Final Fantasy Tactics Advance
ไฟนอลแฟนตาซี แทกติกส์ แอดวานซ์
บทสรุปเกม
WALKTHROUGH
Final Fantasy Tactics Advance [By snowywebpage.net]
Final Fantasy Tactics Advance
Final Fantasy Tactics Advance
Walkthrough
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในวันอันหนาวเหน็บที่สนามโรงเรียนขณะที่เด็กๆ กำลังแบ่งทีมเล่นปาหิมะกัน มิวท์ เด็กขี้อายที่ดูเซื่องซึมกำลังถูกเด็กเกเรล้อเลี้ยนเรื่องตุ๊กตาหมีของเขา มาร์ช เด็กนักเรียนใหม่ และ ริทซ์ เด็กสาวผมแดงผู้เข็มแข็งได้เข้าปกป้องมิวท์ ซึ่งทำให้แกงค์เด็กเกเร ไลเล่ โคลิน และกวินเนส ไม่พอใจ จากนั้นครูเลสลี่กับริทซ์จะเข้ามาบอกกติกา คำสั่งพื้นฐานในการต่อสู้กับเรา
แต่ปรากฏว่าในการแข่งปาหิมะ พวกเด็กเกเรจะรุมกันปามิวท์อยู่คนเดียว จนกระทั่งโคลินเอาก้อนหินยัดใส่หิมะปาใส่มิวท์จนเลือดออก การแข่งจึงต้องหยุดลง ริทซ์จะโกรธมากเข้าไปต่อว่าโคลิน แต่จะถูกล้อเลียนเรื่องสีผมกลับมา จากนั้นครูเลสลี่จึงรีบเข้ามาดูอาการมิวท์และเรียกแกงค์เด็กเกเรไปอบรม จากนั้นมิวท์จะชวนริทซ์กับมาร์ชไปดูหนังสือเล่มโปรดของเขา แต่มาร์ชจะต้องกลับไปดูแลโดเน็ด น้องชายคนเดียวที่ป่วยออดๆ แอดๆ มาตั้งแต่เด็ก มาร์ชเลยออกความเห็นว่าให้เอาหนังสือไปดูที่บ้านมาร์ชดีกว่าน้องของเขาจะได้ดูด้วย ระหว่างทางกลับบ้านทุกคนก็ได้พบกับซิด พ่อของมิวท์ ซึ่งตกงานและเอาแต่เมาเหล้าทั้งวัน มิวท์จะรู้สึกอายมากแต่มาร์ชจะปลอบใจมิวท์แล้วเดินไปทางอื่น ริทซ์จึงเล่าให้มิวท์ฟังว่ามาร์ชเองก็เป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อเหมือนกัน เมื่อมาถึงบ้าน มาร์ช มิวท์ ริทซ์ โดเน็ด ก็ล้อมวงกันอ่านหนังสือประหลาดของมิวท์ที่ไม่มีใครรู้ชื่อหนังสือ เพราะไม่มีใครอ่านหน้าปกออกเลย ทุกคนต่างพากันตื่นตาตื่นใจกับเนื้อหาในหนังสือ แต่ก็ไม่สามารถที่จะอ่านจนจบได้เพราะในหนังสือเต็มไปด้วยอักษรประหลาด ทั้งหมดต่างพูดคุยกันว่าจะดีแค่ไหนถ้าเวทย์มนต์และโลกแฟนตาซีในหนังสือนี้เป็นจริงขึ้นมาได้ จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน และคืนนั้นก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้น เมื่อผู้คนและทุกสิ่งในเมืองได้เปลี่ยนไป ในตอนเช้าเมื่อมาร์ชลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นตา มาร์ชตกตะลึงจนเดินไปชนกับเผ่าบังก้า ด้วยความตกใจจึงเผลอพูดออกมาว่า “กิ้งก่าพูดได้” ซึ่งถือว่าเป็นการหมิ่นเผ่าบังก้าอย่างมาก แต่ก่อนที่เรื่องจะบานปลายก็มีเผ่าโมกุรี่ เข้ามาไกล่เกลี่ย แต่ดูเหมือนว่าชาวบังก้าจะไม่ยอมง่ายๆ ดังนั้นการต่อสู้จึงเริ่มขึ้น ซึ่งโมกุรี่จะสอนระบบการต่อสู้ และ Judge ให้ ให้เราปราบบังก้าลงให้ได้
เมื่อชนะแล้วบังก้าจะโดนจัดจ์ลากเข้าคุก แล้วโมกุรี่จะแนะนำตัวว่าเขาชื่อ มองบลังค์ จากนั้นเขาจะพาเราไปเข้าเป็นสมาชิก Clan และอธิบายเรื่องต่างๆ ในโลกนี้ให้มาร์ชรู้ จากนั้นจะออกมาที่ World Map ให้เราวางเมือง Sprohm ลงบนช่องที่ยังว่างอยู่ซะ ตอนนี้เราจะสามารถเซฟเกมส์ได้แล้ว จากนั้นให้ไปที่เมือง Cyril เราจะสามารถเข้าไปร้านค้า กับบาร์ได้แล้ว (ตอนนี้ในร้านค้าจะยังไม่มีของอะไรขายเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวจะมีเพิ่มภายหลังตอนเราอัพเกรดร้านค้าแล้ว) ให้เข้าไปที่บาร์(แนะนำให้อ่านหัวข้อ Rumors ให้ครบทุกอัน) เข้าไปเลือกทำภารกิจที่ Missions ซึ่งตอนนี้จะมีให้เราเลือกแค่อันเดียวคือ Herb Picking ให้ตอบตกลงทำภารกิจอันนี้ซะ (เสียค่าทำภารกิจ 300 กิล) แล้วมองบลังค์จะพาเราออกจากเมืองเพื่อไปทำภารกิจแรก เราจะกลับมาที่แผนที่ ให้เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปที่ Giza Plains (สามารถกด L เพื่อเช็คดูกฏข้อห้ามกับข้อควรปฏิบัติได้ ถ้าไม่ถูกใจก็ให้ไปที่อื่นก่อนแล้วค่อยกลับมาทีหลังก็ได้ โดยสีฟ้าจะเป็นข้อห้ามปฏิบัติ สีแดงจะเป็นข้อควรปฏิบัติ ถ้าเราทำตามจะได้รางวัลจาก Judge)
สำหรับภารกิจแรกนี้ไม่ค่อยมีอะไรน่าเป็นห่วง ให้ระวังแค่ Red Cap ตัวเดียวก็พอ หลังจากกำจัดศัตรูได้หมดแล้ว มาร์ชกับมองบลังค์จะเข้าไปเก็บสมุนไพร ก็เป็นอันจบภารกิจแรกและเราจะได้สถานที่ใหม่มาคือ Lutia Pass จากนั้นให้กลับไปที่เมือง Cyril เข้าไปรับภารกิจใหม่ที่บาร์(อย่าลืมอ่าน Rumors ใหม่ที่เพิ่มมาด้วย) ก่อนอื่นแนะนำให้ทำภารกิจย่อยๆ ก่อนเพื่อเพิ่มเลเวลและหาไอเท็มไว้ใช้
Mission ที่ทำได้ตอนนี้
ศัตรูในด่านนี้จะมีแค่ Bomb ซึ่งจะแพ้ธาตุน้ำแข็ง ให้ใช้เวทย์ Blizzard จะจัดการได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเลือดเหลือน้อยมันอาจจะระเบิดตัวเองใส่เรา ให้ระวังจุดนี้ด้วย
ในด่านนี้ให้ระวัง Red Panther ให้ดีเพราะโจมตีค่อนข้างแรง และยังมีท่าที่ทำให้เราติดพิษอีกด้วย ทางที่ดีให้เราพก Pheonix Downs เอาไว้เยอะๆ แล้วพยายามให้ White Mage คอยฟื้นพลังให้ก็จะผ่านได้โดยง่าย
ในด่านนี้ให้เรากำจัด Gelato ก่อนเพราะเขามีเลเวลที่ค่อนข้างสูง และใช้เวทย์มนต์โจมตีได้แรง ให้เรานำอาชีพที่โจมตีระยะไกลลงจะค่อนข้างได้เปรียบ จากนั้นค่อยจัดการพวกที่เหลือ และให้ White Mage คอยฟื้นพลังให้เรื่อยๆ ก็จะผ่านได้โดยง่าย อย่าลืมทำลายคริสตัลเวทย์มนต์สีน้ำเงินให้หมดด้วยล่ะ
ในด่านนี้ไม่มีอะไรน่ากลัว ก่อนอื่นให้เราจัดการ Ice Flan ก่อน แล้วค่อยจัดการ Zombie ทีหลัง ในการสู้กับ Zombie ถ้าเราปราบมันได้ พอผ่านไป 3 เทิร์น มันจะสามารถฟื้นคืนชีพได้เรื่อยๆ วิธีจัดการ ให้เราพยายามจัดการพวกมันเป็นกลุ่ม หรือทำให้พลังมันเหลือน้อยทีล่ะตัวก่อนแล้วค่อยจัดการทีเดียวแค่นี้ก็เรียบร้อย *ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าซอมบี้พวกนี้ก็คือพวกเด็กเกเรที่แกล้งพวกเราในสนามโรงเรียนนั่นเอง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?!
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการอาชีพ Soldier ไปช่วยต่อสู้ ให้เราส่งไปคนนึงแล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ หลังจากที่ทำภารกิจย่อยจนพอใจแล้ว ให้กลับไปที่บาร์อีกครั้งแล้วเลือกทำภารกิจ Thesis Hunt จากนั้นให้ไปที่ Lutia Pass เพื่อทำภารกิจได้เลย
สำหรับภารกิจนี้ศัตรูจะแข็งแกร่งกว่าอันแรกนิดหน่อย แต่ก็ยังไม่ค่อยมีอะไรน่าเป็นห่วง ก่อนอื่นให้กำจัด White Mage ก่อนเพื่อที่จะฟื้นพลังให้ศัตรูคนอื่นไม่ได้ และรีบจัดการ Archer ซะ จากนั้นค่อยเก็บที่เหลือ หลังจากกำจัดศัตรูได้หมดแล้ว เราจะรู้ว่าศัตรูในภารกิจนี้มาจาก Clan อื่น จากนั้นมองบลังค์จะอธิบายให้เราฟังเรื่องสงครามระหว่าง Clan แล้วเราจะสามารถใช้คำสั่ง Clan บนแผนที่ได้ และจะได้สถานที่ใหม่มาคือ Nubswood (หลังจากนี้บางครั้งเราอาจจะเจอ Clan บนแผนที่ ถ้าคิดว่าเก่งพอจะเข้าไปสู้ด้วยก็ได้ ถ้าชนะก็จะได้ของดีๆ มาเหมือนกัน)
Mission ที่ทำได้ตอนนี้
ก่อนอื่นให้กำจัด White Mage ก่อนเพื่อที่จะฟื้นพลังให้ศัตรูคนอื่นไม่ได้ ในด่านนี้จะมีพื้นที่สูง ให้เรานำนักธนูขึ้นไปอยู่ด้านบนจะทำให้ได้เปรียบ ถ้าเรากำจัด Dolce ได้การต่อสู้จะจบลงทันที แต่แนะนำให้กำจัดตัวอื่นก่อนเพื่อเป็นการเก็บเลเวล แล้วค่อยจัดการ Dolce ทีหลัง
ในภารกิจนี้ศัตรูจะค่อนข้างเก่ง เราควรจะมีเลเวลประมาณ 4 – 5 แต่ถ้าเรากำจัด Diaghilev ได้การต่อสู้จะจบลงอย่างรวดเร็ว ให้เราล่อ Diaghilev มาใกล้ๆ แล้วโจมตีระยะประชิดจะสามารถจัดการได้โดยง่าย ให้ระวังแค่อัศวินมังกรให้ดีเพราะพลังโจมตีแรงมาก แต่ถ้าเราสามารถจัดการ Diaghilev ได้ภายใน 3 เทิร์นก็จะไม่มีปัญหาอะไร
ในภารกิจนี้ถึงจะมีศัตรูแค่คนเดียวแต่ฝีมือเก่งไม่ใช่เล่นเลย ไม่ควรปะทะกับ Dabarosa โดยตรงเพราะเขามีท่าสวนกลับที่รุนแรง แนะนำให้ใช้อาชีพที่โจมตีระยะไกลเข้าจัดการ ถ้าเรามีท่าที่ทำให้เขาเกิดอาการตาบอดได้ด้วยจะยิ่งจัดการง่ายขึ้น
ในภารกิจนี้ศัตรูจะมีการโจมตีและท่าสวนกลับที่รุนแรง แต่ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่ามีการโจมตีระยะประชิดทั้งหมด แนะนำให้ใช้อาชีพที่โจมตีระยะไกลเข้าจัดการ ภูมิประเทศสูงๆ ต่ำๆ จะค่อนข้างเป็นอุปสรรคในการเคลื่อนที่หรือโจมตี แต่ถ้าใช้นักธนูจะค่อนข้างได้เปรียบ ก่อนอื่นให้เราจัดการ White Mage ก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้ฟื้นพลังให้คนอื่นได้ แล้วค่อยจัดการที่เหลือจากระยะไกลก็จะผ่านได้โดยง่าย
ในภารกิจนี้จะค่อนข้างยาก Raven จะมีพลังโจมตีที่รุนแรงมาก และยังมี B;ack Mage ค่อนกวนอยู่ตลอดเวลา ให้เรานำอาชีพนักธนู Black Mage และ White Mage ลงต่อสู้ โดยให้ Black Mage ฝ่ายเราคอยใช้เวทย์มนต์ให่ Raven อยู่ห่างๆ ส่วนนักธนูก็จัดการ Black Mage ของฝ่ายศัตรู โดยให้ White Mage ฝ่ายเราคอยเติมพลังให้อยู่เรื่อยๆ อย่าให้เหลือน้อยเด็ดขาด พอจัดการ Black Mage ฝ่ายศัตรูได้แล้ว ก็ให้ไปรุม Raven ก็จะสามารถผ่านภารกิจนี้ได้
ในภารกิจนี้จะค่อนข้างยากเพราะศัตรูจะสามารถใช้มนต์ชั้นกลางได้ ก่อนอื่นให้เราจัดการ Batalise ไม่ให้เขาสามารถเพิ่มพลังให้ศัตรูได้ก่อน แล้วรีบจัดการ Golitaire เพราะเขาสามารถใช้เวทย์มนต์ที่รุนแรงได้ แล้วค่อยจัดการ Hejaat เป็นคนสุดท้ายก็จะสามารถผ่านภารกิจนี้ได้
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนช่วยทำการบ้าน ให้ส่งใครไปก็ได้ที่มีไอเท็ม Ancient Medal (ไอเท็มนี้เป็นรางวัลในภารกิจ 201 The Skypole ) แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนช่วยให้พ้นจากการคุกคามของแคลน Borzoi ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักประมาณ 3 วัน ก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนช่วยฟักไข่โจโคโบะ ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนไปดูบันไดสวรรค์แล้วมาเล่าให้ฟัง ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้เราจะต้องส่งคนไปกำจัดแมลง ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้เราจะต้องส่งคนไปแข่งประลองดาบให้ส่ง Fencer ไปแล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ หลังจากที่ทำภารกิจย่อยจนพอใจแล้ว ให้กลับไปที่บาร์อีกครั้งแล้วเลือกทำภารกิจ The Cheetahs จากนั้นให้ไปที่ Nubswood เพื่อทำภารกิจได้เลย เมื่อเราไปถึง Nubswood เราจะพบกับริทซ์ เพื่อนของเราซึ่งตอนนี้เธอได้ไปเข้า Clan กับ วีเอร่าสาวชื่อ ชาร่า และเธอเองก็รับภารกิจมาปราบโจรป่าชีต้าห์เช่นกัน เราเลยจะช่วยเธอสู้ด้วย
สำหรับภารกิจนี้เราค่อนข้างง่ายมาก เพราะศัตรูเองก็แทบจะทำอะไรเราไม่ได้ ก่อนอื่นให้เรามุ่งกำจัดตัวกวนใจอย่าง Archer กับ Black Mage ก่อน แล้วค่อยจัดการที่เหลือ หลังจากจัดการศัตรูหมดแล้ว เราจะเข้าไปคุยกับริทซ์ และชวนเธอหาทางกลับบ้าน แต่ริทซ์จะปฏิเสธเพราะเธอชอบโลกนี้และไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก ก่อนที่เดินจากไป ทำให้มาร์ชไม่เข้าใจว่าทำไมริทซ์ถึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่แทนที่จะกลับบ้าน จากนั้นเราจะได้สถานที่ใหม่มาคือ Eluut Sands กลับมาที่เมือง Cyril มาร์ชจะมานั่งกลุ้มใจเรื่องที่ริทซ์ไม่เห็นด้วยที่จะกลับบ้าน มองบลังค์จะเข้ามาปลอบใจแต่กระนั้นมาร์ชก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไรถ้าโลกนี้คงอยู่ตลอดไป? ตอนนี้ร้านค้าในเมืองน่าจะมีของขายมากกว่าเดิมแล้ว ให้เราไปซื้อของมาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนทำภารกิจใหม่ หรือจะไปทำภารกิจย่อยก่อนก็ได้
Mission ที่ทำได้ตอนนี้
สำหรับภารกิจนี้ไม่ควรปะทะศัตรูซึ่งๆ หน้าเพราะทั้ง Coeurl และ Antlion ต่างก็มีการโจมตีที่รุนแรง ดังนั้นเราควรมีนักธนูหรือจอมเวทย์มนต์ดำอยู่ในกลุ่มซัก 1 หรือ 2 คน และอย่าลืมคอยเติมพลังบ่อยๆ ด้วยล่ะ
สำหรับภารกิจนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ให้รีบกำจัด Red Cap เพราะมันมีท่า Magic Hammer ซึ่งจะดูด MP เราได้ซึ่งไม่มีอะไรนอกจากก่อความรำคาญ ส่วนพวกที่เหลือก็ไม่มีอะไรน่าห่วง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนไปดูว่าเสียงลึกลับในห้องเรียนตอนกลางคืนคืออะไร ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
สำหรับภารกิจนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ให้รีบกำจัด Beastmaster ก่อนเพราะมันสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับมอนสเตอร์ได้ หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรยากแล้ว แต่ระวังอย่าประมาท Ahriman เพราะจะโจมตีค่อนข้างแรงกว่าตัวอื่น นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการหินมาใช้ซ่อมแซมงานศิลปะ ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการไล่คนที่มาคอยรบกวน ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนช่วยทำการบ้าน ให้ส่งใครก็ได้ถือไอเท็ม Homework (ไอเท็มนี้เป็นรางวัลในภารกิจ 143 The Last Day ) แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการครูสอนพิเศษ แต่มีเงื่อนไขว่า Clan ของเราต้องมีสกิล Combat เลเวล 5 ขึ้นไป ให้ส่งใครไปก็ได้แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ หลังจากที่ทำภารกิจย่อยจนพอใจแล้ว ให้กลับไปที่บาร์อีกครั้งแล้วเลือกทำภารกิจ Desert Peril จากนั้นให้ไปที่ Eluut Sands เพื่อทำภารกิจได้เลย
ศัตรูในครั้งนี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่อ่อนแอกับธาตุไฟ ถ้าเราใช้เวทย์มนต์ไฟกับพวกมันก็จะจัดการโดยง่าย และถ้ามีท่า Aim: Arm ของนักธนูด้วยก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ Panther ใช้ท่าพิษกับเราได้ เมื่อชนะแล้วเราจะได้ Ulei River มา หลังจากที่จัดการศัตรูหมดแล้ว มาร์ชจะสงสัยว่าทำไมสัตว์แถวนี้ถึงได้คลุ้มคลั่ง มองบลังค์จะบอกว่าน่าจะเป็นเพราะพลังของคริสตัล แสดงว่าอาจจะมีคริสตัลอยู่แถวๆ นี้ ตอนนี้ให้เราไปทำภารกิจย่อยให้ได้เลเวลซักประมาณ 8 – 9 ก่อน และหาอาวุธ เครื่องป้องกันดีๆ กับเรียนรู้ท่าใหม่ๆ ไว้เยอะๆ เพราะด่านต่อไปจะยากกว่าทุกอันที่ผ่านมาแล้ว
Mission ที่ทำได้ตอนนี้
สำหรับภารกิจนี้ให้เราเอาอาชีพที่โจมตีระยะไกลลงต่อสู้จะดีกว่า เพราะศัตรูเป็นพวกที่ไม่น่าเข้าใกล้ทั้งนั้น Sprite จะคอยฟื้นฟูพวกเดียวกันให้เรารีบจัดการก่อนเพื่อเป็นการตัดกำลัง ส่วน Lilith จะไม่ค่อยโจมตีเรา แต่จะเน้นทำให้เราเกิดสภาพผิดปกติมากกว่าดังนั้นให้เตรียมไอเท็มสำหรับแก้สภาพไปเยอะๆ
เมื่อเริ่มภารกิจฝ่ายศัตรูจะเสนอเงินเรา 3,000 กิล ให้เราปล่อยพวกเขาไป ถ้าเราตกลงเราก็จะได้เงินแต่จะล้มเหลวภารกิจ ให้ตอบปฏิเสธไปซะ ในการต่อสู้เป้าหมายแรกคือจอมเวทย์มนต์ขาว เพื่อตัดกำลังคู่ต่อสู้ จากนั้นให้รีบจัดการนักธนู เพราะเขามีท่าที่ทำให้เราหลงไหล จากนั้นก็ตัดกำลังจู่โจมอย่างจอมเวทย์มนต์ดำก็เรียบร้อย
เมื่อเริ่มภารกิจฝ่ายศัตรูจะชวนเราเข้าร่วมแคลนกับเขา ถ้าเราตกลงภารกิจนี้จะล้มเหลว สำหรับด่านนี้จะมีนักธนูคอยเกะกะเพราะจะคอยหยุดการเคลื่อนไหว หรือทำให้เราโจมตีไม่ได้ ให้เราติดสกิล Block Arrows ป้องกันเอาไว้ก่อน และทันทีที่เราจัดการ Mintz ได้ การต่อสู้จะจบลงทันที แต่แนะนำให้เก็บเลเวลไปก่อน
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนไปคัดลอกหนังสือที่ถูกขโมยไป ให้ส่งใครก็ได้ถือไอเท็ม Mythril Pick (ไอเท็มนี้เป็นรางวัลในภารกิจ 167 Mad Alchemist ) แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนมาช่วยควบคุมพลังเวทย์มนต์ ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนมาช่วยเขียนเพลงให้กับนักแสดงคนโปรด ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนมาช่วยเรียกลูกค้าเข้าร้าน ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง หลังจากที่ทำภารกิจย่อยจนพอใจแล้ว ให้กลับไปที่บาร์อีกครั้งแล้วเลือกทำภารกิจ Twisted Flow (อย่าลืมเช็คดูข่าวลือในบาร์ด้วยล่ะ) จากนั้นให้ไปที่ Ulei River เพื่อทำภารกิจได้เลย เมื่อไปถึง แม่น้ำยูเลย์ ขณะที่มาร์ชกำลังสำรวจอยู่นั้นเอง ก็เกิดมิติแปรปรวนแล้วมาร์ชก็ถูกดูดเข้าไป พอรู้สึกตัวก็พบว่าตัวเองอยู่ในวิหารที่มีคริสตัลลอยอยู่ตรงหน้า ทำให้มาร์ชรู้ว่าข่าวลือเรื่องพลังคริสตัลเป็นเรื่องจริง ในขณะที่กำลังจะหาทางออกจากวิหารนั้นเอง ก็มีเสียงดังออกมาจากคริสตัล แล้วอสูรเทวะ แฟมฟรีท ซึ่งเป็นผู้ดูแลคริสตัลก็ปรากฏตัวออกมาโดยหาว่ามาร์ชเป็นผู้บุรุก ดังนั้นเขาจึงต้องต่อสู้กับแฟมฟรีทอย่างไม่มีทางเลือก
ศัตรูในครั้งนี้จะแข็งแกร่งกว่าที่ผ่านๆ มาโดยเฉพาะแฟมฟรีท แต่ถ้าเรามีท่าที่ทำให้ศัตรูติดอาการหลับได้ก็จะง่ายขึ้น ก่อนอื่นให้เราทำให้แฟมฟรีทหลับ แล้วไปจัดการกับศัตรูที่เหลือก่อน แล้วค่อยกลับมารุมแฟมฟรีททีหลังก็จะสามารถจัดการเขาได้โดยง่าย เมื่อชนะแล้วเราจะได้ Cadoan มา
หลังจากที่เราปราบแฟมฟรีทได้แล้ว เขาจะเล่าให้เราฟังว่าโลกนี้อยู่ได้ด้วยพลังของคริสตัลที่ค้ำจุนอยู่ มาร์ชจึงรู้ว่าถ้าสามารถทำลายคริสตัลได้ทั้งหมด เขาก็จะสามารถกลับสู่โลกเดิมได้ จากนั้นเราจะได้พลังของแฟมฟรีทมาและคริสตัลก็แตกสลายลง ทันที่ที่คริสตัลถูกทำลาย เราจะเห็นใบหน้าอันเศร้าสร้อยของมิวท์ปรากฏขึ้นมาแว่บนึงก่อนที่จะหายไป ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับมาร์ชเป็นอย่างมาก ในขณะนั้นเองที่ปราสาทเบอเวเนีย มิวท์ซึ่งกลายเป็นเจ้าชายของโลกนี้กำลังสับสนกับความทรงจำอันเลวร้ายที่สนามโรงเรียนตอนที่เล่นปาหิมะอยู่ แต่ราชินีเรเมดี้ แม่ของมิวท์ ได้เข้ามาบอกเขาว่าสิ่งที่มิวท์จำได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องจริง ก่อนจะสั่งให้ซิด พ่อของมิวท์ซึ่งเป็นจัดจ์มาสเตอร์ในโลกนี้ให้คุมเข้มเรื่องกฏ Law ให้มากขึ้นกว่าเดิมเพราะตอนนี้คริสตัลได้ถูกทำลายไปแล้วอันนึง ทำให้จากนี้ไป Law ให้ฉากต่อสู้จะมีเพิ่มขึ้น ตอนนี้เราจะสามารถใช้อสูรเทวะแฟมฟรีทในการต่อสู้ได้แล้ว โดยจะมีแต่เผ่ามูเกิ้ลเท่านั้นที่ใช้ได้ ซึ่งแฟมฟรีทจะทำลายพลังชีวิตของศัตรูที่อยู่ในแอเรียทั้งหมดส่วนนึงซึ่งมีประโยชน์ในการต่อสู้มากๆ
Mission ที่ทำได้ตอนนี้
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนมาช่วยหาไดอารี่ที่ถูกพี่ชายแกล้งเอาไปซ่อน ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างบอกว่ามีคนใช้เวทย์น้ำแข็งกับหมู่บ้านทำให้ฤดูหนาวไม่หมดไปซะที น้ำในลำธารกลายเป็นน้ำแข็งทำให้ไม่มีน้ำดื่ม ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วประมาณ 20 วัน ก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนทำนายดวงความรัก ให้ส่ง White Mageที่ถือไอเท็ม White Thread (ไอเท็มนี้เป็นรางวัลในภารกิจ 211 The Skypole, 212 To Father , 213 Oh Milese และ 296 Hat For A Girl ) แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างบอกว่านายหญิงของเธอป่วย สงสัยต้องมีคนใช้มนต์ดำใส่ ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วประมาณซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง หลังจากที่ทำภารกิจย่อยจนพอใจแล้ว กลับมาที่เมือง Cyril ให้เราเข้าไปอ่านข่าวลือในบาร์ให้หมดทุกอันก่อนแล้วออกจากเมือง เมื่อกลับเข้าไปในเมืองอีกครั้งจะพบว่าตอนนี้ข่าวเรื่องการคุมเข้มกฏได้กระจายไปทั่ว แล้วเราจะได้ยินข่าวลือเรื่องชายชื่อ เอเซล ซึ่งมีพลัง Anti Law ที่สามารถทำลายกฎ Law ได้ จากชาวเผ่าอึ้งโมะคนนึง แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าข่าวลือนี้เป็นเรื่องจริงรึเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นมาร์ชก็ตั้งใจไว้ว่าจะต้องพบกับเอเซลให้ได้ซักครั้ง จากนั้นให้ไปที่ Cadoan เราจะเห็นชาวเผ่าอึ้งโมะที่บอกข่าวเราเมื่อตอนกลางวันถูกไล่ล่าอยู่ แล้วจะรู้ว่าก็คือเอเซลนั่นเอง
ในการต่อสู้ครั้งนี้ ศัตรูจะเล็งเป้าหมายไปที่เอเซลเพียงคนเดียว เราควรไปให้ถึงตัวเขาให้เร็วที่สุด ก่อนอื่นให้เรารีบจัดการ Illusionist ก่อน เพราะมีท่าที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับพวกเราได้ทุกคนพร้อมกัน จากนั้นค่อยจัดการ Fighter เพราะมีการโจมตีที่ค่อนข้างรุนแรง ส่วนที่เหลือไม่ค่อยมีอะไรมากนัก จัดการไปตามปกติ เมื่อชนะแล้วเราจะได้ Aisenfield มา หลังจากที่เราช่วยเอเซลได้แล้ว ยังไม่ทันที่เขาจะขอบคุณเรา ซิดจะยกกองกำลังบุกเข้ามาจับตัวเอเซล แต่ก็ไม่สามารถที่จะต้านพลัง Anti Law ของเอเซลได้ แล้วเอเซลจะพาเราหนีออกมาอย่างง่ายดาย จากนั้นเราจะกลับมาอยู่ที่บาร์ของเมือง Cadoan เอเซลจะอธิบายให้เราฟังว่า Anti Law คือพลังที่สามารถลบล้าง เพิ่มหรือเปลี่ยนกฎต่างๆ ในการต่อสู้ได้ แต่เขาใช้พลังนี้เพียงแค่ต้องการปั่นหัว Judge เล่นเท่านั้นเพียงเพราะว่ามันสนุกดี (ทำให้มาร์ชอดสงสัยไม่ได้ว่าเอเซลค่อนข้างจะไม่ค่อยเต็มเท่าไหร่) จากนี้ไปเราจะสามารถเอาการ์ด Anti Law ที่ไม่ต้องการที่ได้จากการต่อสู้มาแลกกับการ์ดในร้านของเอเซลที่เมือง Cadoan ได้แล้ว หลังจากนี้บางครั้งเราอาจจะเจอข้อความแจ้งว่าสถานที่ต่างๆ กำลังถูก Clan อื่นบุกเข้ายึด ถ้าคิดว่าเก่งพอจะเข้าไปสู้ด้วยก็ได้ ถ้าชนะ เราจะสามารถช่วยเมืองนั้นได้ ถ้าช่วยหลายๆ ครั้ง ร้านไอเท็มจะอัพเกรดทำให้มีไอเท็มดีๆ ขายด้วย
Mission ที่ทำได้ตอนนี้
การต่อสู้ในภารกิจนี้จะมีศัตรูแค่ 3 ตัว ซึ่งจะเป็น Lamia ล้วนๆ ซึ่งไม่มีอะไรยาก แต่ปัญหาจะอยู่ที่ภูมิประเทศที่ทำให้เคลื่อนที่ลำบาก นอกจากนี้ศัตรูยังมีท่าที่ทำให้เรากลายเป็นกบ ให้ระวังตรงจุดนี้ด้วย แนะนำให้นำ Beastmaster ลงต่อสู้แล้วควบคุมให้ศัตรูต่อสู้กันเองจะได้ผลดีมาก
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการให้คนช่วยส่งวิญญาณที่มาคอยรื้อค้นขโมยของกินในตู้เย็นให้ไปสู่สุขติ ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วถือไอเท็ม Dragon Bone (ไอเท็มนี้เป็นรางวัลในภารกิจ 172 Frozen Spring) แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนมาช่วยติวสอบให้กับลูกชาย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนช่วยรวบรวมแร่ ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนมาช่วยหาแร่อดามันไทต์ ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอประมาณ 15 วันก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนมาช่วยปราบมอนสเตอร์ที่คอยรบกวนนักเดินทาง ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง หลังจากที่ทำภารกิจย่อยจนพอใจแล้ว ให้กลับไปที่บาร์อีกครั้งแล้วเลือกทำภารกิจ Diamond Rain จากนั้นให้ไปที่ Aisenfield เพื่อทำภารกิจได้เลย
ภารกิจครั้งนี้ไม่ค่อยยากเท่าไหร่ ศัตรูบางตัวจะโจมตีระยะไกลได้และค่อนข้างแรง แต่ทุกตัวนอกจาก Bomb จะแพ้ธาตุไฟ ให้เรานำ Black Mage ลงต่อสู้จะสามารถจัดการได้โดยง่าย ตัวที่ควรกำจัดแรกๆ คือ Lamia เพราะถึงจะโจมตีไม่แรงแต่ก็มีท่าที่ทำให้เราติดพิษและกลายเป็นกบ ส่วนที่เหลือไม่ค่อยมีอะไรมากนัก จัดการไปตามปกติ เมื่อชนะแล้วเราจะได้ Roda Volcano มา เมื่อกำจัดศัตรูจนหมดแล้ว มาร์ชจะเข้าไปสำรวจดูฝนที่ตกลงมาเป็นเพชร ปรากฏว่าเมื่อจับฝนเพชรกลับละลายหายไป ทำให้มาร์ชมั่นใจว่า นี่ต้องเป็นเพราะพลังของคริสตัลอย่างแน่นอน
Mission ที่ทำได้ตอนนี้
การต่อสู้ในภารกิจนี้จะมีศัตรูจะแพ้ธาตุน้ำแข็งอย่างรุนแรง ให้เราเอา Black Mage ลงต่อสู้จะสามารถจัดการได้โดยง่าย แต่ต้องระวังอย่าไปเข้าใกล้มากนัก เพราะพวกมันมีพลังโจมตีค่อนข้างสูง โดยเฉพาะ Firewyrm ซึ่งโจมตีได้ถึงครั้งละ 200 เลยทีเดียว ดีไม่ดีเราอาจจะเป็นฝ่ายลงไปนอนกองซะเองก็ได้ ให้ระวังในจุดนี้ด้วย
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการอาชีพ Juggler ไปลงแข่งมาราธอน ให้เราส่งไปคนนึงแล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการบอดี้การ์ดคุ้มกันขบวนสินค้าขณะเดินทางไปอีกเมือง ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วถือไอเท็ม Elda's Cup (ไอเท็มนี้เป็นรางวัลในภารกิจ 123 Hungry Ghost) แล้วรอประมาณ 20 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนมาช่วยแก้สมการคณิตศาสตร์ที่ยากมากให้หน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอประมาณ 10 วันก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการอาชีพ Defenderไปเป็นบอดี้การ์ดคุ้มกันจนกว่าจะถึงวันไปขึ้นเป็นพยานให้การในศาล ให้เราส่งไปคนนึงแล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการให้ใครก็ได้ไปเอาต้นพืชจากทะเลทรายมาให้หน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง หลังจากที่ทำภารกิจย่อยจนพอใจแล้ว ให้กลับไปที่บาร์อีกครั้งแล้วเลือกทำภารกิจ Hot Awakening จากนั้นให้ไปที่ Roda Volcano เพื่อทำภารกิจได้เลย เมื่อไปถึง ภูเขาไฟโรด้า มาร์ชจะพบกับมิติแปรปรวนแล้วถูกพาไปพบกับคริสตัลอีกอัน และผู้ที่เขาต้องเจอที่นี่ก็คืออัลเทม่าคริสตัล ซึ่งเป็นร่างจำแลงของ อสูรเทวะ อัลเทม่า ซึ่งเป็นผู้ดูแลคริสตัลของที่นี่ ดังนั้นมาร์ชจึงเปิดศึกกับคริสตัลมีชีวิตเหล่านี้
ภารกิจครั้งนี้ไม่ค่อยยาก เพราะ Ultima Crystal มีพลังชีวิตไม่มากนัก แต่พวกนี้จะมีท่าที่ทำให้เราเกิดอาการหลงไหล ซึ่งทำให้กวนใจไม่น้อย ให้เรานำอาชีพที่สามารถโจมตีศัตรูหลายๆ ตัวพร้อมกันอย่าง Illusionist ลงจะสามารถจัดการได้โดยง่าย หรือถ้าไม่มีก็เอาอาชีพที่โจมตีแรงๆ ลงแทนก็ได้ เมื่อชนะแล้วเราจะได้ Koringwood มา
หลังจากที่เราได้พลังของอัลเทม่ามาแล้ว ทันทีที่เราทำลายคริสตัล เราจะเห็นมิวท์ที่กำลังเศร้าสร้อยปรากฏขึ้นมาอีกครั้งพร้อมทั้งบอกว่า แม่ของเขาที่เสียชีวิตไปแล้วยังคงอยู่ในโลกใบนี้ อย่าทำลายโลกของเขาเลย มาร์ชจึงรู้ในทันทีว่าโลกนี้ก็คือโลกแห่งความฝันของมิวท์ ถ้าเขาทำลายมันความฝันของมิวท์ก็จะต้องแตกสลาย แล้วเขาจะทำลายมันได้ลงคอเชียวหรือ?
ตอนนี้เราจะสามารถใช้อสูรเทวะอัลเทม่าในการต่อสู้ได้แล้ว โดยจะมีแต่เผ่าอึ้งโมะเท่านั้นที่ใช้ได้ ซึ่งอัลเทม่าจะทำลาย MP ของศัตรูที่อยู่ในแอเรียทั้งหมดส่วนนึงซึ่งถ้าเราใช้พลิกแพลงให้ดีๆ จะมีประโยชน์ในการต่อสู้มาก
Mission ที่ทำได้ตอนนี้
การต่อสู้ในภารกิจนี้เราจะเจอกับริทซ์อีกครั้ง ซึ่งดูเหมือนเธอกำลังจะลำบากอยู่ ก่อนอื่นให้เราจัดการ Sprite ก่อนเพราะมันสามารถฟื้นฟูพลังให้กับตัวอื่นได้ ส่วนพวกที่เหลือก็ไม่มีอะไรพิเศษ เมื่อปราบได้หมดแล้ว ริทซ์ก็จะจากไปอีกครั้ง
เมื่อเริ่มต่อสู้ Black Mage จะใช้ Auto-Life ทันที และ Time Mage จะพยายามเร่งความเร็วให้กับ Bishon ซึ่งถ้าเขาทำได้คงลำบากแน่ ก่อนอื่นให้เราพุ่งเป้าตรงไปที่ Time Mage ก่อน เพราะนอกจากเร่งความเร็วแล้ว เขายังฟื้นฟูพลังได้อีกด้วย ถ้าเรามี Bishop ที่ใช้ท่า Dispel หรือ Ninja ที่ใช้ท่า Unspell ได้ก็จะได้เปรียบ แล้วให้ White Mage คอยฟื้นพลังอยู่เรื่อยๆ แค่นี้ก็จะสามารถผ่านภารกิจได้โดยไม่ยากเท่าไหร่
การต่อสู้ในภารกิจนี้จะค่อนข้างยาก โดยเฉพาะ Gukko ที่โจมตีได้ทั้งระยะใกล้และไกล งานนี้เราต้องเตรียมไอเท็มสำหรับชุบชีวิตไปเยอะๆ เลย ก่อนอื่นให้เราจัดการ White Mage ก่อนเพื่อตัดกำลังไม่ให้เติมพลังให้คนอื่นได้ จากนั้นให้มุ่งไปที่ Sniper ซึ่งมักจะคอยขัดขวางเราด้วยการทำลาย MP หรือลดความเร็วเราตลอด สำหรับ Gukko ถ้าเรามีอาชีพที่สามารถปลดอาวุธได้อย่าง Paladin ก็ให้จัดการปลดดาบเขาก่อน แค่นี้ก็จะลดกำลังโจมตีลงได้มาก แล้วให้ White Mage คอยฟื้นพลังหรือใช้ไอเท็มฟื้นฟูอยู่ เรื่อยๆ แค่นี้ก็จะสามารถผ่านภารกิจได้
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนช่วยหาเรือออกทะเลให้หน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
การต่อสู้ในภารกิจนี้จะค่อนข้างง่าย เพราะศัตรูจะแพ้ธาตุน้ำกับน้ำแข็งอย่างรุนแรง ส่วน Mombomb ถึงจะมีการโจมตีที่แรงมาก แต่ก็มีจุดอ่อนเหมือนตัวอื่น ให้เรานำ Black Mage โจมตีอยู่ห่างๆ ก็จะจัดการได้โดยง่าย
การต่อสู้ในภารกิจนี้จะไม่ค่อยยากนัก ถึงศัตรูจะมี Mog Knight แค่ 2 คน แต่ก็โจมตีแรงไม่ใช่เล่น มีพลังป้องกันเวทย์สูง แถมยังใช้ท่าระยะไกลกับท่าสวนกลับได้อีก แต่จุดอ่อนคือมีระยะโมตีที่ไม่ไกลมาก ให้เราเอาอาชีพที่โจมตีระยะไกลลงต่อสู้ก็จะจัดการได้ไม่ยากนัก
การต่อสู้ในภารกิจนี้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะ Mog Knight ทั้ง 3 ซึ่งสามารถใช้ท่าของ Black Mage กับขโมยได้ ก่อนอื่นให้เราจัดการกับ Mog Knight ที่สามารถขโมยอาวุธได้ก่อน(เช็คที่สเตตัสของศัตรูดูว่าคนไหนใช้ความสามารถอะไรได้มั่ง) แล้วพยายามกระจายตัวกันไว้ เพราะ Mog Knight สามารถโจมตีเราเป็นกลุ่มได้ และระวัง Lamia ด้วยเพราะมันมีท่าที่ทำให้เรากลายเป็นกบและตาบอด ให้รีบจัดการก่อนก็ดีจะได้ไม่มาคอยรบกวน พอจัดการได้หมดก็จะผ่านภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนไปช่วยเจรจากับกลุ่มชุมนุมผู้ประท้วงให้สลายการชุมนุมซะ ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนไปช่วยทำให้ไก่ขันปลุกตรงตามเวลา ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอประมาณ 5 วันก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนไปช่วยเขียนป้ายที่แม่น้ำยูเลย์ให้หน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง หลังจากที่ทำภารกิจย่อยจนพอใจแล้ว ให้กลับไปที่บาร์อีกครั้งแล้วเลือกทำภารกิจ Magic Wood จากนั้นให้ไปที่ Koringwood เพื่อทำภารกิจได้เลย เมื่อมาถึงป่าโคริ่งตามคำว่าจ้าง จะพบว่ามีการลักลอบตัดไม้อยู่ ดังนั้นมาร์ชจึงต้องเข้าขัดขวางทันที
ในด่านนี้อุปสรรคอยู่ที่ภูมิประเทศ จึงไม่เหมาะที่จะนำ White Mage ลงด้วยเพราะศัตรูต่างก็โจมตีระยะไกลได้ ดังนั้นควรใช้ไอเท็มในการฟื้นฟูพลังมากกว่า ศัตรูที่ควรระวังคือเหล่าจอมเวทย์ทั้งหลาย แต่ถ้าเราเอา Templar ลงสู้แล้วใช้ท่า Silence ทำให้ศัตรูเป็นใบ้ได้ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรเลย ส่วน Archer กับ Sniper ให้เราเอาอาชีพ Gunner ใช้ท่า Blidshot ทำให้พวกมันตาบอด แค่นี้ก็จะจัดการได้โดยง่าย เมื่อชนะแล้วเราจะได้ Salikawood มา หลังจากที่จัดการศัตรูหมดแล้ว มาร์ชก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่า ที่ป่านี้กลายเป็นป่าเวทย์มนต์ก็คงเป็นเพราะพลังของคริสตัลเหมือนกัน ตอนนี้แนะนำให้ Clan ของเราควรจะมีเลเวลประมาณ 12 – 13 (ไปทำภารกิจย่อยหรือสู้กับ Clan อื่นก็ได้)จะได้ง่ายในการผ่านภารกิจหลักต่อๆ ไป
Mission ที่ทำได้ตอนนี้
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการให้คนช่วยตามหาเด็กที่หนีออกจากบ้านให้หน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วถือไอเท็ม Black Thread (ไอเท็มนี้เป็นรางวัลในภารกิจ 210 Life Or Death หรือภารกิจ 208 Math Is Hard หรือภารกิจ 209 The Witness) แล้วรอประมาณ 10 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนทำยาเสน่ห์ให้หน่อย ให้ส่ง Alchemist ไป แล้วรอประมาณ 15 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการน้ำหอมสำหรับออกเดท ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วถือไอเท็ม Caravan Musk (ไอเท็มนี้เป็นรางวัลในภารกิจ 168 Caravan Guard) แล้วรอประมาณ 15 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนไปแสดงในงานวันเกิดของลูกชายให้หน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอประมาณ 5 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการหาต้นตอคนปล่อยข่าวลือเรื่องโจรสลัด ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ หลังจากที่ทำภารกิจย่อยจนพอใจแล้ว ให้กลับไปที่บาร์อีกครั้งแล้วเลือกทำภารกิจ Emerald Keep จากนั้นให้ไปที่ Salikawood เพื่อทำภารกิจได้เลย มาร์ชได้ตามรอยคริสตัลมาจนถึงป่าสาลิกา แต่ที่นั่นเขากลับได้พบกับ บาบุส คนรับใช้ส่วนตัวของมิวท์ ไม่ว่ามาร์ชจะพยายามอธิบายยังไงแต่บาบัสก็ไม่ยอมฟัง พร้อมทั้งยกกำลังทหารเข้าต่อสู้
ในด่านนี้ศัตรูเก่งกว่าที่ผ่านๆ มามาก โดยเฉพาะควรระวัง Babus ให้ดี เพราะเขาโจมตีแรงมาก อาจทำให้เราตายได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว แถมยังมีท่าสวนกลับอีกด้วย ก่อนอื่นให้เราจัดการ Bishop ก่อน เพื่อตัดกำลังไม่ให้ฟื้นฟูพลังได้ ส่วน Gunner จะมีท่า Stopshot ที่ทำให้เราหยุดนิ่ง ให้ใช้ท่าที่ทำให้ตาบอดซะก็จะตัดปัญหาไปได้ ส่วน Babus ให้เราใช้อาชีพที่โจมตีระยะไกลได้ซุ่มโจมตีอยู่ห่างๆ จะดีกว่า เมื่อเอาชนะบาบุสได้แล้ว เขาจะถอนกำลังกลับไปตั้งหลัก โดยทิ้งคำพูดไว้ว่า เขาไม่สนว่าโลกใบนี้จะเป็นความจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่มาร์ชกำลังทำต่างหากที่ทำให้เจ้าชายมิวท์ต้องเจ็บปวด เมื่อจบภารกิจแล้วเราจะได้ Nargai Cave มา
Mission ที่ทำได้ตอนนี้
ภารกิจนี้ศัตรูมีแค่ตัวเดียวแต่เก่งไม่ใช่เล่น เพราะทั้งโจมตีหนัก แถมยังมีท่า Twister ที่ทำให้พลังเราเหลือแค่ครึ่งเดียว และยังทำให้เราเกิดสภาพผิดปกติอีก นอกจากนี้ธนูก็ยังใช้ไม่ได้ผลอีกด้วย แนะนำให้เรานำ Beastmaster ควบคุมมัน แล้วใช้ Gunner จัดการซะก็จะสามารถปราบได้
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการให้ช่วยหาเหรียญทองที่ระลึกในร้านให้หน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอประมาณ 20 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ถ้าเราทำลายรูปปั้น 2 อันที่อยู่ด้านบนได้ก็จะจบภารกิจทันที แต่แนะนำให้ปราบศัตรูตัวอื่นเก็บเลเวลไปก่อน เพราะศัตรูด่านนี้ไม่ยากเท่าไหร่นัก ก่อนอื่นให้กำจัด Titania ก่อนเพราะมีท่า LV?D Holy ซึ่งโจมตีรุนแรงมาก ส่วน Lamia กับ Lilith ถึงจะมีพลังโจมตีน้อย แต่มีท่าที่ทำให้เราติดสภาพผิดปกติ ให้ระวังตรงจุดนี้ด้วย
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการเตรียมรับมือโจรสลัด ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนมาเข้าร่วมสมาคมเพื่อนบ้าน ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอประมาณ 5 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการให้คนช่วยทวงสมบัติประจำตระกูลที่ถูกเพื่อนบ้านจอมโลภแย่งไปคืนมาให้หน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วถือไอเท็ม Neighbor Pin (ไอเท็มนี้เป็นรางวัลในภารกิจ 154 Neighbor) แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนตัดสินว่าของเล่นชิ้นโปรดเป็นแค่ของที่ได้จากมอนสเตอร์หรือรางวัลแห่งชัยชนะอันทรงเกียรติ ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอประมาณ 5 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนช่วยจัดเตรียมงานเลี้ยง ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วถือไอเท็ม Bomb Shell (ไอเท็มนี้เป็นรางวัลในภารกิจ 218 Help Dad หรือ ภารกิจ 219 Rubber or Real) แล้วรอประมาณ 5 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการให้คนมาเป็นนายแบบรูปปั้นที่จะเอาไปไว้ในห้องสมุดเปิดใหม่ ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วถือไอเท็ม Tonberry Lamp (ไอเท็มนี้เป็นรางวัลในภารกิจ 170 Cheap Laughs) แล้วรอประมาณ 30 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนมาช่วยปราบหนอนยักษ์ที่ทำรายไร่นาจนเสียหาย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอประมาณ 10 วันก็จะจบภารกิจ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเลเวลคนที่ส่งไปและดวงล้วนๆ แนะนำให้ตอนส่งคนไปเลือกคนที่ยกมือท่าทางกระฉับกระเฉงจะมีโอกาสสำเร็จสูง
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนมาช่วยพัฒนาพื้นที่บริเวณภูเขาไฟโรด้า ให้ส่งใครไปก็ได้แล้วรอซักพักก็จะจบภารกิจ หลังจากที่ทำภารกิจย่อยจนพอใจแล้ว ให้กลับไปที่บาร์อีกครั้งแล้วเลือกทำภารกิจ Pale Company จากนั้นให้ไปที่ Nargai Cave เพื่อทำภารกิจได้เลย มาร์ชตามรอยมาจนถึงถ้ำนาร์กาเอ ที่ร่ำลือกันว่าเป็นถ้ำผีสิง และเมื่อตามดวงวิญญาณเข้าไปจนถึงด้านในก็เป็นไปดังคาด มาร์ชได้พบทางเชื่อมไปต่างมิติซึ่งมีอสูรเทวะอดรัมเมเลค รออยู่ในนั้น ดังนั้นการต่อสู้กับอสูรเทวะจึงเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง
ในด่านนี้ไม่ยากเท่าที่คิด เพราะศัตรูพวกนี้เราเคยสู้มาแล้วทั้งนั้น แถมยังเป็นเผ่าพันธุ์มังกรทั้งหมด ถ้าเราเอาอาชีพ Dragon ลงจะค่อนข้างได้เปรียบ ก่อนอื่นให้เราจัดการ Icedrake ก่อนเพราะมันสามารถเพิ่มพลังโจมตีให้อดรัมเมเลคได้ ถ้าไม่ระวังให้ดีอาจตายได้ในทันทีเพราะอดรัมเมเลคมีพลังโจมตีสูงมาก แต่ถ้าไม่อยากให้การต่อสู้ยืดเยื้อจะมุ่งเป้าหมายไปหาอดรัมเมเลคอย่างเดียวเลยก็ได้ เพราะถ้าเราจัดการเขาได้เมื่อไหร่ การต่อสู้จะจบลงทันที แต่แนะนำให้เก็บเลเวลจากมังกรทั้ง 3 ก่อนจะดีกว่า เมื่อจบภารกิจแล้วเราจะได้ Baguba Port มา หลังจากที่เราทำลายคริสตัลได้แล้ว บาบุสจะมาถึงพอดี แล้วเรากับบาบุสจะเห็นมิวท์ที่กำลังสิ้นหวังและโดดเดี่ยวปรากฏขึ้นมา ทำให้บาบุสเข้าใจอะไรมากขึ้น แต่เขาก็ได้ถามมาร์ชกลับว่า แล้วถึงอย่างนั้นจำเป็นด้วยหรือที่มาร์ชต้องทำลายโลกนี้ทิ้ง ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันจะทำให้เจ้าชายมิวท์ต้องเจ็บปวดขนาดนี้ มาร์ชถึงกับพูดอะไรไม่ออกกับคำถามทิ้งท้ายนั้น ตอนนี้เราจะสามารถใช้อสูรเทวะอดรัมเมเลคในการต่อสู้ได้แล้ว โดยจะมีแต่เผ่าบังก้าเท่านั้นที่ใช้ได้ ซึ่งอดรัมเมเลคจะทำลายพลังชีวิตของศัตรูที่อยู่ในแอเรียทั้งหมดเหมือนแฟมฟรีท แต่จะรุนแรงกว่าซึ่งมีประโยชน์ในการต่อสู้มากๆ
Mission ที่ทำได้ตอนนี้
เมื่อรับภารกิจ เราจะเจอ Clan Postman เมื่อเข้าไปคุยเขาจะขอจดหมายจากเรา ให้ตอบปฏิเสธไปซะ ภารกิจนี้ไม่มีอะไรมาก คอยระวังแค่ Gunner อย่างเดียวก็พอ เพราะเขามีท่าที่ทำให้เราติดสภาพผิดปกติ แต่ถ้าเราใช้ท่าที่ทำให้เขาตาบอดได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ส่วนพวกที่เหลือก็ไม่มีอะไรพิเศษจัดการไปตามปกติก็จะผ่านภารกิจนี้โดยง่าย
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนไปช่วยตรวจสอบอาวุธที่ลักลอบนำเข้าเมืองให้หน่อย ให้ส่ง Gunner ไป แล้วไปสู้กับศัตรูประมาณ 10 คนก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนไปช่วยรักษาโจโคโบะที่เป็นโรคผิวหนังให้หน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอประมาณ 10 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนไปช่วยทำเขื่อนกันน้ำท่วม ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอไปสู้กับศัตรูประมาณ 2 ครั้งก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนไปช่วยสร้างสัญญาณไฟนำทางในป่าโคริ่งให้หน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วไปสู้กับศัตรูประมาณ 5 คนก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนไปช่วยเกลี้ยกล่อมชายคนนึงให้เข้าร่วมวงประสานเสียง ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอประมาณ 15 วันก็จะจบภารกิจ หลังจากที่ทำภารกิจย่อยจนพอใจแล้ว ให้ไปที่เมืองท่า Baguba Port เมื่อเข้ามาแล้วมองบลังค์จะไปทักทายโมกุรี่ที่กำลังซึมเศร้าอยู่ เมื่อคุยกันจะรู้ว่าเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับมองบลังค์ชื่อ โนโน่ ซึ่งตอนนี้กำลังมีปัญหาคือเรือเหาะบรรทุกสินค้าของเขาถูกกลุ่มโจร Jagd Dorsa ยึดไป เราจึงอาสาจะช่วยนำเรือเหาะกลับมาให้โนโน่เอง แล้วเราจะได้ซ่องโจร Jagd Dorsa มา
เมื่อเราเข้าไปที่ซ่องโจร Jagd Dorsa เราจะพบกับกลุ่มโจรที่แย่งเรือเหาะของโนโน่ไป ดังนั้นมาร์ชจึงไม่รอช้า เข้าต่อสู้กับมันทันที
ภารกิจนี้ยากกว่าที่เห็นมาก อาชีพที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเราก็คือ White Mage ก่อนอื่นให้จัดการ Ninja กับ Assassin ก่อนเพราะมีพลังโจมตีสูงมาก โดยเฉพาะท่า Last Breath ของ Assassin สามารถทำให้เราตายในทันทีเลย ส่วนที่เหลือไม่ค่อยมีปัญหา ให้ระวังแค่ Sonic Boom ของ Hunter อย่างเดียวเพราะโจมตีได้เป็นกลุ่ม นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว เมื่อชนะแล้วเราจะได้ Kudik Peaks มา เมื่อปราบกลุ่มโจร Jagd Dorsa ได้แล้ว ให้กลับไปที่เมืองท่า Baguba Port มาร์ชจะทวงค่าจ้างจากโนโน่ แต่เขาต้องเอาเงินไปซ่อมเรือเหาะที่ถูกโจรทำเสียหาย มองบลังค์จึงออกความคิดให้โนโน่หาสินค้าหายากมาไว้ที่ร้านค้าแทน ตอนนี้เราจะหาซื้อสินค้าพิเศษจากร้านค้าได้แล้ว และยังสามารถแลกไอเท็มกับผู้เล่นคนอื่นได้ด้วย
Mission ที่ทำได้ตอนนี้
ภารกิจนี้ไม่มีอะไรมาก คอยระวังแค่ Poison Claw ของ Red Panther อย่างเดียวก็พอ แนะนำให้เอา Black Mage ลงต่อสู้จะได้เปรียบเพราะศัตรูทั้งหมดแพ้เวทย์มนต์อย่างมาก พอจัดการได้หมดก็จะผ่านภารกิจนี้โดยง่าย
เมื่อรับภารกิจ เราจะเจอ Poachers เมื่อเข้าไปคุยเขาจะเสนอเงินเรา 3,000 กิล ให้ขายสิ่งที่เขาอยากได้ ให้ตอบปฏิเสธไปซะ ภารกิจนี้ค่อนข้างยาก คอยระวัง Archer กับ Gunner เพราะจะคอยก่อกวนให้เราเกิดสภาพผิดปกติ ส่วน Hunter จะคอยโจมตีเรา ให้เราติดท่าป้องกัน Block Arrow กันไว้ก่อน จะป้องกัน Archer กับ Hunter ได้ แล้วมุ่งเป้าหมายไปจัดการ Gunner หรือจะทำให้เขาตาบอดก่อนก็ได้ ก็จะสามารถเอาชนะได้โดยง่าย
ภารกิจนี้ไม่มีอะไรมาก คอยระวังแค่ท่า Kiss ที่ทำให้ติดสภาพผิดปกติก็พอ ที่เหลือก็ไม่มีอะไร พอจัดการได้หมดก็จะผ่านภารกิจนี้โดยง่าย
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนไปช่วยสำรวจเหมืองให้หน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอประมาณ 15 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการให้คนจองแร่ที่มีจำนวนจำกัดให้หน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วถือไอเท็ม Adamantite (ไอเท็มนี้เป็นรางวัลในภารกิจ 207 Metal Hunt) และ Silvril (ไอเท็มนี้เป็นรางวัลในภารกิจ 103 Mythril Rush หรือภารกิจ 204 Seeking Silver) แล้วรอประมาณ 15 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนงานมาช่วยขยายฟาร์มหน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วรอประมาณ 10 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการให้ช่วยตามหาลูกมอลโบโร่ที่หายไปให้หน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้ แล้วถือไอเท็ม Chocobo Egg (ไอเท็มนี้เป็นรางวัลในภารกิจ 200 Chocobo Help) แล้วรอประมาณ 15 วันก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการคนมาช่วยทำถนนตัดผ่านป่าสาลิกาให้หน่อย ให้ส่งใครไปก็ได้แล้วไปสู้กับศัตรูประมาณ 5 คนก็จะจบภารกิจ
ภารกิจนี้ผู้ว่าจ้างต้องการให้คนไปดูให้หน่อยว่ามีอะรอยู่ที่รากต้นไม้ที่เมือง Duke ให้ส่งใครไปก็ได้แล้วไปสู้กับศัตรูประมาณ 2 ครั้งก็จะจบภารกิจ หลังจากที่ทำภารกิจย่อยจนพอใจแล้ว ให้กลับไปที่บาร์อีกครั้งแล้วเลือกทำภารกิจ The Bounty ได้เลย เมื่อเราออกมาจากบาร์จะพบกับ Clan Ox บนแผนที่ ให้เดินไปหาเขาตามคำท้าแล้วเราจะรู้ว่าตอนนี้แคลนเรากลายเป็นอาชญากรที่มีค่าหัวไปซะแล้ว
ภารกิจนี้ไม่มีอะไรยาก ก่อนอื่นให้เราใช้ท่า Silence กับพวกจอมเวทย์ทั้ง 3 ให้เป็นใบ้ก่อนเพื่อตัดกำลังโจมตี จากนั้นให้รีบปลดอาวุธ Fighter กับ Paladin โดยเร็ว(จะใช้ท่าของนักธนู หรือของพาลาดีนเหมือนกันก็ได้)แค่นี้ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวในด่านนี้แล้ว เมื่อชนะแล้วเราจะได้ Jeraw Sands มา |