หญิงชราผู้มอบเรือให้เซธยืม บัดนี้นางยืนมองไปยังสุดขอบทะเล
"เวลานั้นมาถึงจนได้สินะ..."
...
เหล่าผู้กล้าทั้งสี่หลังจากหาวิธีลบข้อมูลของมารผสานราตรีออกจากคัมภีร์ได้ (ด้วยการช่วยเหลือของผู้เล่นเอง) ทุกคนจะพบว่าในคัมภีร์มารนั้นเหมือนมีภาพอยู่สองส่วน ภาพหนึ่งคือมารผสานราตรี ส่วนอีกภาพเป็นหญิงชราผู้หนึ่ง...ซึ่งเซธรู้จักหญิงชราผู้นี้
เอลวิสกล่าวว่าในคัมภีร์เคยบอกไว้ มารผู้นั้นแบ่งออกเป็นสองส่วนคือส่วน "วิญญาณ" และ "ภาชนะ" ซึ่งตอนนี้ผู้กล้าได้ทำลายวิญญาณมารทิ้งไปแล้ว เหลือเพียงการทำลายภาชนะซึ่งก็คือมารในปัจจุบัน เซธจึงพาทุกคนกลับไปพบกับหญิงชราผู้นั้นที่ชายหาดเมืองฮาลซิโอเนีย
หญิงชรากล่าวว่านางนั้นได้เฝ้ารอคอยมานานแสนนาน รอคอยใครบางคนที่จะมาหา ทว่าหญิงชราบอกว่านางนั้นได้ทิ้งตัวตนของนางไปนานแล้ว แต่นางก็ยินดีที่การรอคอยกว่าห้าสิบปีนั้นไม่สูญเปล่า
ฉับพลันนั้นร่างของหญิงชราก็เปล่งแสง ปีกผีเสื้อขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่กลางหลัง
แท้จริงแล้วนางคือไอลีน ราชินีแฟรี่ที่เคยร่วมกับคณะผู้กล้าแห่งแสงเมื่อห้าสิบปีก่อนนั่นเอง
หญิงชราเล่าถึงศึกเมื่อครั้งนั้น ทุกคนเผชิญหน้ากับมารผสานราตรีแต่ก็มิอาจทำลายมันลงได้ ก็อดริคจึงสังเวยตนเองเพื่อผนึกมาร หญิงชราชื่นชมเอลวิสที่สามารถค้นหาวิธีทำลายวิญญาณมารได้ ซึ่งในคัมภีร์ได้บ่งชี้ถึงสถานที่ของร่างภาชนะที่อยู่ไกลออกไปอีกฝั่งของทะเล หญิงชราเรียกมันว่า "มหาสมุทรด้านนอก" ซึ่งแท้จริงแล้วหมายถึงอีกมิติที่แตกต่าง และเมื่อพลังของคริสตัลอ่อนแอลง โลกทั้งสองที่เคยตัดขาดบัดนี้ก็ได้เชื่อมต่อถึงกัน และมีเพียงผู้มาจากอีกฝั่งเท่านั้นจึงสามารถข้ามไปสู่มหาสมุทรด้านนอกได้
และคนผู้นั้นก็คือเซธนั่นเอง!!
เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว หญิงชราจึงได้ใช้พลังจากคริสตัลทั้งสี่ในการส่งผู้กล้าแห่งแสงข้ามเรือไปยังมหาสมุทรด้านนอก สถานที่ที่เรียกว่า "เกาะแห่งความว่างเปล่า"
ทั้งสี่มุ่งไปข้างหน้า ภูมิทัศน์รอบข้างค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป จากทุ่งหญ้าเขียวขจีเปลี่ยนเป็นทะเลทราย จากทะเลทรายเปลี่ยนเป็นบึงหมอก จากบึงหมอกเปลี่ยนเป็นแดนหิมะ จากแดนหิมะเปลี่ยนเป็นดินสีแดง (ตามภูมิทัศน์ของแต่ละเมืองที่เราเดินทางตลอดมา) ซึ่งมีเรื่องแปลกที่ระหว่างทางเราจะเจออุปสรรรคเช่นหินยักษ์ขวางทาง ทะเลหมอกหนาทึบ อุปสรรคนานาชนิดที่ขัดขวางเส้นทางของเรา แต่ไม่นานก็จะมีกลุ่มคนลึกลับคอยเคลียร์เส้นทางให้เราตลอด (คำอธิบายขึ้นว่า ผู้ถูกเลือกของ "ผู้เล่นอื่น" ช่วยเราไว้) จนในที่สุดทุกคนก็มาถึงปลายทาง
ทุกคนเผชิญหน้ากับมารผสานราตรีผู้บิดเบี้ยวอีกครั้ง และทุกคนก็รวมพลังกำจัดมารผู้นี้ลงได้ ร่างของมารค่อยๆสลายหายไป ทว่าหลังความว่างเปล่า ปรากฏร่างจริงของมารซึ่งใช้พลังอันมหาศาลดูดกลืนความทรงจำทั้งหมดของผู้กล้าทั้งสี่ แต่ละคนความทรงจำเริ่มเลือนราง จำไม่ได้ว่าตนมาทำอะไร จำไม่ได้ว่าตัวเองคือใคร คงเหลือเพียงเซธที่ยังครองสติไว้ได้ เขาพยายามเตือนสติเพื่อนพ้องทีละคนๆ จนทุกคนคืนสติกลับมา แต่คราวนี้มารพุ่งเป้ามาโจมตีที่เซธโดยตรง แต่แล้วก็มีเสียงปริศนาปลุกเซธให้ตื่นว่าเขาคือใคร บัดนี้ทุกคนจดจำตนเอง จดจำมิตรสหาย จิตวิญญาณอดีตผู้กล้าทั้งสี่ในรอบก่อนได้ส่งมอบพลังให้ผู้กล้าทั้งสี่ที่ยืนหยัดในตอนนี้มีพลังเข้าปะทะกับมารผสานราตรีอีกครั้ง
ในที่สุด มารผู้ไมมีวันตายก็ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง คัมภีร์ของเอลวิสเปล่งแสง หน้ากระดาษหน้าแล้วหน้าเล่าค่อยๆสูญสลาย คงเหลือเพียงหน้าสุดท้ายซึ่งก็คือความทรงจำของผู้กล้าทุกคน แรงสั่นสะเทือนค่อยๆปรากฏขึ้นโดยรอบ เกาะแห่งนี้ส่งสัญญาณการดับสลาย แต่คนทั้งสี่ก็ไม่เหลือเวลาที่จะหนีรอดได้อีกแล้ว...
ระหว่างที่รอบข้างค่อยๆเปลี่ยนเป็นมืดสนิท แสงสว่างสี่สายค่อยๆเปล่งประกาย เป็นคริสตัลทั้งสี่ที่มอบพลังช่วยเหลือทุกคนเอาไว้ และส่งทุกคนกลับมายังชายหาดเมืองฮาลซิโอเนีย
ทว่า...กลอเรีย เอลวิส และอเดลค่อยๆฟื้นสติข้างๆกัน แต่กลับไม่เห็นเงาร่างของเซธ ทั้งสามพยายามร้องเรียกและออกตามหาโดยรอบ แต่ก็ไม่พบเซธเลย
กลอเรียทรุดเข่าด้วยความอ่อนล้า...ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ไปได้...
........
แต่เกมนี้ก็ยังไม่ใจร้ายกับเราเกินไป เซธที่ล่องลอยใต้ท้องทะเล ก็ได้ศิลาวาตะช่วยเอาไว้อีกครั้ง เขาค่อยๆตะเกียกตะกายขึ้นฝั่งอย่างทุลักทุเล กลอเรียที่สิ้นหวังและค่อยๆเดินจากไปได้ยินความเคลื่อนไหวที่ด้านหลัง เมื่อหันกลับไปก็พบกับเซธ กลอเรียไม่คำนึงถึงสิ่งใด รีบวิ่งเข้าไปกระโดดกอดเซธจนตัวลอยทันที
"ยินดีต้อนรับกลับบ้าน..."

Bravely Default II
-- อวสาน --