Dragon Quest 11
(as "Dragon Quest XI")
ดราก้อนเควสต์ 11
บทสรุปเกม
WALKTHROUGH
Dragon Quest 11 [By Decibel per oxide]
Dragon Quest 11
หลังจากเริ่มต้นเกมแล้วจะมีการให้ตั้งชื่อ ซึ่งก็คือชื่อตัวเอกของเกมที่เป็นตัวแทนของคุณผู้เล่นในการดำเนินเกมนั่นเอง
ตามปกติแล้วนั้นตัวเอกมักจะถูกขนานนามว่า主人公 ( Hero) ในเกือบทุกภาคของเกม DQ ซึ่งผมตั้งชื่อตัวเอกของผมว่า OXIDE แต่จะเรียกในบทพูดแทนตัวเอกในบสรุปว่า Hero นะครับ ...
In Search of Departed Time กาลก่อนตำนานจะเริ่มขับขาน เรื่องราวก่อเกิดจากวันวาน ณ. อาณาจักรที่มิอาจจะเอ่ยถึง
ภาพสะท้อนจากภูติที่แฝงกายตนหนึ่งที่กำลังออกค้นหาท่ามกลางผู้คนมากหน้าหลายตาที่กำลังสนุกสนามรื่นเริง ในเมืองที่เต็มไปด้วยความสุขสงบ
จนเมื่อพบเมฆดำเคลื่อนคล้อยเข้าปกคลุม ผู้คนต่างวิ่งวุ่นเพื่อเตรียมรับมือพายุใหญ่ที่กำลังมา จนเหล่าผู้ปกครองต่างรีบประชุมเพื่อหาทางแก้ปัญหา
ภูติปริศนาที่เป็นเสมือนตัวชี้เป้าเข้าไปแอบเฝ้าดูที่ข้างหน้าต่างในห้องของพระชายากับเด็กทารกน้อยที่มีรอยปานจางๆที่ฝามือนั่นหรอกหนาคือตัวจุดชนวน
“เด็กคนนั้น เป็นเขาจริงๆหรอ ?” “เด็กนั่นมีปานที่เป็นสัญลักษณ์ ” “แบบนั้นก็คงไม่ต้องสงสัยอะไรกันอีกแล้วละ”
เปลวไฟโหมกระหน่ำ ควันดำเริ่มฝุ้งกระจาย ไฟที่กำลังลุกไหม้เผาทำลายตัวประสาทให้วอดวายพร้อมๆกับถูกห้อมล้อมด้วยฝูงปีศาจแสนน่ากลัว ความหวาดกลัวปกคลุมไปทั่วจนถึงฝืนป่า
แม่ที่อุ้มลูกพร้อมจูงมือเด็กสาวที่กำลังหนีมา พวกปีศาจที่ไล่ล่ากำลังตามทัน แม่รีบนำตัวลูกน้อยให้เด็กสาวพาหนีไปก่อนให้ไว ก่อนที่ตัวเองนั้นจะเป็นตัวล่อพวกปีศาจที่กำลังตามมา
แต่โชคชะตาก็เล่นตลก เด็กที่อุ้มทารกกลับถูกปีศาจขี่ม้าเข้ามาประกบก่อนจะโดดเข้าใส่ในตอนจบของเรื่องราว ...........
ไม่กี่อึดใจ หลังพายุพ้นผ่าน ธารน้ำใต้น้ำตกก็ไหลนำพาบางสิ่งออกมา มันคือตะกร้าที่ใส่หนูน้อยที่รอดชีวิต เหมือนถูกเนรมิตโดยทวยเทพ
นอนเอกเขนกบนสายธารา จนได้พบเจอชายชราที่ตกปลาอยู่ใกล้ๆกัน หยดน้ำจากใบไม้ที่ตกใส่ทำเอาเด็กน้อยร้องไห้ดังลั่น ทำให้ชายชราต้องหาต้นเสียงโดยพลัน
“เจ้าเด็กน้อยคนนี้มาอยู่ในที่แบบนี้ได้ยังไงกัน? ท่ามกลางพายุใหญ่เมื่อคืนทำไมยังรอดอยู่ได้ มหัศจรรย์จริงๆ ไหนๆ ดูยิ้มเข้าสิ สงสัยจริงๆเลย เด็กคนนี้เป็นใครกันแน่นะ
... คงจะอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดเลยล่ะสิ เอาละจากนี้ไปไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้วล่ะนะ เจ้าปลอดภัยแล้วล่ะ “
ก่อนที่ทั้งคู่จะพบกัน ทารกน้อยถูกอุ้มขึ้นมาโดยชายชราที่ไม่เคยรู้จักกัน ใบหน้าทารกน้อยเปื้อนยิ้มตอบกลับชายชราที่มีท่าทางฉันท์มิตรไม่ต่างกัน ทารกน้อยเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันยังมิอาจรู้ ชายชราก็ตัดสินใจอุ้มชูเลี้ยงดูทารกต่อไปด้วยใจเมตตา
………………….. 16 ปี ต่อมา ...........................................
ผ่านไป 16 ปี เด็กชายที่มีสัญลักษณ์ประหลาดที่มีก็เริ่มเติบใหญ่เป็นวัยรุ่น กำลังยืนมาพร้อมครุ่นคิดไปยังต้นไม้แห่งชีวิตที่เป็นเสมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยตระหง่านอยู่ใกล้ๆในขณะปีนขึ้นไปเก็บผ้าโผกหัวที่ Gemma เพื่อนสาวในวัยเด็กทำปลิวมาติดอยู่บนต้นไม้ใหญ่
Hero – เอ้า นี่ของเธอ
Gemma - ขอบคุณมากนะ ชั้นแทบจะไม่เชื่อเลยว่าผ้าคลุมผมของชั้นมันจะปลิวไปติดบนต้นไม้ก่อนงานสำคัญจะเริ่มซะได้ ชั้นนี่มันซุ่มซ่ามจริงๆเลย ชั้นนี่ค้นทั่วบ้านจนกระจุยกระจายไปหมดเลย
Hero – วันนี้เป็นวันที่ชั้นต้องปีนภูเขาหินนั่นซินะ ก็ยังสงสัยอยู่เลยว่า ชั้นจะปีนภูเขาสูงแบบนั้นได้ยังไง? Ruki – โฮ่งๆๆ
Gemma – ดูเหมือนเจ้าルキ (Ruki) มันอาจจะช่วยเป็นไกด์นำทางให้เราได้นะ ไปกันเถอะ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------- วิธีนำเอาไอเทม DLC ต่างๆมาใช้ในเกม ในเวอร์ US 1. นำรหัสใส่เข้าไปในเมนู redeem code ใน PSN หรือเข้าไปในคำสั่ง Claim Special Rewards ในเมนู System Setting แล้วเลือก Enter Code
2. เข้าเมนู System Setting เลือกเมนู Claim Special Rewards เพื่อกดรับ DLC ทั้งหมดที่คุณใส่โค๊ดเอาไว้ สามารถตรวจสอบได้ที่เมนู item หรือ Equipment ครับ
3. สำหรับภาค US จะได้ชุดตัวเอกของภาค 8 มาใช้ฟรีด้วยนะครับ อยู่ Equipment สามารถนำมาสวมใส่ได้เลย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------- บทที่ 1 Cobblestone Tor 神の岩・ふもと (พื้นที่ตีนเขา หินเทพเจ้า)
เข้าไปคุยกับคุณป้า ป้าจะอธิบายให้เข้าใจเรื่องการเปิดดูแผนที่ด้วยปุ่มสี่เหลี่ยม ซึ่งจะเห็นรายละเอียดของผู้คนที่มีข้อมูลสำคัญที่จะแสดงให้เห็นเป็นวงกลมสีม่วงให้เห็น คำบอกใบ้ต่างๆจะอยู่ที่นั่น
คุยกับลุง Dunstan เขาจะอธิบายความสำคัญของคำสั่ง Party Talk โดยสามารถกดสามเหลี่ยมเพื่อเข้าไปในเมนูหลักของตัวละครแล้วเลือกเมนูคำสั่ง Party Talk จะสามารถพูดคุยกับคนในปาร์ตี้ในภารกิจที่ทำอยู่จะออกมาอธิบายถึงสิ่งที่ต้องทำในภารกิจนั้นๆ เรียนรู้เกี่ยวกับคำสั่งต่างๆในเมนูหลัก
1. 「どうぐ」 ITEM ไอเทม 2.「じゅもん」Magic เวทย์มนต์ 3.「そうび」 EQUIPMENT การสวมใส่อาวุธและชุดป้องกัน 4. 「なかま」Party Talk เมนูสำหรับขอคำแนะนำกับเพื่อนที่ร่วมเดินทางถึงสิ่งที่ต้องทำในภารกิจนั้น 5.「つよさ」 Attributes STATUS สถานภาพของตัวละคร 6. 「さくせん」Misc ยุทธิวิธีในการต่อสู้และการเดินทาง
1. เมนูคำสั่ง 「どうぐ」 ITEM ประกอบด้วย 1.Main Character ดูไอเทมทั้งหมดที่ติดตัวของตัวละครหลัก 2.Item Bag ถุงใส่ไอเทมทั่วไป 3.Equipment Bag ถุงใส่ไอเทมสวมใส่ 4.Important item ถุงใส่คีย์ไอเทมสำคัญในเนื้อเรื่อง
2. เมนูคำสั่ง 「そうび」 EQUIPMENT ประกอบด้วย Right Hand อาวุธสำหรับใช้งานมือขวา Left Hand อาวุธสำหรับใช้งานมือซ้าย Head เครื่องป้องกันสวมใส่ศีรษะ Body เครื่องป้องกันสวมใส่ลำตัว Accessory # 1 เครื่องประดับอันที่ 1 Accessory # 2 เครื่องประดับอันที่ 2
ผลทางสเตตัสของผู้สวมใส่เมื่อใส่อาวุธและชุดป้องกัน Attack พลังโจมตี Defense พลังป้องกัน Agility ความว่องไว Magic Attack [Magical Might] พลังโจมตีเวทย์ Recovery Magic [Magical Mending] พลังในการคืนสภาพของพลังเวทย์
3.เมนูคำสั่ง 「つよさ」 Attributes さいだいHP [Maximum HP] ค่าพลังชีวิตรวม さいだいMP [Maximum MP] ค่าพลังเวทย์รวม しゅび力 [Attack] พลังโจมตี みのまもり[Defence] พลังป้องกัน こうげき魔力 [Magical Might] พลังในการใช้เวทย์โจมตี かいふく魔力 [Magical Mending]พลังในการใช้เวทย์เยียวยา ちから กำลัง みのまもり[Strength] ความแข็งแรง อดทน すばやさ[Resilience] ความเร็ว (ส่งผลด้านความเร็วในแต่ละเทิร์นและการหลบหลีก) きようさ ความเชี่ยวชาญ [Deftness] (ส่งผลต่อการใช้ทักษะสกิลต่างๆ) みりょく [Charm] เสน่ห์
4. เมนูคำสั่ง 「さくせん」Misc ประกอบด้วย 1.まんたん Heal all ใช้เวทย์ โฮมิ ในขณะเดินทางให้เพื่อเพิ่ม HP กับเพื่อนในปาร์ตี้จนเต็มทุกคนแบบอัตโนมัติ 2.ほぼまんたん Handy Heal All ใช้เวทย์ โฮมิ ในขณะเดินทางให้เพื่อเพิ่ม HP กับเพื่อนทุกคนในปาร์ตี้แค่เพียงบางส่วน 3.Charecter Builder เมนูอัพ Skill ของตัวละคร 4.さくせんがえ Tactic สำหรับเปลี่ยนเทคนิคการต่อสู้ของตัวเองและเพื่อนในกลุ่ม 5.旅の心得 Traveller's Tip อธิบายเมนูต่างๆ 6. せんれき Info ประวัติทางสถิติในการผจญภัยทั้งหมด 7. Quest Catalogue รายชื่อเควสต่างๆที่รับมา 6. システム設定 System Setting สำหรับปรับระบบต่างๆในเกม คำสั่ง さくせんがえ Tactic
Show No Mercy ガンガンいこうぜ ใช้ท่าโจมตีโดยไม่สนใจว่าจะเสีย MP เท่าไหร่ Fight Wisely バッチリがんばれ ต่อสู้โดยเน้นการป้องกันและจะใช้เวทย์ที่ดีที่สุดในการป้องกัน Mix it Up いろいろやろうぜ ใช้ระบบการต่อสู้แบบรอสวนกลับโดยใช้เวทย์แบบหลากหลายเท่าที่มี Don't use Mp MP つかうな เน้นการโจมตีโดยห้ามใช้ MP Focus On Healing いのちだいじに ต่อสู้โดยเน้นรักษาชีวิตเป็นหลักโดยการใช้เวทย์ฟื้นพลังก่อนจะเกิดการตาย Follow Order めいれいさせろ ให้ผู้เล่นบังคับเองอย่างอิสระ ** หากเลือกให้ตัวละครในกลุ่มใช้ระบบนี้ ผู้เล่นจะสามารถเลือกการกระทำของพวกเพื่อนในกลุ่มได้เองอย่างอิสระ** คำสั่ง せんれき Battle History ประวัติทางสถิติในการผจญภัยทั้งหมด
คำสั่ง システム設定 System Setting สำหรับปรับระบบต่างๆในเกม 1. Battle Mode (ปรับมุมกล้องในฉากต่อสู้) - Free Form Fighting ปรับหมุนเองอย่างอิสระ - Classic Camera ฉากหมุนเองแบบออโต้ 2.Camera Control ปรับมุมกล้อง - Y AXIS - Normal - Reverse - X AXIS - Normal - Reverse Auto Movement - ON - OFF Camera Movement - Slow - Normal - Fast 3. Display Brightness ปรับความสว่างของแสง 4. Volume Setting ปรับความดังของเสียงต่างๆ - BGM ระดับความดังของเสียงเพลงระดับ 1 – 10 - Sound Effect ระดับความดังของเสียงเอฟเฟคต่างๆระดับ 1 – 10
5.Claim Special Reward แสดง DLC ที่ได้รับมา - Claim Rewards ไอเทม DLC ต่างๆที่ใส่โค๊ดปลดล็อกมาแล้วจะมาอยู่ที่นี่ - Enter a Code ที่ใส่ redeem code เพื่อขอรับ DLC ที่ต้องการ ผ่าน PSN รายละเอียด DLC ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น
[DQXI] วิธีนำเอาไอเทม DLC ต่างๆมาใช้ในเกม โดยเลือกคำสั่ง Obtain item หรือ Insert Code สำหรับ รับไอเทม DLC ท่ี่ใส่โค๊ดเอาไว้ ยกตัวอย่าง DLC ชุด 2 ชุดที่แถมฟรีมากับแผ่น 1. เมื่อนำรหัสใส่เข้าไปในเมนู redeem code ใน PSN หรือผ่านทางเมนู Insert Code ของตัวละครแล้ว
2. เลือกเมนู 「アイテム受け取り」Obtain item เพื่อกดรับ DLC 2 ชุดที่ปลดล็อกออกมาหลังใส่รหัส ทั้ง 2 ชุดจะมาอยู่ในเมนู Equipment ประกอบด้วย
しあわせのベスト ・ได้ค่า Exp หลังจบการต่อสู้เพิ่มขึ้น ・เพิ่มพลังป้องกัน +5 ・ได้ค่า Exp ในขณะต่อสู้เพิ่มขึ้นอีก10% (ได้สูงสุด 75 Exp )
なりきんベスト ・ได้เงินมากขึ้นหลังจบการต่อสู้เพิ่มขึ้น ・เพิ่มพลังป้องกัน +5 ・ได้เงินในขณะต่อสู้เพิ่มขึ้นอีก10% (ได้สูงสุด 15 Gold) จากนั้นเดินทางเข้าไปตามทางพร้อมกับ เอ็มม่าและเจ้า รูกิ จนถึงบริเวณทางเข้าหุบเขาหินศักดิ์สิทธิ์ที่มีป้ายจารึกที่เขียนไว้ว่า “ เหล่าปวงประชาชนแห่ง อิชิ ต่างก็ถูกปกปักษ์รักษาจากจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ของโลกใบนี้"
Gemma – ชั้นได้ยินท่านผู้เฒ่าบอกว่ามีวิญญาณศักดิสิทธิ์หลับใหลอยู่ในก้อนหินแห่งเทพเจ้าด้วย เราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆว่า เมื่อเราอายุครบ 16 ปีเราจะต้องปีนขึ้นภูเขาศักดิ์สิทธิ์นี้ ชั้นล่ะสงสัยจริงๆว่าใครที่มาเข้าร่วมประเพณีนี้แล้วไม่มีใครคอยช่วยดูแลถ้าตกเขาได้รับบาดเจ็บไปจะทำไง เหมือนกับที่นายเคยช่วยชั้นเอาไว้ตอนนั้น สุดท้ายชั้นก็ต้องทำคนเดียวและทั้งๆที่ก็ไม่คิดว่าจะทำได้ด้วยซ้ำ Ruki – โฮ่งๆๆๆ
Gemma– มอนสเตอร์หรอ? พวกมันตรงเข้ามาโจมตีพวกเราแล้ววว
ศัตรูกลุ่มแรกกับการต่อสู้ครั้งแรกของเกม สไลม์ 3 ตัว จัดการมันให้หมด เมนูคำสั่งในฉากต่อสู้ こうげき Attack โจมตีทางกายภาพ じゅもん Spell โจมตีด้วยเวทย์มนต์ ぼうぎょ Defend ป้องกัน とくぎ ใช้ท่า Skill どうぐ ใช้ไอเทม そうび Equipment เปลี่ยนอาวุธที่สวมใส่
ระบบการต่อสู้ของ DQXI ยังคงยึดเอาแนวทางของ turn based หรือสลับกันตีตามแนวทางการเกมภาษาในยุคดั่งเดิมเอาไว้ และเพิ่มเติมความสดใหม่ด้วยการที่สามารถเคลื่อนไหวได้ในอาณาเขตของพื้นที่ต่อสู้ได้ ในเชิงของการบังคับตัวเอก แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะต่อสู้ได้ไม่มาก แต่ก็สามารถเพิ่มเติมรายละเอียดปลีกย่อยที่เป็นผลจากการเคลื่อนไหวได้ดีในระดับนึง ด้วยว่า การที่สามารถเคลื่อนไหวไปมาได้ในขอบเขตของการต่อสู้นั้น ทำให้ผู้เล่นสามารถเคลื่อนไหวอย่างอิสระ แต่ ก็หาใช้ว่ามันทำมาเพื่อให้หนีจากการโจมตีได้ เพราะระบบการต่อสู้ยังยึดหลัก turn based สลับกันตีอยู่ดีนั่นแหละ กล่าวคือ turn based ที่ไม่ได้เสริมด้วย ATB นั่นแปลว่า ถ้าไม่ถึงเทิร์นของศัตรู รอยังไงมันก็ไม่โจมตีจนกว่าจะหมดเทิร์นของเรา ฉะนั้นการเคลื่อนไหวที่สามารถทำได้ในเขตต่อสู้นั้น การทิ้งระยะห่างจากคู่ต่อสู้ไม่ได้ทำให้รอดจากการโจมตี เรายังถูกโจมตีอยู่ แต่มันจะทำให้ลดความเสียหายลง และ เพิ่มโอกาสให้ศัตรูโจมตีพลาดมากขึ้น จากผลของสเตตัสความเร็วที่ทำให้เกิดการหลบหลีกตามปกติ สรุปได้ว่าการเคลื่อนไหวได้ในฉากต่อสู้นั้นทำให้ฉากต่อสู้มีมิติมากขึ้นทันสมัยขึ้นแต่ไม่ส่งผลเรื่องความได้เปรียบของผู้เล่นมากนัก เพราะการเคลื่อนไหวไปมากับการยืนเฉยๆแล้วออกคำสั่งก็ไม่มีผลต่างกันมากนักในแง่ของความได้เปรียบหรือเสียเปรียบในการต่อสู้ของตัวละคร
Gemma –อ๊า พวกมันทำให้ชั้นกลัวเลย นายกับ Ruki ช่วยชั้นไว้แท้ๆเลย โชคดีนะที่ครั้งนี้พวกเราเจอแต่มอนสเตอร์ตัวเล็กๆ แล้วเอ่อ ตามคำสั่งเขาต้องให้เราขึ้นไปจนถึงยอดเขา เราต้องผ่านเข้าไปในถ้ำนั่นใช่มั๊ยเนี้ย ? ในถ้ำนั่นต้องมีพวกมอนสเตอร์ออกมาอีกแน่เลย ชั้นก็ยังกลัวๆอยู่นะ แต่มีนายมาด้วยแบบนี้ค่อยดีหน่อย ไปต่อกันเถอะ ! Cobblestone Tor (神の岩 (หินเทพเจ้า) ทันทีที่เข้ามาด้านในถ้ำที่เป็นทางผ่านขึ้นไปยังส่วนบนของ หินเทพเจ้า ก็จะเริ่มเห็นพวกมอนสเตอร์ต่างๆอยู่ในพื้นที่ ซึ่งภาคนี้จะสามารถเห็นมอนสเตอร์ที่เป็นศัตรูเดินไปมาในพื้นที่ได้เลย การโดนตัวศัตรูจะเท่ากับเริ่มการต่อสู้ แต่ก็มีเทคนิคที่สามารถเป็นต่อในการต่อสู้ได้เล็กน้อยๆนั่นคือระบบ ใครโจมตีก่อนได้เปรียบ
Field Attack คือการกดปุ่ม O (หรือ X ในเวอร์ชั่น US) โจมตีศัตรูในพื้นที่ได้ ซึ่งหากเข้าไปโจมตีศัตรูได้ก่อนที่จะมันจะรู้ตัวหรือเข้ามาโดนตัวก่อนจะทำให้สามารถเริ่มการต่อสู้ได้ก่อนในเทิร์นแรกและจะทำให้ศัตรูเสีย HP เล็กน้อยก่อนการต่อสู้ด้วย จากนั้นลุยเข้าไปตามทางของถ้ำจนถึงด้านในที่มีหมอกหนาปกคลุมอยู่
[Gemma ] – ดูสิ ขาวโพรนไปหมดเลย ชั้นไม่เคยเห็นหมอกแปลกๆแบบนี้มาก่อนเลย
[Cole] – ช่วยด้วยย คร๊าบบบบบบ !!
[Gemma ] – อะไรกัน นั่น Cole นี่นา !? ดูถ้าไม่ดีแล้ว เรารีบเข้าไปช่วยเขากันเถอะ ...ดูสิ หมอกกลายเป็นมอนสเตอร์ไปแล้ว !!
Boss - スモーク x 2 เจ้าสโม๊คหรือจะเรียก Smog แทนก็ได้ เป็นมอนสเตอร์สายธาตุชนิดนึงที่การโจมตีมันให้ได้ผลดีควรใช้เวทย์โจมตีมากกว่าการโจมตีแบบธรรมดา
[Cole] – ผะ ผม ขอโทษคับ ผมอยากจะตามไปด้วย เลยต้องแอบอยู่เพราะกลัวพวกพี่ๆด่าเอา จนพวกมอนสเตอร์บ้านั่นมันโผล่มาโจมตีผมนั่นแหละ [Gemma] –แต่มันก็แปลกนะ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีมอนสเตอร์ในพื้นที่ศักดิสิทธิ์นี่มาก่อนเลยจนถึงตอนนี้ แต่จะยังไงก็เหอะ เธอจะขึ้นมาบนนี้ไม่ได้หรอกนะ ยิ่งเป็นบนยอดเขามันยิ่งอันตราย ตามเจ้า ลูกิ กลับไปที่หมู่บ้านเดี๋ยวนี้เลย [Cole] – รู้แล้วล่ะน่า ไม่ต้องย้ำก็ได้ เรากลับกันเถอะลูกิ [Gemma] – เอาละ เราไปกันต่อเถอะ ใกล้จะถึงยอดเขาแล้ว จบเรื่องแล้วเดินทางต่อ ปีนเชือกขึ้นไปด้านบนแล้วลุยขึ้นไปตามทางจนถึงยอดเขา
[Gemma] – เย้ เราทำได้ ! ดูสิ ก็ไม่เลวนะ แต่ถ้าอากาศดีกว่านี้ไม่ฝนตกแบบนี้รับรองเราได้เห็นวิวสุดยอดกว่านี้แน่นอน ....อุ้ยย ฟ้าร้องแล้ว เร็วเขาเรารีบอธิฐานกันเถอะ
...อะ อะไรนะ !!!
[Gemma] – ช่วยด้วยยยย !! ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเริ่มอธิฐานของพรที่ยอดเขา ฟ้าที่ร้องดั่งลั่นเพราะฝนที่กำลังเริ่มจะตกหนักก็มีเสียงคำรามของบางสิ่งดั่งก้องตามมา ก่อนที่ร่างของมอนสเตอร์ นกยักษ์ จะบินโฉบโจมตีเข้ามาใส่อย่างรวดเร็ว ทำเอาร่างของเอ็มม่ากระเด็นจนตกเขา
ดีที่ Hero วิ่งเข้ามาคว้ามือเธอเอาไว้ได้ทัน ด้วยความที่ต้องแบกน้ำหนักเอาไว้ให้ไหวจึงจำเป็นต้องใช้สองมือดึงร่างของเอ็มม่าขึ้นมาอย่างเต็มกำลังจนทำให้ไม่มีกำลังเหลือพอจะปกป้องตัวเอง ก่อนมอนสเตอร์นกยักษ์จะเตรียมตัวโฉบมาโจมตีอีกรอบแบบไม่มียำเกรง
ในสถานการณ์ที่คับขันและน่าหวั่นเกรง มอนสเตอร์นกยักษ์ที่พุ่งมาด้วยความเร็วหวังที่จะโจมตีด้วยความรุนแรง ในนาทีสุดท้ายก่อนที่ภัยร้ายจะถึงตัว
แสงสว่างค่อยๆเกิดขึ้นที่ฝ่ามือ ทำปฏิกิริยาบนท้องฟ้าที่กำลังมืดมัวจนค่อยๆปรากฏแสงสว่างเป็นรูปสัญลักษณ์คล้ายกับฝ่ามือมัวๆขึ้นมา
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแสงสว่างจ้า ปานแห่งโชคชาตะบนท้องฟ้ากลายเป็นสายฟ้าผ่าลงมาใส่มอนสเตอร์นกยักษ์จนตกเขาตายต่อหน้าต่อตา ทำให้สามารถดึงเอ็มม่าให้รอดพ้นความตายได้ทันเวลาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
[Gemma] – เกือบไปแล้วสิ ! แต่มันก็แปลกมากเลยนะ เหมือนนายจะสามารถเรียกสายฟ้าให้ผ่าลงมาได้งั้นแหละ แล้ว ปานที่ฝ่ามือนั่น มันคืออะไรหรอ? ..โอ้ มันหยุดส่องแสงแล้ว แปลกใจมากเลยมันเกิดขึ้นได้ยังไงเนี้ย วันนี้นายช่วยชั้นทั้งวันเลย ชั้นภูมิใจและดีใจจริงๆที่มาเข้าพิธีร่วมกับนาย งั้นเรามาอธิฐานขอพรพร้อมๆกันเถอะนะ
เราคือปวงประชาแห่ง อิชิ พวกเราสถิตอยู่กับจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ของโลกใบนี้ จิตวิญญาณที่อำนวยอวยพรให้แผ่นดินแห่ง Lotozetasia มาหลายร้อยปี พวกเราขอขอบคุณที่ทำให้เราอยู่ดีกินดี ในทุกๆวัน พวกเราซึ้งในคุณอนันต์ ได้โปรดจงเมตตาเฝ้าดูเราให้เสมือนอยู่ในโลกอันเป็นนิรันดรตลอดไป
[Gemma] – โอ้ ว้าววว ฝนหยุดตก ฟ้าเปิดแล้ว ดูนั่นสิ ชั้นไม่คิดมาก่อนเลยนะว่าโลกมันจะกว้างใหญ่ขนาดนี้ ไม่ว่าใครที่เป็นคนกำหนดเรื่องประเพณีในการปีนเขาแห่งนี้
ชั้นมั่นใจเลยว่าพวกเขาต้องการให้ทุกๆคนเห็นวิวที่สวยงามนี้แน่นอน เอาล่ะ งั้นเราก็ทำพิธีเสร็จแล้วซะนะ เรารีบกลับไปบอกคุณปู่กันดีกว่า ทุกๆคนคงรอเรากลับไปกันอยู่แน่ๆเลย
จากนั้นก็กลับลงมาจากภูเขาในเขตพื้นที่ตีนเขาเพื่อพูดคุยกับชาวบ้านให้ทั่วๆ ก่อนมุ่งหน้ากลับไปยังหม่บ้าน อิชิ ก็จะพบคณะของผู้อาวุโสของหมู่บ้านมารอต้อนรับ
[Gemma] – คุณปู่ เรากลับมาแล้วววว ! [Dunstan] – โอ้ ข้าดีใจมากๆที่เจ้าสองคนทำได้สำเร็จแถมกลับมาอย่างปลอดภัยอีกด้วย ยิ่งตอนที่มีหมอกเริ่มปกคลุมภูเขาเรายิ่งเป็นห่วงพวกเธอมาก แล้วมีอะไรเกิดขึ้นตอนที่ทำพิธีหรือเปล่าล่ะ ? [Hero] – เรื่องมันเป็นแบบดีครับ .......................... [Gemma] – อืมมม เรื่องมันเป็นแบบนี้เองหรอ ดูเหมือนมันก็ไม่ต่างอะไรกับเรื่องปาฏิหาริย์หรอก และข้ามั่นใจว่า วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ หรืออะไรก็ตามที่หลับใหลอยู่ในหินแห่งเทพเจ้าก้อนนั้นคงเฝ้าดูเจ้าทั้งคู่อยู่แน่นอน เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่ยังไงก็เถอะนะ เอ็มม่า ไหนลองบอกข้าสิว่า ตอนเจ้าอธิฐานเจ้าเห็นอะไร? [Gemma] – ชั้นเห็นมหาสมุทรที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มันทอแสงเป็นประกายตอนแสงพระอาทิตย์ส่องมากระทบ ชั้นไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นมาก่อนเลยค่ะ
[Dunstan] – อืมม งั้นเจ้าทั้งคู่คงเข้าใจแล้วว่า ในโลกนี้ไม่ใช่มีแค่เจ้าหรือคนที่อาศัยในหมู่บ้านนี้เท่านั้นนะ จะเรียนรู้แล้วว่าโลกแห่ง Lotozetasia มันกว้างใหญ่มากกว่าที่เจ้าคิด พวกเจ้ายังเยาว์นักแต่เมื่อเวลานั้นมาถึง พวกเจ้าก็ต้องสยายปีกโบยบินออกจากที่หมู่บ้านแห่งนี้ในซักวัน พิธีกรรมในวันนี้ข้าต้องการสอนให้เจ้าเห็นว่า โลกที่กว้างใหญ่มันเป็นยังไงก็เท่านั้นเอง เอาล่ะ เรากลับหมู่บ้านกันเถอะ Hero เจ้ากลับไปบอกแม่เจ้าซะด้วยว่าเจ้าได้ผ่านพิธีกรรมตามธรรมเนียมเสร็จสิ้นแล้ว [Hero] – งั้นเราก็ควรกลับบ้านกันซักทีนะ
หมู่บ้าน Cobblestone ** ระบบการเซฟของเกมนั้นมี 2 แบบ คือ 1. การเซฟที่โบสถ์ที่อยู่ตามเมืองต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นเซฟหลักของเกม 2. Auto save ซึ่งเป็นระบบเซฟแบบสมัยใหม่ที่จะเซฟให้ในตอนก่อนเข้าดันเจี้ยนหรือก่อนเหตุการณ์สำคัญๆ โดยให้สังเกตตัวอักษรคำว่า ออโต้เซฟ オートセーブ ที่มุมขวาของจอ **
คำสั่งที่ใช้ในโบสถ์
Confession (Save) おいのりをするเซฟเกมส์ Divination おつけをきく สอบถามข้อมูลข่าวสาร สำหรับสอบถามว่าค่าประสบการณ์ของตัวละครทั้งหมดเหลืออีกเท่าไหร่ถึงจะเลเวลอัพ Resurretion いきかえらせる ชุบชีวิต Purification どくのちりょう แก้พิษ Benediction のろいをとく แก้คำสาป ふっかつのじゅもん สำหรับขอรหัส password เมื่อเข้ามาในหมู่บ้านแล้วก็สามารถสำรวจตรวจสอบเก็บไอเทมตามที่ต่างๆตลอดจนคุยกับชาวบ้านให้ทั่วๆ (และอย่าลืมว่า ข้อมูลสำคัญที่ควรรับรู้จะอยู่กับชาวบ้านที่มีวงกลมสีม่วงที่หัวหรือในแผนที่)
“ขอต้อนรับกลับบ้านนะ พวกนายคงจะไปไกลเกินไปจนลืมว่าบ้านตัวเองอยู่ที่ไหนใช่มั๊ย ? ข้ามลำธารไปทางเหนือของหมู่บ้านจากนั้นก็จะเจอเจ้า รูกิ รออยู่ตรงทางขึ้นเนินด้านขวานะ”
“ต้นไม้ใหญ่ในดินแดน Lotozetasia นั่นเราเรียกกันว่า ต้นไม้ใหญ่แห่งชีวิต (The Great Tree of Life ) มันปกปักษ์รักษาโลกใบนี้มาตั้งแต่โบราณนานมาแล้ว ก็ตามชื่อของมันนั่นแหละ การที่มันมีอยู่แบบนั้นมาตลอดต้องมีความลับซ่อนอยู่แน่นอน”
จากนั้นเดินเข้าไปที่เนินด้านขวาจะพบเจ้า รูกิ รออยู่ มันจะนำทางขึ้นไปที่บ้านด้านบนเนินซึ่งจะเป็นบ้านของฮีโร่ตัวเอกของเกมนั่นเอง เข้าไปจะพบ Amber กำลังทำกับข้าวรอยู่
[Amber ] - ขอต้อนรับกลับบ้านนะจ๊ะ แม่ได้ยินคนเขาพูดกันทั้งหมู่บ้านเลยว่าลูกผ่านการทำพิธีได้แล้ว ลูกคงไม่ได้ไปทำอะไรให้เอ็มม่าเธอรำคาญใช่มั๊ยเนี่ย? [Gemma] - ไม่แน่นอนค่ะ กลับกันเลย เอ่อ คุณป้า Amber รู้มั๊ยค่ะว่า ฮีโร่ เขาสุดยอดมากเลยนะ ก็ตอนที่เรากำลังทำพิธีกันบนยอดเขาก็มีมอนสเตอร์เข้ามาทำร้ายจนชั้นเกือบจะตกเขาไป ชั้นคิดว่าคงจะต้องตายแน่แล้ว แต่จู่ๆปานที่มือของฮีโร่ก็มีแสงพุ่งขึ้นฟ้าแล้วทำให้มีสายฟ้าฟาดลงมามอนเตอร์จนตายไปเลย มันเหมือนกับฮีโร่เขาเรียกสายฟ้าออกมาได้เลยล่ะค่ะ
[Amber ] - ว่าไงนะ !? ปานของฮีโร่เรียกสายฟ้ามาทำลายมอนสเตอร์งั้นหรอ? ชั้นว่าแล้วว่ามันต้องเกิดขึ้นซักวัน แค่ไม่อยากจะนึกถึงเท่านั้นเอง ก็อย่างที่พ่อของเขาบอกนั่นแหละ สุดท้ายเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงพรหมลิขิตที่กำหนดไว้ได้หรอก .... บางที มันอาจจะถึงเวลาที่ต้องบอกความจริงกับเธอแล้วสินะ
[Amber ] - ... เอ้า ฮีโร่ รับสิ่งนี้ไปนะ ปู่ของเธอฝากให้ชั้นเป็นคนให้ หลังจากที่เธอผ่านพิธีตามประเพณีตอนอายุครบ 16 ปีแล้ว 16 ปีที่เราบอกทุกคนในเมืองไม่ให้พูดถึงเรื่องราวนี้ออกไป
[Amber ] - ... ลูกน่ะ เป็น ผู้กล้า ที่มาจุติใหม่ [Gemma] - ผู้กล้าหรอ !!
[Amber] - ชั้นก็ไม่รู้หรอกนะว่า ไอ้ผู้กล้าอะไรเนี่ยมันหมายถึงอะไรยังไง รู้แต่ว่า ลูกน่ะมี ชะตากรรมที่ยิ่งใหญ่ ปู่ของลูกบอกเอาไว้ตลอดเวลา เขาบอกว่าต้องการให้เธอเดินทางขึ้นเหนือไปที่อาณาจักร Heliodor แล้วเอาสร้อยคออันนี้ให้กษัตริย์แห่งเดลคาเดลทอดพระเนตร ดังนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายและหน้าที่ของเธอในฐานะผู้กล้าที่ว่า เธอก็ควรเดินทางไปที่นั่น ไปที่อาณาจักร Heliodor [Gemma] – แต่ว่า ... [Amber] - ตั้งแต่พรุ่งนี้ เราคงไม่ได้เจอกันอีกซักระยะ เดี๋ยวคืนนี้ชั้นจะทำสุดยอดมื้อเย็นให้พวกเธอกินกันให้หนำใจเลยนะ ในคืนนั้นเอง ฮีโร่ นอนไม่หลับเพราะคิดมากในเรื่องที่เพิ่งจะได้รับรู้ตัวตนของเขา จึงลุกขึ้นมากลางดึกแล้วออกมาเดินเล่นที่ในหมู่บ้าน จากนั้นเข้าไปที่ จุดสีม่วงในแผนที่ จะพบ เอ็มม่า ยืนคิดมากอยู่ใต้ต้นไม้เหมือนกัน
[Gemma] – อ้าว นายนอนไม่หลับหรอ? ชั้นเองก็เหมือนกัน ไง ยังจำต้นไม้นี่ได้มั๊ย? ตอนเรายังเด็ก ผ้าคลุมหัวของชั้นปลิวไปติดอยู่บนต้นไม้นี่ ชั้นร้องไห้จนตาแฉะเลย แต่เธอก็มาช่วยปีนขึ้นไปเก็บมาคืนให้ช้นจนได้ ฮ่าๆ มาคิดดูมันก็เหมือนตอนที่นายปีนไปเก็บผ้าคลุมผมชั้นที่ต้นไม้หน้าถ้ำก่อนที่เราจะทำพิธีในวันนี้เลย ขั้นนี่ไม่เปลี่ยนจากเดิมจริงๆ ..รู้มั๊ย ชั้นคิดว่านายจะอยู่ที่นี่ในหมู่บ้านนี้กับทุกๆคนที่นี่ตลอดไปเสียอีก จนกระทั้งป้า Amber บอกว่านายเป็น ผู้กล้าที่มาจุุติใหม่ชั้นนี่แทบไม่เชื่อหูตัวเองเหมือนกัน
[Gemma] – ครั้งนึงคุณปู่เคยบอกชั้นว่า ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว โลกเราเต็มไปด้วยมอนสเตอร์มากมาย แต่ก็มี ผู้กล้า จุติขึ้นมาเพื่อช่วยโลกเอาไว้ จากนั้นผู้กล้าก็กลายเป็นดวงดาวนั่น ส่องประกายบนฝากฟ้า เฝ้ามองดูโลกของเรามาจนถึงทุกวันนี้
และในตอนนี้ นายคือ ผู้กล้า ที่มาจุติใหม่ ชั้นแทบจะไม่เชื่อเลยจริงๆ แต่ถ้านายเดินทางไปยังอาณาจักร Heliodor แล้วความจริงทุกอย่างก็จะกระจ่างแแจ้งใช้มั๊ย ? ดีแล้วละ ... เอาล่ะ ชั้นกลับบ้านก่อนดีกว่าสงสัยทุกคนคงจะเริ่มเป็นห่วงแล้วล่ะ ..แล้วเจอกันนะ
จากนั้น ฮีโร่ จะกลับไปพักผ่อนที่บ้านจนถึงรุ่งเช้าของอีกวัน ในวันที่ต้องออกเดินทาง
[Amber] - ว้าว สวมชุดนี้แล้วดูเธอโตขึ้นมาก เป็นหนุ่มที่สง่างามซะด้วยสิ ชั้นอยากให้ปู่เธอมาเห็นจริงๆเลย ...ฮีโร่ อย่าลืมซะล่ะว่า
เธอน่ะเป็นหลานของชายที่กล้าหาญที่สุดในหมู่บ้าน เอาล่ะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ที่ข้างนอกนั่น ชั้นก็เชื่อว่า เธอจะสามารถเอาชนะมันและผ่านมันไปได้ด้วยดีนะ
Side Quest : The People's Friend รับที่ หมู่บ้าน Cobblestone
เงื่อนไข : ก่อนออกเดินทางออกจากหมู่บ้านแรก เควสย่อยนี้จะปรากฏออกมาที่ชายที่ยืนอยู่หน้าบ้านฝั่งขวาของทางขึ้นเนินไปที่บ้านตัวเอก เมื่อคุยจนได้รับเควสย่อย The People's Friend มา แล้วเดินกลับขึ้นไปบนเนินไปที่บ้านทางขวาของบ้านตัวเอก หาที่ปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านจะพบจุดตกของไอเทมที่มีแสงกระพริบอยู่ เก็บมาจะได้ไอเทม Feather มา
จากนั้นเอากลับไปให้ชายที่ให้เควสมาก็จะจบภารกิจและจะได้ไอเทม Sleeping Hibiscus ゆめみの花 เป็นรางวัล โดยไอเทม Sleeping Hibiscus ゆめみの花หรือ ดอก ยูเมะมิโนะ นั้นเป็นไอเทมสำหรับใช้งานในฉากต่อสู้ทำให้ศัตรูหลับ 1 ตัว
หากไม่มีอะไรต้องทำในหมู่บ้านแล้ว เดินขึ้นไปที่ทางออกของหมู่บ้านทางทิศเหนือเพื่อคุยกับ Perura ได้เลย
[Amber] – ถึงเวลาแล้วสินะ แต่ถ้าเธอจะออกจากหมู่บ้านไปในตอนนี้เธอจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกักพักนึงนะ พร้อมจะออกจากหมู่บ้านแล้วรึยัง? [ถ้าพร้อมจะออกจากหมู่บ้านแล้วตอบ はい ตกลง ได้เลย )
[Dunstan] – ก็ไม่คิดว่าเจ้าจะรีบออกจากหมู่บ้านแบบปัจุบันทันด่วนแบบนี้อ่ะนะ เพราะข้าอยากให้ Teo ปู่ของเจ้ามาเห็นความกล้าหาญของหลานชายเขาเสียก่อน ตอนที่ Teo เจอตัวเจ้าเมื่อ 16 ปีก่อน ใครจะคิดว่าเด็กธรรมดาอย่างเจ้าจะกลายเป็น ผู้กล้า ที่กลับมาจุติใหม่ได้ ผู้กล้าที่เราหมายถึงคือผู้กล้าในตำนานที่คนโบร่ำโบราณกล่าวข่านว่าพวกเขาได้ช่วยโลกเอาไว้จากความมืดมิด บอกตรงๆข้าเองก็ไม่มั่นใจหรอกว่าเจ้าจะเป็นผู้กล้าที่มาจุติใหม่จริงๆ แต่ถ้าเกิด Teo เชื่ออย่างนั้นข้าเองก็พร้อมจะเชื่อด้วยเช่นกัน แล้วตอนไปเข้าเฝ้ากษัตริย์แห่งเดลคาเดลก็อย่าลืมพูดถึงเรื่องดีๆของหมู่บ้านเราด้วยล่ะ อย่างเช่น หมู่บ้านนี้เป็นที่ให้กำเนิดผู้กล้า อะไรแบบนี้เผื่อท่านจะให้รางวัลมาบ้าง ... อะ ฮ่าๆ ข้าล้อเล่นๆ ฮ่า แต่ยังไงก็เถอะ เรื่องโชคชะตาของเจ้าในวันข้างหน้าต่อจากนี้ข้าเองก็นึกภาพไม่ออกแล้ว เมื่อเริ่มออกเดินทางไปยังโลกกว้าง เจ้าคงจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้ แผนที่ของดินแดน Lotozetasia เอาไว้ดูเวลาเจ้าหลงทางนะ [ ได้รับไอเทม แผนที่ของดินแดน Lotozetasia )
[Dunstan] – แล้วข้าก็จะให้ม้ากับเจ้าด้วย เป็นม้าที่ดีที่สุดในหมู่บ้านเลยนะ เมื่อเจ้าเดินทางออกจากหมู่บ้านแล้วก็เดินทางขึ้นเหนือไปก็จะถึงอาณาจักร Heliodor [Amber] – แม่ภูมิใจในตัวลูกมากนะ ลูกแม่ ถ้าเจอความยากลำบากของโลกภายนอกก็จงเข้มแข็งนะ เข้าใจมั๊ย ?
[Gemma] – ฮีโร่ !! รับสิ่งนี้ไปด้วยนะ ชั้นทำเองกับมือเลยรีบทำตั้งแต่ได้ยินมาว่านายจะต้องออกเดินทางตั้งแต่เมื่อวาน [ได้รับไอเทม Gemma's Charm エマのおまもりを เครื่องรางของเอ็มม่า ] อาณาจักร Heliodor อยู่ไกลออกไปทางเหนือจากหมู่บ้านเรา ระหว่างทางเต็มไปด้วยมอนสเตอร์เพียบแน่นอน อย่าลืมสวมใส่เครื่องรางนี้ไว้ใกล้ๆตัวด้วยล่ะ ชั้นไม่รู้หรอกว่าจะมีโชคชะตาแบบไหนที่รอนายอยู่ แต่ ยังไงนายต้องไปลืมหมู่บ้านของเรา เข้าใจมั๊ย? ไม่ว่าจะทำอะไรดูให้แน่ใจว่าจะกลับมาบ้านอย่างปลอดภัยด้วยนะ
Heliodor Region
เรียนรู้เรื่องการขี่ม้า กด R2 ควบม้าด้วยความเร็วแบบออโต้ X - ขึ้นม้า O - ลงม้า
- การขี่ม้าก็เพื่อกรณีอยากเดินทางด้วยความเร็ว มันอาจจะเร็วกว่าเดินแต่ การเดินจะสามารถสำรวจพื้นที่ได้สะดวกกว่า -การขี่ม้าในพื้นที่เมื่อโดนตัวศัตรูก็จะเข้าฉากต่อสู้ทันทีโดยไม่สามารถใช้ระบบ Field Attack ในการโจมตีศัตรูก่อนได้ - หากปล่อยม้าให้เดินในแผนที่จะมีสัญลักษณ์รูปม้าให้เห็นในแผนที่ว่าตัวมันอยู่ที่ไหน แต่ ตัวเอกจะไม่สามารถเรียกม้าได้ ในกรณีทิ้งม้าไว้ไกลๆ แต่จะมีจุดระฆังในพื้นที่ที่สามารถเรียกม้ามาขี่ได้ The Power of Pep เมื่อเข้ามาในฉากแผนที่แล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือจัดการมอนสเตอร์เพื่อนเก็บเลเวล เงิน และ เรียนรู้ระบบการต่อสู้เพิ่มเติมนั้นก็คือ ระบบการต่อสู้แบบใหม่ที่เรียกว่า โหมด 「ゾーン」“ZONE” หรือ "Pepped Up" ในเวอร์ชั่นอังกฤษ
เรียนรู้การเข้าสู่โหมด 「ゾーン」“ZONE” [ The Power of Pep ] 「ゾーン」“ZONE” หรือ "Pepped Up" ในเวอร์ชั่นอังกฤษ เป็นระบบการต่อสู้ใหม่เพิ่งมีในภาค 11 โดยเงื่อนไขการใช้งานนั้นก็คือ - จะต่อต้านการโจมตีที่รุนแรงของศัตรูหรือต้องถูกศัตรูโจมตีอย่างหนักจนทำให้เกิดค่าความเสียหายจำนวนมาก ก็จะทำให้ตัวละครนั้นๆเข้าสู่โหมด “ZONE” หรือ "Pepped Up" - ใข้ไอเทมพิเศษเพื่อให้เข้าโหมด “ZONE” หรือ "Pepped Up" โดยการเข้าโหมด “ZONE” นั้นจะสังเกตเห็นว่า ตัวละครจะระเบิดพลังเป็นออร่าสีฟ้าคลุมร่างกายเอาไว้ในขณะต่อสู้ และผลของการที่ตัวละครเข้าสู่โหมด “ZONE” หรือ "Pepped Up"นั้นจะทำให้มีผลในฉากต่อสู่ต่างๆคือ 1. จะทำให้พลังโจมตี พลังป้องกัน และอัตตาการเกิด Critical ร่วมทั้งประสิทธิภาพการใช้ท่า Skill ต่างๆเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่า 2. หากมีเพื่อนในปารตี้ที่เข้าโหมด Zone หรือ "Pepped Up"มากกว่า 1 คนก็จะสามารถใช้ท่าต่อสู้ร่วมกันได้ด้วย Skill " Collaborative technique"「連携」โดยสามารถร่วมใช้ท่าผสานกับเพื่อนที่เข้าโหมด Zone ได้สูงสุด 3 คนพร้อมๆกัน และเพื่อนที่สามารถใช้ท่าผสานได้นั้นจะต้องเรียนรู้ Skill ท่าผสานมาจากตาราง Skill เรียกร้อยแล้ว โดยท่าผสานนั้นจะเป็นท่าโจมตีที่รุนแรงและไม่เสีย MP ในการใช้งานอีกด้วย 3. หากตัวละครที่เข้าโหมด “ZONE” หรือ "Pepped Up" ในช่วงสิ้นสุดการต่อสู้สถานะของการ "Pepped Up" จะยังคงอยู่ไปจนถึงการต่อสู้ในครั้งต่อไป (หากไม่ใช่เวลาที่เจอศัตรูนานเกินไป) ** การใช้ท่าผสานจะอธิบายเกี่ยวกับการใช้งานอย่างละเอียดอีกครั้งเมื่อมีเพื่อนร่วมทีมพร้อมใช้งาน **
เลเวลอัพ สเตตัส ในขณะ เลเวลอัพ
Maximum HP さいだいHP ระดับพลังชีวิตสูงสุด Maximum MP さいだいMP ระดับพลังเวทย์สูงสุด Strength ちから พลังกำลัง (ส่งผลต่อพลังโจมตี) Resilence みのまもり ความแข็งแรง อดทน (ส่งผลต่อพลังป้อง) Agility すばやさ ความเร็ว (ส่งผลด้านความเร็วในแต่ละเทิร์นและการหลบหลีก) Deftness きようさ ความเชี่ยวชาญ (ส่งผลต่อการใช้ทักษะสกิลต่างๆ) Magical Might こうげき魔力 พลังในการใช้เวทย์โจมตี Magical Mending かいふく魔力 พลังในการใช้เวทย์เยียวยา Charm みりょく เสน่ห์ (ส่งผลต่อการมองเห็นของศัตรูและสกิลการเต้น)
จากนั้นพยายามเก็บเลเวลให้ได้เลเวล 5 เพื่อจะได้ปลดล็อก เวทย์มนต์แรกมาใช้งานนั่นคือ Heal หรือ โฮยมิ ホイミ เวทย์สายเยียวยาสำหรับไว้ฟื้นพลังเบื้องต้น โดยจะสามารถฟื้นพลังชีวิตได้ 25 HP เสีย MP3 การอัพเกรด Skill เข้าเมนู Misc แล้วเลือก เมนู Character Builder (スキルパネル ) ซึ่งตาราง Skill สำหรับใช้ Skill Point (SP) ที่ได้จากการเลเวลอัพมาใช้สำหรับเรียนรู้ Skill ใหม่ๆ
Skill LUMINARY ゆうしゃスキル ยูฉะ สกิล - ทักษะสายผู้กล้า Pep Chance +5% ゾーン突入率+5% - ทำให้มีโอกาสในการเข้าโหมด Zone หรือ "Pepped Up"มากขึ้น +5% [ใช้ 8 SP] Poof ニフラム- กำจัดศัตรูทั้งหมดด้วยพลังแสง (ท่าโจมตี) [ใช้ 8 SP] Zap デイン - ใช้เวทย์สายฟ้าโจมตีศัตรู 1 กลุ่มแบบแรนด้อมจำนวน [ใช้ 8 SP] Deftness +10 常時きようさ+10 – เพิ่มสเตตัสด้านความชำนาญการใช้ Skill (きようさ) + 10 [ใช้ 8 SP] Agility +10 常時すばやさ+10 -เพิ่มสเตตัสด้านความเร็ว (すばやさ) + 10 [ใช้ 8 SP] Holy Protectionトヘロス - ขับไล่ศัตรูที่อ่อนแอด้วยรัศมีของอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ [ใช้ 8 SP] Resilience +10 常時ちから+10 - เพิ่มสเตตัสด้านพละกำลัง (ちから) + 10 [ใช้ 8 SP] Strength + 10 常時みのまもり+10 -เพิ่มสเตตัสด้านความแข็งแรง (みのまもり) + 10 [ใช้ 8 SP] ゾーン必中 - โซนฮิท ทำให้เข้าโหมด Zone ได้ตลอดเวลา [ใช้ 25 SP] SWORDS 片手剣スキル ทักษะสายดาบมือเดียว Flame Slash かえん斬り - โจมตีศัตรู 1 ตัวด้วยท่าดาบเพลิง (ท่าโจมตี) [ใช้ 3 SP] Attack Power when wielding +3 装備時こうげき力+3 -เมื่อสวมใส่ดาบมือเดียวจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +3 [ใช้ 4 SP] Critical Hit Chance when wielding +2% 装備時かいしん率+2% - เพิ่มโอกาสเกิดการโจมตีแบบ Critical 2% เมื่อใช้ดาบมือเดียวโจมตีศัตรู[ใช้ 6 SP] Swords Stance ソードガード - ซอร์ดการ์ด ท่าป้องกันด้วยกาบ ที่เพิ่มการป้องกันมากขึ้นชั่วเวลาหนึ่งแต่ไม่สามารถโจมตีได้ [ใช้ 7 SP] Dragon Slash ドラゴン斬り- ดาร์ก้อนสแลช ท่าดาบปราบมังกร ท่าโจมตีที่เน้นสร้างความเสียหายกับศัตรูประเภทมังกรให้มากขึ้น [ใช้ 10 SP] Metal Slash メタル斬り – เมตัลสแลช ท่าโจมตีที่เน้นสร้างความเสียหายให้กับศัตรูที่มีร่างกายเป็นเหล็กให้มากขึ้น (เช่นพวก เมตัลสไลม์) [ใช้ 12 SP] Attack Power when wielding +6 装備時こうげき力+6 -เมื่อสวมใส่ดาบมือเดียวจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +6 [ใช้ 10 SP ] Attack Power when wielding +10 装備時こうげき力+10 - เมื่อสวมใส่ดาบมือเดียวจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +10 [ใช้ 12 SP] 二刀の心得 – เรียนรู้ทักษะการใช้ดาบคู่ สามารถสวมใส่อาวุธที่มือซ้ายได้พร้อมๆมือขวา [ใช้ 12 SP] Miracle swordミラクルソード – มิลาเคิ่ลซอร์ด ท่าโจมตีสร้างความเสียหายกับศัตรู 1 ตัวพร้อมๆกับพื้นพลังชีวิตของผู้ใช้ไปพร้อมๆกัน (ค่าของ HP ที่ฟื้นคืนจะมากขึ้นตามระดับเลเวล) [ใช้ 16 SP] GREATSWORDS 両手剣スキル ทักษะสายดาบสองมือ Greatsword Guard ブレードガード – เบลดการ์ด เพิ่มการป้องกันมากขึ้นชั่วเวลาหนึ่งเมื่อใช้ท่าการ์ด [ใช้ 3 SP] Attack Power when wielding +5 装備時こうげき力+5- เมื่อสวมใส่ดาบสองมือจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +5 [ใช้ 4 SP] Critical Hit Chance when wielding +2% 装備時かいしん率+2%- เพิ่มโอกาสเกิดการโจมตีแบบ Critical 2% เมื่อใช้ดาบสองมือโจมตีศัตรู [ใช้ 6 SP] ぶんまわし- ท่าโจมตีด้วยการตวัดดาบโจมตีศัตรูทั้งกลุ่ม [ใช้ 7 SP] Attack Power when wielding +10 装備時こうげき 力+10- เมื่อสวมใส่ดาบสองมือจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +10 [ใช้ 10 SP] Attack Power when wielding +15 装備時こうげき力+15 -เมื่อสวมใส่ดาบสองมือจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +15 [ใช้ 12 SP] Critical Hit Chance when wielding +3% 装備時かいしん率+3% -เมื่อใช้ดาบสองมือโจมตีศัตรู จะทำให้โจมตีถูกเป้าหมายง่ายขึ้น 3% [ใช้ 12 SP] Cutting Edge 渾身斬り – ท่าโจมตีศัตรู 1 ตัวทั้งตัวด้วยการโดดโจมตีจากด้านบนอย่างรุนแรง [ใช้ 10 SP] Helichopter ท่าโจมตีหมู่ด้วยการฟาดดาบใหญ่ไปที่ศัตรูทั้งกลุ่มอย่างรุนแรง [ใช้ 7 SP] フリーズブレード- ท่าฟรีสเบลด ท่าโจมตีศัตรูทั้งกลุ่มด้วยธาตุน้ำแข็ง [ใช้ 12 SP] 全身全霊斬り – โฮลฮาร์ทสแลช ท่าโจมตีแบบทุ่มเทแรงใจแรงกายทั้งหมดกับศัตรู 1 ตัวด้วยความรุนแรงสูงสุด [ใช้ 16 SP] Swordmaster 剣神スキル เคนชินสกิล Falcon Slash はやぶさ斬り- ฮายาบูสะ สแลช ท่าโจมตีด้วยความเร็วสูงต่อเนื่อง 2 ครั้งกับศัตรู 1 ตัว [ใช้ 16 SP] Counter When Blocking/Parrying ガードカウンター การ์ดเค๊าท์เตอร์ ท่าเตรียมโจมตีสวนกลับเมื่ออยู่ในสถานภาพป้องกัน [ใช้ 12 SP] Strength +25 常時ちから+25 - เพิ่มสเตตัสด้านพละกำลัง (ちから) + 25 [ใช้ 16 SP] Gigasmash ギガブレード – กิก้าเบลด ท่าโจมตีด้วยดาบสองมือกับศัตรู 1 กลุ่มด้วยธาตุสายฟ้า [ใช้ 25 SP] Gigaslash ギガスラッシュ- กิก้าสแลช ท่าโจมตีด้วยดาบมือเดียวกับศัตรู 1 กลุ่มด้วยธาตุสายฟ้า [ใช้ 25 SP] Critical Hit Chance +3%常時かいしん率+3% - เพิ่มโอกาสการเกิดการโจมตีแบบ Critical +3% [ใช้ 16 SP] つるぎのまい- ซอร์ดเวทเธอร์ ท่าเพลงดาบผันแปร โจมตีศัตรูต่อเนื่อง 4 ครั้งแบบสุ่ม [ใช้ 16 SP]
รายชื่อเวทย์มนต์ 「呪文」 พื้นฐานทั้งหมดของ ผู้กล้า [主人公] เรียงตามลำดับการได้มาจากการเลเวลอัพ メラ เมร่า เวทย์ลูกไฟขนาดเล็ก ใช้โจมตีศัตรู 1 ตัว [ได้เมื่อเลเวล 2] ホイミ โฮมิ เวทย์ฟื้นพลังชีวิตให้เพื่อน 1 คน ประมาณ 25 – 30 HP [ได้เมื่อเลเวล 5] ギラ กิร่า เวทย์กำแพงไฟขนาดเล็ก ใช้โจมตีศัตรู 1 กลุ่ม [ได้เมื่อเลเวล 8] リレミト ริเรมิโตะ เวทย์เคลื่อนย้ายในพริบตา สำหรับวาร์ปออกจากดันเจี้ยน [ได้เมื่อเลเวล 9] イオ อิโอ เวทย์ระเบิดขนาดเล็ก ใช้โจมตีศัตรู 1 กลุ่ม [ได้เมื่อเลเวล 15] ラリホー ราริโฮ เวทย์นิทรา ระดับต่ำ ทำให้ศัตรูนอนหลับ 1 ตัว [ได้เมื่อเลเวล 16] ベホイミ เบโฮมิ เวทย์ฟื้นพลังชีวิตให้เพื่อน 1 คน ประมาณ 65 – 80 HP [ได้เมื่อเลเวล 19] ベギラマ เบกิราม่า เวทย์กำแพงไฟขนาดกลาง ใช้โจมตีศัตรู 1 กลุ่ม [ได้เมื่อเลเวล 23] メラミ เบร่ามิ เวทย์ลูกไฟขนาดกลาง ใช้โจมตีศัตรู 1 ตัว [ได้เมื่อเลเวล 25] ザオラル ซาโอรัล เวทย์ชุบชีวิตเพื่อน 1 คนแบบแรนด้อม ฟื้นพลังชีวิต 50% [ได้เมื่อเลเวล 28] ベホイム เบโฮม่า เวทย์ฟื้นพลังชีวิตให้เพื่อน 1 คน จนเต็ม [ได้เมื่อเลเวล 30] イオラ เวทย์ระเบิดขนาดกลาง ใช้โจมตีศัตรู 1 กลุ่ม [ได้เมื่อเลเวล 31] ラリホーマ ราริโฮม่า เวทย์นิทราระดับสูง ทำให้ศัตรูนอนหลับ 1 กลุ่ม [ได้เมื่อเลเวล 35] ベギラゴン เบกิราก้อน เวทย์กำแพงไฟขนาดใหญ่ ใช้โจมตีศัตรู 1 กลุ่ม [ได้เมื่อเลเวล 40] メラゾーマ เมร่าโซม่า เวทย์ลูกไฟขนาดใหญ่ ใช้โจมตีศัตรู 1 ตัว [ได้เมื่อเลเวล 57] ザオリク ซาโอริค เวทย์ชุบชีวิตเพื่อน 1 คนแบบ 100 % ฟื้นพลังชีวิตเต็ม [ได้เมื่อเลเวล 62] ルーラ ลูล่า เวทย์เคลื่อนย้ายในพริบตา สามารถวาร์ปเดินทางไปตามเมืองต่างๆที่เคยผ่านมาได้ [ได้ตามเนื้อเรื่อง] เข้าไปที่กลางพื้นที่จะพบแค้มป์ไฟที่มี กองไฟและรูปปั้นเทพธิดาที่สามารถใช้นอนพักแรม เซฟ และรักษาอาการบาดเจ็บต่างๆได้เหมือนกับโบสถ์ โดยในบริเวณแค้มป์ไฟนี้จะไม่มีมอนสเตอร์ตัวไหนกล้าเข้ามาทำร้าย
เมื่อเข้าไปสำรวจที่กองไฟจะเลือกตกลงจะเปลี่ยนมาในช่วงกลางคืนทันที สามารถกด X เพื่อลุกไปซื้อไอเทมกับพ่อค้าที่มาตั้งร้านในตอนกลางคืนได้ (แต่จะเดินออกนอกบริเวณแค้มป์ไม่ได้)
Camp Menu キャンプメニュー คำสั่งในแค้มป์ไฟ ประกอบด้วย 1 Rest 休む พักค้างคืน การพักแรมนั้นจะมีให้เลือกตื่น 4 ช่วงเวลาคือ Until Dawn 朝まで – เช้า Until Noon 昼まで – สาย Until Dusk 夕方まで – บ่าย Until Night 夜まで – ค่ำ 2. Ask Statue for Help 女神像にいのる อธิฐาน เข้าไปใช้เมนูของเทวรูปเทพธิดา 3. Break Campキャンプをする ออกจากแค้มป์ (จะออกมาเป็นช่วงกลางคืนที่สามารถเดินออกนอกแค้มป์ได้ แต่ไม่ได้พักฟื้น HP)
คำสั่งสำหรับเทวรูปเทพธิดา Confession (Save) おいのりをする เซฟเกมส์ Divination おつけをきく สอบถามข้อมูลข่าวสาร สำหรับสอบถามว่าค่าประสบการณ์ของตัวละครทั้งหมดเหลืออีกเท่าไหร่ถึงจะเลเวลอัพ Resurrection いきかえらせる ชุบชีวิต Purificationどくのちりょう แก้พิษ Benediction のろいをとく แก้คำสาป Cancel ยกเลิก
การเปลี่ยนแปลงของเวลาและสภาพอากาศ (時間と天候による変化) ผลของช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงนั้น ในช่วงเวลากลางคืนและกลางวันจะมีมอนสเตอร์ที่ต่างกันรวมถึงพฤติกรรมของมอนสเตอร์บางตัวก็จะเปลี่ยนไป ในช่วงกลางคืน มอนสเตอร์ชนิดต่างๆที่ออกมาเฉพาะกลางคืนนอกจากความเก่งกาจที่เพิ่มขึ้นแล้วส่วนใหญ่ยังจะให้ค่าประสบการณ์และเงินมากกว่ามอนสเตอร์ตอนกลางวัน และช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงยังส่งผลต่อ NPC บางตัวที่เกี่ยงโยงกับภารกิจย่อยต่างๆด้วย จากแค๊มปไฟที่พักในพื้นที่อาณาเขต Heliodor Region เมื่อทำทุกอย่างจนพอใจแล้วก็เดินทางขึ้นเหนือของพื้นที่เพื่อมุ่งไปที่ อาณาจักร Heliodor
อาณาจักร Heliodor
ชาวบ้าน - โอ้ ดูเหมือนจะไม่เคยเห็นหน้าเจ้าแถวๆนี้มาก่อนเลยนี่ โอ้ เจ้ามีธุระกับพระราชางั้นหรอ? งั้นเจ้าก็เดินตรงขึ้นไปที่บันไดแล้วตรงยาวต่อไปจนถึงปราสาทได้เลย
แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืน องค์ราชาก็จะพักผ่อนนะเจ้าจะเข้าไปในปราสาทตอนกลางคืนไม่ได้จำไว้ด้วยเข้าได้เฉพาะกลางวันเท่านั้นนะ เข้ามาแล้วสำรวจให้ทั่วเพราะเมืองจะใหญ่กว่าหมู่บ้านอิชิมาก ในนี้จะมีร้านค้าทั้งร้านไอเทมและอาวุธ ชุดป้องกันให้ซื้อ และยังมีภารกิจย่อยให้ทำอีก 2 ภารกิจ ** ควรสำรวจเมืองให้ทั่วๆและทำทุกอย่างที่อยากทำก่อนเข้าปราสาทเพราะหลังจบเรื่องราวนี้จะไม่สามารถเข้าเมืองนี้ได้อีกซักระยะ ** ธนาคาร - การฝากเงินนั้นจำเป็นมาก เพราะหากมีการตายเกิดขึ้น เงิน ที่ติดตัวทั้งหมดจะถูกหักออกครึ่งนึง ฉะนั้นหากไม่ต้องการให้เสียเงินไปฟรีตอนที่พลาดพลั้งตายไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ฝากเงินเก็บไว้กันเหนียวจะเป็นการดีที่สุด
あずける ฝากเงิน การฝากเงินขั้นต่ำต้องฝากครั้งล่ะ 1000 ゴールド (โกลด์) ひきだす ถอนเงิน การถอนเงินที่ฝากไว้สามารถถอนได้ครั้งละ 1 ゴールド (โกลด์)
โรงแรม - พักค้างคืนจนถึงเช้าของอีกวัน - พักผ่อน สามารถเลือกตื่นได้ 4 ช่วงเวลาคือ Until Dawn 朝まで – เช้า Until Noon 昼まで – สาย Until Dusk 夕方まで – บ่าย Until Night 夜まで – ค่ำ เควสย่อยที่ อาณาจักร Heliodor
Side Quest # 3 : The Soldier and the Strategist - A Tale of Two Heroes 将軍と軍師 ふたりの英雄
คุยกับชายที่ยืนอยู่ทางซ้ายของบันไดทางเข้าส่วนกลางของเมือง เขาต้องการให้ค้นหา หนังสือบันทึกวีรกรรมของนายพล Graig และทหารประจำตัวทีชื่อ โฮเมอร์ จากนั้นเดินไปทางฝั่งขวาของเมืองเข้าบ้านทางขวาของบ้านที่มีทหารเฝ้าอยู่
เข้าไปสำรวจหนังสือ The Soldier and the Strategist - A Tale of two Heros ในตู้หนังสือในห้องกินข้าวชั้นล่าง แล้วกลับมาคุยกับชายที่ให้เควสมาอีกครั้งก็จะจบภารกิจ ได้รับรางวัลคือ Drasilian Shilling ユグノア銅貨 Side Quest # 4 : Amelia in a Pickle メアリーを助けて!(ช่วยแมรี่ด้วย !)
คุยกับเด็กที่ร้องไห้อยู่ที่ด้านหน้าโรงแรมในเมือง เขาต้องการให้ช่วยตามหาเจ้าแมรี่ แมวที่หายไป จากนั้นวิ่งผ่านร้านขายไอเทมไปทางขวาเพื่ออ้อมไปเข้าประตูตึกทางซ้ายของร้าน
เข้ามาด้านในจะเจอบันไดให้ปันขึ้นไปบนหลังคาก็จะเจอเจ้าแมรี่แมวของเด็กที่หายไป เก็บเอาแมวไปให้เด็กก็จะจบภารกิจ ได้รับรางวัลคือ Kitty Litter ネコずな หลังจากทำทุกอยากทำในเมืองครบถ้วนแล้ว จากนั้นก็ตรงเข้าไปที่ทางเข้าปราสาทได้เลย ที่หน้าปราสาทจะพบทหารยามไม่ยอมให้ผ่านเข้าไป จนต้องเอาสร้อยที่เป็นสัญลักษณ์ของผู้กล้าให้ดูพร้อมบอกถึงธุระที่ถูกราชานัดให้มา ทำให้ทหารต้องเข้าไปรายงานกับหัวหน้าที่ด้านในจนสุดท้ายก็อนุญาตให้ผ่านเข้าไปตามที่ต้องการ
เดี๋ยว หยุดก่อน !! เจ้านักเดินทาง เจ้ามาด้วยการอันใดรึ ? อะไรนะ เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นผู้กล้างั้นหรอ? นี่เจ้าพูดไม่รู้เรื่องรึไง หน้าอย่างเจ้าไม่มีทางเป็น ผู้กล้า หรอก เอาล่ะ ไปไกลๆจากที่นี่ได้แล้ว !! ห๊า ! เจ้าจะให้เอาสร้อยสัญลักษณ์นี่ไปให้พระราชาดูงั้นหรอ? งั้นรออยู่ที่นี่ก่อนก็แล้วกัน …… .... เอ่อ เราต้องขอโทษด้วยนะที่ทำให้ท่านต้องวุ่นวายนะ ตอนนี้องค์ราชารออยู่ด้านในแล้ว เชิญเข้าไปได้เลยครับ .... Heliodor Castle เมื่อเข้ามาด้านในปราสาทแล้ว เป้าหมายคือขึ้นไปที่ห้องท้องพระโรงเพื่อเข้าไปพบพระราชาแห่งเดลคาดาล ที่อยู่ที่ชั้น 2 ของปราสาท
แต่ก่อนจะเข้าไปให้สำรวจตามชั้นต่างๆทั้ง 3 ชั้นเพื่อเก็บไอเทมตามที่ต่างๆให้หมดก่อน โดยเฉพาะที่ระเบียงด้านนอกของชั้นบนจะมี เหรียญเล็ก (Mini Medal) ให้เก็บสะสมด้วย จากนั้นจึงเข้าไปที่ห้องท้องพระโรงที่ชั้น 2
Jesper – ท่านนักเดินทาง ขอต้อนรับสู่ปราสาทเดลคาดาล
King Carnelian - เราพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้การเดินทางเป็นไปตามที่กำหนดไว้ ข้าคือ กษัตริย์แห่งเดลคาดาล ข้ารอการมาของเจ้ามาเป็นปีๆแล้ว ดีใจจริงๆที่ได้เจอเจ้าเสียที ความจริงที่เจ้ามาหาข้าที่นี่ก็เพราะเจ้าอยากรู้ตัวตนของตัวเองมากกว่า และถ้าเจ้าเป็นผู้กล้าที่ว่าจริงๆ เจ้าก็ต้องมีปานสัญลักษณ์ที่มือเหมือนอย่างพวกเขา
King Carnelian -ใช่แล้ว ! นั่นแหละสัญลักษณ์แห่งผู้กล้า เจ้าคือเด็กในวันนั้นนั่นเอง ..ทุกๆคน จงร่วมยินดีในวันที่ต้องจดจำว่า ผู้กล้าในตำนาน ในที่สุดก็ปรากฏตัวขึ้นที่นี่แล้ว !!
เออแล้วอีก ท่านผู้กล้า ตกลงเจ้ามาจากที่ไหนกันหรอ? ข้าจะได้ตบรางวัลให้เขาอย่างงามเพื่อเป็นการขอบคุณที่ดูแลเจ้ามาตั้งหลายปี ได้โปรดบอกข้าหน่อย King Carnelian - โอ้ งั้นหรอ ................. โฮเมรอส เจ้าได้ยินแล้วนะ
โฮเมรอส – ขอรับ ข้าได้ยินชัดเจน King Carnelian - เจ้ารู้นะว่าต้องทำยังไง ที่เหลือก็ยกให้เป็นหน้าที่เจ้าแล้ว Jesper Jesper – ขอรับ !!!!
Hendrik – นี่เจ้าเดินทางมาที่นี่คนเดียวงั้นหรอ ข้าไม่รู้หรอกว่าเจ้าวางแผนอะไรไว้ แต่ยังไงมันก็จะไม่มีวันที่เจ้าจะนำคำสาปมาสู่ที่นี่ได้อย่างที่เจ้าตั้งใจไว้แน่นอน !!
King Carnelian - จับไอ้คนที่จะทำความเลวร้ายมาสู่อาณาจักรของเราไปขังไว้ในคุกใต้ดินซะ! ทุกคนรู้ดีว่า ผู้กล้าในตำนานจะนำหายนะมาสู่โลกนี้ แผนการของมันคือการคืนชีพให้กับดวงวิญญาณของปีศาจร้าย ผู้กล้าหรือราชาปีศาจมันก็เป็นหนึ่งเดียวกันนั่นแหละ
Hendrik – ราชาของข้าไม่ได้โง่อย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ แถมยังฉลาดกว่าด้วย เพราะท่านรู้ทันถึงแผนที่แท้จริงของผู้กล้าหรือสิ่งที่เจ้าต้องการดี โชคร้ายหน่อยนะคราวนี้
หลังจากเหตุการณ์พลิกผันจนทำให้ ฮีโร่ ต้องโทษมหันต์ ทำให้ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามความตั้งใจ จนสุดท้ายต้องถูกพาไปขังที่เรือนจำใต้ปราสาท อย่างน่าเวทนา Heliodor Dungeons
Hendrik – เรื่องที่หมู่บ้าน Cobblestone ที่เจ้าพูดมาจะเป็นความจริงหรือเปล่าอีก 3 วันรู้กัน 3 วันก่อนที่หน่วยลาดตระเวนของเราจะกลับมา เจ้าลูกปีศาจ ชีวิตเจ้าขึ้นอยู่กับพวกเขาแล้ว ซึ่งก็คงอีกไม่นานหรอก
[????] – เฮ้ หยุดทำเสียงโครมครามแบบนั้นได้แล้ว ถูกจับโยนเข้าคุกแค่เนี้ยทำเป็นโวยวายไปได้ เออ แล้วอีกอย่าง นายไปทำอะไรมาพวกมันถึงจับนายมาขังได้ ที่นี่มันเป็นคุกที่อยู่ลึกที่สุดของถ้ำเลยนะ คือ นายคงต้องไปทำความเลวมาสุดแน่เลยไม่งั้นพวกมันคงไม่จับนายมาโยนไว้ที่นี่หรอก เออ แล้วอีกอย่าง นายไปทำอะไรมาพวกมันถึงจับนายมาขังได้ ที่นี่มันเป็นคุกที่อยู่ลึกที่สุดของถ้ำเลยนะ คือ นายคงต้องไปทำความเลวมาสุดแน่เลยไม่งั้นพวกมันคงไม่จับนายมาโยนไว้ที่นี่หรอก อะไรนะ ? ไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากบอกว่าตัวเองเป็น ผู้กล้า แค่นั้นเองหรอ? น่าแปลกใจมากที่เราดันมาถูกขังในที่เดียวกัน ...
[ทหาร] – รออาหารนานเลยล่ะสิ เอ้า! อยากได้ก็เข้ามาเอาไปกินซะสิ ................ อั๊กกก.....!! ทันทีที่ทหารยามเดินเข้ามาให้อาหารประจำวัน นักโทษนิรนามก็เล่นทีเผลอทันควัน อัดทหารที่กำลังก้มลงวางถาดอาหารอย่างแรงจนมันล่วงลงไปกอง
ก่อนที่จะรีบค้นกุญแจจนเจอแล้วไขประตูคุกออกมา แถมยังตรงเข้าไปหาฮีโร่เพื่อเปิดห้องขังให้อย่างไว เสมือนดั่งว่าตั้งใจเตรียมแผนไว้มานาน
[????] – โอ้ ..จู่ๆ ผู้กล้า ก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าชั้น เป็นอย่างที่นักพยากรณ์ว่าไว้ไม่มีผิดเลย ... ชูว !! พวกทหารมา เดี๋ยวชั้นจัดการเอง ..... ไม่ต้องห่วง ชั้นไม่ได้ฆ่าเขาหรอก ไม่นานเขาก็จะฟื้นแล้ว เอ้า ดาบนี่เอาติดตัวไว้ที่นี่มันอันตราย แล้วก็ของพวกนี้ของใช้ส่วนตัวนายใช่มั๊ย
ชั้นเห็นมันวางอยู่อีกห้องนึงชั้นก็เลยหยิบมาให้คิดว่าคงเป็นของๆนาย แถมชั้นยังได้มีดสั้นเล่มโปรดของชั้นกลับมาอีกด้วยนะ เหมือนกับได้กองหนุนมาเป็นพันคนเลยนะจะบอกให้ ชั้นว่าเราควรจะไปกันได้แล้วนะก่อนที่พวกทหารมันจะแห่กันมาอีก นายพร้อมเมื่อไหร่ก็มาบอกชั้นก็แล้วกัน จากนั้นก็สำรวจพื้นที่ในคุกใต้ดินนี้ให้ทั่ว ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าไปในห้องขังได้เพราะไม่มีกุญแจ สำรวจจนพอใจแล้วก็กลับมาคุยกับนักโทษปริศนาในห้องขังของเขาอีกครั้ง
[????] – หลุมนี่ ชั้นแอบขุดมันเอาไว้ได้ซักพักแล้วละ จนถึงวันนี้ นายปรากฏตัวขึ้นมาในวันเดียวกับที่นักพยากรณ์บอกเอาไว้เลย เขาบอกว่ามันเป็นคำพยากรณ์ .. ที่ชั้นก็จะเป็นคนช่วยนายออกจากที่นี่ เอาไว้คุยเรื่องนี้กันที่หลัง นายโดดลงไปก่อนได้เลย Heliodor Sewers
[????] – นี่มัน ทางระบายน้ำเก่างั้นหรอ มันต้องมีทางออกอยู่ที่ไหนซักแห่งแน่ๆเลย เดี๋ยวชั้นระวังหลังให้เอง นายนำหน้าไปได้เลย ในขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินเข้าไปตามทางของท่อระบายน้ำได้ไม่นาน พวกทหารยามก็ดันเข้ามาพบตัวจนทำให้ต้องรีบหนีเข้าไปด้านใน
ระหว่างทางจะเจอพวกทหารเดินตรวจตราตามจุดต่างๆมากมาย ที่จะต้องหลบเพื่อผ่านทางไปโดยจะต้องดูรูปแบบการเดินของทหารและการเดินนำของนักโทษปริศนาที่ทำให้ดูแล้วเดินหลบตามก็จะหลบพวกทหารพ้น
หลังจากหลบพวกทหารตามทางมาจนถึงสะพานด้านในก็จะพบทหารอีกกลุ่มตามมาดักหน้า ก่อนที่พวกทหารจะรุมเข้ามาจับกุ่มที่กลางสะพานจนทำให้สะพานรับน้ำหนักไม่ไหวจนทำให้ทั้งหมดตกลงไปทางน้ำด้านล่าง เมื่อรู้สึกตัวอีกที ฮีโร่และนักโทษปริศนาจะตกลงมาที่ถ้ำด้านล่างสุด โดยที่นี่จะมีเทวรูปจุดเซฟไว้ให้ด้วย ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเดินเข้าไปด้านในถ้ำที่ไม่รู้จักจนถึงด้านใน ก็ต้องตกใจเพราะมังกรขนาดใหญ่เจ้าของถ้ำปรากฏตัวออกมา จนทำให้ทั้งคู่ไม่มีทางเลือกที่ต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด
แม้ทั้งคู่จะวิ่งหนีอย่างเต็มแรงเจ้ามังกรก็ตามอย่างไม่ลดละ ถึงจะโดดเสี่ยงตายลงมาจากทางที่บันไดขาดเจ้ามังกรก็ยังโดดตามลงไปไล่ล่าต่อ โชคดีที่เจอซอกหินที่ทั้งคู่พอจะเข้าไปหลบซ่อนตัวจนทำให้เจ้ามังกรยักษ์มันตามไปไม่ได้
แต่โชคร้ายที่มันสามารถพ่นไฟใส่เข้าไปในซอกหินที่ทั้งคู่ซ่อนตัว จนทำให้ต้องรีบหนีรัวๆจากไฟโลกันต์จนรอดตายแต่ก็ต้องไปเจอกับพวกทหารที่ตามเข้ามาขวางหน้า ทำให้ทั้งคู่ต้องวิ่งหนีไปอีกทางที่เหลือ
สุดทางของเส้นทางที่ทั้งคู่เลือกที่จะหนีมากลับต้องเจอกับแสงจ้าที่แยงตาเพราะมันคือทางออกมาด้านนอกถ้ำที่สว่างจ้าจนแสบตาต่างกับถ้ำมืดที่เพิ่งหนีออกมา แต่พวกทหารก็ยังตามมา เส้นทางข้างหน้าคือเหวน้ำตกสูงลิ้วจากพื้นด้านหลังก็เต็มกลืนด้วยพวกทหารที่กำลังเตรียมบุกประชิดเอาเข้ามาอย่างชะล่าใจ
[ทหาร] – นั่นไงพวกมันอยู่ที่นั่น หนีไม่รอดแล้ว !! [????] – พวกมันตามมาจนทันแล้ว เอาละ ฟังนะ ถ้าเราโดนพวกมันจำได้ไม่ว่าจะนายหรือชั้นรับรองว่าคงได้มีชีวิตอยู่อีกไม่นานนักหรอก ไปกันเถอะ !! ชั้นเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า ปาฏิหาริย์ของผู้กล้า [ทหาร] – เฮ้ย นั่นพวกแกคิดจะทำอะไรวะนะ !!
[Erik ] – ก่อนจะโดดลงไป ชั้นชื่อ Erik จำเอาไว้ให้ดีล่ะ
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!!!
บทที่ 2
Erik – ในที่สุดก็ฟื้นซะทีนะ ห่วงแทบแย่ เมื่อกี้เราก็นึกว่าจะเสียนายไปซะแล้วสิ ตั้งแต่ตอนที่โดดลงจากหน้าผามาที่น้ำตกนายก็สลบมาตลอดแถมยังตัวเย็นเจี๊ยบเลยชั้นน่ะลากนายมาที่นี่คนเดียวเลยนะจะบอกให้ คิดดูดิ ไม่รู้ตอนนั้นโดดมาได้ยังไง ชั้นนี่หลับตาปี๋เลยนะ ใจก็นึกถึงความเชื่อที่มีต่อ “ผู้กล้า” เอาไว้ ไม่ให้ตกลงไปร่างฉีกเป็นเสี่ยงๆ
Erik – เอาจริงๆตอนชั้นรู้สึกตัวขึ้นมาก็รู้ว่ามาอยู่ที่ป่าตรงเชิงเขาโดยไม่มีบาดแผลอะไรเลย มหัศจรรย์มากๆ อาจจะเป็นเพราะความเชื่อเล็กๆน้อยๆที่ชั้นมีก็ได้ใครจะรู้ แต่จะยังไงก็เถอะ ตอนนี้นายกับชั้นก็อยู่ในรายชื่อผู้ต้องหาที่ กษัตริย์แห่ง Heliodor ต้องการตัวที่สุดแล้วล่ะ นั่นหมายความว่า เราคงอยู่ที่นี่ได้ไม่นานักหรอกนะ ทางที่ดีเราไปขอบคุณแม่ชีที่ช่วยให้ที่พักเราแล้วรีบไปจากที่นี่กันจะดีกว่านะ
แม่ชี – อ่า เจ้าน่ะเองเจ้าเด็กน้อยของชั้น เพื่อนของเธอหายดีแล้วงั้นหรอ? Erik – โอ๊ย ไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอกครับ เขาโอเคแล้ว ขอบคุณที่ช่วยดูแลพวกเรานะครับ เราเป็นหนี้คุณนะ แม่ชี – ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ ชั้นแค่อยากเห็นเธอ 2 แข็งแรงดีอีกครั้งก็พอใจแล้ว แต่ถ้าพวกเธอกำลังจะออกเดินทางกันแล้วก็ต้องระวังตัวกันให้มากๆล่ะ ได้ยินข่าวมาว่ามีอาขญากรเพิ่งหนีออกมาจากปราสาทบางที่พวกมันก็อาจซ่อนตัวอยู่แถวๆนี้ก็ได้นะ พอคิดถึงสิ่งเลวร้ายที่พวกเขาทำก็กลัวขึ้นมาทันทีเลย Erik – เอ่อ ..พวกอาชญากรหรอ? ตายแล้ว ฟังดูไม่ค่อยดีเลย แล้วคุณแม่ชีได้ยินเรื่องนี้มาจากไหนอ่ะครับ ตอนที่อยู่ที่ Heliodor งั้นหรอ? แม่ชี – ใช่แล้วจ๊ะ ชั้นเห็นพวกทหารยามที่กำลังออกค้นหาผู้ร้ายทั่วเมืองเต็มไปหมด แล้วก็ได้ยินมาจากปากของท่านเซอร์ Hendrik ด้วยตัวเองเลย เห็นว่าท่านกำลังนำทหารออกไปค้นหาทางใต้ของภูเขาอยู่ แล้วพวกเขาก็ยังปิดกั้นเส้นทางที่ไปยังหมู่บ้าน Cobblestone จนหมดแล้วด้วย อ่อ เกือบลืม ชั้นลืมบอกพวกเธออีกเรื่องนึง ไม่นานพวกโจรพวกนั้นก็จะถูกจับได้แน่นอน ชั้นมั่นใจเลยล่ะ ความยุติธรรมย่อมชนะเสมอ แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น พวกเธออยากจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหนก็ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ
Erik – ขอบคุณฮะ เราซาบซึ้งมาก ..อ่า ..เราไปสูดอากาศข้างนอกกันหน่อยดีกว่า เรามีเรื่องต้องคุยกัน ไม่ใช่หรอ? Erik – มาจากหมู่บ้าน Cobblestone งั้นหรอ? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยแฮะ แล้วชั้นก็ไม่รู้จักใครที่อยู่ทางใต้ของภูเขาเลยซักคน แต่ให้เดานะ นายคงอยากจะไปดูให้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่นบ้างใช่มั๊ยล่ะ แต่ถ้าจะผ่านการตรวจตราของ Hendrik ไปได้นายก็ต้องฉลาดหน่อย ถ้านายไม่อยากโดนจับนายต้องเลี่ยงทางหลักเข้าใจป่ะ และถ้านายอยากจะทำแบบนั้นนายก็ต้องให้ชั้นช่วย เพราะชั้นรู้เส้นทางแถวนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเส้นทางลับที่ไม่ค่อยมีใครเขาผ่านกันอ่ะนะ แต่ชั้นมีธุระที่ไปทำที่ Heliodor ก่อน คือชั้นฝากของสำคัญเอาไว้กับเพื่อนเก่าที่ Downtown น่ะ เป็นสิ่งที่ชั้นจำเป็นต้องเอากลับคืนมามากๆ นายจะมาด้วยกันมั๊ยล่ะ ชั้นเคยช่วยนายจากคุกนั่นมาได้นะอย่าลืมสิ [ตอบ YES]
Erik – นั่นแหละถึงเรียกว่ามีน้ำใจหน่อย แต่ระหว่างเดินทางเราจะต้องให้คนจำเราไม่ได้ด้วยนะ เอานี่ ใส่เพื่อปิดบังใบหน้าไว้ตอนที่เราจะเข้าไปที่ Heliodor ด้วย
นั่นแหละแบบนั้นแหละ ถ้านายเป็นคนที่มีค่าหัวก็ต้องเรียนรู้ที่จะต้องไม่ทำตัวให้เตะตาแบบนี้แหละจำไว้ เอาล่ะ มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปที่ Downtown กันเถอะ ! อ่อ แล้วก็นะ ชั้นยินดีมากๆที่ได้นายเป็นเพื่อนร่วมทางด้วย ตามที่ผู้พยากรณ์บอกชั้นไว้ หากเจอผู้กล้าในตำนานเมื่อไหร่ให้เดินทางร่วมกับเขา และชั้นก็กำลังทำอยู่เนี่ยไง
** ได้ Erik เข้าร่วมทีมด้วยอย่างเป็นทางการ **
Erik Skill Swords Flame Slash – ท่าโจมตีด้วยดาบไฟ Attack Power when wielding +10 - เมื่อสวมใส่ดาบมือเดียวจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +10 [ใช้ 12 SP] Critical Hit Chance when wielding +2% - เพิ่มโอกาสเกิดการโจมตีแบบ Critical 2% เมื่อใช้ดาบมือเดียวโจมตีศัตรู[ใช้ 6 SP] Dragon Slash - ดาร์ก้อนสแลช ท่าดาบปราบมังกร ท่าโจมตีที่เน้นสร้างความเสียหายกับศัตรูประเภทมังกรให้มากขึ้น [ใช้ 10 SP] Metal Slash – เมตัลสแลช ท่าโจมตีที่เน้นสร้างความเสียหายให้กับศัตรูที่มีร่างกายเป็นเหล็กให้มากขึ้น (เช่นพวก เมตัลสไลม์) [ใช้ 12 SP] Attack Power when wielding +20 - เมื่อสวมใส่ดาบมือเดียวจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +20 [ใช้ 10 SP ] Swords Stance - ซอร์ดการ์ด ท่าป้องกันด้วยกาบ ที่เพิ่มการป้องกันมากขึ้นชั่วเวลาหนึ่งแต่ไม่สามารถโจมตีได้ [ใช้ 7 SP] ??????? - Knives Attack Power when wielding +5 - เมื่อสวมใส่มีดสั้นจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +5 [ใช้ 3 SP] Critical Hit Chance when wielding +2% - เพิ่มโอกาสเกิดการโจมตีแบบ Critical 2% เมื่อใช้มีดสั้นโจมตีศัตรู[ใช้ 4 SP] Cobra Strike – ท่าโจมตีด้วยมีดสั้นที่ทำให้ศัตรูติดพิษ [ใช้ 7 SP] Sleeper Hit – ท่าโจมตีด้วยมีดสั้นที่ทำให้ศัตรูหลับ [ใช้ 6 SP] Persecutter - ท่าโจมตีด้วยมีดสั้นอย่างต่อเนื่อง 6 ครั้ง ทำให้ศัตรูติดสถานะนอนหลับหรือสับสน [ใช้ 9 SP] Victimiser – ท่าโจมตีด้วยมีดสั้นอย่างต่อเนื่อง 6 ครั้ง ทำให้ศัตรูติดพิษหรือเป็นอัมพาต [ใช้ 13 SP] Dual-Wielding – ทำให้สามารถสวมใส่มีดสั้นได้ 2 มือเพิ่มความรุนแรงในการโจมตีเป็น 2 เท่า ??????? - Boomerangs Ooze Bruiser – ท่าโจมตีด้วยบูมเมอร์แรงกับศัตรูทั้งกลุ่มอย่างรุนแรง [ใช้ 3 SP] Attack Power when wielding +5 - เมื่อบูมเมอร์แรงจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +5 [ใช้ 6 SP] Critical Hit Chance when wielding +2% - เพิ่มโอกาสเกิดการโจมตีแบบ Critical 2% เมื่อใช้บูมเมอร์แรงโจมตีศัตรู[ใช้ 4 SP] Accuracy when wielding +5% เพิ่มความแม่นยำ 5% เมื่อใช้บูมเมอร์แรงโจมตีศัตรู[ใช้ 9 SP] Power Throw – ท่าโจมตีด้วยการชาร์จพลังขว้างบูมเมอร์แรงโจมตีศัตรูทั้งกลุ่มอย่างรุนแรง [ใช้ 13 SP] Metalicker - ท่าโจมตีศัตรูทั้งกลุ่มที่เน้นสร้างความเสียหายให้กับศัตรูที่มีร่างกายเป็นเหล็ก [ใช้ 7 SP] Twomerang - ทำให้สามารถสวมใส่บูมเมอร์แรงได้ 2 มือเพิ่มความรุนแรงในการโจมตีเป็น 2 เท่า [ใช้ 16 SP] ??????? - Guile Half – Inch – ขโมยไอเทมจากศัตรู [ใช้ 8 SP] Deftness +10 – เพิ่มความเชี่ยวชาญ + 10 [ใช้ 8 SP] Deftness +30 – เพิ่มความเชี่ยวชาญ+ 30 [ใช้ 10 SP] Agility +10 - เพิ่มความว่องไว + 10 [ใช้ 8 SP] Agility +30 - เพิ่มความว่องไว + 30 [ใช้ 10 SP] Dodgy Character – ความสามารถในการย่องเบาเพิ่มความสามารถในการหลบเลี่ยงการถูกศัตรูโจมตีได้มากขึ้น ??????? - เรียนรู้การใช้งานท่าผสาน “Pep Power”
เมื่อเริ่มมีเพื่อนร่วมปาร์ตี้ในกลุ่มเป็นคนแรกแล้วก็จะสามารถใช้ท่าผสานได้ โดยท่าผสานนั้นจะทำได้ก็ต่อเมื่อ ตัวเอกและเพื่อนคนที่จะเข้าร่วมใช้ท่าประสานต้องอยู่ในสภาพของโหมด Pepped Up (「ゾーン」“ZONE”) ทั้งคู่ (ซึ่งแต่ละคนจะเข้าสู่โหมด Pepped Up ไม่พร้อมกัน หากคนใดคนนึงเข้าสู่โหมด Pepped Up ก่อนก็ต้องรอจนกว่าอีกคนจะเข้าสู่โหมด Pepped Up ด้วย)
เมื่อทั้ง 2 ตัวละครอยู่ในสภาพของโหมด Pepped Up ทั้งคู่แล้วจะมีคำสั่ง “Pep Power” ขึ้นมาด้านบนสุดของเมนูคำสั่งต่อสู้ จากนั้นก็สามารถกดใช้ท่าผสานตามรายชื่อท่าของทั้งคู่ที่มีร่วมกันได้เลย Side Quest: it take two to Tango
แวะคุยกับทหารที่ยืนอยู่ข้างโบสถ์ เขาจะมี Side Quest ให้ทำ เป้าหมายคือ ใช้ท่าผสาน “Pep Power” The Real Decoy จัดการศัตรู 1 ครั้งแล้วกลับมาคุยกับเขาอีกครั้งก็จะจบเควส และได้รับรางวัลคือ สร้อย Gold Chain
จากนั้นเดินทางจากโบสถ์ผ่านเขต Heliodorian Foothills มุ่งหน้าไปที่เป้าหมายคือที่ Downtown Heliodor ทางเหนือของแผนที่ต่อได้เลย Downtown Heliodor
Erik – ขอต้อนรับเข้าสู่ Downtown Heliodor เมื่อด้านล่างของปราสาท Heliodor บ้านของพวกโจร , อันธพาล และพวกคน...แบบที่ชั้นชอบ เมื่อปีที่ผ่านมาชั้นกับไอ้เจ้า Derk หุ้นส่วนทางธุรกิจด้านอาชญากรรมของชั้นได้ ขโมย ..เอ้ย ขอยืมสิ่งของชิ้นนึงมาจากคนในตระกูลราชวงศ์ มันคือ Red Orb พวกเขาฉลาดมากๆอ่ะ พยายามตามหากันให้วุ่นเลย ทำเอาชั้นลำบากนิดหน่อย เราก็เลยเอาของไปซ่อนในที่ปลอดภัยไว้ก่อนรอให้เรื่องเงียบแล้วค่อยย้อนกลับมาเอาวันหลัง นั่น ตรงนั้น หลุมขยะใหญ่ของเมือง ชั้นกับ Derk เอา Orb ไปซ่อนตรงนั้นแหละ ไม่มีใครที่ไหนจะเอาของมีค่ามาซ่อนไว้ในกองขยะหรอกนอกจากจอมโจรอัจฉริยะอย่างชั้น รับรองไม่มีใครสนใจจะหามันในนั้นแน่นอน ได้เวลาไปขุดสมบัติในกองขยะกันแล้ว ฮ่าๆๆ
คุยจบเปิดแผนที่แล้วเดินไปสำรวจยังจุด Rubbish Tip ซึ่งเป็นกองขยะของเมือง
Erik – ที่นี่แหละ นายดูต้นทางเอาไว้ล่ะ เดี๋ยวชั้นจะหาของเอง เอาล่ะ มันต้องอยู่แถวๆนี้ซักแห่งนี่แหละ มันใจล้าน % เลยจะบอกให้ อ่า ไม่ได้อยู่ที่นี .. นี่ล้อเล่นใช่มั๊ยเนี่ย มีแต่ชั้นกับ Derk เท่านั้นนะที่รู้ที่ซ่อนของมันเนี่ย
ดะ เดี๋ยวนะ ไอ้หนูสกปรกเอ้ย !! ไอ้บ้า Derk มันเล่นสกปรกกับชั้น มันคิดจะเอา Red Orb เป็นของมันคนเดียวแน่นอน บ้าเอ้ย ชั้นน่าจะรู้ทันมันนะ สันดารโจรเอ้ย คอยดูสิ ชั้นไม่ยอมปล่อยมันไว้แน่ๆ ชั้นจะตามหามัน แล้วนายต้องช่วยชั้นด้วย โอเค เห็นโรงแรมนั่นมั๊ย เดี๋ยวเราไปที่นั่นกันมีคนๆนึงที่อาจพอช่วยเราได้ เดินเข้าไปที่โรงแรมตามที่ Erik ชี้บอกทางต่อ ....
Erik – ที่นี่ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ สมัยก่อนชั้นกับ Derk ก็เคยใช้ที่นี้พักกบดานอยู่บ่อยๆ เฮ้ Ruby !! Ruby อยู่หรือเป่ล่า?? นี่ชั้น Erik เองนะ พอดีมีอะไรจะถามเธอหน่อยน่ะ !! …สงสัยนางไม่อยู่แถวนี้แฮะ แต่ถ้าหากจะมีใครซักคนรู้ว่า Derk อยู่ที่ไหนก็คงมีแต่นางคนเดียวนี่แหละที่รู้ นั่นแปลว่าไม่ว่ายังไงเราก็ต้องตามหานางให้เจอให้ได้ เอางี้ แผนคือ นายเห็นหอคอยที่ท้ายเมืองนั่นป่ะ มันเป็นหอคอยระวังไฟของเมือง นายปีนขึ้นไปด้านบนนะแล้วมองหา Ruby ดู เดี๋ยวชั้นจะลองหาอีกฝั่งดู ไม่ต้องห่วงหรอกว่านายจะไม่เห็นนาง ผมแดงขนาดนั้นในเมืองนี้มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ จากนั้นเดินไปที่จุด Lookout Tower ซึ่งเป็นหอคอยระวังไฟของเมืองแล้วปีนขึ้นไปด้านบนเพื่อมองหา Ruby ตามที่ Erik สั่ง
ในระหว่างมองลงมาที่ช่องทางขึ้นไปยังเขตเมือง Heliodor ชั้นบนนั้นจะสังเกตเห็นทหารยามที่ลำเอียงให้เฉพาะคนที่มีเงินและสาวสวยๆผ่านทางขึ้นไปที่เมืองชั้นบน และที่สำคัญทหารยามคนนี้นั้นกลัวหมาเป็นชีวิตจิตใจ หากเจอหมาของเด็กน้อยที่อยู่ในเมืองเมื่อไหร่เป็นต้องวิ่งแจ้นทุกครั้งไป
จนซักพัก Ruby สาวร่างใหญ่ผมแดงคนเป้าหมายที่ Erik สั่งให้จับตาดูก็เดินออกมาจากทางเข้าเมืองด้านบนพอดี เมื่อเห็นแล้วก็รีบไปแจ้งให้ Erik รู้ข่าวทันที
Erik – อ่า ชั้นไม่เจอตัว Ruby เลยว่ะแล้วนายล่ะ เจอป่ะ? ….ห๊ะ ว่าไงนะ เห็นนางเดินกลับไปที่โรงแรมแล้วงั้นหรอ งั้นเรารีบไปถามนางกันเถอะ !
Erik – แหม่ๆๆนี่ใช่สาวคนโปรดชั้นรึเปล่าน้า? Ruby – ขอต้อนรับ ....ว้ายตายแล้ว !! ให้ตายสิชั้นได้ยินว่าพวกเขาจับนายขังแล้วโยนกุญแจทิ้งไปแล้วไม่ใช่หรอ? ตกลงนายหนีมาได้ใช่ป่ะ พวกผู้อพยพชอบพูดถึงเรื่องของนายกับเพื่อนตลอดเลยล่ะ Erik – ไม่ต้องห่วงชั้นไม่รบกวนนานหรอก ชั้นแค่อยากจะรู้ว่าไอ้ Derk เพื่อนชี้ของชั้นตอนนี้มันอยู่ที่ไหนเท่านั้นแหละ เธอพอจะเห็นเค้าบ้างรึเปล่าล่ะ? Ruby – Derk งั้นหรอ? อืมม ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มานานแล้วนะ ไม่ใช่เขาย้ายไปเปิดร้านที่หน้าปราสาทในส่วนเมืองชั้นบนแล้วหรอ? เห็นเค้าว่ากันว่า Derk ร่ำรวยขึ้นเยอะด้วยนะ Erik – ใช่หรอ? มันไปหาเงินมาจากไหนวะเนี่ย? เดี๋ยวนะ มันขายไปแล้ว ไอ้หนูสกปรก Derk มันขาย Red Orb ของข้าไปแล้วแน่ๆเลย Ruby – นี่ อยู่ที่ส่วนนี้ของเมืองนายก็คิดไปต่างๆนานาไปทั่ว ชั้นว่าถ้านายอยากรู้ว่าจริงมั๊ย นายลองขึ้นไปดู Derk ที่เมืองชั้นบนนั่นด้วยตาตัวเองจะดีกว่านะ
Erik – ไอ้คนทรยศเอ้ย !! ชั้นพนันเลยว่ามันขาย Red Orb ของชั้นไปแล้วชัวร์เลย คอยดูนะไม่ว่ามันจะหนีไปอยู่ที่ไหนของโลกใบนี้ ชั้นก็จะไปตามหาแล้วทวงของๆชั้นคืนมาให้ได้เลยคอยดูสิ !! แต่เราต้องผ่านเส้นทางนั้นถ้าจะขึ้นไปตามหา Derk ที่เมืองชั้นบน
เดี๋ยวนะ ใช่เขาจริงๆด้วย ชั้นเคยได้ยินมาว่ามีทหารยามคนนึงที่กลัวหมามากๆ ชั้นคิดว่าไอ้หมอนี่แหละชั้นมั่นใจเลย บางทีเราอาจจะลองไปหายืมหมาใครซักคนมาทดลองดูนะ
เด็ก – อิอิ เก่งมากเลยเจ้า บลูอาย เจ้าทหารยามนั่นกลายเป็นตัวตลกทุกทีเลยเวลาเจอเจ้านะ ฮ่าๆ อ่า มีอะไรหรอพี่ชาย หลงทางหรอ? อะไรนะ พี่จะยืมหมาหนูเนี่ยนะ นี่ฟังนะเจ้า บูลอาย มันชอบฉายเดี่ยวเหมือนหนู มันไม่ยอมไปกับคนแปลกหน้าคนไหนหรอกนะ แต่ ถ้าได้น้ำกับผล Buzzberry ซักสองสามลูกก็อาจจะเปลี่ยนใจมันได้ก็ได้นะ พี่ลองไปนอกเมืองดู ด้านหน้าทางเข้าจะมีต้นไม้ขนาดใหญ่ลองชนๆดูก็พอจะได้ ผล Buzzberry มาบ้างแหละ ส่วนน้ำก็ลองไปหาดูตามร้านค้าอ่ะ Holy water ก็ใช้ได้ อย่าลืมล่ะ หนูไม่ได้บอกว่าจะเอา Holy water หรือ Buzzberry นะ หนูหมายถึงหามาทั้ง 2 อย่าง ถ้าได้มาไม่ครบก็ไม่ตกลงอะไรทั้งนั้น จากนั้นที่ต้องทำคือ หาไอเทม 2 อย่างมาให้เด็กเจ้าของหมาประกอบด้วย - Holy water หาซื้อได้ตามร้านขายไอเทมหรือที่ร้านของป้าหมอดูในราคา 100 G
- ผล Buzzberry เดินทางออกนอกเมืองจะพบต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านหน้า(มีแสงกระพริบ) เข้าไปสำรวจจะสามารถเก็บผล Buzzberry มาได้ เมื่อเอาไปให้เด็กเจ้าของหมา เธอจะเอามาผสมทำน้ำ Buzzberry ให้หมากินจนมันยอมตามมาด้วย จากนั้นพามันไปหาทหารยามที่เฝ้าหน้าทางเข้าเมืองชั้นบน
พอทหารยามเห็นเจ้าหมาก็จะวิ่งหนีไม่คิดชีวิตตามแผน Erik และ Hero ก็จะเข้าไปยังส่วนบนของเมือง Heliodor ได้แล้ว
เมื่อขึ้นมาที่เมือง Heliodor ได้แล้ว เป้าหมายคือเข้าไปยัง Derk’s Shop ที่พื้นที่ด้านหน้าของปราสาท แต่ปัญหาคือไม่สามารถผ่านตรงเส้นทางบันได้ใหญ่กลางเมืองได้เพราะมีทหารยามคอยเฝ้าอยู่
ที่ต้องทำก็คือ เข้าไปที่จุดสีม่วงในแผนที่จะเห็นชายคนนึงเงยหน้าไปบนหลังคาบ้าน ซึ่งตรงนี้จะมีที่ปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านได้ ด้านบนหลังคาจะมีเชือกที่สามารถเดินข้ามมาที่ระเบียงทางเดินของพื้นที่หน้าปราสาทได้โดยทหารยามไม่เห็น จากนั้นก็เข้าไปที่ Derk’s Shop ได้เลย
Erik – ว้าว บ้านใหญ่โตดีนี่หว่า Derk – ขอต้อนรับ ขอต้อนรับครับคุณลูกค้า เชิญเลือกชมได้ตามสบายเลย ร้านของผมมีของหายากที่มีที่นี่ที่เดียวมากมายเลยนะ ต้องการอะไรบอกผมมาได้เลยนะ .................ห๊า !!!!!!! Erik – งั้นก็ดีเลย พอดีชั้นกำลังมองหาของพิเศษชิ้นนึงอยู่ ไม่ทราบว่ามี Red Orbs ขายบ้างมั๊ยล่ะ? Derk – E … Erik !! Erik – ไม่ได้เจอกันนานเลยนะไอ้เพื่อนยาก Derk – อ๊ากกกๆๆๆ Erik เพื่อนรัก สหายรักของชั้น หุ้นส่วนของข้า ตัวจริงๆหรอเนี่ย อั๊คคค !! ดวงแข็งจริงๆเลยแกน่ะ ดีใจที่เจอแกนะ !! Erik – นี่แกไม่อายเลยใช่มั๊ยที่บังอาจชิงของๆข้าไปน่ะ ห๊า !! แกนี่ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆนะ Derk แต่นี่ชั้นรับไม่ได้ว่ะที่แกบังอาจเอา Red Orbs ของชั้นไปขาย แล้วเอาเงินมาซื้อบ้านหรูๆแบบนี้อยู่เฉยเลย ใช่มั๊ย? Derk – ไอ้บ้า ชั้นไม่เคยทำแบบนั้นนะเว้ย ชั้นสัญญากับแกแล้ว ชั้นไม่มีวันขายมันหรอก ชั้นน่ะเป็นห่วงนายแทบบ้าเลยรู้มั๊ย ที่ชั้นมาซื้อร้านอยู่ที่นี่ก็เพื่อจะหาทางช่วยแกนะเว้ย Erik – อ๋อหรอ ช่วยข้าได้มาเลยนะ แกมาอยู่บ้านหรูหรากับเงินเต็มกระเป๋าแบบนี้ส่วนข้าติดคุกอยู่ใต้ปราสาทนั่นเรียกว่าช่วยชั้นงั้นหรอว่ะ?
Derk – ฟังนะ แกก็รู้ว่าชั้นมันไม่เหมาะกับอาชีพโจรเท่าไหร่ และพอมารองจับงานด้านค้าขายดูก็เลยรู้ว่า พ่อค้า นี่แหละตัวตนจริงๆของชั้นเลยล่ะ ตอนที่แกถูกจับไปชั้นก็หาทางวางแผนที่จะช่วยแกออกมาเป็นเดือนๆเลยนะ ชั้นคงไม่มาอยู่ที่นี่หรอกถ้าไม่คิดที่จะช่วยแกออกมาน่ะ จนในที่สุดชั้นก็คิดได้ว่าจะเอา Orbs ที่เราขโมยมาไปคืนให้กับองค์ราชาแล้วบอกว่าเจอมันโดยบังเอิญเพื่อหวังจะเอารางวัล มาสร้างร้านนี้ขึ้นมาเพื่อค้าขายแล้วเอากำไรที่ได้มาทั้งหมดเพื่อติดสินบนทหารยามในปราสาทให้ปล่อยแกให้หนีออกมา Erik – อืมม จะว่าไปแล้ว … ถึงว่าสิ ว่าแล้วทำไมมันแปลกๆ พวกทหารยามในคุกถึงไม่ค่อยตรวจตราหรือมาเฝ้าชั้นเลยจนชั้นขุดโพรงนั่นได้สำเร็จ Derk – แน่นอน ก็เพราะว่าชั้นจ่ายสินบนให้พวกเขาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นยังไงล่ะ อิอิ Erik – เฮ้อออ . เออก็ได้ ชั้นขอโทษ ชั้นขอโทษนะที่ไม่ไว้ใจแกนะเพื่อนยาก Derk – นี่แหละเขาเรียกใจนักเลงเว้ย Erik เพื่อนเก่าคนเดินของชั้นกลับมาแล้ว Erik – แต่ชั้นก็ยังต้องการ Orbs นั่นอยู่ดี และตอนนี้ข้าอยากรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน? Derk – โอ้ งั้นตามมาทางนี้เลยท่านสุภาพบุรุษ
Erik – ไหนล่ะ มันอยู่ที่ไหน? Derk – ก่อนที่ชั้นจะพูดถึง Orbs นั่น ชั้นก็ต้องตรวจให้แน่ใจก่อนว่าจะไม่มีใครมาแอบฟัง เพราะชั้นรู้ว่ามันสำคัญกับแกมากไงล่ะ คืองี้ มีสายข่าวของชั้นบอกมาว่า นายพล Endrik เอามันไปไว้ที่ Kingbarrow แล้วผนึกมันไว้อย่างแน่นหนา Erik – Kingbarrow หรอ?
Derk – นู้นไง Erik – ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง นั่นมันแถวๆหมู่บ้าน Cobblestone นี่ อืมมม แบบนี้เขาเรียกยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัวนี่หน่า แล้วแกจะมากับพวกเรามั๊ยล่ะ Derk ไปผจญภัยกันเหมือนวันเก่าๆไง
Derk – คงไม่ได้แล้วล่ะ ไม่มีคนดูแลร้านแล้วชั้นก็แต่งงานแล้วด้วย คงทำแบบนั้นไม่ได้แล้วล่ะ Erik – แกแต่งงานแล้วหรอ? เปลี่ยนไปมากจริงๆนะแกเนี่ย เอาเถอะ ที่ผ่านมาแกก็พูดเสมอนี่ว่าซักวันอยากจะเปิดร้านทำธุรกิจซักอย่าง ชั้นดีใจด้วยนะ ชั้นคงต้องไปกันแล้วล่ะ Derk ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ Derk – นายก็เหมือนกันนะเพื่อนยาก โชคดีนะ Erik – ประตูทางทิศใต้พวกทหารตรึงกำลังไว้แน่นหนาเลย เราคงผ่านไปไม่ได้แน่ เราคงต้องไปที่ Kingbarrow โดยการอ้อมไปอีกทางนึงแทนก็แล้วกัน แล้วเราคงได้แวะไปที่ หมู่บ้าน Cobblestone ด้วยพอดีเลย เอาล่ะ ย้อนกลับไปที่ Downtown กัน Derk – ดูแลตัวเองดีๆล่ะ เขายิ่งลือกันว่าพื้นที่ป่ารอบๆ Manglegrove น่ะ ใครก็ตามที่เข้าไปแล้วจะไม่มีวันได้กลับออกมาด้วยนะ Erik – เฮ้ อย่าเอาเรื่องหลอกเด็กมาหลอกให้พวกเรากลัวดีกว่าน่า เพราะยังไงมันก็เป็นทางเดียวที่เราจะไปกันอยู่ดี จากนั้นเมื่อทำธุระในเมืองจนเสร็จหมดแล้วก็เดินทางกลับไปยังเขต Downtown แล้วออกจากเมืองได้เลย
ทหาร – เป็นไง เจอร่องรอยของพวกมันมั๊ย? เอาล่ะ เข้าไปตรวจในเมืองอีกรอบก็แล้วกัน !
Erik – ดูจากแสงไฟพวกนั้น พวกทหารกำลังออกตามล่าเราแน่เลยว่ามั๊ย? เราคงจะมาที่ Heliodir ไม่ได้อีกพักใหญ่เลยล่ะ เอาล่ะ มุ่งหน้าไปทาง Manglegrove เป้าหมายคือ หมู่บ้าน Cobblestone ไปกันเถอะ ! บทที่ 3 เดินทางจาก Downtown Heliodor ย้อนกลับมาที่แผนที่ Heliodorian Foothills แล้วมุ่งไปยังทางออกทางทิศใต้ไปยัง Manglegrove
เมื่อมาถึงเขต Manglegrove แล้วตรงขึ้นไปตามทางจนถึง Woodcutter Hut แค้มป์ที่พักระหว่างทางที่เป็นบ้านของลุงคนตัดไม้ แต่เมื่อเข้ามาถึงกลับไม่พบใครที่ดูแลแค้มป์อยู่เลยซักคน Erik เลยชวน ฮีโร่ พักผ่อนเพื่อเอาแรงก่อน
Erik – ชั้นเลิกคิดถึงเรื่องตาเฒ่า Derk เขาไม่น่ารีบแต่งงานเลยจริงๆนะ ... ร้านค้าที่ดีที่สุดของเมืองงั้นหรอ..หึหึ เขาคิดอยากจะทำเรื่องตลอดมาเลยนะ เราเป็นจอมโจรที่ทำงานคู่กันมาตลอด ไปมาจนทั่วโลกแล้วเพื่อตามหาของต่างๆที่มีค่าตามใบ้สั่ง ..อ่า .คิดถึงวันเก่าๆจริงๆแฮะ เออ !! พูดแล้วก็นึกขึ้นมาได้ถึงของชิ้นนึงที่พวกเราได้มา เอาล่ะ ชั้นตัดสินใจแล้ว ชั้นว่าชั้นให้นายดีกว่าเผื่อมันจะมีประโยชน์บ้าง
นี่ไง ขอแนะนำให้รู้จัก โรงตีเหล็กขนาดพกพมหาสนุกกก ! Fun size Forge !!! นายก็แค่เอาวัตถุดิบใส่เข้าไปที่ด้านบนแล้วก็ตีมันด้วย Portapounder แล้วนายก็จะได้ไอเทมของสวมใส่ชนิดใหม่ออกมา แค่นั้นเอง ! เรียนรู้การตีอาวุธผ่านมินิเกม Fun size Forge
Forge Weapon – ตีอาวุธ Forge Armour – ตีชุดสวมใส่ Forge Accessories – ตีเครื่องประดับ Rework an item – นำไอเทมที่ตีสำเร็จแล้วมาตีใหม่อีกครั้ง โดยต้องใช้ไอเทม Perfectionist’s Pearls เป็นส่วนผสม และหากตีผิดพลาดจะไม่สูญเสียไอเทมชิ้นนั้นๆไป
การตีไอเทมต่างๆนั้นจะใช้วัตถุที่ใช้ในการนำมาผสมไม่เหมือนกัน ไอเทมที่มีวัตถุดิบครบตามรายละเอียดบอกไว้เท่านั้นถึงจะทำการตีได้ โดยการตีนั้น ให้สังเกตเกทการตีที่ต้องทำคือตีให้ได้เป้าหมายในเกทในจุดที่กำหนด -ตีให้เกทเข้าไปที่จุดขีดสามเหลี่ยม คือ ดีเยี่ยม -ตีให้เกทเข้าไปอยู่ในแถบสีเขียว คือ ดี - ตีให้เกทเข้าไปอยู่ในแถบสีฟ้า คือ พอใช้ - ตีเลยไปจนพ้นแถบสีฟ้า คือ ล้มเหลว การตีให้ได้ตามแถบที่ต้องการนั้นต้องอาศัยการกำหนดการตีในรูปแบบต่างๆที่จะทำให้ได้ระยะของเกทต่างกันคือ
Bash – ตีแบบหนักครั้งเดียวเกทเดียวกินพื้นที่ในเกทจำนวนมาก Flourishes – การตีแบบพิเศษ ประกอบด้วย -Double – Edged Bash การตีหนึ่งครั้งทีละสองเกทพร้อมๆกัน แต่การกินพื้นที่ทั้ง 2 แถบจะไม่เท่ากัน -Lightening Bash ตีแบบเบาครั้งเดียวกินพื้นที่ในเกทเล็กน้อย -Double whammy (เพิ่มเติมหลังสกิลการตีไอเทมถูก Level up) -Sizzly Puff (เพิ่มเติมหลังสกิลการตีไอเทมถูก Level up) -Multibash (เพิ่มเติมหลังสกิลการตีไอเทมถูก Level up) Appraise – ดูจำนวนองศาของเกททั้งหมด ตัวเลขสีขาวคือ พอใช้ ตัวเลขสีเหลืองคือ ดี ถึง ดีมาก ตัวเลขสีส้มคือ ไม่ดี ตัวเลขสีแดงคือ ล้มเหลว Finish – เสร็จสิ้นการตี ผลจากการตีเสร็จจะประกอบด้วย Perfection – สมบูรณ์แบบ [+3] ได้ Perfectionist’s Pearls 2 อัน Success – สำเร็จ [+2] ได้ Perfectionist’s Pearls 2 อัน Failure – ล้มเหลว ความสามารถที่จะตีไอเทมชนิดใหม่ๆเพิ่มเติมนั้นจำเป็นต้องใช้ ตำราสูตร หรือ recipe books ซึ่งสามารถหาได้ระหว่างทางทั้งตกตามดันเจี้ยนต่างๆ หาได้ในหีบสมบัติ ตามตู้หนังสือ หรือได้เป็นรางวัลจากเควสย่อยต่างๆ การอัพเกรดระดับเลเวลของ Fun size Forge นั้นจะเพิ่มขึ้นจากการสะสม Forge Point ที่ได้จากการตีอาวุธสำเร็จแต่ล่ะครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้มี Flourishes การตีแบบใหม่ๆเพิ่มเข้ามา หลังจากเรียนรู้การตีไอเทมต่างๆแล้ว เข้าไปสำรวจที่กลางแค้มป์จะพบหมาตัวนึงพยายามจะนำทางให้ทั้งคู่เข้าไปด้านในซอกของแค้มป์
เมื่อตามเจ้าหมาเข้าไปด้านในจะพบต้นไม้ประหลาดต้นนึงอยู่ เมื่อฮีโร่เอามือที่มีสัญลักษณ์ผู้กล้าเข้าสัมผัสต้นไม้จะทำให้ฮีโร่เห็นนิมิตภาพที่เกิดขึ้นในอดีตออกมา
นิมิตแสดงให้เห็นภาพในอดีตของลุงคนตัดไม้ที่เป็นคนดูแลที่นี่กำลังเผชิญปัญหากับเจ้าปีศาจ Tricky Devil ที่ออกมาป่วนทำลายสะพานไม้พื้นที่จนพัง แถมยังแกล้งลุงด้วยการสาปลุงให้กลายเป็นหมา ก่อนที่มันจะไปซ่อนตัวที่หีบสมบัติเปล่าเพื่อจะหลอกเหยื่อคนต่อไป
Erik – มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย นายเอามือไปแตะที่ต้นไม้นี่แล้วจู่ๆก็ปรากฏไอ้ภาพพวกนี้ขึ้นมาให้เห็น ..เดี๋ยวนะ นี่นายจะบอกว่าเจ้าหมาตัวนี้คือลุงคนตัดไม้งั้นหรอ? แหม่ อยู่กับนายนี่ไม่เบื่อจริงๆ ตั้งแต่ช่วยพานายออกมาจากคุกนี้ชั้นเจอแต่เรื่องมันๆทุกวันจริงๆเลย แต่ ยังไงเราก็ไปไหนไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละถ้าสะพานยังซ่อมไม่เสร็จแบบนี้ ยังไงเราก็ต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าจริงมั๊ย เพราะก็มีตาลุงนั่นคนเดียวที่จะซ่อมสะพานให้เราได้ ทำไมเราไม่ลองไปหาไอ้หีบสมบัติตามที่เราเห็นในภาพนั้นล่ะ ลองย้อนกลับไปดูกันมันคงต้องซ่อนอยู่ที่ไหนซักแห่งแน่นอน จากนั้นเดินย้อนกลับไปทางที่มาจาก Heliodorian Foothills แล้วเดินไปทางฝั่งซ้ายของแผนที่ ตรงจุดเครื่องหมาย !
จะมีหีบสมบัติเปล่าตามที่เห็นในนิมิตอยู่จริงๆ แถมทันทีที่ทั้งคู่เข้าไปใกล้หีบไอ้เจ้าปีศาจ Tricky Devil ที่แอบซ่อนอยู่ก็ออกมาหวังจะทำร้ายใครก็ตามที่จะมาเปิดหีบจริงๆ
แต่โชคร้ายของมันที่คนที่เข้ามาเปิดหีบคือ 2 คนที่ปีศาจอย่างมันไม่อยากจะเจออย่างที่มันตั้งใจ เพราะเวทย์ที่มันตั้งใจไว้ว่าจะใช้แกล้งกับไม่ได้ผลใดๆกับ 2 คนนี้เลย ไม่มีทางเลือกที่ เจ้าปีศาจ Tricky Devil ต้องโดดเข้าไปสู้ด้วยตัวเอง ก่อนที่มันจะโดนจัดการได้อย่างง่ายดาย ซึ่งก็ทำให้เวทย์มนต์ที่สาปลุงเอาไว้หายไปด้วยเช่นกัน
Flint – อ้าว อยู่ที่นี่กันนั่นเอง !! Erik – ดูสิ ลุงของเรากลับคืนสภาพเดิมแล้ว Flint – ไม่ต้องเป็นหมาอีกแล้วล่ะ ขอบคุณพวกเจ้ามากนะที่ทำให้ชั้นกลับมาเป็นตาแก่คนเดิมอีกครั้ง ชั้นชื่อ Flint เป็นคนตัดไม้นั่นแหละ ยังไงก็เถอะวันนี้ชั้นเป็นหนี้พวกเจ้าแล้ว มีอะไรที่ชั้นพอที่จะช่วยเพื่อเจ้าได้มั๊ยล่ะ? Erik – ถามตลกน่ะลุง เราก็อยากให้ลุงซ่อมสะพานที่ไอ้ปีศาจนั่นทำพังนะสิถามได้ Flint – ด้วยความยินดีเลย ทำไมพวกเจ้าไม่ไปนั่งรอที่กระท่อมของข้าให้สบายใจก่อนล่ะ เดี๋ยวชั้นจะซ่อมสะพานให้เอง รับรองไม่นานหรอก Erik – ชั้นก็หวังให้ลุงพูดแบบนี้แหละ ฮ่าๆๆ
Flint – ขอโทษที่ต้องให้รอนะ แต่ชั้นดีใจมากที่จะบอกว่า ชั้นซ่อมสะพานจนเสร็จแล้วล่ะ เอาจริงๆมันแข็งแรงมากกว่าเดิมเยอะเลยด้วยซ้ำ Erik – ลุงคงไม่เหนื่อยใช่ป่ะ ยังไงเราก็ต้องขอบคุณนะที่ช่วยพวกเราให้ได้เดินทางต่อ Flint – อ่อ แล้วเรื่องภาพนิมิตตอนที่เจ้าสัมผัสต้นไม้แล้วเห็นเหตุการณ์ที่ชั้นถูกสาปกลายเป็นหมาน่ะ ชั้นคาใจมากเลย มันทำให้ชั้นนึกเรื่องๆนึง เจ้าไปเรียนรู้ศาสตร์ Guidance of Yggdrasil มาจากไหน? Erik – เอ่ออออ ...แล้ว ลุงถามทำไมอ่ะ
Flint – คือก็ปู่ของชั้นเคยเล่าให้ฟังในสมัยที่ชั้นยังเด็ก เรื่องราวของต้นไม้ยักษ์ที่ตั้งอยู่ในแกนกลางของโลกที่เรียกกันว่า Yggdrasil ที่คอยหลอมรวมและหล่อเลี้ยงชีวิตกับสิ่งมีชีวิตทั้งโลกตามความเชื่อ ต้นไม้เล็กๆที่เจ้าเห็นในป่านั่นก็เป็นส่วนนึงของต้น Yggdrasil เป็นส่วนนึงของรากของมันที่โผล่มาจากใต้โลก ว่ากันว่า Yggdrasil ใช้มันสำหรับสื่อสารกับคนพิเศษที่เธอเลือกที่จะสื่อสาร ไอ้ภาพที่เจ้าเห็นนั่นแหละที่ปู่ของข้าเล่าให้ฟังว่ามันคือศาสตร์ Guidance of Yggdrasil ยังไงล่ะ ฮ่าๆ เล่าแล้วก็เหมือนได้กลับเป็นเด็กอีกครั้ง นี่ข้าทำให้พวกเจ้าต้องมาฟังเรื่องเล่าของคนแก่ทำไมเนี่ย ฮ่าๆ ช่างเถอะ ลืมๆมันไปก็ได้นะ แต่เจ้า เจ้าหนุ่มคนนั้น เจ้าดูแตกต่างจากคนอื่นจริงๆนะ เจ้าอาจเป็นคนพิเศษที่ถูกเลือกโดย Yggdrasil ก็ได้นะใครจะไปรู้
Erik – ฮ่า นายไม่ได้เป็นแค่ ผู้กล้า เท่านั้นนะ ตอนนี้ยังเป็นคนโปรดของ Yggdrasil ซะด้วย ใครมันจะโชคดีเหมือนนายฟ่ะเนี้ย เอาล่ะ เราไม่มีเวลามายืนคุยยกยอปอปั้นนายได้ทั้งวันหรอกนะ ไปเถอะ ออกเดินทางกันได้แล้ว เดินทางต่อจากกระท่อมของลุงคนตัดไม้ข้ามสะพานที่ซ่อมเสร็จมุ่งลงไปทางใต้แล้วออกไปทางออกขวาล่างของแผนที่เพื่อกลับไปที่เขต Heliodor Region จากนั้นก็เดินทางลงใต้ก็จะกลับไปที่หมู่บ้าน Cobblestone ได้อีกครั้ง หมู่บ้าน Cobblestone
ทันที่เข้ามาถึง สภาพของหมู่บ้าน Cobblestone ที่ฮีโร่ได้จากไปไม่นานนั้นยังสงบสุขเหมือนเดิม จึงทำให้เขาเบาใจขึ้นมา แต่ด้วยความเป็นห่วงฮีโร่จึงรีบเดินทางกลับไปหา Amber ที่บ้านของเขาในทันที
Amber – นั่นลูกหรอ? กลับมาแล้วหรอลูกจ๋า แม่ทำสตูของโปรดของหนูใกล้จะเสร็จแล้วนะอีกแปบเดียวเองจ๊ะ ว้ายยยย ตายแล้ว นี่เธอเป็นใคร เข้ามาได้บ้านชั้นได้ยังไงเนี่ย? …. ว่าไงนะ จะบ้าหรอ เธออ่ะนะลูกชั้น ลูกชั้นแค่ 6 ขวบเองนะ เธอคิดว่าเธอเป็นใครเนี่ย อยู่ๆจะมาหลอกว่าเป็นคนอื่นแบบนี้ไม่ได้นะ ไม่ว่าเธอจะเป็นใครก็ตาม ชั้นขอให้เธอออกไปจากบ้านชั้นเดี๋ยวนี้ ชั้นจะไม่บอกเป็นครั้งที่ 2 นะ !!! หลังจากถูก Amber ไล่ออกจากบ้านเหมือนกับว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทำให้ฮีโร่ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก จนได้เหลือบไปเห็นเด็กน้อยที่กำลังร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้อยู่ไม่ไกล เขาจึงรีบเข้าไปดูเผื่อจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง
ทันทีที่เดินเข้ามาที่จุดชมพูในแผนที่จะพบเด็กผู้หญิงคนนึงกำลังร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้กับหมาตัวนึงที่ฮีโร่รู้สึกคุ้นตามากๆ แล้วยิ่งน้องผู้หญิงที่กำลังร้องไห้ที่ผ้าโพกหัวของเธอปลิวไปติดบนต้นไม้ยิ่งทำให้ฮีโร่คิดว่า น่าจะใช่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปนอกจากจะปีนไปเก็บผ้าโพกหัวมายื่นให้เหมือนที่เคยทำให้ทุกครั้ง ...
Gemma – อุ้ย ขอบคุณมากคะพี่ หนูชื่อ Gemma นะ พี่เป็นใครหรอค่ะ? …. หืมม ฮีโร่ หรอ นั่นมันเป็นไปไม่ได้อ่ะ ..... อ๋อๆๆๆ เข้าใจแล้ว พี่ไม่ได้บอกว่าชื่อฮีโร่แต่จะมาหาฮีโร่ใช่ป่ะ มาสิ เดี๋ยวหนูพาไปเอง ตามหนูมา ตอนนี้ฮีโร่มั่นใจแล้วว่าเด็กผู้หญิงที่เขาคุยด้วยก็คือ Gemma เพื่อนในวัยเด็กของเขานั่นเอง แต่ก็จำใจวิ่งตามไปเพื่อจะไปดูให้เห็นกับตาว่าจะพาไปเจอตัวเองในอดีตได้จริงๆหรือเปล่า เมื่อวิ่งตาม Gemma ไปจนถึงท่าน้ำของหมู่บ้าน ฮีโร่ก็ต้องตกใจเพราะได้เจอกับตัวเองในวัยเด็กจริงๆแถมพ่อบุญธรรมที่เก็บเขามาเลี้ยงก็ยังมีชีวิตอยู่อีกด้วย
Gemma – นั่นไง ฮีโร่อยู่ที่ท่าน้ำกับปู่ของเขาน่ะ เดี๋ยวหนูไปตามให้นะ Hero – ปู่ฮะ ผมขอยืมบันไดหน่อยได้มั๊ยครับ ผ้าโพกหัวของ Gemma ถูกลมพัดไปติดอยู่บนต้นไม้อีกแล้ว Chalky – โฮ่ๆๆ งานนี้เราพลาดไม่ได้เลยว่ามั๊ย ? เดี๋ยวปู่ไปหยิบมาให้นะ ...ฮืมมม ..
Gemma – บันไดน่ะไม่ต้องแล้วล่ะ พอดีพี่คนนี้เขามาช่วยเก็บให้ชั้นแล้วอ่ะ เออ เขาบอกว่าเขามาหานายด้วยแหละ เป็นเพื่อนกันหรอ? Hero – ไม่รู้จักอ่ะ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยด้วยซ้ำ Chalky – ปู่ว่าเขาคงมาตามหาปู่มากกว่าอ่ะนะ ทำไมพวกเธอสองคนไม่ไปวิ่งเล่นที่อื่นก่อนล่ะ เดี๋ยวปู่จะคุยกับเขาเองนะ
Chalky – ไง เป็นเจ้าเองใช่มั๊ย? … นั่นไงล่ะ เป็นเจ้าจริงๆด้วยไอ้หนูของปู่ ชั้นเลี้ยงมาแต่เด็กทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ ฮ่าๆๆ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยมีความสุขเลยนะ เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่าไหนลองเล่าให้ปู่ฟังสิ
Chalky –......เข้าใจล่ะ เจ้ามาจากอนาคตหลังจากที่ชั้นตายไปนานแล้วสินะ ...ราชา Carnelian จับเจ้าไปขังไว้ที่คุกใต้ดินงั้นหรอ ชั้นคิดว่าเขาจะช่วยเหลือเจ้าซะอีกนะ ถ้ารู้แบบนี้ปู่คงบอกความจริงกับเจ้าไปตั้งนานแล้ว ไม่น่ามามัวปิดเป็นความลับมาหลายปีเลย แต่ เจ้าคงไม่มีเวลามาฟังคนแก่บ่นสินะ เพราะเรามีอะไรจะต้องทำอีกเยอะ ถ้าเจ้ามุ่งหน้าไปทางตะวันออกของหมู่บ้านเจ้าจะไปถึงที่ Cobblestone Falls เจ้าคงจำได้ใช่มั๊ย? ที่น้ำตกนั่น มองหาหินสามก้อนแล้วขุดไปตรงหน้ามัน เข้าใจแล้วนะ หินสามก้อนที่น้ำตก Cobblestone Falls ...เฮ้ออ ไม่ว่าเพราะอะไรถึงทำให้เจ้ามาเจอปู่อีกครั้งแต่ก็เถอะ ปู่ก็ดีใจมากๆนะที่ได้เห็นเจ้าโตเป็นหนุ่มแบบนี้ด้วยตาตัวเอง
Chalky –..และเห็นว่าเจ้าสบายดี จำไว้นะ อย่ามัวเสียเวลากับเรื่องขุ่นข้องหมองใจ จงใช้ชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยรักจากหัวใจต่อไป... ลากันตรงนี้แหละนะ
Hero – อ่า ขอบคุณพี่อีกครั้งนะครับที่ช่วยเก็บผ้าโพกหัวให้ Gemma ว่างๆก็กลับมาเล่นกับพวกผมได้นะ ฮ่าๆ
Erik – นายโอเคนะ พลาดกันไปเดี๋ยวเดียวเอง ...ทำไม ดูนายไม่แปลกใจเลย …
Erik – ชั้นแทบไม่เชื่อเลยว่าพวกมันจะต้องทำถึงขนาดนี้ !! เพียงเพราะนายโตมาจากที่นี่ก็ถึงกับต้องทำลายหมู่บ้านกันเลยหรอ? ใจสัตว์กันมากๆเลยพวกมัน ไอ้ Jasper กับทหารของมันคงมาที่นี่หลังจากที่จับนายขังคุก แล้วก็มาเผาที่นี่จนราบ .... เออ ชั้นเห็นสัญลักษณ์ที่ฝ่ามือนายมันส่องแสงน่ะ ตกลงนายเห็นนิมิตอะไรอีกหรือเปล่า?
Erik – … ว้าวว นายได้กลับไปคุยกับปู่ที่ตายไปแล้วในอดีตงั้นหรอ แถมได้คุยกับตัวเองตอนเด็กด้วย ..เฮ้ออ อะไรมันแปลกขึ้นทุกทีแล้วเนี่ย คงเป็นเพราะรากของ Yggdrasil ที่อยู่ที่นี่เลยทำให้นายเห็นอดีตได้ เอาล่ะ ถ้าปู่นายบอกว่าให้ไปที่ น้ำตก Cobblestone Falls ต่อก็ไปกันเลยสิ รออะไรล่ะ? เขาบอกว่ามันอยู่ตรงไหนนะ ทิศตะวันออกของหมู่บ้านใช่มั๊ย?
Erik – ... นี่ ฟังนะ ชั้นรู้ว่ามันทำใจลำบากกับเรื่องนี้ แต่มัวมายืนอยู่ที่นี่มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก มาเถอะ ไปต่อกัน
เดินทางออกจากหมู่บ้าน Cobblestone กลับมาที่พื้นที่ของเขต Heliodor อีกครั้งแล้วเดินทางเข้าไปที่เส้นทางไปยัง The Emerald Coast ต่อ
จากนั้นแวะที่ น้ำตก Cobblestone Falls สำรวจที่ก้อนหินที่วิญญาณคุณปู่บอกเอาไว้ สำรวจทีเครื่องหมาย ! ก็จะพบกล่องสิ่งของที่ถูกฝังเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว..
Erik – จดหมายงั้นหรอ? ดูเหมือนซองบนที่สวยๆนั่นเหมือนจะเก่ามากๆด้วย
ลูกรักของแม่ เมื่อลูกได้มีโอกาสมาอ่านจดหมายฉบับนี้ นั่นแปลว่าแม่คงจะตายไปนานแล้ว แต่แม่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ลูกได้รู้ ไม่นานหลังที่ลูกเกิด อาณาจักร Dundrasil อันเป็นที่รักของเรานั้นถูกกองทัพของปีศาจจำนวนมากเข้าโจมตี แม่ต้องอุ้มลูกเพื่อหนีตายออกมาจากอาณาจักรด้วยกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อความปลอดภัยของลูกได้ในที่สุด และถ้าหากลูกมีโชคพอก็หวังว่าลูกจะเจอคนดีๆที่ช่วยพาลูกไปหาราชาแห่ง Heliodor เมื่อถึงยามที่ลูกบรรลุนิติภาวะ อาณาจักรของเรานั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาอย่างยาวนานแล้ว และทั้งพ่อของเจ้ากับแม่ก็เชื่อใจเขามากๆด้วย และจงอย่าลืมเด็ดขาดนะว่าลูกคือเจ้าชายแห่ง อาณาจักร Dundrasil และยิ่งกว่านั้นลูกก็ยังมีสายเลือดของผู้กล้า ชายผู้มีหน้าที่กำจัดขับไล่ความมืดมิดที่กำลังกัดกินโลกของเราให้หมดไป ซึ่งเป็นภาระอันหนักอึ้งที่ลูกต้องแบกเอาไว้ และวันนึงลูกก็จะเข้าใจมันเอง แม่ใจสลายที่ต้องทิ้งลูกไป ลูกรัก แต่มันเป็นทางเดียวที่จะทำให้ลูกอยู่รอดปลอดภัย และแม่หวังว่า ลูกคงจะได้เรียนรู้มากพอที่จะยกโทษให้แม่ในซักวัน Erik – มันเป็นจดหมายจากคนที่เป็นคนสำคัญของนายใช่มั๊ยล่ะ อาจเป็นแม่หรือใครซักคน แต่ก็ช่างเถอะถ้านายยังไม่พร้อมก็ไม่ต้องเล่าให้ชั้นฟังตอนนี้ก็แล้ว เอ่อ แล้วจดหมายอีกฉบับล่ะ?
ถึงหลานรักของปู่ ..ปู่ก็ไม่รู้ว่าหลานทำได้ยังไงนะ แต่วันนี้ปู่เพิ่งเจอกับตัวหลานที่มาจากอนาคต ปู่เลยมาฝังบางอย่างเอาไว้ที่นี่เพื่อมันจะได้ช่วยนำทางให้เจ้าในการเดินทาง ไม่รู้เจ้าอ่านจดหมายของแม่เจ้ารึยัง จดหมายนั่นมันแนบมากับตระกร้าที่ใส่ตัวเจ้ามาเมื่อครั้งแรกที่ปู่พบเจ้านั่นแหละ และเพราะปู่อ่านจดหมายของแม่เจ้า ปู่ก็เลยสั่งเสียให้ Amber เป็นคนบอกถึงเรื่องการเดินทางไปหาราชาแห่ง Heliodor เมื่อตอนที่เจ้าเริ่มโตเป็นหนุ่ม ปู่ไม่รู้หรอกว่าทำไม อาณาจักร Dundrasil ถึงถูกโจมตี และก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมราชา Carnelian ถึงกลับมาคิดร้ายต่อเจ้า ข้ามันก็แค่คนแก่จากบ้านนอกคนนึงเท่านั้นเอง แต่ที่แน่ๆ Keystone ที่อยู่ในกล่องนี้มันคงไว้ใช้เปิดประตู Door of Departure ที่อยู่ทางตะวันออกของที่นี่อย่างแน่นอน เจ้าต้องออกท่องไปยังโลกกว่าเพื่อค้นหาความจริงในชาติกำเนิดของเจ้านะหลานรักของปู่ ....ด้วยรักจากหัวใจจากวันนี้ถึงตลอดไป ..ปู่
Erik – เอาล่ะ จากนี้ไปเราก็สามารถใช้ Keystone เปิด Door of Departure เพื่อออกสู่โลกกว่ากันได้แล้ว ฟังดูแล้วมันง่ายชะมัดเลยแฮะ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกเพราะชั้นจะไปเป็นเพื่อนนายด้วย ประตูนั่นอยู่ทางเนินเขาทางตะวันออกของที่นี่ใช่ป่ะ รอไรอีกล่ะ? ....อ่อ ชั้นรู้แล้วว่าเราต้องรออะไร ก็ชั้นยังไม่ได้ทำธุระของชั้นเลย Red Orb ไง Kingsbarrows อยู่ไม่ไกลจากที่นี่หรอก แวะไปที่นั่นเพื่อเอา Red Orb ของชั้นมาก่อนแล้วค่อยออกท่องโลกก็แล้วกันนะ
ออกจากน้ำตกแล้วมาตรงกลางพื้นที่ The Emerald Coast แล้วขึ้นไปที่ซากโบราณสถาน Kingsbarrows ทางทิศใต้ของแค้มป์ไฟตามตำแหน่งในแผนที่ได้เลย
ทันทีที่เข้ามาใน ซากโบราณสถาน Kingsbarrows จะพบว่ามีทหารนอนบาดเจ็บอยู่เต็มไปหมด ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้นมาจากทางลงชั้นใต้ดินที่ถูกเปิดออก จึงรีบลงไปตามเสียงนั้นทันที
เมื่อลงมาชั้นใต้ดินจนถึง Lower Level จะพบกับศัตรูที่สามารถนำมันมาใช้ขี่ได้เรียกว่า Monster Mount หรือมอนสเตอร์พาหนะ โดย มอนสเตอร์พาหนะ จะสังเกตเห็นได้จากมอนสเตอร์ตัวที่มีแสงสีเหลืองออกมาจากตัว ซึ่งมอนสเตอร์พาหนะในพื้นที่นี้ก็คือ
หุ่น Eggsoskeleton วิธีเอามันมาใช้ขี่ก็คือจัดการมันแบบปกติก็จะเห็นซากของมันอยู่สามารถเข้าไปใช้ขี่มันได้ โดย หุ่น Eggsoskeleton มีความสามารถพิเศษคือกระโดดสูง ทำให้สามารถกด R1 โดดไปเก็บไอเทมที่อยู่ด้านบนเสาสูงๆได้
Grim Gryphon - ฮี่ๆๆๆๆๆๆ ง่ายเหมือนกับแย่งขนมจากเด็ก ของสิ่งนี้ต้องเข้าตาของเขาแน่ๆ รับรองเลยว่าเราได้รางวัลใหญ่ชัวร์เลย
Erik – เฮ้ยย !! พวกแกคิดว่ากำลังทำอะไรวะ นั่นมัน Orb ของชั้นนะเว้ย เอามือสกปรกของแกออกไปซะ! Grim Gryphon - อ่า ไม่ว่าพวกแกเป็นใคร นี่คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ของชีวิตแล้วล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ จัดการ Boss Grim Gryphon 2 ตัวซะ แล้ว Erik ก็จะขึ้นไปเก็บ Red Orb ที่เคยเป็นของเขากลับมาอีกครั้ง Erik – เฮ้อ ได้พวกมือสมัครเล่น แต่ ใครกันนะที่ใช้พวกมันมาทำแบบนี้ ที่สำคัญ มันอยากได้ Orb ของชั้นไปทำไมกัน แต่ยังไงก็เหอะ ชั้นก็ได้มันกลับมาแล้ว แถมได้เป็นเจ้าของอย่างถูกต้องแต่เพียงผู้เดียวด้วยสิ ฮ่าๆ นายเชื่อมั๊ยตั้งแต่พวกมันจับชั้นโยนเข้าคุก ชั้นก็นึกว่าจะไม่มีโอกาสจะได้มันคืนอีกแล้วสิ แต่ตอนนี้ชั้นกลับได้มันกลับคืนมาแล้ว นายนี่มันแป็นเครื่องรางนำโชคของชั้นแท้ๆเลยรู้มั๊ย? รู้สึกได้เลยว่าอยู่ใกล้ๆนายนี่ชีวิตเปลี่ยนจริงๆ ฮ่าๆ เอาล่ะ ชั้นเสร็จธุระของชั้นแล้ว ต่อไปก็มุ่งตะวันออกไปที่ Door of Departure ตามที่ปู่นายสั่งเสียไว้ได้เลย จากนั้นก็ออกจากซากโบราณสถาน Kingsbarrows กลับมาที่ The Emerald Coast แล้วมุ่งหน้าไปทางขวาสุดของแผนที่ออกไปยัง Door of Departure ได้เลย
Hendrik – นี่พวกแกคิดว่าจะหนีจากข้าพ้นงั้นหรอไอ้พวกนอกรีต !!
Erik – บ้าเอ้ย มันตามมาทันจนได้ เราจะมามัวยืนเฉยไม่ได้แล้วนะ หนีเร็ว ดูนั่นสิ ม้าพวกนั้น มาตามมา !!
Hendrik – ยิงมัน !!!!! …. มันร่วงแล้ว เข้าไปจับมันเลย !!!
Erik – บ้าเอ้ยยย !! ส่งมือมา !!! Hendrik – แกหนีไม่พ้นหรอก !!
Erik – รีบใช้ Keystone สิ เร็ว !!
Hendrik – พวกแกคิดว่าชนะแล้วงั้นหรอ? เกมมันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น !! บทที่ 4 เมื่อทั้งคู่ผ่านเข้ามายัง Door of Departure หรือประตูมิติที่ถูกเปิดโดย Key stone จนผ่านออกมายังโลกกว้างได้สำเร็จ สถานที่แรกที่ก้าวออกมานั่นคือ ที่ราบเชิงภูเขาไฟ (The Hotto Steppe)
พื้นที่ราบเชิงภูเขาไฟ Huji นั้นมีสถานที่สำคัญๆคือ หมู่บ้านน้ำพุร้อน Hotto , เส้นทางขึ้นภูเขาไฟ Huji , สุสานใต้ดิน Cryptic Crupt และทางเข้าเขตปกครองของอาณาจักร Galloplis เมื่อออกจากประตูมิติและสำรวจเก็บเลเวลจนพอใจแล้วก็เดินทางเข้าสู่ สถานที่แรกที่ หมู่บ้านน้ำพุร้อน Hotto ได้เลย หมู่บ้านน้ำพุร้อน Hotto
สำหรับผู้ที่กำลังเบื่อหน่ายในการเดินทาง เส้นทางกำลังทำให้ท้อแท้รึเปล่า? เดินจนปวดกระดูกบ้างมั๊ย? ทุกๆอย่างที่ว่ากำลังจะหายไป ถ้าคุณเข้ามาซาวน่ารักษาความเจ็บปวดเหนื่อยล้ากับเราที่ sweaty Oasis
Erik – ในที่สุดก็เจอความเจริญซะที และชั้นก็คิดว่าเราปลอดภัยแล้วล่ะ พวกมันไม่ตามมาแล้ว อย่างน้อยๆก็ตอนนี้
เจ้าของร้านซาวน่า – โอ้ นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ท่านที่มาในวันนี้ช่างเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ฤกษ์งามยามดีอะไรเช่นนี้ โรงอาบน้ำและอบซาวน่าของข้ากำลังรอพวกท่านอยู่พอดีเลย มาลองลิ้มรสของไอร้อนที่ประดุจกบที่เจอฝนในฤดูใบไม้พลิดูสิว่าท่านจะรู้สึกสบายแค่ไหน เราดีใจที่ได้พวกท่านเป็นแขกในวันที่แสนมีความสุขวันนี้ อย่างน้อยคุณก็จะได้เหงื่อไปฟรีๆแบบไม่คิดเงินนะ ฮ่าๆ Erik – อ่า ... ขอบคุณสำหรับขอเสนอนะ แต่เรากำลังรีบๆนิดหน่อย ยังไม่มีเวลามาอบซาวน่าอะไรตอนนี้หรอกนะ เจ้าของร้านซาวน่า – ยุ่งเกินกว่าที่จะอาบน้ำเนี่ยนะ ท่านยอมเดินหนีที่อาบน้ำหลังจากที่เดินทางเหนื่อยๆมาหลายวันเนี่ยนะ ไม่เน่าแล้วหรอ... Erik – ห๊า ...ฟิตๆๆๆ โอเค ชั้นว่าชั้นไม่ค่อยจะสดชื่นเลย ก็ดี แวะโรงอาบน้ำของเจ้าหน่อยก็ดีเหมือนกันถ้าเจ้าอยากให้ไปมากอ่ะนะ ได้ล้างคราบไคลจากการเดินทางบางในขณะที่ยังมีโอกาสบ้างก็ดีเหมือนกัน ยังไงก็ไปเจอกันที่โรงอาบน้ำก็แล้วกันนะ โอเค๊ ! จากนั้นเดินขึ้นไปยังโรงอาบน้ำที่อยู่ที่เนินฝั่งขวาแต่ระหว่างที่กำลังเดินผ่านหน้าบาร์จะเจอเด็กผู้หญิงคนนึงกำลังทะเลาะกับคนดูแลบาร์อยู่
??? – กล้าดียังไงถึงมันทำกับกุลสตรีแบบนี้ ห๊า ! คนดูแลบาร์ – ก็เธอมันพูดไม่เข้าหูเองนี่ เด็กดีต้องไม่เสียงดังและต้องไม่อยากเข้าบาร์เซ่ !!! ??? – ชั้นก็บอกแล้วไงว่าอยากจะขอคุยกับเจ้าของบาร์หน่อย มันเรื่องสำคัญมากนะ เผื่อเขาจะรู้ว่าน้องสาวชั้นอยู่ที่ไหน หาเด็กในบาร์ก็เหมือนหาปลาบนต้นไม้นั่นแหละ มันจะไปเจอได้ยังไง ไปหาที่อื่นไป๊ !!! ??? – อืมมมมม เออ ยืนโง่อยู่ที่นี่ต่อไปเหอะแกนะ ชั้นไปถามกับยามที่หน้าประตูก็ได้ว่ะ เชอะ !
??? – อ่ะ !! โอ้ ..ดูสิใครมา แหม่ นี่นายจะไม่บอกชื่อเสียงเรียงนามหน่อยหรอ? …. อืมมม แย่กว่าที่ชั้นคิดแฮะ เอาล่ะ ฟังนะ นายกับชั้นมีเรื่องที่ต้องคุยกันหน่อย แต่ ตอนนี้น้องสาวชั้นหายไปคงต้องไปตามหาตัวนางก่อนนะ .
????? - ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เจอนายในที่แบบนี้ เดินมั่วๆแล้วเจอแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จากนั้นเดินขึ้นไปต่อจนถึงโรงอาบน้ำด้านบนสุดคุยกับคนดูแลที่เคาน์เตอร์ด้านในเพื่อเข้าไปอบไอน้ำได้เลย
Erik – อ่า มาแล้วหรอ นึกว่านายจะไม่ตามมาซะแล้ว ดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยนะจะบอกให้ ไม่มีคนเลยด้วย อย่างกับห้องอาบน้ำแบบส่วนตัวแนะ เราจะได้หาเวลาพักผ่อนเล็กๆน้อยๆแบบไม่ต้องกังวลอะไรซักที ไม่ง่ายเลยนะที่จะหาที่เหมาะๆแบบนี้ นายคิดดูสิ ใครจำไปรู้ล่ะว่าไอ้พวกบ้านั่นจะมาจับเราเมื่อไหร่ เออว่าแต่สำรวจหมู่บ้านดูแล้วเจออะไรที่น่าสนใจบ้างมั๊ยอ่ะ? …..อ๋อ ....ยัยเด็กผู้หญิงตัวน้อยนั่นน่ะหรอ? เหมือนนางจะป่วนไปทั่วเมืองเลยนะเท่าที่เห็นนะ แก่แดดชะมัดเลย เด็กบ้าอะไรที่อยากจะเข้าบาร์แบบจะเป็นจะตายแบบนั้นว่ามั๊ยล่ะ ไม่แปลกหรอกที่เด็กคุมบาร์จะเตะกระเด็นออกมาแบบนั้น แต่ก็แย่เหมือนกันนะถ้ามีน้องสาวแบบเธอแล้วต้องวิ่งตามหาทั่วเมืองแบบนี้ ???? – ฮืออ ฮือออออๆๆๆๆ Erik – คะ ใคร ใครอยู่นั้นน่ะ ?? นายได้ยินป่ะวะ ? ????- อยู่หน่ายยยย ฮื้อออๆๆ หายไปไหย ฮื้อออออๆๆๆ Erik – หือออ นั่น ผ ผี ผีหรอ?? ????- หนูหาตั้งนานแล้วไม่เจอเลย
Erik – โธ่เอ้ย นึกว่าผี กลัวแทบแย่ แล้วเธอมาทำอะไรแถวนี้เนี่ยยัยหนู? ????- หนู หนู รอเขาอยู่ที่โรงแรม ฮืออๆๆ เขาบอกว่าเขามาที่โรงอาบน้ำแปบเดียวแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย ฮือออๆ เขาไปไหนนน ทำไมถึงทิ้งหนู ฮื้อออออๆๆๆ Erik – เหมือนเธอกำลังตามหาใครบางคนอยู่นะ ห๊ะ เดี๋ยวนะ หรือยัยเด็กจอมป่วนที่เจอหน้าบาร์นั่นอาจะเป็นพี่สาวที่น้องคนนี้กำลังตามหาอยู่ก็ได้ เราลองพาน้องคนนี้ไปตามหายัยเด็กนั่นกันเถอะ เอาล่ะน้องเช็ดน้ำตาแล้วบอกหน่อยว่าหนูชื่ออะไรหรอ?
Connie – หนู หนูชื่อ Connie ค่ะ Erik – ยินดีที่ได้รู้จักนะ Connie ทำไมหนูไม่มากับเราล่ะ? เดี๋ยวเราจะพาไปหาใครก็ตามที่หนูกำลังตามหาอยู่ให้นะ Connie – จริงหรอคะ ? ขอบคุณมากๆเลยคะพี่ พา Connie ออกจากโรงอาบน้ำแล้วลงไปตามหาเด็กชุดแดงที่เคยเจอที่หน้าบาร์ โดยจะพบเธอกำลังยืนเถียงกันยามที่หน้าประตูเมืองอยู่
???? – เฮ้อออออ นึกว่าจะมีใครรู้ซะอีก รู้งี้ไม่แวะเข้ามาที่นี่หรอก เมืองที่มีแต่ไอ้พวกโง่เง่าแบบนี้น่ะ !! ห๊ะ โอ้ นายนั่นเอง Erik – เฮ้ นังหนู ชั้นมีข่าวดีมาบอก ชั้นเจอน้องสาวเธอแล้ว อยู่นี่ไง อ้าว Connie ไม่ต้องอายหรอก ออกมาหาพี่เธอได้แล้ว Connie – ชั้น เออ คือ เธอ ..
???? – ห๊า ชั้นไม่รู้หรอกนะว่าเธอตามหาใครอยู่อ่ะ แต่ชั้นไม่ใช่พี่สาวเธอแน่นอน แล้วก็เกิดมายังไม่เคยเจอเธอมาก่อนเลยด้วยซ้ำนะ Erik – อะไรนะ ?? Connie – คือ หนูไม่ได้ตามหาพี่หรือน้องอ่ะค่ะ หนูกำลังตามหาพ่อค่ะ ???? – จะพูดยังไงดี ? มาถามชั้นแล้วชั้นจะรู้มั๊ย? ทำไมนายไม่ไปถามเธอให้ดีๆก่อนล่ะว่าเธอกำลังตามหาใครก่อนจะมาออกช่วยตามหาแบบโง่อย่างนี้น่ะ Erik – นี่นังตัวจิ๋วอย่ามาปากดีกับชั้นแบบนี้นะเว้ย !! ???? – เฮ้อออ ชั้นก็ไม่อยากจะใจร้ายหรอกนะ แต่ถ้ามามัวยืนเถียงกันแบบนี้รับรองไม่เจอพอนังหนูนี่แน่นอน ฟังนะ คือชั้นมีเรื่องสำคัญที่จะต้องคุยกับเจ้าของบาร์แต่ชั้นเข้าไปไม่ได้พวกนายก็รู้ พวกนายช่วยพาชั้นเขาไปได้ป่ะล่ะ ... ขอบคุณนะ ที่ยอมช่วย ชั้นเข้าไปถามไม่นานหรอกรับรอง
Veronica – อ่อ ขอแนะนำตัวก่อน ชั้นชื่อ Veronica นะ พร้อมจะไปกันได้ยัง.. แล้วก็เธอน่ะ นังหนู ไม่ได้ต้องสนไอ้พวกคนโง่ๆในเมืองนี้ได้แล้วเดี๋ยวเราจะช่วยหาพ่อเธอให้เองนะ รับรองไม่นานก็เจอ Connie – ขอบคุณคะ Erik – เฮ้อออ เด็กสมัยนี้ ไม่เคารพผู้หลักผู้ใหญ่กันเล๊ย แต่ก็นะดูเหมือนเราจะไม่มีทางเลือกแล้วล่ะ พานังหนูนี่ไปที่บาร์กันเถอะ !
จากนั้น เดินเข้าไปที่บาร์ที่ผู้ดูแลไม่ยอมให้ Veronica เข้าไปในตอนแรก แต่เมื่อ Hero และ Erik ไปคนไปยืนยันว่าจะพาเธอเข้าไปคนดูแลก็ไม่กล้าที่ขัดใจ สร้างความสะใจให้ Veronica อย่างมากมาย
Veronica – อ้าวนี่ ไม่เห็นหรอว่ามีลูกค้ามาน่ะ มาบริการหน่อยเซ่ บาร์เทนเดอร์ – เด็กเกินไปมั๊ยหนูน่ะ ถ้าเป็นชาล่ะพอไหว Veronica – ก็ดีนะ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาน้ำชาของชั้นอ่ะ ชั้นแค่มาตามหาคนๆนึงหน่อย เอาตรงๆเลยนะ ชั้นมาตามหาผู้หญิงที่ชื่อ Serena ผมสีทอง หน้าตาคล้ายๆชั้นเนี่ย ลุงเคยเห็นเธอบ้างป่ะ? บาร์เทนเดอร์ – อืมมม Serena ๆๆ อ๋อ Serena จำได้แล้ว เด็กสาวที่กำลังตามหาพี่สาวของเธอ แต่เธอไปจากนี่นานแล้วนะ Veronica – นั่นแหละเธอล่ะ แล้วรู้ป่ะว่าเธอไปไหนต่ออ่ะ? บาร์เทนเดอร์ – เธอบอกว่ามีเสียงนำทางเธอให้ไปทางตะวันตก เธอสังหรณ์ใจว่าพี่สาวเธอน่าจะอยู่ทางทิศตะวันตกเธอว่างั้นนะ Veronica – ทางตะวันตกงั้นหรอ?? ยัยงี่เง่านั่นคงจะตามไปช่วยชั้นแน่ๆเลย แต่ชั้นเพิ่งมาจากที่นั่นเหมือนกัน โธ่เอ้ย !!
Veronica – ชั้นน่ะเคยถูกพวกมอนสเตอร์บุกเข้ามาลักพาตัวไปตอนที่ชั้นอยู่ที่โรงอาบน้ำ พวกมันพาชั้นไปที่รังของพวกมัน แต่ชั้นก็หาทางหนีออกมาจนได้ แต่สังสัยว่าเธอคงจะไปที่นั่นเพื่อช่วยชั้นแน่นอน ชั้นคงต้องกลับไปที่นั่นอีกครั้งแล้วล่ะ เพื่อช่วย Serena และนาย 2 คนน่ะไม่ใช่แค่นักเดินทางธรรมดา ใครๆดูก็รู้แล้ว ตอนนี้ชั้นไม่มีเวลาอธิบายอะไรหรอกนะ แต่ชั้นอยากให้พวกนายช่วยพาชั้นไปตามหาน้องสาวชั้นให้หน่อย ได้มั๊ย? ….. ได้หรอ ว่าแล้วว่าพวกนายต้องไม่ทำให้ชั้นผิดหวัง Connie – ให้หนูตามไปด้วยได้มั๊ย? Veronica – เสียใจด้วยนังหนู เธอต้องรออยู่ที่นี่ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ชั้นจะตามหาพ่อเธอให้เอง เป็นเด็กดีรอพวกเรากลับมาก็แล้วกัน Erik – นี่ เธอมันก็เด็กเหมือนกันไม่ใช่หรอ? แน่ใจนะว่าจะไปด้วยจริงๆน่ะ
Veronica – นายคิดว่ากำลังพูดอยู่กับใครห๊า ?? ชั้นน่ะ Veronica ปราชญ์แห่ง Arboria ผู้ใช้เวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักรเชียวนะ ต่างจากโจรกระจอกๆอย่างนายลิปลับเลย ชั้นห่วงว่านายจะเป็นตัวถ่วงชั้นมากกว่านะ เอาล่ะ เรามุ่งตะวันตกกันเถอะ ที่นั่นมี สุสานใต้ดินอยู่แห่งนึงตรงชายฝั่ง ด้านในมีเส้นทางที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยมอนสเตอร์มากมาย ชั้นมั่นใจว่าจะเจอ Serena ในนั้นแน่นอน
Veronica – และ ...ชั้นรู้นะว่านายเป็นใคร อย่าทำให้ชั้นผิดหวังก็แล้วกัน ก่อนจะออกเดินทาง แวะทำเควสย่อยที่อยู่ในเมืองให้หมดก่อนก็ดี Side Quest ที่อยู่ใน หมู่บ้านน้ำพุร้อน Hotto
Side Quest: Smiths and Sparkly Spot ผู้จ้าง – Blacksmith สถานที่ –ที่ร้านตีเหล็กก่อนทางขึ้นศาลเจ้า เป้าหมาย – นำเอาแร่เหล็ก (Iron Ore) มาให้เขา (Iron Ore สามารถหาขุดได้ตามก้อนแร่ระหว่างทางทั่วไป) รางวัล – I Love Iron Arms ตำราตีอาวุธที่ทำให้สามารถตีอาวุธชนิดใหม่ๆเพิ่มคือ iron broadswords / Cast – iron Claymores
Side Quest: Put a Ring on it ผู้จ้าง – Blacksmith สถานที่ – ด้านหลังบาร์
เป้าหมาย – ตีแหวน Gold Ring มาให้เขา โดยจะได้คู่มือตีอาวุธ Twenty – Four Carats of Class เพื่อให้เรียนรู้วิธีตีแหวน และ แร่ทองวัตถุดิบในการตีที่เก็บได้ในหีบด้านหลังของผู้จ้างในการสร้าง รางวัล – มุมเมอร์แรง Crucerang The Cryptic Crypt
ออกจาก หมู่บ้านน้ำพุร้อน Hotto แล้วเดินทางไปยังทิศตะวันตกผ่านแค้มปไฟแล้วเดินทางต่อไปตามทางแยกชายฝั่งด้านทิศเหนือต่อก็จะพบทางเข้าสุสานใต้ดิน The Cryptic Crypt
เข้ามาด้านในสุสานใต้ดิน The Cryptic Crypt จนถึงจุดที่มีรากของต้น Yggdrasil อยู่ เมื่อใช้พลังแห่งการนำทาง Guidance of Yggdrasil เพื่อย้อนอดีตดูเหตุการณ์ในพื้นที่
จะเห็นนิมิตในอดีตของปีศาจตัวนึงที่กำลังเดินเข้าไปยังห้องหัวหน้าแล้วขึ้นได้ว่าตัวเองได้ทำกับดักเอาไว้จึงเลือกเดินไปตามทิศทางที่ปลอดภัยแทน
จึงทำให้รู้ว่าในพื้นที่นี้ตามเส้นทางต่างๆจะมีกับดักพื้นถล่มที่ทำให้ตกลงไปชั้นล่างได้ แม้จะไม่ทำให้ตายแต่มันเสียเวลา และการจะกลับขึ้นมาก็คือใช้การขี่มอนสเตอร์ปีนพนังกลับขึ้นมา โดยมอนสเตอร์ที่สามารถนำมาใช้ขี่ได้ในพื้นที่นี้คือ Skullrider จัดการมันซะแล้วใช้เอามันมาขี่
ความสามารถของ Skullrider ก็คือ สามารถกด R2 ในการวิ่งพุ่งชนศัตรูให้กระเด็นให้พ้นทางและสามารถปีนพนังตรงจุดที่มีรอยเท้าอยู่ได้ จากห้องที่มีรากของต้น Yggdrasil เดินตามปีศาจไปแบบภาพในอดีต คือจากห้องด้านหน้าของต้น Yggdrasil แล้วเลี้ยวไปทางช่องทางขวาบน ก็จะทำให้ไม่โดนกับดักพื้นถล่ม จนสามารถเข้าไปถึงห้องโถงกลางของถ้ำที่มีเทวรูปน้ำพุได้ Erik – อยากรู้จังใครมันมาบ้าสร้างน้ำพุในที่แบบนี้ฟ่ะ? Veronica – อืมมม เดี๋ยวนะ นั่นไง ! Serena !!! ... Serena ฟื้นสิ เธอเป็นไรไปหรอ ฟื้นสิ!!
Serena – หาวววววว ..โอ้ โทษทีนะ พอดีชั้นเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ เดินหาจนเมื่อยขาแล้วก็หลับไปเลย ห๊า !! Veronica หรอ? นั่นเธอจริงๆหรอเนี่ย เกิดอะไรขึ้นกับเธอเนี้ยยยย Veronica – ห๊า ทำไมเธอถึงจำได้ว่าเป็นชั้นล่ะ Serena? Serena – หึหึ ..แหม่ เราเป็นพี่น้องกันมานานเท่าไหร่แล้ว เธอก็น่าจะรู้ แค่รูปลักษณ์ใหม่แค่นี้หลอกชั้นไม่ได้หรอกน่า ฮ่าๆ Veronica – อ่อ ตลกมาใช่ป่ะ แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ห๊า ชั้นนึกว่าเธอจะอยู่ที่ .... ช่างเถอะ อยู่ที่นี่ก็ดีแล้วล่ะ เชอะ !!
Erik – เอ่อ โทษทีที่ต้องขัดจังหวะนะ Veronica แต่ ....ไหนเธอบอกว่า Serena เป็นน้องสาวเธอไง? Veronica – แหม่ ก็ถ้าเอาตามเทคนิคแล้ว เราก็เป็นฝาแฝดกันนั่นแหละ แต่ที่รูปร่างขั้นไม่สมอายุแบบนี้ก็เพราะ ..มันก็นะ เป็นเรื่องที่ซับซ้อนน่ะ ชั้นเคยบอกเรื่องที่ชั้นโดนไอ้มอนสเตอร์พวกนั้นลักพาตัวแล้วใช่ป่ะ มันก็ลักพาตัวพวกชาวบ้านคนอื่นๆมาด้วยนะ แล้วพวกมันก็ขโมยพลังเวทย์ของชั้นไปด้วยจะบอกให้ แล้วชั้นก็ไม่มีปัญญาจะไปเอาคืนมาด้วยเพราะไม่มีพลังอะไรเลยตอนนี้ ที่ชั้นดูเป็นเด็กแบบนี้ก็เพราะโดนดูดพลังเวทย์แล้วก็ไม่รู้เพราะอะไร อายุถึงถูกดูดไปด้วยก็ไม่รู้สิ เฮ้อออ ... นั่นแปลว่า ชั้นไม่ใช่เด็ก !! ฉะนั้นเลิกพูดกับชั้นเหมือนเป็นเด็กๆได้แล้ว !!!! Erik – โอเคๆๆ มันทำเหมือนเธอเป็นเด็กก็ได้ ถึงแม้เธอจะเหมือนเด็กก็เหอะ แล้วเธอต้องการไรอีกป่ะเนี่ย Veronica – ต้องการแน่นอน ไม่งั้นจะมาที่นี่ทำไม ชั้นอยากจะให้พวกนายจัดการไอ้เจ้าพวกมอนสเตอร์ที่จับชั้นมาให้หน่อย มันอยู่ที่นี่แหละ มันอาจจะแก้ไขปัญหาของชั้นได้บ้างก็ได้ Serena – คุณจะช่วยพวกเราใช่มั๊ย ชั้นรับรองเลยว่าไม่เป็นอันตรายอะไรหรอกเพราะชั้นมีเวทย์สำหรับรักษาชั้นเลิศอยู่กับตัว จากนั้นเดินเข้าไปด้านในต่อ จนถึงจุดที่มีรากของต้น Yggdrasil อยู่ เมื่อใช้พลังแห่งการนำทาง Guidance of Yggdrasil เพื่อย้อนอดีตดูเหตุการณ์ในพื้นที่ ที่เจ้าปีศาจเปิดประตูเข้าไปที่ห้องของหัวหน้าด้านในด้วยรหัสลับ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าประตูชั้นในด้วยรหัสลับได้อย่างง่ายดาย
Javis – พวกแกรู้มั๊ยว่ารสชาติของเวทย์มนต์มันเป็นยังไง ตั้งแต่ได้มาจากยัย Varonica นี่ข้ายังไม่รู้จะทำอะไรกับไหนี้ดีเลย มันน่าอร่อยมากรู้มั๊ย พวกแกก็รู้ เสียดายที่ข้าต้องไปให้ท่านเจ้าแห่งความมืด ตามแผน Erik – เจ้าแห่งความมืดงั้นหรอ? Veronica – ไอ้พวกนี้แหละที่มันเคยจับชั้นจากโรงอาบน้ำมาขังไว้ที่นี่ เห็นไหใบใหญ่นั่นป่ะนั่นแหละเวทย์มนต์ของชั้นที่พวกมันดูดมา Erik – งั้นเราก็ต้องหาทางเอามันมาให้ได้สินะ Javis – นั่นใครนะ !!! โอ้ เรามีแขกที่น่ารักมาเยือนนี่นา แถมยังพิเศษยิ่งกว่าเพราะมากับคนที่หนีจากข้าไปซะด้วยสิ แบบนี้ก็แจ็คพ๊อตเลย เอาล่ะ งั้นเจ้าก็จงนั่งในที่นั่ง VIP ดูข้าดูเวทย์มนต์พวกเพื่อนๆของเจ้าจนหมดตัวก็แล้วกัน Erik – คงไม่มีทางอื่นนอกจากต้องสู้แล้วใช่มั๊ยเนี่ยยย
เข้าไปจัดการ Boss Jarvis และเงาของมันทั้ง 3 ตัวให้ชนะแล้ว Veronica ก็จะได้เวทย์มนต์ของเธอกลับคืนมาอีกครั้ง
Javis – ข้ายังไม่มีโอกาสได้เป็นมือขวาของท่านเจ้าแห่งความมืดเลยก็ต้องมาโดนแบบนี้ซะแล้ว โธ่ ความฝันของข้า Erik – แล้วไอ้เจ้าจ้าวแห่งความมืดที่แกพล่ามอยู่นี่มันใครกันล่ะวะ? Javis – ฮ่า เมื่อวันนั้นมาถึงพวกแกก็จะรู้เอง อ๊ากกกกก.....
Veronica – เอาล่ะถึงเวลาเอาเวทย์ของชั้นกลับคืนมาแล้ว ว้าวววววววว !! Serena – เอ่อ ทำไมดูทุกอย่างยังเหมือนเดิมเลยล่ะ มันไม่สำเร็จหรอ?
Veronica – ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางอีกแล้วล่ะนะ ชั้นได้เวทย์ของขั้นกลับคืนมาหมดแล้ว รู้สึกได้ว่ามันอัดแน่นตั้งแต่ปลายผมถึงปลายเท้าเลยนะ Serena – แล้ว ทำไมเธอถึงยังอยู่ในร่างเด็กน้อยอยู่อีกล่ะ? Veronica – ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการได้พลังคืนมาแล้วมันจะทำให้หายจากร่างเด็กหรือเปล่าอ่ะนะ? แต่มันก็ไมได้เลวร้ายอะไรนี่นา ก็อยากที่เขาว่านั่นแหละ ได้กลับมาเป็นเด็กอีกครั้งมันดีจะตายไป Serena – ชั้นรู้ แต่ชั้นแค่ไม่ชินกับการมีพี่สาวฝาแฝดที่ขนาดตัวครึ่งนึงของชั้นก็เท่านั้นเอง ฮ่าๆ แต่ก็เถอะ เราก็เจอคนที่เราต้องร่วมเดินทางด้วยแล้วใช่มั๊ยล่ะ? Veronica – แน่นอน ชั้นมีแล้วและถ้าก็ต้องมาด้วยเหมือนกันจริงมั๊ย?
ท่านผู้กล้า ที่ถูกเลือกแล้วโดย Yggdrasil พวกเรารอคอยที่จะรับใช้ท่านมานานแสนนานแล้ว เราเหล่าปราชญ์แห่ง Arboria ต่างก็มีชีวิตอยู่เพื่อปกปักษ์ไม่ให้ใครมากร่ำกรายท่าน ไม่ว่ามันผู้ใดที่หมายจะนำภัยร้ายมาสู้โลกของเรา ได้โปรดทำให้พวกมันรู้ว่ามันคิดผิดที่คิดจะทำ ท่านคือผู้กล้า ประกายในสายตาของท่านมันบ่งบอกว่าเรื่องเล่าขานในตำนานแห่ง Arboria นั้นเป็นความจริงให้สิ้นสงสัย Veronica – ชั้นรู้ว่าท่านเป็นผู้กล้ามาตั้งแต่แรกเห็นแล้วล่ะ Erik – คราวนี้นายก็มีนักเวทย์แฝดมาคอยช่วยปกป้องอีกแรงแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่านายเป็นผู้กล้าจริงมั๊ยเลยว่ามั๊ย? ไม่ต้องเดาแล้วล่ะ Veronica – ก่อนจะไปเรามีบางอย่างที่ต้องจัดการก่อน ชั้นเคยบอกใช่มั๊ยว่าไม่ใช่ชั้นคนเดียวที่โดนจับมายังมีชาวบ้านคนอื่นอีก เอาล่ะไปช่วยพวกเขากัน
Veronica – เอาล่ะ ออกมาได้แล้ว ไม่ต้องกลัวนะเจ้าปลอดภัยแล้ว .... ???? – ขอบใจเจ้ามากนะ ข้าเป็นหนี้เจ้าแล้ว กำลังห่วงอยู่เลยว่าที่มันเอาอาหารมาเลี้ยงข้านี่เพื่อจะขุนไว้กินรึเปล่าอยู่พอดีเลย Veronica – นี่แกห่วงแต่ตัวแกนะสิ แล้วลูกสาวที่แกทิ้งมาล่ะไม่สนหรอว่าเธอจะรู้สึกยังไง ???? – ข้าเสียใจ ก็ข้าไม่ได้ตั้งใจ แล้วเธอรู้จัก Connie ด้วยหรอ? Veronica – รู้สิ แล้วเธอก็สบายดี ขอบคุณที่ถาม ตอนนี้เธอรอเจ้าอยู่ที่บาร์ของหมู่บ้านอ่ะ รีบกลับไปรับผิดชอบซะ Noah – เอ่อ ฟังนะขอบคุณพวกท่านมากนะที่ช่วยข้าออกมา ข้าชื่อ Noah ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกข้าได้เลยนะรับปากว่าจะหาทางช่วยให้ดีที่สุดเลย
Erik – Noah งั้นหรอ? อืมม เหมือนเคยได้ยินชื่อนี้มาจากไหนกันนะ ? Noah – อ่อ อ่า ข้าก็อยากขอบคุณอีกเป็นล้านๆครั้งเลยนะ แต่ข้าเสียเวลามามากแล้ว คงต้องรีบกลับไปหา Connie ก่อนแล้วนะ
Serena – ทำไมเขาดูรีบร้อนจัง ... Veronica – ไอ้หมอนี่ก็พูดแบบนี้ตลอดแหละ ช่างมันเถอะ เรากลับไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่าเหนื่อยกันมามากแล้ว จากนั้นทุกคนจะกลับมาพักผ่อนที่หมู่บ้านน้ำพุร้อน Hotto 1 คืนอย่างอัตโนมัติ
Erik – อ่า ลงมาได้ซะทีนะ ไม่ต้องห่วงหรอก เราก็เพิ่งตื่นเหมือนกันแหละ Veronica – เอาล่ะ ที่นี้เราก็จะมาคุยกันถึงเรื่องเกี่ยวกับชั้น และ Serena ว่ามาเพื่อช่วยอะไรนายได้บ้างกันนะ Serena – เรามีตำนานที่เล่าขานกันใน Arboria ว่าวันใดที่เจ้าแห่งความมืดกำลังมาปกคลุมจนหมดสิ้นซึ่งแสงสว่าง Yggdrasil ก็จะส่งผู้ถูกเลือกให้กำเนิดมาเพื่อเป็นผู้กล้าที่มีสัญลักษณ์แห่งแสงเพื่อชี้ทางและเป็นผู้ต่อต้านมัน
Veronica – ชั้นรู้ว่ามันยากที่จะเชื่อ แต่ก็ดูนายสิ ว่ามันจริงหรือเปล่า? นายมีสัญลักษณ์แห่งแสง เป็นผู้กล้าที่มีหน้าที่ต่อต้านเจ้าแห่งความมืดสืบเนื่องกันมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว แต่บอกตรงๆเลยนะว่าชั้นก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงต้องพาพวกผู้กล้าอย่างนายกลับไปหลังจากที่จัดการเจ้าแห่งความมืดในแต่ละยุคสมัยได้แล้วก็ไม่รู้ เอาล่ะ ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องมานั่งหาเหตุผลหรอกนะ ทำไมเราไม่ทำหน้าที่ของเรากันซักทีล่ะ หน้าที่ของเราคือพานายไปยังต้น Yggdrasil และมั่นใจเลยว่าพอนายไปที่นั่นแล้วความจริงหลายอย่างที่นายไม่รู้ต้องเปิดเผยออกมาแน่นอน Erik – Yggdrasil งั้นหรอ ชั้นก็อยากรู้มานานแล้วว่าอยู่ๆเราจะเดินทอดน่องแล้วไปถึงที่นั่นได้ยังไงเหมือนกัน Veronica – ก็หัดใช้หัวคิดก่อนที่จะใช้ปากพูดสิ Yggdrasil น่ะลอยอยู่บนฟ้า นายใช้คำว่าเดินทอดน่องเนี่ยนะ
Serena – ตำนานว่ากันว่า ผู้กล้า จะต้องขึ้นไปที่ต้นไม้แห่งโลกก่อนจะเปิดฉากต่อสู้กับจ้าวแห่งความมืด แต่ตำนานก็ไม่ได้ว่าเราจะต้องทำยังไงถึงจะไปที่นั่นได้ Erik – อะไรนะ ผู้พิทักษ์ภาษาอะไรถึงไม่รู้เรื่องพวกนี้เนี่ย อืมม เดี๋ยวนะ Yggdrasil .. Yggdrasil เอาละชั้นคิดอะไรออกแล้ว จำไอ้คนที่เราช่วยออกจากคุกเมื่อวานได้ป่ะ ชั้นจำได้แล้ว มันเป็นคนขายข่าว เอ่อ... เป็นคนที่เชื่อถือได้ในอาชีพของชั้นอ่ะนะ Serena – นายคิดว่าเขาจะรู้หรอว่าจะไปที่ Yggdrasil ได้ยังไงอ่ะ งั้นรออะไรอยู่ล่ะ รีบไปหาเขาที่บาร์กันเถอะ
Erik – แกนี่มันไม่เปลี่ยนเลยนะ นายคือ Noah ใช่มั๊ย Noah คนที่ขายทุกอย่างที่เขารู้ ใช่รึเปล่า? ไม่ว่าจะเป็นความรู้ระดับไหน Noah รู้ทุกอย่าง Noah รู้ทุกเรื่อง พวกเขาบอกกันแบบนี้ใช่ป่ะละ ห๊า แต่ก็ช่างเถอะ คือเราอยากให้ช่วยหน่อยนะ นายบอกใช่มั๊ยว่าจะช่วยเราเป็นการตอบแทนที่ช่วยนายน่ะ เราอยากรู้ว่านายพอจะรู้เรื่อง Yggdrasil บ้างรึเปล่าล่ะ? Noah – อ่อ จริงมันเป็นข้อมูลราคามากเลยนะแต่เห็นว่าเจ้าช่วยข้าไว้ก็จะบอกเท่าที่รู้ก็แล้วกัน ตอนนั้นที่ข้ากับ Connie กำลังเดินทางข้ามทะเลทรายกันอยู่ เราก็เกิดเป็นลมแดดกันขึ้นมา เราทุรนทุรายเพื่อหาน้ำมากิน ในขณะที่เรากำลังจะแย่ ทหารของ Gallopolis ก็เข้ามา และพอรู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ในวังของสุลต่านแล้ว โชคดีเป็นบ้าเลย และที่นั่นแหละที่ข้าเห็น สิ่งที่สวยงามที่สุดในชีวิต ต้นไม้ที่มีกิ่งก้านเป็นสีรุ้งแวววับจับตามากๆ ข้ารู้ทันทีเลยว่า นั่นคือต้นไม้ Yggdrasil แน่นอน Serena – ได้ยินมั๊ย Veronica กิ่งก้านของ Yggdrasil เลยนะ Veronica – อืมม ดูเหมือนเราต้องรอแวะไปดูที่ Gallopolis กันหน่อยแล้วล่ะ Serena – เรากำลังจะเดินทางผ่านทะเลทรายกันใช่มั๊ย? งั้นก็ต้องข้ามชายแดนทางตะวันตกของ Gallopolis และถ้าไม่รังเกียจเราก็คงขอเดินทางติดตามท่านไปด้วยก็แล้วกันนะ
เพราะท่านผู้กล้า ที่ถูกเลือกแล้วโดย Yggdrasil พวกเรารอคอยที่จะรับใช้ท่านมานานแสนนานแล้ว เราเหล่าปราชญ์แห่ง Arboria ต่างก็มีชีวิตอยู่เพื่อปกปักษ์ไม่ให้ใครมากร่ำกรายท่าน *** ได้ Veronica และ Serena เข้าร่วมทีม ** Veronica Skill 1. Heavy Wands 1.1 MP Absorption when wielding 2% ดูดซับค่า MP ในขณะต่อสู้มากขึ้น 2 % 1.2 Beelzefreeze ท่าโจมตีที่ส่งผลรุนแรงกับศัตรูประเภทปีศาจและทำให้มันติดสถานะเป็นอัมพาต 1.3 Minor MP Recovery After Battle คืนค่า MP 1 – 2 หน่วย เมื่อจบการต่อสู้(หลังจากใช้คทาใหญ่ในการต่อสู้) 1.4 Maximum MP when wielding +10 เพิ่มค่าสูงสุดของ MP อีก 10 หน่วยเมื่อใช้ คทาใหญ่ในการต่อสู้ 1.5 Antimagic ท่าลับที่จะทำให้ศัตรูมีโอกาสที่จะไม่สามารถใช้เวทย์ได้สูงขึ้น 1.6 Magical Might when wielding +10 เพิ่มพลังโจมตีเวทย์อีก 10 หน่วยเมื่อใช้คทาใหญ่ในการต่อสู้ 1.7 Staff of Salvation เติมพลังชีวิตให้เพื่อน (คนเดียว) 50 HP 1.8 ?????? - 2.Whips 2.1 Hypnowhip ท่าโจมตีของแส้กับศัตรูทั้งกลุ่มและมีโอกาสทำให้ศัตรูสับสนในบางครั้ง 2.2 Attack Power when wielding +10 เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพอีก 10 หน่วยเมื่อใช้แส้ในการต่อสู้ 2.3 Hit the Hay ท่าโจมตีของแส้กับศัตรูทั้งกลุ่มและมีโอกาสทำให้ศัตรูหลับในบางครั้ง 2.4 Attack Power when wielding +15 เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพอีก 15 หน่วยเมื่อใช้แส้ในการต่อสู้ 2.5 Hit the Hay ท่าโจมตีของแส้กับศัตรูทั้งกลุ่มและมีโอกาสทำให้ศัตรูเป็นอัมพาตในบางครั้ง 2.6 Attack Power when wielding +20 เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพอีก 20 หน่วยเมื่อใช้แส้ในการต่อสู้ 2.7 Lashings of Love ท่าโจมตีของแส้กับศัตรูทั้งกลุ่มและส่งผลรุนแรงกับศัตรูประเภท Humanoid 2.8 ?????? - 3. Vim 3.1 Wizard Ward สร้างบาเรียป้องการโจมตีเวทย์จากศัตรู 3.1 Magical Might +10 เพิ่มพลังโจมตีเวทย์อีก 10 หน่วย 3.2 Maximum MP เพิ่มค่าสูงสุดของ MP อีก 10 หน่วย 3.3 Fire and Earth Resistance +20% เพิ่มพลังโจมตีเวทย์ธาตุไฟและดินอีก 20 หน่วย 3.4 Sage’s Breath เวทย์ลมแห่งนิรันดรที่จะทำให้ค่า MP ฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น 3.5 Ice and wind Resistance +20% เพิ่มพลังโจมตีเวทย์ธาตุน้ำแข็งและลมอีก 20 หน่วย 3.6 Spooky Aura ลดพลังป้องกันการโจมตีจากเวทย์มนต์ของศัตรู 3.7 ?????? -
Serena Skill 1.Wands 1.1 MP Absorption when wielding 2% ดูดซับค่า MP ในขณะต่อสู้มากขึ้น 2 % 1.2 Magical Mending when wielding +10 เพิ่มพลังของเวทย์เยียวอีก 10 หน่วยเมื่อใช้คทา ในการต่อสู้ 1.3 Minor MP Recovery After Battle คืนค่า MP 1 – 2 หน่วย เมื่อจบการต่อสู้(หลังจากใช้คทาในการต่อสู้) 1.4 Devil’s Delight ท่าโจมตีที่ส่งผลรุนแรงกับศัตรูประเภทปีศาจและทำให้มันติดสถานะอาการผิดปกติของสเตตัสแบบแรนด้อม 1.5 Magical Mending when wielding +30 เพิ่มพลังของเวทย์เยียวอีก 30 หน่วยเมื่อใช้คทา ในการต่อสู้ 1.6 Snap, Crackle, Poof สร้างแสงประกายสีม่วงปกป้องเพื่อนในกลุ่ม (คนเดียว) จากอาการผิดปกติทางสเตตัส 1.7 Alma , Mater ทำให้เพื่อนในปารตี้ที่ถูกเวทย์ Death แคล้วคลาดจากการถูกโจมตีเมื่อ HP เริ่มต่ำกว่าครึ่ง 1.8 ?????? - 2. Spears 1.2 Cattle Prod ท่าโจมตีด้วยหอกที่ส่งผลรุนแรงกับศัตรูประเภทสัตว์ป่า 2.2 Attack Power when wielding +10 เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพอีก 10 หน่วยเมื่อใช้หอกในการต่อสู้ 2.3 เพื่อโอกาสในการปัดป้อง 4 % เมื่อใช้หอกในการต่อสู้ 2.4 Attack Power when wielding +15 เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพอีก 15 หน่วยเมื่อใช้หอกในการต่อสู้ 2.5 Party Pooper ท่าโจมตีด้วยหอกกับศัตรูทั้งกลุ่ม (โดนทั้งกลุ่มโดยไม่สนประเภทของศัตรู) 2.6 Critical Hit Chance when wielding 2% เพิ่มโอกาสทำให้การโจมตีแบบคริติคอลมากขึ้น 2 % เมื่อใช้หอกในการต่อสู้ 2.7 Deliverance ท่าโจมตีด้วยหอกที่ส่งผลรุนแรงกับศัตรูประเภท Undead 2.8 ?????? - 3. Harpistry 3.1 Magical Mending +10 เพิ่มพลังของเวทย์เยียวอีก 10 หน่วย 3.2 Maximum MP +10 เพิ่มค่าสูงสุดของ MP อีก 10 หน่วย 3.3 Hymn of fire สร้างบาเรียป้องปกเพื่อนทั้งกลุ่มจากการโจมตีเวทย์ธาตุไฟจากศัตรู 3.4 Hymn of Ice สร้างบาเรียป้องปกเพื่อนทั้งกลุ่มจากการโจมตีเวทย์ธาตุน้ำแข็งจากศัตรู 3.5 Hymn of Earth สร้างบาเรียป้องปกเพื่อนทั้งกลุ่มจากการโจมตีเวทย์ธาตุดินจากศัตรู 3.6 Hymn of Thunder สร้างบาเรียป้องปกเพื่อนทั้งกลุ่มจากการโจมตีเวทย์ธาตุสายฟ้าจากศัตรู 3.7 Hymn of Air สร้างบาเรียป้องปกเพื่อนทั้งกลุ่มจากการโจมตีเวทย์ธาตุลมจากศัตรู 3.8 ?????? - บทที่ 5
ออกจากหมู่บ้าน Hotto แล้วเดินทางไปทางตะวันตกต่อจนถึงชายแดนของอาณาจักร Gallopolis ก็จะสามารถผ่านได้ด้วยบัตรผ่านที่ได้จาก Veronica ไปยังเขต Gallopolis Region ได้ จากนั้นเข้าไปที่ อาณาจักรของสุลต่าน กัลโลโพริส ได้เลย อาณาจักรของสุลต่าน กัลโลโพริส( The Sultanate of Gallopolis)
Serena – โอ้ ดูทุกๆคนที่อยู่ที่นี่สิ มันมหัศจรรย์มากๆเลยอ่ะ มันเหมือนกำลังอยู่ในงานเทศกาลเลย ชั้นคิดว่างั้นนะ Veronica – อืมมม ชั้นว่าที่นี่กำลังมีงานเทศกาลอะไรซักอย่างแน่นอน Gallopolis เป็นอาณาจักรของเหล่าอัศวินแห่งทะเลทรายไม่ใช่หรอ? พวกเขาคงชอบการแข่งม้าเพราะเห็นมีสนามแข่งที่กลางเมืองด้วย ชั้นว่าเรามาที่นี่ในช่วงที่เขากำลังมีการจัดงานเทศกาลแข่งมาชัวร์เลย Erik – หรา งั้นหนูกก็ไปหามาโพนี่ขี่เล่นก่อนนะ ส่วนชั้นจะไปหาข่าวเรื่องกิ่งของต้น Yggdrasil ตามเหตุผลที่เรามาที่นี่ซึ่งดูเหมือนเธอจะลืมไปแล้วนะ Veronica – งั้นก็เชิญคุณหน้าบูดไปที่ชอบที่ชอบเถอะค่ะ เดี๋ยวพวกเราจะดูอะไรแถวๆนี้ก่อนดีกว่า ก่อนจะดำเนินเรื่องต่อ แวะสำรวจเมืองพร้อมรับเควสย่อยต่างๆในเมืองกันก่อน Side Quest ในอาณาจักร Gallopolis
Side Quest : A Cactus Cutlet to Die For ผู้ว่าจ้าง – ลุงที่อยู่ในร้านค้าด้านขวาของเมือง เป้าหมาย – ต้องการไอเทม Golden Globule รางวัล – Trickster
วิธีการทำ – ไอเทม Golden Globule นั้นได้จากมอนสเตอร์ Golden Globe หรือ กระบองเพชรสีทอง ที่จะออกมาในกลุ่มของพวกกระบองเพชร Cactiballs แบบสุ่ม ซึ่งจะเจอเป็นจำนวนมากแถวๆแค้มป์ไฟในพื้นที่ และจะออกมาเฉพาะเวลากลางคืน
Side Quest : A Walk on the wild side ผู้ว่าจ้าง – ชายที่ยืนหน้าป้ายประกาศด้านบนซ้ายของเมือง
เป้าหมาย – ต้องการให้ใช้ท่า Pep Power : Wild side จัดการ มอนสเตอร์ Spitzfire ที่ทะเลทราย Celestial Sand ทางเหนือของอาณาจักร Gallopolis รางวัล – Furry Finery
วิธีการทำ – Pep Power : Wild side คือท่าประสานระหว่าง Hero, Erik, Serena จากนั้น เข้าไปที่ปราสาทใหญ่ด้านบนของเมืองเพื่อเข้าไปพบสุลต่านผู้ครองอาณาจักรนี้
สุลต่านแห่ง Gallopolis – อืมมม ขาว Galloplitans ที่รัก เทศกาลแห่งขนชาติทะเลทรายของเราในครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหนๆที่ผ่านมาเพราะครั้งนี้ Faris ลูกชายข้าอายุอานามก็ถึงเวลาที่จะ ....ไม่ๆๆ ไม่ดีๆ งานสำคัญแบบนี้ต้องใช้คำที่คมคายกว่านี้อีก ถ้าไม่ใช่งานสำคัญของลูกรักของข้าคงไม่ตื่นเต้นแบบนี้หรอก ! …หืออ ? นี่พวกเจ้าเป็นใครกันเนี่ย? วันนี้ข้ายังไม่ว่าง แล้วก็ยังไม่อณุญาติให้ใครมาร่วมงานวันนี้ด้วย รีบออกไปซะ!
เจ้าชาย Faris – ท่านพ่อ !! การฝึกฝนของข้าเสร็จสิ้นลงแล้ว !!!
สุลต่านแห่ง Gallopolis – อะ แอ่มม!! งั้นก็จงเอ่ยปฏิญาณกับข้า ณ.บัดนี้! เจ้าชาย Faris – ด้วยคำสัตย์ของอศัวินที่เป็นดั่งพันธะที่มีต่อราชอาณาจักรและนายเหนือหัว ข้าผู้ทำหน้าที่ของผู้อ่อนแอที่ท้าทายความแข็งแกร่งอย่างไม่ย่อท้อและไม่เคยถอยหนีจากความยากลำบาก !! สุลต่านแห่ง Gallopolis – อืมมม สุดยอดมาก คำปฏิญาณของอัศวินจะช่วยนำทางให้เจ้า ลูกข้า และตอนนี้เจ้าก็ได้โตเป็นหนุ่มแล้ว พรุ่งนี้การแข่งม้าจะพิสูจน์ทุกอย่าง เจ้าจะได้โชว์ประชาชนของเจ้าได้เห็นว่าเจ้าคู่ควรที่พวกเขาจะยกย่องสรรเสริญ เจ้าชาย Faris – หาไม่เสด็จพ่อ ข้าจะไม่นำความผิดหวังมาให้กับท่านและประชาชนของข้าแน่นอน
เจ้าชาย Faris – หืมม ...? เจ้าชื่ออะไรหรอเจ้าคนแปลกหน้า และมีธุระอะไรที่ Gallopolis ถึงได้มาที่นี่? โอ้ .. พวกเจ้ามาตามหากิ่งของต้น Yggdrasil งั้นหรอ? (… อืมม พูดถึง Rainbough ซะเต็มปากเต็มคำเลย ทั้งที่มันเป็นสมบัติล้ำค่าเพียงหนึ่งเดียวของอาณาจักรเราก็พอจะมองเห็นเจตนาของพวกนี้ได้ระดับนึง ..) ข้ามั่นใจว่าช่วยเจ้าในเรื่องนี้ได้นะสหายข้า ทำไมไม่ไปคุยต่อที่ห้องของข้าก่อนล่ะ ห้องข้าอยู่ใต้ท้องพระโรงแห่งนี้นี่เอง ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นั่นก็แล้วกันนะ คุยจบเดินเข้าไปยังห้องของ เจ้าชาย Faris ที่อยู่ด้านขวาของบันไดทางขึ้นมาที่ท้องพระโรงต่อ
เจ้าชาย Faris – อ่า เจ้ามาแล้วหรอ? อืมมม .. ส่วนสูง น้ำหนัก ได้เลย สมบูรณ์แบบ แถมท่าทางจะรู้เรื่องการขี่ม้าดีซะด้วย ...อะ แฮ่ม !! เข้าเรื่องเลยนะ ก่อนอื่นพวกเจ้าต้องทราบว่า Rainbough ที่พวกเจ้ากำลังตามหามันเป็นสมบัติล้ำค่าเพียงหนึ่งเดียวของอาณาจักรเรา ท่านพ่อของข้าคงจะไม่ปลื้มแน่นอนถ้าคนแปลกหน้าเป็นคนได้มันไป แต่ถ้าถูกลูกชายสุดที่รักอย่างข้าช่วยพูดให้ล่ะก็ ...อ๊ะ !!! ไม่ได้ๆ เกือบลืมไป หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง อืมมม เอางี้ เสียงของละครสัตว์น่าจะพอบดบังการสนทนาของเราได้ พวกเจ้าจะไปด้วยกันมั๊ยล่ะ? … ดีมาก งั้นพวกเจ้าไปเจอข้าที่หน้าเต้นท์ละครสัตว์คืนนี้นะแล้วค่อยไปคุยรายละเอียดกันต่อที่นั่นอีกทีก็แล้วกัน จากนั้นเข้าไปที่โรงแรมในเมือง เลือก Rest Awhile – Until Night เพื่อพักผ่อนระยะสั้นๆแล้วตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนกลางคืน เข้าไปที่หน้าเต้นท์ละครสัตว์ก็จะเจอ เจ้าชาย Faris ที่นัดกันเอาไว้
ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสัตรี เด็กชายและเด็กหญิง ถึงเวลาแล้วที่พวกท่านจะได้พบกับการแสดงที่ทุกท่านกำลังรอคอย ชายผู้มหัศจรรย์เหนือชายใด เตรียมพบกับประสบการณ์ที่จะไม่มีวันหาได้จากที่ไหน เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับ Sylvando ผู้ยิ่งใหญ่ ณ. บัดนี้ !!!!
Sylvando – ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสัตรี อย่าได้ตกใจไป Sylvando ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ไม่เคยนำอันตรายถึงผู้ชมอันเป็นที่รักของเขาแน่นอน แต่ทุกๆท่านเป็นผู้ทำให้โชว์ในคืนนี้พิเศษขึ้นไปอีก ขอบคุณท่านมากๆน้า ขอบคุณๆ
เจ้าชาย Faris – เอาล่ะ รีบกันหน่อยเถอะ ผู้คนในนี้กำลังสนใจการแสดงอยู่ และได้โปรดอย่าเอาเรื่องที่เราจะคุยกันที่นี่ไปบอกใครล่ะ เอาล่ะ อย่างที่พวกเจ้ารู้การแข่งม้าในครั้งนี้มีความสำคัญมากสำหรับอาณาจักร Gallopolis ของเรา ซึ่งพรุ่งนี้ข้าก็จะลงแข่งด้วย เป็นการเปิดตัวครั้งแรกของข้าด้วย มันก็แค่ต้องขี่ม้าเข้าเส้นชัยก็แค่นั้น แต่มันก็มีปัญหาอยู่เรื่องเดียว เป็นปัญหาเล็กๆน้อยแค่นั้นแหละ ปัญหาคือ ...ข้าขี่ม้าไม่เป็น อันที่จริง ข้าไม่เคยนั่งบนอานม้าซักครั้งเลยด้วยซ้ำ ซึ่งข้าก็ได้แต่เก็บความจริงที่โหดร้ายนี้เอาไว้ และถ้าจะให้ข้าลงแข่งในครั้งนี้ด้วยรับรองว่าความลับนี้ต้องถูกเปิดเผยอย่างแน่เลย แล้วข้าก็ไม่มีทางเลือกด้วยเพราะเจ้าชายแห่ง Gallopolis ก็จะต้องร่วมงานนี้ตามประเพณี เมื่ออายุครบตามเกณฑ์ และเจ้าก็ผ่านเข้ามา !! เหมือนกับเป็นโชคชะตา เป็นนิมิตรหมายที่เจ้าจะเป็นฝาแฝดของข้า !! Erik – เป็นฝาแฝดของท่าน หมายถึงจะให้เขาปลอมตัวเป็นท่านเพื่อลงแข่งแทนงั้นเรอะ มันจะเวิร์คหรอ? ถ้าใครจับได้มีหวังโดนไล่ออกจากการแข่งหรอ? เจ้าชาย Faris – โอ้ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงก็บอกแล้วว่ามันเป็นโชคชะตาที่กำหนดมาแล้ว เพราะในการลงแข่งนั้นจะมีชุดเกราะของราชวงศ์ที่ปกคลุมปิดบังไว้ทั้งตัวไม่มีใครจำหน้าได้แน่นอน ฮ่าๆ ได้โปรดเถอะน้า ช่วยข้าหน่อยเถอะ ข้าสัญญาเลยว่าถ้าพวกเจ้าช่วยข้าล่ะก็ข้าจะหาทางช่วยให้พวกเจ้าเข้าไปยัง Sand National ในอาณาจักรของข้าตามที่เจ้าต้องการด้วย Veronica – เป็นข้ออ้างของเจ้าชายที่น่าสมเพชที่สุดเท่าที่ชั้นเคยเห็นมาเลย ถ้าท่านคิดว่าเราจะช่วยท่านโกหกประชาชนของท่านล่ะก็ท่าคิดใหม่ได้เลยนะ
เจ้าชาย Faris – โอ้ งั้นหรอ? ถ้างั้นพวกเจ้าจะหาทางเอา Rainbough มายังไงกันล่ะ ถามหน่อย? Veronica – ว้าวว ช่างไร้ยางอายสิ้นดี เจ้าชาย Faris – จะเรียกข้าว่ายังไงมันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้หรอกเพราะโชคชะตามันได้กำหนดมาตั้งแต่พวกเจ้าเข้ามาในอาณาจักรของข้าในตอนที่มีเทศกาลแข่งม้านี้แล้ว ว่าไง ตกลงจะช่วยใช่มั๊ย ? …อ่า ฮ่าๆๆๆๆ ข้าว่าแล้วว่าเจ้าต้องเข้าใจในที่สุด ขอบคุณมากที่ช่วยนะ แล้วข้าจะพูดกับท่านพ่อของข้าเรื่อง Rainbough ทันทีที่แข่งเสร็จเลย ข้าสัญญา ! ข้าเตรียมห้องพักอย่างดีให้พวกเจ้าไว้ที่โรงแรมแล้วเชิญไปพักผ่อนได้ตามสบาย พร้อมเมื่อไหร่ก็ไปพบข้าที่คอกม้าข้างสนามแข่งทางตะวันตกของเมืองได้เลยนะ เอาล่ะ ข้าต้องขอตัวก่อนนะ โชคดี
จากนั้นเดินทางไปที่คอกม้า (Stables) ทางฝั่งซ้ายของเมือง คุยกับทหารที่เฝ้าด้านหน้าจะสามารถเข้าไปในคอกม้าด้านในได้ จะพบเจ้าชาย Faris รออยู่ที่นั่นก่อนที่จะทำการเปลี่ยนชุดเกราะ แล้วออกไปขี่ม้าที่ทหารเตรียมไว้ ขี่เข้าไปในสนามแข่งด้านในเพื่อเริ่มการแข่งขันได้เลย
สุลต่านแห่ง Gallopolis – อืมมม ขาว Galloplitans ที่รัก เทศกาลแห่งขนชาติทะเลทรายของเราในครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหนๆที่ผ่านมา …อ่อ ..
ประชาชน – ฮู่เล่ ๆๆ เจ้าชาย Faris สุดหล่อสู้ๆค่า ประชาชน – สู้ๆ เจ้าชาย Faris สู้ๆ
Sylvando – สวัสดี กระหม่อมชื่อ Sylvando ..ผมก็แค่นักแข่งธรรมดาๆที่ อุ๊ฟฟฟ ยังดีที่ผมมาทันเวลาแบบเฉียดฉิว ฮ่าๆ แต่อย่าคิดว่ากระหม่อมเป็นหมูให้เคี้ยวง่ายๆนะเพราะท่านเป็นคนในราชวงศ์นะ ยังไงได้สนุกแน่งานนี้เจ้าชายน้อย ! การบังคับม้าในการแข่งนั้น สามารถเพิ่มความเร็วได้ด้วยการกด R2 เพื่อพุ่ง Dash เพิ่มความเร็วได้โดยใช้เกท Stamina สีเขียวด้านบนเป็นพลังงานและสามารถเก็บแสงสีเขียวในลู่วิ่งเพื่อเติมเกทสีเขียวในเกท Stamina ได้ กดสี่เหลี่ยมเพื่อ Drift ในตอนเข้าโค้งเพื่อรักษาความเร็ว
พยายามเน้นทำความเร็วให้ได้น้อยกว่าตัวเลขความเร็วของคนที่อยู่บนสุดของตารางทางขวาบนของจอ และผลแพ้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้จะไม่ส่งผลต่อเนื้อเรื่องและมีรางวัลเพิ่มเติมใดๆทั้งสิ้น
เจ้าชาย Faris – สุดยอดดดด เจ้านี่มันมีพรสวรรค์สามารถเป็นนักแข่งม้ามืออาชีพได้สบายๆเลยนะเนี่ย ฮ่าๆ เอาล่ะเร็วๆ เปลี่ยนตัวๆ ต่อไปข้าจะรับหน้าที่ไปออกสื่อฉลองชัยเอง เจ้ารออยู่นี่แหละเดี๋ยวข้ากลับมา ไม่ต้องห่วงล่ะ ข้าไม่ผิดสัญญาหรอกน่า เดี๋ยวเสร็จงานเมื่อไหร่ข้าจะไปคุยกับท่านพ่อเรื่อง Rainbough ให้ก็แล้วกัน
เจ้าชาย Faris – โชคชะตากำหนดจริงๆ แผนของเราสำเร็จจนได้ ขอบใจมากๆ เจ้าช่วยข้าให้พ้นความอัปยศแท้ๆเลย เอาล่ะ เดี๋ยวข้าจะไปคุยกับท่านพ่อเรื่อง Rainbough ให้เดี๋ยวนี้เลย
Sylvando – ฮัลโหลลล เจ้าชาย Faris รางวัลที่ล้ำค่าแห่งทะเลทราย นักแข่งม้าผู้เก่งเกินธรรมดา ดารลิ้ง ไม่น่าเชื่อเลย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ น้ำตาชั้นจะไหลอยู่แล้วนะ เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่า ท่านใช้ตัวสำรองในการออกคำสั่งแทนตัวเองน่ะ แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ดีเหมือนกันไม่ต้องเหนื่อยแรงเนอะ เจ้าชาย Faris – เดี๋ยวๆ ไม่ใช่นะ เจ้ากำลังเข้าใจผิด ข้าเป็นถึงเจ้าชายแห่ง Gallopolis นะอยู่จะให้ใครที่ไหนมาแข่งแทนให้เสื่อมเสียทำไมกันล่ะ? ข้าเอาไว้ใช้เพื่อทำในสิ่งที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ของประชาชนของฉันต่างหากล่ะ ลืมๆมันไปซะเถอะน่า Sylvando – ข้าจำได้ว่าพ่อข้าเคยเล่าว่า อัศวินต้องไม่ท้อถอยและกล้าเผชิญหน้ากับความยากลำบาก ไม่ใช่หรอ เจ้าชาย Faris – หุบปากเดี๋ยวนี้นะ ข้าเป็นถึงเจ้าชายแห่ง Gallopolis ไม่จำเป็นให้ตัวตลกที่ไม่มีหัวน้อยปลายเท้าอย่างเจ้ามาสอนเรื่องความกล้าหาญหรอก !! ทหาร – ขอประทานอภัยฝ่าบาท เจ้าชาย Faris – อ่า ...หลบๆ ...เอาล่ะ เข้ามาได้ ทหาร – ตอนนี้ท่านสุลต่านรับสั่งว่าอยากจะพบท่านเพื่อชื่นชมความสำเร็จตอนนี้เลยขอรับ
เจ้าชาย Faris – ได้สิ ข้ากำลังจะไปเดี๋ยวนี้แหละ … ไม่ต้องห่วงนะ ข้ารักษาสัญญาเสมอ เดี๋ยวเจ้ารอซักพักแล้วขึ้นไปหาข้าที่ท้องพระโรงได้เลย ข้าจะคุยกับท่านพ่อให้เรื่อง Rainbough ที่เจ้าต้องการ
Sylvando – ดีใจจริงๆเลยที่ได้เจอราชวงศ์ที่ไม่ถือตัวและเป็นมิตรต่อชาวบ้านทุกคนได้ขนาดนี้ ฮ่าๆ .. แต่ ตอนแข่งวันนี้นายทำได้ดีมากๆเลยนะ เอาไว้เราคงได้แข่งกันอีกเร็วๆนี้นะ
หลังจากจบการแข่งม้าใน แมตซ์ Sand National ตามเนื้อเรื่องแล้ว กลับมาที่สนามแข่งมาอีกครั้งจะสามารถลงแข่งม้าได้ โดยจะมี 2 ระดับคือ
ระดับ Easy Bronze Cup รางวัลคือ Slime Earrings (แอสเซสเซอรี่) Silver Cup รางวัลคือ Gallopoltan Garb (ชุดพิเศษของตัวเอก) ระดับ Difficult Bronze Cup รางวัลคือ Gold Bracer (แอสเซสเซอรี่) Silver Cup รางวัลคือ Assassin (แอสเซสเซอรี่ + Critical)
จากนั้น เดินทางไปยังปราสาทของ สุลต่านแห่ง Gallopolis แล้วขึ้นไปยังห้องท้องพระโรงจะพบ เจ้าชาย Faris กำลังพูดคุยกับท่าน สุลต่าน อยู่
เจ้าชาย Faris – ลูกต้องบอกด้วยความสัตย์จริงว่า ข้ายังอ่อนด้อยนัก แต่ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ของข้าในฐานะเจ้าชายและในฐานะอัศวินเท่านั้นแหละ
เจ้าชาย Faris – อ่า .. ท่านพ่อ ข้าได้สัญญากับเหล่านักเดินทางเหล่านี้เอาไว้ ท่านพ่อจะเปิดโอกาสให้ข้าอธิบายให้ฟังหน่อยได้มั๊ย? สุลต่านแห่ง Gallopolis – ยินดีอย่างยิ่งเลยลูกข้า พ่อรู้สึกอิ่มเอิบใจมากที่วันนี้เจ้าทำฝันของพ่อให้เป็นจริงๆได้ดั่งคำสัตย์ของอัศวินที่เจ้าเคยให้เอาไว้ เจ้าชาย Faris – ขอบคุณครับท่านพ่อ คือความจริงแล้วที่เพื่อนๆของลูกมาที่ Gallopolis ก็เพราะต้องการ Rainb ....
ทหาร – ฝ่าบาทครับ !!! เจ้าสัตว์ร้ายนั่นกลับมาอีกแล้ว กองทหารลาดตระเวนของเราโดนมันโจมตีจนบาดเจ็บจนต้องถอยล่นกลับมาจนหมด สุลต่านแห่ง Gallopolis – เจ้านักฆ่าแห่งทะเลทรายมันกลับมาแล้วงั้นหรอ? ทำไมเจ้าสัตว์ร้ายนั่นต้องกลับมาในวันดีๆแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ !! เอาล่ะ พอกันที ข้าจะไม่นิ่งเฉยอีกแล้ว ข้าจะส่งอัศวินที่ดีที่สุดไปกำจัดมันให้สิ้นซากข้ารังของมันที่ทะเลทราย Celestial ให้มันจบๆไปซะมันจะได้ไม่ได้กลับมาก่อความรำคาญได้อีก
แต่ เดี่ยวนะ ลูกค้านี่ไงล่ะ สุดยอดของอัศวิน โชคชะตานำพาให้เจ้าได้เป็นผู้กำหลาบเจ้าสัตว์ร้ายนี่แล้ว จงไปแสดงให้ประชาชนของเจ้าเห็นสิว่า อัศวินที่แท้จริงมันเป็นยังไง !! เจ้าชาย Faris – อะไรนะ !!? ตะ แต่ๆๆ ท่านพ่อ ทหารที่กล้าหาญของเรามีมากมายนะ ทำไมไม่ส่งไปจัดการเจ้าสัตว์ร้ายนั่น ..อ่า นี่ข้าคงไม่มีทางเลือกสินะ สุลต่านแห่ง Gallopolis – ฮ่าๆๆๆๆ แน่นอน อย่าถ่อมตนนักเลยลูกค้า ไม่มีใครเหมาะกับงานนี้เท่าเจ้าอีกแล้วล่ะ ฮ่า ๆๆ ดูสิ เก็บอารมณ์ไม่อยู่นะถึงสั่นสู้อยู่แบบนั้นน่ะ ฮ่าๆๆๆๆ นี่เป็นโอกาสแล้ว Faris ลูกข้า ไปจับเจ้าสัตว์ร้ายนั่นและเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของอาณาจักรเราซะ !!!
เจ้าชาย Faris – ดะ ได้สิท่านพ่อ ... ขะ ข้าจะไปจัดการมันเองตามรับสั่งเลย .... เอ่อ พวกเจ้า เรื่อง Rainbough อะไรนั่นคงต้องรอไว้ก่อนนะ ตอนนี้ไปที่ห้องข้าก่อนเลยมีอะไรต้องคุยกันหน่อยแล้ว จากนั้น เดินเข้าไปยังห้องของ เจ้าชาย Faris ที่อยู่ด้านขวาของบันไดทางขึ้นมาที่ท้องพระโรงอีกครั้ง
เจ้าชาย Faris – ได้โปรด !!!! ข้าขอร้องล่ะนะ เจ้านักฆ่าแห่งทะเลทรายนั่นมันกินข้าแน่ ถ้าพวกเจ้าไม่ช่วยข้า มันเล่นงานข้าจนตายแน่ๆ ฮืออออ !!! Erik – ไหนบอกว้าอัศวินแห่งทะเลทรายตัวจริงไง ทำไมไม่ไปจัดการมันด้วยตัวเองล่ะ? เจ้าชาย Faris – ไม่ๆๆ เป็นไปไม่ได้หรอก ข้าสู้มันไม่ไหว ข้าไม่ใช่อัศวินอะไรหรอก ที่จริงแล้วข้าหนีการฝึกมาตลอดแล้วก็ให้พวกคนรับใช้ของข้าสู้แทนข้ามาตลอดเลย มันเป็นความผิดข้าเอง ข้ามันแค่เด็กน้อยที่ถูกประคบประหงมมาตั้งแต่เด็ก และถูกยอปอปั้นกับความสำเร็จเล็กๆน้อยๆมาตลอด แต่ข้าก็ไม่อยากให้ประชาชนของข้าต้องผิดหวัง จนข้าพบหนทางที่จะเติมเต็มความคาดหวังของเขาโดยที่ข้า ..ไม่ต้องทำไรเลย ..แต่ยิ่งข้าเติมเต็มความคาดหวังให้พวกเขา พวกเขาก็กลับมีความต้องการอีกแบบไม่สิ้นสุด และตอนนี้มันก็เกินความสามารถที่ข้าจะรับไว้แล้ววววว !!! ถ้าพวกเจ้าช่วยข้าครั้งนี้ ข้าสัญญาว่าจะปรับปรุงตัวใหม่ ข้าจะยอมถูกลงโทษกับความผิดที่ข้าก่อด้วยตัวเองเลย ได้โปรดช่วยข้าด้วยเถอะนะเพื่อนข้า สงสารเพื่อนคนนี้ด้วยเถอะนะ ฮือๆๆๆๆๆ
เจ้าชาย Faris – โอ้ ขอบคุณพวกเจ้าเป็นพันเป็นหมื่นครั้งเลยนะที่ยอมช่วยข้า ฮ่าๆๆๆๆ และไม่ต้องกลัวนะ ข้าจะคุยกับท่านพ่อให้เรื่อง Rainbough ที่เจ้าต้องการทันทีที่เราจัดการเจ้าสัตว์ร้ายนั่นได้ ข้าสัญญา เอาล่ะ เดี๋ยวข้าจะไปตระเตรียมสัมภาระเพื่อออกเดินทางทันที พวกเจ้าพร้อมแล้วก็ไปหาข้าที่ประตูทางออกหน้าเมืองได้เลยนะ Veronica – ช่างเป็นเจ้าชายที่น่าสมเพชอะไรเช่นนี้วะเนี่ย? พระเจ้าเท่าที่รู้ว่า ตอนนี้อาณาจักรนี้ตกเป็นของเขาจริงๆมันจะเป็นยังไงต่อไปอ่ะนะ Serena – ชั้นว่าเราอย่าไปว่าเขาเลยนะ Veronica ชั้นมั่นใจว่ามันคงไม่ง่ายหรอกที่จะต้องโตมาท่ามกลางผู้คนมากมายที่ต้องมาคอยคาดหวังอยู่ตลอดแบบเขาน่ะ
เจ้าชาย Faris – ทหารทั้งหลายไม่ต้องกลัวไปหรอกนะ เพราะเราไม่ได้เดินทางเผชิญอันตรายโดยลำพัง ข้าแนะนำให้รู้จักเพื่อนๆของข้า ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่อัศวินในชุดเกราะแวววับแต่ก็เป็นนักเดินทางที่มีฝีมือที่จะช่วยจับเจ้าสัตว์ร้ายนั่นได้แน่นอน เอาล่ะ รังของเจ้าสัตว์ร้ายนั่นอยู่ที่ทะเลทราย Celestial ที่ต้องผ่านทางจุดตรวจทางตะวันตกไป เรารีบเดินทางกันได้แล้ว เพื่อ Gallopolis! เพื่อ Gallopolis !!!
Sylvando – ฮัลโหลลลล มีที่ว่างบ้างมั๊ยอ่า พอดีไม่อยากพลาดทริปออกล่าสัตว์ประหลาดเจ๋งๆแบบนี้อ่ะ Erik – ทริปล่าสัตว์ประหลาดเจ๋งๆงั้นหรอ? นี่เพื่อน ถ้าชั้นเป็นนายชั้นคงกลับไปเล่นละครสัตว์ต่อจะดีกว่านะ Sylvando – แหม่ พูดจาไม่น่ารักเลยนะ ฟังนะ ชั้นก็แค่กลัวว่าเจ้าชายงี่เง่านั้นจะพาตัวเองไปตายก็เท่านั้นเองแหละย่ะ ว่าไงตกลงจะให้ชั้นไปด้วยมั๊ยเนี่ย? … เยี่ยมมาก ในที่สุดเจ้าก็ตาถึง เอาล่ะ นำทางไปเลย ดาลิ้ง !! จากนั้นเดินทางจากอาณาจักร Gallopolis โดยมี Sylvando ร่วมทางมาด้วย (อย่างไม่เป็นทางการ) แล้วเดินทางผ่านไปยังแค้มป์ไฟทางตะวันตกเพื่ออ้อมขึ้นไปที่ Celestial Checkpoint ด้านบน
ด้วยบัตรผ่านที่ได้มาจาก เจ้าชาย Faris จึงสามารถข้ามจุดตรวจเดินทางขึ้นไปยังทะเลทราย Celestial ที่ส่วนเหนือของ Gallopolis ได้ Celestial Sand ที่บริเวณพื้นที่ทะเลทราย Celestial จะมีมอนสเตอร์ Spitzfire สำหรับใช้ทำ Side Quest : A Walk on the wild side อยู่ด้วย
ตอนกลางวันมันจะนอนอย่างเดียวพอตอนกลางคืนถึงจะออกเดินไปมา พยายามเดินไปมาจัดการศัตรูจน Pep Power ของ Hero, Erik, Serena เต็มพร้อมๆกัน
แล้วก็เข้าไปใช้ท่าประสาน Pep Power : Wild side จัดการกับ Spitzfire ซะ ก็จะสามารถเคลียร์เควสย่อยนี้ได้ เสร็จแล้วเดินทางต่อไปยังจุดแค้มป์ไฟด้านบนของพื้นที่ทะเลทรายก็จะพบขบวนของ เจ้าชาย Faris นอนหมดแรงอยู่ที่นี่
เจ้าชาย Faris – ก็อย่างที่เจ้าเห็น ข้ามีความประสงค์ที่จะพักค้างแรมที่นี่ก่อน แล้วเราค่อยเริ่มทำภารกิจใหม่ในวันพรุ่งนี้นะ Sylvando – ก็นะ งั้นก็ไปหาที่นอนซะสิเจ้าชายน้อย วันนี้ก็ใช้งานเราให้ทำงานสกปรกให้จนเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนี่ มาเถอะ เราเองก็หาที่นั่งพักคุยกันหน่อยก็ดีเหมือนกัน
Sylvando – อืมม สองหนุ่มกับสองสาวเดินทางผจญภัยร่วมกันอย่างหวานแหววงั้นหรอ? อะไรจะโรแมนติกขนาดนั้นห๊า ว่าแต่ มันเป็นการเดินทางแบบไหนหรอ? ชั้นล่ะสงสัยจริงๆเลย บอกหน่อยน้าๆ Serena – ถ้าพูดตามตรง พวกเราก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันอ่ะนะ แต่เท่าที่รู้ตอนนี้เรากำลังตามหาข้อมูลของต้น Yggdrasil ให้มากที่สุดเพื่อทำความเข้าใจเรื่องราวลึกลับที่เกี่ยวกับ ผู้กล้า อ่ะค่ะ ทั้งหมดทั้งสิ้นก็เพื่อหาทางยับยั้งปีศาจร้ายที่เรียกว่า The Dark One ไม่ให้ทำลายโลกของเรา Veronica – เอาล่ะ พอเลยยัยปากโป้ง นี่เธอกะจะเล่าให้เจ้าตัวตลกนี่ฟังจนหมดเลยใช่มั๊ยห๊า ? เรายังไม่ทันรู้จักเขาดีเลยนะ
Sylvando – ตายๆๆๆๆ ตายแล้ว นี่กำลังจะมีปีศาจร้ายออกมาขโมยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนบนโลกนี้งั้นหรอเนี่ย? แล้วพวกเธอก็คือฮี่โร่ทั้ง 4 ที่กำลังจะหาทางหยุดมันก่อนที่จะสายเกินไป ว้าววว ฟังดูน่าสนุกแฮะ ! Erik – สนุกงั้นหรอ? Veronica – แล้วนายล่ะ Sylvando ทำไมถึงจากบ้านมาแล้วมาออกเดินทางแบบนี้ล่ะ? Sylvando – หึหึ เธอไม่อยากรู้เรื่องเก่าๆของชั้นหรอก เอาล่ะ พรุ่งนี้มีงานใหญ่ เข้านอนกันได้แล้วเด็กๆ Erik – อะไรวะเนี่ย? นึกว่าพวกเรานี่ลึกลับแล้วนะเนี่ย หมอนี่มันเป็นใครกันแน่นะ .. เมื่อพักผ่อนเสร็จแล้วออกเดินทางต่อ จากแค้มป์ไฟมุ่งหน้าขึ้นไปที่ pernicious Peninsula พื้นที่ทะเลทรายด้านเหนือสุดซึ่งเป็นที่ซึ่งสัตว์ร้ายฉายานักฆ่าแห่งทะเลทรายที่ออกมาก่อความวุ่นวายทำร้ายผู้คนอาศัยอยู่
เจ้าชาย Faris – อืมมม เจ้านักฆ่าแห่งทะเลทรายมันเคยอยู่ที่นี่นี่นา ฮะๆ ไอ้สัตว์ประหลาดกระจอกเอ้ยแกจะหนียังไงก็ไม่พ้นหรอกนะ ออกมา !! เชอะ คงกลัวจนหนีไปแล้วสินะ ฮ่าๆๆๆ เอาล่ะ พวกเรากลับปราสาทไปรายงานท่านพ่อกันเถอะว่าภารกิจของเราเสร็จสิ้นแล้ว
เจ้าชาย Faris – ว้ายย ตายแล้วววววว !!!!! Sylvando – ลุกขึ้นเซ่ไอ้เจ้าชายซื่อบื้อเอ้ย !! กล้าๆหน่อยสิฟ่ะ! โชว์ให้เห็นเลยว่าอัศวินที่แท้จริงต้องทำยังไง !! เฮ้ออออ ดูเหมือนเจ้าชายซื่อบื้อนั่นคงไม่ยอมลุกจากพื้นแน่นอนแบบนี้ ทหารของเจ้าจะมองเจ้ายังไงนะเนี่ย? มาเถอะพวกนาย งานนี้คงต้องการฮีโร่มากกกว่า 2 คนแน่นอน ตามมา !!
จัดการ Boss – Slayer of the Sand ให้ได้แล้ว Sylvando ก็จะจัดการมัดมันเอาไว้จนอยู่หมัด
Sylvando – นั่นเป็นบทเรียนสำหรับการทำตัวไม่ดีอ่ะนะจำไว้ล่ะ เอาล่ะ อยู่นิ่งๆชั้นจะจับแกมัดก่อนนะ เจ้าชาย Faris – ห๊ะ ไหนๆๆ จัดการมันได้แล้วหรอ ฮ่าๆๆๆๆ ทุกคน การต่อสู้จบแล้ว เราชนะไอ้เจ้านักฆ่าแห่งทะเลทรายได้แล้ว !!! งานของเจ้าชายแห่ง Gallopolis วันนี้จบลงแล้ว ฮ่าๆๆๆ ทหาร เจ้าเห็นเจ้าชายของพวกเจ้าจัดการสัตว์ร้ายนี่มั๊ย?? ทหาร – หะ! ..เอ่อ ... หะ เห็นครับ ฝ่าบาท เห็นแน่นอนครับ !!
เจ้าชาย Faris – แล้วก็ ชั้นยังไม่ลืมสัญญาที่มีต่อเจ้านะ ข้าจะคุยกับท่านพ่อให้เรื่อง Rainbough ที่เจ้าต้องการทันทีที่กลับถึงอาณาจักร พวกเจ้าก็ไปพักผ่อนกันได้แล้ว แล้วค่อยเจอกันที่เมืองนะ
Sylvando – เอางี้จริงดิเจ้าชายน้อย? เล่นเสร็จยัง จะตีบทเนียนแบบนี้ต่อไปอีกจริงๆหรอ? แล้วท่านคิดว่า ต่อไปพวกเขาจะให้จะท่านทำอะไรเพื่อเติมเต็มความคาดหวังในตัวท่านอีกล่ะ ห๊า? เจ้าชาย Faris – นี่เจ้าคิดว่าข้ามีทางเลือกรึไง!? หรือเจ้าอยากจะให้ข้าทำให้ท่านพ่อและประชาชนผิดหวังงั้นหรอ? Sylvando – เฮ้ออ มันก็ไม่ใช่กงการอะไรของชั้นหรอกนะ ท่านอย่างจะทำอะไรก็ทำเถอะ เอาที่ท่านสบายใจก็แล้วกันนะ
Erik – อ่า รู้สึกไม่ค่อยดีเลยแฮะที่มาช่วยมันทำแบบนี้ นายพูดถูก Sylvando เขาไม่มีทางเปลี่ยนตัวเองได้หรอกถ้าชอบที่จะหลอกลวงคนอื่นแบบนี้น่ะ Sylvando – โอ้ แต่ชั้นคิดว่าไอ้เด็กโง่นั่นเริ่มจะรู้ตัวแล้วน ที่ชั้นต้องทำก็แค่สร้างสถานการณ์เพื่อพลักดันอะไรนิดหน่อย ..เอาล่ะ ชั้นคงต้องไปก่อนล่ะนะ แต่ชั้นมั่นใจว่าไม่นานเราก็คงได้เจอกันอีกแน่นอน บาย ดาลิ้ง ! เมื่อจบเรื่องที่ทะเลทราย Celestial Sand แล้วก็เดินทางกลับไปยังอาณาจักร Gallopolis ได้เลย ทันทีที่มาถึงจะพบกับประชาชนมากมายกำลังโห่ร้องยินดีกับเจ้าชายของพวกเขาที่เอาสัตว์ประหลาดที่ปราบมาได้มาโชว์
สุลต่านแห่ง Gallopolis – ประชาชนชาว Gallopolitan ที่รักทุกท่าน เจ้าชาย Faris ของพวกเจ้า ลูกรักของข้า และฮีโร่ของพวกเราทุกคนได้กำจัด เจ้านักฆ่าแห่งทะเลทราย ที่เป็นภัยร้ายของอาณาจักรลงได้แล้ว เจ้าชาย Faris – เฮ้ๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณๆๆๆ ขอบคุณทุกๆคน สุลต่านแห่ง Gallopolis – ต่อไปนี้เรามั่นใจแล้วว่าอาณาจักร Gallopolis ของเราจะอยู่รอดปลอดภัยในมือของคนที่กล้าหาญเช่นเขา วีรบุรุษผู้พิชิตเชิญกล่าวอะไรเล็กๆน้อยต่อประชาชนซะหน่อยสิ
เจ้าชาย Faris –ประชาชนชาว Gallopolitan ที่รักทุกท่าน ใช่แล้ว ข้าเป็นคนจับเจ้าสัตว์ร้ายนี่ได้เอง แต่ข้าไม่ได้ทำแค่คนเดียว แต่ข้าได้แรงใจจากประชาชนทุกๆท่านที่ส่งมาถึงจึงทำให้ข้าแข็งแกร่งจนสามารถทำมันได้สำเร็จ และขอให้ความรักที่มีต่อข้าสนับสนุนข้าต่อไปจนชีวิตข้าหาไม่ ...อ่ะ !
เจ้าชาย Faris – อ่า อ๊ากกกกกกก !!!! ประชาชน – ทุกๆคน พวกเราไม่ต้องไปกลัว เดี๋ยว เจ้าชาย Faris จะเป็นคนปกป้องพวกเราทุกคนเอง ! ประชาชน – ใช่ๆๆ จริงด้วย ไม่มีอะไรต้องกลัวถ้าเจ้าชาย Faris ทรงอยู่ข้างพวกเรา !! ประชาชน – เจ้าชาย Faris ! เจ้าชาย Faris ! เจ้าชาย Faris !
สุลต่านแห่ง Gallopolis – เป็นอะไรไปล่ะลูกพ่อ? ประชาชนของเจ้ารออยู่นะ แสดงให้เขาเห็นถึงฝีมือของอัศวินแห่งทะเลทรายที่ไม่เคยกลัวสิ่งใดเลยสิ เอาเลยสิ ! เจ้าชาย Faris – ฮืออ ..... ท่านพ่อ ข้า ข้าทำไม่ได้ ! สุลต่านแห่ง Gallopolis – ห๊า ทำไมล่ะ?
Sylvando – ไหนลองท่องให้ชั้นฟังอีกที่สิ .. คำปฏิญาณของอัศวิน น่ะ ! เจ้าชาย Faris – คำปฏิญาณของอัศวินหรอ ? … ด้วยคำสัตย์ของอศัวินที่เป็นดั่งพันธะที่มีต่อราชอาณาจักรและนายเหนือหัว ห๊ะ? Sylvando – ดี ! หยุดทำไมล่ะ? เจ้าชาย Faris – อ่า ..ข้าผู้ทำหน้าที่ของผู้อ่อนแอที่ท้าทายความแข็งแกร่งอย่างไม่ย่อท้อและไม่เคยถอยหนีจากความยากลำบาก !! Sylvando – นั่นแหละ !! เอาล่ะ เจ้าชายน้อย ต่อจากนี้ท่านอยากทำไรก็ทำ ท่านเลือกเองอยากเป็นแค่ ไอ้ขี้ขลาดน่าสังเวช หรือ จะเป็นวีรบุรุษที่ยอมต่อสู้จนตัวตายก็เลือกเอา
เจ้าชาย Faris – ครั้งนี้ข้าก็เคยที่จะอยากเป็นอัศวินแห่ง Gallopolis เหมือนกันนะเฟ้ย !! ย๊ากกกกก !!!! Sylvando – หึหึ .... อ๊ากกกก !!
Sylvando – ถ้าตั้งใจจริงๆก็ทำได้ดีเหมือนกันนะเจ้าชาย ห๊ะ? เจ้าชาย Faris – ดะ เดี๋ยวนะ นี่เจ้า ..? Sylvando – ชั้นไม่ได้มีเวลาว่างเพื่อเตือนท่านถึงความหมายที่แท้จริงของอัศวินตลอดเวลานะ แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้ลืมไปอีกจริงมั๊ย? สุลต่านแห่ง Gallopolis – ดะ เดี๋ยวๆๆ ทำไมเจ้าถึงรู้เรื่องพวกนี้เยอะจัง เจ้าเป็นอัศวันงั้นหรอ? Sylvando – อัศวินหรอ? ชั้นเนี่ยนะ? ตลกแล้ว ชั้นน่ะเป็นแค่ตัวตลกแก่ๆคนนึงแค่นั้นแหละ
เจ้าชาย Faris – ใช่แล้วท่านพ่อ จริงๆแล้วคนพวกนี้เป็นคนลงแข่งมาแทนข้าและเป็นคนจัดการเจ้านักฆ่าแห่งทะเลทรายนั่นด้วย ข้าขอโทษ ยกโทษให้ข้าด้วยนะท่านพ่อ .. สุลต่านแห่ง Gallopolis – เฮ้ออออ Faris ฟังพ่อนะ ..ภาระที่ลูกต้องแบกรับเอาไว้ มันมากเกินกว่า เด็กผู้ชายคนหนึ่งจะทนรับไหว เรื่องนี้ถ้าจะมีคนผิดก็คงเป็นตัวพ่อเองนั่นแหละ ไม่ใช่เจ้า ต้องขอโทษด้วยนะ แต่พ่อก็มั่นใจว่าพ่อได้เรียนรู้บทเรียนของพ่อแล้ว รับรองจะไม่ผิดพลาดซ้ำสองแน่นอน และก็ดูเหมือนเจ้าก็จะเรียนรู้บางอย่างด้วย แม้เจ้าจะไม่ยอมรับก็เถอะ แต่ความกล้าหาญที่เจ้าแสดงออกมาเมื่อเช้านี้ก็แสดงให้เห็นว่าเจ้าก็คู่ควรที่จะเป็นอัศวินเหมือนกันนะ ข้ามั่นใจว่า Sir Hendrik คงจะพอใจที่เจ้าจะเจริญรอยตามเขาอย่างแน่นอน อ่า ในที่สุดความฝันของเจ้าก็จะเป็นความจริงแล้ว ข้ายินดีกับเจ้าด้วยนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ Erik – Hendrik หรอ? คงไม่ใช่คนที่กำลังไล่ล่าเราอยู่ใช่มั๊ย?
เจ้าชาย Faris – อ่อ ข้าเกือบลืม ที่เพื่อนของข้ากลุ่มนี้มาที่ Gallopolis ก็เพื่อจะตามหา Rainbough น่ะท่านพ่อ ข้ารู้ว่ามันเป็นสมบัติของราชวงศ์แต่สิ่งที่พวกเขาทำเพื่อเราก็มากพอที่เขาควารจะได้รับมันนะ
สุลต่านแห่ง Gallopolis – แน่นอนๆๆ แต่เจ้าหนู เอ่อ ข้าขาย Rainbough กับพ่อค้าคนนึงไปแล้วนะสิ เจ้าชาย Faris – อะไรนะ ?? ขายไปแล้ว!! ขายได้ยังไง ไหนบอกว่ามันเป็นสมบัติชิ้นสำคัญของราชวงศ์เราไง! สุลต่านแห่ง Gallopolis – นี่เจ้าตาบอดรึไง ? ไม่เห็นหรอว่างานแข่งมา Sand National ปีนี้เราจัดยิ่งใหญ่ขนาดไหน แล้วคิดว่าเราเอาเงินมาจากไหน ข้าจำเป็นต้องขายก็เพื่อประโยชน์ของเจ้านั่นแหละ !!! สุลต่านแห่ง Gallopolis – ข้าต้องขอโทษพวกเจ้าด้วยนะ แต่ข้าบอกเจ้าได้ว่าพ่อค้าคนที่ข้าขาย Rainbough ให้นั้นเดินทางไปที่ Gondolia น่ะ เอานี่ จดหมายคำสั่งของข้าสำหรับใช้ผ่านด่านไปยัง Gondolia บางที คนที่นั่นอาจให้ข้อมูลของ Rainbough กับเจ้าได้นะ
เจ้าชาย Faris – ข้าต้องขอโทษเป็นพันๆครั้งเลยนะ ข้าไม่รู้จริงๆว่าพ่อข้าดันขาย Rainbough ไปแล้ว ข้าก็เลยอยากจะให้ของอื่นเป็นการตอบแทน แม้ว่ามันจะมีค่าไม่มากเท่าสิ่งที่พวกเจ้าต้องการจะได้แต่ มันก็เป็นของมีค่าที่ส่งต่อมาจากอัศวินแห่ง Gallopolitan มาแล้วหลายรุ่นนะ
เจ้าหน้าไม้อันนี้มันสามารถยิงไปที่ศัตรูในระยะไกลเพื่อกระตุ้นให้พวกมันเข้ามาต่อสู้ได้ มันเป็นประโยชน์ในการเก็บประสบการณ์ในการต่อสู้มากๆเลยนะ
Crackshot Crossbow นั้นไม่ใช่อาวุธที่ใช้สวมใส่ แต่มันมีไว้ใช้ในการทำ Field Attack โดยการยิงศัตรูจากระยะไกลในฉากแผนที่ เป้าหมายคือการยิงกระตุ้นให้ศัตรูเข้ามาโจมตีใส่โดยที่ไม่ต้องวิ่งเข้าไปหามันเพื่อทุ่นเวลาในการเก็บเลเวลนั่นเอง
เจ้าชาย Faris – พวกเจ้าได้ทำคุณประโยชน์ให้กับอาณาจักรของเราไว้มากมาย หากพวกเจ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรก็บอกมาได้เลยนะ ข้าพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกอย่าง ขอเพียงให้เจ้าบอกมาก็พอ และสำหรับข้า เสียใจมากที่พวกเจ้าต้องเดินทางจากไปแล้ว แต่ข้าก็มั่นใจว่าจะมีพวกเซ่อซ่า อะ แอ้มม !! เอ้ยย นักท่องเที่ยวใหม่ๆเข้ามาอีกแน่นอน ฮ่าๆๆๆๆๆ เมื่อเสร็จธุระที่อาณาจักร Gallopolis แล้วก็เดินทางออกนอกเมืองได้เลย แต่ในขณะที่กำลังจะออกทางประตูทางเข้าด้านหน้าก็จะพบ Sylvando รออยู่
Sylvando – อ่า ในที่สุดก็มากันซะที ตอนแรกชั้นก็กลัวว่าพวกเจ้าจะแอบไปออกทางประตูอื่นซะแล้วสิ Erik – นายอีกแล้วหรอ? คราวนี้ต้องการอะไรอีกล่ะ? Sylvando – แหม่ ไม่ต้องอายหรอกน่า ชั้นก็อยากไปกับพวกเจ้าเหมือนกัน แน่นอนว่าพวกเจ้าคงอยากให้ข้าร่วมทางไปด้วยไม่งั้นคงไม่บอกเรื่องภาระกิจกู้โลกอะไรนั่นหรอกใช่ป่ะล่ะ? Erik – นายพูดบ้าอะไรเนี่ย? อยู่ๆนายจะตัดสินใจเอาเองว่าจะไปด้วยไม่ได้นะ นี่ไม่ใช่การเล่นเกมนะเฟ้ย! Sylvando – เฮ้อ เชื่อข้าเหอะที่รัก ข้ารู้ดีน่า ว่ามันไม่ใช่การไปเที่ยวเล่น ชั้นก็แค่อยากเป็นคนเพิ่มรอยยิ้มและสีสรรในการเดินทางของพวกเจ้าก็เท่านั้นเอง ตัวตลกอย่างข้าจะทำอะไรได้อีกล่ะ? และที่ชั้นเห็นโศกนาฏกรรมที่ประชาชนโดนพวกมอนสเตอร์โจมตี นั่นมันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากๆเลยนะ รู้มั๊ย ความฝันของชั้น ชั้นอยากสร้างโรงละครสัตว์ที่สวยงามขึ้นมาซักแห่งเพื่อที่ชั้นจะสร้างรอยยิ้มเป็นล้านๆรอยยิ้มขึ้นมาจากผู้ชม แล้วชั้นจะทำได้ยังไงถ้าไอ้เจ้า Dark One นั่นกำลังมาสร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนแบบนี้อ่ะ ที่ชั้นพยายามจะบอกก็คือ เรามีความต้องการเหมือนๆกัน เห็นมั๊ย ที่นี้ชั้นก็ร่วมทางกับพวกเจ้าได้แล้ว Erik – ไอ้หมอนี่มันไม่เข้าใจคำว่า ไม่ จริงๆแฮะ Sylvando – เอาล่ะ ตอนนี้เราเป็นแก็งค์เดียวกันแล้ว ที่นี่บอกหน่อยว่าเราจะไปไหนกันต่ออ่ะ? Serena – คือ การที่เราจะไปยังต้น Yggdrasil ได้ก็จำเป็นต้องใช้ Rainbough แต่ สุลต่านท่านขายมันให้กับพ่อค้าคนนึงไปแล้ว และพ่อค้าคนนั้นก็เดินทางไปที่ Gondolia แล้วล่ะ Sylvando – Gondolia งั้นหรอ? นั่นมันเมืองท่าเรือนะสาวน้อย เขาคงกำลังจะนั่งเรือออกเดินทางไปที่อื่นต่อน่ะ Serena – จริงหรอ งั้นเราก็ต้องหาซื้อตั๋วเรือโดยสารออกเดินทางตามเขาไปสินะ Sylvando – เรื่อโดยสารงั้นหรอ? ไม่เอาน่า เราไม่ต้องไปเสียเวลาขึ้นเรือโดยสารหรอก เพราะชั้นมีเรืออยู่ และเป็นโชคดีของพวกนายที่ชั้นกำลังอยู่ในช่วงลดราคาครั้งใหญ่อยู่ Veronica – ห๊า นายมีเรือเป็นของตัวเองด้วยหรอ? เจ๋งเลย ชั้นไม่น่าประเมินเจ้าต่ำไปเลยแฮะ Serena – คุณจะให้พวกเราใช้เรือของคุณจริงๆหรอค่ะคุณ Sylvando?
Sylvando – แน่นอนสิสาวน้อย ไม่งั้นจะมีเพื่อนไว้เพื่อ? แล้วเดาสิเรือของชั้นจอดอยู่ที่ไหน ท่าเรือ Gondolia ไงล่ะ งั้นจะมัวรออะไรอยู่ล่ะ มหาสมุทรที่กว้างใหญ่กำลังเรียกหาเราแล้ว เอาล่ะ กลาสี มุ่งตะวันตกกันได้เล๊ยยย !!!
** ได้ Sylvando เข้าร่วมทีม **
Sylvando Skill Swords Flame Slash - ท่าโจมตีที่เน้นความเสียหายด้วยธาตุไฟ Attack Power When Wielding +3 - เมื่อใช้ดาบโจมตีศัตรูจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +3 Attack Power When Wielding +6 เมื่อใช้ดาบโจมตีศัตรูจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +6 Critical Hit Chance When Wielding +2% - เพิ่มโอกาสเกิดการโจมตีแบบ Critical 2% เมื่อใช้ดาบโจมตีศัตรู Sword Stance – ท่าดาบตั้งรับเพิ่มโอกาสให้เกิดการปัดป้องการโจมตีของศัตรูมากขึ้น Metal Slash - ท่าโจมตีที่เน้นความเสียหายกับศัตรูที่มีร่างกายเป็นเหล็ก Dragon Slash- ท่าโจมตีที่เน้นความเสียหายกับศัตรูเผ่ามังกร Miracle Slash – ท่าโจมตีที่จะฟื้นฟูพลังชีวิต 25% จากค่าความเสียหายที่ศัตรูได้รับ Pep Chance +5% เพิ่มโอกาสในการเข้าสู่โหมด Pep Pep Power อีก +5% Knives Attack Power When Wielding +5 – เมื่อใช้มีดสั้นโจมตีศัตรูจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +5 Attack Power When Wielding +10 – เมื่อใช้มีดสั้นโจมตีศัตรูจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +10 Critical Hit Chance When Wielding +2% - เพิ่มโอกาสเกิดการโจมตีแบบ Critical 2% เมื่อใช้มีดสั้นโจมตีศัตรู Cobra Strike- ท่าโจมตีที่มีโอกาสทำให้ศัตรูติดพิษ Victimisser – ท่าโจมตีที่มีโอกาสทำให้ศัตรูติดพิษหรือเป็นอัมพาต Persecutter – ท่าโจมตีที่มีโอกาสทำให้ศัตรูหลับหรือเป็นสับสน Sleeper Hit -ท่าโจมตีที่มีโอกาสทำให้ศัตรูหลับ Nastier Knives –เพิ่มโอกาสในการมีโอกาสติดอาการผิดปกติทางสเตตัสต่างๆที่เกิดจาก Skill ของท่าโจมตีของมีดสั้นอีก 25% Sudden Death – ท่าโจมตีที่สร้างความเสียหายด้วยธาตุแสง 200% และมีโอกาสที่จะฆ่าเป้าหมายได้ทันที 20% Whips Hypnowhip - ท่าโจมตีด้วยแส้กับศัตรูทั้งกลุ่ม(ชนิดเดียวกัน) เพิ่มโอกาสทำให้ศัตรูติดสภาวะสับสน 25% Attack Power When Wielding +5 - เมื่อใช้แส้โจมตีศัตรูจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +5 Attack Power When Wielding +10 - เมื่อใช้แส้โจมตีศัตรูจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +10 Starstrike - ท่าโจมตีด้วยแส้กับศัตรูทั้งกลุ่ม(ชนิดเดียวกัน) เพิ่มโอกาสทำให้ศัตรูติดสภาวะตาบอด 25% Trammel Lash -ท่าโจมตีด้วยแส้กับศัตรูทั้งกลุ่ม(ชนิดเดียวกัน) เพิ่มโอกาสทำให้ศัตรูติดสภาวะเป็นอัมพาต 25% Wyrm Whip - ท่าโจมตีด้วยแส้อย่างรุนแรง 60% 3 ครั้งกับศัตรู 1 ตัวและปลดการ buffs ทั้งหมดที่ศัตรูทำไว้ Hit the Hay - ท่าโจมตีด้วยแส้กับศัตรูทั้งกลุ่ม(ชนิดเดียวกัน) เพิ่มโอกาสทำให้ศัตรูติดสภาวะหลับ 25% Lashings of Love – ท่าโจมตีที่สร้างความเสียหายกับศัตรูประเภท Humanoid Lash Batter - ท่าโจมตีด้วยแส้ที่เพิ่มโอกาสทำให้ศัตรูติดสภาวะหลงไหล 25% Litheness Hot Lick – ท่าพ่นไฟโจมตีศัตรู 1 ตัว 37~43 damage 3 ครั้ง Sobering Slap – รักษาอาการ หลับ / หลงใหล / สับสน / อัมพาต กับเพื่อนในกลุ่ม Charm +10 -เพิ่มค่า เสน่ห์ 10 พ้อยท์ Tap Dance – ใช้ฟุตเวิร์ดที่สวยงามเพื่อเพิ่มความสามารถการหลบหลีกการโจมตีศัตรูเป็น 2 เท่า Deftness +20 เพิ่มค่า ความชำนาญ 20 พ้อยท์ Agility +20 - เพิ่มค่า ความคล่องตัว 20 พ้อยท์ Charm +30 – เพิ่มค่า เสน่ห์ 30 พ้อยท์ Pied Piper - เบี่ยงเบนความสนใจ ทำให้ศัตรูมุ่งเข้ามาโจมตีที่ตัวเอง 2 – 3 เทิร์น Have a Ball – ท่าโจมตีต่อเนื่องแบบแรนด้อม 3 – 6 ครั้ง ด้วย 50%ของพลังโจมตี เพิ่มโอกาสทำให้ศัตรูสับสน 10% Showmanship Kiss Me Deadly – ท่าส่งจูบแห่งความตายโจมตีศัตรู 1 ตัว เพิ่มโอกาสทำให้ศัตรูติดพิษ 50% That’s Amore -ท่าโจมตีที่มีโอกาสทำให้ศัตรูเป็นอัมพาต 3 – 4 เทิร์น Charm +40 – เพิ่มค่า เสน่ห์ 40 พ้อยท์ Fuddle Dance -ท่าเต้นที่เพิ่มโอกาสทำให้ศัตรูเกิดอาการสับสน 50% Hustle Dance – ท่าเต้นเพื่อฟื้นฟู HP กับเพื่อนทั้งกลุ่ม 70% Dual-Wielding – ทำให้สามารถสวมใส่อาวุธได้ทั้ง 2 มือ Pink Pirouette –ท่าโจมตีด้วยธาตุลมกับศัตรูทั้งกลุ่ม เพิ่มโอกาสทำให้ศัตรูเกิดอาการสับสน 3 – 4 เทิร์น Gold Rush – ท่าโจมตีศัตรูทั้งกลุ่มอย่างรุนแรง 270~330 damage แต่ต้องเสียเงิน 1,000 เหรียญ
หลังจากที่ได้หน้าไม้ Crackshot Crossbow มาจากเจ้าชาย Faris แล้ว เมื่อเข้าไปคุยกับ crossbow Master Bo's bodkin ในเมือง Gallopolis จะสามารถเริ่มทำการทดสอบการยิงหน้าไม้ crossbow challenge ได้
จากนี้ ระหว่างทางหลังจะพบ เป้ายิง ที่ซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆของแผนที่ที่สามารถใช้หน้าไม้ยิงทำลายมันได้ โดยแต่ละพื้นที่จะมีอยู่พื้นที่ละ 5 จุด
โดยเมื่อยิงจนครบ 5 จุดแล้วไปคุยกับ Bodkin Archer ที่จะอยู่ประจำที่แค้มป์ไฟในแต่ละพื้นที่เพื่อรับรางวัลได้เลย
ตำแหน่งเป้ายิงหน้าไม้ทั้งหมดในเขต Gallopolis 1 บนต้นมะพร้าวด้านขวาของกำแพงเมือง Gallopolis 2.บนเนินหินตรงทางออกไปยัง The Hotto Steppe ทางตะวันออกของ Gallopolis 3.บนเนินหินทางตะวันตกของ Gallopolis 4.บนเต้นทหารที่จุดด่านตรวจทางเข้าทะเลทราย Celestial Sand 5. กลางบึงทางใต้ของทะเลทราย Celestial Sand เมื่อยิงจนครบ 5 จุดแล้วไปคุยกับ Bodkin Archer ที่แค้มป์ไฟทางตะวันตกเฉียงใต้ของ Gallopolis เพื่อรับรางวัลคือ Seed of Strength 4 อัน บทที่ 6 เดินทางออกจาก อาณาจักร Gallopolis แล้วมุ่งหน้าไปยังด่านตรวจชายแดนทางตะวันตก ทุกคนก็จะสามารถใช้บัตรผ่านที่ได้มาจากท่าน สุลต่าน เพื่อผ่านด่านตรวจไปยังพื้นที่ ทะเลสาบกอนโดลา (Laguna di Gondolia) ได้
Side Quest : A Lovely Letter ผู้จ้าง – ทหารยาม Hakim เป้าหมาย – นำจดใหม่ไปส่งให้ Akia น้องสาวของเขาที่ เมืองท่า Gondolia รางวัล – Cutting Edge Kit
ทะเลสาบกอนโดลา (Laguna di Gondolia) เส้นทางที่จะมุ่งสู่เมืองท่า Gondolia นั้นจะต้องเดินทางผ่านเขตพื้นที่ ทะเลสาบกอนโดลา ที่เริ่มต้นตั้งแต่ชายหาดที่สุดทางตรงแค้มป์ไฟตรงเนินผา เข้าไปจนถึงเขตด้านในที่มีพื้นไม้โยงเป็นทางเดินไปมา พื้นนี้จะมีมอนสเตอร์ที่สามารถใช้ขี่ใช้งานได้คือ Midnight Horknight ความสามารถของมันคือสามารถบินข้ามพื้นที่ที่เป็นน้ำเพื่อไปเก็บไอเทมในจุดต่างๆที่ไม่สามารถเดินไปได้ จัดการเก็บไอเทมที่ตกหล่นตามที่ต่างๆและยิงจุดเป้ายิงหน้าไม้ในพื้นที่นี้ให้หมด ตำแหน่งเป้ายิงหน้าไม้ทั้งหมดในเขต Gondolia
เมื่อยิงจนครบ 5 จุดแล้วไปคุยกับ Bodkin Archer ที่แค้มป์ไฟในพื้นที่เพื่อรับรางวัลคือ Seed of Deftness 4 อัน หลังจากเก็บไอเทมที่ตกหล่นตามที่ต่างจนพอใจและยิงจุดเป้ายิงหน้าไม้ในพื้นจนหมดแล้ว ก็เดินทางเข้าเมืองท่า Gondolia ได้เลย เมืองท่า Gondolia
Serena – ว้าวว ที่นี่สวยอะไรเช่นนี้นะ ดูสิเหมือนเมืองทั้งเมืองกำลังลอยอยู่บนน้ำเลย Erik – เนี่ยหรอ Gondolia ได้ยินว่าที่นี่เป็นแหล่งทำเงินชั้นดีเลยนี่ มีพ่อค้ารวยๆจากทั่วโลกเอาสมบัติหายากๆแพงมาขายกันที่นี่เต็มไปหมด เรือที่เต็มไปด้วยสมบัติ .... Veronica – ที่เนี่ยหรอที่นายเก็บเรือของนายเอาไว้อ่ะ Sylvando ? มันเรือของนายจริงๆหรอเนี่ย ? อย่าบอกนะว่านายเป็นประเภทคนรวยเสี่ยๆงั้นน่ะ? Sylvando – นี่นังหนูพูดจากไม่มีสัมมาคารวะเลยนะยะ เอาล่ะ ท่าเรืออยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองนี่เอง ไปดูเรือชั้นกันเถอะจ้าทุกคน !
Hero – หืมม ?? เด็ก – อ่ะ !! ….. เผ่นดีกว่า !!!
เมื่อมาถึงเมือง Gondolia แล้ว ก่อนอื่นเข้าไปตามหา Akia น้องสาวของ Hakim ที่เขาฝากจดหมายมาให้จาก Side Quest : A Lovely Letter ก่อน
ซึ่ง Akia จะกวาดพื้นอยู่ตรงถนนด้านขวาบนของเมือง เมื่อเอาจดหมายจากพี่ชายไปให้เธอ แล้ว Akia ก็จะเขียนจอดหมายตอบกลับพี่ชายของเธอมาอีกฉบับโดยให้จะฝากไปให้พี่ชายเธอให้หน่อย จากนั้นก็กลับเอาจดหมายของ Akia ไปให้ Hakim ที่ประตูด่านตรวจอีกครั้ง ก็จะจบภารกิจย่อยนี้ จากนั้นเดินทางไปยังท่าเรือที่อยู่ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองได้เลย
Sylvando – ถามจริง?? หมายความว่าไงที่ว่าพวกเราเข้าไปที่ท่าเรือไม่ได้อ่ะ? คนดูแลท่าเรือ – ทำไมอ่ะ ก็ท่าเรือให้เข้าได้เฉพาะบางคนก็เท่านั้นแหละ เพราะกำลังมีการแข่งกันอยู่น่ะ Erik – เยี่ยม !! นี่ตกลงจะให้พวกเราต้องนั่งรอจนการแข่งบ้าๆนี่จบหรอ? คนดูแลท่าเรือ – ก็คงต้องเป็นงั้นแหละครับ ชั้นเสียใจด้วยนะแต่ Signor Universo เป็นงานประจำปีที่สำคัญมากๆสำหรับคนที่ Gondolia เลยนะ Sylvando – Signor Universo งั้นหรอ? ฟังดูน่าสนุกแฮะ ว่าแต่มันเป็นงานแบบไหนหรอ ไหนๆเล่าให้ฟังดิ๊
คนดูแลท่าเรือ – งาน Signor Universo จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ชายที่อายุถึงเกณฑ์ในการเข้าประลอง ผู้ชนะจะถือว่ามีพลังกำลังที่แข็งแกร่งประดุจเกลียวคลื่น พริ้งเพราเหมือนลมทะเล และหยั่งลึกดั่งท้องทะเล นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมที่ Gondolia ของพวกเราถึงมีแต่ชายที่แข็งแกร่งและน่าเลื่อมใส Sylvando – ผู้ชายยยย หรอออ มาเร็วที่รักไปดูงานกัน เราจะได้ไปลองของอร่อยๆที่นี่ด้วย อาหารที่นี่ขึ้นชื่อถึงขนาดมีบางคนยอมตายเพื่อจะมากินมันที่นี่เลยนะ เอาล่ะ ใครจะไปกะชั้นบ้าง มาเถอะน่า ชั้นรู้ว่าพวกเธออยากไปกัน
Veronica – ชั้นน่ะไม่สนการแข่งบ้าบออะไรนั่นหรอก แต่รู้สึกว่าอดอาหารมานานแล้ว และอาหารท้องถิ่นของที่นี่ก็น่าลองมากๆเลย Erik – เอาจิงดิ !!? นี่เราไม่ได้มาพักผ่อนน่ะเฟ้ย ภารกิจของเราคือมาตามหา Rainbough ใช่มั๊ย Serena Serena – เอ่อ คือ ชั้นต้องขอโทษด้วยนะ แต่ชั้นหิวมากๆเลยอ่ะ แล้วกว่าเราจะเดินทางต่อได้ก็ต้องรอจนงานจบ มันก็นานอ่ะนะ ขอไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า ....
Erik – เชื่อเขาเลยว่ะ ... เอาล่ะฟังนะ คือพวกเรารีบกันมากเลย เราต้องการเข้าไปที่ท่าเรือให้เร็วที่สุด นายพอจะรู้มั๊ยว่าที่นี่ใครใหญ่ คนที่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องกฎของที่นี่อ่ะ เราจะขอคุยกับเขาหน่อย คนดูแลท่าเรือ – ก็ต้องเป็นท่านเจ้าเมือง Doge Rotondo นั่นแหละที่มีอำนาจในการตัดสินใจทุกเรื่องใน Gondolia บ้านของท่านอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง ลองไปคุยกับท่านดู ท่านเป็นคนดีนะ Erik – นายได้ยินแล้วนะ เราลองไปคุยกับเขาเพื่อขอเข้าไปที่ท่าเรือกันเถอะ ! จากนั้นเข้าไปที่บ้านของ Doge Rotondo ที่อยู่ด้านบนฝั่งขวาของเมือง (ตรงที่ Akia ที่มาส่งจดหมายให้ยืนกวาดพื้นอยู่)
Erik – เอ่อ ผมมาหาคุณ Doge อ่ะครับ เราอยากจะคุยอะไรกับเขาหน่อย Doge Rotondo – อ่า ผมเองแหละ Doge Rotondo มีอะไรให้ช่วยหรอครับ ..อ๊ะ !!! ห๊ะ !! เอาล่ะ ชั้นไม่มีอะไรจะคุยด้วยหรอก เชิญไปให้พ้นๆได้แล้ว !!! Erik – เนี่ยนะคนดี ไรฟ่ะเนี่ย ที่สำคัญพอเขาเห็นหน้านายเขาก็แสดงอาการแปลกๆทันทีเลย เดี๋ยวนะ หรือเขารู้ว่าพวกเราหนีคดีมาอ่ะ Serena – อยู่ที่นี่นี่เอง Veronica กำลังมีเรื่องอ่ะ มาช่วยกันหน่อยสิ Erik – เฮ้ออ เอาเด็กไปไหนมาไหนด้วยก็แบบเนี่ย ยังไงเราก็ยังไม่ได้ไปจากที่นี่อีกนานเลย เอาล่ะไปดูหน่อยก็ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
Veronica – นี่เอาคืนมานะ ไอ้เด็กหัวขโมย นั่นไม่ใช่ของนานน่ะ เด็กอย่างนายเอาไปก็ใช้ไม่ได้หรอก!! เด็ก – ทำไมจะไม่ได้ เธอก็เด็กเหมือนชั้นไม่ใช่หรอไง อีกอย่าง ชั้นไม่ได้ขโมยนะ แค่ขอยืมก่อนเฉยๆ Erik – ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น Serena? Serena – คือพวกเรากำลังเดินๆอยู่เด็กๆพวกนี้ไม่รู้มาจากไหนจู่ๆก็วิ่งมาขโมยคทาของ Veronica ไป เราวิ่งตามจนมาจับได้ตรงนี้แล้ว Veronica ก็พยายามจะทวงคทาของเธอคืนนะ Erik – เฮ้อออ .. เอามานี่ไอ้หนู ... เอ้า ที่หลังก็อย่าให้ใครมาแย่งไปง่ายๆล่ะ Veronica – เออ ว่าแต่ ทำไมนายถึงต้องมาขโมยคทาของชั้นล่ะ มันไม่ได้มีค่าขายได้ราคาอะไรหรอกนะ เด็ก – ชั้น เอ่อ ... Erik – อะไร มีอะไรก็ว่าสิไอ้หนู ? เด็ก – พอแล้ว Placido เดี๋ยวชั้นอธิบายเอง ..
Benigno – ผมชื่อ Benigno ส่วนเพื่อนผมชื่อ Placido เขาเป็นลูกของท่าน Doge Rotondo น่ะ เราเล่นด้วยกันเป็นประจำมาตลอดแหละ แต่ตอนนี้อยู่ๆเขาก็พูดไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมถามเขาๆก็ตอบมาไม่ได้ ผมเลยคิดว่าถ้ามีเวทย์มนต์ก็อาจจะช่วยเขาได้ก็เลยจะขอยืมคทาเวทย์นั่นมาน่ะ Veronica – อืมม เอาล่ะ ชั้นอภัยให้ก็แล้วกัน ไหนลองเล่ามาสิว่าเพื่อนนายสูญเสียเสียงไปได้ยังไง?
Serena – ไหนให้ชั้นลองดูสิ .... อืมมม ที่ลิ้นของเขา เหมือนกับถูก คำสาป บ้างอย่างนะ ชั้นอาจจะใช้เวทย์ Birdsong nectar แต่ชั้นต้องใช้ น้ำศักดิ์สิทธิ์ มาทำพิธีน่ะ
Benigno – อ่อ ผมเคยได้ยินคนพูดกันถึงเรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่ด้วยนะ มันอยู่ ในถ้ำ Grotta della Fonte ที่ต้นแม่น้ำทางตะวันตกของ Gondolia ผมรู้ว่าที่ผมขโมยของๆคุณมาเป็นเรื่องไม่ดี ผมแค่อยากจะช่วย Placido เท่านั้นแหละ เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆแล้ว คุณพอจะช่วยพวกเราได้มั๊ย? นะครับ ช่วยเราหน่อยนะ Hero - [YES] Benigno – ขอบคุณที่ช่วยนะ Signore พวกคุณไปเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์มาเถอะ ผมจะดูแล Placido อยู่ที่นี่เองคับ วิธีการหา ชุดแมวของ Veronica มาใช้งาน ก่อนออกจากเมือง ที่เมืองนี้จะมีชุดแมว ซึ่งเป็นชุดพิเศษของ Veronica ขายด้วย โดยต้องไปคุยกับพ่อค้าที่ร้านฝั่งซ้ายตรงทางเข้าเมือง ด้านบนของร้านขายอาวุธ
พ่อค้าจะเสนอขาย Cat Suit ให้ในราคา 1000 G จากนั้นไปซื้อ Cat Hat จากร้านขายชุดเกราะฝั่งขวา (หรือดร็อปจากมอนสเตอร์เสือในพื้นที่ Laguna di Gondolia) ก็จะได้ชุดแมวเต็มตัวของ Veronica มาใช้
จากนั้นเดินทางออกจากเมือง Gondolia แล้วเดินทางไปทางตะวันตกของ ทะเลสาบกอนโดลา (Laguna di Gondolia) เข้าสู่ถ้ำ Grotta della Fonte ได้เลย เข้ามาด้านในถ้ำ Grotta della Fonte จนถึงด้านในสุดจนถึงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ La Fonte Fonda จะพบ Coralossus 2 ตัวขวางทางอยู่
จัดการมันซะแล้วเข้าไปตักน้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์มา Serena ก็จะนำมาปรุงเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ Birdsong nectar ออกมาได้สำเร็จ จากนั้นก็เดินทางกลับเมือง Gondolia ได้เลย
Serena – ดูสิ เหมือนว่างานจะเริ่มตั้งแต่ตอนเราออกไปข้างนอกแล้วนะ Sylvando – ตื่นเต้นๆๆๆ ชั้นรอชมคู่แรกไม่ไหวแล้วล่ะ ! นี่หนุ่มๆ ชั้นอยากได้แถวหน้าเลยอ่ะ นาย 2 คนไปจองที่ให้หน่อยสิ เดี๋ยวชั้นกับสาวๆจะเอายารักษาไปให้เจ้าหนู Placido ก่อน อยากเห็นหน้าเค้าตอนดีใจจะแย่แล้ว Erik – นี่เราต้องโดนบังทำในสิ่งที่ไม่อยากทำอีกแล้วใช่ป่ะ เฮ้ออ เอาเถอะ ทำๆให้มันจบไป ระหว่างทางที่กำลังเดินเข้าไปที่เวทีของงานด้านในสุดของเมืองจะพบ Akia ยืนอยู่ตรงจุดเดินที่เธอเคยยืน แต่ครั้งนี้เธอจะมีเควสย่อยให้ทำด้วย
Side Quest : A Lovelier Letter ผู้จ้าง – ทหารยาม Hakim เป้าหมาย – นำจดหมายของ Akia ไปส่งให้ชายที่ชื่อ Valentino ที่เมือง Puerto Valor รางวัล – Mini Medal 1 เหรียญ เมื่อรับเควสย่อยแล้วก็เก็บไว้ก่อนเพราะตอนนี้ยังไม่สามารถไปที่เมือง Puerto Valor ได้ในตอนนี้ จากนั้นก็เข้าไปที่เวทีใหญ่ของงานที่อยู่ท้ายเมืองต่อ
Erik – เอ่อ .. ไอ้หมอนั่น นายคุ้นๆมั๊ยอ่ะ ? Jasper - อ่า ข้านึกว่าจะต้องใช้แผนการค้นหาทั้งเมืองเพื่อหาตัวพวกเจ้าให้ชาวเมืองต้องเจอโศกนาฏกรรมจากการกระทำที่โง่เง่าของพวกแกแล้วเชียว แต่เจ้ากลับเลือกที่จะมารนหาที่ตายด้วยตัวเองถึงที่แบบนี้ช่างโง่เง่าสิ้นดีจริงๆเลย Erik – ให้ตายสิ นั่นมันนี่นา !!
Jasper - ประชาชนชาว Gondolia จงฟังข้า .. ฟังให้ดี !!! ข้า Jasper อัศวินแห่งอาณาจักร Heliodor ผู้ได้รับมอบหมายจากองค์ราชา Carnelian มาที่นี่เพื่อบอกพวกเจ้าว่า เรามาตามจับชายคนนั้น ! มันคือ DarkSpawn ปีศาจร้ายที่แฝงในรูปลักษณ์ของมนุษย์ที่จะมาทำลายดินแดน Dundrasil ของเรา Erik – ไม่ดีแล้ว เราหนีกันเถอะ !!
Jasper – ยอมให้จับซะโดยดีจะได้ไม่ต้องเจ็บตัว !!! Erik – ให้ตายสิ เสร็จเลยเรา ไม่มีทางเลือกซะแล้ว ! Erik – บ้าเอ้ย !! มากันขนาดนี้จัดการยังไงก็ไม่หมดเลย !! Jasper – สู้ไปก็เหนื่อยเปล่าน่า พวกแกไม่มีที่จะหนีแล้ว ยอมให้จับซะเถอะ แล้วเราจะไว้ชีวิต !!
Sylvando – ยอมให้จับงั้นหรอ? ชั้นว่าไม่มั้งที่รัก ! อย่ามายุ่งกับเพื่อนของชั้นนะ ไม่งั้นจะเจอดีนะ Veronica – ช่าย สั่งสอน ที่รัก !! Jasper – ไอ้พวกบ้านี่มันเป็นใคร !! พวกการ์ดปล่อยให้มันผ่านมาได้ยังไงกัน !! Veronica – พวกบ้างั้นหรอ? เดี๋ยวก็รู้ว่าใครบ้า !!
Jasper – พวกแกเป็นพวกเดียวกับไอ้ DarkSpawn นี่งั้นหรอ? รอก่อนนะ เดี๋ยวจะได้จับไปพร้อมกันเลย ทหาร ตามข้ามา !! Serena – นี่ๆ พวกนาย ตามชั้นมาทางนี้เร็วๆเลย
Jasper – หือ ?? พวกแกคิดหนีงั้นหรอ? !!! Erik – ห๊ะ ระวัง !!!
Serena – Erik !!
Erik – นายจะทำอะไร ? ชั้นถ่วงเวลาให้แล้ว รีบหนีไปก่อนสิ !! รีบไปเดี๋ยวนี้ !!!!
Sylvando – ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่ตามมาแล้วนะ เราปลอดภัยแล้วล่ะ อย่างน้อยก็ตอนนี้ Serena – แต่ พวกมันจับ Erik เอาไว้ ... ชั้นไม่อยากนึกภาพเลยว่าพวกมันจะทำอะไรกับเขา Sylvando – ไม่ต้องห่วงหรอกที่รัก Erik น่ะอึดกว่าที่เห็นนะ .... หวังว่างั้นอ่ะนะ แล้วไอ้เจ้า Jesper ก็พูดไม่มีเหตุผลเอาซะเลย หมายถึง ทำให้ถึงเรียกคนที่กำลังจะไปปราบ Dark One ว่า Darkspawn ได้ไง? ฟังแล้วสับสนแฮะ Serena – เขาไม่ใช่ Darkspawn แน่นอน นั่นเป็นสิ่งที่ราชา Carnelian คิดเอาเอง ท่านกำลังกลัวในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ ต้องขอโทษด้วยนะแต่ชั้นจะอธิบายรายละเอียดให้ฟังวันหลัง ตอนนี้ชั้นว่าพวกเราต้อง ... Sylvando – โอ้ ไม่ต้องของโทษหรอกที่รัก จะ Darkspawn หรืออะไรก็ช่างเถอะถ้ามีคนสวยๆอย่างพวกคุณเดินทางมาด้วยจะเป็นอะไรก็ได้หมดอ่ะครับ Veronica – แหม Sylvando ... Sylvando – เอาล่ะ จะมายืนคุยกับแบบนี้หรือจะออกแอ็คชั่นก่อนหน่อยล่ะ ห๊า? ก่อนอื่นเราน่าจะหาทางไปที่สะพานกลางเมืองกันก่อนดีกว่าเพื่อจะดูว่าพวกมันจับ Erik ไปไว้ที่ไหน โอเคนะ ตอนนี้ทหารออกลาดตระเวณเต็มไปหมด ชั้นว่าเราน่าจะไปทางดาดฟ้าของโรงแรมนะน่าจะเข้าไปถึงสะพานได้ง่ายหน่อย จากนั้นสิ่งที่ต้องทำคือเดินเข้าไปที่สะพานที่อยู่กลางเมือง แต่ตอนนี้ในเมืองจะมีทหารเดินไปมามากมาย และมีการกั้นเส้นทางหลายจุด ตรงนี้สามารถไม่อยากหลบอะไรมากมายก็สามารถเข้าไปสู้กับพวกทหารเพื่อเป็นการเก็บเลเวลเลยก็ได้ ตอนนี้ไม่สามารถเดินตรงเข้าไปที่สะพานกลางได้จากฝั่งซ้ายได้ต้องใช้การเดินอ้อมลงมาที่ทางเข้าเมืองเพื่ออ้อมมาฝั่งขวาแทนก็จะสามารถเข้าถึงสะพานกลางเมืองได้
Jasper – ข้ารู้ว่าพวกแกกำลังหลบซ่อนตัวใต้เงามืดตามสันดานของ Darkspawn ! แสดงตัวออกมาซะ หรือแกจะหลบซ่อนดูเพื่อนแกตายอยู่ในเงามืดแบบนั้น !! Sylvando – ไหนใครบอกชั้นหน่อยสิว่า ไอ้เจ้า Jasper มันไม่ใช่พวกโรคจิตใช่ป่ะ เอาล่ะ เราต้องหาทางเข้าถึงตัว Erik ให้ได้โดยไม่ให้พวกมันรู้ตัว อ่า นึกออกแล้ว เรือ Gondola ในคลองน้ำกลางเมืองไงมันสามารถล่องเข้าไปถึงใต้เวทีของงานได้พอดีเลย รับรองพวกทหารไม่เห็นเราแน่นอน ไปกันเถอะ ! โดดจากกสะพานแล้วเดินลงมาที่ท่าเรือเพื่อขึ้นเรือ Gondola ในคลองกลางเมืองแล้วพายเข้าไปที่ใต้เวทีของงานด้านทิศเหนือของเมืองก็จะสามารถเข้าไปถึงตัว Jasper ได้โดยที่พวกทหารลูกน้องของมันไม่ทันได้ตั้งตัว Jasper – นี่พวกแกยังหาพวกมันไม่เจออีกหรอไง? ไอ้พวกโง่ !! ไปหามันใหม่จนกว่าจะเจอ เอากำลังเสริมไปหามันให้หมด !! Sylvando – จังหวะนี้แหละ มันอยู่คนเดียวแล้ว เข้าไปหามันได้เลย !!
Jasper – ห๊ะ ! ....ในที่สุดก็ออกมาสู่แสงสว่างซะทีนะ นี่แกคิดว่าการซุ่มโจมตีข้ามันจะมีประโยชน์ต่อพวกแกงั้นหรอ? ก็ดี ข้าจะได้มีโอกาสฉีกพวกแกให้เป็นชิ้นๆด้วยมือข้าเองเลย !! เข้าไปจัดการ Boss – Jasper ให้ชนะ
Jasper – อ๊ากก นี่ข้าต้องมาคุกเข่าต่อหน้าไปพวกหนูสกปรกนี่หรอเนี่ย? เป็นไปไม่ได้ .. อั๊ก !!! ทหาร – แกมันนพวกปีศาจชัดๆ Darkspawn ถึงเล่นสกปรกแบบนี้ !! พวกแกคิดว่าจะชนะท่าน Jasper ได้จริงๆหรอ? Jasper – ไม่มีวันหรอก !! เอาล่ะ ยอมรับชะตากรรมของพวกแกแล้วยอมให้จับซะดีๆ !
Sylvando – อ่า ... เอาล่ะ นี่ดูจะบ้าๆหน่อยนะ แต่ เชื่อใจชั้นนะ โอเค๊ ? Jasper – ฮ่าๆๆๆ ในที่สุดก็เปิดเผยธาตุแท้ของหนูที่กำลังหนีออกจากเรือ ฮ่าๆ แกนี่มีเพื่อนที่จริงใจจริงๆนะ Darkspawn ! ฮ่าๆๆๆ ยอมให้จับซะดีๆหรือจะยอมเป็นอาหารให้พวกฉลามตามห่วงโซ่อาหารก็เลือกเอา ! ทหาร – ทะ ท่าน Jasper ครับ ดู ...ดูนั่น !!
Sylvando – ยู้ฮู้ ดราม่าอะไรกันจ๊ะ ? ขอแนะนำให้รู้จักกับเรือเดินทะเลที่ดีที่สุดในโลก Dave ช่วยหักซ้ายแนบชายฝั่งไปรับเพื่อนชั้นหน่อยได้มั๊ยที่รัก? Dave – จัดไป Sylv !!!
Sylvando – โดดขึ้นมาเลยเพื่อน !! Jasper – ทหาร จับมัน !! Sylvando – จุ๊บๆๆ Jasper ที่รัก ไปก่อนนะ พนันเลยว่านายไม่คิดว่าจะจบแบบนี้ใช่ป่ะ แต่ชั้นชอบจัง
ทหาร – จะเอาไงต่อดีครับท่าน สั่งมาได้เลยครับท่าน Jasper มันกำลังจะหนีไปแล้ว !! Jasper – หึหึ .. มันไปได้ไม่ไกลหรอก ...
Erik – วู้ !! เราทำได้แล้ว !! เส้นยาแดงผ่าแปด รอดมาได้อย่างหวุดหวิด เราเป็นหนี้นายนะ Sylv Sylvando – โอ้ ไม่เป็นไรจ้า ถ้าจะขอบคุณก็ขอบคุณ Dave ที่ขับเรือออกมารับพวกเราตอนที่กำลังจะเป็นอาหารของฉลามอ่ะนะ Dave – พอได้แล้วน่า Sylv ผมก็แค่ทำไปตามหน้าที่เท่านั้นเอง ไม่ต้อง .... อ๊ากกก นั่นมันตัวอะไรกันนะ !!!!
Jasper – ข้าบอกแล้วว่าพวกแกไปไม่ได้ไกลหรอก ฮ่าๆ เชิญเดินทางลงสู่ก้นทะเลอย่างมีความสุขก็แล้วกันนะ Tentacular ลูกรักของข้าจะนำทางเพื่อนใหม่ลงสู่ก้นทะเลเอง ฮ่าๆๆ
Jasper – ห๊ะ !! นั่นมันเรือของพ่อค้าชาว Gondolian นี่ พวกมันมาทำอะไร??
Veronica – ดูสิ ไอ้ตัวประหลาดนั่นมันกำลังกลัวเสียงปืนใหญ่จนหนีไปแล้ว
Doge Rotondo – ไง ปลอดภัยแล้วนะ ไม่ต้องกลัวไปหรอกเจ้ามอนสเตอร์นั่นมันก็มาคอยก่อกวนน่านน้ำตรงนี้เป็นประจำแหละ Placido – ฮ่าๆ นี่ผมเอง Placido ผมได้เสียงคืนมาแล้วล่ะ ผมพูดได้เหมือนเดิมแล้ว Doge Rotondo – ลูกผมเล่าให้ฟังหมดแล้วล่ะที่พวกท่านช่วยรักษาลูกเขาไว้ ลูกผมบอกว่าคุณไม่ได้เป็น Darkspawn หรอก ไม่งั้นจะมารักษาเขาทำไม เขาอธิบายให้ผมฟังจนหมดแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะที่ทำให้พวกคุณต้องเดือดร้อน Placido – วันนึงผมหนีไปเล่นนอกเมืองแล้วไปเจอ ลอร์ด Jasper กำลังวางแผนเกี่ยวกับเรื่องมอนสเตอร์ตัวนี้กันอยู่ เขากลัวว่าผมจะไปบอกใครก็เลยใช้คำสาบทำให้ผมกลายเป็นใบ้เพื่อไม่ให้ไปบอกคนอื่นน่ะครับ Doge Rotondo – คนที่ถูกเรียกว่าเป็น Darkspawn ช่วยเหลือลูกผมแต่คนที่เรียกตัวเองว่าเป็นอัศวินแห่ง Heliodor กลับทำตัวไม่ต่างจากปีศาจ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ แต่เท่าที่ผมรู้ พวกคุณคือฮีโร่ และ ฮีโร่ก็ต้องมีโอกาสที่จะหนีเพื่อสู้ใหม่อีกครั้งในวันต่อไปจริงมั๊ย?
Jasper – Darkspawn !! แกได้ยินใช่มั๊ย !! วันนี้แกก็แค่โชคดี แต่โชคของแกได้หมดลงแล้ว จนกว่าจะได้เจอกันอีก ถ้าแกฉลาดพอก็ควรจะใช้ชีวิตด้วยความกลัวไปตั้งแต่วันนี้เลยนะ !!
Erik – ชีวิตต่อไปมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆแล้วนะ เพราะพ่อค้าอย่างพวกคุณได้ท้าทายกับทหารของ Heliodor ไปแล้ว พวกเราก็เช่นกัน แต่ถึงยังไงก็ยอมให้พวกมันมาก้นหัวนะ ได้ยินแล้วนะ?
Sylvando – เราได้มีชีวิตอยู่จนได้เห็นตะวันของวันใหม่อีกครั้งถือว่าเป็นพรอันประเสิรฐแล้วบอกเลย อ่อ Dave ชั้นลืมถามเลย นายเคยได้ยินเรื่องพ่อค้าที่ขายอะไรที่เรียกว่า Raimbough ที่มาจาก Gallopolis บ้างป่ะ? Dave – ผมได้ยินเขาพูดกันว่าเขาเดินเรือไปที่ Zwaardsrust น่ะครับ Erik – ไง นี่คงไม่ใช่เกมแล้วใช่รึเปล่าล่ะ?
Sylvando – ลูกเรือที่รักทั้งหลาย เตรียมตัวมุ่งสู่ Zwaardsrust ! Raimbough กำลังรอเราอยู่ !! เบนเข็มไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ เดินหน้าเต็มกำลัง ! โชคขะตากำลังกวักมือเรียกหาเราแล้ว !!!!