บทที่ 8: เมืองท่าแห่งวาร์เรน

นี่คือการเผชิญหน้ากับกองทัพของกรูเนียที่กำลังบุกโจมตีเมืองท่าวาร์เรน ซึ่งเป็นเมืองที่มีภาษีสูงส่งให้กับโดลูน่าเพื่อให้เมืองนี้สงบสุข โดยที่มาร์ธและกลุ่มของเขาได้เดินทางมาถึงเมืองนี้เพื่อลพักระยะสั้นๆ แต่ไม่นานหลังจากนั้นซีซาร์ หนึ่งในทหารรักษาการณ์ของเมือง ได้เตือนมาร์ธว่าเมืองกำลังถูกโจมตีจากกองทัพกรูเนีย

มาร์ธและพรรคพวกต้องรับมือกับการโจมตีครั้งนี้ด้วยการต่อสู้กับทหารที่บุกเข้ามา โดยมีกองทัพเสริมจากกรูเนียที่น่ากลัวเข้ามาเพิ่มเติมในช่วงหลัง ทำให้การต่อสู้ทวีความยากขึ้น มีการแนะนำการใช้ทหารที่มีพลังป้องกันสูง เช่น โดห์กา หรือบานุต ในการตั้งรับเพื่อปกป้องตัวเองจากการโจมตี

ในขณะที่การต่อสู้ดำเนินไป มาร์ธต้องวางแผนอย่างรอบคอบ โดยใช้ทหารที่มีทักษะที่เหมาะสมในการกำจัดอัศวินเกราะและอัศวินที่มาโจมตี รวมถึงการใช้เวทมนตร์และอาวุธเฉพาะในการจัดการกับศัตรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัศวินเกราะที่มักจะมีพลังป้องกันสูง

หลังจากที่จัดการกับการโจมตีของศัตรูและปรับกลยุทธ์ในการต่อสู้ มาร์ธและทีมของเขาต้องเผชิญกับการโจมตีของกองกำลังเสริมจากกรูเนียที่มาถึงอย่างรวดเร็ว ทำให้การต่อสู้กลายเป็นการต่อสู้ระยะยาวที่ต้องการความอดทนและการวางแผนที่ดีเพื่อรับมือกับศัตรูที่มีจำนวนมากขึ้น

การต่อสู้ในบทนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเอาชนะศัตรู แต่ยังเป็นการพัฒนาตัวละครและการสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรในทีม ตัวละครอย่างชีดาได้ช่วยสนับสนุนการต่อสู้ โดยการพูดคุยและช่วยเหลือโรเจอร์หนึ่งในอัศวินเกราะที่ต้องการแก้แค้นให้กับพ่อแม่ที่เสียชีวิตจากการถูก Mamkut ฆ่า

บอส 1:  Kannival (Knight - Level 10)

ในที่สุด เมื่อบอสในบทนี้ คืออัศวินเกราะถูกกำจัด มาร์ธจะสามารถยึดปราสาทและเตรียมตัวสำหรับการเผชิญหน้ากับการโจมตีจากผู้นำของกลุ่มโจรสลัด Prady ซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่ม Mamkut ที่คาดว่าจะปรากฏตัวในตอนท้ายของบท

บทที่ 8 นี้เป็นบทที่ต้องการความคิดอย่างรอบคอบในการวางแผนการต่อสู้และการจัดการกับศัตรูที่มีทั้งจำนวนมากและมีความสามารถที่หลากหลาย ทำให้มันเป็นบทที่ท้าทายแต่ก็ช่วยพัฒนาทักษะการเล่นและการใช้กลยุทธ์ของผู้เล่นได้ดี.

กลยุทธ์

ในแผนที่นี้ เกมจะเริ่มซับซ้อนมากขึ้น เพราะแม้ว่าคุณจะเห็นศัตรูเพียงไม่กี่ตัว แต่จะมีการเสริมกำลังจากปราสาทเข้ามาเรื่อยๆ และถึงแม้ว่าคุณจะได้รับความช่วยเหลือจากทหารรับจ้างสองคนคือ Radd, Caesar   แต่พวกเขาจะไม่ค่อยมีประโยชน์มากนัก; โอกุมะและนาวาร์จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในการใช้การต่อสู้ของคุณ ในความเป็นจริง, ลองใช้ตัวละครใหม่ๆ ไปจัดการไอเท็มในเต็นท์และร้านค้า ในขณะที่คุณมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้กับศัตรูด้วยตัวละครอื่นๆ

ในบทนี้มีร้านค้า 5 แห่ง, 2 แห่งสำหรับเวทมนตร์และไอเท็ม (ซึ่งมักจะขายพวกการรักษา, กุญแจ, เวทมนตร์ ฯลฯ) และอีก 3 แห่งสำหรับอาวุธ ร้านค้าทั้งหมดจะขายสินค้าชนิดเดียวกันในแต่ละประเภท

 นำอาวุธ Armorslayer และซื้ออาวุธและเวทมนตร์อื่นๆ (ที่จำเป็นคือ: Rapier สำหรับมาร์ธ, เวทมนตร์, และบางส่วนของ vulneraries) แต่ต้องจำไว้ว่าจะต้องสำรองบางส่วนสำหรับบอสด้วย นอกจากนี้ให้ใช้ตัวละครที่มีพลังป้องกันดี (เช่น โดห์กาหรือบานุต) เพื่อยึดพื้นที่และป้องกันศัตรูในขณะที่คุณขยายพื้นที่ การวางตัวละครที่มีพลังป้องกันดีในจุดระหว่างทางเดินเล็กๆ ระหว่างภูเขาทั้งสองและเนินดินสีน้ำตาล หรือใกล้จุดเริ่มต้น แล้วให้ตัวละครที่โจมตีจากระยะไกล เช่น นักธนู, นักเวทย์ หรือคนที่ใช้หอก ทำการโจมตีระยะไกลเพื่อสร้างพื้นที่ให้มากที่สุดก่อนที่การเสริมกำลังจากศัตรูจะมาถึง ศัตรูจะไม่สามารถผ่านขึ้นไปบนพื้นที่สูงได้

แต่ดูที่หนึ่งในอัศวินตัวแรกที่มีรูป ถ้าคุณพูดคุยกับเขาด้วยชีดา เธอจะทำให้เขากลายเป็นพันธมิตร นี่จะช่วยให้คุณสามารถจบเลเวลได้ง่ายขึ้นกับโดราก ถ้าคุณไม่ต้องการฆ่าทุกการเสริมกำลัง (แต่การทำเช่นนั้นจะให้ประสบการณ์มากมาย ) โดยการสร้างแนวป้องกันระหว่างภูเขา

เมื่อคุณจัดการกับศัตรูทั้งหมดหรือไม่จัดการทั้งหมดแล้ว, ให้มุ่งหน้าไปที่บอสในปราสาท หวังว่าคุณจะมี Armorslayer, rapier หรือเวทมนตร์ เพราะถ้าไม่มีก็จะทำให้การต่อสู้ในบทนี้ยากขึ้น แต่คุณน่าจะมีอาวุธที่เก็บไว้ในเต็นท์ เพราะมีอีกหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ ปราสาท