธอเสี่ยงชีวิตเพื่อเขามามากมายหลายครั้ง ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ

Jote - เป็นเกรียติมากถ้าคุณพูดแบบนั้น แต่ ชั้นขอร้องนายท่านอย่างนึงได้มั๊ยคะ อย่าเสี่ยงชีวิตเพื่อประโยชน์ของคนอื่นมากจนเกินไป พวกเราก็เสียคุณไปไม่ได้เหมือนกัน 

Clive - ชั้นจะจำไว้ก็แล้วกันนะ ..

 

 

 

                              Hunt Board update 

 

 

👹Notorious Marks ตัวที่ 21: The Tricephalic Terror (Gorgimera) RANK S

 

 

 

พิกัด -ทางตะวันตกของทะเลทราย Velkroy Desert ใน Dhalmekia (ตำแหน่งตามรูป) 

 

 

👹Notorious Marks ตัวที่ 22: Pandemonium  RANK S

 

พิกัด - Shadow Coast / Waloed (ตำแหน่งตามรูป) 

** อยู่ระหว่างการเดินทางในเควสหลักต่อไป ...

 

                               🔶 Footfall in Ash 🔶

 

 

     อาณาจักรแห่งวาโลเอด (The Kingdom of Waloed)

 

 

 

 

    ทางตะวันตกของฝั่ง Ash …

 

 

                              The Shadow Coast 

 

 

Gav - ถ้าเดินเลาะตามหน้าผานี้ไปที่เมืองหลวงคงต้องใช้เวลาอีกนานเลยล่ะ เดี๋ยวชั้นจะลองไปสำรวจดูก่อนหากกรณีเราไม่สามารเดินทางตามทางหลักได้ 

 

 

Joshua - ไคลฟ์ ... ชั้นขอถามอะไรพี่หน่อยสิ ..พี่ดึงเอาพลัง Eikon ของเธอมาแล้วสินะ ?

Clive - อืมม ใช่ ... ชั้นว่า เธอเข้าใจนะ ...

 

 

                                Clive - อั๊คค !!!!

 

 

Joshua - อ๋อ เธอเข้าใจงั้นหรอ !!?  เข้าใจด้วยนะว่าพี่กำลังตัดสินใจจะกอบกู้โลกด้วยตัวเอง และพี่ก็อาจจะตายไปกับพลังของเธอ! ทำไมพี่ไม่ให้เธอเลือก ! พี่ก็รู้ดีอยู่แล้วว่ายังไงซะ เธอก็จะไม่ปฎิเสธพี่อยู่แล้ว ถ้าเป็นผม ผมจะทำ!!

 

 

Joshua - ยังไงพี่ก็ไม่สามารถผลักไสพวกเราออกไปได้หรอก โลกเป็นของเราทุกคนนะ ไม่ใช่ของพี่คนเดียว !!

 

 

Clive - ชั้นใช้ความสามารถนี้ของชั้นก็เพราะอยากจะให้ทุกคนทำมันด้วยกัน 

 

 

Joshua - และ พี่เชื่อจริงๆใช่มั๊ยว่าทำแล้วมันจะช่วยพี่ได้? จะช่วยพวกเราทุกคนได้ ?

Clive - แน่นอน ชั้นเชื่ออย่างนั้น !

 

 

Joshua - งั้นก็ ขอให้มันเป็นอย่างงั้นก็แล้วกัน ..แค่อยากลืมว่า พี่ไม่ได้ตัวคนเดียวก็พอ ...

 

 

Gav - ชั้นคิดว่าชั้นเจอเส้นทางของเราแล้วล่ะ ....เอ่อ ... นี่ชั้นพลาดอะไรไปหรือเปล่าเนี่ย ...?

Clive - แต่ โจชัวร์ ไม่พลาดเลยล่ะ ....

Gav - งงว่ะ ...

 

 

   Skaithfarr 

 

 

 

Gav - จะว่าไปแล้ว .. ชั้นนี่อยากจะมาที่ฝั่ง Ash ตั้งนานแล้วนะ

Clive - ตอนนี้นายคงสมหวังแล้วล่ะ แต่ก็อย่าคิดว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นนะ 

 

 

Gav - ไม่รู้สิ ไคลฟ์ ...ปราสาทบนหน้าผานั่นโคตรรอลังการเลยว่ะ 

Joshua - จะลองไปผูกมิตรกับชาวเมืองนั่นมั๊ยล่ะ?

 

 

    Clive - นายจำที่ชั้นพูดเรื่อง การต้อนรับอันอบอุ่นได้มั๊ย Gav ?

 

 

   หมู่บ้าน Wolfdarr

 

 

               Gav - ที่นี่มันดินแดนแห่งความตายชัดๆ 

 

 

 

     👹Notorious Marks ตัวที่ 22: Pandemonium   RANK S

 



พิกัด - Shadow Coast / Waloed / ทางตะวันตกของ หมู่บ้าน Wolfdarr

 (ตำแหน่งตามรูป) 

 

รางวัลที่ได้คือ - Stained Loincloth (Material)

 

 





Clive - ฝั่ง Ash ทั้งหมดน่าจะถูก Ultima ครอบงำหมดแล้วสินะแบบนี้? 

 



Gav - นั่นไม่ใช่คณะตัวแทนเพื่อสันติภาพแน่ๆ เราต้องรีบเตือนคนอื่นให้รู้ตัว 

Clive - ไม่ๆ ลุงของชั้นจับตาดูชายฝั่งของเราเอาไว้อยู่แล้ว และชั้นก็เชื่อว่าแกคงมีวิธีสร้างความบัญเทิงให้กับแขกที่ไม่ได้รับเชิญได้อยู่ เป้าหมายเราคือ Drake’s Spine และยังต้องเจออะไรที่ขวางทางระหว่างเรากับมันอีกเยอะเลย เรามุ่งหน้าตามทาง Stonhyrr ต่อเถอะ !!

Gav - นายรู้ได้ไง มันอาจไม่ใช่รังของสัตว์ประหลาดก็ได้ 

 

 

Joshua - ไคลฟ์ !! พี่คงต้องล่วงหน้าไปก่อนโดยไม่มีผมแล้วล่ะ ป้อมปราการนั่นดูเก่าพอๆกับ Phoenix Gate เลย บางทีอาจจะเก่ากว่าด้วย มันอาจจะมีความลับของ Ultima ซ่อนอยู่ก็ได้ หากเราต้องการจะเอาชนะมัน ข้อมูลนั่นก็จำเป็น 

Clive - ก็ได้ แต่ อยู่ห่างๆปัญหาเอาไว้ก็แล้วกัน 

Joshua - ผมก็ทำอยู่ตลอดนั่นแหละน่า … ส่วนใหญ่แล้วอ่ะนะ ..

 

 

Gav - นายแน่ใจแล้วหรอว่าจะเอาแบบนี้น่ะ?

Clive - เรื่องที่ให้น้องชายชั้น แยกตัวไปคนเดียวที่นี่อ่ะนะ? … แน่นอน แน่ใจ ...ส่วนใหญ่แล้วอ่ะนะ ..

 

 

 

The Angry Gap 

 

 

 

🔷Chronoliths Trial by Ice: the hand of Rhea 

   (การทดสอบ Eikon Shiva) 

 

 

    พิกัด - The Angry Gap / The Shadow Coast

 

 

ทางขวาของ Trial by Ice: the hand of Rhea จะมีลังสมบัติอยู่ ข้างในคือ ดาบ Masamune 

 

 

           Gav - พระเจ้า !! .... อย่ามองลงไปเลยนะ Torgal 

 

 

                 Clive - นี่คงเป็นหมู่บ้าน Eistla แน่ๆ

 

 

 

 

 หมู่บ้าน Eistla

 




Gav - นายคิดว่าไง ไคลฟ์ ?

Clive - เรามาช้าเกินไป 

 

 

Gav - บ้าเอ้ย พวกมันล้อมไว้หมดแล้ว เราคงทำอะไรไม่ได้แล้ว 

Clive - ชั้นยังไม่ได้บอกเลยว่าจะทำอะไรไม่ได้ 

 

 

                           จัดการฝูง Akashic ให้หมด 

 

 

Gav - แฮก ๆๆๆๆ 

Clive - น่าจะหมดแล้วนะ 

 

 

Clive - ห๊ะ!?  .. Gav …Gav!!

Gav - อะไร? อย่าบ้านะว่ามีไอ้พวกบ้านี่มาเพิ่งอีกน่ะ !! 

 

 

Gav - โอ้... ตายห่าแล้ว ...

Clive - แกจะมายืนดูเฉยๆงั้นหรอ โอดีน !!!

 

 

Odin - จะไป Stongyrr กันงั้นหรอ?  … ดี  นายของข้ากำลังรออยู่ที่เมืองหลวงพอดี แม้ข้าจะไม่อนุญาตให้แกไปหาเขาในสภาพนี้ก็ตาม 

Clive - แล้วแกจะหยุดเรายังไม่ทราบ!?

 

 

                        Odin - ทำไมจะไม่ได้  แบบนี้ไง !






 

                        Clive - มันทำบ้าอะไรวะเนี่ย !!

 

 

Odin - หาก พาหะ เห็นเส้นทางที่เปิดออก แต่หากไม่รู้ก็ขอให้เอ่ยถาม ข้าจะได้เห็นรางวัลของนายข้าถูกสร้าง อย่างสมบูรณ์เรียบร้อย 

 




       Gav - นี่นายจะบอกชั้นได้รึยังว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี้ย!?

 



Clive - เราคงต้องหาทางเพื่อเข้าเฝ้ากษัตริย์กันแล้ว หากฝ่าบาทประสงค์ให้มาทูลถามกับมัน นั่นแหละคือสิ่งที่ชั้นจะทำ 

 

 

Gav - เอ่อ แต่ก่อนที่นายจะทำตามประสงค์อะไรนั่น ..เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้เวรนั่นมันจะไปที่ไหน เรามาหาที่พักสมองให้ใจเย็นๆก่อนดีว่า แล้วค่อยคิดว่าจะเอาไงต่อ ดีมั๊ย?

Clive - ...ก็ได้ 

Gav - อาจมีบ้านที่เราพอเข้าพักได้ ลองหากันดูก็แล้วกัน 

 



                           Gav - เอ่อ .... โทษทีครับคุณ ...

 

 

Edda - อย่านะ คุณเป็นใคร !!?

Gav - โว้ๆ ใจเย็น เราไม่ทำร้ายคุณหรอก !!

 

 

Edda - ขอบคุณนะคะ นักเดินทางผู้มีเมตตา ..

Gav - Edda .. ขอโทษด้วยนะที่ต้องถาม ... มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่งั้นหรอ?

 

 

Edda - ทุกอย่างเริ่มเกิดขึ้นตอนที่ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี ท่านผู้เฒ่าบอกว่า มันคือ Arche ผู้คนเริ่มบ้าคลั่งเพราะ aether ไปทีละคน จนเหลือชั้นแค่คนเดียว จากนั้น ชั้นก็พยายามวิ่งหนีให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นพวอัศวินก็มา ชั้นไม่รู้ว่าต้องทำยังไง 

Gav - แล้วไอ้ เอ่อ .. Arche นี่มันคืออะไรงั้นหรอ?

 

 

Edda - มันเป็นเรื่องเล่ามาตั้งแต่ปู่ย่าตายายแล้ว เขาบอกว่าเมื่อเราประพฤติตัวไม่ดี สวรรค์จะมืดมิดก่อนที่ผืนแผ่นดินจะเหือดหายไปในลมหายใจสุดท้าย 

 

 

Clive - วันสิ้นโลกสินะ .... ว่าแต่ คุณบอกว่า ผู้คนเริ่มบ้าคลั่ง แล้วพวกเขาไปไหนหรอครับ?

Edda - พวกเขา ...พวกเขาไปกันหมดแล้ว ถูกพาตัวไปทางตะวันออก ไปที่หอคอย ที่ Reverie .. ทั้งท่านผู้เฒ่า หมอ ..ช่างตีเหล็ก  ...แล้วก็ สามี ของชั้น 

 

 

Gav - นายคิดว่าใช่ฝีมือของมันมั๊ย?

Clive - ไม่ใช่มันแล้วจะใคร ? นายเคยอยู่ที่ Kanver นายคงจะเห็นมันทำกับคนที่นั่นแล้วนี่ 

Gav - แล้วเธอล่ะ ทำไมถึงไม่ยังอยู่รอดได้ ..?

 



Clive - คงจะเป็น ลูกในท้องของเธอล่ะมั้งที่ปกป้องเธอจาก aether ชั้นไม่รู้จะมีคำอธิบายอะไรนอกเหนือจากนี้แล้วล่ะ 

Gav - นายหมายความว่า เด็กเป็น Bearer งั้นหรอ?

Clive - มันไม่สำคัญหรอกว่าจะเป็นอะไรเมื่อเวทย์มนต์ของ Ultima เข้าครอบงำ ...เวลากำลังใกล้จะหมดแล้ว 

 




        Clive - หอคอยนั่นสินะ ..คือที่ที่ชั้นจะได้พบกับ ราชา 

 

 

 

The Angry Gap 

 



Joshua - นึกแล้วไม่ผิด ที่นี่เหมือนกับ Phoenix Gate เลย ถ้างั้นสุดทางของบันไดนี่ก็คงจะเป็น ....

 



 

                 Joshua - จิตรกรรมฝาพนังที่สมบูรณ์ 

 



             Joshua - Ultima กับ พาหะของมัน Ifrit ...

 

 

Garuda , Ramuh , Shiva , Titan , Bahamut , Odin …… แม้ Leviathan ที่หายสาบสูญก็อยู่ที่นี่ ..แต่ แล้วไหน Phoenix ?

 




                                 Joshua - พระเจ้า ...

 

 

                            Joshua - อั๊ก ....!! 

 




           Joshua - แกต้องการแบบนี้เองสินะ ...Ultima ?

 



 

หมู่บ้าน Eistla

 

 

 

Gav - แล้วเราจะเอาไงต่อดีล่ะ?

Clive - ชั้นอยากให้นายอยู่ที่นี่กับ Edda 

Gav - แต่ ...

Clive - เรื่องนี้ชั้นต้องทำคนเดียว ถ้าชั้นไม่กลับมา ตามหาโจชัวร์และกลับไปที่ Enterprise ได้เลย เข้าใจนะ

Gav - เออ ... รับทราบ ..

 

 

Gav - แต่นายต้องห้ามตายนะ !!  เพราะชื่อของ Cid เหมาะกับแก้วเหล้าบ้านั่นมากกว่าชั้น 

Clive - หึหึ ....

 

 

         Clive - ไม่ต้องห่วง งานยังไม่เสร็จชั้นจะตายได้ไง 

 

 

⟴Objective >  เดินทางออกทางประตูทางขวาของหมู่บ้าน ผ่านเส่นทาง Halfcombe จนถึง The Edge of Infinity ปลายทางที่ Reverie

 

 

 

                                       Reverie

 

 

 

                            The Kingdom of Waloed

 

 

                 Clive - ชั้นมาหาแกถึงที่แล้วนะ ..Barnabas 

 



                        Clive - อยู่ใกล้ๆชั้นไว้นะ Torgal 

 

 

                              🔶 The Last King 🔶 

 

 

 

   ⟴ Objective > ลุยขึ้นหอคอย Reverie ไปจนถึงชั้นบนสุด

 

 

                              Mini boss - Soultaker

 

 

                            BOSS - Control Node 

 

 

                            BOSS - Aurum Giant

 

 

The Crown 

 



                     Clive - ใกล้ถึงชั้นบนสุดแล้วสินะ ...

 

 

                     Clive - ที่นี่แหละ ...ชั้นรู้สึกถึงมันได้ 

 




                    Clive - ทำไมถึงต้องทำแบบนี้กันเนี่ย ......

 

 

Barnabas - คมดาบก็ต้องการอาหารมาหล่อเลี้ยงนะ ถ้าต้องการให้มันแหลมคมอยู่เสมอ

Clive - ไอ้ฆาตกร ...

 

 

Barnabas - แกจะสนทำไมกับไอ้พวกตัวประหลาดไร้ค่าเหล่านั้น มันไม่มีอะไรที่ต้องสนใจเลยซักนิด อ่อนแอตั้งแต่กำเนิด แต่โหยหาอำนาจที่มิอาจควบคุม พวกมันแค่เปลี่ยนกลับไปเป็นสิ่งที่มันเคยเป็น ก็เท่านั้น เหมือนพวกแกะ อยู่เกาะกลุ่มเป็นฝูงสกปรกๆ กระตือรือร้นที่จะเหยียบย่ำ ฝูงแกะที่ถูกมอบจนแกะทองคำมาให้ 

 

 

Barnabas - พวกมันอาจไม่พอใจกับการดำรงอยู่ที่น่าสมเพชของพวกมันด้วยซ้ำ ความอคติกัน การเข่นฆ่า การละทิ้ง การทะเลาะวิวาทกัน ทุกความผิดทางโลกย่อมเกิดจากความอาฆาตพยาบาทที่ฝั่งอยู่ในใจของพวกมนุษย์ ความอาฆาตพยาบาทอันเกิดจากความเจ็บปวดและทุกช์ทรมานอันเป็นเจตจำนงเสรี ความเสื่อมทรามนี้กัดกินพวกแกตั้งแต่แรกเกิดแล้ว 

 

 

Clive - แกคิดผิดแล้ว นี่ไม่ใช่ความเสื่อมทราม มันคือสิ่งที่ชั้นเป็น ทุกสิ่งที่ชั้นเลือก ไม่ว่าถูกหรือผิด ชั้นก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไป และการดำเนินชีวิตต่อไป จะไม่ใช่ในแบบหุ่นเชิด แต่ในแบบมนุษย์ แล้วแกล่ะ เลือกจะเป็นแบบไหน?

 

 

Barnabas - ชั้นคิดว่ามันมีทางเลือกเดียวนะ 

Clive - อะไรนะ?

Barnabas - นานมาแล้ว ที่พระเจ้าทรงมอบเวทย์มนต์ให้เป็นของขวัญแก่มนุษย์ และด้วยของประทานนั้นได้สร้างความศิสิไลซ์ที่ยิ่งใหญ่ จนเมื่อเวลาผ่านไป มนุษย์ก็เริ่มไม่สนใจความหมายกับของขวัญที่ล้ำค่านั้น และก้าวออกมาจากความเจริญที่มีร่วมกันจนทำให้เกิดความโลภ พวกเขาละทิ้งผู้สร้างเพราะ ดาบ และเปลวเพลิง และความโง่เขลาที่กวักมือเรียกหา ความพินาศ  แต่ก็มีไม่กี่คนที่ปฎิเสธที่จะละสายตาจากสวรรค์ และพวกเขาก็เฝ้าอธิฐานต่อพระเจ้า เพื่อให้พระองค์ทรงนำพวกเขากลับไปสู่ความชอบธรรมอีกครั้ง 

 

 

Barnabas - และพระผู้เป็นเจ้าก็ทรงตอบกลับมา ....ประตูสวรรค์จะเปิดออกสำหรับผู้คู่ควร แล้วชั้นก็กางแขนของชั้นเพื่อโอบรับ aether และโยนจิตวิญญาณลงบนอากาศธาตุที่อ่อนโยนของมัน แล้วชั้นก็มอบตัวชั้นเองให้กับพระองค์

 



Clive - แม่งบ้าอะไรวะเนี่ย ??

Barnabas - คุณค่าของชั้นได้รับการพิสูจน์แล้ว พระเจ้าได้กำชับชั้นไว้ดังนี้ หากเผ่าพันธุ์มนุษย์ต้องการความอยู่รอด พวกเขาก็ต้องรับใช้พระองค์  เห็นมั๊ย? สวรรค์อยู่ใกล้เราแค่เพียงนิดเดียว เราก็สามารถน้อมรับมันได้ แค่เราต้องละทิ้งการฝ่าฝืนและการกระทำความผิดที่ไม่บังควรไว้เบื้องหลังเท่านั้น เพราะไม่มีผู้ใดนอกจากจิตที่บริสุทธิ์เท่านั้นที่ก้าวไปสู่โลกใหม่ได้ 

 

 

ชั้นจะช่วยพวกเราทุกคน และทุกอย่างจะเริ่มต้นและจบลงได้นั้นอยู่ที่แก แกคือกุญแจ ..มิธอส  และด้วยเครื่องบูชาที่ต่ำต้อยนี้ ชั้นจะพิสูจน์ศรัทธาของชั้นอีกครั้ง 

 

 

Clive - แล้วแกก็เลยทิ้งอณาจักรของตัวเอง ทิ้งตัวตนของตัวเอง เพื่อรับใช้? บอกชั้นหน่อย การใช้ชีวิตแบบนั้นมันเป็นยังไง? สิ่งที่แกแสวงหามันไม่ใช่ความอยู่รอด แต่มันเป็นอย่างอื่น ... ชีวิตมันมีทางเลือกเสมอ ถ้าไม่มีมันเราก็เหมือนตายไปแล้วเช่นกัน 

 

 

Barnabas - ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ... อย่างงั้นหรอ? ...งั้นก็เข้ามา !!

 

 

  Barnabas - โชว์ไอ้เจตจำนงที่แข็งแกร่งของแกให้เราเห็นหน่อย

 

Clive - อย่าห่วงเรื่องความแข็งแกร่งของเจตจำนงชั้นเลย ห่วงความอ่อนแอของแกดีกว่ามั้ง

 

 

                      Barnabas - คิดว่าแน่ก็พิสูจน์มา !!! 

 

 

                              BOSS - Barnabas

 

 

Barnabas - พระเจ้าทรงเลือกแกเป็นพาหะของพระองค์ แต่แกยังมัวแต่ยึดติดกับความหวังล้มๆแล้งๆโง่ๆนี่อยู่ได้ ดูสิว่าแกจะทำยังไงถ้าไม่มีมัน 

 




             Clive - แม่งเอ้ยยย ! .... ไง เข้าตาจนแล้วรึไง?

 




            Barnabas - ในที่สุดก็จะได้เริ่มกันจริงๆซักที !!

 






                            Barnabas - เกือบแล้ว !!

 





Barnabas - แกแสดงในสิ่งที่แกอยากทำแล้ว ตอนนี้แกต้องเป็นผู้ตามบ้างแล้ว

 

 

                  Barnabas - ปลดปล่อยตัวเองเถอะ มิธอส !

 

 

Barnabas - ยังไงแกก็ไม่มีวันล้มชั้นได้หรอก 

Clive - เดี๋ยวก็รู้ !!

Barnabas - บางที แกอาจต้องการการโน้มใจมากกว่านี้อีกหน่อย !

 

 

                         BOSS - Barnabas [รอบ 2]

 

 

 

                       Barnabas - เป็นไปไม่ได้ !! ....

 

 

Clive - แบบนี้เรียกว่าถูกล้มได้ยัง? แกสามารถเปลี่ยนใจเป็นยอมแพ้ได้เลยนะ แค่แกเดินหันหลังหนีไปก็ถือว่าเรารู้กัน เหมือนที่แกหันหลังให้ความจริงไง Barnabas 

 

 

Clive - ความจริงที่ว่า เราไม่ได้อ่อนแอเหมือนพระเจ้าของแกไง !!!

 
















 

 

   

 



                           Ifrit - มัวรออะไรอยู่ล่ะ !!!?

 

 

         Odin - พวกมนุษย์ไม่มีวันรู้จักคำว่าแข็งแกร่งหรอก !!

 

   

 

                                 Odin - แต่แกน่าจะรู้ !

 

 

                                    Ifrit - รู้ดีเลยล่ะ !!

 






                              Odin - แกนี่มัน .... 

 



Barnabas - เป็นไปได้มั๊ยว่า แกได้สร้างอาวุธจากจุดอ่อนของตัวเอง ..?

 



     Barnabas - ต้องขอโทษด้วย ... แกไม่ได้โง่อย่างที่ชั้นคิดไว้ ...

 

 

                          Ifrit - มันจบแล้วล่ะ !!!!!

 



                     Clive - แม่งเอ้ยยย !! ไม่นะ !

 

 

Barnabas - ฮ่าๆๆๆๆๆ นี่แกอย่าบอกนะว่า แกก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะ มิธอส! 

 

 

Barnabas - แต่ความดื้อร้นของแกมันทำให้ใจที่สงบนิ่งของชั้นมันหวั่นไหวจริงๆเลยว่ะ ไม่ได้รู้สึกเติมเต็ม แบบมีความสุขขนาดนี้มาหลายชาติแล้ว คิดมาตลอดเลยว่า การโดนไล่บี้ มันเป็นความฝันที่เกินเอิ้อมมาตลอดเลยนะ

 

 

 แต่ตอนนี้ความพินาศอันแสนหวานที่รอคอยมันผ่านกระแสเลือดชั้นแล้ว ชั้นคงไม่ยอมแพ้เร็วขนาดนั้นแน่ๆ 

 

 

Barnabas - โชว์ให้ชั้นเห็นคุณค่าในตัวแกหน่อย มิธอส เพื่อให้ชั้นมีความสุข

 

 

                          BOSS - Barnabas [รอบ 3] 

Odin - หัวใจของข้ามันกำลังทะยานขึ้นไปบนฟ้า เหมือนกับตอนได้ครอง Ash!  ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาก็มีคนมากมายหมายจะแย่งชิงมงกุฎของชั้น มิธอส แต่ไม่มีผู้ใดเลยที่แย่งชิงมันไปจากหัวข้าได้ แกมีความแข็งแกร่งพอมั๊ย!? มีความทะยานอยากพอมั๊ยล่ะ!?  ข้าเป็นของเจ้าแล้วมิธอส รับข้าเป็นรางวัลของเจ้าสิ!

 

                 Barnabas - และแล้ว วันนี้ก็จบลงซะที ...

Clive - เราทั้งคู่ต่างก็รู้ความจริงกันอยู่แล้ว สุดท้ายแล้วชั้นคือผู้ที่ยืนหยัดอย่างมีชัย ปณิธานของชั้นมีชัยเหนือแก

Barnabas - ปณิธานของแก ? ....ไม่หรอก ...มันเป็นปณิธานของเขาต่างหาก   ไคลฟ์ รอสฟิลด์ !!!

 

 

 

 

 

 

 

 

Barnabas - บางทีปณิธานก็มีพลัง ...ถ้าหากชั้นไม่ละทิ้งความเป็นตัวเอง

Clive - แกไม่มีอะไรจะละทิ้งต่างหาก อะไรคือปณิธานของแกถ้าไม่ใช่เรื่องสร้างโลกใหม่บ้าบอนั่น เคยมีความมุ่งมั่นที่จะขัดคำสั่งเจ้านายของแกบ้างมั๊ยล่ะ?

Barnabas - ชั้น ...... 
Clive - แกแสดงให้เห็นถึงความความเพ้อฝัน แล้วแกก็เลือกที่จะเชื่อมัน แต่แกคิดผิด ไม่มีโลกอื่นไหนอีกนอกจากโลกที่เราอาศัยอยู่ตอนนี้นี่แหละ 

   Clive - และโลกนี้ก็ต้องการการเยียวยา แม้ว่าต้องฆ่าพระเจ้าก็ตาม 

 

 

Barnabas - เป็นคำพูดที่ห้าวหาญมาก จากผู้ที่รับใช้พระเจ้ามาตลอด 

Clive - ไร้สาระ !!!
Barnabas - อ่า ... ชั้นเกือบลืมไปซะแล้ว ..... ชั้นสัญญาว่าจะทำให้แกสมบูรณ์แบบนี่นา ...?

Barnabas - อ๊ากก .....เราจะทำตามชะตากรรมของเรา ...เช่นเดียวกับ ลอร์ดแห่งมาเธอร์คริสตัลเติมเต็มชะตากรรมของพวกเขา 

Clive - อ๊ากก !! อย่า !!!
Barnabas - มาสิ ไคลฟ์ รอสฟิลด์ !!! รับสิ่งที่เป็นของแกโดยชอบธรรมไปแล้วเป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้าซะ !!!

 

                                Clive - ไม่ !!!!!

                           Clive - อ๊ากกกกกกก !!!!!!!

 

Barnabas - ในที่สุด ....การไถ่บาป ...ชั้นกำลังจะได้กลับบ้านแล้ว ....

 

                       Barnabas - แม่ ....................

Ultima - บอกข้าหน่อยสิ ว่าเจ้ารู้สึกยังไง?
Clive - แสดงตัวออกมา เดี๋ยวนี้ !!!

Ultima - รู้สึกยังไงบ้างที่ได้ใช้ความแข็งแกร่งของศัตรู เพื่อกลืนกินตัวตนของพวกเขา ก้าวไปได้อีกขั้น ใกล้เคียงกับการเป็นเทวทูตมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ไม่ว่าแกจะมีความตั้งใจหรือไม่ ยังไงแกก็เป็นพาหะของพวกเราอยู่ดี 

   Ultima -  ดูสิ ร่างกายของแกจะสั่นสะท้านที่จะรอคอยชะตากรรม 

                  Clive - โอ้ แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่ของแก 

Ultima -   ไม่ ... มาเถิด เจ้าเด็กน้อยเอาแต่ใจ ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่ด้านหลังของไวเวิร์นตัวแรก ที่นั่น ทุกอย่างจะจบสิ้นลง และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ... 

 

                    Clive - อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก !!!!!

 

 

ในขณะเดียวกัน ........



                                        Ran'dellah 

                         The Dhalmekian Republic 



                           ทหารสาธารณรัฐ - หนีเร็ว !!!!

 




                  ทหารสาธารณรัฐ - เร็วครับนายท่าน ทางนี้ !!!

 




Havel - ทำไมเมืองของชั้นถึงเต็มไปด้วย Akashic ห๊ะ!?

Byron - อย่ามาถามชั้น ต้องถามพวกมันโน่น !!!  แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะที่คนอย่าง Eugen Havel ต้องหนีมาซ่อนตัวเมื่อมีการต่อสู้น่ะ !!!?

Havel -ก็เพราะพวกแม่งปลดชั้นออกจากตำแหน่งแล้วให้ชั้นออกจากสนามรบไงโว้ย !!!  ชั้นก็เลยต้องมาติดแหงกอยู่ที่นี่ขณะที่เมืองกำลังลุกเป็นไฟ ส่วนเมียของชั้นก็ล่องเรือไปพร้อมกับผู้ชายที่อายุอ่อนกว่าชั้นด้วย !!! เอาล่ะที่นี่ตานายบ้าง นายมาทำบ้าอะไรอยู่ที่นี่วะเนี่ย!!?

 

 

Byron - แล้วสถานการณ์เป็นไงตอนนี้ !!?

Havel - ศัตรูมีประมาณ 2 แสนหรืออาจจะมากกว่า ใหญ่เป็นพวก Orcs ด้วย ในเมืองก็ไม่มีทหารมากพอที่จะต้านกองทัพจำนวนขนาดนั้นแน่ ส่วนใหญ่ก็มีแต่พวกทหารกับพวก Bearers จากเมืองรอบๆที่เกณฑ์มาช่วย นั่นเป็นเหตุผลเดียวที่เรายังพอต้านพวกมันได้อยู่ !! ที่เราต้องทำคือรวบรวมกองทัพจากทหารรอบๆมาอยู่รวมกันให้ได้ 

 

 

Byron - ความตายเป็นแรงจูงใจที่ทำให้มีความกล้า ใช้ทัศนคติแบบนั้นก็พอ !!!

Havel -ทัศนคติ งั้นหรอ? ฮ่าๆ บางที่มันอาจเป็นสิ่งที่เราขาดมาตลอดก็ได้ 

 



Byron - Havel ชั้นขอยืมทหารมือดีที่สุดของนายหน่อยสิ เอามาให้ชั้น เอาหมดเลย!!

Havel - ทหารมือดีที่สุดของชั้นเนี่ยนะ? ดูหน่อยว่าสภาพชั้นตอนนี้เหลืออะไรบ้าง?

Byron - ชั้นรู้ดีว่าเวลานี้มันไม่ค่อยเหมาะ แต่หลานชั้นกำลังงานเข้าและชั้นสัญญากับเขาไปแล้วว่านายจะช่วยเขาน่ะสิ !!

 

 

Havel - หลานของนาย พวก Outlaw อ่ะนะ? ไม่มีวันหรอก ทหารของชั้นมีค่ามากว่าจะให้ไปตายเปล่านะ !!!

 

 

Byron - งั้นนายกับเขาก็ใจเดียวกันแล้ว  ไคลฟ์ต่อสู้กับสิ่งที่ตรงกันข้ามกัน เขาสู้เพื่อโลกที่พวกเขาไม่ควรอยู่และตายโดยเปล่าประโยชน์ต่างหาก !!! เขาต่อสู้ในวันนี้เพื่อให้เรามีพรุ่งนี้ที่ดีกว่า !!!

Havel - ขอให้มันจริงเถอะ !!!  คนแค่ไม่กี่คนจะต้านทานกองทัพของอณาจักรได้ยังไง !!

 

 

                                Byron - อ๊ากกกกกกกกก !!!!





                    Dion - ระวังฆ่าผิดคนด้วยทหาร !! 

 

 

               Havel - แม่เจ้าโว้ย ไม่อยากจะเชื่อจริงๆเลย !! 

 

 

Dion - ตอนนี้เราเองก็มีทหารไม่มากนัก แต่ผมกำลังรวบรวมกองทหาร Dragoons ของผมมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็แล้วกัน 

 

 

Dion - นาย! ไปตามนักยุทธศาสตร์การป้องกันเมืองมา

Guard - ครับฝ่าบาท

 

 

Byron - ว่าแต่ คุณน่ะ เป็นพวกเดียวกันเราแล้วหรอ?

Dion -ผมเป็นหนี้ ฟินิกซ์อยู่น่ะ 

 

 

Byron - โอ้ ฮ่าๆ ...เป็นไงล่ะหลานชั้น เจ๋งป่ะล่ะ?

Havel - เออๆๆ แต่ตอนนี้ชั้นสงสัยเกี่ยวกับนายมากกว่าว่ะ 

Byron - เรื่องนั้นเอาไว้คุยกันทีหลังน่า เออ นายบอกว่ามีพวกนักโทษชายถูกขังอยู่ในป้อมงั้นหรอ? กัปตัน พอรู้มั๊ยว่ามีประมาณกี่คน?

ทหาร - เดี๋ยวผมไปดูให้ครับ 

Havel -กัปตัน ไม่ว่าพวกเขามีเท่าไหร่ก็เอามาให้หมดนั่นแหละ !!

 

 

Terence  - นายพาคนไปรวบรวมศพมาที่กลางลานแล้วทำที่เผาศพ เร็วด้วย!

Dion - Terence ขอคุยด้วยหน่อยสิ 

Terence  - ครับฝ่าบาท 

 

 

 

Dion - ชั้นอยากให้นายตามหาเด็กผู้หญิงคนนี้ 

Terence  - เด็กผู้หญิงหรอครับ? แต่เรากำลังอยู่ในภาวะสงครามนะครับ?

Dion - ชั้นเป็นหนี้ชีวิตเธอ และชั้นต้องจ่ายหนี้ของชั้น 

 

 

Terence  - ดิออน ...ผมทิ้งคุณไม่ ..

Dion - แต่นายต้องทำ หากชั้นคู่ควรจากการให้อภัยกับประชาชนของชั้น ชั้นก็ยอม และชั้นต้องรับมันด้วยมือชั้นเอง มือชั้นคนเดียวเท่านั้น รู้นะว่าชั้นไม่ได้ขอร้องนายเล่นๆน่ะ 

 

 

Terence  - คุณก็รู้ว่ายังไงผมก็ต้องทำตามคำสั่ง...

Dion - ลาก่อนนะ Terence..

 



                   Terence  - ลาก่อน ... เจ้าชายของผม 

 






   ในเวลาต่อมา ......

 

  

                                     หมู่บ้าน Eistla 

 




Joshua - ไคลฟ์ !!

Gav - แม่งเอ้ย เป็นห่วงแทบแย่ นายไม่เป็นอะไรนะ?

 

 

Clive - ชั้นไม่เป็นไร แต่คงจะดี ถ้าเจอนายเร็วกว่านี้นะ โจชัวร์

Joshua - แล้ว เอ่อ Barnabas ล่ะครับ?

Clive - ราชาสิ้นแล้ว 

 

 

Edda - ถ้างั้น พวกเขา พวกเขาทั้งหมดก็ ....ฮื้อออออ 

Gav - ใช่แล้วล่ะ แต่ไอ้พวกนักฆ่าของพวกมันก็เหมือนกัน ไม่มีใครทำร้ายเธอได้อีกแล้วล่ะนะ 

Edda - อืมมม ....ฮื้อออออ

Clive - Gav เราต้องคุยกันหน่อย ..

 



Gav - โทษทีนะไคลฟ์ ชั้นคงลุยต่อกับนายไม่ได้แล้วล่ะ 

Clive - ชั้นรู้ แต่ชั้นก็ดีใจที่นายกำลังกลับไปที่ Enterprise เหมือนกัน และไม่ใช่เพื่อช่วย Edda เท่านั้น แต่คนของเราก็ต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ด้วย 

Gav - ไว้ใจชั้นได้เลย 

Edda - ขอบคุณมากนะคะนายท่าน 

 



Joshua - พี่คิดว่ามันเหมาะแล้วหรอ?

Clive - ก็ดีกว่าทิ้งผู้หญิงที่กำลังตั้งท้องไว้ตามลำพังในดินแดนมรณะก็แล้วกัน เธอจะปลอดภัยที่ hideaway ...อย่างน้อยๆก็ตอนนี้ 

 

 

Clive - ดินแดนนี้ถูกครอบครองโดย Akashic หมดแล้ว ราชาเองก็ถูกครอบงำมานานมากแล้ว แม้ว่าเขาจะเป็นคนเลือกเองก็เถอะ ..ทุกคนต่างรับใช้ Ultima ในภารกิจที่สยดสยองของมันเพื่อสร้าง พาหะ ที่สมบูรณ์ 

 

 

Joshua -ความโกลาหลที่เกิดจากฝีมือของ Barnabas ได้คร่าชีวิตคนไปทั่วอณาจักร จะต้องมีคนต้องตายกันอีกซักกี่คนเพื่อสิ่งนี้?

Clive - มันไม่คิดว่านี่คือการฆ่าด้วยซ้ำ มันคิดว่าเป็นความเมตตา ..เป็นหนทางดับทุกข์ของพวกมนุษย์ เขาคิดว่ากำลังช่วยมนุษย์ชาติ ซึ่ง Ultima หลอกใช้เขา

Joshua - เหมือนที่มันหลอกใช้เรา 

 

 

Clive - แต่ ทำไมต้องเรานะ ทำไม่ต้องเป็นพวกเรา?

Joshua - ทำไมถึงเป็นพวกเราหรอ? ก็เราเป็น Dominant ไง มันเป็นชะตากรมของเรา แต่ไม่ได้แปลว่าเราต้องยอมรับมันหรอกนะ นั่นแหละคือสาเหตุที่เราต้องสู้ เพื่อใช้สิทธิ์ในการปฎิเสธ ไม่ใช่งั้นหรอ?

Clive - มันเป็นเพราะ บาปของเรามากกว่า 

 

 

Clive -....Barnabas พูดอะไรบางอย่าง ..มันบอกว่า มาเธอร์คริสตัลเป็นของ Ultima 

Joshua - ของอัลติม่า? พี่แน่ใจหรอ? 

Clive -.... เรารู้ดีว่า มาเธอร์คริสตัล ปล่อย aether มาสู่ดินแดนนี้ แล้วเราก็รู้แล้วว่า สิ่งนี้เป็นตัวเร่งการแพร่กระจายของ Blight แต่สิ่งที่ชั้นไม่รู้เลยคือ อัลติม่าจะได้อะไรจากการทำแบบนี้ ?

 

 

Clive - ว่าแต่ นายเจออะไรที่ป้อมนั่นบ้าง?

Joshua - ความจริงครับ ความจริงเกี่ยวกับรางวัลของอัลติม่า

Clive - ซึ่งชั้นเชื่อว่ามันเป็นนาย นายคนเดียว มาตั้งนานแล้ว

Joshua - ที่มันต้องการไม่เพียงแค่ Ifrit เท่านั้นนะ แต่ต้องเป็น Ifrit และ Phoenix คู่กัน สิ่งที่เราเป็นตอนนั้นไง บนท้องฟ้าเหนือ Twinside เมื่อเปลวเพลิงคู่มารวมกัน พาหะของมันจึงสมบูรณ์ ส่วนทำไมมันถึงต้องการ พาหะ อันนี้มันก็เป็นอีกคำถามนึงที่เราต้องหาคำตอบ

 

 

Joshua -  เว้นเสียแต่ว่า มันจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ถ้าไม่มีมัน บางสิ่งที่รูปลักษณ์ที่ไม่มีแก่นสารของเขาทำไม่ได้ บางอย่างที่ต้องใช้ aether จำนวนมากซึ่งต้องใช้ร่างกายที่ยืดหยุ่นมากพอจะรับมัน แต่พี่เอ้ย ผมนึกยังไงก็ไม่มีคำตอบที่ดีกว่านี้เลยจริงๆ ... ผมคิดว่ามันตั้งใจจะเสกคาถา คาถาโบราณที่จะใช้เพื่อสร้าง คาถาที่ยุติเวทย์มนต์ทั้งปวง 

 

 

Clive - และมันจะทำไม่ได้ถ้าไม่มีพวกเรา ...และ มาเธอร์คริสตัล แล้วถ้าเราทำลายมาเธอร์คริสตัลให้หมด มันก็ไม่เพียงจะหยุด Blight เท่านั้น แต่จะหยุด Ultima ด้วย 

 

 

Clive -...งั้นเราก็ยึดตามแผนเดิมต่อไป อย่างน้อยๆก็ตอนนี้  

Joshua -เราจะเผชิญหน้ามันด้วยกัน

Clive - แน่นอน แต่ก็นะ เส้นทางสู่ Stonhyrr ยังอีกยาวไกล รีบไปกันต่อเถอะ อย่าปล่อยให้ Ultima มันรอนาน 

 

The Power of Darkness 

ไคลฟ์ได้รับพลังของ Eikon Odin ซึ่งจะทำให้ใช้ดาบของโอดินร่วมกับอบิลิตี้ต่างๆได้ 

 

                                   Ability of Darkness 

 

 

🔯Arm of Darkness 

 

 

-กด O จะเป็นการแทนอาวุธปัจจุบันของไคลฟ์ด้วยดาบของโอดิน 

- พลังโจมตีน้อยกว่าดาบปกติของไคลฟ์

 

 

- การโจมตีด้วยดาบของโอดินไม่สามารถทำให้สะสม Limit Break ได้ แต่จะสะสมเกจ Zantetsuken แทน ซึ่งเมื่อเกจนี้เต็มจะสามารถกด สี่เหลี่ยมค้างใช้ท่า Zantetsuken execute ได้ 

 

 

- กดสี่เหลี่ยมทันทีหลังใช้ท่า Precision Dodge จะทำให้เกิดท่า Flash of Steel 

 

 

-กดสี่เหลี่ยมทันทีหลังใช้ท่า Parry สำเร็จจะทำให้เกิดท่า Steel Counter 

 

 

- การใช้ดาบโอดินโจมตีนั้นไม่ได้มีผลต่อการเสียหายของศัตรูมากนัก แต่เพื่อสะสม เกจ Zantetsuken เพื่อใช้ท่า Zantetsuken execute ซึ่งรุนแรงกว่า และยังสามารถใช้ , Flash of Steel และ Steel Counter ร่วมกับการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย 

 

 

- หากอัพระดับเลเวลจนเต็มแล้ว จะสามารถสะสมเกจเลเวลได้ถึง 5 และจะเกิดท่าใหญ่ที่รุนแรงมากๆ 

 



 

🔯Heaven's Cloud 

 

 

-พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมโจมตีศัตรูแบบตวัดไปมาหลายครั้งต่อเนื่องที่สามารถโจมตีศัตรูที่อยู่ใกล้กันมากว่าหนึ่งตัวด้วยการกด สี่เหลี่ยม ต่อเนื่อง เหมาะสำหรับใช้ตอนถูกศัตรูหลายตัวรุมล้อม 

 -ท่านี้ก็จะไม่สามารถทำให้สะสม Limit Break ได้ แต่จะสะสมเกจ Zantetsuken แทน

 

 

- พลังโจมตีอาจจะไม่แรงมาก แต่เน้นที่การทำคอมโบเพื่อเพิ่มเกจ Zantetsuken ให้เต็มอย่างรวดเร็วได้ 

 

 

 

🔯Rift Slip 

 

 

-สร้าง Temporal rift เพื่อฟื้นฟูความเสียหายและสมดุลจากการถูกโจมตี 

-การใช้ร่วมกับการโจมตีอื่นๆจะทำให้เกิดการ สโลว์เวลา ให้ช้าลง

 

 

 

🔯Gungnir 

 

 

-เปลี่ยนดาบโอดินให้เป็นหอกในตำนาน กุงนีร์ ตวัดฟาดฟันสร้างความเสียหายกับศัตรูทุกทิศทาง

 -ท่านี้ก็จะไม่สามารถทำให้สะสม Limit Break ได้ แต่จะสะสมเกจ Zantetsuken แทน

- กด X ขณะใช้ กุงนีร์ จะเป็นการยกศัตรูขึ้น การยกศัตรูจะไม่ทำให้เกิดการสะสมเกจ Zantetsuken 

 

 

- พลังโจมตีอาจจะไม่แรงมาก แต่เน้นที่การทำคอมโบเพื่อเพิ่มเกจ Zantetsuken ให้เต็มอย่างรวดเร็วได้ 

 

 

🔯Dancing Steel

 

 

-ท่าใหญ่ระเบิดพลังเพลงดาบ

 -ท่านี้ก็จะไม่สามารถทำให้สะสม Limit Break ได้ แต่จะสะสมเกจ Zantetsuken แทน

- การเริ่มต้นใช้ท่านี้จะใช้เวลาเกร็งพลังค่อนข้างนาน ซึ่งเสี่ยงที่จะถูกศัตรูโจมตีขัดขวางได้ และ  ความสามารถนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าโจมตีเป้าหมายแรกพลาด 

 

 

-สามารถล็อคเป้าเน้นโจมตีศัตรูรายตัวได้ แต่ถ้าไม่ล็อคเป้าจะเป็นการโจมตีต่อเนื่องทุกตัวที่อยู่ใกล้เคียง 

 

                                🔶 Brotherhood 🔶

 

 

 

หมู่บ้าน Eistla  

 

 

⟴Objective > เดินทางออกจาก หมู่บ้าน Eistla  ตามประตูทางออกทิศเหนือมุ่งสู่ The Mother’ Mines เป้าหมาย The Great Southern Gate

 

 

 

                     📗 SideQuest : Laid to Rest 

 

 

ทหารรอยัลลิสต์บาดเจ็บ - อะไรอีกล่ะที่นี้ .... ที่นี่มันไม่มีความสงบให้กับคนที่กำลังจะตายจริงๆหรอเนี่ย…..? 

Clive - เกิดอะไรขึ้นที่นี่งั้นหรอ?

 

 

ทหารรอยัลลิสต์บาดเจ็บ - การท่วมของ aether ทำให้คนของผมกลายเป็นสัตว์ร้ายไปหมดแล้ว ..จริงๆแล้วผมก็ไม่ไว้ใจพวก orcs แต่แรกอยู่แล้ว แต่ก็ต้องยอมร่วมงานด้วยเพราะทางหน่วยเหนือบอกมันจะภักดีกับเป้าหมายของเรา แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น

Clive - เชื่อพวกมันได้ก็แปลกแล้ว ที่แปลกคือทำไมพวกนายถึงเชื่อใจพวกมันมาจนถึงตอนนี้มากกว่า 

ทหารรอยัลลิสต์บาดเจ็บ - บางทีพวกมันอาจรู้ว่าเรากำลังแย่ กษัตริย์เราสิ้นแล้ว ประเทศชาติเราก็ด้วย ไม่มีความภักดีกับบัลลังค์ที่สั่นคลอนหรอก ตอนนี้อ่ะหรอ ช่างแม่ง Waloed ...ช่างแม่งราชาที่ตายห่าไปแล้ว ช่างแม่งไอ้พื้นที่เหี้ยๆนี่ด้วย ..ดูแล้ว aether น่าจะไม่ส่งผลกับนายใช่มั๊ย นายเป็น Bearer แม้จะลบรอยสักไปแล้วก็เถอะ แต่ก็นะ ชั้นขอร้องหน่อยได้มั๊ยพี่ชาย ถือว่าเป็นความปราถนาสุดท้ายก่อนตายของชั้น อย่างน้อยชั้นจะได้ตายอย่างสงบสุข?

Clive - ได้สิ นายต้องการอะไรหรอ?

ทหารรอยัลลิสต์บาดเจ็บ - ในที่สุดก็มีโชคกับเขาบ้าง ขอบคุณๆๆ ....เลยกำแพงปราสาทไปทาง Stonhyrr มีป่าที่ชื่อ Neverturn ครอบครัวผมฟังอยู่บนเนินเขาท่ามกลางต้นไม้เหล่านั้น ความรักของพวกเขาคือความรักเดียวที่ชั้นเคยรู้จัก ชั้นถูกพรากจากพวกเขามานาน บางทีชั้นอาจได้กลับไปหาเขาอีกครั้งด้วยความตายนี้ก็ได้ ช่วยนำแหวนของผมเอาไปวางข้างๆกระดูกพวกเขาหน่อยนะ ............

 

 

       Clive - หวังว่านายคงได้ไปสู่สุขคติสมดั่งที่ตั้งใจนะ …….

 

 

 

⟴Objective > เดินทางต่อจาก The Mother’ Mines ไปยัง The Great Southern Gate

 



Clive - อย่าบอกนะว่า นี่เป็นทางเดียวที่จะเข้าไปที่เมืองหลวงได้?

Joshua - ก็ตามนั้นเลยครับ 

Clive - นายรู้ใช่มั๊ยว่าหลังประตูนั่นมีกองทัพของพวก Waloed อยู่ไม่น้อยน่ะ โจชัวร์ 

Joshua - รู้สิครับ แต่อย่างน้อยมันก็ไม่มี Dominant แล้วนี่ .

 

 

 

The Great Southern Gate

 

 

 


          แวะเก็บ Treasure Map ที่ศพทางทิศเหนือของพื้นที่นี้ 

 



จากนั้น เดินทางมาที่ Gilded Path ที่ Dhalmekian Republic แล้วเข้าไปที่ Titan's Wake ไปที่ตำแหน่งในแผนที่ 

 

 

จะพบกล่องสมบัติที่ด้านในมี One Man’s Treasure ซึ่งเป็นไอเทมที่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากขาย (ราคา 100,000 Gil)

 

 

 

⟴Objective > เข้าไปที่หน้าประตู Great Southern Gate กำจัดกองทัพศัตรูจำนวนมากที่ออกมา 

 

 

                        Mini boss -  Akashic Tognvaldr 

 

 

                         Mini boss -  Orcish Warlord 

 

 

Joshua - แค๊กๆๆๆๆๆ  

Clive - นายจะพักที่นี่ซักพักก่อนมั๊ย?

Joshua - ไม่ต้องห่วงครับ ผมยังไหว ไปต่อเถอะ 

 

 

 

Kritten Hollow 

 



Joshua - ดูนั่นสิ ไคลฟ์ ! 

Clive - พระเจ้า ... นั่นคือป้อมปราการของพวกมันสินะ 

 

 

 

เมื่อเดินทางถึง Kritten Hollow ก็สามารถเข้าไปที่จุดหมายของ SideQuest : Laid to Rest เพื่อนำแหวนของทหารที่บาดเจ็บไปวางไว้ที่หลุมศพของครอบครัวเขาได้ ก็เป็นอันว่า จบภารกิจเสริมที่นี่ 

 

 

Clive - ที่นี่คงเป็นสถานที่พักผ่อนที่ดีที่สุดเท่าที่ใครๆในโลกนี้จะหวังได้ในตอนนี้ หวังว่าที่นี่จะเป็นที่พักที่สงบสุขอย่างที่นายตั้งใจนะ ...

 

 

ที่นี่ไง 

หลุมฝังศพของพวกเจ้าผู้เป็นที่เคารพรัก 

ภรรยาและคู่ชีวิตที่สิ้นอายุขัย, ใน 24 ปีแห่ง Reverie 

 

 

 

Vidargrace 

 

 

Chronoliths Trial by Darkness : The Hand of Enceladus (การทดสอบ Eikon Odin) 

 

 

พิกัด - Vidargrace , Waloed (ตำแหน่งตามรูป)

             
ในภารกิจนี้ ... ถ้าแวะกลับไป The Hideaway จะพบว่า หน้ากระดาษ  Notorious Marks Board จะมีการเพิ่มเติม Notorious Marks ใหม่อีก 5 ตัว 


 

 

                         Notorious Marks Board Update !

 

 

👹Notorious Marks ตัวที่ 23: Gobermouch 

 
  ♛ RANK - A

 

 

     📌พิกัด - หมู่บ้าน Eistla, Waloed (ตำแหน่งตามรูป) ⬆

 

 

   👹Notorious Marks ตัวที่ 24: Bygul 

   
  ♛ RANK - A

 

 

   📌พิกัด - Ravenwit Walls , Waloed (ตำแหน่งตามรูป) ⬆

 

 

    👹 Notorious Marks ตัวที่ 25: Agni  

    ♛ RANK - A

 

 

  📌พิกัด - The Edge of Infinity, Waloed (ตำแหน่งตามรูป) ⬆

 

 

 

   👹Notorious Marks ตัวที่ 26: Usher to the Underworld (Thanatos) 

  
♛ RANK - A

 

 

   📌 พิกัด - Titan’s Wake , Dhalmekia (ตำแหน่งตามรูป) ⬆

 

 

👹Notorious Marks ตัวที่ 27: The Blood Moon (Terminus)  

♛ RANK - A

 

 

 📌พิกัด - The Crock , Sanbreque (ตำแหน่งตามรูป) ⬆

 

 Vidargrace , Waloed

 

 

 

 

 

Joshua - ความสงบก่อนพายุใหญ่...

Clive - ทางเดียวที่จะเข้าไปถึงที่เมืองนั่นได้ก็ต้องข้ามสะพานแล้วผ่านประตูหลักไป ตรงเข้าสู่ท่ามกลางอะไรก็ตามที่เหลืออยู่ของกษัตริย์ผู้ล่วงลับ นายพร้อมใช่มั๊ย?

Joshua - เฮ้ออ... ก็พร้อมเหมือนกับทุกครั้งนั้นแหละครับ 

Clive - งั้นก็ไปกันเถอะ !

 

 

 

                         🔶  Streets of Madness 🔶 

 

                                    Drake’s Spine 

                       Stonhyrr , The Kingdom of Waloed

 

Clive - พวกทหารตายเกลื่อนเลย มันเกิดบ้าอะไรขึ้นที่นี่วะเนี่ย!?
Joshua - ผมไม่กล้าคิดอ่ะครับ อาจเป็นโชคเข้าข้างล่ะมั้ง?
Clive - หวังว่าจะนายจะคิดถูกนะ..
Joshua - ผมก็หวังอย่างอย่างนั้นเหมือนกัน 

   ⟴Objective > ลุยเข้าไปด้านใน เป้าหมายคือ Drake’s Spine

 

 

 

Joshua - นั่นมัน Behemoth ..!
Clive - ใครจะบ้าพอที่จะเลี้ยงสัตว์แบบนี้เนี่ย?

 

 

                              Joshua - ถอยไปไคลฟ์ !!

 

     Clive - นายเป็นไรมั๊ย??
     Joshua - มันมาแล้ว !!!
     Clive - แล้วเราจะมัวรออะไรอยู่อีกล่ะ !?

 

                              BOSS - Behemoth

 

                                Ecliptic Meteor !!!

 

      Joshua - ไม่ !!!  ถอยไปครับ ! ผมจะใช้เวทย์ป้องกันเอง !!

   Joshua - อั๊ก…. !!
    Clive - โจชัวร์ เป็นไรมั๊ย!?

       Clive - ในเวลาจนตรอก ก็ต้องใช้วิธีจนตรอกสินะ !!

Joshua - ไคลฟ์ อย่า !!
Clive - เชื่อใจกันบ้างสิ ชั้นเป็นโล่ของนายนะ ลืมไปแล้วหรอ?

 

           Clive - ชั้นว่างานนี้น่าจะเป็นของ Ifrit แล้วล่ะ !!!!

          Joshua - ทำไมถึงหันไปหาเขาก่อนชั้นล่ะพี่ชาย ?

      Joshua - ก็บอกแล้วไม่ใช่หรอว่าถ้าจะสู้ก็ต้องสู้ด้วยกัน !!

 

 

  Clive - ไม่เลวเหมือนกันนี่ 
  Joshua - แค๊ก!!ๆๆ มันแค่เริ่มต้นเท่านั้นเองพี่ 

                             BOSS - Behemoth

 

 

             Clive - เรารีบไปเถอะ! ก่อนที่ทางมันจะขาด !! 

Joshua - หากเหมือนกับที่อื่นๆ ทางเข้าวิหารคริสตัลน่าจะอยู่ตรงเชิงเขานะ เราใกล้จะถึงแล้วล่ะ !!

⟴Objective > ลุยเข้าไปจนถึงปราสาท เป้าหมายคือ Drake’s Spine

 

                          Joshua - มากันเพียบเลยนะเนี่ย !!

 

Clive - ดูเหมือนมันจะมากันไม่หมดไม่สิ้นเลยด้วย !! ดูจากจำนวนแล้วก็น่าจะเป็นทหาร Waloed ทั้งหมดที่อยู่ในป้อมนี้แน่นอน 

 

Clive - ถอยมาอยู่ข้างหลังพี่โจชัวร์ !!  พี่จะเรียกอิฟริทออกมา!!
Joshua - ไม่ๆ อย่าไคลฟ์ หนทางยังอีกไกลถ้าพี่กำลังมาใช้ที่นี่หมดจะไม่มีแรงพอที่จะทำลายคริสตัลนะ !!
Clive - แล้วจะปล่อยให้นายตายเนี่ยนะ !!?

                       Mid - ทุกคนลุยได้เลยยยยย !!!!!

 

                                  Clive - จิล !!!

                   Joshua - และเธอไม่ได้มาคนเดียวด้วย !!

 

                   Jill - เซอร์ไพรซ์มั๊ยที่เจอพวกเราน่ะ?

Clive - แล้วเธอมาได้ไง?
Jill - Gav น่ะ เขาบอกว่านายน่าจะอยู่ตรงไหนแถมบอกจุดเจาะกำแพงได้อย่างตรงเป๊ะด้วย และจากสถานการณ์แล้วเราก็คงไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อเขาอ่ะนะ 

                 Jill - ส่วนรายนั้นมาอยู่กับเราได้วันนึงแล้ว 

Joshua - เราเป็นหนี้การได้รับเกรียตินี้แล้วใช่มั๊ย?
Dion - เป็นหนี้ที่ชั้นต้องจ่ายต่างหาก 

Clive -ไง เจ้าชาย ดิออน ดีใจที่เห็นคุณดีขึ้นนะ 
Dion - งั้นนี่ก็คงเป็น อิฟริท สินะ ? ..ลุงของคุณฝากข้อความมาให้ด้วย 

“จงฟังเสียหัวใจของหลาน มันจะนำไปสู่ความจริงอย่างแท้จริง พ่อของหลานคาดหวังไว้ไม่น้อยนะ” .... ประมาณนี้แหละ

Clive - ขอบคุณมากครับ
Joshua - ขอบพระทัยสำหรับทุกๆอย่างเลยนะครับ ฝ่าบาท
Dion -ขอล่ะ เรียกแค่ ดิออน ก็พอนะ 

Gav - นายคงรู้นะว่าทุกสิ่งที่เราปลดปล่อยกันมาตลอด หลังกำแพงนั่นก็จะเป็นที่สุดท้ายแล้ว ? ถึงตอนนี้ก็รบกวนนายท่านนำเราไปทำให้มันเสร็จๆซะ

 

     Clive - แน่นอนอยู่แล้ว Gav .. พวกเรามีงานต้องทำให้เสร็จ 

 Joshua - นายเห็นใช่มั๊ย ไคลฟ์? เราไม่ได้อยู่ลำพัง เรามีพวกพ้องและพวกเราต้องการชัยชนะในวันนี้ และเราทุกคนจะต้องมีส่วนร่ามในชัยชนะนี้ด้วนกัน และมันอยู่อีกด้านของประตูนั่นแล้ว 
Clive - เราต่อสู้มานานและหนักมาก ในช่วงเวลานี้ เป็นความฝันของซิด ความฝันของเรา ไปทำความฝันของเราให้อยู่ในมือเรากันเถอะ
Joshua - เหลือแค่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่เราต้องฝ่าฟัน และเราจะทำมันด้วยกัน 

Clive - ทุกคนรู้นะว่าอะไรที่รอเราอยู่หลังประตูบานนี้ ? และเราจะเผชิญหน้ามันด้วยกัน !!

        Dion - ดูเหมือนเจ้าภาพเราไม่อยากให้งานเลี้ยงจบนะ

        Dion -  ชั้นจะต้านมันไว้เอง พวกนายไปต่อซะ !!

Jill - เรา จะต้านพวกมัน นายไปก่อนเลยไคลฟ์ !!!
Gav - แล้วอย่าให้เรารอนานล่ะ !!
Clive - ขอบใจนะทุกคน ...

 

 

                     Clive -  ห๊ะ !? …. แก !!!!

 

                   Ultima - ขอต้อนรับ บุตรแห่งเพลิง .

 

 

 

                             Jill - ไม่นะ !! ไคลฟ์ !!!!!

 

Clive - โจชัวร์ ตื่นได้แล้ว !!!
Joshua - นั่นนายหรอไคลฟ์? … มืดจัง ..ที่นี่มัน ... ไม่ใช่ Stonhyrr นี่?

Ultima - ขอต้อนรับสู่ ... ความมืดมิดของเรา .. รอยแยกระหว่างโลก ที่ๆเผ่าพันธุ์เจ้าอาจจะ ... ย้อนนึกถึง 

              Clive - แน่จริงก็แสดงตัวออกมาสิวะ !!!

Ultima -บาปของพวกมนุษน์นั้นมีมากมาย และ ร้ายแรงเกินอภัย และเราจะให้เจ้ารู้ถึงมัน ทั้งหมด ดังที่โชคชะตาเห็นสมควรที่ส่งพวกเจ้ากลับบ้าน ..ของเจ้า.. ถือว่าเป็นของขวัญต้อนรับกลับบ้านของพวกเรา

              Joshua - ดูเหมือนเราติดกับดักของมันซะแล้ว 

Clive - และทางเดียวที่จะกลับไปได้ก็ต้องผ่าน Ultima …ไปตามหามัน แล้วออกจากที่นี่กัน !!

 

                         The Interdimensional Rift 

 

⟴Objective > เข้าไปด้านใน รอยแยกระหว่างมิติ ตามหาอัลติม่า เพื่อออกจากที่นี่ 

Ultima - ถ้าพวกเจ้าอยากเข้าใจถึงขอบเขตที่พวกเจ้าละเมิดเอาไว้ทั้งหมดก็ต้องย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น 

Ultima - เมื่อครั้งที่โลกยังเยาว์วัย เราไปเยี่ยมชมที่นั่นด้วยความมหัศจรรย์แห่งเวทย์มนต์ และด้วยความสว่างแห่ง แสง นั้น ทุกชีวิตก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นมา แต่ราคาของมันก็หนักหนาไม่น้อยอยู่เหมือนกัน เมื่อ บางสิ่งที่ทำให้มืดมัว ลงมาที่พื้นดิน วาดภาพขอบฟ้าให้มืดมิดราวกับค่ำคืน แม้เราจะพยายามหยุดการแพร่กระจายของมัน แต่ด้วยความพยายามนี้ ทำให้เรายืนหยัดอยู่อย่างไร้ซึ่งพลัง เราจึงหนี เพื่อเฝ้ารอที่จะค้นพบหนทางแห่งความอยู่รอด 

Joshua -  ถ้าเวทย์มนต์ทำให้เกิด Blight แล้ว Mothercrystals ล่ะ?

Ultima - แต่ อนิจจา ทางรอดนั้นไม่พร้อมที่จะมี ประการแรก เราต้องการพื้นดินที่ปราศจากคราบมลทิน การเดินทางที่ไม่เคยมีมาก่อนรอเราอยู่ การเดินทางที่เกินขอบเขตของร่างกายและเนื้อหนังของเรา ดังนั้นเราจึงได้ละทิ้งมันไป แม้จะเปลืองจิตวิญญาณของเราไปมากมาย แต่ด้วยเหตุนี้เราจึงได้พบสวรรค์แห่งใหม่ของเรา ดินแดนที่บริสุทธิดุจหิมะ ..วาลิสเธีย งานที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางมฤตยูสีดำที่ไล่หลังเรามา และในไม่ช้า เราก็พบวิธีแก้ปัญหา โรคร้ายที่ลุกลาม มีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่จะรอดพ้นชะตากรรมนี้ นั่นคือ เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง 

Clive - โลกใหม่ที่ Barnabas กำลังทำทุกอย่างเพื่อให้มันเกิดขึ้น แดนสวรรค์ที่ปราศจาก Blight ที่ซึ่งพระเจ้ารอคอย ..และถ้าเรายอมทิ้งเจตจำนงของเราและทุกสิ่งที่เรารัก มนุษยชาติก็สามารถอยู่ร่วมกับเขาได้ 

Clive - ดังนั้น อัลติม่าเลยอยากให้เราเดินตามรอยของราชา Barnabas  
Joshua -   และเราก็กำลังตามรอยมันอยู่ ..แค่ตอนนี้ 

Ultima - การสร้างโลกใหม่ไม่ใช่เพียงต้องใช้พลังแค่นั้นแต่ต้องมีโครงสร้างร่างกายที่แข็งแกร่งพอจะใช้มันด้วย แผนแรกนั้นผ่านไปอย่างง่ายดาย เมื่อต้องการให้ดินแดนไม่ถูกกลืนกินโดย Blight วาลิสเธียจำต้องเต็มไปด้วย aether และเราต้องวางอัญมณีไว้บนมงกฎของเธอเท่านั้น เธอจึงจะรับมันได้ แผนที่สองคือ ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นข้าเลยโยนเมล็ดพันธุ์แห่งมนุษย์ลงมา 

Clive - แกเป็นคนสร้างเรางั้นหรอ?

Ultima - แล้วนั่นไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าควรทำงั้นหรอ? เราหว่านเมล็ดพวกนั้นไว้ให้เจ้า มิธอส ทั้งหมดเพื่อให้เจ้าเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นในวันนึงข้างหน้า เพื่ออนาคตที่มั่นคงและปลอดภัยของเรา เราจึงคิดจะหลับใหลเพื่อรอวันนั้น ซึ่งนั่นเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงก็ตาม เพราะในขณะที่เราหลับอยู่ ชายผู้นั้นก็ได้กระทำบาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา ..เขาตื่นขึ้นมา และอยู่อย่างลำพังในโลกที่ไร้ซึ่งพระเจ้าของเขา สะดุดล้มสุ่มสี่สุ่มห้าไร้ซึ่งคำชี้นำ เมื่อไม่พบแสงสว่าง เขาจึงจุดไฟของเขาเองขึ้นมา ซึ่งเกิดจากแรงกระตุ้นที่ผิดพลาด นั่นก็คือ เจตจำนงอิสระของเขาเอง และในที่สุด เขาก็ค้นพบตัวเองแล้ว เขาโพกัสถึงแต่เรื่องตัวเองและพบว่าเขามีความปราถนามากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่มีเพียงเวทย์มนต์เท่านั้นที่สามารถทำได้ สงครามก็เริ่มปะทุขึ้น และเหล่าพี่น้องเข่นฆ่ากัน เพื่อแย่งชิงทรัพยากรที่กำลังลดน้อยลง แล้วแผ่นดินก็ร่ำไห้จนน้ำตากลายเป็นสีดำ 

Joshua - เขากำลังจะโทษพวกเราเรื่องนี้งั้นหรอ? นี่มัน มือถือสากปากถือศีล นี่หว่า มันพูดไม่ดูตัวเองเลยใช่มั๊ยเนี่ย?  
Clive - ไม่ใช่ไม่ดูตัวเอง แต่ไม่ยอมรับความจริงมากกว่า ว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกัน

 

Clive - นั่นมัน ..... 
Joshua - อิฟริท ...หรือ ส่วนที่เหลืออยู่ของเขา ...

Ultima - ขี้เถ้ามันคงเย็นลงนานเพราะขาดประกายไฟ จ้องมองดูเขาสิ แล้วดูว่าเจ้าต้องเป็นอะไร ...วาลิสเธีย ไม่สามารถทนต่อการเรียกร้องครั้งที่สองของเธอได้อีกแล้ว ความโลภของมนุษย์พลักดันให้เธอเข้าใกล้ความหายนะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอสามารถรอดได้ โดย เจ้า 

Ultima - มันเป็นสิ่งที่เจ้าเกิดมาเพื่อจะทำมันตั้งแต่แรกแล้ว ทำไมเราถึงเลี้ยงดูเจ้าอย่างแม่แท้ๆควรทำ และตอนนี้เจ้าได้เติบใหญ่เต็มที่แล้ว มิธอส ของเรา ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องทำตามจุดประสงค์ของเจ้าแล้ว 

Clive - เพื่อแก้ไขความผิดพลาดของแกงั้นหรอ? หากบาปของเราคือการต้องการที่จะอยู่รอด ก็แสดงว่าแกมันก็ไม่ต่างกัน แกต่างหากที่ผิด เจตจำนงอิสระของเราเกิดขึ้นก็เพราะแกทอดทิ้งพวกเรา และตอนนี้แกก็จะให้เราตายกันให้หมดเพื่อที่นี่จะได้เป็นสวรรค์แห่งใหม่ของแกเนี่ยนะ?

Ultima - เจ้าคิดว่าตัวเองคู่ควรงั้นหรอ? มนุษย์ชาติไม่มีอยู่ในโลกของเราแต่แรกแล้ว เรื่องนี้มันเข้าใจยากสำหรับพวกเจ้าจริงๆงั้นหรอ? เราต้องแค่เจ้าเท่านั้น มิธอส เมื่อถึงเวลาที่ต้องอำลาอาณาจักรที่น่าสมเพชนี้ หากไม่ปฎิบัติตาม ก็จะไม่มีเหลืออยู่เลย  

Joshua - แกหมายความว่าไง ไม่มีใครเหลือ ??

Ultima - นี่เป็นโลกของเรา เมื่อการเกิดใหม่ของดินแดนสมบูรณ์แล้ว มนุษย์ก็หมดหน้าที่และบรรลุจุดประสงค์ของมันแล้ว เหตุใดข้าต้องทุกข์กับการจากไปของสิ่งที่ทำให้ข้าทุกข์ด้วยล่ะ?

Clive - ก็เพราะแผ่นดินนี้ไม่ได้เป็นของแกอีกแล้ว แต่เป็นของพวกเรา !! อ๊ากกกก !!!!!

 

                             Clive - ห๊ะ? อะไรกันเนี่ย ??

Ultima - นั่นคือเรื่องที่เจ้าเข้าใจผิด เจ้าไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลยนอกจากเจตจำนงอันมีค่าของเจ้า 

                                Joshua - พี่ครับ ..

Clive - ชั้นคงทำเรื่องนี้คนเดียวไม่ได้
Joshua - แล้วก็ไม่ควรทำด้วย

 

Ultima - ข้าเบื่อกับความย้อนแย้งของพวกเจ้าเต็มทีแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่เจ้าต้องเรียนรู้ว่า เจ้านายย่อมไม่ชอบการไม่เชื่อฟัง 

 

Clive - เพื่อนของชั้น ครอบครัวของชั้น เราทุกคนต้องทนทุกข์ ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด แม้โลกนี้จะมีตำหนิ มันอาจกำลังแตกสลาย แต่มันคือโลกเดียวที่เรามีอยู่ 

 Clive -  และถ้ามันแบ่งกันไม่ได้ ก็เหลือทางเลือกเดียว คือแกต้องไสหัวไป!!

Joshua - แกอาจจะเป็นคนสร้างเรา อัลติม่า แต่ตอนนี้ เราอยากจะมีชีวิตของเราเอง !! นี่ไม่ใช่โลกของแกอีกต่อไปแล้ว 

                Clive / Joshua - แต่เป็นของพวกเรา !!!!

                                  BOSS - Ultima 

 

Ultima - การกระทำเช่นนี้ไม่ทำให้เจ้าได้เปรียบอะไรเลย สำหรับเจ้า แค่กัมหัวยอมศิโรราบข้าก็พร้อมจะอภัยให้แล้ว โธ่ พวกมนุษย์ที่น่าสงสาร ไม่เคยมีความสำนึกผิดแม้แต่น้อยจริงๆเลย 

 

Ultima - ข้าให้โอกาสขนาดนี้ พวกเจ้ายังกล้ายกดาบของเจ้าขึ้นมาต่อต้านพระเจ้า 
Clive - อะไรอีกวะเนี่ย !??

Joshua - ความมืดถูกเบี่ยงเบนไป มันกะจะกำจัดเราที่นี่ให้สิ้นซากเลย 
Clive - ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชั้นเจอแบบนี้หรอก แต่จะทำให้มันเป็นครั้งสุดท้าย

Ultima - ชะตากรรมของพวกเจ้ามันจะไม่มีวันจบสิ้นหรอก มอบพาหะให้แก่ความมืดมิดซะ มอบมันให้กับเรา !!

   Ultima - ในที่สุด ...ข้ารอคอ่ยช่วงเวลานี้มาหลายชั่วอายุคนแล้ว 

 

 

Ultima - การต่อสู้ของเจ้าทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น แต่จิตวิญญาณของเจ้าก็ยังคงอัดแน่นไปด้วยบาป กลับใจซะ และทุกคนจะได้รับการอภัยโทษ 

 

 

 

Cid - บอกชั้นหน่อยสิไคลฟ์ นายช่วยชีวิตคนมากี่คนแล้วตั้งแต่ใช้นามของชั้น?

Jill ในวัยเด็ก - น้อยกว่าที่เราถูกทำลาย ไม่ว่าเราจะไปไหนก็ทิ้งทะเลน้ำตาเอาไว้ทุกครั้งที่เราตื่นขึ้นมา 

Arcduke Elwin - สิ่งเหล่านี้ ... คือค่าตอบแทนสำหรับเจตจำนงของเจ้า ลูกพ่อ 

Jill - ทางเลือกนั่นมันดีสำหรับเราแล้วหรอ? ในเมื่อนายทำเองทั้งหมด และทั้งหมดที่ทำก็นำมาแต่ความตาย 

Mid - มันชดใช้ไม่หมดหรอกไคลฟ์ ไม่ว่านายจะพยายามแค่ไหนก็ตาม 

แล้วทำไมนายไม่ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังซะล่ะ ? พอได้แล้ว หยุดเถอะ

                       Clive -  พอได้แล้วงั้นหรอ .........?

                           โจชัวร์ ตอนเด็ก - ไคลฟ์ !!!!

Benedikta - ได้โปรด ไม่มีใครช่วยชั้นเลยหรอ ไม่มีใครรักชั้นแล้วหรอ?

Hugo - ข้าไง ข้าปรารถนาเจ้า แต่เจ้าไม่ใช่ของข้า ที่ข้าให้มาทั้งหมดมันไม่พอรึไง!!

Sleipnir - เจตจำนงเกิดความปรารถนา และสิ่งนี้เองที่กลืนกินคุณ ทำให้คุณไม่สมบูรณ์ 

Barnabas - แกไม่เห็นหรอว่าโลกมันบิดเบี้ยวแค่ไหนภายใต้หัวใจที่หิวโหยของแก 

                แล้วถ้า ทั้งหมดมันก็แค่ ไปให้พ้นๆซะ ล่ะ?

                       Clive - ไปให้พ้นๆซะ งั้นหรอ .....?

                             โจชัวร์ ตอนเด็ก - ไคลฟ์ !!!!

 

 

 

 

Joshua - มันไม่ใช่ความจริง ตื่นได้แล้ว! ถึงเวลากลับบ้านแล้ว ไคลฟ์

Clive - ไคลฟ์ หรอ?
Joshua - ใช่แล้ว นั่นชื่อนาย นายเป็นพี่ชายของชั้น 

                         Clive - น้องชายชั้นหรอ .....? 

 

 

                 Joshua - มาเถอะ จำให้ได้ว่าเราคือใคร 

                                 Clive -  ไคลฟ์ ..... 

                              Joshua - อีกที กันลืม 

           Clive - ชั้นชื่อ ไคลฟ์  ...... ไคลฟ์ ลอสฟิลด์ 

   Joshua - ดูนั่น !!
   Clive - อัลติม่า !!

Ultima - แม้จะเป็นที่นี่ แสงของเจตจำนงแห่งพาหะ ก็ไม่สามารถดับได้ .. และ ฟินิกซ์ การเข้ามาแทรกแซงของเจ้าก็ไม่ควรเกิดขึ้น มันเป็นไม่ได้ เว้นแต่ว่า .... เขาอยู่กับ มิธอส มาตลอด เครื่องหมายของฟินิกซ์ประดับไว้บนหัวใจของเขา ด้วยพลังแห่งเจตจำนงของเขาแต่เพียงผู้เดียว ...พลังแห่งการสรรสร้าง มันเป็นไปได้ยังไง? เจตจำนงของเจ้ามันมีพลังมากขึ้นงั้นหรอ?

              Clive - มันยังพล่ามไม่หยุดเลย มาเถอะ โจชัวร์

 

                Clive -เมื่อเพลิงของเรารวมกันเป็นหนึ่ง !!!

 

 

 

 

 

 

               Ultima - นี่ไม่ใช่การวิวัฒนาการ แต่มันคือ ..... 

   Ultima - มันคือ ความวิปลาส และจากนี้ไป Logos ก็จะผงาดขึ้นมา 

 

 

 

 

Joshua - บ้าเอ้ย ไคลฟ์ ตื่นซะทีซิวะพี่ !!???
Clive - มันเจ็บนะเว้ย !
Joshua - ขอโทษที่ต้องปลุกแบบนี้นะ แต่ถึงเวลาหนีแล้ว ที่นี่มันกำลัง ..

Ultima -เป็นอีกครั้งแล้วที่สิ่งที่ข้าสร้างขึ้นมาเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ซึ่งแตกต่างจากที่ตั้งใจไว้ ด้วยความหยิ่งยะโสของเจ้า เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า เจ้าโอบกอด Logos .. แต่เราจะยุติความโอหังนี้ 

Clive - นี่แกพล่ามเรื่องอะไรของแกกันวะ !!?

Ultima - ภายใน Halls of Origin พลังที่แท้จริงของเราจะฟื้นคืน โดยเร็ว และที่นั่นเจ้าก็จะถูกทำให้สมบูรณ์ด้วยเช่นกัน แล้วเจอกันเร็วๆนี้ มิธอส ไม่นานเจ้าจะรู้ว่า เจ้ารู้จักคำว่า ทุกข์ น้อยเกินไป 

   Clive - ที่นี่กำลังจะถล่ม !!!
   Joshua - ผมจะพาหนีเอง !!

 


Ultima - แม้จะไม่มีคริสตัลเหลืออยู่แล้ว แต่หาได้มีแต่ความเงียบงั้น เพราะยังมีบทเพลงใหม่ดังขึ้นมา 

 

 

Ultima -  เสียงประสานจะเริ่มดังขึ้นเมื่อเข้าสู่การเคลื่อนไหวครั้งสุดท้าย ปลุกเร้าการหลับใหลอันยาวนานให้ตื่นขึ้น 

 

            Ultima - และกลับคืนสู่ ต้นกำเนิดของพวกเขา 

 

 

 

 

 

 

   Gav - นั่นมันบ้าอะไรวะนะ !!?
   Jill - นั่นมัน ... aether หรอ?

 

Dion - คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น 
Jill - น่าจะมีอะไรผิดพลาดแล้วล่ะ 

 

   Clive - เรากลับมาได้แล้ว !!
   Jill - ไคลฟ์ !! โจชัวร์ !!!

Clive - ทุกคนปลอดภัยนะ !!?
Jill - พวกเราปลอดภัย เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ?
Clive - เล่าที่นี่คงไม่เหมาะ ... Mid!!!  เราต้องหนีแล้ววว !!!!

                Clive - เอาล่ะ ทุกคนกลับขึ้นเรือได้เลย !!

 

 

                          🔶 Back to their Origin 🔶

 

 

                                   The Hideaway 

                            Bennumere, Central Storm

 

Otto - เท่าที่สังเกตดูยังครบ 32 สินะ? มีคนบอกชั้นว่านายลืมอะไรลอยเอาไว้บนเส้นขอบฟ้าด้วย ตกลงนายจะจัดการมันยังไง?
Clive - เรื่องมันยาวอ่ะครับ ยังไงช่วยไปตามทุกคนมารวมกันได้หน่อย จะได้ประชุมแล้วบอกทีเดียวเลย 
Otto - โอเค ได้สิ เดี๋ยวจัดให้เลย ที่ดาดฟ้าก็แล้วกันนะ 

 

Clive - เอาล่ะ มาครบกันทุกคนแล้วนะ? ผมแน่ใจว่าทุกคนคงเดากันได้ว่า ไอ้คริสตัลขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้าทางตะวันออกคือสิ่งที่ อัลติม่า เรียกมา มันเรียกสิ่งนั้นว่า Origin ส่วนความหมายของมันนั้นยังไม่ชัดเจน 

Vivian - ไม่สำคัญหรอกว่ามันจะเรียกว่าอะไรหรือแปลว่าอะไร แต่มันทำให้ Twinside แยกออกจากกันไปแล้ว แถมกวาดล้างบ้านเกิดชั้นออกจากแผนที่ด้วย 

Harpocrates - มันมีการกล่าวถึงยอดแหลมของ Dominion ในบันทึกโบราณของวาลิสเธียนอยู่เหมือนกันนะ แต่ไม่เคยมีใครบอกเลยว่ามันมีปีศาจหลับใหลอยู่

Byron - การล่มสลายของ Dominion เกิดขึ้นเร็วมากจนกองทัพสาธารณะรัฐไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ความวุ่นวายที่กลืนกิน Ran’dellah ได้เลย Kanver อยู่ในกองเพลิง จากนั้นก็ทั้งอณาจักร ...
Gav - พันธมิตรของเรากำลังรอคำตอบของเรื่องนี้จากเราอยู่ด้วย ชั้นทำได้แค่ส่ง Cursebreakers ไปบอกพวกเขาว่าเราจะทำเท่าที่จำได้ แต่ตอนนี้ มันเป็นอะไรที่แย่กว่านั้น 

Tarja - ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ไม่สามารถหยุดไม่ให้เจ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นได้แล้ว แถมผู้คนทั้งที่นี่และทั่วทั้งอณาจักรก็ป่วยหนักมากขึ้นทุกวันด้วย 
Jill - จะเป็นไปได้มั๊ยที่ มาเธอร์คริสตัล อันใหม่ที่เกิดขึ้นมันจะเหมือนกับก้อนอื่นๆคือ ดูดกลืน aether จากโลก? แน่นอน เราเห็นจากที่มันทำกับ Stonhyrr แล้ว 
Jote - ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ การแพร่กระจายของ Blight ก็จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยสินะ?

Joshua - และในขณะที่ aether ที่ลอยตัวจากพื้นดินช้าๆมันก็จะไปรวมตัวกัน ..และอาจทำลายทุกสิ่งที่ไม่ได้ส่งพลังไปให้มันด้วย เมื่อก่อนมันเริ่มจาก aether เริ่มท่วมจากพื้นด้านล่าง และขึ้นมาตรงกลาง จนเราอ่อนละทวยและติดกับอย่างสิ้นหวัง ... เอ่อ ...โทษทีครับ ...
Clive - ไม่เป็นไรหรอก ..

Clive - ตอนที่ผมเผชิญหน้ากับมันที่ Stonhyrr อัลติม่ามันบอกว่า พลังที่แท้จริงของมันจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่ Origin ..ก็คงไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว ยังไงเราก็จะปล่อยให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ และการจะหยุด อัลติม่า เราก็ต้องหาทางเข้าไปที่ Origin ให้ได้

Mid - แล้วเราจะไปที่นั่นได้ยังไง? ก็มันลอยอยู่บนฟ้า ต่อให้ Enterprise ของชั้นจะเร็วแค่ไหน มันก็บินไม่ได้ 

Otto - เอาล่ะ เรามีหลายอย่างที่ต้องคิด และชั้นว่าเราทุกคนควรจะหาเวลาพักเพื่อเคลียร์สมองก่อนก็ดีนะ ยังไงคำตอบก็จะมาหาเราเองนั่นแหละน่า อย่าไปกังวลกันนักเลย ..จริงมั๊ย ไคลฟ์?
Clive - อืมม .. ใช่ .. ใช่แล้ว 

Otto - เอ้า รออะไรอีกล่ะ แยกย้ายกันไปพักผ่อนได้แล้ว ไป๊ !!! นายด้วยไคลฟ์ สภาพนี้นายคิดอะไรไม่ออกหรอก ไปสูดอากาศบริสุทธิ์และพักผ่อนก่อน!!
Clive - ขอบใจนะอ๊อตโต้ 

 

Clive - อัลติม่าอาจจะสร้างพวกเรา แต่เขาไม่ได้ทำให้เราเป็นเรา มีเพียงเราเท่านั้นที่จะกำหนดได้ 

Clive - และถ้ามันต้องการให้เราต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของเรา  เราก็ต้องสู้ เหมือนกับที่ผ่านมานั่นแหละ 
Joshua - อัลติม่าเองก็เหมือนกันนั่นแหละ ดูเหมือนการสร้างโลกใหม่อะไรนั่นมันก็คือ การเอาชีวิตรอด ดีๆนี่เอง ดังนั้นเราจึงต้องสู้เพื่อตัดสินว่าใครจะได้สืบทอดแผ่นดินนี้ และถ้ามันชนะ พวกเราทุกคนก็ต้องตายกันหมดแน่นอน แต่ถ้ามันล้มเหลว โลกใหม่ก็รอเราอยู่ สถานที่ที่เหี่ยวเฉาไร้ซึ่งพระเจ้า ที่ซึ่งเสรีภาพเพิ่งมีการค้นพบของเราก็เหมือนโซ่ตรวนผูกมัดตัวเอง 

Clive - ก็อาจเป็นอย่างนั้น ... แต่โซ่ก็สามารถขาดได้เหมือนกัน ตราบใดที่เราตั้งใจที่จะตัดมัน และมันจะไม่ง่าย อาจต้องใช้เวลาหลายชั่วอายุคน อาจต้องทุกข์ทนกันเป็นศตวรรษ ถ้าทุกคนเล่นตามบทของตัวเอง มันก็อาจเกิดขึ้นได้จริงๆ และ ตอนนี้ มันก็กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว และเมื่อมันเกิดขึ้น ทุกอย่างมันจะดำเนินไปตามความต้องการของเราเอง  นั่นคือโลกใหม่ที่รอเราอยู่
Joshua - ใช่แล้ว จะมีโลกที่ดีกว่านี้ ที่ใครก็สามารถปรารถนาได้ 

 

Clive - แต่ก่อนอื่น เราต้องหาทางไปที่นั่นให้ได้ก่อน 
Joshua - งั้นผมก็มีแผนดีๆอยู่ คือ ผมมีปีก ลืมแล้วหรอ?
Clive - นายน่ะจะยืนยังแทบไม่ไหว ไม่ได้พูดถึงเรื่องบินเลย และพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามีอะไรรอเราบนท้องฟ้าเหนือสิ่งนั้น นายคิดเผื่อเรื่องนี้เอาไว้บ้างมั๊ย?

Joshua - ถามว่าแน่ใจมั๊ยอ่ะหรอ? ชั้นคือ ฟินิกซ์ นะ ผมจะทำสิ่งที่ผมต้องทำ นี่คือการต่อสู้ของเรา พี่ลืมแล้วหรอ?
Clive - ก็ได้ ...ยอมก็ได้ แต่นายจะทำสิ่งที่ต้องทำแค่นั้นใช่มั๊ย? เพราะชั้นก็ยังเป็น โล่ ของนายอยู่ 
Joshua - พี่เป็นมาตลอดอยู่แล้วน่า ..

Dion - แล้วถ้าเป็นปีกของผมด้วยล่ะ? กลัวว่าพวกคุณจะลืมว่า พวกคุณกำลังจะไปสู้กับพระเจ้านะ ผมจะไม่ยอมให้พวกคุณหมดแรงก่อนที่จะไปสู้กับมันหรอก .. อิฟริท !! น้องชายคุณบอกว่าพวก Dominant ที่เสียพลังให้กับคุณยังคงเป็น Prime ได้ เรื่องนี้จริงมั๊ย?
Clive - ก็จริง แต่ในกรณี Eikon ของเขายังไม่ยอมแพ้อ่ะนะ 
Dion - และของชั้นก็คงยังไม่ยอมแพ้ และจะต้องแข็งแกร่งกว่าเดิมอีก เพื่อช่วยให้คุณสองคนมีแรงพอสำหรับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่กำลังจะมาถึง

Joshua - คุณไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้นะครับ 
Clive - ถ้านายทำ ถ้าใช้ร่าง Prime นายมีโอกาสจะสูญเสียสิ่งที่เหลืออยู่ได้นะ
Dion - แล้วผมต้องเสียใจด้วยหรอ? ชีวิตผมจบลงที่ Dominion แล้ว ผมไม่กลัวตายอีกแล้ว 

Dion -  และอีกอย่าง ผมมีอะไรจะบอกกับ อัลติม่า นิดหน่อย และมันจะต้องมีคำตอบให้ผมด้วย

Joshua - เราเป็นหนี้คุณแล้ว ดิออน 
Dion -  เอาไว้คุยเรื่องหนี้เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลงแล้วก็แล้วกันนะ 

Clive - เขาพูดอย่างกับคนที่เตรียมตัวตายงั้นแหละ แต่ยังไงก็ตกลงไปแล้ว
Joshua - แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเราต้องทำให้มันเป็นแบบนั้นนี่ ไคลฟ์?
Clive - ชั้นต้องไปคุยกับจิลหน่อย หวังว่าเธอจะเข้าใจนะ 

   Jill - เรามาขอพรกับดวงดาวกันมั๊ย?
   Clive - ก็ไม่ใช่ความคิดที่แย่อะไรนะ 

Clive - ถึงเวลาแล้วนะจิล เธอรู้ใช่มั๊ยว่าชั้นต้องทำอะไร และทำไปเพื่ออะไร ตอนนี้เราหันหลังกลับไม่ได้แล้ว นี่คือการเดินทางที่กำลังจะนำพาเราไปที่ไหน จบยังไง ดีขึ้นหรือแย่ลง ชั้นก็ยังตอบไม่ได้ 
Jill - ชั้นจะอธิฐาน Metia ให้นาย นายคงไม่ว่าอะไรนะ ไคลฟ์?

Clive - ชั้นสัญญาว่าเราจะกลับดูพระจันทร์ด้วยกันอีกครั้ง 
Jill - ชั้นจะรอนะ …

 

 

                        The Hideaway SideQuest Unlock !  
            

📗SideQuest: Aiming Hight

📗SideQuest: Litany of Errors 

📗SideQuest: Three’s Company

📗SideQuest: Nobody’s Tool

📗SideQuest: Trial and Error 

📗SideQuest: Where There’s a will ** 

 

                           📗 SideQuest: Litany of Errors

 

Herman - ซิด พอจะมีเวลาซัพแปบมั๊ยครับ?
Clive - มีแน่นอน 
Herman - เป็นเกรียติมากที่ได้มีโอกาสคุยกับคุณนะครับ ผมชื่อ Herman ผมเป็น Cursebreakers มาได้ซักพักแล้วล่ะ ก็หวังว่าจะได้ทำหน้าที่ใน ash กับการมอบหมายใดๆก็ตาม
Clive - ไม่ได้ครับ ข้ามไปยังดินแดน Narrow ตอนนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก ผมจะไม่ส่งเจ้าหน้าที่คนไหนไปเสี่ยงชีวิตโดยไม่จำเป็นหรอกนะ และ คุณอยากกลับไปทำไมหรอ
Herman - ผมต้องการจะไปนำเอาบางอย่างกลับมา บางอย่างที่สำคัญมากๆ ผมเองได้รับการเลี้ยงดูจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า Badbach หรือจะเรียกว่า ถูกกักขัง อยู่ที่นั่นก็ได้ จริงๆมันไม่ใช่สถานที่สำหรับการเลี้ยงดูแต่มันไว้สำหรับเปลี่ยนลูกหลาน Bearer ให้เป็นอาวุธโดยไร้เหตุผล เราถูกทรมานจนกลายเป็นอะไรที่ด้านชาต่อความเจ็บปวด ถูกทรมานจนใจเราแข็งดั่งหิน น้อยคนนักที่รอดชีวิตกลับมา แต่ก็ต้องกลายเป็นเครื่องมือของราชาองค์สุดท้ายอยู่ดี เราสูญเสียกันมาก ผมจำชื่อพวกเขาไม่หมดด้วยซ้ำ แต่พวกเขาจะต้องถูกจดจำก่อนที่จะถูกลืม สถานที่นั้นค่อนข้างมีระเบียบที่รัดกุมในแบบทหาร เด็กทุกคนจะต้องถูกบันทึกชื่อเอาไว้ แม้แต่คนที่เสียชีวิตก็ตาม ซิด ได้โปนดอนุญาตให้ผมเดินทางไปที่นั่นเพื่อตามเก็บทะเบียนรายชื่อเหล่าพี่น้องของผม เพื่อให้พวกเขาได้มีชีวิตอยู่ต่อไปในความทรงจำด้วยเถอะ 

Clive - นายเป็นเพื่อนที่ดีนะ Herman แต่ที่ Ash ตอนนี้มันอันตรายมาก
Herman - ซิด ได้โปรดเถอะครับ สิ่งนั้นมันมีค่าต่อจิตใจผมมากๆ
Clive - ที่นั่นอันตรายสำหรับนาย Herman แต่ไม่ใช่สำหรับชั้น เดี๋ยวชั้นจะไปที่ Badbach แล้วเก็บทะเบียนนั่นกลับมาให้เอง 
Herman - คุณจะไปเองหรอ ....
Clive - อืมม ชั้นจะให้นายเสี่ยงชีวิตโดยไม่จำเป็นไม่ได้ 
Herman - ผมไม่รู้จะขอบคุณคุณยังไงดี 
Clive - เริ่มจากบอกผมว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นอยู่ที่ไหนก็พอ 
Herman - ที่ Vidargraes ซ่อนตัวอยู่ในป่า
Clive - โอเค ชั้นจะลองหาดู 

 

⟴Objective > เดินทางไปที่ Vidargraes > Badbach conservatory

 

และตรวจสอบเอกสารด้านใน 

Clive - ตารางการฝึกพฤติกรรมการเรียนรู้ ..นี่เหมือนไม่ใช่การทรมานเลยนะ 

 

Clive - เอกสารการรับเข้าอบรมการเป็นทหาร กฎ และการลงโทษประหารชีวิตกับผู้ที่ไม่ยินยอมเข้าร่วม ....  Herman ไม่ได้พูดเกินจริงเกี่ยวกับที่นี่จริงๆด้วย แปลกใจว่าเขารอดจากสถานที่แบบนี้ได้ยังไง ชั้นต้องหาทะเบียนรายชื่อให้เจอ

เมื่อเร็วๆ นี้ ฉันได้เรียนรู้ว่าลูกสาวของฉันเองอยู่ในหมู่เด็กๆ ที่กลายเป็นหินจากการฝึกฝนอันโหดร้ายที่ฉันยัดเยียดให้พวกเขา ฉันไม่ได้คิดถึงเธอมากนักตั้งแต่ส่งเธอให้เจ้าหน้าที่ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แต่การสอบถามกับทหารยืนยันว่าเป็นเธอ ฉันได้ทรมานเลือดเนื้อของตัวเองวิญญาณของพวกเขากลับมาหลอกหลอนฉันหมดแล้ว ลูกสาวฉัน... ภรรยาฉัน.. ทั้งหมด... ลูกๆ พวกนั้น... มีมากมายที่ตายด้วยมือของฉัน..  บันทึกรายชื่อทั้งหมดของพวกเขาอยู่ที่ใต้ต้นไม้ที่มีพระหัตถ์เอื้อมขึ้นสู่ท้องฟ้า ต้นไม้สีขาวต้นนั้น ชั้นจะอยู่ที่นั่น ฉันจึงได้ตัดสินใจแล้ว พรุ่งนี้ฉันก็จะต้องตายเหมือนกัน  มีคนตายด้วยน้ำมือของฉันมากมาย..ฉันทนรับความผิดไม่ได้อีกต่อไป

Clive - ดูเหมือนจะเป็นจดหมายลาตายของคนที่เป็นคนดูแลเด็กๆ รายชื่ออยู่ใต้ต้นไม้หรอ? ลองไปหาดูดีกว่า ...

Clive - ต้นไม้สีขาว น่าจะเป็นที่นี่สินะ ...เขาถูกฝังไว้ที่นี่จริงๆหรอเนี่ย? 

    Clive - นี่คงเป็นทะเบียนรายชื่อสินะ ทั้งหมดนี่เลยหรอเนี่ย ?

                      Clive - ก็ว่าอยู่ว่าเมื่อไหร่จะมา 

⟴Objective > กำจัดฝูง Akashic ให้หมดแล้วเอาทะเบียนรายชื่อกลับไปให้ Herman

 

The Hideaway

Herman - ผมได้ยินข่าวแล้วเรื่องที่คุณเพิ่งกลับมาจากฝั่ง Ash คุณได้รายชื่อของเพื่อนผมมามั๊ย? 
Clive - ได้มาสิ นี่ไง 
Herman - ใช่แล้วนี่แหละรายชื่อของ Bearer ที่ตายที่นั่น คนดูแลที่นั่นเป็นคนที่โหดร้าย แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าสิ่งที่เขาควรได้รับ  
Clive - ทะเบียนรายชื่อนี่ถูกฝังไว้ได้ต้นไม้ แต่ไม่มีศพหรือบันทึกใดๆที่เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กๆหลังจากที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าปิดตัวไป
Herman - ผมภาวนาให้อย่างน้อยขอให้มีพวกเขารอดบ้างก็ดี แต่ตอนนี้รายชื่อของพวกเขาทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว ทุกคนที่เราสูญเสียไป สหายที่เป็นดังแสงสว่างในความมืดมิดของผม ผมยังจำหน้าพวกเขาได้เหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน เด็กๆที่ถูกพรากไปจากเตียงในตอนเช้าและไม่ได้กลับมาอีก และไม่มีคำอธิบายใดๆตามมา 

Clive - พวกเขาคงจะดีใจที่รู้นายยังรอดอยู่นะ Herman
Herman - แต่ทำไม่ผมถึงยังรอดอยู่ทั้งที่คนมากมายต้องตายอย่างสยดสยองในสถานที่ที่เลวร้ายนั่นด้วย??
Clive - มันไม่ใช่ความผิดของนายหรอก แล้วการโทษตัวเองก็ไม่ทำให้พวกเขากลับมา ให้เกรียติพวกเขาด้วยการจดจำพวกเขาเถอะ ยังไงก็มีรายชื่อเขาอยู่ อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้หายไปจริงๆ
Herman - ขอบคุณมากซิด ผมจะเขียนถึงเรื่องราวสยดสยองที่ Badback และความเจ็บปวดของเด็กๆที่อยู่ที่นั่น ทั่วทั้ง Valisthea ต้องรับรู้ถึงความทุกข์มรมานของพวกเขา และในนามของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ผมจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกแน่นอน บันทึกนี้คงถูกฝังไปตลอดกาลถ้าไม่ได้คุณช่วยเอาไว้ ขอบคุณจริงๆครับ ซิด 

 

                          📗 SideQuest: Nobody’s Tool

 

Dorys - ซิด คุณพอมีเวลาซักหน่อยมั๊ย?
Clive - มีเสมอแหละ 
Dorys - เจ้านายเก่าของชั้น ดูเหมือนชั้นจะยังหนีไม่พ้นนางนะ เธอหาทางส่งจดหมายมาหาชั้นจนได้ มันเป็นบันทึกของเรือจำของพวก Waloeder ดูเหมือนจะมี Bearer มากมายถูกขังอยู่ที่นั่น 
Clive - แล้วนางรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง?
Dorys - การค้นหาพวก Bearer เป็นทักษะที่ดีที่สุดของนางเลยล่ะ ที่คุก Balmung Dark จะเต็มไปด้วยนักโทษต่างชาติ พวกไร้นาย ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีพวก Bearer รวมอยู่ด้วย ที่สำคัญตอนนี้พอ aether เข้าท่วมที่นั่น พวกผู้คุมไม่กลายเป็นปีศาจก็หนีไปจนหมด พวกนักโทษและ Bearer เลยถูกทิ้งไว้ที่นั่นเลย  
Clive -งั้นก็คงต้องปล่อยให้พวก Bearer ถูกปลดปล่อยโดยใครก็ตามที่ผ่านเข้ามาเจอ
Dorys - ซิด ชั้นรู้ดีว่าคุณไม่อนุญาตให้ Cursebreakers เดินทางไปที่ Waloed ในตอนนี้ แต่ ชั้นอยากให้คุณไว้ใจชั้น ให้โอกาสชั้นเถอะ ชั้นปล่อยให้พวก Bearer ตายคาคุกแบบนั้นไม่ได้จริงๆ ชั้นยอมเสี่ยงที่จะเรือล่มที่ Shadow Coast มากกว่าปล่อยให้พวกอดตายแบบนั้น 

Clive - เราจำเป็นต้องใช้ Enterprise ถ้าจะไปที่ Narrow 
Dorys - หมายความว่า
Clive - ครั้งนี้จะยกเว้นให้ แต่เราจะเดินทางไปด้วยกัน และเราจะอยู่นานไม่ได้ เพราะ Ash ไม่ปลอดภัยขนาดนั้น รีบไปช่วยเท่าที่ได้แล้วกลับเลย 
Dorys - ขอบคุณมากซิด ชั้นมีรายชื่อนักโทษในเรือจำอยู่ หนึ่งในนั้นคือ Chadwick อาจารย์อีกคนของชั้น นายทหารผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์คนนึงที่ใกล้เคียงกับคำว่าครอบครัวของชั้นที่สุดถูกขังอยู่ที่นั่นด้วย 
Clive - เขาคงจะเป็นคนสำคัญของคุณสินะ 
Dorys - เคยเป็น ...ค่ะ 
Clive - งั้นเราไปหาเขากัน 
Dorys - ทางเข้าคุกนั่นอยู่ในกำแพง Ravenwit Walls เลยท่าเรือไปนิดเดียว เรารีบไปรีบกลับ ก็หวังว่าพวก Bearer จะยังรอดอยู่บ้าง 

 

⟴Objective > เดินทางไปที่ Ravenwit Walls

 

🔳คุก Balmung Dark 

 

Clive - ที่ไม่มีพวกผู้คุมอยู่เลยหรอ? 
Dorys - คนเฝ้าประตูยังไม่มีเลย ถ้าพูดเรื่องผู้คุมที่นี่ ถ้าไม่นับพวกที่หนีไปชั้นว่าตอนนี้น่าจะเป็น Akashic หมดแล้ว ถ้า Chadwick อยู่ที่นี่จริงๆชั้นก็เกรงว่าเขาจะกลายเป็น …
Clive - อย่าเพิ่งสิ้นหวังสิ เรารีบออกตามหากันดีกว่า ชั้นล่างนี้ aether ท่วมเข้าเยอะ เดี๋ยวชั้นเช็คดูเอง 
Dorys - งั้นชั้นเช็คชั้นบนเอง โชคดีซิด ดูแลตัวเองด้วย 

 

⟴ Objective > สำรวจคุกชั้นที่ 1 

 

อณาจักร Waloed ก่อตั้งเรือนจำ Balmung Dark เป็นที่คุมขัง Bearers ทั้งในและนอกอณาจักร เพื่อวัตถุประสงค์ในการดูแลและฝึกฝน Kuza Beast เพื่อนำไปใช้ในภาคสนาม 

 

Clive - ชักสงสัยแล้วว่าพวกมันจะพาได้สัตว์ร้ายนั่นไปด้วยมั๊ยตอนที่หนีไป

 

ข้อแนะนำเกี่ยวกับการใช้งาน Kuza Beast

Kuza ได้รับการยอมรับมานานแล้วว่าเป็นสัตว์ร้ายที่ก้าวร้าวเป็นพิเศษ ถ้าสามารถติดตั้ง ซึ่งหวังว่ามันจะเป็นตัวสร้างกำลังใจในสนามรบและสร้างความเสียหายกับศัตรูอย่างหนัก แต่อย่างไรก็ตาม การฝึกฝน Kuza Beast มาจนถึงตอนนี้พิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถทำได้  มันไม่สามารถแยกมิตรหรือศัตรูได้ จึงไม่แนะนำให้นำออกปฎิบัติการร่วมกับทหารประจำการ แต่ควรให้ Bearers เบี่ยงเบนเจ้าสัตว์ร้ายนี้ไปที่ศัตรูแทน จากนั้นทัพหลักจึงเข้าซ้ำเพื่อบรรลุผลการรบได้อย่างสูงสุด

 

    Clive - ไม่แปลกที่พวกจักรวรรดิเลี้ยงดูผู้ถูกตีตราเป็นอย่างดี

 

บันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับการให้อาหาร Kuza Beast

ภาวการณ์ขาดแคลนที่เกินขึ้นก่อนหน้านี้ทำให้เราไม่มีอาหารเพียงพอที่จะเลี้ยงดู Kuza Beast โชคดีที่มีพวก Bearers ที่เข้าฝึกร่วมกับมันเป็นอาหารชั้นดี ทำให้พฤติกรรมการกินแบบฆ่าแล้วกินของมันทำให้มันชื่นชอบ Bearers ที่ยังมีชีวิตเป็นพิเศษ ช่วงหลังสถานะของ Bearers จึงไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ร่วมฝึกอีกต่อไปแต่เป็นอาหารแทน  

 

Clive - พวกมันใช้ Bearers เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ร้ายนั่น นี่มันแย่กว่าที่ชั้นคิดไว้เยอะเลย 

 

⟴ Objective > ขึ้นบันไปสำรวจชั้นที่ 2

 

Clive - โชคไม่ดี ชั้นล่างไม่เจออะไรเลย แต่ชั้นเจอบางอย่างที่ระบุว่าที่นี่เป็นมากกว่าคุก มีเรื่องน่ากลัวเกิดขึ้นที่นี่
Dorys - ชั้นรู้ เอกสารนั่นชั้นอ่านหมดแล้ว ตกลงมันไม่จริงใช่มั๊ย? ที่ผ่านมาพวก Bearers ต้องตายทุกๆวันเพราะถูกส่งให้ไปสู้กับพวกสัตว์ร้าย แต่นี่มันแย่กว่ามาก ส่งพวกเขาให้ไปสู้กับสัตว์ร้ายเพื่อหมายให้เป็นอาหารนี่มันยิ่งกว่าความตายเสียอีก ไม่ใช่แค่คนที่ไม่มีปัญญาจะสู้ แต่ทั้งคนแก่และเด็กก็ด้วย ส่วนคนที่ไม่ยอมก็ถูก กำจัดทิ้ง ไม่ว่ามันจะหมายความว่าไงก็เถอะ
Clive - ชั้นเกรงว่ามันจะหมายถึงเอาไปป้อนให้เป็นอาหารของสัตว์ร้ายที่พวกมันเลี้ยงไว้น่ะสิ 
Dorys - งั้นราก็คงมาสายไปแล้ว ชั้นมันโง่เองที่พาคุณมาที่นี่ 
Clive -  อย่าพูดแบบนั้นเลย แล้วตกลงเธอเจออะไรบนนี้บ้าง?
Dorys - เจอกุญแจ แต่ชั้นลองกับทุกประตูบนชั้นนี้แล้วไขเปิดอะไรไม่ได้เลย
Clive -  อาจจะใช้สำหรับประตูชั้นล่างก็ได้ เพราะมีประตูตรงทางเดินฝั่งขวาที่ชั้นยังเปิดเข้าไปสำรวจไม่ได้อยู่ ถ้าค้นที่นี่เสร็จเมื่อไหร่ตามผมลงไปข้างล่างก็แล้วกัน

 

 

⟴ Objective > กลับลงไปชั้น 1 ใช้กุญแจที่ได้จาก Dorys ไขเปิดประตูทางเดินฝั่งขวาไปต่อ

Bearers เด็ก - คุณเป็นใคร?
Clive - ไม่ต้องกลัวหรอกชั้นไม่ทำอันตรายเธอแน่นอน เธออยู่คนเดียวหรอ? มีคนรอดชีวิตคนอื่นอีกมั๊ย? 
Bearers เด็ก - ยังมีผู้คุมบางคนยังอยู่ที่นี่แต่พวกเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว ทุกคนถูกสัตว์ร้ายนั่นกินไปหมดแล้ว 
Clive - เฮ้ออ ก็แน่นอนอยู่แล้วล่ะ 

Dorys - พระเจ้า! เจอคนรอดชีวิตหรอ?
Clive - ก็ถือว่าคุ้มแล้วที่มา แต่เราจะมัวช้าอยู่ไม่ได้แล้ว เธอพร้อมแล้วนะ เราจะกลับกันแล้ว 
Dorys - พร้อมเมื่อคุณพร้อมค่ะ ...โถ่หนูน้อยน่าสงสาร หนูคงกลัวแย่เลยสินะ
Bearers เด็ก - เอ่อ Chadwick ส่งคุณมาหรอคะ?
Dorys - อะไรนะ รู้จัก Chadwick ด้วยหรอ!!?
Bearers เด็ก - เขาสู้กับสัตว์ร้ายนั่นเพื่อให้หนูมีเวลาหนีออกมาค่ะ เขาต้องส่งคุณมาแน่เลยเพราะเขาสัญญาว่าจะช่วยคนอื่นๆด้วย เขาอยู่ไหน? เขาเปิดห้องขังช่วยคุณใช่มั๊ย? ไม่งั้นคุณจะออกมาที่นี่ได้ไง
Dorys - Chadwick ...

 

** โฮกกกกกกก !!!!!!!

Clive - เสียงอะไร!?
Bearers เด็ก - สัตว์ร้าย! มันกลับมาแล้ว Chadwick ช่วยด้วยยยย !!
Dorys - เราต้องรีบหนีแล้ว
Clive - Dorys ดูแลเด็กให้ปลอดภัยด้วย 
Dorys - แล้วคุณก็ช่วยจัดการไอ้ตัวเขมือบ Bearers นั่นให้หมอบทีนะ

Clive - รอชั้นอยู่สินะ? ถ้ามันถูกใจรสชาติของ Bearers ขนาดนั้นก็อย่าหวังว่าชั้นจะปล่อยให้รอดต่อไปนะ ...

👹Notorious Marks ตัวที่ 28: Kuza Beast

♛RANK A

🚩พิกัด - คุก Balmung Dark / Waloed

                            BOSS - Kuza Beast

Clive - ตายซะ !!
Dorys - คุณบาดเจ็บหรือเปล่าคะ?
Clive - ผมไม่เป็นไร ... คิดว่านะ 

Dorys -  ...ไม่นะ ..
Clive - มันคืออะไรหรอ?
Dorys - สมุดบันทึกเล่มนี้ชั้นให้ Chadwick ไว้ก่อนที่เราจะแยกทางกัน 
เขาเคยอยู่ที่นี่แน่ๆ ... คุณคิดว่าไอ้สัตว์ร้ายนั่นมันจะ ...
Clive - ชั้นมั่นใจว่าเขาสู้อย่างกล้าหาญจนวาระสุดท้ายแน่นอน  เด็กนั่นรอดได้ก็เพราะเขา 
Dorys - Chadwick คุณนี่มันโง่จริงๆ 
Clive - มาเถอะ เราต้องพาเด็กกลับ hideaway ชั้นไม่อยากให้ใครต้องมาตายที่นี่อีกแล้ว 
Dorys - เธอจะถูกดูแลอย่างดีต่อจากนี้ไป อย่างน้อยที่สุดมันก็คือสิ่งที่จะทำให้ Chadwick ได้ 

 

   🔳The hideaway

Clive - เท่าที่รู้มาเธอไม่ได้ออกจากห้องนั่นมาหลายวันแล้ว หวังว่าเด็กคงจะดีขึ้นแล้วนะ 
Dorys - เธอค่อยๆดีขึ้นอย่างช้าๆ เธอแกร่งกว่าที่เห็นมากเลยค่ะ ชั้นขอบคุณพระเจ้าตลอดที่ทำให้เราเจอเธอ ไม่งั้น...
Clive - แต่สุดท้ายเราก็ทำได้ ชั้นเสียใจด้วยนะที่ช่วย Chadwick เอาไว้ไม่ได้ 
Dorys - คุณไม่ต้องขอโทษเลยค่ะ ถ้าไม่ได้คุณช่วยชั้นก็คงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ได้รู้ว่าเขาสู้อย่างกล้าหาญเพื่อช่วยเธอยังไง นั่นคือชายที่ชั้นจำได้ ในฐานะพี่ชายของชั้น 
Clive - หวังว่าชั้นจะได้รู้จักเขามากขึ้นนะ ชั้นชอบฟังตอนเธอเล่าถึงอดีตของเธอ ถ้าไม่ว่าอะไรเล่าให้ฟังบ้างก็ได้
Dorys - ได้สิคะ

Dorys - ก่อนหน้านี้คุณได้พบอาจารย์ของชั้นแล้ว เธอฝึกชั้นกับ Chadwick ให้รู้จักแค่ 2 อย่าง การฆ่าและเชื่อฟัง จริงๆเราควรถูกขายไปนานแล้วแต่ยังไม่มีให้ราคาที่สูงพอ หลายปีมากที่เราเป็นมีดในเงามืดของนางโดยไม่สงสัยเลยว่าทำไม จนวันนึงเราก็ทำไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้นพวกเราจึงหนี แต่การอยู่ด้วยกันอาจทำให้เราถูกตามเจอง่ายเกินไป หลังจากที่เขากับชั้นฝึกฝนฝีมือร่วมกันหลายปี ความแข็งแกร่งของเขาทำให้ชั้นอดคิดไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นคมดาบให้ใครอีก
Clive - แม้เขาจะถูกจองจำ แต่เขาก็ได้ต่อสู้เพื่อตัวเขาเองจนวาระสุดท้าย เขาไม่ได้ตายในฐานะเครื่องมือใครแต่ตายในฐานะ วีรบุรุษ  
Dorys - Heidemarie สามารถพิสูจน์เรื่องนี้ได้ดีที่สุด Bearers สามารถปลดเปลื้องพันธนาการของตัวเองได้ และ Cursebreakers จะเป็นคนบอกพวกเขาเองว่าต้องทำยังไง ชั้นจะสู้จนลมหายใจสุดท้ายเพื่อจะเห็นมันสำเร็จให้ได้ เพื่อ Chadwick และเพื่อพวกเราทุกคน 
Clive - ขอบคุณมาก Dorys พวกเราเชื่อมันในตัวคุณนะ 

 

🚨หลังจบ SideQuest: Nobody’s Tool Hunt Board จะมีการอัพเดทเพิ่มเติม Notorious Marks ตัวใหม่ 

 

👹Notorious Marks ตัวที่ 29: The Masterless Marauder (Behemoth King) 

♛RANK S

🚩 พิกัด - ใกล้เสา obelisk ที่ Vidargraes ใน Waloed 

(ตำแหน่งตามรูป) 

 

                         📗 SideQuest: Trial and Error 

 

Nazaire - ซิด ผมดีใจมากเลยถ้าคุณจะช่วยผมหน่อย 
Clive - ก็ขึ้นอยู่กับเรื่องอะไร?
Nazaire - มี Bearer คนนึงที่เพิ่งเป็นอิสระจากเจ้านายของเขากระตือรือล้นอยากจะเป็น Cursebreakers มาก ซึ่งคุณก็รู้ว่างานของเราไม่ใช่เรื่องง่าย เราจึงต้องทดสอบอาสาสมัครของเราทุกคนอย่างเข้มงวด ผมหวังว่าคุณจะช่วยประเมินรายนี้ให้ผมได้
Clive - ผมไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่ทำไมต้องคนนี้ด้วย?
Nazaire - เพราะเขาตั้งใจจะเป็นหน่วยสอดแนมน่ะสิครับ เพราะเรามีคนต้องคัดเลือกอีกเยอะเลย ตอนนี้มี Bearer ที่เพิ่งหลุดพ้นจากความเป็นทาสเข้ามาเยอะมาก ซึ่งถ้าเป็น หน่วยสอดแนม พวกเรามีความรู้เรื่องนั้นไม่มากส่วนใหญ่ก็ต้อพึ่ง Gav ตลอด และคุณก็ไปทำภารกิจกับเขาบ่อยนะนายน่าจะอยู่ในตำแหน่งที่จะตัดสินคุณลักษณ์คนที่จะทำหน้าที่นี้ได้ดีกว่านะ

Clive - อืมม ก็ฟังดูมีเหตุผลนะ 
Nazaire - งั้นคุณก็ต้องลงที่จะไปดูแลการทดสอบของเจ้าหนุ่มคนนี้แล้วสินะ?
Clive - ไม่มีวันที่หน่วยสอดแนมจะมากเกินไปหรอกว่ามั๊ย?
Nazaire - พูดอีกก็ถูกอีกครับ ซิด ผมจะแจ้งเขาว่าคุณจะเข้าร่วมการทดสอบครั้งนี้ด้วยก็แล้วกัน และจะนัดเขาให้พร้อมมาทดสอบกันที่ Northreach 
Clive - นายต้องการให้ชั้นไปตอนไหน? ตอนนี้เลยมั๊ย?
Nazaire - ตอนนี้เลยยิ่งดีครับ เดี๋ยวผมไปลองที่นั่นเลยก็แล้วกัน 

 

⟴Objective > เดินทางไปที่ Northreach

 

Nazaire - อ่า ซิด มาแล้ว นี่ผู้เข้าคัดเลือกครับ เอ้า Ember แนะนำตัวสิ
Ember - ผม Ember ยินดีรับใช้ครับนายท่าน
Clive - ได้โปรดเรียกแค่ ซิด ก็พอที่นี่เราไม่มีใครเป็นเจ้านายใคร นายมีชีวิตเป็นของตัวเอง 
Ember - แน่นอนครับ ขอบคุณครับ ซิด คุณจ่าบอกว่าวันนี้คุณจะเข้าร่วมในการทดสอบของผมด้วยหรอครับ?
Clive - เพื่อนายจะได้เป็นหน่วยสอดแนม ใช่ แล้วนายตระหนักถึงเรื่องอันตรายของตำแหน่งนี้มากแค่ไหน?
Ember - ผมรู้ดีครับ แต่ผมสาบานว่าจะเผชิญหน้ากับอันตรายนั้นเหมือนกับชายที่ช่วยชีวิตผม 
Clive - ใครหรอ?

Ember - Gav ไงครับ เขาเจอผมแล้วก็ช่วยปลดปล่อยผม ไม่มีแม้เวทย์หรือหน่วยสนับสนุน เพียงแค่ชายคนเดียวกับจมูกที่เฉียบคมของเขา ผมจึงเป็นอิสระได้ มันสอนให้ผมรู้ว่า คนๆนึงสามารถทำอะไรได้บ้าง ถ้าตั้งใจจะทำมันจริงๆ แล้วผมก็เริ่มฝึกฝนตัวเองมาตั้งแต่นั้นเพื่อวันนึงผมจะได้ช่วยใครซักคนเหมือนที่ Gav ทำกับผม 
Clive - ถ้าเขามาได้ยินคงปลื้มน่าดูเลย นายมีเจตนาที่ดี Ember ยึดมั่นในเส้นทางนี้เอาไว้ นายอาจจะได้เป็น Cursebreakers ที่ดีก็ได้ 
Ember - อะไร? ผมผ่านแล้วหรอ ??

Nazaire - ยังไม่เริ่มเลยต่างหาก เอาล่ะ ฟังนะ Ember ไม่ไกลจากที่นี่มีหอสังเกตการณ์ของพวกจักรวรดิ์อยู่ มันเรียกว่า Eastwatch เจ้าหน้าที่ของพวกมันจะบันทึกเหตุการณ์ที่พบเห็นในพื้นที่ทั้งหมดเอาไว้ และสมุดบันทึกนั้นอยู่ที่นั่น ภารกิจนายคือ ไปหามันและนำมันกลับลงมาให้ชั้น 

Ember - เอาบันทึกนั่นมาที่นี่ โอเค รับทราบ แล้ว มีอะไรอีกมั๊ยครับ?
Nazaire - ไม่มี แค่ลอบเข้าไปที่ด่านหน้าของพวกจักรวรรดิที่มีการคุ้มกันแน่นหนาก็น่าจะพอแล้ว นายต้องประเมินสถานการณ์เองว่าจะเริ่มยังไง สร้างความวุ่นวายเพื่อหลบหนี โดยไม่ให้ถูกจับได้แล้วถูกโยนเข้าคุกของจักรวรรดิ 
Clive - Ember จำไว้นะ Gav ไม่ได้เป็นหน่วยสอดแนมที่เก่งที่สุดของเราเพราะเขาทำได้ทุกอย่าง แต่เขาทำทุกอย่างเท่าที่จำเป็น นายต้องรู้ขีดจำกัดของตัวเองด้วย 
Ember - รู้ขีดจำกัดของตัวเอง รับทราบครับ ผมจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน!

Nazaire - เอาจริงๆ สถานการณ์มันอาจจะไม่อันตรายแบบที่ผมบอกไปหรอก แต่คุณคอยสังเกตการณ์ก็ดีเผื่อจะมีอะไรๆเปลี่ยนแปลง ได้มั๊ยครับ?
Clive - ได้สิ 

 

🔳 ป้อม Eastwatch

 

Clive - อืมม ฝีมือใช่ได้เลยนะเนี่ย
Ember-  ช่วยด้วยยยยย !! ใครก็ได้ช่วยด้วยยยย !!!!!
Clive - เอ่อ น่าจะไม่ใช่อย่างที่คิดซะแล้ว 

Clive - บ้าเอ้ย !!  Ember ชักดาบของนายออกมาสิ !!
Ember- ผะ ผมมือไม้สั่นไปหมด!! ทำไม่ได้ครับบบบ!!
Clive - งั้นหนีไป !!
Ember- เอ่อ ผมๆๆ
Clive - ถ้าแกต้องการเขาก็ต้องผ่านชั้นก่อนไอ้มังกร !!!

                              Mini boss - Tot Aevis 

Clive - Ember ปลอดภัยแล้ว ออกมาเถอะ!! … หนีไปแล้วสินะ แน่นอนล่ะ ..ช่างเป็น หน่วนสอดแนม ที่หายากจริงๆ งั้นเราก็คงต้องกลับ Noethreach มือเปล่าสินะ? 

Nazaire - อ้าว ซิด ไม่คิดว่าคุณจะกลับมาเร็วขนาดนี้ Ember ไปไหนล่ะ เขาเป็นไงบ้าง?
Clive - นึกว่าเขามาอยู่กับนายแล้วซะอีก ผมว่าเขาคงหนีไปแล้วล่ะ ผมตามเขาไปจนถึงป้อม Eastwatch ก็เจอเขาถูก Aevis เข้าโจมตี คงจะกลัวนั่นแหละ ได้แต่ยืนเฉย ไม่ชักดาบด้วยซ้ำ ชั้นต้องเข้าไปจัดการมันแทน แล้วจากนั้น ...ชั้นก็ไม่เห็นเขาแล้วก็เลยเดาว่าเขาคงหนีกลับมาหานาย แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่  
Nazaire - ผมต้องขอโทษด้วยนะซิด ชั้นรู้ว่าเด็กนั่นมีความกังวลอยู่บ้าง แต่ไม่คิดว่าจะถึงขนาดนี้ 

Ember- เลือกใช้คนให้เหมาะกับงานใช่ป่ะล่ะ? ผมแน่ใจว่านี่คือสมุดบันทึกที่คุณให้ผมไปตามหา 
Nazaire - อ้าว? แล้วนี่นาย มาได้ยังไงเนี่ย? อย่าบอกนะว่านายเข้าไปค้นป้อมนั่นขณะที่ซิดกำลังยุ่งกับการกำจัดมังกรให้นายน่ะ?
Ember- อ้าว ทำไมล่ะ? ก็คุณแนะนำให้ผมทำแบบนั้นไม่ใช่หรอ? นำบันทึกนั่นกลับมาให้ได้โดยไม่ให้ถูกจับน่ะ ?
Clive - เขาก็ทำตามที่นายบอกจริงๆนะ Nazaire และเขาก็ทำในแบบของตัวเองด้วย 
Nazaire - แต่ ซิด ก็เจ้านี่มัน ...
Clive - เขาทำในแบบที่ตัวเขาคิดว่าดีที่สุด และตอนนี้ชั้นต้องตัดสินใจแล้วว่าชั้นตกลงจะรับหรือไม่
Nazaire - ครับผม งั้นผมไปรอการประเมินของคุณตอนที่คุณกลับไปที่ hideaway ก็แล้วกันนะครับ 

 

🔳 The hideaway 

 

Nazaire - ยินดีต้อนรับกลับมานะซิด 
Ember-ยินดีต้อนรับกลับมาครับซิด
Otto - เออ ขอต้อนรับกลับมา หวังว่าการเดินทางจะไม่ทำให้นายลำบากอะไรนะ พูดตามตรงชั้นเป็นคนให้คำแนะนำเขาเองว่าให้นายเป็นคนไปช่วยการตัดสินใจในการคัดเลือกครั้งนี้ด้วย แต่เท่าที่ชั้นได้ยินมามันไม่ค่อยจะเป็นไปตามแผนที่ชั้นวางไว้นะ?
Clive - ก็ไม่นะ เขาไม่ได้ทำอะไรที่ผิดแผนที่ตั้งไว้ Ember อาจสติหลุดตอนเผชิญหน้ากับสัตว์ร้าย แต่เขาไม่ได้ใจเสีย และพยายามเดินทางต่อไปจนบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ และนั่นไม่ใช่หรอที่มีคุณสมบัติของ หน่วยสอดแนม ที่เราต้องการ ?
Nazaire - ถูกต้องที่สุดครับ และต้องขอบคุณการประเมินอย่างตรงไปตรงมาคุณนะซิด แน่นอนว่าความจริงแล้ว Ember ไม่ได้เป็นนักรบที่ดี แต่ก็ได้คุณช่วยดึงเขาออกจากกรามของสัตว์ร้าย แต่ถ้าผมปล่อยให้การทดสอบนี้เริ่มขึ้นโดยไม่มีคนคอยเฝ้าดู สิ่งที่เกิดกับ Ember อาจเกินความรับผิดชอบของผม
Clive - ใจเย็นก่อนจ่า Ember ยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกมาก และตอนนี้เขาเรียนรู้แล้ว ชั้นยังยืนยันว่าเขาควรได้รับโอกาสที่สอง เพราะท้ายที่สุดเขาก็ทำตามเป้าหมายของภารกิจของนายได้ไม่ใช่หรอ
Otto - ใช้ความพยายามอีกหน่อย มือไหนๆก็จับดาบได้ทั้งนั้นแหละ จิตใจก็เหมือนกันวันนึงมันก็จะเอาชนะความกลัวได้ แต่ความสามารถในการดมกลิ่นของหน่วยสอดแนมมันไม่เหมือนกัน นายเองก็รู้อยู่แล้วนี่ หรือไม่ใช่? และการตามหาบันทึกนั่นจนเจอ จมูกของหนุ่มน้อย Ember ก็ไม่ได้เสียหลายอะไรนี่ คงไม่อยากทำให้มันไร้ค่าในตอนนี้หรอกนะ?

Nazaire - ก็ได้ครับ ผมจะให้โอกาสเขาอีกครั้ง 
Ember- ผมจะทำทุกอย่างที่คุณสั่งอย่างเคร่งครัดเลยครับ !! ผมจะแอบอยู่ในหลุมทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้ถ้าจำเป็น ผมจะทำให้ดู รอเลยครับ !!

Otto - ซื้อบื้อเอาเรื่องอยู่ แต่หัวใจเขาก็มาอยู่ถูกที่แล้วล่ะ เหมือนคนนึงที่เรารู้จักเลย แต่เราก็พึ่งเขามาตลอดเลยเหมือนกัน ชั้นว่า อย่างน้อยพอถึงเวลาที่เหมาะสมก็สามารถแบ่งเบาภาระ Cursebreakers ได้อย่างดีเลยล่ะ แล้วไม่ต้อง Gav ล่ะว่าชั้นพูดแบบนี้ ชั้นไม่อยากให้เขาคิดว่ากำลังทำงานหนักจนเกินไป เพราะเขาเพิ่งมาขอชั้นหยุดงานวันนึงพอดี เอาล่ะ ! ในเมื่อทุกอย่างจบลงด้วยดีแล้ว ชั้นกลับไปทำงานดีกว่า 

Nazaire - ต้องขอโทษด้วยนะซิด มันเป็นอะไรที่ผมไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ
Clive -นานๆคงจะเกิดอะไรแบบนี้ทีนั่นแหละ แต่นั่นแหละที่ชั้นต้องการคนอย่าง Ember มากกว่าคนที่สามารถทำได้ดีที่สุดในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ อย่าลืมซะล่ะ
Nazaire - ขอบคุณมากครับ ซิด 

 

🔺 หลังจากจบ SideQuest: Trial and Error แล้วจะปลดล็อค SideQuest: Silver Linings ของ Gav ออกมา

 

                        📗  SideQuest: Silver Linings

 

                          Gav - นายโอเคนะไคลฟ์ ?

Clive - นายนั่นแหละ โอเคมั๊ย เหมือนกำลังหนักใจอะไรอยู่เลย ?
Gav - ก็ไม่มากไปกว่าปกติหรอก...

Gav - ชั้นก็แค่ แบบ ลูกของ Edda กำลังจะคลอดในเร็วๆนี้แล้ว ชั้นก็เลยอยากทำของขวัญอะไรซักอย่างที่มันพิเศษให้ซักหน่อยน่ะสิ 
Clive - ชั้นว่าเธอต้องชอบแน่นอน 
Gav - ตามธรรมเนียมของคนเหนือ ครอบครัวมักจะให้ของขวัญกับสมาชิกใหม่เสมอ จะได้ทำให้เจ้าตัวน้อยได้รับการต้อนรับสู่บ้านใหม่ของเขาไง 
Clive - แล้วมันติดปัญหาอะไรงั้นหรอ?
Gav - ปัญหาก็คือ Edda ก็พร้อมจะคลอดทุกเวลาเลยไม่รู้ว่าจะเตรียมของขวัญให้ทันเวลาหรือเปล่านี่สิ 
Clive - แล้วมีอะไรที่ชั้นพอจะช่วยได้มั๊ยล่ะ?
Gav - อืมม ไม่รู้สิ ก็อาจจะมีนะ 
Clive - เริ่มจาก นายคิดว่าจะทำของขวัญอะไรก่อนมั๊ย
Gav - ชั้นกะว่าจะทำ เครื่องราง ให้น่ะ แต่ไม่ใช่เครื่องรางนำโชคธรรมดาๆนะ เพราะมันจะทำจากขนนกโจโคโบะสีเงิน รับรองทั้งอณาจักรไม่มีอะไรนำโชคไปกว่านี้อีกแล้วล่ะ ปัญหาคือ ขนนกโจโคโบะสีเงิน มันหายากมาก ชั้นถามทั้งกับ Otto และ Charon ก็ไม่มีใครมีเลย  ชั้นก็พยายามหาด้วยตัวเองนะ เพียงแต่ 
Clive - กลัวว่านางจะคลอดก่อนกำหนดจนไม่ได้อยู่ดูสินะ ...และสรุปนายต้องการอะไร ขนนก ใช่มั๊ย?
Gav - เออสิ ชั้นตามหาจากพ่อค้าเร่ตามชายแดนเหนือจนทั่วแล้วก็ไม่เจอเลย
Clive - งั้นก็คงต้องลองไปหาที่ Martha’s Rest แล้วล่ะ ที่นั่นพ่อค้าจากทั่วสารทิศเดินทางผ่านมาตลอด ชั้นจะลองไปหาดูก่อนแล้วกัน เจอยังไงจะรีบบอก

 

⟴Objective > เดินทางไปที่ Martha’s Rest

 

Clive - ขอโทษนะขอสอบถามอะไรหน่อยสิ พอจะมี ขนนกโจโคโบะสีเงิน ขายมั๊ย?
พ่อค้าเร่ - น่าจะไม่มีนะ แต่คุณไม่ใช่คนแรกที่ถามหาสิ่งนี้อ่ะนะ ก่อนหน้านี้มีชายคนนึงอ้างว่าเขาถูกโจมตีโดยนกโจโคโบะสีเงินใกล้กับโรงหมอแห่งนึงใกล้ๆกับ Eastpool น่ะ แต่ส่วนใหญ่จะรู้ดีว่าเจ้าหมอนี่มันขี้โม้ แต่มันอาจจะจริงก็ได้ใครจะรู้ 

แม่ค้าเร่ - ไงพ่อหนุ่ม วันนี้คุณโชคดีนะวันนี้ชั้นมีหินลับมีดแบบใหม่มาขายด้วยนะ 
Clive - เอ่อ เอาไว้วันหลังครับ ตอนนี้ผมตามหาขนนกโจโคโบะสีเงินอยู่ พอจะมีขายมั๊ย?
แม่ค้าเร่ - ไอ้ของที่ว่ามันก็มีแค่ข่าวลือทั้งนั้นไม่เคยมีใครเห็นโจโคโบะสีเงินมาเป็นปีแล้วล่ะ ทุกคนอยากจะตามล่ามันเพราะเชื่อตามความเชื่อเรื่องโชคจากคนทางเหนือน่ะ ถ้ามีใครเจอมันข้างนอกนั่นมันก็คงถูกล่าไปแล้วล่ะ 

Clive - ขอโทษนะพอจะมี ขนนกโจโคโบะสีเงิน ขายมั๊ย?
Grocer - ลองไปที่ Rhiannon’s Ride สิเจอแน่ๆ หมายถึงถ้าคุณเชื่อคำเพ้อเจ้อของคนบ้าอ่ะนะ 
Clive - ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่ชั้นเชื่อคนบ้าน่ะ 

 

⟴Objective > เดินทางไปที่ Rhiannon’s Ride ทางเหนือของ Martha’s Rest

 

 Clive - อืมมม รอยเท้าพวกนี้ ….ยังใหม่ๆอยู่เลย โจโคโบะ เคยมาแถวๆนี้แน่นอน หรือบางทีมันอาจยังอยู่ที่นี่ 

        Clive - โชคดีโคตรๆ นี่ไงล่ะ ขนนกโจโคโบะสีเงิน

                                         *wark* !!

Clive - ไม่เป็นไร ... ชั้นไม่ได้มาทำร้ายพวกแกหรอก ...แค่มาเก็บขนของแกไปให้เพื่อนเท่านั้นแหละ 

Clive - ขอบคุณ ... ต้องรีบเอาไปให้ Gav แล้วก่อนพวกมันจะเปลี่ยนใจ 

 

🔳The Hideaway

 

Gav - ไคลฟ์ นายกลับมาแล้ว !! ไง มีโชคบ้างมั๊ย?
Clive - มีโชคมั๊ยเนี่ยนะ? เอ้านี่ ขนนกโจโคโบะสีเงิน ที่นายอยากได้ 
Gav - พระเจ้า !!! นี่คือสิ่งที่ชั้นคิดอยูใช่ป่ะเนี่ย? นายไปเจอมันที่ไหนวะเนี่ย?
Clive - เรื่องมันยาวน่ะ ........

Gav - ถนนไป Eastpool นี่เอง ใครจะคิดฟ่ะเนี่ย?
Clive - พื้นที่แถวนั้นถูกทิ้งร้างมาหลายปีแล้วด้วย บ้านร้างแถวนั้นเลยเหมาะในการทำรังมากๆ แต่หลังจากมันเจอชั้นแล้วก็ไม่รู้มันจะย้ายไปอีกหรือเปล่านะ 
Gav -อย่าโทษตัวเองเลยไคลฟ์ ตอนนี้ Blight ไปถึง Eastpool อีกไม่นานมันก็ต้องหนีไม่ว่านายจะไปหรือเปล่าก็เถอะ ยังไงมันก็หาบ้านใหม่ได้เชื่อสิ นั่นแหละคือสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ เหมือนอย่างพวกเรา ที่สำคัญคือนายขนของมันมาก่อนจะหนีไป และตอนนี้ก็แค่เอามันไปใส่กับงานแกะสลักแค่นั้น 
Clive - ไม่หยักรู้ว่านายแกะสลักเป็น 
Gav - รับรองเลยว่ายังมีเรื่องที่นายไม่รู้เกี่ยวกับชั้นอีกเยอะเลย 

Gav - ชั้นน่ะเก่งเรื่องมีดแกะสลักพอๆกับดาบเลยจะบอกให้ ส่วนกระดูกนี่ Ember หามาให้ชั้น นายหามาจากไหนนะบอกอีกทีสิ  aevis ใช่มั๊ย?
Ember - แต่ไม่ใช่ aevis ของคุณนะ ซิด ผมเชือดมันด้วยตัวเองตัวนึง
Clive -ในที่สุดค่ำคืนอันยาวนานของเมล็ดในหลุมก็เติบโตจนมีผล ชั้นภูมิใจในตัวนายนะ Ember 
Ember -  อย่าเพิ่งรีบภูมิใจเลยครับ ผมยังไม่ผ่านการทดสอบเลย
Gav - เอาล่ะ เสร็จแล้ว 

 

Gav - เป็นไงล่ะ?
Ember - คิดว่าถ้าคุณเลิกเป็นหน่วยสอดแนมเมื่อไหร่รับรองหารายได้เลี้ยงชีพได้แน่นอนครับกัปตัน 
Gav - แน่นอนอยู่แล้ว!! … ชั้นลองไปดู Edda ดีกว่าว่าตื่นยัง นายเองก็ไปด้วยกันสิ มาเถอะ !!

Edda - อ่า นายท่าน ...
Clive - เป็นไงบ้างตอนนี้ 
Edda - รู้สึกดีมากเลยค่ะ ...เอ่อ มีอะไรกันรึเปล่าคะ?

Gav - เอ๋อ ไม่มีอะไร ชั้นก็แค่ ชั้นเอ่อ ...ชั้นเอานี่มาให้น่ะ 
Edda - สวยมากเลยค่ะ

Edda - คุณทำให้ชั้นหรอ?
Gav - เราทุกคนช่วยกันทำน่ะ จากทุกๆคนที่ The hideaway ในฐานะครอบครัวใหม่ของเธอไง มันเป็นเครื่องรางนำโชคสำหรับลูกที่เพิ่งเกิดตามทำเนียมทางเหนือน่ะ 

Gav - เอ่อ .. ชั้นหมายถึง ทารก น่ะ เพื่อแสดงให้เขารู้ว่าเขาก็เป็นส่วนนึงของครอบครัวด้วย หวังว่าเธอคงจะชอบนะ 
Edda - ชั้นไม่รู้จะพูดยังไงดี ...ขอบคุณนะคะนายท่าน สำหรับทุกๆอย่างเลย 
Clive - ไม่ว่าเธอต้องการอะไรก็บอกเราได้เสมอนะ 
Edda - ได้ค่ะ

Gav - อ่า ไคลฟ์ อยู่ๆก็รู้สึกอยากเหล้าว่ะ ไปกรึ๊บกันหน่อยป่ะ?
Clive - แน่นอน ไปสิ 

 

 

Gav - อ่า....!!! 
Clive - นายคิดจะพอได้ยังเนี่ย?
Gav - ยางงง ก็นี่เรากำลังฉลองกันนะเว้ยยยย ชั้นกำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้ว
Clive - ชั้นคิดว่า Edda คงมีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนั้นนะ 

Gav - นายรู้หรอว่าชั้นหมายถึงอะไรห๊ะ?? … แสงริบหรี่ในยามมืดมิด ..ไม่นานหลังวันเกิดปีที่ 10 ของชั้น เธอก็บอกชั้นว่าเธอกำลังมีน้องมีแล้ว ชั้นนี่แม่งแบบลอยขึ้นไปบนพระจันทร์เลย ชั้นน่ะ อยากให้แม่มีน้องมานานแล้ว ในที่สุดชั้นก็จะได้พิสูจน์ให้โลกเห็นว่าชั้นก็เป็นพี่ใหญ่คนได้ 

Gav - แต่แล้วพวกจักรวรรดิก็บุกเข้ามาตอนที่เธอไปทำงาน ตอนนั้นชั้นก็มีน้องสาวคนเล็กแล้วด้วย และชั้นก็ไม่ได้ ...

Gav - ครอบครัวของชั้นหายไปในพริบตา ในขณะที่ชั้นได้แต่ซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดินเหมือนกับหนู แทนที่จะได้เป็นพี่ชายที่แสนดี 

Gav - ชั้นไม่ได้เป็นผู้นำ และก็ไม่เคยเป็นฮีโร่อะไรทั้งนั้น ชั้นมันก็แค่ไอ้หมาโง่ที่ต้องวิ่งไปที่นั่นที่นี่ตามที่เจ้านายสั่ง ชั้นไม่เคยได้เป็นแบบนาย แบบจิล หรือแบบเข้า Torgal ด้วยซ้ำ …..

Clive - พล่ามจบยัง ?
Gav - มั้งนะ ....
Clive -  แล้วนายรู้มั๊ยว่าทำไมนายถึงเป็นหน่วยสอดแนมมือดีที่สุดเท่าที่เราเคยมี เพราะนายไม่ต้องให้ใครมาจับมือนายสอนให้ทำนู่นทำนี่ หากไม่มีไหวพริบ ความกล้าหาญ ความมุ่งมั่นของนาย ชั้นก็ไม่รู้ว่าเราจะเป็นยังไง คงเหมือนห้อยลงมาจากหนาผามั้ง ?

Gav - แหม่ มันก็แค่ครั้งเดียวเอง 
Clive -ใช่  แล้วนายก็เรียนรู้จากมัน แล้วอย่าลืมที่ โรซาริธ ล่ะ ใครเป็นคนไปช่วยปล่อยชั้นออกจากคุก? ใครเป็นคนช่วยจิล?
Gav -ก็ชั้นน่ะสิฟ่ะ !!
Clive - เพราะนายคือพี่น้องของเรา Gav …พี่ชายของชั้น 

Gav - พี่ชายของนายงั้นหรอ? 
Clive -นั่นหมายถึง ... เมื่อเวลานั้นมาถึง ... ถ้าเกิดว่าชั้น ....

           Gav - ชั้นก็ยึดห้องนาย แล้วก็เอาดาบของนายด้วย ..

    Gav - ฮ่าๆๆๆๆ  

   Clive - ฮ่าๆๆๆๆๆๆ 

 

Gav - ชั้นอาจจะเมาไปหน่อยอ่ะนะ ...
Clive - ไม่หน่อยอ่ะ เมาปลิ้นเลยล่ะ 
Gav - ชั้นก็บอกแล้วนี่ว่าชั้นกำลังอยากเหล้า ...

Gav - เอาล่ะ ชั้นกลับไปทำงานดีกว่า ...แต่หลังจากที่ชั้นเดินตรงได้แล้วอ่ะนะ ... เอ่อ ไคลฟ์ .. 
Clive - ว่า ?
Gav - ขอบใจนะ สำหรับ ... นายรู้ใช่มั๊ย ..?
Clive - ชั้นรู้ 

 

 

    Winter Mead 

ของขวัญจาก Gav เครื่องดื่มที่ทรงพลังที่หมักจากน้ำผึ้งที่เก็บในช่วงฤดูร้อนของดินแดนเหนือ ใช้เวลาหมักมากกว่า 6 เดือน แม้เขาจะรู้ว่ามันยังไม่ควรเปิดมันก่อนหมักได้ที่ แต่ Gav ก็ยืนกรานว่าเขาจะเปิดมันเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

 

                       📗  SideQuest: Three’s Company

 

Byron - อ้าววว ไคลฟ์หลานรัก Rutherford แจ้งลุงแล้ว เราเป็นหนี้หลานนะที่ช่วย เอาจริงๆลุงก็ไม่อยากให้หลานเข้าไปยุ่งหรอก แตก็นะยุคนี้มันก็งี้แหละ ว่ามั๊ย?
Clive - ผมก็ทำทุกอย่างเหมือนกับคนอื่นนั่นแหละครับ 
Byron - หลานก็ถ่อนตนเกินไปไคลฟ์ หลานคงเป็นขุนนางได้แย่แน่นอนแบบนี้ แต่บอกลุงหน่อยว่าอณาจักรนี้กำลังแย่อย่างที่ Rutherford บอกหรือเปล่า?
Clive - เท่าที่ผมเห็น ก็ไม่แปลกที่ลุงจะกังวลอ่ะนะครับ 
Byron - เฮ้ออ ลุงควรคาดหวังในแบบที่มันเลวร้ายเอาไว้ก่อนจะดีกว่า แต่ลุงก็ยังหวังว่าความยิ่งใหญ่และความดีงามของอณาจักรนี้จะสามารถควบคุมๆอะไรๆเอาไว้ได้มากกว่านี้ซักหน่อยก็ยังดี แต่มันแย่ตรงที่ตอนนี้เราขาดคนที่จะเป็นผู้นำ และถ้าไม่มีผู้นำ ผู้คนก็จะหลงทางแน่นอน เราต้องรีบเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุด

Clive - แล้วเราควรจะเริ่มยังไงดีครับ?
Byron - ความจริงก็คือ มันจะเป็นความท้าทายอย่างมากที่เราต้องเผชิญ แต่ จากประสบการณ์ของลุงอย่างแรกที่ควรจะทำก่อนคือ กองทัพของอณาจักรและการกักเก็บเสบียง แต่ก็อย่างที่หลานเห็น ตอนนี้ทุกๆคนต่างก็ทำเพื่อตัวเอง ก็มีบ้างบางกลุ่มที่พยายามรวมตัวกันเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยแต่มันก็มีน้อยมาก หนทางเดียวที่จะเยียวยาความวุ่นวายที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้ก็คือ ความสามัคคีเหมือนกับที่บรรพบุรุษของเราวางแนวทางเอาไว้ พูดง่ายๆ ถ้า Storm ไม่รวมกันเป็นหนึ่ง เราพังแน่นอน 
Clive - รวมอณาจักรหรอ? เราควรจะเริ่มยังไงดี?
Byron - กองทัพไงไอ้หลานรักอย่างที่บอกไป เราควรฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในหมู่ผู้ที่สาบานว่าจะรักษามันก่อน แต่ก็น่าเสียดายที่ลุงในตอนนี้คงโน้มน้าวคนมาขุดหลุมส้วมได้ไม่กี่คนเท่านั้นแหละ แต่ชั้นรู้จักคนๆนึงที่เป็น อดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูง แม่ทัพ Eugen Havel ยังไงล่ะ 
Clive - ผมนึกว่าเขาเกษียนแล้วซะอีก
Byron - ก็ใช่ เขาเกษียนแล้ว จนกระทั่งพวก Akashic บุกเข้ามาที่ Ran’dellah ฆ่าคนจำนวนมากและเผาทุกอย่างเป็นหน้ากองนั่นแหละ ชั้นรับประกันเลยว่าในบรรดาแม่ทัพที่ยังมีชีวิติอยู่ในตอนนี้ไม่มีใครจะมีความสามารถมากเท่าเขาอีกแล้ว และโชคดีที่ลุงเคยพูดเรื่องนี้กับเขาไว้แล้ว และเขาก็ตกลงจะช่วยด้วย โดยมีข้อแม้ว่า เขาอยากจะคุยเป็นการส่วนตัวกับหลานก่อน เขาน่ะมันบ้าหลักการจนน่าหงุดหงิดมากซึ่งก็แน่นอนว่าเขาต้องกังวลถ้าจะร่วมมือกับ Outlaw อ่ะนะ นี่ขนาดชั้นก็อรัมภบทความดีความชอบของหลานให้ฟังจนหมดแล้วนะแต่เขาก็ยังยืนกรานจะคุยกับหลานด้วยตัวเอง นายคงไม่ขัดข้องนะ ?

Clive - ไม่ขัดข้องแน่นอนครับ ตราบใดที่โลกยังวุ่นวายผมยอมทำทุกอย่างเพื่อมันดีขึ้นอยู่แล้ว แม้แต่จะต้องไปพบแม่ทัพที่อยากคุยกับผมเป็นการส่วนตัวก็เถอะ
Byron - เยี่ยมไปเลยไอ้หลานรัก
Clive - ผมจะรีบเดินทางไป Ran’dellah ทันทีเลยครับ ว่าแต่ลุงส่งข่าวไปบอกเขารึยัง? 
Byron - แน่นอน ตอนนี้ Rutherford อยู่ที่ Ran’dellah เมืองหลวงของ Dhalmelian แล้ว ลุงจะให้เขานัด Havel ให้มาเจอกันหลานทันทีเลย 
Clive - เยี่ยมเลย ขอบคุณครับลุง
Byron - ไม่ๆๆ ต้องขอบคุณหลานมากกว่านะไคลฟ์ 

 

⟴Objective > เดินทางไปที่ Boklad Market แล้วมุ่งหน้าไปที่หน้าทางเข้าเมือง Ran’dellah

Havel - ไอ้พวกตัวตลกเอ้ยยย ทุกตัวเลย ถ้าอยากจะไขว้นักก็เรียงหน้าเข้าสิวะ !!!

Clive - ให้ผมจัดการเองครับ
Havel - ชั้นไม่ได้ขอให้นายมาช่วยนะเว้ย !!!
Rutherford - ได้โปรด ท่านแม่ทัพ ปล่อยให้เขาจัดการเถอะ 
Clive - ใช้เวลาไม่นานหรอกครับ 

ทหารสาธารณรัฐผู้ทรยศ - แกพูดถูก ใช้เวลาไม่นานหรอก เอาล่ะทุกคน ฆ่ามัน!!!

                   กำจัด turncloak Soldiers ให้หมด 


Clive - คุณคือแม่ทัพ Havel สินะครับถ้าผมเดาไม่ผิด พวกคุณไม่บาดเจ็บกันใช่มั๊ยครับ? 
Rutherford - เราไม่เป็นไรครับนายท่าน ก็คุณเข้ามาคุ้มกันเราทันเวลาพอดี
Havel - ไอ้พวกคนทรยศเอ้ยย!! ชั้นได้ยินมาว่ามีพวกทหารในพื้นที่ห่างไกลละทิ้งคำสาบานของตนเอง แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นที่เมืองหลวงใจกลางสาธารณรัฐแบบนี้ แม่งโคตรน่าอายเลยจริงๆนะ!! ดีนะที่ไอ้พวกสารเลวคนของลุงของนายเตือนชั้นเอาไว้ ไม่สิ ต้องเรียกท่านลอร์ด หรือจะให้เรียก Cid the Outlaw ดี ชอบแบบไหนล่ะ?
Clive - อยากเรียกแบบไหนก็ตามใจคุณเลย ยังไงมันก็ไม่เปลี่ยนสิ่งที่ผมเป็นหรอก สนใจเรื่องความเร่งด่วนที่ลุงของผมมอบหมายมาดีกว่า เรื่องการปรับปรุงอณาจักรซึ่งเขาต้องการพวกคุณเพื่อให้มันสำเร็จ 

Havel - ก่อนที่ชั้นจะตอบตกลงอะไรก็ตาม ชั้นอยากจะถามนายแบบตรงๆอย่างนึง นายจะได้อะไรกับเรื่องนี้ 
Clive - ผมคงปฎิเสธไม่ได้หรอกว่าไม่อยากได้อะไร ผมแค่อยากให้ความวุ่นวานมันจบลง และแสวงหาการเริ่มต้นใหม่ที่ดีกว่าสำหรับทุกคน ในขณะที่ตัวเลือกที่ผมทำอยู่อาจไม่ถูกต้องเสมอไป ผมแค่รู้ว่าต้องทำมันเพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง นานมาแล้วที่พวกหลายคนบอกว่า เราจะอยู่กันได้ยังไง เราจะตายกันแล้วหรอ ในเมื่อไอ้ที่ว่ามามันควรเป็นการตัดสินใจของเรามาแต่แรกแล้ว และตอนนี้เรามีโอกาสที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่เพื่อจะให้เกิดสิ่งนั่นเราต้องยืนหยัดร่วมกัน แม้จะเป็นคนที่เราไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนก็ตาม
Havel - นี่ไม่ใช่คำพูดที่ชั้นหวังจะได้ยินจากพวก Outlaw แต่ มีบางอย่างที่ลุงของนายพูดถูก นายมันไม่ใช่ พวกนอกกฎหมาย แบบธรรมดาๆจริงๆด้วย

Havel - แม้ชั้นจะไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันจะจบลงยังไง แต่ก็ได้ ชั้นเอาด้วย!! ชั้นจะสั่งให้การ์ดที่ชั้นไว้ใจที่สุดเข้ามาควบคุมที่นี่เอาไว้ จากนั้นชั้นจะติดต่อกองทัพของจักรวรรดิว่าจะเอาด้วยมั๊ย โน้มน้าวให้พวกเขาฟื้นฟูกฎระเบียนของกองทัพในพื้นที่ของตัวองเสียใหม่
Clive - ขอบคุณครับท่านแม่ทัพ 
Havel - แต่ไม่ใช่พวกนั้นพวกเดียวนะที่เราต้องการโน้มน้าว ชั้นยอมรับว่าชั้นพูดจาภาษาดอกไม้ไม่เป็นกับเขาหรอก แม้จะพยายามแค่ไหนก็ไม่เคยรอด เราเลยต้องมีทูต หรือนักเจรจาที่เจรจาได้แม้คนที่ดื้อรั้นที่สุด แบบนาย
Clive - ผมปลิ้มนะ แต่ผมก็ไม่ใช่นักการทูตที่ดีเหมือนกัน และผมก็มีปัญหาเรื่องอื่นๆที่ต้องจัดการด้วย สิ่งที่เราต้องการคือคนที่มีความสามารถในการเจรจาโน้มน้าวและผมรู้จักคนแบบนั้นคนนึง
Havel - งั้นหรอ แล้วเขาก็เป็นพวกนอกกฎหมายเหมือนกับนายด้วยมั๊ย?
Clive - อาจจะแตกต่างไปนิดหน่อยครับ 
Havel - แต่ก็นะ ชั้นไม่มีสิทธิ์เลือกซะด้วยสิ แม้จะเป็นพวกนอกกฎหมายก็เถอะ ยังไงก็พาเขามาหาชั้นหน่อยก็แล้วกัน

Rutherford - นายท่านครับ ท่านลุงของท่านบอกให้ผมคุ้มกันท่านแม่ทัพไปที่คฤหาสน์ของท่านที่ Port Isode 
Clive - งั้นผมจะพาเพื่อนของผมตามไปที่นั่นก็แล้วกันนะ

Clive - ชั้นเนี่ยนะนักการทูต ? ชั้นไม่น่าจะเป็นคนที่พูดโน้มน้าวใจกับคนอื่นได้ดีนักหรอก บอกให้น้องชายกินยามันยังไม่เชื่อเลย คงต้องหาคนที่มีประสบการณ์เรื่องแบบนี้ซักคน .... เช่นคนอย่าง Quinten หวังว่าชั้นจะโน้มน้าวเขาได้นะ

 

⟴Objective > เดินทางไปที่ Lostwing มุ่งหน้า Gaultand Bales 

 

Clive - Quinten ผมมีข้อเสนอมาให้คุณน่ะ 
Quinten - ตอนนี้เลยหรอ? ทำไมผมรู้สึกว่าคุณมีอะไรจะมากกว่าเหล้าองุ่นซักถังจาก Gaultand Bales งั้นเชิญทางนี้ก็แล้วกัน

Clive - เรื่องมันเป็นแบบนี้นะ ...................

Quinten - อืมมม คุณจะให้ผมโน้มน้าวพวกหัวหน้านายกองในอณาจักรเพื่อให้นำความภาคภูมิใจที่เขาเสียไปกลับมา และทำสิ่งนึงที่จะพิสูจน์อะไรที่มันเป็นไปไม่ได้มาเป็นพันๆปีแล้ว บางทีผมน่าจะเอาพายเนื้อกลับมาฝากคุณด้วยเลยเป็นไง?
Clive - ผมรู้ว่ามันมีคำถามมากมาย แต่ผมไม่คิดว่าใครจะรับบทนี้ได้ดีเท่าคุณอีกแล้วล่ะ 
Quinten - แล้วคุณจะให้ผมทิ้งสิ่งที่ผมเหลืออยู่แค่น้อยนิดตอนนี้ไปทำมันเนี่ยนะ ผมเคยบอกคุณแล้วนะไคลฟ์ ผู้คนที่ Lostwing เปรียบเสมือนครอบครัวผมจะให้ทิ้งพวกเขาไปได้ไง คุณคงต้องไปหาคนอื่นแทนแล้วล่ะ ผมคงต้องขอบาย
Clive - ผมเสียใจที่ได้ยินแบบนี้นะ ...

Bearer - ผมก็เหมือนกัน !!
Quinten - ทำไมล่ะ?
Bearer - แล้วสิ่งที่เขามาขอร้องให้ทำมันต่างกับสิ่งที่คุณทำตอนนี้ยังไงบ้าง? พวกเขาต้องการให้คุณพูดแทนคนที่ไม่สามารถพูดเพื่อตนเองได้ นั่นคือสิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุด ถ้าเป็นเรื่องเหล้าองุ่นที่ทำให้คุณกังวล เราจะจัดการให้อย่างดี ซึ่งคุณก็รู้ว่าเราทำได้อยู่แล้ว 
Quinten - มันไม่ใช่แบบนั้น ...
Bearer - งั้นเพราะอะไร คุณบอกว่าเราเป็นเสมือนครอบครัว หรือคุณไม่ไว้ใจพวกเรา 
Quinten - นายก็รู้ว่าชั้นไม่ใช่คนแบบนั้นอยู่แล้ว 
Bearer - ถ้างั้นคุณจะตกลงว่าไง? มีพวกเราเท่านั้นหรอที่คุ้มค่าที่จะปกป้อง? ทำไมต้องหันหลังให้คนอื่น คุณทำให้เรารู้ว่าเราสามารถสร้างชีวิตใหม่ให้ตัวเองได้ แล้วคุณล่ะ? ใครบอกว่าคุณไม่สามารถโน้มน้าวใจคนทั้งอณาจักรได้?

Quinten - อืมม ก็เป็นข้อโต้แย้งที่ดีนะ ทำเอาผมเกรงว่าจะดูไม่งามถ้าจะโต้แย้งออกไปกันเลยทีเดียว 
Clive - งั้นคุณก็ตกลงเอาด้วยสินะครับ?
Quinten - แล้วคุณยังต้องการผมอยู่มั๊ยล่ะ?
Clive - แน่นอนครับ แม่ทัพ Havel ต้องการคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว ตอนนี้เขารออยู่ที่ Port Isode ครับ ผมจะจัดชุด Cursebreaker เพื่อคุ้มกันคุณไปที่นั่นเอง
Quinten - โอ้ ถ้างั้นก็ดีเลย ผมได้ยินมาว่าถนนเส้นนั้นไม่ค่อยจะปลอดภัยเหมือนเมื่อก่อนแล้วด้วย 

 

🔳The Hideaway

 

Clive - ผมมีข่าวดีมาฝากครับลุง ตอนนี้แม่ทัพเห็นด้วยกับแผนลุงแล้ว 
Byron - ฮ่า มันแน่นอนอยู่แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยไอ้หลานรัก 
Clive -Rutherford บอกให้ลุงเดินทางกลับ Port Isode ได้เลย ทุกคนรออยู่หมดแล้ว เราจะได้คุยกันเลย  
Byron - ทุกคน? ใครอีกงั้นหรอ?
Clive - ท่านแม่ทัพเกรงว่าตัวเองจะโน้มน้าวคนในกองทัพของอณาจักรได้ไม่ดีพอ ผมก็เลยแนะนำให้คนที่คู่ควรกับตำแหน่งนี้ให้ เขาเคยเป็นอดีตผู้พิพากษาของจักรวรรดิ์ ตอนนี้ผันตัวมาเป็นเสรีชนแล้ว
Byron - หนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดของหลานสินะ?
Clive - จะว่างั้นก็ได้ครับ เขาชื่อ Quinten 
Byron - คนของ Outlaws อีกคน เราก็แค่ใส่นักการเมืองเน่าๆคนนึงเข้าไปในกลุ่มพวกเขา แผนดีมากหลานรัก 
Clive - ดีใจที่ลุงชอบครับ แต่ ลุงครับ ถ้าเกิดแม่ทัพ Havel กับ Quinten สามารถแก้ปัญหาเรื่องกองทัพได้ ลุงก็ยังไม่ได้บอกเราเรื่องเกี่ยวกับการกักตุนเสบียงเลยนี่ครับ
Byron - อ๋อ ไม่ต้องห่วงหรอกไอ้หลานรัก ตอนนี้ The Seven High Houses ดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว พวกเขาใจดีมอบเงินบริจาคมาก้อนนึง แน่นอนว่าก็ต้องมีการโน้มน้าวกันนิดหน่อย แต่โชคดีที่ลุงได้รับการช่วยเหลืออย่างไม่คาดคิดเลย 
Clive - จากใครครับ?
Byron - อ้าว ได้ข่าวว่าหลานช่วยเลดี้ Ariane หัวหน้า Steward จาก Roclford จากพวกโจรกระหายเลือดไม่ใช่เรอะไง เธอถึงขนาดส่งของมาให้ลุงถึงท่าเรือส่วนตัวในวันรุ่งขึ้นเลยล่ะ พอคนอื่นๆเห็นกระเป๋าเงินนางกระพือออกเท่านั้นพวกเขาก็รีบตามทันทีเลย
Clive - ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นครับ 
Byron - เอาล่ะ ชั้นคงต้องกลับบ้านได้แล้ว หลานจะเข้าร่วมการเจรจากับเราด้วยก็ได้นะ?
Clive - แน่นอนครับลุง 

 

🔳Port Isode  / Rosfield Manor 

 

Byron - ถามหน่อยเถอะว่าเราจะเอาเมล็ดธัญพืชพวกนั้นไปที่เมืองหลวงได้ยังไงในเมื่อถนนเต็มไปด้วยพวก Akashic?
Havel - แล้วนายจะไปทางไหนอีก ทางไหนก็เละพอกัน มันมีอีกเส้นนึงก็จริงแต่ชั้นจะไม่ส่งคนของชั้นไปในที่ที่ aether ท่วมขนาดนั้นแน่ๆ เส้นเดิมนี่แหละ คนของชั้นเยอะเยอะขนาดนี้ของไม่เสียหายหรอกน่า !! ทหารของชั้นกำลังต้องการอาหาร พวกเขารอนานกว่านี้ไม่ได้หรอก พวกเขาคงตายก่อนที่นายจะส่งเขาไปทำธุระโง่ๆของแกแน่นอน 

Quinten - เอ่อ ขอผมพูดหน่อยนะ ท่านสุภาพบุรุษ บางทีผมอาจจะมีทางเลือกให้ แม้เส้นทางบกอาจดูช้าเกินไปจากปัญหามากมายในตอนนี้ แต่ทางเรือสามารถทำได้สบายๆ เราสามารถขนลงเรือจากที่นี่ไปยังอ่าว Ran’dellas ได้อย่างปลอดภัยแน่นอน และเมื่อคนจำนวนมากในเมืองอิ่มท้องแล้วก็ใช้เรือพาพวกเขาข้ามฟากไปยังชนบทเพื่อทำงานในพื้นที่รกร้างต่อ เอ่อ ผมคิดว่าพวกคุณคงอยากจะ...สนทนากันต่อ ...ขอโทษด้วยที่ขัดจังหวะนะครับ ถ้าได้เพื่อนที่ดีซักคนสองคน พวกคุณก็คงไม่ต้องการคนแบบผมแล้วล่ะ Rutherford พูดถึงความผูกผันที่มีต่อกันของคุณสองคนให้ฟังแล้ว 

Byron - เพื่อน?? เราเนี่ยนะ??
Havel - ชั้นแทบจะทนมันไม่ไหวด้วยซ้ำ !!
Byron - ไคลฟ์ ลุงเริ่มจะสงสัยเรื่องคุณภาพของพรรคพวกที่หลานหามาแล้วนะ

Havel - แล้วนายคาดหวังให้พวกเขาเป็นแบบไหนล่ะในเมื่อเขาเป็นอาชญากรอ่ะ !!
Byron - อาชญากรงั้นหรอ? แกกล้าดียังไงที่ใช้คำแบบนี้กับหลานชั้นห๊ะ?? อย่างแกมันไม่ควรนั่งสูดอากาศหายใจร่วมกับสุภาพบุรุษผู้ซื่อตรงแบบหลานชั้นด้วยซ้ำ!
Havel -สุภาพบุรุษผู้ซื่อตรง อะไร? ก็เขาเรียกตัวเองว่า ซิด คนนอกกฎหมายอยู่เนี่ย !!!

                Quinten - เฮ้อออ .. กลับมาทะเลาะกันซะงั้น ....

 

Byron - เอาล่ะ เราจะเริ่มต้นกันใหม่นะ? สิ่งที่เรากำลังแสวงหาไม่ใช่การสร้างชาติใหม่หรืออ้างสิทธิ์ในสิ่งที่มีอยู่แล้ว ปราถนาเดียวของเราคือนำความมั่นคงมาสู่อณาจักร เพื่อมนุษย์ชาติจะได้ฝ่าฝันอุปสรรคที่มีอยู่ในตอนนี้ และเพื่อจะให้ทำแบบนั้นได้ เราต้องโน้มน้าว เหล่าผู้มีอำนาจ นายพล รัฐบุรุษ และพวกขุนนางให้รู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของเรา แน่นอนมันย่อมจะมีความขัดแย้งกันบ้าง แต่เรามีภูมิต้านทานกับมัน ว่าเราจะไม่ยอมให้เรื่องนี้มันขัดขวางเราได้ เราจะแสดงให้พวกเขาเห็นเส้นทาง และทำให้เห็นว่าเรากำลังเดินไปตามเส้นทางนั้นได้ ชั้นมั่นใจว่าพวกเขาต้องเดินตาม 

Byron -  ชะตากรรมของโลกนี้ อยู่ในมือหลานชายของชั้น แต่ความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนอยู่ในกำมือพวกเรา เราต้องไปไม่ทำให้โอกาสที่ไคลฟ์มอบให้เราต้องเสียไป 
Clive - ลุงครับ คือผมไม่ได้ .....

Byron - เอาล่ะ เมื่อเราทำความเข้าใจกันได้แล้วก็มาลงนามกันเถอะ ช่างเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ เราจะมีพิธีรีตองอะไรกันซักหน่อยหรอ?

Byron - อะ แฮ่มมม !! พลเมืองแห่ง วาลิสเธีย ชั้นขอนำเสนอ ตรีเอกานุภาพ (Triunity)  ... Rutherford เอาปากกามาให้ชั้น !!

 

🔳 The Hideaway

 

Byron - ไง ไอ้หลานรัก เวทีของเราพร้อมแล้วนะ และหลานเกิดขึ้นมาเพื่อบทนี้ ขอเพียงหลานไว้วางใจเหล่านักแสดงสมทบของหลาน เราจะเล่นบทของเราให้ดีที่สุดเท่าทึ่ความสามารถของเราจะมีเพื่อให้หลานได้เฉิดฉาย อณาจักรต้องการมี Crandall และไม่มีใครจะเหมาะที่จะเล่นเป็น Crandall ได้เท่าหลานอีกแล้วไคลฟ์ ... ลุงอยากให้หลานเก็บเอกสารการลงนามเพื่อเป็นหลักฐานว่าพวกเราศัทธราในตัวหลาน
Clive - แน่นอนครับลุง ..ขอบคุณนะครับ

 

The Triunty Accord 

สนธิสัญญา ตรีเอกานุภาพ ลงนามที่ Port Isode โดยตัวแทนจาก Rosaria , Dhaknekia และ Sanbreque เพื่อปูทางไปสู่ยุคสมัยใหม่ใน Storm แม้จะดูไม่เป็นทางการ แต่จิตวิญญาณล้นเปี่ยม 

 

                            📗 SideQuest: Aiming Hight

Josselin - ซิด คุณต้องช่วยพวกเรานะคับ !!
Clive - อะไรอีกล่ะ? หวังว่าพวกนายคงไม่ได้ไปแยกชิ้นส่วนงานประดิษฐของ Mid อีกนะ?
Josselin - ไม่ใช่ครับ เอ่อ ก็มีบ้าง แต่ผมหมายถึงเราไม่ได้จะพูดกับคุณเรื่องนั้นหรอก
Aimee - ก็ Mid อ่ะสิคะ เธอชอบทำท่าทางแปลกๆ
Arthur - แปลกมากเลยด้วยครับ เธอชอบแถมไม่ได้มาอยู่ใกล้ๆเลย
Josselin - ถึงตอนเธออยู่ด้วยเธอก็ทำเหมือนไม่เห็นหัวเราด้วยซ้ำ เหมือนพวกเราไร้ตนตัวเลยอ่ะครับ 
Aimee - ไร้ตัวตนต่างหาก พูดก็ไม่ถูก
Josselin - ชั้นก็พูดไร้ตัวตนอยู่นี่ไงเล่า
Clive - Mid เธออาจมีเรื่องต้องคิดเยอะก็ได้ และตอนนี้เธออยู่ที่ไหนล่ะ?
Arthur - เธอเพิ่งหายไปไม่นานนี่เอง จริงๆก็ตั้งแต่เธอกลับมาจาก Stomhyrr นั่นแหละครับ 
Clive - เธออาจกำลังยุ่งก็ได้เพราะ Enterprise เสียหายพอสมควรตอนกลับมา 
Aimee - คุณไม่ได้ทำมันพังใช่มั๊ยคะซิด ? คุณต้องระวังตอนอยู่กับงานประดิษฐของ Mid ด้วยนะ 
Arthur - อย่าไปฟังเธอครับ ต่อให้คุณพัง Enterprise คุณก็ทำให้มันกลับมาเหมือนเดิมได้ใช่ป่ะครับ?
Josselin - แล้วใครจะช่วยทำให้ Mid กลับมาเหมือนเดิมล่ะ เธอดูเศร้ามากเลยนะ 
Clive - เดี๋ยวชั้นไปดูให้ก็แล้วกันว่าจะช่วยอะไรเธอให้ดีขึ้นได้บ้าง
Arthur - คุณจะช่วยเราหรอ เยี่ยมเลย ตอนนี้เธออยู่ในดันเจี้ยนของเธออ่ะ
Josselin - อย่าไปหลอกเขาสิ ไม่ใช่ดันเจี้ยนจริงๆซะหน่อย
Clive - ขอบใจที่บอกก็นะ ...

Clive - เอ่อ Mid ถ้าหากว่าเธอมี …..
Mid - นั่นไง !!! ชั้นว่าแล้ว คำตอบที่ต้องการมันอยู่ตรงนี้มาตลอดเลย !!! ถ้าไม่เห็น Enterprise ของชั้นอยู่บนท้องฟ้าให้ย่ำหน้าได้เลย !!
Clive - ขึ้นบนฟ้างั้นหรอ? นี่เธอกำลังติดปีกให้ Enterprise ใช่มั๊ยเนี่ย?

Mid - แล้วคิดว่าชั้นกำลังทำอะไรอยู่ล่ะห๊ะ!?
Clive - พวกเด็กคิดว่าเธอกำลังหนีหน้าพวกเขา เลยคิดมากกันใหญ่ มันก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกันนะถ้าเธอจะคิดตีตนออกห่างคนรอบตัวแบบนี้อ่ะ
Mid - Enterprise คือเรือที่เร็วที่สุดในอณาจักรแล้ว แต่นั่นมันแค่ในทะเล แล้วถ้าเธอไม่ได้ผูกติดอยู่กับคลื่นหรืออะไรเลยล่ะ? ไม่แฟร์เลยที่พระเจ้ายึดท้องฟ้าเป็นคนตัวเองคนเดียวน่ะ ชั้นต้องหาทางทำอะไรซักอย่างกับมัน ใช่พวก Fallen เคยทำได้ แต่พวกเขาพึ่งพาเวทย์มนต์เกินไป แล้วตอนนี้เป็นไง ซึ่งไม่ใช่ชั้น ชั้นค้นพบวิธีที่แตกต่างออกไป แต่ก่อนอื่น อย่างแรกชั้นต้องสร้างต้นแบบจำลองขึ้นมาก่อน 
Clive - ที่ว่ามานี่เป็นงานของเด็กผู้หญิงคนเดียวสินะ? 
Mid - ก็ Enterprise เป็นลูกของชั้นนี่ แล้วคุณจะเป็นอาสาสมัครช่วยชั้นป่ะล่ะ แต่ถ้าพ่อทูนหัวของเธอยินดีจะช่วยชั้นก็แฮปปี้นะ 

Mid - อืมมม ... อย่างแรกชั้นต้องการน้ำมันแต่ไม่ใช่ของเก่าจาก Miss Molly ใน Tub& Crown แต่เป็นของดีๆแบบที่ทำใน Auldhyl แล้วจากนั้นก็ กระดูกหรือ กระดอกอะไรซะอย่างที่เบาแต่แข็งแรง ไม่เอาแบบของสัตว์ประหลาดแบบที่เคยมีอยู่ 

Clive - ถ้าเป็นพวกกระดูกสัตว์ประหลาดอะไรพวกนั้นชั้นว่าพวก Cursebreakers จะบอกได้นะว่าจะหามันจากไหน
Mid - ไม่เอา แน่นอนว่าพวกเขารู้ว่าจะหามันได้จากไหน แต่คุณสัญญาว่าจะช่วยแล้วนี่ จำไม่ได้หรอ?
Clive -งั้นก่อนจะไปซื้อของที่ Auldhyl ชั้นคงต้องลองถาม Cursebreakers ดูก่อนว่าจะหากระดูกกระดองอะไรนั่นแถวๆ Auldhyl ได้บ้างมั๊ยจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาหลายที่

Ronan - อ่า ซิด มีอะไรให้รับใช้งั้นหรอ?
Clive - ในกรณีที่นายพอจะรู้อ่ะนะ พอดี Mid อยากจะได้วัตถุดิบสำหรับสร้างโปรเจคใหม่ เป็นกระดูกหรือกระดองที่น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง นายเดินทางไปมาในอณาจักรตลอดน่าจะเจอสัตว์ร้ายมาเยอะ มีอะไรพอแนะนำได้บ้าง?
Ronan - กระดูกส่วนใหญ่ก็จะเหมือนกันหมดถ้าตีสุดแรงจริงๆรับแรงแตกหมด ถ้าอยากได้อะไรแข็งๆก็แนะนำเป็นเปลือกหรือกระดองจะดีกว่า คุณพอจะรู้จัก adamantoise มั๊ย?
Clive - ก็พอรู้นะ แต่ส่วนใหญ่ชั้นก็จะหลีกทางให้พวกมันนอนผึ่งแดดอ่ะ แล้ว adamantoise มันทำอะไรได้ล่ะ?
Ronan - กระดองมันไงครับ ยิ่งแก่ยิ่งแข็งเลยล่ะ ตอนนี้มีข่าวลือเรื่องการพบ adamantoise โบราณที่ Corava ใกล้กับหมู่บ้าน Uld Bidza หรือไม่ตอนนี้คงเหลือแต่ซากหมู่บ้านไปแล้ว แต่อย่างหวังว่าจะจัดการมันง่ายๆนะ ไม่งั้นมันคงไม่อยู่มานานถึงขนาดนี้หรอก

 

⟴Objective >

    เดินทางไป Auldhyl เพื่อเก็บน้ำมันสองชนิด 

แล้วไปที่ Dravozd >Fields of Corava >หมู่บ้าน Uld Bidza กำจัด adamantoise

 

The Hideaway

 

 

                   Clive - Mid นี่ใช่มั๊ยที่เธออยากได้น่ะ 

Mid - อิวว เหมือนชั้นขอให้คุณไปกอบกู้โลกหรืออะไรซักอย่างเลยนะเนี่ย ใช่มันเป็นสิ่งที่ชั้นต้องการมากที่สุด แต่หลังจากที่คุณไปแล้ว ดูเหมือนชั้นเพิ่งนึกได้ว่าลืมไปอย่างนึง 
Clive - แล้วมันคือ ....?
Mid - ฟันเฟืองน่ะ มันฟังดูเล็กน้อยนะนั่นล่ะปัญหา คือต้องใช้ฟันเฟืองที่เล็กมาก ไอ้ว่าจะให้ Blackthorne ช่วยทำให้ก็กลัวพี่แกจะทุกพังซะก่อน 

Clive - อืมมม เดี๋ยวนะ ...ตอนที่พวกเด็กรื้อตาช่างของเธอเหมือนจะมีฟันเฟืองเล็กๆอยู่อันนึง ชั้นนึกได้แล้ว ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้ใส่มันเข้าไปตอนประกอบใหม่ 
Mid - เด็กๆน่ะหรอ? แล้วพวกเขารื้อทำไม? … ช่างเถอะ ชั้นไม่อยากรู้ดีกว่า ชั้นจะทำโมเดลต่อแล้ว คุณไปหาฟันเฟืองมาก็แล้วกัน

Josselin - ซิด ทำไม Mid ยังหลบหน้าพวกเราอยู่อีกอ่ะ?
Clive - เธอไม่ได้หลบหน้า เธอสบายดี แค่กำลังยุ่งกับโปรเจคใหม่อยู่น่ะ 
Arthur - สิ่งประดิษฐใหม่หรอ?? อะไรๆๆ อะไรหรอ?
Aimee - มันต้องเป็นเรือเหาะแน่นอน เรือเหาะ !!!
Josselin - คุณว่าเธออยากให้เราช่วยป่ะ??
Clive - นั่นแหละที่ทำให้ชั้นมาที่นี่ เธอต้องการหาอะไรที่พิเศษ อะไรที่มีแต่เธอสามคนเท่านั้นที่หาให้ได้ มันคือ ฟันเฟือง เฟืองเล็กๆแบบที่มันอยู่ในตาชั่งไง จำได้กันมั๊ย?
Aimee - อ๋อ อันที่คุณลืมใส่กลับไปใช่ป่ะ เราจำได้ !!
Josselin - ผมเก็บไว้เองแหละ เก็บไว้ในถุงพวกเศษชิ้นส่วน เดี๋ยวไปเอามาให้นะ
Arthur - ตั้งแต่เราได้บทเรียนจากคุณ เราจึงแยกชิ้นส่วนเล็กๆไว้ต่างหากก่อนจะประกอบใหม่ทุกครั้ง ซึ่งมันจะทำให้เราหาง่ายขึ้น
Aimee - ส่วนที่เหลือเราเก็บไว้ใต้เตียง สำรองเอาไว้น่ะ

Josselin - ผมเจอแล้ว นี่ไง!! … แค่นี้เองหรอ ต้องการแค่เฟืองแค่เนี่ย!? เรายังมีชิ้นส่วนอื่นอีกเยอะเลย ถ้าเธอต้องการบอกได้เลย
Clive - ตอนนี้คงต้องการแค่นี้แหละ แต่ชั้นจะบอก Mid เรื่องชิ้นส่วนที่พวกเธอมีเก็บไว้ก็แล้วกันนะ 
Josselin - ขอบคุณครับ Cid 

Mid - ไง ได้มาจากพวกเขามั๊ย?
Clive - ได้สิ พวกเขาเก็บไว้อย่างดีด้วย พอใช้ได้มั๊ย?
Mid - ใช้ได้มั๊ยหรอ? มันเฟอร์เฟคเลยต่างหาก! คุณมันอัจริยะ ไคลฟ์ 
Clive - ตกลงเธอจะเอามันไปทำอะไรกันแน่?
Mid - เป็นงานที่สำคัญที่สุดเลยล่ะ ปีกน่ะมันไม่สามารถบินได้ด้วยตัวมันเองนะ แต่มันต้องใช้ฟันเฟืองที่เหมาะสมแล้ววางมันให้ถูกที่ต่างหาก งั้นรอแปบนึงนะ เดี๋ยวเอามาให้ดู 

 

      Mid - นี่ไงล่ะ โมเดลต้นแบบชองชั้น ...เอาล่ะ .. ไหนลองดูสิ 

Mid - เฮ้อ บ้าจริง ....ยังไม่เวิร์ค 
Clive - มันยังบินไม่ได้งั้นหรอ?
Mid - จริงๆแล้วมันควรจะต้องได้อ่ะนะ ถ้ามันบินไม่ได้จะเรียกเรือเหาะได้ยังไงเล่า อันที่จริงเครื่องยนต์นี่ทำให้ชั้นแทบบ้าเลยนะจะบอกให้ ตอนแรกกะว่าจะให้วันนี้เป็นวันที่เธอทะยานขึ้นฟ้าเลยนะ 

Mid - เครื่องยนต์ mythril ถูกสร้างขึ้นมาให้เพื่อทำความฝันให้เป็นจริง หรือไม่ แต่บางทีมันอาจจะเป็นเป็นความฝันเดียวที่โลกคงจะดีขึ้นถ้าไม่มีมัน แสดงให้ชาวบ้านเห็นว่ามันบินยังไง แต่สุดท้ายก็ตกลงมาตายข้างล่างเหมือนกัน ผู้คนต่างก็สูญเสียบ้าน เด็กๆต้องกำพร้าพ่อแม่ เหมือนกับที่ชั้นเสียไป 

Clive - ชั้นเสียใจด้วยนะ
Mid - ชั้นก็เหมือนกัน ไคลฟ์ ชั้นก็เหมือนกัน ..เสียใจที่เลือกว่าจะต้องตามความคิดหรือตามหัวใจตัวเอง ?

Clive - เป็นคำถามที่ดีนะ ...ครั้งแรกที่ชั้นยืนบนดาดฟ้าเรือของเธอ ชั้นรู้สึกถึงลมที่ผัดผ่านผมของชั้น มันเหมือนว่าชั้นกำลังบินเลย แล้วลองคิดดูว่าถ้ามันบินได้จริงๆจะเป็นยังไง

Mid - พ่อชั้นพูดเสมอว่า มีสองวิธีในการใช้ชีวิต เลือกทำตามความฝันหรือไม่ก็ลากมันลงหลุมไปกับเราด้วย ซึ่งเขาพูดถูก ถูกหลายอย่างเลยล่ะ ไม่ใช่ว่าชั้นอยากจะยอมรับมันหรอกนะ แต่ผู้คนต้องการที่จะไล่ตามความฝัน โดยเฉพาะโลกในสภาพแบบนี้ 

Mid - ใช่ เมื่อเรื่องนี้จบลง ชั้นจะเอาเครื่องยนต์ของชั้นทั้งหมดไปที่ Dzemekys แล้วทิ้งมันลงหน้าผาให้หมด ชั้นไม่ชอบให้ความฝันของชั้นต้องกลายเป็นฝันร้ายของคนอื่น 

Clive - แต่เธอทำงานอยากหนักมากเลยนะกว่าจะได้ทั้งหมดนั่นมา
Mid - ก็เพราะไม่อยากให้สิ่งที่ชั้นทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างมันมาถูกนำไปใช้สร้างสงครามไง 

Mid -  เข้าใจมั๊ย?  แต่ ก็ไม่ใช่ว่าจะทิ้งไปเลยหรอกนะ ...ไหนบอกชั้นหน่อยสิ ไคลฟ์ คุณเคยตามล่าหาสมบัติมั๊ย?
Clive - เคย ตอนสมัยเด็ก เล่นกับโจชัวร์ ถามทำไมหรอ?
Mid - เพราะชั้นจะเอาแบบแปลนเครื่องยนต์ของชั้นไปฝังไว้พร้อมทิ้งปริศนาเล็กๆน้อยๆเอาไว้ให้คนได้ค้นหากันไง และมันจะหายากมาก เพื่อให้นักเดินทางผู้มีความมุ่งมั่นที่จะตามฝันเท่านั้นที่จะค้นหามันเจอและสร้างมันขึ้นมาได้

Mid - ชั้นนึกภาพออกแล้ว !! นายพลผู้โง่เขลาบางคนกำลังหรี่ตามองคำบอกใบ้ของชั้นด้วยสีหน้าโง่ๆกับแก้วเบียร์ของเขา ก็ประมาณนั้นแหละ ใช่เลย 

Mid - แน่นอนว่าถ้าสุดท้ายแล้วชั้นจะต้องเอาเครื่องยนต์นี้ไปเป็นสมบัติให้ผู้คนออกตามหา ชั้นจะทำให้มันเป็นสมบัติที่คุ้มค่าในการตามหาเลยล่ะ แต่คงจะเป็นสมบัติล้ำค่าไม่ได้ถ้าทำเรือของเล่นให้บินยังไม่ได้เลย พ่อชั้นเป็นคนชอบฝันใหญ่เสมอ ซึ่งมันก็ดี แต่ขนาดของฝันมันไม่สำคัญหรอกจริงป่ะไคลฟ์ และชั้นก็คิดว่ายังพอมีสิ่งดีๆอยู่บ้างแหละ  
Clive - ชั้นมั่นใจว่าเธอทำได้แน่นอน 

     Model Airship

ความฝันที่อันตรายของ Mid จะบิน ถูกบันทึกไว้ด้วยรูปแบบของโมเดลขนาดเล็ก แม้การทำลองจะจบลงด้วยความล้มเหลว Mid ก็อนุญาตให้ ไคลฟ์ เก็บแบบจำลองนี้ไว้ เพื่อว่าเธอมีซื้อเสียงโด่งดัง เขาอาจได้ขายงานของเธอด้วยราคาสูงลิบลิ้วหลายกิล 

 

                       📗 SideQuest: Where There’s a will 

 

Clive - ไง โจชัวร์ เกิดอะไรขึ้น? ห้ามบอกว่าไม่มีอะไรนะ
Joshua - เอ่อ ก็มันไม่มีอะไรนี่ครับ แค่ ผมเพิ่งได้ข่าวจาก Cyril ว่า พวก Undying ได้ค้นพบเจตจำนงของพ่อ ...หรือ อะไรประมาณนั้นน่ะ
Clive - เจตจำนงของพ่อหรอ? ที่ไหน? ยังไง?
Joshua - ในห้องใต้ดินใต้ปราสาทโรซาลิธครับ หลังจากที่ Kupka เข้ายึดที่นั่นก็เหมือนช่วยไล่พวกจักรวรรดิให้ในตัว จากนั้น Undying ก็เลยสามารถเข้าพื้นที่เพื่อเก็บกระดูกของพ่อที่ยังหลงเหลืออยู่ได้ และในระหว่างดำเนินการขุดค้นก็พบจดหมายของพ่อเข้า 
Clive - แปลกใจเหมือนกันนะที่ยังมีอะไรหลงเหลืออยู่ข้างล่างนั่นอีก 
Joshua - Cyril บอกให้ผมไปหาเข้าที่ Tabor ทันทีที่สะดวก ตอนนี้ผมว่างแล้วก็เลยว่าจะไป แล้วพี่จะไปด้วยมั๊ย?
Clive - ไปแน่นอน ชั้นอยากรู้มากว่าพ่อเขียนอะไรเอาไว้ 

 

⟴Objective > เดินทางไปที่ Tabor

Cyril - อ่า ฝ่าบาท , นายท่าน หวังว่าการเดินทางมาคงไม่ยากลำบากอะไรนะครับ 
Joshua - Cyril นายพบจดหมายของพ่องั้นหรอ?
Cyril - ใช่ครับ อยู่นี่ครับ 

 



ถึงลูกรักของพ่อ

พ่อรู้ว่าพ่อร้องขอมากเกินไปกับสงครามที่กำลังจะมาถึง แต่พ่อก็ยังไม่เห็นหนทางที่จะรักษาอนาคตของเหล่าขุนนางและครอบครัว แม้ว่าเราจะประสบความสำเร็จกับการจัดการกับพวกคนเถื่อนและยึดเอา Drake’s Breath คืนมาได้ แต่ภัยคุกคามจาก Blight ก็ยังคงอยู่ และมีเพียงโรซาเรียเท่านั้นที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะมัน 

พ่อได้วางแผนเอาไว้แล้วที่จะพาเราให้ผ่านพ้นปัญหานั้นไป แต่อุปสรรคที่ขวางทางก็คงต้องตกเป็นหน้าที่ของลูกแล้วที่จะต้องทำหน้าที่ต่อไป พ่อรู้ว่าลูกมีความแข็งแกร่ง กล้าหาญ และมีความตั้งใจที่จำมันเช่นกัน 

มันเป็นมรดกที่ยากเข็ญ พ่อจึงจะให้ของอีกอย่างกับลูกเพื่อที่ลูกจะได้ระลึกถึงความรักและความศรัทธาที่พ่อมีต่อลูกทั้งสองคน 

 

                                                                          พ่อของลูก 

 

Clive - มรดก งั้นหรอ? ……
Cyril - ดูเหมือนท่านดยุคผู้ล่วงลับจะเขียนจดหมายนี้ไม่นานก่อนที่ท่านจะจากไปนะครับ 
Clive - น่าจะเป็นคืนก่อนที่เราจะเดินทางไปที่ Phoenix Gate 
Joshua - แล้วแผนที่พ่อพูดถึงมันคืออะไรงั้นหรอ?

Cyril - แผนการนั้น พ่อของฝ่าบาทฝากไว้กับบรรพบุรุษของผม อดีต Bearer แห่ง Burning Quill ที่ส่งต่อมาให้รุ่นของผมอีกที การปลดปล่อย Bearers โดยสมบูรณ์คือ เป้าหมายที่ระบุเอาไว้ แต่ความฝันของพ่อของฝ่าบาทไม่ได้จบลงแค่นั้น ท่านยังพูดถึงการส้รางบ้านพักสำหรับดูแลเหล่าผู้ต้องสาป รวมถึงก่อตั้งมหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี่ใหม่ๆที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งเวทย์มนต์ต่อไป เนื่องจาก Blight ได้ลุกลามไปทั่ว Twin มากขึ้นเรื่อยๆ อาร์คดยุค Elwin จึงเห็นว่าเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้โรซาเรียอยู่รอดได้ 

Joshua - ท่านหวังจะได้เห็นคนทั่วไปและ Bearers ถูกปฎิบัติอย่างเท่าเทียม และเห็นภูมิปัญญาเก่าๆถูกล้มล้างมาตลอด น่าแปลกใจว่าพ่อไม่คิดว่าจะทำได้ในช่วงชีวิตของเขา 
Cyril -แต่อย่างน้อยท่านก็คิดว่ามันต้องทำได้ ไม่งั้นท่านคงไม่เขียนจดหมายนี้ออกมา และท่านคงไม่มอบวิสัยทัศน์นี้ให้กับผู้ช่วยที่ซื่อสัตย์ที่สุดของท่าน ผู้ที่จะยืนหยัดเคียงข้างคุณ และปกปองคุณจากความโหดร้ายของผู้ที่ไร้เมตตา 
Clive - น่าเสียดาย ถ้าคนพวกนั้นยังอยู่กับเราก็คงดี ….
Cyril - อืมม อันนี้ก็ต้องยอมรับว่า บรรดาคนที่ภักดีที่สุดต่อพ่อของคุณมากที่สุดเป็นคนแรกที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากความโกรธเกรี้ยวของ ดัชเชส แม่ของคุณ แต่อย่างน้อยก็เหลืออยู่คนนึงและเธอก็มาพร้อมของขวัญที่ล้ำค่าด้วย 

Clive - หมายความว่ายังไง?
Cyril - เอาไว้ให้นางอธิบายให้ท่านฟังเองจะดีกว่านะนายท่าน ท้ายที่สุดแล้ว หน้าที่ที่บรรพบุรุษที่มอบหมายมาให้ผมได้ส่งถึงคนที่จะทำมันได้เพื่อจะได้ทำให้ความประสงค์ของท่านดยุคเป็นความจริง ไม่มากก็น้อย
Joshua - แล้วผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหนหรอ?
Cyril - นางรออยู่ในหอจดหมายเหตุของเราแล้วครับ  

Goditha - ฝ่าบาท ...นายท่าน ...ขอโทษด้วยค่ะ ดิฉันจำพวกท่านไม่ค่อยได้แล้ว ดิฉัน Goditha ผู้ดูแลแห่งตระกูลลอสฟิลด์ ผู้รับใช้ที่ภักดีต่อฟินิกซ์และโล่ของเขา พ่อของท่าน อาร์คดยุค Elwin ได้มอบของขวัญไว้กับดิฉันเพื่อให้กับพวกท่าน และต้องขอโทษด้วยกับการเดินทางที่ล่าช้า
Clive - เลิกก้มหัวเถอะเลดี้ Goditha คุณมีบุญคุณกับพวกเราสำหรับการดูแลตระกูลของเรารวมถึงพ่อของเราด้วย
Goditha - ชั้นก็แค่ทำหน้าที่ของชั้นเหมือนกับชาวโรซาเรียนภาคภูมิใจที่ได้ทำ
Joshua - คุณผู้หญิง บางทีคุณอาจจะอธิบายเพิ่มเติมให้เราฟังหน่อนเกี่ยวกับเรื่องของขวัญของพ่อที่ท่านฝากมาให้

Goditha - ดิฉันว่าท่านน่าจะทราบดีอยู่แล้วนะ มันเป็นธรรมเนียมมาช้านานแล้วสำหรับทายาทของตระกูลรอสฟิลด์จะต้องได้ของขวัญตอนที่โตเป็นผู้ใหญ่ และถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านก็จะมอบมันให้พวกท่านด้วยตัวเอง ปลอกแขกที่เข้าคู่กันสำหรับท่านทั้งสองคน เสียดายที่ท่านไม่อยู่แล้ว อันที่จริงท่านจากไปก่อนที่มันจะสร้างเสร็จเสียอีก เหลือแค่ ศิลาแห่งหัวใจ หินชนิดพิเศษที่ใช้สร้างมัน หลังจากที่ท่านเสียไปนานแล้วก็ไม่มีใครได้ครอบครองมันอีก แต่ตอนนี้ท่านทั้งคู่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีสิทธิ์ความชอบธรรมในตระกูลแล้ว แม้ว่าดิฉันจะไม่มีสิทธิ์จะยัดเยียด ศิลาแห่งหัวใจ นี้ให้พวกท่าน แต่ชั้นมั่นใจว่าคงไม่มีอะไรที่ทำให้ท่านดีใจไปกว่าพวกท่านทั้งสองได้รับมันไป 
Clive - ขอบคุณมากครับ เลดี้ Goditha แน่นอน เราจะทำให้ความต้องการของพ่อเป็นความจริงอยู่แล้วครับ
Joshua - แล้วพอจะทราบมั๊ยว่า ศิลาแห่งหัวใจ นั่นมันอยู่ที่ไหน?

Goditha - จริงๆถ้าชั้นจัดการมันให้ดีกว่านี้คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ตอนนี้มันอยู่ในท้องของ elder Griffins และล่าสุดเราก็รู้ตำแหน่งของพวกมันบางตัวแล้ว ตอนนี้รังของมันอยู่แถว Titan’s Wake ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก

Joshua - บางตัวหรอครับ?
Goditha - ใช่ค่ะ อันที่จริงแล้วมันเป็นสัตว์ชนิดเดียวกับที่พ่อของพวกท่านจะฆ่าเพื่อนำเอา ศิลาแห่งหัวใจ มา ชั้นติดตามพวกมันมาตั้งแต่คุณยังเด็กแล้วล่ะ และในฐานะบุตรแห่งบ้าน รอสฟิลด์ ถ้าคุณสังหารมันแทนเขา พ่อของพวกท่านจะต้องภูมิใจแน่นอน
Clive - นายว่าไงโจชัวร์?
Joshua - รออะไรล่ะครับ

 

⟴Objective > เดินทางไปยัง The Gilded Path > Titan’s Wake

                      กำจัด Boss - Simurgh Griffins

 

Goditha - ขอบคุณพระเจ้าที่พวกท่านปลอดภัย เจ้า Griffins คงถูกกำจัดแล้วสินะ
Clive - แล้วเราก็ได้ heartstone มาด้วยครับ 
Goditha - โอ้ ใช่แล้ว นี่แหละค่ะ ความแวววาวเจิดจรัสนี้อย่างกับเปลวไฟที่ถูกแช่แข็งอย่างที่ท่านพ่อของคุณบรรยายเอาไว้เลย ขอบคุณมากค่ะฝ่าบาท ...นายท่าน ..พ่อของท่านจะต้องภูมิใจแน่นอน 
Cyril - เลดี้ Goditha เราเตรียมหินเจียระไนไว้พร้อมแล้วครับ 
Goditha - ขอบใจมากนะ Cyril …ชั้นขอตัวก่อนนะคะ น่าจะใช่เวลาเจียระไนไม่นานหรอก 

Goditha - นี่ค่ะ เสร็จแล้ว ได้โปรดรับมันไปด้วยค่ะ มันเป็นของพวกท่านแล้ว  heartstone นั้นแข็งแกร่งและทนทานกว่าโกเมนหรือแม้แต่ทับทิม เป็นสัญลักษณ์แห่งความทุ่มเท่ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และเถาวัลย์ที่สลักล้อมหินเอาไว้ ก็แสดงถึงความสัมพันธุ์ที่ไม่มีวันเสื่อมคลายของท่านทั้งสองคน 
Clive - มันเป็นเหมือนข้อความ พ่อรู้ว่าเรามีศัตรูทั้งภายนอกและภายใน ความภักดีที่แรงกล้าเท่านั้นที่จะต้านทานมันได้ 
Joshua - และถ้าเรายืนหยัดร่วมกันในฐานะฟินิกซ์และโล่ ในฐานะพี่น้องร่วมรบ เมื่อนั้น ศัตรูก็จะแพ้ภัยแน่นอน 
Goditha - ถูกต้องแล้วค่ะ พ่อของพวกท่านรู้ถึงความจริงข้อนี้ ท่านจึงไว้ใจให้คุณเป็นทายาทผู้สืบราชบัลลังก์ของท่าน แต่นี่เป็นมากกว่าแค่ ข้อความ แต่มันคือคำสัญญาที่จะอยู่กับพวกท่านทั้งสองตลอดไป
Clive - ขอบคุณมากครับ เลดี้ Goditha สำหรับที่คุณเป็นผู้ดูแลพินัยกรรมของพ่อที่ภักดีอยู่เสมอ 

Joshua - แต่ ต้องขอโทษด้วยนะ เลดี้ Goditha มีบางอย่างที่ผมยังไม่เข้าใจ หลังจากที่พ่อเสีย แม่ก็ยึดสมบัติทั้งหมดไป ถึงแม้ปลอกแขนนั่นจะยังไม่สมบูรณ์แต่นางก็คงไม่มองข้ามไปแน่นอน แล้วคุณปกป้องมันจากนางได้ยังไง?
Goditha - เพราะชั้นเป็น ผู้ดูแลพระคลัง ไงคะ แม้จะดูเป็นคนรับใช้ที่ด้อยค่าแต่ท่านพ่อของคุณก็บอกความตั้งใจของเขาที่มีต่อพวกท่าน ความรักที่มีต่อท่านทั้งสอง และความหวังในอนาคตของพวกท่านด้วย หลายวันก่อนเกิดเรื่องที่ Phoenix Gate ดิฉันพบว่า ดัชเชส ได้นำเครื่องประดับของนางส่งออกไปนอกปราสาท ตอนนั้นชั้นมั่นใจแล้วว่านางจะทรยศพ่อของท่านแน่นอน ดิฉันพยายามจะเตือนพ่อของพวกท่านแต่ก็สายไปแล้ว เมื่อข่าวไฟไหม้ที่ Phoenix Gate มาถึงโรซาลิธ ชั้นจึงรีบเก็บปลอกแขนนั่นแล้วหนีออกจากเมืองทันที
Joshua - ขอบคุณพระเจ้าที่คุณคิดได้ทัน 

Goditha - แต่หน้าที่ของดิฉันที่มีต่อท่านยังไม่จบ ชั้นไม่รู้ว่าจะทำไงต่อ ก็ได้แต่ติดตามเจ้า Griffins นั่นเพื่อหวังว่าจะเอา heartstone มาจากมัน จนกระทั่งได้เจอกับ พวกของ Cyril และเขาได้แจ้งชั้นว่า ประสงค์ของนายท่านได้รับการตอบรับแล้ว จากลูกๆที่ยังรอดชีวิตของท่าน 
Clive - เลดี้ Goditha ในนามของพ่อผม และชาวโรซาเรียนทุกคน ขอขอบคุณความภักดีของคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ 
Goditha - ขอบคุณมากค่ะ ฝ่าบาท .. นายท่าน ที่กลับมาหาพวกเรา และทำให้ความภักดีของดิฉันมีความหมาย 

Cyril - ปลอกแขนนั่น มันเหมาะสมกับท่านมาก เป็นเรื่องน่ายินดีที่มรดกตกทอดที่ถูกพรากไปจากพวกท่านมานานมาอยู่กับพวกท่านเสียที 
Joshua - ซึ่งก็ต้องขอบคุณนายด้วยนะ Cyril สำหรับการทำหน้าที่ของนาย

Cyril - ถ้าจะให้ผมทำหน้าที่ให้ดีกว่าเดิมอีกหน่อย ผมแนะนำให้พวกท่านไปที่หลุมศพของพ่อของพวกท่านที่ Hawk’s Cry Cliff ด้วย เพื่อให้ท่านได้เห็นว่าพวกท่านทั้งสองได้รับพรของเขาแล้ว และเจตจำนงของเขายังอยู่ในตัวท่านทั้งสองไม่เคยเปลี่ยน หมวกของพ่อของพวกท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย เราค้นพบมันตอนสำรวจ Phoenix Gate ขอรับ โปรดรับมันเป็นส่วนหนึ่งของมรดกด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าท่านคงจะพอใจที่มันอยู่ในมือท่านทั้งสองมากกว่าถูกวางไว้อย่างโดดเดี่ยวบนก้อนหินแน่นอน
Joshua - งั้นไปกันเถอะไคลฟ์ อย่าให้พ่อรอนานเลย 

 

⟴Objective > เดินทางไปยัง Hawk’s Cry Cliff

Joshua - ความตั้งใจที่แน่วแน่และความผูกพันที่ไม่มีวันแตกสลาย พี่คิดว่าเราแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรอ?
Clive - ถ้าเรื่อง ช่วยโลก ก็ใช่ แต่เรื่องเอาชนะศัตรูทางการเมืองของพ่ออันนี้พี่ไม่มั่นใจนะ โดยเฉพาะสิ่งที่เรารู้ในตอนนี้ แม่เรานี่มันเหลือกินจริงๆ .... แต่บางทีความผูกพันธุ์ที่พ่อพูดถึงก็ทำให้เราสร้างความแตกต่างได้ 

 

 

 

Joshua - พ่อต่อสู้เพื่อสิ่งที่เขาเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องมาตลอด จนกระทั่งในคืนนั้น ที่ Phoenix Gate ผมจึงรู้ว่า ผมไม่เคยสู้เพื่อสิ่งใดเลย เพราะส่วนใหญ่มีแต่คนสู้เพื่อผม
Clive - ไม่สำคัญหรอกว่าโชคชะตาจะต่อต้านเขายังไง เขาก็ไม่เคยย่อท้อ ไม่เคยหันหลังกลับ หรือ หยุดต่อสู้เลย สำหรับพี่ เขาคือคนที่ยิ่งใหญ่ และพยายามที่ดำเนินชีวิตตามอุดมคติของเขาตั้งแต่นั้นมา 

Joshua - เราทุกคนนั่นแหละ ไคลฟ์ ที่เราพยายามกันจนถึงวันนี้ก็เพราะมันเป็นสิ่งที่พ่อต้องการ 
Clive - เป็นพ่อก็คงทำ แม้ว่าเขาต้องสู้กับพระเจ้าบนสวรรค์ก็ตาม 

Joshua - ถ้าพ่อไม่ว่าอะไร ผมขอนำสิ่งนี้กลับไปนะครับ พ่อจะได้เห็นว่าเรากำลังเดินตามรอยเท้าพ่อยังไง

 

 

 

 

               Clive - ผมจะไม่ทำให้พ่อผิดหวังแน่นอนครับ 

Joshua - งั้นเราก็ลุยต่อใช่มั๊ย?
Clive - ลุยต่อให้จบไปเลย 

 

เมื่อจบภารกิจนี้ โจชัวร์ จะเข้าร่วมในปาร์ตี้ไปตลอดจนกว่าจะเข้าไปยัง Origin

 

   Rusted Battlehelm 

หมวกของอาร์คดยุค เอลวิน ที่ใช้สวมในการต่อสู้สมัยปราบการจารจลทางเหนือ ต่อมาได้ถูกนำมาวางบนหลุมศพของท่าน ตอนนี้มันถูกนำมาวางในห้องของไคลฟ์ เพื่อเตือนใจให้นึกถึง ความกล้าหาญ ความเสียสละ ของพ่อ และรอยเท้าที่เขากับน้องชายตั้งใจที่จะเจริญรอยตาม

 

หลังจบ SideQuest: Where There’s a will จะมีจดหมายจาก โจชัวร์ ส่งมาที่โต๊ะจดหมายในห้องของไคลฟ์ ปรากฏเป็น ภารกิจเสริมใหม่ (สำคัญ) เพิ่มเข้ามาใน Missives Quest 

 

                                📬 Missives Quest

 

   ความกังวลเรื่อง จิล 

ที่ผ่านมาแม้ Eikon ของเธอจะนำความทุกข์ใจมาให้เธอตลอด แต่การเสีย Shiva ไปก็ทำให้เธอหนักใจไม่น้อยเหมือนกัน และเราจะเป็นเพื่อนที่แย่มากที่จะไม่ช่วยแบ่งเบาปัญหาให้เธอ แม้จะเพียงนิดหน่อยก็ยังดี ก่อนที่เราจะบินขึ้นฟ้าเราควรหาโอกาสไปคุยกับเธอแบบส่วนตัวบ้างก็ดีนะ

 

                             📗  SideQuest: Pricelss 

 

Clive - โจชัวร์ พี่อ่านจดหมายของนายแล้วนะ นายพูดถูกเรื่องจิลที่ดูแปลกๆไป ตอนแรกก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไรแต่พอตอนที่กลับมาจาก Drake’s Spine ก็เริ่มจะเห็นชัดขึ้น 
Joshua - ผมว่ามันไม่อยากเลยถ้าจะต้องเดาว่าเพราะอะไรอ่ะนะ เธอคิดว่าเธอไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมอีกต่อไปแล้วน่ะสิ นั่นคือเหตุผมที่เราต้องบอกเธอว่า เธอยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมเราเสมอ ต้องบอกเธอว่าเรายังต้องการเธอ ตอนนี้หรืออาจมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งนั่นพี่ต้องเป็นคนบอกเธอด้วยตัวเอง แต่จะทำยังไงนี่สิ ล่าสุดที่เราสนิทกันก็ตั้งแต่ตอนเราเป็นเด็ก

Clive - แน่นอนอยู่แล้ว นายจำตอนที่พ่อพาพวกเราออกทัวร์ในอนาจักรได้มั๊ย ตอนนั้นชั้นกับจิลแยกออกจากขบวนไปที่ Mann’s Hill ไง?
Joshua - แล้วก็ไปชมทุ่งดอก เดซี่หิมะ ด้วยกันใช่ป่ะ จำได้สิ นั่นเป็นครั้งแรกที่พ่ออนุญาติให้เราร่วมขบวนไปด้วย และพอเขารู้ว่าพี่หายไป เขาก็เลยให้ผู้ติดตามทั้งหมดตระเวณหาไปทั่วเขตชนบทเลยล่ะ
Clive - ท่ามกลางสายฝนด้วย ฮ่าๆ ตอนนั้นมีฝนฟ้าคะนองจนเราต้องหลบกันอยู่ใต้ต้นโอ๊ค ซึ่งเรายังเดินไปไม่ถึงครึ่งทางด้วยซ้ำ จนท่านแม่ทัพเป็นคนมาเจอเรา ไม่ต้องบอกเลยว่าเขาไม่พอใจแค่ไหนอ่ะนะ
Joshua - งั้นก็แปลว่าจิลกับพี่ยังไม่ได้ไปที่นั่นเลยล่ะสิ แล้วพี่จะว่าไง?
Clive - Mann’s Hill งั้นหรอ? ก็ไม่ไกลจากนี่เท่าไหร่ 
Joshua - ใช่ครับ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามันจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ยังเหมือนตอนที่ยังเป็นเด็กมั๊ย?
Clive - นายกำลังบอกว่าเราควรออกไปที่นั่น เพื่อตรวจสอบว่ามีพวกโจรอยู่หรือเปล่าใช่ป่ะ?
Joshua - ผมหมายถึง เราควรไปเช็คดูก่อนว่ายังมีดอก เดซี่หิมะ เหลืออยู่อีกหรือเปล่าต่างหาก ฮ่าๆ นี่พี่จะทำยังไงถ้าไม่ผมเนี่ย ?

 

⟴ Objective > เดินทางไปยัง Hawk’s Cry Cliff > Mann’s Hill 

 

Clive - ที่นี่แหละ ..แต่ดูเหมือนว่า ...
Joshua - เสียใจด้วยนะไคลฟ์ 

Clive - ดูเหมือนจะไม่รอดซักต้นเลย ..แล้วเราเอาไงต่อดี 
Joshua - งั้นเราลองหาที่อื่นดูก็แล้วกัน

Joshua - Mann’s Hill ไม่ใช่ที่เดียวที่ ดอกเดซี่หิมะ โตได้นะ
Clive - ชั้นรู้ แต่นี่เป็นที่เดียวที่พี่รู้จักนี่
Joshua - งั้นทำไมพี่ไม่ไปถามคนที่เขารู้ล่ะ?
Clive - ถ้างั้นก็คงต้องไปที่สวนหลังบ้านที่ hideaway สินะ

 

Hideaway / backyard 

 

Frederuca -อ้าวซิด มีอะไรหรอถึงลงมาที่นี่ได้เนี่ย?
Clive - คือชั้นมีเรื่องอยากจะขอคำแนะนำหน่อย คือ โจชัวร์กำลังมองหาสถานที่ที่ดอกเดซี่หิมะเติบโตได้น่ะ 
Frederuca - ดอกเดซี่หิมะ งั้นหรอ ...... ?  งั้นคุณต้องไปหาที่ที่ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไปและเป็นที่ที่มีลมแรงพอที่จะหอบเมล็ดพืชไปได้ด้วย ชั้นคิดว่าถ้าไม่ที่ Mann’s Hill  ก็น่าจะเป็น Royal Meadows  ทั้งสองที่มีทั้งเรื่องอากาศและความสูงที่คล้ายกัน ถ้าไม่โดน Blight เข้าไปยึดพื้นที่ซะก่อนอ่ะนะ 
Clive - จะลองหาดู ขอบคุณมากนะ 

Joshua - ไงพี่ รู้ยังว่าจะหาดอกไม้ของเราได้ที่ไหน?
Clive - คนสวนแนะนำว่าให้ไปที่ Royal Meadows ใน Sanbreque
Joshua - ทุ่งทางเหนือ Northeach อ่ะนะ? ถ้างั้น Jote ก็พูดถูก ผมจำจากที่อ่านในบันทึกการเดินทางของเธอได้ ผมก็เลยถามเธอว่าพอจะคุ้นๆบ้างมั๊ยที่ที่ดอกเดซี่หิมะเติบโตได้ แล้วเธอก็บอกว่าเป็นที่ Oillepheist น่ะ 
Joshua - แหลมที่ติดกับพรมแดน Meadows สินะ งั้นไปกัน 

⟴Objective > เดินทางไปยัง Northeach > Royal Meadows

Clive - โจชัวร์ดูนั่น มีดอกไม้อยู่ด้วย บ้าเอ้ย ไม่ยักรู้มีไอ้พวกนี้เฝ้าอยู่ด้วย ทางเดียวที่จะเข้าไปก็คงต้องจัดการพวกมันก่อนสินะ

                        Mini boss - Oillepheist Bull 

               Clive - พระเจ้า ...ก็คุ้มอยู่นะ มันสวยมากเลย 

Joshua - คิดว่าจิลเธอจะชอบมั๊ย?
Clive - ชอบหรอ? เธอรักมันเลยล่ะ เอาล่ะกลับกันเถอะ 

 

Hideaway

 

Joshua - งานของผมจบแล้ว ผมไปพักผ่อนดีกว่า ที่เหลือก็อยู่ที่พี่แล้วล่ะ มีแต่พี่กับท้องฟ้าสดใสแล้ว พี่คงไม่อยากได้พายุฝนฟ้าคะนองในตอนนี้ใช่ป่ะล่ะ?

Clive - เอ่อ จิล คือ ชั้นมีอะไรบางอย่างจะให้เธอดูด้วยนะ 
Jill - อะไรหรอ? ที่ไหนล่ะ?
Clive - ไม่ใช่ที่นี่หรอก ชั้นรู้ว่ามันดูกะทันหันไปหน่อย แต่ เอ่อ ...เธอกำลังอยากจะไปที่ Oriflamme อยู่พอดีไม่ใช่หรอ? มาเถอะ เดี๋ยวชั้นพาไป

 

Northeach > Royal Meadows

 

Jill - โห ... มันช่าง เยอะจัง เนี่ยหรอที่จะให้ชั้นมาดูน่ะ?  เล่นเอาพูดอะไรไม่ออกเลยนะเนี่ย ...

Clive - ไม่ต้องพูดอะไรหรอก แค่มีรอยยิ้มบนหน้าเธอก็พอแล้ว เราเป็นห่วงเธอมากนะ ทั้งชั้นแล้วก็โจชัวร์ จำตอนที่เรามาที่ Mann’s Hill ได้มั๊ย?
Jill - จะลืมได้ยังไงล่ะ นายเห็นชั้นร้องไห้ก็เลยคิดว่าการลองพาไปที่อื่นอาจจะทำให้ชั้นดีขึ้น แต่สุดท้ายชั้นก็ไอหนักมากแถมโดนแม่ด่าด้วย แต่ชั้นก็รู้สึกดีมากๆเลยนะ 
Clive - ก็ต้องขอโทษด้วยนะที่ทำให้ต้องโดนแม่ว่า ชั้นก็ไม่รู้ว่าจะพาเธอไปเจออะไร แต่ชั้นทนไม่ได้ที่ต้องเห็นเธอเป็นแบบนั้น

Jill - ก่อนที่เราจะจากที่นั่นมา แม่บ้านของชั้นเล่าให้ฟังว่า ได้ยินแม่พูดเรื่องการแต่งงานของชั้นกับหญิงสูงศักดิ์คนนึงในศาล พวกเขากำลังถกเถียงกันว่าเหมาะสมมั๊ยที่จะแต่งงานกับชั้นแทนที่จะช่วยชั้น ไม่มีใครถามชั้นด้วยซ้ำว่าชั้นต้องการมั๊ย ชั้นรู้สึกว่าชั้นไม่มีความหมายกับพวกเขา เป็นแค่เบี้ยตัวนึง ชั้นรู้สึกเหมือนติดกับดัก และโดดเดี่ยวมาก

Clive - ชั้นไม่เคยรู้มาก่อนเลย ...
Jill - แต่ชั้นไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว เพราะนายอยู่ที่นั่น นายจับมือชั้นแล้ววิ่งไปที่ต้นโอ๊คนั่นด้วยกัน และชั้นก็รู้ว่า ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ชั้นก็จะไม่เป็นอะไร ชั้นไม่เคยลืมความรู้สึกตอนนั้นเลยนะ

Jill - ก่อนที่เราจะทำค่ายแตกตื่นในตอนเช้าหลังพายุ นายรู้มั๊ยว่าชั้นทำอะไร?
Clive - ไม่รู้ ...ทำอะไรหรอ?

Jill - ชั้นหนีพี่เลี้ยงของชั้นแล้วออกไปปีนเขา และบนนั้นชั้นก็ได้เห็น ทะเลของกลีบดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานรับแสงแดด แล้วชั้นก็คิดได้ว่า ไม่ว่าค่ำคืนจะเลวร้ายแค่ไหน รุ่งเช้าก็ยังมาเสมอ

 Jill -...นั่นหมายถึงนาย นั่นคือนายที่มาหาชั้นเสมอ และนายก็ทำแบบนั้นตลอดมา 

Clive - แล้วเธอจะเจอเราที่ไหน ..ตอนเรื่องนี้จบลง?
Jill - ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน ..อาจจะไม่ใช่ที่นี่ ไม่รู้สิ ชั้นว่าชั้นโตเกินกว่าที่ Twin แล้ว หลังจากที่เราผ่านอะไรมามากมาย อณาจักรก็ดูเล็กกว่าเดิมเยอะเลย ชั้นอยากได้พื้นที่เพิ่มสำหรับการกางปีกของชั้น

Clive - เธอจะได้ทำแบบนั้นแน่ ...เธอจะได้ทำแบบนั้นแน่ และชั้นก็จะไม่ขัดขวางด้วย เพราะอยากดูสิ่งที่เธอทำ 

 

Jill - ชั้นทำมาลัยไม่ค่อยเก่งหรอกนะ แต่อยากทำ 
Clive - ชั้นจะเก็บมันไว้อย่างดีเลยล่ะ 
Jill - ขอบคุณมากนะไคลฟ์ สำหรับสิ่งนี้ ดอกไม้พวกนี้ และทุกๆอย่างเลย มันคือสิ่งที่ชั้นต้องการอย่างแท้จริง

                      Jill - นายคือสิ่งมีค่าสำหรับชั้นนะ 

 

Jill - ชั้นว่าเราควรกลับกันได้แล้วนะ กลัวคนอื่นจะสงสัยว่าเราหายไปไหน 
Clive - อืมม เธอพูดถูก เรามีอะไรอีกมากที่ต้องทำ 
Jill - และเราจะทำมันด้วยกัน 

เมื่อจบภารกิจนี้ Jill จะเข้าร่วมในปาร์ตี้ไปตลอดจนกว่าจะเข้าไปยัง Origin

 

    Snow Daisy Garland 

มงกฎดอกไม้ที่จิลทำมันดัวยมือตัวเองจากดอกไม้ที่เก็บจากชายฝั่งของอ่าว Oillepheist เพื่อจุดประกายความทรงจำในวันเยาว์ให้มากขึ้นและพูดถึงเรื่องราวของความรักแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน 

 

                            🚨  Alliant Reports SideQuest

📗SideQuest: Under New Management II ที่ Northreach 

📗SideQuest: Lines in the Sand II ที่ Dalimil Inn

📗SideQuest: Duty Undying II ที่ Tabor 

 

              📗  SideQuest: Under New Management II 

 

 

⟴Objective > เดินทางไปที่ Northreach

 

Isabelle - พอมีเวลาซักครู่มั๊ยไคลฟ์?
Clive - มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?
Isabelle - เรื่องดยุคน่สิ ตอนนี้เขาควบคุมกองทหารรักษาการณ์ทั้งหมดแล้วให้พวกชายฉกรรจ์ทุกคนเข้าไปทำงานในป้อม ในเมืองจึงไม่มีการระวังปกป้องอะไรเลย ทำให้ Philippe ต้องรับหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ชาวเมืองคนเดียว แม้ลูกๆของเขาจะพยายามช่วยบ้างแต่ยังร่างกายเขาก็ต้องการพักผ่อน ชั้นจะขอให้คุณช่วยแบ่งเบาภาระเขาหน่อยได้มั๊ยเพื่อให้ชาวเมือง Northreach จะได้นอนตาหลับบ้าง ซักคืนสองคืนก็ยังดี 
Clive - ได้เลยถ้าคุณต้องการ 
Isabelle - ขอบคุณมากไคลฟ์ ชั้นจะทำยังไงนะถ้าไม่มีคุณ? Philippe บอกชั้นว่าเขามีพวกผู้ชายประจำการอยู่ที่ ....

Sabine - โทษนะ ชั้นจะหานายหญิงผู้ดูและสถานประกอบการนี่ได้ที่ไหน?
Isabelle - ชั้นนี่แหละคุณผู้หญิง แล้วชั้นกำลังพูดอยู่กับใครหรอ?
Sabine - ชั้นชื่อ Sabine และชั้นไม่ค่อยจะภูมิใจนักที่จะบอกว่าชั้นคือลูกสาวของดยุคแห่งออริเฟรม คนที่กำลังสร้างความวุ่นวายให้กับที่นี่ไม่มากก็น้อย ชั้นเลยอยากมาคุยกับคุณเพื่อที่เราจะหาทางออกกับปัญหานี้กัน
Isabelle - ได้สิ ...ต้องขอโทษด้วยนะไคลฟ์ ขอเวลาแปบนึง
Clive - ไม่เป็นไร ผมรอได้
Isabelle - ขอบคุณนะ ...เอาล่ะ ว่ามา 
Sabine - ก็อย่างที่คุณรู้ พ่อของชั้นเขาเป็นคนเอาแต่ใจและเจ้าเล่ห์มาก ซึ่งชั้นขอคัดค้านทุกการกระทำของเขาต่อเมืองนี้ ซึ่งชั้นต้องขอบคุณคุณมากสำหรับการโต้เถียงและคัดค้านแผนการที่ไร้ซึ่งเหตุผลของพ่อชั้น และเขาต้องรับผลที่ตามมาจากการกระทำของเขา
Isabelle - แล้วใครล่ะที่ทำให้เขาต้องทำแบบนี้ ?
Sabine - ถามจริง? นี่ล้อกันเล่นใช่ป่ะ ชั้นเองและคนอื่นๆอีกหลายคนก็คิดเหมือนกัน คุณจะเอาด้วยมั๊ยล่ะ? นั่นจะทำให้การต่อสู้ของเรามีพลังมากขึ้น เพื่อที่จะได้ขับไล่พ่อของชั้นออกจากที่นี่ตลอดไป !!
Isabelle - เรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้จะเอากันถึงตายเลยหรอ?
Sabine - การกระทำของเขานั้นรายแรงมากนะ เว้นแต่คุณพอใจที่ได้เห็นประชาชนของคุณถูกกดขี่และเมืองก็ถูกยึด? พ่อชั้นบอกเสมอว่า ประชาชนมีไว้รับใช้จักรวรรดิ์เท่านั้น และพวกเขาควรถูกบังคับให้สูญเสียทุกอย่างเพื่อให้อณาจักรได้รับการฟื้นฟู ซึ่งเขาคิดผิด !! ไม่ใช่ ประชาชนต้องรับใช้จักรวรรดิ์ แต่ จักรวรรดิต้องรับใช้ประชาชนต่างหาก 

Sabine - เฮ้อออ ..เขาก็เป็นแบบนี้เสมอแหละ ...ดูถูกความคิดใครก็ตามที่เห็นต่างจากเขา และเขาจะไม่ได้รับอณุญาติให้กดขี่ใครอีกแล้ว เราจะต้องสู้กับเขาด้วยทั้งหมดที่ทำได้ !!

Isabelle - สู้กับเขาเนี่ยนะ?  นั่นไม่ใช่วัตถุประสงค์ในการระงับความตึงเครียดที่เกิดขึ้นที่ Northreach ในแบบของชั้น นั่นมันเป็นการเพิ่มความตึงเครียดมากกว่า ด้วยความเคารพ คุณผู้หญิง แต่โอกาสเดียวของเราที่จะกอบกู้เมืองนี้คือร่วมแรงร่วมใจกัน นั่นรวมถึงพ่อของคุณและผู้ติดตามเขาด้วย ชั้นเข้าใจกับความคับแค้นใจของคุณ แต่ชั้นก็มั่นใจว่าถ้าสู้กันเขาต้องชนะแน่นอน 
Sabine - คุณมันก็แต่ความหวังล้มๆแล้งๆ ชั้นบอกเลย และตอนนี้ชั้นเห็นจิตใจของคุณแล้ว ถ้างั้นชั้นไม่รบกวนดีกว่า นี่ถือว่าชั้นพยายามสุภาพกับคุณแบบที่คุณสุภาพกับชั้นแล้วนะ โชคดีก็แล้วกัน !!

Clive - นางเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวดีจริงๆเลยว่ามั๊ย?
Isabelle -เห็นด้วย แต่ไอ้ความเด็ดเดี่ยวของนางจะทำให้ดยุคมีแต่แข็งกร้าวขึ้นมากกว่า ซึ่งอาจจะเพียงพอปิดโอกาสสำหรับเมืองนี้ไปตลอด โดยที่สุดท้ายแล้วเธอก็จะไม่แคร์กับสิ่งที่เกิดขึ้นหรอก นี่มันแค่ปัญหาของเธอกับพ่อก็แค่นั้น
Clive - มันเป็นเรื่องของครอบครัวสินะ ...

Isabelle - อ่อ โทษที เราคุยถึงไหนแล้วนะ?  อ่อ ใช้ ชั้นกำลังจะบอกคุณเรื่อง แผนในการสร้างหอสังเกตการณ์ของ Philippe ซึ่งชั้นว่าคุณไปฟังจากปากเขาเองเลยดีกว่า ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ที่ตลาดหน้าเมือง ลองตามหาดูนะ ...น่าเสียดายที่ชั้นลุยด้วยไม่ไหว แต่ชั้นก็อยากให้คุณลุยด้วยกันมากๆ 

Sabine - ได้โปรด ชั้นขอร้องคุณนะ!! ถ้าคุณเป็นลูกหลานของ
Northreach จริงๆคุณต้องสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิดของคุณสิ !!
Philippe - ซึ่งตอนนี้ผมก็กำลังทำอยูนะคุณผู้หญิง หรืออย่างน้อยก็กำลังพยายาม ในดินแดนที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดแบบนี้ต้องมีใครซักคนคอยดูแล
Sabine - แม้กระทั่งศัตรูที่แท้จริงของคุณซ่อนตัวอยู่ในกองทหารรักษาการณ์เนี่ยนะ? ก็ได้ !! นายไม่ใช่ชายที่มีฝีมือคนเดียวใน Northreach ซะหน่อย !! ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะ !!!!!

Clive - ถูกนางไล่จนจนมุมเลยสินะ ?
Philippe - ผมแทบไม่ได้พูดอะไรเลยมากกว่านะ พ่อลูกพอกันเลยว่ามั๊ย?
Clive - เธอเข้าไปป่วนที่ The Veil โดยไม่มีใครเชิญด้วยนะ กะว่าจะไปชวน the Dane มาร่วมกับเธอปลุกปั่นคนในเมืองเพื่อลุกขึ้นสู้กับพ่อของเธอ 
Philippe - พนันได้เลยว่านางต้องทำได้แน่ เพราะความเป็นกุลสัตรีของนางเข้ากับผู้คนได้ดีมาก ฮ่าๆ ว่าแต่ คุณมาที่นี่ทำไมหรอ?
Clive - เพื่อนร่วมงานคุณบอกว่าคุณอาจต้องการความช่วยเหลือบ้าง
Philippe - คงจะเป็นเธอล่ะสินะ Isabelle เป็นคนบอกคุณล่ะสิ? ซึ่งก็จริง เราได้รับรายงานมาบ้าง รู้มั๊ยว่าเราพบอะไร?
Clive - พวกมันกลับมาอีกแล้วสินะ
Philippe - ทั้งหมดเลยด้วย เรายังยืนยันอะไรไม่ได้ แต่ถ้าคุณจะช่วยไปเช็คดูให้หน่อยก็คงจะดีมากๆ
Clive - ได้สิ ที่ไหน?
Philippe - มีการพบเห็นล่าสุดที่ Greagor’s weep คุณรู้จักมั๊ย?
Clive - รู้จัก เดี๋ยวผมไปดูให้ก็แล้วกัน
Philippe - ขอบคุณมากไคลฟ์ ส่วนผมจะไปดูอีกจุดที่ได้รับรายงานมาเหมือนกัน ไว้มาเจอกันที่นี่ก็แล้วกัน

Clive - บ้าเอ้ยย รายงานเป็นความจริง มีพวกมันอยู่จริงๆด้วย ต้องรีบจัดการก่อนที่พวกมันจะเข้าไปที่เมือง !!

Philippe - ไคลฟ์ นายเป็นอะไรมั๊ย?
Clive - ผมไม่เป็นไร แต่รายงานไม่ได้หลอก พวก thralls มันกลับมาจริงๆด้วย ชั้นจัดการมันบางส่วนไปแล้ว 
Philippe - ผมว่ามันต้องมีอะไรแน่เลย ครั้งที่แล้วพวกมันบุกเข้ามาทางเหนือ แต่คราวนี้มันมาทางใต้ เราป้องกันการโจมตีฝั่งเดียวยังพอได้ แต่นี่มันมาสองฝั่งเลย
Clive - คุณมีทีมเฝ้าระวังทางเหนือรึเปล่า?
Philippe - มีนิดหน่อย แต่ผมไปดูเองให้แน่ใจเลยชัวร์กว่า ส่วนคุณกลับไปที่ Northreach ก่อน ผมอยากให้คุณช่วยระวังป้องกันที่นั่นเผื่อมันบุกมาอีกฝั่งตอนผมไม่อยู่ ยิ่งตอนนี้มียัยนั่นมาป่วนด้วย แถมยังปลุกปั่นให้คนรู้สึกไม่ดีกับพ่อของเธอ ถ้าเธอทำให้พวกชาวบ้านบุกเข้าไปในป้อมของทหารจะอันตรายมากๆ 
Clive - เรื่องนี้สินะคือสิ่งที่ The Dame กลัวว่ามันจะเกิดขึ้น ผมจะลองระงับความตึงเครียดที่เกิดขึ้นดู คุณก็ระวังตัวด้วยล่ะ 

 

Sabine - นี่พ่อไม่เห็นหรอ?? ผู้คนใน Northreach ให้จนไม่มีอะไรเหลือแล้ว มีแต่ไอ้โง่เท่านั้นที่ร้องขออะไรมากมายแบบนั้น !!

ดยุคแห่งออริเฟรม - ฟังพ่อนะ ซาบีน แล้วประชาชนของเราจะอยู่ที่ไหนถ้าไร้ซึ่งประเทศห๊ะ? จักรวรรดิคือดาบและโล่ของพวกเขา ที่จะทำให้พวกเขาอยู่ได้โดยปราศากความกลัว 

 

ดยุคแห่งออริเฟรม - แต่ตอนนี้จักรวรรดิกำลังเดินโซเซ ถ้าไม่มีดาบแล้วประชาชนจะสู้ด้วยอะไร? ถ้าไม่มีโล่แล้วอะไรจะปกป้องพวกเขา? ผู้ที่ปราศจากอาวุธจะต่อต้านศัตรูที่รุกคืบเข้ามาได้ยังไงกัน? แต่ไม่ต้องกลัว พวกเขายังมีหวัง กับโล่ใหม่ ดาบเล่มใหม่ และ อณาจักรใหม่ ของพวกเขา เรายังสามารถฟื้นฟู Sanbreque เหมือนอย่างที่เทพ Greagor ผู้ยิ่งใหญ่เคยสร้างมา 

Sabine - แต่ถ้าเกิดเราทำได้ล่ะพ่อ ? และที่สำคัญ เราไม่ต้องการอะไรก็ตามที่ถูกสร้างขึ้นมาบนหลังหักๆของประชาชน!!

Isabelle - ได้โปรด อย่ามาทะเลาะกันกลางถนนแบบนี้เลย ก็เห็นอยู่มันไม่มีอะไรดีขึ้น การต่อสู้ของเราไม่ควรเกิดขึ้นกับพวกเรากันเอง แต่ควรจะสู้กับภัยคุกคามของเราซึ่งตอนนี้มันเข้ามาใกล้จะถึงประตูบ้านของเราแล้ว ภัยคุกคามที่ดาบของคุณยังไม่ได้กำจัดให้เรา ท่านดยุค 

ดยุคแห่งออริเฟรม - เก็บลิ้นคุณไว้ทำอย่างอื่นเถอะคุณโสเภณี เธอคงจะปั่นหัวลูกสาวชั้นด้วยความคิดนอกคอกของเธอได้ แต่เธอไม่มีวันให้ชั้นด่างพร้อยได้หรอก!!

Isabelle - ความคิดนอกคอกหรอ? ลูกสาวคุณมีความคิดเป็นของเธอเองต่างหาก และคุณควรจะรู้ถ้าหากยอมรับฟังเธอบ้าง

Isabelle - และอย่างน้อยชั้นก็หวังว่าที่คุณทำทั้งหมดเป็นความตั้งใจของคุณเองไม่ใช่แค่เรื่องบาดหมางในครอบครัว เพราะ Northreach สมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านั้น 

ดยุคแห่งออริเฟรม - Northreach สมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่าเธอด้วย Carla

 

ดยุคแห่งออริเฟรม -  ฮ่าๆๆ ใช่ ชั้นรู้จักเธอดีว่าเธอเป็นใคร นางร่านแห่ง Twinside ที่เอากับ ผู้ถูกตีตรา 

Isabelle - หึงหรอ? ที่ผู้หญิงยอมเลือก Bearer มากกว่าชายผู้เคร่งศาสนา?

Philippe - ไคลฟ์แย่แล้ว !! ชั้นเจอพวก Thralls จำนวนมากกำลังเข้ามาทางใต้ เป็นร้อยๆเลย นับไม่ถ้วน 

ดยุคแห่งออริเฟรม - ไม่นะ เอ่อ งานสร้างป้อมเราเพิ่งจะเริ่มเอง ....งั้นเราจะถอยไปตั้งหลักที่ Caer Norvent แทนก็แล้วกัน !!! ไม่ได้ยินที่ชั้นสั่งหรอ !!!

Isabelle - แม้นี่จะเป็นแค่คำขอร้องจากใจจริงก็ตาม แต่ได้โปรดช่วยให้เราได้ยืนหยัดปกป้องบ้านเมืองของเราด้วย ปกป้องผู้คนที่เรารัก 

             Isabelle - ทุกคนต้องช่วยกัน เพื่อ Northreach !!!

        ชาวบ้าน - เฮ้ !!!! เพื่อ Northreach !! เพื่อ Northreach !!

Philippe - พวกนายได้ยิน the Dame แล้วนี่ มัวรออะไรกันอยู่วะ !! พลหอกไปทางเหนือ ส่วนพลธนูขึ้นไปบนหลังคา ด่วนเลย !!!

ดยุคแห่งออริเฟรม - แต่ ... เธอเป็นแค่ ...
Philippe - โสเภณี ใช่ครับ แต่เราจะตามเธอไปจนถึงประตูนรกเลยล่ะ 

Philippe - ตอนนี้ทหารทุกนายถูกมอบหมายหน้าที่ให้หมดแล้ว และดูเหมือนเขาจะยอมทำตามคำสั่งแต่โดยดีด้วย ผมจัดตำแหน่งเว้นระยะห่างเอาไว้รอบเมืองแบบพอเหมาะ ไม่ว่าศัตรูจะมาทางไหนรับรองไม่คลาดสายตาพวกเขาแน่นอน 
Isabelle - ขอบคุณมากค่ะ Philippe ประชาชนเองก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี ตอนนี้พวกหมอสมุนไพรก็ได้เตรียมการรักษาเพื่อซัพพอร์ทพวกทหารเรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้ามีใครบาดเจ็บส่งตัวมาที่ The Veil ได้เลย 
Philippe - รับทราบและขอบคุณมากครับคุณผู้หญิง

Clive - งั้นผมก็คงต้องทำหน้าที่ของผมเหมือนกัน คุณยังอยากลดจำนวนพวกศัตรูอยู่หรือเปล่าล่ะ? ทางใต้นั้นผมฝากไว้กับคุณก็แล้วกันนะ Philippe ที่ผมจัดการแถวริมทะเลสาบ เดาว่าน่าจะเป็นฝูงสุดท้ายแล้ว 
Philippe - ได้เลย เดี๋ยวผมส่งคนลงพื้นที่ไปก่อนเลยดีกว่าไม่อยากเจอเซอร์ไพรซ์อะไรอีก
Clive - ส่วนผมจะไปทางถนนมุ่งสู่ ออริเฟรม เพื่อจะดักตัดกำลังของพวกมันที่นั่น แม้จะจัดการให้หมดเลยไม่ได้แต่ลดจำนวนมันลงบ้างก็น่าจะดี 
Philippe - รับทราบ แล้วก็ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ

                Clive - อืมม ไม่ใช่น้อยๆเหมือนกันแฮะ 

     กำจัดฝูง thralls และ mini boss Encroaching Undertaker 

  Clive - คิดว่าคงจะหมดแล้วล่ะ ว่าแต่ทางอื่นจะเป็นยังไงบ้างนะ? รีบกลับเมืองกันดีกว่า มาเถอะ Targal !

Philippe - อ่าไคลฟ์ ดีใจที่นายปลอดภัยนะ เป็นไงบ้าง?
Clive - ถนนไปยังออริเฟรมเคลียร์เรียบร้อย แล้วทางคุณเป็นไงบ้าง? 
Philippe - เราเจอพวกมันแถวๆริมทะเลสาบบ้าง ทหารบาดเจ็บนิดหน่อย  แต่ไม่มีปัญหาอะไร เพราะได้สาวๆจาก the veil ดูแลด้วยยาสนุนไพรอย่างดี 
Clive - ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะ 

Isabelle - ดูเหมือนเราจะรอดแล้ว อย่างน้อยๆก็ตอนนี้อ่ะนะ ต้องขอบคุณคุณทั้งสองคนมากๆที่ช่วยเรา 

ดยุคแห่งออริเฟรม - คุณทำถูกแล้ว และเป็นผมที่ผิดเอง กับทุกเรื่องเลย ผมคิดแค่ว่าวิธีเดียวที่จะทำให้ผู้คนเป็นหนึ่งเดียวกันคืออยู่ภายใต้เงาของจักรววรดิ์ แต่กลับไร้มือที่แข็งแกร่งที่ใช้ชี้นำ 

พวกเขาต่างก็กระจัดกระจายไปคนละทิศทางและถูกพัดพาไปตามกระแสของโชคชะตา แต่คุณ คุณรวมพวกเขาเป็นหนึ่งเดียวได้ โดยไม่ใช้กำลังบังคับหรือเวทย์มนต์วิเศษใดๆ แต่ทำด้วยการกระทำง่ายๆด้วยการรู้ถึงความรู้สึกของพวกเขา เพราะว่าคุณเองก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน 

 

Isabelle - เราต่างก็เหมือนกันนั่นแหละค่ะท่านดยุค แค่สายตาของท่านถูกรบกวนด้วยมุมมองที่สูงส่งของจักรวรรดิ์ แต่เรามองเรื่องต่างๆแบบใกล้ตัว
ดยุคแห่งออริเฟรม - คุณพูดถูก ....อีกแล้ว ลูกเองก็เช่นกันนะ Sabine ฝ่าบาทเคยพูดเสมอว่า Sabnreque จะไม่มีค่าอะไรเลยถ้าขาดพลเมืองของเธอ พ่อหลงลืมไปเอง และพ่อต้องขอโทษด้วยนะ 
Sabine - หนูเองก็ต้องขอโทษด้วยค่ะพ่อ ที่ไม่ควรทำอะไรที่เกินเลยไปถึงขนาดนี้ หนูแค่อยากให้พ่อเข้าใจว่าประชาชนเขารู้สึกอย่างไร แต่หนูดันใช้ความโกรธเป็นตัวชี้นำ เพราะมันทำให้หนูรู้สึกดี 
ดยุคแห่งออริเฟรม - อย่าโทษตัวเองเลยลูกพ่อ นั่นมันเป็นเพราะพ่อเองต่างหากที่น่าจะฟังลูกบ้าง ฟังทุกๆคนบ้าง

Isabelle - ท่านดยุค คุณผู้หญิง พวกคุณต่างก็มาที่นี่ด้วยจิตใจที่หวังดีอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ชั้นเชื่อว่าเราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูดเหมือนกัน เราต่างก็ต้องการความปลอดภัย ความเจริญรุ่งเรือง ไม่ใช่แค่ Northreach แต่ทั้งอณาจักร และการที่เราจะบรรลุเป้าหมายได้นั้น เราต้องร่วมมือกัน พวกคุณจะร่วมกับเราด้วยมั๊ยคะ?
ดยุคแห่งออริเฟรม - แน่นอน ชั้นเอาด้วยสิ
Sabine - ชั้นก็เอาด้วยค่ะ

Isabelle - ขอบคุณท่านดยุคและคุณผู้หญิงมากๆค่ะ เมื่อตกลงกันได้แล้วชั้นก็ขอตัวไปดูผู้บาดเจ็บที่ The Veil ก่อนนะคะ ยังมีพวกทหารที่ต้องการความช่วยเหลืออีกหลายคนเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ 

ดยุคแห่งออริเฟรม - จิตใจอย่างมาดาม Isabelle นั้นหายากยิ่ง แม้ในเวลาที่ยากลำบาก ชั้นก็ว่าควรจะเป็นผู้ชายอย่างชั้นที่จะต้องเป็นผู้นำอณาจักร แต่กลับเป็นผู้หญิงอย่างเธอ 
Sabine - พ่อพูดถูกค่ะ ถ้าหนูยอมฟังเธอแต่แรกเรื่องชั้นก็คงจะมีโอกาสที่จะทำอะไรที่ดีกว่านี้  
Philippe - ต้องขอโทษด้วยนะคุณผู้หญิงแต่ คุณยังสามารถทำได้อยู่นะ The Dame บอกว่า เราจะผลิกสถานการณ์ได้ก็ต่อเมื่อเราร่วมมือกัน และคุณเองก็ทำได้เหมือนกัน พวกคุณเป็นหนึ่งในพวกเราแล้วนะ 
Sabine - หนึ่งในพวกคุณหรอ?
ดยุคแห่งออริเฟรม -พูดได้ดีกัปตัน ให้วันนี้เป็นวันเริ่มต้นใหม่ ไม่ใช่แค่ Sanbreque แต่เป็นพวกเราทุกคน 

Clive - ก็นะ ... ตรงนี้คงจบลงด้วยดีแล้วล่ะ ชั้นว่าชั้นไปหา Isabelle ดีกว่าเผื่อเธอต้องการคนช่วยเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ

 

Clive - การรักษาคนบาดเจ็บเป็นยังไงบ้าง? ต้องการให้ผมช่วยยกเปลคนเจ็บก็บอกนะ
Isabelle - อ่า ไคลฟ์ วันนี้คุณช่วยมากพอแล้วล่ะ ขอบคุณนะ โอ้ ไม่สิ ชั้นควรต้องให้อะไรคุณซักอย่าง อย่างน้อยๆคุณก็ช่วยเมืองนี้เอาไว้ได้แล้ว อีกครั้งแล้ว 
Clive - บอกผมหน่อยสิ ถ้า Northreach ล่มสลายไปจริงๆ คุณจะทำไง คุณเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ ในอณาจักรนี้ยังไงก็หาบ้านใหม่ได้ไม่ยาก แต่คุณกลับที่จะยอมปักหลักสู้ตายที่นี่ เมืองนี้มันสำคัญมากสำหรับคุณงั้นหรอ?
Isabelle - เรื่องมันยาวน่ะ 
Clive - สำหรับคุณ มาดาม ผมมีเวลาเหลือเฟือเลยล่ะ 

Isabelle - ก็ได้ ... เมื่อนานมาแล้ว ตอนที่ชั้นยังอาศัยอยู่ที่ Crystalline Dominion ชั้นใช้ชื่อว่า Carla เป็นโสเภณีของพวกขุนนาง ชั้นเป็นที่ต้องการอย่างมากขนาดที่พวกชนชั้นสูงยอมสละเวลาเพื่อชั้นได้ แต่แล้ว วันแห่งความสุขแบบนั้นไม่ได้คงอยู่ตลอดไป

Isabelle - เพราะความไร้เดียงสาของชั้น ...ชั้นตกหลุมรัก Bearer คนนึงเข้า เขาเป็นการ์ดของเจ้านายชั้น ชายที่เป็นสุภาพบุรุษและอ่อนโยนที่สุดที่ชั้นเคยรู้จัก และหลังจากทุกคนรู้เรื่องของเรา เขาก็ถูกเฆี่ยนตีอยากหลักและกำลังจะถูกนำตัวไปไหนไม่รู้แบบที่ชั้นจะไม่ได้เจอเขาอีกเลย จากนั้น เราก็เลยหนี โดยไม่มีจุดหมายปลายทาง เราเร่ร่อนไร้จุดหมายและหวาดกลัวว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายของเรา 

 

 

Isabelle - จนเราได้มาเจอที่นี่ .. ที่ Northreach มีเพียงที่ The Veil ที่ยอมรับพวกเรา เลี้ยงดู ให้อาหาร เสื้อผ้าและรักษาอาการบาดเจ็บให้ แต่ถึงกระนั้นคนรักของชั้นก็ต้องจากไป เพราะอาการบาดเจ็บของเขาเกินเยียวยา เขาตายไม่นานหลังจากที่เรามาถึงที่นี่ แต่อย่างน้อยเราก็ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขก่อนที่เขาจะจากไป มันเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่สำหรับชั้น 

Isabelle -  แต่ความมีน้ำใจของเมืองนี้และประชาชนที่นี่ไม่หมดแค่นั้น เหล่าชายและหญิงที่ The Veil ช่วยให้ชั้นผ่านความเศร้าไปได้ แม้ว่าชั้นจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขา แต่เขาก็ปฎิบัติการชั้นเหมือนพี่น้อง และชั้นก็สาบานว่าจะทำแบบนั้นกับพวกเขาตลอดไป ชั้นจะตอบแทนน้ำใจที่ Northreach ให้กับชั้น ผ่าน the Veil 

Clive - ขอบคุณนะ Isabelle ที่เล่าให้ผมฟัง 
Isabelle - เอาจริงๆ คุณก็เหมือนเขามากๆนะ รู้มั๊ย? เพราะงั้นชั้นจึงรู้สึกอ่อนไหวกับคุณมากกว่าคนอื่น อย่าหยุดที่จะต่อสู้นะไคลฟ์ และชั้นก็ไม่หยุดเหมือนกัน ชั้นรู้ว่าการรักษา Northreach ไว้มันไม่ง่าย แต่ความพยายามของเราจะเป็นรางวัลให้เราในซักวันแน่นอน ไม่เชื่อก็ดูเราตอนนี้สิ ประชาชน ทหาร ดยุคแห่งออริเฟรมกับลูกสาวของเขา ร่วมกันปกป้องเมืองที่เราเรียกว่า บ้าน แล้วคุณล่ะ ยังจะสนับสนุนเราต่อไปมั๊ย?
Clive - ยินดีเสมอครับ

 

Veil signboard 

สัญลักษณ์ของ The Veil ซึ่งเป็นสถานค้าประเวณีที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดใน Northreach เมืองที่เป็นเสมือนประตูสู่เมืองหลวง Oriflamme ที่มีเงินหมุนเวียนเข้ามามากมายภายใต้  the great wall แต่อย่างไรก็ตาม อิซาเบล ในฐานะเจ้าของ The Veil รู้ดีที่สุดว่า ที่นี่เป็นมากกว่า  สถานค้าประเวณี มันเป็นสถานที่ปลอดภัยท่ามกลางพายุ เมืองที่โอบรับเธอและชายที่เธอรักในขณะที่คนทั้งโลกรังเกียจ

 

หลังจบ Under New Management II เมื่อสำรวจดู Hunt Board จะมีการอัพเดทเพิ่มเติม Notorious Marks ตัวใหม่ 2 ตัว 

👹Notorious Marks ตัวที่ 30: Knight of the Splendent Heart 

♛RANK A

📌พิกัด - ใกล้เสา obelisk ที่ Royal Meadows (ตำแหน่งตามรูป) 

👹 Notorious Marks ตัวที่ 31: The Grim Reaper

♛RANK A

📌พิกัด - แหลมทางตะวันตกของ Royal Meadows(ตำแหน่งตามรูป) 

 

                         📗 SideQuest: Lines in the Sand II 

 



  ⟴Objective >  เดินทางไปที่ Dalimil Inn

 

L’ubor - อ้าว ไคลฟ์ ไง แวะมาช่วยผมแพ็คกระเป๋างั้นหรอ? ขอบคุณ แต่ผมเอาของไปไม่มากหรอกแล้วก็เก็บของเสร็จแล้วด้วย 
Clive - สรุปว่าคุณตัดสินใจจะไปจากที่นี่จริงๆเลยใช่มั๊ย?
L’ubor - แน่นอน แต่ก่อนผมจะไปผมมีเรื่องจะรบกวนคุณซักเรื่องนึง ไม่สิ อันที่จริงต้องสองเรื่องมากกว่า 
Clive - ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ก็ยินดีเลยล่ะ 

L’ubor - ก็เรื่องเด็กสองคนนั่น ยังไงผมก็ไม่ยอมให้พวกเขามามีส่วนร่วมในความอับอายของผมหรอก ซึ่งถ้าผมไปแล้ว คงจะไม่มีใครอยากดูแลเขาแน่ๆ แล้วผมก็ไม่สะดวกจะเอาพวกเขาไปด้วยเหมือนกัน ซึ่งก็มีสถานที่เดียวที่เขาจะปลอดภัยและเป็นที่ที่เต็มไปด้วยความรัก ก็ The hideaway ของคุณไง 
Clive - แน่นอนได้สิ เด็กจะได้รับมากกว่าการต้อนรับเสียอีก 
L’ubor - ขอบคุณมากนะไคลฟ์

Ferda - อ่า L’ubor นึกว่าคุณไปซะแล้วว !!
L’ubor - เป็นอะไรรึเปล่า Ferda ดูนายหน้าซีดๆนะ 

Ferda - มี aether จำนวนมากท่วมมาจาก Velkroy ครับ จำนวนมากเลยล่ะ ที่น่ากลัวกว่านั้นคือแค้มป์ของพวกโจรที่ตั้งอยู่ที่นั่นก็โดน aether เข้าไปเต็มๆ และพวกมันกำลังเครื่องไหว แน่นอนพวกมันกำลังมุ่งมาทางนี้ด้วยครับ!!

L’ubor - ว่าไงนะ !!? ถ้าเป็นพวกโจรธรรมดาก็ยังพอว่าแต่นี้โจรที่เป็น Akashic ด้วยสิ การ์ดของเมืองไม่มีทางรับมือมันได้แน่นอน !! เราต้องรีบอพยพคนด่วนเลย รอช้าไม่ได้แล้ว !!  Ferda ไปรวบรวมคนทั้งหมดมา!! Akashic จะบุกมาเมื่อไหร่ก็ได้ เราต้องรีบเตรียมอพยพชาวบ้านด่วนเลย !! เร็วสิ มัวรออะไรอยู่ !!
Ferda - คับๆๆ นายท่าน !!

L’ubor - ไคลฟ์ เราคงต้องเปลี่ยนแผนแล้ว เอาเด็กๆอยู่กับผมก่อน คุณช่วยไปบอก Konrad กับ Natalie ถึงเรื่องนี้หน่อย บอกให้พวกเขาเตรียมอพยพชาวบ้านเลย !!
Clive - เข้าใจแล้ว 
L’ubor - ส่วนผมจะพยายามไปเตือนคนอื่นๆเท่าที่จะทำได้ ..หวังว่าผมคงจะโชคดีนะ 

Konrad - อ่า คุณนั่นเอง 
Natalie - คุณต้องการอะไรหรอ ลอร์ด Underhill ?
Clive - ผมมีข้อความสำคัญมาบอก ตอนนี้เกิดมี aether ท่วมมาทาง Velkroy ตรงที่เป็นที่ตั้งแค้มป์ของพวกโจร แน่นอนว่าพวกมันคงกลายเป็น Akashic ไปหมดแล้ว และมันกำลังจะมุ่งหน้ามาที่นี่ไม่ช้าก็เร็ว เราต้องเริ่มทำการเตรียมอพยพคนตอนนี้เลย 

Natalie - โอ้ งั้นหรอ? งั้นขอเดานะว่าคุณได้ข่าวนี้มาจากใคร? 
Konrad - L’ubor สินะ? ชายคนนั้นกำลังพ่นพิษอยู่ที่จตุรัสของเมืองในขณะที่เรากำลังคุยกันหรอเนี่ย? คุณอย่าไปเชื่อมันเลยครับ ท่านลอร์ด พวกเรารู้ดี 

Clive - ทำไมเขาต้องมาโกหกเรื่องแบบนี้ด้วย?
Konrad - คงอยากจะแก้แค้นมั้งครับ ถ้าเขาไม่ถูกเปิดโปงป่านนี้เขาคงเป็นนายกของเมืองนี้ไปแล้ว เขาอาจรู้สึกเสียใจที่ถูกปฎิเสธน่ะสิ!!
Natalie -ลอร์ด Underhill ชั้นต้องขอโทษด้วย แต่ก็รู้ๆกันอยู่ว่าคุณอยู่ข้างเขา L’ubor เป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เราจะไม่เชื่อเขาค่ะ

Clive - คุณไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ แต่เพื่อความปลอดภัยของประชาชนของคุณเอง ถามตัวเองหน่อยว่ามันมีโอกาสมั๊ยที่เรื่องนี้มันจะเป็นความจริง!!
Konrad - แต่มันไม่จริงไง คุณเชื่อผมเถอะน่า !! เอาล่ะ คุณไปได้แล้ว
Clive - พวกนายกำลังทำพลาดอย่างมากเลยล่ะ ..

Clive - Ferda ผมไปบอก Konrad กับ Natalie เรื่อง Akashic แล้วแต่พวกเขาไม่ฟังเลย พวกเขาคิดว่าคำพูดของ L’ubor ไม่อาจเชื่อถือได้ 
Ferda - ไอ้พวกโง่เอ้ยย !!
Clive - นั่นแปลว่าการ์ดของเมืองจะไม่พร้อมรับมือกับ Akashic แน่นอน แต่ผมจะทำเอง มีอะไรที่จะช่วยปกป้อง Dalimil ผมจะช่วยเอง บอกผมได้เลยนะ
Ferda - ซึ้งใจมากๆซิด 

Viktor - Cid !! Ferda !! ผมตามหาพวกคุณจนทั่วเลย 
Clive - Viktor ผมนึกว่าคุณไปแล้วซะอีก?
Viktor - ผมจะทิ้งเพื่อนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือได้ไงเล่า !!! และตอนนี้ L’ubor ก็กำลังต้องการให้ช่วยด่วนเลย ตามมา เร็วๆ!!!

L’ubor - พวกคุณต้องเชื่อผมนะ Akashic มันกำลังมาที่นี่ !!! พวกมันไม่กิน พวกมันไม่นอน พวกมันไม่เหนื่อย และพวกมันไม่สนด้วยว่าจะฆ่าใคร!!! 

L’ubor - มันไม่ใช่อะไรที่เราเคยเจอมาก่อนหน้านี้นะ พวกมันไม่มีการเจรจา ไม่มีความเมตตา !! เราอาจะช่วยกัยปกป้องเมืองเอาไว้ได้ครั้งนึงก็จริง แต่คราวนี้มันไม่เหมือนกันหรอกนะ !! ผมได้ขอร้องให้พวกคุณยกโทษให้ผมหรอก แต่ได้โปรด เชื่อผมเถอะ! ถ้าพวกคุณไม่หนี พวกคุณจะตาย พวกคุณจะตายห่ากันหมด !!!!

แม่ค้าสิ่งทอ - แกต้องการเอาเมืองนี้เป็นของตัวเองสินะ Bearer !?  
ชาวเมือง - ใช่ ถ้าไม่มีพวกเราอยู่ แกก็เอา Dalimil ไปครอบครองแน่นอน
ชาวเมือง - แกสิ หนีไป!! ไปสิ!!! ไป๊ !!!

ชาวเมือง - ไปซะไอ้ Bearer !!!!
ชาวเมือง - เออ ใช่ ไปให้พ้น เอาหินปาไล่มันไปเลยยย !!!

                L’ubor - ได้โปรด!! ฟังผมก่อนนนน อั๊กกก  !!

 

 

Clive - L’ubor !!!
Viktor - เดี๋ยวก่อนไคลฟ์ มีใครบางคนกำลังเข้ามา !!

        Drika - หยุดนะ !! พวกคุณกำลังทำเขาเจ็บ !!!

 

    Drika - โอ๊ยยยย !!!!!

    ชาวเมือง -  ..............

 

Drika - จำกันได้มั๊ยว่า L’ubor เคยทำอะไรให้พวกคุณบ้าง ห๊ะ?? เขาตามแก้ปัญหางี่เง่าๆให้พวกคุณ ปกป้องให้พวกคุณปลอดภัย!! พวกคุณก็รู้ดีว่าไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้เพื่อเมืองนี้ !!

Drika - ใครหรอที่เป็นคนลับดาบของคุณให้คมพร้อมใช้งานทุกวัน ห๊ะ Konrad!?

Drika - แล้วไอ้โต๊ะเก็บเงินของคุณ ใครเป็นคนซ่อมให้ ห๊ะ Natalie !??

Drika - ใครเป็นคนดูแลถนนในเมืองให้มันสะอาดเพื่อที่รองเท้าของคุณจะได้ไม่สกปรก ห๊ะ!!? 


Ren - ใครกันที่ใช้เวลาทั้งวันเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่า คนในเมืองจะใช้ชีวิตอย่างราบรื่น !!?  แล้วมีใครที่เคยพูดว่า ขอบคุณ มั๊ย? ไม่มีเลย !!!!!

Drika - แล้วเคยเห็น L’ubor บ่นซักคำมั๊ย???  เคยเห็นเขาหยุดยิ้มบ้างมั๊ย?

 

Rens - เขาทำให้เมืองนี้ดีขึ้น แต่พวกคุณทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ!

Drika - อย่าเข้ามานะ !!!!!
Konrad - L’ubor  ….เราฟังมามากพอแล้ว 
Drika,Rens - ไม่นะ อย่าเข้ามา !!!!
Konrad - เราจะไม่หนี ในฐานะหัวหน้ากองกำลังป้องกันเมืองเราจะไม่ทิ้งเมืองที่เรามีหน้าที่ปกป้อง

Natalie - และชั้นจะไม่ทิ้งร้านค้าที่ชั้นทำงานมาอยากหนักเพื่อกักตุนสินค้าไว้จนเต็มหรอก

                              L’ubor - เฮ้ออ ....

Konrad - แล้วก็ ช่วยบอกเราหน่อยว่าจะให้เราจัดการพวก Akashic ยังไง?
Natalie - ที่เราบอกจะไม่หนี เพราะจะยืนหยัดสู้กับมัน !

                         L’ubor - เอ่อ ....เอางั้นก็ได้ ...

  L’ubor - ถ้างั้นก็ดี เราต้องรวมพลังกันถ้ายังไม่อยากตายอ่ะนะ 

Ferda - เอาล่ะ ก่อนอื่น ผมจะอธิบายถึงสถานการณ์ให้ฟังก่อนก็แล้วกัน ตอนนี้มี aether ท่วมเข้ามาจำนวนมากที่หมู่บ้าน Ceratina ลึกเข้าไปใน Velkroy ที่นั่นถูกทิ้งร้างมาหลายปีแล้ว จนพวกโจรเข้ามาใช้ที่นั่นทำเป็นรังของพวกมัน และตอนนี้พวกมันได้กลายร่างเป็น Akashic หมดเรียบร้อยแล้ว หน่วยสอดแนมของเรารายงานว่าพวกมันกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ 
L’ubor - พวก Akashic มันเคลื่อนที่โดยไม่มีเหตุผลหรอก มันขับเคลื่อนด้วยความเกลียดชังและความโกรธแค้นเท่านั้น คาดเดาอะไรไม่ได้เลย ทันที่พวกมันมาถึงที่นี่ นี่จะเป็นการต่อสู้ที่หนักกว่าพวกโจรธรรมดาเยอะมาก 

L’ubor - ชั้นต้องการให้กองกำลังป้องกันเมืองปกป้องทางเข้าทิศเหนือของหมู่บ้าน ส่วนชั้นกับคนที่เหลือจะไปป้องกันทางทิศใต้ ทั้งสองกลุ่มจะต้องใช้ม้าเร็วในการกระจายข่าวสารข้อมูลเรื่องจำนวนของพวกมันทันทีที่พบเห็น Akashic มันเข้ามา จากนั้นเราจะรวมกันจัดการที่ตำแหน่งที่มีพวกมันมากที่สุดก่อน 
Konrad ชั้นพึ่งพาการสนับสนุนของกองกำลังป้องกันเมืองของนายได้ใช่มั๊ย?
Konrad - แน่นอน พวกเราพร้อมเสมอ !!
L’ubor - ชั้นจะปล่อยให้หน้าที่การส่งสารและการประสานงานเป็นหน้าที่ของนายนะ Viktor และคุณสามารถสั่งคนของเราได้ตามใจชอบเลย , Ferda นายก็เหมือน โอเคนะ?
Viktor - เข้าใจแล้วครับ
Ferda - แล้วแต่นายท่านเลยครับ 

L’ubor - Natalie ผมอยากให้คุณและคนของคุณพาพวกชาวบ้านไปซ่อนตัวในโรงอาบน้ำอย่างแน่นหนาที่สุด บอกพวกพ่อค้าด้วยว่าอย่าเพิ่งห่วงสินค้ามาก ตอนนี้เน้นเอาชีวิตรอดก่อน ตราบใดที่เรายังไม่ตายของพวกนั้นหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าใครยังมีข้อสงสัยหรือไม่เชื่อใจบอกไปว่า Briar’s Kiss จะชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด
Natalie - เข้าใจแล้วค่ะ ชั้นจะบอกพวกเขาเอง 

Clive - แล้วผมล่ะอยู่ตรงไหนของแผนคุณ ?
L’ubor - สำหรับคุณน่ะหรอ จะมีที่ไหนเหมาะเท่ากับที่ที่อันตรายที่สุดน่ะสิ ผมอยากจะให้คุณเข้าไปที่ต้นตอของ Akashic เลย ที่หมู่บ้าน Ceratina พวก Akashic ส่วนใหญ่น่าจะยังอยู่ที่นั่น Dalimil จะยังไม่ปลอดภัยถ้าเราไม่ถอนรากถอนโคนมันให้หมด ซึ่งชั้นว่าไอ้วัชพืชพวกนั้นต้องให้คนพิเศษในการถากถางมัน  
Clive - งั้นก็ถือว่าผมเป็นผู้โชคดีน่ะสิ
L’ubor - แน่นอนมันต้องเป็นคุณอยู่แล้ว 

L’ubor - เอาล่ะ! ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วนะว่าต้องทำอะไรบ้าง ที่เหลือก็แค่ลงมือทำ …. เพื่อ Dalimil !!!

⟴Objective > เดินทางไปที่หมู่บ้าน Ceratina ทางเหนือของทะเลทราย Velkroy 

  กำจัดฝูง Akashic Bandits และ mini boss Akashic Gentleman  

Clive - น่าจะหมดทั้งแก็งค์แล้วนะ รีบกลับไปที่ Dalimil ดีกว่า ดูสิว่าคนอื่นจะเป็นยังไงบ้าง?

    🔳Dalimil

Viktor - ตอนนี้ Akashic ทุกตัวที่เราเห็น ถูกกำจัดหมดแล้วครับ 
L’ubor - หมดทุกตัวสำหรับที่นี่อ่ะใช่ 
Ferda - L’ubor .. Cid กลับมาแล้วครับ 

L’ubor - ไง ไคลฟ์ มีข่าวดีจาก Ceratina บ้างป่ะ?
Clive - เรียบร้อย ถอนรากถอนโคนหมดแล้ว 
L’ubor - ผมรู้ว่าคุณจะไม่ทำให้เราผิดหวังแน่นอน 
Ferda - ขอบคุณมากนายท่าน 
L’ubor - เอาล่ะ ทุกคน ฝูงตัวประหลาดได้ถูกโต้กลับ Akashic ที่เข้ามาที่เมืองเราถูกกำจัดหมดแล้ว เราไม่จำเป็นต้องหนีไปไหนอีกแล้ว ซึ่งต้องขอบคุณทุกคนและ ไคลฟ์ มากๆ  ชัยชนะเป็นของพวกเรา !!!!
Komrad - เราทำได้แล้วโว้ยยยยย !!!
Natalie - ในที่สุดเราก็ปกป้อง Dalimil เอาไว้จนได้ 

Komrad - L’ubor … ที่ผ่านมา ผมต้องขอโทษด้วยนะ หลังจากที่คุณช่วยเมืองนี้ไว้ถึงสองครั้ง เราไม่ควรตั้งข้อสงสัยกับคุณเลย
Natalie - แต่เราก็ดันทำ ต้องขอโทษจากใจจริงเลยค่ะ หวังว่าคุณคงจะยกโทษให้พวกเราด้วยนะ 
Komrad - พวกเราต้องการคุณ L’ubor ... Dalimil ต้องการคุณ ถ้าคุณสนใจตำแหน่งนายกของเมืองอยู่ เราก็พร้อมสนับสนุนคุณอย่างเต็มที่

L’ubor - คุณจำไม่ได้หรอว่าผมเป็น Bearer น่ะ ??
Komrad - เรารู้ แต่นั่นมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ ยังไงคุณก็ยังเป็นคุณคนเดิม เราต่างหากที่คิดผิดกับชายที่ช่วย Dalimil เอาไว้ถึงสองครั้ง 
L’ubor - อืมม เข้าใจแล้ว แต่ถ้าผมจะรับข้อเสนอ พวกคุณจะต้องยอมรับเงื่อนไขของผมสองข้อก่อน 
Komrad - บอกมาได้เลยครับ

L’ubor - ข้อแรก คุณทั้งสองคนจะต้องทำทุกอย่างตามอำนาจของคนของคุณตามคำสั่งผม ถ้ากองกำลังป้องกันเมืองกับสมาคมพ่อค้าแม่ค้าของเมืองไม่ยอมรับความเป็นผู้นำของชั้น มันก็คงพังแต่เริ่มต้นแล้ว ความสามัคคีเป็นกุญแจสำคัญในการปกป้องเมืองนี้ เมื่อเกิดเหตุร้าย การเรียกรวมพลแบบเร่งด่วนจริงจำเป็นมาก และถ้าอำนาจนั้น ชั้นสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เราก็จะสามารถทำมันได้ แบบวันนี้ 

Komrad - แน่นอนครับ ผมยอมรับ

L’ubor - ข้อสอง การกระทำทารุณกรรมพวก Bearers ในเมืองนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก Bearers ทุกคนที่อยู่ภายใต้กำแพงเมืองเราจะต้องได้รับสิทธิ์เท่ากับประชาชนทั่วไปทุกอย่าง พวกเขาจะไม่ถูกตัดสินว่าเป็นอะไร แต่เป็นใครมากกว่า

Natalie - และเราก็มองข้ามเรื่องนี้ไปจนเกือบจะสูญเสียทุกอย่าง
Komrad - เรายอมรับทุกข้อเสนอของคุณ เพียงให้คุณกลับมาทำงานเพื่อประโยชน์ของ Dalimil แบบที่เคยทำมาก็พอครับ 

L’ubor - อืมมม .... งั้นก็ตกลง ชั้นรับข้อเสนอของพวกนาย ถ้างั้น ตอนนี้ชั้นก็เป็นนายกแล้วสินะ ว่าแต่มีหมวกแบบพิเศษให้ด้วยรึเปล่าเนี่ย ?

 

L’ubor - วาสนาผู้ใดหนอจะได้ขนาดนี้ ....เฮ้อ อยู่ๆก็ได้เป็นนายก ทั้งที่ก่อนหน้าโดนไล่ออกจากเมืองอย่างกับหมูกับหมาแท้ๆ และตอนนี้เมืองนี้ก็มีผู้นำอย่างเป็นทางการแล้ว ...นี่ครับ สำหรับคุณที่ช่วยเรา 
Clive - แล้วพวกเด็กๆล่ะ?
L’ubor - เกรงว่าคุณคงไม่ต้องรับผิดชอบพวกเขาแทนผมแล้วล่ะ ชั้นยอมต้องเผชิญหน้ากับ Akashic อีกกลุ่มดีกว่าเห็นพวกเขาถูกเลี้ยงดูแบบนอกกฎหมายอ่ะนะ หยอกๆนะ จริงๆตอนนี้ที่นี่ปลอดภัยสำหรับพวกเขาแล้ว
Clive - ผมก็กะไว้แล้วล่ะว่าคุณจะทำแบบนี้ ไม่ใช่แค่เด็กๆหรอกนะที่ปลอดภัย แต่ทุกคนใน Dalimil ต่างหาก
L’ubor - ชั้นจะทำให้เต็มที่อ่ะนะ ที่คุณเสียแรงช่วยมากตลอดจะไม่เสียเปล่าแน่นอนซิด 



   Briar’s Kiss signboard 

สัญลักษณ์ของ Briar’s Kiss โรงตีเหล็กที่ดีที่สุดใน Dalimil ดำเนินงานโดนปรมจารย์ช่างตีเหล็กหนุ่มที่แสนเจ้าเลห์และแก่แดดนาม L’ubor ในฐานะผู้สืบทอดบทบาทของ Desert Hare จาก Ruzena Dalimil อดีตพัทธมิตรของ Cid คนก่อน และในฐานะ นายกรัฐมนตรีแห่งเมือง Dalimil

 

                           📗  SideQuest: Duty Undying II 

 

 

⟴Objective > เดินทางไปที่ Tabor

Cyril - นายท่าน พอจะมีเวลาสักครู่มั๊ยครับ 
Clive - มีอะไรหรอ Cyril ? 
Cyril - เมื่อไม่นานมานี้ พี่น้องของเราคนนึงออกเดินทางข้ามช่องแคบเพื่อตามหาข้อมูลใหม่ที่เกี่ยวกับการสืบสวนของพวกเรา ซึ่งผมได้ส่งนกสื่อสารติดตามไปนานแล้วแต่เราก็ไม่ได้รับการตอบกลับจากเขาเลยครับ 
Clive - เขาไปทำภารกิจขุดค้นซากโบราณสถานของ Fallen เหมือนปกติหรอ?

Cyril - ครั้งนี้ไม่ใช่ครับ ภารกิจของเขาคือติดตามศึกษาลัทธิที่เกิดใหม่ใน Ash เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเราเชื่อว่ามันมีอะไรบางอย่างที่เชื่อมโยงกับ Circle of Malius ศาสนาโบราณที่นับถือ Ultima เป็นพระเจ้า จากศรัทธาใหม่ที่เกิดขึ้นนี้เราหวังว่ามันจะมีข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อดั่งเดิมอยู่

Clive - นายก็เลยส่งพี่น้องของนายข้ามไปยังฝั่ง Ash ที่ตอนนี้เต็มไปด้วย Orcs กับ Akashic งั้นสินะ?
Cyril - มันค่อยข้างเสี่ยงมาก แต่ ใช่ครับ แต่คนที่เรามอบหมายภารกิจนี้ให้คือ the Third Chair ปรมจารย์แห่งการศาสตร์การต่อสู้และการเอาตัวรอดของเรา จนเขาขาดการติดต่อไป แต่เราก็ยังไม่ได้ส่งคนของเราคนอื่นไปตามเพราะกลัวจะหายไปอีก ซึ่งก็ตามที่ท่านบอก ฝั่ง Ash นั้นอันตรายมากและเต็มไปด้วย aether ที่เราไม่อาจเข้าถึง แต่ตามที่ท่านแนะนำผมไว้ การละทิ้งคนของเราให้เผชิญชะตากรรมเลวร้ายใดๆนั้นไม่ควรทำ ผมจึงอยากข้อร้องท่านให้ช่วยตามให้หน่อย …
Clive - ใช่ มันไม่ควรทำ .... แต่ฝั่ง Ash นั้นกว้างมาก พอจะระบุตำแหน่งให้เจาะจงกว่านี้หน่อยได้มั๊ย?
Cyril - ถ้าอ้างอิงจากนกสื่อสารตัวล่าสุดที่เขาตอบข้อความกลับมา เขาพูดถึงหมู่บ้านนึงที่คนที่นั่นรวมตัวตามความเชื่อของลัทธินี้ มันชื่อ หมู่บ้าน Mikkelburg ครับ ตั้งอยู่ทางใต้ของ Waloed ถ้าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับเขาก็น่าจะเป็นที่นั่น
Clive - ก็ได้ ผมจะลองหาดูเท่าที่จะทำได้นะ 
Cyril - ขอบคุณในความกรุณาครับนายท่าน ขอให้เพลิงแห่งนกไฟจะลุกโชนในใจของท่านด้วยเถิด ...

 

⟴Objective > เดินทางไปที่หมู่บ้าน Eistla ใน Waloed แล้วมุ่งหน้าลงใต้ตามเส้นทาง Halfcombe สู่หมู่บ้าน Mikkelburg

 

 🔳 หมู่บ้าน Mikkelburg

Clive - อย่างน้อยๆที่นี่ก็ยังปลอดภัยอยู่ ...แล้วนั่นทำบ้าอะไรกันน่ะ

หัวหน้าหมู่บ้าน - คุณเองก็มาตามเสียงเรียกเหมือนกันหรอ?

Clive - เสียงเรียก?

Clive - เอ่อ เปล่าครับ ผมมาตามหาคนๆนึงน่ะ พูดตามตรงผมเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเจอเขาที่นี่หรือเปล่าด้วยครับ และเอ่อ ขอโทษด้วยที่ต้องถาม คุณกำลังทำอะไรกันอยู่หรอครับ? แล้วคุณมาจากไหนกัน?
หัวหน้าหมู่บ้าน - ที่นี่บ้านเกิดผมเอง ส่วนคนพวกนั้นเขาตามเสียงเรียกมา 
Clive - เสียงเรียก เห็นคุณพูดหลายครั้งแล้ว ตกลงมันคืออะไรหรอครับ?

หัวหน้าหมู่บ้าน - พวกเขามาทำพิธีกรรมตามที่ราชา Barnabas เคยทรงแนะนำเอาไว้ หมู่บ้านนี้คือ แท่นบูชาของพวกเขา ที่ซึ่งพวกเขาจะโยนจิตวิญญาณตัวเองลงไปในนั้น เพื่อถวายตัว ให้กับองค์ราชา 

Clive -ถวายตัว ….

ชาวบ้าน - โอ้ฝ่าบาท จงชำระล้างบาปของปวงข้า ช่วยให้พวกเราได้เกิดใหม่ในอ้อมกอดที่เปี่ยมไปด้วยความรักของพระองค์ ช่วยปลดปล่อยเราจากอณาจักรนี้ด้วยเถิด 

Clive - พวกเขาต้องการความปลอดภัย ...เอ่อ โทษครับ คือเอาเป็นว่า พอจะมีคนต่างถิ่นที่เพิ่งเข้ามาที่นี่ เขาน่าจะสวมผ้าคลุมอยู่ ประมาณนั้น พอเห็นบ้างมั๊ย?
หัวหน้าหมู่บ้าน - ถ้าคุณหมายถึงนักเดินทางที่เพิ่งมาจากฝั่ง Storm เขาพักอยู่ที่บ้านของผมเอง ด้านในหมู่บ้านเลยครับ 
Clive - ขอบคุณครับ ถ้าไม่ว่าอะไรผมขอเข้าไปหาเขาหน่อยก็แล้วกัน

Clive - โทษครับ คุณใช่คนของ Undying หรือเปล่า?
the Third Chair - ใช่ครับ แล้วผมกำลังคุยอยู่กับใคร... เอ่อ นายท่านลอสฟิลด์ สินะครับ ถ้าผมจำไม่ผิด
Clive - ใช่ครับ คุณคงเป็น the Third Chair สินะ
the Third Chair - ใช่ครับ 
Clive - Cyril ห่วงความปลอดภัยของคุณเลยส่งให้ผมมาดูน่ะ 
the Third Chair - งั้นผมก็ต้องขอโทษด้วยครับ ผมไม่ตั้งใจจะสร้างปัญหาให้กับ Bearer ที่ Burning Quill หรือแม้แต่เจ้านายผม หรือแม้แต่นายท่านเลยครับ 

Clive - Cyril บอกว่าคุณไม่ติดต่อกลับไปเลย มีปัญหาอะไรหรอ?
the Third Chair - ผมมาที่นี่ก็เพื่อสืบสวนเกี่ยวกับลัทธิความเชื่อใหม่ที่เกิดขึ้นที่นี่ แต่เมื่อผมได้เรียนรู้จากพวกเขามากเท่าไหร่ ศรัทธาที่มีของตัวเองก็เริ่มน้อยลง คุณได้เห็นเขาสวดวิงวอนมั๊ย?

the Third Chair - พวกเขาอุทิศตนต่อเจ้านายของเขาแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน สวดวิงวอนทั้งวันทั้งคืน เพื่อกำจัดความชั่วร้ายในตัวพวกเขา เพื่อเกิดใหม่ภายใต้แสงของพระผู้ช่วยให้รอด ไม่ใช่เพื่อที่พวกเขาต้องการพ้นทุกข์แต่เพื่อจะได้รับใช้เจ้านายของเขาต่อไป รับใช้ด้วยสิ่งทั้งมวลที่พวกเขามีอยู่ ผมสาบานที่จะรับใช้ฝ่าบาทและนายท่าน แต่นี่มันแตกต่างไป นี่มันมากกว่านั้น ....

the Third Chair - และผมก็ได้เห็นมันจนจบ เห็นพวกเขาปลอดภัยอย่างที่พวกเขาฝันเอาไว้ เพื่อให้พวกเขาได้ทำหน้าที่ต่อเจ้านายของพวกเขา จนทำให้ผมไม่ละทิ้งต่อหน้าที่ของตัวเอง
Clive - คุณเข้าใจถึงความฝันของพวกเขาจริงๆงั้นหรอ?
the Third Chair - เข้าใจครับ พวกเขาต้องการละทิ้งเจตจำนงของตนเองเพื่อเป็น Akashic  ... ผมรู้ว่ามันยากที่จะเชื่อแต่คนเหล่านั้นคิดว่ามันคือ แก่นแท้ของความอยู่รอด ต้องขอโทษด้วยครับ นายท่าน แต่ผมคงต้องขออยู่ที่นี่ต่อ หากนายท่านจะกรุณานำไปบอกนายท่าน Cyril ด้วยผมจะขอบคุณมาก

the Third Chair - ได้ยินมั๊ยครับนายท่าน? มีบางสิ่งกำลังเกิดขึ้ส 

Clive - นั่นมันเสียงอะไร? ชั้นจะออกไปดูเอง คุณแอบอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน 

 

 

ชาวบ้าน - ช่วยด้วยยยยย !!!

Clive - ไม่นะ !!! aether ท่วมเข้ามาถึงที่นี่แล้ว !! ต้องหาทางช่วยพวกชาวบ้านก่อน ....บ้าเอ้ย พวก Echo ก็มาอีก !! เจริญล่ะ !!!

                          กำจัดฝูง Echo ให้หมด  

                               mini boss - Titus 

 

 

ชาวบ้าน - ช่วยด้วยยยยย !!!

Clive - บ้าเอ้ย !!


           the Third Chair -  อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!

Clive - อย่าเพิ่งตายนะ พูดกับผม !!

the Third Chair - ผะ ผมต้องช่วยพวกเขา ...เพื่อให้เขาพบทางรอดที่แท้จริง โดยการอุทิศตนรับใช้เจ้านายของพวกเขา ....

 

the Third Chair - ผมคงทำได้แค่นั้น ......... เมื่อ Undying ดึงผมออกจากความโสมมและทำให้ผมเชื่อในหน้าที่ของตนเพื่อรับใช้ ....นั่นคือทุกอย่างสำหรับผม

the Third Chair - แต่ผมจะไม่ปฎิเสธความสมหวังของพวกเขา แม้พวกเขาจะกลายเป็น Akashic ก็ตาม ….เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น ..ผมต้องขอโทษนายท่านด้วยที่ทำให้ท่านต้องมายุ่งกับเรื่องนี้ 

the Third Chair - นี่คือสิ่งที่ผมค้นพบ ตามหน้าที่ที่ผมได้รับมอบหมาย คุณจะช่วยเอาไปส่งให้นายท่าน Cyril แทนผมจะได้มั๊ย?

Clive - ได้สิ ...งานของคุณจะได้เสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ 

 

      the Third Chair - อ่า นายท่าน ดูสิ ..... พวกเขารอดแล้ว ....

 

                            Clive - รอดแล้วเนี่ยนะ ....

 

🔳หมู่บ้าน Tabor

 

Cyril - ยินดีต้อนรับกลับมาครับนายท่าน ผมดีใจมากที่เห็นท่านปลอดภัย
Clive - ชั้นเจอคนของนายที่ชื่อ the Third Chair แล้วนะ แล้วเขาฝากผมให้นำข้อมูลที่เขาหาได้มาให้นายด้วย 
Cyril - ขอบคุณมากครับนายท่าน แล้วเขายังอยู่ที่ฝั่ง Ash อยู่อีกหรอ?
Clive - เขาตายแล้ว จากการช่วยปกป้องชาวบ้านจากพวก echo ชั้นเผาเขาไปแล้วที่ Mikkelburg และ ต้องขอโทษด้วยที่ชั้นช่วยเขาไว้ไม่ได้
Cyril - ถ้านายท่านช่วยเขาไม่ได้ ก็คงไม่มีใครช่วยเขาได้อีกแล้วครับ 
Clive - ที่หมู่บ้านนั่น พวกชาวบ้านต่างก็เชื่อในลัทธิ พระผู้ช่วยให้รอด พวกเขาสวดวิงวองเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของตัวเอง จนกระทั่ง aether ท่วมเข้ามา พวกเขาก็เต็มใจที่จะยอมรับมัน คนของนายได้ช่วยพวกเขาให้ทำแบบนั้นได้สำเร็จ แม้จะรู้ว่า ชีวิตใหม่ของพวกเขาคือความตายในรูปแบบอื่น 

Cyril - งั้นเขาก็ยอมตายเพื่อปกป้องเสรีภาพ ... จุดจบของฮีโร่  สิทธิ์ที่จะสามารถเลือกได้ว่าจะตายยังไงไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์ไปกว่าสิทธิ์ที่จะเลือกว่าจะมีชีวิตรอดยังไง
Clive - ซิดคงเห็นด้วยแน่นอน เพราะเขาต้องการสร้างโลกที่ผู้คนสามารถเลือกที่จะตายได้อย่างอิสระ
Cyril - เป็นความทะเยอทะยานอันสูงส่ง การตายเพื่อตัวเองเป็นศรัทธาที่สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่สำคัญว่าผู้ที่ตัดสินใจจะหลงทางหรือไม่ เพียงแค่ว่า ขอให้การติดสินใจนั้นเป็นของตัวเขาเอง พวกเราดำเนินชีวิตตามคำสอนนี้เฉกเช่นระเบียนของเรา ให้เชื่อในพวกเขา ปกป้องพวกเขา และ ตายเพื่อพวกเขา ไม่ว่ามันจะดีขึ้นหรือแย่ลง นั่นก็เป็นความเชื่อของเรา 

Clive - แต่เขาไม่ได้ตายเพราะความเชื่อของพวกนาย แต่เขาตายเพื่อช่วยพวกเขาต่างหาก และนายยังเชื่อว่าสิ่งที่เขาทำถูกต้องอยู่มั๊ย?

Cyril - ผมเชื่อ ....ว่าเขาเชื่อแบบนั้น พวกเราเหล่า Undying ไม่ใช่ทาส แต่เป็นผู้ที่เต็มใจมารับใช้ และนี่คือเจตจำนงของเขา การแสดงออกในแบบสุดโต่ง

Clive - เฮ้ออ ..ก็ได้ ...แต่ชั้นต้องการรู้ชื่อของพวกเขาทั้งหมด ชื่อจริงของพวก Unduing ทั้งหมดที่สละชีวิตในหน้าที่ พวกเขาตายเพื่อปกป้องตระกูลของชั้น ชั้นมีสิทธิ์ที่จะจดจำพวกเขา เพราะนั่นก็คือหน้าที่ของชั้นเหมือนกัน 

Cyril - ได้แน่นอนครับ ผมจะทำสมุดผู้มรณสักขีให้ทันทีเลย พวกผมเป็นเกรียติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ตระกูลลอสฟิลด์ แม้ว่าหน้าที่ของเราจะแตกต่างกัน แต่หน้าที่ของท่านก็สำคัญไม่น้อย ผมขออธิฐานจิตอย่างสุดหัวใจเพื่อขอให้มันได้ผลสำเร็จตามที่ท่านหวังด้วยเถิด 

 

Clayhearth signboard 

สัญลักษณ์สำนักงานใหญ่ของ Undying ใน Tabor สมาคมลับที่สาบานจะรับใช้ตระกูลรอสฟิลด์ โดยเฉพาะ ผู้ครอบครองฟินิกซ์ ด้วยความศรัทธาที่มีต่อฟินิกซ์ พวกเขายอมแม้ต้องสละชีวิตหากจำเป็นเพื่อรับใช้เจ้านายของตน 

 

 

                            📬 Missives SideQuest 

📗SideQuest: More than Words 

📗SideQuest: An Inconvenient Truth 

 

                       📗 SideQuest: More than Words

 

จดหมายจากป้า Charon ส่งมาเล่าถึงเรื่องอาการแปลกๆของ Torgal ที่เอาแต่นั่งเหงาๆบนดาดฟ้า เหมือนมันกำลังต้องการอะไรหรือไปไหนซักที่ 

          Clive - เฮ้ออ มาเป็นอะไรเอาตอนนี้เน้อ Torgal ….

 

   ⟴Objective > เดินไปหา Torgal ที่ดาดฟ้า 

Clive - ไง กำลังมองหาอะไรอยู่หรอไอ้หนู? ที่นั่นมีอะไรหรอ? นายกำลังมองไปที่ไหนหรอ?

Clive - อืมม จะว่าไปแล้ว ชั้นเองก็ไม่เคยรู้เลยนะว่ากำไลของแกใครเป็นคนให้มา

Charon - ซิดเป็นคนใส่ให้มันตอนที่ได้มันมาที่นี่วันแรกน่ะสิ 
Clive - งั้นก็นานมาแล้วสินะครับ 
Charon - แล้วนายเพิ่งจะมาถามตอนนี้เนี่ยนะ ซิดเห็นเจ้าหนูนี่มันชอบกันขาตัวเองบ่อยๆก็เลยใส่เหล็กเอาไว้กันมันกัดขาตัวเองน่ะสิ เผื่อนายอยากรู้อ่ะนะ 
Clive - นายเป็นอะไรงั้นหรอ ไอ้หนู?

Charon -คงจะปวดใจมั้ง มันเป็นอะไรที่แย่มากนะที่ต้องเสียเจ้านายไปหมดตั้งแต่ตัวน้อยๆ แถมจะแย่เป็นสองเท่าเพราะมันเป็น Frost wolf การถูกพรากจาก Eikons ซึ่งเป็นเจ้านายมันเป็นอะไรที่ขมขื่นมากๆนะ ซิดบอกชั้นเสมอว่า ถ้าอยากจะเอากำไลเหล็กนั่นออกก็ต้องเจอสิ่งที่มันกำลังค้นหาอยู่ ชั้นเดาว่าสิ่งที่มันกำลังมองหาคือ นาย นั่นแหละ

Clive - ขอโทษด้วยนะที่ให้นายรอนาน..งั้นชั้นจะถอดกำไลเหล็กนั่นออกให้นะ 
Torgal - แฮ่....!!!
Charon - ดูเหมือนมันจะยังไม่ยอมให้ถอดออกนะ 
Clive - ผมก็ว่างั้น  นายคงคิดถึงซิดมากเหมือนกับพวกเราทุกคนที่นี่สินะ?


Clive - เห็นนายมองไปแต่ข้างนอกนั่น นายกำลังอยากไปที่ไหนซักที่แน่เลยใช่มั๊ย?

Torgal - โฮ่ง !!!

Charon - คงต้องพามันไปอย่างด่วนเลยด้วย ชั้นดีใจนะที่นายใส่ใจมัน 
Clive - คงไม่มากเท่าป้าแน่นอนครับ ป้า Charon
Charon - อ่ะนะ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเลยนะไอ้การที่ได้ลูบหัวเกาพุงให้มันมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาน่ะ 
Clive - ป้ามีใจดีกับมันและเป็นเพื่อนที่ดีกับมันมากๆเลยครับ 
Charon -คงเป็นเพราะมันไม่พูดมากเหมือนพวกนายล่ะมั้ง เอาล่ะ รีบพามันไปที่ที่มันอยากไปได้แล้ว !!

Clive - เอาล่ะ Torgal ไหนบอกสินายอยากไปไหนกันแน่?

Torgal - อี๊ดดดๆๆ 

Clive - ดูเหมือนชั้นอยากต้องการคำแนะนำที่มากกว่านี้อีกหน่อยนะ

Clive - ถ้าให้เดานะ ตอนนายอยู่บนดาดฟ้า นายมองไปทางตะวันตก ... ทางไปที่เกาะนั่น ที่ โรซาเรีย งั้นหรอ?  … โรซาเรีย ใช่มั๊ย?
Torgal - โฮ่ง !!!

Clive - อืมม ชั้นเองก็ไม่ได้ไปที่เกาะนั่นมาเกือบจะ 20 ปีแล้วเหมือนนะ 

Torgal - โฮ่ง !!!

Clive - งั้นก็ไปขึ้นเรือแถว Port Isolde กันเลย หวังว่าพอจะมีเรือแจวจอดอยู่แถวนั้นบ้างนะ 

   ⟴Objective > เดินทางไปที่ Port Isolde

Clive - ดูสิ หลายปีมาแล้วแต่เรือนี่ยังอยู่เลย แต่มันเล็กกว่าที่ชั้นจำได้เยอะเลย และนายก็ตัวใหญ่กว่าเดิมเยอะมาก สงสัยนายคงต้องว่ายน้ำไปแล้วล่ะ 
Torgal - แฮ่....!!!
Jill - งั้นพวกเรารออยู่ที่นี่ก็แล้วกันนะ
Clive - โอเค ได้ ชั้นคงไปไม่นานหรอก

 

🔳เกาะ Mist 

Clive - ที่นี่แทบไม่เปลี่ยนไปเลยแฮะ ... เอาล่ะ กระท่อมนั่นน่าจะต้องผ่านแนวต้นไม้นั่นไป มาเถอะ !!

Clive - นี่ไงล่ะ ถึงแล้ว ที่ที่เคยเป็น hideaway ของเรา ใช่มั๊ย Torgal?

 

 

Clive - การมาที่นี่ ทำให้ชั้นลืมทุกอย่างที่ชั้นเป็น เจ้าชาย ... โล่ ..หรือลูกชายที่แม่ไม่รัก ...หมายถึง ถ้าชั้นได้เป็นซักอย่างอ่ะนะ ...

                        Clive - อะไรหรอไอ้หนู ...

Clive - ของพวกนี้ นายเอามาจากปราสาทและ Phoenix Gate งั้นหรอ? นายคาบของทั้งหมดนี่มาจากที่นั่นเองเลยหรอ?

                     Clive - นั่นมันดาบซ้อมของชั้นนี่ ?

  Clive - นี่นายไม่เคยหยุดที่จะตามหาชั้นเลยสินะ ..ใช่มั๊ย ไอ้หนู? 

 Clive - ขอบใจนะ Torgal สำหรับการไม่ยอมแพ้และไม่มีวันลืมชั้นของนาย 

    Clive - งั้นเราเก็บมันกลับไปด้วยก็แล้วกัน ชั้นจะได้ไม่ลืมมันอีก 

Torgal - โฮ่ง !!!
Clive - นายจะไปไหนอีก นั่นไม่ใช่ทางกลับไปที่เรือนะ ... เออ ไปก็ไป 

Torgal - โบ๋ววววววว !!!!
Clive - เฮ้ออ .. ผู้คนมักจะบอกให้ทิ้งอดีตไว้ข้างหลัง แต่ ถ้าไม่มีมัน เราก็คงไม่เป็นอย่างที่เราเป็นในวันนี้หรอก

Clive -  และเราก็ไม่สามารถกำหนดทิศทางของเราไปสู่วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าได้อย่างแน่นอน จริงมั๊ย Torgal … เอาล่ะ มาเถอะ กลับบ้านกันได้แล้ว  

 

Charred Sparring sword 

ดาบซ้อมเล่มเก่าของไคลฟ์ที่ Torgal คาบมาจากโรซาเรียหลังจากการรุกรานของ Ironblood แล้วนำมาซ่อนไว้ที่ ที่ซ่อนตัว เดิมของไคลฟ์ มันเป็นเสมือนเครื่องเตือนใจว่าไคลฟ์เคยเป็นใคร รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนตลอดชีวิต

 

                       📗 SideQuest: An Inconvenient Truth

 

จดหมายขอความช่วยเหลือจาก วิเวียน ที่ขอให้ช่วยตามหาบันทึกที่หายสาบสูญ ซึ่งเป็นตำราที่บันทึกเกี่ยวกับแนวคิดโบราณที่ถือว่าเป็นอันตรายต่อความคิดสมัยใหม่ ซึ่งเป็นบันทึกที่มีอยู่เล่มเดียวและหายากมาก

Clive - วิเวียน ผมอ่านจดหมายของคุณแล้วนะ และผมยินดีที่จะช่วยตามหาหนังสือที่หายไปของคุณ   
Vivian - ขอบคุณมากนะไคลฟ์ แต่ การตามหาหนังสือเล่มนี้มันยากมากๆเลยนะ คุณแน่ใจรึเปล่า?
Clive - ไม่เอาน่า ตอนผมไม่เข้าใจหรืออยากรู้อะไรแล้วมาถามคุณ คุณยังตอบผมได้ทุกครั้งเลย ทำไมผมจะช่วยคุณบ้างไม่ได้ ถึงจะยากก็เถอะ ได้ไม่ได้ก็ต้องขอลองดูก่อนก็แล้วกัน 

Vivian - คุณใจดีมากเลย การหามันไม่ใช่แค่การตามหาบันทึกแปลกๆธรรมดาๆนะ ขนาดชั้นก็ถามผู้รู้อย่าง Harpocrates ไปแล้ว เผื่อเขาจะรู้ว่ามันอยู่ไหน หรือมีก็อปปี้ไว้มั๊ย  แต่ .... มันคงจะดีกว่าถ้าคุณลองไปฟังรายละเอียดจากเขาอีกครั้ง
Clive - เอางั้นก็ได้ 
Vivian - ขอโทษจริงๆนะที่ต้องรบกวนให้คุณช่วยเรื่องส่วนตัวแบบนี้น่ะ แต่หนังสือเล่มนี้ มันสำคัญกับชั้นมากๆ มันทำให้ชั้นเป็นชั้นในทุกวันนี้เลยล่ะ 

Harpocrates - อ่า ไคลฟ์ ดีใจที่เจอนายนะ มีอะไรให้ช่วยงั้นหรอ?
Clive - ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อย Harpocrates คือกำลังตามหาหนังสือที่ชื่อว่า From a Distance คุณพอจะรู้บ้างมั๊ย?
Harpocrates - โอ้ นั่นของหายากเลยนะ แถมชั้นยังไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคุณด้วยสิ คุณคงไปคุยกับวิเวียนมาสินะ 
Clive - ก็ประมาณนั้นครับ ..แต่เธอไม่ค่อยจะบอกรายละเอียดอะไรมากนัก ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบสิ่งที่คุณพูดด้วย

Harpocrates - ชั้นก็แค่เตือนสติ ไม่ได้จะห้ามอะไรเธอซักหน่อย ฟังนะ ไคลฟ์ ถ้าเธอมอบหมายให้คุณหาสำเนานั่น ชั้นเกรงว่าเธอกำลังขอให้คุณทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะ The Executors คงไม่ยอมง่ายๆแน่นอน  
Clive - The Executors ??

Harpocrates - เขาคือผู้ปกปิดความลับ องค์กรลับที่มุ่งมั่นจะรวบรวมและฟื้นฟูบันทึกและเทคโนโลยีต้องห้าม ส่วนหนังสือที่วิเวียนกำลังตามหาคือบันทึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของการเป็นทาสของเหล่า Bearers เรื่องราวที่อาจจะล้มระเบียบที่มีมาช้านานหากมันถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง หรือไม่มันก็เป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น เพราะแม้แต่ชั้นก็ยังไม่เคยอ่านมันเลยซักครั้ง 

Clive - แล้วทำไมผมถึงไม่เคยได้ยินเรื่ององค์กรนี้มาก่อนเลยล่ะครับ
Harpocrates - ทำไมน่ะหรอ? ก็เพราะ ความลับ คือคำขวัญของ The Executors ยังไงล่ะ พวกมันซ่อนตัวอยู่ในเงามือ จะปรากฎตัวก็ต้องเมื่อจะมายึดเอาของที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ บันทึก สิ่งประดิษฐ หรือแม้แต่ คน ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย 
Clive - นั่นอธิบายได้ว่าทำไมบันทึกของวิเวียนถึงหายไปทันทีที่เธอตามหามันจนเจอ 
Harpocrates - โดยฝีมือของ The Executors ใช่เลย 
Clive - แล้วอะไรเป็นตัวขับเคลื่อนองค์กรของมันหรอ? ผลประโยชน์หรืออุดมการณ์ ?

Harpocrates - เป็นคำถามที่ดี แต่น่าเศร้าที่คนที่รู้เรื่อง The Executors ไม่มีใครรอดมาเล่าให้ฟังน่ะสิ ส่วนคำตอบจากชั้นมันก็เป็นการคาดเดาทั้งนั้น
Clive - งั้นการล่าของผมก็คงต้องย้อนมาที่จุดเริ่มต้น วิเวียนกำลังคาดหวังอะไรอยู่? บางทีผมอาจจะเจอเบาะแสอะไรบ้างก็ได้ อืมมมมม ...
Harpocrates -ไม่มีเบาะแสอะไรหรอก ไม่ได้อยู่ใน Ash ด้วยซ้ำ มีข่าวลือเรื่อง The Executors กำลังแพร่สะพัดจากพวกนักวิชาการจากฝั่ง Storm น่ะ และเริ่มมีการพูดถึงน้อยลงเมื่อผ่านช่องแคบมา ชั้นพอจะมีเพื่อนอยู่บ้าง จริงๆก็ เคยมีมากกว่า เพราะตอนนี้ไม่รู้ตอนนี้ยังจะรอดอยู่มั๊ย เขาเป็นนักสะสมบันทึกโบราณหายากอยู่ที่หมู่บ้าน Garnick นั่นน่าจะพอสอดคล้องกับเรื่องของเราที่สุดแล้วล่ะ แต่ถึงแม้ว่าเขาไม่อยู่แล้วก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่สำเนาบันทึก From a Distance อาจซ่อนอยู่ในชั้นหนังสือของเขาแบบไม่มีใครรู้ก็ได้ และถ้าคุณช่วยหนังสือเล่มนึงจากห้องสมุดของเขาไว้ได้ วิญญาณเขาอาจจะสู่สุขคติได้ง่ายขึ้น
Clive - เยี่ยมเลยครับ ถ้างั้น เป้าหมายต่อไปของผมก็คงเป็น Waloed สินะครับ คงต้องไปเยี่ยมหมู่บ้าน Garnick ซักหน่อยแล้ว 

 

⟴Objective > เดินทางไปที่ Vidargraes มุ่งหน้าหมู่บ้าน Garnick

 

 🔳 หมู่บ้าน Garnick 

Clive - ดูเหมือนที่นี่จะกลายเป็นหมู่บ้านร้างไปแล้ว ที่นี้ก็ต้องหาว่าหนอนหนังสือนั่นอยู่บ้านหลังไหน ...

 

                             From a Distance 

             Chapter XVI: การล่มสลายของ Bearers 

การถือกำเนิดของผู้วิเศษที่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้ในครั้งแรกถูกยอมรับว่าเป็นของขวัญจากพระเจ้า อันที่จริงเป็นการได้รับพรโดยไม่รู้ตัว เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปว่า Bearer of the Heavenly Blessing หรือ ผู้ถือพรจากสวรรค์ ผู้ได้รับพรจากคริสตัลเหล่านี้ ได้รับการยกย่อง ตำแหน่งและเกรียติยศมากมาย 

หลายปีผ่านไป ความเคารพต่อ ผู้ถือพรจากสวรรค์ ถูกเปลี่ยนให้เป็นศาสนาที่มี ผู้ถือพรจากสวรรค์ เป็นผู้นำทางศาสนา ทำให้หลายประเทศที่มีความหลากหลายทางความเชื่อในยุคนั้น มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า ไม่เห็นด้วยกับการศาสนาใหม่นี้แม้ว่าจะได้รับการยอมรับในโครงสร้างของรัฐมาหลายปี ด้วยความไม่เชื่อใจในการเป็นผู้นำของ เหล่าผู้ถือพรจากสวรรค์ จึงมีการบัญญัติกฎใหม่ เพื่อไล่ เหล่าผู้ถือพรจากสวรรค์ ออกจากตำแหน่งและที่อยู่อาศัย จนลุกลามไปจนเกิดการนองเลือดแบ่งฝั่งแบ่งฝ่ายระหว่าง ผู้ได้รับพรกับผู้ไม่ได้รับพร จากการทะเลาะตามท้องถนนจนไปสู่สงครามที่ขยายวงกว้างกินเวลาหลายยุคสมัย

สุดท้ายเหล่า ผู้ถือพรจากสวรรค์  ก็พ่ายแพ้ ประชาชาติแห่งวาลิสเธียร่วมลงนามในข้อตกลงภาคพื้นทวีป ให้นำระบบทาสมาใช้กับ เหล่าผู้ถือพรจากสวรรค์ โดยจาก Bearer of the Heavenly Blessing หรือ ผู้ถือพรจากสวรรค์ ถูกเรียกแค่ พวก Bearer กับวลีที่ว่า Bearer are other than human เหล่าผู้ถือครองหาใช่มนุษย์ไม่ จนเกิดเป็นรากฐานสร้างความขมขื่นของ ผู้ได้รับพรจากคริสตัลมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยข้ออ้างเดียวของผู้ไมได้รับพรที่ปฎิเสธการยอมรับ ให้ผู้ได้รับพรมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยตัวเอง 

Clive - นี่ไงล่ะ บันทึกที่วิเวียนตามหา แต่ถ้าในบันทึกนี้เป็นความจริงล่ะก็ ... รีบเอากลับไปให้วิเวียนที่ hideaway ดีกว่า

The Executors - จะรีบไปไหนหรอชายแปลกหน้า ? พวกเราเฝ้ามองแกอยู่ ชั้นหมายถึงบันทึก From a Distance ที่อยู่ในมือแกน่ะ 
Clive - ชั้นรู้ว่าแกเป็นใคร

The Executors - งั้นเราก็ไม่ต้องเสียเวลาการแนะนำตัวกันแล้วสินะ เอาหนังสือนั่นมาให้ชั้นซะ ถ้าไม่อยากตาย 
Clive - ใครสนวะ? แกจะเอาไปเผาหรือฝังล่ะ?
The Executors - นั่นไม่ใช่การติดสินใจของชั้น แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนมันก็ต้องถูกลบออกจากเรื่องที่ผู้คนควรจะรับรู้ 
Clive - งั้นชั้นคงต้องขอปฎิเสธอย่างสุภาพก็แล้วกันนะ ชั้นไม่อยากให้พวกแกมาเสือกลบหน้าประวัติศาสตร์ของเราน่ะ 

The Executors - งั้นเราก็คงมาถึงทางตันกันแล้วล่ะ เพราะยังไงการแงะหนังสือจากมือของศพคนตายมันก็ไม่ได้ยากอะไรเหมือนกัน 

                กำจัดคนของ The Executors ให้หมด 

The Executors - น่าประทับใจจริงๆเลย แต่ยังไงซะ ไม่ช้าก็เร็ว เราก็จะได้หนังสือนั่นมาครอบครองอยู่ดี 

Clive - ทำไมพวกแกถึงต้องการมันขนาดนั้นด้วย?
The Executors - มันแสดงให้เห็นถึงความโลภของมนุษย์ เรื่องราวที่น่าอับอายที่เต็มไปด้วยการกดขี่เหล่าผู้ได้รับพรวิเศษที่มีอยู่เพียงหยิบมือจากคนที่ไม่ได้รับพรจำนวนมากแบบนั้น แกคิดว่าถูกต้องมั๊ยล่ะ?
Clive - ไม่รู้เหมือนกัน
The Executors - แกไม่รู้ ? ดาบคมแต่สมองทื่อ งั้นชั้นจะบอกให้ การตีความทางประวัติศาสตร์ไม่ต้องการความถูกต้องหรอก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วก็ให้มันเกิดไปไม่ควรจะมีคำอธิบายว่ามันเกิดอย่างไรหรือเพราะอะไรถึงเกิดขึ้น

The Executors - มันเป็นเรื่องของตัวเลขและความเชื่อ หากมีคนเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเหตุผลเพียงพอความเชื่อนั่นก็จะเป็นความจริง 
Clive - งั้นพวกแกก็พยายามจะควบคุมความจริงสินะ หรือจะเรียกว่า บิดเบือนดี ?

The Executors - พวกเราพยายามจะปกป้องผู้คนจากตัวเขาเองต่างหาก จากความรู้ที่จะนำมาซึ่งความเจ็บปวด ก็แค่นั้น แกอาจจะได้หนังสือนั่นไปในตอนนี้ โลกนี้มันเล็ก เดี๋ยวเราก็ได้เจอกันอีกแน่นอน ไว้เจอกัน 
Clive - เดี๋ยวสิวะ !!

Clive - แม่งเอ้ยยย !!! หายไปอย่างไร้ร่องรอยสมคำล่ำลือจริงๆ รีบเอาหนังสือนี่ไปให้วิเวียนดีกว่า บางทีเธออาจจะอธิบายเรื่องนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ 

 

🔳 The hideaway

 

           Clive - วิเวียน ผมเจอแล้วนะ หนังสือที่คุณตามหาน่ะ 

Vivian - นี่คุณ …. คุณเจอมันจริงๆหรอเนี่ย !!? ขอบคุณมากนะไคลฟ์ ตอนนี้ชั้นขอให้คุณช่วยก็ไม่คิดว่าคุณจะเจอมันจริงๆด้วยซ้ำ นึกว่าพวก The Executors จะได้ไปซะแล้ว 
Clive - ผมเจอหนึ่งในพวกของมันด้วยนะ แต่ผมพยายามโน้มน้าวเขาเพื่อขอหนังสือเก็บไว้ และมันก็บอกบางอย่างกับผมด้วย มันบอกว่า ความจริงเป็นเพียงความเชื่อร่วมกัน และถ้าความเชื่อนั้นมีมากพอ คำโกหกนั้นก็จะเป็นความจริง

Vivian - มันแน่นอนอยู่แล้ว ความจริงมันก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ที่ต้องการเปลี่ยนมันสามารถโน้มน้าวผู้คนได้มากพอว่ามุมมองของเขานั้นถูกต้อง แต่ ประวัติศาสตร์ที่น่าเศร้าของเหล่า Bearers ก็ได้พิสูจน์แล้ว 
Clive - คุณบอกว่าหนังสือเล่มนี้เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณมาเป็นนักประวัติศาสตร์ มันยังไงหรอครับ?
Vivian - ชั้นไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะหนังสือหรือคนที่เขียนมันอ่ะนะ แต่ก็จริง

Vivian - เธอค่อยข้างจะเป็นคนนอกกรอบ คุณเห็นมั๊ย? ผู้ปลุกระดม ผู้สร้างความแตกแยก ตะแลงแกงเตรียมพร้อมสำหรับเธอในทุกมุมของอณาจักร ด้วยการรังเกียจสังคมหรือถูกสังคมรังเกียจ เธอก็ได้ค้นพบความจริงที่ทำให้ทั้งอณาจักรต้องสั่งคลอนเมื่อเธอพูดออกมา ชั้นเองก็เช่นกัน ชั้นรู้สึกแปลกแยกจากโลก และเป็นคนแปลกหน้าในสายพันธุ์ตัวเองมาตลอด 

Vivian - เธอสอนชั้นว่า ความสันโดษไม่ใช่คำสาปแต่เป็นของขวัญ และถึงแม้ว่าการเดินทางไปสู่ความจริงของชั้นอาจดูโดดเดี่ยว แต่สิ่งที่ชั้นค้นพบที่จุดหมายนั้นมันล้ำค่ามาก 
Clive - คุณยังรู้สึกแบบนั้นอยู่มั๊ย? เพราะว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้ว คุณคือหนึ่งในพวกของเรา

Vivian - จริงหรอ? ชั้นเองก็ไม่แน่ใจอะไรอีกแล้วตั้งแต่มาอยู่ที่ hideaway ชั้นได้แต่คิดวนเวียนไป จนเบลอไปหมด บางทีอาจเป็นเพราะการศึกษาพฤติกรรมมนุษย์จากมุมมองที่แบบว่า ...ใกล้ชิดกว่าที่ตั้งใจไปไปหน่อย

Vivian - แต่ยิ่งศึกษาลึกเท่าไหร่ ชั้นก็กลับพบคุณค่าจากมุมมอง ความคิด และ ทัศนคติ มากขึ้น เป็นการมองจากภายในไม่ใช่จากภายนอก 

Vivian - และถ้าคุณยังอนุญาต ชั้นก็จะทำงานที่นี่ต่อ จำไว้นะไคลฟ์ เมื่อมีคนเชื่อมากพอ ความเชื่อก็จะเป็นความจริง จงมอบความจริงให้กับเหล่าชายหญิงที่โลกที่สิ้นหวังใบนี้ ทำให้พวกเขาเชื่อในตัวคุณ แบบชั้น 
Clive - ผมจะพยายามนะ วิเวียน ผมจะพยายาม 

 

Scholar’s Bonnet 

หมวกนักวิชาการของวิเวียนที่เธอได้ตอนสำเร็จการศึกษาที่มหาวิทยาลัย Kanver ตอนนี้เธอแบ่งปันความรู้เพื่อสนับสนุนการทำงานของไคลฟ์ มันคือของขวัญและคำสัญญาว่า ตราบใดที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ความรู้ของเธอจะเป็นของเขาพอๆกับเป็นของเธอ 

 

หลังจบ SideQuest: An Inconvenient Truth นี้แล้วเมื่อสำรวจดู Hunt Board จะมีการอัพเดทเพิ่มเติม Notorious Marks ตัวใหม่ 1 ตัว ซึ่งเป็นตัวสุดท้ายแล้ว 

👹Notorious Marks ตัวที่ 32: The Wailing Banshee (The Gizamaluk) 

♛RANK A

📌พิกัด - village of Garnick / Vidargraes  (ตำแหน่งตามรูป) 

 

                          📗 SideQuest: A Tail to Tell 

 

🚨SideQuest นี้จะปลดล็อคออกมาใน Missives Quest หลังจากจบ SideQuest: An Inconvenient Truth

จดหมายจาก Harpocrates ที่ส่งมาเพื่อขอความช่วยเหลือบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องเจ้าชาย Dion ด้วยความเกรงใจยิ่ง 

Clive - Loresman Harpocrates ผมเห็นจดหมายของคุณแล้วนะ 
Harpocrates- โอ้ ซึ่งผมมั่นใจว่าคุณต้องสงสัยแน่ๆว่ามันเรื่องอะไร
Clive - เห็นคุณว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับ Dion แต่ผมก็นึกไม่ออกว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่ 

Harpocrates- ถ้างั้นผมคงต้องเริ่มจากบอกให้คุณรู้ว่า ผมเคยเป็นครูสอนพิเศษของเขา น่าจะประมาณปีนึงก่อนที่ผมจะมาเข้าร่วมกับ Cid ที่ hideaway ซึ่งในขณะนั้นผมอยู่ในฐานะนักวิชาการชั้นแนวหน้าแห่ง Oriflamme และได้รับเชิญให้ไปที่พระราชวัง เพื่อดูแลเรื่องการศึกษาของเจ้าชายน้อย เพื่อให้แน่ใจว่าจักรพรรดิในอนาคตจะมีรากฐานความรู้ที่สมบูรณ์ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ ศาสนา การพานิชย์ และ การปกครอง แต่เวลาที่เราอยู่ด้วยกันนั้นสั้นมาก เพราะเมื่อเจ้าชาย ดิออน ตัดสินใจเข้ากองทัพ Dragoon การศึกษาสำหรับเขาก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป และไม่เคยคิดว่าจะได้เขาอีก โดยเฉพาะที่นี่ 
Clive - สรุปว่าคุณอยากจะคุยกับเขางั้นหรอ?

Harpocrates- โอ้ เอ่อ ...ผม ผมคงยังไม่อยากจะพบเขาในตอนนี้หรอก ยังหาเวลาเหมาะๆไม่ได้เลย ที่สำคัญดูพระองค์ทรงยุ่งอยู่ตลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนอยู่คนเดียว ผมไม่อยากจะรบกวนท่านด้วยการทักทายที่ไร้สาระของผมหรอก ยิ่งเมื่อรู้ว่าเขากำลังหมกหมุ่นอยู่กับเรื่องที่ Ultima ชักใยให้เขาทำเรื่องเลวร้ายที่ Dominion ยิ่งแล้วเลย 
Clive - เขาคงรู้สึกผิดอย่างมาก เรื่องนี้ผมรู้ ...แต่ก็อย่างที่คุณบอก มันเป็นฝีมือของ Ultima คุณคงจะไม่โทษตัวเองหรอกนะ?
Harpocrates- ตอนที่ผมเจอเขาครั้งแรก ไม่ใช่ความรู้สึกผิดแต่เป็นเรื่องความคาดหวังของคนของเขาต่างหากที่ทำให้เขาหนักใจ และชั้นก็ไม่ได้ช่วยแบ่งเบาภารกิจอะไรให้เขาเลย เขาแบกมันไว้คนเดียวมาตลอด จนถึงวันที่เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ถือเป็นความเสียใจอย่างที่สุดอย่างนึงของผมที่ผมได้แค่มอบสติปัญญาให้เขาเท่านั้น ในขณะที่สิ่งที่เขาต้องการจริงๆคือ มิตรภาพ เสียงกร่นด่าถึงการกระทำของดิออนจึงไม่ได้อยู่บนไหล่คนแค่คนเดียว แต่อยู่บนไหล่ของผมด้วย

Clive - ผมเข้าใจแล้วครับ ผมพร้อมจะช่วยเท่าที่จะช่วยได้เลย 
Harpocrates- งั้นผมจะขอบคุณมากๆถ้าคุณหาดอก Wyvern tail มาให้ผมได้ หมอยาทุกยุคทุกสมัยก็เห็นตรงกันว่า แม้แค่เพียงเห็นดอกไม้ชนิดนี้จิตใจก็เสมือนได้รับการปลอบประโลม แน่นอนว่าแม้แต่พวกนักต้มตุ๋นที่มีความคิดเห็นที่แสนแปลกประหลาดก็คิดสอดคล้องกัน
Clive - แล้วผมจะหาดอกไม้นี้ได้ที่ไหนหรอครับ?

Harpocrates- คุณคงเคยเห็นหางของ Wyvern ที่ถูกฝึกมาก่อนใช่มั๊ย?  ดอกลิลลี่สีขาวที่มีรากเป็นหมึกพิษที่ใช้สำหรับผู้ถูกตีตรา แต่พวก Wyvern ที่อยู่ในป่าจะแตกต่างกันแค่สีม่วงเท่านั้น ยิ่งสิ่งแวดล้อมมันทุรกันดารแต่ไหน สีของมันก็จะเข้มขึ้นมากเท่านั้น มีอยู่ที่นึง แถวน้ำตกใน Rikmal’ Roost ที่นั่นเคยมีดอกไม้เติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์
Clive - โอเค งั้นผมจะหาไวเวิร์นให้คุณ ไม่ทางใดก็ทางนึง ...

 

 ⟴Objective > เดินทางไปที่ หมู่บ้าน Eistla เป้าหมายคือ The Angry Gap    

       Clive - ดอกสีม่วง ขึ้นอยู่แถวน้ำตก นึกว่าจะหายากกว่านี้ซะอีก

                 กำจัด mini boss Akashic Lindwurm 

      จากนั้นเก็บ Wyvern tail ในพื้นที่นั้นกลับไปให้ Harpocrates

ดอก Eitrfoetida หรือ ดอกหางไวเวิร์น (Wyvern tail)

โดยทั่วไปดอกจะมีสีขาวและรากสีดำ หากนำมาตัดหรือบดจนเกิดยางสีดำ ซึ่งยางของมันมีพิษที่หากหยดเข้าปากอาจเกิดอาการเป็นตะคริวสร้างความเจ็บปวดห้าวันห้าคืน แต่หากซึมเข้าทางบาดแผล ทำให้ตายได้แน่นอน แต่ ชนเผ่าทางเหนือมักใช้เข็มที่ทำจากไม้โอ๊คจิ้มยางของมันมาแทงผิวหนังทำให้เกิดลวดลายแปลกๆเพื่อสัการะเทพเจ้านอกรีตของพวกเขา และใช้มันทำรอยสักที่หน้าของผู้ถูกตีตรา

 

🔳The hideaway

 

Clive - Loresman ผมเจอดอกไม้ที่คุณอยากได้แล้วล่ะ ผมคิดว่าใช่นะ นี่ไง
Harpocrates- คุณหาเจอจริงๆหรอเนี่ย? … ใช่จริงๆด้วย ไอ้หนู ขอบใจมากๆนะ 
Clive - คุณจะให้มันเป็นของขวัญให้ Dion ไม่ใช่หรอ? ให้ผมไปตามเขามาหาคุณเลยมั๊ย?
Harpocrates- โอ้วว เอ่อ ผมไม่ ยังก่อนๆ
Clive - เดี๋ยวผมไปตามให้เลยดีกว่า แค่นี้เองไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก

Clive - ฝ่าบาท รบกวนคุณมากับผมหน่อยจะได้มั๊ยครับ?
Dion - ตอนนี้เลยหรอ? ถึงเวลาลุยแล้วสินะ 
Clive - เอ่อ ไม่ใช่ครับ แค่ตามผมไปห้องสมุดหน่อย พอดี Harpocrates อยากพบคุณ เห็นแกว่ามีอะไรจะให้คุณน่ะครับ 

Dion - ท่านอาจารย์ Harpocrates น่ะหรอ? … ไม่ครับ ผมคงไม่กล้าบากหน้าไปให้แกเห็นในตอนนี้หรอก ..ไม่จนกว่าทุกอย่างจะจบลง ..ผมได้ทำให้ชีวิตผู้บริสุทธิ์ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก นับไม่ถ้วน ก็เพราะผมมันอ่อนแอ

..ผมสาบานว่าจะชดใช้ความผิดที่เคยก่อเอาไว้ ไม่ก็ตายไปกับความพยายามนั้น แต่ถ้าผมไปพบเขาในตอนนี้และได้เห็นสิ่งที่ผมเป็น เกรงว่าความตั้งใจของผมจะสะดุดลงเสียก่อน 

Clive - นั่นยิ่งเป็นเหตุผลที่จะทำมันเลยล่ะ เพื่อพิสูจน์ความมุ่งมั่นของคุณ ทำให้เขาเห็นว่าคุณเด็ดเดี่ยวแค่ไหน 
Dion - คุณพูดมีเหตุผล ก็ได้ ผมจะไปหาเขา อย่างน้อยๆก็เพื่อเป็นการขอบคุณเขากับทุกเรื่องที่ผ่านมา

 

Dion - แม้กระทั่งตอนนี้ผมก็ยังมีความลังเลที่จะเข้าไปพบเขา เขาจะคิดยังไงกับผมกันนะ?

Dion - ท่านอาจารย์ Harpocrates … โปรดรับคำขอโทษจากผมที่ได้ละทิ้งการศึกษากับท่านก่อนจะเรียนจบด้วยเถิด ... บทเรียกจากท่านได้เปิดใจของผมเข้าสู่โลกที่แตกต่างจากที่ผมจินตนาการไว้จากในกำแพงของพระราชวัง และต้องขอบคุณตลอดไปกับความพยายามของท่านเพื่อให้ความรู้กับผม

Harpocrates- เงยหน้าขึ้นเถิดนะฝ่าบาท การกระทำของเด็กไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไรหรอก การที่ท่านสละเวลาเขามาพบผมบ่งบอกได้มากมายเกี่ยวกับความเป็นชายชาตรีแบบที่ท่านเป็น เอาล่ะ ผมมีบางอย่างที่อยากจะให้ฝาบาทดู

 

Dion - นั่นมัน ..ดอกหางไวเวิร์น งั้นหรอ?  ... สีนี้ ช่างไม่คุ้นตาเลย 
Harpocrates- ก็เพราะเป็นเอกลักษณ์ของดอกที่เติบโตในป่าน่ะสิ สภาพแวดล้อมที่โหดร้ายทำให้พวกมันเติบโตขึ้นด้วยสีสันที่โดดเด่น

Harpocrates- แม้ตอนแรก รากของมันจะไม่ได้แตกต่างอะไรกับเผ่าพันธุ์อื่นของมัน แต่พอมันเริ่มบานสะพรั่ง ความแตกต่างก็เห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อผมเห็นดอกไม้นี้ ก็เหมือนผมเห็นฝ่าบาท แม้จะแตกต่างออกไปแต่ยังไงรากเหง้าของมันก็คือ ดอกหางไวเวิร์น อยู่ดี ซึ่งไม่ได้กำหนด้วยตัวมันเอง เช่นเดียวกับฝ่าบาท

Harpocrates- ผมอยากให้ฝ่าบาทเก็บมันเอาไว้เพื่อนึกถึงความจริงข้อนี้ 

 

Dion - ท่านอาจารย์ Harpocrates …ผมคงต้องขอรบกวนท่านหน่อย ช่วยเก็ยรักษาของขวัญชิ้นนี้ของท่านเอาไว้จนกว่าผมจะทำภารกิจเพื่ออณาจักรเสร็จสิ้นเสียก่อน เพราะในตอนนั้น ผมจึงสมควรจะได้รับมัน 

Harpocrates- ได้สิฝ่าบาท ผมจะเก็บมันไว้ รอจนกว่าท่านจะกลับมา 

Dion - รากเหง้าของเราไม่ได้กำหนดตัวตนของเรา ไม่แปลกที่แม่เลี้ยงของเราต่างก็ไม่ชอบเราเหมือนกันอ่ะนะ  อ่ะนี่ สำหรับการกลับมาเจอกันอีกครั้งกับความทรงจำที่หายไป ชั้นจะไม่ลืมเรื่องนี้เลย 

Harpocrates- ขอบคุณมากนะ ไคลฟ์ ถ้าไม่ได้คุณช่วยผมคงหาโอกาสเหมาะที่จะคุยกับเขาไม่ได้แน่นอน ไม่ต้องพูดถึงเรื่อง ดอกหางไวเวิร์น ผมก็คงจะออกไปหามันมาด้วยตัวเองไม่ได้เช่นกัน ผมจะให้คนเอาไปเพาะเอาไว้ เพื่อรอฝ่าบาทกลับมา 

Clive - หวังว่าดินที่นี่คงจะถูกใจมันนะ 
Harpocrates- ทำไมล่ะ ในเมื่อดอกไม้พวกนี้ยังเบ่งบานได้แม้ดินแดนที่รกร้างเยือกเย็นของ Waloed ได้เลย ชั้นมั่นใจว่าที่เพาะปลูกของ Nigel จะต้องเหมาะกับมันแน่นอน และเพื่อแสดงความขอบคุณ คำพูดอย่างเดียวคงไม่พอ นี่ครับ …
Clive - มันคืออะไรครับ?

Harpocrates- ปากกาขนนกยังไงล่ะ หรือจะให้ชัดเจนก็ ปากกาขนนกของชั้นเอง ขนของนกฮูกที่ชั้นใช้ขีดเขียนประดิษฐถ้อยคำสู่หน้ากระดาษมายาวนาน ชั้นเลยอยากให้คุณเก็บไว้ เผื่อวันนึงคุณจะมีโอกาสวางดาบแล้วหันมาจับปากกานั่นแทน

Clive - ก็นะ ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ ผมคงจะมีเรื่องให้เขียนเพียบเลยล่ะ ขอบคุณมากครับ Harpocrates เป็นเกรียติอย่างมากที่ได้ท่านมาร่วมชายคาด้วย 

 

Stola Quill 

อุปกรณ์การเขียนที่ Loresman Harpocrates โปรดปรานที่สุดในการขีดเขียนส่งน้ำหมึกลงกระดาษมายาวนาน เพื่อส่งต่อความรู้และความปราถนาดีให้ยาวนานเฉกเช่นขนของนกฮูก Stolas และหากวันใด ไคลฟ์ ได้มีโอกาสวางดาบมาจับปากกานี้ เขาจะพบว่าศัตรูตัวเดียวที่เขาจะไม่มีวันเอาชนะได้ คืออาการ 'เขียนไม่ออก' ('Writer's Block')

 

เมื่อถึงตอนนี้ รางวัลที่ได้จากภารกิจต่างๆ ร่วมถึงรางวัลจากการไล่ล่า Notorious Marks ก็สามารถทำให้ ตีดาบ Götterdämmerung (เกิทเทอร์เด็มเมอรุง) ออกมาได้แล้ว

Götterdämmerung ชื่อนี้เป็นภาษาเยอรมัน แปลว่า เทวาอัสดง ในฐานะอุปรากรภาคสุดท้ายในจำนวนสี่ภาคของนิยายเรื่อง แหวนของนีเบอลุง (Der Ring des Nibelungen) โดย ริชชาร์ท วากเนอร์ ที่แปลจากวลี Ragnarök ในภาษานอร์สโบราณ ซึ่งในบท เกิทเทอร์เด็มเมอรุง มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสิ้นสุดยุคสมัยทวยเทพเป็นใหญ่,และการเริ่มต้นยุคสมัยที่มนุษย์เป็นใหญ่ จึงเป็นชื่อที่เหมาะสมสำหรับใช้เป็นดาบสุดยอดในรอบแรกของเกมไว้ซัดกับ Ultima

Götterdämmerung นั้นรูปแบบของดาบจะเหมือนกับ Ragnarök เพราะมันใช้ Ragnarök เป็นฐานในการผลิต เพียงแต่ พลังโจมตีจะมากกว่า

 

⛛และเมื่อคุณทำ Side Quest ดังต่อไปนี้ครบแล้ว ⛛

Cut from the Cloth 
Phoenix heal thyself
Where There’s a will
Priceles

🔯 DLC เนื้อเรื่อง Echoes of the Fallen ก็จะถูกปลดล็อกให้เข้าเล่นได้แล้วโดยการไปคุยกับ Charon ที่ hideaway 

 

📕รายละเอียดเนื้อหา DLC Echoes of the Fallen

http://decibelperoxide.blogspot.com/2024/01/final-fantasy-xvi-echoes-of-fallen.html

 

 

 

                                     The Hideaway

                             Central Storm , Deadland

 

Mid - ไคลฟ์ ถ้าคุณเจอพ่อของชั้นอยู่บนนั้น ...บอกเขาด้วยว่าเขาคิดถูกแล้วที่เขาทิ้งมรดกของเขาไว้กับคุณ

Clive - บอกเขาหรอ? เขาอาจกำลังนั่งรอดูอยู่แถวหน้าเลยมากกว่า เขาไม่ยอมพลาดงานนี้แน่ๆ ...ยังไงก็ ดูแลตัวเองนะ Mid 

 

Clive - เอาล่ะ ตอนนี้นายก็เป็นคนคุมที่นี่แล้วนะ  Gav 
Gav - แล้ว Tarja เธอว่าไงบ้างล่ะ? นายต้องรีบกลับมาก่อนที่เธอจะรู้เข้าใจมั๊ย?

 

Joshua - ขอบใจมากนะ Jote สำหรับทุกอย่าง แล้วก็ขอโทษด้วย …
Jote - นายท่าน ชั้นจะอธิฐานให้นายท่านกลับมาอย่างปลอดภัย 

Tarja - ถ้าเธออยากจะอธิฐาน ก็ควรอธิฐานให้เขากินยาจะดีกว่านะ ชั้นไม่ได้ใช้เวลาทั้งคืนในการบดผสมสมุนไพรเพื่อให้เขาวางไว้ข้างเตียงนะ  อีกแล้ว
Joshua - ไม่ต้องห่วงหรอกน่า Tarja แต่ก็ขอบคุณนะครับ 

Tarja - ส่วนนายก็ช่วยดูแลน้องให้เขากลับมาครบ 32 ด้วยล่ะ ทั้งสองคนเลยก็ดี ไม่แน่ว่าเขาอาจจะฮีลตัวเองไม่ได้อีก
Clive - จะจำให้ขึ้นใจเลยครับ 

Byron - ส่วนลุงไม่มีอะไรที่จะพูดหรือยังไม่เคยได้พูดอะไรทั้งนั้น ขอให้หลานได้ทำในสิ่งที่ต้องทำให้ได้ก็พอ และ ไม่ได้ห่วงพวกเราหรอกนะ

Clive - เราจะทำให้ดีที่สุดครับลุง 

Dio - ล่ำลากันเสร็จแล้วใช่มั๊ย? ถ้างั้นก็ไปกันได้แล้ว 
Clive - ยัง ยังไม่หมดทุกคน .

Clive - จิล ...
Jill - ถึงเวลาแล้วสินะ 
Clive - อืมม ..ใช่แล้ว ดูแล Torgal ด้วยนะ ..

                    Clive - ส่วนแกก็ต้องดูแลเธอด้วยนะ ไอ้หนู 

Jill - อย่าลืมล่ะ ไคลฟ์ เราทุกคนเลือกเส้นทางของตัวเอง และเราเชื่อในตัวนาย โดยเฉพาะชั้น 

Clive - ชั้นสัญญาว่าจะกลับมา 

                                Clive - ชั้นรักเธอนะจิล ..

                       Jill - ชั้นรู้ .... ชั้นก็รักนายเหมือนกัน .

 

 

 

 

 

       Clive - เอาล่ะ เราต้องไปแล้วนะ ... มีพระเจ้าที่ต้องฆ่าน่ะ 

 

 

 

 

 

 

 

      Clive - พระเจ้า ... ดูเหมือนแผนกต้อนรับของมันจะมาแล้วนะ 

 

 

 

 

 

                         Clive - นั่นคือ ทางเข้าของเราสินะ ...

 

                                  🌑  ORIGIN  🌑

 

                      Joshua - งั้นที่นี่ก็คือ Origin สินะ 

Ultma - ที่ซึ่งทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น  เรือของพวกเรา สถานที่แห่งการสรรสร้างของเจ้า 

                            Clive - นั่นไง! มันอยู่นั่น !!

Ultma - ที่นี่คือที่ที่เราหลับใหล ที่นี่คือที่ที่เราเฝ้ารอ ..หลายศตวรรษแล้วที่เรายึดกับเปลือกที่เสื่อมโทรมของเราเพราะกลัวว่าเราอาจต้องการมันอีกครั้ง แต่ในที่สุด เจ้าก็มา และ ตอนนี้เราก็จะได้สมบูรณ์อย่างแท้จริง 

   Joshua - แล้วเราเอาไงดี 

   Clive - เราสามมันหนึ่ง ก็รุมเลยดิ รอไร !!

 

 

 

 

Ultma - Dominants ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าเห็นว่าคำว่าทรมานมันหมายความว่ายังไง 

 

               Clive - ไม่ เราต่างหากจะแสดงให้แกเห็นเอง !!!

                            BOSS - Ultma Prime 

 

Ultma Prime - ถ้าพวกเจ้ายอมแพ้ตอนนี้ ข้าจะไม่ถือโทษอะไรหรอกนะ 

 

 

 

 

                                   Joshua - Dion!!

                      Dion - รีบไปช่วยพี่ของนายสิ !!

 

 

 

 

 

                      Dion - พ่อครับ … มันจบแล้วนะครับ 

 

                         Joshua - แฮกๆๆ  ..... พี่ครับ !!??

 

                                  Clive - โจชัวร์ .....

                          Joshua - เฮ้ออ ขอบคุณพระเจ้า ..

 

Joshua - ชั้นบอกพี่ไปยังว่าตอนนี้พี่ดูสะบักสะบอมมากเลยอ่ะ ?

 

Clive - มันก็พอกันนั่นแหละน่า …
Joshua - โอ้ ผมยังดูดีกว่าเยอะบอกเลย 
Clive - แล้ว Dion ล่ะ?
Joshua - ……….

 

Clive - เอาล่ะ ไปต่อกันเถอะ .. มา จับมือพี่ 
Joshua - ผมบอกแล้วไงว่า ....แอ๊กกกๆๆ !!!!

Clive - พี่พยุงเอง 
Joshua - ขอบคุณครับพี่ ...

 

Clive - ลุยต่อมั๊ย ? 
Joshua - แน่นอนอยู่แล้วครับ 

 

                             🔶 Of God and Men 🔶 

 

                                         The Core 

 

Clive - ชั้นต้องขอโทษด้วยนะ เรื่อง Dion น่ะ 
Joshua - อย่าครับพี่ ไม่ต้องเลย ได้โปรด พี่ไม่ต้องขอโทษอะไรทั้งนั้น 
Clive -บางที ถ้าเป็นเราอยู่ในช่วงเวลานั้นก็คงทำเหมือนกัน 

Joshua - แค๊กๆๆๆๆ !! 
Clive - หยุดพักก่อนมั๊ย?
Joshua - เพราะแค่เห็นผมไองั้นหรอ? ผมนึกว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ ...แสงนั่น มันช่างเยือกเย็น และว่างเปล่า ...เราใกล้แล้วใช่มั๊ย?
Clive - น่าจะเป็นงั้น  

 

 

 

 

                   Joshua - ไคลฟ์ ....พวกนั้นคงไม่ใช่ ....

              Ultma - แต่ เกรงว่าจะใช่นะ ...ที่นี่คือ Nexus 

Ultma - ที่ที่เป็นบ่อเกิดแห่งชีวิตพวกเจ้า และ เรา ..ในขณะที่เราเฝ้าดูโลกที่เติบโต เดินโซเซ ไปจนถึงจุดจบที่ด้านมืด ที่นี่ เราสัญญาว่า จะเริ่มต้นใหม่ และ ตอนนี้ 

Ultma - และ ด้วย aether ที่เราเก็บเกี่ยวเอาไว้ ข้าคิดว่าคงมากพอที่จะปลุกพี่น้องของเราที่หลับไหลอยู่ได้แล้ว และเราทั้งหมดก็จะร่วมกับก้าวไปสู่ ...ยุคใหม่ที่สมเหตุสมผล 

Clive - นี่ไม่ใช่การสรรสร้างอะไรทั้งนั้น ก็แค่การที่พยายามรักษาตัวเองเอาไว้ แกประณามคนทั้งโลก เพื่อที่แกเท่านั้นที่จะรอดพ้นจากความตาย

Joshua - ตัวคนเดียว .... มัน  ตัวคนเดียว …อย่างนี้นี่เอง ..ไคลฟ์ ผมคิดว่าผมเขาใจแล้ว  … มัน 

 

 

Joshua - โอ้ ไม่ๆๆ 
Clive - แกต้องการให้ทำลาย Mothercrystals มาตลอดงั้นหรอ?

Ultma - พวกเขายอมสละตัวเองเป็นหัวใจของคริสตัลเพื่อสูบฉีดโลหิตแห่งชีวิตที่อยู่ใต้โลกมาอยู่ในห้องนี้ และพวกเขายังคงต้องทำหน้าที่นี้ไปอีกนานแม้งานของพวกเขาจะเสร็จสิ้นแล้วถ้าคุณไม่ปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระเสียก่อน 

Ultma - เราซาบซิ้งในบุญคุณของเจ้า มิธอส ในเรื่องที่เจ้ารับใช้เราเป็นอย่างดี เจ้าทั้งสองรับใช้เราเป็นอย่างดี 

                   Ultma - ขอต้อนรับกลับบ้าน พี่น้อง 

Joshua - แค๊กๆๆๆๆ !! 

Clive - โจชัวร์ !!! 

Joshua - ผมคิดว่าจะเป็นผม ....มือขวาผมเริ่มอ่อนแรงลง ...แค๊กๆ แต่มัน เริ่มแข็งแกร่งขึ้น !!

 

 

 

 

                Joshua - อั๊กกก !! ... อ๊ากกกกกกกก !!!!!

 

        Clive - ห๊ะ?? ไม่ๆๆ  โจชัวร์ !!! ม่ายยยยยยยยยยยย !!!

 

 

            Ultma - และบัดนี้ เราก็รวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้แล้ว 

Joshua - ไคลฟ์ ...  

Clive - ชูวววว !!!  ยังไม่ต้องพูด โจชัวร์ 

Joshua - ผู้ครอบครองไฟแห่งการทำลายล้างเพียงหนึ่งเดียว Ifrit และไฟแห่งการเยียวยารักษาของ Phienix ….ผมเคยเชื่อว่ามันเป็นร่างจริงของอัลติม่า แต่ผมคิดผิด ตอนนี้ผมรู้แล้ว ..ทำไมพี่ถึงไม่เคยกลายเป็น พาหะของ อัลติม่า 

Clive - ชั้นไม่สนหรอก นายแข็งใจเอาไว้นะ ...

Joshua - ฟังผมนะพี่ ....ไคลฟ์  พี่จำภาพวาดบนฝาพนังได้มั๊ย? ครั้งนึงผู้คนคิดว่า อัลติม่า คือ พระเจ้าของพวกเขา เพราะสร้างพวกเขามา แล้วพวกเขาก็สักการะมัน อฐิฐานของพรจากมัน เพื่อให้มันนำทาง  

Clive - มันเปล่าประโยชน์ 

Joshua - ใช่ครับ มันไม่มีประโยชน์เพราะมันไม่เคยฟัง ไม่เคยยอมรับเจตจำนงของเรา ดังนั้นเราจึงล่ะทิ้งมันและหาหนทางของเราเอง เขาหมกหมุ่นกับความปรารถนาของตัวเองมากเกินไป .... ศรัทธา ..ตอนนี้ผู้คนมีศรัทธาแบบเดียวกัน ในตัวพี่  ศรัทธา ว่าพี่จะเติมเต็มความฝันให้กับพวกเขา ความฝันของซิด ที่จะสร้างโลกใหม่ของเราให้ดีกว่าเดิม ศรัทธา ที่พี่เดินตามรอยเท้าพ่อและพยายามช่วยเหลือใครก็ตามที่ต้องการความอยู่รอดที่สุด ศรัทธา ว่าพี่จะตอบรับคำวิวอนของ จิล เพื่อให้พี่ปลอดภัย มันต่างกันก็คือ พี่เลือกที่จะรับฟังพวกเขา และนั่นคือสายสัมพันธ์ที่ผูกเราเข้าไว้ด้วยกัน สายสัมพันธ์ที่ทำให้พี่สามารถยืนหยัดสู้กับอัลติม่าในขณะที่เขาแข็งแกร่งที่สุด 

Joshua - พลังของเขาอาจจะสมบูรณ์ แต่ของเราก็เช่นกัน ของพี่ก็ด้วย และด้วยแสงสว่างของผมในหัวใจของพี่ แม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถหยุดเราได้ 

 

                             Clive - ไม่นะ โจชัวร์ 

                        Clive - ไม่ๆๆ อย่าทำแบบนี้ 

       Joshua - พอเถอะ ไคลฟ์ ร่างกายผมมาได้แค่นี้แหละ 

Joshua - ผมภูมิใจมาตลอด ที่พี่เป็นโล่ของผม แต่ตอนนี้ โลกทั้งใบกำลังต้องการพี่ ....ขอบคุณนะ ไคลฟ์ ที่เกิดมาเป็นพี่ชายของผม 

 

 

Clive - โจชัวร์ !! ฮื้อออ ๆๆ มองพี่สิ มองพี่ !!  ลืมตาขึ้นมา ลืมตาขึ้นมาสิไอ้เจ้าบ้าเอ้ยยยย !!  ทำไมนายถึงทำแบบนี้ !!? 

                     Clive - โจชัวร์ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! 

Ultma - และชิ้นส่วนสุดท้ายก็เข้ามาในสถานที่ของมันอย่างพอเหมาะพอดีแล้ว พิธีร่ายคาถาพร้อมแล้ว แต่ยังมีอีกภารกิจที่ยังเหลืออยู่ 

               Ultma - ….. ทำพาหะ ให้ว่างพร้อมบรรจุ 

 

 

 

 

           Clive - นายยังอยู่ที่นี่เสมอ ...อยู่กับชั้น จนจบนะ 

     Ultma - จนถึงตอนนี้ เจ้าก็ยังปฎิเสธสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่อีก 

        Clive - ก็อย่างที่เราเป็นมาตลอด และจะเป็นแบบนี้ตลอดไป !

 

Clive - ด้วยสิ่งนี้ ดาบของชั้น ชั้นขอสาบาน ที่จะเป็นโล่แห่งนกเพลิงชั่วนิรันดร์

 

 

                                 Last Boss - Ultima 

 

 

 

Ultma - ข้ารอเวลานี้มันนานนับศตวรรษแล้ว ช่วงเวลานี้ ข้าอาจจะมีความสุขไปกับการสรรสร้างของข้า เพียงแต่ว่า มันถูกดูหมิ่น ดังนั้น .....มันต้องถูกกำจัด!

Ultma - ไม่แน่ใจว่า ตอนนี้เจตจำนงของเจ้ายังคงเหมือนเดิมหรือไม่? 

Clive - แน่นอน และมันจะไม่มีวันจะถูกทำลายด้วย  

Ultma - แต่ข้าทำลายได้ เพราะมันขัดต่อประสงค์ของข้า 

Clive - ก็ลองสิ !!

                          Last Boss - Ultima [รอบ 2]

Ultma - ทำไม ? แรงแฝงใดที่สนับสนุนเปลวไฟนี้ ?? …. ข้าสัมผัสได้ ..นี่ไม่ใช่แค่ความมีมานะ ....นี่คือ Logos งั้นหรอ? … นี่เจ้าคิดว่าจะได้เป็นอิสระจริงๆหรอ!?  ....ไม่ !! ข้าไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้น !!  แกไม่ใช่พระเจ้า แกเป็นแค่ก้อนเนื้อและกระดูก แกไม่ใช่พวกเรา !!!

Ultima Risen - ข้าสร้างเจ้า …สร้างพวกเจ้าทุกคน !  และสิ่งใดที่เป็นของข้า ข้าก็มีสิทธิ์ที่จะทำลาย !!!

 

Clive - ครั้งนึง ใช่ แต่เราจะไม่เป็นของแกตลอดไปหรอก !!  ไฟของเราก็เป็นของเรา และมันจะมอดไหม้เป็นหนึ่งเดียว !!

 

 

Ultima Risen - นี่แกไม่เคยเรียนรู้อะไรเลยใช่มั๊ย? ทาสที่นำภัยมาสู่เจ้านายต้องถูกกำจัด !!

                  Last Boss - Ultima [รอบ 3] Ultima Risen

         Ultima Risen - ทำไม?  ..เป็นไปไม่ด้ายยยยยยยย !!!!!

 

                         Ultima -  ไม่ๆ ....ไม่จริง ... ไม่ !!!

 


Ultima -
  ประสงค์ของข้ามิอาจปฎิเสธได้ ..ต้องมีบางอย่างผิดพลาด

 

Clive - แกกลัวล่ะสิ แกก็เป็นแบบนี้ตลอดไม่ใช่หรอ?  ตั้งแต่เรื่องการเกิดของ Blight แล้ว ..แกมันอ่อนแอ แกคิดว่าเราจะเป็นอย่างอื่น แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาแล้วและมันสั่นคลอนแกถึงแก่นแท้เลยด้วย เพราะเราเห็นแล้วว่าตัวตนของแกรู้ดีว่าเรามีศักยภาพมากกว่าที่แกคิด และเป็นมากกว่าที่แกเคยเป็น ดังนั้นแกจึงหันหลังกับสิ่งที่แกสร้าง หันหลังให้กับโลก เหมือนพวกขี้ขลาด 

 

 

Ultima - เจ้าคิดว่าเจ้ารู้จักข้าดีงั้นหรอ? เจ้าไม่รู้อะไรเลย Logos ..ไม่รู้อะไรเลย !!!!

 

 

 

 

 

 

 

 

Ultimalius - อาบด้วยแสงที่สดใสและอยู่เหนือหัวเจ้า นั่นเป็นพระเจ้าพอมั๊ย? การเกิดใหม่ของข้าเสร็จสมบูรณ์แล้ว และการท้าทายของแกจะต้องถูกชดใช้ในราคาที่เหมาะ ด้วยความทรมารไปชั่วนิรันดร 

 

 

Clive - ความทุกข์ ความเจ็บปวด ความทรมาน แกไม่รู้จักเรื่องพวกนี้จริงๆหรอก! แต่พวกเรารู้ดี และมันทำให้เราต้องรวมตัวกัน เพราะมันจะทำให้เราแข็งแกร่งยังไงล่ะ 

 

 

                  Last Boss - Ultima [รอบ 4] Ultimalius

 

 

Ultimalius - ไม่ !!! ข้าคือแท่นบูชาที่พวกเจ้าอธิฐาน ! ข้าคือดวงตาที่เฝ้ามองพวกเจ้าทั้งหมดอยู่เบื้องบน !!!

 

 

Clive - แต่เสือกมองไม่เห็นเหี้ยอะไรเลย ! แกไม่ได้ดีไปกว่าพวกเราหรอก เราเป็นหนึ่งเดียวกัน !!  

 

Ultimalius - เราไม่มีวันเหมือนกัน !! ไม่มีมนุษย์คนไหนบังอาจมายืนเสนอหน้าเคียงข้างข้าได้ !!

 

 

 



 

                                 Flames Unforgiving !!

 

 

 

                       Clive - สถิตอยู่กับชั้น ฟินิกซ์ !!

 

                        Joshua - ทุกเวลา และ ตลอดไป

 

 

 

 


Clive - แน่นอนว่าแกอยู่บนจุดสูงสุดของโลกนี้ แต่แกกับปฎิเสธที่จะยอมรับสิ่งที่เกิดอยู่ในโลกเบื้องล่าง ..แกเลือกที่จะอยู่ตัวคนเดียว ดังนั้นมันทำให้แกพลาดโอกาสที่จะทำให้ได้เจอกับสิ่งที่จะทำให้แกแข็งแกร่งขึ้น ผลักไสมือที่อาจจะช่วยยกแกให้สูงขึ้นออกไป 

 

 

         Ultimalius - ข้าไม่ต้องการแก หรือ ใครหน้าไหนทั้งนั้น !!!

 

 

Clive - และนั่น คือสิ่งที่ทำให้เราต่างกัน เพราะชั้นคงไม่สามารถทำแบบนี้ได้ด้วยตัวคนเดียว ! ชั้นแบกรับความหวังและความฝันของเหล่าพวกฟ้องของชั้น น้องชายของชั้น และพวกเขาเป็นคนให้ความแข็งแกร่งกับชั้นเพื่อใช้โค่นบัลลังก์ของแก !!


             Ultimalius - ข้าไม่มีวันสูญสิ้น ...ไม่มีวัน !!!!!!!!!

 

 

          Ultimalius - โลกที่แกตามหามันเป็นเรื่องเพ้อฝัน !!!

 

 

Clive - เรื่องเพ้อฝันในที่นี้มีอยู่อย่างเดียว นั่นคือ แก และเราจะเป็นพยานกลุ่มสุดท้าย 

 

 

                              Ultimalius - ไม่มีวันน !!!!!!!!!

 





                                Ultimalius - อ๊ากกก !!

 


                       Clive - ชั้นก็บอกแล้วไงว่า มันจบแล้ว !!!!!

 

 

                

 

 


Ultima -
 ไหนบอกข้าหน่อยสิ …แกจินตนาการไว้ว่าจะเกิดอะไรกับโลกนี้ ? และตอนนี้ แกรู้สึกว่าได้รับอิสรภาพที่ล้ำค่าของแกรึยัง ? ..

 

 

Clive - บอกตรงๆว่าชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เดาว่า มันคงจะต้องดีกว่าเดิม เรื่องราวของความโศกเศร้าทุกข์ทรมานและความยากลำบากจะหมดไปล่ะมั้ง 

 

 

Ultima - ที่แกสู้อย่างเอาเป็นเอาตายก็เพื่อสิ่งนี้น่ะหรอ ....ทำไม ?

 

Clive - ก็มันคือสิ่งที่เราเป็น เราต่อสู้ เราเอาชีวิตรอด เราไม่ต้องมีเหตุผลหรอก เราก็แค่สิ่งมีชีวิตที่ไม่สมบูรณ์แบบ เมื่อเราพลาดสะดุดล้ม เราก็ลุกขึ้นมาใหม่

 

 

Clive - เรามองไปที่เส้นขอบฟ้าที่อยู่แสนไกลแล้วก็เดินต่อไป ทั้งที่รู้ว่าคำตอบที่อยากได้มันอยู่อีกไกล แต่เราก็ไป นั่นแหละวิถีของเรา 

 

Ultima - งั้นก็ยินดีด้วย จงเพลิดเพลินกับชัยชนะของเจ้า แต่ก็จำไว้ด้วยว่า ทุกอย่างมันสายเกินจะแก้แล้ว ...

 

 

 

Ultima - โลกของแกมันตายไปแล้ว ขอให้สนุกกับความเป็นอมตะของแกบนเปลือกที่ดำคล้ำของมันก็แล้วกัน ...

 


















Clive - ดูเหมือนพลังของ Ultima จะยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับพาหะนี้มาตลอด แต่ยังชั้นก็ได้มันมาแล้ว บางทีชั้นอาจใช้มันเพื่อแก้ไขสิ่งต่างๆให้ถูกต้องได้ ....และได้พบกับมรดกของ Ultima 

 

 

Clive - Bearers , Dominant , คริสตัล , เวทย์มนต์ จะเผามันให้มอดไหม้ทุกอย่างด้วยเปลวไฟนี่แหละ ... แม้มันจะหมายถึง จุดจบของชั้นก็ตาม 

 

 

                         Clive - ย๊ากกกกกกกกกกก !!!!




                   Clive - เพราะนี่คือ เป้าหมายของพวกเรา 

 














 

                     Clive - เธอกำลังดูมันอยู่เหมือนกันใช่มั๊ย จิล ....?

 



 

 

 

 

                                  🔶  Epilogue 🔶 

 

 

 

                          เด็กทารก - แง๊ ๆๆๆๆๆ แง๊ !!!

 

 

              Edda - ไง หนูไม่ใช่ยัยคนสวยของแม่ใช่มั๊ยเนี่ย..

 

 

Jill - น้องเป็นผู้ชายหรอคะ? 

Mid - ทำไมคุณถึงรู้ว่าเขาเป็นเด็กผู้ชายล่ะ 

 

 

Gav - ไหนๆๆๆ ของชั้นดูหน่อย !! ไง เจ้าตัวเล็ก ดูสิยิ้มให้ลุง Gav ด้วยหรอ?

Mid - จะแหกปากเสียงดังไปทำไมเจ้าบ้าเอ้ยย เด็กตกใจหมด

Gav - อะไร!! ชั้นก็แค่

Mid - ชูวว!! เบาๆ เดี๋ยวน้องกลัว !!

Edda - ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอจ้า 

 

 

 

 

 

 

 

Mid - คุณพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ หนูจะดูแกให้เอง 

Edda - ชั้นขออุ้มเค้าไว้ก่อนนะคะ

Gav - โลกเป็นของเจ้านายแล้วนะเจ้าหนู นายทำอย่างที่นายต้องการได้เลย แบบที่ซิดอยากให้เป็น แบบที่เขาทั้งคู่อยากให้เป็น 

 

 

 

 

 

 

             และ การเดินทางของเราก็จบลงเพียงเท่านี้

 

 

 

 

 

 

              ลูกชายคนโต - หนีไปเล่นต่ออีกแล้ว ทุกทีเลยจริงๆ 

 

แม่ - หนูจะจุดไฟเองหรอลูก 

ลูกชายคนโต - ใช่ครับแม่ 

 

 

ลูกชายคนโต - ไม่เอาน่า ติดเซ่ !! … นี่ถ้าชั้นมีไฟของ Eikon นะ 

แม่ - Eikon ? นี่หนูยังอ่านนิยายไร้สาระนั่นอยู่อีกหรอ? เวทย์มนต์น่ะมีแต่ในนิยาย และในนิยายเขาก็ไม่จุดไฟต้มน้ำหรอกนะ 

 

 

   แม่ - เห็นมั๊ย ติดแล้ว ที่นี่ระหว่างรอมื้อเย็นก็ไปเล่นกับน้องได้แล้วล่ะ 

 

 

ลูกชายคนเล็ก -พี่ครับ ออกมาเล่นกันเถอะ !! เร็วๆๆๆๆ 

ลูกชายคนโต - เออๆ รู้แล้วๆ 

 

 

ลูกชายคนโต - เอาล่ะ มาเล่นเรื่อง Saint and the Sectary กัน !!

ลูกชายคนเล็ก - ไม่เอา ผมไม่อยากเล่นเป็น Madu นี่

ลูกชายคนโต - ถ้างั้นจะเล่นอะไรล่ะ?

 

 

                                                                       FINAL FANTASY 

                                                                        By Joshua Rosfield 

 

 

ลูกชายคนเล็ก - เล่นเรื่อง War of the Eikon ดีกว่า !!

ลูกชายคนโต - เอางั้นหรอ? ก็ได้ 

 

 

ลูกชายคนเล็ก - ผมเล่นเป็น ifrit นะ

ลูกชายคนโต - ได้ไง แต่ชั้นเป็นพี่นะ

ลูกชายคนเล็ก - เพราะบาฮามุธบอกงั้นนี่นา ฮ่าๆๆๆ 

 

 

เมื่อการเดินทางครั้งหนึ่งสิ้นสุดลง  อีกการเดินทางหนึ่งก็เริ่มต้นขึ้น ..

 

 

 

                                     THE END 

 

 

-----------------------------------------------------------------------------

 

  💍 List of Accessories, Effects, and Locations

     รายละเอียด Accessories , Effects และ เงื่อนไขการได้รับ

 

                           Timely accessories 

         จะปลดล็อคเมื่อเลือก “Story Focused Mode"



🔴 Ring of Timely Strike
Effect : เมื่อส่วมใส่ การทำคอมโบที่ซับซ้อนต่างๆจะสามารถใช้งานได้ด้วยการกดสี่เหลี่ยมโจมตีปุ่มเดียว และ

ในจังหวะหลบสวนกลับจะมีการสโลว์เวลาพร้อมขึ้น R1 เตือนให้กด

 

🔴Ring of Timely Healing
Effect : เมื่อสวมใส่ Clive จะใช้ Potion เองอัตโนมัติทันทีที่ HP ต่ำกว่ากำหนด (การใช้เริ่มจาก Potion และ high potion

🔴Ring of Timely Evasion
Effect : เมื่อส่วมใส่ Clive จะหลบอัตโนมัติในขณะถูกโจมตี (จากการโจมตีที่สามารถหลบได้)

🔴Ring of Timely Focus
Effect : เมื่อส่วมใส่ จะมีการสโลว์เวลาขณะ Clive ถูกศัตรูโจมตี (เอฟเฟคของไอเทมนี้จะไม่ส่งผลหากใส่คู่กับ Ring of Timely Evasion

 

🔴Ring of Timely Assistance
Effect : เมื่อส่วมใส่ Torgal จะทำการช่วยโจมตีอัตโนมัติโดยไม่ต้องกดคอมมานด์คำสั่ง โดยจะเน้นโจมตีพร้อมกับ Clive เป็นหลัก

************************************************

     Patron’s Whisper Accessories (Renown Rewards)

Accessories ที่ใช้ Renown Points แลกเปลี่ยนที่ร้าน The Patron’s Whisper ใน The Hideaway

 

🔴Cleric's Medallion (205 Renown)

Effect : เพิ่มพลังการรักษาของ Potions + 40%

🔴High Cleric's Medallion (715 Renown)

Effect : เพิ่มพลังการรักษาของ High Potions ขึ้น 25%

🔴Talisman of Priming (1360 Renown)

Effect : เพิ่มระยะเวลาการใช้งานของ Lionheart Tonic: +30 วินาที

🔴Berserker Ring (85 Renown)

Effect : เพิ่มความสามารถในการโจมตี (ชั่วคราว) ในการใช้ Precision Dodge แต่ละครั้ง

🔴Ring of Swiftshot (1695 Renown)

Effect : ชาร์จ Magic Cooldown: -0.2 วินาที

🔴Genji Gloves (2365 Renown)

Effect : พลังโจมตีเพิ่มขึ้น + 5%

🔴Dire Wolf Jess (295 Renown)

Effect : เพิ่มความเสียหายคอมโบ 5%

 

************************************************

               Pre-order bonus accessory

 

🔴Ketsy’s Lucky Charm

Effect : เพิ่ม Gil ที่ได้รับหลังการต่อสู้ + 25%

 

🔴Scholar’s Spectacles

Effect : เพิ่ม EXP ที่ได้รับ 10%

 

*********************************************

                  All Accessories


🔴Badge of Might

ได้จาก กำจัดบอส Midnight Raven Main Quest : Fanning Embers

Effect : เพิ่มพลังโจมตี +7

 

🔴Badge of Might +1

ได้จาก Side Quest: Caulk and Bawl / Main Quest : The Gathering Storm

Effect : เพิ่มพลังโจมตี +10

 

🔴Badge of Mettle

ได้จาก Side Quest: Food for Thought / Main Quest: Hide, Hideaway

Effect : เพิ่มพลังป้องกัน +10

 

🔴Badge of Mettle +1

ได้จาก เคลียร์ Side Quest: A Culinary Pilgrimage / Main Quest : Here Be Monsters

Effect : เพิ่มพลังป้องกัน +30

 

🔴Blood Hawk Jess
ได้จาก > พบในหีบทางใต้ของ Greensheaves ใน Rosaria / Main Quest: Holding On
Effect : เพิ่มความเสียหายคอมโบกลางอากาศ (Aerical Combo) +8%

 

🔴Ring of the Marksman

ได้จาก > หีบที่ Sanbreque, Caer Norvent Glorieus Gate และ Mornebrume ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Sanbreque / Main Quest : Things Fall Apart

Effect : พลังโจมตีเวทย์: +10%

 

🔴Ring of the Demolitionist

ได้จาก > Side Quest: Duty Undying. 

เปิดหีบลูกแก้วสีน้ำเงินบนเส้นทางตะวันตกของ Gilded Path obelisk (Dhalmekia)
Effect : Magic Burst จะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น +15%

 

🔴Cleric's Medallion

ได้จาก > กำจัดบอส Chirada ใน Main Quest : Louder than Words

Effect : เพิ่มพลังการรักษาของ Potions + 20%

🔴Stoneskin Cuffs

ได้จาก

> Side Quest: A Culinary Pilgrimage / Main Quest: Here Be Monsters

>ซื้อจากร้าน Martha’s Rest.

Effect : เพิ่มระยะเวลาการใช้ Stoneskin Tonic ขึ้น 30 วินาที

 

🔴The Favor of Fire (Scarlet Cyclone)

 ได้จาก >กำจัดบอส Royal Tognvaldr / Main Quest : Headwind

Effect : เพิ่มความเสียหายของท่า Scarlet Cyclone + 8%

 

🔴The Breath of Fire (Scarlet Cyclone)         

ได้จาก > รางวัลเมื่อเคลียร์ Side Quest: Trading Places II / Main Quest : Across the Narrow

Effect : ลดระยะเวลาคูลดาวน์ Scarlet Cyclone: -3.3 วินาที

 

🔴The Will of Fire (Rising Flames)

 ได้จาก > กำจัดบอส Benedikta /Main Quest : Headwind

Effect : เพิ่มความเสียหายของท่า Rising Flames +10%

 

🔴The Favor of Fire (Heatwave)

 ได้จาก > กำจัดบอส Suparna และ Chirada /Quest : Headwind

Effect : เพิ่มความเสียหายของท่า Heatwave +9%

 

🔴The Golden Testament

 ได้จาก > ร้าน Charon’s Tool Shop, The Hideaway./ Main Quest: After the Storm

Effect : เพิ่ม Gil ที่ได้รับจากการต่อสู้+ 35%

 

🔴On Fortune and the Heavens

 ได้จาก > ร้าน Charon’s Tool Shop, The Hideaway./ Main Quest: After the Storm ใน New Game +

Effect : เพิ่ม EXP ที่ได้รับ +15%

 

🔴The Wages of Warcraft

ได้จาก > ร้าน Charon’s Tool Shop, The Hideaway ราคา15,000 Gil และใน Lostwing ราคา 15,000 Gil ช่วง Main Quest : After the Storm ใน New Game +

Effect : เพิ่ม ability points ที่ได้รับ+ 20%

 

 

🔴Griffin’s Head Braid

ได้จาก > ใน Main Quest : Righting Wrongs อยู่ในหีบหลัง Dragon Aevis บนเส้นทางแคบๆ ระหว่าง Lostwing กับ Claireview มีพื้นที่โล่งเล็กๆ ที่เรียกว่า Old Road 

Effect : เพิ่มความเสียหายจาก Burning Blade 7 %

 

🔴Bull’s Horn Braid

ได้จาก > เปิด orb สีขาว ระหว่างทางตะวันตกเฉียงใต้ของ Lostplume, Shallop Rock

Effect : ความรุนแรงของการโจมตีท่า Lunge +5%

 

🔴The Favor of Wind (Gouge)

ได้จาก >กำจัดบอส Fallen Guardian ตัวแรก ใน Main Quest : Buried Memories

Effect : เพิ่มความเสียหายของท่า Gouge 15%

 

🔴The Will of Wind (Rook's Gambit)

 ได้จาก > กำจัดบอส Fallen Guardian ตัวที่ 2 ใน Main Quest : Buried Memories

Effect : เพิ่มความเสียหายของท่า Rook's Gambit 10%

 

🔴The Favor of Wind (Wicked Wheel)

ได้จาก > กำจัดบอส  Iron Giant / Main Quest : Buried Memories

Effect : เพิ่มความเสียหายของท่า Wicked Wheel 10%

 

🔴The Favor of the Inferno (Ignition)

 ได้จาก >กำจัดบอส Imperial Cannonier / Main Quest : The Crystals’ Curse

Effect : เพิ่มความเสียหายของท่า Ignition 12%

 

🔴The Breath of Fire (Flame of Rebirth)

ได้จาก >กำจัดบอสใน Main Quest : The Crystals’ Curse

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ของท่า Flames of Rebirth ลง 12.0 วินาที

🔴The Breath of Fire (Rising Flames)   

ได้จาก > รางวัลจากเควสเสริม: The Weight of Command ที่จะมีให้ทำหลังจากจบ Main Quest: Getting to Work

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ท่า Rising Flames: -2 วินาที

 

🔴The Breath of Wind (Gouge)

 ได้จาก >เคลียร์ Side Quest: The Gathering Storm 

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ของท่า Gouge ลง 3.0 วินาที

 

🔴The Breath of Wind (Aerial Blast)

 ได้จาก > กำจัดบอส Akashic Minotaur /Main Quest : Fire and Ice

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ของ Aerial Blast ลง 11.0 วินาที

🔴The Break of Wind (Wicked Wheel)

ได้จาก >รางวัลจาก Side Quest: For Great Justice II

Effect : ลดระยะเวลา คูลดาวน์ Wicked Wheel: -2.7 วินาที

 

🔴The Grace of the Inferno (Will-o’-the-Wykes)

 ได้จาก >กำจัดบอส Ironblood Fanatic / Main Quest : Fire and Ice

Effect : เพิ่มระยะเวลา Will-o’-the-Wykes ขึ้น 5 วินาที

🔴The Breath of Inferno (Ignition)

ได้จาก > รางวัลจาก Side Quest: Hot Water มีให้ทำหลังจากจบ Main Quest: Follow the Crystals

Effect : ลดระยะเวลาคูลดาวน์ -2.2. วินาที

 

🔴The Breath of Lightning (Pile Drive)

ได้จาก > รางวัลจาก Side Quest: Trial and Error

Effect : ลดระยะเวลา คูลดาวน์ Pile Drive -4.2 วินาที

 

🔴The Will of Lightning (Pile Drive)

ได้จาก เปิดหีบทางซ้ายของบันไดขนาดใหญ่ในขณะที่มุ่งหน้าไปยังประตูปราสาท / Main Quest : Capital Punishment

Effect : Pile Drive จะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น + 10%

 

🔴The Breath of Earth (Windup)

ได้จาก >ดรอปจาก บอส Necrophobe ใน Main Quest: Fire in the Sky

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ของ Windup ลง 3.0 วินาที


🔴The Breath of Earth (Upheaval)

ได้จาก >รางวัลจาก side Quest: Onward to Discovery ซึ่งจะมีให้ทำหลังจากจบ Main Quest: Blood from the Stones

Effect : ลดระยะเวลาคูลดาวน์ท่า Upheaval  -3.5 วินาที

 

🔴The Breath of Earth (Earthen Fury)           

ได้จาก > Main Quest : Through the Maelstrom 
หลังจากต่อสู้บนดาดฟ้าเรือด้านบนแล้ว เมื่อคุณผ่านประตูกลับไปด้านล่างดาดฟ้าเรือ ไอเทมนี้จะอยู่ทางซ้ายของทางเดินก่อนลงบันได

Effect : ลดระยะเวลา คูลดาวน์ Earthen Fury -13.5 วินาที

 

🔴The Favor of Lightning (Lightning Rod)

 ได้จาก > Main Quest #43: Into the Darkness
ครั้งที่สองที่คุณดึงสวิตช์เพื่อเปิดประตูบานใหญ่ ไอเทมนี้ จะอยู่ในหีบที่อยู่อีกด้านหนึ่ง

Effect : เพิ่มความเสียหายของ Lightning Rod 9%

 

🔴The Favor of Lightning (Thunderstorm)

 ได้จาก > กำจัดบอส Defeat The Undertake / Main Quest : Into the Darkness

Effect : เพิ่มความเสียหายของ Thunderstorm 10%

 

🔴The Favor of Earth (Upheaval)

 ได้จาก > เปิดหีบข้างเตียงหลังฉากคัทซีนที่ห้องคุปก้า / Main Quest : Into the Darkness

Effect : เพิ่มความเสียหายของ Upheaval 8%

 

🔴The Breath of Lightning (Thunderstorm)

ได้จาก > จบ Main Quest : Blood from the Stones

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ Thunderstorm ลง 2.7 วินาที

 

🔴The Eye of the Warrior

 ได้จาก >

จบ Main Quest : Letting Off Steam II

เคลียร์ Sub-Quest: Out of the Shadow

Effect : เพิ่มระยะเวลาของการใช้ไอเทม Strength Tonic ขึ้น 10 วินาที

 

🔴The Favor of Earth (Raging Fists)

 ได้จาก >กำจัดบอส Dragoon Lancer ตัวที่ 2 / Main Quest : Fire in the Sky

Effect : เพิ่มพลังโจมตี Raging Fists 10%

 

🔴The Breath of Lightning (Judgment Bolt)

ได้จาก > อยู่ในหีบระหว่างทางหลังกำจัดบอส White Dragon และ Lich ใน Main Quest : Fire in the Sky

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ของ Judgement Bolt ลง 9.0 วินาที

 

🔴The Favor of Earth (Windup)

ได้จาก >กำจัดบอส Necrophobe ใน Main Quest : Fire in the Sky

Effect : เพิ่มความเสียหายของท่า Windup +10%

 

🔴The Will of Ice (Rime)

ได้จาก > Main Quest : Streets of Madness

อยู่ในหีบทางด้านซ้ายของประตูบานแรก

Effect : ความเสียหายจาก Rime เพิ่มขึ้น +30%

 

🔴The Will of Light (Impulse)

 ได้จาก >กำจัดบอสใน Main Quest : Through the Maelstrom

Effect : เพิ่มความเสียหายของท่า Impulse +10%

 

🔴 The Favor of Ice (Ice Age)

ได้จาก >Main Quest: The Last King

เปิดหีบหลังประตูที่มี Purple Flan คอยคุ้มกันหลังจากขึ้นลิฟต์ตัวที่สอง

Effect : เพิ่มความเสียหายของท่า Ice Age +10%

 

🔴The Will of Ice (Mesmerize)

ได้จาก >กำจัดบอส Soultaker ใน  Main Quest : The Last King

Effect : เพิ่มความเสียหายของท่า Mesmerize +10%

 

🔴The Will of Light (Satellite)

ได้จาก > ในหีบสมบัติใน Main Quest : Streets of Madness

Effect : เพิ่มความเสียหายของท่า Satellite +10%

 

🔴The Pull of Darkness (Dancing Steel)

 ได้จาก > รางวัลหลังจากเอาชนะ Ultima ใน Main Quest : Streets of Madness

Effect : เพิ่มอัตราที่ Dancing Steel เติมเกจ Zantetsuken ขึ้น 25%

 

🔴Channeler's Whispers

ได้จาก > ซื้อจากร้าน Charon’s Tool Shop, The Hideaway./ Main Quest : Home, Sweet Home

Effect : ชาร์จเวทมนตร์คาถาโดยอัตโนมัติและคงประจุไว้จนกว่าจะร่ายหลังจากเรียนรู้ความสามารถ "Charged Magic"

 

🔴Crimson Tassels

ได้จาก > ซื้อจากร้าน Charon’s Tool Shop, The Hideaway./ Main Quest : Home, Sweet Home

Effect : เพิ่มขีดจำกัดการสร้างความเสียหาย + 3% เมื่อโจมตีศัตรู

🔴Cobalt Tassels

ได้จาก > ซื้อจากร้าน Charon’s Tool Shop, The Hideaway ราคา 24,000 Gil/ Main Quest : Home, Sweet Home

Effect : สะสมพลัง limit break  มากขึ้นเมื่อได้รับความเสียหาย: +6%

 

🔴The Breath of Fire (Heatwave)

ได้จาก > หลังจากคุยกับ Cid หรือซื้อที่ The Hideaway ใน Main Quest : Righting Wrongs

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ของ Heatwave ลง 2.7 วินาที

 

🔴The Breath of Wind (Rook's Gambit)

ได้จาก >ซื้อที่ร้าน Charon’s Tool Shop, The Hideaway./ Quest : The Wages of Guilt

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ของ Rook's Gambit ลง 2.7 วินาที

 

🔴The Breath of Darkness (Heaven's Cloud)

 ได้จาก > ซื้อจากร้านค้าใน Dhalmekia > Boklad ใน Main Quest : Brotherhood

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ของ Heaven's Cloud ลง 2.5 วินาที

 

🔴The Breath of Lightning (Lightning Rod)

 ได้จาก >ซื้อจากร้านใน The Dalimil Inn, Dhalmekia. ราคา 12,200 Gil. / Main Quest : Riddle of the Sands

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ของ Lightning Rod ลง 5.0 วินาที

 

🔴The Breath of Darkness (Rift Slip)

ได้จาก >ซื้อที่ The Dalimil Inn, Dhalmekia ใน Main Quest : Brotherhood

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ของ Rift Slip ลง 0.5 วินาที

 

🔴The Breath of Darkness (Dancing Steel)

ได้จาก > มีจำหน่ายที่ร้าน Dravozd หลังจากได้รับ Odin Eikon

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ของ Dancing Steel ลง 4.5 วินาที

 

🔴The Breath of Darkness (Gungnir)   

ได้จาก > รางวัลจาก Side Quest: Trial and Error ใน Main Quest : Back to Their Origin

Effect : ลดเวลาการคูลดาวน์ Gungnir 2 วินาที

 

🔴The Will of Darkness (Gungnir)

 ได้จาก > มีจำหน่ายที่ร้าน Tabor หลังจากได้รับ Odin Eikon

Effect : เพิ่มความเสียหายของท่า Gungnir +30%

 

🔴The Breath of Light (Satellite)

ได้จาก >ซิ้อจากร้าน Martha’s Rest. ราคา 20,000 Gil. ใน Main Quest : Across the Narrow

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ของ Satellite ลง 4.0 วินาที

 

🔴The Breath of Light (Flare Breath)

ได้จาก > รางวัลจากเควสเสริม: Smooth Like Butler มีให้หลังจากทำเควสหลัก 3 เควสต์ Why We Fight / The Flames of War / Down the Rabbit Hole สำเร็จ และหลังจากได้คุยกับ Otto เกี่ยวกับความคืบหน้าของเรื่องราวแล้ว

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ Flare Breath: -2.7 วินาที

 

🔴The Breath of Ice (Mesmerize)

ได้จาก > รางวัลจาก Side Quest: Litany of Errors ใน Main Quest: Back to Their Origin

Effect : ลดระยะเวลา คูลดาวน์ Mesmerize -1.2 วินาที

 

🔴The Breath of Light (Impulse)  

ได้จาก > รางวัลจาก Side Quest: Lines in the Sand II ใน Main Quest : Back to Their Origin

Effect : ลดเวลาการคูลดาวน์ Impulse -2 วินาที

 

🔴The Breath of Ice (Rime)

 ได้จาก >  ซิ้อจากร้าน Martha’s Rest. ราคา 35,000 Gil. ใน Main Quest : Across the Narrow

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ของ Rime ลง 2.0 วินาที

 

🔴The Breath of Earth (Raging Fists)

ได้จาก > มีจำหน่ายที่ร้านค้า Northreach ระหว่างภารกิจหลัก "Letting Off Steam III"

Effect : ลดเวลาคูลดาวน์ Raging Fists ลง 3.5 วินาที

 

🔴Favor of Darkness (Heaven’s Cloud)

ได้จาก >ซื้อที่ร้าน Northreach Shop, Sanbreque ใน Main Quest : Brotherhood

Effect : เพิ่มความเสียหายของ Heaven’s Cloud 15%

 

🔴The Favor of Fire (Flames of Rebirth)

ได้จาก > กำจัดบอส Phoenix chronolith ใน Main Quest : Back to Their Origin

Effect : เพิ่มความเสียหายของ Flames of Rebirth 8%

 

🔴The Will of Wind (Aerial Blast)

 ได้จาก > กำจัดบอส Garuda chronolith ใน Main Quest : Back to Their Origin

Effect : เพิ่มความเสียหายของ Aerial Blast  12%

 

🔴The Favor of Lightning (Judgment Bolt)

ได้จาก > กำจัดบอส Ramuh chronolith ใน Main Quest : Back to Their Origin

Effect : เพิ่มความเสียหายของ Judgment Bolt 6%

 

🔴The Favor of Earth (Earthen Fury)

ได้จาก >กำจัดบอส Titan chronolith ใน Main Quest : Back to Their Origin

Effect : เพิ่มความเสียหายของ Earthen Fury 7%

 

🔴The Favor of Light (Gigaflare)

 ได้จาก > กำจัดบอส Bahamut chronolith ใน Main Quest : Back to Their Origin

Effect : เพิ่มความเสียหายของ Gigaflare 5%


🔴The Favor of Light (Flare Breath)     

ได้จาก > กำจัดบอส Orccish Warlord ใน Main Quest : Evenfall

Effect : ความเสียหาย Flare Breath: เพิ่มขึ้น +12%

 

🔴The Will of Ice (Diamond Dust)

ได้จาก >กำจัดบอส Shiva chronolith ใน Main Quest : Back to Their Origin

Effect : เพิ่มความเสียหายของ Diamond Dust 10%

 

🔴The Will of Darkness (Dancing Steel)

ได้จาก > กำจัดบอส Odin Chronolith ใน Main Quest : Back to Their Origin

Effect : เพิ่มความเสียหายของ Dancing Steel 20%

 

🔴Breath of Ice (Ice Age)     

ได้จาก > เคลียร์ Side Quest: Duty Undying ใน Main Quest : Across the Narrow

Effect : ลดระยะเวลาคูลดาวน์ Ice Age: -1.5 วินาที

 

🔴Bahamut’s Mercy (Gigaflare)

ได้จาก > เคลียร์ Side Quest: A Tail to Tell ใน Main Quest : Back to Their Origin

Effect : ลดระยะเวลาคูลดาวน์ Gigaflare: +6 วินาที

 

🔴Adamantite Gauntlets

ได้จาก >เปิด Orb Chest ภายในถ้ำ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Edge of Infinity obelisk. ใน Main Quest : Footfalls in Ash

Effect : HP สูงสุด: +500

 

🔴Cavall’s Fang +1     

ได้จาก > รางวัลจาก side quest, "A Bone to Pick"

Effect : พลังโจมตีของ Torgal: +1

 

🔴Kestrel’s Beak Braid

ได้จาก > ระหว่าง Side Quest: Trial and Error ใน Main Quest : Back to Their Origin หลังจากเอาชนะ Tot Aevis (เป้าหมายของภารกิจ) มันอยู่ในหีบที่หอคอย ถัดจากตำแหน่งที่คุณต่อสู้กับศัตรูตัวนี้


Effect : ความเสียหายจาก Downthrust  +20%

🔴Shiva’s Kiss (Diamond Dust)

ได้จาก > เคลียร์ Side Quest: Priceless ใน Main Quest : Back to Their Origin

Effect : ลดเวลาการคูลดาวน์ Diamond Dust: -7.5 วินาที

 

 Source

https://www.powerpyx.com/final-fantasy-16-xvi-all-accessory-locations/

https://game8.co/games/Final-Fantasy-XVI/archives/414895

https://samurai-gamers.com/final-fantasy-xvi-ff16/accessory-list-10/

 

-----------------------------------------------------------------------------

 

                            All Weapon Locations

 

1.Imperial Infantry Blade (75 Damage) – อาวุธเริ่มต้น

2.Broadsword (80 Damage) – มีให้ซื้อ/ประดิษฐ์ใน The Hideaway ในช่วง Main Quest : Hide, Hideaway

3.Longsword ( 95 หน่วย Damage ) – สามารถซื้อ/ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ในช่วง Main Quest : The Wages of Guilt

4.Bastard Sword (110 Damage) – สามารถซื้อ/ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ในช่วง Main Quest : The Wages of Guilt

5 Stormcry (135 Damage) – ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ช่วง Main Quest : The Wages of Guilt

  1. Gaia Blade (140 Damage) – สามารถซื้อ/ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ในช่วง Main Quest : The Hunter and the Hunted
  2. Invictus (165 Damage) – ได้รับโดยอัตโนมัติระหว่าง Main Quest : Holding On

8 Flametongue (180 Damage) – ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ช่วง Main Quest : Buried Memories

  1. Coral Sword (185 Damage) – พบในหีบที่เหมืองใน Drake's Head ระหว่าง Main Quest : The Crystals’ Curse 
  2. Levinbolt (195 Damage) – ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ช่วง Main Quest: Home, Sweet Home
  3. Platinum Sword (200 Damage) – มีให้ซื้อ/ประดิษฐ์ใน The Hideaway ช่วง Main Quest: After the Storm
  4. Grindstone (225 Damage) – ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: Getting to Work

13.Enhancer (230 Damage) – มีให้ซื้อ/ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest : Out of the Shadow

  1. Diamond Sword (245 Damage) – ซื้อจาก Goetz ได้ที่ Crystalline Dominion
  2. Ancient Sword (252 Damage) – พบในหีบสมบัติใน Dhalmekia > The Steps of the Forgotten ระหว่าง Side Quest: Live and Let Live

 

  1. Excalibur  (268 Damage) – สามารถประดิษฐ์ได้หลังจากทำ Side Quest: Blacksmith’s Blues II  สำเร็จ 
  2. Brightburn (270 Damage) – ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ช่วง Main Quest: Things Fall Apart
  3. Rune Blade (275 Damage) – สามารถซื้อ/ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ช่วง Main Quest: A Song of Hope
  4. Icebrand (300 Damage) – ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ช่วง Main Quest : Across the Narrow
  5. Masamune (310 Damage) – พบในหีบข้าง Notorious Mark: Pandemonium ที่ Waloed > The Shadow Coast > Skaithfarr ใน Main Quest : Footfalls in Ash

 

  1. Everdark (315 Damage) – ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ช่วง Main Quest: Brotherhood
  2. Defender (320 Damage) – มีให้ซื้อ/ประดิษฐ์ใน The Hideaway ช่วง Main Quest: Streets of Madness
  3. Gotterdammerung (375 Damage) – สามารถสร้างได้หลังจากแบบแปลนจาก Side Quest: Blacksmith’s Blues IV
  4. Stormcry Reforged (385 Damage) – สร้างได้ใน New Game+ พร้อมใช้งานโดยอัตโนมัติจากความคืบหน้าของเรื่องราว
  5. Flametongue Reforged (430 Damage) – สร้างได้ใน New Game+ พร้อมใช้งานโดยอัตโนมัติจากความคืบหน้าของเรื่องราว
  6. Levinbolt Reforged (445 Damage) – สร้างได้ใน New Game+ พร้อมใช้งานโดยอัตโนมัติจากความคืบหน้าของเรื่องราว
  7. Grindstone Reforged (475 Damage) – สร้างได้ใน New Game+ พร้อมใช้งานโดยอัตโนมัติจากความคืบหน้าของเรื่องราว

28.Brightburn Reforged (520 Damage) – สร้างได้ใน New Game+ พร้อมใช้งานโดยอัตโนมัติจากความคืบหน้าของเรื่องราว

29.Icebrand Reforged (550 Damage) – สร้างได้ใน New Game+ พร้อมใช้งานโดยอัตโนมัติจากความคืบหน้าของเรื่องราว

  1. Everdark Reforged (565 Damage) – สร้างได้ใน New Game+ พร้อมใช้งานโดยอัตโนมัติจากความคืบหน้าของเรื่องราว
  2. Ultima Weapon (700 Damage) 

 

                               เงื่อนไขการสร้างดาบอัลติม่า

วัตถุดิบในการสร้าง Ultima Weapon

  1. Utterance of Creation 
  2. Everdark Reforged 
  3. Gotterdammerung Reforged 

 

วิธีรวบรวมวัตถุดิบทั้ง 3 สามารถทำได้ดังนี้ 

-หลังจากจบการเล่นรอบแรก เซฟจบจะมีไอคอนรูปดาวอยู่ กลับไปที่ Title Screen > New Game+ > FINAL FANTASY MODE > Import the clear save.

 

ส่วนผสมแรก Utterance of Creation 

เมื่อเริ่ม New Game+ ในโหมด Final Fantasy แล้ว “Utterance of Creation” จะถูกเพิ่มเข้าไปในคลังของคุณโดยอัตโนมัติ นี่คือ 1 ใน 3 ส่วนผสมที่จำเป็นในการสร้างดาบอัลติมา 

ข้อสำคัญ: การเริ่มเกมใหม่+ ในระดับความยากที่ต่ำกว่าจะไม่ให้เนื้อหานี้ หมายความว่าคุณไม่สามารถสร้าง Ultima ในระดับความยาก “Story Focused” หรือ “Action Focused”

 

ส่วนผสมที่สอง "Everdark Reforged"

-ดำเนินเรื่องใน New Game+ไปจนถึง Main Quest #64: The Last King อีกครั้ง  เมื่อเอาชนะ Barnabas ซึ่งเป็นบอสหลักในภารกิจนี้ได้ คุณจะได้รับวัตถุดิบชื่อ “Flawless Dark Shard“ นำสิ่งนี้ไปที่ Blacksmith เพื่อสร้าง "Everdark Reforged" นี่คือส่วนผสมที่สองสำหรับ Ultima Weapon

ส่วนผสมที่สาม “Gotterdammerung Reforged”

หมายความว่าคุณจะต้องสร้าง Gotterdammerung อีกครั้ง กระบวนการสร้างก็เหมือนรอบแรกทุกประการ

 ทำ side quests  Blacksmith Blues I-IV แล้วรวบรวมวัสดุเพื่อสร้าง Gotterdammerung 

-Side quests: Blacksmith’s Blues I – มีให้ทำใน Main Quest : Here Be Monsters ของ August ใน The Hideaway 

-Side quests: Blacksmith’s Blues II – มีให้ทำใน Main Quest : Letting Off Steam III และคุยกับ Mid ใน The Hideaway 

-Side quests: Blacksmith’s Blues III –  มีให้ทำใน Main Quest : Like Father, Like Daughter ของ August ใน The Hideaway 

-Side quests: Blacksmith’s Blues IV – มีให้ทำใน Main Quest: Across the Narrow ของ August ใน The Hideaway

 

เมื่อจบ Blacksmith’s Blues IV ก็จะปลดล็อก Design Draft ของ Gotterdammerung Reforged มา ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถ ประดิษฐ์ และ อัพเกรด Gotterdammerung Reforged กับ Blacksmith ได้ และจะได้วัตถุดิบแรกในการสร้าง Gotterdammerung Reforged นั่นคือ “Ragnarok” หลังจบเควสด้วย 

 

- จากนั้นคุณต้องใช้วัตถุดิบ Orichalcum 3 ชิ้น

 

Orichalcum ชิ้นแรก 

ดร์อปจาก Notorious Mark: The Breaker of Worlds / Atlas. ใน Rosaria > Eastpool > Cressidia ใน Main Quest: Out of the Shadow.

Orichalcum ชิ้นที่ 2

 ดร์อปจาก Notorious Mark: The Tricephalic Terror / Gorgimera. ที่ Dhalmekia > The Velkroy Desert ใน Main Quest : Across the Narrow.

Orichalcum ชิ้นที่ 3

รางวัลสำหรับการทำ Side Quest Side Quest: Under New Management II. ในMain Quest #67: Back to Their Origin ซึ่งเป็นเควสหลักสุดท้ายก่อนถึงบอสใหญ่

 

รวบรวม Flawless Darksteel 2 อัน

 

อันแรก ดอร์ปโดย  Notorious Mark: Usher to the Underworld / Thanatos.(ซึ่งอยู่ที่ Dhalmekia > The Gilded Path > Titan’s Wake ) ใน Main Quest: Brotherhood.

อันที่ 2 

 ดอร์ปโดย Notorious Mark: The Grim Reaper / Prince of Death. (ซึ่งอยู่ใน Sanbreque > Royal Meadows )  ซึ่งจะเกิดหลังจากทำ Side Quest: Under New Management II สำเร็จ ใน Main Quest #67: Back to their Origin

 

รวบรวม Flawless Battlehorn 1 อัน 

ซึ่งดอร์ปจาก Notorious Mark: Gobermouch. (ซึ่งอยู่ใน Waloed > Eistla) ใน Main Quest : Brotherhood.

 

นำวัตถุดิบทั้งหมดที่ได้ 

Ragnarok 1 ชิ้น

Orichalcum 3 ชิ้น

Flawless Darksteel 2 ชิ้น

Flawless Battlehorn 1 ชิ้น

ไปให้ blacksmith ใน Hideaway เพื่อสร้าง Gotterdammerung Reforged.

 

ตอนนี้คุณมีวัสดุทั้งหมด 3 อย่าง:

 Utterance of Creation (ได้ตั้งแต่เริ่ม New Game +)

 Everdark Reforged (ประดิษฐ์ได้หลังจากเอาชนะ Barnabas ใน New Game +)
 Gotterdammerung Reforged (จากการประดิษฐ์ Gotterdammerung ใน New Game +)

 

นำเอาวัตถุดิบทั้งหมดไปให้ Blacksmith ใน The Hideawa สร้าง Ultima Weapon ได้เลย 

 

Source

https://www.powerpyx.com/final-fantasy-16-xvi-all-weapon-locations/

https://www.powerpyx.com/final-fantasy-16-xvi-how-to-craft-ultima-sword/

 

                      All Armor Locations

 

           

                                             Belts   

 

  1. Imperial Infantry Belt (พลังป้องกัน15 )
    – อุปกรณ์เริ่มต้น

 

  1. Iron Belt (พลังป้องกัน 23)

– มีให้ซื้อ/สร้างใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: Hide, Hideaway

 

3.Wolfskin Sash (พลังป้องกัน 25)

 – สามารถซื้อ/ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: The Wages of Guilt

 

  1. Dark Sash (พลังป้องกัน 30 )

– สามารถซื้อ/ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: The Wages of Guilt

 

  1. Goldwork Sash (พลังป้องกัน 36  / พลังชีวิต 6 )

– สามารถซื้อ/ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: The Wages of Guilt

 

  1. Metian Cross (พลังป้องกัน 45 / พลังชีวิต 12)

– รางวัลอัตโนมัติตามเนื้อเรื่อง จาก Main Quest: Holding On

 

  1. Demontamer’s Sash (พลังป้องกัน 48 / พลังชีวิต 14)

– พบในหีบที่หอคอยทางตะวันตกของ Royal Meadows (ทางตะวันตกของ Moore) ระหว่าง Main Quest: The Dame

 

  1. Platinum Belt  (พลังป้องกัน 50)

– มีให้ซื้อ/สร้างใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: After the Storm

 

  1. Hunter’s Waistcloth (พลังป้องกัน 55 / พลังชีวิต 13 ) 

– มีให้ซื้อ/สร้างใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: Getting to Work

 

10.Mythril Belt (พลังป้องกัน 64 / พลังชีวิต 20) 

– พบในหีบสมบัติใน Ceratina ซากปรักหักพังทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Dhalmekia > The Velkroy Desert เข้าถึงได้ใน Main Quest #41: Riddle of the Sands

 

  1. Silken Sash (พลังป้องกัน 66) 

– สามารถซื้อ/สร้างได้ใน The Hideaway (จำเป็นต้องได้รับการยืนยันเมื่อมีให้ แต่จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติจากเรื่องราว)

 

  1. Drakeslayer’s Belt (พลังป้องกัน 74 / พลังชีวิต 23 )

– สามารถสร้างได้หลังจากทำ Side Quest: Blacksmith’s Blues ระหว่าง Main Quest: Here Be Monsters

 

  1. Rune Belt (พลังป้องกัน 75 / พลังชีวิต 20)

– พร้อมให้ซื้อ/สร้างใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: A Song of Hope

 

  1. Circle of Heaven (พลังป้องกัน 85  / พลังชีวิต 24) 

– สามารถซื้อ/สร้างได้ใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: Streets of Madness และยังซื้อได้จาก Goetz ในระหว่างภารกิจนี้ด้วย

 

  1. Ouroboros (พลังป้องกัน 95 / พลังชีวิต 32)

– สามารถคราฟต์ได้หลังจากทำ Side Quest: Blacksmith’s Blues III สำเร็จ

                                              Vambraces

 

  1. Imperial Infantry Bracers (พลังป้องกัน 15 )
    – อุปกรณ์เริ่มต้น

 

  1. Iron Bracers (พลังป้องกัน 20 )

– พร้อมให้ซื้อ/สร้างใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: Hide, Hideaway

 

3.Traveler’s Bands (พลังป้องกัน 25 )

– มีให้ซื้อ/ประดิษฐ์ใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: The Wages of Guilt

 

  1. Steel Crowns (พลังป้องกัน 30 )

– มีให้ซื้อ/สร้างใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: The Wages of Guilt

 

  1. Battlechains (พลังป้องกัน 35)

– สามารถซื้อ/สร้างได้ใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: The Wages of Guilt

 

  1. Metian Bonds (พลังป้องกัน 45 /พลังชีวิต 12)

– ได้ตามเนื้อเรื่องจาก Main Quest: Holding On

 

  1. Platinum Cannons (พลังป้องกัน 49 )

– มีให้ซื้อ/ประดิษฐ์ใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: After the Storm

 

  1. Hunter's Armcloth (พลังป้องกัน 56 )

– สามารถซื้อ/ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: Getting to Work

 

9.Mythril Wristlets (พลังป้องกัน 64 / พลังชีวิต 20 )

– ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: Fire and Ice

 

  1. Diamond Armlets (พลังป้องกัน 65)

– พบในหีบระหว่าง Main Quest #36: Fire and Ice ตรงที่ต่อสู้กับ Red Mousse 

 

  1. Drakeslayer’s Bracelets (พลังป้องกัน 74 / พลังชีวิต 23 )

 – ประดิษฐ์ได้ใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: Getting to Work

 

  1. Rune Crescents (พลังป้องกัน76  /พลังชีวิต 23 )

– มีให้ซื้อ/ประดิษฐ์ใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: A Song of Hope

 

13.Sun Bracelets (พลังป้องกัน 86 / พลังชีวิต 26)

– มีให้ซื้อ/สร้างใน The Hideaway ระหว่าง Main Quest: Streets of Madness และสามารถซื้อได้จาก Goetz ในระหว่างภารกิจนี้ด้วย 

 

  1. The Founder’s Grasp (พลังป้องกัน 94 / พลังชีวิต 50)

– ได้จาก Side Quest: Where There’s a Will ระหว่าง Main Quest : Back to their Origin, 

 

15.The Sons of Ouroboros (พลังป้องกัน 97 / พลังชีวิต 32)

–ประดิษฐ์ได้หลังจากได้แบบแปลนเมื่อเคลียร์ Side Quest "Blacksmith's Blues III"

** ซึ่งก่อนจะปลดล็อคเควส Blacksmith's Blues III  คุณต้องทำเควสเนื้อเรื่องหลัก Like Father, Like Daughter ให้สำเร็จ และทำ Blacksmith’s Blues II ให้จบก่อนด้วย

 

Source 

https://www.powerpyx.com/final-fantasy-16-xvi-all-armor-locations/

https://game8.co/games/Final-Fantasy-XVI/archives/416024

เครดิต
Credit

ตัวละคร.
CHARACTER.


ข้อมูลเบื้องต้น
Basic information


ข้อมูลที่น่าสนใจ
ARRTICLE INTERESTING


ความลับ ,โกงเกม
Secrets, Cheat Game


เว็บไซต์:ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
Related Website

ยูทูป เกมส์มิ่ง
Gaming - YouTube

เกมที่เกี่ยวข้อง
Related games

ดาวน์โหลดเกม
GAME DOWNLOAD